Ti Voglio {ฉันอยากมีนาย!} shot.28 UP! P.49 (28/08/59)อัพแย้ว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Ti Voglio {ฉันอยากมีนาย!} shot.28 UP! P.49 (28/08/59)อัพแย้ว  (อ่าน 466605 ครั้ง)

ออฟไลน์ Palita mew mew

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
จาเอาหนังสือออออออ หนังสือหนังสือหนังสือหนังสือหนังสือหนังสือหนังสือหนังสือหนังสือหนังสือ
พูดถึงหนังสือลูน่ายังเลือกหนังสือไม่เสร็จอีกหราาา ฮรือๆ เลือกได้กี่ร้อยเล่มเเล้วคะ :katai1: :hao5:

ออฟไลน์ praewp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 203
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
อยากตาฝาดอีกสักครั้งงงง

ออฟไลน์ INNAOM

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
หายยาว 55555555555
รออยู่น้าาาา  :m5: :m5:

ออฟไลน์ Palita mew mew

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
จะปีเเล้วน้าาาาา อีก1เดือนนนนนน ไม่ได้มาทวงเลยยยยยยยยยยย จริงๆนะ :katai1:

ออฟไลน์ ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥

  • เหรียญยังมีสองด้าน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
ตามอ่านจนถึง shot.26.บอกเลยว่าชอบมากเป็นนิยายที่แต่งดีมาก อ่านแล้วได้ความรู้หลายเรื่องเลย ส่วนตัวชอบนิสัยแบบลูน่ามากอ่ะ น่ารักสุดๆ แต่เห็นคนเขียนยังไม่มาต่อ ยังไงก็สู้ๆๆนะ คนอ่านเป็นกำลังใจให้จร้า   :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-06-2015 22:21:15 โดย Name Vee »

ออฟไลน์ Kaewkaew

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 525
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1

Ti Voglio {ฉันอยากมีนาย!}

shot.26

   จบตอนแว้ววว  :mc4: :hao7: :hao7:

   ช่างเป็นตอนที่หวานแหวว? มั้งครับ 55555 แต่รู้สึกพอเป็นฉากอะไรอย่างนี้ผมแต่งเร้วเร็วนะ สามวันก็ได้เอามาลงละ=w= //ทำไมตอนอื่นไม่รู้จักทำให้ได้อย่างนี้บ้างฟะ...  :z13: :z13: :z3: :z3:

   แฮ่ เอาเป็นว่ามาเฉลยเกมส์ทายอายุคุณป๋ากันดีกว่าครับ   :-[

   จากที่ตอนก่อนมาเล่นเกมส์ทายอายุลาร์เฟียร์กัน ผลสรุปออกมาดังนี้~

   “ลาร์เฟียร์ เวสเปอร์ 35 – พญาอินทรี – ผมหยักศกสีน้ำตาลอ่อน ตาสีสนิม”
    ป๋าอายุ 35 นะคร้าบบบ //แก่กว่าที่หลายๆคนคิด จริงๆตอนแรกผมกะว่า38แต่พอคิดว่า 38ไปกิน24แล้วมันก็ห่างกันเกินไปน่ะฮะ 555 35นี่กำลังพอดี มั้ง?
(รัตติกรเกิด ป๋าก็กำลังเข้ามอต้นเลยนะเนี่ย...)  :hao7:

   ผู้ได้รางวัลจากเล้าเป็ดคือคุณ Yara นะครับ
   จากเด็กดีคือคุณ Wisky Pink ครับผม

   ตามสัญญาคือรีเควสอะไรก็ได้หนึ่งอย่างครับ ส่งมาได้ทางหลังไมค์หรือข้อความลับนะครับ //ขอเป็นอะไรที่ไม่กำหนดเวลาจะดีมากครับ แฮ่...คือจากนี้ผมต้องไปทำละครเวทีแย้วอาจจะมีเวลาไม่พอ... ; w ;  :z10: :z10:

   ยังไงก็ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมสนุกกันนะครับ >w< มีตั้งแต่ที่ทายว่าลาร์เฟียร์ยังเอ๊าะๆไปจนถึงอายุ42นู่นเลย 555 ยินดีต้อนรับสู่สายคุณลุงครับ  o13 :a9:

   เอ้อใช่ๆ มีคนถามอายุของอาราชิมาด้วย คุณมังกรฟ้าอายุ 28 นะครับ ^^
   เดี๋ยวตอนหน้า...หรือตอนหน้าๆจะมีตัวละครใหม่ออกมาให้ครบองค์ประชุม 55 ถึงตอนนั้นเดี๋ยวผมเอาข้อมูลของตัวละครแต่ละตัวมาลงให้อ่านเลยละกันเน้อ

   แล้วพบกันใหม่ตอนหน้านะครับ ขอบคุณที่ยังคงติดตามกันอยู่เสมอครับผม~  :pig4: :pig4: :กอด1: :กอด1:
   Namioto Yo

รอตอนที่ตัวละครออกใหม่ครบองค์ประชุม....
จะปีนึงแล้วน้าคุณโยยยย
ขอตาฝากอีกครั้งได้มั้ยยยยยยยยย คิดถึง รัตติกร คิดถึงลาเฟียร์.. คิดถึงคุณคนเขียนมาก ๆ

ออฟไลน์ Lovee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ฮัลโหลคืออยากอ่านต่ออ่ะ คนแต่งจ๋าาา

ออฟไลน์ Palita mew mew

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ปีนึงกับอีก6วัน  :hao4: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ Kaewkaew

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 525
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
อย่าหายไปนานนะ รออยู่ กลับมาอีกๆๆๆ  :mew2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
ลูน่าน่ารักอ่ะ ชอบๆ 555555

ออฟไลน์ rp.ppch

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
อย่าทิ้งกันไว้ตรงกลางทางสิที่รัก...
ฮือ เราชอบเรื่องนี้

ปีนึงแล้ววววน้า กลับมาเถอะ :z3: :o12:

ออฟไลน์ Teaw_HC+MJ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อยากให้รู้ ว่ารอคนเขียนอยู่ทุกลมหายใจ

ฮื่ออ ฮือออออออออออออ

ออฟไลน์ SaKiNonZa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 73
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มาต่อเร็วๆน้า :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ minnin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
จะไม่เเต่งต่อเเล้วเหรอเสียดาย

ออฟไลน์ Chk~a

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 618
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-1

ออฟไลน์ Namioto

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +346/-9
อีกสองเดือนครับ อีกสองเดือนคนเขียนจะเรียนจบแล้ว ขออีกแป๊บนึงน้าา

ออฟไลน์ lnwboomgo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รอคอยอย่างใจจดใจจ่อ  :a11: :ped149:

ออฟไลน์ continued

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
อีกสองเดือนครับ อีกสองเดือนคนเขียนจะเรียนจบแล้ว ขออีกแป๊บนึงน้าา

จะรอนะคะ  :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ nalin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ God

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3
หมดเวลาล้าวววววว เดือนนี้รึเปล่า หรือเดือนหน้า  :hao4: เรื่องนี้เคยอ่านไปแล้วรอบนึงแต่ยังแต่ไม่จบรู้สึกตอนนั้นจะนานพอสมควรแล้ว พอเข้ามาอ่านรอบนี้ก็ยังแต่งไม่จบอีก ตายๆๆๆๆ คนอ่านตายค้าาา  :sad4: แต่อีกเรื่องนึงเรื่องใครว่าทำดีได้ดีฯเรื่องนั้นชอบมากเลยแนวน่ารักหื่นๆ  :hao6: เรื่องนี้มาแต่งให้จบเลยน้า ไม่งั้นจะตามไปหลอกหลอนถึงในห้องเลยนะ !!!!  :m32: :laugh3: :laugh3: :laugh3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-05-2016 21:24:32 โดย God »

ออฟไลน์ สุนิสา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
มาช้าก้อได้เเต่ขอให้มาต่อจนจบ ได้โปรดด :mew2: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Namioto

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +346/-9
อันนี้สำหรับคนที่น่าจะจำช่วงแรกไม่ได้แล้วเพราะผมหายไปนานซะเหลือเกิน เป็นสรุปคร่าวๆที่ยาวหน่อยนะครับ ส่วนคนที่อยากอ่านตอนใหม่ก่อนก็กดตอนต่อไปได้เลยนะครับ

     เรื่องราวของความรักที่เริ่มต้นด้วยความต้องการเป็นเหตุเรื่องนี้เริ่มขึ้นในค่ำคืนกลางฤดูหนาวคืนหนึ่งท่ามกลางบรรยากาศของการฆ่าฟัน การพบกันแบบไม่คาดฝันของรัตติกร สันติสงครามหนุ่มชาวไทยผู้มากความสามารถกับลาร์เฟียร์ เวสเปอร์ The Don of Don ของมาเฟียทั่วทั้งอิตาลีนั้นได้ผูกโยงเส้นด้ายแห่งชะตากรรมให้พวกเขาต้องเข้ามาพัวพันกันอย่างที่แยกไม่ได้ตลอดไป

            ด้วยความสามารถในการจดจำทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยเห็นได้และไม่มีวันลืม ซึ่งแลกมาด้วยอดีตอันแสนเจ็บปวดที่เขาต้องพบเจอ สิ่งเดียวที่ช่วยเยียวยารัตติกรให้หลบหนีไปจากอดีตนั้นได้คือหนังสือเพียงอย่างเดียวเท่านั้น การขวยขวายในการอ่านนั้นมีมากขึ้นเรื่อยๆจนทำหนังสือที่เขาอ่านได้ไม่จำกัดอยู่แค่เพียงภาษาไทย รัตติกรสามารถใช้ภาษาต่างๆได้มากถึง24ภาษาทั่วโลก จุดประสงค์ในการใช้ของเขานั้นมีไว้เพื่ออ่านหนังสือเพียงเท่านั้น หากแต่มันก็ดึงดูดให้บุคคลหลายประเภทอยากได้เขาไปเป็นพวกด้วยเช่นกัน

            หนึ่งในนั้นคือเจ้าพ่อมาเฟียแห่งปาเลอร์โมที่ถูกใจเขาตั้งแต่แรกพบ เพราะนอกจากความสามารถที่ฉายแววตั้งแต่การพบกันครั้งแล้วแล้ว นิสัยที่ดื้อรั้นไม่ยอมคนหากทะนงในศักดิ์ศรีของตนยิ่งกว่าสิ่งใดนั้นยิ่งทำให้เจ้าพ่อหนุ่มอยากกำราบนิสัยแบบนี้ให้สยบลงแทบเท้าของตัวเอง เขาจึงตัดสินใจลักพาตัวรัตติกรที่บาดเจ็บเพราะโดนลูกหลงติดตัวกลับไปอิตาลีด้วยกันเสียอย่างนั้น

            พอได้สติขึ้นมาอีกที สถานที่ที่รัตติกรอยู่ก็กลายเป็นบ้านพักตากอากาศในปาเลอร์โม หนึ่งในเขตเมืองแห่งเกาะซิซิลีประเทศอิตาลีเสียแล้ว เขาได้พบเจอกับเจ้าพ่อหนุ่มอีกครั้งและได้รู้ว่าจากนี้ไปชีวิตของเขาจะต้องพลิกผันมาอยู่กับเจ้าพ่อมาเฟียที่ไม่แค่ต้องการเขาในเรื่องความสามารถเท่านั้น แต่กลับต้องการให้เขามาเป็นผู้หญิงของตัวเองเสียได้

           เริ่มแรกนั้นรัตติกรเอาแต่หนีท่าเดียวจนได้รับบาดเจ็บหลายต่อหลายครั้ง แต่สุดท้ายแล้วเมื่อเจ้าพ่อหนุ่มสบโอกาสที่รัตติกรเกิดอาการขาดหนังสือกำเริบเพราะไม่ได้อ่านมานานหลายวัน อดีตอันแสนเจ็บปวดย้อนกลับมาเล่นงานหนุ่มชาวไทยจนแทบเสียสติ และหนทางเดียวที่เจ้าพ่อหนุ่มค้นพบโดยบังเอิญว่าสามารถใช้ดึงสติของรัตติกรกลับมาคือการเล้าโลมทางกายนั่นเอง โดยไม่รู้ตัวว่ากำลังหลงระเริงไปกับสัมผัสที่ได้รับทำให้รัตติกรหลงไปกับเกมส์ตัณหานี้จนเกือบจะเสียท่าให้เจ้าพ่อหนุ่ม แต่เพราะความเจ็บจากการถูกรุกรานทางกายทำให้รัตติกรรู้ตัวขึ้นมาในที่สุด ลาร์เฟียร์ที่รู้ว่าโอกาสที่รัตติกรจะอยู่เงียบๆฟังเขาพูดแต่โดยดีนั้นหายาก เจ้าพ่อหนุ่มจึงถือโอกาสนี้ยื่นข้อเสนอให้รัตติกรมาทำงานกับเขาเต็มตัว ด้วยอดีตที่ผ่านมา รัตติกรนั้นมักจะโดดเดี่ยวอยู่เสมอ เขาไม่มีเพื่อนสนิท คนในครอบครัวก็ต่างเสียชีวิตกันไปหมดแล้ว เพราะไม่มีอะไรให้โหยหา ทำให้รัตติกรตกลงทำงานกับลาร์เฟียร์โดยมีข้อแลกเปลี่ยนเป็นหนังสือยี่สิบเล่มต่อวันนั่นเอง

           หลังจากนั้นเมื่อญาติดีกันแล้วจนพอที่จะเรียกได้ว่าเป็นเพื่อนร่วมงาน รัตติกรได้มีโอกาสนั่งคุยกับลาร์เฟียร์เป็นเรื่องเป็นราวถึงสิ่งที่เขาจะต้องพบเจอเมื่อตกลงทำงานกับเจ้าพ่อหนุ่ม มันทำให้รัตติกรได้รู้ว่างานของ The Don of Don หรือเจ้าเหนือหัวของมาเฟียทั่วทั้งอิตาลี่คนนี้ไม่ใช่งานที่เต็มไปด้วยเรื่องสกปรกอย่างที่เขาคิด ตระกูลเวสเปอร์นั้นเป็นตระกูลเก่าแก่ที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยยุคแรกเริ่มของการปฏิวัติอิตาลี เป็นหนึ่งในต้นกำเนิดมาเฟียขนานแท้ที่ยึดกฎของมาเฟียยุคเก่าอย่างเคร่งครัด พวกเขาคอยอยู่เบื้องหลัง ควบคุมระบบของเรื่องเลวร้ายต่างๆให้ดำเนินไปอย่างเที่ยงธรรมให้มากที่สุดและก่อผลกระทบต่อสังคมให้น้อยที่สุดเช่นกัน ความจริงที่ได้รู้ในข้อนี้ทำให้รัตติกรเต็มใจทำงานให้กับลาร์เฟียร์ในที่สุด

            งานแรกที่ได้รับทำให้หนุ่มชาวไทยต้องเดินทางสู่ประเทศจีนโดยไม่ทันตั้งตัว ลาร์เฟียร์พารัตติกรไปพบกับแก๊งมาเฟียชาวจีนซึ่งเป็นหนึ่งในเครือข่ายที่เจ้าพ่อหนุ่มมีเส้นสายอยู่ในขณะนี้ รัตติกรได้รู้จักกับฟงต้าเหลียงผู้นำตระกูลฟงและฟงเจิ้นฮ่าวผู้เป็นน้องชาย สองพี่น้องชาวจีนได้ส่งหนังสือว่ามีเรื่องสำคัญต้องการพบกับลาร์เฟียร์ และได้ให้หลักฐานสำคัญชิ้นหนึ่งที่บ่งบอกว่ามีหนึ่งในพันธมิตรของลาร์เฟียร์นั้นคิดทรยศไปเข้าพวกกับตระกูลโนวาห์ ซึ่งเป็นมาเฟียสัญชาติอเมริกันและถือเป็นแก๊งคู่อริอันดับหนึ่งของเวสเปอร์แฟมมิลี่เลยทีเดียว ด้วยความโกรธทำให้ลาร์เฟียร์เพียงแค่หยิบหลักฐานนั้นติดตัวมาด้วยและเดินทางกลับโดยยังไม่ได้คุยธุระอันใดกับสองพี่น้องตระกูลฟงเลยแม้แต่น้อย

           มีเพียงรัตติกรที่ทันได้เห็นว่าหลักฐานชิ้นนั้นคือภาพถ่าย ด้วยความสามารถในการจดจำจากหนังสือนับแสนนับพันเล่มที่เคยได้อ่านมาทำให้เขารู้ในทันทีว่าสถานที่แห่งนั้นคือที่ไหน เมื่อบอกเรื่องที่ตัวเองรู้ให้ลาร์เฟียร์ได้ทราบ ทำให้เจ้าพ่อหนุ่มถือโอกาสส่งคนไปตรวจสอบทันที และผลที่ได้คือสถานที่ๆรัตติกรบอกนั้นมีอยู่จริงและกล้องวงจรปิดของที่ร้านในวันนั้นก็มีภาพบันทึกอยู่ว่าเกิดการนัดพบระหว่างตระกูลเทย์ริวและโนวาห์ขึ้นแล้วด้วย

           พวกลาร์เฟียร์เข้าพักที่โรงแรมชั้นนำในย่านใจกลางเมืองของเซี่ยงไฮ้ รัตติกรถูกลาร์เฟียร์ลากไปทานอาหารด้วยกันและถูกเจ้าพ่อหนุ่มทดสอบความสามารถอีกครั้งหนึ่ง มันทำให้ลาร์เฟียร์เชื่อมั่นในที่สุดว่ารัตติกรมีประโยชน์กับเขามากกว่าแค่การเป็นล่ามช่วยแปลภาษา เพราะความสามารถในการจดจำเช่นนี้มีค่ามหาศาลเกินกว่าที่จะคาดคิดได้เลยทีเดียว ในขณะเดียวกัน คนกลุ่มหนึ่งก็ถูกส่งเข้ามาสอดแนมความเป็นไปต่างๆของเวสเปอร์แฟมมิลี่อย่างลับๆ เมื่อลาร์เฟียร์ประกาศว่าเขาจะเดินทางไปที่ประเทศญี่ปุ่นเพื่อถามหาความจริงกับแก็งเทย์ริวว่าเหตุใดจึงต้องไปเจรจากับตระกูลโนวาห์ กลุ่มสายลับก็ได้รับคำสั่งให้ทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้เวสเปอร์แฟมมิลี่ออกจากประเทศจีนเป็นอันขาด

           ห้องพักของรัตติกรถูกจัดให้อยู่ในเพนส์เฮาส์ร่วมกับฟรานเลขาประจำตัวของลาร์เฟียร์ สคูร์โดหัวหน้าทีมบอดี้การ์ดอารักขา และเจ้าพ่อหนุ่มหัวหน้าเวสเปอร์แฟมมิลี่ เพียงเข้าพักในห้องส่วนตัวได้ไม่นาน รัตติกรก็ถูกเรียกให้ออกไปพบกับเจ้าพ่อหนุ่มอีกครั้ง เมื่อเข้าไปหาในห้องน้ำภาพที่รัตติกรเห็นคือฉากเล้าโลมของลาร์เฟียร์กับฟราน เจ้าพ่อหนุ่มเมื่อเห็นว่ารัตติกรมาหาแล้วก็บอกให้ฟรานออกไปพร้อมกับล็อกประตูจากภายนอกเพื่อจะขังพวกเขาไว้ข้างใน ลาร์เฟียร์ใช้กำลังบังคับรัตติกรกลายๆเพื่อให้หนุ่มชาวไทยตกเป็นของเขาเต็มตัว หากแต่รัตติกรกลับทำทีเป็นสมยอมและปลุกปั่นอารมณ์เจ้าพ่อหนุ่มให้ว้าวุ่นไปด้วยกันด้วยถือว่าตนเองจะไม่ยอมตกเป็นฝ่ายที่ต้องไหลไปตามเกมส์ของเจ้าพ่อหนุ่มแต่ฝ่ายเดียว ขณะกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มอยู่ๆสคูร์โด หัวหน้าบอดี้การ์ดของลาร์เฟียร์ก็เปิดประตูเข้ามาแจ้งข่าวว่าจับตัวสายลับได้ รัตติกรถือโอกาสนี้หนีออกไปจากห้อง ทิ้งให้ลาร์เฟียร์ต้องอารมณ์ค้างอย่างหาที่ลงไม่ได้

           เมื่อหนีกลับเข้าห้องของตัวเองได้เรียบร้อยแล้ว รัตติกรต้องหาหนทางสงบสติอารมณ์ของตัวเองอยู่พักใหญ่ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมร่างกายถึงได้ตอบสนองต่อเจ้าพ่อหนุ่มขนาดนั้น และทำไมสัมผัสต่างๆยังคงหลงเหลืออยู่ไม่จางหายไปเลยแม้แต่น้อย จวบจนอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ความคิดน่ารำคาญเหล่านั้นก็ยังวนเวียนอยู่ในหัวไม่สร่างซา สุดท้ายหนุ่มชาวไทยจึงตัดสินใจออกไปเดินเล่นข้างนอกแทนที่จะอุดอู้อยู่คนเดียว เมื่อออกจากห้อง เขาพบว่าไม่มีใครอยู่แม้แต่คนเดียว คาดว่ากลุ่มเวสเอร์แฟมมิลี่คงยกขโยงกันไปจัดการกับสายลับที่จับมาได้นั้นเอง แต่เมื่อเดินออกไปจนถึงประตู เสียงพูดคุยของคนกลุ่มหนึ่งเป็นภาษาจีนท้องถิ่นกลับดังแว่วมาให้ได้ยิน รัตติกรเพียงจับใจความได้ว่าคนกลุ่มนี้ตั้งใจจะเข้ามาขโมยเอกสารต่างๆที่จะทำให้พวกเขาออกไปจากประเทศนี้ไม่ได้ หนุ่มชาวไทยจึงไม่รีรอแม้แต่น้อยที่จะหาเอกสารเหล่านั้นให้พบแล้วเข้าไปหลบซ่อนตัวในห้องน้ำของเลขาฟราน

           เสียงของการเข้ารื้อค้นดังแว่วเข้ามาให้ได้ยิน รัตติกรรอจนกระทั่งเสียงเหล่านั้นบอกว่าหาของที่ต้องการไม่พบและชักชวนกันออกจากห้องไปจึงได้วางใจและยอมออกมาจากที่ซ่อน เขาทิ้งกระเป๋าเอกสารของฟรานเอาไว้ในห้องน้ำ หากแต่เมื่อออกมาเขากลับได้เจอกับคนร้ายที่ลืมของทิ้งไว้ในห้อง แม้จะต่อสู้โดยใช้แจกันเหล็กฟาดเข้าที่หัวของผู้บุกรุก แต่พวกนั้นจำนวนมากกลับรออยู่เบื้องนอก แน่นอนว่ารัตติกรถูกจับตัวเอาไว้ในที่สุด หัวหน้ากลุ่มโทรหาผู้ว่าจ้างของเขาว่าจะจัดการเช่นไรกับคนที่จับได้ และเมื่ออีกฝ่ายได้รู้ว่าเขาเป็นใครเข้าแล้วจึงสั่งให้กลุ่มผู้บุกรุกลักพาตัวรัตติกรกลับมาด้วย หมุ่มชาวไทยถูกทำให้สลบ ก่อนที่คนร้ายทั้งหมดจะหนีหายไปอย่างรวดเร็ว

           ตัดกลับมาที่สคูร์โดซึ่งกำลังสืบสวนสายลับอยู่ ฟรานกลับไปที่ห้องและพบว่าถูกรื้อค้น เลขาหนุ่มเจอแจกันเปื้อนเลือดพร้อมกับรัตติกรที่หายตัวไป ลาร์เฟียร์โมโหจนฆ่าสายลับที่จับได้ทิ้ง ตัดฉากมาที่รัตติกรที่ถูกจับตัวมาขังเอาไว้ในห้องใต้ดิน พบว่าฟงเจิ้นฮ่าวคือผู้จ้างวานและสั่งให้จับตนเองมา

           รัตติกรถูกทรมานเพื่อบังคับให้บอกจุดอ่อนของเวสเปอร์แฟมิลี่ แต่เจ้าตัวปากแข็งและดื้อเงียบอย่างที่เคยเป็น ตอนท้ายเปิดตัวพวกโนวาห์กลายๆ เผยให้เห็นว่าโนวาห์อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้แต่ไม่ใช่ผู้สั่งการ

           ความจริงเปิดเผยว่าเจิ้นฮ่าวเสนอตัววางแผนจัดการลาร์เฟียร์เองและโซอาห์เร ผู้เป็นหัวหน้ากลุ่มโนวาห์ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร แต่หมาป่าสีขาวผู้นี้กลับถูกใจในตัวของรัตติกรที่ดูเต็มไปด้วยความลับมากมายอีกทั้งยังมีนิสัยไม่ยอมคนง่ายๆ รัตติกรถูกทรมานหนักขึ้นแต่ยังปากแข็ง อาการขาดหนังสือเริ่มแสดงอาการอีกครั้ง คราวนี้เป็นหนักถึงขั้นชัก ขณะกำลังจะเข้าขั้นวิกฤต ลาร์เฟียร์ก็เข้ามาช่วยด้วยท่าทางโมโหร้ายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทำให้โซอาห์เรสงสัยและคิดว่ารัตติกรมีความสำคัญบางอย่างต่อลาร์เฟียร์จึงสั่งให้คนสืบประวัติมา

           ย้อนอดีตรัตติกรช่วงที่ถูกลักพาตัวไปในช่วงวัยสี่ขวบครึ่ง ขณะที่เด็กชายกำลังเดินออกไปที่สนามเด็กเล่นใกล้บ้าน อยู่ๆรถตู้ที่ไม่ติดหมายเลขทะเบียนก็วิ่งเข้ามาขนาบข้างและพาตัวเขาขึ้นรถ แน่นอนด้วยอายุเพียงเท่านั้นเด็กชายยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง เขาถูกพาตัวไปรวมกับเด็กอีกห้าคนและถูกขังเอาไว้ในห้องใต้ดินเล็กๆแห่งหนึ่ง ตอนแรกมันดูเหมือนการลักพาตัวธรรมดา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาคือการทดลองอันแสนวิปลาส เด็กแต่ละคนถูกจับออกไปทำการทดลองยาบางอย่างแต่ไม่เคยมีใครทนไหว พวกเขากลับมาด้วยร่างกายที่ผิดแปลก ค่อยๆตายลงต่อหน้าต่อตาของรัตติกรไปทีละคน ทีละคน...

           ความตายของเด็กคนแรกนั้นทำให้รัตติกรหวาดกลัว เด็กชายในตอนนั้นค่อยๆเปลี่ยนตัวเองให้หลีกหนีจากความจริงอันโหดร้าย เขาหันไปมองผนังห้องที่เต็มไปด้วยกระดาษโน๊ตซึ่งบันทึกข้อความเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของใครคนหนึ่ง จดจ่ออยู่กับตัวอักษรแต่ละตัว ตีความมันด้วยสัญชาตญาณ ปลดปล่อยความนึกคิดทุกอย่างให้ลอยละล่องไปกับความฝัน ลืมสิ้นซึ่งเสียงกรีดร้องของเด็กคนต่อๆมา แต่แล้วเขาก็ถูกปลุกขึ้นมาเมื่อต้องกลายเป็นเด็กคนสุดท้ายที่คนเหล่านั้นเหลืออยู่ เด็กชายถูกพาตัวไป เบื้องหลังประตูไม้บานเก่าคือทางเดินมืดมิดที่นำไปสู่ห้องทดลองที่ทันสมัย เขาถูกจับฉีดยาตัวใหม่ที่ปรับสูตรไปเรื่อยๆเมื่อใช้กับเด็กคนก่อนหน้าไม่ได้ผล ยามแรกมันแสดงอาการ รัตติกรเจ็บปวดมากเกินกว่าที่เด็กสี่ขวบคนหนึ่งจะทนได้ แม้เป็นผู้ใหญ่ก็อาจขาดใจตายได้ง่ายๆด้วยซ้ำไป เลือดไหลทะลักออกจากร่างกายจนเป็นแอ่ง นักวิทยาศาสตร์ที่อยู่รอบๆส่ายหัวและถอนหายใจว่ายาตัวนี้ไม่ได้ผล พวกเขาสรุปว่าเด็กชายกำลังจะตาย…

           ตอนนั้นเองที่มีคนบางกลุ่มบุกเข้ามา คนกลุ่มนั้นทำลายการทดลองจนพังพินาศ ผู้เกี่ยวข้องทุกคนโดนฆ่าทิ้ง ข้อมูลทั้งหมดถูกลบเลือน แต่คนกลุ่มนั้นกลับรัตติกรทิ้งไว้ที่นั่น ท่ามกลางซากศพและห้องทดลองที่พังยับ จวบจนกระทั่งมีคนแจ้งตำรวจ ผู้บุกรุกจึงหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่เข้าสำรวจและพบว่ายังมีคนรอดชีวิต เขาคือรัตติกรนั่นเอง แม้จะเสียเลือดจนเกือบตาย หากแต่ยาที่พวกนั้นฉีดให้เขากลับได้ผล เรื่องนี้กลายเป็นข่าวกรอบเล็กๆในหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ แต่ไม่มีใครรู้ว่าเด็กชายคือใครเพราะไม่มีการบอกชื่อจริง ผลของยาทำให้รัตติกรกลายเป็นเด็กที่มีสมองด้านการจดจำแบบสมบูรณ์เหนือมนุษย์ทั่วไป นี่เองจึงเป็นสาเหตุให้เขาสามารถจดจำหนังสือทุกเล่ม และเข้าใจภาษาต่างๆได้จนแตกฉาน หากแต่เพราะสมองจดจำได้ถึงความทรมานจึงได้ลบเลือนความทรงจำที่ผ่านมาของรัตติกรไปจนหมดสิ้น

           เขาความจำเสื่อม และได้สมองที่สามารถจดจำทุกสิ่งทุกอย่างมาเป็นของตอบแทน....

           กลับมาที่ตอนปัจจุบัน ลาร์เฟียร์พาตัวรัตติกรมารักษาต่อที่ญี่ปุ่นเนื่องจากต้องมาเคลียร์เรื่องที่เทย์ริวแอบไปนัดพบกับโนวาห์แต่ไม่บอกเขา ตอนนี้ก็ดูแลรักษาเทคแคร์ หวานๆก็ว่ากันไป ตัดมาตอนท้ายในช่วงที่ลาร์เฟียร์สั่งให้ฟรานไปตามสืบอดีตของรัตติกรอีกครั้ง เพื่อจะหาสาเหตุให้พบว่าอาการแบบนี้ของรัตติกรเกิดขึ้นมาจากอะไร

           อาการรัตติกรดีขึ้นแล้ว เวสเปอร์แฟมิลี่เข้าพบกับตระกูลเทย์ริวเพื่อสอบถามความจริง ได้พบกับอาราชิ หัวหน้ากลุ่มเทย์ริว สาเหตุที่ต้องไปพบกับโนวาห์ก็เพราะมีการจับตัวประกันไปทำให้เขาต้องเข้าไปเจรจากับโนวาห์ตามที่ฝ่ายนั้นยื่นคำร้องขอมา เคลียร์กันเรียบร้อย หลังประชุมเสร็จลาร์เฟียร์ลากรัตติกรไปซื้อของในเมืองกับสคูร์โดและฟราน



ออฟไลน์ Guill

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 678
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
กรี้ดดดดดด มาแล้วววว

ออฟไลน์ Namioto

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +346/-9
Ti Voglio {ฉันอยากมีนาย!}

shot.27 



   
   รถสีขาวคันสวยแล่นฉิวตัดผ่านถนนหลายสายจากภูเขาสูงที่ห่างไกลผู้คนเข้าสู่เขตเศรษฐกิจในเมืองใหญ่ที่มีผู้คนหลากหลายวัยแออัดกันอยู่อย่างพลุกพล่านและเบียดเสียด ตึกหลายแห่งแทงยอดสูงเข้าไปในกลีบเมฆที่ลอยต่ำ แทรกไปด้วยหน้าจอโทรทัศน์ฉายโฆษณาในแต่ละสี่แยกใหญ่ๆช่วยให้บรรยากาศทึมๆของวันหิมะตกดูสดใสขึ้นมาบ้าง ร้านค้าหลายร้านเริ่มนำมิสเซิลโทและต้นคริสต์มาสมาวางตกแต่งชวนให้นึกขึ้นมาได้ว่าอีกไม่นานก็จะข้ามผ่านไปสู่ปีใหม่ซะแล้ว

   รัตติกรมองวิวนอกรถเล่นไปเรื่อยๆขณะคิดถึงหนังสือเรื่องที่เขาคิดจะซื้อ แน่นอนว่ารายการในหัวตอนนี้มียาวเป็นหางว่าว กลัวแต่มันจะเยอะเกินไปจนไอ้เจ้าพ่อนี่จะชิ่งไม่ยอมซื้อให้เอาดื้อๆนี่แหละ คิดแล้วเจ้าของดวงตาสีน้ำตาลไหม้ก็ขยับตัวด้วยความอึดอัด มือใหญ่ที่กอดรัดอยู่ตรงเอวยังคงกระชับแน่นอยู่อย่างนั้นแม้พวกเขาจะออกมาจากคฤหาสน์ของเทย์ริวมานานแล้วก็ตาม

   รัตติกรเหลือบมองไปยังคนที่สไลด์มือถือเพื่ออ่านข่าวด้วยใบหน้าเฉยเมยซึ่งยังคงกักเขาเอาไว้ในอ้อมกอดไม่ห่าง บรรยากาศตอนออกมาข้างนอกของหมอนี่ดูยังไงก็เหมือนกับออกมาทำงานแท้ๆ ถ้าจะมีที่แปลกตาไปหน่อยบ้าง ก็คงเป็นชุดของเจ้าพ่อหนุ่มที่เปลี่ยนจากสูทขาวมาเป็นชุดไปรเวทที่ดูภูมิฐาน ผิดกับเขาที่ยังอยู่ในชุดสูทตัวเดียวกับเมื่อเช้าพร้อมผ้าพันคอปิดร่องรอยอนาจารที่อีกฝ่ายทิ้งเอาไว้

   คิดแล้วรัตติกรก็ถอดหายใจเฮือกหนึ่งแล้วหันกลับไปมองวิวนอกหน้าต่างเพื่อฆ่าเวลารอให้ถึงที่หมาย คิดไม่ถึงว่าเสียงถอนหายใจเบาๆของตัวเองภายในรถที่เงียบสนิทจะส่งผลให้คนที่รู้อยู่แต่แรกว่าถูกแอบมองยิ้มขำแล้วเอื้อมมือมาบีบแก้มขาวนวลให้หันกลับมามองเขาดีๆอีกครั้ง

   “มองหน้าคนอื่นแล้วถอนหายใจนี่มันหมายความว่ายังไงกันหืม?”

   “...เรื่องของผมน่า”รัตติกรคิ้วขมวดมุ่นแล้วพยายามดึงมือของเจ้าพ่อหนุ่มออก เสียแต่เรี่ยวแรงที่ผิดกันลิบลับเลยทำให้กลายเป็นว่าเขาจับมือเจ้าพ่อหนุ่มอยู่เฉยๆไปเสียอย่างนั้น

   “แต่ฉันว่ามันมีฉันเข้าไปเกี่ยวอยู่หน่อยๆนะ ไม่คิดว่านี่เป็นการเสียมารยาทต่อคนอื่นเขาหรือยังไง”

   “ก็แล้วมันต้องมาบีบแก้มกันด้วยเหรอไงเล่า!”

   “อย่ามาเปลี่ยนเรื่องสิลูน่า”รัตติกรจิ๊ปากด้วยความเบื่อหน่ายแล้วสะบัดหน้าออกจากมือของอีกฝ่าย ส่วนเจ้าพ่อหนุ่มก็ละมือออกจากแก้มใสแล้วใช้สายตากดดันเอาคำตอบแทน

   “เซ้าซี้จริงๆเลย กะอีแค่ถอนหายใจนี่ผมต้องรายงานคุณด้วยเหมือนกันเหรอครับเจ้านาย?”

   “ก็ไม่หรอก แต่ในฐานะลูกน้อง ถ้าฉันถามอะไรเธอก็ต้องตอบ”

   “เผด็จการจริงเว้ย! แค่ตอนนั้นปอดผมบังเอิญมีออกซิเจนต่ำและมีคาร์บอนไดออกไซด์สูง การถอนหายใจช่วยไล่คาร์บอนไดออกไซด์ในปอดได้มากขึ้น ผมก็เลยถอนหายใจแค่นั้นแหละ โอเคมั้ย”ว่าจบก็ยักคิ้วใส่เจ้าพ่อหนุ่มทีหนึ่งด้วยเจตนากวนประสาท ไม่ทันขาดคำเสียงหลุดขำของคุณบอดี้การ์ดหน้ารถก็ดังขึ้นขัดบรรยากาศ พอรู้ตัวสคูร์โดเลยกระแอมไอเล็กน้อยแล้วทำเป็นตั้งสมาธิขับรถต่อไป ผิดกับฟรานที่ยิ้มหวานมาตลอดทาง เขาปล่อยผ่านสถานการณ์ของคู่ข้างหลังแล้วชี้ทางให้คุณบอดี้การ์ดเลี้ยวเข้าไปจอดรถในลานจอดแบบคิดค่าจอดรายชั่วโมงในย่านที่มีคนพลุกพล่านจำนวนมากแห่งหนึ่ง

   “หึ...” ลาร์เฟียร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ด้วยความหมั่นไส้คนที่ลอยหน้าลอยตาอยู่ในอ้อมกอดของเขา พอรถจอดดีแล้ว เจ้าพ่อหนุ่มเลยโน้มหน้าลงไปกัดริมฝีปากแดงๆด้วยความหมั่นเขี้ยวทีหนึ่งแล้วค่อยลากรัตติกรออกมายืนนอกรถในที่สุด

   คนถูกประทุษร้ายกระทันหันอ้าปากหวอแล้วได้แต่แยกเขี้ยวแง่งใส่เจ้าพ่อหนุ่มที่ยังยืนกุมมือเขาอยู่นอกรถ ริมฝีปากแดงช้ำเจ็บแปล๊บๆบ่งบอกให้รู้ว่าตอนที่ถูกกัดเมื่อกี้น่ะไม่ใช่แค่กัดหยอกๆ แรงกว่านี้อีกหน่อยเขาคงได้เลือดไปแล้วด้วยซ้ำ

   “ได้คนซาดิสม์นี่...”บ่นงุบงิบเป็นภาษาไทยก็จริง แต่ไอ้คำว่าซาดิสม์น่ะมีความหมายเป็นสากล เจ้าพ่อหนุ่มเลยพอจะรู้ว่าเจ้าเด็กบ้านี่ต้องว่าอะไรเขามาสักอย่างแน่นอน แต่ด้วยขี้เกียจต่อความยาวสาวความยืด ลาร์เฟียร์จึงกระตุกมือรัตติกรเป็นเชิงเรียกแล้วเริ่มออกเดินไปด้วยกัน มีฟรานที่ตรวจสอบเส้นทางมาแล้วเดินนำหน้า และสคูร์โดที่คอยดูแลความปลอดภัยอยู่ด้านหลังอีกที

   แน่ละว่าชาวต่างชาติสี่คนที่สามในสี่ตัวสูงปรี๊ดแบบชาวยุโรป หน้าตาก็โดดเด่นสะดุดตามาเดินด้วยกันเป็นกลุ่มๆเช่นนี้ต้องเป็นเป้าสายตา แต่พอสายตาของเหล่าญี่ปุ่นมุงเลื่อนลงมามองคนสองคนที่เดินด้วยกันตรงกลางจับมือกันเดินแบบนั้น สายตาหวานๆของเหล่าหญิงสาวก็เริ่มเปลี่ยนเป็นประกายวิบวับพร้อมเสียงหัวเราะคิกคักเบาๆ รัตติกรที่รู้สึกหน้าร้อนผ่าวเพราะเข้าใจภาษาญี่ปุ่นพยายามกระชากมือของเจ้าพ่อหนุ่มออก แต่คนตัวสูงกว่าซึ่งไม่สะทกสะท้านกับภาษาที่ตัวเองฟังไม่เข้าใจกลับจับมือบางไว้แน่นกว่าเดิมเพราะกลัวเจ้าตัวเดินหลงไปเพราะแถวนี้คนเยอะชวนหลงเสียยิ่งกว่าอะไร

   “ร้านหนังสืออยู่ข้างหน้านี่แหละครับ”ฟรานหันกลับมาบอกแล้วเดินนำไปจนถึงหน้าตึกสูงหลายชั้นที่ติดป้ายร้านต่างๆเอาไว้ ส่วนของร้านขายหนังสือต้องเดินขึ้นไปหน่อย แต่ฟรานตรวจสอบมาแล้วว่าในจุดใกล้ๆกับคฤหาสน์ของเทย์ริวนั้นมีร้านหนังสือร้านนี้แหละที่ใหญ่ที่สุด

   ทั้งสี่หยุดยืนอยู่หน้าร้านก่อนที่ฟรานจะหันกลับมาคุยกับรัตติกร

   “คุณลูน่าครับ คิดว่าจะใช้เวลาที่นี่ประมาณกี่ชั่วโมงครับ”

   “ซื้อเฉยๆ สักชั่วโมงก็เสร็จแล้วครับ”ถึงยังไงถ้าเป็นหนังสือที่ไม่เคยอ่านรัตติกรก็กะจะหยิบหมดอยู่แล้ว ดังนั้นแค่มอง หยิบ แล้วรวมไปจ่ายเงินทีเดียวก็ไม่น่าจะใช้เวลามากนักนี่นะ

   “งั้นถ้าเสร็จแล้ว คุณกับสคูร์โดไปรอที่ร้านกาแฟฝั่งตรงข้ามทางนั้นนะครับ ส่วนนี่บัตรเครดิตครับ เป็นแบบไม่จำกัดวงเงิน ต้องการเท่าไหร่ใช้ได้ตามสบายเลยนะครับคุณลูน่า แต่ช่วยให้บอดี้การ์ดของเราขนกลับไหวด้วยนะครับ ทางผมจะพาดอนไปดูอะไรนิดหน่อย พอเสร็จแล้วจะได้หาอาหารเที่ยงทานด้วยกันแล้วค่อยกลับ ตามนี้นะครับ”ร่ายแผนการเสร็จสรรพ เลขาหนุ่มคนเก่งก็ส่งเครดิตการ์ดให้รัตติกรถือเอาไว้แล้วยิ้มส่งให้อีกครั้งเหมือนกับไม่ยอมให้ปฏิเสธ ผิดกับทั้งล่ามกับบอดี้การ์ดสองคนที่อ้าปากหวอมองหน้ากันด้วยไม่คิดว่าจะต้องอยู่กันสองต่อสองไปอีกเป็นชั่วโมงๆ

   คนสองคนที่มีแววไม่ชอบขี้หน้ากันชัดๆอย่างพวกเขา แต่กลับต้องมาเดินเลือกของแล้วไปนั่งดื่มกาแฟต่อด้วยกันเนี่ยนะ??

   “นายก็อยู่นี่กับหมอนี่สิฟะ เดี๋ยวฉันไปกับดอนเอง”

   “รู้ทางเหรอครับคุณน่ะ แถมของที่กำลังจะไปดูกัน คุณก็ช่วยดอนเลือกไม่ได้หรอกครับ สู้อยู่ที่นี่แล้วใช้ข้อได้เปรียบคือแรงช้างสารของคุณหอบหนังสือทั้งหมดของคุณลูน่าดีกว่า คนเราน่ะต้องput the right man in the right jobนะครับ”ดวงตาสีมรกตเบื้องหลังแว่นกรอบดำดูสุภาพโค้งขึ้นเล็กน้อยด้วยรอยยิ้มของผู้เป็นเจ้าของ ฟรานตบแก้มที่สากระคายมือด้วยตอหนวดของบอดี้การ์ดหนุ่มเป็นเชิงบอกให้ทำตัวดีๆ

   “ทำไมฉันจะช่วยเลือกไม่ได้?”สคูร์โดจับมือของฟรานเอาไว้แน่นด้วยความโมโหเล็กน้อย เรื่องที่จะแยกกลุ่มกันฟรานไม่ได้บอกเขาล่วงหน้า ถ้ารู้ว่าจะเป็นเช่นนี้แต่แรกเขาจะได้แบ่งกำลังบอดี้การ์ดบางส่วนมาเพิ่มแท้ๆ ทำไมชอบทำอะไรไม่ปรึกษาเขาก่อนเลยนะทั้งเจ้านายก็ดี ทั้งเลขาหน้ายิ้มนี่ก็ด้วย น่าหงุดหงิดเป็นบ้า!!

   “มันเป็นของที่คนต้องเคยใช้มาก่อนถึงจะรู้น่ะครับว่าอันไหนดีหรือไม่ดี ซึ่งแน่นอนว่าคุณไม่เคยใช้แน่ๆล่ะผมมั่นใจ”

   “ก็แล้วมันอะไรล่ะโว้ย??”รอยยิ้มของฟรานดูหวานแสบตาขึ้นเรื่อยๆขณะอธิบาย ยิ่งพอเขาถามเสร็จเจ้าตัวก็โน้มตัวมาหาแล้วกระซิบเบาๆที่ริมหูเป็นเชิงไม่อยากให้ใครได้ยิน แน่นอนว่าพอรู้ว่าอะไรเป็นอะไร สคูร์โดก็ดีดตัวไปข้างหลังแล้วชี้ไปทางเลขาหนุ่มด้วยท่าทางอึกอัก

   “หึหึ เคยใช้มั้ยล่ะครับ?”

   “ไม่เคยเว้ย!!! จะไปไหนก็ไปเลยไป!!”ว่าเสร็จบอดี้การ์ดหนุ่มก็คว้าแขนรัตติกรลากเข้าร้านทันควัน หนุ่มชาวไทยได้แต่เลิกคิ้วเพราะจนสุดท้ายเขาก็ยังไม่รู้ว่าทางเจ้าพ่อหนุ่มไปซื้ออะไรอยู่ดีนั่นแหละ พอมองไปทางลาร์เฟียร์กับฟรานที่ยังยืนมองอยู่หน้าร้าน เจ้าพ่อหนุ่มก็ส่งยิ้มแปลกๆมาให้แล้วเดินตามฟรานออกไปอีกทางหนึ่งในที่สุด

   มาเฟียพวกนี้ทำไมต้องทำอะไรให้มันลับลมคมในขนาดนี้ด้วยเนี่ย?

_______________________________________________________________________

   “นี่กะจะซื้อกี่เล่มเนี่ย?”เสียงหนึ่งถามขึ้นจากสคูร์โดที่ขี้เกียจเข้าไปอยู่ระหว่างชั้นหนังสือแคบๆเลยยืนรอรัตติกรอยู่บริเวณจุดคิดเงิน พอหนุ่มชาวไทยได้หนังสือจำนวนหนึ่งก็จะเดินเอามาฝากเขาเอาไว้ ตอนแรกๆก็ไม่เท่าไหร่หรอก แต่ตอนนี้หนังสือกองอยู่รอบตัวเขาราวกับตั้งเป็นกำแพงปราสาทล้อมยักษ์ ทั้งลูกค้าและพนักงานร้านก็มองมาด้วยสายตาเป็นกังวลแต่ไม่อยากยุ่งเรื่องชาวบ้านตามประสาคนญี่ปุ่น แม้จะมีพนักงานบางคนใจกล้าเข้ามาถามเขาก็เถอะ แต่ภาษาอังกฤษแบบสำเนียงญี่ปุ่นนั้นสำหรับเขามันฟังไม่รู้เรื่องเอาเสียเลย พอถามแค่คำว่า “หา?” กลับไป พนักงานคนที่ว่าก็ตัวสั่นริกๆ มองเขาด้วยท่าทางหวาดผวา แล้วพอเขาขมวดคิ้วใส่ด้วยความไม่เข้าใจเท่านั้นแหละ ไอ้คุณพนักงานนั่นก็พูดอะไรไม่รู้เสียงดัง โค้งสุดตัวจนหัวแทบไปชนเข่าแล้วเดินเร็วติดสปีดหนีหายไปหลังเคาท์เตอร์ซะงั้น

   สถานการณ์ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าเขากลายเป็นตัวประหลาด ตกเป็นเป้าสายตาของใครต่อใครจนชวนให้หงุดหงิด ไอ้พระจันทร์ของดอนนั่นก็ยังเดินหายไปในดงหนังสือแล้วขนหนังสือกลับออกมาอีกกองแล้วกองเล่าไม่รู้จักจบจักสิ้น

   “ผมซื้อเท่ากับจำนวนวันที่จะอยู่ญี่ปุ่นแล้วก็ทบกับวันตอนที่ถูกจับไปที่จีนคูณด้วยยี่สิบอีกที”

   “คูณด้วยยี่สิบ?....สิบสี่คูณยี่สิบก็เป็น.....!!!”ได้ผลลัพธ์ในใจสคูร์โดก็เบิกตาใส่รัตติกรด้วยความไม่อยากจะเชื่อ แค่จำนวนก็ว่าแย่แล้ว แต่ความหนาของแต่ละเล่มที่สามารถเอาไปเขวี้ยงหมาตายได้ขนาดนี้รวมเข้าไปอีก ดังนั้นมันก็เท่ากับว่าไอ้สองร้อยกว่าเล่มที่รัตติกรคิดจะซื้อเขาต้องเป็นคนแบกทั้งหมดนั่นไม่ใช่เหรอเฮ้ย! ไอ้หมอนี่นี่จะซื้อไปเปิดร้านหรือไงวะ?

   “ทำไมเหรอ? คุณถือไม่ไหวเหรอ? ผมช่วยถือก็ได้นะ”รัตติกรเสนอความช่วยเหลือด้วยความหวังดี

   “หุ่นอย่างนายยกทีได้แขนหักกระดูกแหกเอาน่ะสิ ผอมอย่างกับไม่เสียบผี กล้ามเนื้ออะไรก็ไม่มี”บอดี้การ์ดหนุ่มตอบกลับพร้อมกับไล่สายตามองหุ่นของรัตติกรด้วยท่าทางหยามเหยียด หนุ่มชาวไทยที่ขี้เกียจต่อความยาวสาวความยืดเลยกลอกตาใส่สคูร์โดหนึ่งทีแล้วทำท่าบอกให้อีกฝ่ายช่วยยกหนังสือมาคิดเงินที่เคาท์เตอร์ด้วยกันแทน

   ให้เขาเอาหุ่นตัวเองไปเทียบกับบอดี้การ์ดมาเฟียอันดับหนึ่งแบบนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับการเอาไม้ซีกไปเปรียบกับไม้ซุงหรอก ไม่ต้องเอาไปงัด แค่วางไว้ข้างๆกันก็รู้แล้วว่าความแข็งแกร่งทางด้านร่างกายเป็นคนละประเภทกันขนาดไหน ยิ่งกับสคูร์โดที่เป็นพวกเลือดร้อน ถ้าเถียงต่อล่ะก็ มันไม่จบแบบที่เขาต่อปากต่อคำกับลาร์เฟียร์แน่ๆ

   “ช่วยแพคใส่กล่องให้ด้วยนะครับ”รัตติกรพูดกับพนักงานขณะที่สคูร์โดยกหนังสือกองแล้วกองเล่ามาวางบนเคาท์เตอร์คิดเงิน ครู่เดียวพนักงานสองสามคนก็เข้ามาช่วยแพคหนังสือลงกล่องให้ หนุ่มชาวไทยรับใบเสร็จมามองยอดเงินเล็กน้อย ดูๆแล้วมูลค่าเงินเดือนเขาแต่ละเดือนก็ไม่ใช่เล่นๆเหมือนกันนี่นะ

   “เรามีบริการจัดส่งนะครับ สนใจรึเปล่าครับคุณลูกค้า”พนักงานหนุ่มใจกล้ามองจำนวนลังที่ดูท่าจะหนักไม่น้อยแล้วเสนอบริการของทางร้านให้ด้วยท่าทางหวาดๆ สายตาของชาวต่างชาติร่างยักษ์ที่ยืนรออยู่ตรงนั้นน่ากลัวจนเขาเกรงว่าถ้าทำท่าทางให้คนพวกนี้ไม่พอใจเข้าล่ะก็จะถูกอุ้มไปโบกปูนถ่วงอ่าวอย่างที่พวกยากูซ่าในหนังชอบทำกันไหม

   รัตติกรก็คิดว่าเข้าท่าดี เพราะจำนวนขนาดนี้ไปจะให้เขากับสคูร์โดสองคนขนไปก็ดูจะเป็นงานลำบากเอาการ แต่เพราะสถานที่ที่จะให้ไปส่งดันเป็นบ้านของหัวหน้ายากุซ่าแถบนี้ เกิดเขาตัดสินใจเอาเองโดยพลการ ดีไม่ดีอาจจะทำให้เป็นเรื่องได้ คิดได้ดังนั้นรัตติกรก็หันไปถามคนหน้าดุตาดุข้างหลังว่าจะเอายังไง

   “ไม่ต้อง ฉันแบกไปเอง ใส่กล่องใหญ่ๆมาก็พอจะได้แบกง่ายๆหน่อย”เสียงขรึมตอบกลับทันควัน ในเมื่ออีกฝ่ายต้องการเช่นนั้นรัตติกรก็ไม่ขัดความประสงค์ หนุ่มชาวไทยหันกลับไปทางเคาท์เตอร์แล้วบอกความต้องการของตนเองออกไปแล้วก็ออกมายืนรอให้พนักงานแพคหนังสือลงกล่องให้

   “นายเข้าไปสั่งอะไรในร้านก่อนเลยแล้วกัน ฉันจะเอาของไปเก็บที่รถ เดี๋ยวจะตามไปทีหลัง”สคูร์โดมองปริมาณกล่องหนังสือที่เริ่มกองสูงขึ้นเรื่อยๆแล้วแทบอยากจะกุมขมับ ทำไมหัวหน้าบอดี้การ์ดอย่างเขาต้องมาคอยป็นเบ๊ขนของให้ของเล่นของรักของเจ้านายตัวเองด้วยวะเนี่ย?

   “ไม่มีอะไรให้ผมช่วยจริงเหรอครับ”

   “ช่วยไปนั่งรอดีๆอย่าก่อปัญหาอะไรก็พอ แล้วอย่าหายไปไหนซะล่ะ ดอนให้อยู่ตรงไหนก็อยู่ตรงนั้น อย่าลืมสถานะตัวเองในตอนนี้ว่านายเป็นคนของเวสเปอร์แล้ว ระวังตัวดีๆด้วย”พูดเหมือนสอนเล็กน้อยสคูร์โดก็รับเอากล่องหนังสือทั้งหลายขึ้นมาแบกบนบ่าด้วยท่าทีมั่นคงจนน่าเหลือเชื่อ เรื่องน้ำหนักไม่ต้องพูดถึง แค่ปริมาณกล่องก็น่ากลัวว่าจะขนไปยังไงหมดไหว แต่บอดี้การ์ดคนนี้กลับยกเทินขึ้นบ่าสูงเรื่อยๆราวกับกล่องที่ยกอยู่เป็นเพียงดัมเบลยกน้ำหนักเฉยๆเท่านั้น

   ทั้งคู่เดินออกไปจากร้านพร้อมกับสายตาที่แทบจะถลนออกจากเบ้าของคนรอบข้าง ใครจะไปคิดว่าที่ฟรานบอกให้อีกฝ่ายใช้แรงช้างสารช่วยเขาจะออกมาในรูปแบบนี้...

   ถ้าพูดถึงเรื่องพลังกำลังล่ะก็ ตั้งแต่เกิดมารัตติกรยังไม่เคยเห็นใครที่แข็งแกร่งขนาดสคูร์โดมาก่อน แน่ล่ะว่าตัวเอกในนิยายหรือเทพปกรนัมทั้งหลายที่เขาเคยอ่านก็มีการกล่าวถึงคนจำพวกนี้ไม่ใช่น้อย แต่พอมาเห็นเองกับตาจริงๆถึงได้รู้ว่าทำไมจอมพลังพวกนั้นถึงได้กลายเป็นที่เทิดทูนขนาดนั้น

   ความสามารถแบบนี้ ต้องแลกมาด้วยอะไรกันนะ?

   รัตติกรสงสัยในใจแต่ก็ไม่คิดจะไถ่ถามออกมา เขาเดินนำออกจากร้านแล้วช่วยเปิดประตูอำนวยความสะดวกให้สคูร์โด จากนั้นก็นัดแนะสถานที่กับอีกฝ่ายอีกที แล้วหนุ่มชาวไทยก็เข้าไปนั่งรอในร้านกาแฟฝั่งตรงข้ามอย่างว่านอนสอนง่าย

   ทันทีที่เปิดประตูร้าน กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของกาแฟก็เข้ามาโอบล้อมรอบตัวราวกับเป็นการต้อนรับลูกค้าด่านแรก เสียงทักทายของพนักงานดังขึ้นพร้อมกับเสียงกระดิ่งที่แขวนเอาไว้เหนือประตูไม้บานสวย อากาศในร้านอบอุ่นกรุ่นกลิ่นหอมบางๆชวนให้สงบใจ คลอไปกับเพลงบรรเลงเบาๆที่เปิดเอาไว้เพื่อไม่ให้บรรยากาศภายในนี้ไม่เงียบเหงาจนเกินไปนัก รัตติกรมองสำรวจไปทั่วร้าน จดจำตำแหน่งต่างๆพร้อมทั้งกล้องวงจรปิดสองสามตัวแล้วค่อยเดินไปยังเคาท์เตอร์เพื่อเลือกสั่งเครื่องดื่มที่ตัวเองต้องการ

   “เอาเซทคุณกระต่ายครับ”รัตติกรสั่งเมนูแนะนำที่เห็นขึ้นป้ายไว้หน้าร้านด้วยสีหน้าเฉยชา ผิดกับพนักงานหนุ่มคนรับรายการที่ผงกหัวขึ้นมองเขาทันควันที่ได้ยินคำสั่ง

   “อ่ะ เอ่อ...เซทคุณกระต่าย เป็นโกโก้ร้อนท็อปปิ้งมาชเมโล่กับวิปครีมราดซอสบัตเตอร์หนึ่งแก้วกับเค้กคุณกระต่ายในสวนกุหลาบนะครับ”พนักงานหนุ่มเอ่ยถึงรายละเอียดว่าในเซทคุณกระต่ายที่ว่ามีอะไรบ้างเพื่อย้ำให้แน่ใจว่าลูกค้าคนนี้ไม่ได้เผลอสั่งอะไรผิดไป

   ก็นั่นมันเป็นเซทสำหรับสาวๆมอปลายโดยเฉพาะ แถมยังตกแต่งทั้งเครื่องดื่มและขนมเค้กเป็นรูปกระต่ายน้อยสุดบ้องแบ๊ว ใครจะไปคิดว่าคนแรกที่กล้าสั่งเมนูนี้กลับเป็นหนุ่มหน้าสวยที่มาร้านกาแฟคนเดียวแบบนี้กัน? คนที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลแล้วได้ยินว่ารัตติกรสั่งอะไรถึงกับหันกลับมามองเป็นแถว

   “ใช่ครับ โกโก้ร้อนขอเป็นแบบไม่ใส่น้ำตาลนะครับ”หนุ่มชาวไทยที่ไม่รู้ตัวว่าตกเป็นเป้าสายตายังยืนนิ่งหน้าตายอยู่หน้าเครื่องคิดเงิน ยืนยันเจตนาว่าเขาจะเอาไอ้เซทคุณกระต่ายนี่แหละไม่ผิดแน่นอน

   “เซทคุณกระต่าย โกโก้ร้อนเป็นแบบไม่ใส่น้ำตาลนะครับ ทั้งหมดหนึ่งรายการ ห้าร้อยเยนครับผม”รัตติกรจ่ายเงินแล้วเดินไปยืนรอตรงจุดรับอาหารและเครื่องดื่ม ช่วงเวลานี้คนในร้านยังไม่มาก พนักงานหนุ่มผู้อัธยาศัยดีเลยเดินไปชวนรัตติกรคุยระหว่างรออยู่เฉยๆ

   “สั่งไปให้คุณแฟนเหรอครับ?”

   “ครับ?”ดวงตาสีน้ำตาลไหม้เรียวสวยช้อนมองขึ้นเพราะตอนแรกเจ้าตัวก้มหน้าลงอ่านโฆษณาที่แปะเอาไว้บนเคาท์เตอร์ ใบหน้าสวยที่อยู่ๆก็เงยขึ้นสบทำเอาคุณพนักงานหนุ่มเผลอใจเต้นไปเล็กน้อย

   ตอนแรกก็ไม่คิดอะไร แต่ตาเรียวสวยเป็นประกาย รับกับโครงหน้าได้รูปและผิวนวลเนียน มีริมฝีปากสีแดงอ่อนๆแต่งแต้มสีสันเล็กน้อย ดูอย่างไรก็ต้องให้คำนิยายกับใบหน้าแบบนี้ว่าสวยคำเดียวเท่านั้น

   “เซทคุณกระต่ายน่ะครับ”พนักงานหนุ่มบอกหัวเรื่องเพิ่มขึ้นอีกนิดเพื่อให้อีกฝ่ายเข้าใจว่าเขาต้องการจะสื่ออะไร

   “เปล่าครับ ผมสั่งกินเอง”หนุ่มหน้าสวยยังคงตอบกลับและยอมรับหน้าตายว่าเขานี่แหละสั่งเจ้าเมนูสาวน้อยนั่นจริงๆ รัตติกรเห็นสายตาตกใจของอีกฝ่ายก็ค่อยนึกได้ว่าประเทศนี้เป็นประเทศที่ผู้ชายต้องรักษามาดชายหนุ่มผู้เคร่งขรึมกันสุดฤทธิ์ ไอ้การที่ผู้ชายคนเดียวจะเข้ามาสั่งเมนูแบบนี้จึงถือเป็นของแปลกอยู่ไม่ใช่น้อยจริงๆนั่นแหละ

   แต่เขาไม่ใช่คนญี่ปุ่นนี่นา...อยากกินอะไรทำไมต้องอดกลั้นที่จะไม่สั่งของที่อยากกินด้วยล่ะ?

   “ฮะฮะ หายากนะครับเนี่ยที่ผู้ชายมาคนเดียวแบบคุณจะสั่งเมนูแบบนี้”

   “ผมไม่ชอบอดทนกับอะไรที่ตัวเองอยากได้นี่ครับ”

   “เห...ประเภทเดียวกับผมเลยสิเนี่ย...”เสียงทุ้มระรื่นแลดูน่าฟังเสียงหนึ่งดังแรกขึ้นจากเบื้องหลัง บ่งบอกให้รู้ว่ายังมีใครอีกคนที่ยืนฟังบทสนทนาของเขากับพนักงานหนุ่มเมื่อครู่อยู่

   พอหันกลับไปมอง สิ่งแรกที่สะดุดตาคือผมยาวสีเงินสว่างที่ที่ยาวเคลียบ่าลงมาถึงเอว เจ้าของประโยคเมื่อครู่นั้นอยู่ในชุดเสื้อโค้ทสีขาวครีมยี่ห้อดัง บริเวณลำคอบุเฟอร์สีน้ำตาลอ่อนดูนุ่มนิ่มอุ่นสบาย แต่เมื่อได้ประจันหน้าจริงๆ รัตติกรถึงกับใจเต้นผิดจังหวะทันควัน

   ตัวตาสีฟ้าไอซ์บลูคู่สวยที่มองสบโค้งขึ้นน้อยๆรับกับรอยยิ้มที่อีกฝ่ายส่งมาให้ ร่างที่สูงกว่าเขาเดือบคืบแผ่รังสีเย็นชาบางอย่างออกมาชวนให้บรรยากาศแถวนั้นเย็นขึ้นมาเล็กน้อยแม้เจ้าของร่างจะแย้มยิ้มอยู่ก็ตาม

   เขาจะจำผิดไปได้อย่างไร....

   ภาพในแฟ้มเก็บข้อมูลที่ลาร์เฟียร์บังคับให้เขาอ่านและจำเอาไว้นั้นมีภาพของคนๆนี้อยู่เยอะเป็นพิเศษ นี่คือศัตรูอันดับหนึ่งของเวสเปอร์แฟมมิลี่ และประวัติยาวเป็นหางว่าวของคนๆนี้ก็ยังประทับอยู่ในสมองของรัตติกรอย่างแจ่มชัด

   โซอาห์เร่ โนวาห์...หัวหน้าของโนวาห์แฟมิลี่!!!

_______________________________________________________________________

ก่อนอื่นก็ขอกล่าวว่ากลับมาแล้วนะครับ :o8:

หายไปจะปีกว่าๆแล้ว ทำให้ทุกคนต้องรอนาน ต้องขอโทษจริงๆนะครับ ช้ากว่าเวลาที่สัญญาไว้เป็นเดือนเลย แง... ;w;

ตอนนี้เรียนจบแล้วครับ กำลังรออยู่ว่าทุนการศึกษาที่ขอไปจะได้หรือเปล่า เรียนจบแล้วก็มีเรื่องให้วุ่นวายหลายเรื่องเหมือนกัน แต่สิ่งที่สัมผัสได้มากที่สุดคือความรู้สึกที่ว่าเราไม่ใช่นักศึกษาแล้วนี่สิครับ

อยากจะอ้อนใครก็ทำได้ยากขึ้นแล้วแฮะ แย่จริงๆ

เป็นผู้ใหญ่ขึ้นจากตอนแรกที่แต่งนิยายเรื่องนี้เยอะเลย จำได้ว่าตอนที่ลงตอนแรกเพิ่งจบม.5เอง นี่จบมหาลัยแล้วเรื่องยังไม่จบเลยเหวย (เอาลังหนังสือของรัตติกรปาหัว ถ้านิยายเป็นของดองแล้วเค็มได้ ปริมาณโซเดียมของนิยายเรื่องนี้กินเข้าไปต้องเป็นพิษต่อไตแน่ๆเลย...)

วุ้ย กลับเข้าเรื่อง ห่างมือไปเป็นปีๆกลับมาแต่งอีกทีเป็นอะไรที่ยากอยู่เหมือนกันนะครับ ผมลบแล้วแก้หลายรอบมากเพื่อพยายามดึงมาตรฐานเดิมๆของตัวเองกลับมา แต่จบตอนนี้แล้วก็รู้สึกว่ายังทำได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยน้า

ตอนต่อไปจะทำให้ดีกว่าเดิมนะครับ ห่างหายไปเป็นปีอาจทำให้หลายๆคนลืมเนื้อเรื่องตอนเก่าๆแล้ว ผมเลยทำสรุปช่วงแรกที่หายไปมาให้ด้วย หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะครับ

แล้วเจอกันใหม่นะครับ ขอบคุณที่ยังอยู่ด้วยกันจนถึงตอนนี้นะครับ ขอบคุณมากจริงๆน้า :L2:
Namioto Yo



ออฟไลน์ owo llยมuมข้u

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 459
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-4
ตามมา3+ปี   :z3: :z2: ในที่สุดดดดก็กลับมาซักทีค่ะะะ ขอทุนให้ได้ที่ขอนะคะ //ดีใจที่กลับมาอัพอย่างแรง เหนละยังขยี้ตาว่าตาฝาดรึเปล่า :z13: :z13:..รอจนพ้นมาปีกว่า คงจะไม่หนีไปแล้วใช่ไหมคะ :hao5:  :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ rayoon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
มาสักที!!!!   ให้ทวงหนี้อยู่นานเลยยย  คิดถึงงงว  :katai4:

อั๊ยยะ...ชิบผายแล้วหนูลูน่า  เจอบอสโนว่าแบบนี้จะเกิดไรขึ้นเนี่ย  :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ tempo_oil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
บอกเลยว่าตกใจมากๆๆๆค่ะ ขอบคุณมากๆนะคะที่มาต่อ

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ชอบมากอีกเรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องที่ขนาดไม่มาอัพ แต่เราก็อ่านวนไปหลายรอบมากค่ะ

ยังไงเราก็จะรอเรื่องนี้จนกว่าจะจบนะคะ

รอมาต่อนะคะ  :pig4: :L2:

ออฟไลน์ qilarsy39

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด
มาต่อแล้ววว  :sad4:
น้ำตาจะไหล ฮือ กลับมาแล้วจริงๆ ใช่มั้ย ฮืออออ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด