เรื่องเล่าสบายๆ ของผู้ชายสองคน - คืนวันศุกร์ [ ศุกร์นี้มีนัด]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องเล่าสบายๆ ของผู้ชายสองคน - คืนวันศุกร์ [ ศุกร์นี้มีนัด]  (อ่าน 105673 ครั้ง)

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
ความเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้เกิดเรื่องเศร้ารึป่าวน๊า  :m17:

aumzaa

  • บุคคลทั่วไป





    พออ่านแล้วรู้สึก    มันเหงาๆๆในใจมัน....


   แต่ก็ดูอบอุ่นดีนะครับ.....


  แต่ จีน  น่ารักอะครับ


 :laugh3: :laugh3: :laugh3:


  รอตอนต่อปายครับผม

gobgab

  • บุคคลทั่วไป

.........."เป็นแค่เพียงคนของความเหงา ไม่ได้เป็นคนของความรัก"......... o7 o7

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
เผลอใจ หวั่นไหวไปแล้วล่ะสิ  :m1: :m1:

ออฟไลน์ ~ScAreD:SAcreD~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1811
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-2
โผล่มาอีกที ก็ผ่านไปอีก 2 ศุกร์เหงาๆ แต่อบอุ่น

ชอบเรื่องประมาณนี้อ่ะ บักโจ้ มาต่อเร็วๆนะ

 :m4:  :m4:  :m4:


ปล. ชื่อเรื่องมันยังศุกร์ที่ 1 อยู่เลยอ่ะ  :m26: แอบมาบอกนะเนี่ย เปลี่ยนเต๊อะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-08-2007 18:06:17 โดย ~ScAreD:SAcreD~ »

NewcoolstaR

  • บุคคลทั่วไป
 o1 พรุ่งจะมาอ่านให้นะน้องโจ้...งานยุ่งมาก  กลางคืนออนมือถือไม่สะดวกอ่าน....อย่าพึ่งงอลนะ :m5:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
ยังไมมาต่ออีกเรอะ?

 :m21:

Jingjoh

  • บุคคลทั่วไป
อืม เริ่มสับสนกับตัวเองแล้ว
บางทีอะไรที่ไม่ชัดเจน ก็ไม่รู้ว่าควรจะสุขหรือทุกข์กับมันดี  :a1:  :a1:  :a1:

เราควรเลือกที่จะสุขดีกว่าใช่มั๊ยครับทิพย์


จะเศร้าแล้วใช่ไหม.....

กำลังจะเศร้าแล้วใช่ไหม.....

เค้าจะได้เตรียมหาผ้ามาไว้ซับน้ำตา......

 :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2:

ไม่ต้องเตรียมผ้าไว้ซับน้ำตาหรอกครับ แค่เตรียมใจไว้พร้อมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นก็พอแล้วครับ

อ่านแล้วยังเหงาอยู่เลย  :เฮ้อ: หนุ่มก็อย่าเพิ่งไปเทใจให้ยีนมากนักนะ เด๋วเสียใจขึ้นมา
แล้วเราจะต้องเสียน้ำตาไปด้วย

ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้หนุ่มนะครับ น้ำค้าง

ชอบมากๆครับ ชอบการดำเนินเรื่องมากๆเลย อ่านแล้วสบายใจเพลินดี จะรออ่านตอนต่อไปนะครับ

ดีใจนะครับที่คุณ AriAddne ชอบ คนเขียนกับคนโพสท์ มีกำลังใจขึ้นอีกเยอะเลยครับ

:impress:

บางที ทำอะไรที่เร็วเกินไป มันก็ส่งผลเสียต่อเรานะ

แน่ใจในตัวเองก่อนนะคับ

ขอบคุณนะครับที่มาต่อ

รออ่านต่อไปครับ

 o15

มาต่อให้แล้วนะครับ zandwizz คุณคือแฟนพันธ์แท้

เจ้อ่านจบแล้วนะเคอะน้องโจ้

แต่ยังไม่เม้นต์นะ  ขอนอนก่อน  วันนี้เจ้เหนื่อยและง่วงมาก  แต่ก้มาอ่านเรื่องที่โจ้โพสต์ก่อน

เจ้ชอบนะ  อ่านแล้วเบาๆ สบายดี  เนื้อเรื่องเดินไปช้าๆ แต่ไม่ยืดยาด  มีความก้าวหน้าในทุกบรรทัด

มีเหตุการณ์ที่ชวนติดตาม  คนเขียนทำได้ดีในส่วนนี้เคอะ  เจ้ขอชม

วันี้เอาเฉพาะคำชมไปก่อนนะ  ส่วนคำติค่อยมาเอาวันหลัง  อิอิ

แล้วจะหนาววววววววววววววววววววววว

ได้คำชมจากเจ้สองเนี่ยเป็นปลื้มสุดๆ เลยครับ
รอคำตินะครับ

เหงา.........เหงา.........แต่ในความเหงามันมีความสุขเล็กๆอ่ะ :undecided:
ชอบมากมายครับ เรื่องนี้
สู้ๆน้า..........................
ขอบคุณโจ้ที่เอาเรื่องนี้มาลงนะครับ :m18:

โจ้ทำให้เพื่อนๆ มีความสุข (ปนเหงาเล็กๆ) ก็ดีใจแล้วครับ
ขอบคุณ sunshine ที่เข้ามาให้กำลังใจนะครับ

อ่านยังไม่จบ   :m17:
เด๋วรอว่างกว่านี้จะมาอ่านนะโจ้ที่ร้ากก

มาเป็นกำลังใจให้ก่อนจ้า สู้ๆ  :a2:

ได้จ้าพิมพ์ รู้ว่าพิมพ์งานเยอะ
แค่พิมพ์แวะเข้ามาทักทายกันโจ้ก็ดีใจแล้วครับ
เป็นกำลังใจให้นะ

ความเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้เกิดเรื่องเศร้ารึป่าวน๊า  :m17:

อันนี้ต้องลองอ่านต่อไปนะครับหนึ่ง


    พออ่านแล้วรู้สึก    มันเหงาๆๆในใจมัน....


   แต่ก็ดูอบอุ่นดีนะครับ.....


  แต่ จีน  น่ารักอะครับ


 :laugh3: :laugh3: :laugh3:


  รอตอนต่อปายครับผม

ทั้งเหงา ทั้งอบอุ่น ต้องยกความดีความชอบให้คนแต่งครับ 


.........."เป็นแค่เพียงคนของความเหงา ไม่ได้เป็นคนของความรัก"......... o7 o7


คอมเม้นท์เด็ดๆ ของถุงกลับมาแล้ว ดีใจจังครับ

เผลอใจ หวั่นไหวไปแล้วล่ะสิ  :m1: :m1:

ถ้าเจอคนอย่างจีน โจ้ก็คงหวั่นไหวเหมือนกัน

โผล่มาอีกที ก็ผ่านไปอีก 2 ศุกร์เหงาๆ แต่อบอุ่น

ชอบเรื่องประมาณนี้อ่ะ บักโจ้ มาต่อเร็วๆนะ

 :m4:  :m4:  :m4:


ปล. ชื่อเรื่องมันยังศุกร์ที่ 1 อยู่เลยอ่ะ  :m26: แอบมาบอกนะเนี่ย เปลี่ยนเต๊อะ

มาต่อให้แล้วนะครับเฮีย แล้วเมื่อไหร่เฮียจะมาต่อเรื่องของเฮียบ้างอ่ะครับ
มันต้องไปเปลี่ยนที่กระทู้แรกเลยใช่มั๊ยครับ เพราะที่จริงเวลาโจ้โพสตอนใหม่ โจ้ก็เปลี่ยนชื่อแล้วนะครับ

o1 พรุ่งจะมาอ่านให้นะน้องโจ้...งานยุ่งมาก  กลางคืนออนมือถือไม่สะดวกอ่าน....อย่าพึ่งงอลนะ :m5:

พี่แสบยุ่งจริงอ่ะ เห็นเข้าออกกระทู้นั้นกระทู้นี้ เป็นว่าเล่น ชิส์

ยังไมมาต่ออีกเรอะ?

 :m21:

มาแล้วนะครับ เจ้
แต่ยังไม่เห็นได้คำติจากเจ้เลยอ่ะครับ
รออยู่นะครับ


Jingjoh

  • บุคคลทั่วไป
ศุกร์ที่ 4

                ป้ายริมถนนด้านซ้ายมือเขียนคำว่า ‘เทเวศร์’

                “วันนี้รถติดจัง” เขาพูดขึ้นมาในขณะที่สองมือยังคงจับพวงมาลัย ผมมองออกไปข้างหน้าเห็นไฟสีแดงเป็นระนาว
                “น่าเบื่อนะเวลาที่รถติดเป็นเวลานานเนี่ย” เขาพูดขึ้นมาอีกครั้ง
                “ครับ” ผมแสดงความคิดเห็น แต่ดูเหมือนเป็นการทำให้เขาเงียบลงแทน
                “แล้ววันนี้เราจะออกไปไหนกัน” ผมถามเพื่อสร้างประเด็นมากกว่าที่อยากจะรู้
                “ไปเดินเล่นนะ” เขาตอบ

                เย็นวันนี้ผมเดินไปที่ร้านบ้านไร่เหมือนเช่นเคย แต่ก่อนที่จะผลักประตูเข้าไปในร้าน เสียงของจีนก็ตะโกนเรียกชื่อผมอยู่ด้านหลัง ผมหันหลังไปจึงพบเขายืนอยู่ใต้ต้นไม้ข้างลานจอดรถ เขาแต่งตัวด้วยเสื้อเชิ๊ตสีขาวผูกเนคไทสีดำ กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าหนัง สวมแว่นกันแดดสีดำ เขาพาผมขึ้นรถยนต์คันสีดำที่จอดอยู่ใต้ต้นไม้
               
                 ผมไม่ค่อยใส่ใจสักเท่าไหร่นักว่าเขาจะพาผมไปไหน เพราะตอนนี้ผมค่อนข้างเชื่อใจว่าเขาเป็นคนดี หรืออย่างน้อยถ้าเขาจะลวงผมไปฆ่าหมกศพ ก็คงเป็นโชคดีของผมที่โดนฆ่าตัวชายหนุ่มหน้าตาดี

                “คิดอะไรอยู่” จู่ๆ เขาก็ถามขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
                “เปล่าๆ” ผมปฏิเสธ
                “ปรกตินายฟังเพลงแนวไหน” เขาถามทั้งที่ยังมองถนนหนทางข้างหน้า
                “เราไม่ค่อยเลือกแนวหรอก ฟังได้หมด”
                “ลองเลือกเอาสักเพลงแล้วกันนะ เรากำลังใช้สมาธิในการขับรถ” เขาเอื้อมแขนไปข้างหลังเบาะ แล้วคว้านหาอะไรสักอย่าง
                “เราหาเองก็ได้” ผมพูดพร้อมกับยื่นแขนไปที่เบาะด้านหลังของเขา เขาดึงแขนของตัวเองกลับไปจับพวงมาลัยต่อ ผมหยิบแผ่นซีดีที่อยู่แถวนั้นขึ้นมาอ่านทีละแผ่น จนกระทั่งแผ่นหนึ่งเขียนว่า ‘เพลงชอบ – เสือ’ ผมเกิดความอยากรู้จึงหยิบมาใส่เครื่องเล่นซีดี เมื่อกดเล่นได้สักพักเสียงเปียโนก็ดังขึ้นมาอย่างวังเวงก่อนเสียงนักร้องหญิงจะร้องตามออกมา

Spend all your time waiting for that second chance
For the break that will make it OK
There's always some reason to feel not good enough
And it's hard at the end of the day
I need some distraction or a beautiful release
Memories seep from my veins
Let me be empty and weightless and maybe
I'll find some peace tonight

                “เพลงนี้ชื่อเพลง Angel ใช่ไหม เราชอบเพลงนี้มากเลยรู้ไหม?” ผมพูดพร้อมกับหันหน้าไปมองเขา แต่ต้องตกใจเมื่อพบว่าเขากำลังร้องไห้
                “นายเป็นอะไรหรือเปล่า” ผมถามด้วยความเป็นห่วง
                “เปล่า ฝุ่นคงเข้าตาละมั้ง” เขาตอบด้วยเสียงสะอื้น
                 “ฝุ่นบ้าอะไรจะปลิวเข้ามาในรถยนต์” ผมพูดเสียงดัง เขาหันมามองหน้าผมด้วยด้วยดวงตาที่แดงก่ำ ผมสบตากับเขาเป็นเวลานานพอสมควรก่อนที่เขาจะหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง เขาหันหน้ากลับไปมองถนนอีกครั้ง
                “นายหัวเราะอะไร?” ผมสงสัย
                “ฝุ่นบ้าอะไรปลิวเข้ามาในรถยนต์” เขาทวนคำพูดของผมอีกครั้งด้วยความตลก ผมมองหน้าเขาด้วยความงุงงง
                “ถึงแล้ว” เขาพูดพร้อมกับจอดรถ

               ผมก้าวเท้าลงจากรถเดินตรงเข้าไปเบื้องหน้าซึ่งเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อเงยหน้ามองขึ้นไปมองก็เห็นสะพานพระรามแปดในยามค่ำคืน

                “อากาศดีไหมละ” เขาเดินเข้ามาใกล้
                “ขึ้นไปข้างบนสะพานกันเถอะ” เขาชวนพร้อมกับหันหลังเดินขึ้นบันไดไปอย่างช้าๆ ผมไม่รอช้าเดินตามหลังเขาขึ้นไป

                บนสะพานมีรถวิ่งไปมาไม่ขาดสาย แสงไฟจากหลอดไฟข้างทางส่องสว่างชวนให้บรรยากาศของค่ำคืนนี้สวยงามขึ้น สายลมพัดพาเอาความชื้นจากแม่น้ำเจ้าพระยาขึ้นมากระทบใบหน้าของผมจนรู้สึกเย็นสบาย

                “ปรกติเรามักจะมาเดินเล่นที่นี้ เวลาที่มีเรื่องไม่สบายใจนะ” เขาพูดพร้อมกับก้าวเท้าเดินไปอย่างช้าๆ
                “แปลว่าวันนี้นายมีเรื่องไม่สบายใจเหรอ”
                “ครับผม”
                “พอจะเล่าให้เราฟังหรือเปล่า” ผมเข้าไปเดินข้างเขาแล้วหันหน้าไปถาม เขาเดินต่อไปเรื่อยๆโดยไม่พูดอะไรออกมา ผมมองหน้าตาที่ปราศจากรอยยิ้มของเขาเพื่อหวังว่าเขาจะพูดอะไรออกมาบ้าง
                “ถ้านายไม่สบายใจไม่ต้องเล่าก็ได้” ผมพูดพร้อมกับหันหน้าไปมองแม่น้ำเจ้าพระยา
                “รู้ไหมว่าเวลาที่เราไม่สบายใจเราจะทำยังไง” ผมพูดแล้วหันหน้าไปมองเขา
                “ทำยังไงละ”
                “เวลาที่เราไม่สบายใจเราก็จะเดินไปพร้อมกับฮัมเพลงไปเรื่อยๆ เขาบอกกันว่าเสียงเพลงสามารถช่วยลดความเครียดได้” เขาฟังอย่างเงียบๆ แล้วหยุดยืนตรงกลางสะพานหันหน้าไปทางแม่น้ำเจ้าพระยา
                “ถ้านายมีอะไรไม่สบายใจก็ระบายกับเราได้นะ” ผมถามย้ำอีกครั้งหนึ่ง แต่เขาก็ยังไม่พูดอะไรออกมา
                “ไม่เป็นไรหรอกถ้านายไม่อยากเล่าให้เราฟัง คนเรามักคิดว่าปัญหาของตัวเองยุ่งยากเสมอ จนลืมคิดไปว่ายังมีคนอื่นอีกมากมายที่มีปัญหามากกว่าตัวเราเอง” เมื่อผมพูดจบเขาก็หันหน้ามามองผม
                “นายจะทำยังไงถ้าคนที่นายรู้จักตาย?” เขาถามขึ้น
                “คนที่นายรักเหรอ” ผมถามแต่ไม่ได้รับคำตอบใดกลับมา
                “ตอนที่แม่ของเราตาย เราร้องไห้เสียใจ เก็บตัวอยู่แต่ในห้องนอนไม่ออกไปพบใคร นั่นแหละคือสิ่งที่เราทำได้ในขณะนั้น แล้ววันหนึ่งเราก็ได้เรียนรู้ว่าการทำสิ่งเหล่านั้นไม่ได้ช่วยให้คนที่เรารักฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้เลย” ผมพูดพร้อมกับมองดูเรือสำราญลำหนึ่งลอยเข้ามาแล้วหายเข้าไปใต้สะพาน
               “นายคิดว่าคนเราร้องไห้ให้กับคนที่เสียชีวิตทำไมกัน ถ้าไม่ใช่การระลึกถึงความหลังที่เคยผ่านมาด้วยกัน ดังนั้นเก็บเอาความทรงจำที่ดีในขณะที่เคยใช้ชีวิตร่วมกันเอาไว้ภายในใจ แล้วเดินต่อไปข้างหน้าด้วยความสุขสบายใจ บางวันเวลาที่คิดถึงก็เพียงแค่นึกถึงความทรงจำเหล่านั้นก็เพียงพอแล้ว” เขาฟังผมด้วยความครุ่นคิด
                “เห็นปลายดาวดวงนั้นไหม” ผมชี้นิ้วไปที่จุดหนึ่งบนท้องฟ้า เขาเงยหน้ามองตามด้วยความเร็ว
                “ทำไมเหรอ” เขาถามด้วยความสงสัย
                “ไม่มีอะไรหรอก ชี้ให้ดูเฉยๆ ” ผมพูดพร้อมกับหัวเราะเสียงดัง
                “ตลกใหญ่เชียวนะ” เขายิ้มตรงมุมปาก แล้วหันหลังเดินไปนั่งตรงริมถนน
                “ดีใจนะที่นายยิ้มได้อีกครั้ง” ผมพูดในขณะที่เดินไปนั่งลงข้างๆ กับเขา
                “ใครจะไปอารมณ์ดีเหมือนนายกันละ” เขาพูดเหน็บแนม
                “ไม่จริงหรอก ทุกคนก็มีปัญหากันทั้งนั้นแหละ เพียงแต่ว่าจะพูดออกมาหรือเปล่าก็เท่านั้นเอง”
                “ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่านายก็มีปัญหา”
                “นิดหน่อยนะ”
                “เล่าให้เราฟังบ้างสิ” เขาหันหน้ามาถาม
                “แหม เรายังไม่รู้ปัญหาของนายเลย” ผมย้อน
                “เอาอย่างนี้นายเล่าของนายก่อน แล้วเราจะเล่าของเราให้ฟังทีหลัง”
                “แน่นะ” ผมหันหน้าไปสบตากับเขา
                “แน่นอน” เขาตอบ
               
                เวลานี้คงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผมที่จะถามความรู้สึกของเขาที่มีต่อผม
               
               “คือว่า...” จู่ๆ โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้นขัดจังหวะพอดี เขาลุกขึ้นยืนพร้อมกับกดรับโทรศัพท์ด้วยความรวดเร็ว ก่อนจะเดินห่างออกไปจากตรงที่ผมนั่งอยู่ ปล่อยให้ผมนั่งเพียงลำพังเป็นเวลานานพอสมควร
               “ขอโทษนะ เรากลับกันเถอะ” เขาพูดขึ้นเมื่อกดวางสายโทรศัพท์
               “ครับผม”
               “ขอบคุณนายมากนะ สำหรับวันนี้” เขายิ้มตรงมุมปากเหมือนเช่นเคย โดยที่ผมไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่านั่นจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้มองเห็นรอยยิ้มตรงมุมปากของเขา


ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
 :impress:

ไม่อยากได้ยินคำว่าครั้งสุดท้ายเลย

เศร้าใจจัง

 o15

ขอบคุณนะครับสำหรับ re ที่ตอบกลับมา

เป็นกำลังใจให้นะครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
อ่านทันแย้ววว  :a2:

ชอบเรื่องนี้นะ  อ่านแล้วอารมณ์คล้อยตามที่คนแต่งพาไปเลย 
บรรยากาศสบายๆ อบอุ่น ปนเหงา....ความเหงาของคนสองคน...ที่เหมือนจะมีอะไรซ่อนอยู่...

เราอ่านเรื่องนี้แล้วรู้สึกว่า  คนแต่งเรื่องนี้น่าสนใจดีอะ
มุมมองความคิดดี  อิอิ

รอยยิ้มครั้งสุดท้ายที่จะได้เห็นเหรอ.... จะเศร้าแล้วหรือนี่  :m8:

รออ่านต่อนะโจ้  เป็นกำลังใจให้จ้า  :a1:  :a1:  :a1:  :a1:  :a1:

FOAM

  • บุคคลทั่วไป
ชอบชื่อเรื่องเรื่องนี้จัง

ออฟไลน์ ~ScAreD:SAcreD~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1811
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-2
อ่านเรื่องนี้แล้ว มันเป็นอารมณ์เรื่อยๆ เนิบๆ ที่รู้สึกดี

เหมือนดูหนังของ ชุนจิ อิวาอิ เลยอ่ะ

เชื่องช้า แต่อบอุ่น

เนิบนาบ แต่อิ่มใจ

มาต่อ ให้ไวไวเลย  :m1:  :m1:  :m1:


NewcoolstaR

  • บุคคลทั่วไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-08-2007 10:59:00 โดย ไอ้แสบ..我不放手 »

gobgab

  • บุคคลทั่วไป

...........บางคนเลือกที่จะจมอยู่กับอดีต........

...........เพราะถึงแม้จะทุกข์.....แต่ก็สุขที่ได้คิดถึง........... o7 o7

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
หุหุ มีลางอีกแล้ว อย่าเศร้าเลยนะ เอาแค่เหงา ๆ ก็พอ  :m15:  :m15:

aum

  • บุคคลทั่วไป
เรื่อง be with you ผมก็ได้ดูครับ  ทำให้ผมรู้สึกดีๆกับสายฝน เป็นหนังที่ประทับใจจริงๆ แล้วน้องโจ้มาต่ออีกน้า ขอบคุณคร้าบ

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
ศุกร์ที่ 4
   “ขอบคุณนายมากนะ สำหรับวันนี้” เขายิ้มตรงมุมปากเหมือนเช่นเคย โดยที่ผมไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่านั่นจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้มองเห็นรอยยิ้มตรงมุมปากของเขา

จะเกิดอะไรขึ้นน๊า รอลุ้นต่อไป  :m28:  :m28:


Jingjoh

  • บุคคลทั่วไป
ศุกร์ที่ 5

                กลิ่นหอมของกาแฟยังคงลอยล่องเข้ามาให้ผมได้กลิ่นเหมือนเช่นเคย ผมมีความหวังว่าจะได้ยินเสียงทักทายจากชายที่มีรอยยิ้มตรงมุมปากเมื่อเดินเข้ามาในร้าน แต่ผมกลับต้องผิดหวังเพราะไม่มีน้ำเสียงนุ่มนวลนั้น เมื่อมองไปที่โต๊ะริมกระจกตัวเดิม โต๊ะตัวนั้นปราศจากเงาของคนที่ผมกำลังมองหาอยู่ ผมยังคงคิดให้กำลังใจตัวเองว่าผมอาจมาเร็วเกินไป

                จนกระทั่งนาฬิกาข้อมือของผมบอกให้รู้ว่าเป็นเวลาสามทุ่มครึ่ง กาแฟที่เคยร้อนอยู่ในถ้วยกาแฟของผมตอนนี้ไร้ไออุ่นลอยขึ้นมาแต่
อย่างใด ผมเหม่อมองออกไปยังถนนที่มีรถติด ผมรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง ซึ่งสิ่งนั้นอาจหายไปอย่างไม่มีวันกลับ

                 “คุณคะ” เสียงผู้หญิงดังขึ้นมาจากด้านข้างของผม ผมหันหน้าไปมอง เจ้าของเสียงเป็นผู้หญิงสวย เธอส่งยิ้มมาให้ผมทั้งที่ผมไม่เคยรู้จักเธอเลย
                “ครับ” ผมตอบ
                “ดิฉันขอนั่งด้วยได้ไหมคะ” เธอถามน้ำเสียงสั่น
                “ได้ครับ”
                “คุณหนุ่มใช่ไหมคะ?”
                “ใช่ครับ คุณคือ...”
                “ดิฉันชื่อทิพย์ค่ะ” เธอแนะนำตัวเองต่อท้ายคำพูดของผมทันที
                “ดิฉันอยากมาให้เห็นเองกับตาสักครั้ง ไม่น่าเชื่อเลยว่าคุณจะเหมือนขนาดนี้” เธอพูดน้ำเสียงสั่นด้วยความดีใจ แต่ผมกลับต้องงุนงงเพิ่มมากขึ้นเมื่อได้ยินประโยคนี้
                “ผมไม่เข้าใจครับ” ผมทำคิ้วขมวดด้วยความสงสัย ในขณะที่เธอใช้มือค้นหาของในกระเป๋าสีขาว
                “นี่ค่ะ” เธอยื่นรูปภาพมาให้ผมสองใบ ผมหยิบขึ้นมามองรูปภาพทั้งสองด้วยความรวดเร็ว รูปใบหนึ่งเป็นรูปของผมที่ถ่ายด้วยกล้องถ่ายรูปของเพื่อนจีน ส่วนรูปอีกรูปหนึ่งเป็นรูปผมอีกเช่นกัน แต่ผมจำไม่ได้เลยว่าผมเคยถ่ายรูปนี้
                “ผมเคยถ่ายรูปนี้ด้วยเหรอครับ” ผมยื่นรูปใบที่สองให้กับเธอ
                “รูปนี้ไม่ใช่รูปของคุณหรอกค่ะ ผู้ชายที่อยู่ในรูปใบนี้เป็นคนรักของดิฉันเอง” เธอยิ้มเศร้าๆ
                “คุณช่วยเล่าให้ผมฟังได้ไหมครับว่าเรื่องเป็นมายังไง ผมไม่เข้าใจ แล้วเรื่องนี้ผู้ชายที่ชื่อว่าจีนเกี่ยวข้องด้วยใช่ไหมครับ” ผมถามด้วยความร้อนรน
                “คุณจีนไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้คุณฟังเลยหรือคะ” เธอทำตาโต
                “ไม่เคย”

               หญิงสาวจึงได้เล่าเรื่องราวความเป็นมาให้ฟังว่า ผู้ชายคนที่อยู่ในรูปนั้นมีชื่อว่าเสือ ในสมัยเด็กนั้นบ้านของเสืออยู่ใกล้กับบ้านของจีน ซึ่งจีนในตอนเด็กเป็นโรคหอบหืด ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง ทำให้จีนไม่ค่อยมีเพื่อนเล่นด้วย จนกระทั่งวันหนึ่งจีนเห็นเสือวิ่งเล่นอยู่ที่สนามหญ้าหน้าบ้านอย่างสนุกสนาน จึงขอเสือเล่นด้วย เสือไม่รู้มาก่อนว่าจีนป่วย เป็นเหตุให้เช้าวันต่อมาจีนป่วยเป็นไข้ เมื่อเสือเข้าไปตามจีนให้ออกมาเล่นด้วยกันแล้วเห็นว่าจีนป่วยเป็นไข้เพราะตัวเอง เสือจึงวิ่งออกไปจากบ้าน ตอนแรกจีนคิดว่าตัวเองเสียเพื่อนไปอีกคนหนึ่งแล้ว แต่สุดท้ายเสือก็กลับมาพร้อมกับลูกอมตราตะขาบห้าตัว เสือบอกกับจีนว่าเวลาที่เขาป่วยเป็นไข้มีน้ำมูก แม่ของเขาจะเอาลูกอมนี้ให้เขากินแล้วจะหายเจ็บคอ หญิงสาวเล่ามาถึงตรงนี้ก็หัวเราะออกมาด้วยความตลก พลานให้ผมหัวเราะตามออกมาด้วย

                หลังจากนั้นเสือกับจีนก็กลายมาเป็นเพื่อนสนิทกัน เขาทั้งสองคนมักจะอยู่ด้วยกันตลอดเวลา เพราะเรียนโรงเรียนเดียวกัน เข้ามหาวิทยาลัยเดียวกัน เลือกคณะเดียวกัน แถมจบออกมาก็ยังเปิดบริษัทด้วยกันอีกต่างหาก เรียกได้ว่าตัวแทบจะติดกันเลยทีเดียว

               ครั้งหนึ่งเขาทั้งสองคนไปเที่ยวป่ากันที่เชียงใหม่พร้อมกับเพื่อนในคณะ หลังจากที่ชมพระอาทิตย์ตกดินแล้ว พวกเขาต่างเดินกลับที่พักกันด้วยความง่วง แต่เพราะความมืดของป่าเขาทำให้จีนเดินหลงทาง ยิ่งเดินกลับยิ่งเหมือนว่าหลงไปจากเส้นทางของนักท่องเที่ยวมากขึ้นเท่านั้น ตอนนั้นจีนกลัวและกังวลมากว่าเขาจะหลงป่า ยิ่งดึกขึ้นเรื่อยๆอากาศยิ่งหนาวเย็นมากขึ้นเท่านั้น กว่าที่เสือและเพื่อนจะตามหาเขาพบก็เที่ยงคืนกว่าแล้วไม่มีทางที่จะพาจีนไปโรงพยาบาลได้ เนื่องจากเสี่ยงกับการหลงทางอีกครั้ง เสือจึงอุ้มจีนเดินกลับที่พัก คอยดูแลไม่ให้คลาดสายตา กระทั่งตอนใกล้เช้า จีนลืมตาขึ้นเสือยังคงนั่งอยู่ตรงนั้นด้วยความเป็นห่วง จีนถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งเสือก็เล่าให้ฟังอย่างละเอียด จีนรู้สึกประทับใจในความเป็นเพื่อนของเสือ ทั้งสองจึงสาบานว่าจะเป็นเพื่อนกันอย่างนี้ตลอดไป ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
   
                “แล้ว...” หญิงสาวนิ่วหน้าแล้วหยุดคำพูดไว้
                “อย่าบอกนะครับ ว่าผู้ชายที่ชื่อเสือเสียชีวิตแล้ว” ผมเริ่มเข้าใจ
                “ใช่ค่ะ” เธอตอบอย่างช้าๆ
                “เขาเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุนะคะ ตอนนี้ก็ผ่านมาเดือนหนึ่งแล้ว” เธอพูดต่อ
                “มิน่า จีนถึงได้สวมเสื้อสีดำตลอดเวลา” ผมอุทานขึ้นมา
                “ใช่แล้วคะ ซึ่งความจริงแล้วจีนทำงานอยู่ที่ต่างประเทศ เพราะไปขยายบริษัทที่โน่น เมื่อทราบว่าเพื่อนสนิทเสียชีวิตเขาก็บินกลับมาอยู่ที่เมืองไทยสักพัก แล้ววันหนึ่งเขาก็โทรศัพท์หาดิฉันด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เขาบอกว่าพบเพื่อนสนิทของเขาที่ร้านกาแฟ” ผมนั่งฟังพร้อมกับนึกลำดับเหตุการณ์ในหัวสมองอย่างรวดเร็ว
                “เพื่อนสนิทคนนั้นก็คือผมใช่ไหม?” ผมชี้นิ้วมาที่ตัวเอง หญิงสาวพยักหน้าอย่างช้าๆ
                “ตอนแรกดิฉันคิดว่าเขาคงทำใจไม่ได้ จนเห็นภาพหลอน แต่เขายืนยันเสียงแข็ง”
   “ผมเข้าใจแล้ว เพราะอย่างนี้เขาถึงเข้ามาพูดคุยกับผม”
                “ใช่ค่ะ เขาอยากรู้ว่านิสัยของคุณจะเหมือนกับเสือหรือเปล่า”
                “แล้วผลที่ได้คือ...” ผมพูดค้างเอาไว้เพื่อให้เธอต่อประโยคให้จบ
                “คุณไม่ชอบดูละคร แต่ชอบภาพยนตร์ เหมือนกับเสือ” หญิงสาวพูดช้าๆ
                “เรื่องแบบนี้คนส่วนใหญ่ก็เป็นกัน” ผมค้าน
                “ตอนที่จีนกับเสือเรียนมัธยมปลาย อาจารย์สอนวิชาภาษาไทยให้อ่านหนังสือนวนิยายมาเล่มหนึ่งแล้วเขียนเรื่องย่อส่งเป็นการบ้าน จีนเขียนเรื่องการรอคอยของดวงตะวัน ในขณะที่เสือไม่ได้ทำการบ้านเพราะไม่ชอบอ่านหนังสือนวนิยาย พอถึงเวลาส่งงาน จีนจึงเขียนเรื่องดินกับฟ้าให้เสือเอาไปส่ง ดังนั้นนวนิยายที่เสือชอบมากที่สุดคือเรื่อง ดินกับฟ้า” ผมนั่งฟังอย่างเงียบๆ
                “เพราะความบังเอิญนี้ จีนถึงได้คิดว่าคุณเป็นเพื่อนสนิทของเขา” หญิงสาวพูดพร้อมกับมองเหม่อไปนอกกระจก
                “ทำให้เขาคอยเอาใจใส่ผม” ผมได้รับคำตอบของคำถามที่ผมไม่เคยถามออกไป
                “ตอนแรกฉันไม่คิดว่าจะเชื่อเขาเลย จนกระทั่งเขาเอารูปของคุณไปให้ดิฉันดูที่บ้าน นี้คงเป็นเรื่องตลกมากที่สุดที่ดิฉันเคยเจอมาในชีวิต” เธอพูดในขณะที่หยดน้ำตาใหลออกมาจากตาข้างซ้ายของเธอ
                “แต่ผมก็ไม่ใช่เสือ”
                “นั่นแหละคือเหตุผลที่ดิฉันต้องมาในวันนี้” เธอหันหน้ามาสบตากับผม ดวงตาของเธอแดงก่ำ
                “ผมไม่เข้าใจ” ผมทำคิ้วขมวดอีกครั้ง
                “จีนคิดว่าคงเป็นเรื่องผิด ถ้าหากเขาคิดว่าคุณเป็นเสือ เพราะเขารู้อยู่แก่ใจว่าคุณก็เป็นคุณ ไม่มีทางเปลี่ยนเป็นคนอื่นได้” เธอพูดพลางใช้ผ้าเช็ดหน้าที่เพิ่งหยิบออกมาจากกระเป๋าสีขาวขึ้นมาซับรอบดวงตา
                “แล้วตอนนี้จีนเขาอยู่ที่ไหน” ผมถาม
                “เขาบินไปต่างประเทศแล้ว ดังนั้นเขาจึงขอร้องให้ฉันมาเจอคุณในวันนี้” เมื่อเธอพูดจบ ผมรู้สึกเหมือนว่าโลกใบนี้ว่างเปล่า
                “ดิฉันคงต้องไปแล้ว ขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้เสียเวลา” เธอลุกขึ้นยืน
                “ไม่เป็นไรครับ” ผมตอบพร้อมกับลุกขึ้นยืน
                “จะว่าอะไรไหมค่ะ ถ้าดิฉันจะขอกอดคุณสักครั้ง” เธอถามด้วยเสียงสั่นเทาคล้ายจะร้องไห้
                “ได้ครับผม” เมื่อพูดจบเธอเดินมาหาผมแล้วโผกอด
                “ขอบคุณนะคะ” เธอพูดพร้อมกับผลักตัวผมออก เธอส่งยิ้มให้กับผมก่อนจะเดินออกจากร้านไป ผมทรุดตัวลงบนเก้าอี้อย่างไร้เรี่ยวแรง เพลงที่กำลังเปิดในร้านกำลังจะจบลงด้วยเสียงเปียโนเศร้าศร้อย ก่อนที่เพลงใหม่จะถูกเปิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้ขัดกับอารมณ์ของลูกค้าภายในร้าน


‘ทุกครั้งที่ฉันมานั่งในร้านกาแฟ ก็จะมองเห็นชายคนหนึ่งอยู่ตรงมุมนั้น
เธอคนนั้นไม่ใช่คนพิเศษของใครๆ แต่มีความหมายมากมายต่อฉัน

ทุกครั้งที่ฉันนั้นทุกข์ใจพบความผิดหวัง เธอจะเป็นเพื่อนคอยรับฟังจากตรงมุมนั้น
ชีวิตฉันไม่ค่อยจะมีใครเข้ามาผูกพัน แต่เพียงเธอนั้นก็คงเพียงพอแล้ว

ก็ไม่รู้ว่าเธอคือใคร แต่รู้ว่าเธอคือคนที่ฉันอยากรัก
อยากขอให้เธออยู่ นั่งตรงนี้และต่อจากนี้ จะไม่ไปไหน

ครั้งนี้ที่ฉันมานั่งในร้านกาแฟ ดูข้างในร้านไม่เหมือนเดิมอย่างที่เคยเห็น
แล้วฉันก็รู้สึกเหมือนว่าใจมันหาย ที่ตรงมุมนั้นไม่มีเธอแล้ว

แต่ฉันยังอยู่ที่ตรงมุมนี้ รู้สึกเดียวดายอีกครั้ง
เรื่องราวมันจบตรงนั้น ไม่มีเธอคนนั้นทุกอย่างไม่เหมือนเดิม’
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-08-2007 00:42:03 โดย จิงโจ้น้อยชิวๆ »

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
 :impress: :impress: :impress:

เพราะอย่างนี้เองครับจีนถึงเข้ามาคุยอะ

แต่ก็อะนะสงสารทั้ง2คนเลยอะครับ

แล้วจะเป็นไงต่อไปอะครับ ลุ้นๆๆ

เป็นกำลังใจให้เสมอครับผม

 :impress: :impress: :impress:


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
สงสารผู้หญิงคนนั้นจัง จีนก็น่าสงสาร   o7  o7

รออ่านต่อนะโจ้  :a1:  :a1:

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
 :impress:

เป็นสิ่งมหัศจรรย์ใจจิง ๆ

หวังว่าคงจะแฮปปี้กันนะ

รออ่านต่อไปครับ

 o15

น้ำค้าง

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องเศร้านะ อยู่ดี ๆ จีนก็จากไปซะดื้อ ๆ  ไม่บอกไม่กล่าว
แต่จีนกับผู้หญิงคนนั้น ก็ไม่เห็นจะต้องเสียใจเลยนี่นา
น่าจะดีใจเพราะหนุ่มเหมือนเสือขนาดนั้น   รักกัน คบกันต่อไปก็ได้นี่

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
เหอ เหอ ตัดใจเสียแต่วันนี้  :a6:  :a6:  :a6:

zatoru

  • บุคคลทั่วไป
ผม zatoru ครับ เป็นคนแต่งเรื่องนี้

ขอขอบพระคุณผู้อ่านทุกท่านนะครับ ขอบคุณมากจริงๆ (โดยเฉพาะพี่โจ้ที่ช่วยเอาเรื่องของผมมาลง)

ขอบคุณสำหรับคอมเมนด้วยนะครับ ทุกๆคอมเมนทำให้ผมมีกำลังใจที่จะเขียนเรื่องต่อไป

ยังไงหลังจบเรื่องนี้แล้ว อยากให้ติดตามเรื่องต่อไปด้วยนะครับผม

ป.ล. ขอบคุณมากๆ ครับ

ออฟไลน์ ronger

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 599
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่น ปนเศร้าเล็กๆ :m17:
ขอบคุณ คุณzatoru สำหรับเรื่องที่อบอุ่นน่าติดตามเรื่องนี้
และขอบคุณ คุณโจ้ที่นำมาโพสท์ให้เราได้อ่านกันนะ :m1:

ออฟไลน์ ~ScAreD:SAcreD~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1811
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-2
+ 1 สำหรับ คุณ zatoru  เจ้าของเรื่องเหงาๆเรื่องนี้นะครับ

ขอบคุณที่เขียนมาให้ชาวเล้าได้อ่านกันนะครับ o14

NewcoolstaR

  • บุคคลทั่วไป
ยินดีต้อนรับคุณน้อง Zatoru สู่ทำเนียบนิยาย Y ที่หย่ายที่สุด

และดูดี เก๋ที่สุด ในประเทศไทย.........

เว็ปที่มีนิยาย  Y เยอะที่สุด.....ที่สำคัญ ติดเรทน้อยที่สุด.....

เพื่อชาว Y แห่งสยามประเทศ

 :m1: :m3: :m1: :m3: :m1: :m3: :m1: :m3:

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
 :impress:

มา + ให้คุณ zatoru คับป๋ม

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ นะครับ

และขอบคุณคุณ จิงโจ้น้อยชิว ๆ ด้วย ที่สละเวลามาโพสให้อ่านกันน๊า...

มีความสุขกันทุกคนนะคับ

 o15

paryjt

  • บุคคลทั่วไป
 o2  อ้าว!! จบแล้วหรอคับ  ไหงไปไวมาไวอย่างงี้เนี่ย

+1 ให้คับ แทนคำขอบคุณเน้ออออออ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด