Ti Voglio {ฉันอยากมีนาย!}
shot.15 จบจากประโยคนั้นความเงียบก็ทิ้งตัวปกคลุมทั้งห้อง เจ้าพ่อหนุ่มมองคนที่ยังยืนนิ่งอยู่หน้าประตูด้วยอารมณ์ขบขันแต่ไม่แสดงออกทางสีหน้า ลูน่าของเขาเบิกตากว้าง ริมฝีปากบางอ้าค้างเล็กน้อยแต่ไม่ได้ส่งเสียงอะไรออกมา คาดว่าจะตกใจจนพูดอะไรไม่ออก
“นิ่งอยู่ทำไม มาสิ”
“คุณจะบ้าเหรอ!”รัตติกรตะโกนแหวเสียงลั่นแล้วรีบเดินออกจากห้อง แต่กลับพบว่าประตูเลื่อนที่มีเพียงหนึ่งเดียวไม่ขยับเขยื้อนเปิดทางให้เขาออกไปแต่โดยดี หนุ่มชาวไทยเม้มริมฝีปากแน่นแล้วหันขวับมามองเจ้าพ่อหนุ่มตาขวาง
“เปิดประตูให้ผม!”
“ทำตามที่ฉันบอก แล้วจะเรียกฟรานมาเปิดให้”ลาร์เฟียร์โชว์โทรศัพท์ที่อยู่ในมือให้รัตติกรเห็นแล้ววางไว้ข้างๆตัว ใบหน้าหล่อเหลาร้ายกาจขยับยิ้มเหยียดกว้างสร้างความขุ่นเขืองให้อีกร่างที่ต้องอยู่ร่วมห้องโดยจำยอมได้อย่างง่ายดาย
รัตติกรยืนมองอีกฝ่ายด้วยแววตาขุ่นเคือง เริ่มตั้งแต่ส่งคนไปปลุกเขามากลางดึก แสดงภาพบาดตาให้เห็นอย่างหน้าไม่อาย สุดท้ายยังให้เลขาของตัวเองขังเขาเอาไว้ในห้องด้วยกัน แล้วยังมาสั่งอะไรที่ไร้สาระกับเขาอีกเนี่ยนะ!!
“คุณคิดว่าคนไทยทั้งประเทศจะนวดแผนไทยเป็นรึไง! ที่โรงแรมนี่ก็มีสปาอยู่ทำไมไม่เรียกเขามา?!”
“ก็ฉันจะให้เธอนวด เลิกเถียงได้รึยัง? มานั่งนี่ได้แล้ว หรือจะให้ฉันไปหาเอง แต่ไม่รับรองว่าจะจบแค่นวดอย่างเดียว อาจจะนาบต่อด้วยนะ”ดอนแห่งปาเลอร์โมเลิกคิ้วให้อีกฝ่ายเป็นเชิงยั่วยุ รัตติกรเม้มปากแน่นแล้วคว้าตะกร้าไม้สานอย่างดีที่ใส่พวกเครื่องหอมและอุปกรณ์เกี่ยวกับการนวดเอาไว้แล้วเดินไปหาเจ้าพ่อหนุ่มที่แย้มรอยยิ้มสมใจ
“บอกไว้ก่อนนะว่าถึงผมจะเคยอ่านว่าเขานวดแผนไทยกันยังไง แต่ผมก็ไม่เคยทำมาก่อน ผมนวดไม่เป็น บางทีอาจจะไปนวดทับเส้นประสาทสักเส้นของคุณจนร่างกายเป็นอัมพาตเล่นๆก็ได้ ไม่ว่ากันนะ?”รัตติกรยิ้มยียวนกลับ ชายหนุ่มวางตะกร้าเครื่องหอมลงข้างตัวแล้วนั่งลงไม่ใกล้ไม่ไกลจากเจ้าพ่อหนุ่มนัก
ลาร์เฟียร์มองคนข้างตัวที่สงบสติอารมณ์ของตัวเองลงได้อย่างรวดเร็วและกลับมาต่อปากต่อคำกับเขาได้อีกครั้ง ทั้งๆที่ตกอยู่สถานการณ์ที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบ แต่ลูน่าที่แสนจะดื้อดึงคนนี้ก็ยังไม่ยอมแสดงให้เห็นว่าตัวเองหวาดกลัวหรือตกเป็นรองเขาแต่อย่างใด
หึ...แล้วจะได้เห็นดีกัน “เธอเรียนรู้เร็วนี่ใช่มั้ย? ฉันสอนให้เดี๋ยวเดียวก็คงจะทำได้ไม่ยาก”
“หา? อ๊ะ!!!”ถือโอกาสที่อีกฝ่ายยังไม่ทันตั้งตัว เจ้าพ่อหนุ่มก็กระชากคนข้างกายให้ขึ้นมานั่งเกยกันอยู่บนตัก ฝ่ามือหนากดศีรษะเล็กให้โน้มลงมาอย่างไม่อาจขัดขืนแล้วประทับริมฝีปากบดขยี้อย่างเร่งร้อนจนอีกฝ่ายต่อต้านแทบไม่ทัน ลิ้นเล็กถูกดูดดึงจนชาวาบ สิ่งแปลกปลอมจากภายนอกล่วงล้ำเข้ามาสำรวจโพรงปากหวานอย่างหิวกระหายและเร่าร้อน
“อึก ปล่อย!!! เรื่องแบบนี้ก็มีคุณฟรานทำให้อยู่แล้วไม่ใช่รึไง!”
“กับฟรานมันก็แค่งาน เขาแค่ช่วยระบายอารมณ์ให้ฉันก็เท่านั้น”
ขณะพูดลาร์เฟียร์ก็ใช้อีกมือที่ยังว่างดึงเสื้อคลุมของรัตติกรหลุดออกจากไหล่จนไปกองอยู่ที่เอว ปลายนิ้วกร้านลูบไล้ตามแนวกระดูกสันหลังเรียบลื่น กดย้ำในบางจุดที่จะช่วยให้เจ้าของร่างผ่อนคลาย และบางจุดที่ช่วยกระตุ้นอารมณ์ใคร่ให้ลุกโหมกระพือ
“แล้วผมล่ะ คึ อ่ะ....ทำไมผม ต้องทำแบบเดียวกับเลขาของคุณด้วย อื้อออ”
“ไม่เหมือนกัน!”
“ไม่เหมือนตรงไหน!! อ๊ะ!”
ร่างเพรียวสะท้านไหวเพราะร่างกายที่รู้สึกดีเกินไปจนไม่อาจควบคุม มือเล็กดันแผ่นอกแกร่งเป็นการต่อต้านสัมผัสที่รุนแรง ดวงตาสีน้ำตาลไหม้ที่มองสบนั้นมีอารมณ์สะท้านไหวรุนแรงแฝงอยู่ภายใน หากแต่สิ่งที่เจ้าพ่อหนุ่มเห็นได้ชัดกว่านั้นคือการขัดขืนและความอวดดีที่ไม่ได้ลดลงไปแม้แต่น้อย
“เธอเป็นของฉัน รัตติกร”
“ผมไม่ใช่ของๆใคร!!”
“หึ!”
งั้นเดี๋ยวจะสอนให้รู้ ว่าใครกันที่เป็นเจ้านาย!! ลาร์เฟียร์ควานมือลงไปในตะกร้าเครื่องหอมแล้วหยิบน้ำมันหอมระเหยขึ้นมาขวดหนึ่ง เมื่อเปิดฝาออกกลิ่นหอมฉุนก็ลอยฟุ้ง เจ้าพ่อหนุ่มเทน้ำมันในขวดลงบนแผ่นหลังขาวเนียนที่สั่นระริก ฝ่ามือหนาลูบไล้น้ำมันหอมไปทั่วผิวเรียบลื่น กดย้ำและบีบนวดในแต่ละจุดด้วยน้ำหนักมือที่แสนชำนาญจนร่างบางที่นั่งเกร็งอยู่บนตักส่งเสียงครางผ่านลำคออย่างมิอาจห้ามตัวได้
รัตติกรรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วทั้งตัว ยิ่งฝ่ามือหนานั้นลากผ่านที่ตรงไหนยิ่งเหมือนมีเหล็กเผาไฟมาสัมผัสกับร่างกายโดยตรงอย่างไรอย่างนั้น ริมฝีปากที่ถูกบดขยี้อย่างหนักหน่วงทำให้สมองของเขามึนเบลอขึ้นเรื่อยๆจนแทบจะหักห้ามใจตัวเองไว้ไม่ได้
ใครจะไปยอม... ดวงตาสองคู่ยังมองสบกันอยู่อย่างไม่มีใครยอมใคร หนุ่มชาวไทยค่อยๆลดมือจากแผ่นอกนูนแน่นลงมาช้าๆ มือเล็กสัมผัสท่อนเนื้อแกร่งที่ยังไม่สงบอยู่ใต้ผ้าขนหนูผืนน้อยแล้วลูบไล้ไปมาจนเจ้าพ่อหนุ่มถึงกับหยุดชะงักด้วยความแปลกใจ
ดวงตาสีน้ำตาลไหม้พราวระยับคลับคล้ายคลับคลาเหมือนจะท้าทายและหลอกล่อเขาให้เข้าสู่เกมตัณหา ร่างเพรียวตรงหน้าแม้จะสะท้านไปด้วยแรงอารมณ์ที่เขาสร้างขึ้นมา หากแต่ก็ไม่ยอมให้อารมณ์มาอยู่เหนือสติของตัวเอง คนแบบนี้หาได้ยาก เพราะมนุษย์มักจะยอมแพ้ต่อความปราถนาของตัวเองโดยง่ายดายเป็นพิเศษ และน่าดีใจ ที่ลูน่าของเขาไม่ใช่คนส่วนใหญ่แบบนั้นเสียด้วย
ลาร์เฟียร์ชโลมน้ำมันหอมใส่มือของตนเองแล้วค่อยๆลูบจากต้นคอระหงลงมาที่แผ่นอกแบนราบ ชายหนุ่มใช้นิ้วหัวแม่มือเค้นคลึงที่ยอดอกสีหวานจนอีกฝ่ายสะดุ้งตัวลอยแล้วครางเสียงพร่า รัตติกรสบถในลำคอ มือเล็กที่พยายามปลุกปั่นอารมณ์จึงเร่งจังหวะขึ้นอีกจนเจ้าพ่อหนุ่มตัวเกร็งด้วยความเสียวซ่านที่พุ่งขึ้นมาเป็นระลอก
กลิ่นหอมหวานล้ำลึกของน้ำมันหอมดอกกระดังงาลอยอบอวลไปทั่วห้อง ช่วยชักพาอารมณ์ปรารถนาให้พุ่งขึ้นสูงด้วยความรัญจวน มันลวงประสาทให้พวกเขาต่างหลงไหลไปกับบรรยากาศที่เร่าร้อนหอมหวานมากขึ้นเรื่อยๆจนลืมที่จะยั้งตัวเองเอาไว้
เจ้าพ่อหนุ่มโอบเอวร่างบางไว้แล้วล้มตัวลงนอนไปกับพื้น ส่งผลให้รัตติกรต้องอยู่ในท่าคุกเข่าคร่อมตัวเขาเอาไว้อีกที ฝ่ามือหนากระตุกผ้าคลุมส่วนที่เหลือจากร่างเพรียวแล้วโยนทิ้งไปให้พ้นสายตา เผยให้เห็นโครงร่างงดงามเย้ายวน ผิวขาวเนียนเป็นประกายระยับและลื่นมือด้วยน้ำมันหอมที่ถูกเขาชะโลมไปทั่ว รัตติกรหายใจหอบเครือและยังคงจ้องมองเขาด้วยแววตาต่อต้านดื้อรั้น และเพราะถูกเปลี่ยนท่ากระทันหัน ทำให้หนุ่มชาวไทยต้องละมือจากการปลุกปั่นอารมณ์ของดอนแห่งปาเลอร์โมไปอย่างเสียไม่ได้
มีหรือเจ้าพ่อหนุ่มจะไม่รู้ว่าลูน่าของเขาคิดจะเล่นเกมส์อะไร แต่กับคนที่แทบจะไม่เคยมีประสบการณ์ กับคนที่ผ่านเรื่องแบบนี้มาจนโชกโชน ผลแพ้ชนะมันไม่จำเป็นต้องคาดเดาอยู่แล้ว!
“ฝีมือแค่นี้คิดจะมาปลุกอารมณ์ฉันน่ะมันเร็วไปร้อยปี”
“ก็อย่าคิดว่าคนที่ทำเรื่องแบบนี้ได้มันมีแค่คุณคนเดียว!”
รัตติกรแยกเขี้ยวส่งให้เจ้าพ่อหนุ่มอีกครั้งแล้วโน้มหน้าลงงับใบหูของร่างแกร่งที่อยู่ภายใต้ตัวของเขา มันเป็นการแก้แค้นเรื่องที่อยู่ในลิฟต์กลายๆ และจุดนี้ก็เป็นพื้นที่ส่วนใหญ่จากการเฉลี่ยว่ามีผลต่อการกระตุ้นอารมณ์มากที่สุดจุดหนึ่ง
ก็บอกแล้วว่าอย่ามาท้าทายกันให้มากนัก คนที่อ่านหนังสือไปทั่วอย่างเขาน่ะ แม้แต่มารยาหญิงมัดใจชายเขาก็อ่านมาแล้วเว้ย!!!ลาร์เฟียร์อุทานเบาๆด้วยคิดไม่ถึงว่าเจ้าราชสีห์มากฤทธิ์ตัวนี้จะกล้าทำการอุกอาจถึงเพียงนี้ แต่ไม่นานความคาดไม่ถึงนั้นก็แปรเปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะทุ้มหนักด้วยความชอบใจอย่างรวดเร็ว
นี่สิถึงจะสมเป็นสิ่งที่เขาต้องการจะครอบครอง! มือแกร่งโอบไหล่บางแล้วกระชากลงมาหาตัว แผ่นอกเนียนที่ลื่นไปด้วยน้ำมันหอมเสียดสีไปกับลำตัวของเขาจนรู้สึกร้อนเป็นไฟ เจ้าพ่อหนุ่มนวดเฟ้นทั่วร่างเพรียวจนกระทั่งไปหยุดอยู่ที่รอยบุ๋มเล็กๆเหนือก้นกบแล้วกดย้ำลึกพร้อมกับคลึงนิ้วไปตามแนวกระดูกสันหลังบริเวณสะโพกสอบเพรียว รัตติกรสะดุ้งแล้วเงยหน้าขึ้นมาจากซอกคอของเขา ใบหน้าสวยนิ่งขึงฉายประกายอันตรายอย่างเจ้าป่าที่กำลังป้องกันอนาเขต
น่าขย้ำให้สิ้นลายคามือ… “อ๊า!!!~”
สะโพกเพรียวกระตุกสั่นทันทีเมื่อนิ้วหยาบกร้านชุ่มน้ำมันรุกล้ำเข้ามาในร่างกาย ความลื่นอันเป็นคุณลักษณะเด่นช่วยลดแรงเสียดสีทำให้การสอดใส่นั้นเป็นไปอย่างง่ายดาย ทว่าฝ่ายที่ต้องรองรับความคับแน่นนั้นกลับอึดอัดเหมือนร่างกายจะแยกออกเป็นเสี่ยงๆ!
“ออกไป!! อ๊ะ!!อึก!”
“แน่ใจนะว่าอยากให้ออก? ตรงนี้ของเธอมันรัดฉันไว้แน่นขนาดนี้เลยนะ หึหึหึ”
“หย่ะ อ๊ะ! หุบ..ปาก!!! อึ้ก!!”
นิ้วที่สองถูกเพิ่มเข้ามาเมื่อเจ้าพ่อหนุ่มรู้สึกได้ว่าช่องทางที่คับแคบนั้นคลายตัวลงเล็กน้อย รัตติกรเจ็บจนทานตัวอยู่บนแขนตนเองไม่ไหวจึงทิ้งลำตัวส่วนบนลงบนแผ่นอกแกร่งเต็มแรง ลาร์เฟียร์ใช้มืออีกข้างที่ยังว่างคว้าศีรษะของร่างเบื้องบนให้โน้มลงแล้วบังคับมอบจูบอันแสนร้อนแรงอีกครั้งเพื่อปลุกอารมณ์เสียวซ่านให้ช่วยบดบังความเจ็บปวดของอีกฝ่าย
จวบจนความรู้สึกคับแน่นค่อยๆผ่อนลง เจ้าพ่อหนุ่มก็เริ่มชักนิ้วเข้าออกช้าๆทว่าเน้นจังหวะให้หนักหน่วงและสำรวจหาจุดหมายอย่างค่อยเป็นค่อยไป รัตติกรครางเสียงพร่าแล้วจิกไหล่แกร่งเอาไว้แน่นเพื่อระบายอารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูงอีกครั้ง ความเสียวซ่านแล่นวาบไปสู่สมองแล้วกระจายไปทั่วร่างเป็นระยะจนแทบจะครองสติเอาไว้ไม่อยู่
“อ๊า~~!!”
“หืม ตรงนี้สินะ?”
“ไม่!! อึ้ก! อย่าจับตรงนั้น! อ่า… อ๊ะ!!”
เมื่อเจอเป้าหมายที่ต้องการ ลาร์เฟียร์ก็ค่อยๆบดคลึงปลายนิ้วเข้าที่จุดนั้นอย่างหนักหน่วง รัตติกรหายใจหอบถี่ เสียงครางที่พยายามกลั้นไว้เล็ดลอดออกมามากขึ้นเรื่อยๆจนดังก้องไปทั่วห้องอาบน้ำที่กระจ่างจ้าไปด้วยแสงไฟสีส้มลวงตาและกลิ่นหอมฉุนของน้ำมันหอม ทั้งสองสิ่งผสานเข้ากับความเสียวซ่านอย่างลงตัว ชักนำอารมณ์ให้พลุ้งพล่านเหมือนกำลังปีนไต่อะไรบางอย่างที่มีจุดหมายเป็นแสงสีขาวระยิบระยับ
“อา…อ๊ะ! ปล่อย..ลาร์เฟียร์!! มันจะ! อ๊า~!!”
“Rilasciarlo ora. La mia luna...” เสียงทุ้มกระซิบแผ่วเบาที่ข้างใบหู ทำนองของมันอ่อนโยนจนไม่น่าเชื่อว่าจะออกมาจากปากเจ้าพ่อหนุ่มที่ใช้กำลังและคำสั่งบังคับเขาตลอดมา รัตติกรสะดุ้งเฮือกเมื่อปลายนิ้วแกร่งกระแทกเข้ามาแรงมากขึ้น จังหวะที่เคยเนิบช้าหนักหน่วงกลับเร่งเร้าขึ้นเรื่อยๆจนเขากรีดร้องออกมาไม่เป็นภาษา หนุ่มชาวไทยยกมือขึ้นปิดปากเพื่อขวางกั้นเสียงร้องของตนเอง
มันฟังดูเร้าอารมณ์เกินไปจนแม้แต่ตัวเขาเองยังรู้สึกทนไม่ได้
ไม่ไหวแล้ว... ก๊อกๆๆ แกร็ก! ครืดดดด
“ดอนครับ!! เราจับสายลับได้! เฮ้ย!!....”
“อื้ม!!!!”
จังหวะที่ประตูเลื่อนเปิดกะทันหันนั้นมาพร้อมกับความเสียวซ่านที่พุ่งทะลุขีดอารมณ์โดยไม่ทันตั้งตัว หยาดน้ำสีขาวขุ่นทะลักทะลายออกมาเปรอะเปื้อนหน้าท้องของเจ้าพ่อหนุ่มเต็มไปหมด รัตติกรหายใจหอบเครือ สายตาเบิกกว้างจ้องไปทางหัวหน้าบอดี้การ์อารมณ์ร้อนที่อยู่ๆก็เปิดประตูเข้ามาดื้อๆ
“ฮ่ะ..อา...”
“เอ่อ.....”
“.....”
ทั้งสามจ้องมองกันในความเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่รัตติกรจะผุดลุกขึ้นจากตัวของลาร์เฟียร์อย่างรวดเร็ว ร่างเพรียวผลักอกของเจ้าพ่อหนุ่มเต็มแรงแล้ววิ่งหนีออกไปจากห้องทันทีที่รู้ว่าประตูที่ขังเขาเอาไว้เปิดออกแล้ว
“เดี๋ยวลูน่า!!”
“ไปตายซะ!!!!”
นอนแข็งตายอยู่ตรงนั้นไปชั่วกาลนานเลย ไอ้บอสชั่วววว!!ประโยคตอบกลับของชายหนุ่มเล่นเอาดอนแห่งปาเลอร์โมอึ้งไปชั่วขณะเพราะนึกไม่ถึงว่าจะมีใครกล้าพูดประโยคนี้กับเขา สคูร์โดสะดุ้งเฮือกก่อนจะเปลี่ยนมาผิวปากชอบใจแล้วต้องเงียบไปอีกครั้งเมื่อสายตาสีสนิมตวัดมามองเขาด้วยความเกรี้ยวกราด
เสียงประตูเปิดปิดติดกันดังสนั่นสองครั้งทำให้พวกเขารู้ว่าลูน่าหนีเข้าห้องไปเรียบร้อยแล้วและคงจะไม่ออกมาอีกง่ายๆแน่นอน…
“สคูร์โด!!!!”
“ชิบหาย....”ลาร์เฟียร์โถมตัวลงในอ่างอาบน้ำอีกครั้งด้วยความหงุดหงิด น้ำอุ่นๆกระฉอกล้นออกมาภายนอกอย่างรุนแรงตามอารมณ์ของผู้ใช้งาน
สองครั้งแล้วที่เขาได้กอดรัตติกร! และสองครั้งที่ว่ามาก็ไปไม่ถึงขั้นสุดท้ายสักครั้งเดียว!!!
“คราวหน้าเธอไม่รอดแน่!!”______________________________________
“Rilasciarlo ora. La mia luna...” ประโยคนี้แปลว่า "ปลดปล่อยมันออกมา ลูน่าของฉัน..."
______________________________________
อีกสองวันจะครอบอาทิตย์แต่ดันทำศีลขาดดดด อว๊ากกก
แต่งตอนนี้ย้อมใจ T^T
ค่อยรักษาศีล 5 ใหม่ต่ออีกอาทิตย์ 555+
ตอนนี้คงสะใจหลายๆคนนะครับ 55 ขอโทษที่เอามาลงช้า เนื่องจากถ้าผมแต่งตอนนี้มันผิดศีลห้าชัวร์ๆอ่ะ แต่ไหนๆศีลขาดไปแล้วก็นะฮะ... =w=
อุหวา ตีห้าครึ่ง
เดี๋ยวผมไปนอนแล้วนะครับ ผิดตรงไหนเดี๋ยวจะกลับมาแก้ไขพรุ่งนี้นะฮะ
ราตรีสวัสดิ์ครับผม ^^
Namioto Yo