31 ธ ค 53
ผมเดินมาถึงร้านสะดวกซื้อร้านเดิมอีกครั้ง 3ปีที่ผ่านมาผมมาที่นี่ทุกวันผมหวังเพียงแค่ว่าสักวันเขาคงกลับมาที่นี่อีกครั้งแม้มันจะผ่านมาแล้วถึง3ปีแต่ความอบอุ่นที่ผมได้รับในวันนั้นยังไม่เคยลบเลือนไปจากใจผมได้เลย
“มาแล้วเหรอพี่อิท” น้องตองพนักงานของร้านทักผมทันทีที่มาถึง ผมกับน้องตองค่อนข้างสนิทกันเพราะเวลาที่ผมมาเป็นเวลาที่น้องตองเลิกงานทำให้เราได้คุยกันบ่อยๆและน้องตองก็รู้เรื่องของผมกับเขาเป็นอย่างดีเพราะเขาเคยทำงานกะเดียวกับน้องตองมาก่อน
“เป็นไงเราวันนี้คนคงเยอะมากสิท่า”
“เยอะจนผมแทบจะเป็นลมแล้วพี่”น้องตองพูดพลางทำหน้าเหนื่อย ผมเห็นแล้วต้องอมยิ้มน้องตองเป็นคนน่ารักนะครับ ผิวขาวๆตัวเล็กๆ ถ้าไม่ติดว่าผมรักเขาคนนั้นไปแล้วนะ ผมคงจีบน้องตองไปแล้วแน่ๆ
“อย่ามาทำหน้าตาน่ารักใส่พี่นะตอง เดี่ยวพี่ทนไม่ไหวจับกดขึ้นมาจะทำไง”
“ไหงงั้นอ่ะพี่ ผมไม่ใช่เกย์นะ”น้องตองพูดอย่างหวาดๆ
“………………..”
“ผมขอโทษครับพี่อิท ผมไม่ได้ตั้งใจว่าพี่นะ”
“ฮ่าๆพี่ล้อเล่นน่า พี่ไม่ได้ปิดบังอะไรนิ ”
“พี่อิทอ่ะ ชิ งอนแล้ว”
“โอ๋ๆๆๆ ง้อๆๆ” ผมพูดพลางยื่นนิ้วก้อยไปให้น้องตอง
“อ่ะ หาย” น้องตองยื่นนิ้วก้อยมาเกี่ยวนิ้วผม พลางยิ้มกว้าง
“เออ พี่อิท ผมถามจริงๆเถอะพี่มาที่นี่ทุกวันไม่เบื่อบ้างเหรอ 3ปีแล้วนะพี่ ”
“ต่อให้ต้องรออีก 5 ปี 10 ปี หรือตลอดชีวิตพี่ก็รอได้”
“ทำล่ะถ้าเป็นผมนะ ผมหาแฟนใหม่ไปแล้วยิ่งหล่อๆแบบพี่เนี่ยหาได้ไม่ยากหรอก”
ผมยิ้มให้น้องตองก่อนจะตอบ
“เวลาที่เราเจอคนที่ใช่หัวใจมันจะไม่เปิดรับใครอีกหรอกนะตอง สักวันถ้าตองเจอคนที่ตองรักแล้วตองจะเข้าใจ”
“เออ พี่ผมเรื่องสำคัญไปเลย!!!”
“อะไรเหรอ”น้องตองไม่พูดแต่ลากผมมาที่หลังร้านแทน อย่าแปลกใจที่ผมสามารถเข้านอกออกในที่นี่ได้ก็บอกแล้วว่าผมมาที่นี่ทุกวันและสนิทกับพนักงานที่นี่แทบทุกคน น้องตองพาผมมาดูที่จอมอนิเตอร์กล้องวงจรปิดของร้าน ภาพของผู้ชายคนหนึ่งที่เดินออกไปจากร้านทำให้ผมแทบลืมหายใจ ในที่สุดผมก็เจอเขาแล้ว
“เขามานานหรือยังตอง”
“ก็ราวๆ 10 นาทีก่อนที่พี่จะมาถึงถ้ารวมกับที่พี่คุยกับผมที่หน้าร้านก็คงราวๆ15นาทีมั้งพี่”
“ขอบคุณนะตองพี่ขอบคุณมาก”
“อย่ามัวมาขอบคุณผมเลยพี่ผมว่าพี่ไปตามหาพี่เขาดีกว่าผมว่าพี่เขาคงยังอยู่ในงานนะ”
ผมรีบวิ่งออกไปทันทีก่อนจะวิ่งไปตามหาเขารอบงาน 1 ช ม ต่อมาผมทรุดตัวนั่งลงที่เดิมด้วยหัวใจที่อ่อนล้าผมหาเขาไม่เจอความหวังที่มีพังลงมาต่อหน้าต่อตาหรือผมควรเลิกหวังสักที ก่อนที่ผมจะฟุ้งซ่านมากไปกว่านี้สัมผัสเย็นๆที่แก้มทำให้ผมสะดุ้งทันที
“อ่ะ ผมให้”กระป๋องเบียร์ถูกยื่นมาตรงหน้าผมอีกครั้งพร้อมๆกับน้ำเสียงที่ผมอยากได้ยินตลอด3ปีที่ผ่านมา ผมรู้สึกเหมือนมีก้อนแข้งๆมาจุกที่คอขอบตาร้อนผ่าวก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมาอีกครั้ง
ฮึกๆๆๆๆ
“ร้องไห้ทำไมครับคุณ ผมแค่เอาเบียร์มาให้มันซึ้งขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ฮึก ไอ้บ้า”
“อ้าวโดนด่าซะงั้น ชิถ้าผมเป็นบ้าจริงๆคุณนั้นแหละที่ต้องเสียใจ ”
“ไอบ้า กลับมาทำไม ฮื่อๆๆๆๆๆๆๆ” ผมร้องไห้หนักกว่าเดิมจนเขาต้องดึงผมเข้าไปกอด อ้อมกอดที่แสนอบอุ่น อ้อมกอดที่ผมโหยหามาตลอด 3 ปี ผมไม่ได้ฝันไปใช่ไหมเขากลับมาแล้วใช่ไหม
“โอ๋ๆๆๆ ไม่ร้องนะครับ”
“คุณกลับมาทำไม”ผมถามย้ำอีกครั้ง
“กลับมาแต่งงาน” ผมพูดไม่ออก รู้สึกเจ็บที่หัวใจเหมือนมีคนเอาค้อนมาทุบ
“ฮึก ปล่อยเดี๋ยวว่าที่ภรรยาคุณมาเห็นมันจะไม่ดี”
“ไม่”
“ปล่อย” ผมดิ้นอยุ่ในอ้อมกอดของเขา ผมไม่เข้าใจเขาจะกลับมาหาผมทำไมทั้งๆที่เขากำลังแต่งงานเขาจะทำร้ายผมไปถึงเมื่อไหร่
“นี่คุณช่วยยืนนิ่งๆแล้วก็ฟังผมสักนิดได้ไหมเนี่ย”เขาดุ
ผมทำได้เพียงยืนนิ่งๆให้เขากอดอยู่อย่างนั้นถ้านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้เจอกันผมก็ขอจดจำวันนี้ตลอดไป
“เฮ้อ นิ่งได้ซักทีที่ผมบอกว่าจะแต่งงานนะ ผมจะแต่งจริงๆ”
“งั้นคุณก็ปล่อยผมก่อนที่ว่าทีภรรยาคุณจะมาเจอ”
“นี่คุณยังไม่เข้าใจอีกเหรอเนี่ย ใครจะมาเจอก็ช่างเขาเถอะเพราะคนที่ผมจะแต่งงานด้วยคือคุณ”
ผมแทบหยุดหายใจหลังจากที่ได้ยินคำนั้น นี่ผมฝันไปหรือเปล่าทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วจนผมตั้งตัวไม่ทัน
“ว่าไงครับ แต่งงานกับผมนะ”
“…………………….”
“ไม่ตอบแปลว่าตกลงนะครับ” ฟอดดดดดดดด เขาพูดพลางก้มลงมาหอมแก้มผม
“ใครจะแต่งกับคุณไม่ทราบ”ผมได้แต่ซุกหน้ากับอกเขาเพราะตอนนี้หน้าผมแดงยิ่งกว่าก้นลิงซะอีก
“อ้าว ไม่มีเหรอผมนึกว่าคนแถวนี้อยากจะแต่งงานกับผมซะอีก หรือว่าคุณจะไม่รับผิดชอบคุณได้ผมนะแล้วจะทิ้งผมเหรอ”
“ไอ้บ้า”
“คำก็บ้าสองคำก็บ้า งั้นผมจับคุณกดตรงนี้ดีไหม”
“จะบ้าเหรอคุณ ที่ผมบอกไม่แต่งน่ะเพราะเราสองคนยังไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อกัรเลยนะ แล้วเรายังเป็นผู้ชายทั้งคู่ด้วย”
“ประเด็นหลังผมว่าไม่น่ามีปัญหานะครับ ผมรักคุณคุณรักผมแค่นี้ก็คงพอแล้วความรักมันไม่มีเพศหรอกจริงไหม ส่วนประเด็นแรกยิ่งง่ายใหญ่”เขาพูดพลางคลายอ้อมกอดก่อนจะถอยออกไปหนึ่งก้าว
“สวัสดีครับ ผม นาย ภาสกร ปัญญาวงค์ ชื่อเล่น กร อายุ28ปี จบปริญญาเอกสาขาฟิสิกส์จาก มหาวิทยาลัยA ประเทศ อังกฤษ ตอนนี้เป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยBครับ เอาล่ะทีนี้ตาคุณแล้ว”
ผมยิ้มขำกับความคิดแบบเด็กๆของเขาก่อนจะแนะนำตัวบ้าง
“ผม นาย อิศรา พิรีจันทร์ ชื่อเล่น อิท อายุ 27ปี ตอนนี้เรียนปริญญาโทสาขารัฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยที่คุณสอนอยู่นะแหละ อาชีพยังไม่มีรอเกาะคุณกิน”
“พูดแบบนี้แปลว่าคุณตกลงแต่งงานกับผมแล้วใช่ไหมอิท”
“อืม”ผมตอบ กรดึงผมเข้าไปกอดอีกครั้ง
“นี่คุณยังไม่ได้บอกผมเลยนะว่าคุณหายไปไหนมา”
“ผมไปเรียนต่อครับ ผมไม่อยากให้คุณลำบากผมคิดว่าตัวเองยังไม่พร้อมที่จะดูแลคุณแต่วันนี้ผมพร้อมแล้วนะขอโทษนะครับแต่ ผมรักคุณนะอิท รักมาก รักตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกันมันอาจจะดูตลกและไม่น่าเชื่อแต่ผมก็รักคุณจริงๆต่อไปนี้ผมสัญญาว่าผมจะอยู่เคียงข้างและดูแลคุณตลอดไป”
“ครับผมรู้ ผมก็รักคุณนะกร แต่ผมไม่เข้าใจทำไมคุณต้องเขียนโน้ตบ้าๆนั่นด้วยล่ะ”
“ก็ผมกลัวคุณโกรธนิครับ แต่วันนั้นคุณน่ารักจริงๆผมก็เลยห้ามใจไม่อยู่ ขอโทษนะถ้ามันทำให้คุณเสียใจ” กรบอก เราสองคนยิ้มอย่างเป็นสุขอยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน
“อะแฮ่มๆๆ” เสียงปริศนาดังขึ้นทำให้เราสองคนคลายอ้อมกอดออกจากกัน
“ผมว่าพี่สองคนกลับไปหวานกันต่อที่บ้านดีไหมครับ ที่นี่มันที่สาธารณะนะครับคุณพี่ทั้งสองไอ้พวกกระผมจะสำลักน้ำตาลตายแล้วครับ”น้องตองพูด เราสองคนผมมองไปรอบๆก่อนจะตกใจผมมัวแต่ดีใจที่เจอกันจนลืมไปว่าตัวเองอยู่ที่ไหนผมกับกรยิ้มเขินก่อนที่กรจะจับมือและพาผมวิ่งออกไปเราสองคนจับมือกันท่ามกลางผู้คนและความหนาวแต่หัวใจผมกลับอบอุ่น ผมลอบยิ้มให้กับตัวเองอีกครั้งไม่ว่าสิ่งที่ทำให้ผมเจอกับกรคือ พรหมลิขิตหรือความบังเอิญผมรู้แค่ว่าวันนี้ผมรักกร และกรก็รักผมอนาคตจะเป็นยังไงผมไม่รู้แค่วันนี้ผมมีกรอยู่ข้างๆมันก็เพียงพอแล้วเพราะรักไม่ต้องการเหตุผล
คุณว่าจริงไหม?

. จบแล้วนะจ๊ะ ขอคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะ

แล้วเจอกันเรื่องหน้านะค่ะ ตอนนี้กำลังปั่นอยู่ ฮี่ๆๆ