Do not disturb ✰ ขอโทษครับ ห้ามรักกวน[เปิดจองDNDเล่มพิเศษ+Reprint p.206]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Do not disturb ✰ ขอโทษครับ ห้ามรักกวน[เปิดจองDNDเล่มพิเศษ+Reprint p.206]  (อ่าน 2269998 ครั้ง)

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
กรี๊ดดดดดด!!!!!! น่ารักเหี้ยๆๆๆๆๆๆๆ :z3: อร๊ายยยยยยยยยยย ไม่ไหวแล้ว มาแล้วขโมยซีนลูกไปป์สุดๆๆๆๆ  วะฮ่าๆๆๆๆๆ :laugh:
แต่น่ารักเหี้ยๆๆ :-[ เจ๊ให้อภัยลูกกกกกกกก โฮะๆๆๆๆ

maii

  • บุคคลทั่วไป
รอคะ
เปิดทุกวัน เศร้าทุกวัน...เมื่อไหร่จะมา   :sad4:

ออฟไลน์ puppyluv

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2539
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2000/-20
ถ้าถามว่าอยากได้เพื่อนประมาณไหน
ก็ต้องอาร์ทนี่ล่ะ ฮาและกล้าดี
อ่านไปยิ้มแก้มแตกไป
เม้นท์ยังสนุกเลย
สนุกมากกกกกกก!!!

Gyoza

  • บุคคลทั่วไป
 :-[

แวร๊ย ไม่ได้เข้ามาอ่านนาน เพราะมรสุมชีวิต...[สอบแหละค่ะ]

น้องเชอร์สมกับเป็นน้องสาวพี่ไปป์จริงๆ  o13 น่ารักมาก!!

อาาา คู่ลูกเมียน้อยที่คิดถึง แอร๊ย หวานจนมดขึ้นจอคอมแล้วเฟ้ย //พ่นไบกอน

ฟาร์น่ารักไปไหนครับ ;; w ;;!! //จะคลั่งตาย

ออฟไลน์ momoshiro

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-1
เห็ดขี้ควาย

เดี๋ยวเจอกันหลังไมค์ หล่อนว่านน้องเห็ดของช้านเรอะ!! เดี๋ยวคอยดู๊วววววววววววววว

ฮว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  :z6:

sunshinesunrise

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ดดดดดดดดดด ฟินมาก!!!!! ชอบเรื่องนี้จริงๆนะ ^^ คนแต่งมุกเยอะมาก ฮ๋าๆๆ
คิดได้ไงอ่ะ!! อ่านแล้วฮาจริงๆ ตอนนี้ก็เอ็นซีนะ.. แต่แบบแต่งน่ารักดี แบบไม่รู้ดิ พอเป็น คินไปป์อะไรๆมันก็ดูแบบเป็นความเข้าใจมากกว่าความต้องการ อร๊ากกกกก ติดงอมแงมแล้วนะเห้ย >< ตอนแรกเพื่อนบอกเรื่องนี้สนุก แต่ยังไม่มีโอกาสได้อ่าน พออ่านแล้วรู้เลย "กูติดแล้ว" แง่มมมมมมม ฮ่าๆๆ

แต่งไปเรื่อยๆเลยนะ ^^ ชอบ คู่นี้จริงๆ น่ารักได้อีกอ่ะ แม้ว่าจะแอบเชียร์อาร์ทฟาร์เงียบๆก็เหอะ กิ้วววววว

sunshinesunrise

  • บุคคลทั่วไป
คือตอนแรกก็เขิน แต่พอเจอฉากหนังสยอง "แหลมคม" นี่..ขนลุกเกรียว = = บทน่ากลัวมากอ่ะ .. อ่านแล้วขนลุกซู่เลย
แน่ะละ หนุ่มฟาร์คงจะแพร์คนเล่นของอย่างอาร์ทซะแล้ว หุหุ ก็ดีแระ ดีกว่าไปรักไอ้หนุ่มผมยาว ฮ่าๆๆๆๆๆ

snice_cz

  • บุคคลทั่วไป
ยังไม่มาอัพหรอ สงสัยจะอ่านหนังสือสอบอยู่ล่ะม้างเนี่ย รออ่านจ้า

ออฟไลน์ pandorads

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
อ่านทันจนได้ เย้!!
แบบว่าอ่านเรื่องนี้แล้ว ฮ่าท้องแข็งไปหลายตอนเหมือนกัน
พอบทเศร้าก็แอบน้ำตาเคล้าเลย
แต่งเก่งมากเลยอ่ะค่ะ

สุดท้ายนี้ขอฝากตัวเป็น FC อาร์ตนะคะ
ชอบมาก >.< โรคจิตได้ใจสุดๆ
น่าอิจฉา & สงสารน้องฟาจริงๆ 555

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
น่ารักดี

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






maii

  • บุคคลทั่วไป
อ่านไปยิ้มไปคนเดียวเหมือนคนบ้า
แม่เดินมาถามว่าเป็นอะไร เลยตอบไปแบบมึนๆว่า...

"เมาเห็ด"
 o13

ออฟไลน์ bobby_bear

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-5
ป่านนี้แล้วไปป์จะเป็นยังไงน้อ
น้องเห็ดเค้าเสร็จอาร์ทไปแล้วน้าาาา

ออฟไลน์ moredee

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-8
 :L2:แม่ยกมาเซิ้งจนน้ำหมากกระจาย น้้ำตาลกระเด็นกันเลยทีเดียว นานๆมาที ก้อทำให้หัวใจกระชุ่มกระชวยดีเหมือนกันนะน้องเห็ด กะพี่กัญชา :กอด1:

anaellane

  • บุคคลทั่วไป
มาอัพเถอะคร้าบบบบบบบบบ

ออฟไลน์ Indigo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1030/-7
Room 51

แสงอาทิตย์ลอดเข้ามาทางรอยแยกของผ้าม่าน  โชคร้ายหน่อยที่มันทาบลงบนหน้าผมพอดี  ผมขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิดแล้วขยับหัวเลี่ยงแสงนั่นซะ  พอได้ตำแหน่งเหมาะ ๆ ก็ซุกหน้าลงกับหมอนแล้วส่งเสียงงึมงำในลำคออย่างเป็นสุข  แม้ว่าวันนี้จะไม่ใช่เสาร์-อาทิตย์  แต่อาจารย์งดเซคฯในตอนเช้า  ทำให้ผมว่างยาวไปยันบ่ายสองครึ่งนู่น  การได้นอนเอกเขนกตอนเช้าที่อากาศยังเย็น ๆ อยู่นี่มันเป็นอะไรที่สุขสุดยอด

   “อืมมมมมมมมม...” เสียงทุ้ม ๆ ตามมาทีหลัง  ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่เสียงผมหรอก  มืออุ่น ๆ สอดเข้ามาที่เอวแล้วรั้งตัวผมเข้าไปใกล้ ๆ  ไอ้ที่เคลิ้ม ๆ จะหลับถึงกับตาสว่างแจ้งเห็นธรรมครับ!  ผมแกะไอ้ห้านิ้วนั่นออกแต่ไม่เป็นผล  เมื่อพี่ท่านเล่นลากตัวผมเข้าไปจนหลังชนกับอกเปลือยเปล่านั่น...

   ครับ... อย่างที่คุณคิดแหละ  ผมกับมันไม่ใส่เสื้อผ้าเพราะเมื่อคืนเราเล่นเป่ายิงฉุบแก้ผ้ากันครับ  จริง ๆ นะ  เชื่อผมเหอะ...

   สันจมูกโด่ง ๆ นั่นซุกลงมาตามคอ  ลมหายใจร้อน ๆ เป่ารดทำให้ต้องย่นคอหนี  แต่หนียังไงก็ไม่พ้นหรอก  คิดจะสู้กับไอ้ผู้ชายผู้มีความดันทุรังสูงอย่างภคินยังเร็วไปร้อยปีครับกู

   “อื้อ... ไม่เอา  จะนอน” ผมดิ้นยุกยิก ๆ  ปากก็บ่นแต่หน้านี่แดงเห่อประหนึ่งเป็นฝ้าแดด  กะ... ก็ใครใช้ให้แม่งมากอดตอนกำลังแก้ผ้าโล่งโจ้งวะ  พอผิวร้อน ๆ มาโดนแล้วมันรู้สึกยังไงก็ไม่รู้สิ...  รู้แต่โคตรเขินจนผมแทบจะละลายแล้วไหลลงท่อน้ำทิ้งมันซะเดี๋ยวนั้น  ไอ้ครั้นจะดิ้นก็เกรงว่าจะไม่ดีไม่งามนัก  ผ้าผ่อนก็ไม่ได้ใส่  เลยต้องนอนแข็งทื่อเป็นท่อนไม้ (ตัวแข็งครับ  ไม่ใช่อย่างอื่น... อย่าคิด... อย่าคิด...)
   “ทำไมคราวนี้ไม่ดิ้นวะ”
   “เอ้า!  ไอ้ห่านี่  ดิ้นก็ด่า  ไม่ดิ้นก็ด่า  จะเอาไงกันแน่วะ”
   “เอามึงนั่นแหละ...  อั้ก... อย่าเอากระดูกข้อศอกมาทิ่มกูสิวะ” นี่ยังน้อยไปภคิน  มึงอย่าให้กูองค์ลง  พ่อจะเอากระดูกตีนออกมาแทงด้วย  ภคินชะโงกหน้ามาแล้วขยี้หัวผมแรง ๆ “ไอ้แห้งเอ๊ย!”
   “โอ๊ย... มึงช่วยอย่ากวนประสาทกูแต่เช้าได้มั้ย  คนจะหลับจะนอน” กูอุตส่าห์คิดว่าตัวเองมีเช้าที่สดใสแล้วแท้ ๆ นะ

   ภคินยักไหล่ไม่สนใจ  เออ... มึงเคยสนใจอะไรบ้างล่ะ  สองมือที่เกาะที่เอวอยู่อย่างไรมันก็ยังเกาะอย่างนั้น  เกาะได้มึงเกาะไปนะ...  กูก็นอนได้เหมือนกัน...  ผมกดหน้าลงกับหมอนกล่อมตัวเองให้หลับ

   “ไปป์ ๆ” ยังครับ!  ยังไม่จบ  มันเขย่ามือ “อย่าเพิ่งนอนดิ”
   “ง่วงจะตายอยู่แล้ว  คิดว่าเมื่อคืนกูได้นอนกี่โมงกันวะ”
   “ก็นอนพร้อมกันนั่นแหละ  มึงอย่าเยอะได้มั้ย” คราวนี้ผมถึงขั้นอาจหาญขยับตัวหันไปประจันหน้ากับมัน
   “มึงนั่นแหละเยอะ  กูไม่ได้หลับได้นอนเนี้ย  เจ็บก็เจ็บ  กูต้องมาลำบากก็เพราะมึง! มึง! มึง!” ว่าแล้วก็เอานิ้วทิ่มหน้าผากมันเข้าไปแรง ๆ  แทนที่จะสำนึกมันเสือกหัวเราะชอบใจซะอีก  เออ... เจริญละ! “หัวเราะเชี่ยไร”
   “ตลกมึงอะ  โง่... หลอกง่ายดี  แค่นี้ก็ยอมหันหน้ามาทางกูแล้ว”

   เจอมันยักคิ้วกวน ๆ ใส่แล้วผมอยากจะบ้า!  ถ้าเกิดอาการคลุ้มคลั่งวิ่งเข้าไปเอามีดในครัวมาจ้วงมันดับ  ไม่ต้องตกใจนะครับ  บอกตำรวจได้เลยว่าผมฆ่าโดยเจตนา  เกิดมากูเคยเจอแต่แฟนที่เค้าใช้คำว่า ‘โง่’ ในความหมายน่ารักน่าเอ็นดู  แบบรักนะเด็กโง่  อะไรเทือก ๆ นั้น  จะมีแฟนที่ไหนเค้าใช้คำว่าโง่ด้วยความหมายตรงแบบพวกผมบ้างวะเนี่ย  คิดแล้วความดันขึ้น
   “ไอ้...”

   พูดได้แค่นั้นแหละ  เพราะริมฝีปากคู่นั้นโฉบลงมาปิดปากไม่ให้ผมพูดอะไรต่อแล้ว  เฮ้ย ๆ  มึงจะมาสูบไปป์อะไรแต่เช้า  แบคทีเรียในช่องปากเยอะนะเฟ้ย  บ่นในใจไปอย่างนั้นแหละ  สุดท้ายไอ้ผมก็หลับตาพริ้ม  ปล่อยให้มันจูบอยู่อย่างนั้นแหละ  บอกตรง ๆ  เดี๋ยวนี้เวลามันจูบผมทีไรต้องรีบหลับตาทุกที  เข้าใจคำว่า ‘ฆาตกรรมด้วยสายตา’ เลยล่ะครับ  ดวงตาเรียว ๆ เหมือนเหยี่ยวนั่นจ้องอย่างกับจะฉีกเหยื่อออกเป็นชิ้น ๆ  ยิ่งเวลามันมาจ้องหน้าใกล้ ๆ นะ...  ผมพาลจะหายใจไม่ออกตายเอา

   “อื้อ...” ผมครางในลำคอเบา ๆ ตอนที่มันผละจูบออกอย่างอ้อยอิ่งและยังไม่ยอมไปไหน  นั่งงับปากผมเล่นไปมาอยู่นั่นแหละ  อย่านะมึง  เดี๋ยวเลยเถิดแล้วกูจะลำบาก “ภะ... ภคินไม่ไปเรียนรึไงวะ”
   “มึงนั่นแหละทำให้กูไม่อยากไป” มืออุ่นจับหัวผมไว้แล้วมันก็โน้มหน้าผากลงมาชนหัวผมเบา ๆ  เบาสำหรับมัน  แต่กูแอบมึนครับ  มึงจะโขกให้กูตื่นเลยเรอะ  พอเห็นผมมองตาขวางมันยิ่งยิ้มกว้างกว่าเดิม “ก็มึงเป็นซะแบบนี้  จะให้กูเลิกแหย่ได้ไงวะ”
   “ทำไม... กูเป็นยังไง!?”
   “ดูโง่ ๆ  ควาย ๆ ดี” มันหัวเราะ “โอ๋ ๆ  พูดเล่น”
   “แต่หน้ามึงจริงจังนะ  โอ๊ย... ดีดมะกอกกูทำไม” เชี่ยนี่เป็นอะไรมากมั้ย  ทำร้ายร่างกายกูเช้า-ค่ำ
   “หมั่นไส้ว่ะ” อะไร... กูต่างหากต้องหมั่นไส้มึง  ไอ้พระเอก! “เสือกมาทำหน้าโง่ใส่  แบบนี้กูจะไปไหนรอดว้า” ว่าแล้วมันก็เอามือมายืดแก้มผมเล่น...  เฮ้ย ๆ มากไป ๆ
   “ไอ้เอี้ย” แปลเอาเองครับ  เชื่อว่าไม่ยากเกินความสามารถคุณ
   “ไปเรียนดีกว่า!  ได้สูบไปป์ละ” ไอ้พระเอกขยี้หัวผมแรง ๆ แล้วลุกออกจากเตียงไปหน้าด้าน ๆ  เฮ้ย! มึงอายกูบ้างอะไรบ้าง  แก้ผ้าเดินบ่อย ๆ พ่อจะแช่งให้แม่งเป็นไส้เลื่อนเลยคอยดู  เออ... แล้วกูนอนมองมันแก้ผ้าทำไมวะ  ผมนี่ก็โรคจิตพอตัวนะ  ด่ามันแต่ก็ดูมัน  เอิ๊กกกกกกก  เขินตัวเองว่ะ  นอนคลุมโปงหนีความจริงซะเลย

   ได้ยินเสียงเปิด ๆ ปิด ๆ ประตูห้อง  แม้ว่ามันจะโสโครกเพียงใด  แต่อากาศร้อนของประเทศไทยก็ทำให้คนอย่างไอ้ภคินอาบน้ำได้...  นับถือคุณครับประเทศไทย  สักพักมันก็เข้ามาแต่งตัวในห้อง  ไอ้พระเอกใส่เสื้อนักศึกษา  แต่ท่อนล่างเป็นกางเกงยีนส์ขาตรงกาก ๆ ที่ไม่รู้ชาตินี้โดนผงซักฟอกไปสักกี่ครั้ง  ผมแอบเปิดผ้าห่มมาดูมันนั่งยอง ๆ เอาหัวจ่อพัดลมเพื่อเป่าผมให้แห้ง  กลิ่นเย็น ๆ เหมือนน้ำทะเลของมันกระจายไปทั่วห้องชวนให้สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ  ผมชอบกลิ่นเย็น ๆ ชวนให้รู้สึกสงบของมันจัง  แม้จะตรงข้ามกับนิสัยกาก ๆ ที่ไม่ต่างจากกางเกงยีนส์ที่มันใส่ก็เหอะ

   จะว่าไป... มันเกิดมามีรูปเป็นทรัพย์จริง ๆ นะ  ผมมองไอ้ผู้ชายผมสั้น ๆ เกรียน ๆ ขยี้หัวตัวเองอยู่หน้าพัดลมแล้วอดอิจฉามันไม่ได้...  พ่อแม่มันให้มาดีจริง ๆ  อิจฉาสันจมูกโด่ง ๆ  อิจฉาตาคม ๆ  คิ้วเข้ม ๆ  อิจฉาปากบาง ๆ  อิจฉาร่างกายสูงใหญ่  ผมแค่นหัวเราะกับตัวเองที่มัวแต่คิดอะไรโง่ ๆ

คุณต่างหากที่ต้องอิจฉาผม  ก็ทั้งหมดนั่นน่ะ...  เป็นของผม

…………………………………………………..
……………………………………
…………………

   ไอ้เชอร์กลับบ้านไปได้อาทิตย์กว่า ๆ  สุดท้ายไอ้ภคินที่หลอกเล่นลิ้นมาตั้งนานก็ยอมเฉลยว่าเชอร์พูดอะไรกับมันบ้าง  น้องสาวผมรู้เรื่องแล้วล่ะครับ  จะว่าตกใจก็ตกใจ  จะว่าโล่งใจก็โล่งใจ  ภคินบอกว่าเชอร์ไม่ได้ว่าอะไรมัน  นอกจากให้ดูแลผมให้ดี ๆ  ฟังแล้วผมแอบน้ำตาคลอเลย...  ผมรักไอ้เชอร์มาก  แล้วผมก็รู้ว่ามันก็รักผมเหมือนกัน  ดีใจที่เชอร์เข้าใจ...  แต่ก็หนักใจเหมือนกัน  ที่ผมอาจทำให้พ่อแม่ผิดหวัง  พ่อตั้งความหวังกับผมไว้สูง  เพราะผมเป็นลูกชายคนโต  แถมเป็นลูกชายคนเดียวของบ้านอีกต่างหาก  ถ้าพ่อรู้ขึ้นมาคงจะผิดหวังในตัวผมมาก...

   วันก่อนผมโทรไปหาเชอร์  มันหัวเราะเสียงดังที่รู้ว่าผมไปโง่เชื่อไอ้ภคินตั้งนาน  เรื่องที่มันมีแฟนเป็นทอม  เลยโดนผมเทศน์กลับไปหลายกัณฑ์  ข้อหาทำให้พี่ชายเป็นห่วง  มีแฟนแล้วไม่บอก  พอด่ามันเลยสวนว่าผมก็ไม่บอกมันเหมือนกัน  นั่น! ไอ้นี่มันเลี้ยงไม่เชื่องครับ!  สุดท้ายก็เถียงกันจนหน้าดำหน้าแดง  ก่อนวางสายเชอร์มันสัญญากับผมว่าจะไม่บอกใครเรื่องนี้แน่นอน

   ผมถอนหายใจ...  ความลับมันไม่มีในโลกหรอก

   ผมนอนแช่อยู่บนเตียงจนเที่ยง  แล้วค่อยลุกขึ้นมามีชีวิตใหม่  อาการปวดหนึบที่สะโพกทำให้ต้องโทรไปแคนเซิลนัดเตะบอลกับพวกไอ้แซ็ก  โธ่เว้ย! ไอ้ตัวการมันเดินสะบัดตูดตัวปลิวไปไหนแล้วก็ไม่รู้  มีแต่กูเนี่ยแหละ  ต้องมาเจ็บตูดรับกรรม  แม่ชีคนไหนรับแก้กรรมนี้ให้  กรุณาติดต่อมาทางหลังไมค์ครับ  ที่เซ็งกว่าเดิมก็คือ  ว่าจะไปอวดเสื้ออาเซนอลของแท้ที่เพิ่งไปสอยมาจากช็อป (อวดเฉย ๆ ครับ  ผมไม่ใส่  กลัวเก่าเร็ว)
เออ... พูดถึงเรื่องเตะบอล  ขอกูบ่นหน่อยเหอะ  ใครมันออกข้อสอบโอเน็ตวะ  กูเขี่ย ๆ ลูกเล่นกันทีไร  ผู้หญิงที่ข้างสนามมองกันตาปริบ ๆ ทุกที  ที่แย่กว่าคือ  เวลาขอไอ้ภคินไปเตะบอลทีไร  มันจ้องจะช่วยลดอารมณ์ทางเพศให้กูลูกเดียวเลย

   โทรไปเลื่อนนัดแต่มันเสือกชวนผมไปกินข้าวกับผองเพื่อน  ผมเลยรีบตกปากรับคำทันที  ช่วงนี้เรายุ่ง ๆ กับเรื่องเรียนจนไม่ค่อยได้เจอกันเลย (แล้วทำไมเพื่อนไอ้ภคินมันขยันมาวุ่นวายกับชีวิตกูจังวะ  คณะมึงไม่มีงานทำเหรอ?)  มันเลยส่งไอ้โอ๊ตแว้นมารับผมที่ใต้หอ  ไอ้แว่นนั่นนั่งรอทำหน้าขรึมใส่ผม  จนอดไม่ได้ที่จะเตะหน้าแข้งทักทายเสียหน่อย

   “เชี่ยโอ๊ต...  แค่ยืนรอกูมึงจะเก๊กทำซากอะไร” ไอ้โอ๊ตไม่สน  มันแค่ก้มลงไปลูบหน้าแข้งที่โดนเตะเบา ๆ  ก่อนจะตวัดมามองหน้าผมเหมือนผมเป็นเศษขยะชิ้นนึง “มึงมองกูแบบนั้นหมายความว่าไง”
   “หมายความว่ามึงมันพวกได้ผัวแล้วลืมเพื่อน”
   “อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!  เชี่ยโอ๊ตเมิงงงงงง” มันหัวเราะที่ด่าผมสำเร็จ  นอกจากตีดอทในเกมส์ด้วยกัน  วันนี้กูจะตีหัวมึงแตกเนี่ยแหละไอ้โอ๊ต!

   ผมด่ากับไอ้โอ๊ตไปตลอดทาง  จนรถมอเตอร์ไซค์คนข้าง ๆ มันหันมาดู  ไอ้แว่นนี่แม่งเอาความเนิร์ดหลอกตา  ที่จริงมันเกรียนเงียบครับ  เกรียนนะแต่ไม่แสดงออก  แถมแม่งเบิ้ลเครื่องซะแรงจนกูคิดว่าจะตายคาถนนแล้วเนี่ย  ใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีเท่านั้นผมก็มาถึงโรงอาหารกลาง  ไอ้เวฟกับไอ้แซ็กนั่งสแตนด์บายกันเรียบร้อยพร้อมโบกไม้โบกมือเรียกผมเข้าไป

   “โห ๆ ๆ  ชาตินี้ไม่คิดว่าจะได้เห็นหน้านวลน้องเสียแล้วนี่” ไอ้เวฟส่งเสียงผิวปากแซวตามภาษาแซ็ปเก่าอย่างมัน
   “เจอแต่หน้าน้องนวลล่ะสิมึง” ผมคว้าจานผัดกะเพราที่มันสั่งไว้ให้เข้ามาหาตัว  หิวจนจะแดกควายได้ทั้งตัว “ช่วงนี้แม่งไม่เจอกันเลยว่ะ  พวกมึงยังดีอยู่ห้องเดียวกัน  เจอหน้ากันทุกวัน”
   “มึงก็เจอหน้าแฟนมึงทุกวันไง” ผมตวัดสายตาไปที่ไอ้หนุ่มเหล็กดัด  ซึ่งมันก็ฉีกยิ้มโชว์เหล็กอย่างไม่สะทกสะท้าน “รับความจริงไม่ได้เหรอจ๊ะสาวน้อย... แอ้ก...” คำหลังคือเสียงมันโดนผมเตะอัดหน้าแข้ง  โดนกันซะให้หมดทั้งไอ้โอ๊ตไอ้เวฟ  เดี๋ยวกูเล็ง ๆ ก่อนว่าจะเตะไอ้แซ็กตอนไหนดี  หึ ๆ ๆ
   ไอ้โอ๊ตที่เพิ่งจอดรถเสร็จก็เดินตามมานั่งลงข้าง ๆ  มันมองหน้าผมเหมือนจะให้ทะลุไปถึงไขสันหลัง  ก่อนจะก้มหน้าก้มตาแดกข้าวในจานตัวเองไป  ว้า... มึงไม่เล่นกะกูเลยอะ  ไปกวนตีนไอ้แซ็กเล่นดีกว่า
   “แล้วมึงเป็นไงล่ะ  พ่อหนุ่มอินเลิฟ” ผมกระตุกยิ้มมุมปากเพราะไอ้แซ็กตกใจจนสำลักน้ำ “ตกลงจะบอกกูได้รึยังว่าผู้หญิงที่ไหนโชคร้ายมาเลือกมึงเนี้ย”
   ไอ้แซ็กเหลือบตามามองผมเพียงชั่วครู่  ก่อนจะก้มหน้าแดกข้าวต่อหน้าตาเฉย  เฮ้ยยยยยยยยยยยย  ไม่ได้เว้ยยย  พวกมึงจะมาเล่นมุกเมินกูทั้งโต๊ะแบบนี้ไม่ได้  ผมเลยเตะหน้าแข้งมันเข้าไปป้าบนึงเก็บสแปร์รอบวงแม่ง

   “บอก-กู-มา” ผมจ้องตามัน  ไม่ได้เสือกแล้วมันหงุดหงิดเว้ยยยยยยยย
   “มึงไม่อยากรู้ให้สะเทือนใจร้อกกกกกกกกกกกกก” เชี่ยเวฟที่วิ่งไปซื้อเป๊ปซี่ทำเป็นนั่งกระแซะ ๆ ตูดข้าง ๆ  ผมเลยหันไปรีดความลับจากคนปากมากอย่างมันแทน  พูดมากย่อมมีโอกาสหลุดสูงกว่าอยู่แล้ว
   “มึงไม่คิดจะบอกกูมั่ง?”
ไอ้เวฟยักคิ้ว “บอกดีมั้ยน้อ” ลวดลายนะมึง...  กูไม่ใช่บรรดากิ๊กมึงนะจะได้มาหยอดลูกอ้อน  เล่นตุกติกใส่เนื่ย  แต่ไหน ๆ ก็อยากเสือกละ  เล่นเกมส์กับมันซะหน่อยเป็นไร
   “ไม่รู้แล้วก็ได้”
   “โอเค... จะได้ไม่ต้องบอก” เฮ้ย! นี่มึงผิดคิวนี่หว่า  ปกติเขาต้องพูดว่า ‘งั้นบอกก็ได้’ ไม่ใช่เรอะ
   “เชี่ยเวฟ...” ผมตะปบขามัน
   “อะไรคร้าบบบบบ  ไอ้น้อง  อยากรู้อยากเห็นดีจริงจริ๊งงงงงง” เวฟผลักหัวผมเล่น  โหย... มึงเล่นหัวกูเหรอ “แซ็ก... ให้กูบอกมันเลยดีมะ”
   ไอ้หนุ่มผมยาวยักไหล่ “จะทำอะไรก็เรื่องของมึง”
   “งั้นมึงฟังกูดี ๆ นะ   ไอ้น้อง  ของดีมีแค่ครั้งเดียว...” ผมกลืนน้ำลายเอื๊อก  เหมือนทุกสิ่งในโรงอาหารหยุดเคลื่อนไหว  ผมเห็นปากไอ้เวฟขยับเป็นภาพสโลวโมชันช้า ๆ “แฟนไอ้แซ็กคือ...”

   คือ... คือ... คื้อออออออออออออออออออออออ

   “ไอ้เวฟ!  ยังไม่รีบไปเหรอวะ  เดี๋ยวก็เข้าห้องสายหรอก” ไม่มาแค่เสียงครับ  เชี่ยโอ๊ตเอาหนังสือประมวลกฎหมายหนา ๆ มาคั่นระหว่างหน้าผมกับไอ้เวฟ  ไม่เปิดโอกาสให้แม้แต่จะอ่านปาก  ผมเงยหน้าขึ้นมาเจอมันยกยิ้มที่มุมปากอย่างสะใจ  อ๊ากกกกกกกกกกกก... มึงมันเกรียน ไอ้โอ๊ตตต
   “ชะอุ๊ย...แย่จังเลยพี่ต้องรีบไปซะแล้วสิ ไว้เจอกันใหม่นะไอ้น้อง กร๊ากกกกกกกกกก” พวกมึงร่วมมือกันใช่มั้ย!  มันต้องแอบส่งซิกให้กันตอนไหนแน่ ๆ  แม่งไม่ได้ตั้งแต่ใจจะบอกผมตั้งแต่แรก  เพราะพวกมันรู้ดีที่สุดว่าเวลาอยากเสือกแต่เสือกไม่ได้เนี่ยจะทำให้ผมเป็นบ้าตาย  พวกมึงจี้จุดอ่อนกู  แสรดดดดดดดดดดดดดดดดด

   พอเห็นผมทำหน้างอใส่  เชี่ยเวฟก็ไม่ละความพยาม  มันกับไอ้โอ๊ตหัวเราะกันด้วยเสียงที่อุบาทว์โสตประสาทที่สุด  แล้วหอบหนังสือหนา ๆ ที่ถ้าตกใส่เท้าเล็บตีนคงแตกขึ้นมา  ก่อนไปเชี่ยเวฟก้มลงมาใกล้ ๆ หูผมแล้วกระซิบ...
   “นี่ความลับนะ” ผมพยักหน้าหงึกหงัก “มึงเดินเป๋อีกแล้วว่ะ  กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”

   อ๊ากกกกกกกกกกกกกก  กูเกลียดพวกเมิ้งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

   ผมนั่งทึ้งหัวตัวเองเหมือนคนบ้าด้วยแรงแค้นที่ไม่ได้สะสาง  มึงจำไว้... ไอ้เด็กนิติฯ  กูจะตามไปล้างแค้นแน่นอน  ไอ้แซ็กที่นั่งตรงข้ามผมยังหลุดขำกับท่าทีง่าว ๆ ของผมเลย  นี่กูเกิดมาเป็นตัวตลกเหรอวะ  ลาออกไปรับจ๊อบซะดีมั้ย?
   “ไม่ต้องขำเลยมึง  มีอะไรแล้วไม่บอกกู” เล่นมุกอ้อนไม่ได้  กูขอลองเวอร์ชั่นประชดดูละกัน  ซึ่งเหมือนจะได้ผล  เพราะไอ้หนุ่มผมยาวเริ่มนั่งไม่ติดเก้าอี้แล้ว  มันอึก ๆ อัก ๆ จะพูดอะไรก็ไม่พูดซะที  ต้องให้กูเติมเชื้อเพลิงอีกสักนิด “เดี๋ยวนี้เขาหัดมีความลับกับเพื่อนนะ”
   “เอาจริง ๆ นะ  กูกลัวมึงจะสะเทือนใจนิดหน่อยกับเรื่องนี้” มีอะไรน่าสะเทือนใจกว่าเรื่องกูอีกวะ?
   “เออน่า... บอกมา!”

   ผมชะโงกหน้าเข้าไปสบตาตี่ ๆ ของแซ็ก  มันเองก็จ้องกลับมาที่ผมเช่นเดียวกัน  ดวงตามันมีประกายบางอย่างที่ผมไม่รู้ว่าคืออะไร  และไม่สนใจจะรู้ตอนนี้  เพราะเรื่องที่จะออกจากปากมันน่ะ  น่าสนใจกว่าเยอะ  ไอ้แซ็กค่อย ๆ ขยับปากเป็นภาพสโลวโมชันบ้าง

   ป้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบ

   มือที่ไหนไม่รู้มาตะปบเข้าที่เบ้าตาผมจัง ๆ  แถมยังดึงไปข้างหลังจนกูแทบจะหงายหลังตกเก้าอี้  ผมรีบลนลานคว้าแขนนั่นไว้เพื่อความอยู่รอดของหัวสมอง  เดี๋ยวนะ  ไอ้กลิ่นแบบนี้มันคุ้น ๆ ...

………………………………………………….
…………………………………..
……………

ออฟไลน์ Indigo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1030/-7

   “ไงวะ....ไอ้เสือไบ” ผมยกยิ้มมุมปากอย่างกวนประสาทที่สุดให้ไอ้หนุ่มผมยาว

   แม่ง...  คนกำลังเดินออกมาหาซื้อข้าวกลับไปกินที่คณะ  ไม่คิดว่าจะมาเจอภาพบาดตาอะไรแบบนี้เลย  อยู่ ๆ ก็เห็นแฟนตัวเองชะโงกหน้าเข้าไปใกล้หน้ามัน!  ไอ้ผมยาว...  ไอ้เหี้ยนี่แม่งเป็นอะไรมากมั้ย  ทำไมชอบมายุ่งวุ่นวายกับคนของผม  ถึงจะรู้อยู่ว่ามันมีแฟนใหม่แล้ว  แต่กูก็เกลียดมึงอยู่ดีวะ  ระหว่างที่ผมจ้องหน้ามันเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ  ไอ้ไปป์ที่โดนปิดตาก็พยายามแงะ ๆ มือออก

   “ชอบยุ่งกับของคนอื่นซะจริงนะ” ผมเกาะไหล่ไปป์แน่นขึ้นแล้วตอกย้ำ “แฟนมึงไม่ว่ารึไง”
   “เขาไม่ได้หึงหน้ามืดตามัวเหมือนมึงนี่หว่า” หึ... ปากดีนักนะมึง  มันเองก็กวนตีนพอควร  ยักไหล่ไม่ยี่หระใส่ผม  เห็นแล้วมันน่าต่อยแบบคืนนั้นจริง ๆ
   “ภคิน” ไปป์เขย่าแขนผม  พูดเสียงลนลาน “เสียงดังไม่อายเค้ารึไงวะ”
“อายน้อยกว่าพวกชอบยุ่งกับแฟนชาวบ้านล่ะวะ”
   “พวกมึงจะตีกันทำไมเนี่ย  พอๆ ทำตัวเป็นปัญญาชนบ้าง”
   “คงยากหน่อยว่ะ” ผมแสยะยิ้มอย่างเกลียดชัง “เพื่อนมึงมันพวกไม่มีปัญญา”
   “ใครกันแน่ที่ไม่มี  ทำตัวเหมือนพวกหมาหวงก้างไปได้  หรือกลัวว่า... จะไม่มีปัญญาดูแลของตัวเอง”
   “มึงอยากโดนรึไง” กูอยากจะอัดปากเน่า ๆ นั่นเต็มทนแล้ว
   “ก็ดี...  เอาคืนที่มึงเล่นกูไว้คราวก่อนไง”

   ผมจ้องตากับมันเหมือนสงครามประสาทที่รอให้อีกฝ่ายใช้กำลังก่อน  แล้วตอนนั้นเอง...

   “กูจะไปเรียนแล้ว!” ไปป์กระแทกจานอย่างอารมณ์เสีย  แล้วเดินออกไปจากโต๊ะ  ยังไม่ลืมที่จะโบกมือลาไอ้เหี้ยผมยาวนั่น  อะไรกันวะ... มันโกรธผมเพราะเรื่องไอ้เหี้ยนี่อีกแล้วเหรอ?  เห็นแบบนั้นผมก็รีบวิ่งตามอย่างไม่ลดละ  จนมาจับแขนไว้ได้ทัน...

   พอเห็นมันโกรธแบบนี้  จากที่หึง  จากที่หวง  กลายเป็นว่าความรู้สึกผิดมันประดังประเดเข้ามาในใจผมแทนซะแล้ว

   ผมตกใจมาก  เพราะไปป์แทบไม่เคยโกรธผมเลย  ถึงมันจะปากเสีย  แต่ผมรู้ว่ามันอดทนกับนิสัยแย่ ๆ ของผมได้ทุกเรื่อง  เว้นเสียแต่เรื่องนี้...  เรื่อง ‘เพื่อน’ ของมัน  ถ้าผมเข้าไปแตะต้องแม้แต่นิดเดียว  มันก็พร้อมที่จะต่อยหน้าผมสวนกลับเหมือนคืนนั้น  พอคิดแบบนี้แล้วยิ่งทำให้รู้สึกแย่ไปกันใหญ่  สำหรับไปป์แล้ว  ผมอยู่ตรงไหนในชีวิตมันกันนะ?

“ไปป์” ผมกระตุกแขนเสื้อมันเบา ๆ “โกรธกูเหรอ”
   “เปล่า  แค่คิดว่ามึงงี่เง่าไปหน่อย  กูคิดว่าตอนนั้นเราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะ”
   “ขอโทษ...”

   ขอโทษที่งี่เง่าใส่  ไม่อยากให้โกรธ  ไม่อยากให้เกลียด  แต่ก็ไม่อยากให้มันเห็นใครสำคัญกว่าตัวเอง  เห็นแก่ตัวจริง ๆ กู...  ผมรู้ว่าตัวเองผิดที่หึงหวงมากไป  มันเป็นสัญชาตญาณที่เกิดขึ้นจากความกลัว  กลัวที่จะต้องสูญเสียมันไป  แต่เอาเถอะ  ในเมื่อไปป์บอกว่าไม่มีอะไร  ผมก็จะเชื่อ  จะพูดอะไรมา  ต่อให้เป็นคำโกหก  ผมก็จะเชื่อ  ขอแค่มันไม่ทำสายตาแบบนั้นใส่ผมก็พอ

   ผมไม่เคยชนะมันได้จริง ๆ  ถึงไปป์จะบอกว่าผมเป็นพวกชอบเอาชนะ  แต่มันไม่เคยรู้หรอกว่า...  มันเป็นคนเดียวที่ผมยอมแพ้

   พอเห็นอีกฝ่ายแอบหันไปอมยิ้มทางอื่น  ผมก็เริ่มใจชื้นขึ้นมาบ้าง  มันตอบผมสั้น ๆ “เออ...”
   “เฮ้ย!  คิน!”
ก่อนที่ผมจะอ้าปากพูดอะไรก็มีเสียงเรียกมาขัดซะก่อน  เราหันไปทางต้นเสียงโดยไม่ได้นัดหมาย  ไอ้ตุ้ย  อดีตเพื่อนร่วมห้องของผมวิ่งออกมาจากโรงอาหาร “ว่าแล้วต้องเป็นมึง  เห็นหลังไว ๆ”
   “ทำไมช่วงนี้กูเจอมึงบ่อยจังวะ  ไอ้ตุ้ย” ผมไม่พอใจเท่าไหร่ที่มันโผล่มาขัดจังหวะแบบนี้
   “กูมีเรียนแถวตึกเรียนรวมว่ะ  อ้าวเฮ้ย!  เจอมึงอีกแล้วไปป์” ไอ้ตุ้ยชี้หน้าไปป์ด้วยสีหน้าตื่นเต้นเสียเต็มประดา  ซึ่งไปป์ก็ตอบรับด้วยรอยยิ้ม
“เออ...  หวัดดี” อีกแล้ว...  มันยิ้มให้คนอื่นอีกแล้ว...

   ผมถึงขั้นเก็บอารมณ์ไม่มิด  และตอนนี้พยายามแผ่รังสีอาฆาตไล่ไอ้คนขัดจังหวะ  แต่เหี้ยนี่ก็แม่งหน้าหนาชิบ  ผมยกมือกอดอกขมวดคิ้วแล้วถามออกไปอย่างไร้มารยาท “แล้วที่เรียกนี่มีเหี้ยไร”
   “อ๊อ!  เกือบลืมเลย” มันเสือกฉีกยิ้มอารมณ์ดี “พวกมึงอยู่ด้วยกันพอดีเลย...  ดีเหมือนกัน”
   “มีอะไรเกี่ยวกับไปป์ด้วย?”
   “ก็นิดนึงน่ะ” ไอ้ตุ้ยคว้ากระเป๋าสะพายด้านหลังมาเปิดแล้วล้วงเข้าไปหาอะไรสักอย่าง  ก่อนจะกลับมาพร้อมกับกระดาษแผ่นเล็ก ๆ ซึมรอยหมึกสีน้ำเงินนิดหน่อย  แล้วยื่นมันมาให้ผม “เพื่อนที่คณะกูฝากมาให้ว่ะ  มันแอบชอบมึงตั้งแต่ปีหนึ่งแล้ว  คราวก่อนมันก็ให้กูมาถามว่ามึงเลิกกับแอมแล้วจริงมั้ย”
   “เพื่อนมึง?”
   “เออ...  สวยนะเว่ย  คนที่เป็นหลีดคณะกูตอนปี 1 อะ  ถ้าเห็นรูปรับรองมึงจำได้แน่ ๆ” ไอ้ตุ้ยโบกกระดาษตรงหน้าเป็นเชิงรบเร้าให้รับไปซะ
   “กูไม่เคยจำหน้าใครได้หรอก” ผมคว้ากระดาษตรงหน้าไว้  แล้วจงใจกำแน่น ๆ จนแทบเรียกได้ว่าขยำมันอย่างไม่สบอารมณ์  ผมไม่ค่อยชอบไอ้พวกที่มาวุ่นวายกับชีวิตแบบนี้เลยว่ะ และมันก็มีเข้ามาในชีวิตผมบ่อยมากซะด้วย  ควงกันในมหาลัยอวดหน้าตาไปวัน ๆ  แล้วยังไง?  เจอคนหน้าตาดีก็นึกจะอยากได้เป็นแฟนขึ้นมา  แบบนี้น่ะเหรอความรัก?  มันเริ่มกันง่าย ๆ แบบนี้เลยสินะ  ขนาดตอนผมคบแอม  ผมยังพยายามที่จะ ‘รัก’ เธอเลย  ถึงมันจะไม่สำเร็จก็เถอะ...  ผมชักสีหน้าถามมันกลับ “ให้เบอร์กู  ทั้ง ๆ ที่มึงก็รู้ว่ากูมีแฟนใหม่แล้วเนี่ยนะ”
   ไอ้ตุ้ยหัวเราะแหะ ๆ “ก็เผื่อมึงเบื่อแฟนมึงไง”

   มือขวากำกระดาษนั่นแน่นขึ้นจนอยากจะฉีกมันเป็นชิ้น ๆ  แล้วตั๊นหน้าไอ้ตุ้ยแรง ๆ สักที  ผมละสายตาจากหน้ามันมาจ้องหน้าไปป์ที่ยืนเงียบอยู่ด้วยสายตาจริงจัง  เบื่องั้นเหรอ?  ชาติหน้าเหอะมึง “ไม่เบื่อเว่ย!”
   “โอเค ๆ  เข้าใจแล้ว  กูจะถือว่ากูให้เบอร์มันไปแล้วนะ  มึงจะเอาไปทำอะไรก็แล้วแต่มึงเหอะ” เหมือนว่ามันจะรับรู้ถึงรังสีอำมหิตเลยรีบตัดบท  ไอ้ตุ้ยกลับมาฉีกยิ้มเหมือนเดิม  มันเป็นคนอารมณ์ดีตั้งแต่อยู่โรงเรียนแล้วล่ะครับ  เพราะงั้นผมเลยหมั่นไส้มันนิดหน่อย
   “แล้วที่บอกว่ามีอะไรจะถามเกี่ยวกับไปป์นี่คือ?”
   “อ๊อ!” มันชี้หน้าพวกผมสองคน “กูได้ยินข่าวลือแปลก ๆ มา...  เขาบอกว่ามึงเลิกกับแอมมาคบกับไปป์เหรอวะคิน?”

   ไปป์สะดุ้งเฮือกเหมือนโดนเข็มแทง  มันจะตกใจอะไรนักหนากับคำถามนี้  ในเมื่อคำตอบมันก็เห็นอยู่ทนโท่  ดีเหมือนกัน  ไอ้ตุ้ยมันจะได้เอาไปบอกคนอื่นให้เลิกมาวุ่นวายกับกูซะที...  ผมยักไหล่แล้วตอบไปตามตรง “ก็เห็นอยู่ว่า...”
   “บะ... บ้าแล้ว!  จะเป็นไปได้ไงวะ  กูกับภคินเนี้ยนะ” คนที่เงียบอยู่นานโพล่งออกมาเสียงดังลั่น  ผมตาเบิกกว้างมองหน้ามันอย่างไม่เชื่อหู...  อะไรนะ?  ไม่ได้เป็นอะไรกันงั้นเหรอ?  แล้วเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นคืออะไร?  ทั้ง ๆ ที่ผมมีผู้หญิงมาให้เบอร์ต่อหน้าขนาดนี้แล้วแท้ ๆ

   ไม่เคยคิดจะหึง  จะหวงกันบ้างเลยสินะ...  มีแต่ผมฝ่ายเดียวที่คิดว่าตัวเองมีค่าขนาดนั้น

   “เออ  นั่นสิเนอะ  กูก็ไม่น่าถาม...  เฮ้ย!  คิน!  มึงจะไปไหนวะ”

   ผมเดินออกมาจากตรงนั้นไม่อยากได้ยินอะไรจากปากมันอีก  โกรธจนเลือดขึ้นหน้าไปหมด  แสบคอ... แสบตา... ขอบตามันร้อนผ่าวไปหมด  ไปป์วิ่งตามผมออกมาและใช้แรงเฮือกสุดท้ายคว้าแขนรั้งผมไว้  แล้วเรียกเสียงดัง “ภคิน!”
   “......” ไม่อยากพูดอะไรทั้งนั้น  ผมหลบสายตาไปมองทางอื่น...  ถ้ามองหน้ามันตรง ๆ ผมอาจจะร้องไห้ออกมาตรงนี้ก็ได้  ความรู้สึกปวดร้าวทั้งอกมันตีกันไปมา  ทั้งโกรธ... เสียใจ... ผิดหวัง...  ทำให้เกิดคำถามผุดขึ้นในใจ

   ในขณะที่ผมรักมันมากที่สุดในชีวิต...  มันเคยรักผมบ้างไหมนะ?

   “หันมาคุยกันก่อนสิ...” ไปป์เอ่ยด้วยเสียงสั่น ๆ  กลัวเหรอ?  ผมมากกว่ามั้งที่ต้องเป็นฝ่ายกลัว...  ผมกลืนก้อนแข็ง ๆ ที่คอลงไป  แล้วเค้นเสียงถาม
   “อายมากเหรอ?”
   “หา?”
   ผมพลิกตัวกลับมาจ้องมันด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่อัดอั้นมานาน “อายมากสินะ  ที่มีแฟนอย่างกู”

   ตะโกนใส่หน้ามันเสร็จผมก็ไม่เหลือแรงจะทำอะไรแล้ว  ไปป์ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นเบิกตากว้างด้วยความตกใจ  นี่คงเป็นคำตอบสินะ...  ผมก้าวขาเร็ว ๆ ออกไปจากตรงนั้น  ไม่อยากอยู่แล้ว  ขืนอยู่ต่อไปผมต้องร้องไห้ออกมาแน่ ๆ  ผมเกลียดน้ำตา  เกลียดความอ่อนแอในใจตัวเอง

   สุดท้ายก็ต้องก้มหน้าเดินไป  ปล่อยให้น้ำที่ดวงตากลั่นตัวหยดลงมาเท่านั้น...

..........................................................................
....................................................
..................................
...............

   ควันบุหรี่ที่ลอยเอื่อยตรงหน้าค่อย ๆ จางหายไปในอากาศ  เหลือไว้เพียงกลิ่นนิโคตินที่ปลายจมูก  ซึ่งไม่ได้ช่วยให้จิตใจปลอดโปร่งขึ้นเลย  ผมบี้ก้นบุหรี่ลงกับเศษกระดาษจนมันขึ้นสีไหม้เกรียม  ก่อนจะหงายหลังลงบนพนักพิงอย่างหมดแรง...  บางทีก็เหนื่อย  บางทีก็ท้อ  ทำไมนะ? ผมมันแย่มากเลยใช่มั้ย  ทั้ง ๆ ที่คิดว่าอะไร ๆ มันเป็นไปด้วยดีแล้วแท้ ๆ

   หรือมันจะเป็นแค่ความคิดเข้าข้างตัวเองของไอ้หน้าโง่ตัวนึง...

   หึ... ไม่น่าด่าว่ามันโง่เลย  ไอ้โง่ตัวจริงมันผมเนี่ยแหละ!  บังคับไปป์มาตลอด  บางทีผมก็ยังนึกสงสัยว่าที่เราเป็นแฟนกันแบบนี้  มันเกิดจากความดันทุรังของตัวเองฝ่ายเดียวใช่มั้ย...  ทั้ง ๆ ที่มันเองก็ปฏิเสธมาตลอดแท้ ๆ
   ที่เคยอยากจะถามว่าผมมีค่าแค่ไหนน่ะ?  คงไม่จำเป็นอีกแล้วล่ะ...  หลักฐานมันก็เห็น ๆ กันอยู่

   พอคิดแบบนี้ขอบตาผมก็ร้อนผ่าวขึ้นมาอีกแล้ว...  ตอนนี้ตาคงแดงไปหมดจนหลอกใครไม่ได้แล้วล่ะ  ความรู้สึกเจ็บที่อกซ้ายเป็นตัวตอกย้ำได้ดี  ว่ามันเจ็บแค่ไหนที่ต้องมารู้ความจริง  ว่าผมเองก็ไม่ได้มีค่ามากมายไปกว่าคนอื่น ๆ ในชีวิตไปป์สักเท่าไหร่หรอก...  กับมันที่พร้อมจะยิ้มให้คนทั้งโลกแบบนั้น  ผมจะมีความหมายสักแค่ไหนกัน?  ความห่วงใยที่ผมได้มา  มันไม่ได้แตกต่างจากที่ไปป์ให้คนอื่นเลย...

   มันแคร์คนทั้งโลก...  แต่มันทำเหมือนไม่แคร์ความรู้สึกผม...

   ผมกลับมานั่งอัดบุหรี่ในห้องเขียนแบบตั้งแต่ที่เดินออกมา  งานที่ทำค้างไว้อย่างไรอย่างยังอยู่อย่างนั้น...  ผมมันพวกแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวไม่ออกเสียด้วย  หลายชั่วโมงก่อนมีใครคนหนึ่งในหัว  ตอนนี้มันก็ยังคงอยู่ไม่หายไปไหน...  ส่วนเพื่อน ๆ ที่อยู่ในห้องก็นั่งกันเงียบสนิท  ไม่มีใครพูดอะไรออกมาดังไปกว่าเสียงกระซิบ  ไอ้อาร์ทก็ไม่อยู่  ไม่รู้ไปไหนของมัน  เออ... มันอินเลิฟนี่  ไม่ได้เป็นอย่างผม  แม่งเอ๊ย

   เปรี้ยงงงงงงงงงงงงงงงงง

   ผมถีบเก้าอี้ตรงหน้าไปไกล ๆ ให้พ้นสายตา  ทุกอย่างมันดูรกโลกไปหมดเลย  แม้กระทั่งตัวเองก็อยากจะให้หายไปจากโลก  ผมควานเอากระดาษบนโต๊ะยัดลงกระเป๋าอย่างไม่กลัวว่ามันจะยับเลยสักนิด  ผมโกรธ... โกรธมัน...  แต่มากกว่านั้นคือโกรธตัวเอง!  ไอ้กันกับไอ้โจ้ได้แต่นั่งมองนิ่ง ๆ  รอจนยกกระเป๋าขึ้นคล้องคอนั่นแหละ  กันถึงได้เอ่ยปากถาม

   “กลับแล้วเหรอวะคิน”
   “อืม...  วันนี้กูกลับบ้านนะ” ผมตอบก่อนจะเดินออกห้องมา  ฟ้าด้านนอกมืดสนิท  เห็นสีดำนั่นแล้วอยากจะพ่นควันออกมา  อยากอัดบุหรี่ให้มันตายไปเลย  จะมีคนมาสนใจผมบ้างไหม?  ยังไงคนที่อยากให้เลิกบุหรี่ก็ไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้วนี่
   วันนี้ผมยังไม่พร้อมจะเจอหน้าไปป์  ผมเลยเลือกที่จะบิดกุญแจรถและมุ่งหน้าออกสู่ถนนเส้นที่ต่างออกไปจากทุกวัน  บ้านผมอยู่ค่อนข้างไกลจากมหาลัยนิดหน่อย  โชคดีที่ถนนเส้นนั้นรถไม่ติดมาก  ใช้เวลาประมาณสี่สิบห้านาทีในการเดินทาง  กว่าจะถึงปากซอยก็ล่อไปสามทุ่มกว่า
   เพราะนั่งอัดบุหรี่อยู่ที่ห้องเขียนแบบนานไปหน่อย  เลยมาถึงมืด ๆ ค่ำ ๆ แบบนี้  บ้านผมยิ่งอยู่ลึก ๆ  เสาไฟฟ้าแต่ละต้นก็ตั้งห่างกันเหลือเกิน  หนีงานที่เซเว่นด้วยแฮะวันนี้  แต่ผมไม่มีอารมณ์จะทำอะไรแล้ว...

   น่าแปลกที่ผมกลับรู้สึกไม่ชินกับการขับรถคนเดียว...  ทำไมกูต้องคิดถึงสัมผัสอุ่น ๆ จากมันตลอดเวลาวะ  ขับรถคนเดียวมันเบา  แถมไม่ต้องคอยระวังเข่าคนข้างหลังไปชนรถคันอื่นก็จริง  ไม่ต้องกลัวว่าขับเร็วเกินแล้วคนข้างหลังจะกลัวก็จริง  ไม่ต้องกังวล  ไม่ต้อง ‘เป็นห่วง’ ใครทั้งนั้นก็จริง
แล้วทำไมกูต้องรู้สึกเศร้าขนาดนี้วะ...  ก่อนหน้าที่จะได้เจอมัน  นับครั้งได้ที่ผมจะปล่อยน้ำตาออกมา  ด้วยความที่นิสัยไม่ดีเท่าไหร่  ในชีวิตผมเลยถูกคนอื่นผลักให้ล้มครั้งแล้วครั้งเล่า  แต่ผมเองก็พร้อมจะลุกขึ้นยืนโดยไม่เสียน้ำตาให้มันสมเพชหรอก  ถ้าไม่รู้จักยืนด้วยตัวเองก็เท่ากับเราตายไปแล้ว  แต่พอได้เจอกับมัน  ผมกลับเสียน้ำตาให้มันเห็นไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง...  รู้สึกพิเศษทุกครั้งที่มีมืออีกคู่ช่วยกอดในยามที่ถูกผลักลงมา  ทำไมกันวะ  พอคิดว่าไปป์เองก็ทำแบบนี้ให้กับทุกคน  มันทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้มีอะไรที่พิเศษไปกว่าคนอื่นเลย...

ผมค่อย ๆ ชะลอความเร็วลงเมื่อเลี้ยวเข้ามาในซอยแคบ ๆ  เผื่อว่าจะมีรถสวนออกมา  เพราะมันมืดจนมองอะไรแทบไม่เห็น  แล้วตอนนั้น...

   เปรี้ยงงงงงงงงงงงงงงงงง

   แรงอัดจากด้านข้างทำให้ผมเกือบกระเด็น  แต่โชคดีที่จับไอ้เน่าได้ทัน  เลยแค่ล้มลงไปกองกับพื้น  แขนขวาเต็มไปด้วยรอยถลอกสีขาวเป็นปื้น ๆ  รอเวลาที่เลือดจะไหลซิบออกมา  ผมรีบเงยหน้ามองคนที่ถีบรถผมเมื่อกี้...
   “ไงมึง...  ไม่เจอกันนานเลยนะ” ไอ้ผู้ชายหัวล้านพร้อมด้วยรอยสักเต็มแขนเหยียดยิ้มมาให้  มันยกเท้าขึ้นเหยียบแล้วกดลงมาแรง ๆ  จนรถอัดตัวผมแรงขึ้น  แต่ผมยังคงจ้องหน้าพวกมันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  อย่าหวังว่าคนอย่างกูจะร้องโอดครวญ “กว่าจะจับได้นะมึง  เล่นวนเวียนอยู่ถิ่นคนเยอะ  หึ ๆ ๆ  กว่าจะกลับมาบ้านได้  พวกกูรอแทบแย่”
   “คันตีนอยากกระทืบใจจะขาดว่ะ  ลูกพี่” มีตัวเหี้ยทั้งหมดสี่ตัว  หมาหมู่ตามสันดาน...  พวกมันแสยะยิ้มเหมือนรอเวลานรกนี้มานานแล้ว
   “เฮ้ย! ไอ้หน้าหล่อ” ไอ้โล้นกระชากคอเสื้อผมขึ้นมาแล้วลากตัวผมออกมาจากซากไอ้เน่า “หล่อเหี้ยไรไม่มีตังมาคืนลูกพี่กูวะ  หน้าอย่างมึงไปขายตัวให้อีพวกป้า ๆ สามสี่รอบก็ได้แล้ว”
   ถุย!
   ผมถุยน้ำลายใส่หน้ามัน  แสยะยิ้มทุเรศ ๆ คืนไป  แล้วกระโจนอัดใส่แก้มขวามันอย่างจัง  จนไอ้หัวโล้นลงไปนอนกับพื้น “แล้วพวกมึงล่ะ  ไอ้ห่า  ไม่ลองขายตูดให้เสี่ยมึงมั่งเรอะ  จะได้ไม่ต้องทำงานที่ใช้แต่แรงงานไม่พึ่งสมอง  เหมือนควายเลยว่ะ...  มึงว่ามั้ย?”
   “ไอ้เหี้ย  ปากดีนักเหรอมึง!” ลูกน้องมันคนนึงเตะอัดชายโครง  แต่ผมกระโดดหลบได้หวุดหวิดเลยโดนแค่ถาก ๆ  พอลูกพี่มันตั้งตัวได้  ก็ต่อยเข้ามาที่แก้มซ้ายผมทันที  เชี่ยเอ๊ย... เจ็บสุด ๆ ไปเลยว่ะ  ผมถุยน้ำลายเปื้อนเลือดลงบนพื้นถนน  แล้วเตะคืนเข้าไปที่ท้องมัน

   ต้องหนี...  ต้องหนี...  สัญชาตญาณการเอาตัวรอดที่ใช้มาตลอดชีวิตบอกผม  ถึงพวกมันจะไม่ค่อยมีฝีมือนัก  แต่แม่งเล่นหมาหมู่  สู้กันยังไงกูก็แพ้แน่ ๆ  ผมพลิกตัวแล้วออกวิ่งทันที  แต่ลูกน้องมันดันรู้ทัน  เลยถูกเตะอัดเข้าที่น่องอย่างจัง...  กลิ่นคาวเลือดที่คลุ้งในปากเริ่มทำให้เวียนหัว  ผมกัดฟันสวนมันกลับ  ในขณะที่โดนสารพัดเท้ารุมเหยียบที่ขาและหน้าท้อง

เขาว่าเมื่อเข้าใกล้ความตาย  คนเราจะมีพลังขับเคลื่อนมหาศาล  แม้ว่าจะหอบหายใจออกมาเป็นเลือด  แต่กูยังไม่ยอมตายตรงนี้หรอกโว้ย!  ผมใช้โอกาสที่พวกมันจิกหัวเอาแต่พร่ำด่าเหี้ยอะไรสักอย่างที่โสตประสาทผมไม่รับรู้  โขกหัวเข้ากับคางมันอย่างจังจนไอ้เหี้ยนั่นล้มตึงไปกับพื้น  แล้วเหวี่ยงตีนอัดหน้าแข้งไอ้ห่าที่สะเออะมาเหยียบขาผมไว้  ผมรีบคลานไปกับพื้นอย่างอ่อนแรง  ตามองแทบไม่เห็นอะไรแล้ว  นอกจากเลือดสีแดงข้น ๆ ที่ไหลเยิ้มลงมา  อ่า... หัวคงแตกไปแล้วสินะ

   “เหี้ยนี่!  ฤทธิ์เยอะนักใช่มั้ยมึง!” ส้นเท้าหนึ่งกดขยี้ลงบนหลัง  ก่อนที่คนอื่น ๆ จะมาช่วยเตะซ้ำ  ไม่ไหว...  ตามองอะไรไม่เห็นแล้ว  จากที่เห็นแต่เลือด  ตอนนี้มันกลายเป็นสีขาวโพลนไปหมด  ถึงแม้ว่าดวงตาจะพร่าเลือนสักแค่ไหน  หูจะไม่ได้ยินอะไร  แต่ถ้อยคำเหล่านั้นยังคงดังก้องอยู่ในหัวผม...

   ‘บะ... บ้าแล้ว!  จะเป็นไปได้ไงวะ  กูกับภคินเนี้ยนะ’

   บางทีผมก็คิดนะ...  โลกของผมมีแต่ไปป์คนเดียว  แล้วโลกของไปป์ที่เต็มไปด้วยคนมากมายล่ะ

   ถ้าคนคนนี้หายไปสักคน...  มันจะสังเกตเห็นมั้ยนะ...

   นั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่วาบขึ้นมาในหัว  ก่อนที่สติทั้งหมดจะดับวูบไป


TBC


ก่อนอื่นต้องขอโทษที่หายไปนานมากๆค่ะ จากที่บอกว่าสอบเสร็จวันที่12แต่กว่าจะมาต่อก็ล่อไปนานขนาดนี้แล้ว ขอโทษจริงๆค่ะ
คนเขียนไม่ได้อู้นะคะ ตอนนี้เขียนตั้งแต่สอบเสร็จแล้วแต่เป็นตอนที่แก้เยอะมาก เขียนลบๆมาหลายวันแล้วค่ะ ผู้จัดการไม่ให้ผ่านสักที(โยนความผิด)

ตอนที่แล้วทำให้เรารู้ว่ากระแสคู่รองมันมาแรงมาก ไว้เดี๋ยวจะเขียนกัญชา*เห็ดขี้ควายอีกนะคะ ไม่ได้ลดบทนะมีคนเข้าใจว่าจะไม่เขียนคู่รองแล้ว คนเขียนแซวเล่นค่ะ 555

PS.ตอนหน้าจะมาต่อให้เร็วขึ้นค่ะ ปิดเทอมแล้วมีเวลาแน่นอนค่ะ ขอบคุณที่ยังติดตามกันมาตลอดนะคะ หายไปนานคิดถึงคนอ่านมาก :กอด1:

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
 :a5:


คินอย่าเพิ่งเป็นไปอะไรไปนะ!!!


น้อยใจไปป์เหมือนกัน :m16:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-03-2012 02:03:22 โดย PetitDragon »

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
โอ้ววว มาม่าชามนี้จะอืดสักเพียงไรหนอ
สงสารคินที่สุดแล้ว

ออฟไลน์ jasmin

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1801
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-1
อึดอัดอ่ะ เข้าในอารมณ์คินนะ
อ่านไปก็อินไป คินน้ำตาไหลก็ไหลด้วย
พอเห็นคำว่า TBC น้ำตาไหลพรากเลย ค้างอ่ะ  :z3:

ออฟไลน์ momoshiro

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-1
ภคิณดราม่าก็เป็นเหมือนเหรอ??? เหลือเชื่อเนอะ คนที่เหมือนไม่คิดอะไรมากมาย คนที่มีหน้าตาเป็นอาวุธ...

แม่ม... ขี้งอนว่ะ เหมือนไม่ได้โกรธเมียนะ แต่เหมือนเฮียแกงอนอารมณ์อยากประชด

.....

ชั้น...เมนใครนะ ชั้นลืมละ = =''

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Rywzaki

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ว้ากกก ตอนแรกหวานน้ำตาลขึ้นอยู่ดีๆ แล้วเชียว

เห็นใจภคินนะ หวังว่าน้องไปป์จะหายปากแข็งซักที

ออฟไลน์ sam3sam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-4
อะไรจะเหมาะเจาะปานนั้น
หนีเมียกลับมาบ้านเพื่อมาโดนยำตีน
น่าจะให้คินความจำเสื่อมนะไปป์มันจะได้รู้สึกซะบ้าง  คงสะใจพิลึก

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
พี่คินอย่าเป็นอะไรนะ ไอ้พวกนั้นมันเป็นใคร
ไปป์รักคินไม่น้อยเลยนะ แต่เรื่องที่ต้องไปยอมรับว่าเป็นแฟนต่อหน้าคนอื่นมันก็ไม่ง่าย
ไปป์ยังมีเรื่องกังวลกลัวครอบครัวรู้อีกด้วย หลายคู่เป็นแฟนกันไม่เห็นต้องบอกใคร รู้กันสองคนก็พอ


ออฟไลน์ hobazaki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
โธ่ ภคินนน ฮือออ รู้นะว่าโมโหไปป์ แต่ทำไมเอาตัวไปรองรับหมัดเท้าอ้พวกนั้นอย่างนั้นล๊าา

ออฟไลน์ maminto

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
หนีตอนไหนว้าาาาาาา
ทำไรพี่ภคินเนี่ยแย่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


แต่ทำไมมันดราม่าโชยยยยยยยย ~
รออ่านคร้าบผมมม

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
หายไปหลายวัน กลับมาเล่นเอาปวดตับ
สงสารภคิน  :sad4:

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
แงๆ :monkeysad: ตอนนี้มาดราม่าซะงั้น
น้อยใจจากไปท์แล้วยังมาโดนซ้อมอีก

ออฟไลน์ Namioto

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +346/-9
อ้าาา ตอนถัดไปปป  :z3: :z3: :z3:

ภคินดราม่า ไปป์รีบมาช่วยนะเฮ้ยย  o7 o7

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
สงสารภคิน

ออฟไลน์ MoMoRin

  • I am Fujoshi! (・∀≦)ゞ
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-2
โนววววววว ดราม่ามากกกกกก สงสารพี่ภคินสุดใจ จริงๆก็เข้าใจพี่ไปป์นะคะ แต่พี่ทำเกินไปนิดอย่างที่พี่ภคินคิดนั่นแหละ พี่ไปป์แคร์คนทั้งโลกมากเกินไปนะคะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด