(ต่อนะครับ)
ตอนที่ 42 ทาวน์เฮ้าส์ซ่อม และตกแต่งเรียบร้อย พี่หน่อย หนูนิดและ.........เฮียพี...ย้ายกระเป๋าเข้าบ้าน ห้องนอนใหญ่พิเศษชั้น 3 เพราะยุบรวม 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำกลายเป็น 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ เป็นของแม่ลูก ห้องนอนเล็กชั้น 2 เป็นของเฮียพี ส่วนชั้นลอยบอกกันว่ามันคือห้องทำงานของเฮียพี แต่มันกลับเต็มไปด้วยตุ๊กตาและของเล่นเด็ก
แต่อย่าเพิ่งคิดว่าทุกอย่างจะเสร็จลงง่ายๆ เพราะมันเริ่มจากขั้นตอนที่ยากที่สุดคือพี่หน่อยยืนยันให้บ้านเป็นชื่อเฮียซาโต้ หรือไม่ก็เฮียพี
โต้เถียงกันอยู่นาน เพราะชายหนุ่ม 2 คนก็ยืนยันว่าต้องเป็นชื่อพี่หน่อย
จนกระทั่งหนูนิดบอกให้เป็นชื่อเฮียพี คนรูปหล่อตัวโตก็เลยหยุดเถียง จากนั้นคุณเฮียซาโต้ก็เลยโมเมให้น้องชายย้ายมานอนห้องนอนอีกห้องในทาวเฮ้าส์ ส่วนแม่ลูกนอนห้องเดียวกัน
“มาๆ ไปๆดูให้เข้าที่เข้าทางก่อนก็ได้ เรื่องนี้ใครบังคับใครไม่ได้” พี่ชายว่าอย่างนั้นนะ
แต่ในฐานะคนฟัง ยังไงก็คิดว่านี่คือคำสั่งอยู่ดีแหละ
เช้าวันอาทิตย์ เฮียพีนิมนต์พระมาทำบุญที่บ้าน มีเพียงเฮียซาโต้กับคีย์ ที่มาทำบุญด้วย แล้วก็กลับไปก่อน ตอนค่ำๆ ถึงจะมาใหม่อีกรอบ
“ขอกูไปเดินเที่ยวกับคีย์สักวันเหอะ” เฮียแอบซุบซิบกับน้องชาย
เดินเข้าห้างทันทีที่ยามเปิดประตูห้างให้ความรู้สึกเหมือนเป็นเจ้าของห้างเสียจริง
“พี่กินกาแฟมั้ย ผมอยากกินเค้ก”
พี่พยักหน้า เดินเข้าร้านเล็กๆ คีย์ตรงไปที่หน้าเค้าท์เตอร์สั่งกาแฟและขนม หันกลับมามองมีหญิงวัยกลางคนเข้ามาทักทายพี่
“ซาโต้ ทำไมวันนี้ออกมาจากร้านได้ล่ะ”
“อาจารย์มิกิ น้องชายผมเลี้ยงบ้านใหม่น่ะ”
เสียงพูดคุยดังพอให้คนที่ยืนรอกาแฟกับเค้กหันมามอง
“มาคนเดียวเหรอ”
“เปล่ามากับแฟนน่ะ” บอกแล้วก็ชี้มาที่คนหน้าเค้าท์เตอร์
นอกจากอาจารย์มิกิแล้ว พนักงานในร้านก็พลอยมองมาที่คนที่ทำท่าเขินๆหน้าเค้าท์เตอร์ไปด้วย
ที่ต่างกันก็คือคนอื่นดูยิ้มๆ แต่อาจารย์มิกิกลับขมวดคิ้ว
“เพราะคนนี้หรือไงถึงได้ไม่ไปทำงานที่โรงแรม”
พี่พยักหน้ายิ้มเย็น
“ไม่น่าเชื่อเลย ว่าซาโต้เลือกความรักไม่เลือกชื่อเสียงน่ะ”
“เหรอ” พี่เลิกคิ้วสูง
“ทางโรงแรมเขายังรออยู่นะ เพราะว่าคนที่ได้มาเนี่ย ยังไม่ค่อยถูกใจผู้บริหาร”
พี่หันมามองคนที่ถือถาดกาแฟกับขนมมาวาง แล้วยกมือไหว้อาจารย์มิกิ
“อาจารย์ดื่มกาแฟอะไรครับ”
“ขอคาเฟ่มอคค่า”
“ครับ” คีย์พยักหน้าแล้วกลับไปสั่งกาแฟให้อาจารย์มิกิ
“ยังเด็กอยู่เลย”
“ไม่หรอกครับ 19 แล้ว คิดเป็นแล้ว”
อาจารย์มิกิกอดอกนั่งมองเฮียซาโต้นิ่งๆ “19 เนี่ยรักเป็นแล้วหรอ แล้วเธอเองเถอะ แน่ใจหรือว่าเขารักเธอ หรือว่ากลัวเธอกันแน่”
คีย์หันกลับมามอง
ที่กลัวไม่ใช่อาจารย์มิกิ แต่กลัวพี่จะเอาเก้าอี้ในร้านทุ่มใส่อาจารย์ต่างหาก
พี่หันมามองคนหน้าตาตื่น ที่ยืนอยู่ที่เค้าท์เตอร์แล้วหันไปหาอาจารย์มิกิ
ยิ้มเย็นที่มุมปากปราศจากคำพูด ทำให้อาจารย์มิกิกะตุกเสียงในคอเป็นคำตอบรู้ทัน
“เอาอนาคตมาเสี่ยงกับวัยรุ่นที่เปลี่ยนไปได้ตลอดเวลา ไม่สมกับเป็นเธอเลยจริงๆ”
อาจารย์มิกิบอกแล้วลุกขึ้น หันมาพยักหน้าให้คีย์แล้วเดินออกไปจากร้าน
คีย์หันมาที่เค้าท์เตอร์ จ่ายเงินค่ากาแฟ แล้วบอกคนขายว่ารบกวนดื่มกาแฟแก้วนั้นให้ด้วย เพราะถ้าขืนถือกลับไปที่โต๊ะมีหวังร้านบึ้ม!
กลับมานั่งกินกาแฟด้วยกันเงียบๆ แล้วไปเดินดูนั่นนี่ในห้างหรู
มือแข็งแรงกระชับแน่น ดวงตาอบอุ่น รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ
ลงท้ายที่การดูหนัง ที่ทั้งพี่ทั้งน้อง ไปยืนเสี่ยงกันที่ป้ายโฆษณาว่า เรื่องไหนที่ไม่ต้องรอนานก็เรื่องนั้นแหละ
ภาพบนจอยักษ์เคลื่อนไหวไปเรื่อย ศีรษะเล็กๆเอียงซบไหล่กว้าง
2 มือยังคงกระชับแน่น
หัวใจ 2 ดวงยังคงเต้นพร้อมกัน
เฮียพีขับรถไปส่งพระ แล้วกลับมารอ 2 แม่ลูกที่หน้าบ้าน เพราะทั้งคู่เอาขนมไปแจกจ่ายเพื่อนบ้านเพื่อทำความรู้จัก เด็กหญิงยิ้มแย้มบอกว่า นี่คือขนมที่คุณอาพีใจดีเป็นคนทำ
เฮียพีพูดน้อย พี่หน่อยก็พูดน้อย เลยได้ยินแต่เสียงของหนูนิดเล่าเรื่องที่ไปคุยกับบ้านโน้นบ้านนี้ พอเที่ยงก็พากันไปซื้อของที่จะมากินเลี้ยงตอนค่ำ
ไอ้อาร์ตกับเจ๊มิซากับแฟน แล้วก็พี่หนุ่มมาถึงตอนบ่าย ช่วยกันจัดบ้าน ที่แทบไม่มีอะไรให้จัด
ตกเย็นไอ้เบิร์ดกับไอ้อ๋องออกเวรที่ร้านก็มาถึงบ้าน ตามมาด้วยไอ้แมนกับไอ้เอกที่รอปิดร้านเกมก่อน ติดๆกันคือเฮียซาโต้มาพร้อมกับคีย์
ที่นั่งกินสบายๆ อยู่ในบ้านก็ล้นออกมาที่โรงรถ และสนามหญ้า
“ดีที่ได้หลังมุมใน พอให้มีสนามหญ้าเล็กๆให้หนูนิด” เฮียพีบอกขณะส่งเบียร์ให้พี่ชาย คนจ่ายเงิน แต่เพิ่งได้เห็นบ้านเป็นครั้งแรกวันนี้
“แล้วทำไมคนเก่าเขาถึงขาย”
“เขาว่ามันอยู่หลังสุดท้ายเข้าออกลำบาก”
พี่ชายพยักหน้า ดวงตาสีเข้มมองบ้านหลังติดกัน “ถ้าหลังติดกันนี่เขาขายก็บอก จะได้ขยาย”
พี่หน่อยหันมามอง แล้วส่ายหน้าให้กับเฮียพี แต่คนรูปหล่อไม่รับมุก
“ไม่เอาก็บอกเขาเองเหอะ บทจะเผด็จการขึ้นมา อะไรก็หยุดไม่อยู่”
คีย์นั่งอยู่ข้างไอ้อ๋อง ขณะที่ไอ้เบิร์ดแจกจ่ายเบียร์ เว้นแต่คีย์ที่ได้น้ำอัดลม เหมือนกับหนูนิด แต่ไม่มีใครทักท้วง
ส่วนไอ้แมนที่หน้าเตาปิ้งย่างก็ได้รับแจกจ่ายเบียร์เหมือนกัน หนุ่มสกินเฮดวันนี้ ไม่มีต่างหูกับสร้อยข้อมือเป็นพวง ทำให้ดูเรียบร้อยกว่าเดิม
แมนคีบกุ้งที่สุกได้ที่ออกมาวางในจานปอกเปลือกเหลือแต่หางส่งให้คีย์
คีย์รับมาแล้วป้อนหนูนิด “อร่อยป่ะ”
“อื้ม” หนูนิดพยักหน้ายิ้มแก้มพอง “พี่แมนทำอร่อยเนอะ”
“เนอะ”
ไอ้หนุ่มสกินเฮดหันไปยิ้มเยาะใส่อีกคนที่รีบแกะก้ามปูส่งป้อนหนูนิดถึงปาก
“อร่อยปะ”
“อร่อยค่ะ”
ไอ้เอกหันไปยักคิ้วคืนทันที
ได้ยินเสียงไอ้เบิร์ดบ่นกระแทกมาตามลม “ไอ้ 2 ตัวนี้แมร่ง”
“เฮียเบียร์หมด” ไอ้อาร์ตเงยหน้าขึ้นมาจากถังน้ำแข็งที่มีเครื่องดื่มแช่อยู่ แต่ตอนนี้เหลือแต่น้ำอัดลม
“อ้าวหมดได้ไง กูกะผิดหรือไงเนี่ย” เฮียพีเกาหัวแกรก
ไอ้อ๋องรีบยกมือ “ผมไปซื้อให้” แล้วหันไปพยักหน้าเรียกไอ้เบิร์ด แต่ไอ้เบิร์ดกลับหายเข้าไปในครัว ไอ้อาร์ตเลยต้องเป็นคนไปช่วยซื้อของ
เฮียพีส่งเงินให้ไอ้อ๋องแล้วยืนล้วงกระเป๋ากางเกงมองตามจนรถมอเตอร์ไซค์เลี้ยวออกไป
“พี” เสียงหนักเรียกดุๆ ทำให้เฮียพีเดินกลับเข้ามานั่งเก้าอี้สนามข้างพี่ชาย
“ไม่มีอะไรหรอกน่าเฮีย ก็แค่ความเคยชิน”
“อย่าให้เคยตัวละกัน เพราะกูจะเอาเลือดหัวมึงออกเอง”
ดวงตาสีเข้มอดไม่ได้ที่จะหันไปมองหญิงสาวที่ถือจานข้าวเกรียบออกมาวางบนโต๊ะ
“หน่อย”
“คะ”
“นิดทักอะไรบ้างหรือเปล่า”
“ไม่ค่ะ”
“แล้วมันดีกับหน่อยหรือเปล่า” พี่ชายชี้ไปที่ “มัน” ที่ยืนทำหน้าหล่อไม่เลิก
“ค่ะ” หน่อยตอบลดเสียงลง คีย์รู้ว่าผู้ใหญ่กำลังจะคุยเรื่องที่เด็กๆ ไม่ควรฟัง ก็เลยอุ้มหนูนิดกลับไปนั่งกินกุ้งที่หน้าทีวีในบ้าน
พอลูกเข้าไปในบ้านแล้ว หน่อยก็เลยพูดต่อ “เรื่องนั้น ไม่เป็นไรหรอกค่ะเพราะเราคุยกันแล้ว”
พี่ชายนิ่วหน้า
เฮียพีรีบยกเบียร์ขึ้นจิบหันไปมองทางอื่น
“คุยว่ายังไง” วิญญาณเผด็จการเข้าสิงเสียงเข้มขึ้นทันที หน่อยเลยต้องเป็นคนตอบ
“คือเรื่องที่อยู่ด้วยกัน แล้วคนมองว่ายังไงเนี่ย หน่อยไม่ได้สนใจเรื่องนั้นแล้ว คิดแต่ว่า อยากให้หนูนิดได้อยู่ในที่ๆดีเท่านั้นเอง”
“งั้นก็ดูแลกันให้ดี” พี่ชายพูดเหมือนปลง “คิดถึงวันพรุ่งนี้ไม่ใช่เมื่อวาน”
ไม่รู้แล้วว่า ในรอบหลายเดือนมานี้พูดประโยคนี้ไปแล้วกี่ครั้ง
เมื่อหน่อยขอเข้าไปในครัวดูไอ้อาร์ตกับเจ๊มิซาและแฟนเตรียมอาหารเย็น เฮียพีก็เลยพูดเบาพอให้ได้ยินกัน 2 คน
“ไม่ใช่ว่าผมกลัวผีไอ้มีนหรอกนะพี่ แต่ถ้าพี่เคยทำร้ายใครสักคนจนชีวิตเขาแทบไม่เหลืออะไรเลย พี่จะกล้ากอดเขามั้ย”
พี่ชายพยักหน้า “อืม กูเข้าใจ”
“แต่เพราะพี่ย้ำอยู่ตลอดว่า ผมควรก้าวข้ามความรู้สึกผิดให้ได้ ผมก็อยากทำให้หน่อยกับหนูนิดมีความสุขที่สุดเท่าที่ผมสามารถทำได้”
“แล้วถ้าเกิดวันหนึ่งมีคนที่เขาพร้อมจะดูแลทั้ง 2 คนมากกว่ามึงล่ะ”
“เหอะ” น้องชายทำเสียงขึ้นจมูก “ลองดูกันสักตั้งเหอะ”
“ไอ้ขี้หวง” พี่ชายส่ายหน้า “กอดเขาไม่ได้ แต่เสือกหวง”
“โหพี่ ชีวิตคู่ ไม่ได้มีความหมายแค่นอนกอดกันนะพี่”
“ตุ๊ย! ทีงี้ละเก่ง” พี่ชายทำท่าถ่มน้ำลายแล้วหัวเราะขำ
คุยกับน้องชายหันไปอีกที เห็นไอ้เบิร์ดเอาจานข้าวร้อนๆ มาขอกุ้งกับปูไปป้อนข้าวหนูนิด เพราะว่าเย็นมากแล้ว ไอ้แมนรับจานข้าวมา แกะกุ้งแล้วเดินถือไปนั่งข้างหนูนิด ขณะที่อีกด้านของหนูนิดคือคีย์
ไอ้เบิร์ดที่เข้ามานั่งแทนที่ไอ้แมน แล้วหันมาไอ้เอกที่มองตามคนสกินเฮดที่เดินเข้าไปในบ้าน
“เฮ่ย”
“อะไร”
“แดกบ้างเหอะมึงน่ะ”
ไอ้เอกหันมาแยกเขี้ยวใส่เพื่อน “มึงป้อนกูดิ”
สารวัตรธงกับตำรวจหลายนายเดินเข้ามาทักทายพร้อมกับกระเช้าของขวัญ ตามมาด้วยเพื่อนของเฮียพีอีกหลายคน จนไอ้อาร์ตต้องวิ่งหาเก้าอี้มาเพิ่ม
ไม่นานนักไอ้อ๋องก็ขี่มอเตอร์ไซค์กลับมา โดยมีมอเตอร์ไซค์อีกคันตามหลังมาด้วย
“พี่ส้ม”
พี่ส้มที่ใส่กางเกงยีนขายาวกับเสื้อยืดแขนสั้นลายการ์ตูนตัวเล็ก ดูไม่ค่อยคุ้นตา แต่ไอ้เอกแอบหันไปมองหน้ากับคีย์ที่ยังอยู่ในบ้านแล้วทำตีมือจากระยะไกล
“สวัสดีค่ะ” พี่ส้มยกมือไหว้เฮีย 2 คนเรื่อยไปถึงกลุ่มตำรวจและเพื่อนของเฮียพี “บ้านหนูอยู่ใกล้ๆ พอดีเจอกับอ๋องที่เซเว่น”
“เข้ามากินก่อนมั้ย” เฮียพีชวน
ไอ้เบิร์ดลุกมาช่วยถือแพคเบียร์เข้าไปใส่ถังใบใหญ่ที่โรงรถ
“เอาเบียร์มั้ย” ไอ้อ๋องหันมาถาม
พี่ส้มส่ายหน้า ยิ้มเก้อๆให้กับคีย์ที่ยังนั่งอยู่ข้างในบ้าน แต่พอหันกลับมามองไอ้เอกกลับทำตาคว่ำปากยื่นใส่
“ทำหน้าเหมือนเตรียมล้อเลยนะยะ”
“เปล่าล้อ แค่รอบอกว่าพี่แต่งตัวอย่างนี้เหมือนเด็กมัธยม”
ไอ้เอกหยอดตามนิสัย
คีย์กับไอ้เบิร์ด ไอ้อ๋อง หัวเราะลั่น
แต่ว่า มีบางคนเกิดอาการหางตากระตุก
“ไอ้ห่านี่ คุยโดยไม่หยอดทำไม่เป็นจริงๆ”
คีย์สะกิดเหมือนตีไหล่ไอ้แมน ทำเหลือบตามองหนูนิดที่กำลังฟังอยู่ ไอ้แมนเลยรีบขอโทษเด็กแล้วป้อนข้าวต่อ
พี่ส้มมองไอ้แมนกับคีย์แล้วหันมามองเฮียซาโต้ที่ดูชิวๆ นั่งดื่มเบียร์คุยกับน้องชายและสารวัตรธง
พี่ส้มเข้ามานั่งกินนั่นนี่ได้ไม่ถึง 10 นาทีก็ขอตัว ไอ้อ๋องเดินออกไปส่งที่รถพูดคุยกันเบาๆ หันมาอีกทางไอ้เบิร์ดก็กำลังคุยโทรศัพท์กับพี่เจี๊ยบ บอกว่า ยังกินเหล้าอยู่ที่บ้านเฮียพี แล้วก็วางสายไป
คีย์ลุกมานั่งซุบซิบกับไอ้เอก
“ไงพระเอก แผนมึง”
“อ่าฮะ ช้าๆ แต่ชัวร์” ไอ้พระเอกทำหน้าตาเจ้าเล่ห์
“วันนี้เป็นวันรวมเหล่าที่สุดยอดไปเลย” คีย์ยิ้มกว้างจนดวงตากลายเป็นเส้นโค้ง
“จริงเหรอ มากอดทีไอ้ตาโปน” ไอ้เอกกางแขนกอดเพื่อนตัวเล็กไว้เต็มอ้อมแขน “กูชอบเวลาที่มึงยิ้มอย่างนี้จริงๆ”
*-*-* จบตอนที่ 42*-*-*
