(ต่อครับ)
ตอนที่ 39
เช้ามืดพี่เอมาเปลี่ยนเฝ้าร้านเกม ส่วนพี่หนุ่มน่ะเขามาบ่ายๆ
ไอ้แมนหันเข้ามาปลุกไอ้พระเอกที่นอนหลับสบายอยู่ที่เก้าอี้หลังร้าน ให้กลับมานอนต่อที่ห้อง
ทั้งที่ได้นอนสบายมาตลอดคืน แต่พอกลับมาถึงห้องตอนเช้ามืดไอ้แมนก็ยังเป็นคนที่ลากไอ้เอกเข้าไปอาบน้ำแล้วกลับออกมานอนบนที่นอนที่ไอ้แมนเป็นคนปูไว้ให้เสร็จ
“ตกลงมึงเป็นคนอดนอนหรือกูอดนอนกันแน่วะเนี่ย”
เสียงเปิดประตูห้องน้ำทำให้ไอ้เอกผงกหัวขึ้นมองแล้วคลานตามมาซุกนอนข้างๆ บนหมอนใบเดียวกันกับไอ้แมนที่เพิ่งล้มตัวลงนอน
คนตาเรียวผมสกินเฮดมองยิ้มๆ แล้วหลับต่อ
แต่ไอ้เอกลืมตาขึ้น ดึงแขนไอ้แมนกางออกแล้วนอนหนุนใหม่
“เคยมีใครบอกมั้ยว่ามึงเอาแต่ใจ”
“ไม่มี เพราะกูเป็นพระเอก พระเอกไม่เอาแต่ใจ” บอกทั้งที่ยังหลับตาพาดแขนที่เอวของคนสกินเฮด
ลืมตาขึ้นอีกทีแล้ว....จูบ...
ผละออกแต่ดวงตายังมองริมฝีปากเหมือนอยากจูบอีก
“ไม่เอาแต่ใจเล๊ยมึงน่ะ”
“ไม่หรอก กูใจดีมาก”
ยิ้มให้กัน หัวเราะเบาๆ ให้กัน กระชับอ้อมกอดนอนหนุนแขน ช่วงเวลาที่กลายเป็นความคุ้นเคย
ตอนสายไอ้เอกลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวไปทำงานที่คลีนิครักษาสัตว์ตามปกติ แต่พอบ่ายไอ้แมนก็มาหา
“มีไร”
“แม่ไม่สบายอยู่โรงพยาบาล”
“อ้าว แล้วมึงมาทำไม ทำไมไม่ไปหาแม่”
เสียงไอ้เอกไม่เบาเลย คุณหมอที่กำลังคุยกับเจ้าของหมาตัวน้อยที่มาฉีดวัคซีนถึงกับเงยหน้าขึ้นมอง
“ก็.....แม่กูไม่เคยเจ็บป่วยขนาดเข้าโรงพยาบาลน่ะ”
ไอ้เอกกำลังง้างปากจะด่า แต่ก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ ว่าแม่ตัวเองที่อยู่ต่างจังหวัดก็แข็งแรงไม่เจ็บไม่ป่วย ถ้าเกิดว่าเจ็บป่วยเข้าโรงพยาบาลขึ้นมา ก็คงมีอาการเหมือนไอ้แมนเหมือนกัน
“นั่นแม่มึงนะ”
“ก็เพราะว่าแม่กูไง ไอ้สัด”
“อ้าว ไอ้เหี้ยนี่มึงไปหาแม่มึงสิ”
“มึงเลิกงานกี่โมง” ไอ้แมนถามทั้งที่รู้ว่าไอ้เอกเลิกงาน 5 โมงเย็น
“วันนี้เลิก 5 โมง”
ไอ้แมนหันซ้ายหันขวาแล้วหันไปหาคุณหมอเจ้าของคลีนิค “ผมนั่งรอเพื่อนเลิกงานได้มั้ย”
จนห้าโมงกว่าน่ะแหละกว่าที่จะออกจากคลีนิครักษาสัตว์มาได้ ไอ้เอกรีบกดโทรศัพท์หาไอ้อ๋อง บอกว่า จะไปที่แผงช้าหน่อย เพราะต้องไปโรงพยาบาลกับไอ้แมนก่อน
“ตั้งแต่เกิดมา กูไม่เคยเจอคนประหลาดอย่างมึงมาก่อนเลยว่ะ แม่ไม่สบายยังไปนั่งรอกูให้มาด้วย เพื่อนมึงมีเป็นฝูง ไม่เรียกมาสักคนล่ะ”
คือว่าตอนนี้ตั้งสติได้แล้วไง ก็ทำปากกล้าชิงด่าไปในระหว่างที่เดินเข้าไปในโรงพยาบาลด้วยกัน
“แม่” ไอ้แมนเรียกแล้วเดินเข้าไปที่ข้างเตียง ส่วนไอ้เอกยกมือไหว้พ่อแม่ไอ้แมนแล้วเดินเลี่ยงมานั่งที่โซฟาตัวยาวในห้อง
แม่ไอ้แมนพูดคุยกับลูกเบาๆ ไอ้แมนก็ตอบเบาๆ ดีที่ห้องพิเศษห้องนี้มันเล็ก ไม่เหมือนในละคร ก็เลยได้ยินว่าแม่เป็นลมหมดสติในห้องน้ำ แต่เพราะเกาะขอบอ่างล้างหน้าไว้ในตอนที่เริ่มรู้สึกว่าหน้ามืด ศีรษะก็เลยไม่ได้กระแทกกับอะไรในห้องน้ำ ถึงอย่างนั้นสะโพกก็ยังกระแทกพื้น
หมดสติไปนาน พ่อถึงได้มาเคาะประตูเรียก กว่าจะงัดประตูเข้ามาได้ คาดว่าแม่จะหมดสติไปนานกว่า 10 นาทีแล้ว และไม่รู้ว่าตอนล้มลงมาท่าไหนยังไงพ่อก็เลยพาส่งโรงพยาบาลก่อน
“ก็ดีแล้ว” ไอ้แมนบอกเสียงแหบๆ
“เอ็กซเรย์นั่นนี่ไปหลายอย่าง” พ่อบอกขรึมๆ ตามแบบของคุณพ่อเข้มงวดจนไม่น่าจะมีลูกชายประหลาดๆ แบบไอ้แมนได้เลย
“แล้วแมนไปทำงานกี่โมง” แม่ถามไอ้แมน แต่ก็ส่งยิ้มมาให้ไอ้เอก ในฐานะคนที่พาลูกชายออกจากแก๊งค์ซิ่งมาทำงาน
“สองทุ่ม ต้องเอาไอ้...นั่นไปส่งที่ตลาดด้วยมันไปขายลูกชิ้นกับเพื่อน” เกือบเรียกชื่อสำรองด้วยความเคยชินต่อหน้าแม่ซะแล้ว
“ผมไปช่วยเก็บแผง”
ไอ้แมนหันมาหาแม่อีกที “แล้วคืนนี้ใครเฝ้า จ้างพยาบาลเหรอ”
“อือ” พ่อพยักหน้า “แต่พรุ่งนี้พ่อคงมาแต่เช้าอยากคุยกับหมอ”
“วันจันทร์คงได้กลับ” แม่มองในแง่ดี แต่จากมุมที่ไอ้เอกนั่งอยู่ เห็นพ่อหันมามองหน้ากับไอ้แมน สีหน้าท่าทางของพ่อเหมือนบอกว่า แม่คงต้องอยู่โรงพยาบาลอีกนาน
ยาวต่อมาถึงเช้ามืดวันอาทิตย์ ไอ้เอกอาบน้ำเสร็จออกมาจากห้องน้ำ ทันเห็นไอ้แมนรีบวางโทรศัพท์แล้วหันมาคว้าผ้าขนหนูเดินสวนเข้าไป
“เจออะไรมั้ย”
“ไม่”
“กูบอกแล้วว่า ไม่มี”
“มึงอาจลบไปแล้วก็ได้”
“งั้นจะเปลี่ยนโทรศัพท์กันใช้มั้ยล่ะ มึงจะได้สบายใจ”
ไอ้แมนหันมามองหน้า แล้วเดินสวนเข้าห้องน้ำ
แต่พอประตูห้องน้ำปิดลง ไอ้เอกก็รีบคว้าโทรศัพท์ไอ้แมนมาเช็คเหมือนกัน แล้วก็ล้มตัวลงนอน
ออกจากห้องน้ำ ดวงตายาวเรียวมองคนที่ทำเป็นนอนหลับสนิท ยกยิ้มที่มุมปาก ใส่กางเกงขาสั้นแล้วเดินมานอนที่เบาะของตัวเอง ไอ้เอกขยับตัวเข้ามาซุกนอนข้างๆ
“มึงรู้ว่ากูไม่สบายใจเรื่องแม่เลยสงบปากสงบคำล่ะสิ”
“เหอะ กูก็คิดเป็นนะ สัด”
ไอ้แมนถอนหายใจยาวๆ หันมามองคนที่นอนบนหมอนใบเดียวกัน
ไอ้เอกมันไม่ได้หล่อจนสาวเหลียว ไม่ต้องทำงานมันก็อยู่ได้ แต่มันก็ยังอุดมการณ์จัดหาเงินเรียนเอง ไม่ได้เป็นน้ำเย็นเหมือนใครอีกคน แต่มีบางอย่างที่ทำให้รู้สึกว่าอยากอยู่ใกล้
ไอ้แมนมันประหลาด ไม่ว่าจะที่ไหนเมื่อไหร่ มันคือคนประหลาด คิดไม่เหมือนใคร ทำตัวไม่เหมือนใคร นึกอยากทำอะไรก็ทำ เหมือนติดเพื่อนแต่ก็ไม่แคร์เพื่อนในเวลาเดียวกัน
คนตาเรียว สกินเฮดขยับตัว มือหนาจับคางของอีกคนไว้แล้วค่อยๆ จดริมฝีปากประกบ
ไอ้เอกยกมือแตะที่ชายโครงแล้วเลื่อนขึ้นโอบ ไล้มือเบาๆ
เอียงหน้าสอดลิ้นพันกัน สลับดูดริมฝีปากจนลมหายใจร้อนฉ่า ถึงได้ผละริมฝีปาก แต่หน้าผากยังแตะกันนิ่ง
“พรุ่งนี้...” ไอ้เอกพูด
“ก็เรื่องของพรุ่งนี้...” ไอ้แมนตอบ เอียงหน้าจัดมุม
“ดีมาก งั้นมึงนอน เดี๋ยวกูต้องทำงานอีกแล้ว” ไอ้เอกตอบกลั้วหัวเราะ “เย็นมึงไปรับกูแล้วไปหาแม่ที่โรงบาลด้วยกัน คืนนี้กูไม่ต้องขายของ มึงก็ไม่ต้องทำงานไม่ใช่เหรอ”
ไอ้แมนหัวเราะกดจูบอีกครั้งแล้วพลิกตัวลงนอน ม้วนไอ้เอกนอนหนุนแขน พาดขาไว้
“สัด กูไม่ใช่หมอนข้างนะ”
“เหี้ย ชอบพูดตอนคนจะนอน”
“สัด อึดอัดนี่”
“เหี้ย บอกว่าหยุดพูดกูจะนอน”
“สัด เอาขาออกไปไม่ได้เหรอ”
“เหี้ย เอ๊ย” ไอ้แมนยิ่งรัดแขนรัดขาแน่นขึ้น
“โอ๊ย ไม่เอากูเข้าท้องมึงซะเลยล่ะแมร่ง”
“เหี้ย หยุดพูดซะที ไม่งั้นมึงจะเจออย่างอื่นเข้าก้น”
-*-*-
คนที่นั่งดูบอล ท่าทางตั้งอกตั้งใจจนคนที่เดินถือไม้กวาดหมุนไปหมุนมาตัดสินใจไม่ถูกว่าควรจะชวนคุยดีมั้ย
สุดท้ายก็วางไม้กวาด เดินไปนั่งข้างบีบแขนล่ำเอาใจ
“พี่ฮะ”
“อือ”
“คุยได้ป่ะ”
“ได้”
แต่สายตาเข้ม ๆน่ะยังไม่ละจากหน้าจอเลยแม้แต่มิลเดียว
“คือว่า...แม่ไอ้แมนกลับมาบ้านแล้ว แต่ทีนี้ยังมีนัดต้องไปหาหมอเป็นระยะ ทีนี้พ่อเค้าต้องไปทำงาน ทีนี้ไอ้แมนมันก็ควรจะต้องเป็นคนพาแม่ไปหาหมอใช่ป่ะ แต่ทีนี้มันก็ต้องตื่นแต่เช้าใช่ป่ะ แต่ทีนี้.....”
เหมือนจะเล่าได้เรื่อยๆ สุดท้ายก็นิ่งไปตามฟอร์ม
คนที่ตั้งใจดูบอลถึงกับหลุดหัวเราะพรืด เลยโดนทุบแขน
“พี่อะ ใช่เรื่องหัวเราะมั้ยเนี่ย”
“หัวเราะคนที่เหมือนจะอัพสกิลการเล่าเรื่อง แต่สุดท้ายก็อึ้งต่างหาก”
คีย์เอียงคอ ทำปากยื่น “อย่างน้อยคราวนี้ก็ได้หลายประโยคหล่ะ”
“อะ แล้วตกลงจะให้พี่ช่วยอะไร”
“ไอ้แมนน่ะ มันก็ตั้งใจว่าจะไปดูแลแม่แหละ แต่มันก็ห่วงทางนี้”
“ห่วงไอ้เอก”
คีย์พยักหน้าหงึกหงัก
“คงเพราะมันทำตัวติดกันมาพักใหญ่แล้วน่ะ พอจะแยกก็เลยห่วงหน้าพะวงหลัง” พี่บอกเสียงใหญ่ๆ
“แม่ไม่สบายไอ้แมนก็ควรกลับไปดูแม่ใช่มั้ยฮะ แต่ถ้าไอ้เอกอยู่ห้องนั้นคนเดียวละก็มีหวังมันก็กลับไปเป็นเหมือนเดิมแน่ จะให้มันตามไปอยู่ด้วยก็ไม่มีทาง”
พี่หันมายิ้มเฉย แค่นั้นแหละ คีย์ก็ถอนหายใจยาว
“นึกแล้วเชียว”
“นึกแล้วเชียวอะไร”
“พี่ต้องไม่ช่วย”
“ช่วยอะไร 2 คนนั้นคิดเป็นว่าอะไรควรทำหรือไม่ควรทำ”
“แต่ผมอยากช่วยนี่!” ไอ้หน้างอ ๆ ตาดุ ๆ มาอีกละ
“ไรวะ”
“นะๆๆๆ พี่คิดหน่อยดิ๊” คีย์ขยำ ๆแขนบีบนวด
“ตกลงคีย์อยากช่วยหรืออยากให้พี่ช่วย”
“มันก็เหมือนกันแหละ โอ๊ย! จะโยกโย้ทำไมเนี่ย!” ขึ้นเสียงหงุดหงิดไปแล้วนึกขึ้นได้ ทำเป็นยิ้มประจบ ทำตาวิ๊งๆใส่
พี่ก็เอาแต่ยิ้มเฉย แล้วหันไปมองโทรทัศน์
...ก็มาอ้อนอะไรตอนคนดูบอลเล่าน้อง....
คีย์กัดปาก แล้วขยับขึ้นมานั่งตัก เอาคางเกยไหล่กว้าง “นี่ท่าไม้ตายแล้วนะ”
....เออ นี่กูมีแฟนเป็นเด็กมหาวิทยาลัย ปี 2 หรือ ป 2 กันแน่วะเนี่ย....
“เอาระดับไหน”
“ก็..อยากให้ 2 คนไม่ห่วงกันเกินไป ทำงานได้ เรียนได้อะ”
...เงื่อนไขใช้ได้ แต่ถ้าไม่แกล้งไอ้ตัวเล็กนี่ เดี๋ยวจะเงียบเหงาเกินไป..
“ยาก คีย์ต้องพยายามอีกนิด”
“เหรอ...ทำไงดีล่ะ ผมไม่อยากให้มัน 2 คนแยกกันอะ ถึงมันจะเถียงกันตลอด แต่มันก็ช่วยดึงอีกคนไว้อยู่ตลอด”
“ไม่ใช่อันนั้น”
“ห๊ะ อันไหน”
พอพี่เอียงแก้มให้ คีย์ก็หน้าแดง “พี่อะ ผมก็คิดว่า...”
“คิดอะไรไม่รู้ บอกแล้วว่าให้ดูละครน้อย ๆ หน่อย” พี่ทำแก้มพอง “เร็วดิ”
พอคีย์จะหอมแก้มพี่หันหน้ามาหารับจูบที่เหมือนโดนฉก
“เฮ้ย”
“ทำไมต้องเฮ้ยเนี่ย”
คีย์กอดคอพี่หัวเราะร่วน “ก็เออ นั้นแหละตกใจ”
“ว่าไง” คีย์เร่ง เพราะพี่ไม่ยอมช่วยสักที แถมเอาแต่ยิ้มเฉย
หนุ่มตัวเล็กบนตักยื่นหน้าจูบปากพี่ แรกเหมือนจะจูบเพียงแค่ริมฝีปากสัมผัส แต่เจ้าตัวเปลี่ยนใจหลับตาพริ้ม เม้มดูดริมฝีปากพี่ แล้วบดริมฝีปาก
ผละออกแต่ยังจดจ้องริมฝีปากสวยไว้ ช้อนตามองพี่แล้วหลบตา
“ถ้าไม่ใช่ไอ้แมนกับเอก พี่จะคิดว่าคีย์มีใจให้คนที่มาขอให้พี่ช่วยแล้วนะเนี่ย”
คีย์ส่ายหน้า ไม่ได้พูดอะไร แต่ข้างในกลับรู้สึกอุ่นๆ
พี่พูดเรื่อยๆ “ก็แค่สลับกันไปดูแลแม่ที่บ้าน พาไปหาหมอ ในวันที่ไม่มีเรียน”
คีย์จ้องมองพี่ “ทำไมมันง่ายนักล่ะ”
“ก็จะคิดให้มันยากทำไมล่ะ”
คีย์กระโดดออกจากตักพี่คว้าโทรศัพท์ไปคุยกับไอ้เอก ได้ยินเสียงเหมือนด่ากันแล้วก็ยิ้มร่ากลับเข้ามานั่งที่ตักเหมือนเดิม
“อ๊ะ ไม่ใช่ละ”
คีย์เพิ่งนึกได้จะลุกขึ้นแต่โดนล็อคเอวไว้
“วะ วะ วันนี้ วันอังคารนะฮะ”
พี่ดึงใบหน้าน้องเข้ามาชิด
“ทำอย่างเมื่อกี้ใหม่ซิ”
“มะ ไม่ ไม่ ดะ ได้แล้ว”
“งั้นพี่ทำนะ”
“พะ อึ้ม”
พี่ดูดปากแรงจนคีย์ส่งเสียงเล็กๆร้องท้วง มือใหญ่เลื่อนบีบสะโพกกลม แล้วสอดนิ้วทันที
“อ๊ะ อย่า ไม่เอาสด เจ็บ”
คีย์ผวายกตัวกอดพี่ไว้แน่น พี่ยิ่งซุกไซ้ทั่วใบหน้า ลำคอ
ปลายนิ้วภายในเคลื่อนไหว
คีย์ยกตัวแนบแก้มข้างหูพี่
รู้สึกถึงหยาดน้ำตาซึม พี่ดึงใบหน้าเล็กๆกลับมาใหม่
“เจ็บมากเลยหรือ”
คีย์พยักหน้าแดงจัด ซ่อนตาหรี่ปรือ “ตอนพี่ใส่เข้าไปทีแรกน่ะเจ็บ แต่ตอนนี้มัน....อื้ม...พี่ฮะ...”
“หยุดหรือต่อ”
คีย์กลั้นหายใจกัดปากแน่น “หยุด”
พี่ถอนนิ้วออก ปล่อยน้องจากแขนจากตัก
“ขอโทษฮะ พรุ่งนี้ผมมีเรียน วันศุกร์นะฮะ..”
“อืม” ตอบได้นิ่งสนิทมาก
คีย์ได้แต่ขอโทษลุกขึ้นหยิบหนังสือหงอยๆ ก้มหน้ากลับเข้าห้องนอน
คนที่ตั้งใจดูฟุตบอลมากยิ้มเจ้าเล่ห์ ปิดทีวี ปิดบ้าน ปิดไฟแล้วเข้ามาในห้องนอน
“อ้าว...บอลจบแล้วหรือฮะ”
“ยัง”
“อ๊ะ พี่...เดี๋ยวพรุ่งนี้ผม อะ อ๊า....พี่...หยุดก่อน...”
-*-*-จบตอนที่ 39-*-*-
เนื่องจากเขียนจบแล้ว ศุึกร์-เสาร์นี้ก็เลยไม่หยุึด ถ้าพอมีเวลาแวะมาหากันนะครับ
ขอบคุณมากครับ
ไจฟ์