[อาบใจด้วยไอรัก]ตอนอวสานครับ ปลายทางความรักจะเป็นอย่างไร p.39/19-03
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [อาบใจด้วยไอรัก]ตอนอวสานครับ ปลายทางความรักจะเป็นอย่างไร p.39/19-03  (อ่าน 336236 ครั้ง)

ออฟไลน์ DarKLasT

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 595
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
ว้าวๆๆพรุ่งนี้อิอิ

มีเรื่องอยากบอกไม่รู้ว่าคนแต่งจะะอยากรู้รึป่าว ผม ชื่อ ที ครับ อิอิ

ดันไว้ๆๆ

ออฟไลน์ Goodfellas

  • magKapleVE
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1828
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +384/-2
    • Adult games: dating for spicy meetups
ว้าวๆๆพรุ่งนี้อิอิ

มีเรื่องอยากบอกไม่รู้ว่าคนแต่งจะะอยากรู้รึป่าว ผม ชื่อ ที ครับ อิอิ

ดันไว้ๆๆ

555 อยากรู้ดิครับ  ถ้าเป็นไปได้อยากรู้ชื่อคนอ่านทุกคนเลยครับผม  แต่กลัวจะลืมซะก่อนเพราะความจำสั้นมาก เหอะๆ

แล้วคนอ่านอยากรู้ชื่อคนเขียนรึป่าวครับ  ว่าชื่อ น๊อต คร้าบ  ยินดีที่ได้รู้จักครับผม :o9:

ออฟไลน์ DarKLasT

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 595
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
ว้าวๆๆพรุ่งนี้อิอิ

มีเรื่องอยากบอกไม่รู้ว่าคนแต่งจะะอยากรู้รึป่าว ผม ชื่อ ที ครับ อิอิ

ดันไว้ๆๆ

555 อยากรู้ดิครับ  ถ้าเป็นไปได้อยากรู้ชื่อคนอ่านทุกคนเลยครับผม  แต่กลัวจะลืมซะก่อนเพราะความจำสั้นมาก เหอะๆ

แล้วคนอ่านอยากรู้ชื่อคนเขียนรึป่าวครับ  ว่าชื่อ น๊อต คร้าบ  ยินดีที่ได้รู้จักครับผม :o9:

ฮ่าๆ อยากรู้จักสิครับคุณน๊อต

แต่ว่าความจำสั้นแต่รักฉันยาวรึป่าวครับคุณน๊อต

ปัดๆถูๆ จองคิวแรกๆๆ รอนน้องมิน พรุ่งนี้

ต้องเตรียมเลือดสำรองไว้ด้วยนะอิอิ

ออฟไลน์ Goodfellas

  • magKapleVE
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1828
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +384/-2
    • Adult games: dating for spicy meetups
มาแล้วคร้าบ  น้องมินที่ทุกท่านรอคอย

เสิร์ฟของหวานๆไปแล้ว  คราวนี้ก็เสิร์ฟมาม่าให้ทานกันต่อนะครับ  แต่ไม่ต้องห่วงแค่มาม่าเบาๆรสไม่จัดอ่ะ

(ว่าแล้วก็วิ่งหลบข้า่วของและรองเท้าที่โดนขว้างมาเพราะคนอ่านไม่พอใจ :o211: อิอิ) :laugh3:

ตอนที่29

                                 **************************************

         เช้าของวันที่สามแล้ว  วันนี้ผมตื่นมาอย่างสดชื่นว่ะ  เหอะๆ  มันแช่มชื่น  สดใส ซาบซ่า เหมือนกินโค๊กเลยทีเดียว  มองไปทางไหนก็.... สดชื่น......น  สวยงามไปหมด  หึๆ

         " เดี๋ยววันนี้เราเข้าสปากันนะครับ  พี่มีคูปองเดย์สปาฟรีหนึ่งคอร์สสำหรับสองคนอยู่  ต้องใช้ให้คุ้ม" 

         " เหรอครับ  แล้วสปาที่นี่เค้าจะทำอะไรมั่งอ่ะครับ  นวดๆตัวน่ะเหรอ  ผมไม่ค่อยชอบเลยอ่ะ"  มินบ่นหน้ามุ่ยๆ

         " อืม... พี่ว่ามันคงมีให้เลือกน่ะ  ถ้าไม่นวดก็คงทำอย่างอื่นได้  ขัดผิวนวดหน้า  พอกหน้าอะไรแบบนี้แทนละกัน"

         พอทานอะไรกันเรียบร้อยผมก็พาน้องมาที่สปาด้วยกัน  ที่นี่เค้าตกแต่งได้น่าสบายมากๆ โอ่โถงโล่งสบายมีกลิ่นหอมๆของพวกอโรม่าต่างๆอบอวลตลอด

         " ตกลงมินให้เค้าพอกหน้านวดหน้าแค่นั้นก็ได้มั๊ง  เดี๋ยวพี่จะลองถามเค้านะ"  ผมหันไปถามมินแล้วก็หันไปถามพนักงานที่เคาท์เตอร์ให้เค้าแนะนำบริการ   

         ตอนนี้ผมก็มานอนชิลล์ๆให้พนักงานสาวสวยนวดอโรม่าให้   ราวกับราชาเลยว่ะ  เหอะๆ  ส่วนมินก็นอนให้เค้าเอาครีม โคลน ผลไม้ สมุนไพรและอีกมากมายมาทาหน้าจนเต็ม  นอกนั้นก็พอกไปตามผิวที่แขนและขา

         " แหม... น้องนี่ผิวดีมากๆเลยนะคะ  ดีกว่าผู้หญิงบางคนซะอีก  เนี่ยไม่งั้นพี่ต้องนึกว่าเราเป็นผู้หญิงแน่ๆเลย"  เสียงพนักงานคนที่บริการมินอยู่เปรยๆขึ้นกับมิน

         " จริงด้วยค่ะ... เนี่ย  พี่ยังอิจฉาเลย  ผิวขาวเนียนสวยขนาดนี้แสดงว่าดูแลดีแน่ๆ"  พนักงานอีกคนเห็นด้วย  ผมเลยหันไปมอง

         " ก็ไม่หรอกครับ  ผมก็ดูแลตามปกติเอง"  มินบอกอย่างถ่อมตัว  หึๆ สวยใสยังงี้  แฟนผมคร้าบ  แฟนผม

         ผ่านไปเกือบสามชั่วโมง   ตัวเบาเลยอ่ะครับ  สบายตัวสุดๆ  มินก็บอกว่าสบายผิวมาก  สงสัยว่างๆคงต้องทำเองที่บ้าน  ผมก็หัวเราะ  ไม่ต้องแล้วครับน้อง  แค่นี้พี่ก็หลงจะแย่แล้ว  อย่าสวยไปกว่านี้เลยน่า

         หลังจากกลับมาที่ห้องก็เก็บข้าวของกันทันทีเพราะต้องเช็คเอ้าท์กันก่อนเที่ยง  พอจัดการอะไรๆเรียบร้อยก็หิวทันทีครับเลยแวะกินข้าวกันก่อนแล้วก็นั่งรถของโรงแรมมาสนามบิน   มินก็ตื่นเต้นที่จะได้ขึ้นเครื่องอีกแล้ว  ฮ่าๆ เด็กน้อยเอ๊ย

         -

         -

         เครื่องที่เรานั่งบินกลับมากรุงเทพฯและลงจอดที่สนามบินโดยสวัสดิภาพ   ผมพาน้องกลับมาขึ้นรถผมที่จอดไว้ที่ลานจอดแล้วขับออกมา   ระหว่างทางกลับจากสนามบินนั้นใจผมยังคงนึกอาลัยอาวรณ์ถึงทริปแสนสุขนี้อยู่   แต่จะทำไงได้ล่ะ  ยังไงก็ต้องกลับมาเมืองหลวงวุ่นวายเหมือนเดิมแล้วอ่ะนะ  ถ้าทำได้ล่ะก็...  อยากอยู่ต่อไปอีกสักเดือนเลยว่ะ  เหอๆ

         แม่อัมกับไอ้แมนดูจะถูกใจของฝากของมินมากอยู่  แต่ผมดิไม่ได้ซื้ออะไรกลับมาฝากที่บ้านเลยเพราะไม่รู้จะซื้ออะไรนั่นแหละ  แต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวผมพาแม่ไปเลี้ยงอาหารญี่ปุ่นแทนดีกว่า ฮ่าๆ แม่เค้าชอบกิน  พาไอ้ป้างมันไปด้วยเลย

         เฮ้อ... พอกลับมาคอนโดผมก็นอนแผ่ทันที  เพราะตอนนี้ต้องยอมรับว่าเรากลับมาสู่ชีวิตเดิมของเราแล้ว   มีอีกสารพัดปัญหาที่รอผมอยู่เพียบ  หนึ่งในนั้นก็คือเรื่องพ่อนี่ไง   ผมจะบอกพ่อเรื่องมินยังไงให้บัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่นได้วะเนี่ย

         พอดีเสียงโทรศัพท์ผมดังเลยหยิบดูก็เห็นว่าเป็นไอ้ป้างโทรมาครับ

         " เฮ้ย... นี่มึงกลับมายังวะ  อยู่ไหนแล้วเนี่ย"  มันเปิดฉากถามผม

         " เออ... เพิ่งถึงคอนโดเนี่ย  มีไรวะ"

         " เหรอ... เออ ดีแล้ว  กูจะบอกมึงว่าอีกสี่วันแม๊กกาซีนที่เราไปถ่ายเค้าจะวางแผงวันแรกว่ะ  เห็นพี่ๆเค้าบอกว่าเป็นฉบับพิเศษเค้าเลยอยากจะจัดงานโปรโมทแล้วให้มึงกะกูไปร่วมด้วย   มึงยังว่างอยู่ใช่มั๊ย"  ผมฟังมันแล้วก็อึ้งไปนิดนึง  ในใจก็คิดนะ  คิดถึงเรื่องที่ผมตั้งใจไว้ว่าคงจะไม่เข้าวงการหรอกนะ

         " อืมได้... ก็ยังว่างแหละ"  ผมรับคำมันไป  ไม่อยากปฏิเสธมันอ่ะ

         " เออดี... แต่ว่าพี่เค้าให้มึงกับกูไปซักซ้อมเรื่องคิวว่าวันงานต้องทำอะไรบ้าง  เค้าเลยนัดซ้อมก่อนวันนึง  งั้นกูไปรับมึงนะ จะได้ไม่เสียเวลา  ไปด้วยกันทีเดียวเลย" 

         " ก็ได้... ว่าแต่ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรใช่มั๊ยวะ"

         " เตรียมใจไปก็พอ  งานนี้กูว่ามึงอ่ะเกิดแน่  ฮ่าๆๆ  รู้มั๊ยว่างานนี้ทางแม๊กกาซีนเค้าตั้งใจโปรโมทมึงกะกูโดยตรงว่ะ   และเค้าต้องจัดเป็นงานใหญ่แน่  เพราะระดับเค้าแล้วงานเล็กๆเค้าไม่ทำหรอก  เพราะงั้นถ้ามึงไม่เกิดงานนี้ก็ไม่รู้จะว่าไงแล้วล่ะ" 

         " เออๆ  ก็.. ตามนั้นแหละ  งั้นเจอกันวันมะรืนเว้ย"  ผมวางสายมันไปอย่างหดหู่ยังไงไม่รู้  จริงๆผมอยากจะดีใจจังว่ะ  โอกาสมันมาถึงแล้ว  เฝ้ารอมาตั้งนาน

         แต่... จะทำไงได้ล่ะ  ผมเลือกไปแล้วนี่  เลือกแล้วว่ายินดีจะหันหลังให้ทุกอย่างเพื่อน้องเท่านั้น.................

         -

         -

         " พี่เป้งครับ"

         ".................."

         " พี่เป้ง...."  มินเรียกเสียงดังอีกครั้งพร้อมกับเขย่ามือผมจนสะดุ้ง  นี่ผมเผลอใจลอยไปขนาดนี้เลยเหรอวะเนี่ย

         " เอ้อ... ครับ  ว่าไงนะ"  ผมหันไปถามน้องเพราะไม่รู้มินพูดอะไรไปมั่ง  ก็มัวแต่ใจลอยคิดมากว่ะ  เพราะวันสองวันนี้ผมคิดแต่เรื่องงานโปรโมทนั่นตลอดเลย

         " ใจลอยคิดถึงใครอ่ะครับ ฮึ..."  มินบ่นหน้างอๆเหมือนไม่พอใจ  เวรล่ะกู

         " ป่าวครับ...  ทำไมคิดงั้น ก็บอกแล้วพี่จะไปคิดถึงใครได้อีกล่ะ  ก็ใจพี่มันอยู่กับคนนี้คนเดียวนี่นา"  ผมว่าแล้วก็เนียนกอดน้องซะ

         " จริงเร้อ..." มินหันมาแล้วทำหรี่ตามองผมเหมือนไม่เชื่อ

         " จริงที่สุด  ไม่มีอะไรจะจริงไปกว่านี้อีกแล้วล่ะครับ  เชื่อเหอะ"

         " ครับ... เชื่อก็ได้"  มินหันมายิ้มแล้วก็หัวเราะผมคิกคัก  แสดงว่าแกล้งไม่พอใจผมแน่เลยเมื่อกี๊

         " แล้วใจลอยเรื่องอะไรอ่ะครับ  บอกได้มั๊ย"  คราวนี้น้องถามด้วยสีหน้าค่อนข้างเป็นห่วง

         " ก็ไม่มีอะไรหรอก  เอ้อ... แม๊กกาซีนที่พี่ไปถ่ายกับไอ้ป้างจะวางแผงวันมะรืนนี้นะครับ  อยากเห็นมั๊ย"

         " อ๊ะ... เหรอครับ  อยากเห็นจัง  วันมะรืนนี้แล้วเหรอ"  มินทำท่าทางตื่นเต้นตาวิ้งๆเหมือนเคย  เห็นกี่ครั้งผมก็หลงทุกทีสิน่า

         " ครับ แล้ววันที่วางแผงพี่ต้องไปในงานโปรโมทหนังสือเค้าด้วยนะ  "

         " ก็ดีสิครับ  ทีนี้พี่ก็จะได้ดังไปเลย  จะได้เกิดในวงการเหมือนพี่ป้างแล้ว  ดีใจจังครับ"  มินยิ้มให้ผมด้วยท่าทางดีใจอย่างมาก  แต่ยิ่งผมเห็นอย่างนี้แล้วยิ่งมั่นใจเลยว่าผมคงให้น้องรู้เรื่องที่ผมจะไม่เข้าวงการไม่ได้หรอก

         เพราะถ้าน้องรู้น้องคงโทษตัวเองแน่นอน  เหมือนกับว่า... เพราะมินผมถึงต้องเลือกปฏิเสธอนาคตในวงการไปทั้งๆที่รอมันมานาน  และน้องจะต้องเสียใจมากแน่ๆ
         
         " โอย... ไม่หรอกครับ  พี่คงไม่หวังดังซะอย่างไอ้ป้างมันหรอก ฮ่าๆ น่าเบื่อจะตายต้องไปเล่นละครอะไรก็ไม่รู้ยากออกนะนั่น  พี่คงจำบทไม่ได้หรอก  ถึงจำได้ก็คงเล่นแข็งเป็นท่อนไม้แน่ๆ" 

         " โธ่... ไม่หรอกครับ  พี่อ่ะเก่งออก  ฉลาดแล้วก็มีความสามารถอย่างนี้แค่เล่นละครไม่ครนามือหรอกครับ ฮะๆ" มินบอกพลางวางสองมือโอบรอบคอผมหลวมๆแล้วยิ้มสบตากับผมอย่างให้กำลังใจ

         " หึๆ คร้าบ  แต่พี่อ่ะเหมาะจะเป็นสุดยอดเชฟมากกว่านะ  ให้ไอ้ป้างมันเป็นซุปตาร์ไปเห๊อะ  ไม่งั้นเดี๋ยวพี่ดังแล้วไปกลบรัศมีมันหมดพอดี ฮ่าๆ"  ผมยังคงแกล้งเล่นมุขให้น้องขำไปเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกตัวเองตอนนี้  และต้องพยายามฝืนยิ้มไปกับน้อง  ซึ่งมันตรงข้ามกับใจผมซะจริงๆ

         เพราะข้างในใจน่ะเหรอ  เสียดายจริงๆครับ  เสียดายโอกาสงามๆที่เคยหวังไว้  และตอนนี้ความเสียดายนั้นมันเหมือนเกาะกินใจผมไปถึงไหนๆแล้ว  ไม่เคยนึกว่ามันจะทำให้ผมหนักใจได้มากขนาดนี้เลย  ทั้งที่ผมก็เตรียมใจไว้บ้างแล้ว   แต่ตอนนี้ดูเหมือนมันจะไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่เลย

         แต่ก็เอาเหอะผมยินดีจะแบกรับไอ้ความรู้สึกแย่ๆไว้เองดีกว่า  เพราะผมไม่อยากให้รอยยิ้มใสๆของน้องที่ผมมองเห็นอยู่ตรงนี้มันเลือนหายไปเลย  เพราะนี่ต่างหากสิ่งสำคัญที่สุดของผม  และเป็นหัวใจของผมจริงๆ

         คนเราเสียแขนขาไปก็แค่กลายเป็นคนพิการแต่ยังมีชีวิตต่อไปได้  แต่ถ้าต้องเสียหัวใจไปล่ะ  จะมีชีวิตอยู่ต่อไปยังไงกัน....

         -

         -

         วันงานโปรโมทมีผู้คนในวงการมาร่วมงานมากมาย  นี่ยังไม่นับกองทัพสื่อมวลชนอีกล้านเจ็ดได้มั๊งที่มาออกันอยู่หน้างานเพื่อรอทำข่าว   และงานนี้เค้าก็ทำเก๋โดยจัดเป็นปาร์ตี้ริมสระในโรงแรมหรูห้าดาวเลยล่ะ

         เมื่อวานผมมาซ้อมกับไอ้ป้างตั้งแต่เช้าโดยทางพี่ๆทีมงานเค้าก็ซักซ้อมคิวให้ผมกับมันเดินออกมาคู่กันในชุดว่ายน้ำที่ไปถ่ายกันนั่นแหละเพื่อโชว์ตัว   และพอเดินออกมาหยุดที่หน้าเวทีที่จัดแบบแคทวอร์คเดินแบบก็จะมีนางแบบสาวๆเอาเสื้อคลุมมาสวมให้ผมเพื่อให้ดูเซ็กซี่แบบเท่ๆ 

         " คนเยอะฉิบหาย  ชักเกร็งๆว่ะเฮ้ย"  ผมบ่นกับไอ้ป้างเบาๆขณะที่ไปยืนแอบมองออกไปหน้าเวที

         " อีกแล้ว  มึงนี่ อย่าคิดมากดิ  ตั้งใจมากไปก็เท่านั้น  ปล่อยสบายๆไป  อย่ามัวแต่คิดว่ามันเป็นงานเลย"  มันแนะนำผมอีกรอบ  เฮ้อ... ก็มันไม่ชินนี่วะ

         ยิ่งพอมองออกไปยังคนที่นั่งออกันอยู่หน้าเวทีก็ยิ่งตื่นเต้นอ่ะครับ  ดาราดังๆเซเล็บดังๆทั้งนั้นเลย  งานนี้มันไม่ใช่แค่งานช้างแล้วว่ะ  ไดโนเสาร์แล้วเหอะ  แต่ก็... สู้เว้ย...ย

         พอบอกตัวเองอย่างนั้นผมก็ไปยืนเตรียมตัวพยายามข่มความตื่นเต้นลงไป  พอมีเสียงประกาศของพิธีกรไอ้ป้างก็พยักหน้าให้ผมเป็นสัญญาณแล้วเราก็เดินออกไปพร้อมกัน

         เสียงปรบมือกับโห่ร้องดังสลับไปมา  ผมกับไอ้ป้างเดินไปหยุดยืนที่ปลายเวทีนั้นอย่างสง่าและเท่สุดๆ  จากนั้นก็มีนางแบบชุดว่ายน้ำเอาเสื้อคลุมมาคลุมให้ผมกับมันตามคิวที่วางไว้เป๊ะๆ   ตอนนี้ผมโล่งใจไปครับว่าเราไม่หลุดคิว  กลัวพลาดแทบแย่ว่ะ เหอๆ  ไม่งั้นคงหน้าแหกแน่

         ตั้งแต่ผมกับมันออกไปยืนเท่อยู่ด้วยกันจนพิธีกรเริ่มสัมภาษณ์เนี่ย  แสงไฟแฟลชจากกล้องยังไม่มีหยุดเลยนะครับ  ทุกคนในงานจ้องมองแต่ผมสองคนให้สัมภาษณ์บนเวที  แต่ผมเองตอนนี้ก็ไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่แล้ว  นึกชมไอ้ป้างมันนะ  แม่งชิลล์ได้ตลอดไม่มีตื่น  สมกับเป็นซุปตาร์จริงเว้ย

         ในขณะนึงนั้นผมมองเห็นถึงความสำเร็จ  ชื่อเสียงและเงินทองมันมาลอยอบอวลอยู่รอบๆตรงนั้นเลยล่ะ  แค่ผมก้าวต่อไปอนาคตสดใสในวงการมันคงรอผมอยู่ตรงนั้นเรียบร้อยแล้ว

         แต่ในความเป็นจริงผมต้องให้สิ่งเหล่านี้มันเป็นแค่ฝันแค่นั้นสินะ  พรุ่งนี้ผมก็ต้องตื่นมารับความจริงแล้วนี่ว่าผมต้องหันหลังให้กับมันทั้งหมดเพราะผมต้องเลือกอนาคตของผมกับมินก่อน  เหมือนใจสลายเลยนะ

         " โอเค... เป็นไงบ้าง  เหนื่อยมั๊ย"  พี่วินนี่เดินมาถามผมทันทีที่ผมลงมาจากเวทีครับ

         " ก็นิดหน่อยครับผม"

         " งานนี้สำเร็จอย่างสวยงามเลยนะครับ  ทางเราต้องขอบคุณมากๆเลย"

         " ไม่หรอกครับ  พวกผมต้องขอบคุณพี่มากกว่าที่ให้โอกาสมาร่วมงานนี้น่ะครับ"  ผมเอ่ยแบบถ่อมๆตัวไปก่อน

         " ครับ  เอ้อ... พี่ยังอยากถามเรานะครับว่าที่รับปากไว้ว่าจะมาถ่ายงานคราวหน้าให้พี่น่ะ  เปลี่ยนใจรึยังเอ่ย"  พี่วินนี่ทวงสัญญาผม  เฮ้อ... ก็เสือกไปรับปากเค้านี่หว่า  ตอนนั้นปากไวไปหน่อยไม่ทันคิด

         " เอ่อ... ครับผม  ไม่เปลี่ยนใจหรอกครับ  ผมรับปากพี่ไว้แล้วจะมากลับคำได้ไง" 

         " ดีมาก  งั้นพี่จะโทรนัดวันมาตกลงรายละเอียดอีกทีนะครับ"  พี่วินนี่สรุปสั้นๆ  ผมก็ยืนเซ็งอยู่ตรงนั้นอ่ะ  จนไอ้ป้างมันมาถามว่าเป็นอะไรผมก็บอกมันเรื่องงานนี้

         " อะไรของมึงวะ  ก็ดีแล้วนี่หว่า  มีงานดีๆยังงี้อ่ะก็คว้าไว้สิวะ"  มันบอกผม  เฮ้อ... มึงนี่ก็ไม่ได้รู้อะไรเล๊ย

         " ป้าง... กูมีไรอยากคุยกะมึงหน่อยว่ะ"  ผมตัดสินใจคุยเรื่องนี้กับมัน   เพราะไม่งั้นผมอาจอกแตกตายได้

         " มีไรเหรอวะ  เออๆ  งั้นเดี๋ยวไปเปลี่ยนชุดก่อนเหอะแล้วเดี๋ยวไปนั่งเล่นกะกูร้านเดิมนะ"  มันบอกแล้วก็เดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากับผมแล้วออกมาร่ำลาพวกพี่ๆทีมงานแล้วก็ขับรถออกมาด้วยกันมุ่งตรงไปร้านประจำที่ผมเคยไปนั่งกินกับมันบ่อยๆเมื่อก่อนนี้   เป็นร้านนั่งชิลล์แถวตรอกข้าวสารล่ะครับ

         " หา... มึงว่าไงนะ  ต่อไปมึงจะไม่รับงานอะไรอีกแล้วเหรอ  ทำไมล่ะวะ"  ไอ้ป้างลุกพรวดเลยครับเมื่อได้ฟังผมบอกมันว่าจะไม่รับงานอะไรอีกแล้วหลังจากนี้

         " เออ... มึงไม่ต้องตกใจเว่อร์นักหรอก  นั่งเลยสัด  คนมองทั้งร้านแล้ว"  มันเลยหันไปมองรอบๆนิดนึงพลางนั่งลง

         " แล้วมันอะไรกันวะเนี่ย  จะไม่รับงาน  มึงทำยังงี้ทำไมวะ"  คราวนี้มันบ่นอย่างหัวเสียเลยครับ

         " ก็มันจำเป็น  มึงลืมแล้วรึไงว่ากูคบกะใครอยู่"  พอมันฟังผมมันก็อึ้งไปครับ  นึกได้แล้วสิมึง

         " ทีนี้ถ้ากูเกิดดังขึ้นมาตอนนี้จะเป็นไงอ่ะ  เรื่องทุกอย่างของกูก็ต้องรู้กันหมด  ทีนี้ล่ะมึงงามหน้าแน่ๆ  ดาราหนุ่มดาวรุ่งมีแฟนเป็นเด็กผู้ชายแถมรักกันหวานชื่น  คนอื่นทั้งประเทศรู้อ่ะยังไม่เท่าไหร่  แต่พ่อรู้กูคงตายว่ะ"

         " เออ... ก็จริงของมึงว่ะ  แม่งเอ๊ย  กูก็ลืมเรื่องนี้ไปเลย"  มันบ่นแล้วก็เอามือกุมขมับ

         " กูเลยต้องเลือกว่ะ  โทษทีนะเว้ย  เรื่องเข้าวงการนี่กูคงจำเป็นต้องปล่อยมันไปแล้วล่ะ  คงไม่หวังอะไรแล้วเพราะยังไงกูก็เลือกมินเท่านั้น  มึงเข้าใจกูนะ  อย่าปวดหัวเพราะกูเลยว่ะ  มึงก็ช่วยกูมาเยอะแล้ว"  ผมบอกแล้วตบไหล่มันเบาๆแทนคำขอบใจ

         " อืม... กูเข้าใจดี  แต่ว่านะ... มึงแน่ใจแล้วเหรอวะว่าจะทำแบบนี้จริงๆน่ะ  มึงเองก็รอวันนี้มานานเหมือนกันนี่หว่า"  มันถามผม  นั่นก็ทำเอาผมอึ้งไปด้วยความสับสนในใจ

         " กู.... ก็ไม่รู้สิ  ถามว่ากูมั่นใจมั๊ย  กูบอกตรงๆว่าก็ไม่มั่นใจหรอก  มันเสียดายโอกาสว่ะ  กูเคยทำพลาดไปแล้วหนนึง  แต่นี่ก็ต้องมาทิ้งมันไปเฉยๆอีกแล้วยังงี้   กู..... เสียดายจริงๆว่ะ"  ผมระบายให้มันฟัง  มันก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ

         แต่เวลานี้ผมเองกับรู้สึกแย่มากทั้งอึดอัดจนอยากจะร้องไห้แล้วก็สับสนไปหมด  ก็เพียงแค่เพราะผมเสียดายโอกาสนี่แหละ 

         " แต่ยังไงกูก็คงต้องเลือกมินอยู่ดีว่ะ  กูรักน้องคนเดียวและน้องก็รักกู  เพราะงั้นกูคงไม่เหี้ยพอจะทิ้งมินไปเอาดีอยู่ในวงการคนเดียวหรอกว่ะ  มันเลวเกินไปแบบนั้นน่ะ   ต่อให้กูทำยังงั้นแล้วกูดังจริงๆแต่ถึงตอนนั้นมันก็ไม่มีความหมายหรอกว่ะ"

         " เออ... ถ้ามึงมั่นใจแล้วว่าจะทำยังงี้กูก็ไม่ว่ามึงหรอก  คนที่จะรักมึงและมึงรักเค้าได้อย่างนั้นก็คงมีแค่คนเดียว   ถ้าเป็นกูๆก็ต้องเลือกเหมือนมึงว่ะ"

         " แต่ที่กูต้องขอมึงอีกอย่างก็คือ  เรื่องนี้ต้องไม่ให้มินรู้เด็ดขาดเลยนะเว้ย  ไม่งั้นมินคงเสียใจแน่ๆว่ะที่เป็นสาเหตุให้กูต้องทำแบบนี้   ไม่อยากให้มินโทษตัวเองเลยว่ะ"

         " ได้ดิ  เรื่องนี้กูจะขอแค่รับรู้ไว้เท่านั้นว่ะ  และจะไม่พูดถึงเรื่องนี้อีกแล้วกัน"  ไอ้ป้างพยักหน้ารับปากกับผม

         " ขอบใจว่ะที่เข้าใจ  กูคงรับงานพี่วินนี่ที่แม๊กกาซีนนั่นอีกแค่งานเดียวแล้วก็คงไม่รับงานอะไรอีกแล้วล่ะ  เพราะงานนั้นกูรับปากเค้าไว้แต่ต้นเอง  ไม่อยากเสียคำพูดว่ะ"

         " เออ... ก็ดีแล้ว  วันที่ไปถ่ายกูจะไปเป็นเพื่อนนะ  เค้านัดวันมายัง"  มันเสนอตัวครับ   แต่ผมก็รู้แหละซุปตาร์ดังคิวเยอะจนแน่นอย่างมันจะว่างง่ายๆได้ไง  มันก็คงแค่อยากไปเป็นเพื่อนผม ไปให้กำลังใจผมนั่นแหละ 

         " ยังหรอกว่ะ  แต่ไม่เป็นไรหรอก  งานมึงเยอะแยะจะว่างไปกะกูได้ไง  แต่ก็ขอบใจนะเว้ย  กูรู้ว่าจริงๆมึงห่วงกู  แค่นั้นกูก็พอใจแล้ว"  ผมยิ้มให้มันซึ่งมันก็ยิ้มตอบผม 

         ตอนนี้ผมรู้สึกแย่ซะจริงๆ  มันสับสนและเสียดายแล้วก็ใจหายอย่างมากกับที่ต้องตัดสินใจทำไปยังงี้   แต่พอได้เห็นไอ้ป้างนั่งยิ้มเป็นกำลังใจให้ผมตรงนี้แล้วผมก็อุ่นใจว่ะ  อย่างน้อยๆก็มีมันที่เข้าใจผมเสมอและยินดีจะอยู่ข้างๆผมอย่างนี้ตลอดไป  แค่นี้ผมก็โอเคแล้ว   

         -

         -

         วันต่อมาผมไปหามินตอนบ่ายๆน้องก็รีบออกมาหาผมอย่างตื่นเต้นแล้วก็เอาแม๊กกาซีนที่ผมขึ้นปกกับไอ้ป้างมาให้ดูด้วย

         " เนี่ยครับ  มินไปซื้อกับไอ้แมนมาเมื่อวาน  ตื่นเต้นแทบแย่อ่ะครับ  พี่กับพี่ป้างดูดีมากๆเลยอ่า  ดูดีทุกรูปเลยครับ"  มินบอกแล้วก็พลิกหน้าแม๊กกาซีนให้ผมดูรูปที่ถ่ายไว้กับไอ้ป้าง

         " แหม... ดูดีทั้งคู่เหรอครับ  แค่นั้นเองเหรอ  ระหว่างพี่กับไอ้ป้างเนี่ยมินว่าใครดูดีกว่ากันล่ะ"  ผมแกล้งถามน้อง  จนเจ้าตัวทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเลย  ขำชะมัด

         " อะไรครับ  ก็พี่เป็นฝาแฝดหน้าเหมือนกันนี่นา  แล้วจะดูดีกว่ากันยังไงอ่า"

         " ฮ่าๆ  ก็เนี่ยทรงผมก็ยังไม่เหมือนกัน  มันก็ต้องมีคนนึงดูดีกว่าดิครับ"  ผมยังคงแกล้งถามน้องอยู่  ก็อยากรู้อ่ะว่าจะเข้าข้างผมมั่งมั๊ยนะ  โก๊ะหมวยเนี่ย

         " อ๋อ... ที่แท้จะให้ชมว่าพี่หล่อกว่าพี่ป้างใช่มั๊ยล่ะ"  หึๆรู้ทันจนได้

         " ก็ลองบอกมาสิครับ  ว่าใครหล่อกว่ากัน" 

         " อืม... ก็ได้ครับ  พี่เป้งหล่อกว่าหน่อยนึงอ่ะ"  มินตอบแล้วก็ยิ้มๆ

         " หือ... แค่นิดนึงเองเหรอ  ทำไมอ่า  พี่หล่อกว่ามันตั้งเยอะนะ" 

         " แหยะ... พี่อ่ะหลงตัวเองแล้ว  น่าเกลียดจัง" น้องว่าแล้วก็ยี้ปากให้ผมซะงั้น

         " อ้าว... มาว่าพี่น่าเกลียดได้ไง  เดี๋ยวเหอะ  โก๊ะหมวยนี่" 

         " ก็พี่อ่ะแหละ  หลงตัวเอง  ชอบคิดว่าตัวเองหล่อนัก  เนี่ยแหละนิสัยคนเจ้าชู้"  อ้าว... ไหงงั้นล่ะที่รัก  คนละเรื่องกันเลย

         " ดู... มาว่าพี่เจ้าชู้อีก  มานี่เลย  มาให้ทำโทษซะดีๆ"  ผมบอกแล้วก็กำลังจะขยับไปจะคว้าตัวน้องมา  แต่มินก็หัวเราะแล้ววิ่งหนีผมไปซะก่อน

         ตอนนี้ผมยังค่อนข้างสบายใจดีอยู่ที่ได้เห็นน้องมีความสุขดีแบบนี้ได้   แม้ใจผมเองจะยังแย่ๆอยู่แต่ก็เอาเหอะ  ไม่เป็นไรหรอก  ผมจะต้องทำใจให้ได้  คิดซะว่ามันก็ต้องได้อย่างเสียอย่างแหละ

         และมินคือทางที่ผมเลือกแล้ว   จากนี้ไปผมคงต้องหันหลังให้วงการจริงๆ  ว่าแต่... ยังไงซะนี่ผมก็ต้องไม่ให้น้องรู้สินะ  ว่าผมต้องทำแบบนี้เพราะมิน   ไปๆมาๆผมก็ต้องมีเรื่องมาปิดบังน้องอีกแล้วเหรอนี่.....  ทำไงดีว้า  ไม่อยากต้องมานั่งโกหกน้องเลย

                                 ********************************************
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-03-2014 13:42:18 โดย Goodfellas »

ออฟไลน์ uaeb

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
 :z13: :z13:

อ่านตอนนี้แล้วรุสึกอึดอัดแทนนายเป้ง

อันนึงก้องานที่รัก อีกอันก้อคนรัก

แต่คนเราก้อต้องได้อย่างเสียอย่าง

 :o12: :o12: :o12:

tawan

  • บุคคลทั่วไป
เป้งเข้าวงการขอให้น้องบอกเลิกเลย

จะสมน้ำหน้าให้

 :call:

ออฟไลน์ Piaanie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-2
กลัวว่าน้องจะรู้เข้าซักวัน ความลับไม่มีในโลกนะ เฮ่อ  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
ต้องทิ้งความฝันเพื่อความรักสินะ^^น่าสงสาร

ที่จริงเป้งน่าจะคิดในแง่ว่า เข้าวงการก็ไม่รุ่งนะ เพราะหน้าเหมือนโป้งอย่างนั้น เข้าไปก็คนก็เอาการแสดงมาเปรียบเทียบกันอยู่ดียกเว้นจะรับงานคู่กัน หรืออีกทีคือเป้งต้องเลือกรับงานให้แตกต่างจากโป้งล่ะนะ

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
เป้ง  ทำถูกแล้วละ
เลือกหัวใจก่อนนี่มันสุดยอดๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ kokikung

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1594
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-3
เห้อกลายเป็นต้องมานั่งปิดบังน้องเข้าไปอีก
ความลับไม่มีในโลกหรอกนะแต่ใครจะหลุดปากไหมงานนี้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ pochu52

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1328
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0
แมนมากค่ะพี่เป้ง เลือกหัวใจอย่างมินก่อน  o13

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
ไม่ว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องสมมุติ หรือนวนิยาย หรือเรื่องจริงก็ตาม
เนี่ย ถ้าสังคมเปิดกว้างกว่านี้ คงส่งผลดีกับทุกคนเนอะ

ออฟไลน์ DarKLasT

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 595
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
นางชะนีต้องเอาเรื่องนี้มาเป่าหูมินแน่เลย

ตายๆๆน้องมินรู้แล้วเรื่องใหญ่แน่

แล้วนายเป้งไปรับปากเขาอ่ะรู้หรอว่าถ่ายอะไร

ไม่ใช่โดนจ้องจะโดนงาบอยู่หรอกนะ

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
เลือกน้องดีกว่าเลือกงาน ดีกว่าเลือกงานแล้วก็ตัดน้องไม่ขัด ต้องมาหลบๆซ่อนๆเหมือนคนบางคนในวงการสมัยนี้ อึดอัดกว่ากันเห็นๆ

spok1234

  • บุคคลทั่วไป

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
พี่เป้งอ่า ถ้าเลือกแล้ว ก็เดินหน้าไปเลยค่ะ อย่าลังเลแบบนี้บ่อยสิ เพราะความไม่สบายใจของพี่นี่แหล่ะจะทำให้น้องรู้

ออฟไลน์ stormphoenix

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2269
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-3
กลัวว่าน้องจะรู้เข้าซักวัน ความลับไม่มีในโลกนะ เฮ่อ  :เฮ้อ:


เห็นด้วยกะรีนี้ครับ :really2: :really2: :really2:



 :กอด1: :กอด1: :กอด1:คนแต่ง :o8: :o8: :o8:

ออฟไลน์ luxilove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2415/-118
 :กอด1:ความลับไม่มีในโลก  แต่ความรักมีในโลก

เพราะฉะนั้น  หากจะรักแล้ว  ก็จงรักเถิด

ความรักบรรเจิด  พริ้งเพริศ  แสนหวาน

ชีวิตคนเรา  ช่างสั้นเหลือคณา

อย่ารอช้า   ปล่อยเวลาให้ผ่านไป....


Luk.  +1  ให้กำลังใจทั้งคู่ค่ะ... :o8:

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป

lovevva

  • บุคคลทั่วไป
แมนมากค่ะพี่เป้ง เลือกหัวใจอย่างมินก่อน  o13

เห็นด้วยค่ะ พี่เป้งแมนมาก o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ DarKLasT

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 595
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
เข้ามาปัดๆถูๆ รอน้องมินครับเฮ้อหนักใจ

ขอเวลาเตรียมใจแปบนะครับคุณ น๊อต

first117

  • บุคคลทั่วไป
อยากให้มีตอนที่เป้งบอกพ่ออ่ะ ดูแล้วมันน่าลุ้น จัดให้หน่อยครับ

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26

ออฟไลน์ ✪PATTY✪

  • เมี๊ยวววว~
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2
    • http://facebook.com/NKM.SNK

ออฟไลน์ MrTeddy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-1
ตกลงเป้งตัดสินใจได้จริงจัง หรือยังลังเลกันแน่ละนี่
ตอนนี้เป้งบรรยาย แบบว่ามันมีความรู้สึกอึดอัดคับข้องใจกับการตัดใจไม่เข้าวงการของตัวเองเหลือเกิน
แบบนี้จะดีหรือที่เลือกมินแล้ว แต่ยังมาเสียดายไม่เลิกที่ไม่ได้เข้าวงการ
 :serius2: ขัดใจเหลือเกิน

first117

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Goodfellas

  • magKapleVE
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1828
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +384/-2
    • Adult games: dating for spicy meetups
โทษทีที่หายไปนานครับช่วงนี้ยุ่งๆแถมยังตันๆเรื่องคิดบทพูดน่ะ  แม้จะมีโครงเรื่องเรียบร้อยแต่ยังต้องเชื่อมเนื้อเรื่องแต่ส่วนให้ลงตัว  ก็ยากเหมือนกันแฮะ อิอิ

เพราะงั้นถ้าช่วงนี้มาลงช้าๆไปบ้างก็อย่าว่ากันเลยเนอะ  แล้วถ้ายังไงจะเอาเรื่องอื่นมาลงให้อ่านแก้เซ็งไปก่อน ดีม๊ยครับ

โอเคงั้นไปติดตามน้องมินกะพี่เป้งกันต่อเลยคร้าบ :teach:

ตอนที่30

                                 ************************************

         แค่คิดก็.... เซ็งไปสุดๆ   อีกแล้วเหรอวะเนี่ย ต้องมาสร้างเรื่องปิดบังมินอีกแล้ว  ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้ด้วยวะ

         แต่มันก็คงดีกว่าที่จะให้มินรู้แล้วต้องโทษตัวเองล่ะนะ   ก็เอาวะ  น้องคงเข้าใจดีว่าทำไมผมทำยังงี้  แต่ก็นั่นแหละ  ถ้าผมไม่พูด  ถ้าไอ้ป้างไม่พูด  ใครจะมารู้ได้วะว่าผมทำแบบนี้  ถึงความลับมันจะไม่มีในโลกก็เหอะ

         เพราะผมนี่แหละ  จะเป็นคนทำให้มีความลับในโลกให้ได้เป็นคนแรก................ ทุกอย่างมันต้องเป็นความลับตลอดไป

         -

         -

         อีกไม่กี่วันผมก็จะเปิดเทอมแล้ว  เบื่อจังว่ะ  ปีสุดท้ายที่แสนสาหัสจนไม่รู้จะออกหัวออกก้อย  อยากจะยืดเวลาปิดเทอมออกไปอีกสักสองเดือนจริงเว้ย  อยากให้มันมีเหตุอะไรก็ได้ให้ต้องปิดมหา'ลัยไปก่อนจริงๆ  อะไรก็ได้...  ขอแค่ให้มีเวลาปิดเทอมเพิ่มอีกหน่อยแค่นั้น

         " อะฮ้า.... มาแล้วเว้ย  นายแบบดังคนใหม่ของวงการ  ว่าที่ซุปตาร์  เชิญทางนี้เลยคร้าบ"  เสียงไอ้เอ้แซวผมตอนที่ผมเดินเข้าไปหาพวกมันที่โต๊ะม้าหินประจำที่คณะ

         " ฮ่าๆ  นี่ครับน้ำ  เชิญนั่งเลยคร้าบ"  ไอ้เอ๊กซ์เอาบ้างครับ  ทำมาเอาใจผม  สัด... ไม่ได้รู้อะไรเล๊ย  พวกมึง

         " นี่พวกมึงว่างกันมากใช่มั๊ยมาสุมหัวแซวกูเนี่ย  ตกลงเรื่องแมเนจโปรเจคนี่ว่าไง"  ผมด่ามันแล้วก็ถามถึงเรื่องงานโปรเจคที่เราต้องทำส่งอาจารย์ก่อนสอบปลายภาค   

         ขออธิบายนิดครับว่าแมเนจโปรเจคที่ว่านี้มันเป็นส่วนนึงของวิชาการจัดการร้านอาหารที่เราเรียนกันอยู่    อธิบายง่ายๆคือเหมือนเราเสนอโครงการลงทุนทำร้านอาหารอะไรสักร้านนึงขึ้นมา   ต้องวางแผนตั้งแต่คอนเซปต์รวมของร้านทั้งหมดว่าร้านจะขายอาหารแบบไหน  มีจุดขายเป็นอย่างไร  แล้วประเมินสรุปทุกๆอย่างตั้งแต่ทำเลที่ตั้ง  ทุนที่คาดว่าจะใช้  รวมไปถึงรายละเอียดของการตกแต่งร้าน   ก็พูดง่ายๆว่าเป็นงานที่หินสุดๆเพราะต้องทำรายละเอียดเยอะมากๆ  ก็ทำกันทั้งเทอมนั่นแหละครับ 

         ผมถึงบอกไงว่าเปิดเทอมแล้วผมคงเบื่อตายแน่ๆ  งานเยอะชิบแถมไม่มีใครมาช่วยได้เลยเพราะต่างคนก็ต้องเร่งงานของตัว  ยังงี้คงไม่ได้กระดิกไปไหนแน่ๆ

         " เออ... ของกูว่าจะทำร้านอาหารจีนว่ะ  เป็นแบบฟิวชั่นเว้ย  ตบแต่งให้โมเดิร์นไปเลย  ดีมั๊ย"  ไอ้เอ๊กซ์นำเสนอไอเดียมัน

         " อืม... ก็น่าสนใจ  แล้วมึงอ่ะ ไอ้เอ้"

         " ของกูเหรอ  กูก็คงร้านอาหารไทยแหละ  แต่ก็จะเน้นโมเดิร์นว่ะ  เสิร์ฟอาหารเป็นคอร์สเหมือนอาหารฝรั่งละกัน"  ไอ้เอ้บอก  แมร่ง... ไอเดียบรรเจิดว่ะ   

         " อืม  ก็เจ๋งดี  ส่วนของกูยังคิดอยู่ว่ะว่าจะเอาอะไรดี  อยากได้ร้านอิตาเลี่ยนที่โชว์ทำพิซซ่ากับพาสต้าหน้าร้านเลย  แต่ก็อยากทำร้านเบเกอรี่แบบฝรั่งเศสด้วยว่ะ  อันนั้นก็น่าสนใจดี" 

         ใจผมตอนนั้นโคตรอยากได้ร้านที่บรรยากาศเป็นโทนแบบว่าอบอุ่นๆ  ตกแต่งแบบคลาสสิคออกแนววินเทจโบราณๆหน่อย  ถ้าเป็นร้านอิตาเลี่ยนก็จะให้มีเตาอบพิซซ่าที่เป็นอิฐแบบโบราณไปเลย   เพราะถ้าตกแต่งได้แบบที่คิดไว้บรรยากาศในร้านคงโรแมนติคน่ามานั่งสุดๆ

         -

         -

         ผ่านไปหลายวันงานผมมันก็เยอะแยะซะ  ไหนจะหาข้อมูลสารพัด  ไหนจะรายงานย่อยๆแต่ละวิชาจนเริ่มเครียดเพราะไม่ได้กระดิกไปไหนทั้งนั้นแม้แต่จะไปหาสุดที่รัก   แต่แล้วพี่วินนี่ก็โทรเข้ามานัดวันถ่ายแบบกับผม  ทำเอาผมยิ่งเครียดหนัก  ไม่น่าเล๊ยกู  ถ้าตอนนั้นรู้ว่าจะเป็นแบบนี้ก็คงไม่รับงานเค้าหรอก

         แต่พอสักแป๊บนึงไอ้ป้างมันก็โทรเข้ามาหาผมอีกคน    มันบอกว่ามีรายการวาไรตี้อีกรายการเค้าเชิญทั้งผมและมันไปออกรายการด้วยกัน  แมร่งเอ๊ย... มันจะอะไรกันนักหนาวะ  คนเราเวลาอยากจะหนีจากอะไรสักอย่างทำไมมันต้องยิ่งวิ่งตามเราด้วยว้า

         " เออ... ก็ได้  ไม่เป็นไรว่ะ  กูไปให้มึงได้  ไม่ต้องห่วง"  ผมรับปากมันไปทันทีเพราะผมว่าผมเข้าใจไอ้ป้างมันนะ   ลองคิดดูว่าไอ้ป้างมันก็รู้แล้วว่าผมไม่อยากเข้าวงการ   แต่ไอ้ที่มันยังมาชวนผมอีกเนี่ย  ผมว่ามันคงจำเป็นอะไรสักอย่างมั๊ง   ถึงได้ต้องยอมฝืนใจผมด้วยการชวนไปออกรายการนี้ด้วยกัน

         " โอเคๆ  ขอบใจว่ะ  เอ้อ... แล้วเรื่องถ่ายงานให้พี่วินนี่อ่ะ  เค้าโทรมานัดมึงยัง"

         " อืม... เค้าเพิ่งโทรมานัดกูเมื่อกี๊นี้เลยล่ะ วันมะรืนนี้นะ"

         " เหรอวะ  เออ... งั้นกูไปเป็นเพื่อนมึงเอง   วันมะรืนนี่กูคงว่างอยู่ไม่งั้นกูจะเลื่อนบางนัดไปก็ได้" 

         " เฮ้ย... มึงจะลงทุนไปมั๊ย  ไม่ต้องห่วงกูขนาดนั้นหรอก  มึงจะไปเลื่อนนัดอื่นให้เสียงานเปล่าๆทำไมวะ  ไม่ดีหรอก"   ผมพูดยังกะสอนมันเลยว่ะ  แลดูเป็นคนมีความรับผิดชอบสูงจังกู...

         " เออน่ะ  มึงไม่ต้องห่วง  กูจัดการเองได้  ถ้างั้นตามนี้นะเว้ย"  มันยังคงดื้อครับ

         " ก็... แล้วแต่มึงเว้ย  งั้นกูไปรับมึงเองจะได้ไปด้วยกันทีเดียว  เค้านัดที่ออฟฟิศน่ะเพราะถ่ายในสตูฯของเค้า"  ผมเสนอตัวว่าจะไปรับมันมั่ง  มันก็รับคำแล้ววางไป  หลังจากนั้นผมก็ได้แต่ถอนใจยาว   เฮ้อ.... ก็ขอให้มันผ่านๆไปด้วยดีละกันว่ะ  เหนื่อยใจฉิบ

         -

         -

         พอถึงวันนัดผมก็ขับรถไปรับไอ้ป้างมันแต่เช้าแล้วรีบไปที่ออฟฟิศของพี่วินนี่ด้วยกัน   พอไปถึงผมเจออะไรรู้มั๊ย   นักข่าวว่ะ  มากันเพียบเหมือนกันเกือบสิบคนอ่ะ  ทีแรกผมก็นึกว่ามาดักรอไอ้ป้างมันรึป่าว   แต่ไม่ใช่แฮะ

         " วันนี้คุณเป้งมาถ่ายแบบให้แม๊กกาซีน xxx ใช่มั๊ยครับ ยังงี้แสดงว่ากำลังเตรียมตัวมีผลงานอื่นๆตามมาอีกใช่มั๊ยครับ"

         " แล้วไม่ทราบว่ารับงานอะไรไว้อีกบ้างคะนี่  แล้วคุณสนใจจะเข้าวงการแสดงเหมือนคุณป้างด้วยมั๊ยคะ"

         " เอ่อ... ขอถามหน่อยครับคุณป้างมาด้วยแบบนี้งั้นก็หมายความว่าวันนี้อาจจะมีถ่ายคู่กันอีก  แบบนั้นรึเปล่าครับ  เพราะเท่าที่ทราบยอดขายแม๊กกาซีนฉบับที่คุณป้างคุณเป้งขึ้นปกคู่กันนี่ขายดีมากถล่มทลายจนเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ไปเลย"

         " ค่ะ แล้วอย่างนี้แสดงว่าคุณเป้งต้องการเอาดีทางการถ่ายแบบเดินแบบไปก่อนแล้วค่อยๆขยับไปรับงานแสดงเหมือนคุณป้างแบบนั้นรึเปล่าคะนี่" 

         และอื่นๆอีกมากมาย   สารพันคำถามที่ประดังกันเข้ามาจนผมได้แต่หันไปมองหน้าไอ้ป้างโดยพูดอะไรไม่ออกเลยสักคำ

         นี่มันอะไรกันนักวะเนี่ย  ที่กูตั้งใจคือหันหลังให้วงการนะเว้ย  ไม่ใช่ต้องการเกิดในวงการ  เข้าใจอะไรกันผิดรึเปล่า.............

         -

         -

         ถ้าพี่วินนี่ไม่ออกมาช่วยพูดและกันนักข่าวออกไปก่อนป่านนี้พวกผมก็คงไม่ได้เข้าไปในออฟฟิศหรอก   ก็คงจะโดนนักข่าวทั้งกองทัพนั่นรุมทึ้งอยู่ตรงนั้นแหละมั๊ง

         แต่ทั้งหมดนั่นผมถึงได้รู้ว่าที่ผ่านมาผมได้กลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ไปแล้ว  น่าภูมิใจฉิบหาย  เป็นอันว่าความตั้งใจที่จะไม่เข้าวงการของผมเนี่ย  ล้มเหลวงั้นเหรอวะ   เพราะนี่เท่ากับว่าผมดัง  ผมเกิดไปซะแล้วนะเนี่ย

         " โอเคนะ  งั้นเดี๋ยวเรามาเริ่มกันเลย  เซตเสื้อผ้าของเราเป็นแบบนี้นะครับ"  พี่วินนี่เอาแบบเสื้อผ้ามาให้ผมดูทั้งหมด  ซึ่งเสื้อผ้าที่ถ่ายวันนี้เป็นพวกเสื้อยืด แจ๊คเก๊ตและยีนส์สไตล์เซอร์ๆของแบรนด์ดัง    พี่วินนี่ยังบอกผมว่าจริงๆหาคนมาถ่ายเซตนี้นานแล้วแต่ยังหาใครหล่อเซอร์เหมาะสมเท่าผมไม่ได้ว่ะ  อวยกันสุดๆเลยเว้ย    จากนั้นก็ให้ผมไปเตรียมตัวแต่งหน้าทำผม  ซึ่งไอ้ป้างมันก็ไปนั่งดูผมอยู่ 

         วันนั้นผมไม่ตื่นเต้นมันเลยสักนิดว่ะ  ก็แหงดิเครียดซะขนาดนั้นจนตอนที่เริ่มถ่ายๆไปพี่เค้าก็ติงๆผมว่าทำหน้าเครียดไปหน่อยนะ 

         " เฮ้อ... กูอยากให้ใครเอาซีดีตลกมาให้กูดูตอนนี้จังว่ะ  เผื่อจะได้หายเครียด"  ผมนั่งบ่นกับไอ้ป้างขณะที่นั่งรอพวกพี่ๆทีมงานเค้าไปจัดเตรียมฉากอยู่

         " เออ... อย่าเครียดนักเลยมึง  ก็ค่อยๆคิดกันไปเว้ย  ถ้ามึงไม่รับงานอะไรอีกแล้วมันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรหรอกว่ะ  ใครจะมาบังคับมึงได้ล่ะ"  เออ... ก็จริงเว้ย

         หลังจากการถ่ายทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยลงไปด้วยดี   พี่วินนี่ก็ออกมาขอบอกขอบใจผมตามเคย

         " เอ้อ... เดี๋ยวพี่ขอเชิญไปด้วยกันนะครับทั้งสองคนเลย  วันนี้พวกพี่ๆทีมงานมีเลี้ยงกันนิดหน่อยน่ะ  เป็นการฉลองกันจากคราวที่แล้วด้วยครับที่ยอดขายแม๊กกาซีนเราทะลุเป้ามากๆเกินความคาดหมายน่ะ"

         " เอ่อ.... "  ผมหันไปมองหน้าไอ้ป้าง 

         " นะครับ  อย่าปฏิเสธเลยน่า  ไปสนุกด้วยกัน  กลับไม่ต้องดึกมากก็ได้ครับ"  เฮ้อ... ว่ามายังงี้แล้วผมจะว่าไงได้ล่ะครับ

         -

         -

         ตอนนี้เราสองคนตามพี่ๆเค้าไปร้านกึ่งผับแห่งนึงแถวทองหล่อครับ   พอนั่งๆกินกับเค้าไปนิดหน่อยก็ขอตัวกลับกันเลย  พี่วินนี่ก็ได้โอกาสถามผมเรื่องที่ชวนผมเข้าสังกัดเค้า

         " ตกลงว่าน้องเป้งตัดสินใจได้รึยังล่ะครับเรื่องที่พี่ชวนมาทำงานด้วยกันน่ะ"

         " เอ่อ... คืองี้ครับ  ผมว่าช่วงนี้ผมคงยังไม่สะดวกเพราะคงติดเรื่องเรียนน่ะ  เทอมนี้มันเทอมสุดท้ายแล้วงานผมเยอะมาก  กลัวแบ่งเวลาไม่ได้น่ะครับ"  ผมอ้างไปทันที  แต่พี่วินนี่ก็ยังคงยิ้มๆอยู่

         " ครับ... พี่เข้าใจดี  งั้นพี่ยินดีรอนะ  ให้เทอมนี้เป้งเรียนจบแล้วเราค่อยมาคุยกันอีกทีละกันครับ  แต่ว่า..."  เฮ้อ... ยังมีแต่อะไรอีกวะเนี่ย

         " อะไรเหรอครับ"

         " พี่อาจจะมีงานถ่ายแบบหรือว่าเดินแบบเป็นงานเล็กๆให้ทำนะครับระหว่างที่รอ   ก็ใช้เวลาที่ว่างๆมาทำก็ได้  ดีมั๊ยครับ" 

         " .... ก็... เดี๋ยวดูก่อนละกันนะครับพี่  ถ้าผมมีเวลานะ"  แมร่งเอ๊ย... อยากได้กูเข้าสังกัดจังนะ  นิดหน่อยก็เอาอ่ะ

         " ดีครับ  ไว้แล้วจะติดต่อไปนะ  ขอบคุณมาก"  พี่วินนี่สรุปแล้วก็ปล่อยตัวเราออกมา  ผมนึกสงสัยเหมือนกันนะว่านี่เค้าจับสังเกตไอ้อาการอึดอัดๆของผมนี่ไม่ออกมั่งรึไงนะ  ถึงได้ยังตื้อผมจัง

         " ตกลงมึงจะเอายังไงวะ"  ไอ้ป้างเอ่ยถามผมหลังจากที่ผมขับรถออกมาจะไปส่งมันที่บ้าน

         " ก็ไม่ยังไง  อยู่มันเฉยๆนี่แหละ  ใครจะมาบังคับกูได้ล่ะ  ถ้ามาตื้อกูมากๆนักกูจะโวยให้"

         " ฮ่าๆ  มึงก็ยังงี้อ่ะ  เค้าก็คงอยากได้มึงไปเข้าสังกัดจริงๆแหละ  ไม่งั้นคงไม่ช่วยดันมึงซะขนาดนี้หรอก" 

         " หือ... ดันกู... ยังไงวะ"  ผมหันไปถามมันแบบงงๆ

         " ก็เท่าที่กูลองสังเกตดูนะ  ตั้งแต่ที่ให้กูชวนมึงมาถ่ายขึ้นปกด้วยกันนั่นแล้ว  มึงเห็นมั๊ยว่าเค้าเจาะจงมึงเป็นพิเศษแล้วยังจะเรื่องงานโปรโมทตอนหนังสือวางแผงอีก  ที่จริงเค้าไม่ต้องทำก็ได้   แต่เค้าก็ยังลงทุนทำจนเห็นมั๊ยว่ามันเกิดกระแสตามมาอ่ะ"  คำพูดมันตอนนี้ทำเอาผมอึ้งไป   เพราะพอคิดตามแล้วมันก็จริงทั้งนั้น

         " แล้วอย่างเรื่องวันนี้ที่นักข่าวแห่กันมา   ที่จริงนักข่าวมันไม่น่าจะรู้ก่อนหรอกถ้าทางพี่เค้าไม่จงใจปล่อยข่าวไปให้นักข่าวน่ะ  นี่แหละ เค้าเรียกว่าปลุกกระแส   เมื่อก่อนพี่ที่เป็นผู้จัดการกูเค้าก็ทำแบบนี้เหมือนกัน   ให้มีข่าวเราในพื้นที่สื่อมากๆไว้คนมันจะได้ติดตา  ไม่งั้นลำพังกูเล่นหนังเล่นละครอย่างเดียวอีกสิบปีก็ไม่ได้เกิดหรอกว่ะ"   

         อยากจะบ้าตายนี่กลายเป็นว่าผมเป็นเหมือนสินค้าที่กำลังถูกโปรโมทเหรอวะ  ที่พี่วินนี่ทำอยู่นี่มันเป็นแค่แผนการที่จะอัพเกรดชื่อเสียงตัวผมให้พร้อมก่อนที่จะเข้าสังกัดของเค้าเท่านั้นเหรอวะ  สงสัยคงกะว่าถ้าผมดังปุ๊บก็เข้าไปเป็นเด็กในสังกัดของเค้าปั๊บ   ทีนี้เค้าก็นั่งแบมือรับทรัพย์สบายๆ  เออ... ดีเนอะ  ฉลาดฉิบหาย

         " สัดเอ๊ย... นี่ถ้ามึงไม่พูดมากูก็นึกไม่ถึงหรอกนะเนี่ย  แมร่ง... ร้ายจริงๆ  เห็นยังงั้นก็นึกว่าจะไม่มีอะไร  ที่ไหนได้"  ผมบ่นพลางส่ายหน้า  มันก็ยิ้มแล้วตบไหล่ผมเบาๆ

         " เออ... ก็นี่แหละเว้ย  ขอต้อนรับมึงเข้าสู่วงการมายาว่ะ  มึงยังต้องเจออีกเยอะแน่" 

         -

         -

         หลังจากวันนั้นผมก็ยังมาคร่ำเคร่งกับงานผมที่โคตรจะเยอะและพรุ่งนี้ผมต้องเตรียมตัวไปอัดรายการที่เค้าเชิญมากับไอ้ป้างมันอีก  คิดแล้วก็ได้แต่เซ็งว่ะ

         พอไปถึงสตูดิโอก็ต้องตะลึงอีกครับ  คนที่มาดูเยอะมากๆท่าทางคงเป็นแฟนคลับไอ้ป้างมัน  แต่แล้วผมก็ต้องผิดคาดเพราะไม่ได้มีแต่แฟนคลับไอ้ป้างมันซะหน่อย  โน่นครับ  ป้ายไฟชื่อผมว่ะ  ตัวเบ้อเร่อเป็นสิบๆเลยอ่ะ

         " สงสัยกูว่างานนี้มึงได้เกิดจริงๆซะแล้วล่ะว่ะ  กระแสมึงแรงเหมือนกันนะเนี่ย"  ไอ้ป้างมันพูดเหมือนแซวผม

         " เฮ้อ... นี่กูจะทำไงดีวะเนี่ย"

         " เอาเหอะ  มึงไม่ต้องคิดมาก  อะไรมันจะเกิดมันก็เกิด  แต่อย่างที่บอกนะถ้ามึงไม่รับงานเพิ่มอีกซะอย่างใครมันจะทำอะไรมึงได้ล่ะวะ  จริงมั๊ย"  ก็ใช่อยู่หรอก  แต่ทำไมเห็นยังงี้แล้วมันไม่มั่นใจเลยว้า

         หลังจากนั้นก็มานั่งเตรียมตัวกันโดยอ่านสคริปต์ว่าเราต้องเจอคำถามอะไรบ้าง   และทางรายการเค้าขอให้เราร้องเพลงด้วยกันเพลงนึงสั้นๆเป็นการเปิดตัว   เราเลยไปซ้อมคิวร้องเพลงกันก่อนจากนั้นพอถึงเวลาถ่ายจริงเราก็ออกไปร้องเพลงกันตามคิวที่ซ้อมไว้ซึ่งก็เรียกเสียงกรี๊ดจากบรรดาแฟนคลับซะถล่มทลายกันไป

         ตลอดรายการนั้นพิธีกรเค้าก็ซักถามเราไปหลายเรื่อง   โดยมากจะถามเรื่องที่ไอ้ป้างมันเข้าวงการได้อย่างไร  แต่ก็วกมาที่ว่าแล้วตัวผมจะเข้าวงการด้วยอีกคนรึเปล่าจนได้

         " ก็ช่วงนี้ผมเทอมสุดท้ายแล้วครับเลยอยากตั้งใจเรียนให้มากหน่อยเพราะว่ามีงานเยอะมากๆ  เรื่องรับงานอะไรนี่ก็คงต้องรอไว้ก่อนน่ะครับ  ไม่งั้นคงไม่มีเวลา"  ก็ตอบเลี่ยงๆไปแบบดาราตอบน่ะนะ

         " งั้นถ้าจบเทอมนี้แล้วพวกเราก็อาจจะได้ได้เห็นผลงานของคุณเป้งสินะครับ"

         " อืม... ก็อาจจะนะครับ  เพราะเคยบอกแล้ว  ผมเองไม่ได้มีความสามารถอะไรเท่าไหร่หรอก  เล่นละครก็คงแข็งๆ  ร้องเพลงก็งั้นๆเองครับ"

         " แหม... แต่เท่าที่พวกเราได้ฟังจากเพลงเมื่อกี๊นี่ผมว่าก็ไม่ธรรมดาแล้วนะครับ  เสียงและลีลาการร้องนี่โอเคมากๆ ไม่แน่จากวันนี้ก็อาจจะมีค่ายเพลงติดต่อมาก็ได้นะครับ   จริงมั๊ยครับพวกเรา"  พี่พิธีกรบอกแล้วก็หันไปถามบรรดาผู้ชมในสตูดิโอซึ่งก็มีเสียงตอบรับว่าเห็นด้วยดังอื้ออึงเลยครับ

         " ฮะๆ ก็ถ้ามีใครให้ผมออกอัลบั้มน่ะ  ผมก็โอเคนะ  ถ้าเค้าไม่กลัวเจ๊งอ่ะ" 

         " หึๆ ไม่ต้องถ่อมตัวแล้วครับ  ผมว่านะ... ต้องมีค่ายเพลงเค้าสนใจแน่ๆ  ก็หวังว่าคงจะได้เห็นผลงานคุณเร็วๆนี้นะครับ"  เหอะ  คงได้เห็นกันหรอกว่ะ

         พอเราอัดรายการเสร็จเรียบร้อย  ผมกับไอ้ป้างก็ออกมาจากสตูดิโอนั้นทันที   แต่ข้างนอกอ่ะดิ  กองทัพแฟนคลับมาออกันตรึมมืดฟ้ามัวดินไปหมดแล้ว

         โดยมากก็จะเป็นแฟนคลับไอ้ป้างแหละครับ  แต่ก็มีไม่น้อยที่มาเชียร์ผมอ่ะเพราะดูจากป้ายไฟที่เค้าชูนั่นแหละ  เราก็ไม่รู้จะทำไงยืนอึ้งกันทั้งคู่ครับ  แต่พอสักแป๊บพวกพี่ทีมงานเค้าก็มากันคนให้เราถึงได้ออกมาจากตรงนั้นกันได้

         " โอย... กูนึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว"  ผมบ่นทันทีที่ขึ้นรถได้  ไอ้ป้างก็หันมามองผมยิ้มๆ

         " กูว่านะ  นี่มันกลายเป็นว่าพอมึงมาออกสื่อคู่กะกูเนี่ย  มันเหมือนยิ่งเบิ้ลความนิยมไปอีกเป็นสองสามเท่าเลยว่ะ  เมื่อก่อนกูไปไหนก็ไม่มีแฟนคลับเยอะเท่านี้หรอกนะเว้ย   แต่ตอนนี้เพิ่มขึ้นเยอะมากๆ  สงสัยต้องขอบใจมึงซะแล้วที่ช่วยดันกู ฮ่าๆๆ"  มันว่าแล้วก็หัวเราะชอบใจ  แต่ผมดิ  เซ็งสราดด...ด

         " สัดนี่... ยังจะมาหัวเราะ  กูรู้แต่ว่าตอนนี้งานเข้ากูแน่ๆ  แมร่ง... ทำไมคนมันมาชอบกูกันเยอะขนาดนี้วะเนี่ย  ไม่เข้าใจ" 

         " ก็อาจจะเพราะเราเข้าคู่กันไงวะ  คนเค้าเลยรู้สึกชอบว่าเราเป็นคู่แฝดกัน  เท่กันคนละแบบอะไรยังงี้อ่ะ"

         " เออ... เอาเหอะ  กูยกให้มึงหมดเลยไอ้ชื่อเสียงความนิยมน่ะ  เพราะตอนนี้กูอยากอยู่กะเมียกูสงบๆว่ะ  ไม่เอาแล้ววงการ  พอกันที"  ผมบ่นทิ้งท้ายอย่างหน่ายๆ

         -

         -

         แต่หลังจากนั้นหลายวันงานมันก็เข้าผมอีกจริงๆจนได้  ไอ้ที่พูดไปเล่นๆในรายการแมร่งก็ได้เรื่องอีกครับ  เพราะค่ายเพลงเค้าติดต่อมาจริงๆ  สองบริษัทเลยว่ะ  ให้มันได้ยังงี้  แล้วยังจะรายการอื่นๆที่ชวนไปออกคู่กันอีก  ติดต่อไปเทสงานพรีเซนเตอร์โฆษณาอีก  อยากจะบ้าว่ะ....

         ทำไมกูต้องมาดังมาเกิดในเวลาที่ไม่อยากด้วยว้า  กรรมของกูแท้ๆ....... ไอ้เป้ง   เฮ้อ................

         จากนั้นผมก็เดินเซ็งๆกลับมานั่งหน้าโน๊ตบุ๊คทำงานต่อ  แต่ความที่เซ็งสุดๆเลยปิดแมร่งซะเลย  เลิก..... ไม่ทงไม่ทำมันล่ะ  คิดถึงเมียนี่หว่า  ว่าแล้วก็ออกไปหาที่ร้านซะเลยให้รู้แล้วรู้รอดไป

         ตอนนี้ผมขับมาจอดแถวหน้าบ้านมินแล้ว  วันนี้แม่อัมหยุดขายพอดีเลยครับเพราะเป็นวันอาทิตย์ไง  ผมก็เดินเข้าไปไหว้แม่ในบ้านแต่มองหามินก็ไม่เห็นแฮะ

         " อ๋อ... มินออกไปกับมาร์ทเค้าน่ะลูก  เห็นว่าจะไปเลือกซื้อของอะไรด้วยกันนี่แหละ  แม่ก็ไม่ได้ถาม"   อึ้งทันทีเลยว่ะผม  ไอ้มาร์ทเหรอ... นี่มันยังไม่เลิกล้มความตั้งใจมันอีกเหรอวะ

         " แล้วไอ้แมนมันไปไหนเหรอครับ"  หึ... ไอ้นี่... แทนที่จะอยู่ดูน้องให้กู   ปล่อยให้เสือมันมางาบไปซะได้

         " มันออกไปกับเพื่อนน่ะลูกไปตั้งแต่เช้าแล้ว  แต่มินเพิ่งออกไปกับมาร์ทเค้าเมื่อกี๊นี้เอง"  แมร่งเอ๊ย.... ให้มันได้งี้สิวะ   ช้าไปก้าวเดียวเองเหรอกู

         " แล้วเค้าบอกมั๊ยครับว่าจะไปที่ไหนกัน"

         " เปล่าจ้ะ  ทำไมล่ะลูก  เราจะตามไปหาเค้าเหรอ" 

         " อ๋อ... เปล่าครับ  เปล่า... งั้นไม่เป็นไรครับเดี๋ยวผมขอตัวก่อนแล้วกัน   แม่พักผ่อนนะครับ"  ผมบอกแล้วกอดแม่ไปทีนึงแล้วก็ขับรถออกมาเลย 

         เฮ้อ... ไม่รู้ว่าไปกันถึงไหน  ผมเลยตัดสินใจโทรเข้าเครื่องน้อง  แต่... ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก...... เชรี้ยยย...ย

         ฉุนกึ้กเลยว่ะ แทบปาโทรศัพท์ทิ้ง  ดีว่ายั้งมือทัน ผมจอดเข้าข้างทางทันที  ร้อยวันพันปีน้องไม่เคยปิดโทรศัพท์นี่หว่า  แล้วนี่มันยังไง

         ตอนนี้ในใจมันร้อนไปหมด  ร้อนเหมือนไฟมันมาสุมรอบตัวจริงๆ  ไม่ไหวแล้วโว้ย..... มันพาเมียกูไปไหนวะ

                                 ************************************************
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-03-2014 14:14:47 โดย Goodfellas »

ออฟไลน์ kokikung

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1594
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-3
 :เฮ้อ: ไม่อยากให้เข้าวงการเลยเหะ จะมีความสุขสักแค่ไหนกันเชียว
ดูเสะน้องไปกะชายอื่นแล้ว 5555++ :laugh:
รีบๆๆตัดสินใจนะคุณ

tawan

  • บุคคลทั่วไป
สมน้ำหน้าไม่มีเวลาให้น้องเอง :laugh:

 :call:


ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
เรื่องมันประดังเข้ามาทีเดียวเลยแฮะ  อย่างว่า คนมันจะดังอะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด