"สะเพร่าที่สุดเลยเรา !! โกรธตัวเองว้อยยย...ไปทำหล่นเอาไว้ที่ไหนนะ สร้อยนั่น..." คุณหมอกานต์ในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสามส่วนก้มๆเงยๆดูตามพุ่มไม้ พอไม่เจอก็เลื่อนมาดูตามหญ้าบนพื้น... คุณหมอก้าวถอยหลังไปตามทางที่ตัวเองเดินผ่านมาตอนขนของลงมาจากรถ... สงสัยตอนหิ้วพวกกระเป๋าสร้อยข้อมือเขาคงไปเกี่ยวโดนเข้าทำให้หล่นหายลงไปตอนไหนก็ไม่รู้...
"หรือจะมาหาตอนกลางวันดี...แต่ถ้ามีคนเก็บไปล่ะ... โอ๊ย...อย่างนี้น่าจะเอาไฟฉาย...อ่ะ...เฮ๊ย !"
"...ชนผมเองนะคุณ... แต่ดันเป็นคนกระเด็นไปซะงั้นนะ..." ผู้ชายตัวสูงที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ๊ตแขนยาวปลดกระดุมออกจนหมด แต่ยังสะพายสายคาดปืนพกอยู่ติดกับตัวยืนกอดอกมองเขา นิ้วมือข้างหนึ่งคีบบุหรี่เอาไว้... สายตาของชายหนุ่มตรงหน้าที่คุณหมอเด็กสาบานได้ว่าเขาไม่เคยเห็นมาก่อนมันทำให้คุณหมอนิ่งเงียบ ไม่กล้าต่อล้อต่อเถียงเหมือนที่เคยทำอยู่ประจำในตอนที่มาคัส ไบรอันมาตามติดเขาที่โรงพยาบาล สายตาของชายหนุ่มตรงหน้าตอนนี้มันทั้งดูดุดันและเคร่งเครียดแปลกๆ แม้ว่าริมฝีปากชายหนุ่มจะยังยกยิ้มอยู่เหมือนปกติก็ตาม...
"คุณมาเดินทำอะไรแถวนี้ตอนจะสี่ทุ่มล่ะครับ... มืดๆแบบนี้ระวังโดนพวกงูตะขาบมันกัดเอานะคุณ..."
"...เอ่อ...ไม่... เอ้อ...คุณน่ะแหละ !! ทำไมถึงอยู่นี่ เอ๊ย ! คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง... แล้วเจ้านายคุณ..."
"บอสผมมาอยู่ที่นี่ก่อนหน้าพวกคุณจะมาเสียอีก... นี่...ขับรถออกมาไกลแบบนี้ไม่บอกกันก่อนเลยนะ... ใจร้ายชะมัดเลยคุณ..."
"นี่อย่าเข้ามาใกล้นะ...เหม็น..." คุณหมอรีบยกมือกั้นมาคัสทันทีเมื่อชายหนุ่มพูดพลางก็สาวเท้าเดินเข้ามาหาเขา... คุณหมอณัฐกานต์เกลียดกลิ่นบุหรี่ที่สุด ! ยิ่งเขาเป็นคุณหมอเด็กด้วยสิ่งอบายมุขพวกนี้จะถูกเขาแอนตี้อย่างสุดชีวิตเลย...
"...คุณเหม็น... เจ้านี่น่ะเหรอ..." พูดแล้วมาคัสก็ยกบุหรี่ขึ้นมาให้ดู พอเห็นคุณหมอกานต์พยักหน้าก็ร้องอ๋อในลำคอเบาๆ ก่อนจะหันมองหาพื้นตรงที่เป็นทรายหรือกรวดละเอียดแล้วทิ้งลงก่อนจะขยี้เท้าดับไฟที่แดงตรงปลายมวนที่เขาเพิ่งสูบไปได้ครึ่งเดียว...
"อยากตายไวนักรึไงถึงได้สูบเจ้านี่... รู้มั้ยผมเกลียดกลิ่นบุหรี่ที่สุด เพราะมันไม่ดีต่อเด็กและคนใกล้ตัว..."
"ครับๆ...ผมก็ทิ้งไปแล้วนี่ไง..."
"ทิ้งไปแล้วแต่มันก็เหม็นออกมาจากปากคุณอ่ะ..."
"อ้าวเหรอ..." มาคัสทำท่านึก ก่อนจะเอามือมาอังที่ปากตัวเองแล้วพ่นลมออกมา "เอ้อ...จริงด้วย... งั้นคุณไปช่วยผมแปรงฟันหน่อยสิ... ผมจะได้แน่ใจว่าปากผมจะไม่มีกลิ่นบุหรี่ติดให้คุณไม่พอใจไง..."
"ดะ...เดี๋ยว ! จะบ้าเหรอ...!! ปากนายแล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันเล่า... ไม่ใช่เด็กแล้วนะแปรงฟันเองไม่เป็นเหรอคุณ !"
"แปรงเป็นแต่ว่ากลัวไม่สะอาดไงครับ...ยังไงคุณหมออย่างคุณก็น่าจะรู้วิธีแปรงที่ถูกต้องใช่มั้ย งั้นสอนหน่อยสิ..."
"ผมเป็นหมอ...ไม่ใช่คุณครู !"
"ไม่ใช่ครูก็สอนได้...น่านะ... ไปกันเถอะ..." พูดจบมาคัสก็ถือวิสาสะคว้าข้อมือของคนตรงหน้าแล้วทำท่าจะลากออกเดิน แต่คุณหมอเจ้าของมือกลับรีบยื้อยุดไว้แล้วสะบัดมือออก...
"หยุดนะ...! ไม่ไป... นายนี่มันยังไงกันเนี่ย... จะกลับก็กลับไปคนเดียวเลยมาลากคนอื่นแบบนี้ผมฟ้องข้อหาฉุดจริงๆนะคุณ..." คุณหมอทำเป็นเท้าสะเอวแล้วตีสีหน้าเข้มใส่... หวังจะให้อีกคนยอมแพ้แล้วเลิกราวีกัน...
"ผมหวังดีต่อชีวิตคุณอยู่นะเนี่ยรู้มั้ย..."
"หวังดี...?? หวังดีอะไรของคุณอ่ะ..." คุณหมอทำหน้างงเพราะรู้สึกคำพูดเมื่อครู่มันไม่ค่อยจะต่อกันกับประโยคที่คุยกันมาก่อนหน้าเลย...
"เฮ้อ...สรุปจะไม่ไปจริงๆใช่มั้ย..." มาคัสทำท่าถอนหายใจ...แล้วมองคุณหมอนิ่งๆ คุณหมอส่ายหน้าให้จนผมกระจาย... "งั้นคุณหมอกานต์ก็ยกมือปิดหูแล้วหลับตาได้มั้ย..." มาคัสเอ่ยอ่อนโยน... แล้วมองมาที่เขสด้วยสายตาจริงจัง... แต่คุณหมอกลับเอียงหน้าเพราะงงว่าจู่ๆทำไมเขาต้องทำอย่างนั้นตอนนี้ด้วย...
"ทำไมล่ะ... นายจะแกล้งอะไรฉันรึเปล่าเนี่ย..." คุณหมอถามอย่างระแวง... คราวนี้มาคัสเลยถอนหายใจซ้ำอีกรอบแล้วตัดสินใจคว้าอีกคนเข้ามาซบแน่นกับอกตัวเอง เอามือข้างหนึ่งเอื้อมปิดหูให้แล้วกระซิบเบาๆ
"อยู่นิ่งๆแป๊บนะ...แล้วก็หลับตาด้วย..." ชายหนุ่มบอก... คุณหมอที่ตอนแรกทำท่าจะดิ้นแต่เมื่อปลายหางตาเหลือบเห็นคนที่จู่ๆก็คว้าตัวเองเข้าไปกอดหยิบปืนที่อยู่ตรงข้างเอวขึ้นมาด้วยมือซ้ายและยืดแขนออกไปทางด้านหลังเขา คุณหมอณัฐกานต์ก็ตัวแข็งทื่อตาเบิกกว้างโดยอัตโนมัติ... ในใจนึกว่าข้างหลังเขาคงเป็นงูหรือพวกสัตว์ร้ายอะไรก็แล้วแต่แน่นอน...
แต่ทันทีที่เสียงปืนลั่นดัง
แกร๊ก... เบาๆสิ้นสุดลงเพียงครั้งเดียว... ก็ได้ยินเสียงร้องโอ๊ยด้วยความเจ็บปวดของคนดังมาจากที่ไกลๆ ก่อนจะตามมาด้วยเสียงพุ่มไม้ใบหญ้าดังสวบสาบ... คุณหมอเผลอยกมือมาเกาะชายเสื้อคนที่กอดเขาเอาไว้โดยไม่รู้ตัว... รู้แน่แล้วว่าคนที่กอดเขาอยู่เพิ่งทำการยิงคนไปสดๆร้อนๆเมื่อครู่นี่เอง... พอเห็นชายหนุ่มลดมือข้างที่ถือปืนลงข้างตัวแล้ว คุณหมอก็ค่อยๆเงยหน้ามองใบหน้าคนที่ตอนนี้เอามือมาลูบต้นแขนเขาเบาๆ... มาคัสก้มหน้าลงยิ้มให้เหมือนเมื่อครู่ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น...
"...บอกให้หลับตาไงครับ... ลืมตาทำไม..." ชายหนุ่มกล่าวเบาๆ...
"คุณ..." คุณหมอได้แต่เบิกตาค้างไว้อย่างนั้น เพราะนึกคพูดจะมาถามสถานการณ์เมื่อครู่ไม่ออก... ถึงเขาจะเป็นหมอ เคยผ่าศพคน เคยเห็นคนตาย... แต่เขาไม่เคยเห็นเหตุการณ์ที่ทำให้คนต้องมาตายต่อหน้าต่อตาขนาดนี้ ถึงจะไม่เห็นแต่เขาก็อยู่ใกล้ชิดที่สุดกับคนที่เพิ่งลงมือทำให้ตัวเองกลายเป็น ‘ฆาตกร’ ไปหมาดๆ... "ปละ...ปล่อยนะ..." พอได้สติคุณหมอก็รีบดันตัวเองออกจากอ้อมกอดเมื่อครู่ทันที...
"...กลัวเหรอครับ..." มาคัสถาม สายตามองคนตรงหน้าที่มองเขาด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป เพราะอย่างนี้ไงล่ะเลยอยากพาออกไปจากที่ตรงนี้เสียตั้งแต่ตอนที่เขาเห็นคุณหมอเด็กโดนเล็งยิงก่อนหน้านี้แล้ว...
"..." คุณหมอเด็กไม่พูดตอบอะไร แต่รีบหันหลับมองไปทางพุ่มไม้ที่เขาเพิ่งได้ยินเสียงคนร้อง... และคาดว่าคงเป็นที่ที่ ‘เหยื่อ’ ผู้เคราะห์ร้ายโดนยิงไปด้วย... แต่พอจะก้าวเท้าออกไปหาคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาก็คว้าแขนเขาไว้โดยแรงแบบที่คุณหมอไม่คิดว่านายมาคัส ไบรอันที่ชอบทำเป็นยอมเขาอยู่เรื่อยจะกล้าทำ... เพราะมันแรงเสียจนสามารถดึงคุณหมอทั้งคนให้เข้ากลับไปยืนชิดแนบอกมาคัสเหมือนเดิม...และนายมาคัสก็ใช้มือเพียงข้างเดียวตรึงร่างคุณหมอให้อยู่กับที่ได้ด้วย...
"เขายังไม่ตายหรอกครับ... ผมยิงโดนตรงขาน่ะ..."
"แต่เขาก็โดนยิง...ผมต้องไปช่วยเขา..." ด้วยจิตสำนึกของความเป็นหมอ เมื่อเห็นคนที่บาดเจ็บมาอยู่ตรงหน้าไม่ว่าจะดีหรือเลวเขาก็ต้องช่วยไว้ก่อน... พอโดนห้ามแบบนี้ก็ทำให้คุณหมอนึกฉุนขึ้นมาเหมือนกัน
"...คุณจะไปช่วยคนที่ตั้งใจจะฆ่าคุณงั้นเหรอ...? หมอไทยนี่เขาใจดีกันขนาดนี้เชียว..." มาคัสพูด มุมปากยกยิ้มเล็กน้อย แต่คุณหมอไม่ยิ้มด้วยกลับพยายามดิ้นออกลูกเดียว...
"...แต่ถึงยังไงคุณก็เพิ่งยิงเขา... คุณเพิ่งยิงคนนะมาคัส... ทำไมคุณถึงทำหน้าแบบว่า...ไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้แบบนี้ล่ะ...ไม่รู้สึกผิดบ้างเลยเหรอ??" คุณหมอเด็กถามเสียงเกือบสั่น ไม่ว่าจะยังไงก็กลัว...ถึงจะเคยไปกินข้าวด้วยกันหลายครั้ง เคยให้เขาช่วยถือของให้ก็หลายหน... แต่ไม่เคยนึกเลยซักครั้งว่าคนตรงหน้าจะมากล้ายิงคนทิ้งได้แบบนี้หน้าตาเฉย...
"...คุณตั้งสติดีๆแล้วฟังผมนะ...นี่คืองานของผม... ผมต้องทำเพราะต้องดูแลความปลอดภัยของใครก็ตามที่ผมจำเป็นต้องดูแล แล้วเมื่อกี้ถ้าผมไม่ยิง... คนที่จะไม่ได้มายืนว่าผมแบบนี้แต่อาจจะต้องลงไปนอนกองไร้สมหายใจบนพื้นน่ะ...ก็คือคุณ...ซึ่งผมไม่มีทางยอมให้เกิดขึ้นแน่... คนเมื่อกี้เขาไม่ตายหรอก ไกลหัวใจตั้งเยอะ...เดี๋ยวอีกซักพักพวกของเขาก็คงมาเจอแล้วก็จัดการพาไปโรงพยาบาลหรือไปหาหมอเองล่ะ... คุณไม่ต้องกังวล...แล้วกลับที่พักไปพร้อมกับผมดีกว่า...นะ"
"...มะ...ไม่...! ผมอยากจะไปดูให้แน่ใจ...ว่าเขาจะไม่ตายจริงๆ..."
"นี่...คุณเป็นหมอนะ... คุณก็น่จะรู้ว่าแผลโดนยิงที่ขาที่หรือแขนน่ะไม่เป็นไรเท่าไหร่หรอก..." ...แต่เมื่อกี้คงทะลุกระดูกหน้าแข้งไปด้วยล่ะนะ แล้วก็คงต้องนอนรอความช่วยเหลือนานหน่อยล่ะ... เพราะเพื่อนแกที่อยู่แถวท้ายรีสอร์ทเจ็ดแปดคนก็กำลังนอนรอความช่วยเหลืออยู่ไม่ต่างไปจากแกเท่าไหร่หรอก...
"ถึงจะไม่เป็นไรแต่ถ้าไม่ได้รับการปฐมพยาบาลในทันทีเลือดมันจะ..."
"...กลับที่พักกันเถอะคุณ...ยืนตรงนี้ยุงเยอะจะตาย..." มาคัสบอกพร้อมยิ้มบางๆให้คนที่ขณะนี้ตัวแทบจะเข็งไปเสียแล้ว...
"ดะ...เดี๋ยวสิ...แต่..."
"หรือคุณจะรอให้ผมยิงคนทิ้งเพื่อคุณอีกซักคนก่อนมั้ย...ถึงจะยอมกลับไปที่พักโดยดีกับผม...หืม?" มาคัสถามในลำคอแผ่วเบา... แต่มันก็มีมนต์สะกดมากพอที่จะให้คุณหมอยอมก้าวเท้าออกเดินโดยการบังคับของมาคัสแต่โดยดี กระนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองทางพุ่มไม้เดิมอีกครั้ง แต่เมื่อไม่เห็นความผิดปกติใดๆอีกคุณหมอก็ถึงได้ยินยอมให้คนตัวสูงคว้าข้อมือแล้วลากออกเดินพาไปส่งให้ถึงบ้านพักกลางหลังใหญ่...
บริเวณหน้าบ้านมีทางน้ำพาดผ่าน โดยมีสะพานไม้สีน้ำตาลพาดกลางไว้ให้เป็นทางเดินข้ามน้ำ โคมไฟดินเผาตามทางเดินยังส่องแสงเหลืองนวลไม่ยอมดับแม้ว่าคืนนี้ลมจะเริ่มแรงขึ้นแล้วก็เถอะ... มาคัสเก็บปืนเข้าซองเรียบร้อยและติดกระดุมเสื้อตรงกลางสองสามเม็ด เมื่อลากคนร่างบางๆให้ตามมาได้จนถึงที่พัก ชายหนุ่มก็ดันคุณหมอเด็กที่เดินเงียบมาตลอดทางให้หันกลับมามองหน้าเขา ซึ่งคุณหมอก็ยอมมองแต่แค่แว่บเดียวก็หันหนี...
"คืนนี้ก่อนนอนก็ดื่มนมอุ่นๆซักแก้ว... คุณอาจจะนอนไม่หลับ...แต่ได้โปรดหลับตาไว้จนถึงเช้านะ... พอผมกลับไปแล้วห้ามคุณออกไปไหนอีกเด็ดขาด...รอบบ้านนี่มีทั้งคนของผมและคนของคุณโตยธรเฝ้าอยู่ จะไม่มีอันตรายใดๆเกิดขึ้นที่นี่ในคืนนี้แน่... แล้วถ้ามีใครมารายงานผมว่าคุณดื้อ...แอบย่องเงียบกลับออกมาล่ะก็... ผมจะมารับคุณไปนอนด้วยกันที่ห้อง...ตกลงมั้ย..."
คุณหมอเด็กไม่ตอบรับแต่ก็ไม่ปฏิเสธ... เอาแต่ก้มมองพื้นและคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ที่เพิ่งผ่านพ้นไป... จะให้เขาหลับตาลงได้ยังไง เขาเป็นคนธรรมดาที่ไม่คาดคิดว่าชีวิตนี้จะได้มาเห็นคนยิงกันสดๆนี่ ถึงจะไม่รู้ว่าเขายิงกันทำไม และใครที่โดนยิง... แต่อย่างน้อยคนคนนี้ก็ไม่เคยทำร้ายเขา... ที่ผ่านมาไม่เคย... และที่ทำนั่นก็คงทำเพื่อปกป้อง...เขา หรือใครก็ตามที่ชายหนุ่มบอกว่าจำเป็นต้องปกป้อง... เขาจะลอง...เชื่อคนคนนี้... ได้มั้ยนะ...
"...ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนคุณเป็นคนแปลกหน้า...ที่ผมเพิ่งรู้จักยังไงก็ไม่รู้...เรื่องเมื่อกี้คุณไม่ได้สั่งให้ผมเงียบ เพราะงั้นผมอาจจะบอกใครก็ได้ที่อยู่ที่นี่...และคุณอาจจะลำบาก... แต่คุณก็จะ..."
"โลกของผมกับคุณหมอน่ะต่างกันมาก... แต่เชื่อผมเถอะ... จะไม่มีวันที่ผมจะหันปากกระบอกปืนเข้าหาคุณ... ไม่ว่าคุณจะทำให้ผมต้องลำบากยังไงก็ตาม... ผมขอโทษที่ทำให้คุณต้องเจอเรื่องแบบนี้...แต่คุณดื้อเองนะคุณหมอกานต์... ผมเอาทั้งงู ตะขาบ แปรงสีฟันมาอ้าง...แต่คุณก็ไม่ยอมกลับมากับผมเลย..."
ท้ายประโยคชายหนุ่มพยายามจะลดบรรยากาศความเหินห่างหรืออะไรก็ตามที่คุณหมอเด็กตรงหน้ากำลังแผ่ออกมา... ไม่รู้ทำไมแต่เขาไม่ชอบให้ระหว่างเขากับคุณหมอณัฐกานต์มีหมอกบางๆแบบนี้มากางกั้นระหว่างกันแบบนี้เลย... และยิ่งคำพูดที่บอกว่าเหมือนเห็นเขาเป็นคนแปลกหน้านั่นอีก รู้สึกเหมือนคุณหมอเพิ่งผ่าตัดแล้วเอาก้อนตะกั่วหนักๆมาถ่วงทิ้งลงไว้ในใจของเขาแล้วไม่ยอมเอาออก... จะบอกว่าหมอคนนี้ใจร้ายก็ไม่ถูก เพราะคนที่ทำให้คุณหมอเอาตะกั่วมาทิ้งไว้ก็เป็นเขาเอง ที่ไม่ยอมเก็บกวาดพื้นที่ให้เรียบร้อยก่อนที่จะมีใครมาเห็น...
"...ผม...ไม่รู้จะพูดอะไรกับคุณ..." คุณหมอณัฐกานต์นึกออกมายังไงก็พูดออกมาอย่างนั้น ปลายนิ้วเย็นเฉียบกำเข้าหากันอย่างไม่รู้ตัวเมื่อสายตายังเหลือบแลเห็นปืนกระบอกที่เพิ่งถูกใช้งานไปเมื่อครู่ เขาเห็นปลายเท้าชายหนุ่มค่อยๆถอยหลังออกไป พออยู่ในระยะห่างประมาณหนึ่งช่วงแขน มาคัส ไบรอันก็เอามือข้างหนึ่งมาเชยคางคุณหมอขึ้น เวลานั้นณัฐกานต์ก็นึกอะไรไม่ออกจึงได้แต่ปล่อยให้คนตรงหน้าจับเขาทำตามใจชอบ... แต่มาคัสก็เพียงแค่โน้มใบหน้าลงมาจูบแผ่วเบาที่หน้าผาก และกระซิบบอกเบาๆ...
"...have a good dream... see you tomorrow..." ชายหนุ่มทิ้งไว้เพียงสองประโยคสั้นๆแล้วก็ดันร่างเขาให้ถอยหลังเข้าไปอยู่ในเขตตัวบ้าน จากนั้นชายหนุ่มก็หันหลังแล้วเดินทางไป
คุณหมอเอานิ้วมาแตะรอยประทับที่หน้าผาก มันยังรู้สึกอุ่นๆอยู่เลย...แถมตอนที่โดนริมฝีปากนั่นประทับลงมาเขายังรู้สึกว่าโดนหนวดสั้นๆทิ้งลงตรงปลายจมูกด้วย...
"ไม่ใช่เด็กนะที่จะต้องมาจูบราตรีสวัสดิ์บนหน้าผากแบบนี้..." คุณหมอพึมพำเบาๆกับตัวเอง สูดลมหายใจเข้าช่องท้องลึกๆแล้วตัดสินใจหันหลังเดินกลับเข้าบ้าน...
...ส่วนสร้อยเส้นนั้นเอาไว้ค่อยหาพรุ่งนี้เช้าแล้วกัน...
-:+:-:+:-:+:-:+:-:+:-:+:-:+:-
to be continue-->>
ว่าจะลงให้ตั้งแต่เมื่อวาน...แต่เน็ตหอล่ม...
เดี๋ยวตอนหน้าหนูิลินออกโรงแน่นอน...หักธง !!!
ปล.ช่วงนี้ชลบุรีฝนตกบ่อย...ไม่อยากได้คนช่วยกางร่ม...แต่อยากได้คนที่จะจูงมือกันเดินฝ่าฝนไปด้วยกันมากกว่า...เฮ้อออ