(ต่อครับ)
ตอนที่ 20 วุ่นวายกันมาหลายวันจนเกือบลืมงานโรงเรียนของหนูนิด แต่ที่ยากที่สุดคือการทำให้เฮียพีมางานโรงเรียน ที่ไม่ว่าใช้ลูกล่อลูกชนยังไง คนรูปหล่อสุดชีวิตจิตใจคนนั้นก็ยังเงียบ ขนาดไอ้เอกวางแผนส่งคีย์ไปเล่าเรื่องเศร้าให้ฟัง เฮียพีก็แค่ขยี้ผมเบาๆ หันไปซ่อมคอมพ์เหมือนเดิม จนคนเล่าถอดใจ
“มึงเล่ายังไงวะ”
“ก็บอกว่ากูคิดถึงพ่อกับแม่กู ถึงกูจะจำเขาไม่ได้ชัดเจนก็เถอะ”
“แล้ว....”
“ก็แค่นี้ มึงจะให้กูเล่าอะไรล่ะ ตอนนั้นกูเพิ่ง 5 ขวบนะ”
คนที่นั่งฟังเรื่องราวพากันส่ายหน้า “กูว่าแล้ว ส่งไอ้ตาโปนไปมึงต้องเขียนสคริปต์ให้มันด้วย” ไอ้เบิร์ดอ่อนใจ
ไอ้อ๋องเกาหัวแกรกๆ “หรืออุ้มขึ้นรถเลย”
ไอ้เอก ไอ้เบิร์ด หันไปรวมพลังยกเท้าถีบเพื่อนทันที “มึงอุ้มเหอะ ตัว-บ๊ะ-เริ่ม-ขนาดนั้น”
“แล้วเฮียซาโต้ว่าไง” ไอ้อ๋องหันมาถามคีย์ ที่ส่ายหน้า
“ไม่เห็นว่าไง ก็ได้แต่ พีไปเหอะ สงสารนิด” คีย์ทำเสียงใหญ่ๆเลียนแบบ
อีก 3 หนุ่มเอียงคอ เกาคางท่าทางคิดหนัก
“เขาพี่น้องกันนี่นะ หรือว่าพี่ชายเขาจะรู้ว่ายังไงก็ต้องไป” ไอ้เบิร์ดเดา
“ไม่รู้ว่ะ เฮียพีน่ะ เห็นเล่นๆอยู่นะ แต่ถ้ามีใครทักเรื่องพี่หน่อยกับนิดปุ๊บ เงียบปั๊บ แล้วเวลาเงียบก็เงียบจริงๆ ไม่มีสัญญาณตอบรับ” คีย์เล่ากึ่งฟ้อง
“กูไม่เคยเจอคนที่ไม่เคยให้อภัยตัวเองได้ขนาดนี้มาก่อนเลยนะ ที่เห็นๆ มีแต่คนที่โทษคนอื่น แล้วว่าตัวเองน่าสงสารทั้งนั้น” ไอ้เอกกอดอกสวมบทบาททันที
“พระเอกจะถอดใจหรือไง” ไอ้เบิร์ดดักคอ
“ไม่มีทาง อนันดาไม่ถอดใจง่ายๆอยู่แล้ว”
“ว๊ากกกก อนันดา” ไอ้อ๋องชี้นิ้วหัวเราะเสียงดังลั่นห้อง
คุยกันอยู่คีย์ก็ลุกขึ้นมาเก็บผ้าที่ตากไว้ที่ระเบียง ส่วนไอ้เบิร์ดหันไปสำรวจหนังสือในตู้
“เฮียมึงอ่านหนังสืออะไรวะเนี่ย มีแต่ภาษาต่างด้าว”
ถามแล้วก็หยิบมาพลิกเปิดดู “มีแต่ตารางว่ะ กูเป็นภูมิแพ้ไอ้ตัวเลขอย่างนี้อย่างแรง”
ไอ้อ๋องหันไปมองซองเอกสารบนโต๊ะบ้าง ทุกซองล้วนเป็นการจัดส่งโดยบริษัทส่งเอกสาร “อะไรน่ะ ระวังแอนแทร็กซ์นะมึง”
ไอ้เอกคือคนที่หันมาเก็บเพื่อนสอดรู้ให้กลับเข้าที่
“เฮ้ย อย่าซน มาแดกขนมบ้านเค้าแล้วยังรื้อโน่นนี่”
คีย์ที่หอบผ้ากลับเข้ามาในห้อง บอกยิ้มๆ “กูก็ไม่รู้หรอก ว่ามันคืออะไร เวลาบริษัทเขามาส่งก็รับมาแล้วเอามาวาง”
“ไม่อยากรู้เหรอว่าข้างในคืออะไร” ไอ้เบิร์ดทำเป็นเอียงคอมองซองสีเหลืองสดบนโต๊ะทำงาน
“ก็อยากรู้ แต่ไม่อยากถาม” คีย์บอกตามตรง “เห็นที่มามันมาจากเมกา จากฝรั่งเศส คงเป็นเพื่อนๆเค้ามั๊ง”
“มึงนี่ดีเนอะ ไม่ค่อยอยากรู้”
“อยากรู้” คียบอกลากเสียงยาว “แต่ถ้าเขาไม่บอก ก็แปลว่าเขาไม่อยากให้รู้ แล้วบางทีรับมาเอาวาง แล้วก็ก็ลืมไป”
“ลืมถาม” ไอ้เอกชี้นิ้วทาย
“เออ” คีย์บอกกลั้วหัวเราะ
"เป็นกูนะต้องถามให้เคลียร์" ไอ้เอกบอก
ไอ้อ๋องส่ายหน้า "ไม่แปลกใจเลย"
คุยเล่นกันอีกสักพัก คีย์ก็เดินลงมาส่งเพื่อนๆ ที่หน้าห้องแถว ไอ้แมนที่ประจำอยู่หน้าร้านเกมผละออกจากกลุ่มลุกมาหาทันที
“มาอยู่นี่เอง”
“อะไรของมึงวะ กูไม่ได้เป็นลูกหนี้มึงนะ” ไอ้เอกเสียงแข็ง คอแข็งใส่ ท่าทางแปลกๆ จนเพื่อน 3 คนแอบมองหน้ากัน
“ก็กูเอาของเข้าห้องไม่ได้ โทรหามึงก็ไม่รับ”
“แล้วทำไมกูต้องรับสายมึงล่ะ กูคุยเรื่องสำคัญมากกับเพื่อนกูเนี่ย”
ไอ้แมนนิ่ง แล้วหันไปหาคีย์ “มีใครมาวุ่นวายอีกหรือไง จัดให้”
“เฮ้ย ไม่ต้องๆๆ” คีย์รีบปฏิเสธปากคอสั่น ตาโตเท่าลูกบอล “เรื่อง....” คนหน้าอ่อนบุ้ยปากไปที่ร้านเกม
แมนมองตามแล้วขมวดคิ้ว
ท่าทางของกลุ่มชายหนุ่ม 5 คนหน้าร้านอาหารหรูกำลังทำให้คนที่ผ่านไปมาหันมามอง ไอ้เอกเลยหันมาหาคีย์
“ไว้กูโทรคุยกับมึง มายืนอยู่อย่างนี้ พอดีคนไม่กล้าเข้าร้านเฮีย มึงจะไม่มีเงินเรียนหนังสือซะเปล่าๆ กูไปละ”
คีย์พยักหน้า หันไปล็อคประตูขึ้นชั้นบน แล้วมายืนส่งเพื่อนขึ้นรถ ไอ้เอก ไอ้เบิร์ด ไอ้อ๋องตั้งท่าจะซ้อน 3 กลับไปเหมือนเคย เพราะต่างคนต่างก็ต้องไปทำงานกะเย็นต่อด้วยกันทั้งนั้น แต่ไอ้แมนเดินตามไปยืนหน้าตึง
“ทำอะไร”
“ซ้อนรถไปทำงานสิ ถามไรของมึงเนี่ย”
ไอ้แมนยืนมองไอ้เอกที่เข้าประจำที่ซ้อนหน้าแล้วแสดงสีหน้าไม่พอใจชัดเจน จนไอ้อ๋องเจ้าของรถชักเกรงใจ
“อะไรของมึงนักหนาเนี่ย”
“ไปรถกู กูไปส่งเอง”
“ก็กูจะไปรถไอ้อ๋อง”
“ก็มึงซ้อน 3”
“พระเอกเพื่อนรัก มึงลงจากรถกูเหอะ” ไอ้อ๋องอดไม่ได้ต้องไล่เพื่อน
ไอ้เอกเลยต้องลงจากรถมายืนหงุดหงิด “เยอะนะมึงเนี่ย”
“ก็มึงซ้อน 3 จริงๆนี่ แล้วกูก็ยังไม่ได้เอาของเข้าห้องเลย ป่านนี้โดนยกไปหมดแล้วหรือเปล่าไม่รู้”
“เชี่ย มึงกองของไว้หน้าห้องเหรอ”
“เออดิ มึงจะให้กูแบกมาร้านเกมเฝ้าคีย์ด้วยหรือไง”
“สัดเอ๊ย ไหนล่ะรถมึงน่ะ” ไอ้เอกด่าแล้วรีบตามไอ้แมนขึ้นรถออกไป
“ไอ้สกินเฮดคนนี้แม่งมึนๆ แปลกๆว่ะ” ไอ้เบิร์ดหันมา “บอกว่ามาเฝ้ามึง แต่ตามจิกไอ้เอกกลับบ้าน”
“ไอ้เอก แมร่งก็รับคนเข้าห้องง่ายชิบหาย” ไอ้อ๋องเสริม แล้วหันมาโบกมือขี่รถออกไป
.......มันก็แปลกด้วยกันทั้งคู่แหละ ไม่รู้ยังไงกันแน่.....
กลับเข้ามาในร้านก็เข้าประจำที่ในครัว แล้วก็เริ่มวิ่งส่งของ จนเกือบ 2 ทุ่มที่เจ๊จิ๋วร้านทำผมเดินเข้าไปจนถึงครัว
“ซาโต้ สัก 2 ทุ่มครึ่งขอยืมเด็กหน่อยสิ”
“ขอยืมเด็ก” เฮียซาโต้ทวนประโยค ขณะที่คีย์กับไอ้อาร์ตหันมามองหน้ากัน
เจ๊จิ๋วหันมาชี้คีย์ “คีย์น้อยอ่ะ เจ๊ยืมสักครึ่งชั่วโมง”
แต่ยังไม่ทัน 2 ทุ่มครึ่งเฮียก็เตือนให้คีย์ไปที่ร้านทำผม
พอกลับมาถึงทุกคนกำลังช่วยกันปิดร้าน แต่ผมสีอ่อนที่เจ๊จิ๋วทำให้กำลังทำให้คีย์รู้สึกเก้อเขิน โดยเฉพาะเมื่อมาเจอกับอาการของคนตัวโตที่กำลังปิดครัว ยิ่งทำให้นึกคำพูดไม่ออก
“เอ่อ...คือ....”
เฮียซาโต้หันหลังเดินออกมาจากร้านกลับขึ้นห้องไปทันที ทิ้งให้ไอ้อาร์ต กับเจ๊มิซาปิดร้านซะดื้อๆ
คีย์ช่วยถูพื้น ปิดร้านแล้วกลับขึ้นมาบนห้อง
คนตัวโตอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว กำลังทำอะไรอยู่ไม่รู้ที่หน้าคอมพิวเตอร์ มองผ่านๆ เห็นแต่ตารางเต็มหน้าจอ คีย์ก็เลยเดินไปห้องน้ำ กลับออกมาผมก็กลายเป็นสีเดิม จนคนที่อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เลิกคิ้วขึ้นสูง แต่ก็กลับเป็นปกติเหมือนเดิมในเสี้ยววินาที
คีย์หยิบหนังสือนอกเวลาที่อาจารย์สั่งให้อ่านเพิ่มเติมมานั่งอ่านที่โซฟาตัวยาวหน้าโทรทัศน์ อ่านๆไปก็กลายเป็นทอดตัวยาว
เงาใหญ่ๆ ที่ทาบลงมาพร้อมกับมือแข็งแรงขยี้ผม
“หัวจะล้านมั้ยเนี่ย”
คีย์หันมาทำหน้างอ “ไรเนี่ย งอนไม่พูดตั้งนาน พอพูดออกมาก็ว่าหัวล้าน”
“ก็เออสิ เอาสารเคมีอะไรไม่รู้ใส่หัว เดี๋ยวก็หัวล้าน”
“ตัวเองสิ หัวล้าน” คีย์ขยับตัวจะลุกขึ้น แต่เฮียคร่อมตัวไว้ “ไม่เอา เดี๋ยวโดนตึกตรงข้ามส่อง”
“พูดเหมือนเคยนะเนี่ย” คนพูดทำตาเจ้าเล่ห์มากมายประกอบ
“แล้วเมื่อกี้งอนจริงหรือฟอร์ม” มือเล็กๆ ดันไหล่กว้าง แล้วลุกขึ้นนั่ง
“เหอะ รุ่นนี้ไม่เคยงอนอยู่แล้ว ใครที่ไหนจะกล้างอน คีย์น้อย”
คีย์เหล่มอง “ดีมาก ไม่งอนก็เชิญท่องเว็ปธรรมะต่อไป ผมจะไปนอนแล้ว”
“มันแปลว่าให้พี่ไปต่อในห้องหรือเปล่า”
คำพูดดักคอ ทำให้คนที่ขยับลุกขึ้นยืน ถึงกับชะงักกึก มองหน้าพี่ มองประตูห้องนอนแล้วกลับมาที่หน้าพี่อีกรอบ
.....ยังไงวะกู...ยังไงกันละเนี่ย....คิดไม่ทัน....
“ก็มัน...ดึกมากแล้ว แล้วต้องตื่นเช้าไปตลาด...” คีย์ขมวดคิ้ว แล้วอ้าปากค้าง “ไอ้หื่น!”
เฮียซาโต้ถึงกับหัวเราะกลิ้ง แต่อีกคนหน้างอ
“ผมจะไปนอน ไม่ใช่ให้ไปต่อ พี่ไปคุยธรรมะกับเพื่อนเชฟของพี่เหอะ จบ!”
แต่คนตัวโตยังไม่เลิกหัวเราะ คีย์ทำได้แต่เอาหนังสือกลับไปวางที่โต๊ะบ่นพึมกลับเข้าห้องมานอน
“นี่มันใช่คนเดียวกับคนดุในครัวหรือเปล่าวะเนี่ย!”
ปิดไฟแทรกตัวเข้าใต้ผ้าห่ม ไม่คิดมาก่อนเลยจริงๆ ว่าจะมีวันที่ได้นอนในห้องแอร์เย็นสบายแบบนี้กะเขาเหมือนกัน ยังไม่ทันหลับพี่ก็เข้ามาในห้องเดินเลยไปแปรงฟันแล้วกลับเข้ามานอนข้างๆ
คีย์พลิกตัวหันมาหาซุกหน้ากับท่อนแขนใหญ่ อยู่ๆ ก็เอานิ้วมาจิ้มๆ
“มันจะแตกมั้ยอ่ะ”
พี่ยิ้มกว้าง มองคนที่เล่นกล้ามแขนพี่ไม่เลิก “ทำไงถึงจะมีกล้ามอย่างนี้อ่ะ”
เล่นๆ อยู่ก็ก้มกัดซะเฉยๆ
“เฮ้ย! เป็นหมาไปซะแล้ว”
“ไม่แตกจริงด้วย”
พี่ดึงใบหน้าคีย์ขึ้นมาให้เท่ากัน ขณะที่เลื่อนอีกมือบีบที่ก้นกลม จนคนโดนบีบก้นถึงกับสะดุ้งโหยง
“เจ็บนะ!”
“ไม่แตกจริงด้วย”
“ไอ้พี่บ้า เล่นไรเนี่ย นอนดีกว่า” คีย์พลิกตัว แกะมือพี่ออก
“นอนไม่ดีกว่าแล้วหล่ะ”
ดวงตาพราวระยิบที่พลิกตามลงมาหาพร้อมกับริมฝีปากอุ่นๆ คีย์เผยอปากรับ
จูบเร่าร้อน มือแข็งแรงที่เคล้นคลึงอกบาง กับเสียงครางต่ำๆ
“อย่ากลั้นเสียงสิครับ”
“มะ ไม่เอา” คีย์พูดเหมือนกัดฟัน
“ทำไมล่ะ” คำพูด สีหน้าห่วงใยเต็มเปี่ยม แต่นิ้วมือกำลังหยอกล้อบีบบี้ยอดอก จนคีย์บิดตัว
“ไม่เอา พี่ ....เล่นที่อื่นบ้างเหอะ บีบนมมันเสียวอ่ะ...”
พี่ยิ้มกว้าง ไอ้ที่มันขยายตัวเบียดต้นขาพี่อยู่ก็บอกว่าเจ้าตัวกำลังต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ
“ตอนเมาทั้งร้องทั้งคราง พอไม่เมากลับขี้หวง”
ดวงตาโตกลายเป็นตาโตแทบหลุด มือเล็กๆ ทุบหลังดังปึ้ก
“เออ!”
“ก็จริงนี่หว่า ตอนเมาเซ็กซี่จะตาย ตอนนี้ดุ๊ดุ”
“พูดอีก ผมจะไปนอนนอกห้องแล้ว”
“พี่ก็ไปนอนด้วย”
คีย์เบี่ยงตัว ผลักคนที่คร่อมอยู่ออก
“อ้าว โกรธ” พี่พลิกตัว ขณะที่คีย์ดึงเสื้อนอนลง แล้วลุกหน้างอออกไปจากห้องจริงๆ
แต่คนที่นอนมองอยู่หรี่ตาลง รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏที่มุมปาก
-*-*จบตอนที่ 20-*-*-

เป็นครั้งแรกจริงๆ ตั้งแต่เีขียนมาที่ได้ขึ้นตอนใหม่ ในหน้าใหม่ ขอบคุณมากครับ
ไจฟ์ครับ