น้องมินมาแล้ววว
ขอบคุณคร้าบที่มาตามจิ้มกันเยอะแยะจนผมพรุนไปหมดแล้ว และขอบคุณทุก+ด้วยครับ

เรื่องเริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆแล้วครับ มาติดตามกันต่อเลย
ตอนที่18 *************************************
แล้วเย็นวันนั้นเองแพทก็โทรมาหาผมอีกอย่างที่คิดไว้ พอดีว่าผมขับรถออกมาจากโรงแรมแล้วและคราวนี้คุณเธอก็บอกว่าจะชวนไปดูหนังอีกแล้ว
" ก็ผมไม่ว่างจริงๆครับ เดี๋ยววันนี้ผมยังต้องเก็บงานอีกเพียบเลย ต้องสรุปโปรเกรสเรื่องฝึกงานส่งอาจารย์อีกครับ ไว้ก่อนก็แล้วกัน" ก็นะ... เหมือนเคยแหละครับ ต้องอ้างกันไปร้อยแปด
" เอ๊ะ... ทำไมเดี๋ยวนี้เป้งไม่มีเวลาให้แพทบ้างเลยล่ะ หรือว่าไม่รักไม่แคร์แพทแล้ว แพทไม่ยอมนะคะ" เสียงเปลี่ยนไปทันที เริ่มจะนางร้ายขึ้นมาอีกแล้วครับ
" อะไรของคุณครับ อย่าคิดงั้นดิ ตอนนี้ยังไงๆผมก็รักคุณแค่แบบเพื่อนอยู่ดี เราก็รู้จักกันมาตั้งนานแล้วนี่ แต่ช่วงนี้ผมยุ่งจริงๆไง เข้าใจนะครับ"
" ทำไมเป้งพูดแบบนี้ล่ะ แพทรักคุณคนเดียวนะ เราเป็นของกันและกันแล้วนี่ ทำไมเป้งบอกว่าเราเป็นแค่เพื่อนกันล่ะ ทำอย่างนี้ไม่ได้นะ" เหอะ.... กล้าพูดว่ะ รักกูคนเดียวเนี่ยนะ
" ก็ตอนนี้เราเป็นแค่เพื่อนกันจริงๆนี่ครับ ช่วงที่ผ่านมาแพทก็เลือกคนอื่นแทนผมไปแล้วไม่ใช่เหรอ แล้วนี่คุณจะกลับมาทวงสิทธิ์อะไรอีกล่ะครับ ที่สำคัญน่ะตอนนี้ผมก็รักคนอื่นไปแล้ว ต้องขอโทษด้วยครับ" เอาดิ... ให้มันจบไปวันนี้ล่ะวะ ผู้หญิงคนเดียวกูต้องจัดการให้ได้สิ ไม่งั้นก็เสียชื่อเพลย์บอยตัวพ่อกันพอดี
" มันไม่ใช่อย่างนั้นซะหน่อย เป้งเข้าใจผิดแล้วนะคะ สำหรับคนอื่นน่ะยังไงๆก็แค่เพื่อนจริงๆนะ ตอนนี้แพทก็มีแค่คุณคนเดียว อย่าทิ้งแพทเลย... นะคะ" เออ.... แค่เพื่อน แต่เก็บข้าวเก็บของไปอยู่ญี่ปุ่นด้วยกันเป็นปีๆเนี่ยนะ ผมเชื่อแล้วล่ะว่าเป็น "เพื่อนพ้องท้องแนบท้อง" นะ
" นี่ผมไม่ได้ทิ้งซะหน่อย ก็เราเป็นเพื่อนกันไงครับ ยังเจอกันได้ คุยกันได้อยู่ แล้วจะมาบอกว่าผมทิ้งคุณได้ไง"
" ก็มันไม่เหมือนกันนี่คะ โอเคค่ะต่อไปแพทยอมให้คุณไปมีใครอีกสักกี่คนก็ได้ แต่เราก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมกันเถอะนะคะ แพทขาดคุณไม่ได้จริงๆ" เอาล่ะ... เริ่มมีเสียงสั่นๆ เดี๋ยวก็คงร้องไห้รำพันชัวร์ โห... ขาดกูไม่ได้ซะด้วย ไปดูละครช่องไหนมาวะ
" แพท... คุณฟังนะ ผมทำไม่ได้แล้วล่ะครับ ตอนนี้ผมเป็นคนใหม่แล้วล่ะ จะให้ผมกลับไปทำตัวแบบเก่าอีกคงไม่ได้แล้วจริงๆเพราะตอนนี้ผมรักคนๆนึงมากและผมจะมีเค้าแค่คนเดียวเท่านั้นหวังว่าคุณคงเข้าใจนะครับ" โอเค... สวมบทพระเอกตัดรักตามในละครก็ได้วะ เหอๆ
" ฮือๆ..... ไม่เอานะคะ แพทไม่ยอม ใครกันที่คุณบอกน่ะ ยัยแพรวนั่นเหรอ ก็เค้าคบกับพี่ชายคุณไปแล้วไม่ใช่เหรอ" เริ่มมีฟูมฟายละครับ
" พอเถอะครับแพท คนๆนั้นเค้าจะเป็นใครก็ช่างเถอะ ยังไงซะตอนนี้เราก็เป็นได้แค่เพื่อนกันแล้วล่ะครับ เข้าใจผมด้วยนะ งั้นไว้แค่นี้ก่อนแล้วกันครับ ค่อยคุยกันวันหลังนะ ผมต้องรีบกลับแล้วล่ะ" จบข่าวเหอะว่ะ ไม่งั้นก็คงยาว
แต่พอผมวางสายปั๊บก็โทรมาอีกแล้ว เฮ้อ... จะยังงี้อีกนานมั๊ยเนี่ย เอ้า... โทรเข้าไป ไม่รับเว้ย
-
-
จากนั้นผมก็ขับมาถึงคอนโดจนได้ ว่าแล้วก็รีบขึ้นลิฟต์ไปหาดาร์ลิ้งผม อิอิ คิดถึงจะแย่อยู่แล้ว แต่พอเข้าไปผมก็ต้องแปลกใจอีกแล้ว เพราะน้องกำลังนั่งอยู่กับเพื่อนผู้หญิงอีกคนนึง กำลังนั่งร้อยมาลัยกันอยู่
เหอๆ ใช่แล้วครับ ร้อยมาลัยจริงๆนะนั่น เท่าที่ผมเห็นก็เป็นมาลัยที่ร้อยด้วยกลีบกุหลาบเป็นส่วนประกอบหลัก นอกนั้นก็มีดอกพุดกับมะลิ แล้วก็ดอกรักทำเป็นอุบะ
" อ้าว... กลับมาแล้วเหรอครับ นี่เพื่อนผมอ่ะพี่ ชื่อ เอม ครับ" มินลุกขึ้นทักผมแล้วเพื่อนของมินก็ยกมือไหว้ผม
" อ๋อ... ครับ ไม่ต้องไหว้พี่ก็ได้ รู้สึกว่าตัวเองแก่มากไปเลย ฮะๆๆ" ผมบอกแล้วก็ยืนพินิจพิจารณามาลัยที่น้องทำเสร็จแล้วส่วนนึงด้วยความฉงน เพราะว่ามันสวยมากจริงๆนะครับ ฝีมือน้องประณีตจริงๆนั่นแหละ
" นี่มันสวยมากเลยนะครับ มาลัยบ่าวสาวใช่ป่ะ เราสองคนนี่เก่งจังเลย"
" ครับพี่ ผมไปรับงานมาจากป้าแม่ค้าที่ปากคลองตลาดน่ะครับ พอดีเค้ารับงานไว้แล้วทำไม่ทัน ก็เลยให้เอมมาช่วยกันทำด้วยครับ พี่คงไม่ว่าผมนะที่ไม่ได้บอกก่อน เมื่อกี๊โทรไปแต่ไม่ติดอ่ะครับ" มินบอกแล้วก็ยิ้มให้ผม น้องเอมก็หันมายิ้มด้วย เวรกรรม... ผมไม่น่าปิดเครื่องหนีแพทเลยว่ะ
" ไม่เป็นไรหรอกครับ เรื่องแค่นี้เอง ตามสบายนะเดี๋ยวพี่ไปอาบน้ำก่อน" ผมบอกมินไปแต่จังหวะนั้นก็เกือบเผลอตัวหอมแก้มน้องเข้าให้ซะแล้ว แต่มองไปเห็นน้องเอมซะก่อนเลยเบรคไว้ อายเหมือนกันแฮะ ไม่รู้ว่าน้องเอมรู้รึเปล่าว่าผมกับมินเป็นอะไรกัน
ผมเดินเข้าห้องไปอาบน้ำอย่างชิลล์ๆพอเสร็จออกมาก็เปิดดูโทรศัพท์อีกทีเลยเห็นว่าหลายมิสคอลมากๆ ก็แพทนั่นแหละครับ เบื่อจิงเว้ย.. ขี้เกียจจะสนใจละ แต่... เฮ้อ... โทรมาอีกละ เปิดเครื่องปั๊บก็โทรมาปุ๊บเลยเว้ย ปิดมันซะเลย ถึงจะเป็นคนอื่นก็ช่างมันวะ เดี๋ยวค่อยเปิดดูอีกที
จากนั้นผมก็ออกมานั่งทานข้าวกับมินและน้องเอมครับ สักพักนึงมินก็ลงไปส่งน้องเอมกลับบ้าน ระหว่างนั้นผมเองก็ชักกังวลนะกลัวว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้แพทอาจจะตามไปรังควานผมที่โรงแรมอีกก็ได้ จะเอาไงดีวะเนี่ย
แต่อยู่ๆก็มีโทรศัพท์เข้ามาที่ห้องผมครับจากรีเซฟชั่นข้างล่างแหละ เค้าบอกว่ามีคนมาหาและรออยู่ข้างล่าง เฮ่ย... ใครวะ พอได้คุยปั๊บผมแมร่งอยากจะโดดตึกลงไปเดี๋ยวนั้นเลยว่ะ ไม่ใช่ว่าอยากรีบลงไปหาเค้านะ แต่อยากตายให้พ้นๆอ่ะ
จะใครล่ะครับ ก็แพทอ่ะดิ นี่ตามผมมาถึงนี่ได้ไงวะเนี่ย และพอสักแป๊บขณะที่ผมลังเลว่าจะเอาไงมินก็เปิดประตูกลับเข้ามาพอดี
" ยืนทำอะไรอยู่เหรอครับพี่"
" เอ่อ... เปล่า ไม่มีอะไรครับ เอ้อ... มิน......." เฮ้อ.... นี่ผมควรจะบอกน้องมั๊ยเนี่ยว่าเดี๋ยวจะขอลงไปเคลียร์กับกิ๊กเก่าแป๊บนึงนะ ไม่ต้องรอ
" ครับ..."
" คือ... เอ่อ... เดี๋ยวพี่ขอลงไปหาเพื่อนที่ข้างล่างแป๊บนึงนะครับ เดี๋ยวพี่มา" แมร่งเอ๊ย... ไม่กล้าบอกว่ะ กู.... กรรมจริงๆ
" อ๋อ... ครับผม ตามสบายเลยครับ อืม... แต่ทำไมพี่ทำหน้าแบบนั้นล่ะครับ"
" หือ... แบบไหนเหรอ"
" ก็ยังกะมีอะไรปิดบังเลยน่ะ" จ๊ากก...ก กูอ่านง่ายยังงี้เลยเหรอ ไม่ได้ๆ ห้ามหลุดนะมึง ไอ้เป้ง
" อ่อ... ไม่มีอะไรหรอก เอ้อ... เดี๋ยวพี่จะแวะเซเว่นด้วย มินจะเอาอะไรมั๊ยครับ เดี๋ยวพี่ซื้อเผื่อ" เอาวะ รีบเบนความสนใจแล้วชิ่งก่อน
" ไม่เป็นไรครับ พี่รีบลงไปเถอะ เดี๋ยวผมรอนะ"
แล้วผมก็รีบจ้ำสุดๆลงไปที่ล๊อบบี้ทันที ทำไมว้า... ยิ่งไม่อยากจะโกหกน้องอยู่ ทำไมกูขี้กลัวขนาดนี้วะไม่ยอมบอกน้องไปตรงๆแล้วถ้าน้องมารู้เองล่ะ คงตายอีกแน่กู
ตอนนี้ยัยตัวปัญหานั่งรอผมหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ตรงโซฟาของล๊อบบี้แล้วครับ ผมเลยเดินเข้าไปแต่พอเธอเห็นผมแค่นั้นแหละ โผมากอดผมอย่างแน่นทันทีเลยครับ
" เอ้ย... แพท อย่าทำแบบนี้สิครับ คนเยอะแยะนะใครเห็นเค้าจะว่าเอาได้ ห่วงศักดิ์ศรีตัวเองมั่งเหอะครับ" โว้ย.... เกาะแน่นยังกะตุ๊กแกเลย แกะไม่ออก
" แพทไม่สนหรอก ใช่สิ... คนอย่างแพทมันไม่มีศักดิ์ศรีหรอก จะไปเหมือนคนที่คุณรักได้ไงล่ะ ทำไมคะเค้าดีกว่าแพทตรงไหน เค้าสวยกว่าเหรอ ไหนเป้งลองบอกมาสิคะ" เป็นเอาหนักนะเนี่ย เธอมาเต็มๆเลยครับ สเต็ปนางร้ายฟูลออพชั่นเลย
" มันไม่เกี่ยวกับว่าใครสวยไม่สวยหรอกครับ แพท ว่าแต่... คุณมาที่นี่ได้ไงครับเนี่ย"
" ก็แพทลองโทรไปที่บ้านคุณน่ะแล้วถามป้างเค้า เค้าก็บอกว่าคุณคงอยู่ที่นี่" ผมฟังแล้วกุมขมับเลย เออ..... ให้มันได้อย่างนี้ ไอ้เชี่ยป้าง....ง กูจะฆ่ามึ้งงงงงง......ง
" เอาล่ะครับ ผมว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะ คุณยอมรับเหอะเรื่องของเรามันจบแล้วจริงๆ ยังไงตอนนี้ผมก็เห็นคุณเป็นแค่เพื่อนแค่นั้นจริงๆ"
" ไม่ค่ะ แพทไม่ยอมนะ คุณจะทิ้งแพทไปมีคนอื่นแบบนี้ไม่ได้นะ ฮือๆ" โอ๊ย... ปวดตับหมดแล้วกู ฟูมฟายเข้าไป คนอื่นแมร่งก็มองมาได้อีก อยากตายเว้ย.....
" พอได้แล้วแพท ถึงคุณร้องไห้ให้ตายผมก็กลับไปหาคุณไม่ได้หรอก กลับไปเถอะ ผมขอร้องล่ะ อย่ามาทำลายศักดิ์ศรีของตัวคุณเองกับผมไปด้วยวิธีนี้เลย มันไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอก"
" ฮือๆ ไม่นะ คุณทำยังงี้ไม่ได้นะ" คุณเธอยังคงบีบน้ำตาต่อ
" ตกลงคุณจะกลับไปดีๆมั๊ยแพท" ผมยื่นคำขาด
" ไม่นะ เรายังคุยกันไม่รู้เรื่อง แพทจะไม่ไปไหนทั้งนั้น" แพทยื่นคำขาดบ้าง หึ... งั้นได้เลย
" ตกลงคุณจะไม่ไปใช่มั๊ย" ผมพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับจ้องด้วยสายตาที่แทบลุกเป็นไฟอยู่แล้ว จนเธอเหมือนตกใจเมื่อมองมาเห็นเข้า
" ไม่..." เธอตอบเสียงอ่อยๆ
" งั้นผมไปเอง" ผมบอกพร้อมกับสลัดหลุดจากมือเธอที่กอดผมแล้วเหวี่ยงตัวเธอลงไปที่โซฟา จากนั้นก็เดินอย่างเร็วออกนอกประตูคอนโดไปเลย โดยไม่สนใจว่าเธอจะวิ่งตามมาร้องเรียกอยู่
ทั้งเนื้อทั้งตัวผมตอนนั้นก็ไม่มีอะไรติดมาเลยนอกจากเศษสตางค์นิดหน่อยกับโทรศัพท์ แถมตอนนี้ผมใส่แค่เสื้อกล้ามบางๆกับกางเกงเล่นบาสแค่นั้นเอง กะว่าจะลงมาคุยแปบเดียว ไม่นึกว่าเรื่องจะบานปลายอย่างนี้น่ะครับ
แต่แพทก็ยังวิ่งตามผมมาอีกนะนั่น ผมเลยต้องรีบวิ่งหลบเข้าไปในสวนหย่อมใกล้ๆตรงนั้นจนแพทหาผมไม่เจอ ก็รอดพ้นไปได้ซะที เหนื่อยฉิบเลย เฮ้อ...
ตอนนี้ผมรู้สึกปวดหัวมาก ไม่รู้จะทำยังไงกับแพทอีกแล้วเพราะคุณเธอเล่นตื้อกันซะขนาดนี้ ที่ผ่านมาผมเองไม่เคยเจอใครอาการหนักขนาดนี้เลยนะ โดยมากพูดกันคำสองคำก็รู้เรื่องแล้ว แต่นี่แทบจะต้องลงไม้ลงมือกันเลยด้วยซ้ำ
แต่ยังไงผมก็ทำไม่ได้หรอก จะเป็นจะตายยังไงคนอย่างผมก็ไม่หน้าตัวเมียลงมือกับผู้หญิงเด็ดขาด
ว่าแต่ตอนนี้จะเอาไงวะ ลงมานานแล้วด้วยดิ รีบกลับก่อนดีกว่า กลัวที่สุดตอนนี้ก็คือมินจะว่ายังไงเนี่ยแหละ ถ้างั้นผมว่าผมยอมสารภาพไปดีกว่าว่ะ บอกตรงๆไม่อยากเสี่ยงให้น้องมารู้เรื่องอย่างนี้เอาเองทีหลังอีกแล้ว เข็ดจริงๆ
-
-
ผมเดินกลับขึ้นห้องไปอย่างเซ็งๆ ยังดีนะที่แพทเค้ากลับไปแล้วไม่ได้มาดักรอผมอยู่อีกไม่งั้นผมว่าคงต้องมีให้รปภ.มาจัดการลากตัวไปกันมั่งแหละ
" มินครับ พี่มีเรื่องจะบอกมินนะ" ผมเอ่ยขึ้นก่อน เอาวะ... ยังไงก็ต้องบอกไว้ก่อน กันไว้ดีกว่าแก้ว่ะ
" หือ... อะไรเหรอครับ แล้วทำไมหน้าเครียดจังอ่ะ" มินหันมามองผม ผมเลยนั่งลงที่ข้างๆน้องนั่นแหละ แล้วก็จับมือน้องไว้
" เมื่อกี๊นี้พี่ไม่ได้ลงไปเจอเพื่อนหรอกครับ แต่ว่าไปเคลียร์กับคนที่พี่เคยคบกับเค้าน่ะ เค้ามาตามตื้ออยู่ พี่ก็ไม่รู้ว่าเค้าจะมาทำอย่างนี้อีกทำไมในเมื่อเลิกกันไปตั้งนานมากแล้ว" มินฟังแล้วก็นิ่งสบตาผมอยู่ ซึ่งนั่นทำให้ผมใจไม่ดีเลยนะ
" เอ่อ... แล้ว พี่จะทำยังไงต่อล่ะครับ" มินเอ่ยถามผมด้วยสายตาที่ดูไหวหวั่นอยู่ จนผมรู้สึกผิดขึ้นมา
" ยังไงพี่ก็จะไม่ไปยุ่งกับเค้าอีกอยู่แล้วครับ พี่มีมินอยู่แล้วทั้งคนและจะมีแค่มินเท่านั้น ขอให้เชื่อใจพี่นะครับ พี่ขอแค่นั้นแหละ" ผมกุมมือน้องไว้แน่นแล้วก็เอามาแนบแก้มตัวเอง จนน้องยิ้มออกมาแล้วก็กอดผมไว้
" ครับ... ผมเชื่อพี่นะ ขอบคุณครับที่บอกผมเพราะพี่เห็นว่าผมสำคัญ แค่นี้ผมก็พอใจแล้วครับ อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ช่างมันเถอะครับ ผมรักคนที่อยู่กับผมตอนนี้ที่สุดแล้ว และคงไม่ใส่ใจว่าเมื่อก่อนพี่จะเป็นยังไงแล้วล่ะ พี่ไม่ต้องห่วงแล้วนะครับ" ผมฟังแล้วก็แทบไม่อยากเชื่อหูตัวเองเลย เหมือนฝันไป เหมือนคิดไปเอง
" ครับ พี่ดีใจจัง ตอนแรกพี่กลัวมากเลยนะรู้มั๊ย กลัวว่ามินจะไม่เข้าใจพี่น่ะ แต่พี่ไม่อยากทำเหมือนปิดบังอะไรมินอีกแล้วถึงต้องบอกกับมินตรงๆอย่างนี้ ขอบคุณที่เข้าใจพี่นะครับ" เฮ้อ... โล่งอกไปทีว่ะ
ตอนนี้ผมดีใจสุดๆที่น้องช่างเข้าอกเข้าใจผมดีขนาดนี้ เป็นอย่างนี้ได้ผมก็หมดห่วงซะที
แต่ทว่าในตอนนั้นผมก็หารู้ไม่ว่า ยังคงมีความซวยขนานใหญ่ก่อตัวขึ้นเงียบๆอยู่อีก และคราวนี้มันกลายเป็นพายุใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆแล้วด้วย
-
-
ผ่านไปสองวันผมยังคงไม่ได้ข่าวอะไรจากแพทเลย เหมือนเธอเงียบหายไปกับสายลมแต่ผมก็ไม่โทรไปหรอกนะ ได้แต่ภาวนาว่าอย่าให้นี่มันเป็นความสงบก่อนพายุใหญ่จะมาเลย
แต่แล้วไอ้พายุใหญ่นั่นมันก็โถมพัดมาหาผมจนได้ในวันนึง เพียงแต่ว่ามันไม่ได้มาจากแพทหรอกครับ เช้านั้นผมว่าผมจะนอนต่อให้สบายซะหน่อยไหนๆก็เป็นวันหยุด แต่แล้วก็ต้องตื่นขึ้นมาซะก่อน
" พี่เป้งครับ ตื่นเถอะครับ พี่ป้างเค้ามารออยู่ ท่าทางเค้าโกรธๆด้วยน่ะครับ" มินเขย่าตัวผมเบาๆ อืม.... ไอ้ป้าง มันจะแหกตามาทำไมแต่เช้าวะ ไอ้ป้าง เฮ่ย... ไอ้ป้างเหรอ เชี่ยแล้ว กู..... ฉิบหายล่ะทีนี้
" เฮ้ย...ไอ้ป้างมันมาเหรอครับ มิน" ผมเด้งลุกขึ้นนั่งทันที แมร่ง... ตาสว่างทันทีเลย สราด...ด
" ครับ เมื่อกี๊พี่เค้าตกใจที่เจอผมอ่ะครับ แล้วก็ถามว่าทำไมผมยังอยู่ที่นี่ แต่ผมไม่กล้าบอกอ่ะครับ เลยบอกว่าเดี๋ยวจะมาปลุกพี่ให้"
" แม่งเอ๊ย.... อยู่ๆก็มายังงี้ทุกที อืม... ไม่เป็นไรนะครับ เดี๋ยวพี่ไปคุยกะมันเอง" ผมเซ็งในอารมณ์เต็มที่แล้วก็เดินออกไปเลย ฟันเฟินยังไม่ต้องแปรง น้ำท่ายังไม่ต้องอาบแม่งล่ะ
เอาวะ ในเมื่อความมันแตกแล้วก็ต้องปล่อย อาจจะดีเหมือนกันไม่ต้องมานั่งปิดบัง เล่นละครอะไรแม่งอีกแล้ว เบื่อเหมือนกันแหละ
" อ้อ.... ออกมาแล้วเหรอ ก่อไว้หลายคดีมากเลยนะมึง รู้ตัวมั่งมั๊ยเนี่ย สัด..." มันเปิดฉากได้ก็ใส่ผมทันทีเลยครับ ก้นผมยังไม่ทันจะถึงโซฟาเลย
" คดีเชี่ยอะไรอีกห๊า กูไปทำอะไรให้ระคายเคืองมึงอีกวะ ถึงกะต้องแหกตามาหากูป่านนี้อ่ะ"
" เอ้า... แหกตาดูซะ งามหน้ามั๊ยมึงทีเนี้ย" มันด่าผมอีกแล้วก็โยนหนังสือกอสซิบดาราสามเล่มลงบนโต๊ะรับแขกดังโครม ผมเลยหยิบมาดู
เล่มแรกเป็นรูปผมกับมินกำลังเข็นรถช๊อปของกันอยู่ที่ฟู้ดแลนด์นั่นแหละครับ บรรยายไว้ว่า "ป้าง พีรนันท์กับสาวหน้าใสกระหนุงกระหนิงซื้อของเข้าบ้านด้วยกันอย่างนี้ สงสัยว่าได้ย้ายไปอยู่ด้วยกันเรียบร้อยแล้วรึเปล่า แล้วสาวอีกคนที่ว่าคบกันคนนั้นไปไหนเสียล่ะ"
ส่วนเล่มที่สองก็เป็นรูปผมกับมินนั่งกินข้าวกันที่ร้านอาหารที่ห้างตอนวันที่กลับจากไปรับแม่อัมที่โคราชนั่นแหละ นี่ก็บรรยายได้จี๊ดมาก "สวีทหวานกลางห้างดัง ป้าง พีรนันท์ ควงสาวสวยปริศนานั่งทานข้าวกุ๊กกิ๊กกันจนใครๆเห็นแล้วต้องอิจฉา" ซึ่งไอ้คนถ่ายเนี่ย มันก็ช่างถ่ายในมุมที่เหมาะเจาะซะจริงๆ ดูราวกับว่าผมสวีทกับมินมากจนไม่แคร์สายตาใครเลย
ส่วนเล่มที่สามนี่หนักเลยครับ เป็นรูปผมกำลังผลักแพทล้มไปบนโซฟาแล้วเดินออกไป มันก็ถ่ายเก็บไว้ได้ซะทุกชอตจริงๆ ตั้งแต่แพทกอดผมจนผมโมโหเหวี่ยงแพทล้มแล้วเดินหนีไป โดยที่แพทวิ่งตามผมไปติดๆ และแน่นอนครับคำบรรยายนี่เจ๋งมาก " ป้าง พีรนันท์ สลัดรักสาวอย่างเลือดเย็นกลางคอนโดหรู สงสัยงานนี้ต้องมีเคลียร์ยาวเพราะสาวคนนี้เป็นคนละคนกับที่เคยเป็นข่าวเสียด้วย"
และตอนนี้กลายเป็นผมซะเองที่ปรี๊ดขึ้นสมองจนถึงกับต้องนั่งกุมขมับ ทำไมมันซวยยังงี้วะ มิน่าไอ้ที่แว๊บๆเหมือนมีคนตามมันก็คือปาปารัซซี่เองเหรอ แถมทุกเล่มมันยังพร้อมใจกันหาว่าผมเป็นไอ้ป้างอีก เออ... กูเข้าใจมึงแล้วว่ะ เพราะงี้มึงถึงต้องแหกตามาหากูป่านนี้อ่ะ
" ไงล่ะมึง หลายกระทงนะงานนี้ ความผิดมึงอ่ะ จะแก้ตัวว่าไงก็ว่ามา" มันนั่งกอดอกพูดกับผมหน้าเครียดมาก
" ไม่อ่ะ กูไม่แก้ตัวหรอก กูผิดเอง ไม่รู้จริงๆว่ะว่าเดี๋ยวนี้ปาปารัซซี่มันจะมาตามแต่กู" ผมก้มหน้าลงอย่างสลดๆ พอเงยหน้ามาดูก็เห็นมันขมวดคิ้วหากันด้วยความแปลกใจอยู่
" อ่ะ... แล้วมึงจะไม่เถียงอะไรกูซะหน่อยก่อนเลยเหรอ เดี๋ยวนี้แปลกไปนะมึงเนี่ย"
" เอ้า... ก็กูผิดเองจริงๆนี่ บอกมึงแล้วว่าจะไม่ให้เป็นข่าว แต่ก็พลาดจนได้ แล้วมึงจะแถลงข่าวมั๊ย กูจะได้ไปแก้ข่าวให้" ผมอาสามัน
" ก็คงต้องอย่างนั้นแหละ กูเพิ่งเซ็นสัญญากับทางช่องเค้าไปหยกๆ ทางผู้ใหญ่ที่ช่องเค้าเลยโกรธว่าทำไมกลายเป็นข่าวอย่างนี้ กูก็บอกเค้าไปว่าเป็นมึง เค้าถึงเข้าใจ ก็คงจัดแถลงข่าวเร็วๆนี้แหละ"
" เออ... งั้นจะให้กูไปวันไหนก็โทรมาบอก ขอโทษมึงจริงๆที่ทำให้เดือดร้อนอีกแล้ว กูไม่ได้ตั้งใจว่ะ ไม่นึกว่าจะโดนตามอยู่เลยไม่ทันระวัง"
" ลำพังกูอ่ะ ไม่อะไรมากหรอกว่ะ แต่พ่ออ่ะดิเค้าโมโหสุดๆว่ามึงก่อเรื่องอีกแล้วโดยเฉพาะเรื่องทำร้ายแพทนั่นน่ะ" ฟังมันบอกผมยิ่งจี๊ดปวดตับขึ้นมาอย่างหนัก ก็ที่จริงแพทเค้าตามกูมาถึงที่นี่ได้มันก็เพราะมึงนะเนี่ย ไอ้เวร...
" สัด... กูไม่ได้ไปทำร้ายอะไรเค้านะเว้ย แค่กูโมโหที่เค้ามากอดกูต่อหน้าคนเยอะแยะอย่างนั้น ห้ามก็ไม่ฟังกูเลยผลักเค้าออกน่ะ ก็แค่นั้นแหละ.... คนอย่างกูถึงจะเหี้ยแค่ไหนแต่ก็ไม่ทำร้ายผู้หญิงแน่ๆ" ผมโวยเสียงดัง มันเลยเอื้อมมือมาจับไหล่ผมไว้
" เออๆ กูก็เชื่อมึงแหละ แต่ไอ้หนังสือเชี่ยนี่มันลำดับภาพซะดูแล้วเชื่อเลยว่ามึงทำร้ายผู้หญิงน่ะ พ่อเค้าเลยยิ่งโกรธ ลำพังแค่เรื่องบรรดาผู้หญิงของมึงอ่ะ มันก็แย่มากแล้วแต่ถ้าเป็นเรื่องยังงี้มันร้ายแรงอยู่ว่ะ เค้าเลยรับไม่ได้อ่ะ"
" เค้าก็โกรธกูในทุกๆเรื่องอยู่แล้วล่ะ โกรธเรื่องนี้อีกเรื่องจะเป็นไรไป ช่างเหอะว่ะ มันไม่ต่างกันหรอก" ผมบอกเสียงเนือยๆ ไอ้ป้างมันก็ขึ้นเสียงใส่ผมเลย
" ไอ้ห่านี่ มึงพูดยังงี้มันก็ไม่ถูก บ้านเราก็มีหน้ามีตาในวงสังคมนะเว้ย มึงคิดดิ๊ว่าพ่อจะตอบคนอื่นว่าไง ถ้าเค้าถามว่าเลี้ยงลูกยังไงถึงเป็นข่าวฉาวตลอดน่ะ มึงก็ต้องนึกถึงใจเค้ามั่งดิวะ ว่าทำไมเค้าถึงต้องโกรธอ่ะ"
อืม... ก็ถูกของมันครับ เป็นผมเองก็คงทำหน้าไม่ถูกจริงๆถ้ามีคนมาถามผมแบบนั้น เซ็งจริงเว้ย... ไอ้สังคมเส็งเคร็งเนี่ย ดีแต่ติฉินนินทากัน ไอ้ที่ดีๆน่ะ ไม่พูดถึงหรอก แต่ไอ้ที่เหี้ยๆล่ะก็ชอบพูดกันนัก แมร่ง......
" เออๆ ก็ยังงี้ทุกทีห่วงแต่หน้าตา เอาเหอะ... ถ้ามันยากนักก็ไม่ต้องบอกว่ากูเป็นลูกก็ได้ เรื่องมันจะได้จบว่ะ" ผมยังคงบ่นอย่างน้อยใจ
" ไอ้เชี่ยนี่ มึงจะบ้าไปใหญ่แล้วนะ ใจจริงน่ะพ่อเค้ารักเค้าห่วงมึงหรอกนะ เค้าถึงไม่อยากให้มึงทำตัวแบบนี้น่ะ" มันโวยผมเสียงดังอีก
" ห่วงกูเนี่ยนะ เหอะ มึงกลับไปบอกเค้านะว่าไม่ต้องห่วงกูแล้ว เพราะถ้าห่วงกูแล้วมาทำกะกูแบบนี้กูไม่ไหวว่ะ" คราวนี้มันเลยนิ่งแล้วก็ทำหน้าเอือมระอาผม
" เฮ้อ... มึงเนี่ยนะ กูล่ะเบื่อจะพูดกะมึงแล้วว่ะ เอาเป็นว่าเรื่องไปแถลงข่าวนี่กูจะโทรมาบอกอีกทีแล้วกัน"
" แล้วกูอยากให้มึงจำเอาไว้เลยนะว่ากูกับพ่อน่ะเป็นห่วงมึง ถึงมึงจะไม่เชื่อก็เหอะ" อยู่ๆมันก็พูดขึ้นมาแล้วก็จ้องตาผมเขม็งเลย ทำเอาผมก็อึ้งไปเหมือนกัน
เพราะแค่ในสายตานั้นของมันก็ยืนยันในสิ่งที่มันพูดแล้วว่ามันเป็นห่วงผมจริง ซึ่งผมก็ดีใจนะ ดีใจมากที่ระหว่างผมกับมันก็ยังคงรักกันดีไม่เคยเปลี่ยน
แต่สำหรับพ่อนี่ ผมบอกตรงๆเลยว่าผมไม่แน่ใจ จริงอยู่ไม่มีพ่อคนไหนเกลียดลูกได้หรอก แต่ในการรับรู้ของผมการกระทำทุกอย่างของพ่อมันช่างสวนทางกับความจริงอันนี้ซะเหลือเกิน
" อ้อ... แล้วนี่ตกลงเด็กที่อยู่กับมึงเนี่ย มันยังไงกันแน่วะ ไหนมึงบอกว่าเป็นญาติไอ้เอ๊กซ์ไง แล้วทำไมเค้ายังอยู่กะมึงเนี่ย ไหนว่าอยู่ไม่กี่วันก็จะกลับไปบ้านเค้าแล้วไง" ผมอึ้งอีกแล้วครับ แมร่ง.... จะบอกมันว่าไงดีว้า
" ตอบกูมาเร็วๆ สัด...." มันขึ้นเสียงทันทีที่เห็นว่าผมอึ้งๆไป
" กู......เอ่อ... "
************************************