คุณแม่...ครับผม !!! Ch.20 - Pa...pa! บรรยากาศหนาวเย็นจากเครื่องปรับอากาศทำให้น้ำฟ้าต้องดึงผ้าห่มขึ้นมาชิดถึงคาง... กลั้นก้อนสะอื้นไว้ในลำคอแล้วปล่อยให้หยาดน้ำตาไหลลงมาเงียบๆแทน... ท่อนขาเปล่าเปลือยโดนเช็ดเบาๆจากผ้าขนหนูหมาดน้ำ... พอเช็ดจนเรียบร้อยผ้าเปียกน้ำหมาดๆก็ถูกโยนส่งๆไปลงในกะละมังใส่น้ำ จนน้ำที่อยู่ข้างในกระฉอกออกมาเล็กน้อยแต่คนโยนก็ไม่สนใจ กลับค่อยๆเลื่อนผ้าห่มลงมาปิดท่อนขาเพรียวนั่นให้จนมิด... แล้วจัดการสอดตัวเองเข้าไปนอนในผ้าห่มผืนเดียวกันจากนั้นก็สอดแขนเข้ารองใต้กลุ่มผมนุ่มข้างหนึ่ง อีกข้างก็พาดรัดไว้ตรงราวเอว... แม้จะมีแรงดึงออกจากมือบางๆอยู่บ้างแต่ชายหนุ่มก็ไม่ใส่ใจกลับยิ่งออกแรงรัดแน่นๆสองครั้งเพื่อเป็นการปรามว่าให้อยู่นิ่งๆแล้วยอมให้เขากอดเสียดีๆ
"...หยุดสะอื้นเสียที... แค่รู้สึกดีกับมือฉันสองสามครั้งมันไม่ได้เสียหายอะไรหรอกนะ..." น้ำเสียงที่จงใจกระซิบลงข้างใบหูที่ยังขึ้นสีเหรื่อแดงไม่ได้มีกระแสคุกคามหรือดุดันเลย... กลับฟังดูคล้ายอยากปลอบคนที่นอนหันข้างไม่พูดไม่จานี่มากกว่า... ฝ่ามือหนาเลื่อนมาเช็ดคราบน้ำตาบนผิวเนื้อสองข้างออกให้แผ่วเบา... เช็ดแล้วเช็ดอีกจนคิดว่าถึงเขาจะเช็ดซ้ำอีกกี่ทีก็ไม่มีทีท่าว่ามันจะแห้งลงได้เลยหยุดมือ...
"ที่เงียบนี่เพราะโกรธ... หรือเพราะ...เจ็บใจ...ที่ฉันไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นต่อ หืม?" พูดแล้วก็โฉบจมูกลงข้างแก้มอีกที... อีกคนเพียงหันหลบเล็กน้อยเพื่อให้รู้ว่ายังไงเขาก็ไม่ได้ยินยอมด้วยความเต็มใจ แต่สุดท้ายยังไงก็ต้องโดนจนได้...เวลาที่ผ่านมาก็โดนไปไม่รู้กี่ครั้งแล้ว...
"..." น้ำฟ้าพูดอะไรไม่ออก ไม่ใช่คิดไม่ออกหรอกนะว่าจะพูดอะไร แต่มันมีสิ่งที่อยากพูดมากเกินไปจนเลือกไม่ถูกเลยต่างหาก... แล้วที่น้ำตามันไหลนี่ก็เพราะอารมณ์ความรู้สึกข้างในมันระบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ มันเลยต้องปลดปล่อยออกมาเป็นของเหลวที่ตาและจมูกแทน...
"...พูดอะไรบ้างสิ...ฟ้า..." ถึงจะถูกเขาเรียกชื่อเล่นสั้นๆแบบนี้ครั้งแรก...แต่น้ำฟ้าก็ไม่รู้สึกดีเลยซักนิด...
ถูกเขาแตะต้องในส่วนที่ไม่เคยมีใครได้แตะ ถูกเขาทำทุกอย่างที่ไม่คิดว่าชาตินี้จะมาโดนผู้ชายด้วยกันทำ ...มันบรรยายไม่ออกจริงๆถึงความรู้สึกในตอนนี้ ทั้งอยากอ้วก ทั้งปวดหัว และง่วงนอนมากจนตาแทบจะปิดให้ได้ ...โดนทำจนแตะขอบสวรรค์ถึงสามครั้งในเวลาไล่เลี่ยกัน... โดยที่อีกคนเอาแต่มองท่าทางน่าอายของเขาอยู่ฝ่ายเดียวแล้วก็ยิ้มเยาะใส่...
ใครบ้างที่พอโดนทำจนเสร็จแล้วยังจะมายิ้มให้อีกคนได้แล้วบอกว่า 'ไม่เป็นไร' หรือ 'ขอบคุณ' กลับ...
น้ำฟ้าหลับตาและพยายามลบข้อมูลในช่วงเวลาที่ผ่านมาทิ้งให้หมด... ถึงจะทำได้ไม่หมดแต่เขาก็พยายามเอาภาพหนูลินมาช่วย... ตอนนี้เขานึกถึงลูกชายตัวเองมากที่สุดเลย... ที่ยอมให้เขาแตะให้เขาลูบ... ทั้งหมดก็เพราะหนูลิน...ถ้าเขาไม่ยอมเขาต้องเสียหนูลินไปแน่ๆ... ซึ่งเขาไม่มีทางยอมเด็ดขาด... โดนแค่นี้...มันไม่เท่าไหร่หรอก... น้ำฟ้านึกในใจพลางปล่อยให้อีกคนเอามือสางผมเขาเล่นแล้วเอามืออีกข้างมากอดรัดเขาเอาไว้ทั้งตัว... เด็กหนุ่มเอามือสอดเข้าใต้หมอนแล้วกำเสียแน่น...กดอารมณ์อยากโวยวายอยากดิ้นหนีเอาไว้ลึกๆ...
เสียงรองเท้าย่ำลงบนพื้นไม้หน้าห้องดังขึ้นเรื่อยๆพร้อมเสียงหัวเราะของหญิงสาวคนหนึ่ง... ซักพักก็ได้ยินเสียงอ้อแอ้ของเด็กทารกร้องตอบ... น้ำฟ้าลืมตาจ้องไปที่ประตูเขม็ง... แล้วรีบขยับตัวเตรียมลุกทันที... แต่ทว่าท่อนแขนที่รัดเขาไว้แน่นไม่ยอมให้ทำตามใจ แต่กลับกดให้เขานอนลงที่เดิมแล้วก้มหน้ามาบอกใกล้ๆ...
"ถ้าไม่อยากให้ผู้หญิงคนนั้นมาเห็นสภาพนายแบบนี้ก็นอนอยู่บนเตียงนิ่งๆ เดี๋ยวฉันไปเปิดประตูเอง..." พูดจบชายหนุ่มก็ลุกยืนลงบนพื้น... ถอดเสื้อเชิ๊ตที่ใส่ไว้ตอนแรกออกเมื่อกระดุมเสื้อเขาหลุดหายไปจากแรงดิ้นหนีและแรงกระชากเสื้อของคนที่กึ่งนั่งกึ่งนอนมองเขามาจากบนเตียง...
ข้างในยังมีเสื้อกล้ามสีดำใส่อยู่ และรังสิมันต์ก็ขี้เกียจหาอย่างอื่นมาใส่ทับก็ตัดสินใจว่าจะออกไปเปิดประตูทั้งชุดแบบนี้แหละ ก่อนจะออกไปที่ประตูชายหนุ่มก็เดินกลับไปที่เตียง ปลดผ้าม่านสีขาวลงมาคลุมเตียงไว้ทั้งหมด...เมื่อเห็นว่าม่านสีขาวสามารถคลุมร่างบางๆนั่นได้หมดรังสิมันต์จึงเดินไปที่ประตูเตรียมเปิด...
ก๊อก...ก๊อก... "...พี่ฟ้าขา~ ม่านเอาหนูลินมาคืนแล้วค่ะ...เจ้าตัวเล็กงอแงหิวนมแล้วแน่เลยพี่ฟ้า..." ม่านทำปากจู๋เล่นกับเด็กน้อยรออยู่หน้าประตู แป๊บเดียวเสียงโซ่ปลดล็อกจากด้านในก็ดังขึ้น ก่อนที่ประตูจะเปิดอ้าออก...
"พี่ฟ้า...เอ๊ะ...อ้าว..พี่ตะวัน !! มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ..."
"มะ...อาาา...อาวววววววว..." หนูลินที่เอานิ้วเข้าปากอยู่ตอนนั้น...พอหันหน้าไปมองแล้วเห็นว่าใครที่ยืนค้ำกรอบประตูอยู่ตรงหน้า ความอบอุ่นที่มองไม่เห็นแต่เด็กน้อยสัมผัสได้ก็ทำให้หนูน้อยไวโอลินส่งเสียงทักออกไปเพราะจำได้ แถมยังอ้าแขนจะให้ชายหนุ่มที่ยืนยิ้มตรงกรอบประตูอุ้มเขาอีก...
"เอ๊ะ...อ้าว...หนูลินจะให้พี่ตะวันอุ้มเหรอลูก...งั้นเอ้า...!~" เมื่อน้ำหนักเด็กน้อยถ่ายไปข้างหน้าม่านจึงยินยอมให้ชายหนุ่มอีกคนเอื้อมมือมารับหนูน้อยไปแต่โดยดี... แต่ด้วยความสงสัยว่าทำไมพี่ชายข้างห้องพี่ฟ้าถึงมาอยู่ที่นี่ได้ยังไม่ได้คำตอบ หญิงสาวจึงยังไม่ได้ไปไหน... "...พวกพี่สองคนรู้จักกันเหรอคะ...แล้วพี่ฟ้าล่ะคะนอนแล้วเหรอ..."
"พอพี่เข้ามาก็เห็นฟ้าเขาหลับอยู่บนเตียงน่ะ...เพิ่งนั่งรถมาถึงนี่ สงสัยคงเหนื่อยจากการเดินทาง... พี่เห็นเราอุ้มหนูลินออกไปก็เลยว่าจะอยู่รอรับหนูลินแทน..."
"อ้าว...อ๋อ... นี่ก็แสดงว่าพวกพี่สองคนรู้จักกันมาก่อนหน้านี้แล้วเหรอคะ รู้จักกันได้ยังไงคะเนี่ยพี่ตะวัน...เห็นพี่โตบอกว่าพี่ตะวันเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศไม่ใช่เหรอ..."
"...อืม...พวกพี่รู้จักกันเพราะหนูไวโอลินน่ะ..." ท้ายประโยคชายหนุ่มทอดน้ำเสียงลงมองเจ้าร่างเล็กที่เขาอุ้มไว้ด้วยแขนแข็งแรงเพียงข้างเดียวก็อยู่ มือเล็กๆข้างหนึ่งกำเสื้อกล้ามตรงบ่าเขาแน่น อีกข้างก็เอามาตีแปะลงบนแผ่นอก...
"...ปา...ป๊า..." จู่ๆพอถึงตรงนี้เจ้าหนูดันเผลอส่งเสียงเรียกออกมาชัดเจนพร้อมเอามือชี้ๆไปที่รังสิมันต์ ชายหนุ่มถึงกับหันมาจ้องเจ้าหนูน้อยตาไม่กระพริบเลย แต่คนที่งงหนักกว่าเห็นจะเป็นหญิงสาวที่ชื่อม่านมากกว่า
"เอะ...เอ๋... ปะป๊า... พี่...เป็นพ่อของหนูลินงั้นเหรอคะ...???" คราวนี้หญิงสาวตาเบิกกว้าง น้ำเสียงบ่งบอกความตกใจเต็มลิมิต...เพราะแปลกใจสุดๆ ก็อ้าวทำไมพ่อของเจ้าหนูไม่ใช่พี่ฟ้าล่ะเนี่ย...ตอนแรกเธอได้ยินจากพี่หมอกแค่ว่าเจ้าหนูไม่มีแม่ พี่ฟ้าเลยรับเลี้ยงเอง แต่อยากให้ตัวเองเป็นทั้งพ่อและแม่ให้เจ้าหนูน้อยเลยเรียกแทนตัวเองว่าแม่ให้... หนูลินก็เรียกพี่ฟ้าว่าแม่อยู่หรอก แต่ไหงมาเรียกเพื่อนของเจ้าบ่าวเธอว่า 'พ่อ' ล่ะเนี่ย... เอ๊ะ...หรือว่า...???
"ม่านไม่ต้องงงหรอก... ทั้งพี่ทั้งฟ้าไม่มีใครเป็นพ่อเป็นแม่จริงๆของหนูลิน... หนูลินเป็นลูกของพี่สาวฟ้า กับน้องชายพี่น่ะ...แต่ตอนนี้สองคนนั้นทิ้งหนูลินไปอยู่บนสวรรค์กันทั้งคู่... ฟ้าเขาเลยรับเลี้ยงหนูลินให้ไงครับ..." ชายหนุ่มตอบ แววตาเป็นประกายยามเมื่อมองหนูลิน ...เมื่อครู่หนูลินเรียกเขาว่าปะป๊าใช่มั้ย...ทำไมพอได้ยินแล้ว..รู้สึกหัวใจข้างในมันพองฟูขึ้นมา...ชอบ...ดีใจ...อยากฟังอีก อยากให้หนูลินเรียกเขาแบบนี้ซ้ำอีกหลายๆรอบเลย...
"...อ๋อ...มิน่าล่ะ...งั้นก็เท่ากับว่าหนูลินเป็นหลานของทั้งพี่ตะวันทั้งพี่ฟ้าเลยงั้นสิคะ... มิน่าล่ะพี่โตถึงเปิดห้องแบบครอบครัวให้ โห...ปกติม่านเห็นมีแต่คุณพ่อลูกสอง...นี่คุณลูกพ่อสองเลยนะเนี่ย..." พูดแล้วม่านก็หัวเราะคิกอยู่คนเดียว... แต่ชายหนุ่มที่ยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่กับหนูลินกลับเอานิ้วมาจุ๊ที่ปากเบาๆแล้วบอก...
"หนูลินมีทั้งพ่อและแม่นะม่าน... ใช่มั้ยคนเก่ง..." ท้ายประโยคชายหนุ่มหันมาพยับเพยิดกับหนูน้อย... ไวโอลินไม่ได้พยักหน้าหรือตอบรับอะไร...นอกเสียจากหันคอเล็กๆไปมองในห้องแล้วชี้นิ้วไปที่เตียง
"...มะ...หม่ำๆ... มำๆ... ...แม่อาาา....." ออกเสียงฟังไม่ค่อยได้ศัพท์หรอกแต่คนอุ้มก็พอจะดูออกว่าเด็กน้อยคงอยากไปหาแม่เขา...
"ท่าจะง่วงมากแล้วนะคะน่ะ... งั้นม่านไม่กวนครอบครัวสุขสันต์ของคุณน้องหนูลินแล้วล่ะ... พี่ม่านไปแล้ว...สวัสดีครับก่อนเร็ว... สวัสดีก๊าบ..." เด็กน้อยสวัสดีไม่เป็นก็เลยถูกม่านจัดท่าเอามือมาพนมกันแล้วยกมือไหว้ตัวเอง พอเด็กน้อยทำเสร็จหล่อนก็ลูบหัวที่มีผมขึ้นบางๆแล้วชมว่าเด็กดีๆ จากนั้นก็ไหว้ลาคนตัวสูงที่อุ้มเจ้าหนูอยู่แล้วเดินลงจากบ้านไป...
รังสิมันต์เอาหนูลินมาจ้องหน้าแล้วอุ้มดีๆเข้าแนบอก... เห็นน้ำลายเด็กน้อยยืดย้อยออกมาจากปากก็ลังเลว่าสมควรจะเอาเสื้อที่หนูน้อยใส่อยู่ตอนนี้เช็ดดีหรือเปล่า แต่คิดว่าคงไม่ดีเท่าไหร่หรอกเพราะถ้าเป็นเสื้อเขามาโดนน้ำลายหยดใส่เขาก็ไม่ชอบ ชายหนุ่มจึงเอามือตัวเองนั่นแหละเช็ดน้ำลายหนูน้อยให้อย่างไม่นึกรังเกียจเลย... เมื่อกี๊ก็เพิ่งไปกอดคนแม่มามือมันคงไม่สกปรกเท่าไหร่นักหรอกมั้ง...
"ไหนหนูลิน...เรียกว่า...ปาป๊า...อีกทีสิครับ... ปา...ป๊า..." ชายหนุ่มถอดเสียงช้าๆเพื่อหวังให้หนูลินออกเสียงตาม แต่หนูน้อยกลับเหลือบตามองมาที่สร้อยซึ่งเขาใส่อยู่แล้วหยิบมาเล่นแทน...
"หนูลิน... เรียกปาป๊าก่อนเร็ว... ปา...ป๊า... ไม่งั้นไม่ให้เล่นนะ..." มือข้างหนึ่งยึดตัวสร้อยที่เป็นเพียงแผ่นเหล็กรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ามุมมนๆให้ออกห่างจากมือเด็ก เจ้าหนูพอเห็นว่าของเล่นที่ส่องแสงวิบวับและหมายตาไว้แต่แรกโดนแย่งก็ส่งเสียงไม่พอใจทันที...
"...มาาาาา... อาวววววววว..." คิ้วเล็กขมวดยุ่งราวกับกำลังตีโจทย์เลขคณิตยากๆอยู่เลย... มือก็ยื่นไปสุดเอื้อมเพื่อจะเอาของเล่นที่ตัวเองต้องการมาให้ได้ แต่พอมันเข้ามาใกล้มือแล้วก็โดนดึงออกไปอยู่เรื่อยเจ้าหนูก็ยิ่งไม่พอใจหนัก...
"...อ๊าวววววว... มาาาาาาาา... แม่~ !!!!~..." สุดท้ายพอไม่ได้ดังใจก็ตีเปาะแปะลงบนอกคนที่กำลังอุ้มเขาอยู่แทน แล้วร้องเรียกแม่ตัวเองเสียงดังลั่น...
"โอ๊ย...หนูลิน...พอไม่ได้ดังใจก็ทำร้ายร่างกายกันเลยเหรอ...นิสัยแบบนี้เหมือนใครหืม?..." ชายหนุ่มเอานิ้วโป้งปาดแก้มนุ่มเบาๆแล้วก้มลงหอมฟอดทันที และเขาก็ค้นพบว่าทั้งแก้มหนูลินและแก้มน้ำฟ้านุ่มพอกันเลย... แถมยังหอมไม่เหมือนใคร ไม่ได้หอมแบบปรุงแต่ง แต่หอมหวานๆแบบธรรมชาติที่ให้ดมเท่าไหร่ก็ไม่มีทางจะเบื่อ...
"...แม่~... อ๊าาาาาาาาา...." เจ้าตัวน้อยหันคอเหลียวหาแม่ตัวเองที่คิดว่าคงจะอยู่ใกล้ๆนี่แหละ แต่พอยิ่งไม่เห็นทั้งแม่ตัวเอง ของเล่นก็ไม่ได้... คราวนี้หนูลินเริ่มหันรีหันขวางเกาแขนเกาหน้าเตรียมเป่าปี่เต็มที่... ไม่เอาสิ...ทำไมไม่มีแม่...แม่หนูลินอยู่ไหน...! เวลานั้นเด็กน้อยคงต้องการคนที่จะให้ความมั่นคงและอบอุ่นแก่ตัวเองมากที่สุดอย่างน้ำฟ้าแน่...และคนที่อุ้มก็พอดูออกหรอก แต่เขาก็ยังอยากจะเล่นกับหนูลินต่ออีกนี่นา...ยังไม่ได้ยินหนูลินเรียกเขาว่าปาป๊าอีกรอบเลย...
"บอสครับ...พาคุณหนูกลับเข้าห้องไปหาคุณฟ้าดีกว่ามั้ยครับ... แหย่คุณหนูอยู่แบบนี้ระวังโดนเกลียดนะครับบอส..." เสียงนอบน้อมดังขึ้นตรงชานบันได มันคือเสียงของเตโช บอดี้การ์ดหนุ่มผิวคร้ามแดดของเขานั่นเอง... คนเป็นเจ้านายหรี่ตามองลูกน้องตัวเองที่ในมือยังคงถือปืนเอาไว้ไม่เก็บเข้าซองให้เรียบร้อย... ในสมองนึกรู้ทันทีว่ารอบบ้านหลังนี้คงมีคนโดน 'เก็บ' ไปเมื่อไม่นานมานี้แน่นอน...
"เมื่อกี๊ไม่มีใครได้ยินเสียงอะไรดังออกมาจากในบ้านใช่มั้ย..." ถามแล้วก็ตัดสินใจเอาสร้อยเจ้าปัญหานั่นให้หนูน้อยเล่นพลาง... ท่าทางเตรียมปี่แตกแบบนั้นมันเหมือนคนในห้องที่นอนอยู่บนเตียงตอนเตรียมจะร้องไห้เป็นที่สุด... และบอกตามตรงว่าในใจลึกๆแล้วไม่รู้ทำไมพอโดนน้ำตานั่นหยดตกต้องลงบนแขนแล้วรู้สึกปวดหนึบๆในใจพิกล...
เตโชเงียบไปนิดก่อนเอ่ยบอก... "...ไม่มีครับบอส... แต่ตอนนี้ดึกแล้ว ที่นี่อยู่บนเขาแถมคืนนี้ยังลมแรง...พาเข้าข้างในดีกว่าครับบอส โดนลมมากเดี๋ยวคุณหนูจะไม่สบายเอา..." ชายหนุ่มพูด ยิ่งทำให้รังสิมันต์ขมวดคิ้วแน่นเข้าไปใหญ่...
"ไม่อยากคิดว่านายจะมีความรู้เกี่ยวกับเด็กเรื่องแบบนี้นะเตโช..." ชายหนุ่มหรี่ตามองลูกน้อยตัวเองที่เอาผ้าผืนเล็กๆในกระเป๋าเสื้อมาเช็ดที่ปากกระบอกปืน...
"ซึโยชิฝากมาบอกครับบอส..." ...นั่นไง...ว่าแล้วเชียวว่าคนอย่างนายเตโชนี่น่ะนะ จะอุตส่าห์เดินมาหาเขาเพื่อมาบอกให้เขาพาหนูลินเข้าบ้าน...ไม่มีทางซะล่ะ...
"ฝากขอบใจโยชิด้วยนะ...แล้วจัดการอะไรเสร็จแล้วก็พักผ่อนบ้างล่ะ ปล่อยให้เด็กๆเขาทำบ้าง... พวกนายมาทีไรเจ้าพวกนั้นชอบมาบ่นว่างานน้อยลงทุกที..." พูดจบแล้วเจ้านายตัวสูงก็หันหลังอุ้มคุณหนูตัวนิดเดียวเดินกลับเข้าห้องไป...
...เฮ้อ...หวังว่าบอสคงจับไม่ติดหรอกนะที่เขาโกหกไปว่า...ไม่ได้ยินเสียงอะไรดังลอดออกมาจากในบ้านเลยน่ะ...
--------------------------------------- - - ---------------- - -- -- -- -- - - -
น้ำฟ้านอนนิ่งไม่ไหวติงอยู่บนเตียง... จนเมื่อเห็นรางๆผ่านผ้าม่านสีขาวแล้วว่าชายหนุ่มปิดประตูเรียบร้อยก็ลุกขึ้นเลิกผ้าคลุมเตียงออก พยายามจะขยับขาลงจากเตียงไปหาลูกให้ได้... แต่ก็ไม่ไหว...คงเพราะขาโดนจับโดนทับไว้นานเกินไป จะขยับแต่ละทีจึงรู้สึกเหมือนมันไม่ใช่ขาของตัวเองเลย...
"ลุกไม่ขึ้นก็นั่งอยู่ตรงนั้นแหละ..." รังสิมันต์ที่โอบเจ้าเด็กตัวเล็กไว้บนบ่าพาโยกเบาๆพลางเดินไปที่เตียง... น้ำฟ้ายื่นแขนออกมาเพื่อจะอุ้มเจ้าตัวเล็กคืน แต่ชายหนุ่มเพียงเดินเข้ามาใกล้แล้วก็ไม่ยอมเอาหนูน้อยให้น้ำฟ้าอุ้มเสียที แม้ว่าเจ้าตัวเล็กก็จะช่วยประท้วงโดยการพยายามเอนตัวหาแม่ตัวเองอยู่ตลอดเวลาก็ตาม... เด็กหนุ่มจึงได้แต่กัดปากอย่างขัดใจแล้วทำคิ้วขมวดใส่ผู้ชายที่ยืนค้ำตัวเขาอยู่ข้างเตียง
"...นี่...เธอทำยังไงถึงทำให้หนูลินเรียกเธอว่า 'แม่' ได้...บอกฉันหน่อยสิ...แล้วฉันจะคืนหนูลินให้..." ข้อแลกเปลี่ยนปัญญาอ่อนในความรู้สึกของน้ำฟ้าถูกส่งมาถาม ซึ่งคนถามพูดก็เหมือนไม่ได้ใส่ใจที่จะพูด เพราะตัวเองก็ไม่ได้จ้องมองมาที่คนต้องตอบอย่างน้ำฟ้าเลย สายตาคมเข้มที่ดูอ่อนโยนอย่างไม่น่าเชื่อถูกส่งไปให้เด็กน้อยในอ้อมแขนแทน
"..." น้ำฟ้าไม่พูด...ไม่อยากพูดและไม่รู้จะพูดอะไรด้วย แต่อีกคนเข้าใจไพล่ไปว่าน้ำฟ้ากำลังคิดแข็งขืนประท้วงเขาโดยการเงียบ...
"คำถามไม่ได้ยากเลยนี่... ตอบไม่ได้ก็ไม่ต้องอุ้มหนูลิน... เลือกเอาสิ...จะเอาทิฐิตัวเองหรือจะเอาลูก..."
"..." น้ำฟ้ายังคงตั้งใจไม่พูดต่อไป... แต่สายตายังมองตามหนูลินไม่ยอมละ... จนเมื่อชายหนุ่มทนไม่ไหวต้องก้มหน้าลงมาขโมยหอมแก้มไปอีกข้างละที... น้ำฟ้าหันหน้าหลบไม่พ้นจึงได้แต่เอามือถูแก้มตัวเองแล้วเรียกฝ่ายตรงข้ามเสียงขุ่น
"คุณ !!!"
"ยอมพูดแล้ว...! เร็ว...บอกหน่อยสิเธอทำยังไงหนูลินถึงยอมเรียกเธอว่าแม่ได้...ฮึ?" ไม่รู้ทำไมพอเห็นอีกฝ่ายยอมออกเสียงเรียกเขาว่า 'คุณ' เพียงคำเดียวก็เหมือนจะรู้สึกดี...อย่างน้อยก็ดีกว่าก่อนหน้านี้...ที่เด็กนี่ไม่ยอมพูดอะไรบ้างเลย แม้แต่มองหน้าเขาก็ยังไม่ทำ...
"..." น้ำฟ้าอยากจะตอบเหมือนกันแต่ไม่รู้จะตอบอะไรนี่...! จะมาคาดคั้นอะไรเขานักหนานะ...
"ไม่ตอบ... ก็ดี... ทั้งๆที่สอนไปแล้วนะว่าถ้าไม่ตอบคำถามที่ฉันถามเนี่ยจะโดนอะไร... อยากโดนอีกซักสองสามรอบก็บอกดีๆสิ ไม่เห็นต้องมาดื้อเงียบเรียกร้องแบบนี้เลย..."
"...ผมไม่ได้เรียกร้อง !!!..." น้ำฟ้ารีบตะโกนออกมาแล้วเอาแขนมากันตัวเองโดยสัญชาตญาณ... แค่เพียงเห็นชายหนุ่มสาวเท้ามาทางเขาก็ทำเอาผวาไปแล้วหรือเนี่ย...
"งั้นก็บอกมาสิว่าเธอทำยังไงหนูลินถึงเรียกเธอว่าแม่ได้..."
"...ผมไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น... จู่ๆแกก็เรียกผมแบบนั้นเอง..." น้ำฟ้าตัดใจพูด...
"เรียกเอง? เป็นไปได้ยังไง..." น้ำเสียงฟังเหมือนไม่อยากจะเชื่อเขา... ถ้าไม่เชื่อแล้วจะถามทำไม !
"ถ้าไม่เชื่อแล้วจะถามทำไม !" พอหัวคิดยังไง ปากมันก็ดันโพล่งออกมาเสียด้วย... ทำเอาอีกคนคิ้วขมวดขึ้นมาทันทีเพราะโดนขึ้นเสียงใส่...
"...หนูลินอายุยังไม่ถึงขวบ แต่เรียกเธอว่าแม่ได้ชัดเจนขนาดนี้จะจู่ๆก็ทำได้ได้ยังไง..."
"...ก็เพราะหนูลินยังไม่ถึงขวบน่ะสิ จะให้ผมไปสอนอะไรแกได้ล่ะ... วันนั้นที่แกเรียกผมว่าแม่ครั้งแรกยังตกใจแทบตาย... สงสัย...เพราะผมแทนตัวเองว่าแม่บ่อยๆละมั้ง...แกเลย..." ประโยคสุดท้ายยิ่งพูดน้ำฟ้าน้ำเสียงยิ่งอ่อนลง... พอพูดจบก็เงียบไปซะเฉยๆ... ซึ่งมันก็ทำให้อีกคนต้องเงียบไม่ต่างกัน...
"...ฮื๊อออออ...แอะ...ฮื๊อออออออออออออ ...อา....แม่~..." และท่ามกลางความเงียบ...หนูลินที่คงเริ่มรู้สึกอึดอัดก็เริ่มดิ้นหนีออกจากอ้อมแจนแจ็งแรงอย่างจริงจัง... ทั้งดิ้นทั้งถีบพยายามจะโน้มตัวพร้อมชี้มือยื่นแขนจะหาน้ำฟ้าท่าเดียว...
"...คุณ !!!... ผมขอร้อง... ขอหนูลินให้ผมเถอะ... มานี่มาหนูลิน..." พูดแล้วสองแขนก็ยื่นไปหาชายหนุ่มตรงหน้า... คว้าไว้ได้แค่ปลายมือสองข้าง นิ้วเล็กก็เกี่ยวหมับเค้านิ้วน้ำฟ้า จากนั้นหนูลินก็พยายามดิ้นถีบตัวเองออกจากอ้อมกอดใครอีกคนโผเข้าหาแม่ตัวเอง เห็นอย่างนั้นแล้วรังสิมันต์ก็ต้องยอมปล่อยมือจากหลานตัวเองอย่างไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่นัก...
"...แอ๊...งืมมม..." หนูลินที่ทำท่าจะปี่แตกเมื่อครู่พอโดนคนเป็นแม่โอ๋เข้าหน่อยพร้อมฝ่ามือนุ่มนิ่มลูบก้นลูบหลังบอบบาง สองมือเล็กก็กำเข้าแล้วขยี้ตาตัวเอง บ่งบอกว่าเริ่มง่วงเสียแล้ว...
"ง่วงแล้วเหรอครับ... อดทนหน่อยนะหนูลิน เดี๋ยวแม่พาหนูไปอาบน้ำแป๊บเดียวแล้วเดี๋ยวมาหม่ำๆนมนอนนะ... โอ๋ๆ... ไม่งอแงนะเด็กดี..."
"แม่~...ง่ำๆ..." หนูลินเริ่มตาปรือ...ออกเสียงเรียกคนอุ้มต่ำๆแล้วงึมงัมไม่ได้ศัพท์อยู่ในลำคอ... เด็กหนุ่มตัวบางค่อยๆประคองร่างทั้งตัวเองทั้งลูกให้ขยับไปอีกด้านของเตียง พยายามไม่หันสบตากับแววตาคมดุซึ่งมองมาที่เขากับลูกไม่กระพริบอยู่อีกฟาก... ยอมลงทุนขยับกายลำบากหน่อยก็ดีกว่าต้องไปลงเตียงด้านเดียวกับผู้ชายคนนั้นแล้วต้องเดินผ่านใกล้ๆ...
แต่พอจะก้าวขาลงจากเตียงก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้ตัวเองตัวเปล่าเปลือยล้อนจ้อน... มีเพียงผ้าห่มที่คลุมร่างเขาอยู่หมิ่นเหม่เท่านั้น หันมองหาผ้าขนหนูก็มีของหนูลินที่อยู่ในกระเป๋ากับผ้าขนหนูโรงแรมซึ่งคงวางไว้ให้แล้วในห้องน้ำ... ถ้างั้นจะทำยังไงดีล่ะ...ถ้าลุกเดินทั้งๆที่เบื้องล่างก็ยังปะ...เปื้อนอยู่...เต็มเลย... ผู้ชายคนนั้นจะ...มอง...ยังไง ไม่อยากคิดเต็มๆประโยคเลยได้แต่เหลือบตามองไปทางอีกคนที่ยกมือขึ้นกอดอกแล้วเม้มปากแน่น สักพักสองขาแกร่งก็ก้าวเดินมาทางเขาเนิบๆไม่รีบร้อน แต่ไม่รู้ทำไมน้ำฟ้าถึงมีปฏิกริยาอัตโนมัติโดยการหนีบขาตัวเองเสียแน่น... สายตาก้มลงมองต่ำจึงเห็นเพียงปลายเท้าอีกคนมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า...
"ฉันก็ไม่ได้อยากจะแกล้งอะไรหรอกนะ... แต่เห็นแก่หนูลิน... เธอ...อุ้มหนูลินดีๆล่ะ..." ทำไมท้ายประโยคถึงได้ยินเสียงทุ้มๆอยู่ใกล้ๆหูล่ะ...
"อะ...ฮะ...เฮ้ยคุณ !! จะ...จะทำ...อะไร..." น้ำฟ้าอุทานอย่างตกใจทันทีเมื่อจู่ๆท่อนแขนแกร่งก็สอดเข้าใต้เข่ากับใต้รักแร้เขา...จากนั้นทั้งร่างบางๆของน้ำฟ้าและตัวเล็กๆของหนูลินก็ถูกยกวูบขึ้นในอากาศ... พอรู้ตัวอีกทีถึงเพิ่งรู้ว่าชายหนุ่มตัวสูงตรงหน้านั่นอุ้มเขากับหนูลินเข้าวงแขนเรียบร้อยแล้ว...
"...ฉันไม่ทำเธอกับลูกตกหรอก...ไม่ต้องกลัว... เธออุ้มหนูลินดีๆแล้วกัน...ฉันจะพาไปอาบน้ำทั้งแม่ทั้งลูกนั่นแหละ..." เสียงทุ้มเอ่ยแผ่วเบา น้ำฟ้าเงยหน้ามองก็เห็นแต่คางที่มีไรหนวดจางๆ สองแขนเล็กโอบรัดหนูลินแน่นกับตัว...
"คุณ...ผม...ผมเดินไปเองได้จริงๆ...ปล่อยผมลงเดินเองเถอะ..." เพราะอุ้มหนูไวโอลินอยู่ด้วยน้ำฟ้าเลยไม่กล้าดิ้นมาก... เพียงแค่เตะขาไปมาเบาๆเพื่อประกอบกริยาจากคำพูด... แต่เพียงแค่อีกคนปรายตาคมเฉียบมองมาพร้อมบอกสั้นๆคำเดียว...
"...เงียบ..." ...น้ำฟ้าก็ต้องเงียบตามคำนั้นทันที...เพราะเริ่มจะรู้ดีจากสายตาดุๆที่มองมาว่า...ถ้าไม่ทำตาม...เขาคงโดนไม่ต่างจากเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมาแน่...
-:+:-:+:-:+:-:+:-:+:-:+:-:+:-
to be continue-->>
หายไปนาน..............มาก....
พอดีอยู่ในมรสุมชีวิตกับพายุที่ชื่อว่า 'สอบ' ...อยู่อ่ะ T^T
เดี๋ยวเย็นๆจะมาต่ออีกแน่นอนถ้าไม่่ลืม...เหอออออออออ