ตามมาให้กำลังใจคุณแน๋วด้วยค่ะ เรื่องนี้ยาวมากๆ แต่ก็สนุกมากๆ เลย
ชอบเดียร์กับเรียวอ่ะ
คุณแน๋วสู้ ๆ ขนาดอ่านยังเกือบเดือน ถ้าโพสต์สงสัยเป็นปี 
อ่ะ....จ๊ากกกกส์ โพสเปงปี

งั๊นจาขยันโพส ซอยยิกๆ อัพถี่ๆจาได้เสร็จเร็วๆ

ขอบคุณทุกแรงเชียร์และแรงใจด้วยนะจ๊ะ

ขอบคุณพี่เคทด้วยสำหรับเรื่องนี้ ยาวมากมายเลยทีเดียว แต่มะเปงรายยยศรีทนด้ายยย

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
บทที่ 3 4 ปีก่อนหน้านั้น………..
ผมมักจะคิดเสมอว่า ผมนั้นเกิดมาทำไม ในเมื่อไม่มีใครให้รัก แล้วก็ไม่มีใครรักผมเลย แม่ของผมมีสามีใหม่ หลังจากที่พ่อแท้ๆของผมกลับประเทศไป เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าได้ทำให้ผมเกิดมา แต่ถึงเขาจะรู้ ผมก็คิดว่าเขาก็คงไม่ได้รักใคร่ผมอยู่ดี เพราะพ่อมีอะไรกับแม่ผมแค่ชั่วครั้งชั่วคราว เป็นแค่การบำบัดความเหงาของทหารอเมริกันที่มาขึ้นฝั่งที่พัทยาเมื่อ 16 ปีก่อนนั่นเอง
แม่ของผมทำงานเป็นผู้หญิงบาร์ที่นั่น ทำงานมาได้ 2 ปีก่อนที่จะเจอกับพ่อของผม แม่เองก็ไม่รู้หรอกว่า ในบรรดา ฝรั่งที่แม่นอนด้วย 4 ซ้า 5 คนนั้น ใครกันแน่คือคนที่เสกผมเข้าท้องเขา แม่ตั้งครรภ์หลังจากที่พวกทหารอเมริกันกลับประเทศไปหมดแล้ว การที่ท้องของแม่โตขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการทำมาหาเลี้ยงชีพ แม่จึงมีความรู้สึกที่เกลียดชังผม พยายามจะทำลายผมด้วยวิธีการต่างๆ แต่ผมก็ยังคงดื้อดึงที่จะมาเกิดกับแม่ให้ได้
ในที่สุดแม่ของผมก็ต้องกลับไปบ้านนอก แล้วก็คลอดผมที่นั่น แกฝากผมไว้กับพี่สาว ซึ่งแต่งงานแล้ว และมีลูกชายซึ่งแก่กว่าผมเกือบ 10 ปี ผมอยู่ที่นั่นมาตลอดตั้งแต่เกิดจนกระทั่งอายุได้ 14 ปี ตลอดเวลาเหล่านั้นพวกเขาดูแลผมไม่ต่างอะไรกับทาส เขาใช้งานผมคุ้มค่ากับที่ได้เลี้ยงดูผมมา ไม่มีความรักความใส่ใจใยดี มีแต่ทุบตี ด่าทอ จิกหัวใช้ พวกเขาไม่เคยแม้แต่จะฉุกคิดว่าผมเป็นลูกหลานของตนเองเลยด้วยซ้ำ แม่ก็ส่งเงินมาให้บ้าง ไม่ให้บ้าง พอป้าขอเงินแม่ไม่ได้ ก็จะมาลงที่ผมเป็นประจำ
ผมร้องไห้ทุกวัน จนน้ำตามันเหือดแห้งไม่มีจะไหลอีกต่อไป ผมไม่เคยได้สัมผัสกับความสุข ในใจผมมีแต่ความทุกข์อยู่เสมอ ต้องอยู่คนเดียว ร้องไห้คนเดียว ทำอะไรคนเดียว แก้ปัญหาทุกสิ่งทุกอย่างเอาเอง มันทำให้ผมรู้สึกว้าเหว่ ปรารถนาใครสักคนมาช่วยปลอบประโลมทำให้ผมรู้สึกดีขึ้น แต่ก็ไม่เคยมีเลยแม้แต่คนเดียว
สิ่งที่พวกเขาทำกับผม จะว่าไปมันก็มีส่วนดีอยู่เหมือนกัน เพราะมันกลับหล่อหลอมให้ผมเข้มแข็งขึ้น การที่ผมต้องถูกพวกเขาทารุณทุกวัน ทำให้ผมทนทานต่อเรื่องร้ายๆทั้งหลายที่ผ่านเข้ามาในชีวิต หลายต่อหลายครั้งในวัยเยาว์ที่ผมคิดจะออกไปเผชิญโลกภายนอกแต่เพียงลำพัง ผมไม่รู้ว่าสังคมนอกจากระแวกบ้านผม มันเป็นอย่างไรบ้าง กว้างใหญ่เพียงไหน อันตรายมากน้อยเพียงไร มันอาจจะดีหรือแย่กว่าสิ่งที่ผมเผชิญอยู่ก็ได้ ผมเฝ้าครุ่นคิดที่จะหนีออกไป แต่ก็ติดขัดที่ผมยังเด็กอยู่ แล้วผมก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน แล้วผมจะเอาอะไรกิน จนกระทั่งวันหนึ่ง ผมก็ได้ก้าวออกจากบ้านหลังนั้น อย่างไม่มีวันที่จะหวนกลับไปอีก
วันนั้นผมเลิกเรียนแล้วกลับมาบ้าน ป้าของผม ก็ใช้ให้ผมหุงข้าว ล้างจาน ทำความสะอาดบ้าน ส่วนตัวแกออกไปเล่นไพ่ ลุงสามีของแก ยังไม่กลับจากทำงาน ส่วนพี่ชายลูกป้า ซึ่งไม่ค่อยทำงานทำการอะไร เอาแต่แต่งตัวเที่ยวเล่นไปวันๆ ออกไปไหนตั้งแต่เช้าไม่รู้ ทั้งบ้านก็เลยเหลือผมอยู่คนเดียว ผมทำความสะอาดบ้าน และหุงข้าว ทำอาหารตามสั่ง ตอนที่ผมกำลังจะลงมือล้างจานอยู่นั้น พี่ชายก็กลับบ้านมาพอดี มาถึงก็โวยวายดังลั่น ท่าทางเหมือนคนเมา เรียกให้ผมช่วยพาเขาเข้าห้อง เพราะเขาทรงตัวไม่ไหว ผมก็เลยต้องละทิ้งถ้วยชามที่กำลังจะล้าง เข้าไปพยุงเขา ที่ไหนได้ พอเข้าห้องเท่านั้น จากที่เมาเมื่อครู่ก็หายเป็นปลิดทิ้ง แสดงว่าเขาไม่ได้เมามากมายอะไร แต่แกล้งทำเป็นเมาเพื่อให้ผมหลงกลเท่านั้น
เขาตรงเข้ามาหาผม แล้วลากผมไปกอด โน้มน้าวเข้ามาหาจะจูบปากผมให้ได้ ผมรู้สึกตกใจกับพฤติกรรมของเขา ไม่เข้าใจว่าเขาทำอย่างนี้กับผมทำไม แต่ก็รับรู้ได้ถึงความไม่ชอบมาพากลกับสิ่งที่เขาทำอยู่ ก็เลยพยายามดิ้นหนี แต่เขาก็กอดผมไว้แน่น ทำท่าเหมือนจะปล้ำจูบ ผมเบี่ยงหน้าหนีและเอามือผลักไสเขาออกไปให้พ้นตัว ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นผู้ใหญ่ อายุและเรี่ยวแรงของเขามากว่า เด็กวัยรุ่นอย่างผม แต่ร่างกายของเราก็พอฟัดพอเหวี่ยงกัน ผมสูงกว่าเขาด้วยซ้ำ ถ้าต้องออกแรงจริงๆ ผมก็คงจะสามารถเอาตัวรอดจากเขาได้
“ยอมเป็นเมียของกูเถอะวะ ไอ้เดียร์ กูชอบมึงมานานแล้ว มึงมันน่าเอามาก”
เขาคำรามใส่ผมด้วยน้ำเสียงหื่นๆ พยายามจะปลุกปล้ำผม ตอนนั้นผมกลัวมาก คิดไม่ถึงว่าคนที่เคยเห็นกันมาตั้งแต่เด็กจะกลายเป็นใครอีกคนที่เราไม่รู้จัก แล้วเขายังจะมายัดเยียดเรื่องเลวร้ายให้กับผมอีก
“อย่านะ พี่บอย ผมไม่ใช่ผู้หญิงนะโว้ย” ผมเสียงดังใส่เขาเพื่อเรียกสติ แต่ไม่ได้ผล
“เออ กูรู้ กูเองก็ไม่ชอบผู้หญิงโว้ย กูชอบผู้ชาย โดยเฉพาะหล่อๆ หน้าตาดีแบบมึงเนี่ย สเปคกูเลย...ขอกูเถอะ กูจะทำให้มึงมีความสุขอย่างที่คิดไม่ถึงเชียว”
เขาพยายามจะถอดเสื้อผ้าผมออกจากตัว แต่ผมขัดขืนแล้วผลักเขาออกไป
“มึงจะเล่นตัวไปทำไมวะไอ้เดียร์ ไอ้เด็กเนรคุณ บ้านนี้ให้ที่ซุกหัวนอนกับมึง ให้ข้าว ให้น้ำมึงกิน เลี้ยงมึงมาจนตัวโตขนาดนี้ แค่นี้มึงตอบแทนไม่ได้หรือ” เขาตะคอกกลับ
“แต่ต้องไม่ใช่วิธีแบบนี้นะพี่บอย”
ผมตอบ พลางแกะมือไม้ที่วุ่นวายพัลวันของเขาออกจากตัว เขายังดื้อดึงตามกอดตามลวนลามผมไม่ลดละ ในที่สุดผมก็ดิ้นหนีออกมาได้ แล้วถอยหลังเดินไปที่ประตู ตายังจับจ้องมองพี่บอยไม่วางตา
“พี่บอยเมาแล้วล่ะ ผมปล่อยให้พี่นอนแล้วกัน ผมจะออกไปล้างจานข้างนอก” ผมบอกเขา แต่ไอ้พี่บอยกลับหัวเราะร่า
“เออ กูเมารักโว้ย วันนี้ เป็นตายร้ายดี ก็ก็จะเอามึงมาเป็นเมียให้ได้ กูไม่มีทางปล่อยมึงออกจากห้องนี้ไป มามาะ จะมาหากูดีๆ หรือว่าอยากจะเจ็บตัว” พี่บอยย่างสามขุมมาหา ผมหันหลังกลับพยายามจะเปิดประตูหนีออกไป แต่เขาก็โถมตัวมาขวางที่ประตูสุดแรง
“ยังหนีไปไหนไม่ได้ทั้งนั้นไอ้เดียร์ กูบอกแล้วไง ถ้าไม่ได้มึง ก็อย่าหวังว่าจะได้ออกไป”
ผมผงะถอยหนีพี่บอยไปอีกทาง จับจ้องพี่บอยไม่วางตา กลัวว่าถ้าหันหลังกลับ เขาจะพุ่งเข้ามาจับตัวผมได้ทันก่อนที่จะหนีไป หน้าตาของพี่บอยเท่าที่เห็นมันเป็นสีหน้าของปีศาจร้ายชัดๆ เขาแสยะยิ้มให้ผมอย่างHereมเกรียม และเดินเข้ามาหาผม ความมึนเมา กับความหน้ามืดจากตัญหาราคะ ทำให้พี่บอย ซึ่งแต่ไหนแต่ไรมาไม่ค่อยได้ยุ่งวุ่นวายกับผม กลับแปรเปลี่ยนเป็นปีศาจร้ายที่พร้อมจะขย้ำเหยื่อได้ทุกเมื่อ
“อย่าทำอย่างนี้เลยพี่ มันไม่ดีนะครับ”
ผมพยายามใช้น้ำเย็นเข้าลูบหวังให้เขาสงบลง แต่กลับเป็นความพยายามที่สูญเปล่า มันไม่ช่วยดับความหื่นในตัวเขาให้ลดน้อยลงได้เลย
“ดีสิ มึงได้ลองแล้วจะติดใจไอ้น้อง แล้วมึงจะลืมพวกผู้หญิงหน้าโง่ไปเลย”
“ป้ารู้เข้าจะเสียใจนะครับ ที่พี่ทำอย่างนี้”
“โอ๊ย มึงไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นเลย แม่กูนะเหรอ ไม่กล้ายุ่งเรื่องของกูหรอก ลองมายุ่งสิ กูจะโวยวายให้ดู กูลูกคนเดียวโว้ย ไม่ตามใจกูจะไปตามใจใคร”
พี่บอยนี่แม่งเลวได้ใจจริงๆ ผมคิด พลางเหลือบแลไปทั่วห้องเพื่อหาทางหนีทีไล่ หน้าต่าง ตรงหัวนอนปิดสนิท การจะวิ่งไปตรงนั้น เพื่อเปิดหน้าต่าง และกระโดดหนีไป อาจจะต้องใช้เวลาประมาณ 5 นาทีเป็นอย่างต่ำ ซึ่งเขาคงถึงตัวผมก่อนที่ผมจะทันได้หนี อีกหนทางที่จะสามารถหลุดรอดออกไปได้ก็คือประตู ซึ่งบัดนี้มีร่างใหญ่โตของพี่บอยกั้นกลางหนทางไปสู่อิสรภาพของผม
“ถ้ามึงยอมเป็นเมียกูนะไอ้เดียร์ กูจะบอกแม่กูให้ทำดีๆกับมึง มึงไม่ต้องทำงานหนักอีกต่อไปดีไหม”
พี่บอยยื่นข้อเสนอให้ผม แต่ผมรับไม่ได้หรอก ข้อแลกเปลี่ยนเปลืองตัวแบบนี้
“ปล่อยผมไปเถอะพี่บอย ผมไม่ชอบหรอกครับ แบบนี้ ให้ผมทำงานหนักต่อไปดีกว่า”
“เออ ไอ้โง่ ไอ้ควาย” เขาด่าผมอย่างหัวเสีย
“กูอุตส่าห์เสนอช่องทางให้มึงสะดวกสบายขึ้น ทำเป็นหยิ่งไม่ยอมรับ ช่างมึงดิ มึงจะอยากทำงานหนักต่อไปก็เชิญ แต่ยังไง ยังไง วันนี้มึงก็ต้องเป็นเมียกู”
เขาพุ่งตรงมาหา กางสองมือออก หวังจะคว้าผมไว้ในอ้อมกอด แต่ผมก้มตัวหลบ แล้วรีบวิ่งหนีมาอีกทาง เราสองคนเลยเอาเถิดเจ้าล่ออยู่อย่างนั้น พี่บอยคงจะมึนนิดหน่อย พอผมหลบซ้าย หลบขวาไปมาหลายครั้งเข้า แกก็เริ่มซวนเซ คว้าผิดคว้าถูก จนเสียหลักล้มกลิ้ง แกโมโหหน้าแดงก่ำ ร้องด่าผมเอ็ดตะโร แล้วขู่จะทำร้ายผมต่างๆนานา หากในยามปกติ ผมคงจะกลัวหงอ ปล่อยให้แกแกล้งหรือรังแกตามใจชอบ เพราะเป็นลูกไล่แกมาตั้งแต่เด็ก แต่ตอนนี้ผมคิดแต่จะเอาตัวรอดให้ได้จากสัตว์ร้ายตัวนี้ ก็เลยไม่สนใจที่จะฟังคำขู่อาฆาตของเขา
เมื่อเห็นว่าลูกแมวอย่างผม ไม่เชื่องอีกต่อไปแล้ว ก็ยิ่งสร้างความโกรธให้กับพี่ชายของผม เขาล้วงเข้าไปในกระเป๋าหลังแล้วหยิบมีดพกแบบติดสปริงขึ้นมา แล้วปาดซ้ายปาดขวา ซึ่งผมก็ได้แต่วิ่งหนีไปรอบห้อง
“มึงจะหนีกูไปไหน ไม่พ้นหรอก จะยอมหรือไม่ยอม เดี๋ยวกูแทงใส้แตกเลย”
เขาตวาดใส่ผม แต่ผมไม่ยอมหยุด ผมพยายามจะถ่วงเวลาไปเรื่อยๆ เพื่อรอให้ใครสักคนกลับมาบ้าน จะเป็นลุงหรือป้าก็ได้ หรือไม่ก็รอเวลาให้เขาหมดแรงไปเอง ผมเห็นเขาหอบหายใจแฮ่ก เนื่องจากความเมาแถมซ้ำยังต้องมาวิ่งไล่ผมไปมารอบห้อง แต่พี่บอยก็ยังไม่สิ้นฤทธิ์ พยายามจะจับผมให้ได้ ใบหน้าของเขาดุดันด้วยความโกรธ
ผมถอยหลังไปเรื่อยๆ ตาก็จับจ้องอยู่ที่พี่บอย จนไม่ได้ระวังข้างหลัง รู้ตัวอีกทีก็ต่อเมื่อหงายหลังผึ่งลงไปบนเตียง เพราะสะดุดเข้ากับข้าวของของพี่จอมหื่นที่วางอยู่ระเกะระกะ ยังไม่ทันที่ผมจะลุกขึ้นพี่บอยก็กระโจนพรวดมาบนเตียง และนั่งทับตัวผมไว้ เขาโน้มตัวลงมาหา มือข้างที่ถือมีดเอามาจ่อที่คอของผม และพูดขู่กรรโชก
“อยู่เฉยๆ ถ้าไม่อยากตาย”
เขายกมือข้างที่ว่าง ทำท่าปาดที่คอตนเอง ผมกลืนน้ำลายลงคอเอื้อก คมมีดที่จ่ออยู่ที่คอหอย ทำให้ผมไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว ได้แต่นอนนิ่งขึง รู้สึกหวาดกลัวต่อสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ไอ้พี่บ้ามันเห็นผมนอนตัวสั่น มันก็เลยย่ามใจ เอามือข้างที่ว่างดึงเสื้อนักเรียนของผมออกจากกางเกงแล้วสอดมือเข้าไปใต้เสื้อ ลูบไล้หน้าอกของผม
“โตขึ้นมากเลยนะเอ็ง เริ่มจะมีกล้ามแล้ว ออกกำลังกายอีกนิดหน่อยก็จะหุ่นดีมาก”
พี่บอยพูดกับผม มันมองด้วยดวงตาหื่นกระหาย ปากยิ้มแสยะมองดูแล้วเหมือนผีบ้า
“ดีแล้ว นอนนิ่งๆ ให้ความร่วมไม้ร่วมมือแบบนี้ จะได้ไม่เจ็บตัว”
พี่บอยพล่ามไม่หยุด ในขณะที่มือก็รุกรานผมไปทั่ว ความรู้สึกของผมในตอนนั้น ทั้งชิงชัง และขยะแขยง ไม่ได้รู้สึกมีอารมณ์ร่วมไปกับไอ้พี่ชั่วเลยแม้แต่น้อย แต่ตอนนั้นผมยังเด็ก ยังสู้แรงเขาไม่ได้มาก อีกทั้งมีมีดจ่ออยู่ที่คอหอยตลอดเวลามันทำให้ผมทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านอนนิ่งๆ ปล่อยให้เขาทำตามใจชอบ ในขณะที่ก็พยายามมองหาทางหนีทีไล่
พี่ชั่วบ้ากามกอดจูบลูบไล้ผมอย่างหื่นกระหาย การที่ผมไม่ขัดขืนบวกกับอารมณ์หื่นที่พลุ่งพล่านในตัวเขา ทำให้เขาขาดความระมัดระวังตัวไปมาก แต่กระนั้น มือที่กำมีดหลายแหลมของเขา ก็ยังอยู่ไม่ห่างตัวผมเท่าไหร่นัก
“ถอดเสื้อออกสิไอ้เดียร์”
เขาร้องสั่ง พลางปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองออกจากตัว ผมปรายตามองมีดที่มือเขา รู้สึกกลัวขึ้นมาหากต้องขัดขืน เขาอาจจะแทงผมไม่ยั้ง เพราะคนเกเรแบบเขา เคยทำเรื่องราวชั่วช้ามาเยอะ เช่นตีรันฟันแทง ขโมย หลอกลวงต้มตุ๋น นับประสาอะไรกับการฆ่าคนตายสักหนึ่งคน เขาคงจะทำได้สบายมาก
ผมค่อยๆถอดเสื้อออกจากตัว พี่บอยสะแหยะยิ้มเจ้าเล่ห์ขณะมองดูผม หน้าตาเขาเหมือนคนโรคจิต สายตาโลมเลีย เขาแลบลิ้นเลียริมฝีปาก ก่อนจะใช้มีดขู่ให้ผมนอนลงอีกครั้ง จากนั้นร่างเปลือยของเขาก็ก้าวขึ้นมาทาบทับตัวผม