ตอนที่ 5 ...คนที่กูรัก..
.
เที่ยงแล้ว กิ๊ง ผม และเอ้สมาชิกกลุ่มอีกคนคุยเรื่องงานกันจบ เอ้ขอขอแยกตัวออกไป กิ๊งยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิมอย่างนั้น
“กิ๊ง ไม่กินข้าวเหรอ” ผมถาม
“กินสิ นัดเพื่อนไว้ที่นี่แหละ เดี๋ยวมันมารับ กันย์ไปด้วยกันไหมล่ะ” มันยังหันมามีน้ำใจ ผมลังเลเล็กน้อย กลัวคำว่าเพื่อนจะมีคนพิเศษกว่าเพื่อนรวมอยู่ด้วย
“จะดีเหรอ” ผมทำท่าเกรงใจ
“ไปเถอะ กินหลายๆ คนอร่อยดี” ตรงไหนวะ ผมค้านแต่ก็พยักหน้าเมื่อเห็นรอยยิ้มสวยๆ ของมัน ตอนนั้นคิดอยู่ว่า ถึงมันจะมีแฟนแล้ว เราก็ยังเป็นเพื่อนกันได้ไม่ใช่เหรอ แล้วผมก็มีแพรอยู่แล้วด้วย คุยกับกิ๊งอีกห้านาที เพื่อนกิ๊งก็โทรมาว่า เปลี่ยนใจไม่มารับให้เจอกันที่ร้านเลย ผมก็เลยได้เป็นสารถีขับรถพากิ๊งไปส่งที่ร้าน
ตอนที่ผมเดินตามหลังกิ๊งเข้าไปที่โต๊ะ เพื่อนมันก็จ้องผมกันตาไม่กระพริบ ผู้หญิงสองคนนั่งฝั่งหนึ่ง กิ๊งนั่งลงข้างเพื่อนมันที่เป็นผู้ชายและผมจึงได้นั่งหัวโต๊ะ
“พวกมึงนี่นะ จ้องกันอยู่ได้ เดี๋ยวเพื่อนกูสึกพอดี” กิ๊งว่าเพื่อนมัน ผมกวาดสายตาทั่วโต๊ะแล้วหยุดอยู่ที่ผู้หญิง ผมสั้น หน้าหมวย คนที่ไปกินสเวนเซ่นกับกิ๊งวันนั้นแป๊บนึงจนกิ๊งหันมาสะกิดถามว่าจะกินอะไรดี ผมบอกรายการอาหารและมันเอาไปให้แม่ค้าแล้วกลับมานั่งที่เดิมจึงเริ่มพูด
“นี่กันย์เพื่อนกู อดีตรูมเมทกูด้วย” กิ๊งแนะนำผมและผมพยักหน้าให้เพื่อนมันพร้อมรอยยิ้ม
“อ๋อ” ชายร่างสูง แต่ผอมบาง อ้อนแอ้น ท่าทางจะสาวแตกแน่นอนข้างๆ กิ๊งร้องขึ้นด้วยรอยยิ้มเหมือนรู้ทัน ทุกคนก็พลอยยิ้มตามไปด้วย คาดว่ากิ๊งต้องเคยนินทาผมให้พวกมันฟังแล้วแต่ไม่เคยเห็นแน่เลย กิ๊งหันไปส่งสายตาปรามก่อนแนะนำมันว่า
“ส่วนนี่ เพื่อนกู ฐา ชื่อจริงมัน...อนาถา” กิ๊งพูดไปยิ้มไป
“ไอ้กิ๊ง กูชื่อฐาปนันท์” เจ้าตัวโวยวายขึ้นมา ทำให้กิ๊งยิ่งหัวเราะหนัก
“อย่าอยู่กับมันตามลำพัง ถ้ามึงไม่อยากถูกกินตับ” คำแนะนำน่าสนใจ กูก็ไม่อยากอยู่ใกล้มึง เพราะกลัวอยากกินตับเหมือนกัน!
“ส่วนนี่ หมอก กับ อ้อม” หมอกเป็นผู้หญิงที่มองจากภายนอกดูค่อนข้างจะแมน เพราะผมที่ซอยสั้นกับเสื้อนิสิตตัวโตๆ ไม่ได้เข้ารูปอย่างที่ผู้หญิงทั่วไปใส่กัน หน้าอกหน้าใจก็เหมือนจะไม่ค่อยมีกับเขา กระโปรงพลีตยาวๆ อย่างเดียวที่ทำให้รู้ว่าเป็นผู้หญิง ส่วนอ้อมเป็นผู้หญิงตัวเล็ก บางๆ ใบหน้าขาว เกือบเหลือง หมวยๆ ผมสั้น ดูน่ารักครับ อีกอย่างที่ทำให้ผมต้องนิ่งกับเธอครู่หนึ่งคงเพราะ เธอเป็นแฟนกิ๊งด้วยมั้งครับ
“หวัดดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ทุกคนเรียนวิทยาเหรอครับทำไมผมไม่เคยเห็นเลย” ผมถามครับ เพราะถ้าเรียนคณะเดียวกันทำไมไม่เคยผ่านตาเลย
“เปล่าๆ ฐากับหมอกเรียนศิ-กรรม ส่วนอ้อมมันเรียนสา-สุข อ้อมมันเป็นเพื่อนหมอก ส่วนฐาพักอยู่ข้างห้องกิ๊งในหอใน กิ๊งมันไม่ค่อยมีเพื่อน ฐาเลยพามันมากินข้าวด้วยกันสี่คนบ่อยๆ เลยสนิทกัน” ฐาเป็นคนอธิบาย
“อะ เหรอ แล้วกิ๊งกับอ้อมไม่ได้กำลังคบกันอยู่หรอกเหรอ” ผมถามออกไปอย่างนั้นได้ไงก็ไม่รู้ แต่แค่แปลกใจที่การแนะนำตัวมันจบลงแค่คำว่าเพื่อนทั้งกลุ่ม แล้ววันนี้กิ๊งก็ไม่ได้นั่งอยู่ใกล้อ้อมเลย
“เฮ้ย เอาที่ไหนมาพูดวะ” กิ๊งถามอย่างตกใจ แต่ยิ้มเหมือนเป็นเรื่องตลก
“ว้าย พูดแบบนี้อ้อมเสียหายนะคะ ใครจะกล้าเป็นแฟนกิ๊งลง เล่นสวยเกินหน้าซะอย่างนั้น” คราวนี้อ้อมเป็นฝ่ายพูดบ้าง
“โห อ้อมรู้ตัวนะเนี่ย” ฐาไม่ให้กำลังใจแล้วยังทับถม
“หมอก ดูฐาดิ ว่าอ้อม” อ้อมทำแก้มป่องซบหัวลงกับไหล่คนข้างกาย
“อีนี่ ว่าแต่คนอื่น ตัวเองก็ยิ่งกว่าเค้าซะอีก” หมอกหันไปด่าฐา เอามือลูบหัวอ้อมอย่างปลอบโยน ดูเหมือนคู่ทอมดี้ยังไงก็ไม่รู้
“พอเถอะ พูดเรื่องอื่นที่ไม่ใช่เรื่องความสวยของกูได้ไหม ฟังแล้วไม่เห็นจะน่าดีใจเลย ถ้าบอกว่ากูหล่อ กูจะไม่เถียงสักคำ” เอาเข้าไป กิ๊งรีบปรามเพื่อนพร้อมโยนมุข
“แหวะ” เพื่อนๆ มันทำท่าจะอ้วกไปตามๆ กัน ไอ้กิ๊งเอาแต่หัวเราะ ผมหันไปทางกิ๊งแล้วพูดจริงจัง
“ก็กันย์เคยเห็น กิ๊งไปกินสเวนเซ่นกับอ้อมสองคนด้วยนะ เมื่อเดือนที่แล้วมั้ง”
“ไม่เคยนะ ถ้าเดือนที่แล้วสงสัยวันเกิดอ้อมมั้ง ก็ไปกันสี่คนนั่นแหละแต่มีแป๊บนึงที่ หมอกกับฐามันเดินไปดูเค้กกัน” กิ๊งว่า ทำให้ผมค้างไปเลย เออ กูหนอกู จิ้นเก่งจนได้เรื่องเลย
“เฮ้ยเป็นไรกันย์ แหม มึงสนใจเรื่องของกูขนาดนั้นเลยเหรอวะ แอบหึงอ่ะดิ ช่วยไม่ได้กูมันน่ารัก” กิ๊งแซวผม พร้อมชมตัวเองไปด้วย ไอ้คนหลงตัวเอง ที่จริงมันก็น่ารักน่าหลงจริงๆ นั่นแหละครับ
“ไอ้บ้า กูจะหึงทำไม” ผมปฏิเสธออกไป ทั้งๆ ที่ตอนนั้นเขินมากจนไม่รู้จะทำหน้ายังไง มันรู้ความคิดกูด้วยแฮะ
“ฮ่าๆ มึงหน้าแดงว่ะกันย์” กิ๊งแซว แล้วทั้งยิ้มและหัวเราะ
“เออจริงด้วย” เพื่อนๆ มันพากันเห็นด้วย เออ ถึงจะเรื่องจริงแต่เลิกล้อเถอะ กูอาย
จบมื้ออาหารนั้นไปแบบที่ทำให้ผมทั้ง หัวเราะ ยิ้ม เขิน อาย งอนได้ นั่นคงเป็นเพราะ สามสัปดาห์ที่ผ่านมาผมใช้ชีวิตอยู่กับการเป็นผู้ชายเต็มตัว เป็นสุภาพบุรุษ เป็นแฟนที่ดี ไม่ค่อยอยู่กับเพื่อน เอาแต่หมกตัวอยู่กับแฟน จึงไม่ได้เฮฮาหรือบ้าบอ ปลดปล่อย บ่อยนัก บรรยากาศแบบนี้ทำให้คิดถึงไอ้บ้าสามตัวนั่นสงสัยต้องชวนพวกมันไปสังสรรค์กันหน่อยแล้วเนี่ย
ทำให้โล่งใจราวยกภูเขาออกจากอกเมื่อรู้ว่าที่จริงแล้วกิ๊งยังไม่มีใคร (แต่ตอนนี้ผมมี)
และท้ายที่สุด มีความสุขที่สุดในรอบหนึ่งเดือน เพราะได้เห็นหน้ากิ๊งใกล้ๆ พูดคุย กินข้าวด้วยกัน และสามารถจะยอมรับความรู้สึกของตัวเองจริงๆ เสียที
หลังทานอาหารเสร็จ เพื่อนกิ๊งก็ขอตัวไป ผมอาสาไปส่งกิ๊ง มันจึงเดินตามผมมาที่จอดรถ ข้างๆ รถ มีรถขายไอศกรีมกะทิ กิ๊งก็หยุดแล้วก็ซื้อ ไม่วายหันมาถามว่า
“กันย์กินป่ะ?” มันถามด้วยหน้าตาน่ารักมากๆ
“ไม่ล่ะ กิ๊ง” มันพยักหน้าแล้วก็ซื้อแบบกรวยมาถือไว้ เดินตามผมไปที่รถ ผมเดินไปเปิดประตูรถให้มันด้วยความเคยชินเพราะทำให้แพรตลอด จนมันเงยหน้าขึ้นมาด้วยความแปลกใจ
“เฮ้ย กูผู้ชาย ไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้” มันโวยวาย แต่หน้าขาวๆ นั่นเรื่อชมพู น่ารักน่าเอ็นดู มันเขินนี่หว่า
“เออน่า กูชิน รีบเข้าไปเถอะ” ผมว่าและรอจนมันเข้าไปนั่ง จากนั้นก็ปิดประตูให้แล้วอ้อมไปนั่งด้านคนขับ ขับรถพามันไปส่งที่หอใน ระหว่างทางมันก็กินไอศกรีมท่าทางอร่อยมากเลยครับ ผมต้องขับช้าๆ เพราะขับไปก็หันไปมองหน้าเวลามันกินไอศกรีม มันไม่กินดีๆ นะครับ เอาลิ้นแดงๆ ออกมา เลียไอติมแผล่บๆ ละเลียดกินช้าๆ จนผมกลืนน้ำลาย เห็นแบบนี้แล้ว
กูยากเป็นไอติมว่ะ!!
หันกลับมาที่หน้ารถโดยไว อย่างอื่นช่างมันก่อน ถ้ามองต่ออาจจะมีอุบัติเหตุได้
“อุ๊ย..” ยังไม่จบครับ ผมหันไปมองตามเสียงร้อง ก็พบว่า เพราะมันกินช้า ไอศกรีมมันเลยละลายท่วมมือเลยครับ มันก็พยายามจะเลียมือตัวเองที่มันเลอะ คราวนี้ผมก็เลยจอดรถ หยิบทิชชู่ หน้ารถออกมาเช็ดมือให้มัน
“กิ๊ง มึงนี่เหมือนเด็กชะมัด” ผมว่าพลางหัวเราะ มันทำแก้มป่อง แต่ก็ยอมให้ผมเอาทิชชู่เช็ดมือให้มัน
“รีบๆ กินให้หมดซะก็แล้ว มันจะได้ไม่เลอะ” ผมบอก
“ก็มันเย็นจนขึ้นสมองเลยนะ กินเยอะๆ ไม่ไหวหรอก”
“งั้นทิ้งไหม มีถังขยะ”
“แต่มันอร่อยนะ กิ๊งเสียดาย ชิมดูดิ” กิ๊งแก้ตัว แล้วถามขึ้น ถ้าหน้าด้านกว่านี้ก็อยากจะชิมจากมือมันเลยจะได้เหมือนจูบทางอ้อม แต่ก็ไม่กล้า ผมเงยหน้าจากมือมันแล้วสังเกตเห็นสีขาวๆ ที่อยู่ตรงปลายริมฝีปาก ก็เลยใช้นิ้วโป้งช่วยปาดให้หายเลอะ เออแต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วของแค่นี้คงไม่ว่ากันมั้ง ผมชูนิ้วโป้งขึ้นมาดูแล้วแตะที่ริมฝีปากเบาๆ แลบลิ้นออกมาเลีย นิดนึง ดวงตาที่จ้องมองมันเต็มไปด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน
“กิ๊ง... หวานว่ะ” ผมบอกขณะที่ใบหน้าของเราใกล้กันมาก เพิ่งรู้ว่า ไอศกรีมมันหวานขนาดนี้ เวลากินแล้วมีความสุขดี หรือจะเป็นคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็ไม่รู้
กิ๊งนิ่งมองหน้าผม แล้วก็หันขวับไปนั่งตัวตรง ผมว่ามันเขินที่ผมพูดคำว่า “หวาน” ออกมาต่อจากชื่อของมันด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่บอกว่าคิดอย่างนั้นจริงๆ ทั้งที่ผมไม่ได้ชอบของหวานเท่าไร
กับบางคนที่เป็นแฟนกัน อยู่ด้วยกันทุกวัน ไม่ว่าจะทำอะไรร่วมกัน ดูหนัง กินข้าว มีความสำพันธ์ทางกายแต่ก็ไม่แตกต่างจากอยู่กับคนที่ไม่รู้จัก ว่างเปล่า ไม่มีความสุข
แต่กับคนบางคนที่ไม่ต้องทำอะไรดีๆ ให้ ไม่ต้องเป็นแฟน ไม่ต้องผูกพัน แต่แค่มีเขาอยู่ตรงหน้า เห็นรอยยิ้ม แค่ได้คิดถึงก็มีความสุขขนาดนี้ แบบนี้เรียกว่า “ความรัก” ได้หรือยังนะ
ผมไม่รู้ แต่ ขออนุญาต สรุปเอาเองฝ่ายเดียวนะว่า
“กิ๊ง”
“หือ” มันขานรับกลับมา
“กิ๊ง... มึง...น่ารักว่ะ” ผมบอกมันไปอย่างนั้น
แต่คำที่อยู่ภายในใจไม่กล้าบอกมันคือ
กิ๊ง...มึง... คือคนที่กูรัก...
มันแก้เขินด้วยการงับไอศกรีมที่เหลือเร็วๆ ทำท่าไม่สนใจผม แล้วผมก็ออกรถต่อ จากนั้นก็ได้ยินเสียงครางเพราะมันจี๊ดขึ้นสมอง ผมก็หัวเราะไปตลอดทาง
......................................................
วิท-ยา (ออกเสียงวิด-ยา) หมายถึงคณะวิทยาศาสตร์
ศิ-กรรม หมายถึงคณะศิลปกรรมศาสตร์
สา-สุข หมายถึงคณะสาธารณสุข
...............................................
.....................

สวัสดีค่ะ ลงกันแบบกระหน่ำเอาไปติดๆ เนื่องจากเป็นวันหยุด เลยต่อให้ไว
เดี๋ยววันธรรมดาก็ทำใจรอกันหน่อยนะคะ
มาต่อให้ครึ่งนึง อีกครึ่งนึงขอเวลา ก่อนนะคะ
แต่ตอนนี้ขอบอกว่าชอบจัง คริคริ แต่งไปยิ้มไป

หวังว่าคนอ่านอ่านแล้วก็คงยิ้มตามไปด้วยนะ
ถ้าตอนต่อไปจะช้าบ้างก็ให้อภัยด้วยนะคะ เค้าอุตส่าห์เซอร์วิสให้ขนาดนี้แล้ว

Bejae ขอบคุณมากค่ะที่เข้ามาอ่าน ว่างก็เข้ามาค่ะ คิดว่า ไม่เชิงคบประชดนะคะ เรียกว่าคบเพราะกำลังเศร้าเลยหาคนดามอกมากกว่าค่ะ แต่พอคบแล้วก็มีความรับผิดชอบมากพอค่ะที่จะดูแลเค้าให้ดีด้วย
ถึงจะบีบตับ ระหว่างนั้นก็ยังมีฉากหวานๆ มาแทรกแซงเรื่อยๆ ค่ะ ไม่ได้บีบตลอดน้า
teae เก้าชั่วโมง ไวพอไหมคะ อิอิ
Rhythm มาอ่านต่อได้เลยค่ะ
yeyong ขอบคุณที่เข้าใจกันย์ค่ะ นิก็เชียร์กิ๊งค่ะ แต่สวยๆ อย่างนี้ มันน่ารักน่าหมั่นไส้ก่อนจะสมหวังขอแกล้งให้หนำใจก่อน อิอิ
ZakeiHarha เสน่ห์แรงสิคะ ไม่งั้นกิ๊งจะหวั่นไหวเหรอ
cheyp นอกจากกันย์จะน่ารักแล้ว ยังเห็นความน่ารักของกิ๊งผ่านสายตากันย์ด้วยไหมคะ
*SparklinG* ก็กันย์มันยังไม่ไปหาหมอรักษาโรคปอด อ่า
YELLOWSTAR สงสารแพรค่ะ โดนด่าอีกแล้ว
Cherry Red ไม่มีใครแทนได้หรอกค่ะ ตอนนี้ไม่ต้องทบทวนแล้วนะ กันย์รู้แล้วว่ารักกิ๊ง แต่ยังไม่กล้าเผยใจเท่านั้นเอง
Forget..* รับกรรม นั่นสินะ กรรมของเวรเลย คริคริ