คุณแม่...ครับผม !!! Ch.14 - So hot !!
"เออฟ้า เดี๋ยวอีกไม่เกินห้านาทีเจอกัน... ฉันกำลังรีบไป..." หมอกานต์ตอบเสียงคนในสายแล้วกดวางหู ไฟแดงเปลี่ยนสีเป็นเขียวพอดีคุณหมอเด็กก็รีบเหยียบคันเร่งราวกับหนีอะไรซักอย่าง อันที่จริงก็หนีจริงๆนั่นแหละ ...คนบ้าอะไรขับจี้ตามท้ายไม่ยอมให้ใครแทรกกลางเลยนะ ! คิดอย่างหัวเสียแล้วก็เหลือบมองกระจกส่องหลัง รถสัญชาติยุโรปสีบรอนซ์คันหนึ่งกำลังขับตามจี้ท้ายเขาห่างๆ แต่ทุกครั้งที่มีรถมาแซงเข้าตรงกลาง มันก็จะเร่งกลับมาต่อท้ายเขาเหมือนเดิมจนได้... ...หนอย...ตามจี้ไม่ยอมห่างเลยนะ เออ...ตามได้ตามไป จอดเมื่อไหร่ล่ะพ่อเอาเข็มจิ้มแน่ !!!
คุณหมอเด็กคิดโหดๆก่อนจะรีบขับเพื่อไปร้านขายขนมของเพื่อนโดยเร็ว... แต่เมื่อรถสองคันขับตามกันมาจนถึงสี่แยกก่อนถึงร้านขนม คุณหมอเด็กเปิดไฟเลี้ยวซ้ายเพื่อไปยังจุดมุ่งหมายจากปลายโทรศัพท์เมื่อครู่ คิดไว้ในใจว่ารถคันนั้นต้องเลี้ยวตามมาอีกแน่ๆ แต่เมื่อมองกระจกส่องหลังอีกครั้งก็พบเป็นรถสิบล้อที่เลี้ยวตามมาแทน
"อ้าว...หายไปไหนแล้ว..." อุทานกับตัวเองแล้วก็เพ่งสายตาจ้องหา แต่ก็พยายามได้ไม่นานเมื่อสายตาต้องเหลียวหาที่จอดรถเสียก่อนเพราะตอนนี้เพื่อนสนิทของเขาออกมายืนรออยู่หน้าร้านแล้วเรียบร้อย...
"หมอกานต์...!" น้ำฟ้าเรียกเพื่อนพร้อมโบกมือให้สองทีแล้วเอามาป้องหน้าลูกจากแสงแดดที่ส่องลงมาโดน
"เข้าร้านๆ เดี๋ยวหลานฉันผิวเสียหมด..." หมอกานต์มาถึงก็ไม่พร่ำมากลากต้นแขนเพื่อนได้ก็พาเข้าร้านไปอย่างรวดเร็ว... "แล้วพี่หมอกล่ะแก..." คุณหมอถามเอื้อมหยิบโบรชัวร์ของร้านที่อยู่บนเคาเตอร์มาโบกพัดลมให้กับตัวเอง แม้ว่าในร้านจะเย็นฉ่ำไปทั่วเพราะเครื่องปรับอากาศ แต่อุณหภูมิภายในตัวของคุณหมอก็ยังสูงมากอยู่ดี...
"ออกไปซื้อของ ยังไม่กลับ..."
"โหยย ร้อนขนาดนี้ยังมีอารมณ์ออกไปลั้นลาข้างนอกอีกเนอะ..." คุณหมอบ่น มือก็วีพัดลมแอร์เข้าตัวเองต่อไป... "เออนี่ ตะกี๊สโตกเกอร์ที่มันตามฉันอ่ะแก จู่ๆพอถึงสี่แยกตรงนั้นมันก็หายไปเฉยเลย...ฉันงงมากอ่ะ เพราะปกติมันต้องตามมาจอดติดกับรถฉันแล้วนะ แปลกแฮะ..."
"เอ่อ...ระ...เหรอ..." น้ำฟ้ารับคำเบาๆ นึกถึงเมื่อเช้าที่ลูกน้องสัญชาติญี่ปุ่นตัวเล็กผิวขาวขับรถมาจอดรับเขาที่บ้านแล้วก็มาส่งให้ถึงที่นี่แล้วก็ขับรถออกไปก็เหมือนกัน วันนี้ทั้งข้างบ้าน ข้างร้านเบเกอรี่นี่ น้ำฟ้าก็สังเกตว่าไม่มีรถที่ท่าทางจะเป็นรถที่ถูกส่งมาตามเฝ้าเขาจอดอยู่เลยซักคัน หรือชายหนุ่มตัวสูงคนนั้นจะยอมรามือ และทำตามที่พูดจริงๆ...
"เออนี่ฟ้า แล้วเรื่องอะไรเหรอที่แกจะบอกฉันน่ะ" หลังจากที่คุณหมอกานต์หายใจหายคอคล่องขึ้นแล้วก็เอ่ยปากถามเพื่อน อ้าแขนรับหลานตัวน้อยมาอุ้มเอง... เจ้าหนูลินพอเห็นคนอีกคนที่มีไออุ่นคุ้นๆก็ยอมยกแขนป้อมๆแล้วโผเข้าหาแต่โดยดี... "อึ๊บ ! ฉึ่ง... ตัวหนักขึ้นนะเราเนี่ย...กะหนักขึ้นวันละโลเลยรึไงห๊ะตัวเล็ก... แม่ฟ้าจับหนูยัดอะไรเข้าปากลูก น้ำตาลหรืออะไรหืม??... หันแก้มมาหอมที..." พูดจบแล้วก็ก้มลงฟัดจมูกกับแก้มหยุ่นนุ่มเสียหลายฟอด จนเจ้าตัวเล็กชักรำคาญเริ่มอ้อแอ้ประท้วงแล้วเมินหน้าหนี... "อู๊ย... อย่าข่วนหน้าน้ากานต์สิ เดี๋ยวน้ากานต์พากลับไปนอนด้วยเลยคืนนี้ จะไปมั้ย??" คุณหมอจับหนูลินยืนสองขาบนหน้าตักตัวเองแล้วออกปากถาม หนูลินมองหน้าหมอกานต์ตาแป๋วครู่หนึ่งก็หมุนคอเล็กๆหาแม่ตัวเอง พอเจอก็ยื่นมือหาร้องงอแงจะให้อุ้ม...
"โอ๋... ไม่เอาๆ น้ากานต์ไม่แกล้งแล้วโอ๋ๆ... แล้วเรื่องอะไรอ่ะที่แกจะบอกฉันน่ะ..." โอ๋เจ้าหลานชายตัวน้อยที่ไม่ยอมเล่นด้วยแล้วก็หันไปถามผู้ปกครองของหลานต่อ... น้ำฟ้าเอาผ้าอ้อมที่พาดอยู่บนบ่ามาเช็ดน้ำลายที่ไหลย้อยออกมาจากปากลูกบนบ่าเพื่อนพลางตอบ
"ก็...ไม่มีอะไรมากหรอกแค่จะถามว่าเราจะขึ้นไปวังน้ำเขียววันไหน ฉันจะได้เตรียมของเตรียมตัว..." น้ำฟ้าตอบแล้วยื่นนิ้วชี้ให้ลูกกำไว้เล่นๆ
"หา?? โทรหาตั้งแต่หกโมงเช้าเพื่อจะถามเรื่องแค่นี้เนี่ยนะ...ฉันว่าแกมีอะไรที่อยากบอกฉันมากกว่านี้แต่ยังไม่ได้พูดใช่มั้ย...เล่ามาเหอะน่า ถึงจะไม่ใช่เคาเซลเลอร์แต่ดอกเตอร์ก็รับปรึกษาได้นะ..." คุณหมอยิ้มกว้างใส่หน้าหนูลิน แต่สายตาเหลือบมองเพื่อนที่ทำสีหน้าครุ่นคิดอะไรซักอย่างอยู่
ใจจริงน้ำฟ้าอยากจะเล่าเรื่องของผู้ชายที่เมื่อคืนมากวนเขาตอนดึกดื่น กับข้อแลกเปลี่ยนแปลกประหลาดแลกกับอิสรภาพของเขาให้เพื่อนฟัง เพราะในคราวแรกน้ำฟ้าคิดว่าชายหนุ่มคงพูดส่งๆไปอย่างนั้นเอง แต่พอน้ำฟ้ายอมทำตามชายหนุ่มก็คงส่งใครซักคนมาติดตามเขาอยู่ตลอดเวลาเหมือนเดิมอีก เลยกะว่าจะเล่าให้เพื่อนฟังไว้เผื่อมีอะไรเกิดขึ้นอย่างน้อยเพื่อนสนิทที่เขาสะดวกใจจะคุยด้วยเพียงคนเดียวที่เมืองไทยนี่ก็คงจะพอช่วยอะไรเขาได้บ้าง... แต่จากคำบอกเล่าของหมอกานต์และจากการสังเกตของเขาก็เห็นว่าชายหนุ่มพูดจริงทำจริงอย่างที่พูดทุกอย่าง... น้ำฟ้าก็เลยตัดสินใจว่าไม่ต้องเล่าก็ไม่น่าจะเป็นอะไรเท่าไหร่หรอก...มั้ง?
"ก็นั่นแหละ... พอดีช่วยนี้สโตกเกอร์ที่ตามฉันเขาก็เปลี่ยนเวลาเฝ้าเหมือนกันน่ะ มีแค่ตามรับตามส่งอย่างเดียว ส่วนตอนเช้าก่อนเก้าโมงก็ไม่เห็นมีรถมาจอดดูแล้วนะ... ก็ถ้าจะไปก็ออกตั้งแต่เช้าหน่อยก็ดี เผื่อพวกสโตกเกอร์จะได้ตามไม่ได้ไง..." น้ำฟ้าบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับเพื่อนที่ทำตาโตมองดูเขาราวกับไม่น่าเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
"จริงน่ะฟ้า...! เกิดอะไรขึ้นกับหมอนั่นน่ะ... เห็นทำท่าจริงจังเรื่องจะติดตามดูพวกเราตลอดเวลาเพื่อหาโอกาสชิงตัวหนูลินไม่ใช่เหรอ... แล้วทำไมจู่ๆ... อืม...มันเกิดอะไรขึ้นว่ะ?" พูดเหมือนรำพึงกับตัวเองในตอนท้าย... จนน้ำฟ้าเสียวแปล๊บๆในท้องยังไงไม่รู้ ไม่อยากจะเล่าสาเหตุที่แท้จริงว่าเพราะเขาซักเสื้อของหมอนั่นให้ กับแถมหุงหาข้าวปลาให้หมอนั่นทานตอนเกือบสี่ทุ่มของเมื่อคืน ! นี่ถ้าหมอกานต์รู้คงไม่วายโดนแซวหรือไม่ก็โดนซักจนสะอาดเอี่ยมแน่ๆ...
"เอ้อ...แก...แกจะเอาน้ำอะไรหรือเปล่าเดี๋ยวไปทำให้" น้ำฟ้าหาหัวข้อเบี่ยงประเด็นที่ทำให้หมอกานต์ขมวดคิ้วมุ่นราวกับกำลังทำข้อสอบ กสพท. อยู่ยังไงอย่างนั้น
"อ๋อ ลาเต้เย็นแล้วกัน ขอหวานๆหน่อยนะ..." สั่งเสร็จก็หันมาขยับอุ้มหนูลินให้ดีเมื่อน้ำฟ้าเดินอ้อมเข้าไปหลังเคาเตอร์เครื่องดื่ม ก่อนจะเอ่ยต่อไป... "แต่แก...มันน่าแปลกจริงๆนะ หมอนั่นไม่น่าจะจู่ๆก็เปลี่ยนการวางสโตกเกอร์ติดตามพวกเราแบบนี้ หรือว่า...หมอนั่นจะมีแผนแปลกๆอะไรอีก...อืม...อย่างเช่น...ลดกำลังคนที่ติดตามแกอย่างชัดเจนเพื่อที่ว่าแกจะได้ตายใจ เวลาไปซื้อของในห้างหรืออะไรงี้ก็จะแอบมาฉุดแกไปที่บ้านเขาเลยอย่างงี้หรือเปล่า..."
"อึก...!" น้ำฟ้าทำแก้วพลาสติกที่ถืออยู่ในมือหล่นลงพื้น โชคดีที่เป็นพลาสติกมันจึงไม่เกิดเสียงเพล้งให้ขายหน้า แต่กระนั้นอาการยืนนิ่งไปชั่วครู่ของน้ำฟ้าก็ไม่หลุดรอกสายตาคุณหมออยู่ดี... "จะ...บ้าเหรอ ! ใครเขาจะทำอย่างนั้น...นั่นมันอาชญากรรมแล้วนะ เล่นฉุดกลางห้างเลยมันจะไม่เวอร์ไปหน่อยหรือไงแก..." น้ำฟ้าพูดพลางก็ลงมือบดเมล็ดกาแฟกับเครื่องพลาง... ก้มหน้าก้มตาเตรียมฟองนมที่จะราดข้างบนต่อไม่ยอมเงยหน้าสบตากับคนที่กำลังพูดด้วยเลยซักนิด... หมอกานต์จิกสายตาสังเกตอาการเพื่อน น้ำฟ้าเป็นคนดูอารมณ์ออกง่ายมาตั้งแต่สมัยรู้จักกันใหม่ๆ ข้างในคิดยังไงก็จะเก็บไม่ค่อยอยู่ จะเปิดเผยออกมาทางสีหน้าและท่าทางหมด แต่กับคนที่ไม่คุ้นเคยก็ยอมรับว่าช่วงนี้น้ำฟ้าเก็บอารมณ์ได้เก่งขึ้นมาก... อาจเพราะสังคมเมืองนอกที่คงสอนอะไรหลายๆอย่างให้กับเพื่อนเขา... แต่ถึงยังไงกับเพื่อนคนนี้น้ำฟ้าเคยเป็นยังไงอยู่ก็ยังเป็นอย่างนั้นเหมือนเดิมในสายตาเขา...
"แกปิดบังอะไรฉันอยู่หรือเปล่า... มีเรื่องอะไรระหว่างแกกับหมอนั่นที่ฉันยังไม่รู้อีกใช่มั้ย... นี่แก..." คุณหมอเด็กกำลังจะตั้งหน้าตั้งตาซักคุณเพื่อนลูกหนึ่งเพื่อเค้นความจริงบางอย่างให้ได้ แต่ทว่าเสียงกรุ๊งกริ๊งของกระดิ่งหน้าร้านพร้อมเสียงทักทุ้มนุ่มก็เรียกความสนใจจากทั้งสองคนไปเสียก่อน
"ขอโทษนะครับ...ได้ข่าวว่าขนมร้านนี้อร่อย... จะขอฝากท้องมื้อเที่ยงซักหน่อยจะได้รึเปล่าครับ?"
"คุณธาดา !" คุณหมอเด็กเรียกชื่อคนมาใหม่พร้อมเผลอลุกขึ้นยืน จำได้แม่นว่าคนคนนี้เพิ่งขึ้นหน้าหนึ่งในนิตยสารไฮโซเล่มหนึ่งที่คุณพยาบาลกำลังกรี๊ดกร๊าดกันเมื่อเช้านี้เอง...
"คุณธาดา...เชิญครับ..." น้ำฟ้ายิ้มให้ผู้ชายตัวสูงในชุดสูทสีเทาเข้มเข้ารูป ทรงผมหวีเปิดหน้าโชว์ใบหน้าหล่อเหลากับสันจมูกคมโด่ง ทำให้ชายหนุ่มคนนี้ดูโดดเด่นออกมาจากแขกรอบด้านมากมาย... น้ำฟ้าแอบเห็นสาวออฟฟิศสองคนที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะติดเคาเตอร์ทำช้อนกินขนมหล่นคาปากเลยทีเดียว...
"สวัสดีครับคุณฟ้า... แล้วก็...คุณ...สวัสดีครับ..." ชายหนุ่มตัวสูงก้มหน้าให้คุณหมอกานต์ที่กำลังอุ้มเจ้าตัวเล็กอยู่ สังเกตจากท่าทางแล้วคงจะเป็นเพื่อนของลูกน้องนักแปลคนใหม่ของเขาแน่นอน...
"คุณธาดา...นี่คุณหมอณัฐกานต์ เป็นคุณหมอเด็กเพื่อนผมเองครับ... หมอกานต์ นี่คุณธาดา...เจ้านายฉันเอง..." น้ำฟ้าแนะนำทั้งสองคนให้รู้จักกันอย่างเป็นทางการ แม้ว่าจะพอดูออกว่าถึงไม่แนะนำเจ้านายเขาให้เพื่อนรู้จักจังๆ หมอกานต์ก็คงจะไม่ทักเจ้านายเขาผิดแน่ๆ...
"...สวัสดีครับคุณธาดา เมื่อเช้าผมได้เห็นรูปคุณขึ้นบนปกนิตยสารด้วย...ไม่คิดเลยว่าตอนเที่ยงจะได้มาเจอตัวจริงอยู่ตรงนี้..." คุณหมอกานต์ยิ้มแก้มปริ นึกชื่นชมบุรุษตรงหน้าอย่างมาก ไม่ว่าจะทั้งส่วนสูง เค้าโครงใบหน้า รูปร่างและเสื้อผ้าที่ใส่ มันลงตัวอย่างดูดีมากและบ่งบอกรสนิยมของคนที่ใส่... เขาชอบคนที่ดูดีแต่ไม่เวอร์เกินไปแม้จะอยู่ในชุดเสื้อผ้าแบรนด์ดังตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าแบบนี้แหละ... แหม...เดี๋ยวก่อนกลับคงต้องขอถ่ายรูปคู่ไปอวดพวกพี่พยาบาลที่หวอดให้อิาฉาเล่นเสียหน่อย...จะหาว่าเขามีนิสัยเด็กๆแบบบ้าดาราก็ได้นะ ก็อาชีพนักธุรกิจน่ะมันอาชีพในฝันของเขาตั้งแต่เด็กๆเลยนี่นา... ได้ใส่ชุดสูท...ได้ยืนอย่างสง่าผ่าเผยหน้าโต๊ะประชุม...ได้อยู่กับเลขาสาวๆล้อมหน้าล้อมหลัง...เฮ้อออ
"สวัสดีครับ...คุณหมอกานต์ หนูลินด้วยนะ...สวัสดีครับ..." ประโยคสุดท้ายชายหนุ่มก้มลงคุยกับเจ้าตัวเล็กในอ้อมแขนของคุณหมอที่เงยหน้าจ้องเขาตาแป๋ว... เด็กตัวน้อยร้องแว้ออกมาคำเดียวพร้อมยื่นมือคล้ายบ๊ายบายให้ แต่คุณหมอกลับจับมือป้อมๆสองข้างมาประกบกันแล้วเลียนเสียงเด็กน้อยไวโอลินแทน
"ซา-หวัด-ดีคับ...! ยิ้มหวานเร็วหนูลิน...ยิ้มหวานนน...ให้เจ้านายคุณแม่หนูดูหน่อย...เร็ววว" คุณหมอกานต์เชียร์หลานให้แสดงความเก่งกาจให้ดู และหนูลินก็ตอบรับตามประสาเด็กอารมณ์ดี โดยยิ้มกว้างอวดเหงือกแดงแจ๋ให้ชายหนุ่มแปลกหน้าดูหนึ่งที...
"ฮ่ะๆ...หนูลินน่ารักมากเลย... จะเล่นอะไรดีหนูลิน เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง..." ชายหนุ่มอารมณ์ดียกนิ้วจิ้มแก้มบุ๋มจนเด็กน้อยร้องเอิ๊กอ๊ากหนีไปหลบซบหลังหมอกานต์แทน...
"คุณธาดาจะรับอะไรดีครับ..." น้ำฟ้ายิ้มมองลูกชายตัวเองที่กลายเป็นตุ๊กตาเด็กน้อยให้เหล่าพี่ๆน้าๆรุมล้อมอุ้มเอ็นดูกันอยู่... มือก็หยิบกระดาษเตรียมจดรายการอาหาร...
"อืม...วันนี้คุณฟ้าทำอะไรมาล่ะ" ชายหนุ่มถาม มือก็ยังไม่หยุดหาทางจิ้มแก้มหนูน้อยต่อไปอย่างมันส์มือ
"วันนี้มีสาคูน้ำกะทิ กับกล้วยบวชชีครับ... เอ้อ มีวุ้นด้วยนะครับฟ้าทำไว้เผื่อทานเล่น คุณธาดาจะรับมั้ยครับเดี๋ยวผมไปเอาออกมาจากตู้เย็นให้..." น้ำฟ้ายิ้มถาม...ไม่ทันสังเกตสายตามีประกายที่เจ้านายหนุ่มมองเขาในชุดผ้ากันเปื้อนสีฟ้าที่คาดทับเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงผูกเอวสีเทายาวครือเข่า ผมดำสนิทที่ตกลงระใบหน้าสองข้างแก้มขับอวดผิวแก้มเลือดฝาดให้ดูกระจ่างใส ทำให้คนมองไม่เคยเบื่อที่จะมองเลยจริงๆ...
"เอาสาคูน้ำกะทิแล้วกัน... แล้วก็ผมขอคาปูชิโน่เย็นซักแก้ว... วันนี้อากาศข้างนอกร้อนมากเลย..." ชายหนุ่มบอก ยิ้มออกมาจากนัยตาเมื่อเห็นคนหลังเคาเตอร์จดออเดอร์อย่างขมักเขม้น...
"ได้เลยครับ...คอยแป๊บเดียวเดี๋ยวฟ้าเอาไปเซิร์ฟให้ ...คุณธาดาไปนั่งรอที่โต๊ะโซฟาตรงนั้นมั้ยครับโดนแอร์ด้วย..." ก่อนจะเดินลับไปส่วนครัวเล็กๆด้านหลังน้ำฟ้าก็ยังไม่ลืมแนะนำให้ลูกค้าของเขาได้หาที่นั่งทานสบายๆ แต่ชายหนุ่มกลับก้าวเท้ายาวๆไปทางโต๊ะที่มีโน๊ตบุ๊คสีดำเปิดทิ้งไว้พร้อมกระดาษที่วางอยู่ประปราย มีของเล่นเด็กวางกองอยู่ที่พื้นสองสามชิ้นแทน
"ผมนั่งนี่ได้มั้ย...จะได้ไม่ต้องแย่งโต๊ะลูกค้าคนอื่น..."
"เอ่อ...แต่ โต๊ะนั้นมัน...รกมากเลยนะครับ ผมว่าคุณธาดาไปนั่งสบายๆตรงโต๊ะนั้นไม่ดีกว่าเหรอครับ..." น้ำฟ้าลนลานแนะนำ เพราะตรงนั้นมันเป็นโต๊ะที่เขาไม่คิดว่าจะมีลูกค้าคนไหนไปนั่ง เพราะอยู่ตรงมุมของร้านซึ่งอยู่ติดกับเคาเตอร์ที่สุด และเขาก็ทำรกที่สุดเพราะยังไม่มีโอกาสได้นั่งเคลียร์งานจริงๆจังๆเลยตั้งแต่เช้า เพราะวันนี้ลูกค้าเยอะเป็นพิเศษ...
"ผมนั่งโต๊ะนั้นได้ครับไม่เป็นไร พอดีวันนี้ช่วงบ่ายว่าง เลยว่าจะแวะมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กน้อยหนูลินให้คุณฟ้าชิลล์ๆทั้งบ่ายเลย... คุณหมอณัฐกานต์สนใจจะไปนั่งด้วยกันมั้ยครับ..." ธาดาไม่ลืมที่จะออกปากชวนคนอุ้มหนูลินให้ไปนั่งด้วยกัน... คุณหมอกานต์ยิ้มมีเลศนัยมองอาการของทั้งคุณเพื่อนทั้งเจ้านายคุณเพื่อนแล้วก็แอบอมยิ้ม...
"ได้สิครับ... เดี๋ยวพาหนูลินไปหม่ำๆนมด้วย...ดีมั้ยครับหมูน้อย..." ถามจบก็ก้มลงฟัดแก้มนุ่มอีกหนึ่งที นาทีนี้หนูลินเอามือป้อมๆมาปิดข้างแก้มตัวเองอย่างทนไม่ไหวแล้ว... ถ้าตอนนี้หนูลินพูดได้คงอยากจะบอกเหลือเกินว่า ...มายุ่งอายัยกับแก้มป๋มกันนักหนาเนี่ย !... แต่ในเมื่อพูดไม่ได้ก็เลยต้อง...
"แอ๊...!!" ร้องออกมาคำนึงแล้วทำหน้าบู้ปากยู่อมลม... ให้รู้ว่าไม่พอใจที่ใครๆก็มาจับแก้มเขาโดยไม่ได้รับความสมัครใจจากเจ้าของแก้มเสียก่อน...
"เอ่อ...งั้นนี่...ลาเต้ของแก... ฝากดูลูกแป๊บนึงเดี๋ยวเอาขนมไปเสิร์ฟ..." ลาเต้เย็นๆถูกราดด้วยคาราเมลเป็นรูปวงกลมบนฟองนม ปิดฝาพลาสติกและเสียบหลอดให้ก็เป็นอันเสร็จ... น้ำฟ้าวางแก้วลงบนเคาเตอร์ให้เพื่อน... คุณหมอกานต์ถือแก้วไว้ข้างหนึ่ง อีกมือก็ต้องอุ้มเด็ก คนตัวสูงในชุดสูทจึงยื่นมือมาข้างหน้าทั้งสองมือ...
"ผมช่วยอุ้มครับคุณหมอณัฐกานต์..." หมอกานต์ยิ้มตาหยีให้ก็ยอมผ่อนตัวเด็กน้อยให้อีกคนรับไป
"เรียกหมอกานต์เหมือนฟ้าดีกว่านะครับ เรียกเต็มยศแล้วมัน...แม่งๆอ่ะครับ..." คุณหมอยิ้มมีไมตรีเต็มที่ ก่อนจะก้มดูดกาแฟเย็นๆให้ชื่นใจแล้วออกเดินนำไปที่โต๊ะเพื่อเคลียร์แผ่นการดาษให้วางทับกันให้เรียบร้อยขึ้น... โดยมีคนตัวสูงเดินตามไปด้วย...
ซักครู่ใหญ่ๆสาคูน้ำกะทิสีเขียวเม็ดใหญ่นุ่มๆหอมๆก็ถูกยกมาเสิร์ฟให้แบบอุ่นๆกำลังพอเหมาะพร้อมแก้วไวน์สองแก้วใส่วุ้นเป็นชั้นๆสีสดใส มีน้ำแข็งเกล็ดเกาะข้างแก้วดูแพรวพราวเสริมให้ตัววุ้นดูน่ารับประทานมาก... ข้างบนน้ำฟ้าวางฝอยทองเล็กน้อยประดับบนด้วยใบสะระแหน่เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมและตกแต่งหน้าวุ้น... วุ้นนี่น้ำฟ้าทำไว้แค่สี่ห้าแก้ว เพราะตอนแรกตั้งใจทำเผื่อแค่ตัวเอง พี่หมอก กับหมอกานต์และลูกจ้างที่ร้านเท่านั้น ไม่นึกว่าจะได้เอาออกมาเสิร์ฟแบบนี้...
"ไม่รู้ว่าวุ้นจะถูกปากรึเปล่านะครับ พอดีฟ้าแค่ทำไว้ทานเล่นเฉยๆ ไม่ได้จะนำออกขาย...เลยใส่อะไรได้ก็ใส่..." น้ำฟ้าบอก...
"โห...น่าทานมากเลยคุณฟ้า... ขอบคุณมากครับ..." ชายหนุ่มเอ่ยขอบคุณ ตอนนี้เสื้อสูทตัวนอกถูกถอดวางพาดไปกับเก้าอี้ด้านข้างแบบไม่กลัวยับ แขนเสื้อเชิ๊ทสองข้างถูกพับขึ้นมาจนถึงข้อศอก มือข้างหนึ่งของชายหนุ่มโอบรัดตัวหนูน้อยไว้หลวมๆ ส่วนอีกข้างคอยป้องของเล่นที่หนูน้อยถือไม่ให้เอาเข้าปาก...
"ส่วนคาปูชิโน่รอซักครู่นะครับ เดี๋ยวฟ้านำมาเสิร์ฟให้..." บอกไปพร้อมรอยยิ้ม และรู้สึกดีทุกครั้งที่เห็นลูกค้ายิ้มกลับมาให้เราด้วยใจจริงแล้วบอกขอบคุณ
"ขอบคุณครับ...ไม่ต้องรีบนะ ผมรอได้..." ธาดาเอ่ยบอก กลิ่นหอมนมวนิลาผสมกลิ่นแป้งเด็กจากตัวน้ำฟ้าทำเอาเขาอยากเข้าไปขอหอมใกล้ๆ มันรู้สึกดีมากกว่าเวลาอยู่กับสาวๆที่ประดาด้วยกลิ่นของน้ำปรุงแต่งกลิ่นราคาเหยียบหมื่นนั่นเยอะ... ตอนนี้อยากกอดคนเป็นผู้ปกครอง แต่ในเมื่อขอกอดไม่ได้ก็ขอกอดตัวแทนเป็นเด็กตัวน้อยนี่แทนแล้วกัน...
"อ้อ...แอ้.........แว้.............บู่........" หนูลินพ่นภาษาของเด็กออกมาระหว่างที่มือก็หยิบจับบิดของเล่นในมือ โดยมีหมอกานต์คอยดูแลกำกับและสอนเด็กน้อยให้เล่นอย่างถูกต้องเพื่อเสริมสร้างกำลังกล้ามเนื้อและพัฒนาการ...
ซักพักเสียงดัง
กรุ๊ง...กริ๊ง... จากหน้าร้านก็เรียกสายตาของน้ำฟ้าให้เงยหน้าขึ้นมอง... และบุคคลที่กำลังเดินเข้าร้านมาก็ทำให้น้ำฟ้ารีบวางมือจากของต่างๆวิ่งรี่ไปช่วยถือทันที...
"โอ๊ยยยย ร้อน...! ร้อนที่สุดในชีวิตเลยน้องฟ้า... แถมรถก็ติด...! มันจะมีทำไมนักหนาเนี่ยไฟแดง...ใกล้จะถึงร้านอยู่แล้วแต่รู้มั้ยกว่าพี่จะฝ่าออกมาได้นานมากอ่ะ..." คนพูดบ่นไปก็เอามือที่ว่างเพราะน้ำฟ้ามาช่วยถือของไปแล้วขึ้นโบกพัดลมให้กับตัวเองไป... น้ำฟ้ายิ้มให้พลางเดินนำเอาของไปเก็บเข้าที่
"ติดตรงไหนอ่ะพี่หมอก..." ออกจากชวนคุย และเมื่อเอาถุงแป้งคุ้กกี้กับกระป๋องเมล็ดกาแฟกับอุปกรณ์ทำขนมอีกหลายอย่างวางลงที่ว่างได้แล้วเด็กหนุ่มก็เดินไปรินน้ำเย็นลงแก้วเดินมายื่นให้เจ้าของร้านตัวจริง...
"ตรงสี่แยกก่อนถึงเนี่ยแหละ...รู้มั้ยพี่ติดตั้งเกือบครึ่งชั่วโมงแน่ะฟ้า...นี่แหละน๊า...ก็มันตอนเที่ยงนี่ คนออฟฟิศก็ต้องลงมาหาอะไรทาน... ทำไมเขาไม่จัดเวรแบ่งกันลงมานะแต่ละบริษัทน่ะ รถจะได้ไม่ติดมากแบบนี้อ่ะฟ้า..." บ่นพลางก็รับน้ำมาดื่มก่อนบอกขอบคุณลูกน้องที่เขาคิดว่าโชคดีมากที่ได้มาช่วยงานคนนี้ คนฟังยิ้มรับมือก็หันไปเทฟองนมลงบนแก้วกาแฟคาปูชิโน่ ลังเลว่าจะราดช็อกโกแลตมั้ยเพราะปกติเจ้านายเขาไม่เคยมาทานที่นี่ เลยไม่รู้ว่าจะอยากใส่หรือเปล่า...แต่สุดท้ายน้ำฟ้าก็ตัดสินใจไม่ใส่จึงผิดฝาใส่หลอดแล้วเดินนำไปเสิร์ฟ...
ชายหนุ่มซึ่งนั่งหันหลังให้เคาเตอร์หันมามองชั่วแว่บในตอนที่มีคนเข้าร้านมาใหม่ๆแล้วก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก และตอนนี้ชายหนุ่มก็นั่งหันหลังให้ทำให้หมอกมองแค่ด้านหลังแล้วนึกคุ้นๆกับทรงผม แถมยังมานั่งตรงโต๊ะทำงานของน้ำฟ้าอีก ก็ทำให้หมอกแอบอยากรู้ไม่น้อยว่าใครกันหนอที่มานั่งอุ้มมาสค็อตของร้านเขาอยู่ตรงนั้น...
"พี่หมอก...พี่หมอกจะหยุดร้านตั้งแต่วันไหนอ่ะ ฟ้าจะได้วางแผนเตรียมตัวถูก..." จู่ๆน้ำฟ้าที่กลับมาเช็ดเคาเตอร์อยู่ก็เอ่ยปากถาม... เจ้าของร้านสะดุ้งไหล่เล็กน้อยเพราะกำลังคิดอย่างหนักว่าท่าทางแบบนั้น กับทรงผมแบบนั้นเขาคุ้นๆอยู่ แต่นึกไม่ออกว่าชายหนุ่มคือใครที่เขารู้จักแน่รึเปล่า
"เอ๊ะ...หา?? อ๋อ... พี่ว่าอีกซักสองสามวันก็จะขึ้นไปแล้วล่ะ ว่าจะไปเตรียมงานล่วงหน้าก่อนซักสองอาทิตย์... ส่วนฟ้าค่อยไปพร้อมเจ้าหมออีกซักอาทิตย์ก่อนก็ได้ไม่ต้องรีบ... จะไปเมื่อไหร่โทรบอกก่อนนะจะได้เตรียมห้องไว้ให้...เจ้าบ่าวเขาเหมาปิดรีสอร์ทที่วังน้ำเขียวเลยแน่ะ...ที่พักเขาสบายมาก ฟ้าจะไปพักกี่วันก็ได้ไม่มีปัญหา..." คุณหมอกสาธยายแจงแผนที่ตัวเองคิดไว้ให้ฟัง น้ำฟ้าพยักหน้ารับเข้าใจ... แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาจัดของที่คุณหมอกเพิ่งซื้อมาให้เข้าที่ต่อไป จนกระทั่งคุณหมอกอดรนทนไม่ไหวต้องออกปากถาม...
"ฟ้าๆ...ผู้ชายคนนั้นใครอ่ะ ญาติฟ้าเหรอ...เท่ดีนะใส่สูทด้วย...เขาทำงานอะไรอ่ะ..." หมอกจัดคำถามไปชุดใหญ่ๆ เพราะคิดแล้วคิดอีกก็ว่าไม่น่าจะเคยเจอกันจังๆ แต่ว่ามันก็คุ้นๆอยู่ไม่น้อย... น้ำฟ้าหันมองตามสายตาก็ถึงบางอ้อ ยิ้มขำๆเมื่อเจอยี่สิบคำถามยิงเข้ามา
"อ๋อ... พี่หมอกอยากรู้จักรึเปล่า...เดี๋ยวฟ้าพาไปแนะนำ...มานี่ๆ..." แล้วเจ้าฟ้าก็จัดการวางผ้าในมือแล้วคว้าแขนเจ้าของร้านที่หน้าเหลอหราเดินเข้าไปหาชายหนุ่มที่นั่งอยู่ที่โต๊ะกับลูกชายเขากับหมอเด็กอีกคนทันที โดยคนถูกลากไม่มีโอกาสได้ออกปากห้ามซักนิด...
"...ขอโทษนะครับ...คุณธาดา...ผมพาเจ้านายของผมอีกคนมาให้รู้จัก..." มาถึงโต๊ะปุ๊บน้ำฟ้าก็ออกปากเรียกความสนใจจากคนที่นั่งอยู่ให้หันมามอง หมอกานต์ที่กำลังเขย่าขวดนมเด็กก็หยุดมือหันมามองเช่นกัน... "...คุณธาดาครับ... นี่พี่หมอก เจ้าของร้านนี้เอง... พี่หมอก นี่คุณธาดา เจ้านายฟ้าเอง...เจ้าของสำนักพิมพภัคอักษรที่อยู่เยื้องๆกับร้านพี่หมอกตรงนั้นไง..." พูดแล้วก็มองๆไปทางที่ตั้งของบริษัทชายหนุ่ม... แต่เจ้าของร้านผิวขาวหยวกกลับยังยืนนิ่งๆเหมือนสมองประมวลไม่ทัน
แต่แล้วสายตาก็เหลือบเห็นนิตยสารเล่มหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะใกล้ๆอีกตัว ที่มีรูปชายหนุ่มตรงหน้าโชว์หราอยู่บนปก...
"เอ๊ะ...ฮ๊ะ...เห... นี่คุณ...ธาดา...นักธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ที่กำลังฮ้อทอยู่ตอนนี้ใช่มั้ยครับ..." หมอกตาโตยกมือชี้ไปที่ชายหนุ่มอย่างเผลอตัวว่ามันเสียมารยาท แต่ธาดากลับยิ้มละไมให้พร้อมพยักหน้ารับแล้วแก้คำให้ขำๆ
"กำลังฮ้อทจริงๆด้วยครับ...อากาศวันนี้มันฮ้อทมากจริงๆ..." กล่าวจบชายหนุ่มก็หัวเราะหึหึในลำคอ ทำให้คุณหมอกที่เผลอชี้หน้าอยู่หน้าแดงขึ้นมากับคำพูดตอบของชายหนุ่ม มือไม้เก้งก้างเก็บไม่ลงทันที...
"เอ้อ...งั้นเดี๋ยวพี่หมอกช่วยคุณธาดาป้อนนมหนูลินแป๊บนะ เดี๋ยวกานต์ขอไปคุยเรื่องสำคัญบางอย่างกับฟ้าแป๊บ... แป๊บเดียว...ฝากหน่อยนะครับคุณธาดา..." พูดจบก็ยัดขวดนมที่กำลังอุ่นพอดีลงในฝ่ามือใหญ่ของชายหนุ่มตัวสูงที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ... ส่วนน้ำฟ้าก็ผลักไหล่คุณหมอกเบาๆให้นั่งลงบนเก้าอี้บนโต๊ะใกล้ๆทันทีด้วย
"เดี๋ยวฟ้ามานะครับ...ฝากดูหนูลินซักแป๊บนะครับคุณธาดา พี่หมอก..." น้ำฟ้าบอก พอกล่าวจบคุณหมอกานต์ที่รอจังหวะอยู่ก็รีบคว้าแขนเพื่อนเดินไปทางหลังเคาเตอร์เพื่อหลบเข้าสู่โซนห้องครัวทันที
ทิ้งคุณหมอกผิวขาวให้นั่งทำอะไรไม่ถูกอยู่กับคนดังที่เพิ่งเคยเจอตัวเป็นๆครั้งแรก ปกติเจอแต่บนปกนิตยสารที่ซื้อมาตั้งไว้ที่ร้านนี่นา...เคยอ่านผ่านๆทำให้พอรู้ว่าชายหนุ่มเองมีชื่อเสียงไม่น้อยในวงการธุรกิจและในแวดวงสังคม ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะมีโอกาสได้มานั่งร่วมโต๊ะในร้านของตัวเองแบบนี้... โธ่...ฟ้านะฟ้า หมอกานต์นะหมอกานต์... มาทิ้งอะไรเขาตอนนี้ล่ะเนี่ย ! โอ๊ย...ถึงจะมีหนูลินแต่พี่ก็ทำตัวไม่ถูกอยู่ดีนะเว้ยเฮ้ย !!!
------------ - --- - - ------------ - -- -- - -
to be continue-->>
ช่วงนี้เปิดเทอมแล้ว...
โอ้วววม่ายยยย
เค้าเพิ่งปิดเทอมใหญ่ได้ไมาถึงสองอาทิตย์เลยนะ
ทำไมคณบดีทำกับเค้าเยี่ยงเน้
ช่วงเวลาที่หายไปเค้าหายไปเตรียมตัวสอบมาคร๊าบบบบบ
และตอนนี้เกรดออกมาแล้วสามตัวจากเจ็ด ได้มดมาสองตัวกับนกบวกอีกหนึ่ง...
ภาวนาว่าอย่าให้ได้หมากับปลามากินเล้ยยยยยยย เพี้ยงงงงงงงงงง
ถ้าได้มาคงอดแน่ๆความฝันที่จะได้ไป UNC
นอกจากไม่มีเวลาแก้แล้วคงโดนหม่อมพ่อกระทืบให้ด้วย ห้าห้าห้า
ปล. ช่วงนี้ใครโดนรับน้องอยู่ก็ทนเอาเน้ออออ ถ้ามันโหดเกินไป...พี่ๆใจดีก็ยังมีอีกเยอะนะ... ส่วนใครที่ไม่ได้รับน้องก็ตั้งใจเรียน+ตั้งใจทำงานด้วยนะ อย่าแอบอู้... เหมือนเค้า ห้าห้าห้าห้า