Do not disturb ✰ ขอโทษครับ ห้ามรักกวน[เปิดจองDNDเล่มพิเศษ+Reprint p.206]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Do not disturb ✰ ขอโทษครับ ห้ามรักกวน[เปิดจองDNDเล่มพิเศษ+Reprint p.206]  (อ่าน 2267646 ครั้ง)

ออฟไลน์ kasarus

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
เอ็นซีมาแบบไม่ทันได้ตั้งตัว ควานหาทิชชู่แทบไม่ทัน

คิดถึงลูกเมียน้อย (ได้ข่าวว่าเมิงเพิ่งจากคู่นั้นมาไม่ถึงสองตอนเองนะ)

ออฟไลน์ Resonance

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
แม๊ะ โดนใจจริงๆตอนนี้ ฮ่าๆๆ

ออฟไลน์ AdLy

  • ไม่ได้ Korea Fever แค่รัก ดงบังและเอสเจ เท่านั้น
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 555
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
ภคินกินน้ำตาลไม่ได้ทำให้โรแมนติก แต่คงจะเป็นบ้าแทน
(ภคินอย่าฆ่าเรานะ)

น่ารักไปนะตอนนี้เนี่ย แอบเขินแทนไปป์เลย

ออฟไลน์ MinKKniM

  • 난 널 사랑해 동해
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-2
ภคิ๊น แกเอาแต่ใจเกิ๊น สงสารไปป์มันบ้าง ขาแกใช้การไม่ได้ก้อไม่เป็นอุปสรรคเลยใช่มั้ย

แล้ววันเกิดไปป์ภคินจะให้อะไรน้า ระแวงแทนไปป์จริงๆ

[newZy]CASS

  • บุคคลทั่วไป
สัญญานะว่าจะอยู่ข้างๆกัน กรี๊ดดดดดดดดดดด

ออฟไลน์ aorpp

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +250/-3
มาซุ่มรอค่ะ  :L2:

theWinDy

  • บุคคลทั่วไป
 :laugh: อ่านไปขำไป กับภคินไปป์แอนด์เดอะแก๊งค์
วันเกิดเริ่มต้นด้วยเสียงหัวเราะ ตบท้ายด้วยความสุขแบบซาบซ่านะเนี่ย  :-[

 :pig4: ค่ะ

ออฟไลน์ ไอ้หัวแห้ว

  • ยิ่งมืดเท่าไหร่ ยิ่งเห็นดวงดาวชัดเจน...
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +568/-5
เพิ่งตามมาอ่านครับ
อ่านตั้งแต่เมื่อวานครับ
ขอเป็นสมาชิกนักอ่านเรื่องนี้ด้วยคน



ชอบมากกกกกกกก >,<

เป็นเรื่องที่อ่านแล้วยิ้มได้ หัวเราะได้ แถมออกมาอย่างแรงด้วย
(จนเพื่อนสงสัย แม่งหัวเราะอะไรมากมาย ฮ่าๆ)

น่ารักมากครับ
ไม่รู้จะสรรหาคำอะไรมาบอกดี

คินไปป์น่ารักมากกกกกกกกกก

อ่านแต่ละตอนก็ขำมาก
แม้กระทั่ง NC ก็ยังต่อมุกกันได้ ตึ่งโป๊ะ

ตอนล่าสุดนี่ หวาน จนน้ำตาลขึ้นจริงๆ
ยิ่งเปิดเพลง "คนข้างๆ" ยิ่งรู้สึกว่าหวานมากกก
(แต่พี่แหลมแกเสียงแหลมตามชื่อแกจริงๆ นะ ฮา)

 
เพื่อนๆ ก็ฮาสุดๆ

คู่พระรองก็ใช่น้อยหน้านะ
น่ารัก (แบบแปลกๆ) ดี 555555

คนเขียนฮามากครับ
มีมุกทันสถานการณ์ตลอด
ไม่ว่าจะเป็นครูอังคนา ก็ตามแต่



รอตอนต่อไปครับ
 


เพิ่มเติม...

อยากจะบอกว่า ชอบทัศนคติกับการยกตัวอย่างเกี่ยวกับเรื่องความรักครับ
ชอบมากๆ ครับ อ่านแล้วแบบ เออ ใช่เลยอะ  สอนได้ดีเลยครับ

เช่น เรื่องวงกลม 

เพราะเป็นคนโลกส่วนตัว(ค่อนข้าง)สูงเหมือนกัน
ไม่ชอบให้ใครมาุวุ่นวายกับตัวเองมากนัก
ประิเภทกูอยากอยู่คนเีดียวนะ อย่ายุ่งได้ไหม ไรเงี้ย เพราะจะรำคาญง่ายมาก
(แบบนี้มั้งถึงไม่อยากมีใคร (จริงๆ แล้วคือไม่มีใครเอา ฮา))

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-05-2012 23:56:45 โดย ไอ้หัวแห้ว »

ออฟไลน์ sirikanda28

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-3
น่ารักอ่ะ :really2:

jindavil

  • บุคคลทั่วไป
โอ๊ยยยย อ่านแล้วมันส์ จะฮารึจะหื่นนน ฮ่าๆๆๆ
ชอบค่ะชอบ ดีด สี ตี เป่า เล่นมาได้เนอะพ่อคุณ ของดีเมืองหนองคายอีก โอ๊ยยยยย ภคิณกินผู้ชายนี่หื่นฮา ๆ จริงๆเล้ยยย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






kimmania

  • บุคคลทั่วไป
แต่ละคำ  มดมากัยทั้งรังมั้งนั้น :o8:

ออฟไลน์ bew_yunjae

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
อ่านตอนแรกแล้วรู้สึก ชอบมากๆ^^
เกลียดกันแบบนี้รักกันทุกราย :impress2:
ฮ่าๆ
เดี๋ยวเราอ่านจบจะทะยอยมาเม้นให้น่ะ
เป็นกำลังใจให้จ้าสู้ๆ

ออฟไลน์ ฤดูใบไม้หลากสี

  • ผู้เป็นอิสระเหนือทุกสิ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 544
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-2
    • อิสระ ไม่อาจพรากไปจากเรา, จินตนาการก็อยู่คู่เราจนสิ้นลมหายใจ
ตอนแรกก็เกลียดอาร์ทนะ คนไรไม่รู้ไม่มีจิตสำนึกเอาซะเล๊ย
แต่ตอนนี้ก็เกลียดน้อยลงเพราะ ฟาร์ดันไปชอบมันเนี่ยสิ :m16:
คิณนี่ก็นะหื่นตลอด ไปป์ก็นะเล่นตัวไปได้
สงสัยซะแระว่า คู่อาร์ทกะฟาร์นี่ เป็นแค่คู่รอง หรือคู่หลักกันนะ

น่าเสียดายมาไม่ทันให้ส่งจดหมาย :sad4:
แต่ก็อ่านแล้วสนุกมากมาย :laugh:

มาต่อไวๆนะฮะ :L2:

ออฟไลน์ badcow

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-10

ออฟไลน์ day9day

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-9
เอ๋ ??
งง ว่าคนแต่งทำไมไม่มาอัพใช่มั้ยครับ    อยากบอกว่า งง เหมือนกันเลยครับ (คาดว่าคนแต่งน่าจะอัพในเดือนนี้แหละ หึ หึ)

ออฟไลน์ bew_yunjae

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ขอเม้นถึงตอนที่16 น่ะค่ะ ><
น่ารักมากกกกก >< คริๆ คินมารับ มาส่ง ลูบหัวงี๊  :-[
ว๊ากๆ อย่างนี้จะเรียกอะร๊ายยยได้อีก  :impress2:
ชอบมากๆเลยค่ะ ฮาตอนไปป์เถียงกะแม๊กซ์มาก ตลกดี
ตอนที่คินแอบหวงไม่ให้ไปป์ซื้อถุงยาง คินน่ารักอ๊ะ!!
ไปป์เขินน่ารัก อิจฉาคินอ่ะ อร๊ายยยยย>< :o8:
สู้ๆน๊า เป็นกำลังใจให้จ้า
เดี๋ยวพยายามเม้นให้เรื่อยๆจนกว่าจะทัน56 ตอนน๊าT^T

ออฟไลน์ Indigo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1030/-7
Special Room  09 [Far’s chapter]

   โทรศัพท์ที่ไม่ค่อยมีปากเสียงของผมแผดเสียงขึ้นในเวลาใกล้บ่าย  เนียร์วิ่งเอาโทรศัพท์ลงมาให้ผมข้างล่าง  แถมด้วยการบ่นไม่หยุดว่าไม่รู้จักเอาไว้ใกล้ ๆ มือ  ก็ปกติผมไม่ค่อยมีคนโทรหานี่นา...  ใครจะไปรู้ล่ะ  ตอนแรกคิดว่าคนที่มาส่งที่บ้านเมื่อคืนจะโทรมาเช็คสภาพ  แต่เบอร์ไปป์ที่ขึ้นหราเล่นเอาผมขมวดคิ้วอย่างงุนงง  ว่ามันมีอะไรให้โทรหาผมในเวลานี้  เมื่อคืนก็เพิ่งจะปาร์ตี้มาม่าที่ห้องมันมาแท้ ๆ

   มันโทรมาถามว่ารถผมว่างมั้ย...  เสี่ยใหญ่อย่างมันจะใช้บริการพาผัวทัวร์กรุงเทพฯเสียหน่อย  กะใช้งานผมให้คุ้มเลยว่างั้น?  และด้วยความที่วันนี้เป็นวันเกิดผัวรักของมัน  ถ้าผมไม่ช่วยก็เกรงว่าจะใจร้ายเกินไปหน่อย  เอาวะ...  นาน ๆ ทีไปป์มันจะยอมโทรมาขอความช่วยเหลือเรื่องไอ้คินจากผม  บอกตามตรงนะ  มันเป็นคู่รักที่ประหลาดมาก  เกิดมาผมไม่เคยเจอผู้ชายสองคนที่มีความเกรียนแล้วอยู่กันแบบคู่รัก (?) มาก่อนเลย  คุณดูเผิน ๆ คงมองไม่เห็นความรักในแววตาและการกระทำของพวกมันหรอก  แต่ถ้ารู้จักกับพวกมันก็จะรู้...

   นึกแล้วก็ตลก...  สมัยอยู่ปี 1 ไปป์มันยังแทบจะวิ่งเข้าไปกระโดดกัดคอไอ้คินให้ตายอยู่เลย  ไหงตอนนี้มาเป็นแฟนกันได้วะ  เอ่อ...  ว่าแต่มัน  ผมเองก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่นักหรอก  ใครจะคิดว่าคนจืดจางทั้งชีวิตอย่างผม  จะมีคนยอมก้าวเข้ามา  แถมไอ้คนนั้นยังประหลาดสุด ๆ ไปเลยอีกต่างหาก  เฮ้อออออออออ  ไม่รู้หนังชีวิตใครมันจะตลกกว่ากัน

   ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็พร้อมรับหน้าที่เป็นคนขับรถ  เริ่มจากการแวะรับไอ้อาร์ทที่บ้านอยู่ไกลสุด...  บ้านมันเป็นบ้านเดี่ยวหลังใหญ่พอตัวครับ  มีอาณาเขตสวนหน้าบ้านกว้างขวางพอประมาณเลย  มันยังเคยพูดติดตลกกับผมว่า  ต่อให้บ้านมันไม่ได้ขายน้ำมันแบบที่ไอ้เนียร์บอก  แต่มันก็รวยพอจะเลี้ยงผมได้  เหอะ...  ตลกละ  บ้านกูก็ไม่ได้จนเหอะ  ผมมองภาพไอ้อาร์ทในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงยีนส์ยืนยิ้มเย็น ๆ รออยู่หน้าบ้านแล้ว  ก็เกิดความรู้สึกหมั่นไส้อยากขับรถอัดมันเสียอย่างนั้น

   “สวัสดีครับ” ดีนะ...  มันไม่ยกมือไหว้ผมด้วย “เจอกันอีกแล้วนะครับ”
   “เออสิ” เมื่อวานก็เพิ่งจะไปนั่งกินมาม่าด้วยกันแท้ ๆ

   ไม่รอให้ผมอนุญาตมันก็โดดขึ้นมานั่งตำแหน่งตุ๊กตาหน้ารถด้วยความเคยชิน  แถมยังปรับแอร์ให้หันไปทางตัวเองอีก...  การกระทำเรียบ ๆ แต่แฝงไว้ด้วยความกวนประสาทอย่างเต็มเปี่ยม  ผมเลิกสนใจแล้วกลับไปต่อสู้กับถนนของกรุงเทพฯต่อดีกว่า  บรรยากาศในรถตอนนี้จึงมีแต่เสียงแอร์คลอด้วยเสียงผิวปากอย่างอารมณ์ดีจากไอ้อาร์ทแทรกผ่านความเงียบเท่านั้น  เราเป็นแบบนี้กันตลอดแหละครับ...  คือไอ้ผมก็พูดไม่เก่ง  ไม่รู้จะชวนคุยอะไร  ภาระหน้าที่เลยตกไปที่ไอ้อาร์ท  ซึ่งถ้ามันเงียบด้วยก็จบกันเลย  แต่ผมกลับชอบความรู้สึกแบบนี้นะ

ผมว่า...  ถ้าเราสนิทกับใครสักคน  แม้แต่ความเงียบก็ไม่สามารถทำให้เราอึดอัดได้หรอก

   แต่พอแวะไปรับไอ้คู่หูนรกแตกขึ้นรถเท่านั้นแหละ...  พระเจ้า!  เหมือนมีสิงสาราสัตว์อยู่ในรถ  แล้วยิ่งตอนนี้ที่เป้าหมายเบอร์หนึ่งของพวกมันอย่างไอ้ไปป์ไม่อยู่ด้วยแล้ว...  กรรมจึงตกมาอยู่ที่ผมแต่เพียงผู้เดียว

   “เฮ้ย!  ไงจ๊ะ  พ่อดอกเห็ดสะเด็ดน้ำ  ขับรถมาด้วยหน้าตาผ่องใส  หัวใจลั้นลาขนาดนี้  เมื่อคืนแวะไหนก่อนกลับบ้านเปล่าจ๊ะเนี่ย”
   “ไอ้โจ้...  สมองมึงคิดออกแต่เรื่องแบบนี้ใช่มั้ย”
   “ยังไม่ทันพูดอะไรเลย  เค้าหมายถึงแวะกินตับข้างทางอ๊ะเปล่า  แอร๊ยยยยยยยยยยยยยย~”
   “.........”
   “ตับ ๆ ๆ ๆ ๆ” ไอ้กันร้องเพลงประกอบพร้อมโยกตัว  กะให้ผมโวยวายเหมือนไอ้ไปป์ล่ะสิ...  เสียใจครับ  ผมนิ่งกว่าที่เห็น  และที่สำคัญ... มันต้องด่าเรื่องอื่น
   “เขย่ารถหาพ่อมึงเหรอ  โช้คกูเสียพอดี”
   “แม่ม...  เรื่องรถนี่ดุชิบหาย”

   เจอความวุ่นวายบนรถว่าน่าปวดหัวแล้ว  พอเจอไอ้ไปป์บอกว่าจะไปสวนรถไฟเท่านั้นแหละ...  ผมแทบจะตีตั๋วกลับบ้าน  ถึงจะชอบไปที่ที่ต้นไม้สีเขียวเยอะ ๆ   แต่ไอ้สวนรถไฟนี่ดูยังไงก็ร้อนและคนพลุกพล่านชัด ๆ !  แต่หลวมตัวมาขนาดนี้แล้ว  ก็ต้องก้มหน้ารับกรรมไปแหละครับ...

   ก่อนไปเราแวะกินอาหารข้างทางซึ่งรสชาติแย่พอควร  ไอ้ไปป์หวิดมีเรื่องฟาดกับอาแปะเจ้าของร้านละ  รอจนคล้อยเย็นสักหน่อยพวกผมถึงได้ฤกษ์เสด็จไปยังเป้าหมาย  ซึ่งพอมองไอ้เจ้าของวันเกิดที่รีเควสต์สถานที่มาไม่ได้ดูสารรูปตัวเองแล้ว  ผมก็ปวดหัวแทนไปป์เลยครับ  ไอ้คู่รักคนพิการนั่นช่วยประคองกันไปนั่งเล่นได้สักพัก  แล้วปลีกตัวออกไปปั่นจักรยานกันต่อ

   ผมนั่งแหงนหน้าเหม่อลอย  มองสีเขียวขจีของต้นไม้ตัดกับสีฟ้าของท้องฟ้า...  เฮ้ออออออออออ  จะว่าวันนี้มันเลวร้ายก็ออกจะเกินไปหน่อย  คนในสวนไม่เยอะอย่างที่คิด  ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมาก  การได้สัมผัสธรรมชาติที่ห้อมล้อมตัวเองอยู่แบบนี้  ช่วยทำให้จิตใจคนกรุงสงบลงได้ไม่น้อยเลย  อากาศที่ร้อนจัดก็ถูกบรรเทาด้วยร่มไม้เย็น ๆ   ถ้าไม่นับ...

   “เซเซมีมี...  ปิงป่อง  ชาร์จ!”
   “ปิงป่อง...  พายุ!”
   “ปิงป่อง...  หายตัว!”
   “พวกมึงไม่มีอะไรจะเล่นกันแล้วใช่มั้ย?”
   “อ้าว...  เล่นไพ่มึงก็ด่าอะ” ไอ้กันว่า “อยากเล่นด้วยก็บอกดิ  มีสี่คนเล่นกรุงเทพมหานครได้พอดี  มะ ๆ   ตั้งวง ๆ ”
   “กูชักสงสัยอายุสมองพวกมึงเข้าไปทุกที”
   “พวกนายท่องชื่อกรุงเทพฯได้จบเหรอ?” ไอ้อาร์ทมองหน้าเหมือนเพื่อนมันโง่เสียเต็มประดา  ซึ่งก็เป็นเรื่องจริง
   “ไม่ได้ว่ะ”
   “งั้นเราท่องเอง  มา!” โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยย  หน้าไหน ๆ มันก็เหมือนกันหมด!  ผมอยากจะเอาหัวโขกพื้น  ไอ้สามตัวนั่นก็หัวเราะด้วยความสะใจ  แถมตั้งวงล้อมกันเรียบร้อย  เฮ้ย... มึงจะเล่นกันจริง ๆ เหรอ
“กูไม่เล่นนะ  บอกไว้ก่อน”
   “ได้ไงอะ  สามคนมันเล่นไม่ได้นะ” ผมเบือนหน้าออกจากวงโคจร  แกล้งทำเป็นไม่สนใจให้เรื่องมันจบ ๆ กันไป  พวกมันส่งเสียงโวยวายด่าผมเป็นการใหญ่  ถ้าเป็นไอ้ไปป์คงโดดไปเล่นปัญญาอ่อนด้วยแล้วล่ะ...

   แต่คือ...  ผมก็ท่องชื่อกรุงเทพฯได้ไม่จบเหมือนกัน   จะ... จะให้พวกมันรู้ไม่ได้  ว่าผมมีสมองขนาดเท่าไอ้โจ้ไอ้กัน  นี่มันเรื่องขายหน้าของวงศ์ตระกูลชัด ๆ

   ระหว่างที่กำลังตีเบลอได้ที่  จู่ ๆ ก็มีมือยื่นมาแทบชนจมูก...  เฮ้ย!
   “ไปนั่งเรือกันมั้ยครับ?”
   “ฮะ!?” ผมยังเอ๋ออยู่
   “เห็นดูเบื่อ ๆ น่ะครับ  สนใจไปนั่งเรือกับผมมั้ย?”
   “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด  สวีทบาดขั้วหัวจายยยยยยยย” ไอ้โจ้กุมอกแล้วลงไปดิ้นพราด ๆ กับพื้น  หมาจรจัดที่เดินผ่านยังมองตามเลยครับ
   “อาร์ท...  มึงแม่งพระเอกว่ะ” ไอ้กันยกนิ้วชื่นชมเพื่อน “ไอ้คินแม่งขืนใจไอ้ไปป์ไป  แต่ดูมึงชวนสิ...  พระเอ๊กพระเอก”
   “ไปมั้ยครับฟาร์” มันกระดิกมือ
   “ไม่อะ...  กูชอบนั่งอยู่เฉย ๆ มากกว่า  อีกอย่างนั่งเรืออายเขาจะตาย”
   “ไปนะครับ” มันยิ้ม...  แต่ทำไมกูขนลุก...
   “ไม่ไป”
   “ไปครับ” แววตาเลื่อนลอยจ้องลึกเข้ามาในดวงตาผม  เล่นเอาขนลุกซู่ไปหมด...  เหมือนมีใครมากดหัวผมให้พยักหน้าตาม
   “ปะ... ไป... ก็ได้”

   ไอ้สองตัวที่ปากมากพูดไม่หยุดเมื่อกี้  ถึงกับนั่งเงียบลูบแขนตัวเองป้อย ๆ   ถ้าหูไม่ฝาด  ผมได้ยินเสียงพึมพำประมาณว่า ‘เลือดเย็นจริง ๆ ’ อะไรทำนองนี้  แต่ก็นั่นแหละ  ตอนนี้ผมเดินตามหลังมันออกมาแล้ว

   “กี่ชั่วโมงจ๊ะ  พ่อหนุ่ม” เสียงป้าเจ้าของร้านเช่าเรือเรียกสติผมกลับคืนมา  เฮ้ย!  กูมาอยู่นี่ได้ไงวะ  ช่วยด้วยครับ  ผมโดนผีผลัก!
   “สองครับ”
   “เฮ้ย!  จะบ้าเหรอ  มึงจะพายไปแข่งทีมชาติรึไง  นั่งทำไมตั้งนาน” ชั่วโมงเดียวกูก็ไม่ไหวแล้วนะ
   “เอ่อ...  ตกลงกี่ชั่วโมงจ๊ะ”
   “สองครับ”
   “หนึ่งครับ”


   เราหันควับมามองหน้ากัน....  ผมหรี่ตาเป็นการบอกว่าเรื่องนี้ผมไม่ยอมหรอกนะ  จะบ้าเหรอ  เรือพายนะครับไม่ใช่เรือปั่น  กะให้กูเป็นนักกล้ามไปเลยมั้ย?  ซึ่งเหมือนว่าไอ้อาร์ทจะเข้าใจ  มันพยักหน้าแล้วหันไปบอกป้าเค้าพร้อมยื่นเงินให้

   “สองครับ”
   “ไอ้อาร์ท!” ผมโวย  แต่มันยัดเงินใส่มือป้าเค้าแล้วลากผมมาที่เรือทันที  ผมแอบหงุดหงิดนิดหน่อยที่โดนบังคับ  เลยยืนหน้างออยู่อย่างนั้น  ไอ้อาร์ทยังคงยิ้มเอื่อย ๆ   รอจนป้าหันหลังไปเตรียมไม้พายมันถึงได้ก้มลงมากระซิบข้างหูผม...
   “อยากอยู่ด้วยกันนาน ๆ นี่มันผิดด้วยเหรอครับ?”
   บ้าเอ๊ย...  พูดขนาดนี้แล้วผมจะไปไหนรอดล่ะ  ความหงุดหงิดเมื่อกี้เหมือนถูกเป่ากระเด็นหายไปในอากาศ  ผมกลั้นยิ้มจนปวดแก้มไปหมด  ว่าแล้วก็ยกมือสองข้างตะปบดึงมันไว้ไม่ให้ยกสูงไปกว่านี้  แต่ไอ้อาร์ทจับข้อมือสองข้างของผมแล้วดึงให้มันยืดออก
   “จะยิ้มก็ยิ้มเถอะครับ  เวลาฟาร์ยิ้มน่ารักจะตายครับ”
   “...” มันรู้!  มันรู้แน่ ๆ ว่ากำลังทำให้ผมเขิน  แต่มันก็แกล้งทำหน้าเหรอหราตอนที่ผมเงยหน้าขึ้นคาดโทษมันไว้  ไอ้อาร์ทมันร้ายจะตายครับ  ผมดึงมือมันออกก่อนที่ป้าจะกลับมาเจอแล้วช็อกตาย

   ป้าอธิบายเรื่องพายเรือเล็ก ๆ น้อย ๆ   เท่าที่ฟังดูคงพายไม่ยากเท่าไหร่มั้ง  ไอ้ผมก็ไม่เคยแตะกิจกรรมแอดเวนเจอร์ขนาดนี้เสียด้วย  แต่จะให้หันหลังกลับตอนนี้ก็สายไปเสียแล้วล่ะ...  ไอ้อาร์ทก้าวลงไปนั่งบนเรือพายสีเขียวอ่อนแล้วส่งมือมาให้ผม  เอ่อ...  ผมส่งสายตาเป็นเชิงบอกว่า ‘ป้าเค้ามองอยู่นะ’  แต่มันตอบกลับมาด้วยสายตาที่สื่อว่า ‘งั้นก็โดดลงมาเองนะครับ’ พลางชักมือกลับ  เล่นเอาผมคว้าหมับเข้าแทบไม่ทัน  ผมเห็นมันแอบหัวเราะเบา ๆ ตอนที่ผมก้าวขาอย่างทุลักทุเลจนในที่สุดก็มานั่งบนเรือได้สำเร็จ

   “ไม้พายครับ...  ถือเอาไว้เฉย ๆ ก็ได้”
   “มันจะยากอะไรวะ  แค่เอาจ้วงน้ำเดี๋ยวเรือมันก็ไปเองใช่มั้ยล่ะ”
   “แสนรู้จังครับ” ไอ้อาร์ท!  มึงเลวจนกูอยากจะพลิกให้เรือคว่ำ  ถ้าไม่ติดว่ากูนั่งอยู่นะ “อย่าหน้างอเลยครับ...  อากาศวันนี้ดีจะตาย  ยิ่งอยู่บนน้ำแบบนี้ยิ่งเย็นนะครับ  อย่าทำใจให้ร้อนเลย”
   “บวชพระสักพรรษาเหอะมึง” ผมแอบเหน็บ  แล้วเริ่มขยับไม้พายในมือ...  แอบหนักเหมือนกันนะครับ  แต่เกิดมาก็เพิ่งเคยพายเรือ  ทำเอาผมตื่นเต้นไม่ใช่น้อย  ตอนที่เรือลำน้อย ๆ ถูกขับเคลื่อนด้วยพลังแขนของผม...

ผมบ้าพวกเครื่องยนต์ก็จริง  และถึงแม้ว่าไอ้เรือนี่จะไม่ได้ใช้เครื่องยนต์เลยสักตัว  แต่ผมก็ยังสนใจรูปร่างเพรียว ๆ และการออกแบบเพื่อต้านลมต้านน้ำของมันอยู่ดี  ผมก้มหน้ามองพินิจลักษณะมันอยู่นาน...  ไม่ได้คุยอะไรกับคนที่นั่งตรงข้าม  พอรู้ตัวถึงได้เงยหน้าขึ้นมา  ซึ่งก็พบว่ามันมองมาที่ผมอยู่แล้ว  ดวงตาของมันคู่นั้นที่ปกติดูเลื่อนลอยกำลังส่งยิ้มให้ผม
   “เวลาฟาร์สนใจอะไรเนี่ย  ดูแล้วน่ารักดีครับ” มันว่าพลางจ้องฝีพาย  เหมือนไม่ได้พูดอะไรผิดปกติ  ทั้ง ๆ ที่ทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้กลางใจผมแท้ ๆ   ผมเบือนหน้าแดง ๆ หนีแล้วหันไปสนใจผืนน้ำรอบข้างดีกว่า...

   “อาร์ท...”
“ครับ?”
“เนียร์พูดอะไรกับมึงกันแน่  ทำไมหลังจากวันนั้นมันไม่เคยห้ามกูเรื่องมีแฟนอีกเลย” ผมสงสัยเรื่องนี้มานานมาก  หลังจากเรื่องที่คณะพวกมันวันนั้น  กลับบ้านมาไอ้เนียร์ก็ไม่ว่าอะไรผมสักคำ  แถมยังเปลี่ยนสรรพนามไปเรียกมันว่า ‘เฮียอาร์ท’ อีกต่างหาก  ปล่อยให้ผมงงเป็นไก่ตาแตก
   “ยังสงสัยเรื่องนั้นอยู่อีกเหรอครับ?”
   “ก็แน่สิ  มึงไม่ได้เล่นของอะไรใส่น้องกูหรือปล่อยน้องหนูดีมาสิงใช่มั้ย”
   “น้องหนูดีเป็นนางฟ้าครับฟาร์  สิงใครไม่ได้หรอก”
   “มันไม่ใช่ประเด็น” ผมกุมขมับปวดหัว  ถ้าไอ้อาร์ทคิดจะเล่นงานใครก็เตรียมตัวตายได้เลยครับ  แบบที่ผมเป็นอยู่เนี่ยแหละ “มึงโยกโย้ทุกทีเวลากูถาม...  ตกลงมึงพูดอะไรกันแน่”
   ไอ้อาร์ทยักไหล่ “ผมบอกว่า...  ถึงบ้านผมไม่ได้ขายน้ำมัน  แต่ก็รวยพอตัว”

   ถ้ามันเป็นความจริงผมจะกลับบ้านไปกราดยิงไรเฟิลใส่ไอ้เนียร์ให้มันดับชีวิตไปซะ  ทำเป็นหวงพี่...  ไอ้ห่ามึงขายกูชัด ๆ !

   “จ้วงเบา ๆ ครับ  ฟาร์  เดี๋ยวเรือคว่ำกันพอดี” มันพูดกลั้วหัวเราะ  รู้สึกจะอารมณ์ดีมากนักนะมึง
   “มึงมันกวนประสาท” ผมด่า  ซึ่งมันก็ยิ้มรับคำด่า
   “ขอบคุณครับ”

   ชิ...  เห็นไอ้รอยยิ้มเย็น ๆ นั่นแล้วอยากเอาไม้พายตบปากจริง ๆ   ผมกับมันช่วยกันพายเรือลำน้อยวนไปวนมาในสระ  จะว่าไป...  พายเรือเล่นแบบนี้มันก็สนุกดีเหมือนกันนะ  ผมยิ้มให้ไอ้คนฝั่งตรงข้ามบาง ๆ   ขอบคุณที่มันพามาสัมผัสกับสายน้ำเย็น ๆ   เข็มนาฬิกาเดินเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ  แป๊บ ๆ ก็จะสองชั่วโมงแล้ว  น่าเสียดาย  รู้งี้จ่ายสักสามชั่วโมงก็ดี  แต่ถึงอย่างนั้นผมก็เห็นไอ้ไปป์กับไอ้คินนั่งสลอนรออยู่ที่เสื่อเรียบร้อยแล้ว  เตรียมใจโดนมันแซวตั้งแต่เนิ่น ๆ เลยดีกว่ากู

   “ฟาร์ครับ” อาร์ทเรียกผมก่อนที่เรือของเราจะกลับถึงฝั่ง “ขอถามอะไรอย่างนะครับ  หวังว่าจะไม่ล่วงเกินไป”
   “อะไร?  อยู่ ๆ ก็ทำหน้าจริงจังขึ้นมา”
   “ถึงตอนนี้...  ลืมเขาได้รึยังครับ” ผมชะงักมือที่กำไม้พายไว้...  คำถามที่ออกมาจากปากอาร์ทเหมือนค้อนหนัก ๆ ทุบลงกลางหัว  ผมเกือบจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่า  ครั้งหนึ่งผมเคยชอบใครอีกคนมากขนาดไหน  มากจนเสียน้ำตา...  มากจนคิดว่าความเจ็บนั้นคงทำให้ตัวเองชอบใครคนอื่นไม่ได้อีกแล้ว...

   และตอนนี้...  ผมกำลังยิ้มอยู่กับใครอีกคน...  โดยที่ไม่มีชื่อของเขาอยู่ในหัวอีกแล้ว...

“ของที่ไม่ใช่ของเรา  ยังไงมันก็ไม่ใช่ของเรา” ผมตอบเรียบ ๆ ก่อนที่เรือจะชนเบา ๆ กับตลิ่ง  อาร์ทไม่ซักไซ้ถามอะไรต่อ  มันขึ้นไปก่อนแล้วหันมาช่วยพยุงผมขึ้นจากเรือ

   เสียงโห่แซวดังมาแต่ไกล  ทุกย่างก้าวที่เดินเข้าไปเหมือนกับเดินผ่านกองทัพสัตว์นรกที่โหยหวน  ไอ้ไปป์เป็นแกนนำม็อบกลุ่มนี้โดยสมบูรณ์  ถึงขั้นยอมไปแท็คทีมกับไอ้คู่หูลูกกรอกเลยทีเดียว  ไอ้เพื่อนนรกเป่าปากแซว

   “เอ๊ะ ๆ   กูก็ว่าทำไมแถวนี้มดมันเยอะจังวะ  นี่ถ้าไปชิมน้ำในคลองท่าจะหวานชื่นใจประหนึ่งผสมเฮลบลูบอย”
   “หวานชื่น  รื่นรมย์”
   “ฮิ้วววววววววววววววววววววววววว~”

   ผมทำหน้าเอือม... “แล้วมึงล่ะ  เป็นไง  ปั่นกันมันหยดเลยล่ะสิ”
   “อู้ว้าวววววววววววววววววววววววว~”
   “ไอ้สองตัวนี้มึงจะอยู่ข้างใครกันแน่วะ”
   “กูแบบนกสองหัวอะ  ใครเปิดช่องมา  กูช่วยซ้ำเติมได้หมด” โอ้โห...  ได้ยินแล้วกูอยากเลิกคบพวกมึงมาก


   เรากลับจากสวนในเวลาเย็นย่ำพอควร  พวกผมจึงแวะกินข้าวแถว ๆ มอก่อนแล้วค่อยสลายตัว  และตอนนั้นเองที่ผมเริ่มรู้สึกว่าไอ้อาร์ทมันเงียบผิดปกติ  คือตามปกติมันไม่ใช่คนจ้อไม่หยุดก็จริง  แต่นี่มันเงียบเกินไปแล้ว  ไม่ด่าไอ้พวกนั้นสักคำตอนที่โดนแซวด้วย

   เม็ดเหงื่อผุดขึ้นที่หน้าผากผมเป็นหยด...  บรรยากาศในรถเงียบเหมือนเคย  แต่มันตึงเครียดอย่างที่ไม่เคยเป็น  อาร์ทเอาแต่มองไปบนถนนเบื้องหน้า  สนใจแต่พวงมาลัยในมือ  ส่วนผมก็เล่นเข็มขัดที่พาดอยู่บนบ่า  เอาแต่จด ๆ จ้อง ๆ อยู่แถวช่องแอร์...  บ้าชะมัดเลย  เราไม่เคยตกอยู่ในสภาพนี้มาก่อน  ผมไม่เคยคบกับใครมาก่อนเสียด้วย...  แล้วจะรู้ได้ไงว่าเวลาที่มันงอนไม่มีสาเหตุแบบนี้  ผมควรจะทำอย่างไรดี?

   ไม่มีสาเหตุงั้นเหรอ...  ไม่สิ...  มันเริ่มเงียบตั้งแต่ตอนขึ้นจากเรือ...

   สมองผมเริ่มประมวลผลช้า ๆ   อ่า...  ต้องเป็นเรื่องที่มันถามก่อนขึ้นจากเรือแน่ ๆ   เรื่องของแซ็ก  ต้องใช่แน่ ๆ   คำตอบที่ผมตอบออกไปมันคลุมเครือเหลือเกิน  ว่าจริง ๆ ’ลืมได้’ หรือ ’ต้องลืม’ กันแน่?  ตายล่ะสิ...  ผมจะบอกมันยังไงดีวะ  ผมลนลานขยับตัวยุกยิกหาทางออกให้ชีวิต  ถนนเส้นนี้มุ่งหน้าไปบ้านมัน  อีกไม่กี่กิโลเมตรก็คงจะถึงแล้ว


ออฟไลน์ Indigo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1030/-7

   “อะ... อาร์ท”
   “ครับ?”
   “กะ... กูลืมคืนหนังสือว่ะ  ระ... ร้านตรงหลังมออะ”
   ไอ้อาร์ทเลิกคิ้ว “งั้นเดี๋ยววนกลับไปคืนหนังสือก่อนนะครับ”
   “อืม...”

   โกหกไปแล้ว...  โกหกไปแล้ว  เอาล่ะ  ผมจับเวลาตัวเองจากที่นี่ไปมอใช้เวลาราวยี่สิบนาทีได้  ถ้ารถติดไม่มาก  ต้องทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะ...  ว่าแต่ทำอะไรดีวะ  แม่ง  กูไม่มีแผนสำรองนะเว่ย!

   “อาร์ท...  เอ่อ...”
   “ครับ?”
   “รถติดชิบหายเลยเนอะ...”
   “นั่นสิครับ  แปลกนะครับ” มันหันมามองผม “วันนี้ฟาร์ไม่เห็นด่าเรื่องรถติดเหมือนวันก่อน ๆ เลย”
   “...”

   แม่งเอ๊ย!  มันแกล้งผมเปล่าวะ!?  มาทักเรื่องด่าอะไรตอนนี้  กูเครียดเรื่องมึงอยู่  จะมีอารมณ์ไปด่าใครนอกจากด่ามึงเล่า  ถึงผมจะไม่ซึนแบบไอ้ไปป์  แต่ไอ้การง้อคนอื่นก่อนมันก็ไม่ใช่เรื่องถนัดเอาเสียเลย  จนแล้วจนรอดผมก็นั่งเอาหน้าผึ่งแอร์จนมาถึงร้านเช่าหนังสือ

   “ถึงแล้วครับ  เอาหนังสือไปคืนสิ  ผมรออยู่บนรถนะครับ”
   “อ่า...” หนังสือเชี่ยไร...  ผมไม่มีครับ “เอ่อ...  อาร์ท  กูลืมเอาหนังสือมาจากบ้านว่ะ”
   “ครับ” มึงจะไม่พูดอะไรให้มันมากกว่านี้เหรอ  ผมถอนหายใจออกมายาว ๆ
   “งั้น...  เอ่อ...  ไป... ไป...”
   “กลับบ้านรึเปล่าครับ?”
   “แวะเอาของที่ชมรมหน่อยสิ”
   “ครับ”

   เอ่อ...  สถานการณ์มันคุ้น ๆ   แต่กลับกันที่รอบนี้ผมเป็นฝ่ายที่หลอกให้มันขับรถวนแทน  เอาวะ!  ถือว่าเอาคืนละกัน  มันจะได้รู้ซะมั่งว่าการขับรถโดยไร้จุดหมายมันน่าโมโหขนาดไหน  พอรถไปถึงตึกชมรมผมก็ต้องแกล้งขึ้นตึกไป...  เอาวะ!  เก็บฟลุตกลับบ้านก็ได้  เดี๋ยวมันจะหาว่ามีพิรุธ  พอลงมาจากตึกสารถีจำเป็นก็ออกมายืนพิงรถรอผมอยู่แล้ว

   “ไปไหนต่อเหรอครับ?” มันยักคิ้วให้  เหมือนจะเป็นการบอกว่ารู้ทันที่ผมหลอกพามันขับรถวน...  เอาสิ  รู้ก็รู้ไปเลย
   “แวะซื้อขนมปังที่หน้ามอหน่อยดิ๊  เนียร์มันบ่นอยากกินมาหลายวันแล้ว”
   “ครับ”

   จากแผนการง้อมันกลายเป็นสงครามประสาทไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้  ผมกับมันจ้องตากันผ่านกระจกด้านหน้า  พลางกระตุกยิ้มโดยไม่ได้นัดหมาย...  เหมือนต่างคนต่างรอดูว่าใครจะตบะแตกก่อนกัน  จากร้านขนมปังหน้ามอ  วนมาที่คณะบริหารฯ  ต่อที่ร้านนมสดหลังมอ  แล้วกลับไปจ่ายเงินค่าเน็ทที่เซเว่นอีกที  จนตอนนี้เวลาล่วงเลยไปเกือบห้าทุ่มแล้ว  ให้ตายเหอะ...  ผมเล่นบ้าอะไรอยู่เนี่ย

   ผมปิดประตูรถเบา ๆ แล้วทิ้งตัวลง  สมองกำลังประมวลผลว่าจะหลอกมันไปที่ไหนดี “ไป...  เอ่อ...”
   “ผมมีที่ที่อยากไปอยู่ครับ...  หวังว่าฟาร์จะยังคิดธุระไม่ออกตอนนี้นะครับ” จงใจเน้นคำซะเหลือเกิน  ผมยักไหล่...  ก็เอาสิ  อยากรู้นักว่ามันจะพาไปไหน

   ลูกรักของผมเลี้ยววนกลับมาในมหา’ลัยอีกครั้ง  ถ้ามันมีปากมีเสียงได้  คาดว่ามันคงด่าผมเละไปแล้ว  พ่อขอโทษจริง ๆ นะลูก  พ่อหลวมตัวไปท้าทายอำนาจมืดเข้าแล้วลูก...  ผมมองออกไปนอกหน้าต่างก็พบกับป้าย ‘คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์’ เต็มตา...  มันคงมาเอาอุปกรณ์อะไรที่คณะล่ะมั้ง  แต่ผิดคาดครับ...  มันขับเลยออกไปบนเนินด้านข้างคณะแทน  ซึ่งเป็นถนนที่ขนาบข้างด้วยต้นไม้รกครึ้มตลอดทาง  ผมกลืนน้ำลายเอื๊อก  รู้สึกว่าชีวิตและทรัพย์สินของตนชักจะไม่ปลอดภัยแล้ว

   “อาร์ท...  มึงจะไปไหน” เห็นแล้วอยู่ไม่สุขแล้วครับ  ผมปลดเข็มขัดนิรภัยด้วยสัญชาตญาณการเอาตัวรอด  ไอ้อาร์ทหัวเราะเย็น ๆ ตอบ
   “กลับสู่จุดเริ่มต้นไงครับ”

   แกร๊ก...  เสียงล็อกประตูดังเป็นเอฟเฟ็คต์เหมือนในหนังผี  ในขณะที่แอร์ลดอุณหภูมิลงเรื่อย ๆ แต่เหงื่อผมกลับแตกพลั่กไปหมด  ไอ้กลับสู่จุดเริ่มต้นนี่มันอะไร?  จะพาผมไปเกิดใหม่รึไง...

   ผมก้มหน้ามองปลายเท้าตัวเอง...  เอาไงดีวะ  มันล็อคประตูไปแล้วด้วย  ไม่น่าตัดสินใจพลาดเพียงเสี้ยววินาทีเลย...  มีดทำครัวที่ม้าฝากซื้อก็ดันเอาไปเก็บเมื่อวานแล้วซะด้วย...  แล้ว...

   “ฟาร์...  ฟาร์ครับ”
   “ฮะ!?” ผมกระเด้งตัวขึ้นจากเบาะ
   “ถึงแล้วล่ะครับ”

   เสียงนั้นเรียกให้ผมเงยหน้ามองไปรอบ ๆ   สถานที่ในความทรงจำที่ไม่ได้มาเสียนานปรากฏอยู่ตรงหน้า  ใช่แล้ว ‘ฐานทัพลับ’ ของผมนี่เอง  พอมันปลดล็อกผมก็รีบโดดลงจากรถแทบไม่ทัน  ผมชอบอ่างเก็บน้ำนี่ที่สุดในมหา’ลัยแล้ว  ผมกางแขนออกกว้าง ๆ แล้วสูดอากาศเย็นสดชื่นให้เต็มปอด...  ฮ้า~  ให้ตายเหอะ  คิดถึงชะมัดเลย  ปกติทุกครั้งที่ไม่สบายใจผมจะต้องมาที่นี่เสมอ...

   แล้วที่ไม่ได้มาซะนานเนี่ย...  แสดงว่าผมหายไม่สบายใจแล้วงั้นหรือ?

   พอคิดแบบนี้ขึ้นมา...  ก็รู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไปจากเมื่อหนึ่งปีก่อนชะมัดเลย  ผมไม่ใช่ไอ้เด็กหัวเห็ดคนเดิมที่เอาแต่หมกตัวอยู่ในโลกของตัวเอง...  แอบหนีมานั่งร้องไห้คนเดียว  แม้ว่าจะไม่ได้มากมายนัก  แต่การก้าวเดินออกไปครั้งนี้ทำให้ผมเติบโตขึ้น

   ความเจ็บปวดที่เคยได้รับมันมากแค่ไหน...  ทำไมจะจำไม่ได้ล่ะ  การแอบรักข้างเดียวแล้วเขาไม่สนใจมันทรมานแค่ไหน...  ทำไมจะไม่รู้  ถ้าวันนั้นผมเลือกที่จะจมอยู่กับความเศร้าปริมาณมหาศาลขนาดนั้น  ผมก็คงไม่มีวันนี้  โชคดีจริง ๆ ที่ขว้างมันทิ้งลงน้ำไปได้...

   “คิดถึงวันนั้นจังเลยนะครับ” อาร์ทปิดประตูรถแล้วเอนตัวพิง “ผ่านมาจะเป็นปีแล้วสินะครับ”
   “นั่นสิ...  เวลามันผ่านไปเร็วจริง ๆ ” ผมเปิดประตูรถคว้าเอากล่องฟลุตที่แวะเอามาจากชมรมเมื่อกี้มาถือไว้  เวลาเจอธรรมชาติแล้วอารมณ์ศิลปินมันขึ้นอย่างบอกไม่ถูกครับ  ผมออกปากชวน “ไปนั่งใกล้ ๆ กันเหอะ”
   “ครับ”

   เราเดินกันเข้ามาใกล้ขอบอ่างมากขึ้น...  ไม่มีบทสนทนาใด ๆ นอกจากเสียงสวบสาบของหญ้าที่แหวกออกเท่านั้น  ผมทิ้งตัวนั่งลงบนพื้นซีเมนต์เย็นเยือกแล้วมองออกไปยังผืนน้ำสีดำสนิท  ใจมันรู้สึกสงบอย่างบอกไม่ถูก  จนกล้าที่จะเอ่ยปากถาม

   “อาร์ท...  มึงโกรธกูรึเปล่า?”
   “เรื่องอะไรล่ะครับ” อาร์ทไม่ได้นั่งลงข้าง ๆ ผม  มันเลือกที่จะยืนอยู่ใกล้ ๆ แล้วแหงนหน้ามองท้องฟ้าแทน
   “เรื่องบนเรือเมื่อตอนเย็น  ที่มึงถามว่ากูลืม ‘เขา’ ได้รึยัง”
   “อ๊อ” อาร์ทหัวเราะเย็น ๆ “ทำไมถึงคิดว่าผมโกรธเรื่องนั้นล่ะครับ”
   “ก็มันจะมีเรื่องไหนอีกล่ะวะ  อีกอย่างเรื่องนี้กูตอบมึงไม่เคลียร์เองด้วย...”
   “ครับ...”

   นี่จะเล่นสงครามประสาทกันจริง ๆ ใช่มั้ย?  เออ...  กูยอมพูดก่อนก็ได้ “กูไม่ได้รู้สึกอะไรกับมันอีกแล้วล่ะ  มันอาจจะรู้สึกแปลก ๆ เวลาเจอหน้ากันในชมรม...  คล้าย ๆ ว่าคุยกันไม่สนิทใจเท่าไหร่  เหมือนแผลใหญ่  ที่แม้ว่าจะผ่านไปนานก็ยังเหลือรอยแผลเป็นทิ้งเอาไว้”

   ผมไม่ใช่คนเข้มแข็งอะไรขนาดนั้น...  ถ้าจะให้พูดว่าเป็นเพื่อนกันได้น่ะ  มันออกจะละครเกินไปครับ  ความรู้สึกที่เสียไปมันเอากลับคืนมาไม่ได้หรอก...

   “เมื่อปีที่แล้วกูนั่งอยู่ตรงนี้...  ที่เดิม...  กูร้องไห้ฟูมฟาย  เสียใจกับความรักที่ไม่สมหวัง  คิดแต่ว่าเพราะตัวเองเป็นคนแบบนี้ถึงได้ไม่มีใคร  กูเกลียดตัวเองที่ขี้ขลาด  สร้างเปลือกนอกขึ้นมาบอกว่าตัวเองเข้มเข็ง  ที่จริงกูมันไม่กล้าทำอะไรทั้งนั้น...  ตลกว่ะ  พอลองกล้าไปสารภาพรักครั้งแรกก็โดนเขาหักอกมาเสียอีก”
   “........”
“ตอนนั้นกูคิดว่ามันแย่มาก...  เคยได้ยินที่เขาบอกว่าไม่แข่งยิ่งแพ้  กูก็อยากจะเถียงสุดใจว่าแข่งแล้วแพ้มันเจ็บยิ่งกว่าซะอีก” ผมถอนหายใจยาว ๆ “ตอนนั้นกูคิดว่าคงไม่มีความกล้าจะไปชอบใครอีกแล้วล่ะ  พอกล้าแล้วเจ็บหนักมันก็ฝังใจเข้า...  กูคิดว่าตัวเองเดินมาถึงทางตันแล้ว”

   ผมเงยหน้าขึ้นสบตากับอีกฝ่ายที่ก้มลงมามองตัวเองอยู่เหมือนกัน “แต่มึงก็สอนให้กูรู้ว่า  ถ้าเจอทางตัน  ก็ลองเปลี่ยนไปเดินทางอื่นดูสิ

   อาร์ทยิ้มกว้างให้ผม...  มันเป็นรอยยิ้มที่อบอุ่นเหลือเกินจนอดจะยิ้มตามไม่ได้ “บางที...  ถ้ามึงไม่โผล่มาวันนั้น  กูอาจจะยังจมอยู่กับโลกทึม ๆ นั่นอยู่เลยก็ได้”
   “ผมนี่เป็นคนดีจังนะครับ”
   “พอมึงพูดแบบนี้แล้วกูไม่อยากจะพูดต่อเลย”
   “พูดต่อเถอะครับ...  นาน ๆ ฟาร์จะพูดอะไรยาว ๆ   ผมชอบฟังเสียงฟาร์”

   ประโยคเลี่ยน ๆ แต่ดันทำให้ผมเขินซะได้  ผมซุกใบหน้าลงกับเข่า  ไม่รู้จะพูดอะไรแทนความรู้สึกในอกเหล่านี้ดี...  ผมพูดไม่เก่ง  และไอ้นิสัยนี้แหละ...  ที่อาจจะทำให้อาร์ทรู้สึกว่าผมช่างไม่ให้ความสำคัญกับมันเอาเสียเลย

   มันจะรู้บ้างไหม?  ว่ามันเองก็สำคัญกับผมไม่แพ้กัน...

   “อาร์ท... กู... กูมีที่เพลงอยากจะให้มึง”

   ผมเหยียดตัวขึ้นยืน  โชคดีจริง ๆ ที่หยิบฟลุตติดมือมาด้วย  ผมรีบเปิดอุปกรณ์หากินมาประกอบกันให้เรียบร้อย  หัวใจที่อกซ้ายเต้นแรงยิ่งกว่าการแสดงต่อหน้าผู้คนครั้งไหน ๆ   ทั้ง ๆ ที่ผมกำลังจะเล่นเพลงให้คนแค่คนเดียวดูแท้ ๆ

   แต่เพราะคนคนนั้นมันไม่ใช่คนธรรมดาน่ะสิ...

   อาร์ทมองผมอย่างสนใจ  แล้วยอมเป็นฝ่ายนั่งลงแทน  มันนั่งเหยียดขาแหงนหน้ามองผมด้วยแววตารอคอย  ผมรู้สึกมือสั่นนิด ๆ ตอนที่จรดริมฝีปากลงเพื่อส่งความรู้สึกไปตามเสียงเพลง...


http://www.youtube.com/v/QP9dbRivPk4?version=3&amp;hl=en_US


ฉันคอยเอาแต่กลัว  ไม่คบใคร  ปิดตัวเอง
หลายคนดี  แต่ฉันไม่ไว้ใจ...
เพราะมองใครต่อใคร  ที่รักมา  จบลงไป
ฉันกลัวทนไม่ไหว  ที่รักเอง


   ผมเคยกลัวกับความรัก...  ไม่กล้าแม้แต่จะลองไขว่คว้า...

มีหัวใจไม่เคยได้ใช้...
จนเหมือนคนที่ไร้... จิตใจ
ปิดตายทุกอย่างเสมอมา...


   ผมอมยิ้มบาง ๆ กับท่อนต่อไปของเพลง...

เธอเหมือนเป็นกุญแจที่หาย...
เป็นเหมือนคนที่ไขประตูให้ฉัน
เปิดใจดวงนี้  เปิดมันด้วยรัก... จากเธอ...


   ดวงตาคู่นั้นฉายรอยยิ้มตอบให้ผม  ขอบคุณนะ...  ขอบคุณที่ทำให้ผมยิ้ม...  หัวเราะ...  และร้องไห้อย่างที่อยากทำ...

ถ้าฉันดีไม่พอ  ไม่เหมือนใครอย่างเธอเจอ
เข้าใจกันใช่ไหม  ที่ฉันเป็น...

มีหัวใจไม่เคยได้ใช้...
จนเหมือนคนที่ไร้... จิตใจ
ปิดตายทุกอย่างเสมอมา...
เธอเหมือนเป็นกุญแจที่หาย...
เป็นเหมือนคนที่ไขประตูให้ฉัน
เปิดใจดวงนี้  เปิดมันด้วยรัก... จากเธอ...


ในที่สุดผมก็เจอ...  กุญแจที่หายไปของผม...

   อาร์ทปรบมือเสียงดังเมื่อบทเพลงนั้นจากผมจบลง  ดวงตามันส่องประกายความสุขอย่างชัดเจน  รอยยิ้มบนใบหน้านั้นช่างแสนอบอุ่น “เพราะมากเลยล่ะครับ”
   “อืม...” เจอสายตาแบบนั้นแล้วไม่รู้จะตอบอะไรดี  หัวสมองมันว่างเปล่าไปหมด
   “ไหน ๆ ฟาร์ก็เล่นเพลงเพราะ ๆ ให้ผมฟังแล้ว...  ผมเองก็มีอะไรอยากจะบอกเหมือนกันครับ” มันว่าก่อนจะยันตัวขึ้นจากพื้น  ใจผมเต้นแรงขึ้นตามจำนวนก้าวที่เคลื่อนเข้ามาหาผมเรื่อย ๆ   อาร์ทโน้มตัวลงมาที่ข้างหูผมจนลมหายใจร้อน ๆ ตัดกับอากาศสัมผัสกับใบหูเบา ๆ   ผมกลั้นหายใจ...

   จุ๊บ...

   มันจูบลงเบา ๆ ที่ใบหูผมจนรู้สึกจั๊กจี้  เหมือนมีกระแสไฟฟ้าแล่นผ่านแว้บหนึ่ง  ผมหลับตาลงรอฟังคำหวานที่ข้างใบหู...

   “ผมรักฟาร์นะครับ!” แต่ไอ้อาร์ทดันหันออกไปตะโกนใส่ผืนน้ำ  ทำเอาผมที่หลับตาพริ้มถึงกับสะดุ้งเฮือก  เฮ้ย!  มึงเล่นมุกนี้เหรออาร์ท “ยังจะมองตาค้างอีกเหรอครับ!  ผมบอกว่าผมรักฟาร์ไงครับ!”
   “เออ!” ผมป้องปากตะโกนออกไปบ้าง
   “พูดอย่างอื่นเป็นมั้ยครับ!?”
   “มึงอย่ามาเรื่องมากกับกูนะ!” บ้าจริง...  กลายเป็นตะโกนแข่งกันซะได้...
   “ผมไม่ได้เรื่องมากนะครับ!  คนเขาบอกรักไม่คิดจะตอบอะไรสักหน่อยเหรอครับ”
   ผมหัวเราะพรวดกับความเอาแต่ใจ “แล้วกูต้องตอบอะไรด้วยเหรอ!”
   “อย่าให้ผมเรียกน้องหนูดีมาช่วยถามนะครับ!”

   อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก  ไอ้อาร์ท!  มึงข่มขู่กูเหรอ  เอาอิน้องหนูดีมาเล่นงานกูอีกแล้วเหรอ  ผมหันควับไปค้อนใส่มัน  ซึ่งมันก็หัวเราะด้วยความสะใจ... “ยะ... อย่ามาขู่กูหน่อยเลยน่า  มุกมันเก่ามาเป็นปีแล้ว”
   “ก็ลองดูครับ” ไอ้อาร์ทยักไหล่
   “มึงนี่มัน...” ไม่รู้จะสรรหาอะไรมาบรรยายดีครับ

   มันเป็นผู้ชายประหลาด  ทั้งนิสัยและการกระทำ...  แต่มันกลับอ่านผมขาดในทุกเรื่อง  เหมือนกับว่ารู้จักตัวผมดีกว่าผมเองซะอีก  ในวันที่ผมเสียใจ...  วันที่ผมมีความสุข...  มันก็คอยอยู่ข้าง ๆ กันมาเสมอ...

   “ขอบใจนะ!” ผมตะโกนออกไป  อาร์ทไม่พูดอะไรนอกจากยิ้ม...  ผมคิดว่ามันคงพอใจกับสิ่งที่ผมบอกแล้วล่ะ  เดี๋ยวสิ...  มันยังไม่จบนะ
   “แล้วก็!” ผมเงียบไปสักพักนึง  ปล่อยให้คนข้าง ๆ มันขมวดคิ้วอย่างงุนงงว่ามีอะไรอีก...  เอาล่ะ!  งานนี้มึงต้องแพ้กูแล้วล่ะอาร์ท...


“กูก็รักมึงเหมือนกัน!”

   ไม่รู้ว่ามันเร็วแค่ไหน  แต่พอรู้ตัวอีกทีหน้าผมก็จมลงไปกับอกมันแล้ว...  สองแขนนั้นโอบกอดผมเอาไว้แน่น  อุ่น... อุ่นเหลือเกินอ้อมแขนนี้  ผมค่อย ๆ ยกมือขึ้นกอดตอบ  พลางซุกใบหน้าลงกับอกมันมากขึ้น...  เราอาจจะกอดกันไม่บ่อยนัก  แต่ทุกครั้งที่กอดก็เหมือนได้เติมเต็มให้กัน  ตอนนี้ก็เหมือนกัน...  อกซ้ายของผมเต้นตุบ ๆ รุนแรงแน่นหน้าอกเลยล่ะ  มันกำลังสูบฉีดความสุขส่งไปทั่วทั้งร่าง...

   สายลมเย็น ๆ ยามค่ำเป็นแรงกระตุ้นให้เรากอดรัดอีกฝ่ายให้แน่นกว่าเดิมราวกับโหยหาไออุ่นจากกัน...  ผมรักกลิ่นอายอบอุ่น...  รักอ้อมกอดอุ่น ๆ ...  รักลมหายใจที่เป่ารดบนศีรษะ...  รักสองมือที่ประคองบนหลัง...

   ผมรักผู้ชายคนนี้...  ไม่ว่ามันจะเป็นไอ้อาร์ท...  ไอ้กัญชา...  ไอ้แบ็กกราวด์แมน...  หรืออะไรก็แล้วแต่

   “ถ้าผมถามว่า...  จูบได้มั้ย?  ฟาร์จะตอบว่ายังไงครับ” ผมหัวเราะกับคำถามเจ้าเล่ห์ในแบบฉบับมัน
   “แค่ ‘ถ้า’ เองเหรอ?”
   “เดี๋ยวนี้ร้ายนะครับ...  เห็ดขี้ควายของผม” มืออุ่น ๆ เชยยกคางผมขึ้นก่อนจะทาบริมฝีปากประทับลงมา...  มอบจูบที่หอมหวานที่สุดให้  มันดูดกลืนริมฝีปากของผมช้า ๆ อย่างอ่อนโยน...  ผมเองก็หลับตาพริ้มตอบสนองจูบมันไปเหมือนกัน  สัมผัสอุ่นชื้นในโพรงปากกวาดต้อนผมไปมาราวกับหยอกเอิน  หัวสมองว่างเปล่าไปหมด....ไม่รับรู้อะไรนอกจากลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดข้างจมูก  ผมงับริมฝีปากมันคืนเป็นการตอบรับสัมผัส อบอุ่น...ไม่เร่งรีบ..ไม่ร้อนแรง...แต่อัดแน่นไปด้วยความรู้สึกในใจ...  เราจูบกันอยู่อย่างนั้น...  ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่  แต่ผมว่าน่าจะเกินสถิติ 120 วินาทีที่ทำเอาไว้ตอนแรกนะ

   อาร์ทผละมาจูบที่หน้าผากผมเบา ๆ ...  ทุกสัมผัสที่มันมอบให้ผมช่างอ่อนโยนอย่างที่ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างมันจะทำได้...  มันยังคงคลอเคลียอยู่กับหน้าผากผมไม่เลิกรา  เอาเถอะ...  ผมก็รู้สึกดีไม่แพ้กันหรอกน่า...

   “ฟาร์ครับ...” ลมอุ่น ๆ เป่าพรมลงบนหน้า...
   “......”
   “ผมก็รักคุณเหี้ย ๆ เหมือนกันครับ”

   เออะ...  คำหยาบครั้งที่สองต่อจาก ’น่ารักเหี้ย ๆ ’ น็อกผมลงไปนอนกับพื้นเรียบร้อยแล้ว...  อาร์ทยื่นหน้าลงมาส่งเสียงหัวเราะเย็น ๆ ใกล้ ๆ ใบหู “ผมแค่พูดคำหยาบเลียนแบบฟาร์บ้างเท่านั้นเองครับ  ไม่ต้องตกใจไปหรอก...  ทำเป็นไม่ชินไปได้ครับ”
   “มึงจะบอกว่ากูผิดว่างั้น?”
   “ก็ไม่เชิงหรอกครับ...  ปกติผมไม่พูดคำหยาบหรอกนะ...”

   เรามองหน้ากันแล้วเผยรอยยิ้มมุมปาก...  พร้อมกับเอ่ยประโยคต่อมาพร้อมกัน...

   “เพราะที่บ้านผมสอนมาดี”


   ขอบคุณอาร์ท...  ผู้ชายที่ทำให้ผมยิ้มได้กว้างที่สุดในชีวิต


Special Room  END


ลูกเมียน้อยจบแล้ววววววว //จุดพลุ// ฮิ้วววววววววววววววววววววววววว
หวังว่าจะกอบกุมหัวใจแม่ยกพ่อกัญชากับน้องเห็ดได้นะคะ//ก้ม//
ขอtalkเรื่องคู่นี้เสียหน่อยดีกว่าเนอะ
อยากให้ทุกคนได้มุมมองดีๆจากน้องฟาร์กลับไปบ้าง  สำหรับคนที่ไม่สมหวังในรัก  อย่างที่ฟาร์บอกว่า“ของที่ไม่ใช่ของเรา  ยังไงมันก็ไม่ใช่ของเรา”
สะท้อนภาพที่ไม่ได้โลกสวย รักแรกพบ หรือแอบรักข้างเดียวจะสมหวังตลอดไป  อย่างที่บอกว่าโลกมันไม่ง่ายค่ะ(ประโยคหากิน ฮ่าๆๆ)
และนั่นแหละ  เมื่อถนนของเราสุดทาง เดินต่อไปไม่ได้....ก็ควรจะหันกลับมารักตัวเองบ้าง  อย่างน้องฟาร์ก็โชคดีที่มีท่านอาร์ท//ยกมือไหว้เหนือหัว// เข้ามาในชีวิต
ทุกความเจ็บปวดจะทำให้เราเติบโตค่ะ....ฟาร์เองก็เช่นกัน  จากที่เคยจมอยู่กับความทุกข์ สุดท้ายเขาก็มีความกล้าที่จะเดินไปบนถนนเส้นใหม่
เขียนคู่นี้จบแล้วแอบใจหาย  ถึงจะเชิดชูพ่อพระเอก แต่เค้าก็รักลูกเมียน้อยสุดหัวใจนะ  พ่อกัญชากับน้องเห็ดขี้ควายของป้า//ทำมือเป็นรูปหัวใจ//
ไม่เป็นไรเดี๋ยวไปจัดหนักตอนรวมเล่ม ฮ่าๆๆ

ฝากถึงคนที่ต้องการซื้อหนังสือ ย้ำ!!สำหรับคนที่จะซื้อจริงๆนะคะ รบกวนทำแบบสอบถามให้คนเขียนหน่อยค่ะ
https://docs.google.com/spreadsheet/viewform?formkey=dHVHaWc5NlNTN1pkX2psQ2pmMW5Jdnc6MQ

ปล.ว่าจะอัพวันที่10ให้ตรงวันเกิดคนเขียน แต่ไม่ทันซะละ  ถือว่าHBDตัวเองย้อนหลังละกันค่ะ ฮ่าๆๆๆ
ปล.ทีนี้ก็เหลือแต่ลูกเมียหลวงแล้ว!!
ปล.แอบเห็นนักอ่านหน้าใหม่ ยินดีต้อนรับค่ะ //กอดดดดดดดดดดดดดดดด//

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
 “เดี๋ยวนี้ร้ายนะครับ...  เห็ดขี้ควายของผม”
อ่านแล้วสำลักน้ำ กำลังเพลินๆ เจอเห็ดขี้ควายเข้าไป
 :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ MinKKniM

  • 난 널 사랑해 동해
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-2
เฮ้ยยย !!! น่ารักเชี่ยๆเลยอ่ะ เขินฟุดฟุด>////<

ตอบแบบสอบถามไปแล้วนะคะ อยากได้มาก เปิดจองเร็วๆน้า รอๆๆๆๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ POPEA

  • Blood Type :: Y
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2010
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
    • http://writer.dek-d.com/popae/writer/view.php?id=794488

ออฟไลน์ Pikky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 492
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-0
:-[  สวีทททททททททททททท   
กำลังอิน แต่พอเจออาร์ท แต่ละคำ
..เห็ดขี้ควายเอ่ย ..รักคุณเหี้ย ๆ..ที่บ้านผมสอนมาดี  สะดุด กึก!เลย

แต่นี่แหละเสน่ห์ของอาร์ท อิอิ :กอด1:

ออฟไลน์ special

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 261
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-3
โอ่ยยยย น่ารักมากกกกกกกกกกกกกก บอกรักกันแล้ววววววววว

ฟาร์ก็ง้ออาร์ทได้น่ารักที่สุดเลยยยยยยยย อ่านแล้วเขินตามอ่ะ

IchigO15

  • บุคคลทั่วไป
รักคู่ลูกเมียน้อยที่สุด!!!! >//////////<


คู่นี้จริงๆแอบกลัวอาร์ตมาก อ่านตั้งแต่ตอนแรกๆมารู้สึกถึงรังสีทะมึน..ww /แต่ยังไงก็ชอบอยู่ดี ♥♥♥

รักคนแต่งมากกกกกก ขอบคุณนะคะ ♥


เห็นแบบสอบถามมาแล้ว ใกล้ถึงตอนจบแล้วสินะคะ ใจนึงก็อยากได้หนังสือเร็วๆ อีกใจก็อยากอ่านต่อแบบนี้เรื่อยๆ ,,.__.,, ก็ภคินไปป์มันน่ารักเกิน ทำยังไงได้เน้อคะ ♥


aoommy

  • บุคคลทั่วไป
ตอบแบบสอบถามไปแล้วนะ อยากบอกว่ารักเรื่องนี้จริงๆๆ

ออฟไลน์ nn~~NN

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-1
แล้วลูกเมียน้อยก็หวานซ้าาาา แฮปปี้  :L2:
Hbd คนเขียนย้อนหลังด้วยนะคะ

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
อาร์ทฟาร์หวานนะเนี่ย

Cacao

  • บุคคลทั่วไป
ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกก โอเคขอบอกว่าตอนนี้สวีทเว่อออออออ สวีทมากกกกกกกกก =///=
แต่คนอ่านขำนำแล้วอ่ะ 55555555555555 คือขำนำไปไกลมากตั้งกะเจอลักยมขึ้นมาบนรถ
ตลกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ขอบอกว่าเราทรมานจริงๆที่มานั่งอ่าน DND
ตอนตีสอง เพราะมันเงียบมาก แล้วเราหัวเราะดังมากไม่ได้ 5555555555 คือนั่งกลั้นขำจนปวดท้องอ่ะ
พอเราหัวเราะเสร็จก็ต้องมานั่งเขินกับอาร์ทฟาร์ โอ้ยยยยยยยยย น่ารักไม่ไหวและ ฮ่าๆๆๆ
ตอนก่อนจบนี่ฟินมากอ่ะ 555 โคตรน่ารัก ไม่เคยอ่านคู่ไหนบอกรักกันได้ขนลุกและน่ารักในเวลาเดียวกันแบบนี้
ถึงจะจบแล้วแต่ยังวนกลับมาอ่านได้เรื่อยๆนะคู่นี้ 5555 มันเป็นอะไรที่แปลกดี ชอบอ่ะะะะะะะะะะะะ
กันต์โจ้นี่ยิ่งชอบ มันตลกมากจริงๆนะ แบบทุกสิ่งทุกอย่างที่ไอสองคนนี้ทำ มันฟินจรงๆ หัวเราะให้ตายเลย !

ออฟไลน์ ❥ʞαxiќɒ。

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
น่ารักเชรี้ยๆเลยค่ะ !!
อาร์ทมีการงอนด้วยย ! 555555555
โถๆ... แซ็กมันเป็นอดีตไปแล้ววว ! อย่าคิดมากสิจ้ะ พ่อกัญชาา  :o8:

ชอบตอนเถียงกัน.. น่าร้ากกก~
แต่พายเรือสองชั่วโมง.. ถ้าฟาร์กล้ามขึ้นฉันจะไปบีบคอแก๊นายอาร์ททท !!!

ตอนฟาร์บอกความในใจเขินมากก !
แบบหน้าแดงไปหมดอ่านๆหยุดๆ มันเขินจนจะอ่านต่อไม่ไหว 555555555

เห็ดน้อยน่ารักก น่าเอ็นดู น่าแกล้งงงมากอ่ะ !
ถ้ามีแฟนแบบนี้นะ.. จะแกล้งให้หนักเลยย xD (โรคจิต 55555)

จูบกันครั้งที่สองแล้ววว... หนึ่งปีจูบกันสองครั้ง.. ค่อยเป็นค่อยไปจริงๆ UU 555555

ที่ว่าจะ 'จัดหนัก' ตอนรวมเล่มนี่.. จะมีฉากนั้นที่เรารอคอยอยู่ด้วยรึเปล่าคะ ? อร้ายยย >////<
จริงๆแล้วเป็นคนเฉยๆกับเอ็นซี ปกติจะไม่ได้อยากอ่านมากมายนัก.... (ยกเว้นบางคู่ที่มันลุ้นเยอะๆ หรือน่ารักๆ)
แต่กับคู่นี้..... โคตรอยากอ่านอ่ะะ !!!!!!!
คือมันจินตนาการไม่ออก ว่าคนอย่างอาร์ทมุมหื่นๆมันจะเป็นยังไง ? เลยทำให้อยากรู้มากก !! แล้วแถมฟาร์ยังเวอร์จิ้นอีก... >///<

และที่สำคัญ... เราชอบเห็นพระเอกหึงงง !!! ยังไม่ได้เห็นอาร์ทหึงเลยย (ภคินหึงบ่อยแล้ว ชิชิ!) ตอนนี้เหมือนจะแอบหึงงอนๆก็จริงแต่อยากเห็นแบบหึงขั้นเต็มแม็กซ์!! ในเล่มนะคนเขียน ช่วยเก็บไปพิจรณาด้วยนะๆๆๆ *เกาะแขนน้ำตานองหน้า* สงสารคนอ่านตาดำๆเถอะ ! 55555

คู่นี้จบซะแล้ว ใจหายวาบบบ... เหลืออีกกี่ตอนเนี่ย ฮือออ T___________________T

รักคู่นี้มากๆ ! รักฟาร์น้อย♥ รักอาร์ท♥(น้อยกว่าฟาร์..)
แต่รักคนเขียนที่สุด ♥♥♥♥♥ จร๊วฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ >3<

ออฟไลน์ MoMoRin

  • I am Fujoshi! (・∀≦)ゞ
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-2
ลูกเมียน้อยแอบมาหวานกันบ้างอะไรบ้างเหรอเนี่ยยยน ฮ่าๆๆๆๆ // นานๆจะมาสวีทหวานวี้ดวิ่วกันเนาะสองคนนี้อ่ะ ก็ยอมๆถูกแซวบ้างละกันนะคะ โฮะๆๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด