คุณแม่...ครับผม ! Ch.7 - Planing"หนูลินหลับแล้วเหรอฟ้า..." คุณหมอณัฐกานต์เดินเช็ดผมเข้ามาในห้องนอนของเพื่อนสนิทและหนูน้อยไวโอลิน... ร่างเล็กๆจ้ำม่ำกำลังนอนอยู่บนผ้ายางที่มีผ้าอ้อมปูทับไว้กันระคาย หนูน้อยกำลังชี้โบ๊ชี้เบ๊ไม่ก็จับเท้าตัวเองเล่นไปตามประสา... ปากพยายามส่งเสียงเรียกร้องความสนใจจากแม่ฟ้าที่กำลังพับผ้าอ้อมลูกเข้าตู้
"เอ้านมแม่...ฉันอุ่นมาให้แล้ว...นายเทให้หมูน้อยดื่มได้เลย..." คุณหมอว่า เรียกฉายาของหลานที่ตัวเองตั้งให้เพราะเจ้าตัวเล็กนับวันจะยิ่งอ้วนท้วนสมบูรณ์เพราะความดูแลเอาใจใส่ของคุณแม่ฟ้าเป็นอย่างดี...
และอีกอย่างอาจเพราะเจ้าตัวเล็กก็ยังได้ดื่มนมแม่แท้ๆเหมือนเด็กคนอื่นๆด้วย เพราะเขาขอแบ่งจากคุณพยาบาลที่หวอดซึ่งเธอเพิ่งคลอดลูกแล้วน้ำนมคัดเพราะลูกดูดไม่ทันมาให้หลานเขาดื่มด้วย ซึ่งคุณพยาบาลก็ใจดี...บางวันถ้าน้ำนมเหลือมาก ก็จะปั๊มมาให้ได้ถึงสองถุง คุณหมอณัฐกานต์ก็จะเก็บเอามาแช่ช่องแข็งแล้วอุ่นให้หลานดื่มตอนเช้ากับก่อนนอน...ถ้าวันไหนมีแค่ถุงเดียวเจ้าตัวเล็กก็จะได้ดื่มแค่ก่อนนอนเท่านั้น
...เหมือนตอนอยู่ที่อังกฤษ ช่วงสามเดือนแรก คุณหมอเชนทร์ หรือนายแพทย์เชษฐ์รวินทร์ พิพัฒน์กร นายแพทย์รุ่นพี่และมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับเขา แถมยังเป็นแพทย์ประจำตัวของเพื่อนซี๊เขาด้วย ก็ใช้วิธีเดียวกัน เพื่อให้เจ้าตัวเล็กแข็งแรงและได้ภูมิต้านทานโรคตามธรรมชาติเหมือนเด็กคนอื่นๆด้วย...
"กำลังจะนอนพอดีหมอกานต์...ขอบคุณมาก" น้ำฟ้ายิ้มขอบคุณเพื่อนแล้วรับถุงนมมาเทใส่ขวด เสร็จแล้วก็ปิดฝาเขย่าจนนมเริ่มอุ่น หยดสัมผัสหลังมือเห็นว่าพอดีแล้วก็ลุกเดินไปนั่งบนเตียงกับเจ้าตัวเล็ก... "โม๊ะๆ... หิวนมหรือยังครับคนเก่ง... นมหวานของชอบหนูไง ดื่มมั้ย... มุ๊ๆๆ..." น้ำฟ้าส่งเสียงประหลาดเรียกร้องความสนใจกลับจากเจ้าตัวเล็กด้วย หนูน้อยไวโอลินตบขาตบมือพอใจเมือ่ได้ยินเสียง โอนอ่อนให้แม่ฟ้าอุ้มขึ้นอกแต่โดยดี ปากอ้างับจุกขวดนมที่แม่ฟ้าป้อนให้แล้วลงมือดูดอย่างรวดเร็ว...
"ไอฟ้า... แกนะแก โดนพวกนั้นมาหาเรื่องขนาดนั้นแล้วไม่ยอมบอกกันนี่มันน่าน้อยใจมากเลยรู้เปล่า..." จู่ๆคุณหมอกานต์ที่ลุกไปเปิดโทรทัศน์แล้วหรี่เสียงเบาๆก็พูดขึ้น... น้ำฟ้าเงยมองเพื่อนแล้วยิ้มๆบอก
"รู้...แกบอกฉันเป็นรอบที่สามสิบสองแล้ว..." พูดจบก็ลงมือตบก้นให้เจ้าตัวเล็ก คว้ามือป้อมๆมาจูบมาหอมด้วยความรักใคร่อย่างที่สุด...
"อื้ม...รู้แล้วก็อย่าทำอีก ถ้าแกเจอไอพวกนั้นอีกเมื่อไหร่ล่ะก็รีบบอกฉันทันทีเลยรู้เปล่า... แกน่ะมีอะไรก็ไม่ชอบพูด ชอบอดทนเองอยู่เรื่อย..." พูดพลางก็ย้ายตัวเองมานั่งข้างเพื่อน มือนึงยื่นไปเกาขาเจ้าตัวเล็ก... ตอนนี้หนูลินคงรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจมากเพราะได้ทั้งดูดนมหวานของโปรด ม่าม๊าฟ้าหอมมือ คุณน้าหมอกานต์เกาเท้าให้ ตากลมโตเลยเริ่มหรี่ปรือทำท่าจะหลับ...
"คร๊าบ... แล้วผมจะรายงานทุกเรื่องให้ทราบเลย... แต่แกไม่ต้องกังวลไปหรอกหมอกานต์ เพราะฉันมีสิทธิในการเลี้ยงดูหนูลินในฐานะบุตรบุญธรรมอย่างถูกต้องตามกฎหมาย คนบ้านนั้นทำอะไรฉันไม่ได้หรอก" น้ำฟ้าพูด สมองนึกไปถึงหน้าตาคมสัน ที่ภายนอกงดงามราวเทพบุตรแต่ภายในเน่าเฟะไม่มีชิ้นดี วันๆคิดแต่จะเอาเงินฟาดหัวคนอื่นอยู่ตลอดเวลา... ไม่รู้รึไงว่าเด็กน่ะต้องเลี้ยงด้วยความรัก ไม่ใช่เลี้ยงด้วยเงิน...
"..." คุณหมอกานต์ถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วเอ่ย "แล้วหลังจากนี้แกจะทำยังไงต่อไป..."
น้ำฟ้าหันมองเพื่อน... แล้วก็หันมองหนูลินที่คาบจุกนมแต่ตาหลับพริ้มอย่างมีความสุข...แล้วตอบ
"ก็ไม่ทำยังไง... ฉันก็อยู่ของฉันแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ไม่ได้งานที่สำนักพิมพ์นั่นก็ยังมีงานที่ภัคอักษร... ฉันว่า...ฉันจะทำขนมไทยขายที่หน้าบ้านไปด้วยน่ะ แกว่าดีหรือเปล่า..." น้ำฟ้าถามความเห็นจากเพื่อนถึงแพลนในอนาคตที่ตนเองวางแผนไว้... คุณหมอกานต์เมื่อได้ฟังก็ทำตาโตใส่ก่อนบอก...
"จู่ๆก็จะตั้งร้านเลยเหรอ... อืม...ทำส่งเขาก่อนดีมั้ยล่ะ... เดี๋ยวครั้งแรกฉันเอาไปช่วยขายให้พยาบาลที่หวอด..." พูดได้แค่นั้นคุณหมอกานต์ก็ถึงกับนิ่งเงียบคิ้วขมวด...
"มีอะไรหมอกานต์..." น้ำฟ้าถาม...
"เอ้อ !!! ใช่ๆ นึกออกแล้ว... มีเพื่อนฉันตอนเรียนมหา'ลัย มันเรียนคหกรรมมา...เห็นว่าตอนนี้เปิดร้านอยู่แถวๆ... เป็นร้านขายขนมพวกคุ๊กกี้กับของหวานอื่นๆ... แกสนใจฝากวางขายที่นั่นมั้ยล่ะ... เจ้านั่นน่ะซี๊กันเลย...เพราะเคยพักอยู่ห้องติดกันตอนเรียน..."
คุณหมอว่าตาเป็นประกาย ที่ตัวเองวางแผนให้เพื่อนได้เสร็จสรรพ...
น้ำฟ้าทำหน้าไม่ค่อยสู้ดีเพราะกลัวจะไปรบกวน แต่ถ้าพูดออกไปคงถูกคุณหมอเด็กดุเอาอีกแหงๆ...
"งั้น... เอ้าลองดู... พรุ่งนี้หลังจากแวะไปที่สำนักพิมพ์ภัคอักษรตอนเช้าแล้วฉันว่าจะเลยไปซื้ออุปกรณ์ทำขนมต่อที่ห้างเลย...นายจะยังไง..." น้ำฟ้าถาม...
"แล้วจะเสร็จจากสำนักพิมพ์กี่โมงอ่ะ..." ถามก่อนพลางเปิดดูสมุดลงเวลาเข้าเวรที่ตัวเองบันทึกไว้... เนื่องจากตอนนี้เขาจะขลุกอยู่กับเพื่อนซะมากทำให้ต้องเปลี่ยนเวรกับคนอื่นบ่อยๆจนเกรงใจเขาเหมือนกัน...
"อืม...ไม่ชัวร์ เขานัดเก้าโมง ถ้าเร็วสุดก็อาจจะไม่เกินสิบโมง... แต่ถ้าช้าก็...อาจเลยเที่ยงไป..." น้ำฟ้าตอบ
"ฟ้า...ฉันขอโทษแกว่ะ... ฉันมีเข้าเวรตอนสิบโมงครึ่ง... คงอยู่ทันแค่พาแกไปส่งที่สำนักพิมพ์ เอ้องั้นแกเอารถไว้เลยแล้วกันเดี๋ยวฉันไปแท็กซี่ต่อได้..."
"หยุดเลยแก... ค่าน้ำมันรถแกก็ไม่ยอมให้ฉันช่วยหาร... แล้วยังจะเอารถมาทิ้งไว้ให้ใช้อีก มันรถแกนะหมอกานต์... เดี๋ยวฉันขึ้นแท็กซี่ไปได้...แป๊บเดียว...เดี๋ยวถึง..." พูดแล้วก็ทำตาดุเมื่อเพื่อนรักอ้าปากจะค้าง คงจะอ้างเรื่องควันรถอะไรอีกล่ะสิ... อยู่ในโลกแบบนี้จะให้เด็กพบเจอแต่ความสะอาดอย่างเดียวก็ไม่มีภูมิต้านทานสิ่งสกปรกอะไรเลยน่ะสิ... แล้วแบบนั้นพอโตขึ้นเด็กจะอยู่ยังไง...ไม่ต้องอยู่ในห้องแอร์ตลอดเวลาเหรอ... พ่อแม่บางคนก็เลี้ยงลูกไม่ถูกวิธี พอสกปรกนิดหน่อยก็ต้องรีบทำความสะอาด จนเด็กผิวบางไปหมด สุดท้ายก็อ่อนแอ สู้สภาพอากาศในโลกภายนอกไม่ได้...
เห็นเขาใจดีกับหนูลินขนาดนี้แต่เขาก็คิดเป็นนะเออ...
"เอ้า...ตามใจแล้วกัน แต่ขากลับยังไงก็โทรมาบอกนะเดี๋ยวไปรับ ฉันเลิกเวรห้าโมงครึ่ง..." คุณหมอกานต์ยังไม่วายทิ้งท้าย...
น้ำฟ้าอมยิ้มแก้มตุ่ยใส่ก็ค่อยๆถอนจุกนมออกจากปากลูก อุ้มขึ้นพาดบ่าตบหลังเบาๆให้เรอ... จากนั้นเมื่อเด็กสบายตัวแล้วก็อุ้มลงนอน น้ำฟ้าไม่มีเปลเด็ก แต่เขาให้หนูลินนอนเตียงเดียวกันด้านที่ติดผนัง ส่วนเขานอนกันฝั่งด้านนอก ...ส่วนคุณหมอกานต์ ก็ไปลากเอาโซฟาขนาดกว้างที่มีในห้องนอนมาชิดเตียงแล้วเอนตัวลงนอนดูข่าว ปล่อยให้คุณแม่มือใหม่จัดการกับขวดนมที่เจ้าหมูน้อยดูดซะเกลี้ยงกริบไม่เหลือหลอตามลำพัง...
---------------------------------- --- - - -- - - - ---- - -- -- -- --- - - -
เช้าวันต่อมา... อากาศสดใส หนูลินอารมณ์ดีแต่วัน เอาแต่ยิ้มไม่หุบเลย น้ำฟ้าเลยพลอยอารมณ์ดีไปด้วย... เขาจัดการเอาของใช้จำเป็นใส่เป้สะพายหลัง มือสองข้างจะได้ว่างอุ้มลูกน้อยได้ น้ำฟ้าไม่ชอบเสื้อสำหรับใส่ตัวเด็กเวลาคุณพ่อคุณแม่พาออกไปข้างนอก เพราะเขาอยากให้ลูกได้สัมผัสกับตัวเองตลอดเวลามากกว่า และเหมือนหนูน้อยไวโอลินก็จะปลื้มกับวิธีนี้ของแม่ฟ้าด้วยเหมือนกัน...
คุณหมอกานต์มาส่งน้ำฟ้าที่สำนักพิมพ์ภัคอักษรแล้วก็ขับเลยไปที่โรงพยาบาลเลย เวลาอย่างนี้เขาเองก็กลัวรถติดเหมือนกันเพราะทางมาสำนักพิมพ์กับทางไปพยาบาลมันอ้อมกันอยู่ไกล...
น้ำฟ้าเดินเข้ามาในสำนักพิมพ์ กำลังจะเดินเข้าไปที่เคาเตอร์ประชาสัมพันธ์ก็มีเสียงทักเขาดังขึ้นก่อน...
"คุณฟ้า... มาเร็วจังครับ..." นักธุรกิจหนุ่มแห่งปี ผู้ซึ่งพาบริษัทตัวเองเข้ามาโลดแล่นในวงการธุรกิจด้วยวัยเพียงยี่สิบปลายๆทักน้ำฟ้า... นักแปลคนใหม่ของสำนักงานเขา ชายหนุ่มถึงขนาดลงมานั่งรอน้ำฟ้าที่โซฟาหน้าบริษัทเลยทีเดียว...
"คุณธาดา สวัสดีครับ..." น้ำฟ้าโค้งตัวให้เพราะยกมือไหว้ไม่ได้ ชายหนุ่มร่างสูงผิวคล้ำแดดหน่อยๆอย่างคนสุขภาพดียิ้มตาหยีให้เขากับเจ้าตัวเล็กในอ้อมแขน...
"ไงครับตัวเล็ก... ยินดีที่ได้รู้จักนะ... นี่พี่ธาดานะครับ..." ชายหนุ่มยื่นนิ้วชี้ให้ตัวเล็กจับ... แต่หนูลินเพียงมองตามแล้วจับๆเล่นก่อนจะปล่อย... ก็เป็นคนแปลกหน้านี่นา...หนูลินไม่คุ้น...
"โห...เรียกพี่เลยเหรอครับ... ลดอายุมาเยอะจังเลยนะครับคุณธาดา..." น้ำฟ้าแซวยิ้มๆ ชายหนุ่มยืดตัวเต็มความสูงก่อนบอก
"อ้าว...แน่ล่ะสิ ผมเองเพิ่งจะยี่สิบเก้าเองนะ ห่างกับเจ้าตัวเล็กแค่... ยี่สิบกว่าปีเอง...เนอะครับหนูไวโอลิน..." ว่าแล้วก็เอื้อมมือสัมผัสศีรษะเด็กที่มีผมมาปกคลุมหรอมแหรมเบาๆ
"แอ้..." หนูลินทำเสียงเหมือนขานรับ ดวงตากลมแบ๊วช้อนมองบุรุษร่างสูงด้วยความสงสัย หนูลินไม่นึกกลัวคนแปลกหน้าเท่าไหร่เพราะตอนนี้เขาอยู่กับแม่ฟ้าของเขา...
"เรียกแค่หนูลินก็ได้ครับคุณธาดา..." น้ำฟ้าบอกอย่างมีไมตรี... โชคดีที่เขาได้เจ้านายใจดี อย่างนี้หากเขาจะขอผ่อนผันวันส่งต้นฉบับก็น่าจะพอได้ เพราะเขาก็ไม่อยากทุ่มกับงานมากเกินไปจนไม่ได้ดูแลหนูลินเท่าที่ควร...
ธาดายิ้มให้ เขารู้สึกดีๆกับผู้ชายตัวเล็กตรงหน้าตั้งแต่วันแรกที่เจอกันแล้ว... ผิวขาว ผมดำยาว นัยน์ตาโศก มองแว่บแรกนึกว่าผู้หญิงแต่พออ่านในใบสมัครงานก็แอบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าจะมีคำนำหน้าชื่อเป็น Mr. เขาไม่ได้ถึงกับพิศวาสอะไรในตัวเด็กหนุ่มหรอก เพียงแต่ตอนนี้แค่พอว่างจากงานก็ต้องหยิบเอกสารการสมัครของน้ำฟ้ามาดู...แล้วก็นั่งยิ้มคนเดียวเหมือนคนสติไม่สมประกอบ... น้ำฟ้า...หน้าเหมือนพี่สาวมาก ก็เป็นฝาแฝดกันนี่นา... คุณน้ำฝนเธอเป็นพยาบาลที่สวยน่ารัก นิสัยดี ทำงานได้อย่างไม่มีบกพร่อง...ดูแลเอาใจใส่คนป่วยเป็นอย่างดี แต่สุดท้ายก็โดนดึงตัวไปเป็นพยาบาลพิเศษที่อื่นจนได้...
ชายหนุ่มผายมือให้น้ำฟ้าไปยังห้อง บ.ก. ของสำนักพิมพ์เพื่อฝากตัวและรับงาน...
---------------------------------- --- - - -- - - - ---- - -- -- -- --- - - -
แหะๆ มาทีละจึ๊งๆ คงไม่ว่ากันโน้..... อิอิ