...เพี๊ยะ... เสียงตบไม่ดังมากแต่ก็พอจะทำให้รังสิมันต์รู้สึกตัวได้ว่าตัวเองโดนเด็กตรงหน้าตบเอา... สายตาคมดุจึงตวัดมองน้ำฟ้าด้วยความโกรธ... นี่ถ้าไม่ติดว่าอีกมือหนึ่งเขาอุ้มหนูลินไว้นะ... เขาคงจะได้เผลอตอบโต้กลับไปแล้ว...
"อย่าคิดว่าคนอื่นเขาโกรธไม่เป็นสิ... คุณไปบ้าอะไรมาถึงได้มาลงที่ผมแบบนี้...! เมื่อกี๊ผมแค่ไปทำกับข้าวแล้วก็หายาให้เจ้านายของผมกิน...มันก็แค่นั้น... แล้วนี่อะไร... กลับมาคุณก็มาด่าว่าผมเสียหายต่างๆนานา... มาว่าผมมัวแต่ยุ่งกับผู้ชายจนลืมลูกบ้างล่ะ...มาตะโกนใส่ปาวๆว่าจะเอาลูกผมไปบ้างล่ะ... ถ้าคุณยังเป็นอย่างนี้อ่ะนะ... ก็เชิญออกไปจากห้องของผมได้แล้ว...! แล้วถ้าไม่ไปผมจะเรียกพนักงานมาไล่คุณออกไปเอง..."
"ก็ลองดูสิ... ระหว่างคนมาช่วยงานแต่งอย่างเธอ กับเพื่อนเจ้าบ่าวอย่างฉัน พนักงานพวกนั้นจะเลือกไล่ใครออกไปกันแน่..." รังสิมันต์พูดตอบโต้ สองตาจ้องเขม็งมองใบหน้านวลที่มองจ้องเขากลับอย่างไม่ยอมแพ้... ในใจเขาเดือดปุดๆตั้งแต่ได้ยินประโยคยืนยันที่ว่าเด็กน้ำฟ้านี่ชอบไอ้ธาดานั่นจริงๆ...ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมต้องแค่ประโยคสั้นๆแค่นั้นมันถึงมีอิทธิพลกับความรู้สึกเขาขนาดนี้นะ...!
ต่างฝ่ายต่างจ้องตากันไม่มีใครยอมใคร... จนกระทั่งจู่ๆเสียงสะอื้นฮึกฮักของเด็กทารกตัวเล็กค่อยๆดังขึ้น...
"ฮึก...ฮึก...ฮือ...ฮืออออ... แง้...................." แล้วปากเล็กๆก็ตะเบ็งเสียงร้องออกมาอย่างสุดกลั้น เด็กตัวแค่นั้นไม่เข้าใจหรอกว่าทำไมบรรยากาศมีความสุขที่เขาเคยสัมผัสเวลาอยู่ใกล้คนสองคนนี้จู่ๆมันหายไปไหน... แต่พอเขารับรู้ได้ถึงไอเย็นยะเยือกที่ต่างฝ่ายต่างสาดใส่กันไม่ยั้ง... เจ้าหนูก็ทนไม่ไหวขึ้นมาจนต้องออกมาอย่างสุดทน...
"...หนะ...หนูลิน... หนูลิน...คนเก่งไม่ร้องนะ...ไม่ร้องนะครับ...โอ๋ๆ..." ทั้งที่บรรยากาศมันยังอึมครึมอยู่แท้ๆ แต่เมื่อเจ้าตัวน้อยส่งเสียงร้องไห้ประท้วงเรียกร้องความสนใจขึ้นมา น้ำฟ้าก็เทความรู้สึกคืนไปให้ลูกทั้งหมด... และเพราะระยะใกล้แค่เอื้อมแบบนี้ก็ทำให้เขาสามารถยื่นมือไปโอบเจ้าตัวน้อยมาปลอบได้... โดยที่รังสิมันต์ก็ไม่ได้ปล่อยมือแต่อย่างใด... ชายหนุ่มเพียงเอามือประคองก้นเด็กน้อยไว้ให้เหมือนเดิม...
เด็กน้อยร้องไห้จ้าจนจมูกแดงแจ๋ มือข้างนึงพยายามกำคอปกเสื้อของรังสิมันต์ไว้แน่น ส่วนมืออีกข้างก็เกาะเกี่ยวนิ้วของแม่ฟ้าที่เอื้อมมาลูบหลังลูบไหล่ปลอบใจเขา แล้วก็แหกปากตะเบ็งเสียงต่ออย่างไม่ย่อท้อ... จนเมื่อสองผู้ใหญ่เริ่มทำอะไรไม่ถูก รังสิมันต์จึงยอมปล่อยหนูลินให้น้ำฟ้าอุ้มคนเดียวแล้วพาเดินไปเดินไปเดินมา ก่อนจะพาไปวางลงที่เตียงโดยรังสิมันต์ก็คอยเดินตามช่วยเช็ดน้ำตาตรงปลายหางตาให้... ปกติหนูลินงอแงร้องไห้อย่างนี้ก็บ่อย แต่ไม่เคยมีหยดน้ำตาไหลออกมาแบบนี้เลย... รังสิมันต์เห็นแล้วก็นึกสงสารขึ้นมาจับใจ... แต่น้ำฟ้าสิ...ที่เริ่มบ่อน้ำตาแตกตามลูกตัวน้อยไปเสียแล้ว...
"โอ๋... เดี๋ยวคุณแม่ชงนมก่อนนอนให้นะ... แต่หนูต้องหยุดร้องก่อนนะลูก..." ปลอบลูกไปพลางมือก็เช็ดน้ำตาตัวเองที่เริ่มไหลไปพลาง... โดยหันหน้าไปทางอื่นเพื่อไม่ให้มองเห็นหน้าชายหนุ่มที่ยังตามติดเขาไม่เลิก...
จากนั้นน้ำฟ้าก็ค่อยๆวางตัวหนูลินลงบนเบาะที่ปูเตรียมไว้เสร็จแล้วตรงกลางเตียง... มือข้างขวาถูกยึดจับนิ้วชี้ไว้ไม่ยอมปล่อยเขาก็เลยกำมือเล็กๆนั้นไว้แน่นเช่นกัน ส่วนมือซ้ายก็ค่อยวางแนบแก้มนุ่ม แล้วมองใบหน้ากลมป๊อกเล็กๆที่เริ่มหยุดสะอื้นแล้วจ้องเขาสลับกับชายหนุ่มที่เอาตัวเองมาอยู่อีกด้านของหนูลิน... เขาค่อยๆเงยมองคนที่เอามือตัวเองมาให้หนูลินจับไว้ด้วยอีกข้างช้าๆ... และพบว่ารังสิมันต์รอสบตาเขาอยู่ก่อนแล้ว...
"ลูกหลับแล้วเรามีเรื่องต้องคุยกัน..." ชายหนุ่มบอกเพียงแค่นั้นก็หันกลับมาลูบศีรษะเด็กน้อยเบาๆอย่างเอ็นดู... น้ำฟ้าสับสนกับท่าทีและสายตาที่มองเขาอย่างกับเขาเป็นนักโทษอะไรซักอย่าง... และตอนนี้เขาก็รู้สึกว่าไม่อยากคุยไม่อยากยุ่งกับผู้ชายคนนี้อีก เด็กหนุ่มเลยยื้อเวลากว่าหนูลินจะหลับสุดชีวิต
น้ำฟ้าเข้าครัวไปชงนม...แล้วเอามาป้อนหนูลินเอง... พอเสร็จเด็กน้อยก็ทำท่าจะผล็อยหลับไป... รังสิมันต์เลยทำท่าราวกับจะรั้งเขาไว้ให้อยู่คุยกันแต่เด็กหนุ่มก็อ้างว่าตัวเองอยากอาบน้ำก่อน... แล้วก็ขังตัวเองอยู่ในห้องน้ำนานมากจนกระทั่งรังสิมันต์ทนไม่ไหวไปเคาะประตูเรียก... แต่จะเคาะดังก็ไม่ได้อีกเพราะกลัวว่าหนูลินจะตื่น... รังสิมันต์ใช้ความอดทนอยู่นานมากจนเกือบตัดสินใจแงะประตูเข้าไปแล้ว... ถ้าน้ำฟ้าไม่รีบเปิดประตูออกมาซะก่อน...
เส้นผมยาวสลวยที่เริ่มหมาดน้ำถูกปล่อยปรกหน้าปรกตา ส่วนเรือนร่างหอมกลิ่นสบู่ก็ถูกห่ออยู่ในชุดนอนกางเกงฝ้ายขายาว พร้อมผ้าขนหนูผืนยาวที่เด็กหนุ่มเอามาห่มตัวทับอีกชั้น... ใบหน้าเนียนใสที่ตัดกับสีผมเงยมองเขา... ในความคิดเขาตอนนี้ทำไมมันถึงมีภาพลูกแมวตัวน้อยขนสีขาวสลับดำกำลังเงยหน้าขออาหารจากเจ้าของอย่างไรอย่างนั้น...
มือขาวบางเลื่อนมาดันเอวเขาออกให้พ้นทางขวางประตู ก่อนที่ตัวบางๆจะแทรกตัวออกไปยืนหน้ากระจก... จากนั้นเด็กหนุ่มก็หยิบไดร์เป่าผมมาเปิดอย่างเบาที่สุดแล้วก็ลงมือไดร์ผมให้ตัวเอง... โดยไม่สนใจคนที่เดินตามมายืนซ้อนด้านหลังเพื่อจงใจที่จะให้ภาพตัวเองปรากฎบนกระจกที่น้ำฟ้ากำลังจ้องอยู่ด้วย... รังสิมันต์พยายามที่จะสบตากับเด็กหนุ่มตัวเล็กที่เอาแต่ก้มหน้าสะบัดผมไปมาแล้วก็ไดร์ไปไดร์มาอย่างไม่ค่อยให้มันเรียบร้อยนัก... เขาเลยจงใจเข้าไปยืนเสียจนเกือบชิดด้านหลังแล้วออกปากพูดก่อน...
"หลบหน้าฉันทำไม... ไม่อยากพูดกับฉันนักเหรอ..." น้ำเสียงที่ใช้ถึงไม่เหมือนในตอนแรกแต่มันก็ดูไม่เหมือนเดิมอยู่ดี... เอ๊ะ...แล้วไอเหมือนเดิมของเขานี่มันอย่างไหนล่ะ...
"ใช่..." น้ำฟ้าก็ตอบออกไปชัดเจน... แล้วก้มหน้าไดร์ผมต่อไปไม่พูดไม่จาเพิ่มเติม...
รังสิมันต์นิ่งมอง... พยายามสงบจิตสงบใจ วันนี้เราคงต้องคุยกันให้รู้เรื่องในหลายๆอย่าง... เพราะหลังจากคืนวันแต่งงานไป...ต่างคนต่างก็ต้องแยกย้ายกันกลับ... อาจไม่มีโอกาสได้อยู่กันตามลำพังแบบนี้อีก... รังสิมันต์สูดหายใจลึกโดยไม่รู้ตัวก่อนออกปากถามบางสิ่งบางอย่างออกมาอีกครั้ง...
"...เธอชอบนายธาดาจริงเหรอ..."
พอถามจบชายหนุ่มรู้สึกตัวได้เลยว่าตัวเองกำลังกลั้นใจเพื่อรอคำตอบที่จะออกจากปากเด็กหนุ่ม... ส่วนน้ำฟ้าพอได้ฟังคำถามจบก็ปิดไดร์ฉับแล้ววางลงบนโต๊ะแบบเกือบกระแทก... จากนั้นเด็กหนุ่มก็เสยผมที่ระใบหน้าออกลวกๆ... แล้วก็จ้องตาเขาตรงๆ...ก่อนจะถามกลับว่า...
"ทำไมคุณต้องสนใจเรื่องนั้นจังเลย... ผมจะชอบใคร...หรือรักกับใครมันก็เป็นเรื่องส่วนตัวของผม..."
"...แล้วเธอชอบมันจริงหรือเปล่า... ตอบยากนักเหรอ..."
"กรุณาให้เกียรติเจ้านายของผมหน่อยนะครับคุณรังสิมันต์..."
"อย่าเปลี่ยนเรื่องสิ... เรากำลังคุยกันเรื่องเธอกับหมอนั่นอยู่นะ..."
"คุณก็อย่าเซ้าซี๊สิ... เราไม่ได้สนิทกันถึงขั้นที่ผมมีอะไรก็ต้องบอกคุณไปหมดซะทุกเรื่องหรอกนะ... อุ๊บ...!"
และโดยไม่ทันตั้งตัว... ชายหนุ่มตัวสูงก็จัดการรวบเอวบอบบางเข้ามาประกบจูบตั้งแต่พูดยังไม่ทันจบประโยคดีด้วยซ้ำ... พอมือบางเตรียมยกขึ้นกั้นก็ถูกเขารวบจับแล้วยกขึ้นเหนือศีรษะ... แล้วพอใบหน้านวลเบี่ยงหนีเขาก็ตามไปหอมในทุกๆที่ที่ปากเขาเข้าถึง... ทั้งแก้ม ทั้งจมูก ทั้งฐานคอชายหนุ่มเข้าซอกซอนราวกับคนที่พบเจอของอร่อยแล้วได้ลองลิ้มแบบไม่มีใครคอยห้ามปรามอีกต่อไป... ชายหนุ่มยอมรับว่าเขาเกือบเผลอลืมตัวไปชั่วขณะหนึ่งเลยทีเดียวเมื่อได้กลิ่นหอมหวานๆจากตัวคนที่เขากำลังกอดอยู่... แล้วยิ่งปากบางๆนั่นพยายามขัดขืนด่าทอห้ามปรามเขามากเท่าไหร่... คงเป็นอารมณ์อยากเอาชนะละมั้งที่ทำให้เขาไม่ยอมหยุดแค่จูบ... คราวนี้ชายหนุ่มยอมปล่อยให้มือสองข้างของน้ำฟ้าเป็นอิสระ... แล้วใช้มือที่ว่างของตัวเองค่อยๆสัมผัสไล้ไปทั่วร่างกายผอมบางในมือ... เขาสำรวจแผ่นหลังและราวเอว...ก่อนจะพบว่าน้ำฟ้าตัวเล็กและผอมกว่าผู้หญิงหลายๆคนที่เขาเคยกอดมาเสียอีก...
ส่วนสองมือน้อยพอเป็นอิสระก็ทั้งดึงทั้งรั้งทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะทำร้ายและหยุดคนตรงหน้าที่ตอนนี้คงเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ... เขากำลังไม่มีสติ...ก็เลยมาทำเรื่องแบบนี้กับเขาใช่ไหม... ตอนนี้ริมฝีปากอุ่นร้อนกำลังขบเม้มแรงๆอยู่ตรงฐานคอ...แล้วคงรำคาญผมของเขาชายหนุ่มจึงรวบรั้งพวงผมนุ่มทั้งหมดแล้วดึงไปไว้ข้างหนึ่ง... ซึ่งแรงดึงที่ไม่ออมแรงเลยมันทำให้เด็กหนุ่มเจ็บจนร้องออกมา...
"โอ๊ย...! ผม...เจ็บ..." และเพราะเสียงร้องที่ออกมาคั่นเสียงด่าเข้าถึงโสตรังสิมันต์ได้... ชายหนุ่มจึงหยุดการรุกรานที่ปากเพื่อหันมามองหน้าเด็กหนุ่มให้ชัด ในขณะที่มือยังคงค้างอยู่บนผิวเนื้อนุ่มมือใต้เสื้อนอนของคนตัวบาง...
"ดูสิ...เราสนิทกันขนาดนี้... ยังมีอะไรที่บอกฉันไม่ได้อีกมั้ย..."
"คุณมันบ้าไปแล้ว...! ถึงได้มาทำอะไรแบบนี้กับผู้ชายด้วยกันได้ลง...! คุณมันวิปริต ! ผิดเพศ..."
"อ้อเหรอ..." พอได้ยินดังนั้นแรงแขนมหาศาลก็ผลักดันตัวให้น้ำฟ้าหันหน้ากลับเข้าหากระจก โดยมีรังสิมันต์ยังคงกอดรัดนัวเนียไม่เลิกอยู่ด้านหลังเขา...
ในกระจกปรากฎภาพร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อสีดำร่างสูงใหญ่กำลังกอดรัดคนอีกคนที่มีผมยาวสลวยเคลียร์ลงข้างแก้ม เรือนร่างสูงใหญ่ที่ข่มอีกคนให้ดูตัวเล็กไปมาก...มากจนรังสิมันต์ก็ต้องยอมรับว่ามันเหมือนเขากำลังรังแกเด็กอยู่อย่างไรอย่างนั้นเหมือนกัน... แต่ที่เขาต้องการให้เด็กหนุ่มตัวเล็กนี่เห็นว่าถ้าคนที่ไม่รู้จักเขาสองคนเห็นจะคิดอะไร...
"ยังไงสภาพของเธอแบบนี้มันก็ไม่ต่างจากผู้หญิงของฉันนักหรอก... หรือเธอจะปฏิเสธ...หืม?" ถามจบก็ก้มลงหอมฟอดลงข้างแก้มที่มันยั่วยวนอยู่ปลายจมูกอีกที... เด็กหนุ่มหลบหน้าวูบแต่ก็ยังไม่ทันความเร็วของชายหนุ่มอยู่ดี
"ไม่จริง ! คุณคิดเองเออเองไปคนเดียว... เอะอะไม่ได้ดั่งใจก็ใช้กำลังบังคับ... ทำไมชีวิตผมต้องมายุ่งวุ่นวายกับคุณด้วยนะ...ทำไม !"
"ก็เพราะหนูลินไงล่ะ ! เพราะเรามีหนูลิน... มันเลยทำให้เธอหนีฉันไปไหนไม่พ้นไง..."
"แต่ผมก็บอกไปแล้วไงว่าไม่มีวันที่คุณจะแย่งหนูลินไปจากผมได้หรอก !"
"ฉันไม่เชื่อว่ามันจะไม่มีวันนั้นนะน้ำฟ้า ! ...ยังไงหนูลินก็เป็นหลานของฉัน... เขาเป็นทายาทของภูบดีอัศวเมศวร์... เขาก็สมควรที่จะกลับไปเติบโตที่นั่น..."
"ไม่มีวัน !! หนูลินเป็นลูกของผม...เขาไม่ใช่ของคุณ !"
"หนูลินเป็นของฉัน ! ...และฉันจะทำให้เธอเห็นว่าฉันทำให้หนูลินมาเป็น 'ลูก' ของฉันได้อย่างสมบูรณ์แบบได้แน่ๆ... แต่ก่อนอื่น... ฉันคงต้องทำให้ 'แม่' ของลูกฉันยอมสยบเสียก่อน... พยศเหลือเกินนี่...! พอเห็นฉันทำดีให้หน่อยก็จะทำเป็นมีตัวเลือกงั้นเหรอ... อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าเธอวางแผนอะไรเอาไว้... ตั้งใจจะใช้ฐานะของไอ้ธาดามาช่วยรั้งหนูลินไว้กับตัวใช่มั้ยล่ะ...เฮอะ...แผนสูงเหลือเกินนะ...ถึงกับยอมเอาตัวเข้าแลกเลยงั้นสิ..." และทันใดนั้นมือของน้ำฟ้าที่ตวัดขึ้นมาตั้งท่าจะตบรังสิมันต์อีกครั้งก็ถูกจับเอาไว้ทันที สีหน้าน้ำฟ้าดูเหมือนจะเหลือทนแล้วจริงๆ แต่รังสิมันต์ก็ไม่สนใจยังคงพูดต่อไปโดยไม่ทันได้คิดให้ดีก่อนเหมือนเดิม "...ทำไม...ทนฟังความจริงไม่ได้งั้นเหรอ ไม่คิดล่ะสิว่าฉันจะรู้ความจริงของเธอเร็วขนาดนี้...ใช่มั้ย !"
"ทำไมคุณถึงคิดได้แต่อะไรที่มันสกปรกขนาดนี้... ผมเคยคิดนะ...ว่าที่จริงแล้วคุณอาจไม่ได้เลวร้ายเหมือนอย่างตอนแรกที่เราพบกันจริงๆ... แต่ตอนนี้ผมรู้แล้ว...ว่าคุณมันคือเทพบุตรในคราบซาตาน... คุณมันเป็นปีศาจเลือดเย็นที่เข้าใจแต่ความคิดตัวเอง...เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง...คุณคิดว่าโลกทั้งโลกนี้มันหมุนอยู่รอบตัวของคุณหรือไง..." แล้วน้ำฟ้าก็ตอบกลับด้วยวาจาเผ็ดร้อนที่ไม่ต่างกัน... ดวงตาวาวสั่นระริกเพราะแรงกดจากปลายนิ้วหนาเรียวที่สอดเข้าใต้เสื้อมันโอบรั้งเอวเขาจนแน่นและเจ็บไปหมด แต่น้ำฟ้าก็ร้องไม่ออก ไม่อยากให้ผู้ชายตรงหน้าเห็นความอ่อนแอของเขาในตอนนี้...
"จะเป็นซาตาน...จะเป็นปีศาจ...ก็แล้วแต่จะพรรณนาเถอะ... แต่รู้เอาไว้นะ... ว่าอีกไม่นาน... เธอจะต้องมายอมสยบให้กับคนเลือดเย็นคนนี้... และต้องยอมมอบหนูลินให้เป็นของฉัน... ไม่ว่าจะเป็นสิทธิในการเลี้ยงดูอย่างชอบธรรม... หรือสิทธิในฐานะของ 'พ่อ' ก็ตาม...!"
"คนอย่างคุณไม่มีวันเป็นพ่อใครได้หรอก...! สิ่งที่คุณพูดออกมามันก็ลอยตามลมไปแล้ว... มันทำอะไรผมไม่ได้... และมันจะไม่มีวันเกิดขึ้นจริง...!"
"ฮึก...แว๊........แง้..........................!!!!!!" และเสียงร้องดังลั่นที่ดังมาจากเด็กตัวน้อยที่นอนดิ้นยุกยิกอยู่บนเตียงก็ทำให้สองผู้ใหญ่ที่สาดอารมณ์ใส่กันไม่เลิกต้องหยุดชะงัก... น้ำฟ้ารวบรวมแรงตอนที่ชายหนุ่มเผลอคลายอ้อมแขนสะบัดตัวหลุด ก่อนจะเบือนหน้าหนีไม่อยากเห็นใบหน้าคมนั่นอีกต่อไป... เด็กหนุ่มถลาไปหาหนูน้อยที่นอนร้องจนหน้าแดงแล้วโอบขึ้นมาเห่กล่อม... เขารู้สึกตัวอยู่ตลอดว่ารังสิมันต์ยังคงจับจ้องเขาไม่วางตา จนกระทั่งเขาเบือนหน้าแล้วหันหลังให้อีกครั้ง... เขาก็ได้ยินเสียงเปิดแล้วก็ปิดประตูตามหลังค่อนข้างแรง... และตอนนั้นเองที่น้ำฟ้าเพิ่งรู้สึกว่าเขาได้กลับมาหายใจได้ใหม่อีกครั้งหนึ่ง...
-----------------------------------------------------------------------------
แฮ่.... อัพรับปีใหม่จ้าาาา
ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันมาข้ามปีขนาดนี้...
ขอให้ผู้อ่านทุกท่านมีความสุขกายสบายใจ ทรัพย์ไหลมาเทมาราวน้ำท่วม (เหอๆ)...ตลอดทั้งปีและตลอดไปเลยนะจ๊ะ
ตอนนี้ ณ บ้านเค้าที่ภาคใต้ได้กลายเป็นผู้ประสบภัยทางน้ำจริงๆแล้วล่ะ...กรี๊ดๆ อินเทรนด์มาก ! ห้าห้า...
ทางบ้านลุกขึ้นมาทำบิ๊กแบกกันตอนตีสี่ แต่รู้ว่าน้ำมันมาตอนเที่ยงคืน-ตีหนึ่งช่วงนั้น = =
แถมมีเรื่องเล่าด้วยว่าคนที่ทำให้รู้ว่าน้ำมาตอนนั้นเพราะมีเจ้าที่แถวนั้นท่านไปบอก...โอ้ ! อย่าลืมทำบุญกันเยอะๆล่ะ !! สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงนะเออ !!
โอเชไปแล้วนะจ๊ะ
แล้วเจอกันใหม่...
ขอให้สุขภาพแข็งแรงกันถ้วนหน้า...และปราศจากน้องน้ำกันตลอดปีนะ