คุณแม่..ครับผม ! (---Chain of love---) <<: แจ้งข่าวหน้า 1 :>> [21/04/2014]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: คุณแม่..ครับผม ! (---Chain of love---) <<: แจ้งข่าวหน้า 1 :>> [21/04/2014]  (อ่าน 1761010 ครั้ง)

อากาศใต้ผ้าห่ม

  • บุคคลทั่วไป
ตอนพิเศษนี่ ขอตอนพิเศษของฝรั่งกับคุณหมอเด็ก
ธาดาหมอก ตะวันน้ำฟ้า สรุปทุกคู่ ไม่ได้หรอ? ๕๕๕๕
 :-[

ส่วนหนูลินตอนโตเอาไปเขียนเป็นตอนพิเศษยาว ๆ (เรื่องใหม่นั่นแหละ)  :laugh:

ส่วนพระจันทร์เป็นเด็กออฯอย่าไปทำอะไรน้องแกเลยน่าสงสาร  :sad4:

ออฟไลน์ RoseBullet

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1027
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
เป็นตอนที่อ่านแล้วชื่นใจมาก บรรยากาศอบอวลไปด้วยความสุข
ครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้า พ่อแม่ลูกปู่ย่า
โดยเฉพาะตอนนี้ที่โฟกัสไปที่พ่อแม่ลูกสุขสันต์ โอ๊ย อะไรจะน่ารักขนาดนี้
อ่านไปเขินไปยิ้มไปตลอด ตะวันก็กล้าที่จะหวานใส่ น้ำฟ้าก็พูดตรงๆไม่มีกั๊ก
หนูลินที่คอยมาปวนเปี้ยนต้วมเตี้ยมอยู่ข้างๆก็น่าจับมาฟัดซะจริงๆ บรรยายได้เห็นภาพมากเลยค่ะ
รู้สึกใจหายอีกคนที่เรื่องใกล้จะจบแล้ว หวังว่าจะได้เห็นหนูลินเวอร์ชั่นเด็กน้อยไปโผล่ในเรื่องอื่นอีกเนอะ
คู่ต่อไปอยากอ่านเรื่องของพระจันทร์กับคุณสุริยะค่ะ ตอนนี้กำลังค้างคากับคู่นี้ที่สุดแล้ว

ออฟไลน์ iLmbkginvsv

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
อยากอ่านคู่อาทิตย์กับพระจันทร์อ่ะ  มาก ๆ 
จะรอติดตามนะครับ 

ออฟไลน์ makilu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 117
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
อยากอ่านตอนต่อไปอ่าาาา :z3:
เอาคู่ยะกับน้องจันทร์ รีบๆมาลงเถอะนะอิอิ o18

ออฟไลน์ Pumpkin_23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
อยากอ่านตอนพิเศษแล้วค่ะๆ
รอนะค่ะ :really2:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
มารอคุณมาม๊าน้า คิคิ

ออฟไลน์ harumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-33
หายไปเลยอ่ะ :m15:


ยังรอตอนพิเศษอยู่นะ :impress:

nan-nan

  • บุคคลทั่วไป
เมื่อไหร่จะมาต่ออิีกอ่ะคะ  รออยู่น้า

ออฟไลน์ askmes

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
รอร๊อรอ ..รอหนูลินอยู่คร๊าบบบ

ออฟไลน์ oa_ko

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
ดั๊นดันนนนนนน!!

ออฟไลน์ oa_ko

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-0

ออฟไลน์ wan_sugi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
ผลักๆๆๆๆ :z2:   ดันๆๆๆ  :z10:  จิ้มๆๆๆ :z13: :z13:

มาคอยตอนพิเศษ :call:

ออฟไลน์ So_Da_Za

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-3
คิดถึงหนูลินนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
 :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:

LiTTlE [A]

  • บุคคลทั่วไป
อยากอ่านตอนพิเศษ
อยากอ่านตอนใหม่แล้ว
 :call: :call: :call:

ออฟไลน์ took-ta_naka

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 604
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +216/-10
 :z2:  เค้าคิดถึงอ่ะ  หายไปไหน  รีบ ๆ  กลับมาเร็ว ๆ  นะ   :m15: :m15: :m15: :m15:

nan-nan

  • บุคคลทั่วไป
อยากอ่านตอนใหม่แล้ววววว

ออฟไลน์ greensoda

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 584
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
จบแล้ววววว
น่ารักได้โล่ห์จริงๆ  :-[
ชอบทุกคนเลยโดยเฉพาะหนูลินน

ตอนต่อไปขอเป็นพี่อาทิย์กะน้องจันทร์น้า   :impress:

ออฟไลน์ jagkree

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 204
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
    • Facebook
รอ ร๊อ รอ  คอมซ่อมเสร้จรึยัง เพ่แพท  o11 :o211:

ออฟไลน์ oa_ko

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Baitaew

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 361
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
"คุณแม่ครับผม" สนุกสุดยอดดดด  o13 o13

ขอบคุณนะคะที่แต่งเรื่องสนุกๆแบบนี้ให้อ่าน อิอิ :mc4:


 :bye2: :bye2:

ออฟไลน์ oa_ko

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-0

ออฟไลน์ dek-zaal3

  • แก้วปั้ณณ์
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +534/-11
    • แก้วปั้ณณ์
คุณแม่...ครับผม !!!    ตอนพิเศษ...วันสุข




   เช้าวันนี้  รังสิมันต์ตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกโดนอะไรซักอย่างยุกยิกๆอยู่บนอกรบกวนให้ต้องตื่น...  แต่วินาทีที่เขาปรือตาขึ้นมอง  แล้วพบหน้าตาแป้นแล้นพร้อมแก้มอิ่มเต็มกับเหงือกแดงแจ๋ซึ่งเริ่มมีไรฟันโผล่ขึ้นมานิดหน่อย ชายหนุ่มก็ต้องเผยรอยยิ้มรับอรุณมอบให้คนปลุกตัวน้อยในทันที  มีไม่กี่วันหรอกนะที่เขาจะตื่นขึ้นมาด้วยรอยยิ้มมีความสุขขนาดนี้...


“มาปลุกคุณพ่อเหรอครับคนเก่ง...”  ชายหนุ่มพึมพำถามคนเป็นลูก  ก่อนสองแขนจะเอื้อมโอบรัดรอบตัวหนูน้อยมาหอมแก้มไปที  หนูลินที่จั๊กจี้ไรหนวดเลยรีบย่นคอหลบ...


“อ๊าย..เฮ่ะๆ...เฮ่ะ...”  เด็กน้อยหัวเราะเอิ๊กอ๊าก  รังสิมันต์ได้ทีเลยยกจับลูกน้อยนอนลงบนหน้าแข้งแข็งแรงของตัวเอง  แล้วยกขาขึ้นลงทำเป็นรันเวย์เครื่องบิน  ส่งเครื่องบินลำอ้วนตุ๊ให้เหวี่ยงไปเหวี่ยงมา  จนคนเป็นแม่ต้องรีบเขยิบมานั่งข้างๆเพื่อคอยระวังเวลาลูกตัวเองหล่นตุบลงเตียง...


“เอ้า...บินนนน ! ...บินสูงๆเลยคนเก่ง...  ฮ่ะๆ...”  ชายหนุ่มส่งเสียงเชียร์ให้หนูน้อยบินยกใหญ่...  ส่วนตัวเองก็เผลอปลดปล่อยความเป็นเด็กในตัวเองออกมาเต็มที่โดยการหัวเราะเสียงดัง  พร้อมทำหน้าทำตาประหลาดๆใส่หนูน้อยไวโอลินจนเด็กหนุ่มอีกคนชักคันไม้คันมืออยากหยิบโทรศัพท์มือถือมาถ่ายรูปนี้เก็บไว้(แบล็กเมล์)ชายหนุ่มร่างสูงคนนี้จริงๆ...


“...ชอบมั้ยครับ...  เอาอีกมั้ยคนเก่ง...  ไหนตอบก่อนเร็ว... ชอบครับ...”  วลีสุดท้ายรังสิมันต์เอามือไปโค้งหัวลูกชายให้พยักหน้ารับคำตัวเอง...  ก่อนจะยกเด็กน้อยอ้วนปั๊กแต่นุ่มนิ่มไปทั้งตัวเข้ามากอดแนบอก  พร้อมจูบรับอรุณบนแก้มไปเสียอีกหลายที...


“ฟ้า...มานอนนี่เร็ว...”  พร้อมกับที่พูด  ชายหนุ่มก็ยกนิ้วชี้มากระดิกเรียกอีกคนที่ยังนั่งพับเพียบอยู่ข้างๆ  แต่อีกคนกลับย่นจมูกใส่เขาอย่างน่ารักแล้วส่ายหน้าไปมาปฏิเสธ...


“ไม่เอา อย่ามาทำเหมือนผมเป็นปลาโลมานะ...  คุณน่ะ...ยังไม่ได้อาบน้ำเลย...เหม็นจะแย่ผมไม่เข้าใกล้หรอก...”  ระหว่างพูดน้ำฟ้าก็ยกนิ้วโป้งกับนิ้วชี้มาคีบจมูกตัวเองเอาไว้ประกอบคำพูดด้วย  พอเห็นอีกคนประชดเขาด้วยการเอาปากฟัดกับลูกชายน้ำฟ้าก็ยกมือตีเพี๊ยะเข้าให้ที่ต้นขาแกร่งก่อนเอ่ยต่อ  “...อีกอย่าง...คุณ...แม่  ให้มาตาม...  เดี๋ยวพระจะมาแล้วนะ...”  น้ำฟ้าบอก  เขายังคงรู้สึกกระดากปากทุกครั้งที่ต้องเปลี่ยนคำเรียกจาก ‘คุณหญิง’ เป็น ‘คุณแม่’ ตามความต้องการของเจ้าตัว...


   รังสิมันต์หรี่ตามองคนพูดที่เริ่มขยับตัวจะเก็บผ้าห่มให้เขา...  แล้วพอได้จังหวะ  ขายาวใหญ่ของตัวเองก็ทำงานดังใจนึก  ตวัดคนตัวบางที่ไม่ทันระวังตัวให้หล่นปุลงนอนข้างกันอย่างพอดิบพอดี...


“คุณรังสิมันต์ !!”  น้ำฟ้าโอดครวญเมื่อรู้ตัวว่าโดนแกล้งอีกแล้ว...


“พี่ตะวัน...  จะเรียกคุณตะวันหรือพี่ตะวันก็ได้...  เรียกก่อน...แล้วพี่จะปล่อย...”  ชายหนุ่มเริ่มทำตัวเป็นปลาหมึก  มีกี่มือกี่เท้าก็เอาก่ายตัวบางๆจนแน่นหนา  แถมของตัวเองยังไม่พอ  ชายหนุ่มยังหยิบมือหยิบเท้าเล็กๆของคนเป็นลูกไปกอดก่ายคนเป็นแม่เพื่อใช้เป็นตัวประกันเข้าให้อีกคน... 


“คุณรังสิมันต์... ! ฟ้าไม่เล่นแล้วนะ...ปล่อยเร็ว... เดี๋ยวลงไปไม่ทันตักบาตรคุณแม่ท่านจะดุเอานะ...” น้ำฟ้าหน้ามุ่ยแล้วหน้ามุ่ยอีก  ยกคนเป็นใหญ่สุดในบ้านมาขู่แต่ผู้ชายและลูกชายตัวเองกลับนอนหันข้างมองเขาตาแป๋วพอกันทั้งคู่...  ขยับมือขยับเท้ามาสวมกอดเขาเอาไว้ทั้งคู่...  น้ำฟ้าแกล้งทำสีหน้าเหนื่อยใจ  ก่อนจะพลิกตัวหันนอนตะแคงข้างมองอีกคนตอบกลับ...  ดูท่าพ่อลูกคู่นั้นซิ...  อย่างกับฝาแฝดแน่ะ...


“เรียกชื่อเล่นพี่หน่อยสิ...  เรียกรังสิมันต์แล้วมันดูเหมือนฟ้ายังโกรธพี่อยู่...” ชายหนุ่มปรับท่าทีเป็นจริงจัง  พร้อมเอานิ้วใหญ่ของตัวเองไปเกลี่ยแก้มของอีกคนแผ่วเบา...  ผิวเนื้อสากๆของเขาช่างตัดกับผิวของอีกคนอย่างสิ้นเชิง...  ตัวเขาจับตรงไหน จิ้มตรงไหนก็แข็งก็ด้านไปทั่ว  ในขณะที่อีกคนกลับจับตรงไหนก็นิ่ม จับตรงไหนก็นุ่มอ่อนไปเสียทั้งตัว...  แถมยังหอมอีกต่างหาก  พออดใจไม่ค่อยไหวเข้าก็เผลอหอมหัวไหล่เข้าไปที  แต่ปัญหาคือพอได้ลองสัมผัสแล้วกลับหยุดไม่ได้  ต้องขอซ้ำข้างแก้มนุ่มไปอีกสองทีถ้วน...


“คุณตะวัน !!  ...ฟ้ายอมเรียกแล้วนะ  อย่าแกล้งกันอีกเลย  รีบไปอาบน้ำเถอะครับ...  ปล่อยให้ผู้ใหญ่รอนานมันไม่ดีนะ...”  เด็กหนุ่มรีบเอาน้ำเย็นเข้าลูบเมื่อดูทีท่าแล้วว่าตัวเองยิ่งอยู่ยิ่งขาดทุน  เพราะอีกคนก็เอาแต่หากำไรจากเขาเสียจนแทบหมดตัวเลยทีเดียว...


“โอเค...  ยอมไปอาบน้ำก็ได้...  แต่...!  ฟ้ากับลูกต้องรอลงไปข้างล่างพร้อมพี่  ห้ามหนีลงไปก่อน  พี่ตกลงเอาตามนี้...เข้าใจรึเปล่า...”  รังสิมันต์ถาม


“ยังจะต้องการคำตอบของฟ้าอีกเหรอ...  คุณพูดเองเออเองเอาเรียบร้อยแล้วนี่...  คนอะไร...เอาแต่ใจได้เสมอต้นเสมอปลายจริงๆ...”  น้ำฟ้าตอบแกมแขวะ  แต่อีกคนกลับยักยิ้มมุมปากแล้วเอานิ้วมาคีบแก้มอีกคนแล้วยืดออกเบาๆ


“แล้วคนอะไร... หลอกด่าคนอื่นเก่งเป็นที่หนึ่ง  ปากดี ปากเก่งเป็นที่สอง...  นี่...อย่าหือกับพี่ต่อหน้าลูกเชียวนะ...  เดี๋ยวลูกจะเอาเป็นแบบอย่างแล้วทำตาม...” 


“...คุณก็ห้ามออกคำสั่งใส่ฟ้าต่อหน้าลูกเหมือนกัน  ห้ามลามก  ห้ามลวนลาม  ห้ามเอาแต่ใจ...ห้าม...” 


“พอๆ... พี่ขอไปข้อเดียวแต่ทำไมฟ้าขอพี่เยอะจังเลยฮะ...  นี่เราต้องมีการร่างกฎการอยู่ร่วมกันก่อนแต่งงานกันจริงๆใช่มั้ยเนี่ย...”  รังสิมันต์เอ่ยแนวประชด  แต่น้ำฟ้ากลับเลิกคิ้วน้อยๆแล้วอมยิ้มนิดๆก่อนเอ่ย...


“...ก็ดีสิครับ... ฟ้าจะได้เขียนลงไปว่า...  ห้ามคุณรังสิมันต์เดินเข้าห้องนอนฟ้าหรือเข้าห้องนอนลูกหลังเวลาสามทุ่ม... ต่างคนต่างนอน...”


“...”  น้ำฟ้ายังร่ายกฎของตัวเองยังไม่ทันจบ  มือปลาหมึกยุบยับบนตัวเองก็คลายออกอย่างรวดเร็ว  พร้อมกับแรงหนักน้อยๆบนพุงของเขาที่เกิดจากการที่เจ้าหนูตัวน้อยอ้วนปั๊กกำลังทำท่าแหวกว่ายสายชลอยู่นั้นก็หายไป...   


   รังสิมันต์อุ้มลูกชายออกจากท้องน้อยน้ำฟ้า  ส่วนตัวเองก็รีบลุกขึ้นนั่งฉับ   บิดเมื่อยกล้ามแขนเล็กน้อยทำหน้านิ่งๆแล้วบอกว่า...


“...อีกครึ่งชั่วโมงฉันจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ... เธอกับลูกต้องรอฉันอยู่ที่นี่  ห้ามไปไหน...แล้วเดี๋ยวเราค่อยลงไปพร้อมกัน...”  สั่งกันไว้เสร็จสรรพก็หอมเหม่งแววๆของลูกชายอีกที  จากนั้นถึงค่อยส่งมอบให้อีกคนรับไปอุ้มต่อ...


   น้ำฟ้ากระเถิบตัวลุกขึ้นนั่งไปรับหนูลินมาพักบนตัก  มองชายร่างสูงใหญ่กำยำที่เริ่มจัดการถอดเสื้อถอดผ้าไม่อายฟ้าอายดินเดิมเข้าห้องน้ำไป...   มือข้างหนึ่งยกมาลูบหน้าลูบตาเมื่อรู้สึกว่ามันได้ยินเสียงฉ่าๆออกมาจากใบหน้ายังไงก็ไม่รู้...


“คนบ้า...ไม่มียางอายเลยเนอะหนูลิน...  โตขึ้นห้ามเอานิสัยนี้ของเขามาเด็ดขาดเลยนะรู้มั้ย...”  น้ำฟ้าเสทำเป็นสอนลูก  หนูลินคอตกลงมาเล็กน้อยจึงดูเหมือนหนูน้อยพยักหน้าหงึกรับคำ... 


“อือ...”


“เก่งมาก...!  ลูกแม่ฟ้าเก่งที่สุดในโลกเล้ย...”  เอ่ยชมลูกเพราะหนูน้อยทำตัวได้ดั่งใจเขาจริงๆ...  “ถ้างั้น...เราก็ลงไปข้างล่างกันก่อนเถอะ...  ใครจะไปทำตามคนบ้าอำนาจได้ทุกเรื่อง...  ขืนทำตามบ่อยๆมีหวังคงกดเราจนเคยตัว...เนอะ...”  น้ำฟ้าเอาคนเป็นลูกเข้าพวกตัวเองเสร็จสรรพ   


                หนูลินพ่นน้ำลายพองฟู่ออกมาแลคล้ายลูกปูกำลังพ่นฟองน้ำ...  เด็กน้อยไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลยดูดจุกนมจ๊วบๆคออ่อนซบไหล่แม่ฟ้า  ที่พาเขาค่อยๆย่องออกจากห้องไป...

------------------------------------------   ----- - - - -          -  -----   - - -             --- -         -                 -

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-12-2012 16:04:42 โดย dek-zaal3 »

ออฟไลน์ dek-zaal3

  • แก้วปั้ณณ์
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +534/-11
    • แก้วปั้ณณ์
“ฉันว่าขนมที่เหลือนี่เอาห่อใบตองให้หมดเลยแล้วกัน…  ถวายพระให้หมดเลยไม่ต้องเหลือไว้หรอก…”  คุณหญิงดารกานต์กำลังอุ้มหนูลินอยู่ในวงแขนข้างหนึ่ง   ส่วนปากก็บรรชาการน้ำฟ้าให้จัดขนมลงห่อใบตองให้หมด  น้ำฟ้ามีฝีมือทางด้านการทำอาหารและขนมมาก  ยิ่งไปกว่านั้นทั้งด้านงานฝีมือ อย่างใบตองนี่ก็เจียนได้มนสวยยิ่งไปกว่าหล่อนเสียอีก   งานนี้คุณหญิงเลยไว้วางใจปล่อยให้น้ำฟ้าลงมือจัดการทุกอย่างโดยมีหล่อนเป็นคนควบคุมสั่งงานด้วยตัวเองเพียงเท่านั้น…


   ได้ดั่งใจตั้งแต่สามารถเข้าครัวด้วยกันได้แล้ว  ได้คุยกับคนคอชอบทำอาหารเหมือนกัน…  ได้แลกเปลี่ยนความคิดในการพลิกแพลงทำอาหารใหม่ๆ  หล่อนต้องยอมรับว่าไอเดียการผสมผสานและรสนิยมด้านอาหารของหล่อนกับน้ำฟ้าช่างเข้ากันได้ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ  อีกทั้งหล่อนยังได้รู้ว่าความจริงแล้วน้ำฟ้าเป็นคนที่มีสัมมาคารวะและเชื่อฟังผู้ใหญ่มากอีกต่างหาก…  ดูได้อย่างวันนี้  หล่อนบอกให้ไปปลุกเจ้าลูกชายตัวดีแล้วรีบลงมาช่วยงาน  เด็กนี่ก็เชื่อฟังขึ้นไปปลุกปุ๊บแล้วก็ลงมาเลย  ทั้งๆที่หล่อนเองก็รู้ดีว่าเจ้าลูกชายน่ะมีนิสัยงอแงเวลาตื่นนอนหนักขนาดไหน…  นี่ก็อุตส่าห์แอบทำมึนส่งอ้อยเข้าปากช้างไปให้…  ไม่อยากจะเชื่อว่าเจ้าเด็กน้ำฟ้านี่จะสามารถลงมาหาหล่อนได้ตรงตามเวลาที่บอกเอาไว้เป๊ะ…  เชื่อฟังอย่างน่าเอ็นดูดีจริงๆ


   ดูๆไปแล้ว...มันก็น่ารักน่าเอ็นดูกันทั้งแม่ทั้งลูกเลยจริงๆนะ...   คุณหญิงพูดพลางก็มองหน้าหลานที่คาบลิ้นแก้มตุ่ย  สายตาก็มองแม่จัดขนมไปด้วยตาแป๋วเลยทีเดียว...


“แหม...คุณหญิงคะ  เหลือไว้ซักชิ้นสองชิ้นไม่ได้เหรอคะ  คุณฟ้าน่ะ...ทำขนมอร๊อยอร่อย...  หนิมอยากกินน่ะค่ะ...  แห่ะๆ”  สาวใช้วัยสาวปากกล้าเอ่ยขอคุณหญิง...  ก็ขนมที่แขกผู้มาอยู่เป็นสมาชิกใหม่ของบ้านทำน่ะ...   อร่อยสุดๆ  หล่อนเคยมีโอกาสได้ชิมหนเดียวเองตอนมาเป็นลูกมือให้คุณฟ้าเธอครั้งแรก  หลังจากนั้นขนมไม่ก็ไม่เคยเหลือมาถึงเธออีกเลย...


“เอ๊...นังนี่...  ขนมเขาทำไว้จะถวายพระ  พูดแบบนี้เดี๋ยวบาปก็กินเอาหรอก...”  คุณหญิงหันไปเอ็ดสาวใช้แบบไม่ได้จริงจังอะไรนัก...  ก่อนจะหันมาพยักหน้าให้น้ำฟ้าเอาขนมที่ห่อเสร็จแล้วลงถาดได้เลย...


“ขอบคุณนะ...  ถ้าหนิมอยากกิน...  ไว้วันหลังเดี๋ยวพี่ค่อยทำให้กินใหม่ก็ได้...”  น้ำฟ้าหันไปบอกสาวใช้ที่ชื่อหนิมอย่างใจดี...  แล้วพอสาวเจ้าเธอได้รู้ว่าจะได้ทานของอร่อยก็ยิ้มแก้มปริ  จนคุณนมที่อยู่ใกล้ๆอดไม่ได้ต้องตีเพี๊ยะลงบนท่อนแขน  โทษฐานแสดงอาการดีใจจนออกนอกหน้ามากเกินควร...


“เรียบร้อยแล้วครับ...   คุณ...แม่...  จะให้ฟ้ายกไปหน้าบ้านเลยมั้ยครับ...”  เด็กหนุ่มหันไปถามคนเป็นใหญ่ในบ้าน   แต่ทว่าเสียงที่ตอบกลับมากลับเป็นเสียงเย็นๆทุ้มๆของใครอีกคน   ที่ใช้เสียงมาก่อนที่ตัวจะมาปรากฎยืนพิงอยู่หน้าประตู...


“ของน่ะเดี๋ยวให้ใครยกไปก็ได้...  ส่วนเธอ...น้ำฟ้า  ฉันบอกให้รอลงมาพร้อมกัน  ทำไมถึงพาลูกลงมาก่อน...  ไม่คิดจะเชื่อฟังกันเลยใช่มั้ย...”  พร้อมกับประโยคสุดท้าย  ชายหนุ่มก็ปราดเข้ามาคว้าท่อนแขนกลมกลึงของน้ำฟ้าเอาไว้อย่างแรง  จนคนเป็นแม่ที่อุ้มหนูลินอยู่ต้องรีบเอามือมาตีเพี๊ยะเข้าท่อนแขนเจ้าลูกชายตัวดีไปสองครั้งรวด


“หยุดเลยตะวัน...  แม่สั่งให้ฟ้าเขาขึ้นไปปลุกลูกแล้วให้รีบลงมาช่วยแม่เอง...  น้องก็แค่ทำตามที่แม่สั่งเขาผิดอะไร  แล้วมือน่ะไปบีบแขนน้องแรงขนาดนั้นน้องก็เจ็บแย่น่ะสิ...ปล่อยมือเดี๋ยวนี้ตาตะวัน...”  สั่งแล้วคุณหญิงก็ปัดแขนลูกชายตัวเองออกจากแขน ‘ลูกชายคนโปรดคนใหม่’ ของหล่อนทันที... 


              รังสิมันต์มีสีหน้าไม่พอใจ  แต่ก็ยอมปล่อยมือจากแขนน้ำฟ้าแต่โดยดี  เด็กหนุ่มก็รีบหลบไปอยู่หลังคนที่ช่วยออกหน้าแทนอย่างรู้งาน...  รังสิมันต์มองท่าทางของมารดาที่ออกอาการแมวหวงก้างกางปีกปกป้องคนที่เคยเกลียดชังอย่างออกนอกหน้าแล้วก็อยากจะขำ   นี่แม่ยังจะจำได้อีกมั้ยนะ  ว่าเมื่อก่อนเคยแช่งชักหักกระดูกน้ำฟ้าไว้ยังไงบ้าง...


“เดี๋ยวนี้แม่ก็เข้าข้างแต่ฟ้า...  ยึดฟ้าเอาไว้คนเดียวแบบนี้ได้ยังไง...  ฟ้าเป็นของผมนะแม่...”


“ใครบอกแก...  เฮอะ...ที่แม่ให้ฟ้าเขาอยู่ที่นี่ก็เพื่อให้เขามาคอยช่วยเลี้ยงหนูลิน  เพราะหนูลินน่ะติดฟ้ามาก...  แล้วเขาไปเป็นของแกอะไรยังไงเมื่อไหร่...  แม่ไม่เห็นรู้เลย...”  คุณหญิงดารกานต์แกล้งทำไม่รู้ไม่เห็น  พอเห็นสีหน้าไม่ค่อยพอใจเป็นอย่างมากของลูกชายที่เพิ่มเป็นสองเท่าแล้วก็รู้สึกสะใจพิลึก  จากนั้นก็ออกปากให้น้ำฟ้าถือถาดขนมออกไปหน้าบ้านพร้อมหล่อน...   “ถือขนมออกไปกับแม่ดีกว่าฟ้า...  อยู่ต่อก็มีคนมาทำอารมณ์เสียใส่  คนเขาจะทำบุญทำทานกัน...”  กระแนะกระแหนลูกชายในไส้ด้วยความหมั่นไส้เกินทน...


   น้ำฟ้าก้มหน้าก้มตาถือถาดขนมเดินตามคุณหญิงดารกานต์จะออกไปจากครัว...  แต่จู่ๆก็โดนร่างสูงใหญ่มายึดถาดขนมไปถือให้เองซะงั้น   แค่นั้นยังไม่พอมือที่ว่างก็เอามาคว้าเอวเขาไปกอดแบบไม่หวั่นหน้าสาวใช้  แม่บ้าน  และแม่ตัวเองที่ทำไม่รู้ไม่ชี้เสียอีกนี่...


   เด็กหนุ่มเดินพลางตัวก็พยายามขัดขืนพลาง  แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก...  เพราะชายหนุ่มร่างสูงเล่นเอารัศมีโกรธข่มเขาเสียจนรู้สึกตัวลีบเล็กไปเลย... 


-------------------------------------------------------------------------


   เมื่อถึงเวลาพระเก้ารูปที่คุณศิลานิมนต์ไว้ก็มาเพื่อรับบาตร...  คุณหญิงดารกานต์แอบเลี่ยงให้รังสิมันต์พาน้ำฟ้ากับหนูลินเข้าไปตักบาตรด้วยกันสองคน  โดยรังสิมันต์จัดการอุ้มหนูลินเอาไว้ตรงกลาง  แล้วถือวิสาสะบวกอาการหน้าตายคว้าจับมือทั้งแม่ทั้งลูกตักข้าวใส่บาตร หนูลินถูกจับยืนบนโต๊ะเพื่อความสะดวกเมื่อเจ้าตัวนิ่มเอาแต่ดิ้นไปดิ้นมาจนคุณพ่อมือใหม่ต้องยอมแพ้  ยินยอมให้เจ้าตัวยุ่งได้ลงยืนด้วยตัวเอง โดยมีเขากับน้ำฟ้าคอยประคองหยิบขนมและของกินอื่นๆลงบาตรพร้อมกับพยายามไม่ให้หนูลินแย่งของตักบาตรพระมาเข้าปากตัวเองด้วย...


   น้ำฟ้าสุดอายแสนอายแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เมื่อคราวนี้ทั้งคุณศิลาและคุณหญิงดารกานต์ไม่ออกหน้าทำอะไรเลย   นอกจากคอยช่วยสั่งการอยู่ห่างๆว่าให้เขากับคุณรังสิมันต์ทำอะไรต่อไปบ้าง  เมื่อเวียนใส่ของครบหมดแล้วทั้งหมดก็นั่งยองลงพื้น...  หนูลินครางอืออาตามเวลาพระสงฆ์กล่าวให้พร  ท่าทางน่ารักน่าเอ็นดู...  จนทั้งเหล่าบรรดาสาวใช้และบอดี้การ์ด  รวมไปถึงเจ้านายอย่างคุณศิลาและคุณดารกานต์ยังต้องถอนหายใจ  แล้วยิ้มให้กับภาพน่ารักๆของครอบครัวเล็กๆ  ที่มีคุณหนูลินเป็นศูนย์กลางความสุขอยู่ระหว่างคุณรังสิมันต์และคนที่เพิ่งเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของครอบครัวอย่างคุณน้ำฟ้าด้วย


   การตักบาตรตอนเช้าผ่านไปด้วยความชื่นมื่นและเต็มไปด้วยความสุขของทุกๆคน...  เสร็จหลังจากนั้นทั้งรังสิมันต์และน้ำฟ้าก็ถูกเรียกเข้าไปพบคุณศิลาและคุณหญิงดารกานต์ในห้องรับแขก  หนูลินตัวอ้วนปั๊กนั่งกัดเป็ดยางของเล่นอยู่บนตักคุณปู่  ข้างขวามีคุณดารกานต์นั่งคอยแหย่เอาเป็ดยางอีกตัวล่อหนูลินให้พยักหน้าหงึกหงักขึ้นลง...  ส่วนตรงโซฟาด้านซ้ายมีฝรั่งผมสีบรอนด์ใส่แว่นสายตายี่ห้อดังนั่งอยู่  ชุดสูทรีดเนี๊ยบกริบ  ตรงหน้าตักมีซองเอกสารวางอยู่มากมาย  น้ำฟ้าเผลอยกมือไหว้ตามมารยาทเพราะเห็นเป็นผู้ใหญ่กว่า  แต่ฝรั่งคนนั้นก็ยิ้มรับพร้อมยกมือรับไหว้เขาด้วยท่าทางที่รู้ว่าคงจะเรียนรู้ประเพณีการไหว้ของคนไทยมาก่อนแน่นอน...


“ตะวันพาน้องมานั่งที่โซฟาฝั่งนี้มา...”  คุณหญิงออกปากพร้อมชี้ไปที่โซฟาฝั่งตรงข้ามกับคุณฝรั่งผมบรอนด์... 


   ชายหนุ่มทำตามคำมารดาว่า  เขาถือวิสาสะโอบเอวน้ำฟ้าจะพาเดิน  แต่อีกคนกลับทำตัวแข็งทื่อไม่ยอมเดิน  เขาก็พอดูออกว่าอีกคนคงจะอายเพราะมีคนนอกอยู่ด้วย  ชายหนุ่มจึงเลื่อนไปคว้ามือของอีกคนมาจับจูงไว้แทน...  เขาพาน้ำฟ้าไปนั่งตรงโซฟาฝั่งมารดา  หนูลินเมื่อเห็นแม่ตัวเองปุ๊บก็ยืดแขนยืดขายื่นเป็ดยางของตัวเองให้แม่...  พร้อมกับตะกายออกจากตักคุณปู่จะให้แม่ฟ้าอุ้มทันที...


   รังสิมันต์จึงเป็นคนลุกไปอุ้มหนูน้อยมาจากตักคุณปู่แล้วยื่นให้คุณแม่ผมยาวรับไปดูแลต่อเอง...   หนูลินอารมณ์ดีตีมือเปาะแปะชอบใจทุกสิ่งอย่างรอบกายไปเรื่อย...  น้ำฟ้าให้เจ้าหนูตัวอ้วนนั่งพิงตัวเองบนตัก  เพราะจะให้อุ้มเอาไว้ตลอดเหมือนเมื่อก่อนก็ไม่ค่อยจะไหวแล้ว  เมื่อตั้งแต่มาอยู่บ้านนี้หนูลินถูกขุนจนกลายเป็นลูกหมูตัวหย่อมไปแล้ว...   ก็ช่วยไม่ได้นี่...ทั้งคุณปู่คุณย่าของเจ้าตัวเล็กเห่อหลานกันใหญ่   


   ส่วนคนที่ปวารณาตัวเองเป็นบิดาอีกคนของเจ้าตัวเล็กนี่ไม่ต้องพูดถึง...  พักนี้เอาแต่สอนลูกเรียกตัวเองว่า ‘พ่อ’ๆ  ไม่ได้หยุด  พอถามว่าทำไมไม่ให้ลูกเรียกว่า ‘ป่ะป๊า’ หรือไม่ก็ ‘แดดดี้’ ล่ะ...  หนูลินชินปากคำนี้กว่าอีก...  รายนั้นก็บอกลูกต้องมีพ่อคนเดียว  ฝึกให้ลูกเรียกเขาว่าพ่อคนเดียวพอ...  ส่วนคนอื่นเขาจะสอนให้ลูกเรียกอย่างอื่นให้หมด...  หนูลินจะต้องมีพ่อคนเดียวคือเขา !  พูดอย่างนี้แล้วยังมาบอกอีกว่า...ไม่ได้เห่อลูกเลยซักนิดเดียวนะ...


“เอาล่ะเดี๋ยวจะเสียฤกษ์...  นี่คือคุณนาธาน  เขาเป็นเจ้าหน้าที่ทะเบียนจากเดนมาร์ก...  แม่เรียกเขามาวันนี้..  ก็เพราะเห็นว่ามันสมควรแก่เวลาแล้วที่หลานแม่...  จะได้มีทั้งพ่อและแม่ครบกับเขาเสียที...”  คุณหญิงพูดจบแล้วก็หันไปยิ้มแย้มกับสามี   รังสิมันต์คิ้วกระตุกเล็กๆ...นึกอยู่แล้วเชียวว่าวันนี้มันแปลกๆ  ไม่รู้ว่าแม่เขามีแผนจะทำอะไรอีก... 


“เอ่อ...หมายความว่ายังไงครับ...  ฟ้า...”  เด็กหนุ่มเอ่ยเสียงเบาๆถาม...  ทว่ากลับได้สายตาเบิ่งกว้างจากคุณหญิงดารกานต์มองกลับมาแทน


“อ้าว...!  ก็ตาตะวันขอฟ้าแต่งงานแล้วไม่ใช่เหรอ...  ก็นี่ไงแต่งเลย...  แม่เอาเจ้าหน้าที่มาจดทะเบียนให้แล้ว...  เดี๋ยวพอจดทะเบียนสมรสเสร็จก็เซ็นสัญญารับหนูลินเป็นลูกบุญธรรมต่อเลยไง...  นี่แม่ให้คุณนาธานเขาเตรียมเอกสารมาให้เรียบร้อยแล้วนะ...”  คุณหญิงกล่าวราวมันเป็นเรื่องเล่าธรรมดาว่า  วันนี้เป็นวันทำบุญบ้านครบรอบหกสิบเก้าปีอย่างไรอย่างนั้น...  ซึ่งคำบอกเล่านั่นทำให้น้ำฟ้านั่งนิ่งอึ้ง  ซักพักใบหูก็เริ่มแดงลามมาที่หน้า...  สุดท้ายก็ได้แต่นั่งเงียบเอาใบหน้าซุกผมลูกตัวเองเสียอย่างนั้น...


“นี่แม่แอบฟังผมเหรอ...!?  แล้วจะจัดงานแต่งทำไมไม่บอกผมล่วงหน้าก่อนละครับ...”  รังสิมันต์ตีคิ้วยุ่งเอ่ยถามมารดา  น้ำฟ้านึกเห็นด้วยในใจอย่างสุดชีวิต...  ใช่ๆไม่ได้ทันตั้งตัวเตรียมใจเลยแบบนี้  เขาก็เขินแย่น่ะสิ...   “...ผมไม่ได้ใส่ชุดหล่อเลยเห็นมั้ยครับ...” 


“...”   ...เอ่อ...  น้ำฟ้าถึงกับหันไปมองค้อนอีกคนวงใหญ่ๆ  แถมเท้าเล็กๆของหนูลินที่เด็กหนุ่มยกถีบเข้าให้อีกต่างหาก...  ...ไม่หล่อนี่มันใช่ประเด็นมั้ย...?


“เอาเถอะน่ะ...  แม่แค่ต้องการให้มันถูกต้องตามกฎหมาย...  ฟ้ากับหนูลินจะได้เปลี่ยนมาใช้นามสกุลของเราเลยไง  เอ้อ...!  แล้วแม่ก็ลืมไปอีกอย่าง...  คุณศิลาไปเรียกนายทะเบียนที่นี่มาด้วยสิ  จะได้ย้ายทะเบียนบ้านเอาชื่อฟ้ากับหนูลินเข้ามาเสียเลย  เร็วสิคุณ...”


“คือ...ฟ้า...  ไม่ขอเปลี่ยน...นามสกุลได้มั้ยครับ...”  คุณดารกานต์ที่กำลังเร่งสามีให้โทรศัพท์ไปเขตยิกๆถึงกับหน้าย่นเพราะถูกขัดใจ...  สาวใหญ่ของบ้านหันมองอนาคตลูกบ้านอย่างขัดใจ  แล้วถามทางสายตาประมาณว่าต้องการคำอธิบายมากกว่านี้อีก...  “คือ...  ฟ้ายังอยากใช้นามสกุลเดิมของฟ้าเอง...  เพราะ...ฟ้าไม่อยากให้นามสกุลของฟ้า...ต้อง...”


“หายไป...ใช่มั้ย...”  รังสิมันต์พูดต่อรู้ใจ...


“แอ๊...งืม...งา....”  หนูลินก็ร้องขานรับออกมาเช่นกัน... 


   เด็กหนุ่มพยักหน้าเบาๆแล้วก้มหน้าไม่พูดอะไรต่อ...  นึกหวั่นๆอยู่ในใจว่าไปเผลอขัดใจคุณหญิงใหญ่ของบ้านให้โกรธขึ้นมารึเปล่า  เขาไม่อยากเจออารมณ์นั้นของหญิงสาวเลยจริงๆ...  แต่ทว่าเสียงต่อมาที่ได้ยินกลับเป็นการถอนหายใจของคุณศิลากับน้ำเสียงเอื้อเอ็นดูที่ถามคำถามเขาแทน...


“ไม่เปลี่ยนนามสกุลก็ไม่เป็นไร...  แต่ฟ้าจะย้ายมาอยู่กับพ่อกับแม่ที่บ้านนี้มั้ย...” 


“คือ...ฟ้า...”


“เธอบอกแม่แล้วนะ...  ว่ายกโทษให้แม่แล้ว...  แล้วก็จะยอมให้แม่เลี้ยงหลานด้วยนะ...”  คุณหญิงดารกานต์อดไม่ได้ต้องขอแถมต่อจากสามี


“ฟ้าไม่ได้ห้ามให้คุณแม่เลี้ยงหนูลินนะครับ...  คือ...ฟ้า...”


“นะฟ้า...  มาอยู่ฉัน...  อยู่กับพี่ที่บ้านนี้นะ...  เรามาช่วยเลี้ยงหนูลินด้วยกัน...”   และจบท้ายการกดดันด้วยชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่มองเขาตาละห้อยพอกันกับเจ้าหนูตัวน้อยบนตัก...  ทำยังไงดีล่ะ...เขาแพ้ลูกอ้อนคูณสองแบบนี้เสียด้วยสิ... 


“...ก็...งั้นก็... ตกลงครับ”  ถึงจะตอบเบาสุดเบา  แต่เสียงปรบมือเปาะแปะที่ดังมาจากสาวใช้สองสามนางใกล้ๆก็ช่วยแร่งสีเลือดบนใบหน้าน้ำฟ้าได้ดีเลยเกิน...


“เยี่ยมมาก !!  งั้นคุณทะเบียน...  จดเลยค่ะ...  บ่าวสาวพร้อมแล้ว...”  แม่งานใหญ่เจ้ากี้เจ้าการเร่งนายทะเบียนยิกๆ  หล่อนยิ้มแก้มปริดีใจ  พอหันมองหลานตัวน้อย  หลานตัวน้อยก็ส่งยิ้มหวานให้อีกแน่ะ...  สงสัยจะรู้ว่าวันนี้เป็นวันแห่งความสุขของทุกๆคนสินะ...  อารมณ์ดีใหญ่เลยหลานย่า...


   นายทะเบียนพอได้รับสัญญาณก็รีบหยิบเอกสารมาวางเรียงลงบนโต๊ะตรงกลาง   เอกสารส่วนใหญ่เป็นการบรรยายข้อกฎหมายต่างๆนานามากมาย  น้ำฟ้าฟังแล้วก็ได้แต่ฟังผ่านเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาไป...  เด็กหนุ่มประคองตัวเด็กน้อยที่เริ่มซนไม่ค่อยไหว  จึงส่งให้คุณย่าของเจ้าตัวเล็กจัดการต่อ... 


   นายทะเบียนจากแดนไกลอธิบายมาจนกระทั่งถึงขั้นตอนสุดท้ายที่ทั้งรังสิมันต์และน้ำฟ้าต้องจรดปากกาลงบนใบทะเบียนสมรสคู่กัน...   แต่ทันใดนั้นก่อนที่ทั้งสองจะได้จรดปลายปากกาลงบนกระดาษ...  เสียงเล็กๆแหลมเกินชายของคนคุ้นเคยของน้ำฟ้าก็ดังมาแต่ไกล...


“เดี๋ยวก๊อนนนนนน...  จะแต่งได้ยังไงกันครับเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวยังมากันไม่ครบเลยนะ...”  คุณหมอณัฐกานต์ตัวน้อยถลาผ่าเข้ามากลางวง...  และไม่ใช่เพียงแต่คุณหมอเด็กเท่านั้น  เบื้องหลังยังมีกลุ่มคนอีกสี่ห้าคนเดินตามมาด้วย...  นำมาก่อนด้วยคุณหมอกที่ควงม่านน้องสาวเดินเข้ามา  และด้านหลังก็มีคุณธาดากับพ่อเลี้ยงโตยธรที่เดินคุยอะไรกันมาก็ไม่รู้...


“หมอกานต์  พี่หมอก...  น้องม่าน...!  มากันได้ยังไงครับ...  คุณธาดากับคุณโตยธรด้วย...”  น้ำฟ้าส่งเสียงทักแล้วรีบลุกไปหาเพื่อนอย่างดีใจ...  ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่  เขาได้เจอกับเพื่อนแทบนับครั้งได้เลยทีเดียว...


“ก็ลูกน้องคุณรังสิมันต์น่ะสิ...  ไปตามมา...  ไม่บอกล่วงหน้าอะไรเลยนะ...  แต่งสายฟ้าแล่บขนาดนี้...  ถามจริง...ท้องก่อนแต่งรึเปล่า...”  คุณหมอกแซวอย่างคะนองปากหลังจากยกมือไหวผู้ใหญ่ที่อยู่ ณ ที่นั้นเรียบร้อย...


“พี่หมอก..!!  พูดอะไร...”


“นั่นน่ะสิพี่หมอกถามอะไรแปลก...  คู่พี่ฟ้าน่ะท้องก่อนแต่งล้านเปอเซ็นต์...  หลักฐานก็มีทนโท่ออกมาดิ้นดุกดิกจนจะขวบนึงแล้วน่ะ...  พี่ไม่เห็นเหรอ...”  ม่านพูดต่อ...


“น้องม่าน...!”  ขมวดคิ้วใส่คนพี่เสร็จก็หันมาขมวดคิ้วใส่คนน้องต่อ  “นี่จะแซวให้แก้มแตกให้ได้เลยใช่มั้ย...”


“เอ้า...  อายอะไร...  ไม่ต้องเขินหรอกน่า...  มีแต่คนกันเองทั้งนั้น...  พวกเรารู้และเข้าใจเรื่องราวของแกดี  ว่านี่น่ะคืองานแต่งแกหลังจากที่แกหอบลูกหนีไปอังกฤษตั้งหลายปี  คุณสามีเพิ่งง้อสำเร็จเลยได้แต่งกันเนี่ย...ฮ่าๆ”


“ไม่จริง !”  น้ำฟ้าตีเพื่อนดังเพี๊ยะโทษฐานแต่งชีวิตจริงคนอื่นมั่วซั่ว...  คุณหมอกานต์และคนอื่นๆเลยฮาครืน...


“ไอเพื่อน...  แต่งงานนี่ไม่คิดจะบอกกันเลยใช่มั้ย...  เอาเปรียบนี่หว่า...  แกไปกินของฟรีงานแต่งฉันได้...แต่จะห้ามไม่ให้ฉันมากินของฟรีงานแกเหรอวะ...”  โตยธรเดินมาตบไหล่เพื่อนพลางเอ่ยเย้าขำๆ...  แต่เพื่อนร่างสูงกลับปัดมือเขาทิ้งพร้อมบอก


“ถามแม่ฉันสิ...  ฉันก็เพิ่งรู้เมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วนี่แหละว่าวันนี้คืองานแต่งงานของตัวเอง...”


“ถึงงั้นก็เถอะครับ...  ยังไงพวกผมก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ...  รักกันนานๆนะ...  แล้วก็...ขอให้หนูไวโอลินโตวันโตคืน...”  คุณธาดาเอ่ยบอกรังสิมันต์พร้อมยื่นมือไปข้างหน้า   รังสิมันต์ลุกขึ้นแล้วจับมือตอบรับไมตรีพร้อมบอก...


“ขอบคุณมากครับ...คุณก็เช่นกัน...  ได้ข่าวว่า...ปีนี้จะเปิดบริษัทย่อยเพิ่มด้วยใช่มั้ย...  ขอให้กิจการรุ่งเรืองแบบนี้ทุกปีนะครับ” 


“นี่รีบมากะทันหัน  ไม่งั้นจะได้พาทีมกล้องของบริษัทมาเก็บภาพบรรยากาศให้คุณด้วยนะ...  เสร็จแล้วจะไปอัดทำเป็นอัลบั้ม  เป็นของขวัญวันแต่งงานไง...ดีมั้ยครับ...” 


“ไม่เป็นไรหรอกครับ...  แค่คุณมาแสดงความยินดี  ผมก็ขอบคุณมากแล้ว...” ชายหนุ่มตอบกลับด้วยความจริงใจ... ก่อนจะเหลือบมองไปทางน้ำฟ้าที่กำลังตื่นเต้นอยู่ในหมู่เพื่อนๆที่โผล่มาแสดงความยินดีแบบไม่ทันให้ตั้งตัว...


          คุณศิลาเป็นคนเอ่ยบอกให้เด็กๆรุ่นลูกทั้งหมดได้นั่งลงประจำที่ที่ถูกจัดเพิ่มขึ้นมาให้...  เนื่องเพราะภรรยาผู้เป็นใหญ่เร่งยิกๆเพราะกลัวจะเสียฤกษ์จดทะเบียนของลูกชายคนรอง...  คราวนี้เมื่อมีสักขีพยานพร้อมพรัก  นายทะเบียนผู้เดินทางมาไกลแสนไกลถึงได้ทำหน้าที่ของตัวเองจนสำเร็จลุล่วงไปเสียที...   


           นายทะเบียนสายเลือดเดนมาร์กสอบถามความสมัครใจและความยินยอมของทั้งน้ำฟ้าและรังสิมันต์  ว่าพร้อมที่จะอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิตหรือไม่   เมื่อทั้งคู่ตอบรับคำถามนั้นด้วยรอยยิ้ม  ...ใบทะเบียนสมรสจึงถูกเซ็นต์ชื่อข้างกันเรียบร้อย... หลังจากนั้นหนูลินก็ได้รับชื่อผู้ปกครองคนใหม่เพิ่มอีกหนึ่งคน...  และไม่รู้เป็นเพราะอะไร...  เจ้าหนูตัวจ้ำม่ำถึงได้อารมณ์ดีหัวเราะเอิ๊กอ๊ากไม่มีร้องเลยซักแอะ...แม้จะอยู่ในสถานที่ท่ามกลางคนพลุกพล่าน...  ซึ่งไม่ใช่นิสัยปกติของหนูน้อยไวโอลินเลยที่จะไม่มีงอแงใส่ผู้ปกครองแบบนี้...


          หลังจากนั้นมาคัส  ไบรอันก็ถูกนายใหญ่ของบ้านบอกให้ขึ้นไปเอาหล่องกำมะหยี่สีเลือดนกออกมา  รังสิมันต์และน้ำฟ้าถูกบอกให้นั่งลงตรงหน้าผู้ใหญ่ทั้งสอง...  เนื่องจากน้ำฟ้าไม่มีฝ่ายผู้ใหญ่เลยซักคนเดียว... คุณหญิงดารกานต์จึงดี๊ด๊าเป็นพิเศษที่จะขอเป็นผู้ปกครองฝ่าย ‘เจ้าสาว’ ด้วยตัวเอง...  ด้วยเหตุผลเพราะอยากทำหน้าที่เรียกสินสอดจากเจ้าบ่าวมานานแล้ว...  แถมยังบอกอีกว่าหากคุณศิลาและรังสิมันต์หาสินสอดมาให้หล่อนพอใจไม่ได้...  หล่อนจะไม่ยอมให้ทั้งคู่เข้าหอด้วยกัน...  และนั่นก็ทำให้รังสิมันต์กระซิบบอกบิดาว่าให้ยกบ้านทั้งหลังเป็นสินสอดให้แม่เขาไปเลย...  แต่คำตอบที่ได้ก็คือบ้านหลังนี้บิดาเขายกเป็นสินสอดขอมารดาชิงตัดหน้าเขาไปเสียแล้ว...


          หลังจากนั้นคุณศิลาจึงได้บอกให้มาคัสไปเอาหล่องที่ว่ามา...  มันมีขนาดเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าแบบไม่กว้างมากนัก...  แล้วเมื่อคุณศิลาเปิดออกมา  ด้านในก็เป็นแหวนกลมทรงผู้ชายสามวง  โดยที่หัวแหวนแต่ละวงแต่งเป็นทรงสี่เหลี่ยม  โดยตรงกลางมีกังหันเล็กๆสีทองล้อมรอบด้วยอัญมณีเม็ดเล็กสีต่างกันทั้งสามวง...   คุณศิลาหยิบแหวนวงตรงกลางขึ้นมาก่อนจะเอ่ย...


“ถ้างั้นผมจะเอาแหวนกังหันนี้เป็นสินสอด...  คุณพอใจมั้ย...”  คุณศิลาเอ่ยถามภรรยา...  คุณหญิงดารกานต์แย้มยิ้มให้ก่อนพยักหน้า


“...ฉันพอใจค่ะ...  แล้วหลังจากนี้ทรัพย์สินส่วนแบ่งต่างๆที่ฉันมี   ฉันจะแบ่งให้เธอเพิ่มด้วย  เพื่อเป็นขอโทษ...และขอบคุณ...ตกลงรับนะ...”  คุณหญิงเอ่ยบอกแล้วรวบรัดจัดการให้ในคราวเดียว... 


           คุณศิลาหัวเราะอารมณ์ดี  ก่อนจะยื่นแหวนไปให้น้ำฟ้าแล้วอธิบายว่า...


“แหวนสามวงนี้...  พ่อให้ร้านทองที่ฮ่องกงเป็นคนทำให้  เป็นแหวนกังหันที่จะช่วยพัดให้เงินไหลมาเทมา  กิจการรุ่งเรือง...  ตัวอัญมณีที่ล้อมกังหันนี้พ่อสั่งทำตามราศรีเกิดของลูกสามคน...  ของตะวันเกิดราศรีมังกร  พ่อจึงให้เขาล้อมด้วยเพชร...  เราจะแข็งแกร่งดุจเพชรนี้...  วงนี้พ่อให้น้ำฟ้าใส่ให้พี่เขานะลูก...”   พูดจบคุณศิลาจึงวางแหวนลงในมือของน้ำฟ้าแล้วเอ่ยต่อว่า  “...ส่วนวงที่จะให้ตะวันใส่ให้น้อง...  เป็นแหวนของแม่เขานะลูก...”


“ฟ้าเกิดราศีมีน...  โชคดีที่แม่มีแหวนของคุณย่าทวดอยู่  มันเป็นอความารีนน้ำงามเชียวล่ะ  สีฟ้าเข้มไร้ตำหนิ  เป็นหินตระกูลเบอริล  ตัวทองอาจจะดูเก่าหน่อยนะเพราะแหวนวงนี้อายุเยอะแล้ว...”  คุณหญิงพูดพลางขำน้อยๆ  ก่อนจะเปิดประเป๋าถือของตัวเองที่อยู่ใกล้ๆ  แล้วหยิบกล่องแหวนกำมะหยี่สีเขียวออกมา  ก่อนจะเปิดฝากล่องแล้วหยิบแหวนยื่นให้ลูกชาย...   “...แม่ให้เขาไปล้อมเพชรใหม่   แล้วก็ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว...  มันมีคุณค่าทางจิตใจกับแม่มาก  เก็บรักษาไว้ให้ดีนะฟ้า...  แม่ให้...  เอ้าตะวันรับไปใส่ให้น้องนะลูก...”  คุณหญิงดารกานต์ทอดเสียงอ่อนโยน  สายตามองน้ำฟ้าเป็นลูกชายคนที่สี่ได้อย่างสนิทใจไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้   แหวนวงนี้เรียกได้ว่าเป็นแหวนประจำตระกูลของหล่อนเลยทีเดียว...  แต่ไม่รู้ทำไม  ถึงได้อยากให้น้ำฟ้านัก... 


   ส่วนเด็กหนุ่มผมยาวเงยมองหน้าผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงโซฟา  น้ำตามาเอ่อคลอที่หน่วยตาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้  เขากระพุ่มมือยกขึ้นไหว้แล้วก้มลงกราบที่ตักของหญิงสาวที่แทนตัวเองว่า ‘แม่’ กับเขา...  น้ำฟ้าก้มลงกราบด้วยความขอบคุณและขอขมาในคราวเดียวกัน  เขาเองก็ทำอะไรไม่ดีไว้กับคนคนนี้เยอะแยะมากมายเหลือเกิน


“ฟ้าไม่ได้ยินคำว่า ‘ให้’ จากแม่มานานมากแล้วนะครับ...  ฟ้าขอโทษในทุกสิ่งที่ฟ้าเคยล่วงเกิน  ทั้งจากวาจา  และการกระทำทุกอย่าง  ฟ้าขอโทษนะครับ...แม่...”  เด็กหนุ่มเอ่ยขอขมาด้วยความจริงใจ


   คุณหญิงพยายามใจแข็งบังคับไม่ให้น้ำตาจากความซาบซึ้งใจไหลออกมาให้เปื้อนเมคอัพบนหน้า  คุณหญิงวางมือลงบนศีรษะกลมทุยแล้วสางปอยผมให้น้ำฟ้าเบาๆ  ก่อนจะเอามือเชยคางน้ำฟ้าวางบนตักแล้วเกลี่ยผมที่ยุ่งทัดหูให้...


“ฟ้าเคยบอกแม่ไม่ใช่เหรอ...  ว่าอดีตที่เลวร้ายบางทีจำไปก็ไม่ได้อะไร...  อดีตของเราสองคนมันอาจจะไม่ดี  ...แม่ก็เลยไม่จำ...  แม่ลืมมันไปหมดแล้ว...  ตอนนี้แม่รู้แค่...  สิ่งที่แม่ได้จากอดีตอันเลวร้ายพวกนั้นคือบทเรียนราคาแพง...  แพงขนาดที่ว่าแม่ต้องจ่ายด้วยลูกชายทั้งคนของแม่ไป...   แต่ว่าอีกสิ่งที่แม่ได้ทดแทนมันก็แพงพอกัน  เพราะแม่ก็ได้ลูกชายที่น่ารักเพิ่มมาอีกคนไง...  เราสองคนขอโทษกันมากเกินไปแล้ว...  เรามาเริ่มต้นกันใหม่...  ตกลงมั้ย...”  คุณหญิงแตะแก้มน้ำฟ้าด้วยสองมือ  เด็กหนุ่มพยักหน้ารับอย่างว่าง่ายแล้วยิ้มหวานจากใจให้ ‘แม่’ ใหม่อีกคน...   


   ตัวเขาเองก็ต้องเสียพี่สาวไปทั้งคนในอดีตครั้งนั้นเช่นกัน...  แต่ว่าตอนนี้เขาเองก็ได้ของแพงกลับมาไม่ต่างกัน  หรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ  เพราะเขาได้มาทั้งลูกชายที่น่ารัก...  คนที่จะมาร่วมแชร์ชีวิตที่เหลือไปด้วยกัน  แล้วแถมยังได้พ่อกับแม่ใหม่  เรียกว่าเขาได้ครอบครัวอบอุ่นครอบครัวใหม่มาทดแทนเลยทีเดียว... 


“แม่ครับจับนานเกินไปแล้ว...ปล่อยฟ้าได้แล้วนะแม่...  ผมจะได้ตีตราจองไว้ซักที...”  ชายหนุ่มเอ่ยแกล้งหงุดหงิด...  ดีใจที่แม่กับน้ำฟ้าเข้ากันได้ดี...  ดีจนมากกว่าที่คาดเอาไว้หลายเท่าเสียด้วย...  ตอนนี้แม่แทบจะลืมไปแล้วละมั้งว่ามีลูกชายอยู่อีกคนชื่ออาทิตย์และตะวัน  เพราะวันๆเอาแต่เรียกหาน้ำฟ้าไม่ได้หยุดเลยทีเดียว


“อะไรตะวัน...  ทำเป็นหวง  เชอะ...  นี่แม่อนุญาตให้แต๊ะอั๋งน้องได้วันนึงนะ...  แต่ห้ามมากกว่าจับมือนะยะ...” 


   คุณหญิงดารกานต์ขู่พลางชี้หน้าใส่ลูกชายที่ยักคิ้วกวนอารมณ์กลับ...  ชายหนุ่มยื่นมือไปคว้าเอามือของน้ำฟ้ามาจากตักมารดา...  แล้วบรรจงสวมแหวนอความารีนล้อมเพชรให้  ระหว่างทางมันมีสะดุดบ้างแต่ในที่สุดชายหนุ่มก็สวมแหวนให้น้ำฟ้าได้เรียบร้อยพอดี  เด็กหนุ่มกำลังจะชักมือกลับมายกไหว้ขอบคุณ  แต่ก็ทำไม่ได้เมื่อจู่ๆชายหนุ่มร่างสูงตรงหน้ากลับคว้ามือเขาไปบรรจงจูบที่หลังมือเสียอย่างนั้น...


“...มากกว่านี้ผมก็ทำมาแล้วนะแม่...”  เย้ยมารดาตนเองเสร็จก็ทำท่าจะเลยจากหลังมือมาเป็นข้างแก้ม  ดีที่ฝ่ามือมารดายกมาคั่นเอาไว้ทัน...


“มัวแต่แกล้งน้องอยู่นั่น จะได้ใส่แหวนมั้ยตะวัน...  เดี๋ยวแม่ก็สั่งหย่าเสียเลยลูกคนนี้...  ฟ้าแก้มแดงหมดแล้วไม่เห็นเหรอ...”  คุณหญิงออกโรงปกป้องลูกชายคนใหม่อย่างออกหน้าออกตามากจนลูกชายแท้ๆอยากจะปล้ำร่างบางๆตรงหน้านี้ให้รู้แล้วรู้รอด...  จะได้รู้ว่ามาหวงเอาตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วครับแม่...

ออฟไลน์ dek-zaal3

  • แก้วปั้ณณ์
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +534/-11
    • แก้วปั้ณณ์
   
   คุณศิลาส่ายหัวเบาๆก่อนเร่งให้รังสิมันต์ยื่นมือให้น้ำฟ้าใส่แหวนให้บ้าง...  น้ำฟ้ามือเย็นเฉียบระหว่างที่ค่อยๆบรรจงสวมแหวนให้ผู้ชายร่างสูงอีกคน...  เด็กหนุ่มรู้ตัวเลยว่าหน้าร้อนจัด  ทั้งชีวิตไม่เคยคิดเตรียมใจมาก่อนว่าซักวันหนึ่งจะต้องมาสวมแหวนให้ผู้ชายด้วยกันต่อหน้าคนรู้มากมายขนาดนี้...  แต่เพราะคนตรงหน้าคือคนที่เขาตั้งใจไว้แล้วว่าจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ดูแลกันไปตลอดชีวิต  พอคิดได้แบบนี้แล้วความเขินก็เหมือนจะลดลงไปนิดหน่อย...  จนในที่สุดเขาก็สามารถสวมแหวนเข้าไปให้นิ้วที่ใหญ่กว่าของตัวเองซักเท่าหนึ่งเห็นจะได้จนสำเร็จ...   


   และโดยไม่ทันตั้งตัว  ฝ่ามือใหญ่ข้างที่เขาเพิ่งสวมแหวนให้ก็กลับมารวบจับมือเขาไปทั้งสองมือ  เพื่อยกขึ้นประทับรอยจูบซ้ำลงที่เดิมอีกที   คนถูกจูบหน้าร้อนไปหมดก่อนยกมือตีเพี๊ยะไปบนตักคนไม่มียางอายไปที  แต่คนจูบกลับหน้านิ่งยักคิ้วใส่มารดาที่ออกอาการไม่พอใจแต่ทำอะไรไม่ได้  เลยต้องบอกให้สาวใช้ใกล้ๆเร่งพัดลมใส่ใบหน้าให้เร็วขึ้นอีกเพื่อดับอารมณ์...


“เอาล่ะๆ  ลูกสองคนก็แลกแหวนเสร็จเรียบร้อย...  ทีนี้ถึงตาหลานปู่บ้างแล้ว...  ไหนๆปู่ก็ยังไม่เคยได้รับขวัญไวโอลินเป็นจริงเป็นจังนะ...  เพราะฉะนั้นถือฤกษ์ดีของพ่อกับแม่วันนี้...  ใส่ของมงคลเป็นโซ่ทองคล้องใจพ่อกับแม่เขาเสียเลยก็แล้วกัน”  พูดแล้วคุณศิลาก็หยิบแหวนวงซ้ายหนึ่งในสองวงที่เหลือออกมาจากกล่อง   แล้วรับสร้อยทองเส้นเล็กๆจากคุณหญิงดารกานต์ที่รู้ใจยื่นให้ทันที...  “น้ำฟ้าพาหลานมาใกล้ๆพ่อที...”


   คุณศิลาเอ่ยบอกน้ำฟ้าให้รับตัวหนูลินมาจากคุณหมอณัฐกานต์แล้วพาเข้ามาใกล้  รังสิมันต์ขยับตัวเข้าไปช่วยน้ำฟ้าประคองตัวนุ่มนิ่มของหนูลินอีกคน...


“นี่เป็นแหวนของพ่อเขา...  แหวนที่พ่อตั้งใจทำไว้ให้รวี...  แต่สุดท้ายพ่อก็ไม่มีโอกาสได้ให้  เพราะฉะนั้นก็ยกให้หนูลินไว้ดูเป็นของต่างหน้าพ่อแทนแล้วกัน  รวีน่ะราศีกรกฎ  ส่วนหนูลินของปู่นี่ราศรีพฤษภ  เขาว่าใส่สีเขียวแล้วจะดีทั้งคู่...  พ่อเลยให้ล้อมด้วยเพอริดอต  เขาเชื่อกันว่าเพอริดอตหรือเขียวส่องนี่  จะช่วยฟื้นฟูความสัมพันธ์ที่ร้าวฉานให้ดีขึ้น  ช่วยปลดปล่อยความโกรธแค้น อิจฉาริษยา  และจะช่วยปกป้องคุ้มครองภัยให้แก่เจ้าของยามนอนหลับ  ไม่ให้ฝันร้ายอีกด้วย...  ไวโอลินยังใส่ไม่ได้พ่อเลยจะร้อยใส่สร้อยให้หลานห้อยคอไว้...  อย่าซนจนดึงหลุดนะหลานปู่...”  คนกลายเป็นปู่ยิ้มอารมณ์ดีก่อนเอ่ยอวยชัยให้พรไปอีกหลายคำแล้วค่อยๆสวมสร้อยไว้ที่คอให้เจ้าตัวเล็ก   หนูลินครางฮือเมื่อมีของไม่คุ้นชินเข้ามาอยูบนร่างกาย...  แต่ก็ไม่ได้ร้องไห้งอแง  เพียงแต่ส่งเสียงครางอืออาแล้วพยายามจะหยิบตัวแหวนเข้าปากมาให้ได้...


   รังสิมันต์จูบกระหม่อมลูกชายไปที  แล้วก็ตามด้วยน้ำฟ้าที่ก้มหอมแก้มตามไปอีกที...  หนูลินกรี๊ดวี๊ดว้ายเขินยกใหญ่...  นิ้มอวดไรฟันหน้าสองซี่ที่กำลังงอกขึ้นมาให้ทุกคนดู...  ก่อนจะก้มหลบเข้าอกคุณแม่ด้วยทีท่าที่ดูว่าเจ้าตัวเล็กคงจะเขินเอาจริงๆ


   บรรยากาศงานวิวาห์วันสุขจึงเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะครื้นเครงจากคนหลายวัย...  น้ำทีมโดยเจ้าตัวน้อยพุงกลมที่นับวันก็ยิ่งเติบโตขึ้นมาอย่างแข็งแรง  ฉายแววเป็นเด็กสดใสและอยากรู้อยากซนให้ได้เห็นกันตั้งแต่เด็ก  จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ใครๆก็ดูจะหลงรักเด็กน้อยตัวอ้วนกลมคนนี้กันหมดทั้งบ้าน...


-------------------------------------------------------------------------


“ฟ้า...  เมื่อกี๊มาคัสมาบอกว่า...  จะขอลาพักร้อนไปบ้านพ่อตาแม่ยายซักอาทิตย์...”


“...หมอกานต์จะพาฝรั่งขึ้นดอยจริงๆเหรอเนี่ย...”  น้ำฟ้าพึมพำเบาๆหลังจากได้ยินรังสิมันต์เอ่ยบอก  มือบางขยับนวดขมับให้ผู้ชายร่างสูงที่นั่งชันเข่าอยู่บนพื้นแล้วเอนหัวพิงขาให้เขานวดสบายใจ...  น้ำฟ้าต้องนั่งบนเตียงเพราะความสูงของช่วงตัวที่ค่อนข้างต่างกันมากอยู่...  มือใหญ่เอื้อมหลังมาโอบเอวเขาไว้พลางไซร้ศีรษะไปมายามหามุมที่สบายให้เขานวดไหล่นวดคอให้ต่อ


          เขาสองคนเพิ่งผ่านพิธีการ ‘เข้าหอ’ ตามประเพณีมาเมื่อครู่สดๆร้อนๆ  แม้ไม่ได้มีการโปรยกลีบกุหลาบหวานหยดหรือตกแต่งเตียงให้อลังการอะไร  แต่เพียงแค่ได้รับพรจากพ่อกับแม่  และนอนคู่กันบนเตียงให้ครบตามประเพณีแค่นั้นก็เพียงพอแล้วสำหรับพวกเขาสองคน...


“ว่าอะไรนะ...  ใครจะขึ้นดอย...  ฟ้าอยากไปฮันนีมูนบนดอยเหรอ...”  รังสิมันต์เอ่ยย้อนถามเมื่อได้ยินน้ำฟ้าพูดไม่ถนัด...  ฝ่ายเด็กหนุ่มที่กำลังนวดมาถึงใบหูพอดีก็ถือโอกาสดึงลงแรงๆซักทีด้วยความหมั่นเขี้ยวก่อนตอบ...


“มีแฟนบ้างานอย่างคุณ...  ฟ้าคงจะมีช่วงเวลาฉันนีมูนเหมือนกับคนอื่นเขาหรอกนะ...”  เด็กหนุ่มย่นจมูกพลางตอบ  “ฟ้าหมายถึงคุณมาคัสต่างหาก...  เขารู้รึเปล่าว่าบ้านหมอกานต์น่ะอยู่บนดอยอ่างขาง...  ครั้งล่าสุดที่ผมไปถนนยังตัดเข้าไม่ถึงเลยนะ...  แล้วฝรั่งหรูหราอย่างลูกน้องคุณเขาจะไปไหวเหรอ”  เด็กหนุ่มถามต่อด้วยความเป็นห่วงฝรั่งตัวโตคนนั้นจริงๆ


   รังสิมันต์พลิกร่างหันเข้าหาน้ำฟ้าแล้วดึงร่างอีกคนให้ลงมานั่งตักที่พื้นด้วยกัน  แล้วอ้อมมือสวมกอดเอวไว้หลวมๆ


“อืม...  ไม่รู้สิ  คงไหวมั้ง...  แต่พี่ได้ยินว่าไม่ได้ไปกันแค่สองคนนี่  คุณธาดากับคุณหมอกเขาก็ไปด้วยนะ  บอกว่าจะไปเก็บภาพบรรยากาศบนดอยมาลงคอลัมน์ท่องเที่ยวน่ะ...”


“โห...ได้ยินอย่างนี้แล้วอยากจะไปขึ้นมาบ้างจัง...  ครั้งที่แล้วไปวังน้ำเขียวยังไม่ได้เที่ยวไหนเลย...  มัวแต่ไปทะเลาะกับคนบ้ากาม  แล้วก็โดนกักขังหน่วงเหนี่ยวจนไม่ได้ชมธรรมชาติอะไรเลย...  น่าเสียดายจะตายไป...”  กระทบแล้วแอบกระเซ้าเสร็จก็แลบลิ้นใส่คนบ้ากามที่ว่าไปเสียที  ผลก็คือเด็กหนุ่มต้องโดนอีกคนทำโทษด้วยปากโทษฐานเอาวัตถุไม่ต้องประสงค์มาชี้หน้าใส่...


“ถ้าเสียดายขนาดนั้นเดี๋ยวพี่เคลียร์งานให้ว่างแล้วขับรถพาไปเที่ยวทั้งครอบครัวชดเชยให้เอามั้ยล่ะ...  กลับไปย้อนรำลึกความหลังครั้งวันวานกันที่บ้านพักกลางป่า...ดีรึเปล่า...”  ชายหนุ่มยิ้มกลุ้มกริ่มใส่คนตัวบาง  มือที่สอดกอดเอวไว้ด้านหลังก็เริ่มลูบเป็นวงไปมาไม่ได้หยุด  เลยโดนคนกำลังจะเสียเปรียบด่าว่าไปบ้าไปคำหนึ่ง...  แต่ดูเหมือนรังสิมันต์จะไม่เข็ด  ยังคงพยายามหยอดคำหวานใส่น้ำฟ้าต่อไป  “...บ้าอะไร...  ครั้งที่แล้วเธอไม่สบาย  ฉันเลยออมมือให้  ยังกินไม่อิ่มเลยนะ...”  ไม่พูดเปล่ายังอุตส่าห์ก้มไปดอมดมผิวแก้มเนียนระเรื่ออมส้มของอีกคนให้เห็นชัดๆอีก  ว่าเขากำลังมีอาการหิวกำเริบ  อยากกินขนมหวานตัวแดงในอ้อมกอดจริงๆนะ...


“บ้า ! ...ขนาดออมมือให้ฟ้ายังไข้ขึ้นไปหลายวัน  แล้วนี่ถ้าไม่ออมมือพรุ่งนี้เช้าฟ้าคงเละเป็นโจ๊กแน่...  ไม่เอาแล้ว...ฟ้าไปนอนกับแม่แล้วก็หนูลินดีกว่า...  อยู่ตรงนี้มีแต่จะเสียเปรียบคนเจ้าเล่ห์”  ย่นจมูกน่ารักใส่ไปทีแล้วก็ลุกขึ้นยืนพรึ่บ  หันหลังเตรียมจะเดินออกไปจริงๆแต่ไม่รู้อีกคนลุกตามขึ้นมาตอนไหน  ท่อนแขนใหญ่ถึงได้ตวัดเข้าราวเอวแล้วอุ้มเขาขึ้นวงแขนมาได้อย่างง่ายดาย...   แล้วพาเดินกลับมาที่เตียงนอน...


“ไม่ได้ยินที่พ่อบอกรึไง...  คืนแรกของการแต่งงาน  เขาห้ามคู่บ่าวสาวออกจากห้องหอเด็ดขาดจนกว่าจะเช้า  ไม่งั้นชีวิตคู่จะอยู่กันไม่ยืดนะ  จำไม่ได้เหรอ...  เอาล่ะ... ว่าแล้วก็เข้าหอกันจริงๆจังๆเสียทีดีกว่า...  ตามเสต็ปแล้ว  เจ้าบ่าวต้องอุ้มเจ้าสาวไว้แบบนี้แล้วก็จับโยนลงบนเตียง  จัดการขึงพืด  เสร็จแล้วก็...ปล้ำ...” 


“ไม่...ไม่เอานะ...ฟ้ากลัวนะพี่ตะวัน...!  พี่ตะวันปล่อยเลย...ฟ้าไม่เอาจริงๆนะ...”  เด็กหนุ่มดิ้นถีบขาหนีเป็นพัลวันเมื่อเริ่มรู้สึกตัวว่ากำลังจะเริ่มเสต็ปแรกด้วยการถูกจับโยนลงบนเตียง...


   แต่ทว่าดิ้นไปครู่ใหญ่สิ่งที่สัมผัสได้ก็มีเพียงการวางร่างเขาลงบนเตียงอย่างนุ่มนวล  ก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะตามลงมานอนเคียงกัน  ไม่มีการขึงพืดอย่างที่กลัว  และไม่มีท่าทีว่าจะเกิดการปล้ำเป็นสเต็ปสุดท้ายแต่อย่างใด...


“พี่ไม่ใช่สามีที่ชอบปล้ำภรรยาตัวเองหรอกนะ...  ถ้าเขาสมยอม...  แต่ถ้าไม่สมยอมแบบนี้ล่ะก็...”  ชายหนุ่มลากปลายเสียงยาวๆให้อีกคนใจสั่นเล่น  ก่อนจะโฉบริมฝีปากใส่ข้างแก้มจนน้ำฟ้าหลับตาปี๋หันหนีทันที   แต่เขาก็โดนเพียงรอยจุมพิตแผ่วเบาที่ข้างแก้มเท่านั้น...  จากนั้นจึงได้ยินเสียงหัวเราะแผ่วเบาแว่วมาจากเจ้าบ่าวป้ายแดงของตัวเอง... 


“ฟ้าไม่ขำนะพี่ตะวัน...  ฟ้ากลัวจริงๆนะ  พี่ตะวันตอนนั้นน่ะน่ากลัวมากเลย...  ฟ้าพูดอะไรไปพี่ก็ไม่ฟังซักนิด...  ฟ้าก็เลย...กลัว...”  เด็กหนุ่มสารภาพเสียงอ่อย  ตั้งใจว่าคืนนี้จะยอมพูดทุกอย่างที่อยากพูดให้อีกคนได้รับรู้


“ฟ้าจะไม่มีวันได้เจอนายรังสิมันต์คนนั้นอีกแล้ว...  ฟ้าจะได้เจอก็แค่...พี่ตะวัน...ที่รักฟ้า  และจะทะนุถนอมฟ้า...ไปตลอดชีวิต...” 


   น้ำฟ้าพูดอะไรไม่ออกเมื่อเจอคำพูดคล้ายคำมั่นสัญญานั่น   ไหนๆเขาก็ยอมฝากชีวิตที่เหลือไว้ในมืออีกคนเรียบร้อยแล้ว...  ก็คงจะไม่ผิดอะไรที่เขาก็คงจะต้องยอมเปิดใจตามใจพี่เขาบ้าง   


   ปลายนิ้วเรียวยาวยกขึ้นลูบไปตามไรเครา  แล้วเลยไปที่บริเวณแผงอกแกร่งใต้ชุดคลุมอาบน้ำ  ไรขนอุยอ่อนๆตรงหน้าอกเผยความเซ็กซี่ของลูกผู้ชายออกมาอย่างชัดเจน...  อาฟเตอร์เชฟกลิ่นเดียวกันแท้ๆ  แต่ทำไมกลิ่นของอีกคนถึงได้รู้สึกว่ามันช่างเย้ายวนต่างจากของเขาแบบนี้นะ...   พอลูบตรงแผงอกเล่นจนพอใจแล้วเจ้าฟ้าก็เงยหน้าขึ้นยิ้มใส่นัยน์ตาคนที่พลิกมานอนคว่ำคล่อมเขาอยู่ด้านบนแล้วเอ่ยถาม...


“พี่ตะวัน... ทำไมกล้ามเนื้อของพี่ตะวันถึงได้ต่างกับของฟ้าล่ะ  ทั้งๆที่ฟ้าก็ยกของหนักอย่างหนูลินทุกวันนะ  แต่ไม่เห็นมีกล้ามขึ้นอย่างพี่เลย...” 


“โธ่ที่รัก...พี่ไม่ชอบแฟนก้ามปูเหมือนกันหรอกนะ...  ฟ้าตัวบาง นุ่มนิ่มน่ากอดน่ารัดไปทั้งตัวแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว...”  ชายหนุ่มเอ่ยบอกเอาใจ  เขาหายใจเข้าออกยาวๆเพื่อข่มกลั้นอารมณ์พลุ้งพล่านที่เกิดจากการยั่วยวนแบบไม่รู้ตัวของอีกคนอย่างสุดชีวิต   เขาพยายามกลั้นหายใจอดทนรอให้อีกฝ่ายได้สมรวจร่างกายเขาเล่นอย่างสบายใจก่อน...  หลังจากนั้นถึงจะเป็นทีของเขาที่ได้สำรวจกันบ้างล่ะ...   


“ฟ้าชอบนิ้วพี่ตะวันจัง...  มันใหญ่แล้วแข็งแรงมากด้วย...  ฟ้าชอบเวลาที่ได้อยู่ในอ้อมแขนพี่แบบนี้กับลูก  มันจะรู้สึกปลอดภัยยังไงบอกไม่ถูก...” 


“...ฟ้าปลอดภัยก็ดีแล้ว...  แต่ถ้าฟ้ายังไม่หยุดลูบแบบนี้ฟ้าจะไม่ปลอดภับเข้าจริงๆแล้วนะ...  เพราะพี่อาจจะทนต่อไปไม่ไหวอีก...” 


“...ก็ !...  ก็...ฟ้า...ยังไม่พร้อมนี่นา...ฟ้าเขิน  แล้วก็อายมากด้วย...  ฟ้า...อื๊ม !” 


   แล้วคนที่เส้นความอดทนขาดสะบั้นลงจนได้ก็ประกบปิดปากช่างต่อรองนั่นจนแน่น...  อีกคนมีอาการขืนแรงต่อต้านเล็กน้อยในช่วงแรก  ก่อนจะเริ่มผ่อนคลายลงแล้วโอนอ่อนผ่อนตามเขาในที่สุด...  เด็กหนุ่มพยายามเรียนรู้ที่จะยอมปรับตัวรับอีกคนเข้ามาในชีวิต  ยอมผ่อนหนักผ่อนเบาและเชื่อฟังคำสอนของคนมีประสบการณ์มากกว่า...  และน้ำฟ้าก็พบว่าความสุขที่ปลายทางมันช่างสว่างสดใสเพียงใด  เมื่อเขายอมปรับตัวเข้าหาคนรักและเดินทางไปหาจุดสุดท้ายของความสุขด้วยกัน...


   และในตอนที่น้ำฟ้ากำลังงัวเงียและต่อต้านการเริ่มยกที่สองของชายหนุ่มนั่นเอง  ที่ประตูบางหนาค่อยๆแง้มออกมาแผ่วเบา   ก่อนจะเผยร่างสิ่งมีชีวิตเล็กๆบนพื้นที่ค่อยๆคลานกระดื้บประสาคนที่มือและเท้ายังไม่ค่อยสัมพันธ์กันนัก  แสงเงาที่ตกกระทบสิ่งมีชีวิตชนิดนั้นเผยให้เห็นว่ามีขนาดใหญ่กว่าความเป็นจริง  แล้วเมื่อสิ่งมีชีวิตที่คลานได้เริ่มส่งเสียงร้องออกมาว่า...


“...มา...แม่~   ปะ...ป่ะ...  ป๊าาา...  ป๊อ~  ป่อ...  เฮ่ะ...เฮ่ะๆ...”


“เอ๊ะ...สะ...เสียง...หนูลิน...”  เสียงพูดแผ่วเบาของน้ำฟ้าที่นอนตัวอ่อนระทวยงึมงำขึ้นตามสัญชาตญาณเมื่อได้ยินเสียงลูกเรียก...


“...งานนี้ไม่ต้องหาต้นตอเลยว่าใครปล่อยเข้ามา...  แม่ !  มีแม่คนเดียวเท่านั้นแหละ...  ที่อยากให้คืนเข้าหอของลูกชายตัวเองล่มไม่เป็นท่าแบบนี้...!!”  ถึงจะบ่นไปเรื่อย  แต่ชายหนุ่มก็ต้องตัดใจลุกออกมาจากร่างหอมหวานชวนกลืนไปทั้งตัวของน้ำฟ้าไปที่หมูน้อยตัวกลมบนพื้น  แล้วช้อนอุ้มมือเดียวขึ้นมาพาดบ่าแล้วชี้หน้าบอกอย่างอดรนทนไม่ไหว...


“ถ้าจะอยู่กับพ่อแม่คืนนี้  ลูกไปนอนในกระบะเด็กอ่อนเลยนะ...  วันนี้ไม่มีที่ว่างบนเตียงให้หนูหนึ่งคืน...  ตกลงมั้ยครับ...”  แทนที่จะได้รับการพยักหน้าเป็นการตอบรับ  เขากลับได้รับฟันคมๆของหนูลินที่งับลงบนนิ้วอย่างเมามันแทน  เพราะนึกว่าเป็นของเล่นยางชิ้นใหม่...  แหม...กำลังมันเขี้ยวเลยฮิๆ... 


“หนูลิน !!  ถ้าอยากได้น้องก็ต้องอดทน...  เข้าใจมั้ยครับ...  พ่อก็พยายามอดทน  แม่เขาก็อดทนอยู่...  หนูจะมากวนเวลานี้ไม่ได้นะรู้มั้ย...  นี่มันคืนเข้าหอของพ่อกับแม่นะหนูเข้าใจรึเปล่า...”


“ลูก...ลูกไม่เข้าใจหรอกคุณ...  หนูลิน...ยังไม่...ครบขวบเลยนะ...”  น้ำฟ้าเอ่ยตะกุกตะกักเพราะยังปรับลมหายใจได้ไม่คงที่นัก...  นึกดีใจอยู่ลึกๆที่หนูลินถูกส่งเข้ามาก่อกวนได้ถูกจังหวะมาก...  ไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้เขาคงได้เละเป็นโจ๊กไปจริงๆแน่... 


“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ...  ไม่เป็นไร  หนูลินครบขวบแล้วเข้าใจเมื่อไหร่...  พี่จะคิดบัญชีคืนรวบยอดทบต้นให้หมดในคืนวันเกิดลูกเลยคอยดู !”


   น้ำฟ้าตัวกระตุกวูบ...  นึกว่าเรื่องแบบนี้จะจบลงแค่ที่คืนวันส่งตัวเข้าหอนี่เสียอีก...  นี่กระทั่งลูกโตแล้วเขาก็ยังไม่หมดเคราะห์หมดโศกอีกหรือเนี่ย... 


   นี่มันเวรกรรมของอะไรของคุณแม่ป้ายแดงอย่างน้ำฟ้ากันเนี่ย ! 


--------------------------------------------    ---- - ----     -- --     - --             --                -         




จบ. จ่ะ ^^

ออฟไลน์ wan_sugi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
 :z13: จิ้มเพราะรักก่อนอ่าน  :กอด1:

ออฟไลน์ parn11

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-2
มาแล้วตอนพิเศษที่รอคอยยยยย

ออฟไลน์ dek-zaal3

  • แก้วปั้ณณ์
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +534/-11
    • แก้วปั้ณณ์
:z13:  จิ้มกลับ~  มาไวจริงๆ  ห้าห้าห้า

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
" ฟ้าชอบเวลาที่ได้อยู่ในอ้อมแขนพี่แบบนี้" แหม คุณแม่น้ำฟ้า 555555555555

honeystar

  • บุคคลทั่วไป
หนูลินน่ารักกกกกก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด