หลับหูหลับตาคว้าอันที่ใกล้มือที่สุด ทำเป็นหยิบจูปาจุ๊ปส์รสโคล่ามา4-5อันมาช่วยสร้างภาพให้เราดูน่ารักคิขุขึ้น(เพื่อ?) ซื้อถุงยางกับลูกอมนี่เข้ากันจริงๆให้ดิ้นตาย!
ไอ้เด็กเซเว่นที่รื้อๆจัดเหล้าอยู่หลังเค้าน์เตอร์โผล่หัวขึ้นมาคิดตัง
“ทำไมมาซื้อของไกลจังวะ”
หะ....เหี้ยแล้วไง ไอ้ภคินมันทำงานเซเว่นสาขานี้เรอะ!!!!!“....ใต้หอมันไม่มีขาย..” หน้าเน้อนี่ซีดไปหมด เหงื่อออกจนชุ่มง่ามนิ้ว...กูอยากต๊าย!!!
“นี่อะไร?” มันขมวดคิ้วยกกล่องสิ่งของในตำนานขึ้นมา คิ้วหนาๆนั่นขมวดเข้าหากันเหมือนจะคาดคั้นถาม
“ถะ...ถุงยางไง ไม่รู้จักรึไงวะ”
“ซื้อไปทำไม” แล้วมึงจะทำเสียงต่ำเหมือนดุกูทำไมเนี้ย..
“ซื้อไปเป่าเล่น”
มันขมวดคิ้วหนักกว่าเดิมอีก “อย่ามาตลก...”
ถามกูมั่งสิ...กูตลกรึยัง!!!!“ไม่ขายให้”
“ห๊ะ?? มึงว่าไงนะ”
“กูบอกว่าไม่ขายให้ เค้าห้ามขายถึงยางให้เด็กอายุต่ำกว่า20”
“กฎเหี้ยไร ถุงยางไม่ใช่เบียร์ว้อย ทำงานจนโง่รึไง งั้นเด็กมันก็ท้องทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว”
มันไม่เถียงอะไรต่อแต่เอากล่องสีน้ำเงินนั่นไปวางที่เดิมหน้าตาเฉย แล้วหยิบลูกอมมายิงบาร์โค้ด แล้วทำไมต้องหน้าบึ้งยังกะจะไปแดกหัวใครอย่างงั้นวะ ขนาดพ่อแม่กูยังไม่ว่าเลย(มึงแน่ใจ?)
ผมก็ขึ้นสิครับงานนี้ใครใช้ให้มึงมาบงการชีวิตกูคราวนี้ผมคว้ามาใหม่สามกล่องเอามาทุกเวอร์ชั่นทั้งมึงจะเรียบ ขรุขระ มีหนาม(?)กูก็เอาหมดละตอนนี้
ตึงงงงงงงงงงง ผมเอากล่องมากระแทกบนโต๊ะ จ้องตากับมัน
มันคว้าไปเก็บ พร้อมกับยื่นหน้ามาจ้องตากับผมอย่างไม่ลดละ
ตึงงงงงงงงงงงงง เอาสิมึงเก็บกูก็วางใหม่
มันเก็บ
ตึงงงงงงงงงงงงง ผมวางเพิ่มเป็น4กล่อง คราวนี้มีรสสตรอเบอรร์รี่ด้วยโว้ย
มันคว้าไปเก็บเข้าที่..
“ไอ้.....” ด่าไม่ทันจบเสียงมือถือในกระเป๋ากางเกงก็แผดเสียงขึ้นมา.. ไอ้ตัวปัญหานี่เอง
“เออ..ถึงแล้วเหรอวะ”
“ใช่...มึงอยู่ไหน ทำไมกูไม่เห็น”
“กูอยู่เซเว่นซอยถัดมา”
“แล้วซื้อของให้กูได้ยัง”
“ของมึงอ่ะ ซื้อไม่ได้
เด็กเซเว่นมันไม่ขายให้” ย้ำชัดๆแม่งเลย
“ห๊ะ??”
“เออ มึงอยากได้ก็มาซื้อเองละกัน ก่อนที่กูจะตีหัวไอ้เด็กเซเว่นนี่ตายซะก่อน” ว่าแล้วก็ตัดสายทิ้งแม่งเลย
ติ๊ด...
ไอ้ผู้ชายตัวสูงเปรตตรงหน้าเสือกเอาไอ้กล่องสารพัดสีมายิงบาร์โค้ดเฉยเลยครับ!!!!!!
ผมรู้สึกอารมณ์เสียจนคิ้วแทบผูกเป็นเส้นเดียวกันแล้ว!!
“มึงว่างมากเหรอ มากวนตีนกูเนี้ย”
“ทั้งหมดหนึ่งร้อยสิบสองบาทครับ”
ผมกระแทกเงินกับโต๊ะ คว้าถุงเดินหน้าบูดออกไปเลยพอดีกะไอ้เวฟที่จอดรถยนต์ตรงหน้าร้านเป๊ะๆ
หลังจากควานเอาลูกอมมาใส่กระเป๋ากางเกงก็คว้างถุงเปล่าให้ไอ้คนขับ “มึงเอาไปเลยนะ ปัญหาเยอะชิบ”
“ห๊ะ?? ไหนบอกซื้อไม่ได้วะ” เวฟง้างปากจะถามอะไรต่อแต่เห็นผมหน้าบูดมันเลยเงียบไป “เออๆไม่ถามละขอโทษที่ทำให้มึงลำบากว่ะ ขึ้นๆๆไปหอกูดีกว่า”
เวฟรอจนผมโดดขึ้นมันก็ขับออกไป เหมือนมันจะพยายามมองๆเข้าไปในร้านแว๊บๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เราเงียบกันไปตลอดทางจนถึงหอ เวฟมันคบกับผมมานานมันรู้ว่าเวลาผมโกรธไม่ควรพูดอะไรให้มันยืดยาวนัก เงียบๆไปผมก็หายโกรธเองแหละ
จะว่าไปเวฟมันก็ไม่ผิดซะหน่อย มันใช้ผมซื้อ’นั่น’ก็จริง แต่มันไม่ใช่ต้นเหตุซะหน่อย
เฮ้ออออออ...พาลโกรธมันไปก็รู้สึกผิดแฮะ
ระหว่างเดินขึ้นหอผมก็ชวนมันคุยนู่นนี่เล็กๆน้อยๆให้มันรู้ว่ากูหายอารมณ์เสียแล้วนะ มันดูจะยิ้มออกมากขึ้นตอนไขประตูเข้าห้องไป
“โอ๊ตๆ มึงเลิกเล่นเกมส์ได้แล้ว ไปเอาน้ำแข็งในตู้เย็นมาดิ” มาถึงไอ้หนุ่มเหล็กดัดก็สั่งเพื่อนทันที โอ๊ตมันจิ๊ปากไม่พอใจเล็กน้อยแต่ก็ยอมลุกออกมาจากหน้าคอม ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนไอ้นี่ก็ยังติดเกมส์ออนไลน์มาตลอด ยังแต่สมัยแร๊กนารอคยังรุ่งโรจน์
ผมช่วยเวฟปูหนังสือพิมพ์กระจายๆบนพื้น มันหากับแกล้มเป็นปลาหมึกตราเต่าทองกับถั่วเล็กๆน้อยๆ เอาเหล้ามาตั้ง รอโอ๊ตขนน้ำแข็งสักพักวงเหล้าก็ได้เริ่มกันสักที..
“เสียดายไอ้แซ๊กไม่อยู่ว่ะ ไม่ครบองค์ประชุมเลย” ผมว่าพลางยกแก้วขึ้นจิบเล็กๆ
“ปล่อยพ่ออาร์ตตัวพ่อแกไปเถอะ กูล่ะตามอารมณ์มันไม่ทันทุกที” ไอ้โอ๊ตเสริมพลางคีบน้ำแข็งใส่แก้วตัวเอง “มึงรู้มั้ย..เด็กศิลปกรรมที่เรียนอิ้งกับกูกะเวฟนะ....” มันเบ้หน้า
“ทำไมวะ?”
“มันโง่อิ้งมากน่ะมึง รู้มั้ยมันอ่านsometimeว่า โซ-มิ-ติ-เมท น่ะ กูกะเวฟแม่งกลั้นขำจนปวดท้อง”
“เหี้ย!!!! ขนาดนั้นเลย???”
“ยังน้อยไปมึง” เวฟเสริมขึ้นมาบ้าง “มันอ่านฮันนี่ว่าโฮนี่ด้วยนะมึง”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ โหยกูล่ะอยากเรียนอิ้งเซคเดียวกะพวกมึงจริงๆ”
จากนั้นผมกะพวกมันก็นั่งนินทาคณะอื่นไปเรื่อย คณะตัวเองก็มี ไม่แปลกใจมหาลัยมีคนประหลาดๆมารวมตัวกันเยอะจะตาย นินทาทั้งคืนยังไม่หมดเลยครับ ยิ่งเวฟที่แฟนเยอะๆด้วยความว่าผู้หญิงเป็นพวกช่างเม้าท์มันเลยรู้นู่นนี่เยอะกว่าชาวบ้านเขาหน่อย คุยไปดื่มไปราวสามชั่วโมงได้มือถือโอ๊ตก็ดังขึ้น มันบอกว่าน้องในกลุ่มมันเรียกไปช่วยตีมอนเตอร์แล้ว มันทิ้งแก้วเหล้าแล้วโผเข้าหาคอมแทบไม่ทัน ทิ้งให้ผมมองหน้าไอ้เวฟตาปริบๆ
“ตลกว่ะ..น้องหวานมึงร้ายกาจมากอ่ะ กูฟังแล้วแม่งไม่กล้ามีแฟน”
“นี่ยังน้อยไปมึง...แฟนเก่าน้องเขาเป็นเพื่อนกู แม่งเจอหนักกว่านี้อีก ฮ่าๆๆๆ” มันยกเหล้าดื่มแก้คอแห้งที่หัวเราะมากไป “ว่าแต่มึงเหอะ..เมื่อไหร่จะมีแฟนวะไปป์....ดาวคณะมึงเป็นไง”
“เพลงน่ะเหรอ กูชอบนะมึง ตรงสเปคมาก แต่ไม่กล้าจีบอ่ะ...ห้าวซะ”
“ป๊อดมากเดี๋ยวได้เป็นเมียชาวบ้านพอดี”
“สัส!!!”
“อ้าว..ใครจะไปรู้ จะว่าไปมึงก็น่ารักจะตาย ดูสิตาโตๆ ผิวเนียนๆ จมูกเล็กๆ แถมยังติดกิ๊ฟแอ๊บแบ๊วน่ารัก จุบุจุบุ คริคริ อิอิ” มันทำท่าสองนิ้วเป็นท่าประกอบ
“ภาษาเหี้ยไรมึง”
“ภาษาแอ๊บแบ๊วไงน้องไปป์ นอกเรื่องๆ...กูถามจริงมึงไม่มีผู้ชายมาจีบมั่งเหรอ เหมือนตอนอยู่โรงเรียนอ่ะ” เวฟเท้าคางจ้องหน้าผมเหมือนจะคาดคั้น
“กะ....ก็มีบ้าง กูไม่ได้สนใจอะไร” ทำไมหน้าไอ้ภคินต้องลอยขึ้นมาวะ มันไม่ได้จีบผมสักหน่อย..กวนตีนจะตายห่า “มึงจะรู้ไปทำไม”
เวฟยักไหล่ “เพื่อนกูน่ารัก...กูก็ต้องหวงบ้างอะไรบ้าง”
“ถุ๊ย!!! คอยดูนะกูจะหาแฟนให้สวยกว่าที่มึงควงทั้งหมดเลยคอยดู”
“แบบแอมน่ะเหรอ?”
“ไอ้-เชี่ย-เวฟ”“โอ๊ะ...แผลเก่า ขวัญเรียมเลยทีเดียว”
“อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก...ไอ้เวฟ” ผมกระโจมไปฟัดกับมันที่พื้นห้อง ไอ้เวฟหัวเราะลั่นห้องด้วยน้ำเสียงสะใจยิ่งสิ่งใดจนโอ๊ตต้องละสายตามาดูแล้วส่ายหน้าเอือมๆกลับไปเกรียนในเกมส์ต่อ ฟัดกับไอ้เวฟจนหัวเหอยุ่งไปหมดสุดท้ายก็ต้องแยกฝั่งแดงฝั่งน้ำเงินหยุดกินน้ำเมากันต่อ
“เวฟ...กูถามจริงนะ”
“หือ...ทำไม?”
“มึงไม่คิดจะรักใครจริงๆเลยเหรอวะ” ผมแค่อยากรู้น่ะว่ามันเป็นแบบไอ้คนที่ห้องรึเปล่า ถึงจะรู้ว่าครอบครัวเวฟมันไม่ได้แตกแยกอะไรเลยก็เถอะ
“ก็รักทุกคนนี่ไง” เวฟฉีกยิ้มโชว์เหล็กดัดฟันที่เมื่อกี้ผมอยากจะงัดออกมาเพื่อปลอดปล่อยหมาในปากมัน
“เอาจริงๆสิ” พอเห็นผมทำหน้าจริงจังมันก็เริ่มจริงจังขึ้นมาบ้าง
“อืม...เคยคิดมั้ยน่ะเหรอ...ก็คิดอยู่ตลอดเวลานะ แต่มันยังไม่ถึงเวลานั้นน่ะ”
“เวลาอะไร?”
“ไปป์...กูรู้ตัวนะว่าที่ทำอยู่มันแค่อารมณ์ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้นแหละ”
“อืม...ชั่วจริงๆ”
“เอ๊ะ..ไอ้นี่จะให้กูพูดให้จบไม่ได้เลย” มันง้างมือตบหัวผมไปทีนึง เจ็บจนต้องเอามือลูบเลยครับ...อูยยยยย
“ถ้ากูเจอใครสักคนที่เขาใช่สำหรับกู กูจะหยุดที่เขาและไม่ก้าวไปที่ไหนอีกแล้วล่ะ”
ผมขมวดคิ้ว “มึงหมายถึงคนที่ตรงสเปคมึง?”
“ไปป์...สเปคไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เราอยู่ด้วยกันได้ มันอยู่ที่ความรู้สึก..เฮ้อ...พูดไปแม่งก็น้ำเน่าว่ะ”
“เออ..น้ำเน่าจริงๆ” เหล้าในคองี้หวานขึ้นมาเลย
“แล้วมึงคิดว่าคนที่เกลียดความรักนี่มีจริงมั้ยวะ”
“หือ??? มึงไปเจอมาเหรอ”
“เปล่าหรอก...กูแค่สงสัยน่ะ”
“โถๆๆ เด็กน้อย” ไอ้เวฟเอามือยีหัวผมเล่น “ริอาจเล่นกับความรัก”
“กูถามให้มึงตอบเฟ้ย”
มันหัวเราะเบาๆก่อนหันมามองหน้าผมด้วยความจริงจังมากขึ้น
“คนคนนั้นไม่มีบนโลกหรอก...การที่เขาพูดแบบนั้นก็แสดงว่าเขายังต้องการมันอยู่”
“กูไม่ค่อยเข้าใจว่ะ”
“เอางี้นะ...ระหว่างคนที่มึงเกลียดกันคนที่มึงเดินผ่านกันเฉยๆ มึงจะจำหน้าใครได้”
“ก็ต้องคนที่เกลียดดิวะ”
“นั่นก็เพราะว่าการเกลียดยังมีความรู้สึกให้ไปน่ะสิ บางทีอาจมากเกินไปด้วยซ้ำ”
“ทั้งๆที่เกลียดน่ะเหรอ”
“ไปป์...เกลียดน่ะแสดงว่ายังมีความรู้สึกอยู่กับมันยังไงล่ะ ยังคาดหวังว่าจะได้รับความรัก ยังอยากจะมีใครสักคน ถึงปากจะบอกว่าเกลียดแต่เขาคงฝังใจกับด้านลบของความรักมากเกินไป แต่ในใจก็ยังหวังที่จะได้เห็นด้านดีของมันบ้าง”
“งั้นเหรอ”
ผมมองไอ้เวฟด้วยสายตาชื่นชม...ที่จริงเพื่อนผมนี่ก็ไม่ธรรมดานะครับ ปรัชญาจนโสเครติสอายเลยทีเดียว
“เอ๊ ว่าแต่.....น้องไปป์ซุกกิ๊กไว้รึเปล่าเนี้ย อย่าให้พี่เวฟรู้นะจะจับตีให้ก้นลายเลย”
“มึงเลิกพูดจาน่าขนลุกได้แล้วไอ้เวฟ” นี่กูจะชื่นชมมึงหน่อยไม่ได้เลยใช่มั้ยวะ หมดมู้ดเลยทีเดียว....
“ฮ่าๆๆๆๆ เลิกพูดจาน้ำเน่ามากินน้ำเหล้ากันดีกว่าไอ้น้อง”
ผมยักคิ้วให้มัน “รออยู่นานแล้วครับพี่”
TBC
กลับมาแล้วค่ะ ตอนนี้อยู่เชียงใหม่แล้ว ฮิ้ววววววว~ อากาศดีจริงๆ
หวังว่าตอนนี้จะยาวสมใจอยากทุกคนนะคะ
ตอนก่อนๆใครว่าคินขี้งอนออกมาแสดงตัวเดี๋ยวนี้นะหลอกด่าพระเอกเค้าฟรีได้ไง

คนผิดมันไอ้น้องอาร์ท ต้องด่าอาร์ทถึงจะถูกค่ะ
เดี๋ยวมาลงตอนหน้าไว้จะสแกนรูปอิมเมจคินกะไปป์ให้ดูนะคะ(แบบการ์ตูนๆอ่ะนะคะ เหมือนจริงไม่มีปัญญา)
ตอนนี้มีปัญหากับหน้าจอคอม มันยืดปรับยังไงก็ไม่ปกติ ปวดตาไปหมด แถมยังวาดรูปไม่ได้อีกต่างหาก
เจอกันตอนหน้าค่ะ

PS.ยินดีต้อนรับนักอ่านใหม่ทุกท่านค่ะ แอร๊ยยยยย~ :กอด1: