เย็นวันนั้นผมกับภคินนั่งรถเมล์ไปรับไอ้เชอร์ที่สนามสอบ แอบไกลจากหออยู่พอตัวครับ ต้องต่อไปตั้ง 3 รอบแน่ะ แต่สุดท้ายก็มาถึงจนได้ ผมโทรหาเชอร์บอกตำแหน่งพิกัดว่ารออยู่ตรงเซเว่นหน้าโรงเรียน อื้อหือ... เด็กมัธยมเดินกันให้รึ่มครับ! มีกางเกงมันครบทุกสีที่รัฐบาลไทยอนุญาต หัวเกรียน ผมเปีย หางม้า อะไรไม่รู้อย่างเยอะ ผมพยายามสอดส่องสายตาหาไอ้น้องสาวตัวดีที่ยังไม่มีวี่แววจะโผล่มา อย่างว่าแหละ คนเยอะขนาดนี้ จะไปไหนก็ต้องใช้เวลา
แต่พอยืน ๆ ไป เอ๊ะ! ทำไมคนมองมาทางกูเยอะจังวะ... ผมมองตามสายตาเด็กพวกนั้นมาหยุดอยู่ที่ไอ้พระเอกข้างตัวที่นั่งยอง ๆ ดูดสเลอปี้อย่างไม่แคร์สายตาประชาโลก เออ นั่นแหละ มันเป็นเป้าสายตาคนอื่นตั้งแต่อยู่มหา’ลัยแล้วล่ะครับ แต่คืออันนั้นพอเห็นนาน ๆ ไปมันก็เด่นน้อยลง คราวนี้มันเป็นสถานที่ใหม่ คนเพิ่งจะเคยเห็นวัตถุชนิดนี้ เลยเป็นที่ฮือฮากันน่าดู นักเรียนซุบซิบแล้วมองมากันใหญ่อะครับ ผมเลยพยายามเขยิบให้ยืนไกล ๆ มันนิดนึง เกิดน้องคนนั่นซุบซิบบอกว่า ‘ดูสิ... เพื่อนเขาหน้าแย่เนอะ เป็นกูก็ไม่คบเพื่อนหล่อ ๆ แบบนี้หรอก โดนกลบหมดพอดี’ ผมคงรู้สึกแย่ไปอีกนาน เฮ้ย ๆ มองดี ๆ ผมก็หล่อนะครับ ตำแหน่งรองเดือนคณะไม่ใช่จับสลากได้มานะ...
พลั่กกกกกกกกกกก “เฮ้ย... ขอโทษครับน้อง” เสือกไปชนใส่เด็กผู้ชายที่ยืนข้าง ๆ อีก โชว์ง่าวเลยกู ไอ้น้องนั่นหันมาสะดุ้งไม่แพ้กัน เด็กสมัยนี้ทำไมมันตัวสูงวะ กูว่ากูก็ไม่ได้เตี้ยแล้วเชียวนะ
“ไม่เป็นไรครับพี่” น้องเปรตยิ้มให้ผม “พี่ชายชนไม่แรงหรอกครับ” เออสิ... กูแห้งขนาดนี้ มันจะไปชนแรงได้ไง
“แล้วนี่เขาปล่อยจากห้องสอบนานรึยัง”
“ก็สักพักแล้วครับ พี่ชายมารับใครเหรอ”
“น้องสาวน่ะ รอตั้งนานแล้ว มันไม่มาซะทีเนี่ย”
“หือ... น้องสาวต้องน่ารักแน่ ๆ เลย ดูจากพี่ชายแล้ว”
“อะแฮ่ม...” เสียงไอแห้ง ๆ จากบุรุษผู้ซึ่งกำลังดูดสเลอปี้
“เออ... ก็น่ารักแหละ แต่อย่าไปเสือกจีบน้องพี่เข้าล่ะ พี่เอาตายแน่”
“โอ๊ยยยยยยยย พูดแบบนี้ใครจะไปกล้าจีบน้องพี่ล่ะครับ” น้องเปรตหัวเราะเบา ๆ “แต่ถ้าเป็น...”
ถุยยยยยยยยยยยยยย เสลดลอยลิ่วไปแปะอยู่บนพื้นระหว่างเท้าผมกับเท้าน้องเปรต เฉียดนิ้วก้อยตีนกูไปนิดเดียว ผมรีบหันขวับไปหาเจ้าของเสลด ภคินไอแค่ก ๆ “แหม... คอมันแห้งซะจริงโว้ยยยยยย”
“เอ่อ... พี่ครับ” หน้าน้องเปรตเหมือนอยากจะถามว่า ‘นั่นผัวพี่เหรอครับ’ แต่ดูเกรงใจที่จะพูด “ผะ.... ผมไปก่อนนะครับพี่”
“เออ ๆ กลับบ้านดี ๆ นะน้อง” ผมโบกมือบ๊ายบายให้ น้องเปรตก็วิ่งพรวดออกไปเลยครับ มันจะหนีอะไรวะ แต่พอหันกลับไปที่ไอ้ภคินก็เริ่มเข้าใจ... แม่งเอ๊ย! ยังกะไอ้อาร์ทเมื่อตอนกลางวัน รังสีอำมหิตแผ่พุ่งออกจากร่างมันไปรอบทิศทาง
“ภคิน... มึง...”
“กูหึง... จบป้ะ?” ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยยย! มีพระเอกเรื่องไหนเขาถุยเสลดใส่ตีนเพราะหึงวะ! โสโครกชิบหาย! ว่ามันบ้าแล้ว ผมเสือกบ้ากว่าที่เขิน... ไม่มองหน้าแม่งละ ดูเสลดที่พื้นแทนดีกว่า ผมยืนจ้องมันประหนึ่งจะวิเคราะห์สารประกอบทางเคมี เอาเป็นว่า มันไม่กระโดดกัดกระชากคอหอยไอ้น้องเมื่อกี้ก็บุญหัวแล้วครับ
“พี่ไปป์!” เสียงเรียกนั้นทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นมา ใบหน้าที่คุ้นเคยปรากฏขึ้น เชอร์มากับกลุ่มเพื่อนในโรงเรียนเดียวกัน เด็กนักเรียนเสื้อขาวกระโปรงน้ำเงิน 4-5 คนเดินคุยกันเสียงดังจ้อกแจ้กไปหมด และพอไอ้ภคินเงยหน้าขึ้นมาเท่านั้นแหละ...
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด” โอ๊ยยยยย กูใกล้จะบ้ากับคนรอบตัวแล้ว ผมหมดอารมณ์จะบอกให้น้องเขาเดินระวังเสลดแล้ว เอาเป็นว่าใครเหยียบโดนก็เป็นบุญตีนไปนะครับน้อง สาวน้อยพากันวี้ดว้ายไอ้ภคินเป็นการใหญ่ ส่วนเจ้าตัวมันก็ไม่ทำอะไร นอกจากเปิดฝาแล้วกรอกสเลอปี้ที่ก้นแก้วแดก
“สวัสดีค่ะพี่คิน” สาวน้อยส่งเสียงทักทาย “พวกหนูเป็นรุ่นน้องที่โรงเรียนพี่น่ะค่ะ”
“อ๋อ... ครับ” ในที่สุดมันก็ยอมเงยหน้ามาจากแก้ว “ก็ว่าชุดคุ้น ๆ”
“พี่คินเรียนที่มอกันเกราเป็นไงบ้างคะ สอนดีมั้ยคะ”
“สอนดีแต่เรียนแย่ครับ” สาวเจ้าก็รับมุกกันใหญ่ครับหัวเราะกันลั่น แต่อยู่ ๆ เชอร์ก็เดินไปยืนข้าง ๆ ไอ้ภคินที่นั่งยอง ๆ บนพื้นด้วยสีหน้าไม่พอใจนัก
“พี่ไปป์ พี่คิน กลับกันเถอะค่ะ เชอร์ปวดหัวยังไงก็ไม่รู้” น้องสาวผมหันไปพูดกับกลุ่มเพื่อน “กลับก่อนนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เจอกันที่สถานี”
มันโบกมือให้เพื่อนพอเป็นพิธีแล้วเดินนำออกมาจากตรงนั้นเลย ผมรีบวิ่งตามน้องสาวออกไป เชอร์เดินเร็วยังไงผมก็ขายาวกว่าอยู่ดีแหละ ผมคว้าแขนมันไว้ “เชอร์... เชอร์... เป็นอะไรวะ ทะเลาะกับเพื่อนเหรอ”
“เปล่าหรอก... เชอร์ปวดหัวน่ะพี่ไปป์”
ผมถอนหายใจแล้วบีบแขนมันแรงขึ้น “เชอร์... อย่าหลอกพี่ มีอะไรก็บอกพี่มา ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว เครียดอะไรน่ะ?”
“เชอร์...” มันก้มหน้าแล้วทำท่าเหมือนลังเลว่าจะพูดอะไร
“เฮ้ย! วิ่งกันออกมาไม่มีรอเลยนะ” ไอ้ภคินที่วิ่งตามมาสมทบ พอเห็นบรรยากาศอึมครึมระหว่างสองพี่น้อง มันก็ขมวดคิ้วเป็นเชิงสงสัยว่ามีอะไรเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ “น้องเชอร์เป็นอะไรครับ?”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เชอร์แค่เครียดเรื่องสอบนิดหน่อย”
“อย่าคิดมากเลยครับ เราทำเต็มที่ก็ดีแล้ว” ภคินยิ้มให้น้องสาวผม ส่วนไอ้เชอร์ก็ยิ้มบาง ๆ ตอบกลับมา ผมมองรอยยิ้มนั้นด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย มันดูเศร้าอีกแล้ว... บ้านผมไม่เคยมีความลับต่อกันครับ ต่อให้เชอร์หลอกคนทั้งโลกได้ แต่มันไม่มีวันหลอกผมได้
ผมไม่พูดอะไรต่อ นอกจากเดินตามภคินกับเชอร์ไปอย่างเงียบ ๆ แต่ในหัวสมองมีแต่ความคิดตีกันไปหมด ไม่สามารถสลัดรอยยิ้มเศร้า ๆ ของเชอร์ออกจากหัวได้ ผมไม่ชอบเลย มันดูฝืนความรู้สึกเกินไป น้องผมไม่เคยเป็นแบบนี้ เชอร์เป็นเด็กสดใสร่าเริง พูดจาฉะฉานอยู่ตลอดเวลา คนที่ทำให้น้องสาวผมเป็นขนาดนี้ได้มีแค่คนเดียวเท่านั้นแหละ
ผมเลื่อนสายตามองที่แผ่นหลังกว้างด้านหน้า ผู้ชายที่อยู่กับผมมาตลอด เป็นคนเดียวกับคนที่ผมเคยเกลียด ตอนนี้สาเหตุของความเกลียดนั้นกำลังกลับมาเล่นงานผมเข้าแล้วล่ะ มือข้างที่บวมถูกบีบแน่นขึ้น ถึงจะเจ็บอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เจ็บเท่าสิ่งที่อยู่ในหัวตอนนี้หรอก...
เชอร์ยังชอบภคินอยู่TBC
มาแบบง่วงๆค่ะ ตาจะปิดแล้ว...
ตอนนี้เปิดกิจกรรมให้ส่งจดหมายได้คุยกับหนุ่มๆ(จะสาวๆด้วยก็ได้)ในDNDได้นะคะ
เดี๋ยวเปิดไว้สักพักจะส่งให้หนุ่มๆช่วยกันตอบนะคะ ระบุมาด้วยว่าอยากถามใครบ้าง (หรือจะถามคนเขียนก็แล้วแต่ 5555)
ใครอยากเล่นเชิญโพสได้ในกระทู้นี้เลยค่ะ
http://writer.dek-d.com/indigopar/story/viewlongc.php?id=681871&chapter=56
เอารูปมาลง...แบบว่าตอนแรกจะลงในแฟนเพจ...แต่ลงไม่ได้อ่า 
เลยเอามาลงในเล้าแทน อารมณ์อยากทำหลังจากที่อ่านรูมล่าสุดเสร็จ
ถ้าดูแล้วงงๆอึนๆ....อย่าว่ากันน้า....เพราะว่าโดนไข้หวัดเล่นงานอยู่ 
ตอนแรกกะจะให้มีโจ้กะกันด้วย....เพราะส่วนตัวชอบสองคนนี้มั่กมากกกกกกกกกกกก
แต่ไม่ไหวแล้ว....เอาเท่านี้ไปก่อนละกัน 
ขอขอบคุณFamily Treeจากคุณlondoneye เข้าใจอะไรได้ง่ายขึ้นเยอะค่ะ 5555
เป็นครั้งแรกที่มีคนทำให้....ดีใจสุดๆค่ะ ปลื้มมากกกกกกกกกกกกกกกก>//<
PS.เรื่องรวมเล่มเดี๋ยวจะทำโพลให้โหวตกันอีกทีนะคะ อยากได้ยอดสัก100เล่มขึ้นไปน่ะค่ะ