Never Let You Go
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Never Let You Go  (อ่าน 440880 ครั้ง)

ออฟไลน์ Wordslinger

  • แป้งจี่รีรีข้าวสาร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1180/-5
Re: Never Let You Go <12-04-54> [พิเศษ 1]
«ตอบ #1140 เมื่อ13-04-2011 23:16:29 »

ตามอ่านมาแต่เมื่อวานเพราะชอบสำนวนการเขียน กระชับไม่เยิ่นเย้อและไม่เชื่องช้า

อ่านแล้วอมยิ้มทุกตอนเลยค่ะ เฮียซาโต้กับน้องคีย์ตัวน้อยหวานกันมาก แต่ดิฉันชอบคู่ของแมนและเอกมากกว่านิดหน่อย แบบ...เป็นพวกชอบความรุนแรง เหอะๆ แล้วพอดีรักของสองหนุ่มนั่นรุนแรงดีก็เลยยิ่งชอบ

เดี๋ยวไปอ่านอีกสองเรื่องที่เหลือนะคะ ขอบคุณคุณไจฟ์มากค่ะ

ปล. เที่ยวสงกรานต์ให้สนุกนะคะ

ปปล. วุ้ย ไปเที่ยวบ้านน้องทีหรือคะ?

ปปปล. ตกลงอาร์ตไม่มีคู่หรือคะคุณ?

ปปปปล. กดบวกให้เป็นการขอบคุณแล้วนะคะคุณไจฟ์

ออฟไลน์ konnarak

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-0
Re: Never Let You Go <12-04-54> [พิเศษ 1]
«ตอบ #1141 เมื่อ14-04-2011 03:11:13 »

คีย์ไปทำบูญด่วนๆ   

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
Re: Never Let You Go <14-04-54> [พิเศษ 2]
«ตอบ #1142 เมื่อ14-04-2011 06:10:32 »

สุขสันต์วันปีใหม่
ตอนนี้ไม่ใช่ Yaoi นะครัีบ
พิเศษ พี-หน่อย , อ๋อง-ส้ม , เบิร์ด-เจี๊ยบ


พี่หน่อยไปรับหนูนิดที่โรงเรียนแล้วกลับเข้าบ้าน หนูนิดก็วิ่งไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ขณะที่พี่หน่อยเข้าครัวเตรียมอาหารเย็น
เสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้นพี่หน่อยเดินออกมาดู มีรถมอเตอร์ไซค์ 2 คันจอดอยู่ คันหนึ่งคืออ๋องกับส้ม อีกคันคือเบิร์ดกับพี่เจี๊ยบ
ทั้ง 4 คนยกมือไหว้ทำความเคารพแล้วเข็นรถเข้ามาจอดที่โรงรถในบ้าน
“ขอโทษครับพี่ที่มารบกวนตอนนี้” อ๋องบอก
ขณะที่เบิร์ดมองเข้าไปในบ้าน “หนูนิดล่ะครับ”
“อาบน้ำจ้ะ” พี่หน่อยบอก “เฮียพียังอยู่ที่ร้านอยู่เลย”
“ครับ แต่เรามีเรื่องมาปรึกษาพี่หน่อยก่อน”

เบิร์ดชี้ไปในครัว “พี่ทำข้าวให้หนูนิดอยู่หรือเปล่าครับ ผมไปทำให้”
พี่หน่อยเลิกคิ้วขึ้นสูง แต่ก็พยักหน้า ทำให้เบิร์ดหันไปเรียกพี่เจี๊ยบเข้าไปช่วยกันในครัว แต่ท่าทางเหมือนจะให้ไปดูลาดเลาแถวบันได ดึงหนูนิดไม่ให้มาร่วมรับฟังเรื่องทุกข์ร้อนในวันนี้มากกว่า 
“มีอะไรจ้ะ” พี่หน่อยมองหน้าหนุ่มสาว 2 คนข้างหน้า
พี่ส้มขอบตาแดงก่ำ พูดด้วยเสียงสั่นเครือ “หนูท้อง”
พี่หน่อยหันไปมองหน้าอ๋องทันที จนพี่ส้มต้องรีบบอก “ไม่ใช่อ๋องค่ะ ที่จริงแล้วหนูไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นใคร”

พี่หน่อยที่เคยพบเจอกับสถานการณ์คล้ายกันพยักหน้าอย่างเข้าใจ ขยับเข้าไปนั่งข้างๆ เพียงแค่โอบไหล่ไว้ พี่ส้มก็ปล่อยโฮ
จนกระทั่งเสียงร้องไห้จางลง พี่ส้มถึงได้เล่าเรื่อง
ปาร์ตี้ที่เต็มไปด้วยเหล้า และยา ผ่านไปจนถึงขั้นตอนของการเมาจนขาดสติ และตื่นมาในสภาพเปลือยเปล่า ยาที่กินตามไปทีหลัง ไม่ได้ให้ผล 100 เปอร์เซนต์ หรือบางทีอาจเพราะกินยานั้นช้าเกินไป รอจนกระทั่งประจำเดือนขาด กับอาการผิดปกติที่เกิดขึ้น ทำให้ไปซื้อที่ตรวจการตั้งครรภ์มาตรวจเอง ตรวจครั้งแล้วครั้งเล่าผลออกมาเหมือนเดิม
“หนูกลัวไม่กล้าบอกพ่อกับแม่ พอดีนึกถึงพี่ได้ แต่ก็ไม่กล้ามาหาคนเดียว เลยต้องไปหาอ๋อง”

พี่หน่อยได้แต่พยักหน้า รู้สึกเหมือนกำลังย้อนเวลากลับไปเมื่อ 7 ปีก่อน ปนเปกับห้วงเวลาปัจจุบัน ภาพของพ่อ แม่ พี่มีน ปนอยู่กับงานศพ การเลี้ยงลูกตามลำพัง และความคาดหวังไม่ให้หนูนิดเดินตามรอยแม่

“พ่อแม่ส่วนใหญ่ถึงจะรู้ว่าเรื่องแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ แต่ก็มักจะอธิษฐานว่าจะไม่เกิดขึ้นกับลูกของเรา แต่ครูอาจารย์มักจะเตรียมทางช่วยเหลือเราไว้”
พี่ส้มเงยหน้าขึ้นมอง เช็ดน้ำตา “คะ”
“พี่ไม่ได้ผลักไสหนูนะจ๊ะ พี่หมายความว่า ถ้าเรื่องเรียนเนี่ยพี่คิดว่าไม่น่าจะเป็นปัญหา”
“แต่หนูทั้งกลัว ทั้งอายคน”
“ส้มอยู่ปี 4 เหมือนอ๋องใช่มั้ย”
ทั้งคู่พยักหน้า
“ตอนนี้กี่เดือนแล้วส้ม”
“3 เดือนแล้วค่ะ หนู...อยากเอาเขาออก”
พี่หน่อยตกใจ พยายามบังคับน้ำเสียงให้มั่นคง  “ในฐานะที่พี่เป็นแม่ แล้วก็เจออะไรแบบนี้มา พี่ไม่เห็นด้วยกับการเอาเขาออก”
“แต่หนู”
“ส้ม ไม่ว่าหนูจะเต็มใจ หรือรู้จักพ่อของเขาหรือไม่ แต่ว่า เมื่อเวลาผ่านไป หนูจะรู้ได้เองว่า เขาคือของขวัญที่ดีที่สุดในชีวิต เพราะเขาทำให้เราอยากเป็นคนดี ทำในสิ่งที่ดี”
“พี่คะ แต่หนูจะอุ้มท้องไปเรียนได้ยังไง ถ้าหนูไม่เอาเขาออก หนูคงต้องออกจากมหาลัย ทั้งที่ยังเหลืออีกเทอมเดียวก็จะจบ”
“มันคือการฝึกฝนให้เราแข็งแรงขึ้นนะส้ม” พี่หน่อยพูด “ยังไงส้มก็ยังมีหน้าที่ไปเรียน ไปสอบ ทำพื้นฐานชีวิตของเราให้แข็งแรง เพื่อให้ลูกที่จะเติบโตขึ้นมีชีวิตที่ดีกว่าเรา ลองปรึกษาอาจารย์ที่ปรึกษาดูเพราะว่าส้มยังต้องไปฝากท้อง ไปหาหมอเป็นระยะด้วย”
“แต่ว่าพี่คะ หนูไม่รู้ว่าพ่อเขาเป็นใคร”
“แต่หนูคือแม่ของเขา เขาอยู่ในท้องส้ม หัวใจของเขาเต้นพร้อมกับส้ม”
“พี่คะ”
พี่หน่อยโอบกอดพี่ส้มไว้ “ขอบใจมากที่ไว้ใจพี่ ลองไปคุยกับอาจารย์ แล้วไปบอกพ่อแม่ ถ้าท่านดุด่าก็ยอมให้ท่านดุด่า แต่ถ้าถึงสุดท้ายแล้วท่าน.....ไม่ยอมรับก็มาหาพี่”
พี่ส้มสะอื้นจนตัวโยน
“ส้มไม่ได้อยู่คนเดียวนะ ตอนนี้มีอีกชีวิตที่อยู่กับส้ม ถ้าส้มหัวเราะเขาก็หัวเราะด้วย ถ้าส้มร้องไห้ เขาก็ร้องไห้กับส้ม เข้มแข็งนะส้ม”

ระหว่างที่คนในห้องรับแขกกำลังพูดคุยกัน เสียงหนูนิดร้องเรียกแม่ดังขึ้น พี่เจี๊ยบรีบหันไปบอกเบิร์ดแล้วขึ้นไปอยู่กับหนูนิดทันที
“หนูนิดคะ พี่เจี๊ยบขึ้นไปหานะคะ”
“พี่เจี๊ยบมาหรือคะ พี่เบิร์ดมาด้วยหรือเปล่า” หนูนิดทักทายพี่เจี๊ยบที่เข้ามาอุ้มแล้วพาเข้าไปที่ห้องนั่งเล่นที่ชั้นลอย ไม่อยากให้ได้ยินเรื่องที่กำลังคุยกันที่ชั้นล่าง
“มาครับ วันนี้พี่เบิร์ดทำผัดแตงกวาใส่ไข่ กับแกงจืดเต้าหู้ให้หนูนิดด้วยหล่ะ พี่เอาขึ้นไปป้อนข้างบนนะครับ” เบิร์ดรีบยกถาดอาหารขึ้นไปป้อนเด็กน้อย
“แม่ไม่ให้กินข้าวบนนี้ เดี๋ยวมีหนูมีมดค่ะ”
“เดี๋ยวพี่เบิร์ดเช็ดถูเองครับ”
“มีเรื่องอะไรหรือคะ”
พี่ๆพิรุธเยอะเกินจนเด็ก 6 ขวบยังรู้
“มีพี่เขาไม่สบายมากน่ะค่ะ ต้องคุยกับคุณแม่” พี่เจี๊ยบบอกความจริงแค่ครึ่งเดียว “พี่เขาไม่รู้ว่าต้องทำยังไง ต้องให้คุณแม่อธิบายช้าๆ ให้เข้าใจ”
“เหมือนที่หนูทำการบ้านไม่ได้ คุณแม่ก็อธิบายช้าๆแบบนั้นใช่มั้ยคะ”
“ค่ะ” พี่หน่อยพูดยิ้มกว้าง แล้วเปลี่ยนเรื่องคุยไปที่การเรียน และนิทานเรื่องต่างๆ
คุยเล่นกันไปป้อนข้าวจนหมด เบิร์ดเอาจานลงไปล้าง เห็นพี่ส้มยังเช็ดน้ำตาป้อย ก็เลยกลับขึ้นมาเล่นกับหนูนิดไปพลางๆ
“เข้ากับเด็กได้ดีนะเนี่ย คิดว่าถนัดแต่รับขนมจีบซาลาเปามั้ยคะ”
“เป๊บซี่ช่วงนี้โปรโมชั่น 10 บาทค่ะ” พี่เจี๊ยบต่อแล้วหัวเราะ หนูนิดพลอยหัวเราะตามไปด้วย
“หนูชอบแรบบิทครีม แต่แม่บอกว่า ต้องกินข้าวก่อนถึงจะกินได้”
“ถูกต้องแล้วค่า”

เฮียพีกลับเข้าบ้านเกือบสี่ทุ่ม พี่หน่อยรออยู่ แล้วเล่าเรื่องที่อ๋องพาส้มมาหาในวันนี้ให้ฟัง เฮียพีรับฟังเงียบๆ จนจบถึงได้พูดขึ้น
“ดีแล้ว”
แต่หน่อยกลับลังเลเดินตามเข้ามาจนถึงในครัว ที่เฮียพีเดินเข้ามาดื่มน้ำ
“ตอนที่คุยกับส้ม หน่อยคิดว่า นั่นเป็นคำแนะนำที่ดีที่สุดแล้ว แต่พอพวกเขากลับไปหน่อยกลับไม่ค่อยมั่นใจ”

ปกติก็เป็นคนพูดน้อยแล้วก็ใช้ฟอร์มเงียบเวลาคุยกับพี่ชายมาตลอด พอมาถึงเรื่องนี้ เฮียพีได้แต่เดินกลับนั่งลงที่เก้าอี้โต๊ะกินข้าว แล้วทำหน้าที่รับฟังอย่างตั้งใจ
พี่หน่อยนั่งที่เก้าอี้ตรงข้าม
“หน่อยกังวลว่า กำลังเรื่องของตัวเองไปตัดสินเรื่องของส้มหรือเปล่า”
“เหรอ” เฮียพีทำเสียงต่ำๆ ชวนให้นึกถึงพี่ชาย
“ตอนนั้นคิดแต่ว่าไม่อยากให้ส้มทำบาป ไม่อยากให้เขาฆ่าลูกตัวเอง”
“หน่อยทำถูกแล้วนี่”
“ตอนตัวเอง รู้ว่าท้องก็บอกกับพ่อแม่ พอพ่อออกปากไล่ก็ออกจากบ้านทันที คิดว่าอยู่กันกับพี่มีน 2 คนก็ได้แล้วก็เลิกเรียน พอเวลาผ่านไป บางทีก็คิดว่าทำไมไม่ทำอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วพอส้มกลับไปกันแล้ว ก็มาคิดว่า เรื่องของส้มไม่เหมือนเรื่องของหน่อย หน่อยอาจกำลังบังคับให้แกทำในสิ่งที่หน่อยเองยังทำไม่ได้”
“แต่วันนี้หนูนิดยังอยู่” เฮียพีพูดเสียงหนักๆ
“ค่ะ”
“แล้วตอนที่หน่อยพูด ส้มฟังหรือเปล่า”
“ฟังนะคะ แต่ดูเหมือนว่า ใจของแกเอียงไปทางไม่อยากเอาเด็กไว้”
เฮียพีถอนหายใจแรงๆ คิดถึงหนูนิดที่นอนหลับสบายอยู่ในห้องนอนชั้นบน
“ไม่ควรคิดแบบนั้น เพราะว่าครอบครัวของส้มไม่ได้ลำบากถึงขนาดที่จะเลี้ยงเด็กอีกคนไม่ได้”
“คุณก็รู้ว่าบางครอบครัวไม่ได้ติดเรื่องเงิน แต่ติดที่เรื่องหน้าตา เรื่องสังคม แล้วพ่อกับแม่ของส้มเค้าเป็นยังไงคะ”
เฮียพีรู้จักคนที่บ่อนเสี่ยเล้ง และย่อมรู้จักพ่อแม่ส้มด้วย “เขาก็เป็นญาติกับเสี่ยเล้งน่ะแหละ ก็ไปทางนักเลง อาจเลี้ยงหลานเอง”
“ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดีค่ะ” พี่หน่อยดูผ่อนคลายลง “ดีแล้ว”
พี่หน่อยลุกขึ้นยืน จะกลับมาเข้านอน แต่ก็บอกถึงสิ่งที่อยู่ในใจ “ถ้าส้มไม่ต้องการเด็ก หน่อยก็คิดว่าจะขอเด็กคนนั้น คุณว่ายังไงคะ”
“ดี” เฮียพีรับสั้นๆ “นับเดือนแล้วจะคลอดเมื่อไหร่
“ประมาณเมษายนปีหน้าค่ะ”
“สอบเสร็จเรียนจบแล้วนี่นะ ไม่แน่หรอกกว่าจะถึงตอนนั้น ส้มอาจผูกพันกับลูกมาก แล้วเขาก็เรียนจบแล้ว ไม่ต้องสนใจกับสายตา ไม่ต้องตอบคำถามใคร เรื่องที่คิดไว้ อาจเปลี่ยนไปก็ได้”
“ยังไงก็ขอให้เปลี่ยนไปในทางที่ดีของทั้งแม่และลูกนะคะ”

เฮียพีปิดบ้านปิดไฟแล้วเดินขึ้นไปที่ห้องนอนเล็ก อดไม่ได้ที่จะมองผ่านบันไดขึ้นไปที่ห้องนอนใหญ่ชั้นบน
“ดีแล้วที่หนูนิดมีหน่อยเป็นแม่ ไอ้มีนกูจะดูแลลูกเมียมึงให้ดี”

อ๋องกำลังเรียงของจัดแผงขายลูกชิ้นอยู่กับไอ้เบิร์ด ตอนบ่ายจัดๆ เมื่อพี่ส้มในชุดกางเกงยีนขายาวเดินเข้ามาที่ตลาด
“ทำไมใส่กางเกงยีนล่ะ” ไอ้อ๋องขมวดคิ้วแน่น “ไม่มีกางเกงหลวมๆเหรอ”
พี่ส้มส่ายหน้า “เพิ่งแค่ 3 เดือนขอใส่อีกสักพักเหอะ”
ไอ้อ๋องก็ส่ายหน้าบ้าง หันไปหาไอ้เบิร์ด “ฝากร้านด้วย”
คนหน้าเหมือนแฮมสเตอร์เดินจูงมือส้มไปที่แผงเสื้อผ้าด้านใน ตรงดิ่งไปที่แผงเสื้อผ้ารุ่นคุณป้า คุณน้าทั้งหลาย
“ร้านแบบนี้มีกางเกงยืดๆ ถึงจะมีลายดอกท้อ ดอกเหมย ก็ใส่ๆไปเหอะ”
พี่ส้มหัวเราะ เลือกกางเกงได้ 3 ตัวส่งให้คนขาย เดินกลับมาที่ร้าน ไอ้เบิร์ดสละเก้าอี้ที่ใช้นั่งเสียบลูกชิ้นให้ว่าที่คุณแม่
“ขอบใจที่ไม่รังเกียจ”
“รังเกียจทำไม” 2 หนุ่มพูดขึ้นพร้อมกัน แล้วหันมามองหน้า ไอ้อ๋องชี้นิ้วทันที
“ไอ้เบิร์ดมึงรีบไปซื้อหวยเลยไป”
พี่ส้มเลยหัวเราะ “เกี่ยวกันตรงไหนเนี่ย”
2 หนุ่มเจตนาชวนคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ จนหญิงสาวต้องเป็นฝ่ายเริ่มก่อน “ชั้นบอกกับอาจารย์ที่ปรึกษาแล้วก็พ่อกับแม่แล้ว”
ไอ้อ๋องกับเบิร์ดเงียบไป พี่ส้มก็เลยพูดต่อพยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่น
“ตอนที่ยืนอยู่หน้าห้องอาจารย์ก็คิดไปร้อยแปด ใจอยากหันหลังกลับเสียให้ได้ แต่พอเดินเข้าไปเล่าให้อาจารย์ฟัง มันก็ไม่ยากอย่างที่กลัว แล้วก็อย่างที่พี่หน่อยบอกน่ะแหละ อาจารย์มีทางเลือกที่ดีให้แล้วก็ไปหาพ่อกับแม่ด้วยกันกับชั้น”
“ดีเนอะ”
“ฮื่อดี” พี่ส้มพยักหน้า ยิ้มกว้าง “ชั้นก็เลยมาขอบใจทั้ง 2 คน อยากบอกให้รู้ว่า ชั้นสบายใจขึ้นแล้ว ถึงจะกังวลเรื่องเพื่อนๆ แต่ก็ช่างมันเถอะ”
“พวกเขามองแปลกๆเหรอ” ไอ้เบิร์ดถาม
“บางที่เขาอาจมองเหมือนเดิม ทุกสิ่งเหมือนเดิม เพียงแต่ชั้นเองที่ระแวงไปเอง ไม่รู้เหมือนกัน”
“เพื่อนกัน เขาไม่ทิ้งกันง่ายๆหรอก” ไอ้อ๋องบอก
พี่ส้มส่ายหน้า “ไม่แน่หรอกอ๋อง พวกอ๋อง เบิร์ด เอก คีย์น่ะ ร่วมสุขร่วมทุกข์มาด้วยกัน แต่ชั้นกับแป้ง แล้วก็นิวน่ะ เราเหมือนเพื่อนช็อปมากกว่า”
ไอ้อ๋องกับเบิร์ดมองหน้ากัน ไม่ค่อยเข้าใจ มันคงละเอียดอ่อนเกินไปมั๊ง
“ทำไมล่ะ มีน้องก็ช็อปกระจายได้อยู่ดี” ไอ้เบิร์ดว่า
“ผมว่า ถ้าเป็นเพื่อนกันแล้วเขาเห็นส้มใส่กระโปรงจีบรอบตัว มันคงไม่ทำให้เลิกคบกันหรอก”
พี่ส้มยิ้มเหนื่อยๆ ทำให้ไอ้เบิร์ดถาม
“เหนื่อยเหรอ จะกลับหรือเปล่า ผมขี่มอไซค์ไปส่งให้ก็ได้ เพราะอีกสักพักคีย์คงมา”
พี่ส้มยังคงยิ้มในองศาเดิม “ชั้นเอารถมา ขับกลับเองได้ ไม่เป็นไรหรอกแค่ 3 เดือน แต่ถ้าท้องใหญ่กว่านี้ คงต้องระวังมากขึ้น”
เมื่อเดินกลับไปส่งพี่ส้มที่รถ ไอ้อ๋องก็บอกด้วยความหวังดี
“ส้ม มีอะไรก็บอกกันได้นะ ถ้าไม่มีคนไปหาหมอเป็นเพื่อนก็เรียกผมได้”
“อ๋อง ยังไงชั้นก็กลัวสายตาคนอยู่ดี”
“สายตาไม่ใช่เจ้าหนี้สักหน่อย” อ๋องพูดแล้วลูบท้ายทอยเก้อๆ “ขอโทษมุกนี้มาไม่ถูกจังหวะ”
“ไม่ใช่อย่างนั้น คิด   ๆ ดูมันก็จริง”
“ผมทำงานไปเรียนไป เล่นพนันเพราะหวังรวยทางลัด ได้เงินมาก็เที่ยวจนหมดแล้วมาทำงานงกๆ แล้วก็ไปเล่นพนันอีก หนี้ท่วมหัวจนต้องออกจากเซเว่นมาทำพิซซ่า ผมไม่คิดว่าจะมีใครในคณะหรือหอไม่รู้นะเรื่องความเลวของผมเนี่ย เจ็บเหมือนกันเวลาที่ผมเดินผ่านแล้วพวกผู้หญิงนั่งกอดกระเป๋ากันแน่น แต่ผมก็ถือว่า ผมต้องไม่ทำผิดซ้ำ ผมต้องคิดถึงวันพรุ่งนี้”
“ชั้นก็..เป็นแบบนักศึกษาหญิงพวกนั้นเหมือนกัน”

...อยากบอกว่า ที่จริงแล้ว ตัวเองมีนิสัยดูถูกคนอื่น มองเห็นคนจนว่าเป็นคนเกียจคร้าน น่ารังเกียจ นิสัยไม่น่าคบอย่างแรง เพราะเป็นแบบนี้ไง เวลาที่ตัวเองผิดพลาดถึงได้รู้สึกระแวงทุกคนรอบตัว

อ๋องพูดยิ้มๆ “ทีนี้พอเวลาทำงาน ผมก็ว่า ที่น่าสนใจคือการขายของให้หมด แล้วให้ลูกค้ากลับมาใหม่ สำคัญกว่าการที่เดินผ่านแล้วเขานั่งกอดกระเป๋าเยอะ”
พี่ส้มหัวเราะเบาๆ
“คือผมคิดง่ายๆแบบนี้ มันพอจะช่วยส้มได้บ้างมั้ย”
พี่ส้มพยักหน้ายิ้มเศร้า
“อ๋องไม่กลัวคนจะนินทาว่าอ๋องเป็นพ่อเด็กหรือไง”
“แค่เสียงนินทาจากคนไม่รู้จัก ผมไม่สนใจหรอก” เมื่อเห็นสีหน้าไม่ค่อยเชื่อของหญิงสาว ไอ้อ๋องก็พูดต่อ “ผมเจอเรื่องดีเรื่องร้ายมาเยอะ  กับแค่เสียงนินทาแลกกับการที่ผมได้ช่วยเหลือเด็กคนหนึ่งที่กำลังจะเกิดมา เทียบกันแล้วจิ๊บมาก”
พี่ส้มยิ้มอ่อนๆ เมื่อเปิดประตูรถ “ชั้นอยากเป็นคนมองโลกแง่บวกเหมือนเธอจริงๆ”
“ไม่มีอะไรยากหรอกส้ม” ไอ้อ๋องบอกย้ำ “แค่เชื่อมั่นว่าเรากำลังทำความดีก็พอ ส้มไม่ควรสนใจสายตาหรือคำพูดของคน อย่างที่พี่หน่อยว่า เด็กอยู่ในท้องส้ม เขาเป็นของส้มไม่ใช่ของใครที่ไหนก็ไม่รู้คนนั้น”
พี่ส้มมองไปข้างหน้า ดวงตาเต็มไปด้วยความครุ่นคิด
ไอ้อ๋องพูดเรื่อยๆ “ผมก็ไม่ได้เป็นคนดี หล่อ รวยมาจากไหน ทะเลาะกับแม่เพราะอยากเรียนมหาลัย ตะเกียกตะกายจนมาถึงที่นี่ หลายเรื่องหลายคนที่พบเจอ เพื่อนที่มหาลัย เพื่อนที่ร้านพิซซ่า หรือแผงขายของติดกัน เพื่อนที่กินเหล้าด้วยกันในวันหยุด เอาเข้าจริงผมก็มีอยู่อีก 3 คนที่พูดคุยกับมันได้ทุกเรื่อง”
“รวมชั้นด้วยได้มั้ย”
“แน่นอน” ไอ้อ๋องพยักหน้า “ผมถือว่าเป็นการให้เกียรติผมที่สุดแล้ว ที่ส้มมาหาผมในวันที่ส้มไม่มีใคร ผมพูดซึ้งๆไม่เก่ง อันนั้นมันต้องให้เอก แต่เอาเป็นว่า ขอบคุณที่ไว้ใจผม”
“ขอบใจมากอ๋อง”
อ๋องพยักหน้า “ขับรถดีๆ นะ อย่านอนดึกล่ะ”

เมื่อเดินกลับมา พี่เจี๊ยบก็มาอยู่ที่แผงขายลูกชิ้นแล้ว กำลังช่วยไอ้เบิร์ดขายของอย่างสนุกสนาน
“ส้มไปแล้วเหรอ”
“ครับ ทำไมวันนี้พี่มาได้ล่ะ”
“ชั้นคนไม่ได้เรียนหนังสือ ว่างอยู่แล้ว”
“ไปกินข้าวกันเถอะ ผู้ช่วยวิ่งหน้าตาตื่นมาโน่นแล้ว” ไอ้เบิร์ดบอก
“มาแล้วๆ ขอโทษที่มาช้า” คีย์วางหนังสือ ล้างมือเตรียมพร้อมทำงานทันที
“กินอะไรหรือยังตาโปน”
“กูจะมาขโมยกินลูกชิ้นมึงเนี่ย แฮมสเตอร์”
พี่เจี๊ยบยิ้มกว้าง “ไปกินด้วยกันก่อนมั้ย”
“ไม่เป็นไรครับพี่” คีย์บอกอย่างเกรงใจทำให้ไอ้เบิร์ดตบไหล่เพื่อนเบาๆ
“ดีมาก ตาโปน ตั้งใจทำงานนะ”
พี่เจี๊ยบกับไอ้เบิร์ดเดินไปกินข้าวราดแกงที่แผงไม่ไกลนัก ขณะที่ ไอ้อ๋องกับคีย์ช่วยกันขายของ สักพักไอ้เอกก็มาถึง
“เฮ้ยไรวะเนี่ยวันนี้ทำไมมาเร็ว”
“มาเร็วก็ว่า มาช้าก็บ่น” ไอ้เอกชี้นิ้วด่าแล้วหันไปหาคีย์ “ตาโปนกอดทีดิ๊คิดถึงว่ะ”
“เฮ่ย มามะมากอดกู” ไอ้อ๋องแทรกเข้ามากันคีย์ไว้ข้างหลัง

ไอ้เบิร์ดกับพี่เจี๊ยบถือข้าวกล่องกลับมาฝากคนที่ขายของไป สร้างความวุ่นวายไปพร้อมกัน

“ลูกชิ้นปลาเยาวราชครับ อร่อย สะอาด ประหยัดครับ”

.....END.....

ไม่วายแล้วยังออกจะเครียดซะอีกเนอะ
แต่พอจัด เฮียพี พี่หน่้อย อ๋อง ส้มมาจัดกลุ่มด้วยกันแล้วนี่ มันจะออกมาแนวๆนี้แหละ
พรุ่งนี้เป็นแมนเอกนะครับ
ขอบคุณที่คุณรักตัวละครในเรื่องนี้ครับ
ไจฟ์ครับ



samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
Re: Never Let You Go <12-04-54> [พิเศษ 2]
«ตอบ #1143 เมื่อ14-04-2011 06:46:55 »

สงสารนางส้มจังเลยอ่ะ นี่หละหนอเวรกรรม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-04-2011 06:52:07 โดย samsoon@doll »

ออฟไลน์ Wordslinger

  • แป้งจี่รีรีข้าวสาร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1180/-5
Re: Never Let You Go <12-04-54> [พิเศษ 2]
«ตอบ #1144 เมื่อ14-04-2011 07:00:29 »

^
^
^
^
รีบนตื่นเช้านะคะหล่อน รีบไปสาดน้ำประแป้งผู้ชายหรือคะ?  :laugh:

อุ๊ย ขอตัวไปอ่านก่อนนะคะคุณไจฟ์ พอดีเห็นยัยเพื่อนสาวชีมาเม้นท์ก็เลยอยากจะกัดชี


ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
Re: Never Let You Go <12-04-54> [พิเศษ 2]
«ตอบ #1145 เมื่อ14-04-2011 07:35:15 »

เพื่อนกันก็ต้องช่วยยามลำบากไม่ว่าจะดีหรือเลวถึงเวลาคำว่าพื่อนมีค่าเสมอ :กอด1: :กอด1: :กอด1:



เพื่อนกลุ่มนี้รักกันดีมาตลอด ช่วยเหลือกันน่ารักดี  นี่คือน้ำใจของคำว่าเพื่อน :L1: :L1:

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: Never Let You Go <12-04-54> [พิเศษ 2]
«ตอบ #1146 เมื่อ14-04-2011 08:38:49 »

ซึ้งเลยกับคำว่าเพื่อน :sad11:
ตอนนี้เหมือนอ๋องเป็นพระเอกเลย o13
เดี๋ยวนี้พระเอกชอบกอดตาโปนบ่อยน้า อิจฉา :serius2:

hahn

  • บุคคลทั่วไป
Re: Never Let You Go <12-04-54> [พิเศษ 2]
«ตอบ #1147 เมื่อ14-04-2011 08:39:49 »

มีทุกข์ก็ต้องมีสุข แต่ไม่ว่าจะทุกข์หรือสุข เพื่อนก็ยังอยู่เคียงข้างเราเสมอ

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
Re: Never Let You Go <12-04-54> [พิเศษ 2]
«ตอบ #1148 เมื่อ14-04-2011 09:09:41 »

นี่แหละคำว่าเพื่อน
+ 1 นะคะ

ออฟไลน์ Wordslinger

  • แป้งจี่รีรีข้าวสาร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1180/-5
Re: Never Let You Go <12-04-54> [พิเศษ 2]
«ตอบ #1149 เมื่อ14-04-2011 09:26:47 »

เพื่อนแท้คือเพื่อนยามยาก

A friend in need is a friend indeed.

This is what friends are for...

ต๊าย ซึ้งไปกับการช่วยเหลือซึ่งกันและกันค่ะ ขอร้องไห้ก่อน

แต่...ไอ้พระเอกตอนท้ายนี่มันขโมยซีนได้ตลอด และแอบเนียนแต๊ะอั๋งน้องคีย์ได้ตลอดกาลจริงๆเชียว อย่างนี้ต้องเรียกพี่หัวสกินเฮดคิ้วแหว่งมาจัดการแล้วล่ะค่ะ หุหุ

กอดคุณไจฟ์และน้องทีค่ะ  :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Never Let You Go <12-04-54> [พิเศษ 2]
« ตอบ #1149 เมื่อ: 14-04-2011 09:26:47 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
Re: Never Let You Go <12-04-54> [พิเศษ 2]
«ตอบ #1150 เมื่อ14-04-2011 09:44:56 »

สงสารส้มเหมือนกัน ทั้งที่ตอนแรกไม่ชอบ แต่ดีนะที่คิดได้ไม่ทำลายเด็ก
ดีจังที่มีอ๋องคอยเป็นเพื่อนส้มตอนที่มีปํญหา
ชอบความสัมพันธ์ของกลุ่มเพีื่อนที่มี
คีย์ เอก อ๋อง เบริด์ มีความผูกพันและความรักฉันท์เพื่อน
ที่จะคอยให้ความช่วยเหลือและปรึกษากัน

ขอบคุณคุณไจฟ์ค่ะ


ออฟไลน์ DEMON3132

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-1
Re: Never Let You Go <12-04-54> [พิเศษ 2]
«ตอบ #1151 เมื่อ14-04-2011 10:43:16 »

+1 ให้กับความมีสาระในตอนนี้ อ่านตอนนี้แล้วยอมรับว่าเป็นตอนที่มีสาระกินใจ
เพราะเป็นเรื่องจริงของใครหลายคนที่อาจประสบมาในชีวิต อ๋องมีความคิดที่ดี
น่าคบ ซึ่งหาได้ยากในสังคมปัจจุบัน ชอบความผูกพันของเพื่อนระหว่างเอก+คีย์
อ๋อง+เบิร์ด  :pig4:

ออฟไลน์ rellachulla

  • iiRita♥World Behind My Wall♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-8
Re: Never Let You Go <12-04-54> [พิเศษ 2]
«ตอบ #1152 เมื่อ14-04-2011 12:41:05 »

นี่แหละหนาชีวิต
เฮ้อออ
รอตอนแมนเอก อิอิ

ออฟไลน์ love2y

  • (′~‵)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2059
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-11
Re: Never Let You Go <12-04-54> [พิเศษ 2]
«ตอบ #1153 เมื่อ14-04-2011 14:22:06 »

เป็นกลุ่มเพื่อนที่รักกันดีนะ ชอบอ่ะ
แต่รู้สึกว่า ตอนนี้จะเน้นไปที่ส้มมากกว่า
แอบอยากได้คู่เฮียพีกะคุณหน่อยเยอะๆ >////<

ออฟไลน์ from_mars

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-0
Re: Never Let You Go <12-04-54> [พิเศษ 2]
«ตอบ #1154 เมื่อ14-04-2011 15:50:08 »

เด็กๆ รักกันเห็นใจกันก็ดีแบบนี้แหละ
เพื่อน ยังไงก็ตัดไม่ขาด ดีแล้ว....
รออ่านแมน เอกดีกว่า อิอิ

little_nok

  • บุคคลทั่วไป
Re: Never Let You Go <12-04-54> [พิเศษ 2]
«ตอบ #1155 เมื่อ14-04-2011 22:42:53 »

ตอนนี้ เครียดเหมือนกันนะคะเนี่ยะ
เฮียพี พูดน้อย เหมือนเดิม
อ่านตอนนี้แล้วซึ้ง มิตรภาพ
น้องคีย์ มาหน่อยนึง  :L1:

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
Re: Never Let You Go <15-04-54> [พิเศษ 3]
«ตอบ #1156 เมื่อ15-04-2011 08:01:06 »

(โปรดเตรียมพาราเซตามอลไว้ใกล้มือ)

ตอนพิเศษ แมน-เอก


ตอนที่ไอ้แมนเรียนทอมที่ 2 ของปีที่ 4 มันว่างั้นนะ ก็มันเป็นรุ่นพี่ไอ้เอกปีนึง ถ้าไอ้เอกอยู่ปี 3 มันก็ต้องปี 4 สินะ
เอาเป็นว่าพอมันเรียนมาจนถึงเทอมนี้น่ะ มันก็เริ่มไว้ผมยาวขึ้นกว่าเดิม แล้วพอสอบเสร็จมันไปฝึกงานอยู่กับพ่อ เก็บต่างหูสารพัดแบบใส่กล่อง แต่มีบางวันที่มันอารมณ์ดีก็จะใส่แบบที่เป็นต่างหูสีดำ ส่วนสายรัดข้อมือก็หายไป
แต่ที่สำคัญคือมันดูอารมณ์ดีมาตั้งแต่สอบเสร็จ
เทียบกับก่อนหน้านี้ ดูเหมือนว่าการไปทำงานกับพ่อจะทำให้มันดูเป็นคนที่ขวางโลกน้อยลงกว่าเดิม แต่ก็แค่ดูเหมือน เพราะค่ำลงกลับมาห้องเมื่อไหร่มันก็มาหาเรื่องทะเลาะกันได้ทุกที
อ้อ มันไม่ได้ไปทำงานที่ร้านเกมแล้วนะตั้งแต่ไปทำงานกับพ่อเนี่ย มันบอกว่า พ่อใช้งานมันเยี่ยงทาส ขืนไปร้านก็ไปหลับเท่านั้นเอง
จนมาวันหนึ่งมันตื่นเช้าใส่เสื้อยืดกับกางเกงยีน บอกว่า จะไปดูผลสอบ
โทษว่าเพราะมันอารมณ์ดีผิดปกติแล้วกัน ที่เป็นสาเหตุให้ไอ้พระเอกเกิดอาการครั่นเนื้อครั่นตัว
อย่าถามว่าทำไม เพราะไม่รู้ว่ะ รู้แต่ว่ามีลางสังหรณ์แปลกๆ
เรียนเสร็จเดินออกมาจากตึกเรียน เจอไอ้คนนั้นมันนั่งรออยู่ที่โต๊ะไม้ใต้ตึกเรียนก็กลับอยากเดินหนีกันแบบซึ่งหน้า
แต่ขากลับก้าวเข้าไปหา
“มีไร ทำไมไม่โทรมาก่อน เกิดกูเลิกก่อนหรือเลิกช้า ไม่ต้องรอไปเรื่อยหรือไง”
อีกละ ด่าไว้ก่อนพ่อสอนไว้
“แต่มึงก็ไม่ได้เลิกก่อนหรือเลิกช้า” คำตอบสั้นๆ เสียงแหบๆ กับท่าทางกวนตรีน ทำเอาพระเอกอยากคลั่ง
“มาทำไม”
ไอ้แมนยักคิ้วแหว่งๆ “มาคุยไง”
มือใหญ่ๆ หยิบใบรายงานผลสอบ ยื่นให้ดูจนกระดาษแทบปิดหน้า
“อะไร”
อ่านหนังสือออก แต่ว่าตอนนี้เหมือนทุกสิ่งที่ปรากฏข้างหน้าเป็นเพียงตัวอักษร ผสมไม่เป็นคำขึ้นมาเสียเฉยๆ
“กูจบแล้ว ภายใน 4 ปี”
บอกแล้วยกซีกหน้าข้างขวาขึ้น  
แต่ไอ้พระเอกมีอาการเหมือนจะเป็นลม

เหวอๆ เบลอๆ งงๆ รู้สึกตัวก็เมื่อเป๊บซี่ไม่ใส่น้ำแข็งเข้ามาอยู่ข้างหน้า หันไปมองรอบตัวถึงได้รู้ว่ากลับมาอยู่ห้องแล้ว
“ตกใจขนาดนั้น”
ใบหน้าซีดเผือดที่มองกลับมา ทำให้ไอ้แมนคนมั่นใจ ทำอะไรตามใจตัวเองนิ่งอึ้ง
นี่เป็นท่าทีที่ผิดจากที่คิดไว้อย่างสิ้นเชิง
คิดว่าอย่างมากไอ้พระเอกก็จะโวยวาย ร้องด่าหาเรื่องโยกโย้ ต่อรองเวลาไปเรื่อยตามนิสัยของมัน แต่ไม่คิดว่า มันจะ –ซีด-
“แมน กู”
ดวงตายาวเรียวจ้องมอง เม้มปากแน่น “มึงบอกว่า กูเรียนจบแล้วคุยกันไงว่าเราจะยังอยากอยู่ด้วยกันมั้ย”
“แต่กู....ไม่พร้อม”
“อะไรไม่พร้อม มันแปลว่าอะไร เราอยู่ห้องเดียวกันมาเป็นปี แล้วมึงมาบอกไม่พร้อมเนี่ย”
“แมน คือกู”
“พอเถอะ” ไอ้แมนลุกเดินออกไปเปิดประตูระเบียงแล้วนั่งกุมขมับตัวเอง
ไอ้พระเอกมองตามแล้วเดินมานั่งลงที่ข้างหลัง
“แมน กูขอโทษ กูเวอร์ไปนิด คือกู....”
“มึงไม่ได้รักกู”
“กูรักมึงนะ รักจริงๆ แต่กูตกใจ”
“มึงไมได้รักกู”
เสียงแหบแห้ง ของคนที่ยังก้มหน้าทำให้ไอ้เอกกอดไอ้แมนไว้
“กูรักมึง ขอให้เชื่อกู”
“รักกู กอดกู จูบกู ขอเวลาว่า ถ้ากูเรียนจบจะคิดว่าเราจะยังอยู่ด้วยกันมั้ย แต่พอมาถึงเวลาเข้าจริง มึงกลับบอกว่าไม่พร้อม”
“ก็....”
“มึงบอกให้กูทำอะไรก็ทำ กูไม่เคยแม้แต่จะเอาข้าวเข้าเวฟ ไม่เคยทำงานบ้าน ไม่เคยเอาใจใคร แต่กูก็ทำให้มึง โง่เป็นควายทั้งที่มึงเพิ่งนอนกับผู้หญิงของมึงบนที่นอนของกู เพราะคิดว่า มันก็แค่การระบายฮอร์โมน กูตั้งตาตั้งตาเรียนให้จบก่อนมึง ทำให้ได้อย่างที่มึงต้องการ เพื่อที่จะได้อยู่ด้วยกัน แล้วที่กูได้รับคืออะไร สีหน้าตกใจของมึง กูมัน โง่” ไอ้แมนย้ำเสียงสั่นเครือจนไอ้เอกต้องลุกมานั่งข้างหน้า จับให้เงยหน้าขึ้น
“กูไม่มีใคร จริงๆ ตั้งแต่วันที่มึงเดินเข้ามาในห้องนี้ ถ้ากูไม่รักมึงกูจะยอมให้มึงย้ายมาอยู่ที่นี่ได้ง่ายๆหรือไง”
“แล้วคีย์ล่ะ”
“นั่นเพราะเฮียกวงสงสารมัน ไม่อยากให้มันไปอยู่ตามลำพัง” ไอ้เอกลดมือนั่งลงกับพื้นข้างหน้าไอ้แมน
“มึงเอง ก็ไม่เคยรักกู คนเดียวที่มึงรักมาตลอดคือคีย์ ไม่ใช่กู”

ไอ้แมนจ้องมองด้วยดวงตาแดงก่ำ แล้วลุกกลับเข้ามาในห้อง

เมื่อหันกลับมาไอ้เอกก้าวตามเข้ามา ปิดประตูห้องลง

“กูบอกมึงแล้วว่ากูไมได้รักคีย์แบบนั้น”
“แต่ไม่ว่าเราจะคุยกันเรื่องอะไร มึงจะถามถึง พูดถึงคีย์ทุกครั้ง”
ไอ้แมนพยักหน้า “เราคงทะเลาะกันมากเกินไป จนไม่เคยคุยกันดีๆ”
หนุ่มสกินเฮดหันไปมองรอบห้องแล้วเริ่มเก็บของใส่กระเป๋า เสื้อผ้า ไม่ได้มีมากนักเพราะมันขนมาขนไประหว่างบ้านกับห้องนี้ตลอดเวลา
ไอ้เอกได้แต่ยืนมอง อยากวิ่งเข้าไปยื้อมือใหญ่ๆนั่นไม่ให้เก็บเสื้อผ้า อยากพูดเยอะแยะมากมาย แต่ที่ทำก็คือการยืนมอง จนกระทั่งไอ้แมนเปิดประตูออก
“แมน กูรักมึงนะ” ประตูห้องปิดลง “อย่าทิ้งกูไว้อย่างนี้......”  
 
ขี่รถไปเรื่อยๆ วนอ้อมไปค่อนเมืองเหมือนที่เคยทำ ความสนุกสนานจากความรู้สึกว่า ท้องถนนเป็นของกู ความเร็วกับลมเย็นปะทะใบหน้าที่เรียกว่าเสรี วันนี้กลับรู้สึกว่างเปล่า
ที่กูรอมาตลอดคืออะไร
เลี้ยวกลับบ้าน จอดรถ อาบน้ำ กินข้าวกับแม่แล้วกลับเข้าห้อง สามทุ่มครึ่งมีมอเตอร์ไซค์มาจอดหน้าบ้านลุกออกมาดู ไอ้คนที่บอกว่าตัวเองเป็นพระเอกยืนอยู่
กางเกงขาสั้นเจเจลายพร้อย กับเสื้อยืดเสื้อย้วยตัวเก่ง
“มีอะไร”
“จ่ายค่ามอไซค์ให้กูก่อนกูลืมเอากระเป๋าตังค์มา”
.....อะไรของมึงนักหนาวะเนี่ย บ่นในใจ แต่ก็จ่ายเงินค่ารถให้
ไอ้เอกเดินเข้ามาในบ้าน ยกมือสวัสดีพ่อกับแม่ ที่ยังนั่งดูละครโทรทัศน์ด้วยกัน
“มีอะไร”
ไอ้เอกชี้มือไปคุยกันที่ข้างบ้าน พอออกมาก็ถามซ้ำ
“กูนอนไม่ได้”
“อะไรของมึงนอนไม่ได้”
“ก็นอนไม่ได้อ่ะ สัด มึงไม่อยู่กูนอนไม่ได้”
“ก็ไปเรียกไอ้เบิร์ด ไอ้อ๋องหรือสาวๆของมึงมานอนเป็นเพื่อนสิ”
“มันไม่เหมือนกัน มึงเอาหมอนกูมาด้วย”
“ห๊ะ”
ไอ้เอกชี้มาที่แขนล่ำๆของไอ้แมน “เนี่ย หมอนกู มึงเอามาด้วย สัด แล้วคืนนี้กูจะนอนยังไง”
ไอ้แมนเอาลิ้นดุนแก้ม
“กูไม่ตลก แล้วกูก็ไม่กลับ”
“สัด มึงจะเอายังไง จะทิ้งกูง่ายๆแบบนี้ได้ยังไง”
“เพราะมึงปฏิเสธกู”
“แล้วมึงจะให้กูทำไง กู....อาย...”
“เพราะฉะนั้นก็แยกกันอย่างงี้ไง จบ”
“ไม่แยก ไม่ให้จบ”
“แล้วมึงจะเอายังไง นั่นก็ไม่ นี่ก็ไม่ ”
“มึงต้องรับผิดชอบกูสิ”
“กูก็ทำแล้วไง แต่มึง....”
เสียงพูดขาดหายกลางคำ เพราะแม่เดินออกมาจากบ้านยืนมองอยู่  
ไอ้พระเอกหันไปมองตาม
“เข้ามาในบ้าน ทั้ง 2 คนเลย” แม่พูดเบาๆเหมือนทุกที แต่ทั้ง 2 คนก้าวเดินเข้ามาในบ้าน

พ่อกับแม่ท่าทางคล้ายจะเป็นลม ผสมปวดหัว จนพ่อต้องเป็นคนพูด
รู้แต่ไม่อยากยอมรับ
รู้ว่าทั้ง 2 คนต่างก็เป็นห่วงกัน
รู้ว่าทั้ง 2 คนต่างก็เป็นคนพิเศษของกันและกัน
ก็อยู่ห้องเดียวกันมาเป็นปี
แต่อีกใจก็ยังคงคาดหวังว่าจะเป็นแค่เพื่อนสนิท
แต่สิ่งที่ได้ยินกับหูในวันนี้มันไม่ใช่
พ่อถอนหายใจแรง มองทั้ง 2 คนแล้วกุมขมับ

.....ลูกกูทำลูกเค้าแล้วทิ้งหรือวะเนี่ย....

ที่จริงไอ้แมนอยากบอกความจริงเหมือนกันว่าอยู่ด้วยกันมาเป็นปี ได้แต่กอด จูบ เพราะติดที่สัญญาที่ให้ไว้ ว่าเรียนจบแล้วค่อยมาคุยกันว่าจะอยู่ด้วยกันต่อไปหรือว่ายังไง
เพราะเมื่อมองที่การกระทำ ไอ้คู่นี้มันก็เป็นแฟนกันน่ะแหละ ถึงมันจะคบกันแบบประหลาดๆ ฟังมันคุยกันแล้วไม่ค่อยเข้าใจก็เหอะ
แล้วไอ้พระเอกน่ะแหละตัวดีชอบรุกตลอด
แต่พอมาถึงวันนี้เข้าจริงๆ ไอ้พระเอกกลับฉีกสัญญาทิ้งอย่างง่ายดาย
คิดไปคิดมา ไอ้แมนก็เลยขอนั่งเงียบ ฟังพ่อกับแม่ด่าดีกว่า

“ทำไมมึงไม่รับผิดชอบขนาดนี้วะแมน” พ่อพยายามบีบคั้นเรี่ยวแรงที่มีเหลือด่าลูกชาย
ไอ้แมนก้มหน้ามองพื้น มองเข่าตัวเอง
“พอเรียนจบมีงานทำ ก็ทิ้งเค้าเลยหรือ ถ้ามึงอายที่เป็นแบบนี้ มึงก็น่าจะกลับบ้านซะตั้งนานแล้ว มาถึงขั้นนี้ .....เฮ้อ....”
พ่อถอนหายใจยาวอีกครั้ง
....ลูกกูหอบผ้าไปอยู่กับเขาเอง แล้วเขาก็เป็นคนทำให้ไอ้แมนกลับเข้าห้องเรียน เรียนจบภายใน 4 ปีอย่างที่พ่ออยากให้เป็นถึงขั้นติดสินบนลูกว่าจะซื้อคอนโดฯให้ แล้วมาวันนี้มันก็ถือกระเป๋าเข้าบ้าน อีกคนก็นั่งรถมาตามถึงบ้าน...
แม่ขยับตัว “เอก แล้ว...ที่บ้านเอกรู้เรื่องหรือเปล่า”
ไอ้พระเอกส่ายหน้า แม่เลยหันไปหาพ่อ “แล้วต้องทำยังไง เราต้องไปขอพ่อแม่ของเอกด้วยหรือเปล่าพ่อ”
“ไม่รู้เหมือนกัน” พ่อยอมรับคิดอะไรไม่ออก “แถวบ้านเอก เขาเรียกอะไร ผูกข้อมือ หรือขอขมา เสียผีอะไรหรือเปล่า”
“แต่ผู้ชายกับผู้ชาย เขาทำพิธียังไงกัน แม่ไม่รู้”
ไอ้เอกรีบยกมือ “ผมยังเรียนไม่จบ แม่ผมยังไม่รู้เรื่องผมกับไอ้แมนด้วย ยังไม่ต้องถึงขั้นนั้นหรอกครับ”
“เหรอ” พ่อทำเสียงต่ำๆ
“ผมขอคุยกับ...เขาก่อนได้มั้ยครับ ผมแค่ไม่อยากให้เขาทิ้งผมมาดื้อๆแบบนี้”
ได้ยินเสียงคนนั่งข้างๆ ทำเสียงขึ้นจมูกเหมือนกัน แต่มาถึงขั้นนี้แล้ว ถอยก็ไม่ใช่พระเอกแล้วหล่ะ

พ่อกับแม่ยังดูละคร พร้อมไปกับการปรึกษาเรื่องลูกชายตัวดี แต่ไอ้พระเอกกำลังเดินตามพนักงานบริษัทขึ้นมาที่ห้องนอนข้างบน
ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม
“มึงจะเอายังไงกับกูกันแน่” เสียงแหบๆถามขึ้นมาก่อน
“เมื่อบ่ายน่ะกูตกใจ ก็เลยทำหน้าตาแบบนั้น”
“แต่กูเสียใจ เพราะกูพยายาม แล้วกูก็คาดหวังว่าจะได้ยินเสียงหัวเราะจากมึง หรือคำพูดว่าดีใจด้วยที่กูเรียนจบ”
“แต่กูตกใจจริงๆ เหมือนเมื่อวานมึงยังไมได้ลงวิชาพื้นฐานปี 1 มาวันนี้มึงจบแล้วอ่ะ”
แมนยืดตัวตรง กอดอกมอง “เพราะกูขี้เกียจเรียนวิชาพื้นฐาน กูก็เลยตะบี้ตะบันวิชาที่กูอยากเรียนก่อน เพราะกูไม่ชอบเข้าห้องเรียน แต่กูไม่ได้ขี้เกียจไปสอบ มึงเข้าใจมั้ย”
ไอ้เอกพยักหน้า ไอ้แมนพูดต่อ
“แล้วมึงจะเอายังไง จำได้มั้ยว่ามึงสัญญาอะไรกับกูไว้”
ไอ้เอกพยักหน้าอีกที แต่ยังไม่พูด ไอ้แมนเลยเดินไปนั่งบนเตียง ไอ้เอกก็เดินตามมานั่งข้างๆ
“พอมึงเก็บของออกมา กูก็คิดตามที่มึงพูดนะว่า เราเอาแต่ทะเลาะกันแต่ไม่เคยคุยอะไรที่มันเป็นเรื่องเป็นราวสักที แต่ทั้งหมดเนี่ย....” ไอ้เอกหันมามองหน้าไอ้แมนตรงๆ “เราเป็นแฟนกันหรือเปล่า”
“สัด จนถึงขั้นนี้ มึงถามกูว่าเราเป็นแฟนกันหรือเปล่า” ไอ้แมนลุกขึ้นยืนโมโหจนอยากเอาหัวโขกกำแพง
“เราเป็นแฟนกันใช่มั้ย” ไอ้เอกถามย้ำ
“เออ!”
“มึงรักกูมั้ย”
“เออ!”
“แล้วทำไมมึงถึงหันหลังให้กูง่ายนัก”
“กูน่ะเหรอที่หันหลัง แล้วไอ้สัดตัวไหนที่มันต่อรอง ยื่นเงื่อนไขตลอดเวลา แล้วก็บอกกูว่าไม่พร้อม เหี้ยที่ไหนบอกว่าอาย”
“มึงยังฟังที่กูพูดไม่ทันเข้าใจ มึงก็เก็บของกลับมา ไม่เรียกว่ามึงทิ้งกูง่ายๆ แล้วจะเรียกว่าอะไรสัด”
“แล้วมึงจะเอายังไง มึงพูดแบบนั้น มองกูด้วยสายตาแบบนั้น หัวใจกูฟีบจนไม่เหลืออะไรเลย”
“ก็กู”
“มึงเป็นคนพูดนั่นพูดนี่ ให้กูมีหน้าที่รอแล้วผลของการรอคอยของกูคืออะไร”
“มึงอยากให้กูทำยังไง”
“อยู่ด้วยกัน”
“แล้วตอนนี้เราไมได้อยู่ด้วยกันหรือไง ที่ห้องกูน่ะ”
ไอ้แมนหันหลังกลับ ยืนเอามือเท้าผนังห้อง ฟังไอ้พระเอกพูด
“กูตกใจที่มึงจบเร็วเกินคาดใช่ ขอโทษที่กูตกใจเว่อร์ พ่อแม่มึงอาจไม่รังเกียจกู แต่พ่อแม่กูที่บ้านนอกอาจไม่คิดเหมือนพ่อแม่มึง แล้วมึงก็ทำงานแล้ว คนในที่ทำงานจะคิดยังไง มึงกับกู ไม่ใช่เฮียซาโต้ที่เขาคุ้มครองไอ้คีย์ได้ กูจะต้องอยู่แบบหลบๆซ่อนๆ ไปตลอดหรือไง”
“มึงคิดเยอะมาก”
“แล้วกูก็กลัวมากด้วย มึงมีเพื่อนของมึง มีชีวิตของมึง กูมีเพื่อนของกู มีชีวิตของกู ค่ำลงเราก็กลับมานั่งอ่านหนังสือด้วยกันที่ห้อง กูไม่คิดอะไรเลย กู....มีความสุข แต่พอเห็นมึงใส่ชุดทำงาน กูก็คิด และกลัวมาก”
ไอ้แมนหันกลับมามอง
“มึงคนไม่กลัวใคร ไม่กลัวอะไรสักอย่าง มึงไม่เข้าใจความกลัวของกูหรอก”

รอยยิ้มแปลกๆปรากฏที่มุมปากของคนตาเรียวแล้วหายไปในทันที ที่อีกคนเงยหน้าขึ้นมอง
“จะอยู่ที่นี่หรือจะรอไปอยู่คอนโดฯกับกู”
“ต้องถามแม่มึงก่อนว่ารับกูได้มั้ยอีกข้อนึงด้วย”
ไอ้แมนยักคิ้ว เปิดประตูห้องนอน เดินนำลงไปหาแม่หน้าตาเฉย
“แม่ รับมันเป็นลูกอีกคนได้มั้ย”
แม่นิ่งอึ้งแล้วพยักหน้า
“แม่ยอมรับแล้วมึงว่าไง”
ไอ้เอกอ้าปากค้าง
.....ทำไมง่ายนักล่ะ...หรือเพราะว่า อยู่ด้วยกันมานานจนแม่ยอมรับกลายๆ
“แบบผมกับมันเป็นแฟนกันนะ ไม่ใช่เพื่อนสนิทน่ะ”
พ่อสวนขึ้นมาก่อนที่แม่จะหัวใจวายตาย
“คบทีละคน ไม่มั่ว ไม่ทำอะไรประเจิดประเจ้อ”
“แน่นอน ผมไม่เคยมั่วอยู่แล้ว” ไอ้แมนตอบอย่างมั่นใจ
ตรงข้ามกับอีกคนที่กลับไปหน้าซีดเหมือนเมื่อบ่าย
......ผิดแผน ผิดแผน ไม่ใช่แล้ว พ่อแม่ต้องลุกขึ้นมาโวยวาย ดราม่ากันสักนิดสิ แล้วถึงจะยอมรับไม่ใช่หรือ....
“เอ่อ...คือ ไม่ห้าม ไม่กีดกันสักนิดหรือครับ”
“ก็อยากทำอย่างนั้น” แม่บอกเหมือนเริ่มปลง “แต่มันผ่านขั้นตอนนั้นไปแล้วนี่ ที่ผ่านมาแมนเขาก็ดูแลตัวเองได้ ที่เครียดอยู่ก็คือ แม่ไม่รู้ว่าจะเอาหน้าที่ไหนไปหาพ่อแม่ของเอกเนี่ย”

ไอ้เอกค่อยหันไปมองไอ้คนตาเรียว
....ชิบหายแล้วกู เตะหมูเข้าปากหมาอีกแล้วหรือเนี่ย....
“ไง กู พ่อแม่กูรับผิดชอบกับชีวิตน้อยๆ ของมึงขนาดนี้แล้ว มึงจะเอายังไงกับกูอีก”

ไอ้เอกกลืนน้ำลายหนืดๆ เดินกลับขึ้นมาที่ห้องนอนของไอ้แมนแล้วทิ้งตัวลงนอนบนเตียงกว้าง
“มีอะไร” ไอ้แมนตามมานั่งลงข้างๆ
“กูกำลังหาทางยืดเวลาน่ะ” พอนึกขึ้นได้ก็รีบลุกขึ้นนั่ง “เดี๋ยวๆ อย่าเพิ่งรีบคิดน้อยใจ ขอกูเรียบเรียงอีกนิด”
“กูกำลังรอฟัง”
“กูรักมึง แต่อยากให้มึงอยู่กับกูที่ห้อง ไม่ใช่ให้กูย้ายมาอยู่กับมึงที่บ้านนี้ หรือที่คอนโดฯ ที่พ่อจะให้เป็นรางวัลกับมึง”
“ทำไม”
“เพราะกูคือพระเอก กูต้องมีศักดิ์ศรี”

.........แต่กูกำลังอยากบ้าไอ้พระเอก!.....แต่นะ ต้องตั้งสติรับมือกับความเพี้ยนของไอ้พระเอกนี่ให้ดี...

“ก็ไม่เห็นต้องตกใจขนาดนั้น”
“แล้วทำไมมึงต้องโกรธกูขนาดนั้น”
“เพราะกูรู้สึกว่ากูเป็นควาย เชื่อที่มึงบอกว่ารักกู”
“กูรักมึงจริงๆ กูไม่เคยบอกใครเลยนะคำนี้น่ะ”
“แล้วสาวๆของมึงล่ะ”
“คำว่ารักตอนจะเอากัน ใครที่ไหนเขานับกันล่ะ”
“สัด!”
“เหี้ย ด่ากูทำไมเนี่ย”
“เพราะมึงไม่ชอบการผูกมัดไง มึงถึงได้เป็นอย่างนี้”
ไอ้เอกนิ่งเงียบนอนหงายมองเพดาน
“ทำไมมึงรู้ทันกูทุกทีเลยวะ”
“เพราะคนที่กูมองมีแต่มึงไง”
“เหี้ย” ไอ้เอกยกมือปิดหน้า
ไอ้แมนยิ้มกว้างจนดวงตากลายเป็นสระอิ “ไอ้สัด หรือจะให้แม่กูไปอุบลหาแม่มึงพรุ่งนี้เลย”
“เหี้ย กูยังเรียนอยู่นะ”
ไอ้แมนหัวเราะจนไอ้เอกต้องยกเท้าขึ้นถีบ
“เหี้ย ขอกูเล่นตัวมั่งเหอะ กูเป็นผู้ชายนะกูกลัวการแต่งงาน”
ไอ้แมน จ้องมองล้อเลียน ดึงมือ 2 ข้างของไอ้เอกกางออก
“มาไม่มา บอกเดี๋ยวนี้”
“ขอกูเรียนจบก่อนได้ป่ะ อีกปีเดียวเอง”
ไอ้แมนถึงกับทิ้งตัวลงนอนกางแขนกางขาบนเตียง
“เหี้ยเอ๊ย ทำไมต้องเป็นมึงด้วยวะ เรื่องมาก โยกโย้ เจ้าชู้ หลงตัวเอง”
“เหอะ”
“บ้าละคร”
“ไม่มีดีสักอย่างล่ะสิ”
“กูก็ว่างั้น”
ไอ้เอกหันมาผลักออกไปจากเตียง แต่ได้แค่กลิ้งไปครึ่งรอบไอ้แมนก็กลิ้งกลับมาที่เดิม
“เหี้ย แล้วชวนกูมาอยู่ด้วยทำไมล่ะ ถ้ากูไม่มีดีสักอย่าง”
“ก็มึงเล่นตัว นั่นก็ไม่นี่ก็ไม่ เหลือทางเลือกให้กูสักทางสิ”
“งั้นเอาแค่เบื้องต้นก่อนได้มั้ย”
“ยังไง”
“พ่อแม่มึง”
“ยอมรับเรื่องของเราแล้วนี่”
“แล้วเราจะคบกันแบบไหน”
“มึงอยากให้เป็นแบบไหน”
“เหมือนที่ผ่านมาได้มั้ย”
“ถ้าเหมือนที่ผ่านมาก็คือ เราเป็นแฟนกันใช่มั้ย”
“เหรอ กูว่ามึงเหมือนพ่อกูมากกว่าแฟน” ไอ้เอกพูดแล้วหัวเราะหึหะ
“พ่อมึงให้มึงนอนหนุนแขน ยอมให้มึงจูบด้วยเหรอ”
“สัด กูเปรียบเทียบ ห่านี่พูดซะเฉียดนรก” ไอ้เอกลุกขึ้นโวยวายชกเข้าที่ท้องหนาๆของไอ้แมน
แต่ก็อย่างที่รู้ ไอ้เอกมันแรงมด ทำได้แค่ให้ไอ้แมนสะดุ้งแล้วนอนหัวเราะ
....ทุกครั้งที่มองหน้า มองริมฝีปากของไอ้หน้ากวนตรีนคนนี้ มักจะมีความรู้สึกแปลกๆ ...
ไอ้เอกต้องหันหน้าหนีมานั่งกอดเข่าหันหลังให้
“เอก”
“อะไร”
“บอกกูอีกครั้งได้มั้ย กูอยากได้ยิน”
“บอกอะไร สัด”
ไอ้แมนนอนมองแผ่นหลังของคนที่นั่งกอดเข่า ยกมือใหญ่ขึ้นลูบหลังแล้วสอดเข้าใต้เสื้อยืดเสื้อย้วยตัวเก่งของไอ้เอก
ไอ้พระเอกหันมามอง แต่ไม่ได้ห้าม ไม่ได้ปัดมือออก ทั้งที่ผ่านมาขืนทำอะไรอย่างนี้มันจะขู่ฟ่อทันที

...กลัวกูทิ้งเหมือนกันหรือมึงน่ะ...

“เพราะมึงเดินออกมาจากห้องแบบนั้น ทำให้กูรู้สึกว่ามึงทิ้งกูแล้ว เราทะเลาะกันตลอด แต่อย่างมากมึงก็นอนหันหลังให้กู แต่มึงไม่เคยเก็บของกลับบ้านแบบวันนี้ กูแค่อยากมาถามมึงให้แน่ใจว่า ถึงมึงจะกลับบ้านแล้ว เราจะยังเป็นเหมือนเดิมหรือเปล่า กูจะยังรักมึงเหมือนเดิมได้มั้ย”

ไอ้แมนดึงแขนไอ้เอกลงมา จับให้นอนหนุนแขนกอดไว้
“รักก็รักสิ กูไม่เล่นตัว ไม่เรื่องมากข้อแม้เยอะเหมือนมึงหรอก”

ไอ้เอกเงยหน้าจูบคางสากๆแล้วเลื่อนขึ้นจูบปากยิ้มกว้าง ขณะที่ดวงตายังจ้องมองริมฝีปากหนาเหมือนเดิม
“เหอะ แล้วมึงจะรักพระเอกอย่างกูจนโงหัวไม่ขึ้นไอ้สัด” เงียบไปสักพัก ไอ้พระเอกก็ถามอีก
“ที่มึงโกรธเนี่ย เพราะกูไม่ให้มึงเอาหรือเปล่า”
ไอ้แมนทำเสียงหึ “ไม่ใช่”
“รออีกปีนึงได้ใช่มั้ย”
“ใช่ ขอแค่มึงอย่าทำเหมือนกูเป็นของเล่น”
“กูไม่เคยเห็นมึงเป็นของเล่น กูรู้ว่ามึงมั่นใจ กูเองก็มั่นใจ แต่กูก็อยากแน่ใจว่า วันข้างหน้าเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป ไม่ใช่ว่าวันหนึ่งมึงเจอใครที่เขาพูดหวานกับมึง ดีกับมึงมากกว่ากู แล้ว....กูจะกลายเป็นอดีต”
ไอ้แมนพลิกตัวขึ้นคร่อมไอ้พระเอก บดขยี้ริมฝีปาก ละจูบแก้ม จูบคาง แล้วบอกติดริมฝีปาก
“มึงคือปัจจุบัน”
ไอ้เอกโอบแขนรอบคอ หลับตา รับจูบหวานไม่รู้จบ.....

ตื่นเช้าไอ้แมนแต่งตัวเตรียมไปทำงาน แล้วหันไปปลุกไอ้เอกกลับไปแต่งตัวที่หอพัก รถจอดที่หน้าหอพัก ไอ้พระเอกก้าวลงจากรถ
“กูว่ามันแปลกๆนะ มีแต่คนที่เรียนจบแล้วแยกบ้าน แต่มึงเรียนจบแล้วกลับบ้าน”
ไอ้แมนถอนหายใจแรงๆ “มึงจะเอายังไงอีกเนี่ย กูเอาใจมึงไม่ถูกแล้วนะไอ้สัด”
ไอ้เอกยักไหล่ ยักหน้า “ตามใจมึง ระวังไว้เหอะ มึงไม่อยู่กูจะไปลั๊ลลา~~”

ไอ้แมนยิ้มมุมปากเดินไปเปิดท้ายรถหยิบกระเป๋าเสื้อผ้ากลับมาที่ห้อง

-*-*END-*-*  
พรุ่งนี้คือตอนพิเศษตอนสุดท้ายของเรื่องนี้ครับ
ขอบคุณทุกคำแนะนำ ความเห็นและการติดตามครับ
ไจฟ์ครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-04-2011 08:54:03 โดย jivetea »

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
Re: Never Let You Go <15-04-54> [พิเศษ 3]
«ตอบ #1157 เมื่อ15-04-2011 08:35:43 »

อ่านแล้วปวดหัวกับมันจริงๆ

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
Re: Never Let You Go <15-04-54> [พิเศษ 3]
«ตอบ #1158 เมื่อ15-04-2011 08:42:10 »

 :กอด1:กว่าจะได้รักกัน


น้องเอกเรื่องมากน่าดู

ออฟไลน์ อิสระ

  • ถ้า add ให้กอด,ถ้า give five ให้จุ๊บ,ถ้า ment ให้เบอร์ คิคิ
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-8
    • https://www.facebook.com/%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C-1433707443445407/?modal=admin_todo_tour
Re: Never Let You Go <15-04-54> [พิเศษ 3]
«ตอบ #1159 เมื่อ15-04-2011 08:56:34 »

คู่นี้อ่านแล้วกวนลำไส้
แต่ชอบบบบบบบบบ :impress2:
ตกลงเอกยอมเป็นภรรเมียใช่ปะ?
เห็นเป็นฝ่ายรุกแมนตลอดนึกว่าในหัวคิดจะเป็นสามีงี่
ที่แท้ก็กลัว......เสียชิง :laugh: :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Never Let You Go <15-04-54> [พิเศษ 3]
« ตอบ #1159 เมื่อ: 15-04-2011 08:56:34 »





ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: Never Let You Go <15-04-54> [พิเศษ 3]
«ตอบ #1160 เมื่อ15-04-2011 09:03:15 »

เอ้อ ได้หยิบมาใช้จริงๆ พาราเซตามอลเนี่ย ปวดตับ ปวดไต ปวดลำไส้เล็ก :z3:
มันก็บ๊องๆมาตั้งแต่แรกล่ะเนอะ แต่ก็น่ารักดี (แบบกวนๆ) :laugh:
แถมพ่อกับแม่เปิดทางสะดวกให้แบบนี้ อนาคตสดใสแล้ว :o8:
ตอนพิเศษสุดท้ายเป็นคู่ของใครน้า รออ่านค่า :impress2:

ออฟไลน์ Wordslinger

  • แป้งจี่รีรีข้าวสาร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1180/-5
Re: Never Let You Go <15-04-54> [พิเศษ 3]
«ตอบ #1161 เมื่อ15-04-2011 09:09:25 »


^
^
^
^
^
จิ้มคนข้างบน อิอิ

ตอนนี้หวานมากค่ะ (?)

ก็หวานได้เท่าที่คู่นี้เค้าจะหวานกันนั่นล่ะค่ะ

แหม พระเอกนี่ก็กลัวการ(สูญ)เสีย(ตัว)ใครสักคนไปเหมือนกันนะคะ หุหุ ให้ๆพ่อแมนเค้าไปเถอะค่าคุณเอก

ขอบคุณคุณไจฟ์และน้องทีค่ะ

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
Re: Never Let You Go <15-04-54> [พิเศษ 3]
«ตอบ #1162 เมื่อ15-04-2011 09:34:50 »

ชอบคู่นี้เหมือนกัน
ออกแนวหวานแปลกๆอยู่เหมือนกัน :-[
+1 นะคะ

hahn

  • บุคคลทั่วไป
Re: Never Let You Go <15-04-54> [พิเศษ 3]
«ตอบ #1163 เมื่อ15-04-2011 09:44:25 »

เอกกลัวเป็นกับเขาด้วย 555

ออฟไลน์ from_mars

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-0
Re: Never Let You Go <15-04-54> [พิเศษ 3]
«ตอบ #1164 เมื่อ15-04-2011 10:25:39 »

คู่นี้นี่...รวบรวมความงงเนอะ
อ่านไปก็เข้าใจความงง แลสับสนของเด็กๆ หลายเรื่องทีต้องคิด แถมดันเอามาคิดเวลาเดียวกันอีก กร้ากกก
แต่ชอบความดิบ เถื่อนของสองคนนี้ น่ารักไปอีกแบบดีเหมือนกัน...
ขอบคุณครับไจฟ์

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
Re: Never Let You Go <15-04-54> [พิเศษ 3]
«ตอบ #1165 เมื่อ15-04-2011 10:58:42 »

อ่านไปขำไป มันกัดกันตั้งแต่แรกจนจบเลยหรือนี่
พ่อพระเอกกลัวโดนทิ้งเหมือนกัน
เห็นใจแมนนะมารักกับเอกเนี่ย
คู่นี้ต้องกินยาพาราจริงๆ

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
Re: Never Let You Go <15-04-54> [พิเศษ 3]
«ตอบ #1166 เมื่อ15-04-2011 11:18:24 »

คู่นี้ คนอ่านต้องกินพาราฯ ทั้งขวด
+1

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
Re: Never Let You Go <15-04-54> [พิเศษ 3]
«ตอบ #1167 เมื่อ15-04-2011 11:20:49 »

อิ อิ พาราไม่ได้ใช้ค่ะน้องไจฟ์ เพราะพี่ทำใจกับความรักแบบแปลกๆ ของคู่นี้ได้อยู่แล้ว
แต่ในความแปลก ก็ซ่อนความน่ารัก ความหวาน และความฮาเอาไว้ด้วย
ทำให้ได้รสชาดดีๆไปอีกแบบจ้ะ......ขอบคุณครับสำหรับตอนพิเศษ

@StaR@

  • บุคคลทั่วไป
Re: Never Let You Go <15-04-54> [พิเศษ 3]
«ตอบ #1168 เมื่อ15-04-2011 11:27:48 »

มันรักกันแบบแปลกๆจริงสองคนนี้
คบกันแบบมึนๆแต่เค้าก็รักกันจริง
รักกันแบบเถื่อนๆแต่คนอ่านชอบมาก
แต่ที่แน่แอบสงสารแมนเล็กน้อย
เนื่องจากเอกเล่นตัวมากไปหน่อย :laugh:
 :กอด1: :L2: :pig4:

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
Re: Never Let You Go <15-04-54> [พิเศษ 3]
«ตอบ #1169 เมื่อ15-04-2011 11:36:18 »

อ่านไปขำไป มันกัดกันตั้งแต่แรกจนจบเลยหรือนี่
พ่อพระเอกกลัวโดนทิ้งเหมือนกัน
เห็นใจแมนนะมารักกับเอกเนี่ย
คู่นี้ต้องกินยาพาราจริงๆ

กด+ ให้คุณไจฟ์

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด