เพราะนี่คือตอนพิเศษแมน-เอกโปรดเตรียมพาราไว้ใกล้มือเผื่อต้องใช้ ฮ่าๆๆๆๆ
ตอนพิเศษแมน-เอก 
คนหน้าตาบ้านๆ นอนกลิ้งอ่านหนังสือการ์ตูน ขณะที่คนผมสกินเฮด ต่างหูสีดำข้างขาวข้างเดินเข้าห้องมา
“อ่ะบะหมี่เป็ด”
คนที่เพิ่งมาถึงวางห่อบะหมี่ไว้บนโต๊ะเตี้ยสารพัดประโยชน์แล้วเดินเอากระเป๋าเรียนไปวางไว้ข้างๆ กองหนังสือ เดินต่อไปห้องน้ำ กลับออกมาบะหมี่ยังอยู่ที่เดิม ดวงตาเรียวยาวมองคนที่นอนอ่านหนังสือแล้วเดินมาแกะบะหมี่ใส่จานให้
“แดกไม่แดก”
ไอ้คนหน้าตาบ้านๆ ทำท่าเหมือนตัวเองหล่อเต็มที
“ของมึงล่ะ”
“กูแดกมาแล้ว”
“เหอะ”
“เหอะทำไม อย่างกับมึงไม่แดกข้าวเย็นก่อนกลับมาห้องงั้นแหละ”
คอตก แต่ก็คลานมาที่จานบะหมี่ “มึงนี่ ไม่รู้ทันกูสักเรื่องไม่ได้หรือไง แกล้งๆโง่มั่งเนี่ย มันจะทำให้มึงท้องผูกหรือเปล่าห๊ะ”
“ก็นี่มันสี่ทุ่มแล้ว มึงไม่หิ้วท้องรอกูแน่ๆ”
พ่อพระเอกทำยักคิ้วยักไหล่ คีบบะหมี่ใส่ปาก อีกคนมองยิ้มๆ
“กูคิดว่าต้องเคี้ยวให้มึงด้วยซะอีก”
“ไม่ต้องๆ อันนี้กูทำได้ อ๊ะ” นึกขึ้นได้หันมาหาเรื่องทันที “เมื่อกี้กูกำลังงอนมึงอยู่นี่หว่า ทำไมมึงเพิ่งกลับห๊ะ”
ไอ้คนสกินเฮดหัวเราะปลงๆ “ห่า วันนี้ กูมีเรียนค่ำไง มึงไม่ได้เช็คข้อความในโทรศัพท์ใช่มั้ย”
....โทรศัพท์เหรอ....
ท่าทางมีพิรุธจนไอ้หนุ่มสกินเฮดทำหน้านิ่ง
“เอาโทรศัพท์มา”
“เอาไปก็ไม่เหลืออะไรแล้ว”
“แปลว่าอะไร”
คนที่กำลังกินอยู่ทำท่ากลืนน้ำลาย หันไปหยิบโทรศัพท์ให้
กดๆดู ไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย เบอร์โทร ข้อความ รูปภาพ ทุกอย่างหายเกลี้ยง
“อะไรวะ”
“ครือว่า...มึงอย่าเพิ่งโกรธนะ” นั่งตัวตรงหันมาหาคนที่กำลังกอดอกนับหนึ่งถึงร้อย “เมื่อบ่ายน้องนุกไปหาที่ร้านแล้วมึงโทรมา กูไม่ได้รับสาย”
“ไม่ได้รับหรือไม่กล้ารับ”
“ไม่กล้ารับ” เสียงอ้อมแอ้ม กล้อมแกล้มฟังยากเต็มที แต่ยังอุตส่าห์จะพยายามอธิบายต่อทั้งที่ชะตาใกล้ขาด “กูก็ซุกๆในกระเป๋ากางเกง แต่มันก็มีเสียง จนเงียบแล้วมึงส่งข้อความเข้ามา กูได้ยินเสียงแล้วหล่ะ ทีนี้มีคนเอาหมามาฉีดวัคซีน กูก็ไปดู นุกมันก็บอกว่า ฝากไว้กับมันก็ได้ กูก็ว่าไม่แล้ว แต่หมามันตัวโต กูกลัวโทรศัพท์กระแทกโต๊ะ ก็เลยฝากเค้าไว้ พอกลับมาดูอีกที...ไม่เหลืออะไรเลย”
ไอ้แมนลุกขึ้นยืน “งั้นแสดงว่าเมื่อเย็นมึงไปแดกข้าวกับน้องนุกนั่นมาใช่มั้ย”
“ครือ....”
ไอ้แมนคว้าจานบะหมี่เทลงถังขยะที่ระเบียง กลับเข้ามาวางจานบะหมี่ไว้บนโต๊ะแล้วคว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำ
ไอ้เอกได้แต่นั่งมองตาม
ขึ้นต้นอะไรก็ได้ ลงท้ายที่กูผิดทุกที
ก็เออแหละ อันนี้ จริงแล้วกูผิดจริงแหละ แต่หาความผิดมาโยนใส่มันก่อน แล้วก็...เฮ้อ...
ไอ้เอกเอาจานออกไปล้างที่ระเบียง แล้วกลับมากางที่นอนนั่งอ่านหนังสือการ์ตูนเล่มเดิมรอ กลิ่นแชมพูสระผมหอมฟุ้งออกมาถึงข้างนอก
เอ่อ..คือว่า ไอ้แมนมันสกินเฮดน่ะใช่ แต่มันชอบยาสระผม Herbal Essence มาก แต่ถ้าสบู่ต้อง Dettal เท่านั้น ที่จำได้ไม่ใช่เพราะว่าเคยซื้อให้ แต่เพราะว่าอยู่ในห้องเดียวกันต่างหาก ลำพังตัวเองก็ใช้แต่สบู่ Lux กับยาสระผม Sunsilk นี่แหละก็ใช้มาตั้งแต่อยู่บ้านนอก จนเข้าเมืองมาก็ใช้อยู่อย่างเดิม
“ลมดีหรือยัง”
ปกติมันอาบน้ำสระผมเสร็จมันจะอารมณ์เย็นลงนะ หรือเพราะว่ามันเรียนมาเหนื่อยก็ไม่รู้ ออกมาจากห้องน้ำใส่กางเกงเจเจ เสร็จก็เอาผ้าขนหนูออกไปตากแล้วกลับมานอนหันหลังให้
มองนาฬิกา มันเพิ่งสี่ทุ่มครึ่งนอนเร็วเหลือเกินครับคู้นนนนน
ทำฟอร์มถอนหายใจดังๆ เขาก็ยังไม่หันกลับมามอง
งอนจริงโว้ยงานนี้
“กูขอโทษ กูบอกให้เขากลับไปแล้ว แต่เขาจะรอกินข้าวด้วยอ่ะ กูก็เห็นว่าแค่กินข้าว เพื่อนกันไม่เป็นไร”
“หุบปาก”
“ถ้ากูหุบปากแล้วมึงจะหายงอนกูมั้ย”
“..........”
“ไอ้ห่า นะ ไม่โกรธกูนะ”
ไอ้คนที่นอนหันหลังให้ ยังคงอยู่ในท่าเดิม มีแต่เสียงที่ข้ามมา “มึงจำได้มั้ยว่ามึงบอกกับกูว่าอะไร”
“บอกอันไหนอ่ะ เยอะแยะ”
“......”
“อันที่..กูรักมึงน่ะเหรอ”
“มึงรักกูจริงๆหรือเอก”
“จริงสิ ใครเขาโกหกกันล่ะ”
“แล้วทำไมมึงถึงไม่เคยกลัวว่ากูจะเสียใจ แต่กลัวอีพวกนั้นเสียใจ”
จนด้วยถ้อยคำ ได้แต่คอตกขยับเข้าไปนั่งชิดหลัง
“กูขอโทษ”
“มึงพูดง่ายว่ารักกู แล้วก็ไปดีกับคนอื่น เพื่อที่จะมาบอกว่าขอโทษกูสักล้านครั้งก็ยังได้ เพราะมึงรู้อยู่แล้วว่า ยังไงกูก็ต้องยกโทษให้มึงใช่มั้ย”
ใจเท่ากำปั้นย่อขนาดลงเหลือแค่มิลเดียว
ไม่คิดเลยว่าความเคยตัว เคยปากจะทำให้ไอ้คนกวนตรีนมันเสียใจได้ขนาดนี้ เพราะที่ผ่านมาก็เห็นมันทำหน้านิ่ง ทะเลาะกันไปวันๆ ก็คิดว่า....มันไม่ใส่ใจ
“งั้นมึงอยากให้กูไงล่ะ”
“มึงอยากทำอะไรก็ทำไปเหอะ ไม่ต้องสนใจกูหรอก”
ฝ่าเท้าขนาดเล็กกว่ากันแค่เบอร์เดียวยันเข้าที่สะโพก จนต้องลุกขึ้นมานั่ง
“สัด ถีบทำไมเนี่ย”
“ก็มึงงอนนานเกินละ กูง้อเหนื่อยละนะ”
“นี่มึงไม่รู้ตัวเลยใช่มั้ยว่ามึงทำผิดน่ะ”
“รู้ดิ”
“รู้แล้วก็ยัง....มึงนี่มันยังไงวะ”
“ก็...สำนึกแล้วไง”
“แล้วมึงเลิกหยอดหญิงได้มั้ย”
“เหอะ ตั้งแต่อยู่กับมึงมาก็เลิกไปเยอะแล้วเหอะ”
“แล้วทำไมอีนุกอะไรนี่ถึงใจดีด้วย”
“เพราะ...ก็เขาเป็นเพื่อนกันน่ะ”
“เพื่อนเหี้ยน่ะสิ เอาโทรศัพท์มึงไปเช็ค แต่มึงเหี้ยกว่าที่ไม่รับโทรศัพท์กูต่อหน้าคนอื่น”
ไอ้แมนจ้องหน้าด่านิ่งๆแล้วกลับลงนอนใหม่อีกครั้ง ไอ้เอกได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ หันไปเก็บห้อง อ่านหนังสือต่ออีกพักแล้วเข้านอน
จริงอย่างที่มันว่าทุกคำ กูเป็นอย่างนั้นแหละ
ค่ำวันถัดมาไอ้แมนไม่กลับมานอนที่ห้อง พอโทรไปหาก็บอกว่าเดี๋ยวกลับ แต่ผ่านไปอีกคืนมันก็ยังไม่กลับ
บ่ายวันถัดมาเลิกเรียนเลยนั่งมอเตอร์ไซค์มาหาไอ้แมนที่บ้าน ไม่รู้ว่าอยู่ไม่อยู่แต่เวลานี้่ แม่อาจเลิกงานกลับมาบ้านแล้วก็ได้
บ้าน 2 ชั้นเล็กๆ แม่อยู่ในชุดลำลอง บอกว่าอยู่้บ้านคนเดียว เมื่อเดินออกมาเปิดประตูรับ
“แม่ไม่สบายหรือครับ” ไอ้เอกยกมือไหว้แล้วเดินเข้าบ้านอย่างคุ้นเคยเพราะเคยมาบ้านนี้แล้วหลายครั้ง
“จ้ะ กินยาแล้วก็นอนพัก ไม่ได้ไปทำงาน” แม่บอกท่าทางเพลียๆ
เอกเดินเข้าไปนั่งใกล้บีบนวดให้เหมือนเวลาที่ทำให้แม่ที่บ้านนอก
มันเป็นไปเอง
แม่ยิ้มอ่อนๆ
“แมนบอกให้มาดูแม่เหรอ”
....เปล่าซะหน่อย แต่ยิ้มไว้ก่อน......
“ไปถึงสุราษฎร์น่ะ มันไกลเลยต้องขอให้แมนขับรถให้พ่อน่ะ คิดว่างานจะเสร็จเร็ว แต่ยังไม่เสร็จ เลยต้องขาดเรียนเลย”
.....ไม่เห็นมันบอกเลยว่าไปไหนน่ะ....
...แต่ยิ้มไว้...
แม่เล่าต่อไป สรุปก็คือ วันถัดมาจากที่โดนงอนไอ้แมนก็ไปเรียนตามปกติ แต่ตอนสายพ่อก็โทรไปขอแรงขับรถไปใต้ คิดว่าวันถัดไปจะเสร็จงานกลับบ้านได้ ที่ไหนล่ะ งานไม่เสร็จจนล่วงเลยข้ามไปอีกวัน ถึงวันนี้ตอนนี้ พ่อลูกก็ยังอยู่ที่สุราษฎร์กันอยู่เลย
“แล้วเค้ารู้กันมั้ยว่า แม่ไม่สบายขาดงานอยู่บ้านน่ะ”
ไอ้เอกถาม แม่ยิ้มตอบ
....เออ...รู้เลยนิสัยนี้ของไอ้แมนถ่ายทอดมาจากทางไหน...
“ผมฟลุ๊กมากเลยนะเนี่ยที่มาแล้วเจอแม่”
“เออใช่” แม่พูดอย่างนึกขึ้นได้ “เอกต้องไปทำงานพิเศษนี่นา”
“ครับ”ไอ้เอกมองนาฬิกา
แต่วันนี้ไอ้เอกขอเลิกงานเร็ว 2 ทุ่มก็มายืนอยู่หน้าบ้านหลังเดิมอีกครั้ง
“อ้าว ลืมของหรือเอก”
“เปล่าครับ ผมมาอยู่เป็นเพื่อนแม่ระหว่างที่ไอ้แมนกับพ่อไม่อยู่ ได้มั้ยครับ ถ้าไม่ไว้ใจผมนอนห้องรับแขกก็ได้”
“ไม่ๆ” แม่ยกมือ “นอนในห้องแมนเถอะ”
หนุ่มคนนี้คือคนที่ทำให้ไอ้แมนกลับเข้าห้องเรียนอีกครั้ง นอกไปจากเป็นคนที่แมนไปนอนอยู่ที่ห้องมานานหลายเดือน แล้วทุกครั้งที่กลับมาบ้านก็จะขนของที่บ้านกลับไปฝาก
แล้วก็ยังเป็นคนที่มาพาแม่ไปหาหมอในวันที่แมนไม่ว่าง หลายครั้งที่ไปกับแมน หนุ่มคนนี้ก็มาด้วย เห็นทะเลาะกันแต่ก็เป็นห่วงกันดี
สุดท้ายก็ต้องจัดลำดับหนุ่มคนนี้อยู่ในฐานะพิเศษ
ห้องนอนไอ้แมนสะอาดปราศจากฝุ่น ตอนที่เปิดประตูเข้ามาในห้องถึงกับหันมามอง
“แม่ทำความสะอาดเองหรือครับ”
“จ้ะ ตามความเคยชินน่ะ เขาไม่ได้นอนก็จริง แต่ก็กลับมาเอาของไป เอาของมาวางไว้เรื่อยๆ”
...แม่ที่บ้านนอกก็คงเป็นแบบนี้เหมือนกัน.....
ไอ้เอกอาบน้ำเสร็จโทรกลับบ้านตอนหลังสองทุ่มเป็นครั้งแรกในรอบปี เสียงแม่โวยวายคิดว่าเมาอยู่กับเพื่อนตั้งแต่หัวค่ำแล้วโทรมาป่วน
“ไรเนี่ยแม่ คิดถึงจริงจริ๊ง ไม่ได้เมา”
“อย่าเมาจนขาดเรียนนะมึง” แม่กำชับส่งท้ายก่อนวางสายกันไป
กลับลงมานั่งดูละครเป็นเพื่อนแม่ไอ้แมนจนละครจบ ช่วยแม่ปิดบ้านแล้วกลับเข้าห้องนอนไอ้แมน
ซีดีเพลงฮาร์ดร็อควางเป็นตั้งคู่กับเพลงคลาสสิค
ก็ไม่รู้จักทั้ง 2 อย่างน่ะแหละ ฟังไม่เป็น ไอ้เพลงร็อคเนี่ยมันตะโกนว่าอะไรก็ไม่รู้ ส่วนเพลงคลาสสิคก็ไม่รู้จักกันพูดกันคนละภาษา
ไม่มีเพลงป๊อบ หรือเพลงลูกทุ่งหรือไงวะ
ยืนเอียงคอมองซ้ายมองขวา คว้ากฎหมายรัฐธรรมนูญมานอนอ่านจนหลับ ตื่นเช้ามาแม่กำลังใส่บาตรอยู่ ก็เลยมาช่วยแม่กวาดบ้านแล้วไปเรียน
“วันนี้แม่ก็หยุดอีกวันหรือครับ”
“จ้ะ มันยังเวียนหัวอยู่ กะว่าเดี๋ยวกินเช้ากินยาเสร็จก็จะนอนพักอีกสักหน่อย”
ค่ำลงไอ้เอกก็กลับมาที่บ้านนี้อีกครั้ง
ช่วยแม่ทำงานบ้านเล็กๆน้อยๆ แล้วนั่งดูละครเป็นเพื่อนแม่ จนกระทั่งแม่เข้านอน ห้าทุ่มมีรถมาจอดหน้าบ้าน แม่ลุกลงมาเปิดประตู แต่ช้ากว่าอีกคนที่เสนอหน้ามายักคิ้วช่วยถือของเข้าบ้าน
ไอ้แมนทำหน้าตาแปลกๆมองไอ้เอกที่ใส่กางเกงนอนขายาวของมัน
คิดว่านั่นไม่ใช่รอยยิ้มหวงของ แบบลูกคนเดียวหรอกนะ เหมือนจะ...พอใจ...ไงไม่รู้ คิดเข้าข้างตัวเองเปล่าหว่า...
“เลิกงานแล้วมา หรือโดดงานมา” ห้วนมากตามเคย
“เมื่อวานขอกลับก่อน แต่วันนี้ลา” แน่นอนห้วนมาก็ห้วนไปสิ
“แม่บอกว่าไม่เป็นไรแม่อยู่ได้ แต่เอกเขามีน้ำใจมาช่วยดู” แม่รีบบอกเพราะกลัวไอ้ 2 คนนี้ทะเลาะกัน
ส่วนพ่อรีบบอกให้แม่ขึ้นไปพัก
“พ่อไปอาบน้ำนอนเหอะ เดี๋ยวผมปิดบ้านเอง” ไอ้แมนบอก
“วันนี้นอนนี่ใช่มั้ย” แม่ถาม
ไอ้แมนหันมามองหน้าไอ้เอก แล้วหันไปตอบแม่ “ครับ”
เก็บเครื่องมือทำงานไว้ที่โรงรถ
เก็บของแห้งของฝากไว้ในครัว
ปิดบ้านแล้วอาบน้ำเข้านอน
ไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศจากห้องนอนใหญ่ลอดผ่านช่องใต้ประตู
คนผมสกินเฮดอาบน้ำเสร็จนุ่งผ้าขนหนูออกมาใส่กางเกงนอนในห้อง “แม่อยากให้มึงย้ายมาอยู่บ้าน”
“แม่อยากให้มึงกลับมาอยู่บ้านต่างหาก”
“แล้วมึงล่ะ”
“กูก็อยู่ที่ห้องไง”
“แล้วทำไมมึงไม่มาอยู่กับกูที่นี่”
“แล้วทำไมมึงไม่กลับมาอยู่ที่นี่”
ดวงตายาวเรียวหันมามอง แล้วเดินกลับมาล้มตัวลงนอนไอ้เอกเดินมาปิดไฟแล้วกลับลงไปนอนข้างๆ
“ห้องมึงเงี๊ยบเงียบ”
“.....”
“หลับแล้วหรือ”
“ยัง”
“ออกมาจากสุราษฎร์แต่เช้าเลยหรือ”
“อือ”
“.....คิดถึงมึงจังว่ะ”
“......”
“พรุ่งนี้ไปเรียนหรือเปล่า”
“ไปสิ”
“คิดถึงกูมั้ย”
“.......”
“กูกำลังวางแผนยึดแม่มึงมาเป็นแม่กูเนี่ย”
ได้ยินเสียงหัวเราะหึหึ ทำให้ไอ้คนที่พยายามหาเรื่องชวนคุยค่อยมีกำลังใจ
“กะว่าวันนี้มึงไม่กลับ ไม่โทรมา พรุ่งนี้กูจะตื่นแต่ไก่โห่มาทำข้าวใส่บาตรกับแม่แล้วไปส่งแม่ที่ทำงานแล้วไปเรียนไปทำงาน....ดีป่ะ”
“............”
“ไอ้ห่า มึงยังงอนกูอยู่อีกเหรอเนี่ย”
มีเสียงถอนหายใจยาวๆเป็นคำตอบ
ดวงตายาวเรียวมองเพดานแล้วหันมามองไอ้คนที่เป็นมิตรกับเพศตรงข้ามเป็นอาจินต์
.....แก้ยาก....มากๆ....
....หรือค่อยๆดัดกันไป ก็มันเป็นของมันแบบนี้มาตั้งนาน...
...แล้วอันที่จริงไอ้เรื่องไม่พอใจที่มันหยอดไปเรื่อยเนี่ยมันก็จางลงไปเยอะแล้วแหละ ยิ่งรู้ว่ามันมาอยู่บ้านดูแลแม่ให้ในช่วงที่ไปสุราษฎร์ ก็ไม่ได้ติดใจอะไรกับเรื่องนั้นแล้ว
“นอนเถอะ ดึกแล้ว”
บอกแล้วก็หลับตาลง รู้สึกถึงริมฝีปากที่กดแนบริมฝีปาก
ไอ้เอกคนที่ยืนยันมาตลอดว่ามันคือพระเอกขยับตัวคร่อมเอียงใบหน้ากดจูบย้ำ เสียงหัวเราะหึกวนประสาททำให้ต้องชกหน้าท้องแข็งๆไปที
“สัด ขำอะไรนักหนา กูกำลังตั้งใจ”
“ก็ขำมึงใช้มุกโบราณมากในการง้อกู”
“เหอะ แล้วอย่าบอกให้กูจูบมึงละกันสัด”
ไอ้เอกบอก แต่ยังคร่อมตัวจ้องมองริมฝีปากของอีกคนอยู่
“ทำไมมึงไม่ย้ายมานี่ มึงก็ยังไปทำงานได้ แล้วไม่ต้องเสียค่าเช่าห้อง”
“ก็กูพระเอก จะให้ย้ายมากูก็เป็นได้แค่พระรองน่ะสิ”
นิ้วมือหยาบเกลี่ยที่ใบหูที่ปราศจากต่างหูในตอนนี้ ดวงตาของคนที่คร่อมอยู่ยังหยุดอยู่ที่ริมฝีปากคู่เดิม
“จูบนะ” พระเอกอย่างกูทำเสียงอ้อนขนาดนี้ อย่าไปบอกใครเขานะเสียฟอร์มมาก
“ไม่ให้จูบ”
“นะ ขอจูบหน่อย”
“ไม่”
“เหี้ย แค่นี้ก็หวง”
จะฉกจูบมันก็เบี่ยงหน้าหนีเลยลงที่แก้มเต็มๆ
“เหี้ย ทำเล่นตัว”
“มึงยังเล่นตัวเลย”
“มึงเรียนจบก่อน แล้วค่อยคุยกันว่ายังอยากอยู่ด้วยกันอีกมั้ย ถ้าแม่มึงยอมรับ กูจะถือกระเป๋ามาอยู่กับมึงเอง โอป่ะ”
เสียงหัวเราะหึหึกวนตรีนมาอีกละ “มึงพูดได้ทุกอย่างเพื่อจูบกูหรือเปล่าเนี่ย”
“สัด กู...เออ..ช่างมันเหอะ”
พูดแล้วถอยออก แล้วใช้ความเร็วจับใบหน้าให้หยุดนิ่งรับริมฝีปากบดจูบอีกครั้ง
“อื้อ..ไอ้ห่านี่...แม่ง”
....วันนี้เรายังอยู่ด้วยกัน ส่วนวันพรุ่งนี้ ให้เป็นเรื่องของวันพรุ่งนี้แล้วกัน....
-*-*-End-*-*- ตอนพิเศษ-*-*-ที่มา่ลงตอนพิเศษในวันนี้ก็เพราะว่า ผมอ่านรีแล้วกลับไปอ่านเรื่องที่เขียนไว้ พบว่า เรื่องยังมีปมที่ทิ้งค้่่างไว้เหมือนกัน ที่ขมวดไว้ให้จบเลยต้องมาเพิ่มเติมเพื่อให้อ่านชัดเจนไม่อยากให้เหลือความสงสัยไว้ ก็คงยืดเรื่องต่อไปอีกนิด ที่จะให้จบอาทิตย์หน้าคงต่อไปอีกหน่อย 5555
ขอบคุณในทุกคำแนะนำ ทุกความคิดเห็น ทุกการติดตาม
บอกกันได้นะครับ ผมยังไม่เก่ง
ไจฟ์ครับ