คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น  (อ่าน 196785 ครั้ง)

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
 :a5:

Poes กับ THIP ทะลึ่งอะ

เจ้รับไม่ได้  อิอิ  :m25:

ปล. เรื่องนี้พยายามใส่บรรยากาศไทยๆ เข้ามาด้วย  แต่ทำไมอ่านแล้วรู้สึกว่ามันยังได้แค่กลิ่นอายจางๆ ไม่เข้มข้นเหมือนของทมยันตีเลย  หาเอามาอ่านหน่อยดีไหมเคอะ คุณคนเขียนเรื่องเคอะ  :a4:

min_min

  • บุคคลทั่วไป
เย้ๆๆๆ  ทะเล  ตอนนี้หน้าฝน  ไปคงเจอคลื่นซัด  เกยตื้นแถวๆริมหาด

อิอิ สัตว์ประหลาดเกยตื้น

ชีวาสจะลัหลับ เกี๊ยวๆไหมอ่ะ  :m25: :m25: 

 
:m18: :m18: :m18: :m18:

ออฟไลน์ ● MaYa~Boy ●

  • ฉันมันคนขี้อิจฉา
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3990
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-2
 :ped149: ชีวาสสู้ๆ

เชียร์อยู่น้า

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
:a5:
Poes กับ THIP ทะลึ่งอะ

เจ้รับไม่ได้  อิอิ  :m25:

จิงอะที่เจ้สองรับไม่ได้  :m26:

********************************
krappom ไม่ต่อเหรอรออยู่นะ  :m22:

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
ต่อแล้วๆ  :m17:



คนนี้แหละใช่เลย 8



ตกค่ำกองไฟกองใหญ่ก็ถูกก่อขึ้นบนหาดทราย ข้างๆมีเตาย่างบาร์บีคิวที่แจ๊คอุตส่าห์หอบหิ้วมาจากบ้านตั้งอยู่ บาร์บีคิวหลายไม้ถูกวางลงไป

สักพักกินหอมหวลของบารืบีคิวก็โชยไปทั่วเรียกน้ำย่อยในกระเพาะของหนุ่มๆสาวๆได้เป็นอย่างดี พวกผู้หญิงต่างวุ่นวายอยู่กับการจัดของกินเล่นซึ่งส่วนใหญ่เตรียมมาจากกรุงเทพ เช่นพวกไก่ทอด ลูกชิ้น ไส้กรอก ยกเว้นอาหารทะเลที่หนุ่มๆนั่งรถไปซื้อมาจากบ้านชาวประมงแถวนั้น

พวกหนุ่มๆก็แบ่งกันไปช่วยเพื่อนบ้าง นั่งล้อมวงกินเหล้ากันบ้าง เสียงหัวเราะดังขึ้นเป็นระยะๆ

“ทศ เติมเหล้าให้ข้าหน่อย” ชินยื่นแก้วพลาสติกส่งให้เพื่อน ใบหน้าเริ่มแดงด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์

ทศรับแก้วมาเทเหล้าใส่ลงไป ปากก็บ่น “เพลาๆหน่อยโว๊ยไอ้ชิน เมาแต่หัววันเลยนะเอ็ง”

“เออ ช่างข้าเหอะ อุ๊บ....ชงเหล้าภาษาอะไรของเอ็งวะไอ้ทศ บอกข้าให้เพลาๆดันชงให้ซะเข้ม” ชินแทบจะสำลักเมื่อกระดกแก้วขึ้นดื่ม

ทศมองนาฬิกาแล้วเรียกชีวาส “ชีวาสเอ็งไปปลุกเกี๊ยวมากินอะไรหน่อย น่าจะนอนพอแล้วล่ะ”

ชีวาสวางแก้วเหล้าลุกขึ้นเดินออกไป ชินมองตามด้วยสีหน้าเครียดๆ หันไปต่อว่าทศ “ทำไมเอ็งไม่ไปปลุกเกี๊ยวเอง ให้มันไปทำไม”

“ก็พวกนั้นพักห้องเดียวกัน ก็ให้มันไปเรียกนะแหล่ะดีแล้ว ว่าแต่เอ็งน่ะลุกไปเรียกน้องเค้ามากินข้าวดีกว่า ไหนๆเค้าก็มาแล้ว เลิกโกรธซะทีเถอะ”

ชินกระแทกแก้วลงกับพื้น ลุกขึ้นยืนโงนเงนนิดๆ ก่อนจะเดินออกไป ทศถอนหายใจแล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อแก้วใบหนี่งถูกยื่นมาตรงหน้า

“ไม่กระแทกใส่หน้าข้าซะเลยล่ะ แจ๊ค” ทศพูดประชด แจ๊คยิ้มๆ มองอีกฝ่ายที่กำลังตักน้ำแข็งใส่แก้วแล้วเอ่ยขึ้น

“กะจะทำอย่างนั้นอยู่ แต่เห็นหน้าหงิกอยู่แล้วกลัวว่าจะหงิกไปกว่านี้”

ทศหมั่นไส้ จึงรินเหล้าแบบไม่มียั้ง แล้วส่งแก้วคืนให้แจ๊ค หันไปมองหน้าเตยถามเสียงห้วน

“เอ็งจะเติมอะไรหรือเปล่า เติมก็เอามา”

“ข้าเติมเองดีกว่า ไอ้ทศ รินเหล้าอย่างกับน้ำ ดีนะข้าแอบจิ๊กเตี่ยมาลังนึง ไม่งั้นไม่พอกิน ไม่พอมอมแน่ๆ” คำพูดของเตยเรียกเสียงหัวเราะขอเพื่อนๆได้เป็นอย่างดี

ทศยื้มจืดๆ “โทษทีว่ะ ข้าลืมตัว จะพยายามเบาๆแล้วกัน”


ชีวาสไขกุญแจแล้วเปิดประตูเข้าไปเบาๆ ภายในห้องมืดสนิท ชายหนุ่มเอื้อมมือไปเปิดสวิตซ์ไฟ แสงไฟสีขาวนวลจากหลอดนีออนสว่างขึ้น ชีวาสส่ายหน้าที่เห็นอีกฝ่ายยังนอนหลับสนิทไม่รู้เรื่อง

“เกี๊ยว ตื่นได้แล้ว”

ชีวาสเขย่าตัวคนหลับเบาๆ คนตัวเล็กครางเบาๆแล้วลืมตาขึ้น มองอีกฝ่ายด้วยความงุนงง

“อะไร?”

“มืดแล้ว ไปกินข้าวเถอะ”

พอได้ยินคำว่ากิน เกี๊ยวก็ลุกขึ้นโดยอัตโนมัติ ขณะที่กำลังบิดขี้เกียจ โทรศัพท์ที่วางไว้ข้างหมอนก็สั่นขึ้น เกี๊ยวหยิบมาดู อุทานออกมา

“หวา ลืมไปเลย ว่าไงพี่จั๊บ”

“ยังจะมาว่าไงอีก ทำไมไม่รับสายฮะ!!!” เสียงก๋วยจั๊บดังลอดมาตามสาย เกี๊ยวทำหน้าเบ้รีบเอาโทรศัพท์ออกห่างจากหูทันทีเพื่อสวัสดิภาพของการได้ยิน

“หลับอยู่ โทรมาว่าไง”

“โทรมาบอกเฉยๆ พรุ่งนี้จะไปหา”

“แล้วตอนนี้อยู่ไหน?”

“ระยองรีสอร์ท”

เสียงอ้อมๆแอ้มๆของพี่ชายก่อความสงสัยขึ้นมาทันที ปกติแล้วพี่น่าจะตรงมาหาเขาเลยมากกว่า

“แล้วมากับใคร”

“มากับ เจมินี่”

“อ้าว แล้วพี่มากับพี่เจ็มได้ไง”

“มาได้ไงน่ะเหรอ เกี๊ยว ยังกล้ามาถามอีกเหรอ ก็น้องชายตัวแสบมันเล่นหลบออกจากบ้านแต่เช้าน่ะสิ ก็เลยต้องตามมาเอง พอดีกับที่เจมินี่เค้ามาพักผ่อนเจ๊วุ้นก็เลยส่งพี่เจ็มของแกมากับชั้นน่ะสิ ยังไม่พอนะ พี่เจ็มของแกก็ขับรถหลงมาจนถึงระยองรีสอร์ทนี่แหละ แถมรถก็ยางแตกอีก ต้องรอช่างมาซ่อมพรุ่งนี้เพราะรถไม่มียางอะไหล่ และทั้งหมดนี่เป็นเพราะใครรู้ไหม เพราะแกน่ะแหละ!!!”

ประโยคสุดท้ายน้ำเสียงหงุดหงิดก็ระเบิดมาเต็มที่ ทำให้เกี๊ยวแอบกลั้นยิ้ม

“ผมขอพูดกับพี่เจ็มหน่อย”

ชายหนุ่มรอสักพักก็ได้ยินเสียงทุ้มดังมาตามสาย

“Hi เกี๊ยว”

“พี่เจ็ม กลับมาเร็วจังนะพี่ ติดใจอะไรที่นี่หรือไง” เกี๊ยวเอ่ยแซว ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆจากปลายสาย

“ผมมีเรื่องจะขอร้องแต่อย่าไปบอกพี่ชายผมนะนะ พี่เจ็มช่วยพาพี่ผมไปเที่ยวที่สิ แบบให้ลืมเรื่องผมไปเลยนะ”

“ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่นะ”

“เอาเป็นว่าชวนไปเที่ยวทั้งวันแล้วเย็นๆค่อยพามาหาผมแล้วกันนะ ช่วยหน่อยล่ะพี่เจ็ม ผมอายเพื่อน แค่นี้มันก็ล้อกันเหลือเกินแล้ว” เกี๊ยวบอกแบบไม่ซีเรียส

เมื่ออีกฝ่ายรับชายหนุ่มจึงยิ้มออกวางโทรศัพท์ไว้ที่เดิม เมื่อหันไปเห็นหน้าคนที่ยืนรออยู่เงียบๆ จึงเอ่ยทัก

“อ้าว รออยู่เหรอ ขอล้างหน้าแป๊บนึง”

เกี๊ยวค้นของในกระเป๋าแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป สักพักก็ออกมาด้วยใบหน้าแจ่มใส เขาเปลี่ยนมาใส่เสื้อกล้ามสีขาวกับกางเกงขาสั้น แล้วเดินไปหาคนตัวสูงที่ยืนรออยู่

 
“เสร็จแล้ว”

ชีวาสเลิกคิ้วเล็กน้อย ไม่ค่อยชอบใจกับการแต่งตัวของคนตรงหน้าสักเท่าไหร่

“จะใส่แบบนี้ออกไปจริงๆน่ะ”

“ทำไมล่ะ” เกี๊ยวถามอย่างงงๆ ปกติก็แต่งอย่างนี้ตลอด ชายหนุ่มก้มลงมองเสื้อ เอเสื้อก็ไม่ขาดนี่หว่า หรือมันย้วยแล้ว พึ่งใส่ไม่กี่ครั้งเอง

“ตกดึกน้ำค้างลงมันจะหนาว” ความจริงไม่อยากให้ใครเห็นผิวนวลๆนี้ต่างหาก

“กินเหล้าเข้าไปก็อุ่นเอง ไปเถอะน่า หิวแล้ว” เกี๊ยวตัดบท


ทั้งสองเดินออกมาเงียบๆ เมื่อเดินผ่านบังกะโลหลังหนึ่ง คนตัวเล็กก็ชะงัก หันไปกระซิบถามคนข้างๆทันที

“นี่ๆ ได้ยินเสียงอะไรไหม”

“เสียงแบบไหนล่ะ”

“ไม่รู้สิ คล้ายๆเสียงคราง เสียงหอบ เพื่อนเราป่วยหรือเปล่า”

ชีวาสเอียงหู ทำท่าคล้ายฟังอะไรบางอย่าง “ไม่ใช่หรอก หูฝาดน่ะ ไปเถอะ”

“แต่ชั้นได้ยินจริงๆนะ นั่นไง ไปดูดีกว่า” เกี๊ยวปราดเข้าไปที่หน้าต่างของบังกะโลหลังนั้นทันที

ภายในค่อนข้างมืด เห็นเป็นเงาคนตะคุ่มๆกำลังเคลื่อนไหวเป็นจังหวะ โดยมีเสียงครวญครางลอดออกมาเป็นระยะๆ

เกี๊ยวยืนตัวแข็งเมื่อมองเห็นใบหน้าของคนทั้งสองรางๆ ชีวาสเดินตามมาเงียบๆแล้วจูงมือเย็นเฉียบของอีกฝ่ายเดินออกมา

เมื่อเดินออกมาใกล้จะถึงเพื่อนๆที่ตั้งวงรอบกองไฟ ชายหนุ่มจึงปล่อยมือหันกลับไปมองหน้าแดงๆอย่างเข้าใจ

“เป็นไงล่ะ บอกแล้วว่าหูฝาด ไม่มีใครป่วยใช่ไหม”

“หูฝาดที่ไหน หูดีเกินไปต่างหาก ใครจะไปนึกว่า.....”คำพูดต่อไปหายเงียบไปในลำคอ

ชีวาสแกล้งถามแหย่ว่า “ว่าแต่นายเห็นอะไร ล่ะ ถึงหน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุกอย่างนั้นน่ะ”

เกี๊ยวเม้มปากจะบอกได้ยังไงล่ะว่าเห็นเพื่อนกำลังประกอบกิจกรรมเข้าจังหวะอยู่ แต่พอมองดวงตาวิบวับของอีกฝ่าย ก็ร้องขึ้นอย่างเจ็บใจ

“ชีวาส นายแกล้งชั้น!!!”

ชีวาสหัวเราะดังลั่นแล้ววิ่งเข้าไปรวมกลุ่มกับเพื่อนๆที่หันมามองด้วยความสงสัย เกี๊ยวเดินหน้างอเข้าไปนั่งใกล้ทศ มองคนที่แกล้งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ที่อยู่ตรงข้ามแล้วยิ่งขัดใจ

“ทศ เอาเหล้ามากินหน่อย”

“อ้าว ไม่กินอะไรรองท้องก่อนเหรอ”

“ไม่กงไม่กินแล้ว เอามาเลย”

ทศยื่นแก้วเหล้าให้เพื่อน สลับกับมองหน้าชีวาสอย่างนึกสงสัย โกรธอะไรกันอีกล่ะสองคนนี้ คิดถูกหรือคิดผิดเนี่ยที่ให้ไปตามกันมา เดาไม่ออกบอกไม่ถูกแล้วแฮะ

.

.

.

.

เจมินี่เดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำแล้วมองคนหน้ามุ่ยบนเตียงอย่างสะใจเล็กน้อย ชายหนุ่มเดินมานั่งบนเตียงเอ่ยลอยๆ

“ห้องสวีทของรีสอร์ทนี่เค้าก็ดีนะ สวยใช้ได้”

ก๋วยจั๊บหันขวับมาทันที “ไอ้สวยมันก็สวยหรอก แล้วจะนอนกันยังไงล่ะที่นี้”

“ก็นอนปกติ หรือนายต้องตีลังกานอนกันล่ะ”

“ชั้นหมายถึง นี่มันห้องสวีท” คนตัวเล็กเอ่ยขึ้นอย่างพยายามสงบจิตใจ

“อือ”

“แล้วมันก็มีเตียงเดียว”

“อืม”

“แต่เรามีกันสองคน”

“แล้วไง”

“แล้วจะนอนกันยังไงเล่า”

เสียงที่แผดออกมาเรียกเสียงหัวเราะจากเจมินี่ได้เป็นอย่างดี

ชายหนุ่มพูดแบบสบายๆ “จะนอนยังไง ก็นอนธรรมดานี่แหละ เตียงก็กว้างขวาง จะนอนสักสามสี่คนก็ยังได้ ขอบอกก่อนนะ นายไม่มีทางไล่ชั้นลงไปนอนที่พื้นเหมือนที่บ้านนายได้เด็ดขาด”

“แต่ชั้นนอนดิ้น นายไม่กลัวชั้นจะไปถีบนายตกเตียงเหรอ” ก๋วยจั๊บขู่

“ไม่เป็นไร ชั้นทนได้ นอนๆเถอะน่า ดึกแล้ว ง่วงด้วย”

เจมินี่ล้มตัวลงนอนทันที ก๋วยจั๊บไม่รู้จะทำยังไงจึงลุกไปปิดไฟแล้วลงไปนอนข้างๆ ชายหนุ่มนอนตะแคงข้างหันหลังให้คนนอนสบายใจเฉิบ อย่างหมั่นไส้ เมื่อความเงียบเข้าปกคลุม สักพักก๋วยจั๊บก็เริ่มง่วง ชายหนุ่มขยับผ้าห่มมาคลุมตัวนึกในใจทำไมแอร์มันเย็นอย่างนี้ จะลุกไปปรับแอร์ก็ขี้เกียจแถมง่วงมากถึงมากที่สุดแล้วด้วย

ก่อนจะหลับไปคนตัวเล็กรู้สึกถึงวงแขนแข็งแรง อบอุ่นที่ตวัดเข้ามาหา ก๋วยจั๊บเบียดตัวเข้าไปซุกหาความอบอุ่นก่อนจะหลับไปอย่างสบายใจ เขาจึงไม่เห็นดวงตาสีเทาที่ทอประกายอ่อนโยนและวงแขนอบอุ่นที่กระชับแน่นขึ้น เจมินี่ถามตัวเองอยู่เหมือนกันว่าอะไรที่ทำให้เขาติดใจจนต้องกลับมาที่เมืองไทยอีก แต่ดูเหมือนว่าคำตอบจะอยู่ตรงหน้าเขานี่เอง

ชายหนุ่มแอบจุมพิตเบาๆที่หน้าผากของร่างในอ้อมแขนก่อนจะหลับตาลงไปพร้อมจิตใจที่ว้าวุ่น

.

.

.

.

ชีวาสมองใบหน้าขาวๆที่ตอนนี้แดงก่ำแล้วส่ายหน้านิดๆ พึ่งจะรู้นี่แหละว่าชอบคนขี้เมาเข้าให้แล้วเพราะไม่เคยได้ล้อมวงกินเหล้ากันเท่าไหร่ ผิดกับทศที่เห็นเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว

“เมายังวะเกี๊ยว” ทศถามเสียงอ้อแอ้

“คิด.ว่า ..ยาง ..ว่ะ”

“ฮ่า ฮ่า แต่ข้ามาวแล้ว” ทศหัวเราะชอบใจ ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินโซเซออกไป

“เอ็งจาปายหนาย ทศ” เกี๊ยวตะโกนถาม

“กลับ....ปาย นอนนนนน”

แค่เห็นก็เชื่อว่าทศเมาแล้วเพราะแทนที่จะเดินกลับบังกะโล ทศกลับเดินลงไปที่ชายหาด ร้อนถึงแจ๊คที่ต้องลุกไปดึงตัวกลับไปบังกะโล โดยมีเกี๊ยวนั่งโบกมือให้อยู่ข้างหลัง

“ขอบจายว่ะแจ๊ค ฝากเพื่อนข้าด้วยน้า”

ชีวาสลุกมานั่งใกล้ๆคนขี้เมา เอ่ยถามเสียงอ่อนโยน “จะกลับหรือยัง”

ดวงตาคู่สวยฉ่ำเยิ้มตวัดมามอง แล้วก้มมองแก้วเหล้าในมือ ส่ายหน้าไปมาโดยไม่ตอบ ชายหนุ่มถือวิสาสะดึงแก้วเหล้าในมืออีกฝ่ายออก ไม่สนใจสายตาไม่พอใจของชินและสายตาอิจฉาริษยาของปาย

“กลับเถอะ พรุ่งนี้ค่อยกินต่อ”

เจ้าตัวยังนั่งนิ่ง พยายามเค้นคำพูดออกมา “ลุก...ม่าย....ขึ้น”

ชีวาสยิ้มนิดๆนั่งคุกเข่าหันหลังให้แล้วทำสัญญาณให้อีกฝ่ายขึ้นมา เกี๊ยวตวัดแขนโอบรอบคอชายหนุ่ม โดยชีวาสยืดตัวขึ้นอย่างระมัดระวัง เมื่อดูว่าคนตัวเล็กอยู่ในท่าที่เรียบร้อย ปลอดภัยแล้วจึงพากลับไปบ้านพัก


ชีวาสวางร่างสูงโปร่งลงบนเตียงอย่างทะนุถนอม นิ้วเรียวเกลี่ยปอยผมที่ปรกหน้าของอีกฝ่ายออก ดวงตาคมทอประกายลึกล้ำไม่ขี้เล่นเหมือนที่เป็น

เสียงอ้อแอ้ดังขึ้น “ทำมาย มองแบบนี้”

แทนคำตอบชายหนุ่มก้มหน้าลงบดเบียดริมฝีปากหนากับเรียวปากนุ่มอย่างเรียกร้อง เว้าวอน จนคนเมาทนไม่ไหว แต่พออ้าปากจะร้องประท้วงลิ้นนุ่มๆกับควานเข้ามาหาความหวานในปาก จูบนั้นเนิ่นนานจนแทบขาดใจ ชีวาสถอนริมฝีปากออกแล้วเอ่ยถามเบาๆ

“สงสัยอะไรอีกไหม”

เกี๊ยวส่ายหน้าเหมือนคนละเมอ ดวงตาคู่สวยฉายแววงุนงง ไม่แน่ใจว่านี่คือความฝันหรือความจริงกันแน่ ชีวาสก้มลงกระซิบข้างหู

“หลับซะนะ”

ชีวาสคลี่ผ้าห่มคลุมอีกฝ่าย ส่วนตัวเขาล้มตัวลงนอนข้างๆ ถอนหายใจยาวอย่างกลัดกลุ้มกับความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ในอก




 :a3: :a3: :a3: :a3: :a3:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
ลุ้นชีวาสใช้อีโมนี้จัง  :oo1: ว้าาแย่จัง    :m7:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
^
^
กิ๊กเรา  หื่นแต่ตรู่เชียวนะ 5555

ชีวาสกับเกี๊ยวน่ารักที่ซู๊ดดดดดดดดดดดดดด  :m3: :m3: :m3:

รออ่านต่อนะ น้องป๋อมแป๋ม ชอบเรื่องนี้สนุกดี  :m4:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
 :m22: พิมที่ร๊ากกกมาเห็นอุ้ยอายจัง  :m23:

มาต่อไวไวเด้อ  :m19:

armani

  • บุคคลทั่วไป
ตื่นมาบอกรักเลย :m12:

aumzaa

  • บุคคลทั่วไป



     :o :o :o :o





    คืนนี้จะมีใร.......
 


    เสียตัวบ้างไหมน้า



 o3 o3 o3

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






kei_kakura

  • บุคคลทั่วไป
 :a3: :a3: :a3: :a3: :a3:


ช่างเปงคู่ที่น่ารักเสียนี่กระไร  :m3:

รออ่านตอนต่อไปน่อ  ลุ้นๆๆ  อยากให้เล่นผีผ้าห่ม 555+  :m25:

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
 :m3: :m3:
ชีวาสได้ใจมั่กๆ  o7 o7

min_min

  • บุคคลทั่วไป
ชีวาสเริ่มหงุดหงิดงุ่นง่านแร้วอ่ะ
แล้วคืนนี้ เกี๊ยวจารอดไหมงิ 
 :m10: :m10: :m10:

อยากอ่านตอนต่อไปแร้วววววว      :a5: :a5:

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
 :impress: :impress: :impress:

ดีจังครับกลับมาก็ได้อ่านเลย

โดยที่มะต้องรอครับผม กลับมาแล้วครับ

แล้วจะมาทำหน้าที่ต่อไปครับผม

ชอบ ชีวาส กับ เกี้ยว ครับ

 :impress: :impress: :impress:

ออฟไลน์ ● MaYa~Boy ●

  • ฉันมันคนขี้อิจฉา
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3990
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-2
ชีวาสได้ใจจังอ่ะ

ชอบๆๆๆๆ อิอิ น่ารัก  :a3:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
รอฉากเสียตัว

ป๋อมแป๋มมาต่อให้ว่องเลยคร้าบบบบบ

 :oo1: :oo1: :oo1: :oo1: :oo1:

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
 :impress: :impress: :impress:

ผมว่าเอาเกี๊ยว กับ ชีวาส เป็นตัวเอกเถอะครับ

คู่นี้น่าสนใจกว่าคู่ ก๊วยจั๊บเยอะเลยครับ

แต่ก็ชอบที้ง2คู่เลยนะครับ

เอาเป็นว่ามาต่อให้เร็วๆๆหน่อยละกัน

แล้วคืนนี้ผมจะรออ่านนะครับ

 :impress: :impress: :impress:

leau_dissey

  • บุคคลทั่วไป
 :impress:กรี๊ดดดดดดดดดดดด นายเอกขี้เมา :m4: มาต่อด่วนเลยนะคะ

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
ดีแล้วที่เรื่องหยุดเพียงแค่นี้  :a12:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
ทำไมยังมะมาต่อนะ  :m17: รออยู่นะ  :m16:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






น้ำค้าง

  • บุคคลทั่วไป
ป๋อมอ่ะ หายไปไหนนนนนนนนน
มีคนรออยู่แยะนะจ๊ะ
มาเร็ว ๆ หน่อยนะ
คิดถึงชีวาสเต็มทีแล้ว


ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
Re: คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น
«ตอบ #111 เมื่อ03-08-2007 22:55:18 »

o1 o1 o1 o1 o1


 :impress:เพลงนี้มอบให้พี่พูห์ :impress:


[wma=300,50]http://mywebpage.netscape.com/pleng063/PhidSanYa-Instinct.wma[/wma]


แล้วก็ต้องเลิกกัน จบที่เคยฝันไว้ เมื่อความจริงฉันมีแค่เพียงหัวใจ

หลอกตัวเองว่าคงดีพอให้เธอฝากชีวิตไว้ แต่ที่สุดแล้วมันช่างดูเลือนลาง

ฝันไปได้ยืดยาว แต่ไม่เคยถึงไหน บอกตรงๆขอโทษจริงๆเสียใจ

กับถ้อยคำสัญญาดีๆจะดูแลเธอจนตาย ต้องยืนยันให้ฉันควรไปจากเธอ


แค่คำว่ารักที่พูดอยู่ได้มันคงไม่พอ และฉันก็ไม่อาจรอให้เราเดินไปถึงวันที่เกินจะเปลี่ยน จนช้ำไปมากกว่านี้

ที่ฉันมีให้เธอได้แค่คำว่าลา หยุดทิ้งชีวิตเอาไว้บนทางที่ฝืนเต็มที

ทำให้ไม่ได้ ขอโทษที่ผิดสัญญา


รักเป็นแค่ลมปาก อย่างลมๆแล้งๆ ดีแต่ทำให้เธอต้องเสียเวลา

มีแต่ใจเพ้อไปวันๆ จะดีอะไรนักหนา หากยังอยู่รักเธอมันเห็นแก่ตัว



โปรดอภัยให้คนที่ผิดสัญญา

 o1 o1 o1

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
Re: คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น
«ตอบ #112 เมื่อ03-08-2007 23:15:28 »



คนนี้แหละใช่เลย 9



กว่าที่ก๊วยจั๊บจะตื่นก็ปาเข้าไปเที่ยงกว่า แถมคนที่นอนข้างๆเมื่อคืนก็หายไปไหนไม่รู้

ชายหนุ่มทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยจึงลงมาข้างล่างด้วยใบหน้าสดชื่น กวาดสายตามองหาเจมินี่ จนพบนายแบบหนุ่มกำลังนั่งดื่มกาแฟอยู่ในร้านอาหารของโรงแรม ชายหนุ่มจึงเดินเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ตรงข้าม

เจมินี่ส่งยิ้มให้เอ่ยถาม

“ไง ตื่นแล้วเหรอ”

“ถ้าไม่ตื่นแล้วจะเห็นมานั่งตรงนี้หรือไง”

ก๋วยจั๊บรวนใส่ ทำให้เจมินี่ลดแก้วกาแฟที่กำลังยกขึ้นดื่มลง แล้วมองอีกฝ่ายด้วยสายตาสงสัยเต็มที่

“โกรธอะไรอีกล่ะ นอนก็พอแล้วนี่ หรือว่าหิว”

ก๋วยจั๊บจะอ้าปากตอบ พอดีกับที่พนักงานบริกรเดินนำเมนูมาให้ ชายหนุ่มจึงเปลี่ยนใจมาดูรายการอาหารแทน เมื่อสั่งอาหารเรียบร้อย เจ้าตัวจึงเอ่ยเสียงเขียว

“ตื่นก่อนแล้วทำไมไม่ปลุก ดูสินี่มันเที่ยงกว่าแล้ว ไหนจะต้องไปหาเจ้าเกี๊ยวอีก”

“ก็เห็นนอนสบายเลยไม่อยากปลุก เกี๊ยวน่ะค่อยไปหาตอนเย็นๆก็ได้ เราไปเดินดูนู่น ดูนี่กันก่อนก็ยังทัน ผมพึ่งจะมาระยองครั้งแรก อยากเดินเที่ยวก่อนน่ะ เจ๊วุ้นของคุณก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าให้พาผมเที่ยว”

คำพูดของเจมินี่ทำให้ก๋วยจั๊บมองอย่างเคืองๆ หนอยเอาเจ๊วุ้นมาอ้าง ตานายแบบตัวแสบ

“คิดจะเอาเจ๊วุ้นมาอ้างเหรอ ฮะ เป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร”

เจมินี่เพียงยิ้มกว้างๆเห็นฟันสวยเรียงเป็นระเบียบให้เท่านั้น ก่อนจะตัดบทด้วยการกินอาหารที่บริกรนำมาเสริฟ ปล่อยให้บางคนงงงวยกับความหมายของรอยยิ้มนั้น

เมื่อเห็นอีกฝ่ายกินอาหารด้วยท่าทางสบายๆ ก๋วยจั๊บจึงลงมือกินบ้าง ชายหนุ่มนึกอะไรขึ้นมาได้จึงเอ่ยถาม

“เออ ว่าแต่นายอยากไปเที่ยวที่ไหนล่ะ จะได้พาไปถูก”

“ที่ไหนก็ได้ ที่มีนายน่ะ”

“อุ๊บ.....ค่อก...แค่กๆ”

คำตอบของเจมินี่ทำให้ก๋วยจั๊บสำลักน้ำที่ดื่มอยู่ทันที เรียกเสียงหัวเราะชอบใจจากเจมินี่ ก่อนที่มือเรียวยาวจะเอื้อมมาซับน้ำให้อย่างเบามือ เห็นชายหนุ่มตวัดตามองอย่างเอาเรื่อง เจ้าตัวจึงยกมือทั้งสองข้างขึ้น หลิ่วตาให้เล็กน้อยก่อนจะบอกว่า

“ล้อเล่นน่า ชั้นคงพูดผิดน่ะ ชั้นหมายถึงที่ไหนก็ได้ที่นายอยากไปด้วยต่างหาก”

“คราวหลังก็พูดให้มันถูกๆสิ พูดแบบนี้มันฟังทะแม่งๆนี่นา” ก๋วยจั๊บโวยวายไป หน้าก็แดงไป เพราะชั่วครู่เค้ารู้สึกเหมือนถูกสารภาพรักอย่างไรอย่างนั้น

“รู้แล้ว รู้แล้ว คราวหลังจะพูดให้ถูก กินต่อเถอะ” เจมินี่ตัดบท แอบชำเลืองมองคนตรงข้ามที่ก้มหน้าก้มตากินแต่ยังไม่ลืมส่งตาเขียวมาเป็นระยะๆแล้ว นึกในใจ 'เพราะที่ถูกน่ะ มันต้องเป็นที่ไหนก็ได้ที่มีนายและชั้นต่างหาก'

.

.

.

.

“นี่ เห็นเกี๊ยวไหม”

ชีวาสถามพวกผู้หญิงที่กำลังเตรียมของทำอาหารเย็น นิชยาเหลียวมองไปรอบๆแล้วส่ายหน้า

“เมื่อกี้ยังมาช่วยพวกเราอยู่เลย แล้วหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้”

“ขอบใจนะ”

พูดจบชายหนุ่มก็เดินจากไป แต่เดินไปแค่สองสามก้าวก็ชะงักเมื่อเสียงหญิงสาวลอยมาจากด้านหลัง

“แหม ดูมันชักจะยังไงๆแล้วน้า ชีวาส มีอะไรที่พวกเราไม่รู้หรือเปล่า”

ชีวาสเพียงแค่ยกมือขึ้นพลิกไปมาแล้วเดินออกไป ปล่อยให้พวกผู้หญิงจับกลุ่มซุบซิบกันต่อ

“ชั้นว่ามันต้องมีอะไรในกอไผ่แน่นอน” นิชยาหัวโจกของพวกผู้หญิงกล่าวสรุปออกมา

“งั้นเราไปดูกันดีกว่า” อรสาวเอ๋อประจำกลุ่มเอ่ยชักชวน

“ไปสิ เฮ้ย.........ไม่ใช่ ฉันหมายถึงชีวาสกับเกี๊ยวต่างหาก ยัยอรอย่ามาพาชั้นเขวนะ” นิชยาเขกหัวเพื่อนไปหนึ่งที ก่อนจะพูดต่อ

“หึ หึ จิ้นกันมาตั้งนานในที่สุดสวรรค์ก็เข้าข้างพวกเรา ฟังให้ดีต่อไปนี้เราต้องช่วยเหลือเพื่อนอย่างสุดความสามารถ เปิดทางให้พวกนั้นตลอด อุปสรรคขวางทางรักของสองคนนั้นต้องกำจัดให้เรียบ” นิชยาประกาศต่อหน้าเพื่อนๆ ยกเว้นอรที่เอามือเกาหัวอยู่

“นิช มันจะไม่เวอร์ไปหน่อยเหรอ อย่าไปยุ่งเลยน่า เกี๊ยวก็ไม่เห็นมีทีท่าอะไรสักหน่อย”

“โธ่ ยัยอร ไม่มีไม่เป็นไร ทำให้มีก็สิ้นเรื่อง บรรยากาศชายทะเลอันแสนโรแมนติค เสียงคลื่นกระทบฝั่ง ชายกับชายใกล้กันมันต้องมีสปาร์คกันบ้างล่ะน่า โฮะ โฮะ โฮะ” นิชยาทำสีหน้าซาบซึ้ง รู้สึกปลาบปลื้มในความคิดของตนเองมาก

“นิช”

“ยัยนิช” เสียงเพื่อนๆพร้อมใจกันตะโกนเรียกเสียงดังลั่น

“อะไรยะ” นิชยาลืมตา จินตนาการหายไปทันควัน

“ปลาไหม้!!”

นิชยาตาโต หันกลับไปมองปลาทอดในกระทะที่ตอนนี้ควันโขมง แล้วร้องกรี๊ดออกมา

เสียงกรี๊ดกร๊าดของพวกผู้หญิงดังลั่นจนพวกผู้ชายหันไปมองเป็นตาเดียว แจ๊คหันกลับมาพูดว่า

“วันนี้ชั้นขอบายปลาทอดของยัยนิชแล้วกัน”


ชีวาสเดินหาเกี๊ยวจนไปเจอชายหนุ่มนั่งชันเข่า ใช้ไม้ขีดเขียนพื้นทรายไปมา ดูเกี๊ยวใจลอยถึงขนาดที่ชีวาสเข้าไปยืนอยู่ข้างหลัง ชายหนุ่มก็ยังไม่รู้สึกตัว ชีวาสจึงนั่งลงข้างๆแล้วเรียกอีกฝ่ายเบาๆ

“เกี๊ยว”

ชีวาสเห็นคนตัวเล็กสะดุ้งนิดๆ ก่อนจะก้มลงเขียนอะไรต่อไป ชายหนุ่มจึงถามต่อ

“ไม่สบายหรือไง”

“เปล่า” เกี๊ยวตอบเสียงเนือยๆ โดยไม่ยอมสบตาด้วยสักพักหันหน้าไปหาคนข้างๆ ริมฝีปากขยับคล้ายจะเอ่ยถามอะไรบางอย่างออกมา แต่แล้วเจ้าตัวก็เม้มปากแน่น จะให้ถามออกไปได้ยังไง ก็ไอ้ที่เขาจะถาม มันก็คือ ‘เมื่อคืนนายจูบชั้นหรือเปล่า’

เขาไม่แน่ใจเพราะเมื่อคืนเมามาก มากซะจนกลับไปนอนที่บังกะโลได้ยังไงก็ไม่รู้ แต่ไอ้ที่แปลกก็คือ เขาฝันว่าโดนจูบ สัมผัสมันดูจริงจังเสียจนไม่คิดว่าเป็นฝัน แต่ถ้าไม่ถามมันก็คาใจ ครั้งจะถามมันก็อาย เอาวะเป็นไงเป็นกันถามไปเลยดีกว่า

“ชีวาส”

“เมื่อคืนนายทำอะไร ชั้นหรือเปล่า”

เกี๊ยวแทบจะกลั้นหายใจรอฟังคำตอบ ภาวนาให้คำตอบเป็นอะไรก็ได้ในทำนองปฏิเสธ หรือจะให้หมอนี่ลุกขึ้นหัวเราะท้องแข็งตายไปเลยก็ได้ แต่คำตอบที่ได้รับกลับทำให้เขาตัวแข็งทื่อ

“ทำ”

เสียงของชายหนุ่มดังก้องอยู่ในหัวสมอง เกี๊ยวพยายามคิดในแง่ดี ถามต่อ

“ทำอะไร”

“จูบ”

ชีวาสรอดูปฏิกิริยาของคนข้างๆ แต่เกี๊ยวแค่ก้มหน้านิ่ง ผุดลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว ตอนแรกชีวาสคิดว่าชายหนุ่มจะวิ่งหนีไปแต่ผิดคาดเมื่อเกี๊ยวกลับสั่งให้เขายืนขึ้น ชีวาสลุกขึ้นยืนตามเพื่อดูว่าอีกฝ่ายจะทำอย่างไร และโดยไม่คาดคิดกำปั้นของเกี๊ยวก็อัดเข้าที่ท้องของชีวาสโดยแรง ชายหนุ่มตัวงอด้วยความจุกปนเจ็บ

“นายจะทำอะไร”

“ทำอะไรน่ะเหรอ ก็จะอัดนายไงชีวาส บอกไว้ก่อนนะว่าชั้นเอาจริง อัดจริง”

พูดจบก็เหวี่ยงกำปั้นเข้าใส่อีกคราวนี้ชีวาสหลบทัน ตะโกนออกมา

“หยุดนะ ฟังชั้นพูดก่อน”

“ไม่มีทาง อย่ามัวแต่หนีสิ มาสู้กันแฟร์ๆดีกว่า”

ชีวาสถอยหลังไปสองก้าวก่อนจะหยุดนิ่ง แม้จะเห็นอีกฝ่ายตรงเข้ามา เกี๊ยวต่อยอีกฝ่ายอย่างแรงจนชีวาสเซไปข้างๆ โหนกแก้มมีรอยแดง ที่มุมปากมีเลือดไหลออกมาเล็กน้อย เกี๊ยวชะงัก ครางออกมา

“ทำไมนายไม่หลบ”

“ชั้นยอมให้นายต่อยจนกว่าจะพอใจ จะไม่หลบ ไม่หนีด้วย”

“นายมันบ้า” ชายหนุ่มทิ้งมือลงข้างตัวคล้ายหมดแรง เริ่มปวดหนึบตรงมือขึ้นมาทันที

เกี๊ยวพยายามสงบสติอารมณ์โดยการหันหน้าออกทะเลซึ่งถูกอาบย้อมเป็นสีส้มจากดวงอาทิตย์ที่กำลังจะตก ชีวาสก้าวมายืนเคียงข้างเอ่ยเบาๆ

“นายเคยหาเหตุผลที่ดวงอาทิตย์ตกไหม”

“ไม่เคย”

“ทำไม”

“เพราะมันเป็นเรื่องธรรมดาของโลก”

“ก็เหตุผลเดียวกับที่ชั้นจูบนาย”

คราวนี้เกี๊ยวหันหน้ามาหาทันที “ยังไง”

“มันเป็นเรื่องธรรมดาของตรงนี้” ชายหนุ่มหันมาสบตาพร้อมกับชี้นิ้วลงที่อกด้านซ้าย เอ่ยย้ำด้วยน้ำเสียงจริงจัง “มันเป็นเรื่องธรรมดาของหัวใจ นายเคยหาเหตุผลให้มันหรือไง”

เกี๊ยวหันกลับไปอย่างเก่าเปลือกตาบางหรุบลง ถอนหายใจเบาๆแล้วหมุนตัวเดินกลับไปทางบังกะโล โดยที่ชีวาสก้มหน้ายืนอยู่ที่เดิม ชายหนุ่มเดินไปสักพักก็หมุนตัวหันกลับมาตะโกน “ชักช้า เดี๋ยวชั้นก็ไม่รอหรอก”

ชีวาสเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว มองหน้าอีกฝ่ายอย่างคาดไม่ถึง

“ชั้นจะยกโทษให้นายสักครั้ง แต่ถ้านายทำเป็นเรื่องธรรมดาของหัวใจอีกล่ะก็ คราวนี้แหละเป็นเรื่องแน่ๆ”

ชีวาสหัวเราะเบาๆก่อนจะวิ่งเหยาะๆตามอีกฝ่ายไปจนทัน

ทั้งสองเดินกลับมาบริเวณแคมป์ไฟก็เป็นเวลาค่ำพอดี เมื่อเกี๊ยวเห็นคนที่ยืนอยู่ข้างกองไฟ ก็ตะโกนขึ้นมา

“พี่จั๊บ!!”

ก๋วยจั๊บหันไปยิ้มหวานให้น้องรัก แล้วรัดคออีกฝ่ายเข้ามาหา “คิดถึงพี่ไหมหะ น้องรัก หนีออกมาไม่บอกไม่กล่าวเลยนะ”

“แหะ แหะ พี่ปล่อยผมก่อนเถอะ” เกี๊ยวหัวเราะเสียงแห้งๆ ได้ยินเสียงแจ๊คดังขึ้น

“เฮ้ย ชีวาสเอ็งไปโดนอะไรมา แก้มช้ำเชียว”

“ไม่มีอะไรหรอก” ชีวาสปฏิเสธด้วยรอยยิ้มและแววตาที่สื่อความหมายว่า อย่าพูดมากไปกว่านี้เลย เกี๊ยวหันไปมองเตาบาร์บีคิวแล้วก็อุทานออกมา

“เฮ้ย ไปเอากุ้ง ปลาหมึก พวกนี้มาจากไหนกัน ไหนบอกเงินจะหมดแล้วไม่ใช่เหรอ”

“ก็เป็นของอภินันทนาการจากพี่ก๋วยจั๊บกับพี่เจมินี่ไงล่ะ คนอะไรหล่อก็หล่อ ใจก็ดีอีก เฮ้อ” นิชยาตอบตาก็มองทั้งสองคนด้วยความปลาบปลื้ม ก่อนจะยัดจานปลาหมึกกับกุ้งเผาใส่มือของชายหนุ่ม “เอ้า ของเธอกับชีวาส ไปกินด้วยกันนะ”

“อ้าว แยกจานกันไม่ได้เหรอไง ทำไมต้องกินด้วยกัน”

นิชยาค้อนขวับ แหวใส่ “ช่วยชาติประหยัดพลังงานกันบ้างสิยะ จานมันหมดแล้วก็ต้องกินด้วยกันนั่นแหละ หรือจะไม่กิน”

“กินสิ เฮ้ นี่อย่าบอกว่าส้อมก็หมดเหลือแค่อันเดียวด้วยงั้นเหรอ”

“ใช่ย่ะ”

แล้วนิชยาก็เดินเลี่ยงไปทางอื่น ปล่อยให้เกี๊ยวพึมพำ

“ว่าแต่ไอ้จาน กับ ส้อม นี่มันเกี่ยวกับพลังงานตรงไหน”

เจ้าตัวเดินกลับมาที่วง แล้วยื่นจานให้ร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆ “นิชบอกให้มากินด้วยกัน”

ชีวาสจิ้มปลาหมึกกินแล้วต้องซู้ดปากด้วยความแสบ จากน้ำจิ้มรสเด็ด

“แสบล่ะสิ กินตรงนี้สิไม่มีน้ำจิ้ม” เกี๊ยวเขี่ยปลาหมึกกองไว้ตรงขอบจาน

ทศที่นั่งอยุ่ตรงข้ามแอบยิ้มในความสัมพันธ์ของคนทั้งสองที่ดูจะก้าวหน้าขึ้น ยกเว้นชินที่มีสีหน้าขรึมลงแต่ยังฝืนยิ้มเฮฮาออกมา กินกันจนถึงเที่ยงคืนก๋วยจั๊บกับเจมินี่พร้อมกับทสและแจ๊คก็ขอตัวกลับไปนอนก่อน จึงเหลือเพียง ชิน น้องปาย ชีวาสและเกี๊ยวที่ยังนั่งกินกันอยู่

“เกี๊ยว เรามีอะไรอยากคุยด้วย” ชินพูดเสียงขรึมๆ ชายหนุ่มดื่มหนักก็จริงแต่พยายามครองสติไว้ ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปที่ชายหาด

เกี๊ยวเผลอหันไปมองหน้าชีวาสโดยไม่ตั้งใจ ชายหนุ่มยิ้มให้เล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า เกี๊ยวจึงลุกขึ้นเดินตามชินไปที่ชายหาด

“มีอะไรเหรอ ชิน”

“ทำไมต้องมีอะไรด้วย ชินแค่อยากคุยกับเกี๊ยวเฉยๆ”

“ถ้านายไม่มีอะไร ชั้นจะกลับไปนอนแล้ว” เกี๊ยวหันหลังจะเดินกลับ แต่ชินฉุดแขนชายหนุ่มอย่างแรงจนเกี๊ยวเซปะทะกับอกกว้าง

“เพราะมันใช่ไหม เกี๊ยวถึงไม่สนใจชินเลย ชินรักเกี๊ยวนะ รักมากด้วย” ชินพึมพำเสียงแหบพร่า

เกี๊ยวปลดมืออีกฝ่ายออก พูดเสียงแข็ง “ไม่ใช่เพราะใครหรอก ชิน เราคิดกับนายแค่เพื่อนเท่านั้น นายเองก็มีคนรักอยู่แล้ว น่าจะเอาใจใส่กับเขานะ”

“ไม่ ไม่จริง ชินไม่ได้ชอบปายเลยนะ เด็กคนนั้นมาติดชินเอง”

“ชิน เราขอร้อง อย่าพูดอะไรให้เราเกลียดนายเลยนะ อะไรเป็นอะไรนายรู้ตัวดีที่สุด” เกี๊ยวพูดเพื่อให้เพื่อนได้คิด อย่างน้อยชายหนุ่มก็ดีกับเขาเสมอมา



“ดูห่วงใยกันดีเหลือเกินนะครับ” ปายพูดประชดหลังจากเห็นชีวาสมองไปทางสองคนบนริมหาดอย่างไม่คลาดสายตา ใบหน้าสวยแดงก่ำด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ เด็กหนุ่มลุกขึ้นแล้วเข้าไปนั่งกระแซะเบียดชีวาสอย่างจงใจ

“หยุดเถอะปาย เธอเมาแล้ว” ชีวาสจับแขนเรียวที่ป่ายปะไปตามลำตัวไว้

ปายสะบัดมือชายหนุ่มออก จ้องมองอีกฝ่ายอย่างเจ็บแค้น “ทำไม ทำไมพี่ไม่ห่วงผมเหมือนห่วงมันบ้าง ถ้าพี่สนใจผมสักนิด ผมก็ไม่ต้องทำแบบนี้หรอก”

“สิ่งที่เธอทำก็คือสิ่งที่เธอเลือก ในเมื่อเธอเลือกที่จะไม่อยู่กับพี่ พี่ก็ไม่ฝืนใจ เพราะเธอเองที่ไม่มั่นคงนะปาย”

“แต่ผมรักพี่นะครับ ผมจะเลิกกับพี่ชินแล้วกลับมาอยู่กับพี่ นะ นะครับ”

ชีวาสส่ายหน้าช้าๆ มองอีกฝ่ายอย่างเวทนา “มันสายไปแล้วล่ะปาย เส้นทางของเรามันไม่มีอีกแล้ว เธอก็ดูแลรักที่เธอมีให้ดีเถอะ”

ปายผุดลุกขึ้น เกรี้ยวกราดใส่ชีวาสอย่างระงับอารมณ์ไม่อยู่ “อย่ามามองผมแบบนั้นนะ อย่ามาเวทนาผม ผมเกลียดพี่ ผมเกลียดมัน ได้ยินไหม ผมเกลียดมัน!!” เด็กหนุ่มพูดจบก็วิ่งออกไปทันที

เกี๊ยวมองตามแล้วหันมาพูดกับชินว่า “รู้ใช่ไหม ว่าต้องทำอะไรชิน”

ชินพยักหน้า เอ่ยเสียงอ่อนๆ “ขอชินกอดลาหน่อยจะได้ไหม”

เกี๊ยวลังเลแต่ไม่ได้ขัดขืนเมื่อชินเข้ามากอด อ้อมแขนนั่นแน่นและรัดรึงจนเกี๊ยวอึดอัด เมื่ออ้าปากจะบอกให้อีกฝ่ายปล่อย ชินกลับก้มลงมาจูบอย่างหนักหน่วง เกี๊ยวสะบัดอีกฝ่ายออก พร้อมๆกับที่ชีวาสวิ่งมาถึง ชายหนุ่มกระชากไหล่ชินแล้วซัดเปรี้ยงไปที่หน้าของคนฉวยโอกาส

“จำไว้นะเกี๊ยว ชินไม่มีทางเปลี่ยนใจหรอก เมื่อชินไม่ได้ ก็อย่าหวังว่ามันจะได้ไปเลย”

“ชิน ทำไมนายเป็นคนแบบนี้ ต่อจากนี้ไปเราขาดกัน” เกี๊ยวพูดจบก็หันหลังเดินจากไปพร้อมกับชีวาส โดยที่ไม่คิดจะหันหลังกลับมามองอีก ได้ยินเพียงเสียงตะโกนไล่หลังมา “จำไว้นะเกี๊ยว จำไว้ให้ดี นายเป็นของชั้น ของชั้นเท่านั้น!!”



 :undecided: :undecided: :undecided: :undecided:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น
«ตอบ #113 เมื่อ03-08-2007 23:18:57 »

เหอ เหอ รักอลวน คนอลเวง  :a3:  :a3:  :a3:

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
Re: คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น
«ตอบ #114 เมื่อ03-08-2007 23:35:17 »



คนนี้แหละใช่เลย 10


หลังจากกลับมาจากสวนสนแล้ว เจมินี่ก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ขลุกอยู่ที่บ้านสวนจนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นลูกชายอีกคนของคุณลำดวนเสียแล้ว จนกระทั่งเย็นวันหนึ่งเจมินี่ก็เดินหน้าเครียดมาหาทุกคนที่รวมตัวกันอยู่ตรงชานบ้าน

“ผมคงต้องกลับแล้ว อลิซถูกรถชนตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล”

“ตายจริงแล้วหนูอลิซเป็นอะไรมากหรือเปล่าจ๊ะ” คุณลำดวนอุทาน ถามด้วยสีหน้ากังวล

เจมินี่ตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพ “ผมไม่แน่ใจครับ แต่ทางนั้นบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก แต่ผมอยากกลับไปดูอยู่ดี” ใบหน้าหล่อเหลาดูเคร่งเครียดผิดปกติ

ก๋วยจั๊บจึงเอ่ยปลอบใจ “คงไม่เป็นอะไรมากหรอก ถ้าเป็นมากเค้าก็ต้องบอกนายแล้วสิ”

เจมินี่ส่ายหน้า “ไม่ได้กังวลเรื่องนั้น แต่กำลังกังวลเรื่องงาน ตอนนี้ผู้ช่วยของอลิซลาคลอด ยัยนั่นเลยต้องจัดการตารางงานของฉันเอง ที่สำคัญคืออลิซเป็นคนมีความรับผิดชอบสูงมากและก็ดื้อมากด้วย กลัวเธอจะไม่ยอมพักผ่อนอยู่เฉยๆน่ะสิ เพราะต้องคอยมากังวลเรื่องฉัน”

“โธ่ ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอกจ๊ะ ก๋วยจั๊บลูกเองก็ว่างๆอยู่ไม่ใช่หรือ ก็ไปช่วยงานพ่อเจ็มเค้าเสียเลยสิ”

ผู้ถูกพาดพิงถึงกับสะดุ้งน้อยๆ เอ่ยปฏิเสธเสียงดัง “ไม่เอาแม่ จั๊บยังเรียนอยู่นะ แล้วยังต้องหางานทำด้วย จั๊บไปไม่ได้หรอก”

“ก็ไหนว่าโปรเจค์ก็เสร็จแล้วไม่ใช่หรือไงล่ะพี่ ไปช่วยพี่เจ็มเค้าหน่อยสิ ถือว่าเป็นการฝึกงานไปในตัวน้า” เกี๊ยวลากเสียงยาวพลางหลิ่วตาเล็กน้อยให้เจมินี่

“พี่เป็นห่วงแกด้วย ถ้าไปแล้วใครจะดูแล” ชายหนุ่มเถียง เขาได้รู้เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดที่สวนสนแล้วเป็นห่วงมาก

เกี๊ยวส่ายหน้าเอ่ยขึ้นอย่างระอา “พี่จั๊บผมน่ะ ดูแลตัวเองได้น่า ไม่ต้องห่วง พี่ไปแป๊บเดียวพอพี่อลิซหายเดี๋ยวก็ได้กลับมาแล้ว”

“ที่ต้องไปมันอเมริกานะโว๊ย ไม่ใช่เชียงใหม่ แกพูดซะยังกับว่ามันใกล้ๆอย่างนั้นแหละ” ก๋วยจั๊บโวยวาย ก่อนจะหันหน้าไปมองนายแบบหนุ่มซึ่งมีเพียงรอยยิ้มบางๆฉาบอยู่บนหน้า ทำให้ชายหนุ่มพูดตะกุกตะกัก “มะ..ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากช่วยนายนะ แต่ว่า............” ก๋วยจั๊บอ้ำอึ้ง สุดท้ายชายหนุ่มก็ครางออกมาด้วยน้ำเสียงสิ้นหวัง “ โธ่...อย่ามายิ้มแบบนั้นสิ”

ต้องมีใครแอบบอกหมอนี่แน่ๆ... ว่าเขาเป็นคนใจอ่อน

กับรอยยิ้มแบบนี้........

.

.

.

.

ด้วยเหตุนี้อีกสองวันถัดมาชายหนุ่มจึงมายืนหันรีหันขวางอยู่ในห้องชุดขนาดใหญ่ของเจมินี่หลังจากที่ไปเยี่ยมอลิซที่โรงพยาบาลแล้ว

โชคดีที่หญิงสาวไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส มีเพียงบางแผลถลอกเล็กๆน้อยตามตัว แต่ขาซ้ายที่เดาะก็ทำให้เธอต้องนอนโรงพยาบาลไปอีกหลายอาทิตย์

อลิซมีท่าทางดีใจมากเมื่อรู้ว่าเขาจะมาช่วยทำงานแทนสักระยะ นั่นทำให้ก๋วยจั๊บรู้สึกยินดีอยู่ลึกๆ ที่ได้ช่วยเหลือหญิงสาว


“นายนอนห้องนั้นแล้วกันนะ” เจมินี่ชี้มือไปทางห้องนอนเล็กที่ไว้สำหรับรับรองแขกซึ่งอยู่ตรงข้ามกับห้องนอนของเขา

เมื่อเปิดประตูเข้าไปก๋วยจั๊บถึงกับยืนมองด้วยความทึ่ง เพราะถึงแม้จะบอกว่าเป็นห้องนอนเล็กแต่ขนาดของห้องก็กว้างพอสมควรแถมมีห้องน้ำในตัวอีกต่างหาก ภายในห้องตกแต่งด้วยโทนสีขาวล้วนไม่ว่าจะเป็นวอลเปเปอร์ เฟอร์นิเจอร์ ผ้าปูเตียง แม้แต่พรมในห้องก็ยังเป็นสีขาว ก๋วยจั๊บหันกลับมาถาม

“นี่ห้องของคุณอลิซเหรอ สวยจัง”

“เปล่า เป็นห้องรับรองแขก อลิซไม่ได้พักกับฉัน นายชอบไหม” ท้ายประโยคหันกลับมาถาม

ก๋วยจั๊บพยักหน้า ตอบอย่างที่ใจคิด “ชอบสิ”

“ฉันดีใจที่นายชอบ ว่าแต่เอาเสื้อผ้าไปเก็บเสียสิ ถ้ามีอะไรก็ถามชั้นได้ ชั้นอยู่ข้างนอกนะ” พูดจบชายหนุ่มจึงเดินออกไป

ก๋วยจั๊บเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าซึ่งเป็นแบบติดผนัง แล้วผลักประตูที่เป็นแบบเลื่อนไปจนสุด ภายในตู้เสื้อผ้าที่กว้างขวางกลับมีเสื้อโค้ทสีขาวแขวนอยู่เพียงตัวเดียวเท่านั้น ก๋วยจั๊บมองเสื้อโค้ทอย่างสงสัย จะว่าเป็นโค้ทของหมอนั่นก็ไม่น่าจะใช่ เพราะดูไซส์แล้วเหมือนจะเล็กกว่าเบอร์นึง ชายหนุ่มสลัดความสงสัยทิ้งไปตั้งใจว่าเดี๋ยวค่อยไปถามชายหนุ่มเจ้าของห้องเอาก็ได้

เมื่อจัดเก็บเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ก๋วยจั๊บจึงเดินออกมาจากห้องไม่ลืมหยิบออร์แกไนเซอร์ของอลิซติดมือมาด้วย เพื่อจะได้เช็คว่าเจมินี่มีงานเข้าเท่าไหร่เพื่อจะได้จัดตารางได้ถูก พอดีกับที่เจมินี่เดินมาหา

“ฉันจะมาเรียกนายอยู่พอดี นายคงหิวแล้วล่ะสิ วันนี้ชั้นโชว์ฝีมือเองเลยนะ”

“นายทำอาหารได้ด้วยเหรอ” ก๋วยจั๊บมองอีกฝ่ายอย่างแปลกใจ

เจมินี่ยักไหล่ “ก็นิดหน่อย อยู่คนเดียวมันก็ต้องฝึกกันบ้าง”

“จะกินได้แน่เร้ออออออออ” น้ำเสียงล้อๆของคนตัวเล็กทำให้เจมินี่ยิ้มกว้าง

เมื่อเดินไปถึงห้องครัว ก๋วยจั๊บชะโงกมองสปาเกตตี้จานร้อน ที่ส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลายแล้วก็ต้องอุทานออกมา “โห หน้าตาใช้ได้ แต่ยังต้องทดสอบรสชาดอีกอย่างหนึ่ง” ก๋วยจั๊บทรุดตัวลงนั่ง เจมินี่อ้อมไปนั่งฝั่งตรงข้ามมองอีกฝ่ายใช้ส้อมม้วนเส้นสปาเกตตี้เข้าปาก “อืม อร่อย!!”

เจมินี่มองอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู ก่อนจะเริ่มลงมือบ้าง

ในระหว่างที่กินนั้น เจมินี่ก็อธิบายรายละเอียดต่างๆของงานในจุดที่ก๋วยจั๊บสงสัย

“โอ้โห นี่นายทำงานหนักขนาดนี้เลยเหรอ” ชายหนุ่มถามหลังจากที่เห็นตารางงานทั้งหมดของเจมินี่ทั้งงานถ่ายแบบ โชว์ตัว ฝึกซ้อม บางวันก็เดินแบบอยู่สองสามที่

“มันจำเป็น แต่งานเยอะ ก็น่าดีใจอยู่”

“ไม่ได้นะ” ก๋วยจั๊บค้าน “ยังไงนายก็ต้องดูแลสุขภาพบ้าง จะบอกไว้ก่อนนะถ้าให้ชั้นเป็นผู้จัดการส่วนตัวละก็ นายจะต้องเชื่อฟังชั้น และอะไรที่หนักเกินไป ชั้นไม่ยอมหรอก”

เจมินี่ยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่ดูอบอุ่นมากทีเดียว จนก๋วยจั๊บรู้สึกเขิน ชายหนุ่มก้มลงมองจานแล้วก็เอ่ยถามเมื่อนึกขึ้นได้

“เออ ฉันเจอเสื้อโค้ทสีขาวอยู่ในตู้เสื้อผ้า ของนายหรือเปล่า"

รอยยิ้มของเจมินี่จางหายไป ชายหนุ่มเสมองไปทางอื่น “เปล่า ของเพื่อนเก่าของฉัน เขาลืมไว้”

“อ้าว แล้วเขาไปไหนล่ะ”

“เขาจะไม่กลับมาอีกแล้ว เสื้อตัวนั้นเขาลืมไว้ ยังไม่ได้เก็บ”

ก๋วยจั๊บหรี่ตามองอีกฝ่าย แล้วเอ่ยช้าๆ “ไม่ใช่หรอกมั๊ง ฉันว่านายรอให้เขากลับมาอยู่หรือเปล่า เจมินี่”

นายแบบหนุ่มหันกลับมาสบดวงตาคู่สวยแล้วถอนหายใจ ใจหนึ่งก็ไม่อยากพูดถึงเรื่องในอดีต แต่ถ้าไม่พูดก็กลัวว่าคนตรงหน้าจะเข้าใจผิด

“เรียกว่าเจ็มก็ได้ จริงอยู่เมื่อก่อนฉันรอให้เขากลับมา แต่ตอนนี้ไม่ใช่”

“นายไม่ต้องอธิบายก็ได้ เพราะยังไงมันก็ไม่เกี่ยวกับฉัน” ก๋วยจั๊บพูดตรงๆ ในเมื่อเป็นอดีตที่อีกฝ่ายไม่อยากจะพูดถึง เขาเองก็ไม่ได้อยากรู้สักเท่าไหร่

ก๋วยจั๊บลุกขึ้นเอื้อมมือจะเอาจานไปเก็บแต่เจมินี่แตะมือชายหนุ่มเบาๆ

“ฉันเก็บเองดีกว่า”

“ไม่ได้หรอก นายทำให้ฉันกินยังต้องมาเก็บให้อีกเหรอ ไม่ดีหรอก” ก๋วยจั๊บค้าน

เจมินี่ยิ้มน้อยๆ “ใครว่าล่ะ คราวนี้ฉันจะเก็บให้นายดู ส่วนคราวหน้านายต้องเป็นคนเก็บทุกอย่าง ทำกับข้าว ซักผ้า รีดผ้า แบบนี้ดีไหม”

“โห นี่เอามาช่วยงานหรือเอามาเป็นคนใช้เนี่ย” คนตัวเล็กโวยแบบไม่เอาจริงเอาจังนัก เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายแค่พูดเล่น หรือถึงจะพูดจริง ก็ไม่ทำซะอย่างใครจะทำไม



หลังจากเก็บทุกอย่างเรียบร้อย ซึ่งก็ไม่มีอะไรมากเพราะเจมินี่มีเครื่องล้างจานอัตโนมัติ ทั้งสองต่างก็แยกย้ายกลับห้อง โดยก่อนจะเข้าห้อง เจมินี่หันมาย้ำอีกฝ่ายกันลืม

“พรุ่งนี้ 9.00 โมงนะจั๊บ”

“รู้แล้วน่า ฉันไม่ลืมหรอก ย้ำจริงเชียว นี่มันหน้าที่ฉันนะไม่ใช่นาย” ก๋วยจั๊บหน้าบึ้งนิดๆ ย้ำอะไรตั้งหลายรอบ

“ฉันรู้ว่านายไม่ลืม แต่กลัวนายไม่ตื่น” เจมินี่พูดปนหัวเราะ เพราะเคยเห็นฤทธิ์กันมาก่อนหน้านี้ “เอาล่ะ good night” นายแบบหนุ่มตัดบทก่อนจะแยกตัวเข้าห้องไป

ก๋วยจั๊บจึงเข้าห้องของตัวเองบ้าง พออาบน้ำทำธุระเสร็จเรียบร้อย จึงมานั่งเล่นอยู่กลางเตียง มองนาฬิกาที่หัวเตียงเป็นเวลาสามทุ่มกว่าแล้ว ก๋วยจั๊บจึงหยิบโทรศัพท์โทรกลับไปบ้าน

“สวัสดีครับ”

เสียงสดใสของน้องชายเรียกรอยยิ้มได้เป็นอย่างดี ก๋วยจั๊บกรอกเสียงลงไป “พี่เอง เกี๊ยว”

“อ้าวพี่จั๊บเหรอ เป็นไงบ้าง”

“ก็ดี กำลังจะนอนเลยโทรมาก่อน”

“หืม แล้วนอนกับพี่เจ็มหรือเปล่า”

ก๋วยจั๊บขมวดคิ้ว “เปล่านอนอีกห้อง ถามทำไม”

“อ้าว ก็พี่น่ะ ถ้าแปลกที่จะนอนไม่หลับไม่ใช่เหรอ พนันกันได้เลย คืนนี้นอนไม่หลับแหงๆ”

“ไม่หรอกน่า เดี๋ยวหลับตามันก็หลับเองแหละ” ชายหนุ่มปฏิเสธ ยังไม่ทันพูดอะไรต่อ เกี๊ยวก็พูดด้วยเสียงรีบร้อน

“ตายล่ะ ผมต้องไปก่อนแล้ว พี่ถ้านอนไม่หลับก็บุกเข้าห้องพี่เจ็มไปเลยนะ ไม่งั้นนอนตาค้างทั้งคืนไม่รู้นะเออ ไปล่ะ”

โทรศัพท์ตัดไปแล้วแต่ก๋วยจั๊บยังนั่งเอ๋ออยู่บนเตียง แล้วคืนนี้จะทำยังไงดีล่ะ จะให้ไปเคาะประตูบอกว่า ขอนอนด้วยได้ไหมนะเหรอ อึ๋ยยยย ขนลุก ชายหนุ่มสั่นหัวแล้วมุดตัวเข้าใต้ผ้าห่มทันที
.

.

.

ติ๊ก.

ติ๊ก..

ติ๊ก...

“โว๊ยยยยยยยย นาฬิกาบ้านี่เดินเสียงดังจริงๆ นอนไม่หลับแล้ววว” ก๋วยจั๊บผุดลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วด้วยใบหน้าบูดบึ้ง แทบอยากจะเขวี้ยงนาฬิกาให้มันรู้แล้วรู้รอดไป หันไปดูเวลาอีกสิบนาทีจะห้าทุ่มแล้ว ยังไม่ได้นอนสักกะแอะ แล้วจะทำยังไงดี ถ้าไม่ได้นอนพรุ่งนี้เช้าต้องตื่นไม่ไหวแน่ๆ ชายหนุ่มนึกถึงคำแนะนำของน้องชายแล้วเริ่มปลงตก “เอาวะ ไม่มีทางเลือกแล้วเรา”

ก๋วยจั๊บลากผ้าห่มกับหมอนเดินออกไปจากห้อง ไปหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องของเจมินี่ มือเรียวยกขึ้นเคาะประตูเบาๆ รออึดใจเดียวเท่านั้นเจมินี่ก็เปิดประตูออกมา ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆดูไม่มีท่าทีงัวเงีย เหมือนคนถูกปลุก

“มีอะไรเหรอจั๊บ”

“เอ่อ ..คือ ฉันแค่มาดูเท่านั้นเอง ว่านายหลับหรือยัง เท่านี้แหละ” พูดจบก็ผละออกไปเตรียมจะกลับห้อง ไม่ไหวจริงๆนั่นแหละกลับไปนั่งอยู่ที่ห้องคงดีกว่าแต่คนตัวใหญ่กลับฉุดแขนไว้เสียก่อน

“เดี๋ยวสิ นอนไม่หลับไม่ใช่เหรอ มา...มานอนด้วยกัน” พูดจบก็ดึงแขนคนตัวเล็กเบาๆให้เข้ามาในห้อง

ก๋วยจั๊บมองอีกฝ่ายอย่างกังขา ใบหน้าขาวนวลซับสีขึ้นเล็กน้อย “รู้ได้ไง ว่าฉันนอนไม่หลับ”

“ถ้าแค่มาดูว่าหลับหรือยังคงไม่ต้องหอบหมอนกับผ้าห่มมาด้วยหรอก อีกอย่างเกี๊ยวก็โทรมาบอกว่าให้เตรียมเปิดประตูรอไว้ได้เลยว่านายต้องมาแน่ๆ” เจมินี่อธิบาย

ก๋วยจั๊บมองรอบๆห้องอย่างสนใจ ภายในห้องตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์โทนสีดำสนิท แม้แต่ผ้าปูเตียงก็ยังเป็นซาตินสีดำ ยกเว้นผนังห้องและพรมที่เป็นสีขาวเท่านั้น

“โอ้โห นี่นายนอนคนเดียวต้องใช้เตียงขนาดคิงไซส์เลยเหรอ” คนตัวเล็กถามอย่างแปลกใจ

“ความชอบส่วนตัว” เจมินี่ยักไหล่

ก๋วยจั๊บจึงหันมาบอกว่า “ฟังนะ ฉันแค่แปลกที่ วันพรุ่งนี้ก็จะหาย เพราะฉะนั้นฉันจะมานอนกับนายแค่คืนนี้เท่านั้น” พูดจบเจ้าตัวก็เดินตรงไปที่ข้างเตียงด้วยหมายจะนอนตรงนั้น แต่นายแบบหนุ่มดึงไว้เสียก่อน

“นอนด้วยกันนี่แหละ เตียงออกกว้างจะลงไปนอนกับพื้นทำไม”

เห็นท่าทางอิดออดของก๋วยจั๊บแล้วเจมินี่จึงพูดตัดบท “นอนเถอะ นี่ก็ดึกแล้ว พรุ่งนี้จะได้ตื่นเช้า” พูดจบเจ้าตัวก็ดับไฟเหลือเพียงแสงไฟสีเหลืองนวลจากโคมข้างเตียงแล้วก้าวยาวๆมานอน

ก๋วยจั๊บเมื่อเห็นอีกฝ่ายตั้งท่าจะนอนจึงไม่เถียงอะไรล้มตัวนอนตามไปอีกคน สักพักคนแปลกที่ก็หลับไปอย่างสบายใจ

เจมินี่เห็นอีกฝ่ายหลับสนิทแล้วจึงเอื้อมมือไปปิดโคมไฟ เมื่อสายตาเริ่มชินกับความมืด ใบหน้าขาวนวลเลือนลางนั้นก็กระเถิบเข้ามาใกล้ ลมหายใจอุ่นๆรินรดอยู่ตรงซอกคอ กลิ่นแชมพูอ่อนๆเร้าอารมณ์ให้ปั่นป่วน นายแบบหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ พลิกตัวนอนตะแคงโอบร่างเล็กไว้ในอ้อมแขนก่อนจะข่มใจให้หลับลง

.

.

.

.

เช้าวันรุ่งขึ้น เจมินี่พาก๋วยจั๊บไปยังสตูดิโอที่ถ่ายแบบ ชายหนุ่มใช้เวลาครึ่งวันเช้าที่นั่น ส่วนตอนบ่ายย้ายไปที่สตูดิโออีกแห่ง เมื่อไปถึงเจมินี่ให้ก๋วยจั๊บนั่งรอที่โต๊ะ ทันใดนั้นก็มีชายร่างใหญ่ผิวดำ ตัวล่ำบึ้กโผเข้ากอดเจมินี่เต็มแรง

“ดีใจที่ได้เจอเธอนะเจ็ม พอฉันรู้ว่านายแบบเป็นเธอก็รีบรับงานนี้ไว้เลยนะเนี่ย ไหนดูสิ โอ้โหหล่อขึ้นเป็นกอง ไหนๆ พาหนุ่มน้อยน่ารักคนนี้มาจากไหนกันหึ” ชายหนุ่มที่ท่าทางเหมือนหญิงสาวมากกว่าหันขวับมาที่ก๋วยจั๊บจนชายหนุ่มสะดุ้งโหยง

เจมินี่หัวเราะเบาๆ “ผมก็ดีใจนะซิสซี่ จั๊บนี่ซิสซี่เพื่อนผมเอง ซิสซี่นี่ก๋วยจั๊บเป็นเพื่อนผมมาจากเมืองไทย” เจมินี่แนะนำทั้งสองให้รู้จักกัน พอก๋วยจั๊บลุกขึ้นยืนซิสซี่ก็โผมากอดชายหนุ่ม

“โอ ยินดีที่ได้รู้จักนะจ๊ะ ไม่น่าเชื่อว่าเด็กนิสัยเสียอย่างนายคนนี้จะมีเพื่อนน่ารักๆแบบเธอได้”

“ผมก็ยินดีที่ได้รู้จักคุณฮะ”

ก๋วยจั๊บยิ้มให้ ซิสซี่ปล่อยแขนลง ผลักเจมินี่เบาๆ “ว่าแต่ได้เวลาแต่งตัวแล้วนะจ๊ะ รีบไปเร็วๆเข้า”

ซิสซี่หันกลับมาบอกก๋วยจั๊บ “เดี่ยวพอฉันแต่งหน้าตานี่เสร็จจะมานั่งคุยเป็นเพื่อนนะจ๊ะ”

ก๋วยจั๊บหัวเราะเบาๆ

ขณะที่นั่งรออยู่จึงกวาดสายตามองโดยรอบ สตูดิโอนี้ใหญ่มากแต่โดนแบ่งออกเป็นสองฟาก โดยอีกฟากหนึ่งถูกเซ็ตฉากเป็นสีขาวทั้งหมด ตรงกลางมีอ่างอาบน้ำจากุสชี่สีขาวสะอาดวางประกอบอยู่ ฝรั่งตัวโตยืนพูดรัวเร็วใส่ลูกน้องอีกสองสามคน ดูๆแล้วทำไมฟากนู้นถึงดูวุ่นวายเหลือเกิน เด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินถือถาดใส่แก้วห้าหกใบเดินผ่านก๋วยจั๊บไป แล้วก็มีเสียงร้องพร้อมกับเสียงของหล่นดังขึ้น เมื่อก๋วยจั๊บหันไปก็เห็นเด็กหนุ่มคนนั้นนั่งอยู่กับพื้น แก้วห้าหกใบตกลงมาหมด

ชายหนุ่มรีบวิ่งไปหา ถามด้วยความเป็นห่วง “เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”

เด็กหนุ่มส่ายหน้าพยายามจะลุกขึ้น แต่ก็ทรุดฮวบลงอีก ก๋วยจั๊บจึงพยุงเด็กหนุ่มให้ไปนั่งบนเก้าอี้ ผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามา

“ซุ่มซ่ามอีกแล้วสิริค แค่งานง่ายๆแค่นี้ก็ทำไม่ได้เหรอฮะ รีบๆลุกเร็วๆเข้า เอาน้ำไปให้ลอเรนซ์ด้วยนะ อ้ออย่าลืมนะ น้ำแร่นะ ห้ามเอาน้ำธรรมดาเด็ดขาด”

“ขอโทษฮะเอ็มม่า ผมจะไปเดี๋ยวนี้แหละ”

เด็กหนุ่มชื่อริคยิ้มแหยๆ ก่อนจะพยายามลุกขึ้น ก๋วยจั๊บเห็นดังนั้นจึงบอกว่า “เขาขาเจ็บ คุณยังจะให้เขาทำอีกเหรอ”

“ดูก็ไม่ได้เจ็บมากมายนี่ ถ้าทำงานไม่ได้ เธอก็ไม่ได้ค่าจ้างของวันนี้หรอกนะ ริค”

ริคหน้าซีดเผือด เห็นสีหน้าและแววตาของเด็กหนุ่มแล้วทำให้ก๋วยจั๊บทนไม่ไหว

“ผมจะทำแทนเขาเอง ไม่มีปัญหาใช่ไหม”

เอ็มม่ายักไหล่ “ตามใจ ถ้าเธอจะทำ งานแรกเอาน้ำไปให้ลอเรนซ์ก่อนแล้วกัน” หญิงสาวพูดจบก็เดินไปอีกทาง

เด็กหนุ่มหันมากล่าวขอบคุณก๋วยจั๊บ “ขอบคุณนะครับ แต่ผมทำเองดีกว่า”

“เห็นๆอยู่ว่าเธอขาเจ็บ จะไปทำได้ยังไง บอกฉันแค่นั้นแหละว่าต้องทำอะไรบ้าง ฉันจะทำให้”

“ผมเกรงใจคุณครับ คือส่วนใหญ่นายแบบมักจะเอาแต่ใจตัวเอง โดยเฉพาะนายแบบบางคน ผมไม่อยากให้คุณรู้สึกไม่ดีน่ะครับ” ริคอธิบาย

ก๋วยจั๊บส่ายหน้าเด็กหนุ่มจึงชี้ให้เห็นบริเวณที่เก็บแก้วและน้ำ ก๋วยจั๊บเดินถือถาดน้ำไปให้ชายหนุ่มที่นั่งรออยู่ ชายหนุ่มวางแก้วอย่างแผ่วเบา เอ่ยเสียงสุภาพ “น้ำครับ”

ลอเรนซ์เงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายอย่างเหยียดๆ ก๋วยจั๊บมองหน้าของนายแบบหนุ่มแล้วก็ต้องยอมรับว่าผู้ชายคนนี้ดูดีจริงๆ แบบที่เรียกว่ามีเซ็กส์แอพพีล ประมาณนั้น ดวงตายาวรีสีฟ้า จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากอิ่มสีชมพู ผมสีบลอนด์ยาวประบ่า ยิ่งยามที่อยู่ในชุดคลุมอาบน้ำสีขาว ชายหนุ่มดูมีเสน่ห์อย่างน่าประหลาด

ก๋วยจั๊บหันหลังกลับเตรียมจะเดินจากไป

“เพล้ง!!!”

เสียงแก้วแตกกระทบพื้นดังก้องไปทั่วสตูดิโอ

เอ็มม่าวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา “ตายแล้ว เกิดอะไรขึ้นเนี่ย บาดเจ็บหรือเปล่าคะ ลอเรนซ์”

ลอเรนซ์ส่ายหน้าช้าๆ เอ็มม่าหันมาดุก๋วยจั๊บ

“เธอนี่แย่จริงๆเลยนะ ทำไมถึงซุ่มซ่ามอย่างนี้ ดีนะที่ลอเรนซ์ไม่บาดเจ็บ ขอโทษเสียสิ”

“ผมไม่ขอโทษหรอก” ก๋วยจั๊บเอ่ยเสียงเรียบ “ผมไม่ได้ทำผิดอะไร ผมเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าไอ้แก้วที่อยู่กลางโต๊ะน่ะมันจะมาร่วงอยู่ที่พื้นได้ยังไง”

“เธอจะบอกว่าฉันเป็นคนทำ อย่างนั้นสิ” ลอเรนซ์เอ่ยขึ้น ดวงตาคมปลาบจับจ้องอยู่ที่หน้าชายหนุ่ม

ก๋วยจั๊บมองตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน “ใครทำก็รู้อยู่หรอกครับ”

ลอเรนซ์ลุกขึ้นเดินไปยืนใกล้ๆก๋วยจั๊บ เอ็มม่ามองตามอย่างไม่สบายใจ แต่แล้วก็ถอนหายใจเมื่อลอเรนซ์พูดขึ้นลอยๆ “ช่างเถอะ ไปซะสิ ไม่มีอะไรแล้ว”

ก๋วยจั๊บหันหลังจะเดินออกไป แต่แล้วก็ใจหายวูบ เมื่อสะดุดอะไรบางอย่างทำให้เสียหลักจะล้ม




:m17: :m17: :m17: :m17: :m17:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น
«ตอบ #115 เมื่อ04-08-2007 00:05:55 »

ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

อย่างแรงงงงงงงงงงงงงงงงงง

 :m28: :m28: :m28:

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
Re: คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น
«ตอบ #116 เมื่อ04-08-2007 00:08:27 »

 :impress: :impress: :impress:

อะครับผม ชอบ นิชยา จัง

เป็นแม่สื่อที่ดี เหอๆๆ เอาใจช่วยไปตลอดนะครับ

สนุกมากเลยครับผม ชอบมากเลย

เป็นกำลังใจให้ต่อไปครับ

 :impress: :impress: :impress:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น
«ตอบ #117 เมื่อ04-08-2007 01:47:05 »

โห รอลุ้นต่อไป  :a1:  :a1:

leau_dissey

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น
«ตอบ #118 เมื่อ04-08-2007 10:22:11 »

 :impress:ลุ้นอย่างแรง มาต่อด่วยเลยนะคะ :m17:

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
Re: คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น
«ตอบ #119 เมื่อ04-08-2007 10:27:32 »

สุดๆ อ่ะ  :m21: :m21:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด