(ต่อครับ)
ตอนที่ 3คีย์ตื่นแต่เช้าก็รีบมาที่ร้านอาหาร แต่มาถึงคนตัวโตคนนั้นก็ยืนกอดอกรออยู่ที่หน้าร้านแล้ว
“สายไป 5 นาที”
ผมยุ่งๆที่ระหน้าผากนี่มันให้ความรู้สึกอยากขยี้เล่นซะจริง
....แต่ว่า..
…อะแฮ่ม ฟอร์มกันนิด...
“ขอโทษฮะ” คีย์บอกหอบๆ ขณะที่วิ่งเอาหนังสือเข้ามาเก็บในร้านแล้วตามออกไปที่รถคันเล็กที่จอดอยู่ที่เดิมเมื่อวานนี้
เฮียไม่ได้ไปตลาดแต่กลับจอดรถใกล้กับโรงเรียนอนุบาล คนตัวโตหน้าเข้มหันมาหยิบตุ๊กตาตัวใหญ่ กับกล่องขนมที่หลังรถแล้วเดินนำไปที่โรงเรียน
คีย์ได้แต่เดินตามมาแล้วหยุดรออยู่ที่นอกรั้ว ส่วนคนตัวโตค้อมตัวให้กับคุณครูที่หน้าประตูแล้วเดินไปหาหญิงสาวหน้าหวาน มัดผมหางม้าที่กำลังป้อนโจ๊กให้เด็กหญิงสองเปียตัวเล็ก
“คุณลุงมา” เสียงใสๆ ร้องทักแล้วผละเข้ามาหา “ของหนูใช่มั้ยคะ”
มือเล็กๆ คว้าตุ๊กตากอดไว้แน่น ขณะที่เด็กนักเรียนหลายคนเข้ามาล้อมรอบ
“มีขนมด้วยค่ะ” คนตัวโตบอกอย่างใจดี แต่แม่เข้ามารับไว้เพราะเด็กหญิงไม่ได้สนใจของกินสักเท่าไหร่
“คุณไม่น่าต้องซื้อหามาเลย”
“ไม่เป็นไร ผมไม่ได้ซื้อหรอก เป็นแค่คนส่งของนะ” เฮียใหญ่บอกขณะที่เบี่ยงตัวบังเด็กหญิงไว้ ไม่ให้เห็นตอนที่กำลังยื่นซองเงินให้กับแม่
“ขอบคุณมากค่ะ” หญิงสาวมองซองในมือ แล้วเก็บลงกระเป๋า “แต่อันนี้ไม่ใช่ของเขาแน่ๆ”
เฮียใหญ่ยิ้มอ่อนโยน แล้วชวนคุยเรื่องอื่น บอกให้หญิงสาวรักษาสุขภาพบ้าง จนกระทั่งเด็กหญิงเข้ามาดึงมือ
“คุณลุงคะ นิดอยากไปเที่ยวสวนสัตว์”
“เดี๋ยวแม่พาไปค่ะ อย่ารบกวนคุณลุง”
“คุณลุงพาไปก็ได้” คนตัวโตนั่งคุกเข่าลงข้างหน้าเด็กหญิง
“อย่าเลยค่ะ เท่านี้ก็รบกวนคุณมากแล้ว” หญิงสาวรีบบอก แล้วหันไปหาลูก “นะคะ เดี๋ยวแม่พาไปเอง อย่ารบกวนคุณลุงนะคะ”
“ก็ได้ แม่พานิดไปสวนสัตว์นะคะ” เด็กหญิงหันไปหาแม่
คีย์ที่ยืนมองอยู่ที่นอกรั้วโรงเรียน รับรู้บรรยากาศที่เหมือนภาพในโฆษณาทางโทรทัศน์ สักพักคนตัวโตก็โบกมือบ๊ายบาย สองแม่ลูกกลับออกมา
คนตัวโตหยุดมองหน้าไอ้หนุ่มตัวเล็กคิ้วขมวดแน่น เหมือนอยากให้ถามคำถาม แต่เมื่อไม่ถาม มือใหญ่ๆ ก็ขยี้หัวเบาๆ แล้วเปลี่ยนเป็นกอดคอเดินกลับมาที่รถ
....สักนิดนะ คงไม่เป็นไรมั้ง...
กระทั่งจ่ายตลาดเสร็จอย่างว่องไว ช่วยเฮียใหญ่ถือของเข้าร้าน พอจะหันไปหยิบผ้ากันเปื้อนช่วยเฮียล้างผัก ก็ได้รับคำสั่งว่าให้ไปเรียน เย็นค่อยกลับมา
คีย์หันไปมองนาฬิกาที่ฝาผนังเกือบ 9 โมงเช้าแล้ว เลยหันมาค้อมตัวขอบคุณเฮียใหญ่ รีบวิ่งกลับมาขึ้นรถเมล์ไปมหาวิทยาลัย
ถึงจะวุ่นวายไปหน่อย แต่มาคิดๆดูก็ไม่เท่าไหร่ เพราะร้านอาหารมันวุ่นวายเป็นช่วงๆ อย่างที่เฮียใหญ่บอกจริงๆ
หกโมงเย็นแล้ว ร้านกำลังยุ่งในตอนที่หนุ่มหน้าใสเข้ามาในร้าน มาถึงก็เอากระเป๋าเรียนไปใส่ตู้เก็บของแล้วจะหยิบผ้ากันเปื้อน แต่มีเสื้อยืดตัวใหม่สีฟ้าอ่อนวางอยู่
คีย์หันมามองคนที่หน้าเตา
“เปลี่ยนซะ เสื้อเรียนจะได้ไม่เปื้อน”
รับคำอย่างว่องไว เปลี่ยนเสื้อรวดเร็ว หันมาก็มีกล่องข้าวปั้นมาวางรอ คนที่เอามาวาง ก็มีอยู่คนเดียวในครัวนั่นแหละ
ไม่รู้ว่าจะเก๊กไปทำไม แต่ก็เก๊กไปแล้ว อย่าเพิ่งรู้ทันได้มั้ย
กินเสร็จถึงได้ทำงาน เรียงผักเครื่องเคียงใส่จานใบใหญ่ รอมักกะโรนีมีตบอล เฮียพีคนรูปหล่อก็เปิดประตูครัวเข้ามา
“เฮีย”
“เออ” คนขานรับหาได้หันไปมองไม่
“มีอะไรให้ไม่ต้องช่วยมะ”
เสียงหัวเราะเบาๆ จากคนที่กำลังเรียงผัก ทำให้คนตัวโต 2 คนหันไปมองด้วยความประหลาดใจ พอรู้สึกตัวว่าถูกมอง แก้มก็เจือสีแดงในทันที
เฮียพีแกล้งเดินล้วงกระเป๋าเข้ามาจ้องหน้าตรงๆ
“โวว~~”
“พี” เสียงเข้มๆ ทักเหมือนขู่ มาจากระยะใกล้
เฮียพียักไหล่ หันกลับมามองคนที่กำลังตักอาหารใส่จาน พร้อมรับคำสั่ง “ไปเสิร์ฟ”
“คร๊าบ”
คีย์ช้อนตามองคนที่ยังคงยืนมองอยู่ แทนที่จะหันกลับไปหน้าเตา รอยยิ้มจางๆ ยังคงอยู่ที่ใบหน้าเข้ม ไม่ได้คิดไปเองว่าเขากำลังยิ้มให้
“เฮีย”
“อือ”
“ลูกค้ารอ”
“อ้อ...เออใช่”
เฮียใหญ่หันไปจัดการที่หน้าเตาเหมือนเดิม แต่พอเฮียพีกลับเข้ามาในครัวก็อย่าหวังว่าจะได้มายืนเฉยๆ เพราะเฮียใหญ่ สั่งให้ไปล้างจาน
แล้วก็บอกโดยที่ไม่ได้หันมามอง ว่าให้คีย์ไปนั่งพักที่หลังร้าน
พอประตูหลังครัวปิดลง เฮียพีก็ลดระดับเสียงลง
“เป็นไงมั่งเฮีย”
“นิดอยากไปเที่ยวสวนสัตว์”
เฮียใหญ่บอกประโยคสั้นๆ แต่คนที่เมื่อครู่ยังสดชื่นรื่นเริง กลายเป็นก้มหน้าล้างจาน เช็ดจานไม่พูดอะไรอีกเลย
คีย์คว้าไม้กวาดใกล้ประตูออกมากวาดหลังร้าน
“โย่ว” เสียงแหบๆ เหมือนคนเพิ่งแตกเนื้อหนุ่มทักทาย เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง ถึงได้เห็นว่าเป็นไอ้หนุ่มสกินเฮด คิ้วแหว่งคนที่โดนสาดน้ำเมื่อวานนี้
คีย์พยักหน้า แล้วกวาดพื้นต่อ
“ชื่ออะไร”
“คีย์”
“กูชื่อแมน”
คีย์หยุดกวาด ยืนมองคนตัวใหญ่ ไหล่หนาข้างหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“เลิกงานกี่โมง”
“4 ทุ่ม”
“นั่งรถเล่นมั้ย”
“ไม่”
“งั้น เลิกงานกินข้าวกัน”
“ไม่”
“ไรวะ”
“กูกินแล้ว”
-*-*จบตอนที่3-*-*

ดูเหมือนว่า จนถึงตอนนี้ ชื่อเฮียก็ยังไม่มา ทำไมผมถึงเป็นคนอย่างงี้~~~~ 55555
ไจฟ์ครับ