[อาบใจด้วยไอรัก]ตอนอวสานครับ ปลายทางความรักจะเป็นอย่างไร p.39/19-03
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [อาบใจด้วยไอรัก]ตอนอวสานครับ ปลายทางความรักจะเป็นอย่างไร p.39/19-03  (อ่าน 336265 ครั้ง)

ออฟไลน์ love2y

  • (′~‵)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2059
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-11
Re: [[อาบใจด้วยไอรั
«ตอบ #180 เมื่อ01-02-2011 13:43:40 »


คืองี้ครับ อิมเมจที่คิดไว้นั้นต้องเห็นน้องมินเหมือนหญิงจริงๆมาก  ชนิดดูไม่รู้่  ไม่งั้นคนช่ำชองอย่างไอ้เป้งมันต้องรู้อยู่แล้ว

ส่วนที่ว่าทำไมน้องต้องเหมือนผู้หญิงมากขนาดนั้นก็เพราะว่ามันมีเหตุผลที่มาที่ไปอยู่ครับ  เดี๋ยวจะค่อยๆเฉลยให้ได้ทราบกันเนอะ

แต่สำหรับคิม ฮเยซองที่เสนอมานี่ผมก็ว่าพอได้  แต่ยังหารูปของคนนี้ที่แบบว่าดูแล้วไม่รู้เลยว่าผู้หญิงหรือผู้ชายไม่ได้น่ะครับ  เลยคิดว่าเดี๋ยวดูกันไปก่อนเนอะ


งั้นเหรอ น่าเสียดายเนอะ
กลัวใจตัวเอง กลัวจิ้นนิยายไม่ออก ฮ่าๆๆๆๆๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-02-2011 13:45:32 โดย love2y »

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
น้องมินเริ่มออกอาการ

เร่งๆเลยพี่เป้ง น้องเริ่มเอนเอียง ช่วงทำคะแนนตอนนี้อย่าให้เสียนะ ไม่งั้นมีงอนยาว

ออฟไลน์ Goodfellas

  • magKapleVE
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1828
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +384/-2
    • Adult games: dating for spicy meetups
ตอนต่อไปมาแล้ว  ไม่ค่อยสบายเลยครับ  ลงสั้นๆก่อนนะ

เดี๋ยวตอนหน้าค่อยว่ากัน

ตอนที่9

                                 ********************************

         ผมนั่งถอนใจอยู่ที่โซฟาอย่างเซ็งๆแล้วก็เดินกลับไปห้องตัวเองมาล้มตัวลงนอนก่ายหน้าผากบนเตียงอีก   

         ทีแรกว่าจะไปเคาะห้องน้องแล้วคุยกันให้รู้เรื่องกันไป   และผมจะสารภาพทุกอย่างให้หมดไปเลย    ทั้งเรื่องที่ผมไม่ใช่ไอ้ป้าง  และเรื่องที่ผมรักมันเข้าแล้วจริงๆ  แต่ก็คิดว่าเป็นตอนนี้ผมคงต้องบอกว่าชอบไปก่อนมั๊ง  ไม่งั้นมันอาจจะดูว่าเร็วเกินไป

         แต่ก็ไม่กล้าว่ะ  ผมกลัวผลที่จะตามมา   กลัวมินจะรับไม่ได้และไม่ให้อภัยผมอีกเลย  ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมผมถึงแคร์มินมากขนาดนี้   ถ้าเป็นคนอื่นเหรอ   ผมก็คงบอกไปไหนๆแล้วเพราะผมไม่ใส่ใจว่าเค้าจะคิดยังไง   และผมเองก็ไม่ใช่คนที่ชอบมาใส่หน้ากากหรือเล่นละครอยู่แบบนี้นักหรอก

         เพราะถึงผมจะนิสัยไม่ดียังไง  แต่ผมว่าผมเป็นคนตรงไปตรงมา  รักก็บอกว่ารัก  ชอบก็บอกว่าชอบ  ชัดๆ จะๆกันไปเลย   และผมไม่ชอบมาคลุมเครือ  ปิดบัง ซ่อนเร้นอะไรอยู่แบบนี้    มันรู้สึกแย่ว่ะ  แต่ที่ผมต้องมาทนทำอยู่แบบนี้  ก็แค่เพราะมินคนเดียวนี่แหละ
   
         งั้นผมตัดสินใจแล้ว   ผมแน่ใจมากพอแล้วว่าผมรักน้องมันจริงๆ   ไม่งั้นคนอย่างผมไม่เปลี่ยนไปยังงี้หรอก  ผู้หญิงกี่คนๆ  ผมก็ไม่เคยแคร์ไม่เคยคิดจะสนใจความรู้สึกมากขนาดนี้   แต่กับมินแล้วผมบอกตรงๆว่า เป็นครั้งแรกจริงๆที่ผมรู้สึกกลัวไปหมดทุกอย่างจนไม่กล้าตัดสินใจอะไรเลยอย่างนี้

         ถ้าน้องรู้ว่าผมเล่นละครอยู่  และผมไม่ใช่คนที่มันคิดว่าเป็นแล้วล่ะก็  ผมกลัวจะเสียน้องมันไปจริงๆ 

         ถ้าเป็นอย่างนั้นผมจะทำยังไง  และนั่นทำให้ผมรู้ใจตัวเองแล้วล่ะ....

         ส่วนใจของมินนั้น   ถึงผมจะเดาได้   แต่มันก็แค่เดา   ลึกๆแล้วมันอาจไม่ใช่อย่างที่คิดก็ได้

         แต่ตอนนี้ผมยินดีที่จะเสี่ยง  ไม่ว่าใจน้องมันจะคิดยังไง  จะชอบผมบ้างมั๊ย 

         และผมจะไม่ถอยเลย  เพราะผมรักน้องมินจริงๆ

         -

         -

         เช้าแล้วผมเองก็เกือบนอนเพลินไปอีกถ้าไม่มีเสียงเคาะประตูกับเสียงเรียกของน้องมินดังขึ้นปลุกผมซะก่อน

         " พี่ครับ  รีบตื่นเหอะเดี๋ยวสายนะครับ  ได้เวลาแล้วล่ะ เดี๋ยวออกไปทานข้าวนะ"  มินเดินมาที่เตียงแล้วยื่นมือมาแตะที่ไหล่ผมเบาๆ

         " อือ... ครับ"  ผมหรี่ตามองหน้าใสๆตรงหน้า  เฮ้อ... ดีชะมัด  ได้เห็นหน้าของคนที่อยากจะเห็นที่สุดเป็นคนแรกหลังจากตื่นเนี่ย   วันนี้ผมอาจจะโชคดีมั่งก็ได้

         จากนั้นผมก็ลุกขึ้น  แน่นอนน้องมันก็ทำหน้าอายๆนิดนึงที่เห็นผมนุ่งบ๊อกเซอร์อีก   แฮะๆ  ก็พี่อยากโชว์หุ่นให้เราดูนี่ครับ 

         แต่ดูจากสีหน้าน้อง  ผมเดาว่าน้องอาจคิดว่าทำไมผมหน้าด้านจังวะ  ไม่แก้ผ้านอนไปเลยล่ะ   หึๆ  ก็ยังได้นะน้อง  แต่เราต้องมานอนข้างๆพี่ด้วยนะ  ถึงจะแก้  เหอๆ

         ขณะที่ผมคิดหื่นๆเพลินอยู่พอหันมาอีกทีน้องมันก็เดินออกจากห้องไปซะแล้ว  ว้า... ยังงอนอยู่รึเปล่าวะนี่   ผมก็เลยรีบอาบน้ำแต่งตัวออกไปนั่งรอที่โต๊ะอาหาร   น้องก็เอาข้าวต้มกุ้งมาเสิร์ฟผม

         " อืม น่าทานอีกแล้วนะ"  ผมว่าพลางตักใส่ปากไป  ไม่ผิดหวังครับ  หอมอร่อยอย่างที่คิด

         " เออ... พี่ครับถ้าผมอยากจะขออนุญาตอะไรสักอย่างพี่จะว่ามั๊ยอ่า"  มินนั่งลงที่ตรงข้ามผมแล้วก็ทำสายตาวิงวอนผมอยู่   เฮ้อ.... ในใจนั่นน่ะ  อานุญาตไปแล้วเรียบร้อย   ขนาดยังไม่ทันรู้เลยว่าจะขออะไร  ก็สายตามันแบบนี้อ่ะนะ   ใจละลายทุกทีว่ะ   

         " จะขออะไรเหรอครับ"

         " คือว่าผมอยากหาเงินเพิ่มนะครับ  ตอนกลางวันเนี่ยถ้าผมว่างจากงานที่ทำให้พี่  ผมจะขอรับจ๊อบอย่างอื่นๆมาทำด้วยนะครับ   แล้วถ้าบางวันผมอาจจะขอแว๊บไปช่วยงานอีเว้นท์ของพี่ทีมงานออกาไนซ์ด้วย  จะได้มั๊ยครับ   ถ้าไม่ได้ไม่เป็นไร  ผมแค่รับจ๊อบมานั่งทำที่นี่เฉยๆก็ได้ครับ"  มินอธิบายให้ผมฟัง

         แสดงว่าน้องมันก็คงอยากหาเงินให้ได้มากที่สุดจะได้ไม่ต้องรบกวนเงินผมมากไป  ก็เกรงใจตามเคยน่ะครับ   แต่ก็ดีแล้วผมว่าน้องมันมีอะไรๆทำบ้าง  มันจะได้ไม่เบื่อเวลาอยู่เผ้าบ้านให้ผม

         " อ๋อ... ได้สิครับ  แค่นี้เองไม่เป็นไรหรอก  ตามสบายเลยนะ  ถ้าเราทำอะไรๆที่นี่เสร็จก็ทำงานอื่นได้เลย  มินจะได้ไม่เบื่อด้วยนะ"   พอผมบอกอนุญาตไป   น้องมันยิ้มแป้นทันทีเลยครับ   เฮ้อ... กลับสู่โหมดใสๆเหมือนเดิมซะทีนะ  น่าจะหายงอนแล้วล่ะ

         " ครับๆ  ขอบคุณพี่มากๆเลยครับ  รับรองว่าผมจะไม่ทำให้เสียงานที่นี่ครับ   จะดูแลห้องให้พี่อย่างดีเหมือนเดิม ไม่ให้ขาดตกบกพร่องเลย" 

         " ไม่เป็นไรหรอก  แล้วแต่มินครับ   ว้า... งั้นเดี๋ยวพี่ต้องรีบไปแล้ว   เดี๋ยวสาย"  ผมว่าแล้วก็รีบลุกแล้วเอ่ยลาน้องมันออกมา   พอขับรถมาถึงโรงแรมผมก็จอดรถแล้วรีบไปตอกบัตรในออฟฟิศก็ไปเจอพวกไอ้เอ้อยู่ตรงนั้นพอดี   จากนั้นก็เดินเข้าไปในครัวด้วยกัน

         " เดี๋ยววันนี้นะ  พี่จะให้พวกเราดูงานที่ครัวไทยกันก่อนเลย   ก็คอยดูคอยช่วยพวกพี่ๆเค้าเตรียมของไปก่อน   มันเป็นพื้นฐานก่อนจะไปทำส่วนอื่นๆนะ  ตรงโซนนี้เราก็จะเตรียมพวกวัตถุดิบต่างๆที่เอามาปรุงอาหารนั่นแหละ  โอเค มาทางนี้เลยนะ"  พี่นุสรุปหน้าที่ของพวกเราในวันนี้สั้นๆ   แล้วก็พาพวกเราเดินดูการทำงานของพี่ๆแต่ละคนซึ่งผมก็พยายามจดรายละเอียดไว้ตลอด

         แน่นอนว่ายังคงมีสายตาของใครหลายๆคนที่ไม่ค่อยพอใจพวกเราจับจ้องมองอยู่ตลอด  แต่พวกผมก็พยายามไม่สนใจ   จนกระทั่ง....

         " โห... น้อง  ปอกคะน้าตั้งนานได้แค่นี้เองเหรอ  พี่นึกว่าที่มหา'ลัยน้องเค้าสอนมาอย่างดีแล้วซะอีก"   เสียงกุ๊กคนนึงชะโงกหน้ามาดูด้วยสายตาหยามเหยียดในขณะที่พวกผมช่วยกันปอกเปลือกก้านคะน้ากันอยู่

         แต่ที่จริงมันไม่ใช่หน้าที่ที่มึงจะต้องมายุ่งนี่หว่า   เพราะเห็นพวกมึงทำเฉพาะหน้าเตากันนี่  แล้วแหยมเข้ามาทำไม   แต่ก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรไปครับ   แม้คุณแม่จะไม่ได้ขอร้องก็เถอะ  ปล่อยมันเห่าไปแล้วกัน

         " เอ๊ะ... ไอ้ไมค์  แล้วมึงจะให้เด็กๆมันปอกเร็วๆเหมือนเอาตีนทำอย่างพวกมึงเหรอ   คราวก่อนกูไว้ใจให้พวกมึงปอก  ปรากฏว่าต้องมานั่งปอกใหม่อีก   เล่นปอกกันไม่เกลี้ยงยังงั้นขืนเอาไปทำอะไรให้ลูกค้ากินเค้าได้ด่าตายห่า"   ป้าลีที่เป็นแม่ครัวอีกคนหันมาดุมันทันทีเลยครับ   

         เป็นไงล่ะมึง  มีคนออกตัวแทนกูแล้ว  คนดีผีคุ้มเว้ย

         " โห่.... ป้า  มาด่าผมซะงั้น   ผมก็แค่อยากให้น้องมันทำงานเร็วๆเป็นมืออาชีพกว่านี้แค่นั้นเอง   ไม่มีอะไรซะหน่อยอ่ะ"  มันก็ได้แต่แก้ตัวหน้าเจื่อนๆแล้วก็ล่าถอยไป     ผมก็แอบสะใจกับพวกไอ้เอ้อยู่   อยากหันไปจูบขอบคุณป้าแกสักฟอดนะนี่

         แต่นั่นมันก็ย้ำเตือนผมว่าเรามีศัตรูที่ประชิดเข้ามาเรื่อยๆแล้วนะ   ต่อไปก็ต้องระวังกันทุกฝีก้าวแน่ๆชนิดที่ว่าอาจจะแยกจากกันไปไหนไม่ได้เลยทีเดียว   แต่ก็ยังดีที่เจ๊ๆป้าๆในครัวนี้คอยเป็นแบ็คให้เราอยู่  ไม่งั้นคงแย่เหมือนกัน

         -

         -

         เที่ยงแล้วพวกผมออกมากินข้าวกันที่ห้องอาหารพนักงานพร้อมๆกับแพรวและเพื่อนที่มาฝึกงานด้วยกัน   ก็ยังดีครับที่ผมคิดตกแล้วว่าตอนนี้ผมรักใคร 

         แม้จะมีบ้างที่ใจผมยังหวั่นไหวกับแพรวเพราะผมรักเค้ามานานมากเหลือเกิน   คิดว่าคงยังมีเยื่อใยบางๆที่ผมไม่สามารถตัดขาดไปได้ระหว่างเราอยู่ดี 

         " เนี่ย.. ดีจังที่เราได้มาฝึกงานกันที่นี่นะ  ได้ความรู้ใหม่ๆเยอะมากๆเลย  เป้งว่ามั๊ย"

         " ก็แน่อ่ะดิ  โรงแรมห้าดาวขนาดนี้  การทำงานมันต้องมาตรฐานสูงไปด้วย  เราก็ได้วิชาไปเยอะเหมือนกันแหละ"  ผมบอกแล้วก็ยิ้มให้แพรว

         " อืม... เราก็ดีใจนะที่ได้มาเจอเป้งที่นี่น่ะเพราะเราก็กลัวเหมือนกัน   กลัวว่าระหว่างเราจะไม่ได้กลับมาเป็นเพื่อนกันอีกแล้วนะ  ถ้าเป็นงั้นเราคงเสียใจมากๆเลย"  แพรวบอกแล้วก็ก้มหน้านิ่ง

         " ไม่หรอก  เราคบกันมานานมากๆแล้วนะ  ยังไงความเป็นเพื่อนของเรามันก็ไม่หมดสิ้นไปง่ายๆหรอก   วางใจเถอะนะ" ผมบอกแล้วก็จับมือแพรวไว้เหมือนให้สัญญา   ใบหน้าใสนั้นจึงกลับมายิ้มได้อีกครั้ง

         ที่จริงตั้งแต่วันนั้นถึงผมจะยังทำใจไม่ได้   แต่ผมก็ไม่ได้โกรธแพรวหรือไอ้ป้างมันเลย  แค่ว่าผมรับอะไรๆในวันนั้นไม่ได้เลยจริงๆก็เท่านั้น   แต่พอวันนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว

         ช่องว่างในใจผมเหมือนมีน้องมินมาเติมเต็มไว้แล้ว   ผมจึงไม่เหลือความรู้สึกแย่ๆนั้นอีกต่อไป   ซึ่งก็ยังถือเป็นโชคดีของผมอยู่ที่ได้มาเจอน้องวันนั้น   ไม่งั้นป่านนี้ผมก็คงยังทำใจไม่ได้แน่ๆ

         -

         - 

         พอหลังจากเลิกงานผมก็รีบขับรถกลับคอนโด  แต่ระหว่างทางผมลงไปแวะซื้อดอกไม้ช่อเล็กๆช่อนึงตั้งใจว่าจะเอาไปให้น้องมันเพื่อเป็นการง้อ   อาจจะจริงที่ว่ามินไม่ใช่สาวน้อยที่ต้องเอาช่อดอกไม้ไปมอบให้แทนใจ   แต่ผมก็นึกมุขที่ดีกว่านี้ไม่ได้แล้วล่ะ

         " กลับมาแล้วเหรอครับพี่  เป็นไงมั่งวันนี้  อ๊ะ......"  มินถามผมอย่างร่าเริงแต่ก็ต้องตกตะลึง  เมื่อผมยื่นช่อดอกไม้ที่ผมซ่อนไว้ข้างหลังให้

         " พี่ให้เรา  ชอบมั๊ยครับ"  ผมถามแล้วก็ยิ้มพลางมองไปที่หน้าใสที่มองดอกไม้อยู่ตาเป็นประกายด้วยความพอใจมากๆ   แล้วก็เกินไปนั่งที่โซฟาโดยมีผมตามไปนั่งข้างๆ

         " ก็ชอบครับพี่   ชอบมากๆเลย  แต่ว่าพี่เอามาให้ผมทำไมเหรอครับ   ผมไม่ใช่สาวๆของพี่นา"  อืม...นะ  คำท้ายๆนี่ยังกะออกไปในทางประชดเลยนะ

         " ก็เอามาง้อน่ะครับ   เมื่อวานมีคนบางคนงอนพี่น่ะ  พี่ใจไม่ดีเลยนะรู้มั๊ย" 

         " หือ.... งอนเหรอครับ  ผมน่ะเหรอพี่  ไม่ใช่แล้วครับ  ฮะๆๆ  ผมจะไปงอนพี่ทำไม"  มินรีบปฏิเสธทันที  หึๆแน่ใจเหรอน้อง

         " ไม่งอนจริงเหรอ   พี่นึกว่างอนน่ะ  เห็นเราเงียบๆไป  แล้วก็ดูเย็นชาไปเลย"

         " เอ่อ... ก็ไม่หรอกครับ  อืม... เมื่อวานผมมึนๆหัวน่ะครับ   แล้วทำไมพี่ถึงคิดว่าผมงอนพี่ล่ะ"

         " ก็ไม่รู้เหมือนกันครับ   พี่เห็นเราท่าทางเหมือนไม่พอใจที่พี่คุยโทรศัพท์กับเพื่อนผู้หญิงคนนั้นน่ะ  แต่คนนั้นเค้าไม่ใช่แฟนพี่นะครับ  เค้าแค่มาชอบเฉยๆแต่พี่คงไม่ไปยุ่งกับเค้าหรอกเพราะพี่มีคนที่ชอบอยู่แล้ว"  ผมพูดไปผมก็สังเกตสีหน้าน้องไปด้วย 

         และโดยเฉพาะตรงที่ว่า "พี่มีคนที่ชอบอยู่แล้ว" นี่ผมจงใจจ้องตาน้องมันเต็มๆเลย

         ซึ่งที่ผมเห็นคือ  ตอนผมบอกว่าแพทไม่ใช่แฟนผม  แววตาน้องมันดูเหมือนดีใจอยู่แวบนึงนะ  และผมมั่นใจว่าผมเห็นอย่างนั้นจริงๆ  ไม่ได้คิดไปเองแน่

         " อ่า... เหรอครับ  ก็ไม่ใช่หรอกครับพี่  ผมจะไม่พอใจเรื่องพี่เป็นแฟนกับใครหรือเปล่าไปทำไมล่ะ  มันเป็นเรื่องส่วนตัวของเจ้านายนะ   ผมเป็นแค่ลูกจ้างเองเนอะ  ไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวของเจ้านายหรอกคร้าบ"    ตอนนี้มินพยายามพูดเหมือนกับเล่นๆไป   คงจะเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกตัวเอง   เพราะผมเห็นแล้วว่าน้องจะหลบตาผมตลอด   

         " แหม... น่ารักจริงๆนะครับ  ลูกจ้างคนนี้เนี่ย  มีมารยาทดีจริงๆไม่ยุ่งเรื่องของเจ้านาย   แต่ว่าถ้าเจ้านายคนนี้อยากให้ยุ่งละครับ   มินจะว่ายังไง"   

         " เอ่อ... พี่...  พี่หมายความว่าไงเหรอครับ  ผมไม่ค่อยเข้าใจเลย  ทำไมถึงจะอยากให้ผมยุ่งเรื่องของพี่นะ  ผมงงจัง  วันนี้พูดอะไรแปลกๆตลอดเลยนะครับ  แล้วยังจะที่บอกว่ามีคนที่ชอบอยู่แล้วนั่นก็อีกอ่ะ  พี่มาบอกผมทำไมเหรอ"  มินบอกพลางกระเถิบตัวเองห่างผมไปนิดนึงเพราะผมเหยียดแขนไปบนขอบพนักพิงของโซฟาจนเกือบจะโอบไหล่ของมินแล้ว

         " พี่ก็หมายความอย่างที่พูดครับ  ตามนั้นแหละ  แล้วมินอยากรู้มั๊ยครับว่าใครคือคนที่พี่บอกว่าชอบอยู่น่ะ"  ครับก็สเต็ปเดิม   ผมจ้องตาของน้องด้วยสายตาที่ผมพยายามสื่ออารมณ์ตัวเองออกไป  แต่คิดว่าน้องก็คงอายและประหม่ามากจนเริ่มหลบตาอีก   

         แต่นี่เป็นจังหวะดีที่สุดแล้วที่ผมจะได้บอกรักน้องมันล่ะ  แล้วไม่ต้องห่วงครับ  ผมปิดโทรศัพท์ไว้แล้วเรียบร้อย  คราวนี้ไม่มีอะไรมาขัดขวางผมได้แล้ว   

         " อ่า.... พี่..... "   ผมว่าน้องคงเริ่มมีอารมณ์คล้อยตามไปกับผมแล้ว   จนพูดอะไรไม่ออกอยู่ตอนนี้

         " คนที่พี่ชอบน่ะ  ก็คือคนที่นั่งตรงหน้าพี่นี่ไง   แต่พี่ก็ไม่รู้หรอกนะครับว่าเค้าจะคิดยังไงกับพี่   แต่พี่ชอบเค้ามากนะ  ถึงเค้าจะไม่ใช่ผู้หญิงก็เถอะ  เพราะพี่ก็ตัดสินใจแล้วนะว่าพี่คงเลือกเค้าเพราะใจพี่มันต้องการอย่างนั้นจริงๆ"

         น้องมินนิ่งพูดอะไรไม่ออกได้แต่จ้องหน้าผมตาไม่กระพริบ   ส่วนผมก็ยังคงจ้องมองแววตาใสๆนั้นอยู่พลางเอื้อมมือไปกุมมือนุ่มสวยนั้นไว้

         ".........พี่... พี่คิดงั้นจริงๆเหรอครับ"  มินเอ่ยขึ้นมาแต่ก็ก้มหน้าเหมือนคิดอะไรอยู่

         " ครับ  แล้วพี่ก็อยากรู้นะว่ามินคิดว่ายังไง  ชอบพี่บ้างมั๊ยครับ  บอกพี่ได้มั๊ย"  ผมก็พูดได้แค่นี้   เพราะชั่วโมงนี้ผมรู้สึกเหมือนว่าตัวเองไปไม่เป็นเอาเลย  ไอ้สเต็ปเทพต่างๆที่เคยใช้มาทั้งหมดนั้นก็ยังช่วยอะไรไม่ได้เลยสักนิด   และที่ทำอยู่ตอนนี้มันก็คือส่วนที่ใจมันสั่งมาเพียวๆเลยล่ะครับ

         " ....ผม.... เอ่อ......."  สายตามินจับจ้องที่ผม  แต่แล้วน้องก็เบือนหน้าไปอีกทาง

         " ผมขอโทษนะครับ  ผมรักพี่ไม่ได้หรอกครับ"  มินเอ่ยด้วยเสียงที่ดังจนผมผงะ  แล้วน้องก็ลุกขึ้นทันทีพลางเดินอ้อมโซฟาไปยืนตรงหน้าเคาท์เตอร์ของครัวนิ่งๆอยู่   ในขณะที่ผมอึ้งอย่างมาก  และได้แต่มองตามน้องไป 

         " ทำไมล่ะครับมิน"   ผมเอ่ยถาม  แต่ก็รู้สึกว่าตัวมันชาๆยังไงไม่รู้   นี่ผมกำลังถูกปฏิเสธเหรอ

         " เอ่อ.... ผม.... ผมไม่ได้รังเกียจพี่นะครับ  แต่... ผมรักใครไม่ได้หรอก  ขอโทษจริงๆนะครับ"  มินเอ่ยด้วยเสียงทีสั่นๆเหมือนจะร้องไห้จากนั้นก็วิ่งเข้าห้องปิดประตูไปเลย   ผมก็รีบตามไปติดๆแต่ก็ไม่ทัน

         ครั้นจะเอื้อมมือไปบิดลูกบิดเปิดประตูตามเข้าไปแต่ก็คิดได้ว่า   คงต้องปล่อยน้องไว้ก่อนนะอย่าเพิ่งเข้าไปตอนนี้จะดีกว่า   น้องคงยังไม่พร้อมจะพูดอะไรอยู่ดีมั๊ง

         จากนั้นผมก็เดินกลับมานั่งครุ่นคิดอยู่ที่โซฟานะว่านี่ผมทำอะไรผิดไปรึเปล่า   ผมเร่งรัดน้อง  ฝืนใจน้องมากเกินไปรึเปล่า  น้องถึงอึดอัดจนระเบิดออกมาแบบนี้  หรือว่าน้องไม่ได้รักผมจริงๆ

         แต่ผมก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมมินถึงบอกว่ารักใครไม่ได้ล่ะ   น้องมันหมายความว่ายังไงกันแน่ 

         เฮ้อ... ตอนนี้ผมปวดหัวสุดๆ   มึนไปเลยกับสิ่งที่เป็นปริศนาอยู่ตอนนี้   และคนที่จะเฉลยให้ผมเข้าใจได้ก็หนีเข้าห้องไปแล้วด้วย

         ผมชักห่วงนะ  กลัวว่าป่านนี้น้องอาจจะนอนร้องไห้อยู่รึเปล่า  ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้นเลย  เป็นความผิดของผมเองแหละครับ   ไม่นึกว่ามันจะกลายเป็นแบบนี้เลยนะ

         -

         -

         คืนนั้นผมเลยนอนไม่หลับเพราะคิดซ้ำๆอยู่กับสิ่งที่มินบอกผม  สิ่งที่ผมคงไม่มีวันเข้าใจเลยถ้าน้องไม่เฉลยให้ผมรับรู้   เพราะอะไรกันแน่น้องถึงบอกผมว่ารักใครไม่ได้อย่างนั้น

         จากที่นอนพลิกไปมาได้พันรอบแล้วมั๊ง    ผมก็เริ่มหิวน้ำเลยเดินออกจากห้องไปเปิดตู้เย็นเอาน้ำมาดื่ม   แต่แล้วก็ต้องตกใจสุดขีดครับเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องดังลั่นจากห้องน้องมิน

         ผมรีบวิ่งไปที่ห้องน้องทันที  ยังดีครับที่น้องไม่ได้ล๊อคประตู    เมื่อเปิดเข้าไปผมเห็นว่าน้องเอามือไขว่คว้า  ร้องโวยวายว่า  อย่าๆ  อย่าทำชั้นเลย แล้วก็ดิ้นรนไปมา  คิดว่าน้องคงแค่ฝันร้ายอยู่    ผมจึงรีบลงไปนั่งข้างๆแล้วประคองตัวน้องขึ้นมากอดไว้แนบอก

         " มิน  มินครับ  ตื่นเถอะ  ไม่เป็นไรแล้วครับ"  ผมเขย่าตัวน้องเบาๆจนมินลืมตาขึ้นมามองที่ผม

         " ฮือๆ.... พี่.... พี่ครับ  ฮือๆ  ผมกลัว..... พวกมัน..... ฮึกๆ"  มินร้องไห้สะอึกสะอื้นจนสั่นไปหมด

         " ครับ  ไม่เป็นไรแล้วครับ คนดี  เราแค่ฝันร้ายนะ  อย่าร้องไห้เลยครับ  ไม่มีอะไรแล้วนะ" 

         " ฮือๆ มันน่ากลัวมากครับ  ผม... ฮึกๆ  พวกมันจะทำร้ายผม  ฮือๆ"  น้องยังคงร้องไห้อย่างเสียขวัญอยู่เหมือนกับเด็กเล็กๆ   ผมเลยได้แต่กอดไว้อย่างนั้นแล้วก็ปลอบน้องไป

         " ไม่เป็นไรนะ  แค่ฝันไปเองครับ  เห็นมั๊ยพี่อยู่นี่แล้วใครก็จะมาทำอะไรมินไม่ได้แล้ว  ไม่ต้องกลัวนะครับ  พี่สัญญานะจะไม่ทิ้งเราไปไหนเลย  นะครับ"  ผมกอดแล้วก็โน้มคอลงไปแนบกับซอกคอขาวๆนั้น  กลิ่นหอมๆจากผิวเนียนที่เกิดจากแป้งหอมและสบู่ทำให้อารมณ์ผมเตลิดไปบ้างแล้ว   แต่ก็ได้แค่กอดน้องไว้อย่างนั้นแหละครับ

         " อือ... ผมขอโทษนะครับที่ทำให้พี่ตกใจ  ผมคงแค่ฝันร้ายไปเอง  แต่มันน่ากลัวจริงๆครับ"  ผมยังคงกอดผมไว้แน่น   ผมเลยเอนตัวลงไปนอนกับน้องบนเตียงแล้วลูบผมน้องเบาๆอย่างถนอม

         " ไม่เป็นไรนะ  งั้นคืนนี้พี่จะไม่ไปไหนแล้ว จะนอนอยู่ข้างๆมินนี่แหละ  ถ้ายังกลัวมินก็กอดพี่ไว้นะครับ  ดีมั๊ย"

         ตอนนี้มินนอนอยู่ในอ้อมแขนของผมเหมือนเด็กตัวน้อยๆ  ผมสบายใจขึ้นที่เห็นรอยยิ้มบางๆผุดขึ้นบนใบหน้านั้นแล้ว   แต่ก็ยังห่วงเพราะเมื่อกี๊น้องดูกลัวมากจริงๆ   ก็ไม่รู้ว่าน้องฝันเห็นอะไรบ้างถึงเสียขวัญไปขนาดนี้

         " พี่ครับ... ผมขอโทษพี่เรื่องตอนเย็นอีกทีนะครับ  ที่จริงผมดีใจมากๆครับที่พี่รักผม   แต่ผมเองแหละที่ยังรักใครไม่ได้เองเพราะ......เอ่อ.....  แต่พี่อย่าเพิ่งถามผมเลยนะ  ผมยังไม่พร้อมจะเล่าจริงๆ  เพราะไม่อยากคิดถึงมันอีกเลย  พี่เข้าใจผมนะครับ"  มินมองตาผมนิ่งด้วยสายตาที่เว้าวอน  จากนั้นก็ก้มลงซบหน้ากับอกเปลือยๆของผมแล้วใช้มือลูบเบาๆทำให้ผมรู้สึกได้ถึงความรักความถวิลหาบางอย่างที่น้องมีต่อผม

         ตอนนี้ผมค่อนข้างมั่นใจแล้วว่า  ลึกๆแล้วน้องมันก็คงมีใจกับผม  แต่น้องคงยังไม่พร้อมจริงๆถึงยังไม่สามารถยอมรับรักจากผมในตอนนี้ได้   ซึ่งสาเหตุนั้นมันจะเป็นอะไรก็ช่างมันเถอะ

         แค่ตอนนี้ผมมั่นใจว่ายังพอมีหวังอยู่ก็พอแล้ว   ส่วนความจริงข้อนั้นผมคงได้รู้สักวันเมื่อน้องพร้อมกว่านี้

         ผมกอดมินอยู่อย่างนั้นนานมาก   เป็นความรู้สึกดีๆที่ผมไม่เคยได้สัมผัสเลย   โอเคว่าผมกอดผู้หญิงมามากมาย   แต่ก็ไม่เคยมีใครที่ผมกอดแล้วจะรู้สึกดีได้อย่างนี้

         เหมือนกับผมเป็นต้นไม้อะไรสักอย่างที่รอน้ำฝนให้ตกลงมา   และในวันนี้ฝนที่รอคอยมาแสนนานได้โปรยลงมาบนใจผมแล้ว   มันอาบไปทั่วใจของผมจนรู้สึกชุ่มชื่นในใจอย่างที่สุด

         และมันก็ช่างมีค่ากับผมซะจริงๆ  สมกับที่ได้รอคอยมานาน   รอเพื่อที่จะมาพบเจอกับรักแท้ของผมในวันนี้   ดีใจครับที่ทนรอมาจนถึงวันนี้ได้  และต่อไปผมจะรักและดูแลน้องให้ดีที่สุด

                                 ***************************      
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-03-2014 23:50:38 โดย Goodfellas »

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
มินมีความหลังอะไรหว่า หรือเคยถูกกระทำอย่างโหดร้ายมา มันเลยยังตามมาหลอกหลอนอยู๋

ออฟไลน์ DarKLasT

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 595
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
อ่านตอนนี้แล้ว

ทแม่งๆน้องมินต้องโดนอะไรมาแน่เลย

ไม่เอามาม่ามากนะครับ :sad4:

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
อย่ารันทดให้มากนักนะคะ
ช่วยจัดแบบฮาๆมาเบรกอารมณ์
หรือจัดแบบหื่นมากระตุ้นต่อมด้วยจ้ะ

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
สงสัยมินต้องมีความหลังเกี่ยวกับร่างกายของมินและหัวใจดวงน้อยๆแน่เลยอะ.....ส่วนไอ้พี่เป้งสารภาพว่าชอบนี้ไม่ใช่รักสะหน่อยเนอะ.....ถ้าทำให้น้องเสียใจเนี้ย...ช่วยไม่ได้เน้อ.....แต่ก็เป็นกำลังใจให้.....รักมินมากๆล่ะ

มาต่อเร็วๆนะคราบ....ลุ้นๆๆๆๆๆๆ :z2: :z2: :z2: :L2: :กอด1: :bye2:

ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2
มินเป็นไรเจออะไรที่โหดร้ายมาเหรอ
คงจะเจอมาอย่างหนักแน่  เพราะไม่งั้นไม่เก็บเอามาคิดได้ขนาดนี้เน่
พี่นักเขียนครับรีบๆหายป่ายนะ  เเล้วรีบเอามินมาส่งนะพี่
นี่เป็นคำสั่งจากนักอ่าน  555
ล้อเล่ง

ออฟไลน์ ✪PATTY✪

  • เมี๊ยวววว~
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2
    • http://facebook.com/NKM.SNK
มิน....เคยโดนไรมาปะ...

ก็ยังยืนยัน...



ว่าอยากให้มินรู้ซักทีๆๆๆๆๆๆๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ BossZa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 375
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
   
    มันต้องมีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้นกะมินแน่เลยอ่ะ

spok1234

  • บุคคลทั่วไป
สู้ เข้า นาย เป้ง เพื่อ น้อง มิน

ทำ ลาย กำ แพง น้อง มิน ไป ให้ ได้

สู้ สู้

ออฟไลน์ stormphoenix

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2269
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-3
ไม่ใช่ว่ามินเคยโดนหรือเกือบโดนข่มขืนมาก่อนนะพี่น็อต


เพราะถ้าเป็นแบบนั้น  ไม่ยอมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :serius2: :serius2: :serius2:


แต่ขอให้เป็นเจอเรื่องที่ร้ายแรงมากๆจนจำฝังใจ (ซาดิสไปไหมว่ะเรา :m20:)


ยังไงหมูก้อยังอยากให้มินรู้ความจริงโดยเร็ว





เพราะการถูดหลอกจากคนที่รักมันเจ็บลึกและเจ็บนานนะพี่





ออฟไลน์ stormphoenix

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2269
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-3
เมื่อกี้ลืม :กอด1: :กอด1:ให้กำลังใจ   



รอตอนคลายปมน้องมิน



และรอตอนที่น้องมินรู้ความจริงนะครับ :L1: :L1: :L1:

ออฟไลน์ stormphoenix

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2269
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-3
อ่านมาสามรอบเพิ่งเห็นว่าพี่น็อตป่วย  :a5: o22 :a5: o22



หายเร็วๆนะพี่ :L1: :L1: :L2: :L2:

ออฟไลน์ kit

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-3

ว้าย!!!!!!!
/กิต. ตื่นเต้น ใจสั่น ตาเหม่อลอย น้ำลายสอ ขูดเม้าส์แผด

๑๙๓ + ๑ = ๑๙๔
ขอบคุณนะคะ คุณ Goodfellas


samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
มิมินเป็นอะไรปายยยยยยยยยยย มีอะไรอยู่ในใจเค้าอยากรู้จัง

lovevva

  • บุคคลทั่วไป
 :sad4: อย่าบอกนะคะว่ามินเคยโดนข่มขืนมาก่อนอ่ะ ไม่ยอมสงสารมิน

 o18 ส่วนเป้งก็ยังคงโกหกต่อไป ระวังมินจับได้แล้วจะเศร้านะจ๊ะ

 :L2:ขอให้หายไวๆนะค้า จะได้มาอัพต่อ อยากอ่านแล้วค่ะ

gtower

  • บุคคลทั่วไป
 :z6: ให้เป้ง ไปจนกว่าจะสารภาพ

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
อ่าวพี่น็อตไม่สบายหรอครับ...เป็นไรมากป่าวอะ....หายไวไว..นะครับ :L2: :L2: :กอด1: :bye2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
อะำไรกันอีกเนี่ย
หนูมินเคยมีอดีตอะไร
อยากรู้ๆ

ออฟไลน์ Goodfellas

  • magKapleVE
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1828
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +384/-2
    • Adult games: dating for spicy meetups
น้องมินมาแว้วนะคร้าบ  ใครที่ข้องใจเรื่องน้อง มากินมาม่าชามนี้แล้วจะเข้าใจ อิอิ

ในตอนนี้ขอแจกมาม่าไปก่อนนะ  แต่ก็ไม่ค่อยเครียดมากหรอกครับ  ไม่ต้องห่วง

ส่วนเรื่องอิมเมจน้องมินเดี๋ยวจะมาเปลี่ยนให้นะ  รออีกสักพักครับ

ตอนที่10

                                  *********************************

         ตอนนี้เช้าแล้วและผมยังคงนอนกอดอยู่กับน้องมินอยู่   ทำไมว้า.... เวลากอดคนอื่น  ทั้งๆที่นั่นมันผู้หญิงสวยเซ็กซี่ด้วยซ้ำไม่เห็นเคยรู้สึกดีอย่างนี้

         นี่ไอ้การที่เราได้นอนกอดกับคนที่เรารักอย่างจริงใจเนี่ย   มันทำให้เรารู้สึกดีได้ขนาดนี้เลยเหรอ

         และอาจจะเพราะว่าผมไม่ได้ใส่เสื้อและน้องก็ใส่แค่เสื้อกล้ามบางๆอยู่  เวลาผิวเราสัมผัสกันยิ่งทำให้เกิดความรู้สึกวูบวาบไปเหมือนกัน

         " อือ... "  เสียงจากอาการงัวเงียของเด็กน้อยดังขึ้น   พร้อมกับตาสวยที่ปรือตาขึ้นมองผม

         " อ๊ะ... พี่ป้าง  ยังนอนอยู่นี่เหรอครับ  กี่โมงแล้วนี่"   มินบอกแล้วก็รีบหันไปมองนาฬิกาทันที

         " หือ... จะเจ็ดโมงแล้วนะครับ  รีบลุกเหอะพี่  เดี๋ยวไปสายนะครับ"  น้องบอกแล้วก็กำลังจะลุกพรวดขึ้นแต่ผมยังคงกอดน้องไว้

         " ขออยู่อย่างนี้อีกแป๊บได้มั๊ย  ยังง่วงอยู่เลย"

         " ไม่ได้ครับ  เดี๋ยวถ้าไปสายจะถูกว่าเอานะ"  น้องบอกแล้วก็ลุกขึ้นนั่ง

         " ฮื่อ..... ลุกไม่ขึ้นอ่ะ  ดึงพี่หน่อย"  ผมแกล้งมารยายื่นมือให้น้องดึงฉุดให้ลุกขึ้น   น้องมันก็ดึงอย่างเอาเป็นเอาตายเลย   แต่ผมก็ไม่ลุกแล้วแกล้งดึงตัวน้องกลับลงมากอดไว้แนบอกอีก  จนหน้าใสๆนั้นแดงขึ้นทันที

         " อ๊ะ... พี่อ่ะ  อย่ามัวเล่นดิครับ   สายแล้วจริงๆนะ"  น้องดุผมเสียงเข้ม

         " คร้าบผม... ยอมแล้วคร้าบ"  ผมปล่อยน้องแล้วลุกขึ้นกลับไปอาบน้ำที่ห้อง  แล้วก็แต่งตัวออกมาพอดีกับที่น้องเปิดประตูออกมา

         " มินชงกาแฟให้พี่ก็พอครับ  เดี๋ยวไม่ทัน  ครัวที่โน่นของกินเยอะแยะไม่ต้องห่วง   อืม... เรายังสีหน้าไม่ค่อยดีเลยนะนี่   ไปนอนพักก่อนดีมั๊ย" 

         " ผมไม่เป็นไรแล้วพี่  ขอบคุณนะครับที่ห่วง"  น้องบอกแล้วก็ยิ้มเขินๆ   จากนั้นก็เดินเข้าไปชงกาแฟมาให้ผม

         " วันนี้ถ้าไม่มีอะไรเราก็นอนพักไปนะ   พี่เป็นห่วง  ไม่ต้องมาเกรงใจอะไรหรอก   อ้าว  เฮ้ย... ไปก่อนดีกว่าเดี๋ยวสาย   ไปนะครับมิน"   ผมบอกลาแล้วก็รีบมาขึ้นรถบึ่งไปโรงแรมเหมือนเคย   กว่าจะไปถึงก็ฉิวเฉียดมากเกือบสายแล้วเชียว

         พอกลับลงไปในครัวก็พบว่ามีงานรอผมอยู่แล้ว    ผมกับไอ้เอ้ไอ้เอ๊กซ์ก็รีบแบ่งหน้าที่กันและเริ่มงานของเราทั้งหมด   แต่พอสักพักก็มีถุงหอมแดงและหอมใหญ่วางโครมลงตรงหน้าพวกผม

         " อ้ะ... น้อง  ช่วยพี่ซอยหอมพวกนี้ให้หน่อยนะ   เดี๋ยวต้องใช้ในงานเลี้ยงน่ะ"  เสียงไอ้พี่ไมค์ตัวแสบเอ่ยสั่งพร้อมกับยิ้มเหยียดๆใส่พวกผมอย่างน่าหมั่นไส้

         " โห... พี่  ตั้งเยอะเลย  เอาไปทำอะไรครับเนี่ย"  ไอ้เอ๊กซ์ถามไปทันที

         " นี่เราว่าเยอะแล้วเหรอ  ยังมีอีกนะ"  ว่าแล้วไอ้พี่ไมค์ก็วางอีกถุงลงมา  ดูมันนะครับ  ผมปรี๊ดขึ้นมาทันทีแหละ แต่ก็ต้องเย็นไว้   บอกแล้วจะไม่ตอบโต้   แต่ใจอ่ะ  โดดถีบยอดหน้ามันไปแล้ว

         แล้วมันก็ผละจากไป  พวกผมสามคนก็ยังคงมองหน้ากันอยู่ว่าจะเอาไงดี  แต่ก็นะจะทำไงได้ล่ะ  ผมจึงเริ่มแกะถุงหัวหอมแล้วก็เตรียมเขียงโดยเอาเกลือป่นมาโรยและถูบนหน้าเขียงจนทั่ว   

         นี่เป็นเทคนิคที่จะทำให้เวลาเราหั่นหอมกลิ่นฉุนจะไม่ระเหยขึ้นสูงจนเข้าตาเรา   คล้ายๆว่าเมื่อเกลือดูดความชื้นไปจากเขียง  กลิ่นฉุนๆก็จะถูกดูดไปด้วย   ทำให้ลดอาการแสบตาไปได้มากนะครับ

         นี่แสดงว่า  ไอ้เวรนี่มันมีแผนให้พวกผมร้องไห้กันเป็นเผาเต่าแน่ๆ   ถึงแกล้งเอาหัวหอมมาให้พวกผมหั่นซะเยอะขนาดนี้   คงกะจะให้เราร้องไห้กันจนน้ำตาเป็นสายเลือด   แต่โทษทีจะเล่นพวกกูอ่ะ  ไม่ง่ายครับ

         พอไอ้เอ้ไอ้เอ๊กซ์เห็นผมทำ  มันก็ทำตามแล้วเราก็เริ่มบรรเลงกันอย่างเมามัน   ผมกับพวกมันเคยฝึกมือในการใช้มีดซอยผักผลไม้มาพอสมควร   พวกเราเลยซอยกันได้คล่องหน่อย  ซอยยิกเลยล่ะ หึๆ  ผมหมายถึงซอยหอมนะครับ  อย่าคิดเป็นอื่น

         ส่วนไอ้พี่ไมค์มันก็หันไปซุบซิบกับกุ๊กอีกสองคนอยู่แล้วก็หันมามองพวกผม   แต่พอมันเห็นว่าพวกผมซอยหอมกันอย่างคล่องแถมไม่มีน้ำตาสักหยด   มันก็ทำหน้าเหวอๆแล้วหันกลับไปซุบซิบกันอีก  หึๆ  ผิดหวังอ่ะดิมึง   

         เวลาล่วงเลยไปครึ่งชั่วโมงกว่าๆ   หอมแดงและหอมใหญ่ร่วมสิบกว่ากิโลก็กลายเป็นหอมซอยที่ละเอียด  สวยงาม  นึกไม่ถึงสิมึง   คิดว่าพวกกูจะอ่อนต้องงมทำกันเป็นชั่วโมงๆเหรอ   บอกแล้วพวกกูอ่ะ  ไม่ง่าย  แต่ก็ได้ไม่ยาก  เอ้ย.. ไม่ช่าย..ย  อิอิ

         แต่มันก็ยังไม่เลิกบ้าครับพี่น้อง  เพราะตอนนี้ไอ้พี่ไมค์มันเดินยิ้มชั่วร้ายมาหาพวกผมอีกพร้อมๆกับถุงใส่หัวเผือกอีกสองถุงใหญ่

         " โห... น้องนี่เก่งกันมากๆ  งั้นพี่ฝากนี่อีกอย่างละกัน  เดี๋ยวเอาเผือกนี่ไปล้างแล้วก็เอามาปอกเปลือกให้หมด  ป้าเค้าจะเอาไปทำข้าวอบเผือกกับขนมไปออกในบุฟเฟ่ต์น่ะ"   มันสั่งแล้วก็ยิ้มอย่างผู้ชนะก่อนจะเดินจากไปอีก

         " เชี่ยเอ๊ย  มันจะแกล้งพวกเราไปถึงไหนวะ  แมร่ง"  ไอ้เอ้บ่นอย่างหัวเสีย

         " เออว่ะ  แมร่ง จะทนไม่ไหวแล้วนะเว้ย"  ไอ้เอ๊กซ์ก็เดือดอย่างมาก   

         " เอาน่ะ  มันก็ต้องเป็นแบบนี้แหละ  อย่างที่กูบอกไง... มันเล่นเราแน่แต่เราต้องรับมือมันให้ได้   และพวกมึงไม่ต้องโมโหไปว่ะ  เพราะเราจะเอาคืนมันแน่ๆ"  ผมบอกแล้วก็ยิ้มเป็นนัยๆว่าผมมีแผนอยู่

         ใช่แล้วครับ  เมื่อกี๊นี้การที่มันสั่งพวกเราว่าให้ล้างเผือกก่อนแล้วค่อยมาปอกเปลือก  นั่นหมายความว่า  มันวางยาพวกผมอีกแล้วล่ะ   แต่ไอ้เอ้ไอ้เอ๊กซ์ดันเสือกทำซื่อรีบคว้าถุงเดินไปที่อ่างล้างซะแล้ว   ผมเลยเดินตามไปตบกบาลมันคนละที

         " สัดนี่... ตบพวกกูทำเชี่ยไรเนี่ย  ยิ่งเครียดๆอยู่"  ไอ้เอ้หันมาด่าผมทันที   ส่วนไอ้เอ๊กซ์ก็มองผมเคืองๆ

         " กูตบเรียกสติพวกมึงไง   ตอนอาจารย์รัตน์สอนพวกมึงไม่ฟังเค้าเลยเหรอ   ถึงได้โง่หลงกลไอ้กุ๊กกากๆนั่นยังงี้อ่ะ"  ผมบอกมัน   

         ขออธิบายนิดครับ   อาจารย์รัตน์คืออาจารย์วิชาอาหารไทยที่สอนผมนี่แหละ  แกจะเก่งมากๆและชอบสอนพวกเทคนิคการทำอาหารและเตรียมวัตถุดิบเล็กๆน้อยๆพวกนี้ให้ผม   ผมถึงจำขึ้นใจและได้นำมาใช้ประโยชน์แบบในวันนี้นี่แหละ

         " อ๋อ... เออ ใช่ว่ะ  กูลืมไปเลย  เกือบซวยแล้วมึง  นี่มันเล่นเราขนาดนี้เลยเหรอวะ"  ไอ้เอ๊กซ์มันคงถึงบางอ้อแล้ว  เลยบ่นออกมาแล้วหันไปมองไอ้พี่ไมค์ที่ตอนนี้ไปลอยหน้าคุยกับเด็กเสิร์ฟอยู่ตรงประตูครัว

         ไอ้ที่พวกผมบอกว่ามันแกล้งพวกเราก็คือว่าเผือกเนี่ย  ผมว่ามันคงมีสารอะไรสักอย่างที่เปลือกของมัน  เวลาที่โดนน้ำแล้วสารนั้นมันจะเปลี่ยนสภาพไป  ถ้าโดนผิวหนังเรามันจะทำให้คันมาก   คันเหมือนโดนใบบอนนั่นแหละครับ

         แน่นอนว่าไอ้พี่ไมค์มันสั่งให้เราไปล้างก่อน  ก็หมายความว่ามันจงใจอยากให้พวกเราคันมือนี่เอง   ดูฉลาดมากนะแต่  กูรู้ทันมึงอีกแล้วว่ะ  โทษทีเว้ย  มึงอาจฉลาดนะ  แต่กูฉลาดกว่า  เหอๆ

         " สัดเอ๊ย... เชี่ยจริงๆ  นี่ไม่งั้นพวกเราได้เกากันฉิบหายไปแล้วเนี่ย"  ไอ้เอ้บ่น

         " เออน่า.. วันนี้ปล่อยไปก่อน  วันหลังค่อยเอาคืนเว้ย"  ผมบอกมันแล้วก็เลยเอาถุงเผือกมาแกะออกแล้วก็ปอกเปลือกเผือกที่มีอยู่วางลงในตะกร้าจนหมดแล้วก็ยกไปล้างที่อ่าง   แต่ไอ้พี่ไมค์มันก็กำลังเดินมาดูผลงานของมันพอดีครับ
   
         " อ้าว  เฮ้ย  เสร็จกันแล้วเหรอ"   มันเอ่ยถามด้วยหน้าเหวอๆอีกที่เห็นพวกเรายิ้มแป้นไม่มีอาการคันอะไรใดๆ 

         " ครับผม  เสร็จแล้วครับ" 

         " อ้าว... แล้วน้องทำอย่างที่พี่บอกรึเปล่า"

         " อ๋อ.... พอดีผมเห็นว่าถ้าเราล้างแล้วปอก  ตอนปอกเสร็จก็ต้องล้างอีกรอบอยู่ดีนี่ครับ   เลยลดขั้นตอนซ้ำซ้อนไปซะ  ประหยัดเวลาและแรงงานด้วย  ไม่ดีเหรอครับพี่"  ผมยังคงแกล้งแบ๊วใส่มันเหมือนกับว่าตัวเองไม่รู้เลยว่าที่จริงเผือกห้ามโดนน้ำก่อนปอก   

         ก็อยากให้มันเจ็บใจน่ะครับว่า   ถึงจะไม่มีใครบอกใครเตือนเรา  แต่พวกผมก็ยังโชคดีรอดจากแผนชั่วของมันมาได้   และที่เป็นอย่างนั้นไม่ใช่เพราะเรารู้ทันมัน  แต่เป็นเพราะว่าพวกเราเป็นคนดีไงเลยแคล้วคลาดได้อีก  ซึ่งคงทำให้มันเจ็บใจได้มากกว่า

         " เอ้ย... น้อง  ทำไมทำยังงั้นล่ะ"  มันยังคงโอดครวญอีกครับ  ซึ่งจังหวะนั้นพอดีเจ๊ปรางค์ที่เป็นกุ๊กอีกคนแกเดินผ่านเข้ามาพอดี

         " อะไรกันน่ะ  ไอ้ไมค์  มึงมายุ่งอะไรกะน้องๆเค้าอีกเนี่ย"

         " อ๋อ... ไม่มีอะไรครับพี่   พอดีพี่เค้าให้พวกผมเอาเผือกนี่ไปล้างก่อนแล้วค่อยเอามาปอกน่ะครับ  แต่พวกผมไม่ได้ล้างก่อนแต่เอามาปอกไปเลย   คือผมไม่รู้น่ะครับ  นึกว่าปอกเสร็จแล้วเอาไปล้างทีเดียวง่ายกว่า   นี่พวกผมทำให้ของมันเสียรึเปล่าครับ"   ผมหันไปรายงานเจ๊ปรางค์แล้วก็แกล้งก้มหน้าทำเป็นสำนึกผิดอยู่  จนไอ้พี่ไมค์อ้าปากค้าง  เหวอไปทันที  มันคงรู้ตัวแล้วครับว่า  งานกำลังเข้า

         ใช่ครับ  แผนผมเอง  ผมแกล้งทำเป็นแบ๊ว  ทำไม่รู้เรื่อง  แต่นั่นเท่ากับว่าผมฟ้องเจ๊เค้าแล้วเรื่องแผนชั่วของไอ้พี่ไมค์น่ะ  ฟ้องแบบอ้อมๆ  ใสๆ ไร้เดียงสาเหมือนไม่ได้ฟ้องนี่แหละ   น่าเจ็บใจกว่า  เหอๆ

         " โอ๊ย... ไม่ต้องขอโทษหรอกจ้ะ  พวกเราทำถูกแล้วล่ะ   เผือกมันก็ต้องปอกก่อนที่จะล้างนั่นแหละ"  เจ๊แกสงสารผมทันทีครับ   จากนั้นก็หันไปตาเขียวใส่ไอ้พี่ไมค์ทันที

         " นี่... แล้วทำไมแกไปบอกน้องเค้ายังงั้นห๊า  ไอ้ไมค์  สอนเค้ายังงี้ได้ยังไง  ดีนะ  ขืนนี่ถ้าเค้าล้างแล้วเอามาปอกป่านนี้คงคันคะเยอไปแล้ว   อ้อ... หรือนี่แกคิดจะแกล้งน้องเค้าใช่มั๊ย  ห๊า...  ทำยังงี้ได้ยังไง"

         " เฮ้ย... ไม่ใช่แล้ว  เจ๊ก็... ผมจะไปแกล้งน้องมันทำไม   สงสัยน้องมันอาจเข้าใจที่ผมบอกผิดไปก็ได้"   หึ  แถไปข้างๆแล้วยังมาโบ้ยเป็นความผิดพวกกูอีกนะมึง 

         จากนั้นมันก็ล่าถอยไปเพราะเห็นท่าไม่ดี  อยู่ไปก็งานเข้าเปล่าๆ  ซึ่งพวกผมล่ะสะใจจริงๆ  ทีนี้มันคงรู้ตัวแล้วล่ะ  ว่าถ้าจะเล่นพวกเราน่ะ   ยากแค่ไหน  หึๆ

         -

         -

         แล้ววันนั้นทั้งวันไอ้พี่ไมค์ก็ไม่กล้าเฉียดเข้ามายุ่งอะไรกับพวกผมอีกเลยจนกระทั่งเลิกงาน   ตอนแรกผมก็ว่าจะกลับคอนโดเลยทันทีเพราะยังเป็นห่วงมินอยู่   แต่ก็ยังคาใจเรื่องของน้องอยู่มากๆและนึกขึ้นมาได้ว่ายังมีอีกคนที่อาจช่วยไขปริศนาอันนั้นให้ผมได้   

         " ครับ  เป็นยังไงบ้าง  ทำอาหารไว้รึเปล่านี่  ถ้ายังก็ไม่ต้องแล้วนะ  พี่จะไปกับพวกไอ้เอ้มันน่ะครับ  ไม่ต้องรอนะ  นอนไปก่อนก็ได้  พี่ยังไม่รู้เลยว่าจะกลับกี่โมง"  ผมโทรไปบอกมินไว้ก่อน   ฟังจากเสียงก็ยังใสๆดี  คิดว่าน้องมันคงไม่เป็นไรแล้วล่ะนะ

         จากนั้นผมก็รีบขับไปหาไอ้แมนที่หอครับ   เพราะตอนนี้ผมเห็นว่ามีแค่มันเท่านั้นที่จะเฉลยปริศนาเกี่ยวกะมินให้กระจ่างได้   คงต้องคุยกันยาวล่ะนะ

         " อ้าวพี่.. มาไงอ่ะครับเนี่ย มีอะไรเหรอ"

         " อืม...ก็มีเรื่องอยู่ว่ะ  สำคัญมากๆ"  ผมบอกแล้วก็เข้าไปนั่งคุยกับมันที่ระเบียง

         " มึงช่วยเล่าเรื่องชีวิตที่ผ่านมาของมึงกับมินให้กูฟังทีดิ  เอาตั้งแต่เกิดเลยก็ได้  กูอยากรู้ว่ะ"

         " เฮ่ย... อารมณ์ไหนเนี่ยพี่  นึกไงถึงจะมาสอบประวัติผมกะน้องล่ะ"  ไอ้แมนเอ่ยแล้วก็ยิ้มให้ผม  แน่นอนว่ามันคงจะงงๆว่าทำไมอยู่ๆจะมาถามเรื่องนี้

         " ก็ไม่มีอะไรมาก  กูอยากรู้เรื่องราวของน้องๆกูเอาไว้  จะได้รู้ไงว่าพวกมึงมีที่มาที่ไปกันยังไงมั่ง  ก็แค่นั้น"

         " อ้อ... ถ้างั้นก็ได้เลยคร้าบ  เรื่องของพวกผมเหรอ  ก็ไม่มีอะไรมากอ่ะพี่  พวกเราเกิดกันที่ปากช่องไง  แล้วต้องเล่าละเอียดถึงขั้นพ่อแม่ชื่ออะไรมั๊ยนี่"  ไอ้แมนก็ยังคงตอบผมกวนๆอย่างอารมณ์ดี  ผมก็ยิ้มให้มัน

         " เออ... ละเอียดเท่าไหร่ยิ่งดี  แต่ชื่อพ่อแม่มึงไม่ต้องบอกก็ได้ หึๆ"

         " อืม... ได้อยู่ครับ   แต่... ผมบอกพี่ตรงๆนะ  ชีวิตพวกผมอ่ะมันรันทดเหมือนกัน  ไม่ได้เกิดมาสุขสบายแถมยังมีแต่อะไรที่ทำให้ทุกข์ใจเยอะมากจนบางทีก็ไม่อยากจะนึกถึงนะ"   ไอ้แมนพูดมาแบบนี้แล้วหน้ามันก็เริ่มหมองลงไปเลย  แสดงว่าที่ผมคิดไว้ว่า  มินอาจเจออะไรร้ายๆมาก่อนคงจะเป็นจริง

         " มึงไม่ต้องเล่าทั้งหมดก็ได้นะ  จริงๆแล้วกูอยากรู้เรื่องมินน่ะว่าก่อนหน้านี้มันเกิดอะไรขึ้น"  พอผมพูดจบมันก็หันขวับมามองผมอย่างตกใจเลยครับ

         " เอ่อ... มินมันเล่าอะไรให้พี่ฟังไปบ้างอ่ะครับ"   ไอ้แมนถามผมด้วยทีท่าตระหนกอยู่  เหมือนว่ามันก็ไม่ค่อยอยากให้ผมรู้เรื่องนี้เลย

         " ก็เพราะว่ามันไม่ได้เล่าอะไรให้ฟังไง   กูเลยต้องมาถามมึง  แต่กูเดาว่ามันต้องเป็นเรื่องร้ายแรงน้องมันถึงดูเสียใจเสียขวัญมากขนาดนั้นน่ะ  และน้องมันคงไม่อยากเล่าให้กูฟังหรอก  เพราะแค่นึกถึงมันก็คงไม่อยากนึกด้วยซ้ำ  จริงมั๊ย"

         " ก็.. จริงครับ   งั้นผมเล่าให้พี่ฟังก็ได้  พี่จะได้รู้ไว้เพราะพี่ก็เป็นพี่ผมเหมือนกัน  ไม่ใช่คนอื่นที่ไหน"  แมนหันมายิ้มให้ผม   คำพูดนี้ของมันทำเอาผมซึ้งใจเลยนะที่ตอนนี้มันเห็นผมเป็นเหมือนพี่มันคนนึงแล้ว

         " เออ... กูขอบใจว่ะที่ไว้ใจและเห็นกูเป็นพี่มึงนะ"  ผมบอกแล้วก็โอบไหล่มันไว้

         จากนั้นมันก็เริ่มเล่าเหตุการณ์ชีวิตที่ผ่านมาของมินให้ผมได้ฟัง    ทำให้ผมได้รู้ว่าแท้ที่จริงแล้ว   ตั้งแต่เด็กๆมินเป็นกะเทยหรือสาวประเภทสองนั่นแหละ   เป็นจนถึงขึ้นที่ไปผ่าตัดแปลงเพศได้เลยด้วยซ้ำ  เพราะมีการกินยาและฮอร์โมนมาตลอด

         " แรกๆน่ะผมก็ไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้หรอกนะพี่  แม่ก็เหมือนกัน  แต่พอเห็นว่ามินมันก็เสียใจอยู่มากที่เป็นต้นเหตุให้แม่กะผมไม่สบายใจ   ผมก็ทำใจได้ว่ะพี่  ถือว่าเรามีน้องแค่คนเดียวถึงมันจะเป็นอะไรแต่มันก็คือน้องเราไง"  ไอ้แมนเล่าไปก็ยังยิ้มบางๆ   ผมก็นิ่งฟังพลางคิดตามไป

         " แล้วอีกอย่าง  มินมันก็วางตัวดีน่ารักมาตลอด   ทุกคนรอบข้างไม่ว่าใครเขาก็รับรู้แค่ว่า มันคือเด็กผู้หญิงน่ารักๆคนนึงแค่นั้นเอง  ไม่เคยมีใครจะรังเกียจอะไรมันเลยนะพี่ที่มันเป็นแบบนี้   แม่เคยบอกมินมันว่าจะเป็นอะไรก็ได้นะลูก  แค่ให้คนเขายอมรับเราได้บ้าง  แค่นั้นก็พอ  อย่าให้ใครเขาว่าเราได้ว่าเราทำตัวไม่ดี  แม่ขอแค่นั้นแหละ"  มันเล่ามาถึงตรงนี้แล้ว  อยู่ๆหน้ามันก็เริ่มเครียดๆขึ้นมาหน่อยนึง

         " แต่พอวันนึงมันได้เจอกะเพื่อนผม  มันก็บอกผมว่ามันชอบเพื่อนผมคนนี้นะ   ตอนนั้นผมก็ไม่อยากไปว่าอะไรมัน   คิดว่าคงไม่เป็นไรมั๊ง   ไอ้เพื่อนผมนี่มันก็มาจีบแล้วก็คบกันไป  แต่แค่ไม่นานไอ้เหี้ยนี่ก็หางออก   มันนัดเพื่อนมันเกือบสิบคนหลอกมินไปหลังโรงเรียนตอนเย็นเพื่อจะรุมโทรมนั่นแหละ   ดีว่ามีคนเห็นแล้วรีบมาบอกพวกผมหรอกนะ    ตอนผมไปถึงน่ะ  มินมันโดนทั้งตบทั้งต่อยจนสลบ  ไม่มีสติแล้ว   ยังดีนะที่มันยังไม่ได้ถอดเสื้อผ้าออกเท่านั้นอ่ะ  ผมยังไปทัน   พอผมไปเห็นมินมันอยู่ในสภาพนั้นผมกระโดดไปต่อยไอ้เหี้ยนั่นอย่างรัวเลยพี่  ขาดสติไปเลยผม  แค้นอ่ะ"   ไอ้แมนเล่าแล้วขบกรามเข้าด้วยกันอย่างแค้นเคืองมาก  ซึ่งไม่ต่างจากผมที่นั่งกำหมัดแน่นเหมือนกัน

         " จากนั้นพวกเราก็ช่วยกันพามินมันไปห้องพยาบาล  แต่มันก็ยังไม่รู้สึกตัวเลย   ผมกลัวมากนะพี่  ไม่รู้ว่ามันจะเป็นไงมั่งตอนนั้น   แล้วก็พาส่งโรงพยาบาลอีกที"  ตอนนี้แมนมันก็เริ่มเครียดมากแล้ว  ผมก็ได้แต่ลูบที่หลังมันเบาๆ

         " พอมินฟื้นมันก็ดิ้นไปมาแล้วร้องกรี๊ดๆเหมือนเสียสติไปแล้ว  ผมกะแม่ทำอะไรไม่ถูกเลย  แม่ก็ได้แต่ร้องไห้เพราะเป็นห่วงไอ้มิน  แต่หมอเค้าบอกว่ามินช๊อคอย่างแรงมาก  สักพักเดี๋ยวจะดีขึ้นเอง  ไม่ต้องเป็นห่วง"

         ผมยิ่งฟังก็ยิ่งนึกแค้นไอ้พวกเลวนั่นนะ   นี่ถ้าผมอยู่ตอนนั้นผมคงกระทืบพวกมันจนอานแน่   สรุปว่าที่น้องฝันร้ายเมื่อคืนก็คงเพราะเรื่องนี้นี่เอง

         " หลังจากนั้นมินมันก็เอาแต่เหม่อไม่พูดไม่จาอยู่เป็นอาทิตย์เลย   แม่ก็เสียใจมาก  มาเฝ้ามันทีไรก็ร้องไห้ตลอด  ผมก็ไม่รู้จะทำไงเลยบอกแม่ว่าไม่ต้องมาเฝ้าแล้วผมจะเฝ้าให้เองแต่แม่ก็ไม่ยอม   จนวันนึงแม่ก็ร้องไห้กับมันอีกแต่คราวนี้มินมันเริ่มได้สติแล้วมั๊งก็เลยกอดแม่ตอบ   ผมกับแม่ก็เลยดีใจขึ้นมาได้หน่อย" 

         " จากวันนั้นมินมันก็เหมือนกลับมาเป็นปกติ  เพียงแต่ว่า..."  ไอ้แมนพูดแล้วเว้นช่วงไปนิดนึง  ผมที่กำลังตั้งใจฟังเลยรีบถามมันทันที

         " เพียงแต่อะไรวะ" 

         " ก็มันเลิกใส่ชุดผู้หญิงไปเลยน่ะพี่   แล้วหาซื้อใหม่เท่าที่หาได้  ชุดผู้หญิงก็ให้คนอื่นมั่ง  ไปเลหลังขายมั่ง   แล้วก็ซื้อแต่ชุดผู้ชายเหมือนว่ามันจะเลิกเป็นกะเทยเลย   เพราะมันบอกว่ามันไม่อยากเป็นแบบนี้แล้ว"

         " อ้าว... เหรอ  มินมันคงคิดสิว่าที่มันโดนแบบนั้นเพราะว่ามันเป็นกะเทย  ใช่มั๊ย"

         "ก็คงจะอย่างนั้นแหละพี่  แถมมันยังไปฝึกมวยที่ค่ายน้าชาญที่ผมฝึกด้วยนะ  มันบอกว่าต่อไปมันจะต้องปกป้องตัวมันเอง   จะได้ไม่ต้องโดนรังแกง่ายๆอีก"

         " ห๊า... ถึงขนาดนั้นเลยเหรอวะ"  ผมพูดออกมาเสียงดังเพราะนึกไม่ถึงว่ามันจะเป็นไปถึงขนาดนั้น

         ฟังๆดูมันอาจเหมือนกับเรื่องตลกไปแล้ว  ที่มินมันเข็ดที่จะเป็นแค่กะเทยที่อ่อนแอสู้ใครไม่ได้เมื่อโดนรังแก   เลยเปลี่ยนตัวเองกลับมาเป็นชายแล้วเรียนมวยเพื่อให้ตัวเองเข้มแข็ง  ไม่ตกเป็นเบี้ยล่างให้ใครอีก  ยังกะพล๊อตหนังอะไรสักเรื่องด้วยซ้ำ

         แต่ที่มันไม่ขำก็เพราะผมนึกถึงใจน้องมันไง   มันทั้งเสียใจ  ทั้งผิดหวังจนถึงขั้นต้องเปลี่ยนตัวเองไปขนาดนี้เพื่อให้ลืม  หรือกลบไอ้อดีตเลวร้ายนั้นไปให้ได้  นั่นหมายความว่าน้องมันต้องทุกข์สุดๆแล้วจริงๆ  และแม้แต่ทุกวันนี้ก็ยังต้องฝันร้ายอยู่

         รู้อย่างนี้แล้วผมยิ่งอยากปลอบใจน้องมัน  อยากกอดไว้  อยากทำอะไรก็ได้ให้มันรู้สึกดีกว่านี้  แม้จะต้องแลกกับอะไรก็เหอะ   ผมจะยอมทั้งนั้นเลย

         " ก็นั่นแหละพี่  มันก็เลยมาหัดพวกแม่ไม้กับครูที่นั่นด้วยกันกับผมเลย  ตอนนี้มันก็มีฝีมือพอตัวอยู่  เลยไม่ต้องกลัวใครเท่าไหร่แล้ว" 

         " อืม... ก็ดีแล้ว   เฮ้อ... ฟังแล้วแค้นไอ้เพื่อนเหี้ยๆของมึงฉิบหายเลยว่ะ  แมร่ง"  ผมขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างโมโห

         " หึ... ผมอ่ะกระทืบหน้ามันเลยด้วยซ้ำ  แค้นมาก  ทำน้องกูเจ็บทั้งตัวทั้งใจเลย  เพราะมินมันรักและหลงไอ้เชี่ยนี่มากๆ  แต่เสือกทำกันได้อย่างนี้  มินมันก็เสียใจมากแหละ  นี่ถ้าไม่มีใครมาห้ามผมคงฆ่าแม่งไปแล้วล่ะ   สงสารแต่ไอ้มินมัน   มันเคยบอกผมนะว่าต่อไปมันคงไม่ขอรักใครอีกแล้วล่ะ"   เจอคำนี้ไปผมรีบหันไปมองหน้าไอ้แมนทันที

         " แล้วมันก็บอก  ชีวิตนี้มันคงถูกสาป  เป็นผู้หญิงก็ไม่ใช่เป็นผู้ชายก็ไม่เชิงคงไม่หวังความรักความจริงใจจากใครอีกแล้วล่ะ" 

         ในที่สุดแล้วปริศนาที่ผมสงสัยก็เฉลยออกมาซะที  ไอ้ที่มินบอกว่ารักใครอีกไม่ได้ก็คงเพราะเรื่องนี้เอง  แต่ปัญหาต่อไปของผมก็คือ   ผมคงต้องเปลี่ยนใจน้องให้เลิกคิดแบบนี้นี่แหละครับ  ซึ่งมันคงเป็นเรื่องที่ยากเหมือนกันสำหรับผม

         " ทุกวันนี้ผมก็ยังกลุ้มนะพี่ที่มินมันยังคิดแบบนี้  แล้วปิดตัวเองไม่เปิดรับใครทั้งนั้น  แล้วเมื่อไหร่มันจะสุขสมหวังกับเค้าได้ซะทีล่ะ"   

         " เออ... มึงไม่ต้องห่วงไป  กูเชื่อว่าหลังจากนี้ทุกอย่างมันจะต้องดีขึ้นว่ะ"

         " หือ... ยังไงอ่ะพี่  พูดยังกะมินมันเลิกปิดตัวเองแล้วยังงั้นอ่ะ"  ไอ้แมนทำหน้าเป็นหมาสงสัยเลย

         " เลิกรึยังน่ะ  อันนั้นกูไม่แน่ใจว่ะ  แต่ตอนนี้กูรู้อยู่อย่างนึง"

         " หือ...."

         " กูรักน้องมึงว่ะ" 

                                 ****************************
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-03-2014 23:53:24 โดย Goodfellas »

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ความจริงที่โหดร้าย แต่ก็ยังดีนะที่ผ่านมาได้แบบฉิวเฉียด
ไม่กล้าคิดเลยว่าถ้ามินไม่รอด  จะเป็นยังไง

ออฟไลน์ j4c9y

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-7
หึบๆๆ

เปิดใจมินให้ได้น้าาาา

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
อ่ะ..เป้ง มาตอนนี้ชั้นขอชมนาย
"กูรักน้องมึงว่ะ" แมนมาก ตรงไปตรงมาดี
แต่จะให้ดียิ่งกว่า นายต้องทำให้น้องหายจากอาการนั้นก่อน
และทำให้น้องมันสัมผัสได้ว่า แท้จริงแล้วความรักคือสิ่งที่สวยงามและอบอุ่นเพียงใด

ออฟไลน์ stormphoenix

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2269
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-3
ว้าวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ




นายเป้งโคตรแมนเลย



แต่ก้อยังคิดว่าถ้ามินรู้ความจริงว่าเป้งไม่ใช่ป้าง


ประวัติศาสตร์มันจะไม่ซ้ำรอยเหรอ   โดนทำร้ายจากคนที่รัก  คนแรกทางกายแต่เป้งทำร้ายกันทางใจหมูว่ามันเจ็บกว่าแบบแรกนะพี่น็อต




 :กอด1: :กอด1: :กอด1:เสพติดนิยายเรื่องนี้ไปแล้วเรา :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ kit

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-3

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
55+ ยอมรับกับพี่ชายตัวจริงแล้วหรือเนี้ย

อื่มอ่านตอนนี้แล้วนึกถึงสมัยเรียน ตอนฝึกงาน เราฝึกต้อง 4 ปีเลยต้องแต่ปี1-4ทีเดียว แต่ก็สนุกดี แต่ละที่ก็แตกต่างกันไปเจอต้องแต่พี่ที่ดีดี สอนทุกอย่างเลย แถมใจดีชอบพาไปเลี้ยงข้าวด้วย แล้วก็เจอแบบที่ว่าที่ชอบแกล้ง พวกชอบหมั่นไส้พวกนี้จะเจอเยอะหน่อย แต่ตอนนี้ก็ผ่านมาแล้ว ก็สนุกไปอีกแบบ อยากกลับไปเป็นนักศึกษาฝึกงานอีกจัง อิอิ


ส่วนเรื่องน้องมินตอนเด็กๆก้เนอะ สมัยเราเด็กๆนะ กระเทยเรียบร้อยมักถูกแกล้งอยู่บ่อยๆ ส่วนคนที่สร้างเกราะขึ้นมา ก็ทำตัวแรงๆดูร้ายๆ แต่จริงๆก็ไม่มีอะไรหรอก บางที บางคนถ้าไม่ทำแบบนี้ก็จะถูกแกล้ง ถูกเตะ อย่างนี้แหละ สมัยเรียนมัธยมนี่ แกล้งกันรุนแรงจริงๆนะถ้าใครเป็นกระเทยเนี้ย  ส่วนมากเท่าที่ต้องแต่เป็นกระเทยมา ต้องแต่เกินจนโตแล้ว ที่คบๆเพื่อนมาก พวกแรดๆ แรงๆนี่จะเปิดเผยและจริงใจกว่าพวก เรียบร้อยหงิมๆนะคะ พวกนี้น้ำนิ่งไหลลึก ร้ายสุดๆ แต่ก็บางคนที่ร้านลึก บางคนก้ดี  แต่เราชอบคนแรดๆอะนะ อยู่ด้วยแล้วไม่เครียด ไม่ต้องวางตัวแบ๊วมากอะไรมาก ขอแค่รู้ว่าตรงไหนควรทำตัวแบบไหน ตรงไหนควรทำตัวแบบไหน เท่านั้นก็พอแล้ว เดี๋ยวนี้มันก็คงไม่คงมีแล้วหละพวกที่แรดๆ กร๊ีดๆ เสียงดังโวยวายตลอดเวลาอ่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นแบบนั้นก็เวลาได้มารวมกลุ่มหรือไปเที่ยวปลดปล่อยกันเสียมากกว่า 

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
โคตรเท่ห์เลยอะ
 :sad4:


สงสารน้องมินจังเลย
คุณพระเอกจ๋า ช่วยทำให้น้องมินหายเป็นปกติด้วยเถอะนะจ๊ะ

ออฟไลน์ puppyluv

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2539
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2000/-20
" กูรักน้องมึงว่ะ" 
อูยยยย ได้ใจซะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด