โทษทีจ้า พอดีสะสางงานบ้านช้าไปหน่อย มาต่อให้จนจบตอนเลย
เสียงฝีเท้าเดินอยู่ไม่ไกลนัก ทำให้รู้ได้เลยว่าพี่เขยหยุดที่โต๊ะกลางห้อง รินเหล้าดื่ม จอกหนึ่ง.....จอกที่สอง.....จอกที่สาม นี่ไม่คิดจะสนใจเจ้าสาวเลยหรือไรหนอ?? เขาคงไม่อยากมีงานมงคลนี้เท่าไร หยกน้อยรู้ได้จากเสียงถอนหายใจยาวๆอย่างเบื่อหน่าย ตอนนี้คงมองเขาอย่างครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรดีกับเจ้าสาวแน่ เขาควรรีบบอกเสีย
“เอ่อ...” เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นแล้วก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อเห็นไม้เกี่ยวผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวขึ้น เขาตกใจรีบคว้าหมับ!!
“อ๋อ...เป็นวรยุทธด้วยหรือนี่” การกระทำนี้สร้างความประหลาดใจแก่บุรุษหนุ่มไม่น้อย ไม่คาดคิดว่าธิดาเศรษฐีจะริอ่านฝึกมวยกับเขาด้วย ช่างน่าสนใจ....
“เอ่อ.....เราควร.....พูดคุยกันก่อน” หยกน้อยปล่อยมือจากไม้ว่าเสียงอ่อน
“จริงด้วยสินะ....งั้นก็มาดื่มเหล้ามงคลก่อนดีกว่า”
เฮือก!!! ไม่น่าพูดเลย คำๆนี้ฟังแล้วแสลงใจยังไงไม่รู้ แต่ไม่ดื่มก็ไม่ได้ จอกเหล้าใบเล็กๆยื่นมาถึงมือ หยกน้อยใจเต้นตุ๊บๆเขาถ่วงเวลาไม่ได้แล้ว จึงยกขึ้นดื่มรวดเดียวหมดจอก เหล้ารสร้อนๆไหลลงคอไปทำให้ร้อนวูบวาบในท้อง
“เอาล่ะ....” จอกเหล้าในมือถูกหยิบออกไป ก่อนจะทันรู้ตัวผ้าคลุมหน้าก็ปลิวหายไปอย่างรวดเร็ว เหวินหลงกระชากมันออกไปแต่ก่อนจะทันเห็นหน้าเจ้าสาวของเขา นางก็พุ่งปราดไปที่โต๊ะกลางห้อง เป่าเทียนดับลง ทั้งห้องตกอยู่ในความมืด มีเพียงแสงจันทร์สาดแสงลอดช่องระบายลง เห็นร่างนางเลือนรางในความมืด
“อืม....ไม่คิดว่าเจ้าสาวของข้าจะใจร้อนอย่างนี้” คำกระเซ้าเล่นๆทำให้หยกน้อยร้อนไปทั้งใบหน้า นี่กล่าวหาว่าเขาใจร้อนหรือนี่ เด็กน้อยถอดหมวกเจ้าสาวออก เขาหันไปมองเจ้าบ่าวที่ยืนอยู่ริมเตียง
“ข้ามีเรื่องที่ต้องบอกท่าน”
“ยังไม่ต้อง....รีบร้อน” เหวินหลงมองใบหน้าข้างที่ต้องแสงจันทร์จางๆแล้วอดยิ้มมิได้ ดวงตากลมโตเป็นประกายใส ผิวแก้มเนียนเหมือนหยก ริมฝีปากเป็นกระจับสีชาดยามต้องแสงจันทร์ดูกลายเป็นสีเทาไป ช่างงดงามแกมชั่วร้ายเหมือนหญิงคณิกาที่ทั้งร้าย ทั้งร้อนแรง ความตื่นเต้นในร่างกายเริ่มเดือดขึ้นมาแล้วสิ เขาไม่ชมชอบหญิงงามอย่างภาพวาด เขาต้องการหญิงที่มีเนื้อหนังและชีวิตชีวา มาดูสิว่า เจ้าสาวของเขาจะมีฤทธิ์เยอะสักเท่าไร
“เดี๋ยว....” หยกน้อยยกมือห้ามด้วยความตกใจ ที่ร่างสูงก้าวเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว เมื่อจวนตัวแล้วเขาจึงต้องปกป้องตัวเอง ปลายเท้าตวัดเตะสูงผ่านใบหน้าคมสันไปอย่างฉิวเฉียด เหวินหลงสืบเท้าหมายประชิดตัว แต่ก็ถูกสกัดไว้ด้วยเพลงเตะที่รวดเร็วทำให้ต้องหลบเป็นคำรบสอง นั้นทำให้รู้ได้ว่าร่างเล็กชำนาญเพลงเตะมากกว่าเพลงหมัด เขาคว้าข้อเท้าเล็กเอาไว้ได้ ทำให้หยกน้อยจำต้องถีบตัวขึ้น ใช้เท้าอีกข้างหมุนตัวเตะ มือแข็งๆปล่อยกะทันหัน
ร่างเล็กเสียหลักและเตะหวืด ร่างลอยคว่ำหน้าลงพื้นพรมกลางห้อง ดีที่ว่าเอามือยันพื้นไว้ได้ทันก่อนกระแทกจริงๆ หยกน้อยรีบดีดตัวม้วนไปข้างหน้าถอยห่างให้ได้ระยะที่ปลอดภัย ที่ไหนได้.... อุ้งมือใหญ่ตะครุบได้สายรัดเอว เขากระชากแรงให้ถอยมาใกล้เตียง จึงจำต้องปลดมันออกเพื่อมิให้ถูกเหวี่ยง ร่างเล็กเซถลาหนีอ้อมมาอยู่อีกฟากของโต๊ะ แย่จริงเชียว...เขาเสียสายรัดเอวไปทำให้เสื้อผ้ารุ่มร่ามน่ารำคาญ เคลื่อนไหวไม่สะดวก เขาตัดสินใจถอดมันทิ้งไปเสีย
“ดี....ข้าชอบเจ้าในชุดนี้”
“ท่าน...”
“แต่จะให้ดี ถอดอีกสักชิ้นถึงจะดี”
หยกน้อยไม่เคยโกรธใครมากเท่านี้มาก่อน คนๆนี้ไม่คิดจะพูดจาปราศรัย กลับแสดงความมักมากอย่างโจ่งแจ้ง ช่างไม่รู้จักอาย ร่างสูงก้าวเข้ามา เขาก็ปราดเข้าประชิด ในเมื่อเพลงเตะสู้มิได้ จึงต้องหันมาเพลงหมัดเข้าสู้ แต่ไม่ว่าเขาจะจู่โจมทางไหนก็ถูกสกัดไว้ได้ แถมยังโดนพลั่กจนเซถลาไม่เป็นท่า เวลานี้เด็กน้อยลืมเลือนไปว่าเขาควรอธิบายหรือควรออกไปจากสถานการณ์ในตอนนี้มากกว่าจะต่อสู้ แต่ความได้เปรียบของอีกฝ่ายทำให้เขาโกรธจนเดือดดาล ถลาเข้าไปหาอย่างลืมตัว
“เหวอ...” ปลายเท้าเตะสกัดเข้าที่ปลายเท้าส่งผลให้เสียหลัก ตัวลอยคว้างกลางอากาศ เขารีบพลิกตัวแต่กลับถูกจับข้อศอกตวัดร่างขึ้น หมุนคว้างอีกรอบกว่าจะตกกระทบพื้นพรมนิ่มๆ ในหัวนั้นหมุดติ๊ว พื้นโคลงเคลงไปหมด แต่กว่าจะตั้งสติได้ ก็รู้สึกได้ว่ามีน้ำหนักมหาศาลโถมทับลงมาทั้งตัว
“โอ้ย....” เขาดิ้นรนตะเกียกตะกายหนี อีกฝ่ายสอดมือมาด้านหน้ากระชากสาบเสื้อแยกออกจากกัน “ไม่!!! อย่านะ....”
ร่างเล็กขดตัวสองมือรวบสาบเสื้อด้านหน้าเข้าหากัน ฝ่ามือใหญ่ปล่อยให้ปกป้องตัวเองไป แต่หันไปเบื้องล่างที่ไม่ทันระวังตัวกระตุกกางเกงบางเบาลงแทน แสงจันทร์ส่องแสงรำไรให้เห็นเนินเนื้อโค้งมนที่ใส นุ่มนวลเหมือนผิวท้อปรากฏต่อสายตา
“อย่า...” หยกน้อยลนลานด้วยความตกใจ เขาตะเกียกตะกายคลานหนีแต่การคลานเข่านั้นทำให้ต้องยันตัวขึ้น ความละลานตาเบื้องหน้ายิ่งใกล้ความอันตรายยิ่งขึ้น ปลายนิ้วและฝ่ามือตะปบบนเนื้อนิ่มพลางเค้นคลึงอย่างย่ามใจ
“ฮะฮะฮะ...”
“อย่า...อย่ามาแตะนะ”
ร่างอันหนักอึ้งคล่อมลงมาทับบนแผ่นหลังเล็กทั้งตัว แค่นี้ก็ตรึงเอาไว้ได้แล้ว เหวินหลงไม่เคยเหี้ยนกระหือรือเท่านี้มาก่อน ความรู้สึกเขาพุ่งพล่านเกินห้ามไหวแล้ว เขากอดร่างเล็กกว่าแน่น จมูกซุกไซ้สูดกลิ่นไอหอมกรุ่นที่ซอกคอนุ่มๆเต็มปอด ปากเขาขบกัดติ่งหูนุ่มดูดดุนเบาๆเพียงเท่านี้ ร่างที่แข็งขืนก็สั่นเทา หายใจหอบกระเส่าเรี่ยวแรงต่อต้านตกลงจนรู้สึกได้
บุรุษหนุ่มที่เต็มไปด้วยความย่ามใจช้อนใบหน้ามนให้หันมา เขาประทับเรียวปากลงอย่างหนักหน่วง บดเคล้ารุนแรง สอนนางให้รู้จักความกระหาย ความปรารถนาอย่างไม่สิ้นสุด นาทีแรกนึกว่าจะอ่อนปวกเปียกเสียแล้ว แต่แล้วเขาก็ได้รับปลายลิ้นอุ่นซ่านตอบโต้อย่างเงอะงะไร้เดียงสา ทว่ากล้าสู้กลับมา เหวินหลงยิ้มร่าในใจ นางช่างน่ารักเสียนี่กระไร เขาอยากขย้ำขยี้ให้หนำใจ ทว่ารีบร้อนไปก็เท่านั้น ราตรีนี้ยังอีกยาวนาน ....สองมือโอบรัดร่างเล็กน่ามันเขี้ยวนี้แน่น พลางลูบไล้เคล้นคลึงผ่านเสื้อนอนเบาๆ
หื้อ??....อกเล็กจัง
“ฮ่า....” ร่างเล็กหอบฮักเมื่อปากเป็นอิสระ มือน้อยๆพยายามแกะมือที่พยายามสอดเข้าไปสัมผัสใต้ร่มผ้าออก “อย่า...อย่าแตะต้องข้า”
ทำไมถึงดื้อดึงขนาดนี้นะ ร่างเล็กดิ้นรนหนีเนื้อตัวเสียดสีร่างกายเขาจังๆโดยเฉพาะมังกรที่เริ่มผงาดด้วยความต้องการ เขาไม่ไหวแล้ว จึงตัดสินใจจัดการนางก่อน แล้วค่อยสอนอีกทีล่ะกัน เหวินหลงกดร่างเล็กคว่ำหน้ากับพื้นพรม ยกสะโพกสูงทั้งที่กางเกงนอนร่นคาแค่ต้นขา ร่างสูงกดทับร่างข้างใต้ไว้ทั้งตัว สองมือจับข้อมือเล็กตรึงเอาไว้ไม่ให้หนี อีกมือนำมังกรที่ตื่นตัวออกมา มันมุ่งหน้าไปยังที่ๆควรไปตามสัญชาติญาณ เมื่อพบจุดที่เหมาะที่ควร เขาขยับทีเดียวทุกอย่างก็เป็นอันสิ้นสุด
“โอ้ยยยยยยย...” ใต้ร่างร้องลั่นอย่างที่คิด ร่างกายเกร็งเครียดไปทั้งตัว “อย่า...เอาออกไป ข้าเจ็บนะ”
“ชูว์.....เดี๋ยวก็ไม่เจ็บแล้ว หายใจลึกๆไว้”
“ไม่...ท่านทำข้าเจ็บ” ใต้ร่างเขาสะอื้นไห้ เหวินหลงใจอ่อนลงฮวบฮาบเขามิควรเร่งรีบเลย แต่มานึกตอนนี้ก็สายไปแล้ว สองมือโอบกอดร่างเล็กอีกครั้ง มือช้อนใบหน้ามาแล้วจูบนางอีกครั้งอย่างนุ่มนวล ลิ้นอุ่นๆสัมผัสปลายลิ้นนุ่มอีกครั้ง กระตุ้นเตือนให้รู้สึกถึงความหอมหวานของรสสัมผัสช้าๆ มันหวานยิ่งกว่าน้ำอ้อย ดื่มด่ำกว่ารสสัมผัสไหนเท่าที่เคยรู้จักมา
หยกน้อยสั่นไปทั้งตัว ในหัวคิดอะไรไม่ออกแล้วนอกจากรสชาติที่ปลายลิ้น ยิ่งเขาสัมผัสตอบโต้มากเท่าใด มันก็ยิ่งหวานซ่านไปถึงขั้วหัวใจ รสชาตินี้ทำให้เขาหยุดยั้งตัวเองไม่ได้ วินาทีต่อมาเด็กน้อยส่งเสียงกระเส่าออกจากปากเมื่อภายในร่างกายรู้สึกบางสิ่งที่ใหญ่โตกำลังขยับเขยื้อนแผ่วเบา
“ อ้า......” มันกำลังเคลื่อน..... โอ้ย ทำไม...ถึงปั่นป่วนอย่างนี้นะ “อ๊า!!!!”
“ร้องออกมาเลย...ร้องดังๆ...แล้วเจ้าจะไม่เจ็บ” เหวินหลงจับเอวเล็กไว้มั่น เขาขยับเคลื่อนไหวเนิบๆให้ทุกอย่างไหลลื่นเป็นจังหวะ ทุกการเคลื่อนไหวมันเต็มไปความรัญจวนใจจนแทบลำลัก หยกน้อยจิกนิ้วบนพรมแน่น ปากน้อยๆส่งเสียงน่ารักอย่างควบคุมไม่อยู่ มันยิ่งทำให้ร่างสูงตะเกียกตะกายบนแผ่นหลังเล็กเร็วขึ้น แรงขึ้น
มันช่างสุขสม เขาเร่งเร้าด้วยการสอดใส่อย่างต่อเนื่องด้วยจังหวะร้อนแรง ขณะที่ใต้ร่างก็ตอบรับท่วงทำนองของเขาเป็นอย่างดีด้วยความเร่าร้อนที่เท่าเทียมกัน พวกเขาต่างเปียกโชกด้วยหยาดเหงื่อที่ไหลย้อยด้วยอารมณ์ และความต้องการที่ไม่มีวันหมดสิ้น ภายในที่ไวต่อสัมผัสนำมาซึ่งความหฤหรรษ์ ยิ่งรุนแรงมาก็ยิ่งทำให้มึนเมาในรสชาติ ยิ่งเสียดสี ก็ยิ่งสัมผัสถึงจุดสุดยอด จังหวะของพวกเขาเรียกได้ว่าบ้าคลั่งไปแล้ว และเสียงสุขสมราวกับหญิงร่านนั้นดึงให้เขาถึงจุดสูงสุด
“น้องหญิง....”
“ท่านพี่....อ๊า....ท่านพี่ ข้าจะ.....ข้า....อ๊า!!!!!” ร่างเล็กหวีดร้องสุดเสียง ทำให้เหวินหลงระเบิดความสุขออกมาในวินาทีนั้น สองมือรั้งเอวเล็กเข้ามาจนสุด มังกรหลั่งน้ำเชื้อเข้าไปจนหยาดสุดท้าย
ร่างสูงผละออกมานั่งพิงเสาห้องอย่างเหนื่อยอ่อน มิมีครั้งไหนที่เขาสนุกถึงขั้นนี้เลย มันช่างวิเศษเหลือจะกล่าวได้ บุรุษหนุ่มกลืนน้ำลายเฮือกด้วยความกระหาย ลมหายใจผ่อนลงแล้ว เขาลืมตามองร่างเล็กกว่าหนีไปอยู่อีกฟากของโต๊ะ ร่างนั้นสั่นเทา สับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ในลมหายใจนั้นก็เจือความพึงใจอยู่ไม่น้อย นั้นทำให้เขาลุกโชนด้วยไฟอีกครั้ง นางต้องลิ้มรสนี้อีก
หยกน้อยใจเต้นไม่เป็นส่ำ เมื่อเห็นร่างสูงลุกขึ้นยืน เขาสูงใหญ่ อาภรณ์ที่ติดตัวถูกปลดออกทีละชิ้น เปิดเผยเรือนร่างแข็งแกร่งต่อแสงจันทร์ที่บริสุทธิ์ใสอย่างไม่สะทกสะท้าน หัวใจน้อยๆของเด็กหนุ่มเต้นแรงราวกับกลองรัวลั่นออกศึก เขาช่างงดงามสมบูรณ์แบบตั้งแต่หัวจรดเท้า แผงอกกว้างกำยำ หน้าท้องเป็นลอนสวย อวัยวะนั้น....ผู้ที่มองรู้สึกคอแห้งอย่างบอกไม่ถูก มังกรเขาแข็งแกร่งสีแดงก่ำท้าแสงจันทร์ ผิวมันเยิ้มด้วยเมือกสัมผัส แค่มองก็รู้แล้วว่ามันร้อนผ่าว เหวินหลงยื่นมือมาหา
“มาสิ....เจ้าต้องการอีกใช่ไหม”
คำว่า ไร้ยางอาย ละอายแก่ใจ หรือจริยาธรรม มันช่างไร้ความหมาย หยกน้อยมองตั้งแต่ปลายเท้าขึ้นมาสบสายตาที่เต็มไปด้วยตัณหา มันเชื้อเชิญอย่างนุ่มนวลทำให้จดจำได้ว่ารสสัมผัสมันซาบซ่านขนาดไหน ยิ่งลิ้นเลียไล้ริมฝีปากตนเองก็ยิ่งโหยหา ร่างเล็กคลานเข่าออกมาช้าๆ
“ข้าจะทำให้เจ้าไม่มีลืมวันค่ำคืนวันนี้เลย ที่รักของข้า”
คำพูดสุดท้ายนั้นเติมไฟแห่งความปรารถนาได้รุนแรงกว่าที่คาดคิด หยกน้อยมิได้วางมือบนฝ่ามือใหญ่นั้น แต่เขาเงยหน้าสบตาดุดันตรงๆ พลางกล่าวว่า
“ของๆท่าน.....ขอให้ข้าเถอะ.....ขอให้ข้า” ใบหน้าอ่อนหวานในความเลือนรางนั้นช่างยั่วยวน ชวนให้สยิวไปทั้งตัว ปลายนิ้วเย็นๆสัมผัสที่หัวมังกรเบาๆ เหวินหลงถึงกับนิ่วหน้าราวกับเจ็บปวดแสนสาหัส อา......ช่างหวานซาบซ่าน แต่ก็อ่อนเบาใสดุจน้ำตาลปั้นยามที่ดื่มด่ำถึงในสุด บุรุษหนุ่มมังกรของตนผ่านปากน้อยๆเข้าถึงโคน มันช่างวิเศษอะไรเช่นนี้ ลิ้นเปียกชื้นที่ไร้เดียงสาเมื่อครู่กลายเป็นงูพิษที่ตวัดไปรอบๆเขาอย่างหิวกระหาย
ฝ่ามือใหญ่รั้งศีรษะเล็กให้เข้ามาสวนทางกับสะโพกแกร่งที่ดันขึ้นไป มีเสียงท้วงเบาๆอู้อี้ในลำคอแต่พักเดียวก็หายเมื่อจับจังหวะของกันและกันได้ และมันทำให้พวกเขาเพริดเพลินไปกับความสุขที่แทบจะทำให้สติหลุดลอย เหวินหลงสอดนิ้วเข้าในเรือนผมดำยาวสลวยขยุ้มกำแน่นสลับกับคลายออกตามจังหวะจนกระทั่งรู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว
“ถอยไป...ข้าจะ....อ้า!!”
หยกน้อยผละออกอย่างเสียดายได้เพียงเสี้ยววินาที น้ำอุ่นๆพุ่งกระจายพร่างพรมไปทั่ว มันอาบใบหน้าอ่อนวัยเต็มที่ บุรุษหนุ่มมองเห็นดวงตาฉ่ำเยิ้ม สีหน้าพึงใจอย่างที่สุด ฝ่ามือลูบไล้หยาดน้ำมาเล็มเลียด้วยความรู้สึกที่ถูกเต็มตื้น ของๆเขา....เป็นของเขาแล้ว มิใช่ของผู้ใดแต่เป็นของเขา ใบหน้าที่แสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของและยังไม่เต็มอิ่มทำให้ร่างสูงกระสันขึ้นมาอีกครั้ง เขารวบเอวเล็กขึ้นมา
“มานี่...” ทั้งคู่ตรงมาที่เตียง ก่อนพากันล้มกลิ้งบนนั้น โดยที่ไม่ทันระวังตัว ร่างเล็กพลิกตัวขึ้นมานั่งคล่อม ในมือมีสายคาดเอวของตัวเอง เขาใช้มันมัดข้อมือทั้งสองของเหวินหลงติดกับลูกกรงหัวเตียง
“นี่เจ้า...”
“ข้าทำเอง.....ให้ข้าทำ” หยกน้อยที่ยังสวมใส่อาภรณ์ชั้นในอยู่ครบ ขณะที่เขาไม่มีสิ่งใดปกปิดสักนิด ร่างเล็กพรมจูบไปทั่วตัวด้วยท่าทีเงอะงะสะเปะสะปะแต่พอถึงมังกรที่ยังผงาดอยู่กลับมีลูกเล่นแพรวพราว ดื่มด่ำเขาซะถึงอกถึงใจ
“เจ้า....เจ้าช่างยอดเยี่ยม”
“ท่านพี่.....อา......” หยกน้อยทำให้มันผงาดล้ำชูชันตรง เขาถลกกางเกงลงแค่ต้นขาแล้วขึ้นคล่อม กดตัวแรงๆครั้งเดียว ความสุขสมก็ตอบสนองจนต้องซี้ดปากราวกับได้ลิ้มรสชาติที่ถูกปาก เหวินหลงเสียวจนต้องเกร็งร่างขึ้นสูงดันร่างเล็กลอยขึ้นจากเตียง ท่านี้ทำให้ต้องถ่างขากว้าง แต่ก็ให้ความอภิรมย์ไม่น้อย
“อะ..อ๊าวว.....ท่านพี่....ดีจัง...”
“ขยับสิ...เจ้าขยับแรงๆ”
“ท่านนอนลงดีๆสิ”
“ไม่ อย่างนี้ดีแล้ว ข้าจะได้เข้าไปลึกๆไง เร็วเข้า”
หยกน้อยเชื่อฟังเขาเหยียบบนฟูกนิ่มๆหยันตัวขึ้นสูงจนสุดปลายมังกร แล้วทิ้งตัวลงมาพบกับการสวนปะทะอย่างจัง เสียงเนื้อกระทบเนื้อดัง พั่บ!!! แรงสะเทือนนั้นทำเอาหัวใจจะขาดรอนๆ ทำไมมันถึงหวานไหวขนาดนี้นะ ทั้งที่รู้สึกใจจะขาดแต่ร่างกายเหมือนควบคุมไม่อยู่แล้ว เด็กน้อยได้พบกับโลกที่เคลื่อนไหวสะท้านสะเทือนจี้ดไปถึงข้างใน พวกเขาถาโถมความต้องการเข้าใส่กันอย่างรุนแรง มังกรร้อนผ่าวเสือกตัวเข้าลึกอย่างหนักหน่วงต่อเนื่องแบบไม่ทิ้งช่วงให้ได้หายใจ
“ท่านพี่....ท่านพี่” หยกน้อยครางกระเส่าจนเสียงหลง
“แรงๆอีก อย่างนั้น.....วิเศษ” เหวินหลงยันเอวขึ้นจนร่างเล็กลอยคว้างแล้วตกกระทบร่างเขาแรง อารมณ์ในช่วงนี้มันช่างบ้าคลั่งและป่าเถื่อนจนสตินั้นกระเจิดกระเจิงไปหมดแล้ว เตียงวิวาห์ลั่นเอี้ยดสนั่นห้อง สาวใช้ที่นั่งสับหงกอยู่นอกห้องถึงกับสะดุ้งเฮือก ขณะที่ภายนอกแขกเรื่อยังสนุกไปกับความเฮฮากับของมึนเมา
ในห้องแรงปะทะยังรุนแรงไม่จบสิ้น เหวินหลงขยับเอวใส่ไม่ยั้ง หยกน้อยที่อยู่บนตักได้แต่ร้องโอดโอยไม่หยุดปาก ประตูหยกเขาถูกทะลวงจนชุ่มฉ่ำไปหมด เด็กน้อยกระชากผ้าม่านขาดเป็นริ้วๆก็ยังสยบอารมณ์พุ่งพล่านมิได้ เขากรีดร้องเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนทรุดฮวบล้มพังพาบบนร่างแกร่ง ไอรักกระจายเปรอะเปื้อนร่างกายกันและกัน มันเต็มไปด้วยความรู้สึกอันหลากหลายที่อยากจะอธิบาย ทั้งคู่หายใจหอบฮักเคียงคู่กัน ร่างเล็กกกกอดซุกหน้ากับแผงอกกว้าง ริมฝีปากคลี่ยิ้มสมใจก่อนจะเจือด้วยความเศร้า
“ท่านพี่.....พี่...”
คำพูดเบาๆแทบไม่ได้ยินไม่ได้อยู่ในความสนใจของเหวินหลงเลย เขาหลับใหลไปด้วยความเหนื่อยอ่อนแต่เต็มไปด้วยความสุขอันอิ่มเอม ภรรยาของเขานี้ช่างยอดเยี่ยม พรุ่งนี้ก่อน พรุ่งนี้....เขาจะเอ็นดูนางให้มากที่สุดเลย บุรุษหนุ่มคลี่ยิ้มในความมืด
*****************
“ว่าไงนะขอรับ” เหวินหลงรู้สึกงุนงงกับคำตอบที่ได้รับ รุ่งอรุณของวันใหม่ เขาตื่นขึ้นมาด้วยความสุขสดชื่น ทว่า...ข้างๆที่นอนกลับว่างเปล่า ไร้วี่แววของภรรยาที่ยังไม่เห็นหน้าชัดๆ เขาแต่งตัวออกมองหาที่ใดก็ไม่พบ เมื่อมาหาบิดามารดาก็ได้คำตอบที่ไม่คาดคิด
“นางหนีไปแล้ว”
“เมื่อไร...ทำไม??”
สองสามีภรรยาได้แต่มองหน้ากันอย่างไม่รู้จะอธิบายเช่นไรดี
“นาง.....หนีไปเมื่อไรไม่มีผู้ใดรู้ และเป็นเพราะ....นางไม่เต็มใจแต่งกับเจ้า”
“เป็นไปไม่ได้” หากไม่เต็มใจ ไฉนเลยจะ.... เหวินหลงได้แต่เก็บงำความไม่เชื่อไว้ เขาไม่เชื่อเด็ดขาด
“เหวินหลง...พ่อรู้ว่าเจ้าคงทำใจเชื่อไม่ได้ แต่พ่ออยากจะให้เจ้าเงียบๆไว้ เรื่องอย่างนี้มิควรแพ่งพรายให้คนนอกรู้เด็ดขาด”
“แล้วทางบ้านเฉินล่ะขอรับ”
“ทางบ้านนั้นรับรู้แล้ว”
“เขาไม่ออกตามหาลูกสาวหรือไรกัน”
“เรื่องอันใดเราต้องไปข้องแวะให้เสื่อมเสียชื่อด้วยเล่า เหวินหลง เจ้าอยู่เฉยๆเถอะ เรื่องนี้ให้ผู้ใหญ่เขาจัดการกันเอง รั้งรออีกสักปีหนึ่ง แม่จะตกแต่งภรรยาให้เจ้าใหม่นะ”
“ท่านแม่” บุรุษหนุ่มขึ้นเสียงจนมารดาตกใจ “อย่าพูดเหมือนเป็นเรื่องง่ายๆ วันนี้พูด พรุ่งนี้ลืมได้อย่างไร อย่างไรเสียนางก็ตกแต่งเข้ามาแล้ว เป็นภรรยาข้าแล้ว”
“เหวินหลง” บิดาดุเขากลับ “อย่าพูดกับแม่เจ้าเช่นนี้อีกนะ กลับไปที่ห้องได้แล้ว และอย่าเอ่ยถึงนางอีกนะ”
“ท่านพ่อ”
“ไปซะ”
เมื่อโดนไล่อย่างไม่แยแส เขาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากกลับมาที่ห้องตามที่สั่ง ภายในตกแต่งทำความสะอาดเหมือนเดิมราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเลย เมื่อคืนเป็นเพียงความฝัน นางไม่ได้สมัครใจตกแต่งเข้ามา ร่างสูงนั่งลงรินน้ำชามาดู ดวงตามองไปทั่วทุกสถานที่ที่พวกเขาสัมผัสกัน เพียงหลับตาเขาก็เห็นภาพวันวาน ร่างเล็กพอดีกอด กลิ่นที่ซอกคอหอมกรุ่น เนื้อหนัง....
เอ๊ะ....จะว่าไปเขาก็ได้สัมผัสถึงเนื้อหนังนาง แค่สัมผัสผ่านเสื้อชั้นในบาง รู้สึกได้ว่านุ่มก็จริงแต่ไม่นิ่มเกิน กล้ามเนื้อนางแข็งแรงได้สัดส่วน หน้าอกก็.....หน้าอกเล็กมาก และ....สะโพกมนเต็มไม้เต็มมือ แต่.....
มีบางอย่างผิดปกติ ....เขาไม่เห็นหน้านางชัดๆ ไม่ได้สัมผัสตรงๆ แต่ก็รับรู้ได้ว่านางแข็งแรง ออกจะแข็งแรงและใจกล้าเกินสตรีไปหน่อย นางเร่าร้อนเต็มไปด้วยชีวิตชีวา แต่มาถึงจุดหนึ่งก็แทบเรียกได้ว่าร่าน นั้นผิดวิสัยสตรีที่ได้ชื่อว่าเป็นธิดาเศรษฐี ร่างสูงลุกขึ้นดินไปมาอย่างเสือติดจั่น รู้สึกครั่นเนื้อครั้นตัวอีกแล้วสิ คิดถึงเมื่อคืนทีไรก็เป็นอันอยู่ไม่สุขเลย เขาชมชอบที่นางใจกล้าเกินหญิง ยิ่งเวลาร้องเรียกเขาเสียงนั้นหวานบาดใจ
ท่านพี่...ท่านพี่....พี่....
เหวินหลงนิ่งอึ้งไปครู่ เมื่อบางสิ่งผุดขึ้นในหัว จู่ๆก็นึกออกเหมือนมีเสียงนั้นกระซิบข้างหู เขาหัวใจเต้นแรงทันทีทันใด เมื่อจดจำได้เสียงนั้นกระซิบแผ่วเบาว่า
“พี่เขย...”
THE END
(รอพบตอนตอนไป)