[อาบใจด้วยไอรัก]ตอนอวสานครับ ปลายทางความรักจะเป็นอย่างไร p.39/19-03
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [อาบใจด้วยไอรัก]ตอนอวสานครับ ปลายทางความรักจะเป็นอย่างไร p.39/19-03  (อ่าน 336263 ครั้ง)

ออฟไลน์ pochu52

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1328
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0
พี่เป้งมีเรื่องอะไรมาก็บอกน้องมินบ้างเถอะ อย่าเก็บไว้คนเดียว คนรักกันมันต้องร่วมทั้งทุกข์และสุขน่ะ

ออฟไลน์ Goodfellas

  • magKapleVE
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1828
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +384/-2
    • Adult games: dating for spicy meetups
แวะมาดันหน่อยครับ  ช่วงนี้ยุ่งๆแต่เดี๋ยวจะรีบมาลงต่อให้คร้าบ o13

ออฟไลน์ luxilove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2415/-118
ดันด้วยมือ  ไม่มีอย่างอื่นใช้ดันอะค่ะ

อย่าว่ากานหละ...ฮ่าๆๆๆๆๆ..เอิ๊กกกกๆๆๆ

Luk.

ออฟไลน์ DarKLasT

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 595
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
แวะมาดันหน่อยครับ  ช่วงนี้ยุ่งๆแต่เดี๋ยวจะรีบมาลงต่อให้คร้าบ o13

ดันด้วยมือ  ไม่มีอย่างอื่นใช้ดันอะค่ะ

อย่าว่ากานหละ...ฮ่าๆๆๆๆๆ..เอิ๊กกกกๆๆๆ

Luk.


มาช่วยอีกคนครับสองคนเดี๋ยวดันไม่ไหว 3 คนคงพอไหวมั้งครับอิอิ

อึ๊บๆๆดันครับๆๆเดี๋ยวตกๆๆ

ออฟไลน์ Goodfellas

  • magKapleVE
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1828
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +384/-2
    • Adult games: dating for spicy meetups
ขอบคุณลักษ์และคุณทีมากคร้าบ  มาช่วยดันกันตลอดเลย 

แล้วก็ขอบคุณทุกท่านที่ยังทนรอติดตามตอนต่อไปด้วยครับ

ช่วงนี้ก็แย่ๆอยู่คือเริ่มตันๆกับบทพูดตัวละครซะงั้น  นึกไม่ค่อยออกว่าจะให้พูดอะไรกันยังไงดี  เลยเขียนออกมาไม่ค่อยสนุกเล๊ย

ก็ต้องขออภัยด้วยครับ  แต่เนื้อเรื่องตอนนี้ก็กำลังเข้มข้นขึ้นแล้ว  ลองไปติดตามกันเลยดีกว่า

ตอนที่34

                                   *****************************************

         หลังจากที่เดินจนโคตรเมื่อยก็นานอยู่กว่าจะออกไปถึงถนนใหญ่  เพราะเมื่อกี๊หารถแท๊กซี่ออกมาจากในซอยบ้านผมไม่ได้เลยสักคัน  เฮ้อ... แล้วแดดแมร่งก็ร้อนซ้ำเติมคนเคยรวยอย่างผมซะจริงๆ  เหงื่อชุ่มไปหมดละตอนนี้  หันมองไปทางป้ายรถเมล์ใกล้ๆนั่นก็มีคนยืนรอเต็มไปหมด  โอย... เศร้าว่ะ  นี่เดี๋ยวผมก็ต้องมีชะตากรรมแบบนั้นแล้วดิวะ 

         แต่... ทำไงได้ล่ะ  นับจากนี้ไปต้องตั้งใจสิเว้ยว่ากูต้องอยู่ให้ได้  เรื่องอะไรจะปล่อยให้พ่อมาดูถูกซ้ำแล้วซ้ำอีกอยู่อย่างนี้   ไม่ยอมหรอกว่ะ มันจะลำบากอะไรสักแค่ไหนกันคนอื่นเค้ายังทนอยู่กันได้เลย  ลำบากยิ่งกว่านี้ด้วยซ้ำ

         แล้วก็ตัดสินใจโบกเรียกแท๊กซี่คันนึงบอกให้ไปส่งที่คอนโดก่อน  ขืนนั่งรถเมล์ก็คงต้องไปถามเค้าให้วุ่นวายไปอีกว่ะว่าจะต้องไปสายอะไรยังไงมั่ง  ตอนนี้ขอแค่ว่าให้ไปสงบสติที่คอนโดอย่างเร็วที่สุดก่อนเว้ย  ไม่ไหวละ

         " ไอ้เอ๊กซ์  กูเอง  เออ... เดี๋ยวช่วงนี้กูไปค้างกะมึงก่อนได้มั๊ยวะสักพักนึงอ่ะ"  ผมโทรหาไอ้เอ๊กซ์ก่อน  ขอค้างด้วยสักพักวะ  แค่สองสามเดือนเองว่ะ  ไม่นานเลย  เหอะๆ

         " หือ... จะมาค้างกะกู  ทำไมวะ" 

         " เออ... ไม่มีอะไร  เดี๋ยวกูเล่าให้ฟังว่ะ  แค่นี้ก่อนเดี๋ยวค่ำๆเจอกัน"  ผมสรุปแล้ววางสายไปเลย  ยังไม่อยากเล่าว่ะตอนนี้

                                                -

                                                -

         พอถึงคอนโดผมก็ไปเก็บเสื้อผ้าแค่ไม่กี่ชุดใส่กระเป๋าลาก  โศกจริงๆเลยว่ะ ตาก็เหม่อมองไปรอบห้องพลางคิดไปว่านี่เราต้องทำแบบนี้จริงๆเหรอวะ  ใจนึงก็คิดทบทวนอยู่ว่าผมตัดสินใจถูกมั๊ยที่ทำแบบนี้ไป   แต่ก็ช่างเหอะยังไงมันก็ต้องลองดูวะ  คนเรามันก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกันเล่นหยามกันขนาดนี้ผมคงไม่ยอมหรอก  ดูถูกกันดีนักก็คอยดูแล้วกัน

         เดินออกมานอกห้องมองไปทั่วๆอีกครั้งก็ทำให้นึกถึงช่วงที่ผมอยู่กับน้องขึ้นมา ความอาลัยอาวรณ์นี้มันทำให้ผมท้อว่ะ   แต่ไม่ใช่ว่าผมแคร์ไอ้ความสุขสบายจากชีวิตในคอนโดนี่หรอกนะ   แต่ที่ผมคิดอยู่คือไอ้ความสุขที่ผมได้อยู่กับน้องที่นี่ มันยังจะย้อนกลับมาอีกมั๊ยว้า   คงจะดีมากถ้าโลกนี้มันมีแค่เราสองคนไม่ต้องมีใครมาเกี่ยวข้องอีก  ไม่ต้องมานั่งแคร์ว่าใครจะคิดอะไรกับเรายังไง  ไม่ต้องมาห่วงว่าใครจะนินทาว่าร้ายให้เสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูล

         ก็ได้แต่คิดน่ะนะ  เอาเหอะชั่วโมงนี้เราก็ต้องทนไปก่อนเว้ย  พิสูจน์ให้พ่อเห็นให้ได้ว่าเราสองคนรักกันไม่ใช่เพราะเงินหรืออะไรทั้งนั้นแล้วค่อยกลับไปทวงทุกๆอย่างคืน   ที่จริงผมไม่อยากว่าพ่อหรอก  ก็เข้าใจดีว่ายังไงซะหน้าตาของตระกูลก็สำคัญที่สุด  จะมาย่อยยับเพราะผมได้ยังไง  แต่ไอ้ที่เซ็งๆอยู่นี่ก็คือที่พ่อดูถูกความรักของผมกับมินตะหาก   คิดว่ามินจะรักแค่เงินของผมเหรอ  ก็คอยดูกันต่อไป

         
   -

                                                -

         กว่าจะหาทางไปบ้านมินได้ผมก็ต้องถามคนที่ป้ายรถเมล์ว่าไปแถวนั้นนั่งสายอะไรไปถึงได้นั่งรถเมล์มาถึงซอยบ้านมินได้   วันนี้แม่อัมก็ขายของอยู่พอดี  คนกินนั่งเต็มร้านไปหมดเหมือนเคย

         " อ้าว... ทำไมมาเงียบๆอ่ะครับ"  มินหันมาถามผมขณะที่ยังง่วนกับการช่วยแม่อัม  ผมเลยยกมือไหว้แม่

         " นั่นสิลูก  ทานอะไรมายังล่ะ  หือ..."  แม่อัมก็ถามผมอย่างห่วงๆ  สงสัยหน้าผมตอนนี้มันคงแห้งเหี่ยวสุดๆงั้นมั๊ง

         " ไม่เป็นไรครับแม่  เดี๋ยวผมช่วยนะ"  ผมบอกแล้วก็เอากระเป๋าวางไว้หลังร้านก่อน

         " อ้าว... พี่มาไง แล้วรถพี่อ่ะ"  ไอ้แมนถามผมครับ  ถามได้ช้ำใจมาก

         " รถกูซ่อมอยู่ที่อู่  มีเอ๊คซิเดนท์นิดหน่อย" 

         " แล้วพี่ขนข้าวขนของจะไปไหนอ่ะ"  ถามอีก  ไอ่ห่านี่  ขี้สงสัยนักนะ

         " เออ... ไม่มีอะไร  จะไปต่างจังหวัดน่ะ  เลยไม่เอารถมาไงเดี๋ยวเรียกแท๊กซี่ไป" 

         " ไปเที่ยวเหรอพี่"  เอาเข้าไป  ทนายโจทก์เหรอมึง  ซักกูจัง  กูไม่ใช่จำเลยนะ

         " เออ.. ไปๆ มึงไปเสิร์ฟลูกค้าไป"

         ก็ไล่มันไปก่อนครับ  วันนี้ลูกค้าเยอะมากมินก็ยุ่งจนไม่มีเวลาคุยกับผม  ต้องรอจนปิดร้านนั่นแหละถึงมีเวลาคุยกัน

         " หา... อะไรนะครับพี่  ทะเลาะกับพ่อเลยต้องขนของออกมาอยู่เองเหรอครับ"   มินตกใจทันทีที่ผมบอก

         " เบาๆครับ  พี่ยังไม่อยากบอกแม่อัมนะ  กลัวว่าแม่จะเป็นห่วง  มินก็อย่าเพิ่งบอกแม่นะ" 

         " อือ... ครับ  แล้วพี่ทะเลาะอะไรกับพ่อล่ะครับ  ร้ายแรงมากเลยเหรอ"

         " ก็เรื่องน่าเบื่อเดิมๆน่ะ  เค้าจะบังคับให้พี่ทำอย่างนั้นอย่างนี้  ไปๆมาๆพี่ไม่ยอมเค้าก็โกรธแล้วก็ให้พี่เก็บของออกไปจากคอนโดนี่แหละ"

         " ถึงกับต้องไล่ออกมาเลยเหรอครับ งั้นพี่จะทำไงต่อไปล่ะครับเนี่ย"

         " ไม่เป็นไรครับ  พี่จะไปอยู่กับไอ้เอ๊กซ์ก่อน  ก็คงแค่ไม่นานหรอก  มินไม่ต้องห่วง"

         " จะไม่ห่วงยังไงล่ะครับ  นี่รถพี่ก็ไม่มีแล้วนะ  แล้วยังจะค่าใช้จ่ายของพี่อีกจะทำไงล่ะครับ"  เออ... ใช่  ผมก็ลืมเรื่องนี้ไปเหมือนกัน  ค่าเช่าบ้านนี้ก็ยังต้องจ่ายอยู่ทุกเดือนนี่หว่า  และที่สำคัญยังมีค่าใช้จ่ายที่โรงพยาบาลของแม่อัมอีกนะ  ทำไงดีวะ

         " เอ้อ... เรื่องนั้น  ก็ไม่ต้องห่วงนะ  พี่ยังพอมีเงินเก็บอยู่คงเอามาใช้ก่อนแหละ" 

         " อืม... แต่ที่จริงพี่มาอยู่ด้วยกันที่บ้านนี้ก็ยังได้นะครับ  ค่าเช่าพี่ก็เป็นคนออก  อ๊ะ... ใช่  แล้วยังงี้จะมีเงินจ่ายค่าเช่าเหรอครับ"  นั่นไงน้องนึกออกจนได้ว่ะ

         " ครับ  ไม่ต้องห่วง  พี่จ่ายได้น่า ฮะๆ" 

         " ที่จริงแม่ก็พอมีเงินเก็บแล้วครับ  กำลังจะบอกพี่อยู่ว่าต่อไปจะจ่ายค่าเช่าบ้านเองคงจะไม่รบกวนพี่แล้ว  งั้นเดือนหน้านี้เราจะจ่ายกันเองไปเลยนะครับ" 

         " อืม... ครับ  ยังงั้นก็ได้ถ้าแม่เค้าสบายใจยังงั้นก็โอเคครับ  แต่ว่าพี่ขอถามอะไรมินหน่อยนะ" 

         " ครับ..."  น้องตอบรับแล้วมองหน้าผมนิ่งอย่างตั้งใจฟัง   ผมก็กุมมือน้องเอาไว้

         " ที่มินเห็นพี่ตอนนี้น่ะ  มินอาจจะคิดว่าพี่แค่ทะเลาะกับพ่อเลยออกมาอยู่ข้างนอกสักพัก   แต่พี่ขอบอกมินตรงนี้เลยนะว่าคราวนี้มันจะไม่ใช่แบบนั้น  พี่ไม่ได้แค่น้อยใจแล้วเดินออกมาเฉยๆเหมือนทุกครั้งนะ"

         " แต่มันหมายความว่าต่อไปพี่จะไม่สามารถกลับไปอยู่บ้านได้อีกแล้วจริงๆ  แล้วถ้าพี่ต้องกลายเป็นคนตัวเปล่าๆไม่มีอะไรเลยแบบนี้มินจะยังรักพี่อยู่มั๊ยครับ"  ผมจำเป็นต้องลองถามน้องไปแบบนี้   ก็ให้มันเป็นไปตามเกของพ่อล่ะนะ  แม้ผมจะมั่นใจว่าน้องรักผมแน่นอน  แต่ใจตอนนั้นมันก็ยังเหมือนแกว่งๆยังไงไม่รู้ดิ  ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองว่ะ

         " ทำไมถามยังงั้นล่ะครับ  พ่อพี่เค้าคงไม่ใจดำแบบนั้นหรอก  เค้าไม่ตัดเป็นตัดตายกับลูกตัวเองได้ยังงั้นหรอกครับ"

         " หึๆ  มินน่ะยังรู้จักพ่อพี่น้อยไป  แค่ตัดลูกอย่างพี่ไปคนนึงเค้าไม่แคร์เท่าไหร่หรอก  ก็อย่างที่มินเห็นนี่แหละ  ไม่ว่าจะรถ  คอนโดหรือจะเงินทองทุกอย่างพี่ก็ไม่เหลืออีกแล้วนะ  แล้วยังงี้มินจะรับได้มั๊ย" 

         " ก็ถ้าพี่คิดว่ามินรักพี่เพราะว่าของเหล่านั้นกับหน้าตาของพี่ล่ะก็  พี่คิดซะใหม่นะครับเพราะมินไม่เคยคิดยังงั้นเลย  ไม่ว่าพี่จะเป็นยังไงแค่ขอให้พี่ยังเป็นพี่เป้งคนเดิมมินก็พอใจแล้วครับ"  นั่นแหละ  เป็นสิ่งที่ผมอยากได้ยินที่สุด  โล่งใจไปเลยอ่ะ

         " ขอบคุณครับ  พี่ดีใจจัง  อยากได้ยินแค่นี้แหละ"  ผมยิ้มแล้วกอดน้องไว้แนบแน่น   เป็นไงล่ะพ่อ  ดูถูกกันดีนัก

         " แล้วพี่จะไม่มาอยู่ที่บ้านนี้ด้วยกันจริงๆเหรอครับ  เดินไปกลับที่มหา'ลัยก็สะดวก  ผมว่ามันจะดีกว่านะ  " 

         " ไม่ดีกว่าครับ  พี่ไม่อยากให้แม่อัมห่วงน่ะ  ไปอยู่บ้านไอ้เอ๊กซ์ก็ดีแล้วล่ะ"

         " จะดีเหรอครับ  จะรบกวนทางบ้านเค้าไปมั๊ย  เกรงใจทางพ่อแม่เค้าอ่ะครับ" 

         " ฮ่าๆ  ไม่ต้องไปเกรงใจหรอกครับ  ป๊ากับม้ามันอ่ะรักพี่จะตาย  ไปอยู่ด้วยแบบนี้อ่ะเค้าชอบแน่ๆ  ไม่ต้องห่วงไปครับ" 

         " อืมครับ  งั้นก็ไม่ห่วงแล้ว"  น้องยิ้มให้ผม  ท่าทางคงวางใจแล้วล่ะ

         " มินรู้มั๊ย  ทีแรกพี่ก็ไม่มั่นใจหรอกว่าถ้าพี่ทำแบบนี้อะไรๆระหว่างเรามันจะเหมือนเดิม  ก็ได้แต่ภาวนาไปว่าขอให้มินเข้าใจพี่  แต่ตอนนี้พี่สบายใจแล้วล่ะ"

         " ทีแรกมินก็คิดนะครับว่าพี่ทะเลาะกับพ่อเรื่องมินรึเปล่า  แต่ถ้าไม่ใช่  มินก็สบายใจแล้วครับ  ไม่งั้นมินคงรู้สึกแย่มาก"  คำพูดน้องทำเอาผมสะดุ้งนะ   พูดเหมือนกับรู้ความจริงขึ้นมายังงี้

         " ทำไมคิดยังงั้นล่ะครับ"

         " มินไม่อยากเป็นคนที่สร้างปัญหาหรือเป็นตัวถ่วงของพี่นะ  ถ้าเรารักกันแล้วคนรอบข้างเค้ารับไม่ได้จริงๆเราก็ต้องฟังเค้าบ้างยังไงเค้าก็เป็นพ่อแม่ของพี่นะครับไม่ใช่คนอื่น  เพราะผมเองต่างหากที่เป็นแค่คนอื่น  อย่าเลือกผมแล้วต้องทิ้งทุกๆอย่างไปเลยนะครับ  เพราะผมคงรู้สึกผิดแน่ๆ"   นั่นไง  ผมว่าแล้วว่าน้องต้องคิดแบบนี้  ปวดตับแท้ๆ

         " มิน... ฟังพี่นะ  ทุกๆอย่างมันอยู่ที่ตัวพี่กับมินเท่านั้น  คนอื่นๆเค้าก็แค่หวังดีแต่เค้าไม่สามารถจะมาตัดสินใจแทนเราได้เพราะมันเป็นชีวิตของเราเองไม่ใช่ของเค้า  เชื่อพี่เถอะว่าสักวันพ่อพี่เค้าก็จะเข้าใจได้เอง  ถึงตอนนี้เค้าจะตัดพี่จากกองมรดก  หรือเค้าจะเอาทุกอย่างไปจากพี่มันก็เรื่องของเค้า   ของเหล่านั้นน่ะถึงพี่ไม่มีมันพี่ก็อยู่ได้  แต่ถ้าพี่ไม่มีมินพี่จะอยู่ไม่ได้  เข้าใจมั๊ยครับ" 

         " พี่...." มินพูดออกมาแผ่วๆแล้วก็ก้มหน้านิ่ง  ผมเลยกอดน้องเอาไว้อีก

         " แล้วตอนนี้พี่ก็ไม่ขออะไรแล้ว  ขอแค่มีมินอยู่ด้วยยังงี้ก็พอ   บอกแล้วว่าพี่ทิ้งทุกอย่างได้  แต่ถ้าต้องไม่มีมินพี่อยู่ไม่ได้จริงๆ  เข้าใจนะครับ"

         " ครับพี่... " น้องรับคำผมทั้งน้ำตาเลย  ผมก็ลูบหัวปลอบน้องไป  ดราม่ามากๆแต่ก็ยังรู้สึกดีที่น้องเข้าใจผมแล้ว

         ตอนนี้ก็คงได้เท่านี้ครับ  เบื้องลึกนั่นยังบอกน้องไม่ได้ว่าทั้งหมดเป็นแค่ข้อตกลงเพราะรับปากพ่อแล้วผมไม่อยากผิดสัญญาว่ะ  ในเมื่อตกลงว่าจะบอกน้องแค่นี้ผมก็จะบอกแค่นี้   

         ใกล้จะสามทุ่มแล้วผมต้องรีบออกมาขึ้นรถเมล์จะไปบ้านไอ้เอ๊กซ์   ก็ยังดีว่าบ้านมันไปง่ายหน่อยถึงได้คลำทางไปถูกแต่ก็ไกลเอาการว่ะ  นั่งจนเมื่อยตูดยังไม่ถึงเลย  รถแม่งก็ไม่รู้จะติดอะไรกันมากมายมืดค่ำป่านนี้แล้ว  ร้อนก็ร้อน  เฮ้อ.... ชีวิตลำเค็ญของกูจริงๆ

         พอนั่งมองๆคนอื่นที่เค้านั่งอยู่ในรถแล้วถึงได้รู้สึกว่าคนอื่นๆเค้าก็ไม่มีความสุขหรอกที่ต้องนั่งรถเมล์   ไม่เคยคิดนะว่าผมจะมีวันนี้  จากคนที่แทบจะไม่เคยตีนแตะดินด้วยซ้ำ  แต่วันนี้กลับต้องมาเดินย่ำต๊อกไม่มีแม้กระทั่งจักรยาน 

         โชคชะตามันเล่นตลกหรือไง  แต่ไม่สิ... โชคชะตามันอาจจะสอนให้ผมเรียนรู้อะไรอยู่ล่ะมั๊ง  และตอนนี้ผมก็รู้สึกว่าตัวเองได้เรียนรู้อะไรบ้างแล้วจริงๆ  อย่างน้อยๆก็ได้รู้ล่ะว่ะว่าต้องนั่งรถสายอะไรไปไหนมั่ง  ฮ่าๆ  ต้องคิดบวกไว้กู  วิกฤติมันต้องเปลี่ยนให้เป็นโอกาสซะ

         โทรศัพท์ดังพอดีตอนที่ผมคิดอะไรเพลินๆ  เอ้า... ฉิบหาย  แม่กูนี่หว่า  โดนด่าแน่

         " ครับแม่..."

         " ทำไมแกทำยังงี้หาเจ้าเป้ง  ทำไมไม่บอกแม่ก่อนอยู่ๆบุกเข้าไปบอกพ่อเค้าเลยได้ยังไงกัน"

         " เอ่อ... โทษทีครับแม่ผมใจร้อนไปหน่อย  แล้วพ่อเค้าว่าไงล่ะครับ"

         " เค้าจะว่าไงล่ะ  ก็บ่นน่ะสิยะว่าทำไมชั้นรู้แล้วไม่บอก  แต่นั่นน่ะมันไม่สำคัญหรอก  ว่าแต่แกเถอะคืนนี้แกจะไปนอนที่ไหนแน่"

         " ผมกำลังไปบ้านไอ้เอ๊กซ์มันอ่ะแม่  จะถึงละครับ"  รถเมล์มาถึงป้ายพอดีว่ะ  ผมเลยรีบลง

         " งั้นก็ไม่เป็นไร  เดี๋ยวแม่โทรไปคุยกับป๊าม้าเจ้าเอ๊กซ์เอง  แล้วนี่แกบอกน้องรึยังล่ะเรื่องนี้น่ะ" 

         " ครับ  ผมบอกแล้ว"

         " แล้วน้องว่าไง"

         " น้องก็ไม่ว่าไงครับ  ทุกอย่างเหมือนเดิม  ก็บอกแล้วว่าน้องไม่ได้รักผมที่เงินหรือชื่อเสียงหน้าตาซะหน่อยนี่"

         " อืม.. ก็ดีแล้วล่ะ  ชั้นจะได้เบาใจไป  นี่พ่อแกเค้าก็ใจร้ายนะ  ไม่ยอมให้ชั้นรึใครๆช่วยแกเลยสักนิดน่ะ  ถ้างั้นช่วงนี้แกก็ทนๆไปก่อนแล้วกัน  แล้วนี่มีตังค์พอใช้มั๊ย"

         " ยังพอมีอ่ะแม่  ไม่ต้องห่วงครับ"

         " ดีแล้ว  ถ้ามีอะไรก็โทรมาบอกแม่นะ  เท่านั้นแหละ  ดูแลตัวเองดีๆล่ะ"  แม่สั่งผมทิ้งท้ายก่อนวางสาย   ก็ยังดีครับ  ตอนแรกยังนึกกลัวว่าแม่จะทะเลาะเรื่องนี้กับพ่อไปด้วยรึเปล่า  แต่ไม่มีอะไรก็ดีแล้ว

                                                      -

                                                      -

         เข้าซอยมาหน่อยนึงก็ถึงบ้านไอ้เอ๊กซ์ครับ  ดีว่าเดินไม่ไกลมาก   ตอนนี้พอยืนอยู่หน้าบ้านมันที่ใหญ่ประมาณคฤหาสน์แล้วเนี่ย  รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นพจมานเลยว่ะ  แค่ว่าถือกระเป๋าลากไม่ได้ถือกระเป๋าหวายสานๆกับชะลอมอ่ะ  แล้วก็ไม่ได้ไว้เปีย  เหอะๆ   พอกดออดบ้านไอ้เอ๊กซ์สักพักเด็กคนใช้ก็มาเปิดครับ  เดินเข้าไปถึงผมก็ไหว้ป๊ากะม้าแล้วไอ้เอ๊กซ์ก็เดินลงมาพอดี  ผมก็ตามมันขึ้นไปบนห้อง

         " เดี๋ยวมึงจะนอนกะกูในห้องหรือจะไปนอนห้องพักแขกวะ"

         " ไม่ต้องหรอกว่ะ  กูนอนตรงไหนของห้องมึงนี่ก็ได้"

         " เฮ้ย.. มึงนี่มาแปลกว่ะ  ทำไมมันดูเกรงใจมีสมบัติผู้ดียังงี้อ่ะ"  มันว่าผมแล้วก็หัวเราะ

         " สัดนี่... แล้วทุกๆทีนี่กูไพร่มากเลยรึไง"

         " ป่าว... กูงงไง  แต่ก็... เออ... ถ้างั้นมึงก็นอนกะกูไปเนี่ยแหละ  เตียงคิงส์ไซส์โอ่อ่าขนาดนี้  หึๆ นอนสามสี่คนยังได้" 

         " เออ... ขอบใจว่ะ"

         " แล้วบอกกูได้ยังว่าทำไมถึงต้องมาค้างกะกูเนี่ย  พ่อมึงเค้าเฉดหัวออกมาจากคอนโดมึงรึไง"  สัดนี่... มึงเป็นโหรตาทิพย์รึไง

         " เออดิ... เสือกรู้อีกนะมึง"

         " เฮ้ย....ย  ไอ้เชี่ย  จริงเหรอวะ  แล้วพ่อมึงเค้าตัดมึงออกจากกองมรดกด้วยเลยรึเปล่าเนี่ย"  มันร้องซะลั่น  แล้วก็ทำตาโตซะจนตาตี่ๆของมันใหญ่ขึ้นมาสองเท่าได้

         " เออ... งั้นมั๊ง" 

         " ไอ่สาด...ด  นี่มันเรื่องใหญ่มะมึง  แล้วมึงยังจะมาทำหน้านิ่งยังงี้ได้ไง  หรือว่ามึงเสียใจจนเป็นบ้าไปแล้วเนี่ย"

         " มึงนี่... จะโวยวายทำเชี่ยอะไรวะ  กูยังไม่เดือดร้อนอะไรเท่าไหร่เลย  ช่างปะไร  ยังไงชีวิตนี้ก็ของกู  มือตีนกูก็มีครบจะกลัวทำไมวะ"

         " โห... พูดซะเท่มีศักดิ์ศรีเลยนะมึง  พระเอกสัดๆ  แล้วเป็นไงอ่ะ  ตกยากยังงี้แล้ว   นี่ยังไงมันก็ไม่ใช่เรื่องเล็กๆนะเว้ย"

         " แล้วไม่งั้นมึงจะให้กูทำไงล่ะ  ในเมื่อเค้าเฉดหัวกูออกมาแล้วเนี่ย"

         " เออๆ  ก็นั่นดิ งั้นทีนี้มึงจะทำไงต่อล่ะ  นี่เท่ากับว่ามึงไม่เหลืออะไรเลยเหรอวะ ทั้งรถทั้งเงินทั้งคอนโด"

         " เออ.. กูก็เหลือเท่าที่มึงเห็นเนี่ย  โอเคมั๊ย  สัด... เฮ้อ... ร้อนเว้ย  ขอกูอาบน้ำหน่อยเหอะ  วันนี้กูแม่งทั้งวันเลย   เจอทั้งแดดทั้งฝุ่น"  ผมพูดตัดบทแล้วก็เอาผ้าเช็ดตัวจากกระเป๋าเดินเข้าไปอาบน้ำ  พอออกมาก็มานอนแผ่อยู่บนเตียงมันแหละครับ  ส่วนไอ้เอ๊กซ์ก็ยังนั่งพิมพ์งานอยู่ที่โต๊ะ

         " นี่มึงหมดเรี่ยวแรงขนาดนี้เลยเหรอวะ"  มันหันมาถามผม

         " เออว่ะ  งั้นเดี๋ยวกูนอนก่อนนะ  พรุ่งนี้ก็มีเรียนแต่เช้านี่หว่า"

         " เออดิ  งั้นพรุ่งนี้มึงก็ติดรถกูไปมหา'ลัยนะ  จะได้ไม่ต้องไปนั่งรถเมล์อ่ะ"

         " อืม... ขอบใจว่ะ  นี่แหละกูถึงตัดสินใจมาอยู่กะมึงก่อนไง" 

         ใช่ครับ  ผมเลือกมาอยู่กับไอ้เอ๊กซ์แม้ว่าจะอยากไปอยู่กับมินที่บ้านแม่อัมเหมือนกัน   แต่พอมาคิดๆดูว่าถึงผมได้อยู่กับน้องทุกวันแต่ถ้าทำอะไรไม่ได้มากไปกว่ามองตากันเพราะเกรงใจแม่อัมเนี่ย  ไม่เอาดีกว่าว่ะ  เหอะๆ  อดใจไม่ไหวแน่ๆ   แต่นั่นมันก็แค่เหตุผลหนึ่งแค่นั้นอ่ะ  จริงๆแล้วผมกลัวแม่อัมจะกังวลแล้วคิดมากตะหาก  จริงๆนะเออ  ไม่ได้แค่กลัวอดใจไม่ไหวหรอก อิอิ

                                                      -

                                                      -

         เช้ามาผมก็ลงมากินข้าวกับป๊าม้ามันแล้วก็นั่งรถมันไปมหา'ลัย  ดูเผินๆนี่ก็เหมือนผมไม่ได้ตกระกำลำบากอะไรเลยว่ะ   ก็ถือว่าบุญเก่ายังพอมีที่มีเพื่อนดีพอจะอุดหนุนจุนเจือกันไปได้ยามยากน่ะนะ  พูดซะปลงเลยว่ะกู  เหอๆ

         " เฮ่ย... พ่อมึงจะตัดมึงออกจากกองมรดกจริงๆเหรอวะ"  ไอ้เอ้ตะโกนลั่นอีกคน  หลังจากที่ฟังผมเล่า

         " สัด... มึงจะตะโกนให้คนเค้ารู้กันให้หมดเลยเหรอไง"

         " แฮ่ะๆ โทษที  กูตกใจ  แต่เฮ้ย... นี่เรื่องใหญ่นะ  มึงไปทำอะไรให้เค้าโกรธวะ" 

         " ก็เรื่องเดิมๆว่ะ  กูเบื่อโดนบังคับไง"

         " แค่นั้นเหรอ  กูก็นึกว่าเรื่องมึงกับน้องมินซะอีก"

         " ก็ด้วยว่ะ  ส่วนนึง"  ผมเฉลย

         " งั้นพ่อมึงเค้าก็รู้เรื่องหมดแล้วใช่มั๊ยเนี่ย"

         " ก็กูตัดสินใจบอกเค้าไปเลยดีกว่าเรื่องจะได้จบ  ไม่ต้องมาปิดบังกันอีก  ทีนี้กูก็โล่งละ  ใครก็มาทำอะไรกูไม่ได้แล้วทั้งนั้นอ่ะ"   พูดๆไปผมก็นึกถึงพี่วินนี่ขึ้นมาว่ะ  ไม่รู้ป่านนี้แกเป็นไง  ไว้ลองโทรไปหน่อยดีกว่า

         " แต่กูว่าพ่อมึงเค้าก็คงไม่โกรธมึงอยู่นานหรอกน่า   แม่มึงเค้าคงไม่อยู่เฉยแน่  ใช่มั๊ยล่ะ"  ไอ้เอ้เปรยขึ้นมา

         " กูก็ไม่รู้ว่ะ  แต่กูอ่ะบอกตรงๆนะว่ากูไม่สนแล้วว่ะ  ยังไงชีวิตนี้มันก็ของกูนี่หว่า  แค่กูไม่มั่งมีอย่างเมื่อก่อนมันจะสักแค่ไหนกันเชียววะ"

         " เฮ้ย... มึงก็... คิดอย่างนั้นทำไม  ยังไงนั่นมันก็พ่อมึงนะเว้ย  เค้าคงไม่โกรธตัดขาดกะมึงยังงี้ตลอดไปหรอก"  ไอ้เอ๊กซ์เสริม

         " มันก็ไม่แน่หรอก  แต่ที่รู้ๆนะ  กูว่ากูมีทางชีวิตของกูเองแล้วว่ะ  อีกไม่กี่อาทิตย์ก็สอบไฟนอลแล้ว  เรื่องจบการศึกษาก็ขอยื่นเรื่องเรียบร้อยแล้ว  จบปั๊บกูก็ทำงาน  แค่นี้เอง  เห็นมั๊ยทำชีวิตตามสเต็ปนี้ก็จบ  คนอื่นเค้าอยู่กันได้กูก็ต้องอยู่ได้ว่ะ  ไม่งั้นมึงคอยดูก็แล้วกัน"

         " เออ... ก็แล้วแต่มึงว่ะ  งั้นช่วงนี้มึงก็อยู่กะกูไปนะ  ไม่ต้องไปที่ไหนอีกหรอกว่ะ"  ไอ้เอ๊กซ์ตบไหล่ผมเบาๆอย่างเข้าใจ

         " อืม ขอบใจว่ะเพื่อน  กูแม่งโชคดีฉิบหายที่มีพวกมึงอยู่ด้วยยังงี้  แค่นี้กูก็พอใจแล้ว  ต่อไปข้างหน้าเป็นยังไงก็ช่างแม่งเหอะ  กะอีแค่ใช้ชีวิตของกูเองแบบนี้   ไม่ต้องมีเงินไม่ต้องมีรถมีคอนโดมันจะสักแค่ไหนกันเชียว"  ผมสรุปด้วยความรู้สึกมุ่งมั่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลย   จริงอยู่พ่ออาจจะยอมคืนทุกอย่างให้ผม  ถ้าผมพิสูจน์ได้ว่ามินไม่ได้รักผมเพราะเงิน   แต่หลังจากนั้นดิ  คนอย่างพ่ออ่ะคงไม่ยอมให้ผมง่ายๆแน่   ไม่งั้นก็คงต้องมีเงื่อนไขอะไรมาอีก

         ที่น่ากลัวคือพ่อน่ะเป็นคนฉลาด  ไม่แน่ระหว่างนี้พ่ออาจทำอะไรสักอย่างจนทำให้ผมต้องเลิกกับมินไปก็ได้  ใครจะไปรู้  และผมว่าคนอย่างพ่อน่ะทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการอยู่แล้ว

                                                      -

                                                      -

         พอเลิกเรียนผมกับไอ้เอ้ไอ้เอ๊กซ์ก็มาแวะที่ร้านแม่อัมกัน  ก็มาช่วยเสิร์ฟเหมือนทุกทีครับ  ลูกค้าก็เยอะได้ตลอด  ผมว่าสักวันคงได้ไปออกรายการกันมั่งแน่ๆ   แต่วันนี้ผมก็อยู่ช่วยได้สักพักเองเพราะต้องรีบกลับไปทำงานต่อ  พรุ่งนี้มีพรีเซนต์งานกลุ่มอีกแล้วว่ะ  เบื่อชะมัด

         กลับมาถึงบ้านไอ้เอ๊กซ์ผมก็ลองหยิบโทรศัพท์มาโทรหาพี่วินนี่แต่แกไม่รับสายซะที  ผมก็สงสัยว่านี่เพิ่งจะทุ่มกว่าหรือว่าพี่เค้าติดธุระวะ  แต่สักแป๊บแค่นั้นแหละ  พี่เค้าก็โทรกลับมาทันทีผมก็รีบรับ

         " ครับพี่  คือผมจะโทรมาถามว่าพี่เป็นยังไงมั่งเท่านั้นอ่ะครับ"

         " อ๋อ... ครับ  ขอบคุณมาก  ก็ไม่เป็นยังไง  เรียบร้อยแล้วล่ะ"

         " ครับ... ทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้วใช่ป่ะพี่" 

         " ฮะๆ  ใช่ครับ  เรียบร้อยเลย  นี่พี่ลาออกมาเรียบร้อยแล้วครับ"

         " หา!... ว่าไงนะพี่  พี่ลาออกจากงานพี่เหรอครับ"  เผลอโวยไปลั่นเลยว่ะผม  ไอ้เอ๊กซ์ก็หันมามองงงๆ

         " ครับ... นี่พี่มาเก็บของอยู่น่ะ"  เสียงพี่เค้าไม่เหมือนคนลาออกจากงานเลยว่ะ  ยังมีหัวเราะได้อยู่อ่ะ

         " แล้วพี่จะทำไงครับเนี่ย"

         " อืม... ไม่ต้องห่วงหรอกครับ  พี่ก็กลับมาดูแลโมเดลลิ่งตัวเองไง  ทีนี้จะได้มาทำเต็มที่ซะที  ทำสองที่สองงานมานานละ"

         " เอ่อ... เหรอครับ  เฮ้อ... ก็ยังดีครับพี่  แต่ว่ามันไม่น่าเป็นยังงี้เลยอ่ะ  เหมือนกับเป็นเพราะผมเลย  พี่ถึง..."

         " ฮะๆ  อย่าคิดมากครับ  ยังไงพี่ก็ต้องทำแบบนี้สักวันอยู่ดีแหละ  และที่จริงพี่ควรทำแบบนี้มานานแล้วด้วย  ไม่น่าปล่อยเวลามานานขนาดนี้เลย"

         " เหรอครับ  ที่จริงพี่ก็คิดจะลาออกจากที่นี่มาก่อนแล้วเหรอครับ"

         " ก็ใช่ครับ  มันน่าเบื่อน่ะ  อยู่กับที่นี่พี่ไม่มีอิสระในการทำงานเท่าไหร่เลย  ต้องคอยทำตามที่เค้ากำหนดตลอด  เป็นยังงี้ก็ดีแล้ว  ไม่ต้องห่วงนะครับ  ที่จริงมีอีกแม๊กกาซีนนึงเค้าก็อยากได้ตัวพี่ไปทำด้วยจะตาย   แต่พี่คงขอพักสักระยะก่อนนะ  อยากไปพักร้อนนานละแต่ไม่มีเวลา  เนี่ยโอกาสเหมาะพอดีเลยนะต้องรีบไป"  พี่วินนี่คุยไปก็หัวเราะไปจนผมเริ่มรู้สึกสบายใจขึ้นที่เห็นว่าแกไม่ได้เดือดร้อนอะไรมากมายแล้ว

         " ครับผม... เป็นยังงั้นก็ดีแล้วครับพี่  ทีแรกผมเป็นห่วงพี่อยู่ว่าจะโดนอะไรบ้างรึเปล่า  แต่พอรู้แบบนี้ผมก็สบายใจละครับ" 

         " ครับ... ขอบคุณมากที่เป็นห่วง" 

         " เอ่อ... พี่ครับ  ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้วงั้นผมจะขอถามพี่อีกทีได้มั๊ยครับว่าใครกันแน่ที่เป็นคนบีบให้พี่ทำแบบนั้นกะผม  นี่ผมไปคิดเท่าไหร่ผมก็คิดไม่ออกจริงๆ  มันคาใจผมมากเลยครับ  ถ้าพี่บอกผมได้ผมคงนอนตาหลับกว่านี้"

         " โห... ขนาดนั้นเลยเหรอครับน้องเป้ง  ฮะๆ  อย่าไปซีเรียสกะมันขนาดนั้นเลยนะ  แต่ถ้าให้พี่บอกพี่คงบอกได้แค่ว่าคนๆนี้รู้สึกว่าเค้าจะเป็นญาติของทางฝ่ายผู้บริหารคนนึงของบริษัทนะครับ  แต่พี่เองไม่ทราบจริงๆว่าเค้าคือใครเพราะทุกอย่างถูกสั่งการจากเบื้องบนเค้าอีกทีจนมาถึงตัวพี่แค่เท่านั้น  เพราะงั้นพี่ก็เลยไม่รู้เลยว่าคนๆนี้ที่จริงคือใครกันแน่"

         " เหรอครับ  อืม... งั้นก็ไม่เป็นไรครับ  ผมก็แค่อยากรู้เพราะจะได้ระวังตัวเองไว้  ยังสงสัยว่ามันเป็นคนใกล้ตัวผมรึเปล่าถึงทำแบบนี้ได้  มันคงไม่อยากให้ผมกับมินได้คบกันน่ะครับ"

         " ก็ถ้าให้พี่เดาพี่ก็คิดว่าต้องเป็นแบบนั้นแน่ครับ  คนๆนี้เค้าต้องรู้เรื่องที่น้องเป้งคบกับแฟนเป็นอย่างดีทุกอย่าง   เพราะรูปหลักฐานนั่นเค้าก็เป็นคนเอามาให้พี่เอง   แสดงว่าเค้าต้องรู้กระทั่งว่าบ้านของแฟนน้องอยู่ที่ไหน  และเราไปหาแฟนตอนไหนยังไงบ้างถึงได้ไปถ่ายรูปมาได้แบบนี้"

         " เฮ้อ... ผมกลุ้มใจจังพี่  มันนึกไม่ออกเลยว่าคนๆนี้มันน่าจะเป็นใคร"

         " เราต้องค่อยๆคิดไปครับ  นึกดูดีๆว่าจะมีใครบ้างที่ไม่อยากให้เราคบกับแฟนของเรา   แค่นี้ตัวเลือกน่าจะแคบลงมาแล้วนะ   อ้อ.... ใช่แล้ว  พี่นึกอะไรขึ้นมาได้ละ" 

         " หือ.... อะไรเหรอครับพี่"  หูผึ่งทันทีเลยว่ะ

         " คือว่า  ผู้บริหารคนนึงที่พี่เดาว่าเป็นคนสั่งการมาเนี่ย  เค้าชื่อคุณ กฤษฎา  เลิศวรรธณรักษ์ ครับ  น้องเป้งพอจะคุ้นๆชื่อและนามสกุลนี้บ้างมั๊ยล่ะ"

         " หือ... ชื่อนี้ นามสกุลนี้เหรอครับ"  ผมทบทวนในหัวไปมาอยู่หน่อยนึง   แต่ก็นึกไม่ออกอยู่ดีว่ะ

         " ครับ  งั้นลองจดไว้แล้วกันนะ  พี่ก็คงช่วยได้แค่นี้แหละครับตอนนี้"   พี่วินนี่บอกแล้วก็ขอตัววางสายไป   จากนั้นผมก็มานั่งคิดอยู่หน้าโน๊ตบุ๊คตัวเอง

         ใครกันวะที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยว่าจะสร้างความร้าวฉานให้ผมกับมิน  เท่าที่นึกได้ก็มีแค่ไอ้มาร์ทคนนึงล่ะ  นอกนั้นก็... ใครล่ะ  อ้อ... อาจจะมีแพทด้วย  แต่ก็ยังไม่คอนเฟิร์มว่ะ  พักหลังๆมานี่ดูเธอไม่มาอะไรกับผมแล้ว   แต่ก็ยังอยู่ในข่ายต้องสงสัยอยู่  คงยังมองข้ามไปไม่ได้  แต่ก็.... หรือจะยังมีคนอื่นอีกล่ะวะ   ใครกันล่ะ

         และอาจเป็นได้ว่าคนๆนั้นเป็นญาติกับคนที่นามสกุล " เลิศวรรธณรักษ์ " อะไรนี่ก็ได้   แต่ก็ยังไม่ชัวร์อยู่ดีเพราะอาจจะใช้คนละนามสกุลกันก็ได้  เฮ้อ... จะเอาไงดีล่ะวะงานนี้  ต้องสืบกันยาวเลยมั๊งนี่

                                      ********************************************
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-03-2014 16:19:38 โดย Goodfellas »

ออฟไลน์ Piaanie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-2
คนที่สั่งนี่จะเป็นคุณพ่อหรือป่าวหว่า ชีวิตต้องสู้จริงๆ พี่เป้ง แต่น่าจะเล่าความจริงให้น้องฟังไปนะ น้องมารู้จากปากคนอื่นจะแย่เอา  :sad4:

ออฟไลน์ คนริมคลอง

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-1
ผู้ต้องสงสัยยัยแพทกับไอ้มาร์ทนั่นแหล่ะต้องร่วมมือกันแน่นอน

พระเอกตกยาก งวดหน้างานจะเข้าน้องมินไม๊เนี่ย

ออฟไลน์ kokikung

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1594
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-3
กฤษฎา  เลิศวรรธณรักษ์  ใครวะเนี่ยยยยยยคนๆๆนี้อ่า
พี่เป้งพระเอกเกินไปแล้วอ่า ดราม่าจริงๆๆช่วงหลังมานี่
พี่เป้งสู้ๆๆทุกอย่างมันจะผ่านไปได้ :เฮ้อ:

ออฟไลน์ DarKLasT

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 595
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
กำเจ้าเป้งเอ้ย  ถ้าเป็นอย่างที่แกบอกล่ะก็นะน่าจะบอกน้องไปเลย

แล้วช่วยกันคิดหาวิธีทางออกกันไปไม่ใช่ปิดน้องแบบนี้ไม่งั้นถ้าพ่อจับจุดได้ขึ้นมาล่ะก็

บุกไปหามินแล้วบอกให้เลิกรับรองน้องเลิกแน่เลย

ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังแป่วว

มาเป็นกำลังใจครับผมพร้อมมาจองที่รอรับตอนต่อไปอิอิ


ออฟไลน์ DarKLasT

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 595
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
ผู้ต้องสงสัยยัยแพทกับไอ้มาร์ทนั่นแหล่ะต้องร่วมมือกันแน่นอน

พระเอกตกยาก งวดหน้างานจะเข้าน้องมินไม๊เนี่ย

เอ่อใช่เพราะสองคนนี้เหมือนจะรู้จักกันมาก่อนป่ะหว่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






kanda53

  • บุคคลทั่วไป
พี่เป้ง สู้ ๆ นะ....น้องมินเป็นกำลังใจที่เต็มเปี่ยม...
สามเดือนนี้..คงให้ประสบการณ์ชีวิตดี ๆ กับพี่เป้งอีกเยอะ....
แล้วอนาคตของพี่เป้งกะน้องมินจะต้องมั่นคงและสดใสแน่นอน... :a2:

 :L2::pig4:
กด + ให้กำลังใจค่ะ

spok1234

  • บุคคลทั่วไป
นาม สกุล นี่ คือ ใคร

อย่า ให้ รู้ นะ

จัด เต็ม !!

babanabekuya

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณคับ พี่เป้ง กับน้องมิน น่ารักจัง  o13

ออฟไลน์ litlittledragon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +304/-1
มาแล้ว เป้งครับสู้ๆ นะมีมินเป็นกำลังใจยังก้าวต่อไปได้นะครับ
ส่วนคนที่วางแผนให้เดาก็คงเป็นแพทกับสองพี่น้อง รู้สึกว่านามสกุลจะใช่
ถึงจะยังไม่ได้ย้อนไปอ่านดูก็เถอะ

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
ตัวร้ายเริ่มเผยแล้วมั้งครับ

Maize

  • บุคคลทั่วไป
แอ่ะ  :-[ อ่านได้ สี่ตอน  แวะมาเม้นท์ให้ก่อน  คนเขียนสู้ๆ นะคะ :mc4:

ออฟไลน์ kamikame

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
 :L2: พี่เป้ง น้องมินสู้ ๆ นะฮ๊าฟฟฟฟ
 :L2: เป็นกำลังใจให้นะฮ๊าฟฟฟฟฟฟ

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26

ออฟไลน์ pochu52

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1328
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0
ตัวการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องแย่ๆ ของพี่เป้งกับน้องมินเป็นใครกัน แต่ยังไงก็พี่เป้งกับน้องมินก็สู้ๆ นะค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Goodfellas

  • magKapleVE
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1828
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +384/-2
    • Adult games: dating for spicy meetups
รีบไปปั่นมาให้อ่านต่อแล้วคร้าบ 

อย่าเพิ่งบ่นกันนะ ถ้าจะบอกว่า....

อาจต้องทานมาม่ากันไปก่อน
 :m23:

เพราะเรื่องราวช่วงนี้มันเป็นจุดเปลี่ยนของหลายๆอย่าง  ติดตามกันไปก่อนครับ  ว่าทุกอย่างจะคลี่คลายไปได้ยังไง

ตอนที่35
                                                      **********************************************

         ตกลงจะเอายังไงดีว้า  ครุ่นคิดอยู่พักนึงผมก็สรุปเอาว่าคงต้องสงสัยไอ้มาร์ทมันเป็นคนแรกก่อนนี่แหละ  เลยหันไปถามไอ้เอ๊กซ์ที่กำลังง่วนกับงานในโน๊ตบุ๊ค

         " เฮ้ย... ไอ้เอ๊กซ์  มึงรู้นามสกุลไอ้มาร์ทมันมั๊ยวะ"

         " หือ... อะไรของมึงวะ  อยู่ๆก็มาถามกู  มึงจะรู้ไปทำไม"

         " เออน่ะ  กูถามมึงก็ตอบ  ตกลงรู้มั๊ย  ไม่รู้ก็บอกไม่รู้  สัด... "  เคืองแม่งนิดๆ   จะถามกูกลับทำเพื่อ...

         " ไม่รู้ว่ะ  กูจำไม่ได้  จำได้แค่ชื่อจริงมันอ่ะ"

         " เออๆ ไม่เป็นไรว่ะ"

         " มึงจะถามไปทำไมวะ" 

         " ป่าว... ไม่มีอะไร  กูแค่สงสัยอะไรนิดหน่อย"  ผมบอกแล้วก็ตัดบทเดินออกไปนอกระเบียงห้องมันซะเลย  ไอ้เอ๊กซ์ก็มองตามมาอย่างงงๆแต่มันก็ไม่ได้ถามอะไรอีก

         รึว่าผมจะโทรไปถามกับตัวมันให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยดีวะ  ให้มันแตกหักตายกันไปข้างนึงเลยดีมั๊ย  แต่พอนึกๆดูก็ไม่ค่อยอยากทำงั้นว่ะ  เออ... ใช่  โง่อยู่ได้ตั้งนาน   โทรไปถามไอ้แจ๊คก็ได้มันเพื่อนสนิทกันก็คงรู้ล่ะน่า

         " เออ... แจ๊ค  นี่กูเอง ไอ้เป้งนะ  เฮ้ย  กูขอถามอะไรมึงหน่อยดิ ไอ้มาร์ทมันชื่อจริงๆว่าอะไรวะ  นามสกุลมันด้วย"

         " หือ... ชื่อจริงไอ้มาร์ท  แล้วมึงจะถามไปทำไมวะ"  เออ... ให้มันได้งี้  ถามใครมันก็ต้องถามกลับทุกคนสิน่า

         " ไม่มีอะไร  กูสงสัยอะไรนิดหน่อย"  ขี้เกียจหาเหตุผลมาอธิบายอ่ะ

         " อะไรของมึงวะ  ไอ้นี่... แปลก  ไอ้มาร์ทน่ะเหรอมันชื่อ  ปรมัตถ์  เปล่งวิเชียร"   อ้าวเฮ้ย... ไหงนามสกุลมันไทยยังงั้นอ่ะ   ไม่ใช่มันหรอกเหรอ......

         " ............"

         " อืม.... ฮัลโหล  เฮ่ย...  ฮัลโหลๆ ไอ้เป้ง  ทำไมเงียบไปวะ  เฮ้ย....ย" 

         " อ่า.... เออๆ  โทษทีๆ  ขอบใจนะเว้ยที่บอก" 

         " เออ... ว่าแต่จะไม่บอกกูจริงๆเหรอวะว่าจะถามไปทำไม  ไม่งั้นกูคงเดาว่ามึงจะแจกการ์ดงานแต่งนะ  เลยจะเอาชื่อจริงไปจ่าหน้าซองอ่ะ  ฮ่าๆๆ"  เชรี่ยนี่... คิดได้นะมึง
         
         " สัด... ยังไม่ถึงเวลา   ไว้ถ้าแต่งแล้วกูเชิญมึงแน่ๆ  ไม่ต้องห่วง" 

         " เออ... กูจะคอยดู  กูว่านะ  น้องมินถ้าได้ใส่ชุดเจ้าสาวนี่คงจะสวยซะยิ่งกว่าผู้หญิงจริงๆซะอีกมั๊งน่ะ  อยากเห็นจังว่ะ"

         " ไอ่ห่า... พอเลยมึง  พอ... "  ไอ้หอกหักนี่  ชักจะเยอะกะเมียกูมากไปและ มึง...

         " เออๆ  เฮ้ย  ว่าแต่กูอุตส่าห์บอกข้อมูลมึงทั้งทีนี่  ต้องมีเลี้ยงตอบแทนหน่อยดิวะ"

         " เลี้ยงเชรี่ยอะไรล่ะ  แค่บอกกูสองสามคำแค่เนี้ยต้องให้กูเลี้ยง  จะมากไปละมึง  ช่วงนี้กูยิ่งกรอบๆอยู่  ติดไว้ก่อนละกัน"  เอ๊ย... พูดไปพูดมาผมดันเผลอบอกมันไปว่ะ  แต่... ช่างเหอะ

         " หือ... อะไรวะกรอบ  คนอย่างมึงเนี่ยนะมีช่วงเวลาจนกรอบกับเค้าด้วย  เป็นไปได้ไงวะ"

         " เออ... เรื่องมันค่อนข้างยาวว่ะ  ไว้จะเล่าให้มึงฟังอีกที"

         " ก็เล่าเลยดิ๊มึง  ไม่มีเงินยังงี้เสียบอลมารึไง"

         " ไม่ใช่เว้ย  เออน่าๆ... แล้วกูค่อยเล่าให้มึงฟังวันหลังละกัน  วันนี้กูเหนื่อยๆเดี๋ยวจะนอนละ"  ผมตัดบทไปอย่างไวแล้วก็วางไปเลย  ต่อความยาวกะมันมากไปก็เท่านั้น  ไปนอนดีกว่าว่ะ

         แต่พอมานอนจริงๆก็ยังนอนไม่หลับอีก  อดคิดไม่ได้ว่าตกลงถ้าไม่ใช่ไอ้มาร์ทแล้วมันจะเป็นใครกัน   แต่ก็ยังไม่แน่นี่หว่า  นามสกุลไม่ใช่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ใช่มันซะหน่อย  อะไรๆมันก็ยังเป็นไปได้อยู่   ผู้บริหารที่นั่นอาจจะแค่รู้จักกะมันแต่ไม่ใช่ญาติก็ได้ 

         แต่จะว่าไปมันก็แปลกนะ  ผมไม่เคยนึกว่าคนอย่างไอ้มาร์ทมันจะลงทุนวางแผนซับซ้อนขนาดนี้เลย  เพราะเท่าที่เห็นมันมาผมว่ามันน่าจะเป็นคนตรงๆ เฉยๆ มากกว่านะ  ไม่น่าจะวางแผนอะไรได้ร้ายกาจยังงี้นี่นา  แต่ถ้าเป็นไอ้ชายก็ว่าไปอย่าง  อืม....  อ่ะเฮ่ย... ฉิบหายล่ะ....
         
         ผมรีบลุกขึ้นอีกทีแล้วคว้าโทรศัพท์โทรไปหาไอ้แจ๊คอีกทันทีเลยครับ  หึ... ก็พอนึกถึงไอ้ชายปั๊บ  คำพูดนั้นของมันก็ผุดขึ้นมาในหัวผมทันทีอ่ะ

         " สักวันนึงเราจะหาทางทำให้ใจของนายมาเป็นของเราให้ได้เอง"

         จากที่ผมลืมไปแล้วนะนั่นว่ามันเคยพูดไว้แบบนี้   ผมเลยไม่ได้นึกถึงว่ามันจะเป็นอีกคนที่เข้าข่ายอยากให้ผมร้าวฉานกับมิน   แต่กลายเป็นว่าตอนนี้มันนี่แหละ  ที่น่าสงสัยที่สุดแล้ว

         " เฮ้ย... เออๆ  กูเองๆ  กูขอถามมึงอีกทีว่ะ"

         " อะไรของมึงอีกวะ"  ไอ้แจ๊คทำเสียงเซ็งๆใส่ผม

         " ก็ไอ้ชายอ่ะ  มันก็นามสกุลเดียวกับไอ้มาร์ทใช่มั๊ยวะ"

         " อ๋อ... ไม่หรอก  ไอ้ชายมันใช้นามสกุลพ่อมันดิ  แต่ไอ้มาร์ทมันใช้นามสกุลแม่มัน  ก็เหตุผลเรื่องเค้ายังรังเกียจทางแม่ไอ้มาร์ทมันอ่ะ  เลยไม่ให้ใช้นามสกุล  น้ำเน่าจังว่ะยังกะละครหลังข่าว  เป็นลูกเมียน้อยนี่แย่ว่ะ"

         " เออๆ  นั่นแหละ  แล้วตกลงไอ้ชายมันนามสกุลอะไรอ่ะ  ใช่  นามสกุล เลิศวรรธนะรักษ์ รึป่าว"  ผมลุ้นมากๆรีบถามมันไม่หยุดเลย

         " อืม  ก็ใช่ไง  อ้าว.. นี่มึงก็รู้แล้วนี่หว่า  แล้วจะมาถามกูทำไมอีกอ่ะ" 

         เห็นมั๊ย  บิงโกจนได้ว่ะ  ไอ่เวร....  มึงนี่เอง  ไอ้เชี่ยชาย  ที่แท้ก็เป็นมึงนี่เอง......

         ทุกอย่างมีมึงอยู่เบื้องหลังตลอดเลยสินะ  แผนมึงแนบเนียนดีมาก  กูไม่เคยระแคะระคายเลยว่าเป็นมึง  ตกลงที่มึงบอกกูว่ามึงชอบกูและจะทำให้ใจกูเป็นของมึงให้ได้เนี่ย   มึงเอาจริงใช่มั๊ย   โอเคเลย  สัด.... ได้เลย

         " อ้าว... แล้วทำไมเงียบไปอีกแล้ววะ  เฮ้ย... ไอ้บ้า  หลับรึไงมึง"

         " เอ้อ... เปล่าๆ  โอเคเว้ยแจ๊ค  กูขอบใจมึงมาก เพื่อน ไว้แล้วกูจะเลี้ยงมึงนะ  แค่นี้นะเว้ย"  ผมบอกแล้วก็กดวางไปเลยทันทีอีก  สงสัยมันคงด่าผมอยู่มั๊งว่าตัดบทกันซะง่ายๆทุกที

         แต่ช่างเหอะ  ชั่วโมงนี้มันไม่ไหวแล้วว่ะ  บอกตรงๆผมอยากไปกระทืบหน้าไอ้เชี่ยชายมันเดี๋ยวนี้เลย  แค้นฉิบหาย  ทุกเรื่องทุกอย่างนี่สรุปว่าเป็นเพราะมันทั้งนั้นรึไง

         เอาตั้งแต่ทำไมไอ้มาร์ทถึงมาจีบมินและจงใจที่จะวางตัวเป็นศัตรูหัวใจกะผม  ในเมื่อผมเองก็ไม่เคยนึกเลยว่ามันจะตั้งใจทำแบบนี้แค่เพราะไอ้ชายมันบงการอยู่เบื้องหลังนี่เองเหรอ

         ส่วนเรื่องที่พี่วินนี่โดนบีบให้แบล๊คเมล์ผมก็เป็นเพราะมันแน่ๆ   คนที่บริษัทนั้นนามสกุลเดียวกะมันเลยแสดงว่าเป็นญาติกัน  เพราะงั้นถ้ามันจะขอร้องให้เค้าช่วยเรื่องนี้มันก็ทำได้ไม่ยาก   แค่ผมไม่นึกว่ามันจะแผนสูงได้แบบนี้  ผลักดันและบีบให้พี่วินนี่มาทำให้ผมเข้าวงการเต็มตัวจะได้ต้องเลิกกับมินไปโดยปริยาย   ไม่งั้นก็คงต้องเสี่ยงกับการโดนขุดคุ้ยเปิดโปงว่าเป็นเกย์

         นี่ถ้าพี่วินนี่ไม่ใจอ่อนเห็นแก่ไอ้เป้งที่ยอมแลกอนาคตเพื่อผมล่ะก็  ป่านนี้ผมก็คงต้องยอมเข้าวงการจริงๆ  แล้วก็จะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าทั้งหมดเป็นแผนของไอ้ชายมันเอง  แม่ง.... สุดยอดว่ะ  กูนับถือมึงจริงๆ  ไอ้เชี่ยเอ๊ย  จอมวางแผนจริงๆ

         ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น  แต่... ก็ใช่ว่ะ  ต้องใจเย็นไว้ก่อนเว้ย  ไอ้เป้ง  ใจร้อนจนอะไรๆมันพังเสียเรื่องไปหลายทีแล้วกู  ครั้งนี้ต้องใจเย็นและค่อยๆคิดหาทางแก้ดีกว่า  คนมันร้ายกาจขนาดนี้จะรับมือมันได้คงต้องใช้ความนิ่งมาสยบว่ะ

         -

         -

         วันนี้เลิกเรียนเร็วผมเลยตั้งใจว่าจะบุกไปหาไอ้มาร์ท   กะว่าจะถามมันก่อนให้รู้เรื่องไปว่าทุกอย่างเป็นแผนไอ้ชายจริงรึเปล่า   แต่ก็นะ.... ไม่รู้ว่ามันจะยอมบอกมาดีๆรึเปล่า   ไม่หวังมากดีกว่าว่ะ

         " มีอะไรวะถึงเรียกกูมาเจอเนี่ย"  มันเริ่มต้นถามหน้างงๆแล้วนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเพราะผมนัดมันออกมาที่ร้านกาแฟหน้ามหา'ลัยมัน

         " กูมีเรื่องต้องคุยกะมึงหลายเรื่องว่ะ"

         " หือ... อะไรอีกล่ะวะ  หลายเรื่องซะด้วย"  มันเลิกคิ้วนิดนึงคงคิดว่าผมจะมาอะไรกะมันอีกมั๊ง

         " ก่อนอื่นเลยนะ  กูขอถามมึงตรงๆเลยว่า  เวลานี้มึงยังเห็นว่าคนอย่างกูเป็นเพื่อนมึงอยู่มั๊ยวะ"  ถามไปก็จ้องหน้ามันอยู่ครับ   มันก็อึ้งๆไป 

         วูบนึงผมมองเห็นความหวั่นไหวบางอย่างในตามัน  เดาเอาว่าเป็นความรู้สึกผูกพันระหว่างผมกะมันมั๊ง   ถึงเราคบกันแค่ไม่นานเท่าไหร่ก็จริงแต่อย่างที่บอก   คนเราบางทีมันก็ไม่ได้ต้องการเวลาอะไรมากนักหรอก   แค่คิดว่าต่อกันติดและรู้สึกดีๆต่อกันมันก็พอแล้ว

         " แล้วมึงจะถามทำไมวะ  ที่จริงมึงต้องการอะไรกันแน่  กูว่ามึงพูดมาเลยดีกว่าว่ะอย่าเสียเวลาเลย"  มันหลบสายตาผมอีกแล้วก็ส่ายหน้าไปมา

         " เดี๋ยวดิ... มึงแค่ตอบกูมาก็พอ  กูอยากรู้จากปากมึงเองเพราะกูเบื่อจะเห็นมึงตั้งตัวเป็นศัตรูกูยังงี้แล้ว  ความจริงอ่ะกูไม่แคร์หรอกเว้ยถ้าเป็นคนอื่นมาทำแบบนี้กะกู  แต่นี่กูเห็นว่ามึงเป็นเพื่อนกูไง  กูเลยไม่อยากให้มันเป็นยังงี้"

         " กู.... "  มันอึ้งไปอีก  แล้วก้มหน้าลงต่ำ  ผมเองใจชื้นขึ้นมานิดนึงล่ะว่าอย่างน้อยมันก็ต้องแคร์เพื่อนอย่างผมมั่งแหละ  ไม่งั้นมันคงพูดให้ผมหน้าหงายไปแล้วว่ามันไม่เห็นผมเป็นเพื่อนอีกต่อไปแล้ว

         " ทำไมวะมึง   มันยากนักเหรอวะแค่พูดสิ่งที่ใจมึงคิดอ่ะ  ถ้ามึงกะกูยังเหมือนเดิมก็บอกกูมาก็แค่นั้น  จะไปยากอะไรวะ"

         " เออ... กูก็เหมือนเดิมนั่นแหละ  มึงก็เป็นเพื่อนกูเหมือนเดิมไง  โอเคมั๊ย"  มันเอ่ยออกมาในที่สุดน่ะนะ  ก็เป็นอย่างที่ผมคิดไว้จริงๆ

         " ก็แค่นั้น  กูอยากรู้แค่นั้นแหละ  งั้นทีนี้มึงช่วยบอกกูทีว่าอะไรทำให้มึงคิดทำแบบนี้กะกูวะ  มาจีบเมียเพื่อนเนี่ย  กูไม่เข้าใจว่ะ"  เริ่มถามเข้าประเด็นมันเลย  มันก็ทำหน้าเหวอๆอีก

         " ก็กู... กูชอบน้องมันว่ะ"

         " ชอบมัน  ทั้งๆที่มันเป็นเมียกูเนี่ยนะ"

         " เออ... กูรู้ว่ามันเหมือนทรยศเพื่อน  แต่กูก็รักน้องมันจริงๆนะเว้ย"

         " เหรอวะ  งั้นมึงก็เลยคิดว่ามึงชอบมันก็แย่งมันไปจากกูก็พอ  กูจะเป็นยังไง  จะเสียใจแค่ไหนก็ช่าง  งั้นเหรอวะ"

         " ............."

         " ตอบมาดิวะ  ว่ามึงตั้งใจทำยังงี้แต่แรกอ่ะ"  ผมยังคงคาดคั้นมัน  และยังคงจ้องตามันอยู่จนมันหลบตาไปอีก

         " กู...."

         " หรือว่ามีคนบอกให้มึงทำยังงี้  ใช่มั๊ย....."  มันรีบหันกลับมาเลยครับ   ท่าทางมันก็ตกใจมากอยู่แหละคงเพราะผมถามได้ถูกจุดแล้ว

         " ไอ้เป้ง.... "  มันเอ่ยชื่อผมแผ่วๆแทบไม่ได้ยิน  คงคิดไม่ถึงไงว่าผมจะรู้

         " ไอ้เชี่ยชายใช่มั๊ย"

         " ........."  ไม่มีคำตอบ  แต่มันทำหน้าเหมือนเห็นผีเลยทีนี้

         " มึงตอบกูมา"  ผมพูดเสียงดังขึ้นแต่ไม่ถึงกับตะคอกหรอกเพราะคนในร้านเยอะอยู่  ก็หวังจะเร่งเค้นความจริงจากมันให้ได้ซะที

         " เออ... มันบอกว่าอยากช่วยกูเพราะเห็นใจกู   มันเลยแนะว่าถ้าชอบมินก็ให้แย่งมาจากมึงเลย   คนไม่เอาถ่านอย่างมึงจะมาทำให้มินมีความสุขได้ยังไง  แล้วก็บอกกูว่าไม่ต้องไปแคร์หรอกว่าจะเป็นการทรยศเพื่อนเพราะยังไงมินก็สำคัญกว่าอยู่แล้ว   ทำยังงี้เป็นการดีกับมินมากกว่าจะปล่อยให้น้องคบกะมึงต่อโดยมองไม่เห็นอนาคตยังงั้นน่ะ"

         คราวนี้คนที่อึ้งไปคือผมว่ะ  ความเซ็งในอารมณ์เข้ามาแทนที่ทุกๆอย่างในหัวตอนนี้  อย่างแรกคือผมไม่นึกเลยว่าไอ้ชายมันจะช่างหาเหตุมาชักจูงไอ้มาร์ทได้ขนาดนี้   ส่วนไอ้มาร์ทมันก็ดีเกินไปว่ะ   มันไม่ได้โง่หรอกนะ  ขอย้ำเลยว่ามันไม่ได้โง่จนตามไอ้ชายไม่ทัน   แต่ผมกลับมองว่ามันน่ะดีเกินไปที่เลือกห่วงแต่มินที่มันรักที่สุดเท่านั้นโดยไม่ไตร่ตรองเหตุผลอื่นให้ดีก่อน

         แต่อีกอย่างนึงที่ทำให้ผมยิ่งเสียเซล์ฟไปเลยก็คือ  ตกลงในสายตาคนอื่นผมนี่มันแย่มากเลยเหรอวะ  ไม่ดีพอที่จะคู่ควรคบกับมินเลยเหรอ   ถึงขนาดที่ว่าไอ้มาร์ทมันจะคิดว่า  ถ้ามินยังคบกับผมก็คงมองไม่เห็นอนาคตและผมควรออกไปจากชีวิตมินซะตามที่ไอ้ชายมันบอกยังงั้นเลยเหรอ

         " มันยังบอกกูนะว่า  ที่มึงทำกับมินอย่างทุกวันนี้มันเหมือนมินเป็นแค่เมียเก็บของมึง  เพราะมึงก็ไม่กล้าไปบอกใครๆในสังคมรอบข้างมึงว่ามึงคบกะน้องอยู่  ตอนนั้นกูก็คิดว่าไอ้ชายมันพูดถูกแหละ  กูถึงได้คิดว่ามึงไม่สมควรจะคบกับน้องต่อไปแล้ว  เพราะคนอย่างมึงยังไม่พร้อมจะรับผิดชอบชีวิตใครได้"  มันสรุปออกมาซะจนผมหน้าชา   ผมว่ามันก็พูดถูกจริงๆว่ะ  และมันทำเอาผมหดหู่มากตอนนี้   นี่ผมมันห่วยยังงั้นจริงๆสินะ

         " แต่เอาเข้าจริงก็อย่างที่มึงบอกแหละ  ที่กูทำมันเป็นการทรยศแทงข้างหลังเพื่อนจริงๆ  แต่กูก็ยังจะหน้าด้านหลอกตัวเองแล้วคิดตามไอ้ชายมันไปว่ากูทำถูกแล้ว   แค่เพราะว่ากูรักน้องหวังดีกะน้องเท่านั้นเอง   หึ... แต่มันเอามาอ้างเพื่อลบล้างกันไม่ได้ซะหน่อย  ยังไงกูก็ผิดอยู่วันยังค่ำ  ต้องขอโทษมึงด้วยนะเว้ย   กูคิดได้แล้วล่ะ"  ตอนนี้มันเอ่ยขอโทษผมด้วยสีหน้าที่สำนึกได้จริงๆ  แค่นี้ผมก็ยิ้มได้แล้วว่ะ

         " อืม... ขอบใจเว้ย  ดีใจว่ะที่มึงเข้าใจซะที   กูยอมรับว่าตอนแรกกูโกรธมึงฉิบหายเลย  แต่แปลกนะที่กูกลับยังรู้สึกว่ายังไงมึงก็เพื่อนกู  แล้วลึกๆอ่ะกูก็คิดว่ามึงไม่น่าทำยังงี้มันต้องมีเหตุผลอะไรสักอย่างอยู่   ตอนนี้กูก็ได้รู้แล้ว"

         " ที่จริงกูมันก็ผิดเองแหละ  กูรักมินมากจนไอ้ชายมันบอกให้ทำแบบนี้ก็เชื่อมันง่ายๆ  ตอนวันที่มึงทะเลาะกับมินนั่นกูก็ยังคิดนะว่ากูคิดถูกแล้วที่จะแย่งน้องมาเพราะกูมั่นใจว่ากูคงดูแลน้องได้ดีกว่ามึงแน่ๆ   แต่กูลืมนึกไปเองแหละว่ามึงเป็นเพื่อนกู  และกูไม่ควรทำยังงั้นเลย"  มันระบายความในใจออกมาอีก  หน้ามันตอนนี้เลยยิ่งเศร้าไปกันใหญ่

         " เออ... ก็ไม่เป็นไรเว้ย  กูเข้าใจว่ะ  ก็เมียกูสวยแจ่มขนาดนั้นใครๆก็ต้องอยากได้เป็นธรรมดา  อย่าคิดมากเลยเว้ย"  ผมแกล้งพูดให้ขำๆไป  ไม่อยากให้มันเศร้าหนักไปกว่านี้แล้วตบไหล่มันทีนึงพลางยิ้มให้มัน  จนมันเริ่มยิ้มออกมาได้

         " โห... มึงนี่ก็นะ  ภูมิใจซะจัง  แต่มันก็จริงของมึงแหละว่ะ  เมียมึงสวยที่สุดแล้วล่ะ"  มันหัวเราะออกมาในที่สุด

         " แน่นอนเว้ย  แต่เออ... กูยังอยากถามอะไรมึงอีกหน่อยได้มั๊ย"

         " อะไรอ่ะ..."

         " มึงรู้เรื่องที่ไอ้ชายมันให้คนที่แม๊กกาซีนนั้นมาแบล๊คเมล์กูรึเปล่า"

         " หา... อะไรนะ  คนที่แม๊กกาซีน...?  แบล๊คเมล์.....?  เรื่องอะไรกันวะ  กูไม่รู้เลย... ไหนมึงเล่ามาดิ๊"  ไอ้มาร์ทขมวดคิ้วสงสัยทันที   ผมก็เชื่อแหละว่ามันคงไม่รู้จริงๆเพราะเรื่องนี้ไอ้ชายมันก็ไม่จำเป็นต้องบอกมันอยู่แล้วนี่

         " มันให้คนที่แม๊กกาซีนxxx มาแบล๊คเมล์กูเรื่องมินว่าจะเอาไปเปิดเผย  แลกกะการที่กูต้องเข้าวงการไปเต็มตัวน่ะ"

         " เหรอวะ  แล้วมันจะต้องการให้มึงเข้าวงการทำไมอ่ะ"

         " ก็ถ้ากูเข้าวงการไปกูจะทำอะไรได้ล่ะ  ก็ต้องเลิกกับมินอ่ะดิ  ไม่งั้นก็ต้องโดนเปิดโปงแน่  ทีนี้พ่อกูก็รู้  คนอื่นก็รู้กันทั้งประเทศ  พ่อกูได้ฆ่ากูแน่"

         " โห... นี่มันคิดวางแผนไว้เป็นสเต็ปๆขนาดนี้เลยเหรอวะ"

         " ก็ใช่ดิ  ดีว่ากูรู้ทันซะก่อนถึงต้องมาถามกะมึงนี่ไง  ก็คิดเอาว่าที่ตัวมึงเองทำแบบนี้ก็คงเป็นส่วนนึงของแผนมันด้วย  เพราะคนอย่างมึงไม่น่าจะเป็นคนแบบนี้หรอก  ถึงกูคบกะมึงแค่ไม่นานกูก็ดูรู้ว่าคนอย่างมึงอ่ะตรงๆ  คิดยังไงก็พูดยังงั้นแล้วก็เปิดเผยไม่มาซับซ้อนอะไรขนาดนี้ได้"

         " เออ... กูก็นึกไม่ถึงเลยว่ะเนี่ยว่าไอ้ชายมันจะทำขนาดนี้  มันแค่บอกกูว่ามันเห็นใจอยากจะช่วยให้กูสมหวังกะมินเท่านั้น"  ไอ้มาร์ทบ่นแล้วก็ส่ายหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อในความร้ายกาจของน้องมัน

         " หึ... นี่แสดงว่ามันจงใจหลอกใช้มึงจริงๆจังๆเลยนะเนี่ยถึงไม่บอกอะไรมึงเลย  แล้วมึงรู้มั๊ยล่ะว่าจุดประสงค์จริงๆมันน่ะคืออะไร"

         " หือ... อะไรล่ะวะ"   นั่นไง... มันไม่รู้จริงๆด้วยอ่ะ

         " ก็กูไง  มันน่ะเคยบอกว่ามันชอบกูอยู่  แล้วก็จะแย่งกูไปเป็นของมันให้ได้  นี่มึงเพิ่งรู้เลยใช่มั๊ยล่ะ"  หึ... เอาให้มันตาสว่างกันไปเลยเว้ย  จะได้จบ

         " หา... มันน่ะเหรอชอบมึง  เฮ่ย... จริงๆเหรอวะ" 

         " เออ... กูไม่หลอกมึงหรอกน่ะ..."  คราวนี้ไอ้มาร์ทเอามือลูบหน้าตัวเอง   ไม่อยากจะเชื่อดิมึง  แต่มันก็เป็นความจริงว่ะ

         " ....กู... คิดไม่ถึงว่ะ  ตกลงนี่จริงๆมันชอบมึงอยู่เหรอวะ  กูไม่เคยนึกว่ามันจะเป็นเกย์เลยนะ  งงเลยล่ะกู" 

         " ก็มึงอ่ะน๊า  วันๆอยู่กะมันแต่ไม่ได้สังเกตอ่ะดิ"

         " ก็เออ... มันไม่มีทีท่าว่าจะชอบใครให้กูเห็นเลยนี่หว่า"  เหอะ... ก็ชอบกูนี่ไง  แต่เรื่องอะไรมันจะบอกมึงล่ะ

         " เออๆ  เอาเป็นว่าตอนนี้มึงก็ได้รู้ทุกอย่างแล้วนะ  ไอ้ความร้ายกาจของน้องมึงอ่ะ  หลังจากนี้มึงจะทำไงต่อไปล่ะ"

         " กูกับมันก็ต้องมีเรื่องคุยกันยาวดิ"  มันพูดซะเสียงทุ้มต่ำเลยว่ะ  ท่าทางจะเอาจริง....  ตายแน่มึง... ไอ้ชาย

         " เออ... งั้นกูจะขอไปเคลียร์ด้วยคนได้มั๊ยล่ะ  เอาให้จบไปทีเดียวเลย  กูไม่อยากฉายซ้ำแล้ว"  เดี๋ยวจะเหยียบแม่งให้จมดินเลย  สัด...

         " อืม... จะดีเหรอวะ  ก็... แล้วแต่มึงว่ะ" 

         ได้ทีเข้าผมเลยถือโอกาสตามมันไปที่บ้านด้วยซะเลย  มันสองคนคงต้องเคลียร์กันยาวและก็ดีไปอย่างที่ตอนนี้ผมได้ไอ้มาร์ทมาเป็นแนวร่วมด้วย

         " เอ้อ... ไอ้เป้ง..."  มันกำลังจะเดินไปเปิดประตูรถมันอยู่แต่ก็หันกลับมาทางผมซะก่อนแล้วก็ยื่นมือออกมาเหมือนจะให้ผมจับ

         " กูต้องขอโทษมึงอีกทีว่ะที่หลงหน้ามืดทำเหี้ยๆกับมึงไป  เพราะกูมันไม่คำนึงผิดชอบชั่วดีเองแหละมันถึงหลอกใช้กูได้  แต่ตอนนี้กูตาสว่างแล้ว  ขอบใจมึงที่ยังแคร์เพื่อนเหี้ยๆอย่างกู  และยังให้อภัยกูได้อีก  ขอบใจจริงๆว่ะเพื่อน"  มันขอโทษผมซะยาวอย่างสำนึกได้จริงๆ   ผมก็ยิ้มออกมาแล้วก็จับมือมันไว้แน่น

         " เออ... ช่างเหอะ  กูก็ยังเชื่อไงว่าคนอย่างมึงอ่ะไม่มีอะไรหรอก  ก็แค่หลงไปชั่วคราวใครๆก็เป็นกันได้  ไม่เป็นไรหรอก  ดีใจนะที่มึงเข้าใจซะที"

         " อืม... ขอบใจว่ะ  งั้นไปกันเหอะ  เอ้อ...ใช่  แล้วนี่มึงไม่ได้เอารถมาเหรอวะ"

         " เออ... เรื่องมันยาว  เดี๋ยวกูเล่าให้ฟัง"  เหอะ... รู้สึกว่าตัวเองใช้คำนี้บ่อยมากๆว่ะ  และเชื่อว่าคงยังต้องใช้อีกหลายรอบนัก 

         คุยจบผมก็เปิดประตูรถไปนั่งข้างมัน  ระหว่างนั่งรถไปผมก็เล่าให้มันฟังว่าตอนนี้ตกยากต้องออกมาเดินดินกินข้าวแกงแล้ว   มันก็ตกใจมากว่าพ่อผมใจร้ายได้ขนาดนั้นเลยเหรอ  แสดงว่ารู้จักพ่อผมน้อยไปว่ะ

         " แล้วมึงจะทำไงต่อไป"

         " ก็ไม่ทำไง  ก็อยู่มันไปยังงี้แหละ  ลำบากหน่อยแต่กูว่ากูคงสบายใจกว่าเก่ามาก  ไม่ต้องมาทำตามใจใคร"

         " พ่อมึงเค้าชอบบังคับมึงตลอดเลยเหรอ" 

         " เออ... บงการกูทุกอย่างแหละ  กูอ่ะหุ่นเชิดแท้ๆอยากทำอะไรตามใจก็ไม่เคยจะได้หรอก"  ผมบ่นแล้วก็ถอนใจ  มันก็หันมายิ้มๆให้

         " จะว่าไปก็ไม่ต่างกับกูเท่าไหร่หรอก  พ่อกูก็พอๆกับพ่อมึงแหละมั๊ง"  ไอ้มาร์ทพูดแล้วก็ถอนใจออกมาบ้าง  ผมเลยหันไปมองมัน

         " หือ... พ่อมึงก็เหมือนกันเหรอวะ"

         " อืม... ก็เหมือนกันนั่นแหละ  อาจจะยิ่งกว่าด้วยตรงที่เค้าก็ไม่ค่อยเห็นกูเป็นลูกสักเท่าไหร่หรอก"   เอาแล้วไง  แม่ง... เสือกมาเหมือนกูอีก

         " แต่กูก็ชินแล้วล่ะ  อีกไม่เท่าไหร่กูก็เรียนจบ  ทีนี้กูก็จะออกมาใช้ชีวิตของกูเองซะที  กูว่ากูคงพาแม่กูย้ายออกมาจากบ้านนั้นเลยว่ะ  มาอยู่ประสาแม่ลูกคงดีกว่าไม่ต้องไปทำอะไรตามใจใคร  ไม่ต้องไปแคร์ว่าใครจะคิดยังไงกะเรา"  มันยิ่งพูดตามันก็ยิ่งเศร้าว่ะ 

         มานึกดูผมก็เข้าใจดีเลยว่าที่มันทนอยู่บ้านมันทุกวันนี้  ทางเมียใหญ่ของพ่อมันก็คงไม่ปลื้มมันกับแม่มันเอามากๆอยู่  ก็คงไม่ต่างกับละครหลังข่าวเรื่องลูกเมียน้อยสักเท่าไหร่  แม้ว่าจะไม่ถึงกับโดนกลั่นแกล้งสารพัดแต่มันก็คงอึดอัดลำบากใจมาตลอดเลยนะนั่น  ในเมื่อบ้านมันก็เหมือนไม่ใช่บ้านมันเอง  อยู่เหมือนแค่ผู้อาศัยไปวันๆ

         แล้วยิ่งถ้าพ่อมันไม่ปลื้มมันด้วยอีกคนยังงี้ก็คงจบเห่ไม่ต้องสืบกันล่ะ  ไม่แปลกที่มันจะคิดย้ายออกมาอยู่เองยังงี้   เพราะผมว่าถ้าเป็นผมก็คงทำยังงี้เหมือนกัน  คิดแล้วก็น่าเห็นใจมัน

         " เออ... มึงก็อย่าเพิ่งท้อนะเว้ย  อีกหน่อยพอพวกเราจบปั๊บก็ออกมาทำงาน   ทีนี้ชีวิตมันก็จะเป็นของเราเองได้จริงๆซะที  กูก็รอให้ถึงวันนั้นแหละว่ะ"  พูดจบผมก็หันไปยิ้มกับมันอีก 

         ตอนนี้ผมเองก็รู้สึกอยู่อย่างนึงว่า  ไอ้ที่ผมรู้สึกลึกๆว่าผูกพันกะมันเนี่ยจะเป็นเพราะชีวิตมันรันทดพอๆกะผมรึเปล่านะเลยจูนกันติดง่ายๆยังงี้  แต่ก็ดีแล้วว่ะ  ทีนี้ผมจะได้มีคนที่เข้าใจผมจริงๆจังๆซะที

ต่อช้างล่างได้เลยคร้าบ วัยรุ่น อิอิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-03-2014 16:23:54 โดย Goodfellas »

ออฟไลน์ Goodfellas

  • magKapleVE
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1828
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +384/-2
    • Adult games: dating for spicy meetups
ต่อจร้า....

         ไอ้มาร์ทขับเข้าซอยมาถึงหน้าบ้านหลังนึงที่โคตรใหญ่  ไม่รู้กี่ร้อยล้านนะเนี่ย   พอเข้าไปก็เลี้ยวไปจอดที่บ้านหลังเล็กกว่าทางขวามือของบ้านหลังใหญ่  ไม่ดิ... ต้องบอกว่าโคตรใหญ่อ่ะ

         พอลงจากรถผมก็มองไปรอบๆ  สังเกตเห็นว่ามีบ้านทั้งหมดสามหลังครับ  บ้านที่ว่าโคตรใหญ่นี่อยู่ตรงกลาง  แค่นี้ก็รู้ล่ะว่ามันรวยจริงแค่ไหน  จากนั้นมันก็พาผมเดินเข้าไปในบ้านเล็กที่ก็ไม่เล็กนักหรอกหลังนั้น 

         " แม่ครับ... นี่ไอ้เป้งเพื่อนผม"  มันแนะนำผมกับแม่มันซึ่งขอบอกเลยว่า  แม่มันยังสาวยังสวยโคตรๆ  แถมดูเป็นคนใจดีอย่างที่สุดจากท่าทางและรอยยิ้มอันนั้น  ผมก็รีบยกมือไหว้ทันที

         " จ้ะลูก  ทานอะไรกันมารึยังจ๊ะ" 

         " ยังครับ  แต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวผมขอขึ้นไปหาไอ้ชายบนตึกใหญ่ก่อนนะครับ"  ไอ้มาร์ทบอกแล้วก็ยิ้มให้แม่มันจากนั้นก็หันมาหาผม

         " ไอ้ชายมันอยู่ที่ตึกใหญ่  เดี๋ยวมึงไปกะกูเลย" 

         ผมเลยเดินตามมันต้อยๆไปที่บ้านโคตรใหญ่หลังนั้น  แต่พอเข้าไปในห้องโถงที่ก็โคตรใหญ่อีกแหละ  ก็เห็นว่ามีผู้หญิงวัยกลางคนกับสาวสวยอีกคนนั่งคุยกันอยู่ที่โซฟา

         " สวัสดีครับแม่ใหญ่  ผมมาหาชายครับ"  ไอ้มาร์ทยกมือไว้ผู้หญิงคนนั้นที่ตอนนี้ยกมือขึ้นมารับไหว้แต่ตาอ่ะไม่ได้มองมันเลย  บ่งบอกให้รู้ว่าเค้าไม่ปลื้มไอ้มาร์ทมันซะจริงๆ  แต่ก็ทำให้ผมต้องยกมือไหว้ตาม

         " ชายอยู่ที่ห้องแน่ะ  ขึ้นไปสิ  แล้วนี่พาใครมาด้วยล่ะเนี่ย  หน้าตาคุ้นๆ" สาวสวยอีกคนนั่นเอ่ยขึ้นพลางเพ่งมองหน้าผม 

         " เพื่อนน่ะครับเจ๊  พอดีมีธุระกับชายด้วยกัน งั้นเดี๋ยวผมขอขึ้นไปหาชายก่อนนะครับ"  ไอ้มาร์ทกล่าวอย่างนอบน้อม  แล้วก็เดินนำผมขึ้นบันไดไป

         เห็นแค่นี้ผมก็พอเดาทุกอย่างได้ว่ะ  ยัยป้านั่นคงเป็นแม่ไอ้ชายแน่ๆส่วนนั่นคงพี่สาวมัน  ดูจากที่ท่าเค้าแล้วก็ไม่แปลกใจเลยว่า  ไอ้ชายมันนิสัยแบบนี้ได้ยังไง  จากสายตาหยามเหยียดดูถูกคนแบบนั้น  ท่าทางถือตัวอย่างนั้นอ่ะ  ชัวร์.... แมร่ง... เหมือนเราอยู่ในละครหลังข่าวจริงๆ

         ไอ้มาร์ทเดินไปหยุดที่ห้องๆนึงแล้วก็เคาะประตู   ไอ้ชายก็เปิดออกมาพอมันเห็นผมมันก็ตะลึงไปนิดนึงแต่ก็กลับมายิ้มเหมือนทุกที  ไอ้ยิ้มมุมปากประมาณว่ากูเจ๋งของมันอ่ะ

         " อ้าว... นี่นายมาได้ไงเนี่ย"  มันเอ่ยถามก่อน  แต่ผมกับไอ้มาร์ทหน้าบอกบุญไม่รับยังงี้มันน่าจะเดาชะตามันได้ล่ะมั๊ง  ว่ากำลังจะขาดลงแล้ว

         " กูมีเรื่องต้องสะสางกับมึงว่ะ"  ผมชิงพูดขึ้นก่อน  ส่วนไอ้มาร์ทยังคงหน้านิ่ง

         " หึๆ  เรื่องอะไรล่ะ  ทำหน้าซะจริงจังเลย"  เอ้า... ดูแมร่งดิ  ยังจะยิ้มใจเย็นได้อีกอ่ะ

         " ก็มึงทำอะไรเอาไว้ล่ะ"  ผมเริ่มฉุนว่ะ  ขึ้นเสียงแม่งทันที

         " อะไรกัน  หึๆ  เอาเหอะ  เดี๋ยวเราลงไปคุยกันในสวนดีกว่า  ลมพัดเย็นสบายบรรยากาศก็ดีนายจะได้ใจเย็นๆกว่านี้นะ"  มันยังยิ้มแล้วก็ปิดประตูเดินนำผมกับไอ้มาร์ทที่ได้แต่มองตากันลงบันไดไป

         ตอนเดินผ่านแม่กับพี่สาวมันที่โซฟานั่น  แม่มันก็ยังมองไอ้มาร์ทแบบไม่พอใจอยู่เลย  โว้ย... เกลียดไอ้สายตาดูถูกเหยียดหยามแบบนี้จังว่ะ  นึกแล้วก็สงสารไอ้มาร์ทมันจริงๆ  ถ้าเป็นผมคงต่อยแมร่งตาปิดไปแล้วมามองกันยังงี้

         มันเดินนำออกมานั่งอยู่ที่โต๊ะกระจกหน้าบ้านมัน  แล้วก็หันไปสั่งให้คนใช้มันเอาน้ำมาเสิร์ฟ  ท่าทางมันเยือกเย็นมากเหมือนกับไม่รู้เรื่องราวอะไรใดๆ  แต่ผมว่ามันต้องรู้ว่าผมบุกมาถึงนี่ทำไม

         " เอ้า... ว่ามาสิ  เราไปทำอะไรไว้งั้นเหรอ" 

         " มึงไม่ต้องมาแกล้งมึนเลย  พวกกูรู้หมดแล้วว่ามึงคิดจะทำอะไร   มึงทำยังงี้ได้ยังไงวะ"  ผมโวยไป

         " หึๆ  ตกลงว่าเราไปทำอะไรไหนบอกมาสิ"  เออ... เอากะแมร่งดิ  ยังจะตีหน้าตายได้อีก

         " ไอ่สัดชาย!"  ผมตะคอกแล้วลุกพรวดโน้มตัวไปหามันแล้ว  แต่ไอ้มาร์ทลุกขึ้นมาดึงผมไว้ก่อน 

         " เฮ้ย... ใจเย็น  ไอ้เป้ง  อย่าเพิ่งให้เป็นเรื่องไป  มึงก็เหมือนกันไอ้ชาย  เรื่องทุกอย่างกูรู้กันหมดแล้วทั้งเรื่องมึงหลอกใช้กูแล้วก็เรื่องที่มึงให้คนไปแบล๊คเมล์มันน่ะ  มึงจะยอมรับได้ยัง" 

         " เฮ้อ... เอาล่ะ  ถ้าทำแบบนั้นแล้วยังไงล่ะ  ก็เคยบอกแล้วไงว่าเราจะทำให้ใจของนายมาเป็นของเราให้ได้  เราก็แค่ทำตามที่พูดเท่านั้นเอง"  มันยังหันมาพูดกับผม

         " หึ... มึงทำตามที่มึงพูดเหรอ  แล้วก็มาใช้กูเป็นเครื่องมือเนี่ยนะ  มันจะเลือดเย็นไปมั๊ยวะ  นี่กูเกือบเสียเพื่อนดีๆไปเพราะมึงเลยนะ"  ไอ้มาร์ทเริ่มโวยบ้าง

         " ก็บอกแล้วไงว่าแค่ทำตามที่พูด  จะสนใจไปทำไมล่ะวิธีการน่ะแค่ให้ได้ตามที่ต้องการก็พอแล้วจริงมั๊ย"  มันหันมาทางผมแล้วยิ้มๆว่ะ  ผมก็ง้างหมัดขึ้นทันที  ไม่ไหวแล้ว  สาดด...ด

         " เฮ้ย... ไอ้เป้ง  มึงไม่ต้อง.... "  ไอ้มาร์ทแม่งจับมือห้ามผมอีกจนผมเริ่มจะฉุนมันแทนอยู่แล้ว   แต่แล้วผมก็ต้องช๊อคสุดๆเพราะมันต่อยไอ้ชายเข้าหน้าซะเองจนมันลงไปนั่งกองกะพื้น  ซึ่งตอนนี้คนที่ต้องช๊อคอีกคนก็คือไอ้ชายนั่นแหละ  คงไม่คิดว่าไอ้มาร์ทจะกล้าทำมัน  แต่....

         " ว้าย.... " เสียงสาวใช้ที่กำลังถือถาดแก้วน้ำจะมาให้เราร้องขึ้นสุดเสียงแล้วก็วิ่งหนีเข้าไปข้างในบ้านทันที  ฉิบหายแล้วสิเนี่ย....

         " งั้นกูขอบอกมึงไว้เลยนะว่ากูจะไม่ขอเป็นพี่น้องกับคนเลือดเย็นทำทุกอย่างแค่เพื่อตัวเองอย่างมึงอีกแล้ว  มึงเคยนึกถึงใจกูมั่งมั๊ยวะ  ชีวิตกูนอกจากแม่กูก็มีแค่มึงที่นับญาติด้วย   ที่ผ่านๆมากูถึงยอมให้มึงเข้าข้างมึงได้ทุกอย่าง  มึงจะทำอะไรผิดแค่ไหนยังไงกูก็ให้อภัยมึงได้  แต่ถ้ามึงคิดกับกูแบบนี้กูคงไม่ไหวว่ะพอกันที"  ไอ้มาร์ทประกาศกร้าวในขณะที่ไอ้ชายมันยังนั่งมึนอยู่

         " ไหนๆ.... ว้าย... ตายแล้ว  นี่มันอะไรกัน  แก... ไอ้มาร์ท  แกทำอะไรน้องชั้น"  พี่สาวมันน่ะเองครับที่เดินตามออกมากับสาวใช้เมื่อกี๊  ส่วนที่ตามออกมาก็คือแม่มันน่ะเอง ซึ่งเค้าก็ตรงเข้าไปประคองไอ้ชายทันที  ฉิบหายจริงๆด้วยว่ะ

         " นี่.... สำหรับความกล้าดีของแก"  พี่สาวมันตบหน้าไอ้มาร์ทฉาดใหญ่เลยว่ะ  ผมงี้ยิ่งช๊อคไปกันใหญ่ยืนทำอะไรไม่ถูกไปเหมือนกัน  ไอ้มาร์ทก็ยืนนิ่งหน้าหันอยู่ยังงั้นไม่พูดอะไรสักคำเพราะตอนนี้เค้าก็ไปนั่งโอ๋ไอ้ชายกันใหญ่  เออ... กางปีกปกป้องมันเข้าไป

         พอได้สติหน่อยผมก็ถามไอ้มาร์ททันทีว่าเป็นไงมั่ง  แต่มันส่ายหน้าเบาๆแล้วก็เดินนำผมกลับไปทางบ้านแม่มันเลย

         " เดี๋ยว... แกจะไปไหน  ไอ้เลว  กลับมาเดี๋ยวนี้นะ"  เสียงพี่สาวกับแม่มันก่นด่าไล่หลังมาติดๆแต่เพราะเค้ามัวไปโอ๋ไอ้ชายกันอยู่เลยไม่ได้ตามมาทันที   แต่นั่นน่ะผมรู้เลยว่าหลังจากนี้ความฉิบหายจะมาเยือนไอ้มาร์ทกับแม่ของมันแน่ๆ
      
         " แม่ครับ  แม่ไปเก็บข้าวของทั้งหมดเดี๋ยวนี้เลย  เราจะย้ายออกกันเดี๋ยวนี้แล้ว"  มันบอกแม่มันทันทีที่ก้าวเข้าบ้าน  ส่วนแม่มันน่ะเหรอครับ  ก็ช๊อคอ่ะดิ

         " อะไรกันน่ะลูก  ไหนบอกแม่มาซิ  มันมีอะไรกัน  จะให้แม่เก็บของย้ายไปไหน  หือ..." 

         " ผม.... "  มันพูดได้แค่นั้นก็กอดกับแม่มันแล้วร้องไห้ออกมา   แม่มันก็ลูบหัวปลอบอยู่  เฮ้อ... เห็นแล้วก็ปวดใจ

         ถึงตอนนี้ผมถึงเพิ่งจะได้เข้าใจความรู้สึกจริงๆของไอ้มาร์ทมันว่ะ   ในใจมันน่ะคงเห็นไอ้ชายเป็นน้องรักของมันมาตลอดเพราะคนอื่นๆแม้แต่พี่สาวไอ้ชาย   ซึ่งที่จริงก็คือพี่สาวมันเหมือนกันเค้าไม่เคยคิดจะนับญาติกะมันเลย  มันถึงได้หันมารักและทุ่มเทกับไอ้ชายมาก  ผมไม่สงสัยแล้วที่เมื่อก่อนเวลามีอะไรมันก็จะเข้าข้างน้องมันตลอด   เพราะนอกจากแม่มันแล้วมันก็มีแค่ไอ้ชายจริงๆ   ส่วนพ่อมันนี่คงไม่ต้องพูดถึงมันคงคิดว่ามีก็เหมือนไม่มีไปแล้วมั๊ง

         แต่แล้วไอ้ชายก็ทำให้มันผิดหวังเพราะไอ้ชายไม่เคยแคร์ความรู้สึกพี่มันเลย  เห็นพี่มันเป็นแค่เครื่องมือไม่มีหัวจิตหัวใจซะอย่างนั้น  ซึ่งคงไม่ต้องบอกหรอกว่ามันมีนิสัยแบบนี้เพราะใครกัน   แต่นั่นก็คงไม่สำคัญเท่ากับว่าตอนนี้ผมกับไอ้มาร์ทจะทำยังไงตะหาก   

         ถ้าบ้านใหญ่เค้าเอาเรื่องแล้วเฉดหัวมันกับแม่มันออกจากบ้านอีกคนจะทำไงวะเนี่ย....................

                                 ***********************************************
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-03-2014 16:25:37 โดย Goodfellas »

ออฟไลน์ booboos

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
เฮ้อ อยากรู้ว่าเป้งจะแก้คืนยังไงอ่ะ
แบบว่าเอาเผื่อด้วยเลยจะดี หุหุ

teae

  • บุคคลทั่วไป

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
ทำไมมันมาม่าไปหลายชาม เอ๊ย..หลายคนนักล่ะคะน้องน็อต
เอ้า..จะทนๆกินไปก่อน หวังว่าหมดล็อตนี้แล้วก็คงหมดนะ ไม่มีล็อตใหม่มาอีกนะจ๊ะ

ออฟไลน์ Piaanie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-2
เรื่องมันยุ่งไปกันใหญ่เลย อยากให้เครียร์กันไวๆจัง  :sad4: :m15:

veerapat19691

  • บุคคลทั่วไป

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ uaeb

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1

ออฟไลน์ LimousinX9

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 229
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ยังไงละทีนี้ ทะเลาะกันยังไม่ทันรู้ว่าจะเอายังไงก็ตัดไปซะและ -*- 

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด