หกโมงเย็น... น้ำฟ้าถือโทรศัพท์ออกมายืนรอที่ชานระเบียงหน้าห้อง... ซักพักคนตัวสูงที่อยู่ในชุดเสื้อกล้ามสีดำกับกางเกงลำลอง ก็อุ้มหนูลินในชุดหมีน้อยที่น้ำลายย้อยเปื้อนของเล่นยางสีสดใสอยู่บนบ่าเดินตามออกมา... ชายหนุ่มเดินมาหยุดอยู่ข้างร่างเล็ก... แต่คนร่างเล็กที่ว่ากลับปลายมองด้วยหางตาแล้วเดินกลับไปคอยริมประตู... รังสิมันต์ก็เดินตามไปที่ริมประตู น้ำฟ้าก็เดินหนีไปที่ริมระเบียงอีกด้าน... รังสิมันต์เห็นอย่างนั้นก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วเอ่ยปาก...
"เธอจะมาโกรธอะไรฉัน...เธอต้องการหาห้องให้เจ้านายของเธอ...ฉันก็ช่วยเธอแล้วนี่ไง...ยังจะมาไม่พอใจอะไรอีก..."
"ช่วย?...ช่วยเหรอ...?" น้ำฟ้าหันหน้ามามองแล้วย้อนถาม ก่อนจะเดินเข้าใกล้ชายหนุ่มแล้วเงยหน้าจ้องตาคมตรงๆ "คุณช่วย...ด้วยการย้ายของตัวเองออกมาจากห้องนั้นแล้วเอามาไว้ห้องผม...เพื่อยกห้องของคุณให้คุณธาดาเขาเนี่ยนะ...!!" น้ำฟ้าแทบจะตะโกนใส่...แต่ติดที่เจ้าหนูตัวเล็กมักจะตกใจเสียงดังของเขาอยู่เสมอจึงต้องเบาเสียงให้ดังกว่าเสียงพูดธรรมดาเล็กน้อย...
"ก็ใช่ไง...เธอยังจะไม่พอใจอะไรอีก...เจ้านายเธอก็ได้อยู่คนเดียวสบายๆ...และปกติฉันเองก็ไม่ได้นอนที่ห้องตัวเองซักเท่าไหร่อยู่แล้ว... ขนของมาให้หมดแบบนี้มันก็ดีเหมือนกัน... ฉันจะได้ไม่ต้องไปๆมาๆระหว่างสองห้อง..."
"ใช่ !! คุณน่ะสะดวกแต่ขอโทษนะ...ไม่ทราบก่อนที่จะลงมือทำน่ะได้ถามเจ้าของห้องเขาซักคำก่อนรึยัง...!! จู่ๆก็เอาแต่ใจตัวเองใช้ลูกน้องมาขนย้ายของไว้ห้องผมแบบนี้...! พวกเขาจะคิดกันยังไง...แล้วคุณธาดาเขาจะคิดยังไงที่จู่ๆคุณรังสิมันต์ ภูบดีอัศวเมศวร์ชื่อดังคนนั้นยอมย้ายตัวเองออกจากห้องเดิมมาอยู่กับคนอย่างผมแล้วยกห้องตัวเองให้เขาแทนแบ..."
"
แล้วฉันต้องไปสนใจความคิดของคนอื่นด้วยเหรอ... มันไม่ได้มาเกี่ยวข้องอะไรกับฉันทั้งนั้น...แล้วฉันยังจะต้องไปคิดอะไรแทนมันด้วยรึไง... รึว่าที่เธอมาตีโพยตีพายใส่ฉันแบบนี้เป็นเพราะอยากอยู่กับมันมากนักเหรอ ห๊ะ... มันไปทำอีท่าไหนเอาล่ะเธอถึงได้ติดใจมันนัก... แต่อย่าหวังเลยนะว่าฉันจะย้ายของกลับไปที่เดิมแล้วให้เธอมาเสวยสุขอยู่กับไอบ้านั่นในห้องติดกับฉัน... ทำอะไรก็นึกถึงลูกซะบ้างนะ... หนูลินก็ยังเด็กขนาดนี้ยังคิดจะทำอะไรประเจิดประเจ้ออีก..."
"นี่คุณคิดบ้าอะไรของคุณนี่ย ! ผมกับคุณธาดาเราไม่ได้เป็นอะไรกันทั้งนั้น... แต่ที่ผมมาโวยวายเนี่ยเป็นเพราะคุณทำอะไรโดยไม่ปรึกษาผมซักคำ... พอมาถึงก็ย้ายของเอาๆ...ทิ้งให้ผมกับลูกยืนมองกันตาปริบๆเนี่ยนะ !! อย่ามาทำตัวเป็นคุณหนูเอาแต่ใจแถวนี้นะคุณ !..."
"ถ้าฉันจะทำแล้วมันทำไม...อยู่กับฉันแล้วมันจะตายเสียให้ได้รึไง... ทีคืนนั้นยังนอนตัวอ่อนตัวนิ่มเรียกร้องให้ฉันทำให้ไปถึงสวรรค์อยู่เลย..." ปลายเสียงคนพูดก้มลงเสีบเกือบชิดแล้วเอ่ยเสียงเบาแต่มันช่างดังลั่นกระทบใจน้ำฟ้าเหลือเกิน... "...หรือกลัวว่ามันจะรู้ว่าเราสองคนเป็นอะไรกัน..."
"แล้วเราสองคนเป็นอะไรกันล่ะ ! เราไม่ได้เป็นอะไรกันเสียหน่อยหนึ่งนี่...! แล้วคุณมาทำแบบนี้นี่ม..."
"ฮึก...แง้ๆ !!!!!!!!!!!..." ระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังโต้เถียงกันก็ไม่ทันได้สังเกตสีหน้าของหนูน้อยในอ้อมแขนคนตัวใหญ่ว่าทำหน้าเบ้มาได้ซักพักแล้ว... เพราะเด็กน้อยรับรู้ความรู้สึกได้จากคนใกล้ชิดตัวเขาว่าทั้งสองคนนี่กำลังรู้สึกไม่ดีต่อกันแถมยังรู้สึกละเลยตัวเองไป... แล้วยิ่งมาได้ยินเสียงแม่ฟ้าที่เผลอดังขึ้นไม่รู้ตัวอีกก็อ้าปากแผดเสียงร้องไห้จ้าดังลั่น... จนทั้งคนอุ้มและคนยืนใกล้ๆสะดุ้งทั้งคู่...
วินาทีนั้นน้ำฟ้าก็สอดแขนจะเอาหนูลินมาอุ้มเอง... เจ้าหนูน้อยก็ขืนตัวไว้ไม่ยอมให้อุ้ม... แต่ก็ดิ้นจะลงจากแขนรังสิมันต์ให้ได้เหมือนกัน... ทั้งสองคนทุลักทุเลทั้งกล่อมทั้งโอ๋ คนหนึ่งก็คอยประคองไว้ไม่ให้ตัวเจ้าหนูที่ดิ้นขลุกขลักลงพื้น อีกคนก็คอยลูบหน้าลูบตาและพยายามจะเอามากอด... ทำให้ภาพที่คนมองเห็นอยู่ไกลๆแอบปวดแปลบในอกเพราะมันช่างเหมือนคนทั้งสองเป็นพ่อและแม่ที่กำลังพยายามช่วยดูแลลูกน้อยอยู่อย่างไรอย่างนั้น... แต่ก็นั่นล่ะ...มันอาจจะไม่ใช่อย่างที่เขาคิดก็ได้ ผู้ชายคนนั้นอาจจะแค่มาเล่นกับหนูลินแล้วก็เป็นแค่ 'คนรู้จัก' ของน้ำฟ้าที่มาช่วยดูแลหนูลินอยู่ก็ได้...
ธาดาตัดสินใจสาวเท้าเดินเข้าไปหาคนทั้งคู่ที่ยืนยื้อแย่งตัวหนูลินอยู่บนชานบ้าน... แล้วพอเดินไปหยุดอยู่ที่ทางขึ้นบันได้ไม้เตี้ยๆสามขั้น เป็นชายหนุ่มตัวสูงในชุดเสื้อกล้ามสีดำที่หันมองมาทางเขาก่อน... ซึ่งมันทำให้เขาถึงกับยืนอึ้งเพราะไม่คาดคิดเลยแม้แต่นิดว่าจะเป็นคนคนนี้ที่จะมาอยู่กับน้ำฟ้า...เด็กหนุ่มที่เขายอมรับกับตัวเองว่าแอบรู้สึกพิเศษด้วย... รังสิมันต์ ภูบดีอัศวเมศวร์ คู่แข่งทางธุรกิจที่น่ากลัวที่สุดของเขาเอง...
และไม่รู้เขาคิดไปเองรึเปล่า ที่สายตาของชายหนุ่มตัวสูงบนชานบ้านที่ส่งมาให้เขามันดูไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย เมื่อก่อนก็เคยเจอกันตามงานมาบ้างสองสามครั้ง แต่ท่าทีระหว่างเขากับชายหนุ่มก็ไม่ได้อะไรมากมาย เจอกันก็มีทักบ้างแต่ก็ยังยิ้มตามมารยาทให้กัน... แต่ดูท่าทางคราวนี้มันผิดปกติแน่ๆ...เขาไปทำอะไรไว้รึเปล่าเนี่ย... ลองทบทวนดูก็มีแค่การฟาดฟันกันทางธุรกิจ...ที่หากจะไปขัดแข้งขัดขากันบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ทั้งสองฝ่ายต้องรับให้ได้... แต่ทำไมดูคราวนี้...
"เอ๊ะ...คุณธาดา !! มาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ !..." พูดพลางน้ำฟ้าก็หันเหความสนใจจากผู้ชายตัวสูงตรงหน้าไปที่อีกคนซึ่งยืนอยู่ในชุดเสื้อเชิ๊ตแขนสั้นกับกางเกงขายาวพร้อมเป้สะพายหลังหนึ่งใบ...ดูๆไปแล้วแทบจะนึกไม่ออกเลยว่าเขาคือคุณธาดา เจ้าของบริษัทสื่อสิ่งพิมพ์ขนาดใหญ่คนนั้น...
น้ำฟ้าทำท่าจะก้าวเท้าลงไปหาเจ้านายหนุ่ม แต่ทว่าก็ต้องชะงักกึกเมื่อข้อมือเล็กถูกคว้าจับไว้อย่างกะทันหัน แถมยังโดนดึงอย่างแรงให้เข้าใกล้ร่างคนตัวสูงที่มือหนึ่งก็อุ้มหนูน้อยไวโอลินซึ่งเริ่มเงียบไปแล้วเพราะเจอคนแปลกหน้า และอีกมือก็กำรอบข้อมือน้ำฟ้าแล้วลากเข้าใกล้ตัวเองโดยไม่สนใจอาการสะบัดและซ่อนมือที่จับไว้ด้านหลังของคนตัวเล็กเลย...
"เอ่อ...คือคุณธาดา..."
"ห้องของคุณอยู่ติดกับห้องของ 'เรา'... ผมให้ลูกน้องเคลียร์ของให้เรียบร้อยแล้ว...คุณพร้อมเข้าอยู่ได้เลย..." รังสิมันต์บอกสีหน้านิ่ง...มองคนที่อยู่ต่ำกว่าด้วยสายตาที่ธาดาก็บอกไม่ถูกว่าอะไรที่ทำให้ชายหนุ่มบนชานบ้านต้องทำท่าราวกับเขาคือศัตรูก็ไม่ปาน... หรือจะเพราะ...เด็กคนนั้นที่รังสิมันต์จับแขนไว้อยู่...
"ฟ้า...พรุ่งนี้ฟ้าว่างหรือเปล่า...ช่วยพาพี่ชมบริเวณงานหน่อยสิ...พี่จะเก็บภาพบรรยากาศภายในงานพลาง..." ธาดาตัดสินใจเลิกสนใจรังสิมันต์ แล้วก้าวเท้าขึ้นบนลานบ้านของห้องสองห้องอย่างมั่นคง...สายตาก็มองสบเด็กหนุ่มผมยาวที่พยายามดิ้นรนออกจากการขืนจับของรังสิมันต์โดยไม่สนใจสายตาของเขาว่าจะคิดยังไงที่มาเจอผู้ชายสองคนยื้อยุดฉุดแขนกันแบบนี้... เอาสิ...ถ้ารังสิมันต์จะไม่แคร์สายตาเขา... เขาก็จะไม่แคร์สิ่งที่ผู้ชายคนนี้ทำเหมือนกัน...
"อ๊ะเอ่อ... คือพรุ่งนี้ผมต้องเข้าไปช่วยพี่หมอกเขาเตรียมงานฝ่ายอาหารตั้งแต่เก้าโมงเช้าเลยครับคุณธาดา... วันนี้เพิ่งได้ของมายังไม่ครบด้วย...ยังมีพวกขนมหวานกับน้ำที่อาจต้องเตรียมตั้งแต่วันนี้... แต่ถ้าเป็นวันงานผมอาจจะไม่ยุ่งมาก...ยกยอดไปพาชมสถานที่ในวันจัดงานเลยได้มั้ยครับ..." น้ำฟ้าพูดไปก็พยายามซ่อนมือที่ถูกจับไว้ด้านหลังตัวเอง แม้จะรู้ว่ามันไม่มีประโยชน์แต่ว่าอย่างน้อยก็ไม่อยากให้เจ้านายในสายงานของตัวเองต้องเข้าใจอะไรแปลกๆ...
"อ๋อ...อืมก็ดีเหมือนกัน ไม่เป็นไรงั้นพรุ่งนี้พี่ขอตามน้องฟ้าไปช่วยเขาเตรียมงานด้วยคนได้มั้ย... ว่างๆอยู่วันหนึ่งไม่รู้จะทำอะไร..." ชายหนุ่มพูดพร้อมยิ้มให้ราวไม่ถือสาท่าทางน้ำฟ้าที่พยายามปฏิเสธ 'ความสัมพันธ์' ที่คงไม่ใช่แค่คนรู้จักกันระหว่างตัวเด็กหนุ่มกับผู้ชายตัวสูงที่จ้องเขาราวกับราชสีห์ที่จ้องมองเหยื่อ...
"ถ้าไม่รู้จะทำอะไรแล้วมาทำไม..." รังสิมันต์พูดเสียงเย็นขณะตาก็จ้องไม่กระพริบ
"ได้สิครับ...! ด้วยความยินดีเลย...ถ้างั้นพรุ่งนี้เจอกั... ...โอ๊ย ! มันเจ็บนะ..." น้ำฟ้ารีบพูดแทรกพร้อมยิ้มให้แทน แต่ปลายเสียงเด็กหนุ่มต้องร้องร้องเสียงสูงแล้วตวัดสายตาหันมองคนที่อุ้มไวโอลินด้วยสายตาเขียวปั๊ด... เพราะจู่ๆชายหนุ่มก็ออกแรงดึงแขนเขาอย่างไม่มีสาเหต...เป็นบ้าอะไรอีก !
"นี่คุณทำบ้าอะไรของคุณ !" ประโยคต่อมาก็ดังราวกระซิบให้ได้ยินกันสองคน... ธาดามองสองคนตรงหน้าด้วยแววตาสื่ออารมณ์อดกลั้นเมื่อจะทำเป็นไม่เห็นต่อไปไม่ค่อยจะไหว... ขนาดทำน้องฟ้าเจ็บเลยงั้นเหรอ... ผู้ชายคนนี้คิดจะทำอะไรกันแน่...
"คุณรังสิมันต์...คุณคิดจะทำอะไรกันแน่ !" สุดท้ายธาดาก็เอ่ยปากโพล่งออกไปแล้วยื่นแขนไปจับแขนน้ำฟ้าข้างที่ถูกฉุดเตรียมดึงออก แต่ทว่าก็มีเสียงเรียกชื่อเขาดังลั่นมาจากนอกชานบ้าน...
"คุณธาดา !! ไปทานข้าวที่บ้านใหญ่กันเถอะครับ... สาวๆที่นั่นพอรู้ว่าคุณให้เกียรติมาร่วมงานแต่งน้องสาวผมด้วยก็ดีใจกันยกใหญ่... ทำกับข้าวเต็มโต๊ะไปหมดเลย..."
เสียงสดใสที่ดังมาก่อนตัวคือหมอก ซึ่งกึ่งวิ่งกึ่งเดินมาตามชายหนุ่มเพราะคิดว่าเจ้าของสื่อสิ่งพิมพ์ยักษ์ใหญ่คงจะเก็บของเสร็จ แล้วก็คงจะหิวแล้ว... แต่พอวิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าบ้านและเห็นภาพคนสามคนที่มันดูกึ่งวุ่นวายนิดๆ และคนที่ดูจะเป็นจุดศูนย์กลาง 'ความวุ่นวาย' ที่ว่าก็รีบสะบัดมือพรึ่บออกจากการเกาะกุมของคนทั้งสอง... แล้วซ่อนมือทั้งสองข้างไปด้านหลัง...
"เอ่อ...คือหมอกจะมาตามคุณธาดาไปทานข้าวเย็นน่ะครับ... เพราะคิดว่าคุณขับรถมาคงจะยังไม่ได้ทานอะไรก็เลย..."
"ก็ดี... พี่ฝากหมอกดูแลแขกด้วยนะ... เดี๋ยวพี่กับฟ้าจะได้พาหนูลินไปอาบน้ำเสียที ถึงเวลานอนของแกแล้ว..." พูดพลางคนพูดก็เปลี่ยนที่จับจากข้อมือมาเป็นต้นแขน แล้วลากน้ำฟ้าเข้าห้องไปอย่างไม่สนมารยาทว่าจะต้องบอกลาใครอีกคนที่ยังยืนอยู่ด้วย...
หมอกยืนเอ๋อไปชั่วขณะเมื่อคิดไม่ถึงว่าคนทั้งสามจะกำลังกรุ่นๆอะไรกันซักอย่างอยู่... แต่ด้วยความที่เป็นคนร่าเริงอยู่แล้วและไม่อยากคิดมากให้บรรยากาศเสียไปมากกว่านี้ ตัวเองจึงหันไปยิ้มให้ผู้มาใหม่แล้วออกปากเชิญพร้อมถือวิสาสะลากข้อมือคนตัวสูงกว่าให้ออกเดินไปตามทางไปยังครัวบ้านใหญ่...
"คุณธาดารู้มั้ยว่าพอสาวๆในครัวเขาทราบว่าคุณจะมานะ...ไปค้นนิตยสารของคุณมากันใหญ่เลย กะจะให้คุณเซ็นต์ให้... เดี๋ยวคุณคงต้องถือช้อนข้างหนึ่ง ถือปากกาข้างหนึ่งไปด้วยแล้วล่ะ... เอ๊ะ...หรือจะให้ผมป้อนให้ก็ได้นะคุณ ถ้าไม่รังเกียจผมยินดีรับหน้าที่นี้ตัดหน้าพวกสาวๆ...ฮ่าๆ..." พูดจบก็ลงท้ายด้วยเสียงหัวเราะ... แต่คนที่ตัวเองลากแขนมาด้วยกลับละมือออกอย่างสุภาพแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า...
"คุณหมอก... คุณรังสิมันต์กับน้ำฟ้าเขา...'เกี่ยวข้อง' กันยังไงเหรอครับ..." ...ไม่อยากถามด้วยคำว่ามีความ 'สัมพันธ์' กันยังไงเลย... มันดูสนิทกันเกินไป... แม้ว่าความจริงแล้วเท่าที่เห็นอาการของสองคนนั้นมันเหมาะจะใช้คำนั้นมากกว่าก็เถอะ...
"เอ๊ะ... อ๋อ... ก็...หนูลินไงครับ... หนูลินเป็นหลานของน้ำฟ้า...แล้วก็เป็นหลานของคุณรังสิมันต์ด้วย... ผมก็เพิ่งมารู้ที่นี่เนี่ยแหละ... ฟ้าปิดไว้ตั้งนานแน่ะไม่ยอมบอกใคร..."
"...หมายความว่ายังไง... ทำไมจู่ๆ...หนูลินถึง..."
"เท่าที่ผมรู้นะรู้สึกว่า...หนูลินเขาเป็นลูกของพี่สาวน้ำฟ้า คือพี่น้ำฝน... กับน้องชายพี่ตะวัน... อืม...คนที่เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตไปตอนนั้นไงครับที่เป็นข่าวดังเลย... คุณอยู่ในวงการนี้อยู่แล้ว...น่าจะพอจำได้..."
"น้ำฝนเคยทำงานเป็นนางพยาบาลพิเศษที่บ้านผม...ผมเลยรู้จัก... ส่วนน้องชายคุณรังสิมันต์คือคนที่เสียชีวิตไป... เอ๊ะ...แต่...ผมไม่เห็นรู้เลยว่าสองคนนี้เขาแต่งงานกัน... อีกอย่างถ้ามีเรื่องอย่างนั้นจริงมันต้องเป็นข่าวแล้วสิ...แล้วนี่ทำไม..."
"โอ๊ย...ผมก็ไม่รู้ลึกขนาดนั้นหรอกครับคุณธาดา... เอาเป็นว่าตอนนี้ทั้งสองคนนั้นเขาคงตกลงเป็นผู้ปกครองหนูลินทั้งคู่ก็แล้วกัน... เพราะยังไงนั่นก็หลานแท้ๆเขาช่วยกันเลี้ยงช่วยกันดูก็ไม่เห็นแปลกนี่ครับ..."
"แต่เท่าที่ผมรู้... ฟ้าไม่เห็นเคยบอกผมมาก่อนเลยว่า..."
"เอาเถอะครับคุณธาดา... หากอยากรู้อะไรมากกว่านั้นก็ลองไปถามเจ้าตัวดูเองแล้วกัน... แต่ตอนนี้ไปกินข้าวกันก่อนเถอะ... พวกสาวๆเขาทำกับข้าวเอาใจคุณกันใหญ่... ขนาดผมกินไปแล้วนะยังน้ำลายสอรอบสองเลย... ไปกันเถอะคุณ..."
"แต่..."
"...ไปกันเถอะๆ..." แล้วคุณหมอกก็ถือวิสาสะคว้าท่อนแขนหนาแน่นๆแล้วออกแรงลากอีกรอบ... คราวนี้ทั้งดึงทั้งลากกะว่าต้องพาไปถึงให้ได้... และเหมือนคนถูกดึงก็พอรู้แนวว่าคุณหมอกคงไม่อาจพูดมากได้อีก...จึงเดินตามแต่โดยดีจนถึงบ้านใหญ่ที่ส่งกลิ่นกับข้าวหอมฉุยมาตามลมยั่วน้ำลายตั้งแต่ยังไม่ถึงตัวบ้านเลย...
-----------------------------------------------------------------------------
แฮ่ๆ วันนี้ที่รีบมาลงแต่เช้าเพราะเค้าต้องกลับม.วันนี้แล้วล่ะ...
หลังจากที่หยุดปิดเทอมแล้วต้องกลับมาช่วยงานที่บ้านหัวหมุน...ติ้ว~ ติ้ว~
...ส่วนชื่อตอนคือจะเอาออกแค่ชื่อเท่านั้นจ้าาาา ส่วนที่เหลือเหมือนเดิมคร๊าบบบบ
(ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ม๊ากมากกก ) *ซึโยชิยื่นหน้ามามองด้วยความสนใจ*
"หนูลินไปไหนเนี่ย...ฝากให้เลี้ยงให้แป๊บเดียวนี่แกพาเด็กช้านไปทิ้งแล้วเหรอ แกเอาเด็กช้านไปไว้ไหนนนน...
"
"อยู่โน่น... โ่น่นๆ ...พออุ้มเป็นเข้าหน่อยล่ะไอเต้มันอุ้มไม่ยอมวางเลย...มันบอกเหมือนกำลังอุ้มหมีแพนด้า..."
"ยังไงว่ะ
เต้มันชอบหมีแพนด้าเหรอ..."
"เหอๆ นี่อย่าบอกว่าเจ้แต่งเองแล้วก็ไม่รู้นะ... เวลาว่างๆแล้วเห็นมันกดไอแพดน่ะ... มันไม่ใช่เช็คข่าวทำงานหรอกนะ... มันกำลังดู Panda Channel !!!..."
"เอ่อะ...
"
*แล้วซึโยชิก็ย่องออกไปพร้อมเสียงหัวเราะหึหึที่ดังมากับสายลม...*
ปล. ตอนไหนที่ขึ้นเป็นเปอร์เซนต์คือจะลงแยกตอนกันนะคะ ส่วนตอนไหนไม่เป็นเปอร์เซนต์คือลงเต็มตอนจ้าาาา
ปล2. ถ้าเค้าจะเข้ามาทำความรู้จักกับเพื่อนๆนักอ่านด้วยจะเป็นไรมั้ยยยย
เขิน ฮ่าๆ ไม่คิดว่าจะมรคนมาอ่านนิยายเราด้วยยยยย
ไปละๆ
ดูแลสุขภาพกันด้วยนะทุกคนนนนน