(ที่เข้าแถวรวมกลุ่มกันอยู่ ไปดักที่ร้านทำผมได้เลย ส่วนที่ร้านข้าวน่ะ เฮียจัดให้
ต่อนะครับ)
ตอนที่ 29หญิงสาวคนนั้นก้าวเข้าร้านในช่วงสายของวันถัดมา มีเพียงเฮียซาโต้ กับเฮียพี 2 พี่น้องที่อยู่ร้าน
พอเห็นคนที่เดินเข้ามาในร้าน ก็อดที่จะคิดไม่ได้ว่า ดีเหมือนกันที่คีย์ไม่อยู่
อย่างน้อยก็อยากให้เห็นตอนที่พี่เป็นคนดี มากกว่าเป็นคนร้าย
“ซาโต้”
“หงส์”
“เตี่ยบอกว่า ซาโต้จะคุยกับชั้น” หงส์เลื่อนเก้าอี้เข้ามานั่งข้าง ขณะที่เฮียพีลุกไปเตรียมเครื่องดื่ม
สีหน้าท่าทางของหญิงสาวสดชื่นร่าเริง เพราะคิดว่าเรื่องที่บอกกับคีย์ไปเมื่อวาน จะเป็นไปอย่างที่ต้องการ แต่เฮียซาโต้ เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ดวงตาสีเข้มจ้องมองตรงๆ
เจ๊หงส์ชะงักมองท่าที
“มีอะไรหรือเปล่า”
เฮียซาโต้พยักหน้า แต่ยังไม่พูดอะไร
เจ๊หงส์ทำเสียงขัดใจ “คืนนี้ไปคลับกันมั้ย”
“ไปไม่ได้หรอก”
“ปิดร้านแล้วชั้นมารับก็ได้”
เฮียซาโต้แค่ยิ้มไม่ตอบคำ ทำให้หงส์ไม่เข้าใจ
“อะไรของเธอเนี่ย ทำไมดูเปลี่ยนไป”
“เหรอ”
“ซาโต้ไม่เคยทำท่าหยั่งเชิงกับกับชั้นแบบนี้เลยนะ หรือเพราะเด็กคนนั้น”
“ใช่ และผมกำลังหยั่งเชิงว่า ควรพูดยังไงให้หงส์เข้าใจ”
ถามว่ารู้จักหงส์เพราะอะไร ก็เพราะเสี่ยเล้ง แล้วคบกันฐานะไหน ตอบได้อย่างมั่นใจว่าเป็นเพียงคนรู้จัก ที่นานๆ พบเจอกัน เพราะว่าหงส์อยู่ต่างประเทศเป็นหลัก เคยไปดูหนังฟังเพลงด้วยกันหรือก็เปล่า
แล้วจู่ๆเข้ามาทำคุ้นเคยสนิทกันปานนี้ ไม่ตั้งการ์ดคุมเชิงก็แปลกแล้ว
บอกกันตรงๆอย่างนี้ จะมองว่าเฮียซาโต้ใจร้ายมั้ย
แต่มันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ
แล้วเฮียซาโต้เอง ก็อยู่ฝรั่งเศสมาหลายปี เรื่องการทักทายด้วยการสวมกอด มันก็ค่อนไปทาง....รู้...มากกว่ารับได้..
คิดไปคิดมา ให้มันเคลียร์กันไปในวันนี้เลยแล้วกัน
“พีขอกาแฟให้หงส์ด้วย”
“ลาเต้นะ”
เฮียพีพยักหน้าหันไปชงกาแฟจัดคุ้กกี้ให้หญิงสาว
“เด็กคนนั้นรู้หรือเปล่าว่าซาโต้ไม่ได้เป็นแค่พ่อครัว”
“ผมเป็นพ่อครัว แล้วเขาก็รู้ว่าผมเล่นเกมพ่อมดเป็นงานอดิเรก”
หงส์ย่นจมูก “งานอดิเรกอะไรกัน”
“งานอดิเรก ผมทำเล่นๆมาตั้งแต่ตอนที่อยู่ฝรั่งเศส บังเอิญว่าผมใช้คาถาได้ถูกต้องมันก็เลยออกดอกออกผลงามหน่อย มาถึงตอนนี้ก็นานๆทีถึงจะร่ายคาถา”
เจ๊หงส์โบกมือ แต่เหมือนสะบัดมือ กรีดนิ้วมากกว่า เกมการเงินที่เฮียซาโต้เล่นอยู่น่ะ มันเลิกเล่นกันได้ง่ายๆ หรือไง ใครๆก็อยากรวยด้วยกันทั้งนั้น
“พูดกันตามตรงเลยนะ หงส์ไม่ควรไปพูดกับคีย์แบบนั้น”
น้องชายที่หน้าเครื่องชงกาแฟถึงกับมองหน้าพี่ชาย ที่ยังคงรักษาความเป็นคนตรงอยู่เสมอ
“ชั้นก็บอกตรงๆ ว่าเด็กนั่นไม่เหมาะกับซาโต้เลยสักนิด”
“เหรอ” คนรูปหล่อกล้ามใหญ่หัวเราะ “หงส์ไม่รู้จักคีย์ การไปบอกว่าเขาไม่เหมาะ บอกให้เขาไปจากผม แบบนั้นมันก็ไม่เหมือนกับเจ๊หงส์ลูกสาวเสี่ยเล้งเหมือนกัน”
หงส์ยักไหล่ “เด็กจริงๆ ช่างฟ้อง”
“เขาไม่ได้ฟ้อง ผมบังคับให้เขาพูด แล้วผมก็ไม่ยอมให้เขาไปง่ายๆด้วย”
หงส์หรี่ตามอง “จริงจังเหรอ ซาโต้”
“มันมีตอนไหนที่ผมเล่นๆ หรือไง กว่าผมจะเจอคนที่ผมรักได้โดยไม่ต้องระแวงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ หงส์เองก็เถอะ มองดูให้ดีๆ ยังมีคนที่เขารักหงส์โดยที่ไม่ได้สนใจเรื่องธุรกิจอะไรอยู่”
“ไม่มีหรอก” หญิงสาวเบ้ปากสีหน้าดูถูก “คนที่เข้ามามันก็หวังพึ่งอิทธิพลของเตี่ย”
“แล้วจะมากันคีย์ออกจากผมทำไมเนี่ย”
หงส์หรี่ตาเรียวจ้องมองคนท่าทางเย็นชาข้างหน้า
ที่เขาเล่าลือกันว่า ผู้ชายคนนี้เลือดเย็นแบบตัวจริงเสียงจริงไม่ใช่เรื่องโกหก
ใครๆก็รู้ว่าไอ้การเก็งหุ้น เงิน และน้ำมันที่เจ้าตัวเรียกว่าเกมพ่อมดนั่นน่ะ ใครใจไม่ถึงจริง หัวใจไม่แข็งแรงพอเล่นไม่ได้ เพราะนอกจากเงินที่ได้เสียกันวันละหลักแสนหลักล้านแล้ว
พลังของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติอย่างที่เรียกกัน ยังชี้เป็นชี้ตายธุรกิจในหลายประเทศมาแล้ว
ก็ไอ้วิกฤติเศรษฐกิจโลกที่มันซวนเซอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่เพราะคนแบบเฮียซาโต้คนนี้หรือไง
เมื่อตรงมาก็ตรงกลับไป เดี๋ยวจะหาว่าลูกสาวเสี่ยเล้งไม่แน่จริง!
“เพราะว่าเราต้องคู่กันไง จะรักไม่รัก เอางี้ก็ได้ แต่งแล้วแต่ยังเก็บคีย์ไว้ชั้นก็ไม่ว่าอะไร แต่เราต้องคู่กัน”
คนที่เดินเอากาแฟและคุกกี้มาเสิร์ฟ อดไม่ได้ที่จะทำสีหน้าทึ่งจัด
“ไม่ละหงส์ ผมแต่งงานแล้ว”
หงส์เหลือบตามองเพดาน การพูดคุยเรื่องการแต่งงานโดยเว้นข้ามเรื่องความรักกับแผนการในอนาคตแบบนี้มันแห้งแล้งน่าเบื่อสิ้นดี
เสียหน้ามาตั้งแต่ตอนที่เด็กคนนั้นหันหลังกลับออกมาจากครัว แล้วเฮียซาโต้หันมาบอกให้กลับไปก่อน ท่าทางลุกลนรีบวิ่งตามกันออกมาจากร้านทันทีแบบนั้น
เสียหน้ามาก!
ไม่เคยมีใครทำกับชั้นอย่างนี้มาก่อนเลยนะ!
ยิ่งมาเจอกับการตั้งการ์ดปฏิเสธลูกเดียวแบบนี้
มันทั้งอัดอัด ทั้งน่าอาย ทั้งรังเกียจตัวเอง
ทำไมชั้นต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยนะ!
“อย่ามาพูดเล่นน่าซาโต้ ถึงมันจะมีคู่เกย์ที่แต่งงานกันก็จริง แล้วมันมีผลทางกฎหมายมั้ยล่ะ”
รอยยิ้มเหยียดปรากฏที่มุมปากของซาโต้ ทำให้หงส์ต้องรีบอธิบายต่อ
“ชั้นไม่ได้ต้องการเงินของซาโต้นี่”
“ไม่ได้ต้องการเงินของผม แต่ต้องการเอาเกมพ่อมดของผมไปฟอกเงินของเสี่ยเล้ง”
หงส์ผงะแล้วยักไหล่อีกที “ก็นั่นแหละ”
ซาโต้พยักหน้า “หงส์ตรงกว่าเสี่ยเล้งอีกนะเนี่ย”
“ก็ใช่ว่าชั้นจะชอบไอ้บ่อนบ้านั่น ที่ต้องยอมรับก็คือที่มีกินมีใช้มีเที่ยวไม่จำกัด ก็เพราะเงินของพวกอยากรวยทางลัดพวกนั้น”
“เสี่ยคงเห็นแล้วว่าผมจริงจังเรื่องคีย์ ก็เลยส่งหงส์มาคุย”
อันที่จริง ตลอดเวลาที่ผ่านมา เสี่ยเล้งก็ทั้งรับทั้งชงหงส์ให้กับเฮียซาโต้มาตลอด แต่เฮียก็ทำเฉย
“เก่ง” หงส์ชี้ชม “คุยง่ายดี เข้าใจเหตุผลที่ชั้นต้องหน้าด้าน ขอผู้ชายแต่งงานก็ดี”
“งั้นก็เข้าใจผมด้วย ว่าผมแต่งงานแล้ว”
เจ๊หงส์ถอนหายใจแรงๆ อย่างขัดใจ “นี่เรียกว่าเข้าใจหรือไง ถ้าไม่มีหุ้นของซาโต้ เงินบ่อนมันก็ไม่สะอาด พวกตำรวจก็ฮึ่มๆใส่กันอยู่ทุกวัน”
ตรงมาก จนไม่น่าเกิดมาเป็นลูกนักเลงเลยจริงๆ
“ที่ต้องยอมรับก็คือ ผมเป็นเพื่อนกับเสี่ยเล้งกับหงส์ได้ เหมือนกับที่เป็นเพื่อนกับสารวัตรธง หรือผู้กำกับน่ะแหละ แต่ถ้าการเป็นเพื่อนจะมาทำให้ครอบครัวของผมเดือดร้อน ผมก็ต้องตัดสินใจ”
คนรูปหล่อสุดชีวิตจิตใจ ที่ยืนทำโน่นนี่อยู่หลังเค้าท์เตอร์เครื่องดื่มอดไม่ได้ที่จะมองพี่ชายอย่างครุ่นคิด
เฮียซาโต้คนที่นั่งคุยกับหงส์ในตอนนี้ เป็นคนละคนกับพ่อครัวใจดี ยิ่งต่างจากคนที่อยู่กับคีย์ชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ
ลูกล่อลูกชนเหลือร้าย จนเหมือนคนแปลกหน้า
และเมื่อเราไม่มีความสามารถเหมือนเฮีย เราก็ควรอยู่เงียบๆ ตรงนี้แหละ
“ประสานผลประโยชน์เก่งจริงนะ” หงส์อดไม่ได้ต้องประชดสักหน่อย แต่เฮียซาโต้ยิ้มเย็น
“หรือจะให้ผมหักผลประโยชน์ของทุกฝ่ายล่ะ”
“เฮ่ย…” หงส์โบกมืออีกครั้ง “ไม่เข้าใจหรือไง นี่ชั้นกำลังเจรจาธุรกิจอยู่นะ ชั้นแฟร์ขนาดนี้หาได้ที่ไหน ซาโต้เอาคีย์ออกงานไม่ได้”
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ คีย์เป็นแค่เมียพ่อครัว เราสองคนไม่ได้ยิ่งใหญ่มาจากไหนสักหน่อย”
หญิงสาวกระตุกมุมปาก “ตลก กับคนอื่นเธออาจเป็นแค่พ่อครัว แต่ลองมาถามเตี่ยชั้น หรือตำรวจพวกนั้นสิ เธอเป็นแค่พ่อครัวหรือเปล่า”
เฮียซาโต้พยักหน้าช้าๆ “วนกลับมาที่เกมพ่อมดของผมอีกจนได้”
“นั่นแหละ หรือว่าตำรวจเองไม่ได้ต้องการผลประโยชน์จากเธอ”
“เอาตามตรงเลยนะ” เฮียซาโต้ขยับตัวตรง “ตำรวจทุกคนที่ผมคุยด้วย ที่ไอ้พีไปกินเหล้าด้วยเนี่ย เราไม่เคยจ่ายเงินให้ หงส์จะเชื่อหรือไม่ก็ตาม แต่มันเป็นอย่างนั้น เพราะจุดประสงค์ของพวกเขาคืออย่างอื่น”
หงส์ชะโงกหน้าตั้งใจฟังเต็มที่ “เรื่องอะไร”
“ปิดบ่อน” เฮียซาโต้พูดสั้นๆ แต่หงส์อ้าปากค้างเอนตัวพิงพนัก
ชายหนุ่ม 2 คนในร้านทิ้งช่องว่างให้หญิงสาวคิดเอง
“เตี่ยก็จ่ายให้ตำรวจนี่นา หรือว่า......”
“เขาก็ต้องมีผลงาน ไว้เลื่อนขั้น”
“แล้วเธอช่วยดึงๆไว้”
หงส์กัดมุมปาก เกิดอาการตัดสินใจไม่ถูกขึ้นมาดื้อๆ
“แต่เตี่ยอยากให้เราแต่งงานกัน”
“มันมีทางอื่นที่ดีกว่าแต่งงานนะหงส์”
หงส์ขยับตัวกอดอก ดวงตายาวเรียวจ้องมองเฮียซาโต้เต็มไปด้วยความคิดวุ่นวาย
“หงส์ไม่ลองทำเองล่ะ ลงทุนทำธุรกิจเอง”
“ไม่อ่ะ” หงส์พูดง่ายๆ ชี้มือไปที่คนรูปหล่อที่ยืนเงียบมาตั้งนาน “ชั้นก็เหมือนพีน่ะแหละ รู้แต่ใช้เงิน ทำให้มันงอกเงยออกดอกออกผลไม่เป็น”
เฮียพีอยากเถียงใจจะขาดว่านั้นมันเรื่องเมื่อ 6 ปีก่อน ตอนนี้ทำงานงกๆ ทั้งวันทั้งคืน แต่ไม่อยากพาออกนอกเรื่องเครียดที่ 2 คนกำลังคุยกันก็เลยใช้เชิงเงียบฟอร์มถนัด
“ไม่คิดบ้างหรือว่า ชั้นชอบซาโต้จริงๆน่ะ”
เฮียซาโต้ทำเสียงหัวเราะแปลก ๆ ทำให้หญิงสาวรู้สึกเสียหน้า
“พอเถอะหงส์ ยิ่งพยายามก็จะยิ่งรู้สึกไม่ดีกับตัวเองเปล่าๆ ผมเตือนในฐานะเพื่อน เราเปลี่ยนแปลงอดีตไม่ได้ แต่เราทำวันพรุ่งนี้ได้”
พ่อครัวรูปหล่อกำลังคุยกับลูกสาวเจ้าพ่อบ่อนพนัน แต่เหมือนคนรูปหล่ออีกคนที่หลังเค้าท์เตอร์เครื่องดื่มจะโดนเข้าไปเต็มๆ
“ซาโต้นี่เธอไม่เข้าใจหรือไง”
“ที่ไม่เข้าใจคือหงส์ต่างหาก” เฮียซาโต้ พูดช้าๆเน้นย้ำทุกคำ “ผมคิดว่าเสี่ยเล้งต้องการให้หงส์มาผูกมิตรกับผม แต่หงส์ใจร้อนเกินไป และเลือกที่ปรึกษาผิดคน เขาให้ข้อมูลที่ดีแก่หงส์ว่าคีย์คือคนสำคัญของผม และคีย์มีจุดอ่อนเรื่องที่เขาคิดว่าเป็นคนที่ไม่มีใครต้องการอยู่ตลอดเวลา” คนรูปหล่อยืดตัวตรงพูดต่อ “ถ้าหงส์ต้องการอะไร หงส์ควรพูดกับผมตรงๆ ที่ผมคบกับเสี่ยและเป็นเพื่อนกับตำรวจได้ เพราะทุกคนรู้กติกานี้ เสี่ยเองก็รู้ถึงไม่เคยแตะต้องคีย์”
น้ำเสียงของเฮียยิ่งพูดยิ่งเยียบเย็น “การล้ำเส้น นอกจากจะไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ หงส์จะไม่เหลือแม้แต่เงินที่มีกินมีเที่ยวอยู่ทุกวัน ฝากไปถึงคนที่บอกหงส์ให้กำจัดคีย์ด้วย ว่าผมไม่เคยขู่ใคร แต่ผมทำจริง”
เฮียพีนั่งอยู่ที่เก้าอี้หินอ่อน ของลานจอดรถโลตัส รอบๆตัวคือพนักงานของร้านอาหารหลายร้าน ที่จะมานั่งพักหลังอาหารกลางวัน ที่แต่ละคนจะต้องสลับกันออกมากินข้าว บางคนสูบบุหรี่ บางคนนั่งกินผลไม้คุยกันไปตามเรื่อง
ไม่นานนักคนรูปร่างผอมใบหน้าเรียวเล็ก ก็เดินมากับพนักงานร้านอีกหลายคน
ส่งยิ้มทักทายมาแต่ไกล
“กินข้าวแล้วเหรอ” เฮียพีทักส่งกล่องขนมให้
อ๋องรับมา แล้วนั่งลงข้างๆ “น่าจะเอาไปให้หนูนิด”
“มีอีกกล่อง”
อ๋องพยักหน้า ยิ้มให้กับกล่องขนมในมือ เฮียพีมองไปรอบๆ พูดไปเรื่อยๆ
“พอดีวันนี้ ลูกสาวเสี่ยเล้งมาที่ร้าน คุยอะไรบางอย่างกับเฮีย ชั้นก็เลยรู้สึกว่าชั้นควรทำอะไรบางอย่าง”
“ผมไม่ได้เล่นพนันนานแล้วนะ” อ๋องคนเคยเล่น จนเพื่อนต้องระดมเงินช่วยกันใช้หนี้ร้อนตัว
เฮียพีหันมายิ้มกว้าง “เออ รู้แล้ว”
อ๋องพยักหน้า ลูบท้ายทอยเก้อๆ
“ชั้นแค่มาเพื่อย้ำว่า....พี่ชายคนนี้....ไม่อยากให้นายกลับไปเดินทางนั้นอีก ถึงการทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเองแบบนี้มันจะเหนื่อย แต่มันก็ทำให้เราไม่ต้องก้มหน้า หรือคอยหลบใคร”
“ผมรู้ ผมจะพยายาม”
“ดี แล้วได้ที่ฝึกงานหรือยัง” เฮียพีเปลี่ยนเรื่อง
“เทอมสอง ยังมีเวลา แต่คุยกับผู้จัดการร้านไว้แล้ว”
“อ้าว แล้วจะได้เงินได้ยังไง”
“ผมก็เอาเวลาที่เคยทำพาร์ทไทม์ไปขายของตลาดกลางคืนแทนไง ผมเรียนบริหารก็ต้องรู้จักการบริหารเวลาสิ”
อ๋องบอกแล้วยิ้มกว้างจนตาหยี
ในตอนที่เฮียพีขับรถกลับมาที่ร้านผ่านร้านทำผมเจ๊จิ๋ว มีป้าย “หยุด 7 วัน” ติดอยู่ และในตอนที่ออกไปสูบบุหรี่หลังร้าน มีคนที่โต๊ะบอลกำลังคุยอยู่กับเฮียซาโต้ ได้ยินแว่วๆว่าเจ๊หงส์จะกลับอเมริกาพรุ่งนี้
--*-จบตอนที่29*-- 
มาวันอาทิตย์นะครับ ขอบคุึณทุึกการติดตาม
ไจฟ์ครับ