กลิ่นหอมๆที่ชวนน้ำลายสอรีบเร่งให้ฝีเท้าของมาคัสและรังสิมันต์สาวเท้าเร็วขึ้น... เมื่อมองเห็นกลุ่มคนจำนวนหนึ่งกำลังมะรุมมะตุ้มกันอยู่ที่ใต้ต้นลีลาวดีซึ่งแผ่กิ่งก้านสาขาเป็นวงกว้าง... และเพราะไม่ใช่ฤดูผลัดใบ ใบสีเขียวขจีพร้อมช่อดอกที่ขึ้นเป็นช่อเล็กๆก็ทำให้ใต้ต้นไม้เกิดที่ร่มเป็นบริเวณพอดีให้พอเสื้อผืนใหญ่หนึ่งผืนกางได้ ส่วนโต๊ะหินอ่อนตัวเล็กๆพร้อมเก้าอี้เข้าชุดอีกสี่ตัวนั่นก็กลายเป็นที่วางหม้อข้าว ถาดผลไม้ กระติกน้ำแข็งและอาหารเสริมเด็กอ่อน...
รังสิมันต์ค่อยๆสาวเท้าช้าๆพร้อมกับมาคัสที่ทำเป็นตีหน้าเข้มเดินตามเจ้านาย... และเมื่อเดินไปในระยะที่สามารถได้ยินเสียงพูดคุยได้... เขาก็ได้ยินเสียงหัวเราะของคุณหมอกานต์พร้อมเด็กน้อยไวโอลินก่อนเพื่อน... จากนั้นจึงค่อยได้ยินเสียงหัวเราะเล็กๆของน้ำฟ้าพร้อมรอยยิ้มที่โปรยให้ลูกน้องของเขาคนหนึ่งที่โดนฝ่าเท้าของหนูลินถีบเอาเต็มยอดหน้า...
โดยคนที่อุ้มหนูลินเป็นคุณหมอเด็ก ส่วนน้ำฟ้ากำลังช่วยลูกน้องของเขาอีกคนจัดจานข้าว... แล้วเมื่อมีคนหนึ่งหันมองเห็นเขา ลูกน้องห้าหกคนตรงนั้นก็รีบลุกขึ้นยืนตรงโดยพร้อมเพรียงกัน... ทิ้งคุณหมอกับน้ำฟ้านั่งงงกันอยู่บนเสื่อ... ชายหนุ่มเดินตรงเข้าไปพร้อมกับพยักหน้าเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า 'ทำตัวตามสบายเหมือนเดิมก็ได้' แต่กลับไม่มีใครกระดุกกระดิกตัวนอกจากยืนเรียงแถวหน้ากระดานนิ่งงัน... รังสิมันต์ถอนหายใจให้กับความเคร่งครัดของบรรดาเหล่าลูกน้องหนุ่ม แล้วเลยเดินไปนั่งแบบถือวิสาสะนั่งแทรกลงข้างน้ำฟ้า สอดมือช้อนอุ้มเจ้าหนูตัวน้อยมาจากคุณหมอณัฐกานต์ที่ยอมยกให้ทันทีทันใด... จากนั้นมาคัสก็ทำตามโดยการกระแซะเข้าไปนั่งติดกับคุณหมอบ้าง...
สองหนุ่มน้อยมองหน้ากันเมื่อโดนขั้นโดยผู้ชายสองคนตรงกลาง... แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรได้ในเมื่อถูกล้อมรอบไปด้วยคนของสองคนนี้เสียขนาดนั้น...
"จะยืนดูฉันสองคนกินจนเสร็จก็ได้นะ..." เมื่อจับเจ้าตัวน้อยทรงตัวบนสองขาตัวเองได้แล้วชายหนุ่มก็พูดเปรยขึ้นพลางเหลือบตามองลูกน้องที่ยังยืนเรียงรายอยู่ข้างเสื่อ...
บรรดาชายในชุดเสื้อเชิ๊ตพับแขนก็ต่างเหลือบตามองกันไปมา... ปกติถ้าเป็นช่วงพักผ่อนจริงๆไม่ต้องรอให้คุณรังสิมันต์มาพูดแบบนี้หรอก พวกเขาจะทำตัวกันเองทันทีแบบไม่ต้องสั่ง แต่ทว่าตอนนี้มีหนุ่มไทยสองคนนั่งตาแป๋วเป็นแขกคนสำคัญของบอสด้วย จะให้ทำตัวตามปกติเหมือนเวลามีปาร์ตี้ภายในบริษัทเลยมันก็...นะ...
แต่เมื่อชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งผมสีวอลนัทนั่งลงบนเสื่อเป็นคนแรก ชายหนุ่มคนอื่นๆก็ค่อยๆทะยอยนั่งลงตามล้อมรอบเป็นวงกลมอยู่ริมเสื่อ... พลางถกพับแขนเสื้อและพยายามทำตัวกันเองเหมือนเวลาที่ไม่มีบุคคลภายนอกอยู่ร่วมงานปาร์ตี้ภายในเล็กๆเหมือนปกติ
น้ำฟ้านั่งหน้ามุ่ยมองชายหนุ่มที่มาแย่งความสนใจจากลูกชายตัวเอง ส่วนหนูลินก็กรี๊ดกร๊าดยิ้มปากกว้างดีใจยกใหญ่เมื่อมีฝ่ามือใหญ่ๆคอยประคองให้ค่อยๆก้าวเดินด้วยสองเท้าเล็กๆแต่ยังไม่มั่นคง... กลางเสื่อมีกับข้าววางอยู่สี่ห้าอย่าง... ซักพักก็มีลูกน้องชายหนุ่มยกมาเสิร์ฟเพิ่มอีกสี่ห้าจาน...จากนั้นก็ตามด้วยโถข้าวใบใหญ่
น้ำฟ้าอาสาเป็นคนตักข้าวให้โดยมีลูกน้องชายหนุ่มคนหนึ่งคอยเป็นลูกมือหยิบจานข้าว... เมื่อน้ำฟ้าตักข้าวจานแรกเสร็จปุ๊บก็ทำท่ายื่นเข้าไปให้วงทานอาหาร โดยมีมือใหญ่ของรังสิมันต์ที่เอื้อมมาหยิบแบบไม่ได้มองเพราะตามปกติแล้วคนที่จะได้รับของก่อนในกรณีแบบนี้ก็ต้องเป็นหัวหน้าเช่นเขาแบบนี้อยู่แล้ว... ทว่า...ยื่นค้างอยู่นานก็ยังไม่ได้ข้าวเสียทีจนชักเอะใจเลยหันมองบ้าง... และก็พบว่าน้ำฟ้ากำลังยัดจานข้าวใส่มือลูกน้องชาวจีนของเขาที่ไม่กล้ารับได้แต่พยายามยัดคืนให้เหมือนเดิม...
"โธ่...รับไปสิครับ เดี๋ยวฟ้าจะได้ตักให้คนอื่นต่อ..."
"มะ...หมั่ยดั้ยครั่บ... ต่องห้ายบอสก่อนครั่บ..." ภาษาไทยแปร่งหูตอบกลับมาตะกุกตะกัก ยิ่งมีสายตาแหลมคมจ้องมองมาราวกับจะเสียบทะลุร่างเขาให้ได้ก็ยิ่งต้องรีบคืนจานข้าวกลับให้น้ำฟ้า แล้วรีบถอยห่างออกไปทันที...
"อ้าว??..." น้ำฟ้าโกรธอมลมจนแก้มป่อง...
รังสิมันต์ถอนหายใจพลางบอกลูกน้องตัวเองให้เข้ามาเอาจานข้าวไปอย่างเสียไม่ได้...
"ก็รับไปสิ...คนอื่นจะได้เริ่มทานด้วย..."
พอได้ยินชายหนุ่มกล่าวอย่างนั้นน้ำฟ้าก็เลยเปลี่ยนทิศยื่นมือที่ถือจานข้าวไปทางรังสิมันต์แทน
"เอ้า..." รังสิมันต์มองตามมือน้ำฟ้า... ในใจชักเริ่มเดือด...
"นี่จะขัดคำสั่งฉันให้ได้เลยใช่มั้ย..."
"ใช่ !"
"โกรธที่ฉันมาแย่งหนูลินไปจากเธอ...ก็เลยจะดื้อใส่งั้นสิ..."
"ถูก ! ผมจะทำให้คุณรู้...ว่าไม่ใช่ทุกคนที่คุณจะสามารถออกคำสั่งให้ทำตามที่คุณบงการได้หรอก..."
น้ำฟ้าจ้องตาชายหนุ่มอย่างไม่ยอมแพ้ มือก็ถือจานข้าวค้างไว้... ยิ่งนานรังสิมันต์ยิ่งกดสายตาให้เย็นยะเยือกมากขึ้นเพื่อเป็นการบังคับให้น้ำฟ้าทำตามสิ่งที่เขาบอกคือเอาจานข้าวยื่นกลับไปให้ลูกน้อง... แต่น้ำฟ้าก็ทำไม่รู้ไม่สนพยายามยื่นคืนให้ชายหนุ่มเหมือนเดิม...
"แว้... แอ๊ะ... เฮ่ะๆ... อ๊าย..."
"อุ่ย...หนูลิน.../ ...เฮ้ย...หนูลิน...!" และทันทีทันใดนั้น เพราะจานข้าวอยู่ในระยะที่มือสั้นป้อมที่ยืนสองขาบนตักชายหนุ่มเอื้อมถึงพอดี เด็กน้อยก็คว้าก้อนข้าวหมับเต็มสองมือแล้วโยนใส่ทั้งคนอุ้ม ทั้งคนถือจานข้าวเข้าเต็มรัก...
สองคนที่โดนก้อนข้าวอุ่นๆปาใส่ก็อุทานออกมาพร้อมกัน... น้ำฟ้ารีบวางจานข้าวแล้วเอามือมาแงะเช็ดเม็ดข้าวออกจากมือหนูน้อยก่อนสิ่งอื่น... โดยไม่สนผมเผ้าตัวเองที่เปื้อนเม็ดข้าวไปด้วย... รังสิมันต์ใช้สองมือช้อนอุ้มหนูลินให้ยืนบนตักตัวเองดีๆเพื่อที่จะให้น้ำฟ้าเช็ดทำความสะอาดเม็ดข้าวตามหน้าตามตัวได้ง่าย... แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเผลอใช้มือตัวเองไปเกลี่ยเม็ดข้าวที่ติดตามผมและใบหน้าเนียนใสให้น้ำฟ้าด้วย...
บรรดาชายหนุ่มที่นั่งอยู่รายรอบต้องพยายามเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ทำเป็นเสมองโน่นนี่นั่นกันใหญ่... ยกเว้นชายหนุ่มผมดำเหลือบทอง ซึ่งเอานิ้วสะกิดมาคัส ไบรอันแล้วถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นทันที...
"มิสเตอร์มาคัส... บอสเขา... หันไปชอบแนวนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับเนี่ย?..."
"...ถ้ายังไม่อยากถูกยิงเป้าหัวกระจุยก็หุบปากซะโดนัล..." มาคัสยิ้มใจดีตอบลูกน้องที่รีบย่นคอทำเป็นสนใจจานใส่ผลไม้ของไทยทันทีทันใดอย่างรู้ชะตา...
"ยายาย่า... เฮ่ะๆ..." พอปัดเม็ดข้าวออกให้หมดแล้วน้ำฟ้าก็ลงโทษลูกชายแสนซนของเขาด้วยการจับยืดแก้มยุ้ยจนย้วย...
"ทำไมถึงซนแบบนี้ครับ...หืม? ไปอยู่กับหมอกานต์ไม่กี่วันติดนิสัยคุณหมอเขามาแล้วเหรอ..."
"อ้าวไอนี่...อุตส่าห์เอาไปเลี้ยงให้ตั้งหลายวัน ทนหนูลินงอแงใส่ตั้งนาน ยังมีหน้ามาชมกันแบบนี้อีกเหรอ..." คุณหมอพูดไปปากก็พยายามกัดเนื้อไก่ชิ้นโตที่คุณมาคัสอุตส่าห์เอามาป้อนให้ถึงปาก...
อืม...ช่างเป็นภาพที่บรรดาลูกน้องชุดดำคันมืออยากชักโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึก แล้วอัดกรอบใหญ่ๆตั้งไว้บนโต๊ะทำงานเสียจริงๆ
เมื่อน้ำฟ้าก็ตัวสะอาด และหนูลินก็ตัวสะอาด เหลือแต่รังสิมันต์ที่ยังมีเมล็ดข้าวติดอยู่ตามปกเสื้อและตามผิวหน้าบางแห่ง... ซึ่งน้ำฟ้าก็ไม่ใช่คนใจร้ายขนาดนั้น เด็กหนุ่มจึงยื่นมือเข้าไปช่วยปัดเม็ดข้าวตรงปกเสื้อ แขนเสื้อ แล้วค่อยๆเลื่อนนิ้วไปปัดเมล็ดข้าวตรงข้างแก้มชายหนุ่มให้อย่างแผ่วเบา ตลอดเวลาน้ำฟ้าพยายามไม่เงยหน้ามองสบตาชายหนุ่ม เพราะเขารู้สึกตัวตลอดเวลาว่า... รังสิมันต์ไม่ละสายตาไปจากใบหน้าเขาเลย... พอรู้สึกอย่างนี้แล้วก็ให้เรียกเลือดฝากขึ้นมาบนใบหน้านวลได้ไม่ยาก...
และภาพนั้นมันก็ดูน่ารักและสวยหวานเหลือเกินในสายตาของชายหนุ่ม... เมื่อยิ่งประกอบกับกลิ่นหอมหวานๆกับปลายนิ้วนุ่มๆที่ลูบไล้ไปตามใบหน้าของเขา... มันก็เลยเผลอทำให้ฝ่ามือใหญ่เลื่อนไปจับมือบางเอาไว้เมื่อมันพยายามจะผละออกจากใบหน้าของเขา...
"เอ๊ะ..." น้ำฟ้าตกใจจึงกระตุกมือตัวเองออกจากการกุมของมือใหญ่... แต่มันก็ไม่หลุดเมื่อชายหนุ่มออกแรงขืนไว้เพียงนิดเพราะไม่อยากปล่อยมือน้อยนั้นไป... ดวงตากลมโตเงยมองสบกับสายตาคมอย่างไม่เข้าใจเหตุผลของการกระทำแบบนี้...
และสายตาที่มองสบกลับมานั้นก็ทำให้เขาแปลกใจไม่น้อยเมื่อมันช่างดู... อ่อนโยน
...สายตาคมแสดงเปิดเผยถึงความจริงจัง... จริงใจ... แบบที่น้ำฟ้าไม่เคยเห็นมาก่อน...
น้ำฟ้าเผลอตัวหยุดนิ่งจ้องมองสายตาที่กำลังส่งความรู้สึกบางอย่างมาให้เขารับรู้ เผลอลืมไปชั่วขณะว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน และอยู่กับใครบ้าง... มันเหมือนรอบข้างนิ่งเงียบสนิท ...เหมือนโลกนี้มันหยุดหมุน แต่มีแค่ลมหายใจของเขาสองคนเท่านั้นที่ยังได้ยินแผ่วเบาอยู่ในสายลมที่พัดโอบอยู่รอบตัว...
"ฟ้า...คือ..." เสียงทุ้มๆหลุดเรียกชื่อคนตรงออกมาทั้งๆที่ก็ยังนึกไม่ออกว่าจะพูดอะไรต่อไป... ดวงตากลมโตสบนิ่งราวกับรอคอยที่จะฟังคำพูดจากปากของเขา...
แล้ว...แล้วเขาจะพูดอะไร
...เขากำลังจะบอกอะไรออกไป...
เขาตั้งใจจะบอกอะไรน้ำฟ้าในตอนนี้กันแน่...
"แอ๊~... ม๊า~มี๊~... เฮ่ะๆ..." เสียงร้องครางราวลูกแมวเหมียวก็ดังแว่วเข้าในโสตประสาท พร้อมการรับรู้ว่ามีก้อนกลมๆนิ่มๆกำลังพยายามตะกายปีนป่ายตัวเขา... พร้อมทั้งดึงปอยผมสวยจนกิ๊บหลุดลงเคลียร์สองข้างแก้ม... เด็กหนุ่มกระพริบตาปริบเพิ่งรู้ตัวหลุดออกจาภวังก์ที่สร้างขึ้นกับชายหนุ่มตรงหน้าแค่สองคน... สองมือสอดเข้าใต้รักแร้ร่างนุ่มนิ่มตามความเคยชินเมื่อรู้ตัวแล้วว่าหนูลินปีนหนีจากร่างสูงมากองแหมะอยู่บนตักเขาแทน...
รังสิมันต์เสมองรอบข้างพร้อมทั้งเอามือสางผมเพื่อต้องการปกปิดอารมณ์ชั่ววูบที่เผลอไผลไปเมื่อครู่... แล้วก็พบว่าตัวเขาถูกสายตาของบรรดาลูกน้องจ้องจับราวกล้องวงจรปิดเลยทีเดียว แล้วเมื่อโดนเขาจ้องดวงสายตาดุๆกลับไปต่างคนต่างก็รีบเปลี่ยนอากัปกริยาเป็นสนใจจานผลไม้บ้าง... ชี้ชวนกันดูนกดูไม้ราวกับมาปิกนิกฮันนีมูนกันก็ไม่ปาน...
...ไอพวกนี้ ให้มาดูแลรักษาความปลอดภัย... ไม่ใช่ให้มาจ้องเขาแสดงโชว์สัตว์ประหลาดเสียหน่อย... เดี๋ยวเหอะ ! จะตัดเงินเดือนเสียให้เข็ด...!!
โดยเฉพาะแก... มาคัส... โทรศัพท์เมื่อกี๊แกเอาออกมาถ่ายวีดีโอไว้ใช่มั้ย...!
กำลังทำท่าจะลุกไปจัดการกับมาคัส... ปลายสายตาก็เหลือบเห็นเตโชวิ่งกระหืดกระหอบมาแต่ไกล... สีหน้าท่าทางเคร่งเครียดมาก... รังสิมันต์จึงเปลี่ยนทิศทางเท้าหันไปหาลูกน้องหนุ่มตัวสูงโปร่งคนนั้นแทน...
"บอสครับ...! หัวขุดเจาะน้ำมันของคุณไฟซาลเกิดระเบิดขึ้นเมื่อกี๊... ทางนั้นเพิ่งส่งข่าวมาครับ...""ว่าไงนะ... แล้วหมอนั่นเป็นยังไงบ้าง..." "คุณไฟซาลอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย แต่ทางนั้นบอกว่าปลอดภัยครับ...""แล้วมันเกิดระเบิดขึ้นได้ยังไง... ใครเป็นคนทำ...พวกกบฎหรือฝ่ายรัฐบาล..." "ยังไม่ทราบแน่ชัดครับบอส... บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุธรรมดาก็ได้ เพราะตอนที่มันระเบิด มีการเข้าไปติดตั้งระบบสูบน้ำมันตัวใหม่อยู่พอดี...มันอาจเกิดความผิดพลาดจนทำให้เกิดระเบิดขึ้นก็ได้...""...ต่อสายให้ฉันที... เดี๋ยวนี้เลย..." ทั้งสองสนทนากันเป็นภาษาอังกฤษตามความเคยชินเดิมเวลาต้องพูดรายงานเรื่องการงาน
รังสิมันต์มีสีหน้าเครียดขึ้งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ร่างสูงรีบลุกขึ้นไม่สนใจปัดเศษข้าวที่เหลือออกอีก แล้วบ่ายหน้าเดินกลับเข้าไปในตัวบ้านทันที... โดยมีเตโชที่รีบหยิบโทรศัพท์ออกมาต่อสายตามคำสั่งแล้วเดินตามไปอย่างรวดเร็วพอกัน...
มาคัสหยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดมืออย่างรวดเร็ว ก่อนจะหันมาออกคำสั่งกับบรรดาลูกน้องที่พร้อมพรึบจะเดินตามบอสเข้าบ้านไปด้วยเสียงเฉียบขาดว่า...
"พวกนายอยู่ดูแลคุณหนู คุณหมอแล้วก็คุณฟ้าที่นี่... ไม่ต้องตามไป..." ฝรั่งตัวโตพูดจบก็ลุกขึ้นหยิบสมอลทอร์กใส่หูเตรียมพร้อมทำงานทันที... ทิ้งบรรดาเหล่าลูกน้องให้นั่งทำสีหน้าไม่แน่ใจ เพราะปกติเมื่อเวลาบอสเกิดเรื่องแบบนี้พวกเขาจะต้องเตรียมพร้อมทำงานรอรับคำสั่งจากบอสอยู่ใกล้ๆเสมอ... แต่นี่กลับโดนสั่งให้นั่งปิกนิกทานข้าวต่อเนี่ยนะ...
บรรดาชายหนุ่มที่ต้องจำใจกลับมานั่งล้อมวงทานข้าวตามคำสั่งมีอาการกระวนกระวายอย่างเห็นได้ชัด... น้ำฟ้าที่มองเหตุการณ์อยู่ตลอดแต่ไม่ได้รับการอธิบายใดๆเลยจึงหันไปถามกับชายหนุ่มเชื้อสายเอเชียที่นั่งอยู่ข้างเขาโดยใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อกลาง เมื่อรู้แล้วว่าบรรดาลูกน้องชายหนุ่มเหล่านี้เป็นการรวมเชื้อสายแบบนานาชาติจริงๆ มีแทบจะทุกทวีปในโลกเลยก็ว่าได้... และก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถสื่อสารเป็นภาษาไทยได้ดีเหมือนมาคัสด้วย...
หนุ่มชาวเอเชียคนนั้นมีสีหน้าปุเหลี่ยนเล็กน้อยเมื่อโดนเขาถามว่าเกิดอะไรขึ้น เขาส่งสายตาถามเพื่อนๆรอบวง... ก่อนจะหันมาตอบน้ำฟ้าด้วยภาษาอังกฤษแบบชัดเจนว่า...
"...ผมคิดว่า บริษัทน้ำมันของเพื่อนบอสอาจมีปัญหา แต่ไม่ทราบว่ามันหนักหนามากน้อยแค่ไหนน่ะครับ..." "เอ๊ะ...แล้ว...ถ้าอย่างนั้น...พวกคุณก็ต้องรีบเข้าไปช่วยงานคุณรังสิมันต์สิ..." น้ำฟ้ามีสีหน้าตระหนกระหว่างถามต่อ
"พวกผมเข้าไปช่วยไม่ได้...จนกว่าบอสจะมีคำสั่งเรียกตัวออกมา..." คนที่หันมาตอบน้ำฟ้าเป็นลูกน้องคนที่นั่งถัดไป เขามีผมสีมะฮอกกานีกับดวงตาสีน้ำตาลอ่อน... บ่งบอกชัดเจนถึงสายเลือดว่าไม่ใช่คนเอเชียแน่นอน...
"ถ้างั้นตอนนี้...เรา..." "...ฉันว่าตอนนี้เรารีบทานข้าวแล้วเอาของไปเก็บในบ้านกันดีกว่า... แดดเริ่มแรงแล้วเดี๋ยวหนูลินจะไม่สบายเอา..." คุณหมอกานต์ที่นั่งฟังมาตลอดก็ถือโอกาสพูดแทรกขึ้นมาเมื่อเห็นแล้วว่าในเวลานี้ไม่ว่าจะทั้งเหล่าบรรดาลูกน้อง...หรือเพื่อนรักของเขา... ก็ต่างเอาความคิดไปจดจ่ออยู่แต่กับคุณรังสิมันต์ ผู้ที่เดินหายเข้าไปในบ้านพร้อมความกังวลของคนพวกนี้เรียบร้อยแล้ว...
น้ำฟ้าหันมองเพื่อนที่หยิบยกจานข้าวขึ้นมาถือแล้วทำท่าจะตัดเนื้อไก่ทอดชิ้นต่อไปมารับประทาน... แล้วพยักหน้าให้ โดยไม่รู้ตัวว่าตลอดเวลาที่เขาป้อนข้าวหนูลินแล้วก็ทานเองไปด้วย คิ้วสวยๆขมวดผูกโบว์และคอยแต่จะมองเข้าไปในบ้านอยู่ตลอด... โดยในใจแอบหวังอยู่ลึกๆว่าคงไม่มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นหรอกนะ...
จะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่านะ... แล้วนี่...ชายหนุ่มจะกลับออกมาทานด้วยกันอีกมั้ย...
ทานไปสายตาก็คอยแต่จะมองไปตรงประตูบ้าน... จนคุณหมอกานต์ที่นั่งทานอยู่ใกล้ๆสังเกตเห็นจนขี้เกียจออกปากเอ่ยแล้วได้แต่ถอนหายใจ... แบบนี้ไม่ต้องออกปากถามเจ้าตัวตรงๆก็ค่อนข้างมั่นใจได้เกือบร้อยเปอร์เซนต์แล้วว่า... เจ้าเพื่อนรักของเขาคงเกิดอาการโลกสีชมพูกับคุณลุงหนูลินเสียแล้วละมั้ง... เฮ้อ...แล้วจะทำยังไงล่ะทีนี้...หวังว่าเรื่องมันคงไม่วุ่นวายมากไปกว่านี้หรอกนะ... แล้วดูสินั่น... ป้อนหนูลินตรงปากเสียที่ไหน... เฮ้อ...สติสตังหายเข้าบ้านไปหมดแล้ว...
"แก...นี่...เหลือไว้หน่อยมั้ย...เผื่อ...เขา...จะออกมาทาน..." น้ำฟ้าถามเพื่อน... แต่คุณหมอกลับยักไหล่ตอบแล้วบอก...
"ท่าทางคงจะอีกนานแหละแก... ถ้าเขาหิวเดี๋ยวลูกน้องก็คงจะจัดการหาอะไรให้ทานเองแหละน่า..." คุณหมอตอบแบบไม่ค่อยสนใจอะไรเท่าไหร่ ก่อนจะหันไปทานต่ออย่างเมามัน...
ส่วนน้ำฟ้าเผลอตัวถอนใจออกมายาวเหยียด และยังคอยเฝ้ามองไปตรงประตูบ้านอยู่แทบจะตลอดเวลา
แต่จนกระทั่งเขาเก็บแก้วใบสุดท้ายออกมาแล้ว...รังสิมันต์ก็ยังไม่ออกมาเสียที...
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
= =" กว่าจะได้อัพเนอะเป็นเดือนเลยทีเดียวที่หายไป... เหอะๆ ขอโทษคร้าบบบบบบ บอกไว้ว่าจะมาอัพแต่ก็ยังไม่ได้อัพเสียที...!!!
อาทิตย์หน้าเป็นสอบไฟนอลของเค้าล่ะ... แต่...ช่างมัน...ฮิ้วววววว~ ไม่ใช่วิชาเอก...เราไม่สนจาย....(เลวมาก...=*=)
เอาเป็นว่าช่วงนี้เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวฝนตก...ก็ดูแลสุขภาพกันมากๆด้วยนะ ไปแล้วๆ >_<