<<<< อัพแล้ว อัพแล้ว
(ต่อครับ) ^^
ตอนที่ 8 มือใหญ่ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำเช็ดหน้าเช็ดแขนให้คีย์ ที่นอนสบายอยู่บนเตียงใหญ่ เสร็จแล้วตัวเองก็ลุกไปอาบน้ำ
ก็เวลาไอ้พีมันเมาก็ทำอย่างนี้แหละ แค่นี้จริงๆ
แต่พอกลับออกมาเสียงครางต่ำๆ ของคนที่คิดว่าเมาหลับ เหมือนกำลังบอกอาการอึดอัดไม่สบาย
“อะไรของมันวะ ละเมอหรือไง” คนตัวโตหัวเราะขำเดินมาก้มลงดู
หน้าแดง มือก็ทึ้งคอเสื้อ ทำเสียงฮึดฮัดอะไรไม่รู้
“เออ ทำให้”
เฮียใหญ่ดึงเสื้อยืดถอดให้ทางหัว แล้วหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดตัวให้อีกที
“สบายขึ้นมั้ยครับเจ้านาย”
ไอ้ตัวเล็กส่งเสียงอือเบาๆ แล้วหลับต่อ
แต่ว่า....
อีกคนกำลังหัวใจเต้นแรง
….สติที่หลงเหลือเพียงน้อยนิด ร้องทักขึ้น คิดให้ดีซาโต้...เด็กคนนี้คือคนไร้ครอบครัว เด็กที่ถูกส่งต่อจากครอบครัวหนึ่งไปอีกครอบครัวหนึ่ง เก็บทุกอย่างไว้ในใจแล้ววิ่งหนีทันทีที่มีโอกาส ไม่หันหลังกลับ ทั้งที่เห็นอยู่ว่าทางข้างหน้ามีแต่ความยากลำบาก.....
.....นายสามารถเป็นทุกสิ่งทุกอย่างให้กับเด็กคนนี้ได้หรือไม่.....
.....รักเขามากพอที่จะเป็นผู้ให้อย่างไม่มีข้อจำกัดได้หรือเปล่า....
รอยยิ้มอ่อนโยนผุดขึ้นที่มุมปาก ดวงตาสีเข้มทอประกายแห่งความรัก “ถ้าคีย์ต้องการชีวิตพี่ พี่ก็ให้ได้”
....สติที่แทบเหือดหาย ยังคงพยายามอีกครั้ง..แน่ใจหรือว่ารัก ไม่ใช่แ่ค่หลงรูปร่างหน้าตาเค้าน่ะ....
"ไม่ใช่แค่รูปร่างหน้าตาหรอก แค่เงาที่เข้ามาเคียงข้าง ก็ำทำให้ใจสั่นแล้ว"
ขนตายาวเป็นแพ แก้มใสยังคงเป็นสีแดงเรื่อ ริมฝีปากบางเผยอเล็กน้อย ลำคอเรียวเล็ก อกบางสีอ่อน มือใหญ่ที่กำลังเช็ดตัวให้ลากผ่านลงมาถึงขอบกางเกงยีนช้า ๆ
ดวงตาสีเข้มที่กวาดไล่ไปทั่วร่างกายผอมบาง ยิ่งมองยิ่งทำให้รู้สึก....ลุ่มหลง....
....สติที่เคยร้องทัก ร้องเตือนอยู่ตลอดเวลาว่าให้รั้งรอ คิดให้ดี ถูกกักขังไว้ที่ปลายเท้า....
นิ้วมือใหญ่แตะที่แก้มอิ่ม แล้วลากกลับมาที่ริมฝีปากบาง
คีย์เบี่ยงหน้าหลบเหมือนรำคาญ แต่ดวงตาคู่นั้นยังหลับอยู่
เลื่อนมือลงมาแกะเข็มขัดกางเกง แล้วถอดออกอย่างง่ายดาย สิ่งที่อยู่ภายใต้บ๊อกเซอร์สีเข้มสงบนิ่ง ตรงข้ามกับอีกคนที่เหมือนมีไออุ่นเริ่มก่อตัวขึ้นภายในท้องน้อย
“คีย์ พี่..เช็ดตัวให้นะ” เสียงถามแผ่วเบาเหมือนไม่อยากให้ได้ยิน
มีเสียงอือจากคนหลับ คนที่กำลังคิดไม่ดีรีบคว้าไว้ว่ามันคือคำอนุญาต
เช็ดตัวให้เสร็จโยนผ้าขนหนูผืนเล็กลงในอ่างน้ำแล้ว แต่ยังไม่สามารถละสายตาจากตรงหน้าได้
ใบหน้าคมเข้มเลื่อนเข้าหาริมฝีปากบาง กลิ่นแอลกอฮอลล์ที่ไม่รู้ว่าของใครเจืออยู่ในลมหายใจ ก้มลงจูบ เม้มที่ริมฝีปากบางแล้วดูด
คีย์ลืมตาขึ้น ยกมือขาวซีดผลักที่ไหล่กว้าง
“อื้อ...อื้อ....”
เหมือนไร้เรี่ยวแรงเพราะความเมา หรือเพราะลิ้นหวานที่สอดไล้เข้ามาบดเบียดทันทีที่อ้าปากจะร้องห้าม หรือเพราะมือใหญ่ที่กอบกุมอกบาง
สมองมึนงง ไร้เรี่ยวแรงที่จะผลักดันร่างสูงใหญ่ให้พ้นไป
คีย์พยายามเบี่ยงหน้าหนี เฮียก็กดริมฝีปากจูบที่แก้ม ขบกัดที่ใบหู
“เฮีย...อย่า....อย่า....อือ.....อา....”
รู้ว่ามันไม่ถูกต้อง รู้ว่าไม่ดี รู้ว่ากำลังฉวยโอกาสอย่างเลวร้ายที่สุด
แต่เฮียใหญ่ก็ยังระดมจูบไปทั่วใบหน้า
“อย่า....อย่าทำผม.....เฮีย....อา...”
เสียงห้ามมึนเมาเจือเสียงคราง เหมือนอยากห้ามและอยากให้ไปต่อในเวลาเดียวกัน
ลิ้นร้อนแทรกเข้าหาโพรงปากหวานอีกครั้ง คนเมากึ่งหลับกึ่งตื่นหดลิ้นหดคอหนี ขัดขืนเท่าที่มีแรงเหลือ คนตัวโตดูดที่ริมฝีปากแรงแล้วกระซิบติดมุมปากเสียงแหบพร่า
“คีย์ เป็นของพี่เถอะนะ”
ไม่รอฟังคำปฏิเสธหรือตอบรับ เฮียใหญ่บดจูบอีกครั้ง จูบย้ำแล้วดูดจนห้อเลือด ขณะที่มือใหญ่เลื่อนลงหาแก่นกายด้านล่าง กอบกุมแล้วกระตุกมือ
คีย์บิดตัว มือเล็กๆ จิกแขนใหญ่ไว้แน่น
“อื้อ...อื้อ....”
เฮียใหญ่เร่งมือที่กอบกุมจนร่างผอมบางเกร็งสุดตัว แล้วฉีดใส่มือ
คนตัวโตขยับตัวมองร่างผอมบางที่นอนหอบหายใจอ่อนแรง รั้งบ๊อกเซอร์ที่ยังติดสะโพกอยู่ออกไป แล้วก้มลงลิ้นที่อกบาง ขบฟันเบาๆ ที่ยอดอกแข็งเป็นไต
คีย์สูดปาก บิดตัว
“อย่า....พอแล้ว เฮีย....”
เฮียแยกขาเรียวออกกว้าง ขณะที่กดริมฝีปากสวยทั้งจูบทั้งกัดไล่ลงมาหาแกนกลางแล้วครอบริมฝีปาก
คีย์ร้องคราง แล้วกระตุกตัวหนีเมื่อนิ้วใหญ่เบียดเข้าที่ช่องทางด้านหลัง
“อย่า...อย่า ไม่นะ...ไม่เอา”
น้ำตาหลากล้นหางตา ใบหน้าแดงเรื่อ และเสียงสะอื้นเบาๆ
พอเฮียผละออก คีย์ก็พลิกตัวหนี เฮียซ้อนหลังกอดไว้ กวาดมือไปทั่วแผ่นอกบาง ลากลิ้นโลมเลียที่ใบหูและลำคอขาว
เมื่อสิ่งที่อยู่ในมืออุ่นร้อน จึงแทรกนิ้วที่ช่องทางด้านหลังอีกครั้ง
“อย่า...เจ็บ...เฮีย ผมเจ็บ...อย่า ไม่เอา ไม่...”
“พี่” เสียงกระซิบแหบพร่าที่ข้างหู
“พี่..อย่า ไม่เอา...” คีย์ขอร้องทั้งน้ำตา
เฮียคร่อมหาริมฝีปากหวานกดจูบแรง ขณะที่มือหนึ่งก็กระตุกเร่ง อีกมือที่ด้านหลังเพิ่มนิ้วเบียดหาจุดอ่อนไหว
คีย์ลืมตาโพลง แล้วเบียดเปลือกตาแน่น
ช่องทางด้านหลังที่รัดแน่นอยู่แล้วยิ่งตอดรัด
“ปล่อยให้พี่สิ”
คีย์ผวากอดแขนแข็งแรงไว้แน่น ทั้งคราง ทั้งร้องแล้วกระตุกตัวพ่นน้ำสีขาวอีกครั้ง ทิ้งร่างอ่อนแรงให้อีกคนพรมจูบไปทั่วตัว
-*-*-
เฮียใหญ่เก็บของเข้าร้าน แล้วถือโจ๊กกลับขึ้นมาที่ห้องพักชั้น 4 แต่ตอนที่เดินผ่านชั้น 3 เฮียพีเปิดประตูออกมาพอดี
สีหน้าท่าทางรู้ดียิ่งกว่ารู้
“ผมเปล่าแอบฟัง แต่เดาได้ เพราะผมฉลาด”
“เชี่ย” พี่ชายอวยพรน้องชายแต่เช้า “ไปเตรียมของในครัวเลย”
“ได้เลย วันนี้กุ๊กพีมาเอง”
เฮียใหญ่ส่ายหน้า แล้วเดินต่อมาที่ห้องพักชั้น 4 ห้องพักกว้างขวาง ตกแต่งแบบห้องชุด ทั้งห้องครัวเล็กๆ ห้องทำงาน ไปจนถึงห้องนอน
วางถุงโจ๊กไว้บนโต๊ะกินข้าว แล้วเดินมาเปิดประตูห้องนอน
คนที่นอนอยู่ลืมตาตื่น พลิกหน้ามามอง แล้วผวาลุกขึ้นนั่งทันที ดวงตากลมโตไหวระริก ริมฝีปากบางยังช้ำ
“เฮีย...ผม...”
“พี่ซื้อโจ๊กมา ลุกไหวมั้ย”
คีย์คว้าหมอน และทุกสิ่งทุกอย่างบนเตียงขว้างใส่คนที่กำลังเดินเข้ามาหา
แต่ของพวกนี้มันไม่มีน้ำหนัก คนตัวโตนั่งลงบนเตียงแล้วกอดรวบ
“ปล่อย ปล่อยผมนะ ไอ้บ้า ปล่อยผมนะ...ฮือ....”
“ไม่ปล่อย จนวันตายก็ไม่ปล่อย”
“ทำไมทำกับผมแบบนี้ ปล่อยผม”
คนหนึ่งลูบหลังบางๆ ให้ใจเย็นลง แต่อีกคนหนึ่งกำลังทุบกำปั้นเล็กๆ ลงที่หลังกว้าง
“คีย์”
“ทำไม ผมทำอะไรให้เฮียเกลียดผมนักหรือไง ถึงทำกับผมแบบนี้” คีย์คร่ำครวญน้ำตาไหลพราก มือเล็กๆ ทั้งทุบทั้งหยิกแผ่นหลัง
“พี่รักคีย์ต่างหาก ทั้งรักทั้งหลงจนไม่อยากรอ”
“ไม่จริง”
“จริง พี่รักคีย์นะ พี่อาจแสดงออกไม่ค่อยเก่ง แต่ว่าพี่รักคีย์จริงๆ รักมากที่สุด”
“ไม่”
คีย์หยุดมือที่ทุบตีคนตัวโต
“คีย์ ยังไม่รักพี่ก็ได้ แต่ขอให้พี่ได้...”
“ไม่ ไม่ ไม่” คีย์ร้องตะโกนใส่หน้า ริมฝีปากสวยกดจูบแน่นปิดเสียงจะโกน ลิ้นที่สอดเข้าหาอย่างไม่กลัวโดนกัดขาด เกี่ยวกระหวัดให้ความรู้สึกเสียววาบถึงท้องน้อย จนต้องผวาคว้าแขนแข็งแรงไว้
จนเมื่อร่างผอมบางอ่อนแรงต่อต้าน ริมฝีปากสวยถึงผละออกกดจูบที่แก้มเปียกน้ำตา
“อาบน้ำก่อน หรือจะกินโจ๊กก่อนดี”
“อะ...อาบน้ำ”
“ลุกไหวมั้ย”
คนถาม ถามเรื่องหนึ่ง
แต่คนฟัง กำลังคิดไปอีกเรื่องหนึ่ง
ก็ทั้งจูบทั้งฟัดจนตัวนิ่มขนาดนี้แล้ว จะลุกไหวมั้ย แต่คนตัวเล็กกลับคิดว่าเมื่อคืนไปไกลถึงขั้นไหนก่อนที่จะหมดแรงไป เมามากน่ะใช่ หลายสิ่งหลายอย่างดูปนๆกัน แต่ที่จำได้ก็คือ.....
ทั่วทั้งร่างกาย ไม่มีส่วนไหนที่ไม่ถูกสัมผัส
แล้วช่องทางด้านหลังถูกรุกล้ำน่ะใช่ หรือว่า มันจะมากกว่านิ้วมือ......
ใช่แล้ว ! มีอยู่ประโยคหนึ่งที่มันเลือนราง ...”เป็นของพี่เถอะนะ”....
-*-*-
จน 11 โมงคีย์ถึงได้ไปเรียน ขณะที่อีกคนที่เดินตามลงมาทำหน้าตาเคร่งเครียด
แต่ให้ตายเหอะ
พอคนตัวเล็กนั่นขึ้นรถเมล์ไปเรียน คนที่เคร่งเครียดก็กลับเดินอมยิ้มเข้ามาในร้าน จนพ่อครัวจำเป็นคันปาก
“จดบัญชีไว้เลยนะเฮีย”
“ผมยังคิดว่าเฮียจะเอารถไปส่งมหาลัยซะอีก” ไอ้อาร์ตส่งเสียงผ่านช่องหน้าต่างส่งอาหาร
“ก็อยากไปส่งอยู่หรอก แต่เขาไม่ให้ไปส่งน่ะสิ”
“อายเพื่อนมั้ง” เฮียพีลดระดับเสียงลง แต่ทำให้ทั้งคนที่กำลังผูกผ้ากันเปื้อน และคนที่รอเสิร์ฟอาหารต้องหยุดปาก
....นั่นสินะ....ตอนทำคิดแค่ว่าอยากมีเขาอยู่ในอ้อมแขน...
....ตอนนี้เพิ่งคิดได้ นี่กูกำลังโยนปัญหาทั้งหมดไปให้กับคนที่กูรักหรือเปล่า....
....กูอยู่ในครัวนี้ ไม่ต้องตอบคำถามใคร เจอมานักต่อนักจนไม่แคร์ไม่สนใจสายตาใคร...
....แต่คนนั้น เขาอยู่ในโลกกว้าง ผู้คนมากมายมองเขาอยู่.....
....คีย์....
-*-*-
จะให้ปฏิเสธกับตัวเองยังไงก็ต้องยอมรับว่า ความรู้สึกดีจากการถูกสัมผัสเมื่อคืนนี้ เป็นเหมือนกับการปลดปล่อยทุกสิ่งทุกอย่าง
หลักฐานมันชัดเจนกันขนาดนั้น จะเถียงยังไงได้อีก
ทั้งที่ปากบอกไม่ แต่ก็ทั้งร้อง ทั้งครางจนนึกอายตัวเอง
คีย์ใช้กำปั้นทุบหน้าผากตัวเองเบาๆ จนเพื่อนทักว่าไม่สบายหรือเปล่า เรียนเสร็จก็ก้มหน้าก้มตาเดินออกมาจากมหาวิทยาลัยเหมือนเคย
รถแจ๊สสีเขียวสดจอดดักหน้า คนที่นั่งข้างคนขับชะโงกหน้ามาทักทาย
“คีย์ ไปที่ร้านหรือเปล่า”
คีย์พยักหน้า
ไม่รู้ว่ามันตลกตรงไหน เพราะมีเสียงหัวเราะจากในรถดังมาให้ได้ยิน
แค่จอดรถแซวกันมั้ง
ช่างเถอะ..เรื่องแค่นี้ขำๆ
“ไม่ต้องไปสนใจพวกนังแนะแหนว่างงานนี่หรอก” พี่อ๊อตปี 3 แต่งเครื่องแบบชายแต่ใจเป็นหญิงส่งเสียงมาจากโต๊ะหินอ่อนใกล้ๆ
ส่วนพี่เหน่งปี 3 เหมือนกันลุกมาตบหัวเบาๆ “มึงต้องไปทำงานก็ไปเหอะ”
แต่คีย์ยังไม่ทันจะก้าวขาต่อไป พี่โน้ตรุ่นพี่ผู้ชายอีกคนก็บอกไว้ “มันเคยมาบอกพวกกูให้ซ่อมมึงหนักๆ ว่ามึงหาเรื่องหนีรับน้อง มึงไปขัดขามองหน้าอะไรอีพวกนี้หรือเปล่า”
คีย์ส่ายหน้า
“เออ ไม่มีก็ดีแล้ว อยู่ห่างๆ จากอีพวกน่ารำคาญพวกนี้ไว้ ชีวิตมึงเหนื่อยพออยู่แล้ว” พี่เหน่งยังคงให้กำลังใจ ขณะที่ไอ้เอกเดินทำตัวลีบๆ เข้ามาหาทั้งที่มันอยู่ปี 2
ก็อย่างที่รู้กัน พวกรุ่นพี่ขาว๊ากรับน้องทั้งหลายนี่เขาหน้าโหด ตัวโต เสียงดัง แต่ใครจะไปเชื่อว่า ขาโหดพวกนี้แหละคือคนที่รับฟัง คอยให้กำลังใจทั้งเรียนและทำงาน
คือไอ้กลุ่มที่เกรียนๆ ก็มีแต่ไม่รู้ยังไง กลับไม่เคยเห็นมาอะไรกับคีย์ เหมือนต่างคนต่างอยู่
“หวัดดีครับพี่” ไอ้เอกท่าทางนอบน้อมจนแทบกราบรุ่นพี่ปี 3
“เออ มีไร”
“ผมขอคุยกับเพื่อนครับ”
พี่เหน่งหัวเราะแล้วตบกะโหลกไปที “มารยาทมากมึงปี 2 ไม่ใช่เหรอ”
“ก็แหม เดี๋ยวโดนหาว่าปีนเกลียวอ่ะ” ไอ้เอกยิ่งทำท่านอบน้อมเกินจริง
คีย์หยิบกระเป๋าตังค์ ส่งเงินค่าห้องให้เพื่อนรุ่นพี่
“แล้วมึงไปทำงานกี่โมง” ไอ้เอกถาม แต่รุ่นพี่ยืนฟังอยู่ด้วย
“เอาเงินไปให้ป้าก่อน แล้วถึงไปทำงาน”
-*-*-จบตอนที่ 8-*-*-
อะคึคึคึ

ไม่มีมาม่าหรอกครับ
ขอบคุณครับที่ติดตาม
ไจฟ์ครับ