Mission Impossible on Songkran
“เวรแล้ว!! ฉิบหาย ตายโหง โลงยังไม่มี!!!!” ด้วยเสียงหลายร้อยเดซิเบลของผมทำให้มนุษย์ที่นอนตากพัดลมสลบเหมือดต้องเปิดประตูห้องออกมาด้วยความตกใจ
“อะไรวะ!! ใครบุกมาปล้ำมึงเหรอ!!”
“ปล้ำพ่องงงงงงงง” ดูสมองถั่วเขียวของมันคิดมาได้แต่ละอย่าง...
พอคิดถึงสาเหตุที่เรียกมันมาผมก็หันกลับไปมองสิ่งตรงหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า ตู้สี่เหลี่ยมพ่นไอเย็นใส่หน้าช่วยเยือกแข็งสติของผม.... ผมเอ่ยถามด้วยมืออันสั่นเทา...
“ภคิน.........มึง....แดกข้าวกล่องไปหมดเลยเหรอ....”
ไอ้พระเอกยืนพิงขอบประตูอ้าปากหาวเห็นไปยันลิ้นไก่ ก่อนจะยกมือขึ้นเกาคอ “....เออ....เมื่อวานไอ้โจ้ไอ้กันมาที่ห้องละ.......”
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก...ไอ้เชี่ยเอ๊ยยยย!!” ไม่รอให้จบประโยคผมทึ้งหัวตัวเองจนเส้นผมแทบหลุดติดมือก่อนจะทรุดตัวร่ำไห้หน้าตู้เย็น “มันแดกเสบียงสงกรานต์ไปหมดเลย!!!”
“ก็ไม่เห็นยากเลย....มึงก็ไปซื้อใหม่สิ”
“ไม่ !!!” ผมตะโกนลั่น...คาดว่าไอ้ข้างห้องมันต้องสาปส่งอยู่เป็นแน่ ผมชี้ลงไปที่ขาตัวเอง “แผลที่กูล้มตอนเตะบอลเมื่อวานหมอห้ามโดนน้ำ”
“ภคินเลิกคิ้ว “แล้ว ?”
“มึงต้องเป็นคนออกไปซื้อเสบียงมากักตุน รับผิดชอบที่เลือกคบเพื่อนชั่วอย่างพวกมัน!!”
“ไปป์เอ๊ย...” ภคินส่งเสียงจุ๊ ๆ “กูก็ไม่อยากจะเผยสิ่งนี้ให้มึงดูหรอกนะ แต่มาถึงขั้นนี้แล้วก็ช่วยไม่ได้”
“เฮ้ย!! ถอดกางเกงทำไม!!” ไม่พูดพร่ำทำเพลง พ่อปลดเชือกที่ผูกเอวอย่างโปรเฟสเชอนัล “ภคิ้นนนนนนน!! กูไม่อยากดูมึงเคารพธงชาติ!!”
มุมปากบางกระตุกยิ้มโรคจิต วิปริต วิปลาส...มันถือขอบกางเกงแลค้างไว้กลางอากาศ “ดูซะให้เต็มตา...”
“ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!!!!!!!!” พรึ่บบบบบบบบบบบบบบบบบ.... กางเกงผ้าแพรร่วงตามแรงโน้มถ่วงของโลกลงไปกองที่ข้อตีน ผมอ้าปากค้างราวกับมีตัวอักษรศีลธรรมขึ้นว่า ‘ผ่างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง’ ตรงด้านหลัง อ้าว...แล้วทำไมมึงไม่ขึ้นข้างหน้าครับ!! กางเกงในห่านคู่สีขาวขึ้นหรากระแทกเข้ามาตรงสองตาจนแทบกระอักเลือด...
“ดูอะไรของมึง...” ไอ้ใจกามกอดอกเหมือนว่ามันไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดในชีวิตเลย “กูจะให้มึงดูนี่...” ว่าแล้วไอ้พระเอกก็ชี้ลงไปที่น่องแน่น ๆ ของมัน.....
รอยแดง ๆ โชว์หราอยู่ตรงนั้น....พร้อมตุ่มใสขึ้นอย่างน่ารังเกียจ รอยเลือดซิบ ๆ ยังไม่แห้งดีเลยด้วยซ้ำ....นี่มันรอย...
“ท่อไอ้เน่านาบกู” ภคินสบถ “เลี้ยงเปลืองน้ำมันจริง ๆ”
“นั่นมึงโง่เอาไปโดนเองไม่ใช่เรอะ !!!” แล้วแผลมึงนี่นะ...เด็กแว้นแบบออริจินอลจริง ๆ “แล้วแผลอยู่ที่น่องมึงจะถอดกางเกงหาพ่อเหรออออ!!”
“เพื่อความตื่นเต้น” มันยักคิ้ว “แล้วก็ดูจะได้ผล มีคนสนใจซะด้วย”
“ที่แน่ ๆ ไอ้คนนั้นต้องไม่ใช่กู !!!”
“เฮ้อออออออออออออออออ...ปากแข็งจริง แฟนใครวะ” ว่าแล้วมันก็เดินถอดแถ่ดทั้งที่กางเกงคาอยู่ที่ข้อตีน
“ใส่กางเกงก่อนเลยว้อยยยยยยยยยยยยยยยย !!!!”
ภาพตัดกลับมาอีกครั้งในห้อง 330 ที่สงครามใส่กางเกงเพิ่งจะสิ้นสุดลง หัวเหอสมาชิกในห้องกระจุยราวกับไปฟัดกับหมามา....ไม่สิ!! เรียกว่าไปฟัดมาเรียบร้อยดีกว่า ผมปรายตามองกางเกงเลที่ผูกปมหลวม ๆ อย่างโล่งอก แต่จะลืมปัญหาใหญ่ตอนนี้ไม่ได้
“แล้ว....จะแดกอะไรกันวะ...” สมองพยายามประมวลผล ก่อนผมจะดีดนิ้ว “รู้แล้ว!! มาม่าที่ซื้อตุนไว้”
ว่าแล้วก็วิ่งไปที่ข้างซิ้งค์ล้างจานล้วงอาวุธลับออกมา...กล่องมา......
เชี่ยแม่มมมมมมมม ทำไมมันหายไปไหนโหม๊ดดดดดดดดดดดดดด !!!! “คืออาทิตย์ก่อนพวกกูลองสูตรต้มมาม่าแบบแปลก ๆ อะ” ไอ้นรกบนโซฟาอธิบาย “ต้มกับโค้ก สไปร์ท น้ำองุ่น แล้วก็ได้ข้อสรุปว่าต้มกับน้ำเปล่าดีสุด”
“ดีพ่องงงงงงงงงงงงงงงง กูจะเอาหัวมึงไปต้มแดกแทนมาม่าแล้วไอ้ภคิน !!”
“โหยยยย...มึงก็เครียดไปไอ้ไปป์” ดูจากหน้าแล้วมึงคงไม่เคยเครียดอะไรเลยสินะ “มันจากไปยากอะไร้...โทรสั่งมาแดกซะก็สิ้นเรื่อง”
ว่าแล้วร่างสูง ๆ ของมันก็เดินดุ่ม ๆ ไปหยิบโบรชัวร์เป็นปึกที่ขโมยมาไว้รองพื้นเวลาทำโมเดล “จะแดกไร พิซซ่า เคเอฟซี”
“ภคิน...มึง....”
“............”
“มีตังเหรอ.....”
มันมองตอบด้วยสีหน้าเฉยชา
“ไม่มี และไม่เคยมี”ถุยยยยยยยยยยยยยยยยยยย !!!! แล้วมึงจะสั่งพิซซ่ามาแดกกูอยากจะเอาโบรชัวร์ปาดคอตาย “ไปป์...มึงก็ไม่มีเหรอ...”
“ก็ไม่มีสิวะ !!!” ผมตบโซฟาจนกระดูกมือแทบแตก “ก็กูซื้อมาตุนให้ไอ้ลูกกรอกนั่นแดกไปแล้วไง!!! ที่เหลือต้องไปกดเอา!!”
ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ.......หายนะคืบคลานเข้ามาใกล้เพียงปลายจมูก มีเพียงสองสายตาที่ปะทะกันกลางอากาศมีสะเก็ดไฟแล่นแว้บ ๆ พร้อมควันขโมง....ในที่สุดก็เกิดเสียงดังสนั่น...
โครกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก.... “ดะ...แดกเนื้อเดียวดายได้มั้ยวะ...”
“เดียวดายไม่ใช่แดดเดียวไอ้ภคิน !!” แล้วกูก็ยังไปตบมุกกับมันอีกนะ.... ผมกุมขมับถอนหายใจออกมายาว ๆ
กระผม.....นายวิรัลขอประกาศวิกฤตการณ์อาหาร ณ จุดนี้ !!!..........................................................................
.............................................
.........................
..........
“บัตรเอทีเอ็ม”
“พร้อม !!”
“ถุงพลาสติก”
“พร้อม !!”
“ไอ้เน่า”
“พร้อม !! ...แต่เอ่อ...น้ำมันใกล้หมดแล้วนะมึง ไปไกลไม่ได้นะเว้ย”
โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยย...กูอยากจะตบหน้าผากให้กะโหลกยุบ!! ไอ้พระเอกนั่งคร่อมบนมอเตอร์ไซค์ ใบหน้าหล่อเหลาแสยะยิ้มที่มุมปาก ประกอบกับเสื้อกล้ามโชว์ต้นแขนแน่น ๆ สาวเกือบจะกรี๊ดแล้วเชียว!!!.....
ถ้ามึงไม่มีถุงพลาสติกมัดน่องไว้เป็นท่อน !!! แถมถุงบิ๊กซีด้วยนะ...เขียวมาแต่ไกลเลยมึง แต่จะว่ามันฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ กล้องแพลนลงต่ำมาที่หน้าแข้งผม..ถุงเซเว่นเกือบสิบถุงมัดแล้วมัดอีกประหนึ่งผ้าเจ็ดสีบูชาต้นไม้
นี่กูต้องออกไปสภาพนี้จริง ๆ เหรอวะเนี่ย.... “ขึ้นมาเร็ว ๆ!!” เลือดเย็น...ไร้ความปรานี.....ผิวหน้าของไอ้ภคินนั้นแข็งแกร่งเหนือสิ่งใด เมื่อไม่มีทางเลือกปากท้องมันเรียกร้อง...ผมก้าวขาควบมอไซค์ในตำนานพร้อมสวดภาวนาในใจ “กอดเอวก็ได้นะ”
ผมอัดสันมือลงกลางหลังมัน “ออกรถ”
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ” แหม....บันเทิงเหลือเกินนะมึงเนี่ย...
ไอ้เน่าค่อย ๆ กลิ้งวงล้อไปตามทางลาด หัวใจของผมเต้นแรงขึ้นพร้อมปลายนิ้วจิกลงบนหน้าตักด้วยลุ้นระทึก แค่ออกไปเกยถนนเท่านั้นจังหวะอันคุ้นเคยก็ดังกระแทกหู
ท่านกำลังเข้าสู่บริการรับฝาก ฮิป ฮิป หัวใจ
ลงทะเบียนฝากไว้ตัวเอากลับไป ใจให้เก็บรักษา ฮิป ฮิป
ยอมจำนนเธอแล้ววันนี้แค่แรก ฮิป ฮิป เห็นหน้า
ฝากไว้กับฉันนะหัวใจของเธอ แลกเบอร์โทร โอ๊ะ โอ โอยยยยยย ฮิป ฮิป ฮิป ชัดเลยมึง!! เวอร์ชั่นสิบล้อซะด้วย กูตายยยยยยยยยยยยยย แผลแหวะภายใต้ถุงพลาสติกกรีดร้อง...ผมสัมผัสได้
“ภคิน....”
“อืม...” คนข้างหน้าพยักหน้า “กูว่าเจองานหินเข้าแล้วว่ะ”
บรึ้นนนนนนนนน... ว่าแล้วพ่อก็บิดเครื่องแรงขึ้นเป็นการข่มขู่ศัตรูพร้อมส่งเสริมกำลังใจให้ตัวเอง “จับแน่น ๆ ล่ะ”
เพลงประจำชาติใกล้หูเข้ามาเรื่อย ๆ พร้อมฝูงชนร่วมยี่สิบชีวิตปรากฏเบื้องหน้าด้วยอุปกรณ์ครบมือ ด้วยสภาพเมามายพอประมาณ แต่จะเสี่ยงส่งตัวแทนร่วมเจรจาก็เกรงว่าจะได้น้ำสักขันกลับมาแทน มีแต่ต้องลุยไปข้างหน้าเท่านั้น !!!
ฮู้วววววววววววววววววววววววววว
ฮุ ฮุ ฮู้ววว ฮุ ฮุ ฮุ ฮุ ฮู้ววว ฮุ ฮุ จากตัวเท่านิ้วก้อยภาพมันขยายใหญ่ขึ้นพร้อมหัวใจที่เต้นแรง....ผมจิกเสื้อยืดไอ้พระเอกซะแน่น
บรึ้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน....มันมาแล้วครับท่าน !! ไอ้หัวทองนั่นสะกิดเพื่อนยิก ๆ ให้หันมามองรถน้อย ๆ กลางถนน ผองเพื่อนไม่รอช้าบ้างก็วิ่งไปตักน้ำในตุ่ม บ้างก็ชักปืนรอ ที่หนักสุดคือไอ้เวรที่ก้มลงไปหยิบสายยาง...ถ้าผมไม่ตาฝาดเห็นว่ามันแสยะยิ้มแล้วค่อย ๆ เลื่อนนิ้วโป้งลงมาแตะน้ำ
“มาแล้วเว้ยยยยยย มาแล้วววววววววว”
“ล่อแม่มเลยยยยยยยยย”
“จัดปายยยยยยยยยยยยยยยยยย”
บรึ้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน...... ภคินเร่งเครื่องขึ้นอีกแต่ด้วยสภาพของไอ้เน่าแล้วเอาแค่เข็มแตะ 80 ได้ก็ปาฏิหาริย์แล้ว
“ภคิ้นนนนนน!! เร็วกว่านี้ไม่ได้เหรอวะ!!”
“นี่ข้อมือกูจะหักแล้วนะ...ถ้ากว่านี้ก็แฮนด์หลุดแล้วมึง” โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยย!! ศักยภาพต่ำเตี้ยทั้งคนทั้งรถ!!
ผมใช้เวลาที่เหลืออยู่ปลงสังขารลาโลก....ไว้อาลัยให้กับความผิดพลาดที่ทำมาในชีวิต ไอ้แซ้บและเด็กแว้นตรงหน้าฉีกยิ้มกว้างเมื่อไอ้เน่าเคลื่อนตัวเข้าไปใกล้พวกมันก็ไม่รอช้า
ซ่า ~~~~~~~~~~~~~~~~~~ผมเห็นสายน้ำโถมเข้าหา...แต่ก่อนที่มันจะได้สัมผัสใคร ไอ้เน่าที่เคยปรามาสไว้ก็หักคอหลบฟ้าบบบบ ตัดเข้าไปอีกเลนที่ไม่มีรถสวนมา ทางน้นไม่ยอมแพ้!! อุดนิ้วลงไปสายยางให้มันไกลกว่าเดิม...
ภคินตะโกน “กอดกูไว้แน่น ๆ” โห...ไอ้ห่า พี่วิน ดีเซลยังต้องยอมมึงนาทีนี้!!! ไอ้กูก็จำยอมสวมบทเป็นนางเอกสอดแขนเข้ากอดมันเต็มรัก
เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด....ล้อเกือบไร้ดอกยางเอียงตัวไปทางขวาเบียดลงถนนชุ่มน้ำ ด้วยองศาที่หักลงกะทันหันทำให้น้ำจากสายยางข้ามหัวเราไป... ไอ้เชี่ยมนุษย์สายยางทำหน้าเหวอที่ปล่อยให้เหยื่อหลุดมือได้... ขับเมพขนาดนี้กัปตันอเมริกายังอาย เท่แสรดดดดดดดดดดดดดดดดดด
“โธ่...กูนึกว่าจะแน่ !!!” นั่น!! มันยังตะโกนท้าทายส่งท้ายให้อีก...สมเป็นไอ้ภคินจริง ๆ
บู่วววววววววววววววววววววววววววววววว~~~~~ เสียงโห่ไล่หลังดังไม่หยุดหย่อน....นี่มันคงแค้นไปถึงบุพการีพวกผมเลยทีเดียว ผมแสยะยิ้มได้ไม่ทันไรจากที่เกาะเอวมันอยู่ก็แทบขยำเข้าไปควักไส้ออกมา
“ภคิน!! ข้างหน้า!!”
“ห๊ะ !!”
แก๊งค์สาวมหาลัยใส่เสื้อลายดอกกำลังเต้นท่าขี้เหล้าอยู่ข้างหน้า...จะหักหลบก็ไม่ได้แล้วรถอีกฝั่งสวนมาเรียบร้อย ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นผู้หญิงเราก็ตองเจรจาเพื่อเสรีภาพ ผมตะโกนลั่น
“อย่าสาดครับ!! ขาเป็นแผล ไม่เล่นครับ!!!” ได้ผลเว้ย !! พวกเธอลดขันในมือลงแต่โดยดี ผมยังไม่ทันจะได้ถอนหายใจโล่งอกก็มีเสียงหนึ่งร้องลั่น
“แก๊ นั่นมันพี่คินนนนนนน”
“โอ๊ย!! ใส่เสื้อกล้ามด้วยแก แน่นมากกกกกกกกก” ทำไมกูจะต้องมากับไอ้คนดังของมหาลัยนี่ด้วย!! ผมอยากจะโดดลงจากรถมันเสียตอนนี้ ไอ้ภคินก็ไม่รู้จะทำไงนอกจากตะโกนไปย้ำ “ห้ามสาดนะครับ!! มีแผลอยู่”
“ประแป้งอย่างเดียวก็ได้ค่ะพี่” นั่นมีต่อรองอีก “นะคะพี่คิน”
น้องอย่าถามในเมื่อมือน้องยื่นมาแปะป้าบกลางหน้าผากสารถีเรียบร้อยโรงเรียนสงกรานต์ ทั้งผมทั้งไอ้ภคินถูกละเลงแป้งไปทั้งหน้า ไอ้ผมน่ะไม่เท่าไหร่....แต่ข้างนั่น...อื้อหือ นิ้วแทบเสียบเข้าไปในรูจมูกมัน ผมเห็นกับตา
“ขอบคุณค่า สวัสดีปีใหม่ไทยนะคะพี่”
พอปล่อยตัวนักโทษ ไอ้ภคินไม่รอช้าที่จะบิดสุดแรงเกิด....
...........................................................................................
.................................................................
......................................
................
บัตรเอทีเอ็มห่อถุงพลาสติกถูกนำมาใช้...ผมกดเงินไปพอประมาณเพราะต้องซื้อข้าวสำหรับสองวันที่เหลือไหนจะออกให้ไอ้ภคินก่อนอีก เราช่วยกันเลือกอาหารแช่แข็งกับขนมถุงและมาม่าไปประทังชีวิตที่เหลืออยู่ ภคินขอให้เพื่อนมันในเซเว่นซ้อนถุงแล้วซ้อนถุงอีก....เอาแบบตกแม่น้ำไนล์น้ำยังไม่สามารถเข้าได้
ขากลับเราสบายกว่าที่คิด เพราะได้สำรวจพื้นที่ตอนขามาแล้วว่ามีฟากไหนเล่นน้ำตรงไหนบ้างเราจึงหักหลบได้สบายมากขึ้น ผมยิ้มอย่างสบายใจเมื่อเห็นว่าอีกแยกเดียวก็จะถึงหอพักแล้ว แต่เดี๋ยว....
ตั้งแต่มาเจอเธอเท่านั้นช่างสุขใจเหลือเกิน เฮอะ เฮอะ ขอร้องให้เธออย่าเมินช่วยรักษาใจ
พี่จ๋าถ้าพูดจริงน้องก็คงรับได้ เฮอะ เฮอะ
ถ้าไม่ได้มาหลอกน้องก็เต็มใจจะรักกัน เฮอะ เฮอะ เฮอะ เฮอะ
พี่ไม่ได้มาหลอกรักของเราจะคงอยู่แสนนานนนนนนนนนนนนนนน แก๊งขอใจแลกเบอร์โทรมันกลายเป็นภูมิแพ้กรุงเทพไปแล้ว และแน่นอนว่าไม่พลาดเวอร์ชั่นรถบั้ม เปลี่ยนเพลงกูไม่ว่า...แต่มึงเปลี่ยนมาตั้งถังน้ำอีกฟากถนนคืออะไร ภคินหันมามองหน้าผม....เพียงเสี้ยววินาทีที่สบตากันไม่ต้องมีคำพูดใดเราก็รู้กันได้ในทันที... ผมจิกเสื้อกล้ามมันแทบขาดคามือ
“เฮ้ย!! ไอ้ที่มันด่าเราเมื่อกี้นี่หว่า !!” ไหนว่าเมา ทีนี้เสือกมาจำได้อีกนะมึง “เล่นมันเลย ๆ”
บรึ้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน.... บางทีข้อมือภคินมันอาจจะซ้นไปแล้วก็ได้ เข็มบนหน้าปัดของไอ้เน่ากระดิกขึ้นมาแตะเลข 80 อย่างอ่อนแรงเหมือนพร้อมจะร่วงลงไปทุกเมื่อ ลมที่ปะทะหน้าเริ่มแรงขึ้นเร่อย ๆ จนผงแป้งบนหน้าแตกร้าวแล้วลอยปลิวว่อน
“สาดไหมสาดดดดดดดดดดด”
“สาดพ่องงงงงง” ผมแหกปากกลับไป “อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก....”
“ถอยเว้ยยยยยยยยยย !!” ภคินตะโกนกลับไปพร้อมใช้ทักษะเด็กแว้นที่ฝึกฝนมาตั้งแต่เกิดหักบิดพร้อมกับเร่งเครื่อง
บรึ้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน....ฟืบบบบบบบบบบบบ... .............ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบสงบเมื่อไอ้เน่าที่เคยสำแดงแสนยานุภาพเมื่อครู่จอดแน่นิ่งอยู่หน้าโอ่งมังกร...
“นะ....น้ำมันหมดว่ะ....” ลิ้นยังไม่ทันเข้าปากขันแรกก็ฟาดลงมา
ซ่า ~~~~~~~~~~~~~~~~~~ “ไปป์!! ระวัง!!” แม้รถจะตายไปแล้วแต่จิตวิญญาณยังอยู่ ภคินเอาขาเหยียบบนพื้นแล้วไถลหักหลบด้านหลังออกราวหลบกระสุนปืนในละครแอคชั่นฟอร์มยักษ์แห่งปีอย่างคิวบิก มวลน้ำจากขันเมื่อครู่เลยฟาดลงไปกลางหน้าหล่อ ๆ เต็ม ๆ
ด้วยแรงควายที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา พ่อของไอ้เน่าถีบตัวไถลถออกไปด้วยสภาพอดสูเช่นนั้น แม้จะโดนกลั่นแกล้งด้วยปืนฉีดน้ำและสายยางก็ตาม ภคินแหกปากลั่นเมื่อใช้พลังเฮือกสุดท้ายดีดตัวออกไปจากวงล้อม
“ย๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก !!!!!!!!!”............................................................................
..................................................
............................
..............
“โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยย อูยยยยยยยยยยยยยยยยยยย..เบา ๆ หน่อย!! หนองจะพุ่งปรี๊ดเข้าลูกตามึงแล้ว”
“ร้องเป็นควายถูกเชือดไปได้” ถ้าแผลอยู่ตรงหน้าคงไม่ร้องขนาดนี้มั้ง เนื้อตรงส่วนนี้ดูจะหนาเป็นพิเศษ
“ก็มึงกดลงมาซะขนาดนั้น ตกลงจะทายาหรือบีบหนองวะ”
“เออ...โทษที...จะเบามือแล้วกัน”
ซากถุงบิ๊กซีชุ่มน้ำปริมาณมหาศาลกองแบอยู่บนพื้นห้อง…..ไม่ต้องอธิบายให้มากความว่าไอ้ภคินนั้นเปียกไปถึงกางเกงในห่านคู่ของมันจนต้องไปเอาขาพาดเก้าอี้อาบน้ำมารอบหนึ่ง ส่วนผมสภาพดีกว่าเยอะ....อย่างน้อยก็เปียกแค่เสื้อยืด แม้ถุงเซเว่นที่พันไว้จะเปียกแต่ก็ไม่รุนแรงพอจะซึมเข้าไปถึงแผลด้านใน
สภาพตอนนี้ไอ้พระเอกสวมเสื้อยืดกางเกงบ็อกเซอร์นั่งเอาขาวางพาดตักผมพลางแคะเศษแป้งในรูจมูกออกมาป้ายทิชชู่ ผมเห็นแล้วอนาถใจเสียดายหน้าตามันเลยขอก้มหน้าทายาให้มันต่อไปดีกว่า....
“เสร็จละ” ผมว่าพลางหมุนปิดฝาหลอดยา
“เหรอ” มันส่งนิ้วก้อยเข้าไปแคะหู
“เออ...เอาขามึงลงไปได้แล้ว” ไม่ว่าเปล่าผมยังผลักขามันออกไปอีก ซึ่งไอ้พระเอกก็ยอมเอาลงไปแต่โดยดี ถ้าคิดว่าเรื่องจะจบแค่นั้นขอบอกเลยว่าคิดผิด !! มันพลิกตัวกลับด้านแล้วทิ้งหัวลงหนุนตักผมแทนตีนเมื่อครู่ ผมทำเสียงเข้ม “ภคิน.....”
“โอ๊ยยยยย...เจ็บขาจังเลย นี่ไม่รู้ว่าเอาน้ำคลองมาสาดรึเปล่า ถ้าขาขาดขึ้นมาแย่แน่ ๆ เลย”
“เว่อร์ไป....แค่เล่นไพ่ไม่ได้เอง” กูนี่ก็ขยันตบมุกมันจั๊งงงงง ภคินหัวเราะหึหึในลำคอที่เห็นผมเล่นกับมันอยู่เรื่อย “แล้วนี่เป็นอะไร ทำไมไม่ไปนอนในห้องดี ๆ”
“เป็นคนน่าสงสารที่แฟนไม่สนใจ ทำตัวเป็นฮีโร่ปกป้องก็โดนด่า ทายาให้ก็โดนรังแก”
“เยอะไป ๆ “ มันซุกหัวลงไถ ๆ กับหน้าท้องผมดังแคว่ก ๆ เหมือนหมาเกาเรื้อน
“คนเค้ารึก็อุตส่าห์ปกป้องแผลโง่ ๆ ที่ไปล้มมา....จะให้รางวัลสักหน่อยก็ไม่มีหร๊อกกกก”
“แผลท่อรถมึงนี่ไม่โง่เลยเนอะ”
“ก็โง่พอกันล่ะวะ” คนโง่สองคนแยกเขี้ยวใส่กัน ภคินแกล้งงอนเป็นสาวน้อยทำฮึดฮัดตะแคงหันออกจากพุงผม ผมรู้ว่ามันไม่ได้งอนจริงหรอก ไอ้เวรนี่ชอบมีลีลาการอ้อนที่ไม่เหมือนมนุษย์ปกติชน
ทำไมจะไม่รู้ว่ามันทำตัวเป็นพระเอกปกป้องผมจากขันน้ำทั้งปวง ถึงวิธีการจะโคตรน้ำเน่าระเบิดภูเขาเผากระท่อมไปหน่อยก็เถอะ ไอ้คนบนตักทำฟึดฟัดไม่เลิก....ลำบากผมต้องกลั้นใจทำอะไรบางอย่าง....ผมหันซ้ายหันขวาทั้งที่ห้องมีมนุษย์แค่สองคนอีกตัวเป็นหมี ก่อนจะก้มลงไป...
จุ๊บ.... บนแก้มมันอย่างรวดเร็วก่อนจะรีบเด้งตัวกลับขึ้นมา แต่ยังเร็วไม่พอไอ้พระเอกที่กดหัวผมลงมาประกบริมฝีปากเข้ามาขโมยจูบ… ดูดดึงกลีบปากซ้ำแล้วซ้ำอีก พอเห็นผมเริ่มคล้อยตามมันก็ได้ใจส่งปลายลิ้นเข้ามา
จูบท่ามกลางอากาศร้อนของสยามประเทศเป็นการฆ่าตัวตายชัด ๆ ลมหายใจร้อน ๆ ยิ่งเพิ่มอุณหภูมิในห้องจนผมหายใจไม่ทันนั่นแหละมันถึงได้ยอมปล่อยออกมา ไอ้พระเอกนอนกระตุกยิ้มประจำตัวก่อนจะเลียริมฝีปาก
“โอ๊ย....ขาเน่าก็ยอมวะแบบนี้” ไอ้ภคิ้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!END
แวะมาลงตามคำเรียกร้องงงงงง เทศกาลแบบนี้ไม่มีพลาดค่ะ สุขสันต์วันสงกรานต์นะคะคนอ่าน ฮิ้ววววววววววว //ประแป้งๆๆ
กลับมาเขียนคินไปป์แล้วรู้สึกคิดถึงบรรยากาศแบบนี้มากเลยค่ะ //////////
เดี๋ยวว่างๆเมื่อไหร่ก็คงมาเขียนอีกแหละค่ะ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่นะคะ (ซะงั้น)
****โซนขายตรง***** ปิดเทอมใครว่างๆอย่าลืมไปอ่านเรื่อง ใส่ รัก ป้าย สี นะคะ เขียนใกล้จบเต็มทีแล้วจ้าาา
แล้วก็ถ้าออกเรื่องนั้นจะรีปริ้นท์เรื่องนี้ด้วยนะคะ(ได้ของเหมือนตอนรีรอบสองค่ะ)
ขอบคุณที่ยังตามอ่านคู่เกรียนๆนี่นะคะ สาระไม่มีเล้ยยยยย 5555
