“เอามาสองดิ๊” มันสั่งเพื่อนที่กำลังเทเหล้าลงแก้วเป๊ก
“คนละแก้วมันจะเมาได้ไงวะ”
“นี่ออร์เดิร์ฟเว่ย เหล้าป๊อกแดกเป็นร้อยแก้วกูก็ไม่เมาหรอก ไอ้ห่า เร็ว ๆ รีบเอามา” เพื่อนมันคว้าแก้วมาบีบมะนาวสด ๆ พร้อมโรยเกลือ ก่อนจะเลื่อนมาด้านหน้าผมกับภคิน ไอ้พระเอกคว้าแก้วเป๊กเล็ก ๆ นั่นยื่นให้ผม มันเอามือปิดฝาแล้วจ้องหน้ารอให้ผมทำตาม ริมฝีปากบาง ๆ นั่นกระตุกยิ้มมุมปากอย่างท้าทาย
ก็สวยเซ่! ให้มันรู้ว่าระดับกูมันจะแดกไม่ได้ ผมเอามือปิดฝา... เรานับหนึ่งถึงสามในใจพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย...
ป๊อก! แล้วก็วันช็อตแม่ง ฮ้า~ เหล้าป๊อกนี่มันอร่อยจริง ๆ เราสบตากันท่ามกลางไฟนีออนสีสะท้อนแสง แล้วหัวเราะออกมาเบา ๆ อะไรมันจะขี้เหล้าทั้งคู่แบบนี้วะ ผมกับมันไม่จบแค่ซุ้มนี้แน่นอนครับ มันจับมือผมเข้า ๆ ออก ๆ ทุกซุ้มในงาน โห... มันกะให้ไอ้พี่เม่นนั่นล้มละลายเลยสินะ จะว่าไปการได้เดินจับมือกันแบบไม่ต้องสนใจโลกแบบนี้ มันก็ทำให้ผมรู้สึกสะใจดีเหมือนกัน
เคร้งงงงงงงง ผมชนแก้วกับมันไม่รู้รอบที่เท่าไหร่ ดวลเหล้าดองกันแบบช็อตต่อช็อต บางซุ้มเพื่อนมันก็มาดวลด้วย เอาเด้! ระดับผมไม่เมาง่าย ๆ ครับ ไอ้คราวก่อนนั่นผมก็ไม่ได้เมานะ แค่สูญเสียการควบคุมสมองไปเท่านั้นเอง เราเดินออกมาจากซุ้มที่เกือบถึงหน้าเวที แล้วผมก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย...
“ไม่เอา! ผมบอกว่าผมแพ้แอลกอฮอล์” ผมรีบหันควับไปทางต้นเสียงนั้น... ไอ้ฟาร์ครับ! มันกำลังส่ายหัวจนผมเห็ดกระจาย แต่ดูเหมือนไอ้ผู้ชายสี่ห้าชีวิตที่ขายเหล้าอยู่ในซุ้มมันจะไม่เชื่อเลยแม้แต่น้อย ไอ้อาร์ทที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ก็ยิ้มหวานสยองหัวใจให้
“ลองดื่มดูครับ ไม่เสียหาย... ถ้าเมาเดี๋ยวผมขับรถกลับบ้านให้”
“เอ้า! ฮิ้ววววววววววววววววววววววว” “ภคิน... คณะมึงมีวิชาฮิ้วศึกษาเหรอวะ” ผมเก็บความสงสัยเอาไว้ไม่อยู่ จนต้องเอ่ยปากถามคนข้าง ๆ แต่ไอ้ภคินเสือกเอามือมาผลักหัวผมเบา ๆ
“มึงไม่ไปช่วยเพื่อนมึงซะหน่อยล่ะ”
“ไม่ล่ะ... ปล่อยให้มันโดนแซวมั่ง หึ ๆ เล่นกูไว้ซะเยอะ” ว่าแล้วก็ขอกอดอกรอดูละครเรื่องนี้เสียหน่อย “อีกอย่าง มันไม่ได้แพ้แอลกอฮอล์หรอก มันไม่กินเพราะป๊ามันเคยเมาแล้วเต้นรูดเสาโชว์”
“จะได้รู้ไงครับ ว่าเวลาดื่มแล้วเป็นยังไง เมาง่ายมั้ย? คราวหน้าจะได้เลือกดื่มถูก” ไอ้นี่ก็ตะล่อมยังกะหลอกเด็กกินยา
“ของไม่ดี กินยังไงมันก็ไม่ดีหรอก” คิ้วเล็ก ๆ ของไอ้ฟาร์ขมวดเข้าหากัน เหมือนว่าไอ้อาร์ทจะหลอกคนดื้อเงียบอย่างมันไม่สำเร็จซะแล้ว
“เกิดในอนาคตต้องดื่มขึ้นมาจะทำยังไงครับ ถ้าไม่รู้ว่าตัวเองดื่มได้มั้ย”
“ในอนาคตก็ไม่ต้องดื่มมันซะก็จบ” ไอ้อาร์ทหันไปกวาดสายตามองเพื่อนร่วมห้าชีวิตที่อยู่ในซุ้ม ก่อนจะกำหนดชะตาชีวิตเพื่อนผมสั้น ๆ
“กรอก” เท่านั้นแหละคุณเอ๊ย เพื่อนมันพุ่งเข้าไปชาร์จตัวไอ้ฟาร์ทันที ไอ้อาร์ทหัวเราะหึ ๆ ชวนขนหัวลุก ก่อนจะคว้าเหล้าดองหนึ่งเป๊กที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมา พร้อมส่งยิ้มหวาน “ถ้าเกิดอะไรขึ้น ผมรับผิดชอบเองครับ” เฮ้ย... ทำไมกูฟังแล้วเหมือนมันจะทำไอ้ฟาร์ท้องเลยวะ เพียงพริบตาเดียวเหล้าดองทั้งหมดก็หายไปจากแก้ว ไหลลงสู่หลอดอาหารไอ้ฟาร์เรียบร้อย ผมกับภคินถึงกับหลุดหัวเราะพรืดกับท่าทีของฟาร์ มันนั่งตัวแข็งทื่อ ตาเบิกโพลง ใบหน้าเต็มไปด้วยแป้งและเหล้าเล็กน้อย ก่อนจะ...
“อ๊อกกกกกกกกก” อ้วกแม่งเลยครับ กระจายท่ามกลางฝูงชน แต่ไอ้บอสใหญ่แม่งเสือกกระโดดหลบได้อีก ผมได้ยินไอ้ภคินบ่นพึมพำว่า ‘โหย... เซ็ง’ ที่มันเสือกหลบได้ แต่เล่นเอาวงแตกครับ เพื่อนมันที่ล็อกแขนล็อกขาไอ้ฟาร์วิ่งไปล้างตัวกันยกใหญ่ ปล่อยไอ้ฟาร์นั่งคอพับอยู่คนเดียว โอย... ผมกับภคินยืนขำกันจนปวดท้อง แทบจะลงไปดิ้นกับพื้น ด้วยความว่าเสือกสะใจเสียงดังไปหน่อย ผีอิน้องหนูดีของไอ้อาร์ทเลยไปสะกิดบอสมันเข้าให้ ไอ้อาร์ทค่อย ๆ หันมาแสยะยิ้มช้า ๆ
“ตลกมากสินะครับ”
“เปล๊า” เสียงสูงทำไมวะกู... ผมเลยรีบเป็นคนดีเสนอตัวพาไอ้ฟาร์ไปล้างหน้าล้างตาเสียหน่อย ก่อนไปไอ้เห็ดมันหันไปจ้องไอ้อาร์ทเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ
“ไอ้เหี้ย... แค่ก ๆ” ตรงประเด็น ชัดเจน ไม่ต้องขยายความ แต่ไอ้อาร์ทก็ตามมาช่วยล้างหน้าล้างตานะครับ ถึงมันจะโดนฟาร์เงียบใส่ก็ตาม เอาแล้วไงมึง โดนโกรธแน่ ๆ มึง หึ ๆ ๆ เอ๊ะ... แล้วทำไมกูสะใจวะ งงตัวเองจริง ๆ
เปรียบกับพี่เป็นแค่ขอนไม้ ต่อให้รักเจ้ามากเพียงไหน ผุพังไปพึ่งพาก็ได้ไม่นาน~ เสียงเพลงจากเวทียังดังไม่หยุด ในขณะที่พวกผมช่วยกันหิ้วปีกไอ้ฟาร์ซึ่งหมดสภาพแต่ยังคงมีสติด่างึมงำ ๆ ได้อยู่มาวางแปะไว้ที่เสื่อผืนหน้าสุดของเวที ไอ้โจ้ ไอ้กันที่เต้นกันจนผ้าขาวม้าผูกเอวหายทนเห็นคนหมดสภาพไม่ได้ เป็นต้องมาซ้ำเติม
“ไงจ๊ะ ‘น้องฟาร์เป๊กเดียว’ ถึงขั้นปล่อยของเลยทีเดียว” กร๊ากกกกกกกกกกกก เหี้ยโจ้คิดฉายานี้ได้ไง กูชอบ!
“พวกมึงได้ตับแข็งตายแน่ ๆ” ด่าสั้น ๆ สมเป็นเพื่อนกู
“พวกกูอะตับแข็ง แต่กลัวคนแถวนี้จะอย่างอื่นเข็ง... อั้ก” เสียงที่ตามหลังมาคือ ไอ้อาร์ทที่เดินไปซื้อเหล้ากลับมา บังเอิ๊นบังเอิญเข่าลงกลางหลังไอ้โจ้พอดี
“อ้าว... โจ้ นั่งไม่เป็นที่เป็นทางนะครับ” มันทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ
“ทำตัวเหมือนขยะเลยครับ” ฮึก... ผมสะอึกเหล้าแทนไอ้โจ้ มันชักนั่งหน้าซีดเหมือนโดนไอ้อาร์ทเล่นของใส่ ก่อนจะคว้ามือคู่ขาที่กำลังรินเหล้าอยู่ข้าง ๆ “กัน ๆ”
“อะไรวะ” ไอ้หนุ่มเมืองใต้ขมวดคิ้วไม่พอใจที่ถูกขัดจังหวะดวดเหล้า
“ไปจัดโชว์เราดีกว่า เร้ววววววววว” มันฉุดแขนคู่หูพากันไปตบตีแย่งไมค์บนเวที ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนก็รำคาญจนยอมให้มันร้อง และขณะนั้นเอง พี่เม่นเมียงูลงเดินลงมาทิ้งตูดลงนั่งข้าง ๆ ผม ผมสะดุ้งเฮือกสุดตัว แทบจะสลบน้ำลายฟูมปาก แม่ง... ดูไกล ๆ กูยังจะไฮเปอร์ขึ้น นี่พี่แกเล่นมาระยะประชิด
“ที่นั่งมึงแจ่มว่ะคิน” แล้วทำไมไม่ไปนั่งข้างน้องตัวเองคร้าบบบบบ พี่แกเคาะแก้ว แต่ผมเห็นภาพเป็นคิงคองกำลังงัดพื้นพิภพมาทำลายโลก “ใส่เหล้ามา ๆ”
ผมกระเถิบตูดเนียน ๆ ไปนั่งติดไอ้ภคินยิ่งขึ้น “ภคิน แลกที่กะกูมะ...”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด น้องคินขา” ผู้หญิงที่ไหนไม่รู้ครับ กระโจนมาตะครุบลงหลังไอ้ภคินพอดี จนฟันมันโขกกับแก้วดังลั่น ดีนะฟันหน้ามันไม่หลุดออกมา “ดูใกล้ ๆ ยิ่งหล่อจริงพ่อคู้นนน” ว่าแล้วเธอก็ลูบ ๆ คลำ ๆ หน้าคม ๆ นั่นใหญ่
“ไอ้คิน นี่แฟนพี่เอง” คือวันนี้มึงจะมีเรื่องช็อกอะไรอีกมั้ย ช่วยบอกกูมาทีเดียว “ที่รัก... อย่าไปเกาะน้องมันขนาดนั้น เดี๋ยวเมียมันก็ต่อยหน้าหรอก”
สาวหัวฟูคนนั้นหันมาปรายตามองทางผม “น้องไม่หวงแฟนใช่มั้ยคะ?”
“หวงครับ! ผมหวงตัวเอง” ไอ้ภคินเหวี่ยงไม่ไว้หน้าแฟนพี่รหัสมันเลยวุ้ย
“ต๊ายยยยยยยยยยยย ตัวเองดูน้องรหัสเธอพยศฉันสิ... น่ารักมว้ากกกกกกก” กูขอโหวตให้มันเป็นคู่ตุนาหงันแห่งปีครับ เอ้า! มึงไปรับถ้วยกันเลยไป
ผมกับไอ้ฟาร์นั่งส่งสัญญาณกันทางสายตาว่าอยากจะกลับกันเสียเต็มประดาแล้ว แต่จู่ ๆ เสียงจากลำโพงกลับดังกระกระหึ่มขึ้นกว่าเดิม และชาวคณะที่ปูเสื่อด้านล่างก็พากันเป่าปากวี้ดวิ่ว เมื่ออินโทรเพลงฮิตดังขึ้น...
ไอ้โจ้เดินมาเปิดตัวพลางผายมือออกประหนึ่งอะเดลในงานแกรมมี่อวอร์ด
“มีเวลาสักสองสามนาทีไหม ถ้าเธอไม่ยุ่งอะไร ขอฉันคุยด้วยสองสามคำ...” ไอ้กันเดินออกมาจากอีกฝั่งของเวที
“มีเรื่องค้างใจมากมายอยู่เป็นล้านคำ ย่อมาแล้วเหลือแค่สั้น ๆ แค่ที่มันสำคัญจริง ๆ”
“กรุณาฟัง ๆ ฉันให้จบ ๆ ๆ แล้วจะบวกจะลบ ก็ตามใจ ถ้าเธอมีเวลาพอให้รบกวนได้ ช่วยฟังความในใจสักนิดนึง...” ทุกคนกลั้นหายใจเพื่อรอดูท่อนเด็ดของเพลง
ไอ้กันเปิด
“หลับตาลง...” ไอ้โจ้ต่อ
“ก็เห็นแต่ใบหน้าเธอกี่เช้าตื่นมาก็เจอว่าคิดถึงเธออยู่เป็นประจำใจมันก็ลอยออกไปหาเธออยู่ทุกเช้าค่ำ...” “ไม่รู้จะทำยังไง... อยากมี...” ไอ้กันส่งต่อ
“เธออยู่เคียงข้างกายให้เธอเป็นคนรักคนสุดท้ายตลอดชีวิตไม่คิดให้ใครแค่เธอผู้เดียวที่ใจฉันเห็นว่าใช่ถ้ายังไม่มีผู้ใดได้ใจก็ถือโอกาสตรงนี้บอกกันซะเลย”
“จะคิดยังไงกับฉัน... ก็แล้วแต่เธอ” มันจบด้วยยิ้มหล่อประหนึ่งตัวเองคือกัน เดอะสตาร์
“เหี้ยกันแม่งกินแรงกู สัตว์!” แล้วไอ้โจ้ก็คว้าผ้าขาวม้าที่พื้นมาไล่ฟาดคู่หูมัน คนข้างล่างก็โห่ไล่มันกันใหญ่ ไอ้ภคินบอกว่าคณะมันคนน้อย จนทุกคนรู้จักกันเกือบหมดครับ ดังนั้นถ้าทำอะไรพลาดขึ้นมา ทุกคนจึงไม่รอช้าที่จะกระทืบซ้ำทันที
“ที่รัก... เค้าอยากเห็นน้องคินร้องเพลงอ้ะ” เจ๊หัวฟูนี่แกเป็นอะไรกะภคินมันมากเปล่าวะ คิดจะด่า กูก็กลัวแฟนมันส่องไรเฟิลมาที่หัว เลยได้แต่นั่งเงียบ ปล่อยไอ้หน้าหล่อที่เสือกทำให้ความหล่อเป็นพิษภัยต่อตัวเองรับกรรมไป
“คิน... มึงไปร้องเพลงให้แฟนพี่หน่อย” ตามใจแฟนจนเคยตัวนะครับ พี่เมียงู...
“ไม่ไป” มันตอบสั้น ๆ ได้ใจความ พลางยกแก้วขึ้นกระดก
“งั้นไปร้องเพลงให้เมียมึงหน่อย”
“โอเคครับ”
เหยดดดดดดดดดดดดดดด! ภคิ้นนนนนนนนนนนน! ทำไมมึงใจง่ายแบบนี้วะ ไม่ต้องรอให้ผมฉุดรั้ง เพราะมันเดินขากระเผลก ๆ ไปบอกชื่อเพลงกับเพื่อนมันเรียบร้อยแล้ว พอตีนหุ้มเฝือกของมันแตะพื้นเวทีปุ๊บ... ประหนึ่งมีเปลวเพลิงโหมกระหน่ำในงาน สาวน้อยสาวใหญ่สาวเทียมส่งเสียงกรี๊ดกราด ส่วนผู้ชายก็ส่งเสียงโห่ไล่มัน ขำ ๆ น่ะครับ ได้ยินว่าอยู่คณะมีแต่คนชอบมันเพราะลูกบ้าเนี่ยแหละ อย่างว่าแหละ ถ้าใครไม่มาเห็นมันในมุมนี้ คงเกลียดขี้หน้ามันแบบที่ผมเคยเป็น...
“ขอเสียงให้เดือนมหา’ลัยคนแรกตั้งแต่ก่อตั้งคณะมาหน่อยคร้าบบบบบบบ” ไอ้กันรับหน้าที่เป็นเอ็มซีเรียบร้อยโรงเรียน’ถาปัตย์ เออ... ผมก็เพิ่งรู้สถิติเนี่ยแหละ ว่าคณะมันไม่เคยมีใครได้ตำแหน่งเดือนมหา’ลัยมาก่อน คนข้างล่างก็ส่งเสียงเรียก ‘ไอ้คิน ๆ’ กันยกใหญ่ เออ... มันยุง่ายเนอะ ไม่นับไอ้โจ้ที่เล่นเกิน กรี๊ดเป็นสาวอยู่ข้าง ๆ นะ ไอ้นี่ก็เยอะไม่มีใครเกิน
“ขอสัมภาษณ์หน่อยครับ คุณคิน”
“อะไรมึง เหี้ยกัน กูจะร้องแล้ว”
“เล่นตามกูหน่อยน่า... อ่า... คุณคินครับ กล่าวอะไรถึงรุ่นพี่ปี 5 ที่กำลังจะจบไปหน่อยสิครับ”
“ยินดีด้วยครับ ที่ไม่เป้อ”
“เป็นวาทะเด็ดแห่งปีครับ เอ้า! ปรบมือสิครับ” ไอ้ข้างล่างมันก็เล่นตามด้วยครับ เอาสิ “แล้ววันนี้คุณคินจะมาร้องเพลงให้ใครครับ”
“เมียที่นั่งอยู่ข้างล่างครับ เฮ้ย! ไปป์ ยกมือหน่อยเด๊ะ” อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก กูอยากจะดำดินลงไปตรงนี้ รู้สึกได้ถึงสายตานับร้อยคู่ที่ทิ่มลงมากลางหลัง จู่ ๆ ก็มีมือเย็น ๆ มาสะกิด
“ไปป์ครับ... คินเรียกให้ยกมือน่ะ” เหี้ยอาร์ท มึงอย่ามาชงกูตอนนี้
“มีเมียขี้อายต้องทำใจว่ะ ไอ้น้อง ฮ่า ๆ ๆ ๆ” เสียงเหี้ยมโหดของพี่เม่นดังข้าง ๆ เล่นเอาขนลุกซู่ไม่ต่างกับเจอไอ้อาร์ทเล้ย
“แหม... น่าเสียดายนะครับ เมียคุณไม่รับมุกเลย” ไอ้กันบ่น “ทั้ง ๆ ที่ปกติก็ ‘รับ’ มาตลอดแท้ ๆ”
“ฮิ้วววววววววววววววววววววววววววววววว” สาบานได้ มึงลงเวทีมาเมื่อไหร่ กูเหยียบกระเดือกแตกแน่... แล้วไอ้พวกนี้มึงจะแซวห่าอะไรกันนักหนาวะ เดือนคณะมึงเป็นเกย์นะโว้ย! ไม่ห่วงอะไรกันมั่งเลยเรอะ
“น้องโจ้จ๊ะ” ไอ้กันเรียกคู่หู
“ขา พี่กัน” ไอ้โจ้ที่สูงกว่าไอ้กันย่อตัวมาทำท่าออเซาะได้น่าถีบให้กระเด็น
“มึงไปเปิดเพลงไป” ไอ้ภคินเสือกตัดบทซะงั้น ไอ้คู่หูนรกเลยยังไม่ทันได้ยิงมุกเลย “เร็ว ๆ ไปป์มันรอฟังอยู่ ไม่เห็นเหรอ” กูทำอะไรที่บ่งบอกว่ารอครับ ภคิน บอกกูที...
ไอ้โจ้ลิ่วล้อผู้น่าสงสารเลยได้แต่วิ่งลงไปเคาะแป้น มันดีดนิ้ว “เอ้า! วัน... ทู...”
http://www.youtube.com/v/r-Sr_QsEfh4?version=3&hl=en_US เหนื่อยไหมคนดีมีพี่เป็นแฟน ครองรักบนความขาดแคลน ยากแค้นพี่กลัวเธอท้อ
เราเริ่มจากศูนย์ลงทุนด้วยความไม่พอ
ความหวังเทียวพังเทียวก่อประคองกันสู้เรื่อยมา ภคินส่งสายตาวิบวับ ๆ ให้ผมที่เขินม้วนจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ห่าเอ๊ย... ขึ้นเพลงมาก็เหม็นสาบคนจนเลย
บนเส้นทางเดินขาดเขินประจำ คลื่นลมชีวิตกระหน่ำอาจทำให้ใจพี่ล้า
บางครั้งบางทีที่พี่ก็สร้างปัญหา ทำให้เธอมีน้ำตาต้องทนพี่มาเสมอ มันผายมือมาทางผม ดวงตาเรียว ๆ นั่นสื่อความหมายอย่างที่เพลงบอกจริง ๆ มันเองก็รู้ว่ายังไงผมก็ทนมันเสมอ...
เก๋งไม่มีขับปิคอัพก็ไม่มีขี่ เออสิ... มีแต่ไอ้เน่า
เห็นแฟนคนอื่นได้ดีพี่นี้ยิ่งสงสารเธอ
จมอยู่กับพี่ทั้งที่ไร้สิ่งปรนเปรอ
รู้ไหมว่ารอยยิ้มเธอช่วยให้ใจพี่มีหวัง มาถึงตรงนี้มันค่อย ๆ คลี่ยิ้มออกมาจนแป้งบนหน้าร่อนออกมาหมด เล่นเอาผมควบคุมกล้ามเนื้อหน้าตัวเองไม่อยู่ เผลอไปยิ้มตามมันจนได้... ไอ้เสี่ยวเอ๊ย
พี่ขอขอบคุณที่น้องมีใจ
ก่อนนี้ถ้าพี่ผิดไปต้องขออภัยใจนาง
ยิ้มเถิดคนดีวันนี้เริ่มมองเห็นทาง
จับมือลุกเดินเคียงข้างเราจะสร้างพรุ่งนี้ด้วยกัน ผมจะไม่อะไรเลยนะ ถ้ามันไม่ก้มหน้าลงมาใกล้ ๆ ด้วยเพราะเสื่อของเรามันอยู่ซะติดขอบเวทีเลยน่ะสิ มันยักคิ้วกวน ๆ ตามสไตล์ แล้วพูดออกไมค์ “แหนะ... หน้าแดงใหญ่ น่ารักเกินนะมึงอะ”
“ฮิ้วววววววววววววววววววววววววววววว” “ข้าพเจ้าเป็นตัวแทนของหมู่แรด ขอให้ทุกคนกล่าวตามข้าพเจ้า 3 ครั้ง” ไอ้โจ้กำมือไว้ที่อกซ้าย เลื่อนมือมาทางขวา แล้วยื่นแขนออกมาชูนิ้วโป้ง “นายเยี่ยมมาก! นายเยี่ยมมาก! นายเยี่ยมมาก!”
ไอ้ข้างล่างแม่งก็ทำตามกันใหญ่ครับ “นายเยี่ยมมาก! นายเยี่ยมมาก! นายเยี่ยมมาก!”
มึงนึกว่าเข้าค่ายลูกเสือแล้วมาแสดงโชว์หน้ากองไฟกันเรอะ!? ไอ้พระเอกวางไมค์ไว้ที่พื้นแล้วค่อย ๆ ปีนลงเวทีพร้อมกับขาเดี้ยง ๆ เฮ้ย... ลงทางปกติไม่ได้เลย? แล้วงี้ชาติไหนขามึงจะหายวะ ไอ้จ๊าดง่าว! มันยิ้มจนตาหยีแล้วขยี้หัวผมแรง ๆ ผมเขินจนต้องหลบตามัน บ้าเอ๊ย! ตั้งแต่อยู่กันมา มึงเคยจีบด้วยวิธีปกติบ้างมั้ยฮะ!?
“ไม่อายเพื่อนรึไงวะ มีแฟนเป็นผู้ชาย” ผมบ่นงึมงำไปงั้นแหละ รู้ว่าหน้าอย่างมันไม่เคยอายอะไรอยู่แล้ว เพื่อนมันยังเป่าปากแซวเหมือนเปรตขอส่วนบุญไม่เลิก เอาจนผมสร้างภูมิต้านทานที่หน้าได้อะครับ เออ... กูยอมพวกมึงจริง ๆ
“อายทำไมวะ เฮ้ย... เอาเหล้ามาดิ๊” หมดความโรแมนติกก็ตรงนี้แหละมึงเอ๊ย! ว่าแล้วพี่ท่านก็คว้าแก้วไปจากมือผมหน้าตาเฉย มันกระดกดวดเหล้าอย่างเมามัน “แล้วตกลงเหนื่อยไหมคนดีมีพี่เป็นแฟน”
“มึงอ้าปากปุ๊บ... กลิ่นสาบคนจนออกเลย” สภาพตอนนี้มันเหมือนมีผัวขี้เหล้าตีกับเมียอะครับ “พอ ๆ ๆ คืนนี้มึงชักจะดื่มเยอะเกินไปแล้ว”
มันเอนหัวหล่นตุ้บลงบนตักผม แล้วซุกหน้าถูกับต้นขาจนกางเกงบอลเลิกขึ้นไปมาเหมือนหมาเวลาอ้อนเจ้าของ เออ เข้าใจเปรียบเทียบดีนะผมเนี่ย...
“กูรู้... กูทำให้มึงเหนื่อยมาเยอะ...” มันพึมพำ “กูรักมึงนะ... อิทองกวาว”
“เงียบไปเลย... ไอ้คล้าว” ผมด่าติดตลก มือก็ลูบผมมันไปเงียบ ๆ มันเองก็นอนจ้องหน้าผมอยู่อย่างนั้น ผมจ้องลึกเข้าไปในดวงตาเรียวคู่นั้น... ท่ามกลางเสียงดนตรีดัง ๆ ใครจะรู้ว่า... หัวใจผมก็เต้นดังไม่แพ้กันหรอก
“ถ้าเหนื่อยกูก็ไม่นั่งโง่อยู่นี่หรอก...”TBC
(อัญเชิญคำคม)
"สรุปไปป์มันเหนื่อยมั้ยคน (ปาก) ดีมีพี่ (คิน) เป็นแฟน" Cr.Seiren
ตอนที่แล้วมีแต่คนงงว่าแซ๊กกับเพลงมาคบกันได้ไง เดี๋ยวเขียนถึงแน่ๆค่ะ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ มันต้องหลีกทางให้คู่รักผ้าขาวม้าอย่างคินไปป์เซ่!!
เวิ่นเว้อมาก ไม่รู้จะยัดเพลงอะไรลงไปในตอนนี้ดี เพราะลูกทุ่งมันไม่ใช่ไลน์ของเราเลยค่ะ บอกตรงๆว่าไม่ถนัดเลย/โดนถีบ/ ขอบคุณผู้จัดการส่วนตัวที่ช่วยเลือกเพลงให้นะคะ ไม่งั้นเขียนไม่ได้จริงๆค่ะ/ก้ม/
ปล.ตอนหน้าลูกเมียน้อยนะจ๊ะหนุ่มสาว กิ้วววววววววววววววววววว (อะไรของเอ็ง)
ปล.รักคนอ่านเหมือนเคยนะจ๊ะ ขอโทษที่มาต่อช้า คนเขียนรู้สึกเฟลๆช่วงนี้ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน//กอดดดดดดดดด//