อิอิ ดีใจมากครับที่มีคนคิดถึงและเรียกร้องเข้ามาเยอะเหมือนกัน ทั้งพี่้ๆเพื่อนๆน้องๆ ขอบคุณมากคร้าบ

ขอบคุณผู้อ่านที่เพิ่งแวะมาอ่านมาติดตามด้วยครับ ดีใจที่เขียนมาได้ยาวขนาดนี้ อิอิ นี่ก็เป็นตอนที่ 39 เข้าไปแล้ว เลยคิดไว้ว่าพอครบตอนที่ 40 เดี๋ยวอาจจะมีตอนพิเศษมาให้ติดตามกันซะหน่อยดีกว่า
ช่วงนี้ก็ยังงานยุ่งๆอยู่บ้างแต่ยังไงก็จะรีบๆมาลงต่อให้นะครับ ติดตามกันต่อไปเน้อ ใกล้จะจบแล้วล่ะ
ตอนที่39 **************************************
หูผมคงไม่ได้ฝาด ไอ้เอ้มันบอกว่ารัชดาฯใช่มั๊ย เฮ้ย...ย สราด...ด รัชดาฯเหรอวะ แล้วเมียกูไปทำอะไรที่นั่น
" มึงเจอมินแล้วเหรอวะ"
" เออ... ดิวะ แต่ว่ามึงใจเย็นนะเว้ย ตอนแรกพวกกูไปดูๆอยู่ว่าจะนั่งร้านไหน แต่พอเดินผ่านลานเบียร์ตรงนั้นก็เห็นมินพอดีว่ะ แต่งซะสวยโคตร ท่าทางเหมือนเด็กเชียร์เบียร์เลยเพราะกูเห็นน้องมันมาเสิร์ฟเบียร์ให้แขกที่โต๊ะ"
ช๊อคซินิม่าเลยกูทีนี้ เด็กเชียร์เบียร์เหรอ
เด็กเชียร์เบียร์.........
เด็กเชียร์เบียร์....................เชียร์เบียร์................ เชียร์เบียร์
แมร่งเว้ย.... สะท้อนเป็นเอคโคอยู่ในหัวกูขนาดนี้เลย เมียกูเนี่ยนะ เป็นเด็กเชียร์เบียร์
" ว่าแต่เฮ้ย... มึงแน่ใจนะว่าใช่มินอ่ะ" เฮ้อ... คุณพระคุณเจ้าช่วยลูกช้างทีเห๊อะ ขอให้ไม่ใช่ ขอให้ไอ้เชี่ยเอ้ตาถั่วทีวะ
" ทีแรกกูก็ไม่แน่ใจแต่พอไปมองใกล้ๆก็มั่นใจเลย แต่งหน้าซะโคตรสวยเลยว่ะมึง เหมือนสาวเปรี้ยวๆ โคตรเซ๊กซี่อะ"
" เออ... พอละ สัด... บรรยายซะละเอียดไปมั๊ยมึง"
" แฮ่ะๆ โทษที แต่นั่นน่ะยังไม่เท่าไหร่นะ พอกูยืนดูอยู่แป๊บนึงน้องมันก็ขึ้นเวทีไปเต้นเรียกลูกค้าอีกว่ะ แมร่ง... สุดๆอ่ะ คนมายืนดูเพียบเลย"
" ห๊า... เมียกูไปเต้นบนเวที" โอว... ไม่ พระเจ้าช่วยลูกด้วย มันไม่จริงใช่มั๊ย
" เออ... ตกลงว่าเมียมึงกลายเป็นโคโยตี้ไปแล้วนะ"
" โว้ย.... มันเป็นยังงี้ได้ยังไงวะ" หัวเสียสุดๆเลยว่ะกู เกือบไปนะเนี่ย ดีว่าแม่อัมเข้าครัวไปแล้วไม่งั้นคงได้ยิน
" ไอ้พวกกูอ่ะครั้นจะจัดการพาเมียมึงกลับมาเดี๋ยวนั้นก็กระไรอยู่ ขนาดกูจะเข้าไปเรียกน้องมันกูยังไม่กล้าเลย กลัวถ้ามันเห็นพวกเรามาเจอมันที่นี่แล้วเดี๋ยวมันจะหนีไปที่อื่นอีก งั้นมึงต้องรีบมาตามเมียมึงกลับบ้านด่วนเลยนะคืนนี้"
" เออๆ ก็ต้องยังงั้นอ่ะดิวะ แต่ว่า... พวกมึงทำดีแล้วว่ะ ยังไงซะกูก็ต้องไปตามน้องมันด้วยตัวเองแหละ"
" อืม... ก็นั่นแหละ มันเมียมึงนี่หว่า มึงก็ต้องจัดการเอง แล้วนี่ตอนนี้มึงอยู่ไหนแล้วเนี่ย"
" ตอนนี้เหรอ... กูยังอยู่โคราช งั้นเดี๋ยวกูจะรีบกลับเดี๋ยวนี้แหละ มึงพากูไปที่นั่นละกันคืนนี้ แล้วเจอกัน ขอบใจมากนะเว้ย"
" เออ... ไม่เป็นไร เจอกัน" ไอ้เอ้ตอบรับแล้วก็วางไป ผมก็รีบไปบอกแม่อัมกับไอ้แมนทันทีว่าเจอมินแล้ว แม่ก็ดีใจใหญ่แต่ผมไม่กล้าบอกแม่หรอกว่าพวกมันไปเจอน้องที่นั่น ไม่งั้นแม่คงลมใส่ว่ะ เลยเลี่ยงๆตอบไปว่าอยู่ที่ร้านอาหารที่กรุงเทพฯ
เก็บข้าวเก็บของกันเสร็จเรียบร้อยผมก็รีบบึ่งรถสุดชีวิตกลับไปบ้านแม่อัมที่กรุงเทพฯทันที ก็เหยียบแม่งร้อยกว่ามาตลอดทางนั่นแหละ ไม่รู้จะรีบไปไหนนะกู กว่าจะไปหาน้องได้ก็ต้องรอตอนค่ำอยู่ดี
-
-
พอค่ำแล้วผมก็รีบไปหาไอ้เอ้ไอ้เอ๊กซ์และไอ้มาร์ทตามนัดที่รัชดาฯ ต้องนั่งรถเมล์ไปเหมือนเคยเพราะเอารถไปคืนไอ้เอ๊กซ์แล้ว ที่จริงมันก็ยังคะยั้นคะยอให้ผมเอายาริสของน้องมันไปใช้เพราะน้องมันมีคันใหม่อีกคันแล้วแต่ผมก็ไม่เอาอ่ะ เกรงใจมันจริงๆ แบบนี้ก็ดีแล้วว่ะผมจะได้เตือนตัวเองไว้ว่าเราไม่ใช่ลูกคุณหนูอีกแล้ว จะทำอะไรเอาแต่สบายก็คงไม่ได้แล้วล่ะ
โอเค... ตอนนี้เรากลับมาสนใจเรื่องมินกันดีกว่า ไอ้เอ้เดินนำผมมาที่ร้านๆนึงที่เป็นลานเบียร์ ตอนนี้ผู้คนก็เริ่มเยอะ แต่ผมมองๆไปก็ยังไม่เจอน้อง
" ร้านนี้เหรอวะที่มึงเจอมินเมื่อวาน" ผมเอ่ยถามไอ้เอ้อีกที
" เออ... ก็นี่แหละ น้องมันยังเต้นบนเวทีนั่นไง เมื่อวานอ่ะ" มันบอกแล้วก็ชี้ไปทางเวทีเตี้ยๆหน้าร้าน แมร่งเอ๊ย แสลงใจฉิบหาย เมียกู.........
" แล้วนี่เมื่อไหร่น้องมันจะมาวะเนี่ย" ผมบอกแล้วก็ยังพยายามหันไปหันมามองหามินไปด้วย
" งั้นก็นั่งรออยู่นี่ก่อนละกันว่ะ สักพักคงน่าจะมาแล้วล่ะ" ไอ้เอ๊กซ์สรุป ก็เลยต้องสั่งของมากินกันซะหน่อยนึงแล้วก็รอ เพราะทำไรไม่ได้ดีกว่านี้
กินกันไปได้สักแป๊บเดียวก็มีเสียงเพลงดังจากเวทีอ่ะครับ หันไปดูก็เริ่มเห็นว่ามีสาวๆโคโยตี้เดินขึ้นมาบนเวทีแล้วซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ มินของผมนี่เอง ผมนั่งตัวแข็งจ้องมองน้องที่ตอนนี้แต่งหน้าซะเข้มดูจัดจ้าน ชุดที่ใส่มันก็เปิดไหล่แถมสั้นซะจนโชว์หน้าท้องเนียนๆอีก แล้วยังจะกระโปรงที่ก็สั้นซะใครๆแม่งมองกันตาเป็นมันเลย
โว้ย....ย ไม่ไหวแล้ว ห้ามใครมามองเมียกูนะมึง ไม่งั้นกูทิ่มตาบอดจริงๆด้วย........................
" เฮ้ย... เดี๋ยว ไอ้เป้ง มึงใจเย็นก่อน" ไอ้เอ้ดึงมือห้ามผมไว้ เพราะเห็นผมรีบผลุดลุกขึ้นทันที
" เออ... มึงก็ใจเย็นๆก่อน เห็นมั๊ยนั่นน่ะคนเยอะจะตายห่า ขืนมึงบุ่มบ่ามพรวดพราดเข้าไปหาเดี๋ยวก็เป็นเรื่องกันพอดี ลืมแล้วรึไง มึงอ่ะใครๆเค้าก็รู้จักนะเว้ย หรือมึงอยากลงหน้าหนึ่งพรุ่งนี้วะ" ไอ้มาร์ทเตือนสติผมอีกคน ลืมไปสนิทเลยว่ะ ยังไงซะคนแถวนี้จำหน้าผมได้แน่ๆ และคงจะเรื่องยาวไปใหญ่ถ้าผมยังจะเข้าไปหาน้องยังงี้
" แล้วจะเอาไงดีวะ แม่งเอ้ย... " ผมบ่นยังหัวเสียแล้วนั่งลง
" ก็คงต้องรอน้องมันลงมาก่อนอ่ะ แล้วค่อยๆเข้าไปหาพาไปคุยกันตรงที่มันลับตาคนซะหน่อยก็น่าจะได้" ไอ้มาร์ทเสนอ ก็คงต้องตามนั้นว่ะ
ตอนที่นั่งรออย่างอดทนนั่นผมก็นึกไปเรื่อยว่าจะพูดอะไรกับน้องดี ผมช๊อคมากจริงๆที่มินมาทำงานเปลืองเนื้อเปลืองตัวขนาดนี้ แค่เพราะว่าอยากได้เงินเนี่ยเหรอวะ แล้วนี่ก็ทำมานานเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ โดนสายตาไอ้พวกหื่นนี่ลามเลียจนสึกไปขนาดไหนแล้วก็ไม่รู้ โอย... กูอยากตายจริงๆ
แต่อยู่ๆก็ดันมีไอ้บ้าคนนึงมันเดินขึ้นไปบนเวทีแล้วแถเข้าไปหามินซะด้วย ไอ้ห่านี่ นั่น... เสือกไปจับมือมินอีกจนน้องต้องสะบัดมือหนี
" เฮ้ย... มึงจะไปไหน" ไอ้เอ๊กซ์ร้องขึ้น แต่ผมดิลุกเดินไปแล้ว
" มึงดูดิ๊ มันมาทำอะไรเมียกูน่ะเห็นมั๊ย กูไม่ทนแล้วเว้ย ไอ้เหี้ย" ผมหันไปตะโกนบอกมัน สติผมหลุดไปเรียบร้อย รู้ตัวอีกทีผมก็ก้าวไปบนเวทีนั่นซะแล้ว
" เฮ้ย... ปล่อย" ผมสั่งไอ้เวรนั่นเสียงแข็ง มันก็หันมามองผม แน่นอนตาเยิ้มซะขนาดนี้แม่งเมาชัวร์
" พี่เป้ง..." มินเอ่ยออกมาเสียงแผ่วแล้วจ้องมองผมอย่างไม่เชื่อสายตา
เป็นเหตุการณ์ที่ดูคุ้นๆอีกแล้วว่ะว่าเคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งนึงและนี่มันจะเกิดขึ้นอีกแล้วใช่มั๊ย ตอนนั้นได้เป็นเหมือนฮีโร่ที่เข้าไปช่วยน้องจากไอ้เมาหื่นที่มาลวนลามเหมือนตอนนี้แหละซึ่งนั่นมันเป็นตอนที่เราได้เจอกันอีกเป็นครั้งที่สอง แต่ตอนนี้.....
" เฮ้ย....ย มึง... เอิ๊ก....ก มึงเปนครายวะ" หึ... งงเหรอมึง
" เป็นใครก็ช่าง มึงเมาแล้วก็กลับบ้านนอนไป มิน... ไปกับพี่เลย เรามีเรื่องต้องคุยกัน" ผมไล่ไอ้เมาเรื้อนแล้วก็ฉุดมือมินลงจากเวทีไปดื้อๆ มินก็ขัดขืนผมอยู่ เฮ้อ... อะไรๆมันไม่เป็นเหมือนตอนนั้นซะแล้วว่ะ
" ปล่อยมินนะ มินไม่มีอะไรจะคุยนี่นา ปล่อย...ย"
" เราไม่มีแต่พี่มี ทำไมทำยังงี้หา..." ผมหันไปขึ้นเสียงกับน้องด้วยความโมโห
" เฮ้ย... อะไรวะ มึง... มึงจะพาน้องเค้าไปไหน เค้าเป็นเมียมึงรึไงวะ สราด....ด" ไอ้เมายังตามลงมาป่วนอีกครับ
" เออ... ก็นี่แหละเมียกู แล้วมึงจะทำไม ห๊า...."
ยังไม่ทันจะขาดคำก็มีแสงสว่างจากแฟลชของกล้องวาบขึ้นมาหลายครั้ง ปาปารัซซี่นี่หว่า ฉิบหายล่ะกู แมร่งเอ๊ย... ได้ยินไปเต็มๆแน่
" คุณเป้งใช่มั๊ยคะนี่ ไม่ทราบว่านี่เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ แล้วน้องคนนี้เป็นใครกันเอ่ยทำไมถึงบอกว่านี่แหละเมียคะ หรือว่าน้องเค้าเป็น... เมียคุณจริงๆคะ" ปาปารัซซี่นั่นยิงรัวเลยว่ะ รัวขนาดนี้ตายสนิทเลยครับพี่น้อง กู... ตายแน่
" ว่าไงคะ แล้วน้องล่ะคะ ตกลงว่าน้องคบหากับคุณเป้งเค้าอยู่ใช่มั๊ยคะนี่ แล้วทำไมถึงแต่งตัวยังงี้ล่ะคะ น้องเป็นโคโยตี้เหรอ" หันไปถามมินอีก น้องมันก็ส่ายหน้าไปมาแล้วก็เริ่มหลบหลังผมด้วยความกลัว ไอ้ตากล้องแม่งก็ถ่ายไม่หยุดเลยเว้ยเฮ้ย
" พอแล้วครับ พอแล้ว ผมไม่มีอะไรจะพูดตอนนี้ ขอตัวนะครับ" จบกันกู ไม่มีอะไรจะพูดจริงๆ หนีแม่งดื้อๆนี่แหละ มองไปก็เห็นพวกไอ้เอ้มันมายืนรอผมอยู่แล้ว ผมก็จูงมินไปขึ้นรถไอ้มาร์ทที่ลานจอดโดยไม่สนว่าปาปารัซซี่เมื่อกี๊จะตามมาติดๆ
" เดี๋ยวมึงเอารถกูไปก่อนก็ได้ กูว่ามึงคงมีเรื่องคุยกันยาว ไม่ต้องเกรงใจเว้ยเดี๋ยวกูติดรถไอ้เอ๊กซ์ไปเอง มึงไปเหอะ" ไอ้มาร์ทออกปากให้รถผม
" เออ... กูขอบใจมึงว่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้ากูจะรีบขับไปคืนมึงเลยนะ มึงมีธุระไปไหนมั๊ยล่ะ"
" ไม่มีหรอก ตามสบายเว้ย กูไปล่ะ ค่อยๆคุยกันดีๆนะเว้ย อย่าใจร้อนไปอีกล่ะมึง น้องมันกลัวจะแย่แล้วนั่น" มันบอกแล้วก็ยิ้มเดินไปขึ้นรถไอ้เอ๊กซ์ ผมเลยออกรถขับออกไป พอพ้นจากแถวรัชดาผมก็แวะจอดข้างทางก่อน จากนั้นก็จูงมือน้องเดินไปนั่งตรงสวนหย่อมใต้สะพานใกล้ๆนั่น
ตอนแรกน้องก็นั่งเงียบไม่ได้พูดอะไรสักคำ ใบหน้าเปื้อนน้ำตาไปหมด และเป็นผมเองที่ต้องเริ่มเอ่ยถามขึ้นมาก่อน
" ตกลงว่าจะบอกพี่ได้ยังครับว่าทำไมต้องทำแบบนี้"
" ก็... มินไม่อยากเป็นภาระของพี่นี่นา ตั้งแต่เรามาคบกันชีวิตพี่ก็ตกต่ำลงไปเรื่อยๆ จนต้องโดนไล่ออกมาจากบ้านยังงี้ แล้วมินจะยังหน้าด้านอยู่กับพี่ได้ยังไง"
" ก็เลยคิดเอาเองว่าถ้าไม่มีมินแล้วชีวิตพี่จะดีขึ้นงั้นเหรอ คิดว่าพี่จะกลับไปอยู่บ้านอย่างสบายและดีกับพ่อได้ ยังงั้นน่ะเหรอครับ"
" อย่างน้อยๆพี่ก็จะกลับไปอยู่บ้านได้นี่นา พ่อพี่ก็คงอภัยให้แค่เลิกคบกับมินแล้วกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิมแค่นั้นเอง"
" หึ... แค่นั้นเอง นี่ใครเป็นคนโทรมาบอกมินครับเรื่องนี้ เรื่องขอให้ออกจากชีวิตพี่ไปเนี่ย" เอาล่ะ ตัดเข้าประเด็นแม่งเลย ไม่อ้อมค้อมล่ะ
" เอ่อ.... " มินชะงักไปทันที คงไม่คิดว่าผมจะรู้มั๊ง
" ใครครับ...." ผมถามย้ำจนน้องก้มหน้าหลบตาไป
" บอกพี่มาเหอะครับ พี่รู้ว่ามีคนโทรมาบอกมินตอนนั้น บอกมาเถอะว่าคือใคร"
" เอ่อ.... "
" มิน.... " ผมเชยคางน้องกลับขึ้นมาสบตากับผม
" คือว่า... คนที่โทรมานั่น คือพี่แพทอ่ะครับ เค้าโทรมาบอกมินว่าที่พี่โดนไล่ออกมาจากบ้านเป็นเพราะพ่อพี่สั่งให้เลิกคบกับผมแต่พี่ไม่ยอม แล้วทำไมพี่ไม่บอกผมก่อนว่าพี่ต้องโดนไล่ออกจากบ้านเพราะผมล่ะ พี่รู้มั๊ยว่าผมมารู้ทีหลังยังงี้ผมเสียใจมากเลยนะ ฮือๆ" มินเริ่มร้องไห้ออกมา ผมใจหายเลยว่ะเลยดึงตัวน้องมากอด มันปวดใจซะจริงๆกู เป็นแบบนี้อีกจนได้ ที่น้องต้องรู้สึกว่าโดนผมหลอก ไม่พูดความจริง
" ไม่เอาครับคนดี อย่าร้องนะ พี่ขอโทษจริงๆ ก็ถ้าพี่บอกมินไปแบบนั้นมินก็ต้องเสียใจยังงี้ไง พี่ถึงไม่กล้าบอกอ่ะครับ"
" รู้มั๊ยว่าต่อให้พี่ลำบากแค่ไหนพี่ก็ไม่สนหรอก พี่ทิ้งได้หมดทุกอย่างจริงๆ แต่พี่จะไม่ทิ้งมินไปเพราะแค่พ่อบอกพี่หรือสั่งพี่ มินเข้าใจมั๊ยครับ"
" แต่... มินไม่อยากเป็นต้นเหตุให้พี่กับพ่อทะเลาะกันนะครับ พี่อย่าทำยังงี้เลยนะ กลับไปอยู่ที่บ้านเถอะครับอย่ามาทนลำบากยังงี้เพราะมินเลย" น้องยังคงยืนยันคำเดิมอีก เหนื่อยใจมากๆเลยว่ะ
" โอเคครับ โอเค พี่ยอมทำตามที่มินต้องการก็ได้ พี่จะกลับไปบ้านไปขอโทษพ่อแล้วกัน มินต้องการยังงี้ใช่มั๊ย"
" ครับ ก็แค่พี่ลองไปขอโทษท่านดูท่านก็คงยกโทษให้นะครับ พ่อแม่น่ะไม่มีใครโกรธลูกตัวเองไปได้ตลอดหรอก พี่เชื่อผมสักครั้งนะ"
" ได้ครับ... พี่จะเชื่อมิน แต่หลังจากนั้นล่ะครับ หลังจากนั้นแล้วเราจะเป็นยังไงแล้วพี่จะเป็นยังไง มินคิดเอาไว้รึยังครับ" ผมเอ่ยออกไปอย่างใจเย็นที่สุดแล้ว แน่นอนว่ามินถึงกับอึ้งไปเลย
" เรื่องนั้น มิน......"
" หรือมินจะบอกว่าตัดใจจากพี่ได้แล้วจริงๆ แล้วก็จะไปตามทางของตัวเอง จะบอกพี่แบบนั้นเหรอครับ"
" ก็ถ้าทุกอย่างมันเป็นแบบนี้จะให้มินทำยังไงล่ะครับ ฮือๆ มันไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้นี่ครับ" น้องเริ่มร้องไห้ออกมาอีกแล้ว เฮ้อ...
" ทางเลือกน่ะมันมีแล้วครับ แต่มินจะเลือกมันรึเปล่า พี่บอกแล้วนี่ว่าที่เรารักกันเนี่ยมันก็เป็นเรื่องของเราสองคน ใครจะเป็นยังไงก็ช่าง จริงอยู่เราก็ต้องแคร์คนรอบข้าง แล้วยังไงล่ะ เราก็แคร์แค่เท่าที่ทำได้ก็คงพอแล้ว ทุกอย่างมันต้องมีขอบเขตนี่นา ถ้าเราทำเพราะแคร์คนอื่นจนเราต้องทุกข์ซะเองมันจะมีประโยชน์อะไรล่ะครับ" ก็ได้แต่กอดน้องไว้ยังงั้นเองเพราะตอนนี้ผมก็ทำอะไรไม่ได้ดีไปกว่านี้
แต่ผมก็พยายามใจเย็นอย่างที่สุดแล้ว พยายามจะพูดให้น้องเข้าใจและยอมรับให้ได้ว่าที่ทำไปนี่ ท้ายสุดแล้วมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรทั้งนั้นนอกจากจะทำให้ทุกข์กันไปหมดทั้งผมและมิน
" แต่ว่า......" น้องเงยหน้ามาสบตาผม
" ก็ถ้ามินยังยืนยันจะไปจากพี่ให้ได้พี่ก็คงจนใจครับ แต่รู้ไว้เลยว่าหลังจากนี้พี่ก็คงต้องตายทั้งเป็นยังงี้ต่อไป แล้วเชื่อเถอะว่ามันจะไม่มีอะไรดีขึ้นมาได้หรอกครับ เพราะปัญหาจริงๆมันไม่ได้อยู่ที่เราเลย มันอยู่ที่คนอื่นตะหาก" ผมสรุปไปอย่างถอดใจเหมือนกันว่ะ ท้อเหมือนกันนะ อยากให้น้องเข้าใจซะที
" ก็.... แล้วเราควรทำยังไงล่ะครับพี่ มินมองไม่เห็นทางอะไรเลยจริงๆ ฮึก..." มินสะอื้นกอดผมไว้แน่น ผมก็ลูบหัวน้องเบาๆ
" พี่เองก็ไม่รู้เหมือนกันนะตอนนี้ แต่พี่ขอแค่ว่าต่อไปมินอย่าทำแบบนี้อีก มินอย่าทิ้งพี่ไปแบบนี้เลย พี่ทนไม่ได้จริงๆนะ มีอะไรก็ขอให้บอกพี่อย่าคิดเอาเองคนเดียวแบบนี้อีก พี่ขอได้มั๊ย"
" ครับพี่..... มินขอโทษนะที่ทำให้พี่เสียใจขนาดนี้ ต่อไปมินจะไม่ทำอีกแล้ว ยกโทษให้มินนะครับ ฮือๆๆ" ตอนนี้น้องยิ่งร้องไห้ไปใหญ่แล้วกอดผมไว้แน่น น้องคงรู้สึกผิดเต็มทีที่ทิ้งผมไป
" ครับ... อย่าร้องนะคนดี พี่ไม่มีวันโกรธมินหรอกครับ ไม่เคยถือโทษอะไรเลยด้วย เพราะงั้นก็ไม่จำเป็นต้องยกโทษอะไรหรอก ดีใจนะครับที่มินเข้าใจพี่แล้ว อย่าร้องไห้ไปเลย นะครับ" ผมปลอบน้องแล้วก็ยิ้มให้
" ขอบคุณนะครับ ขอบคุณที่ยกโทษให้มินเสมอเลย มินสัญญานะว่าต่อไปจะพูดกับพี่ทุกเรื่อง ไม่ตัดสินใจเองยังงี้อีกแล้ว" มินซบที่ไหล่ผมแล้วหลับตาอย่างเป็นสุข ผมเองก็โล่งใจแล้วว่ะ แต่....
ปัญหาที่มันจะตามมาจากนี้น่ะสิ ความซวยที่เหมือนระเบิดเวลาที่จะเริ่มระเบิดตั้งแต่พรุ่งนี้เช้าเป็นต้นไป กำลังจะเริ่มขึ้นแล้วดิ
ก็จะอะไรล่ะ ปาปารัซซี่นั่นต้องตีไข่ใส่สีเรื่องผมกันสนุกแน่ คอยดูพรุ่งนี้เหอะ สรุปว่ามีแต่ตายกับตายว่ะกู.............
-
-
ตอนนี้ผมขับรถพามินมาส่งที่หอพักของรุ่นพี่คนนึงของมิน เค้าเป็นคนที่ให้มินมาอาศัยอยู่ด้วยระหว่างที่หนีออกมาจากบ้าน มินเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็เก็บข้าวของของตัวเองออกมาจากห้อง พอเสร็จเรียบร้อยก็ออกมาขอบคุณรุ่นพี่คนนั้นอยู่แป๊บนึงแล้วเดินกลับลงมาขึ้นรถกับผม
" พี่ครับ แล้วเรื่องปาปารัซซี่นั่นเราจะทำยังไงกันดี..." น้องเริ่มถามผมขณะที่ผมขับรถมุ่งหน้ากลับไปบ้านแม่อัม
" .....พี่... ก็ยังไม่รู้เลยครับ ก็ถือซะว่าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดละกัน เราหนีความจริงกันมาพอแล้ว บางทีมันคงถึงเวลาแล้วมั๊งที่ความจริงมันต้องโดนเปิดเผยไปซะที ดีเหมือนกันเราจะได้ไม่ต้องมานั่งหลบซ่อนๆกันอีก" ผมพูดไปเหมือนกับว่าไม่เป็นไร ทั้งๆที่ใจผมมันร้อนรนไปไหนๆแล้ว แต่ไม่อยากให้น้องมากังวลไปด้วยไง ก็ต้องทำเหมือนไม่มีอะไรไปก่อน
ถ้าพ่อเห็นหนังสือพิมพ์พ่อจะว่ายังไงนะ ก็คงต้องบอกว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนตามเคย
ลงท้ายก็คงเหมือนเดิมด้วยคำเดิมๆ อย่ากลับไปให้เค้าเห็นหน้าอีกนะ
ถึงจะชินซะแล้ว แต่ก็ไม่เคยทำใจได้ซะทีว่ะ
" ถ้าเค้าไปลงหนังสือพิมพ์ล่ะครับ พ่อพี่ก็คง..." เฮ้อ....ใช่ นั่นล่ะที่กังวลที่สุดแล้วตอนนี้
" ก็เอาเหอะครับ ทุกอย่างมันต้องมีทางแก้นะ ขอแค่มินจำไว้อย่างเดียว ไม่ว่าอะไรจะเกิดเราจะไม่ปล่อยมือจากกันเด็ดขาด นะครับ" ผมบอกแล้วก็เอื้อมมือไปกุมมือน้องเอาไว้
" ครับ ผมก็จะไม่ปล่อยมือจากพี่อีกแล้ว ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นผมจะอยู่ข้างๆพี่ยังงี้ตลอดไปเลย"
" ขอบคุณนะครับ คนดีของพี่" ผมบอกแล้วก็ยกมือน้องขึ้นมาจูบเบาๆ สบายใจขึ้นได้เยอะเหมือนกันว่ะ แม้ว่าตอนนี้จะโคตรวิตกก็เหอะ
ระเบิดเวลามันยังคงทำงานอยู่ ภายในพรุ่งนี้ผมต้องเดือดร้อนแน่ๆ เฮ้อ... แต่ก็เอาวะ บอกไปแล้วว่าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ก็ก้มหน้ารับผลของมันไปแล้วกัน ทำไงได้...
-
-
ถึงบ้านแล้วมินก็รีบเข้าไปหาแม่อัมกับไอ้แมนทันที ก็น้ำตานองกันอีกแล้วครับ มินสารภาพไปตามตรงทุกอย่างว่าที่หายไปนั้นไปทำอะไรบ้าง เพราะไม่งั้นพรุ่งนี้แม่อัมก็ต้องรู้อยู่ดีว่ะ ฉะนั้นสารภาพไปอ่ะดีที่สุด
" โธ่ลูก... ไม่น่าทำยังงี้เลยนะ เพราะว่าจะหาเงินให้แม่เราก็ต้องบากหน้าไปทำยังงี้ ไม่น่าเลยจริงๆ" แม่อัมแกคงเสียใจมาก แล้วก็คงโทษตัวเองเหมือนกัน คงคิดว่าถ้าตัวเองไม่ต้องใช้เงินเยอะมินก็คงไม่ต้องไปทำแบบนี้
" มินขอโทษนะแม่ มินคิดอะไรง่ายๆเกินไปไม่ได้นึกถึงใจแม่เลย มินขอโทษจริงๆ ฮือๆๆ" น้องก้มลงกราบตักแม่น้ำตานองเลย ก็เป็นภาพที่... ผมไม่อยากดูแล้วว่ะ
" เอาล่ะครับแม่ อย่าเพิ่งพูดอะไรกันตอนนี้เลยนะครับ น้องก็ไม่ได้เสียหายอะไรมากมาย ตอนนี้ก็กลับมาบ้านแล้ว แม่อย่าคิดมากโทษตัวเองอีกเลยนะครับ" ผมบอกแล้วก็จับมือแม่เอาไว้หวังจะช่วยปลอบใจแม่บ้าง
" ใช่ แม่ ไอ้มินมันก็กลับมาแล้ว แม่ไม่ต้องคิดอะไรแล้วล่ะ ทุกอย่างมันผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไปเถอะ" ไอ้แมนเสริมขึ้นมาบ้าง แม่อัมก็พยักหน้าช้าๆ
" เฮ้อ.... แม่ก็แค่เสียใจนะลูก ทุกอย่างมันไม่น่าเป็นยังงี้เลย แต่เอาเหอะ ยังไงมินก็กลับมาแล้วแม่ก็จะได้หมดห่วง ต่อไปอย่าทำแบบนี้นะลูก มีอะไรก็บอกกันก่อน อย่าด่วนตัดสินใจเองยังงี้นะ" แม่บอกแล้วก็กอดน้องไว้ ส่วนมินตอนนี้ก็ปล่อยโฮแล้วกอดแม่ซะแน่นเลย
โอเคว่ะ ทุกอย่างเคลียร์สำหรับสเตจนี้เว้ย แฮบปี้กันไปได้ซะทีหลังจากที่วิตกกังวลกันมาหลายวันก็คงเหลือแค่ว่า วันพรุ่งนี้กูจะตายสนิทแค่ไหน เฮ้อ...........
-
-
คืนนั้นผมได้นอนกอดน้องไว้อีกครั้งหลังจากที่ต้องทนคิดถึงน้องอยู่เป็นนาน แค่กอดเฉยๆจริงๆนะ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น เชื่อเห๊อะ
แต่ตอนนี้อยู่ๆเสือกเริ่มนึกขึ้นมาได้หลังจากที่หลงลืมไปพักใหญ่ ก็เรื่องตัวการที่เป็นคนโทรมาเล่าเรื่องผมให้มินฟังไง
" ตกลงว่าเป็นพี่แพทใช่มั๊ยครับ ที่โทรมาบอกมินเรื่องพี่ทะเลาะกับพ่อเพราะมินน่ะ"
" เอ่อ... ครับ พี่เค้าโทรมาเล่าว่าเค้าสงสารพี่เป้งที่ถูกไล่ออกจากบ้านเพราะไม่ยอมเลิกคบกับมิน และถ้าเป็นยังงั้นพี่ก็ต้องโดนตัดออกจากกองมรดกแน่ๆ มินไม่อยากให้เป็นยังงั้นนี่นา มันเหมือนมินเป็นตัวทำลายอนาคตพี่เลยครับ เลยต้องตัดสินใจไปจากพี่เอง"
" แล้วเค้าว่ายังไงอีกครับ"
" ก็แค่นั้นแหละครับ แต่ผมว่าพี่อย่าเพิ่งโกรธพี่แพทเค้าเลยนะครับ พี่เค้าอาจจะหวังดีกับพี่เป้งจริงๆก็ได้ นี่ที่จริงเค้าก็ขอมินว่าอย่าบอกใครว่าพี่แพทเค้าเป็นคนโทรมาบอกเรื่องนี้กับมินแต่ว่าพี่ก็รู้ก่อนแล้วมินก็ไม่รู้จะทำยังไง"
" คือ... พี่ก็ไม่ได้จะว่าอะไรหรอกนะครับ แต่ตอนนี้พี่กำลังนึกสงสัยอยู่ว่าเค้ารู้เรื่องพี่โดนไล่ออกจากบ้านเพราะมินได้ยังไง เค้าได้บอกมินมั๊ยครับ"
" อ๋อ... ตอนนั้นเห็นพี่เค้าว่าพี่ชายเป็นคนบอกเค้านะครับ"
" อืม... ไอ้ชายเหรอ เออ... ก็โอเค เค้าคงรู้จากมันจริงๆ" ผมเคลียร์ไปได้หน่อยนึง แต่ไอ้ที่ไม่เคลียร์ตอนนี้ก็คือ เจตนาของแพทนี่แหละ
โอเคว่า ถ้าเค้าคิดหวังดีเป็นห่วงผมจริงๆก็แล้วไป แต่ถ้าไม่ล่ะ ถ้าเค้ายังคิดจะบ่อนทำลายความสัมพันธ์ของผมกับมินอยู่ล่ะ.........
แต่ช่างมันก่อน เอาไว้ก่อนละกันว่ะแล้วค่อยตามเก็บทีหลังเว้ย ตอนนี้มีเรื่องอื่นสำคัญกว่าที่ต้องคิดอยู่
" เอ่อ.... พี่ครับ มินกลัวจัง ถ้าพวกนั้นเอาเรื่องเราไปลงข่าวจริงๆเราจะทำไงล่ะครับ"
" อย่ากลัวเลยครับ พี่บอกแล้วไง อะไรมันจะเกิดเราก็คงต้องปล่อย เพราะเราก็ทำเท่าที่ทำได้แล้ว อย่ากลัวเลยนะ ความจริงมันก็คือความจริงไม่มีใครหนีพ้นหรอก แต่สำหรับพี่ พี่ก็ยังย้ำคำเดิมนะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรก็ตามเราจะไม่แยกจากกันอีก เข้าใจมั๊ยครับ" ผมบอกแล้วก็กระชับวงแขนกอดน้องไว้แนบอก มินก็ยิ้มบางๆให้ผม
" ครับ มินเข้าใจแล้ว ดีใจจังครับที่เราได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีก ขอโทษนะครับที่ทำให้พี่ต้องทนเสียใจอยู่คนเดียวตั้งนาน มินไม่น่าตัดสินใจผิดๆไปเองเลย"
" ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ พี่รู้นะ ตอนนั้นมินเองก็คงเสียใจไม่แพ้พี่หรอก อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำเพราะต้องเป็นฝ่ายขอไปเอง แต่ช่างมันเหอะนะมันผ่านไปแล้วนี่ แล้วมันก็ได้สอนให้พี่ได้เรียนรู้อะไรตั้งหลายอย่าง ดีซะอีก"
" เอ๊ะ... เรียนรู้เหรอครับ ยังไงอ่ะ"
" อืม... ก็อย่างเช่น ทำให้พี่ได้รู้ไงว่า ถ้าไม่มีมินแล้วพี่ก็อยู่ไม่ได้จริงๆไง มันเหมือนเราอยู่ไปวันๆ มีชีวิตก็เหมือนไม่มี มีสติก็เหมือนไม่มี ได้แต่เบลอๆ และที่แน่ๆคือไม่มีความสุขเลยจริงๆนะ"
" แย่จังเลยนะครับ มินเองก็เหมือนกันนอนไม่หลับเลยตอนคืนแรกๆแล้วก็ได้แต่คิดถึงพี่ตลอด แต่ก็ต้องข่มใจเพราะยังต้องทำงานหาเงินไว้ให้แม่ แต่ต่อไปมันจะไม่เป็นยังงั้นอีกแล้ว ใช่มั๊ยครับ"
" ครับ ต่อไปไม่ว่ายังไงเราก็จะอยู่ด้วยกันไปยังงี้แหละ วันข้างหน้าพี่ก็ไม่มั่นใจหรอกว่าจะเป็นไง แต่ถ้าเรายังรักกันยังงี้พี่เชื่อนะ ว่าเราต้องผ่านไปได้ด้วยดีล่ะน่า"
" ครับผม" มินยิ้มแล้วก็ซบลงที่อกผมก่อนจะหลับตาอย่างเป็นสุข ก็เหมือนกับผมในเวลานี้ที่ก็ได้ความสุขนั้นกลับคืนมาแล้ว แม้ว่าพรุ่งนี้มีบางอย่างที่เลวร้ายรอผมอยู่เห็นๆ แต่ผมก็จะไม่หวั่นล่ะ
ต่อด้านล่างคร้าบ