คุณศิลาส่ายหัวเบาๆก่อนเร่งให้รังสิมันต์ยื่นมือให้น้ำฟ้าใส่แหวนให้บ้าง... น้ำฟ้ามือเย็นเฉียบระหว่างที่ค่อยๆบรรจงสวมแหวนให้ผู้ชายร่างสูงอีกคน... เด็กหนุ่มรู้ตัวเลยว่าหน้าร้อนจัด ทั้งชีวิตไม่เคยคิดเตรียมใจมาก่อนว่าซักวันหนึ่งจะต้องมาสวมแหวนให้ผู้ชายด้วยกันต่อหน้าคนรู้มากมายขนาดนี้... แต่เพราะคนตรงหน้าคือคนที่เขาตั้งใจไว้แล้วว่าจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ดูแลกันไปตลอดชีวิต พอคิดได้แบบนี้แล้วความเขินก็เหมือนจะลดลงไปนิดหน่อย... จนในที่สุดเขาก็สามารถสวมแหวนเข้าไปให้นิ้วที่ใหญ่กว่าของตัวเองซักเท่าหนึ่งเห็นจะได้จนสำเร็จ...
และโดยไม่ทันตั้งตัว ฝ่ามือใหญ่ข้างที่เขาเพิ่งสวมแหวนให้ก็กลับมารวบจับมือเขาไปทั้งสองมือ เพื่อยกขึ้นประทับรอยจูบซ้ำลงที่เดิมอีกที คนถูกจูบหน้าร้อนไปหมดก่อนยกมือตีเพี๊ยะไปบนตักคนไม่มียางอายไปที แต่คนจูบกลับหน้านิ่งยักคิ้วใส่มารดาที่ออกอาการไม่พอใจแต่ทำอะไรไม่ได้ เลยต้องบอกให้สาวใช้ใกล้ๆเร่งพัดลมใส่ใบหน้าให้เร็วขึ้นอีกเพื่อดับอารมณ์...
“เอาล่ะๆ ลูกสองคนก็แลกแหวนเสร็จเรียบร้อย... ทีนี้ถึงตาหลานปู่บ้างแล้ว... ไหนๆปู่ก็ยังไม่เคยได้รับขวัญไวโอลินเป็นจริงเป็นจังนะ... เพราะฉะนั้นถือฤกษ์ดีของพ่อกับแม่วันนี้... ใส่ของมงคลเป็นโซ่ทองคล้องใจพ่อกับแม่เขาเสียเลยก็แล้วกัน” พูดแล้วคุณศิลาก็หยิบแหวนวงซ้ายหนึ่งในสองวงที่เหลือออกมาจากกล่อง แล้วรับสร้อยทองเส้นเล็กๆจากคุณหญิงดารกานต์ที่รู้ใจยื่นให้ทันที... “น้ำฟ้าพาหลานมาใกล้ๆพ่อที...”
คุณศิลาเอ่ยบอกน้ำฟ้าให้รับตัวหนูลินมาจากคุณหมอณัฐกานต์แล้วพาเข้ามาใกล้ รังสิมันต์ขยับตัวเข้าไปช่วยน้ำฟ้าประคองตัวนุ่มนิ่มของหนูลินอีกคน...
“นี่เป็นแหวนของพ่อเขา... แหวนที่พ่อตั้งใจทำไว้ให้รวี... แต่สุดท้ายพ่อก็ไม่มีโอกาสได้ให้ เพราะฉะนั้นก็ยกให้หนูลินไว้ดูเป็นของต่างหน้าพ่อแทนแล้วกัน รวีน่ะราศีกรกฎ ส่วนหนูลินของปู่นี่ราศรีพฤษภ เขาว่าใส่สีเขียวแล้วจะดีทั้งคู่... พ่อเลยให้ล้อมด้วยเพอริดอต เขาเชื่อกันว่าเพอริดอตหรือเขียวส่องนี่ จะช่วยฟื้นฟูความสัมพันธ์ที่ร้าวฉานให้ดีขึ้น ช่วยปลดปล่อยความโกรธแค้น อิจฉาริษยา และจะช่วยปกป้องคุ้มครองภัยให้แก่เจ้าของยามนอนหลับ ไม่ให้ฝันร้ายอีกด้วย... ไวโอลินยังใส่ไม่ได้พ่อเลยจะร้อยใส่สร้อยให้หลานห้อยคอไว้... อย่าซนจนดึงหลุดนะหลานปู่...” คนกลายเป็นปู่ยิ้มอารมณ์ดีก่อนเอ่ยอวยชัยให้พรไปอีกหลายคำแล้วค่อยๆสวมสร้อยไว้ที่คอให้เจ้าตัวเล็ก หนูลินครางฮือเมื่อมีของไม่คุ้นชินเข้ามาอยูบนร่างกาย... แต่ก็ไม่ได้ร้องไห้งอแง เพียงแต่ส่งเสียงครางอืออาแล้วพยายามจะหยิบตัวแหวนเข้าปากมาให้ได้...
รังสิมันต์จูบกระหม่อมลูกชายไปที แล้วก็ตามด้วยน้ำฟ้าที่ก้มหอมแก้มตามไปอีกที... หนูลินกรี๊ดวี๊ดว้ายเขินยกใหญ่... นิ้มอวดไรฟันหน้าสองซี่ที่กำลังงอกขึ้นมาให้ทุกคนดู... ก่อนจะก้มหลบเข้าอกคุณแม่ด้วยทีท่าที่ดูว่าเจ้าตัวเล็กคงจะเขินเอาจริงๆ
บรรยากาศงานวิวาห์วันสุขจึงเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะครื้นเครงจากคนหลายวัย... น้ำทีมโดยเจ้าตัวน้อยพุงกลมที่นับวันก็ยิ่งเติบโตขึ้นมาอย่างแข็งแรง ฉายแววเป็นเด็กสดใสและอยากรู้อยากซนให้ได้เห็นกันตั้งแต่เด็ก จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ใครๆก็ดูจะหลงรักเด็กน้อยตัวอ้วนกลมคนนี้กันหมดทั้งบ้าน...
-------------------------------------------------------------------------
“ฟ้า... เมื่อกี๊มาคัสมาบอกว่า... จะขอลาพักร้อนไปบ้านพ่อตาแม่ยายซักอาทิตย์...”
“...หมอกานต์จะพาฝรั่งขึ้นดอยจริงๆเหรอเนี่ย...” น้ำฟ้าพึมพำเบาๆหลังจากได้ยินรังสิมันต์เอ่ยบอก มือบางขยับนวดขมับให้ผู้ชายร่างสูงที่นั่งชันเข่าอยู่บนพื้นแล้วเอนหัวพิงขาให้เขานวดสบายใจ... น้ำฟ้าต้องนั่งบนเตียงเพราะความสูงของช่วงตัวที่ค่อนข้างต่างกันมากอยู่... มือใหญ่เอื้อมหลังมาโอบเอวเขาไว้พลางไซร้ศีรษะไปมายามหามุมที่สบายให้เขานวดไหล่นวดคอให้ต่อ
เขาสองคนเพิ่งผ่านพิธีการ ‘เข้าหอ’ ตามประเพณีมาเมื่อครู่สดๆร้อนๆ แม้ไม่ได้มีการโปรยกลีบกุหลาบหวานหยดหรือตกแต่งเตียงให้อลังการอะไร แต่เพียงแค่ได้รับพรจากพ่อกับแม่ และนอนคู่กันบนเตียงให้ครบตามประเพณีแค่นั้นก็เพียงพอแล้วสำหรับพวกเขาสองคน...
“ว่าอะไรนะ... ใครจะขึ้นดอย... ฟ้าอยากไปฮันนีมูนบนดอยเหรอ...” รังสิมันต์เอ่ยย้อนถามเมื่อได้ยินน้ำฟ้าพูดไม่ถนัด... ฝ่ายเด็กหนุ่มที่กำลังนวดมาถึงใบหูพอดีก็ถือโอกาสดึงลงแรงๆซักทีด้วยความหมั่นเขี้ยวก่อนตอบ...
“มีแฟนบ้างานอย่างคุณ... ฟ้าคงจะมีช่วงเวลาฉันนีมูนเหมือนกับคนอื่นเขาหรอกนะ...” เด็กหนุ่มย่นจมูกพลางตอบ “ฟ้าหมายถึงคุณมาคัสต่างหาก... เขารู้รึเปล่าว่าบ้านหมอกานต์น่ะอยู่บนดอยอ่างขาง... ครั้งล่าสุดที่ผมไปถนนยังตัดเข้าไม่ถึงเลยนะ... แล้วฝรั่งหรูหราอย่างลูกน้องคุณเขาจะไปไหวเหรอ” เด็กหนุ่มถามต่อด้วยความเป็นห่วงฝรั่งตัวโตคนนั้นจริงๆ
รังสิมันต์พลิกร่างหันเข้าหาน้ำฟ้าแล้วดึงร่างอีกคนให้ลงมานั่งตักที่พื้นด้วยกัน แล้วอ้อมมือสวมกอดเอวไว้หลวมๆ
“อืม... ไม่รู้สิ คงไหวมั้ง... แต่พี่ได้ยินว่าไม่ได้ไปกันแค่สองคนนี่ คุณธาดากับคุณหมอกเขาก็ไปด้วยนะ บอกว่าจะไปเก็บภาพบรรยากาศบนดอยมาลงคอลัมน์ท่องเที่ยวน่ะ...”
“โห...ได้ยินอย่างนี้แล้วอยากจะไปขึ้นมาบ้างจัง... ครั้งที่แล้วไปวังน้ำเขียวยังไม่ได้เที่ยวไหนเลย... มัวแต่ไปทะเลาะกับคนบ้ากาม แล้วก็โดนกักขังหน่วงเหนี่ยวจนไม่ได้ชมธรรมชาติอะไรเลย... น่าเสียดายจะตายไป...” กระทบแล้วแอบกระเซ้าเสร็จก็แลบลิ้นใส่คนบ้ากามที่ว่าไปเสียที ผลก็คือเด็กหนุ่มต้องโดนอีกคนทำโทษด้วยปากโทษฐานเอาวัตถุไม่ต้องประสงค์มาชี้หน้าใส่...
“ถ้าเสียดายขนาดนั้นเดี๋ยวพี่เคลียร์งานให้ว่างแล้วขับรถพาไปเที่ยวทั้งครอบครัวชดเชยให้เอามั้ยล่ะ... กลับไปย้อนรำลึกความหลังครั้งวันวานกันที่บ้านพักกลางป่า...ดีรึเปล่า...” ชายหนุ่มยิ้มกลุ้มกริ่มใส่คนตัวบาง มือที่สอดกอดเอวไว้ด้านหลังก็เริ่มลูบเป็นวงไปมาไม่ได้หยุด เลยโดนคนกำลังจะเสียเปรียบด่าว่าไปบ้าไปคำหนึ่ง... แต่ดูเหมือนรังสิมันต์จะไม่เข็ด ยังคงพยายามหยอดคำหวานใส่น้ำฟ้าต่อไป “...บ้าอะไร... ครั้งที่แล้วเธอไม่สบาย ฉันเลยออมมือให้ ยังกินไม่อิ่มเลยนะ...” ไม่พูดเปล่ายังอุตส่าห์ก้มไปดอมดมผิวแก้มเนียนระเรื่ออมส้มของอีกคนให้เห็นชัดๆอีก ว่าเขากำลังมีอาการหิวกำเริบ อยากกินขนมหวานตัวแดงในอ้อมกอดจริงๆนะ...
“บ้า ! ...ขนาดออมมือให้ฟ้ายังไข้ขึ้นไปหลายวัน แล้วนี่ถ้าไม่ออมมือพรุ่งนี้เช้าฟ้าคงเละเป็นโจ๊กแน่... ไม่เอาแล้ว...ฟ้าไปนอนกับแม่แล้วก็หนูลินดีกว่า... อยู่ตรงนี้มีแต่จะเสียเปรียบคนเจ้าเล่ห์” ย่นจมูกน่ารักใส่ไปทีแล้วก็ลุกขึ้นยืนพรึ่บ หันหลังเตรียมจะเดินออกไปจริงๆแต่ไม่รู้อีกคนลุกตามขึ้นมาตอนไหน ท่อนแขนใหญ่ถึงได้ตวัดเข้าราวเอวแล้วอุ้มเขาขึ้นวงแขนมาได้อย่างง่ายดาย... แล้วพาเดินกลับมาที่เตียงนอน...
“ไม่ได้ยินที่พ่อบอกรึไง... คืนแรกของการแต่งงาน เขาห้ามคู่บ่าวสาวออกจากห้องหอเด็ดขาดจนกว่าจะเช้า ไม่งั้นชีวิตคู่จะอยู่กันไม่ยืดนะ จำไม่ได้เหรอ... เอาล่ะ... ว่าแล้วก็เข้าหอกันจริงๆจังๆเสียทีดีกว่า... ตามเสต็ปแล้ว เจ้าบ่าวต้องอุ้มเจ้าสาวไว้แบบนี้แล้วก็จับโยนลงบนเตียง จัดการขึงพืด เสร็จแล้วก็...ปล้ำ...”
“ไม่...ไม่เอานะ...ฟ้ากลัวนะพี่ตะวัน...! พี่ตะวันปล่อยเลย...ฟ้าไม่เอาจริงๆนะ...” เด็กหนุ่มดิ้นถีบขาหนีเป็นพัลวันเมื่อเริ่มรู้สึกตัวว่ากำลังจะเริ่มเสต็ปแรกด้วยการถูกจับโยนลงบนเตียง...
แต่ทว่าดิ้นไปครู่ใหญ่สิ่งที่สัมผัสได้ก็มีเพียงการวางร่างเขาลงบนเตียงอย่างนุ่มนวล ก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะตามลงมานอนเคียงกัน ไม่มีการขึงพืดอย่างที่กลัว และไม่มีท่าทีว่าจะเกิดการปล้ำเป็นสเต็ปสุดท้ายแต่อย่างใด...
“พี่ไม่ใช่สามีที่ชอบปล้ำภรรยาตัวเองหรอกนะ... ถ้าเขาสมยอม... แต่ถ้าไม่สมยอมแบบนี้ล่ะก็...” ชายหนุ่มลากปลายเสียงยาวๆให้อีกคนใจสั่นเล่น ก่อนจะโฉบริมฝีปากใส่ข้างแก้มจนน้ำฟ้าหลับตาปี๋หันหนีทันที แต่เขาก็โดนเพียงรอยจุมพิตแผ่วเบาที่ข้างแก้มเท่านั้น... จากนั้นจึงได้ยินเสียงหัวเราะแผ่วเบาแว่วมาจากเจ้าบ่าวป้ายแดงของตัวเอง...
“ฟ้าไม่ขำนะพี่ตะวัน... ฟ้ากลัวจริงๆนะ พี่ตะวันตอนนั้นน่ะน่ากลัวมากเลย... ฟ้าพูดอะไรไปพี่ก็ไม่ฟังซักนิด... ฟ้าก็เลย...กลัว...” เด็กหนุ่มสารภาพเสียงอ่อย ตั้งใจว่าคืนนี้จะยอมพูดทุกอย่างที่อยากพูดให้อีกคนได้รับรู้
“ฟ้าจะไม่มีวันได้เจอนายรังสิมันต์คนนั้นอีกแล้ว... ฟ้าจะได้เจอก็แค่...พี่ตะวัน...ที่รักฟ้า และจะทะนุถนอมฟ้า...ไปตลอดชีวิต...”
น้ำฟ้าพูดอะไรไม่ออกเมื่อเจอคำพูดคล้ายคำมั่นสัญญานั่น ไหนๆเขาก็ยอมฝากชีวิตที่เหลือไว้ในมืออีกคนเรียบร้อยแล้ว... ก็คงจะไม่ผิดอะไรที่เขาก็คงจะต้องยอมเปิดใจตามใจพี่เขาบ้าง
ปลายนิ้วเรียวยาวยกขึ้นลูบไปตามไรเครา แล้วเลยไปที่บริเวณแผงอกแกร่งใต้ชุดคลุมอาบน้ำ ไรขนอุยอ่อนๆตรงหน้าอกเผยความเซ็กซี่ของลูกผู้ชายออกมาอย่างชัดเจน... อาฟเตอร์เชฟกลิ่นเดียวกันแท้ๆ แต่ทำไมกลิ่นของอีกคนถึงได้รู้สึกว่ามันช่างเย้ายวนต่างจากของเขาแบบนี้นะ... พอลูบตรงแผงอกเล่นจนพอใจแล้วเจ้าฟ้าก็เงยหน้าขึ้นยิ้มใส่นัยน์ตาคนที่พลิกมานอนคว่ำคล่อมเขาอยู่ด้านบนแล้วเอ่ยถาม...
“พี่ตะวัน... ทำไมกล้ามเนื้อของพี่ตะวันถึงได้ต่างกับของฟ้าล่ะ ทั้งๆที่ฟ้าก็ยกของหนักอย่างหนูลินทุกวันนะ แต่ไม่เห็นมีกล้ามขึ้นอย่างพี่เลย...”
“โธ่ที่รัก...พี่ไม่ชอบแฟนก้ามปูเหมือนกันหรอกนะ... ฟ้าตัวบาง นุ่มนิ่มน่ากอดน่ารัดไปทั้งตัวแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว...” ชายหนุ่มเอ่ยบอกเอาใจ เขาหายใจเข้าออกยาวๆเพื่อข่มกลั้นอารมณ์พลุ้งพล่านที่เกิดจากการยั่วยวนแบบไม่รู้ตัวของอีกคนอย่างสุดชีวิต เขาพยายามกลั้นหายใจอดทนรอให้อีกฝ่ายได้สมรวจร่างกายเขาเล่นอย่างสบายใจก่อน... หลังจากนั้นถึงจะเป็นทีของเขาที่ได้สำรวจกันบ้างล่ะ...
“ฟ้าชอบนิ้วพี่ตะวันจัง... มันใหญ่แล้วแข็งแรงมากด้วย... ฟ้าชอบเวลาที่ได้อยู่ในอ้อมแขนพี่แบบนี้กับลูก มันจะรู้สึกปลอดภัยยังไงบอกไม่ถูก...”
“...ฟ้าปลอดภัยก็ดีแล้ว... แต่ถ้าฟ้ายังไม่หยุดลูบแบบนี้ฟ้าจะไม่ปลอดภับเข้าจริงๆแล้วนะ... เพราะพี่อาจจะทนต่อไปไม่ไหวอีก...”
“...ก็ !... ก็...ฟ้า...ยังไม่พร้อมนี่นา...ฟ้าเขิน แล้วก็อายมากด้วย... ฟ้า...อื๊ม !”
แล้วคนที่เส้นความอดทนขาดสะบั้นลงจนได้ก็ประกบปิดปากช่างต่อรองนั่นจนแน่น... อีกคนมีอาการขืนแรงต่อต้านเล็กน้อยในช่วงแรก ก่อนจะเริ่มผ่อนคลายลงแล้วโอนอ่อนผ่อนตามเขาในที่สุด... เด็กหนุ่มพยายามเรียนรู้ที่จะยอมปรับตัวรับอีกคนเข้ามาในชีวิต ยอมผ่อนหนักผ่อนเบาและเชื่อฟังคำสอนของคนมีประสบการณ์มากกว่า... และน้ำฟ้าก็พบว่าความสุขที่ปลายทางมันช่างสว่างสดใสเพียงใด เมื่อเขายอมปรับตัวเข้าหาคนรักและเดินทางไปหาจุดสุดท้ายของความสุขด้วยกัน...
และในตอนที่น้ำฟ้ากำลังงัวเงียและต่อต้านการเริ่มยกที่สองของชายหนุ่มนั่นเอง ที่ประตูบางหนาค่อยๆแง้มออกมาแผ่วเบา ก่อนจะเผยร่างสิ่งมีชีวิตเล็กๆบนพื้นที่ค่อยๆคลานกระดื้บประสาคนที่มือและเท้ายังไม่ค่อยสัมพันธ์กันนัก แสงเงาที่ตกกระทบสิ่งมีชีวิตชนิดนั้นเผยให้เห็นว่ามีขนาดใหญ่กว่าความเป็นจริง แล้วเมื่อสิ่งมีชีวิตที่คลานได้เริ่มส่งเสียงร้องออกมาว่า...
“...มา...แม่~ ปะ...ป่ะ... ป๊าาา... ป๊อ~ ป่อ... เฮ่ะ...เฮ่ะๆ...”
“เอ๊ะ...สะ...เสียง...หนูลิน...” เสียงพูดแผ่วเบาของน้ำฟ้าที่นอนตัวอ่อนระทวยงึมงำขึ้นตามสัญชาตญาณเมื่อได้ยินเสียงลูกเรียก...
“...งานนี้ไม่ต้องหาต้นตอเลยว่าใครปล่อยเข้ามา... แม่ ! มีแม่คนเดียวเท่านั้นแหละ... ที่อยากให้คืนเข้าหอของลูกชายตัวเองล่มไม่เป็นท่าแบบนี้...!!” ถึงจะบ่นไปเรื่อย แต่ชายหนุ่มก็ต้องตัดใจลุกออกมาจากร่างหอมหวานชวนกลืนไปทั้งตัวของน้ำฟ้าไปที่หมูน้อยตัวกลมบนพื้น แล้วช้อนอุ้มมือเดียวขึ้นมาพาดบ่าแล้วชี้หน้าบอกอย่างอดรนทนไม่ไหว...
“ถ้าจะอยู่กับพ่อแม่คืนนี้ ลูกไปนอนในกระบะเด็กอ่อนเลยนะ... วันนี้ไม่มีที่ว่างบนเตียงให้หนูหนึ่งคืน... ตกลงมั้ยครับ...” แทนที่จะได้รับการพยักหน้าเป็นการตอบรับ เขากลับได้รับฟันคมๆของหนูลินที่งับลงบนนิ้วอย่างเมามันแทน เพราะนึกว่าเป็นของเล่นยางชิ้นใหม่... แหม...กำลังมันเขี้ยวเลยฮิๆ...
“หนูลิน !! ถ้าอยากได้น้องก็ต้องอดทน... เข้าใจมั้ยครับ... พ่อก็พยายามอดทน แม่เขาก็อดทนอยู่... หนูจะมากวนเวลานี้ไม่ได้นะรู้มั้ย... นี่มันคืนเข้าหอของพ่อกับแม่นะหนูเข้าใจรึเปล่า...”
“ลูก...ลูกไม่เข้าใจหรอกคุณ... หนูลิน...ยังไม่...ครบขวบเลยนะ...” น้ำฟ้าเอ่ยตะกุกตะกักเพราะยังปรับลมหายใจได้ไม่คงที่นัก... นึกดีใจอยู่ลึกๆที่หนูลินถูกส่งเข้ามาก่อกวนได้ถูกจังหวะมาก... ไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้เขาคงได้เละเป็นโจ๊กไปจริงๆแน่...
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ... ไม่เป็นไร หนูลินครบขวบแล้วเข้าใจเมื่อไหร่... พี่จะคิดบัญชีคืนรวบยอดทบต้นให้หมดในคืนวันเกิดลูกเลยคอยดู !”
น้ำฟ้าตัวกระตุกวูบ... นึกว่าเรื่องแบบนี้จะจบลงแค่ที่คืนวันส่งตัวเข้าหอนี่เสียอีก... นี่กระทั่งลูกโตแล้วเขาก็ยังไม่หมดเคราะห์หมดโศกอีกหรือเนี่ย...
นี่มันเวรกรรมของอะไรของคุณแม่ป้ายแดงอย่างน้ำฟ้ากันเนี่ย !
-------------------------------------------- ---- - ---- -- -- - -- -- -
จบ. จ่ะ ^^