Paranormal - ใต้เงามนตรา (3P) ตอนที่ พิเศษ สองหมี น้ำผึ้ง&ช็อกโกแล๊ต(08-05-2557)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Paranormal - ใต้เงามนตรา (3P) ตอนที่ พิเศษ สองหมี น้ำผึ้ง&ช็อกโกแล๊ต(08-05-2557)  (อ่าน 155318 ครั้ง)

ออฟไลน์ Cherry Red

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-0
เนื้อเรื่องน่าติดตามมากค่ะ ได้ feel เหมือนดู series ฝรั่งเลยอ่ะ ~
ท่าทาง น้องกาลจะชอบ ไคร์น ตอนเป็น "หมี" มากกว่าในร่างคนนะ ( เล่นกระโดดเกาะหลังเลยทีเดียว )
ว่าแต่จะทำอย่างไงให้รักกันภายใน 3 อาทิตย์ละเนี่ย? น่าลุ้นจริง ๆ

jenzda

  • บุคคลทั่วไป
ทาเคชิ จะมาเป็นเซนเซย์ ด้านไหนค่ะ? :oo1:

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
น้องกาลเห็นหมีแล้ว

ออฟไลน์ Windend

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
ต้องขอโทษนะครับที่ไม่ได้เข้ามาหลายวัน
ติดภาระหนะครับ คนป่วยเยอะอะ
เอาหละมาต่อกันดีกว่า

ขอบคุณทุกเม้นท์นะครับ :L2:

======================================================

   ตอนที่ 6 เซนเซย์หรือคู่แข่ง

   กาล

   ม่านหมอกบางๆค่อยๆเผยให้เห็นภูมิประเทศที่เป็นทุ่งหญ้าและป่าโปร่ง แสงแดดอันอบอุ่นช่วยปลอบประโลมใจที่เคยเจ็บช้ำให้เบาบางลง รู้สึกถึงขนสัตว์ที่หนานุ่มไม่ระคายผิว ได้กลิ่นหอมรัญจวนใจกว่าน้ำหอมที่เคยสัมผัส รู้สึกถึงกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งกำลังเคลื่อนไหวอยู่ด้านล่างโจนทะยานไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว

   เมื่อถึงอีกด้านของป่ามีทุ่งดอกไม้หลายสายพันธุ์หลากสีสัน เขาลงจากหลังสัตว์ใหญ่ตัวนั้นแล้วนอนดูท้องฟ้า กลีบดอกไม้ปลิวไปตามกระแสลมที่พัดผ่านจากชายป่าผ่านทุ่งดอกไม้ก่อนที่จะเลยไปยังหน้าผาสูง

   ความฝันนี้เขาเห็นมาตลอดและไม่เคยรู้ว่าสัตว์ที่เขานั่งมาคือตัวอะไร จนกระทั่งครั้งนี้ที่ได้ก้มลงมองพินิจพิเคราะห์ดูจึงรู้ว่าเป็นหมีสีน้ำตาลขนาดยักษ์

   “ใช่นายเหรอเปล่า ไคร์น” ผมพูดขึ้นมาหลังจากที่หันกลับไปมองสัตว์ยักษ์ตัวนั้นก็กลับปรากฏกลายเป็นชายหนุ่มสองคน คนนึงสูงใหญ่มีร่างกายอันเยี่ยมยอด ใบหน้าหล่อคมดุจเทพประทานให้ ผมสีน้ำตาลทองยาวสยายไปตามแรงลมที่พัดปลิว เขาไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าใดนอกจากกางเกงหนังสีดำมันที่แสนจะแนบเนื้อ เผยให้เห็นส่วนสัดอันใหญ่โต ส่วนอีกคนนึงสูงกว่าแต่ไม่หนาเท่า ร่ายกายยอดเยี่ยมเหมือนนายแบบสมัยนี้ นัยน์ตาเรียวแต่ไม่เล็ก ผมดำมันตัดซอยอย่างดี เขาไม่ได้ใส่เสื้อสวมแต่กางเกงผ้าฝ้ายสีขาวสะอาดตา ผิวออกขาวเหลือง

   แต่ในฝันนี่ทุกทีเขาเห็นแค่หนุ่มคนแรกเท่านั้นนี่ แต่ไหนถึงโผล่มาอีกคนได้หละ ความสงสัยเริ่มก่อตัวออกมาเป็นคำถามทางสีหน้า ชายหนุ่มคนที่สองจึงเดินเข้ามาหาเขา

   “ไม่ต้องกังวลนะน้องน้อยของพี่ พี่เจอเจ้าแล้วและเจ้าจะไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวอีกต่อไป” ชายหนุ่มพูดขึ้นพร้อมกับประทับจูบที่หน้าผาก ความอบอุ่นแผ่ซ่านเข้าไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด มันเอิบอาบตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก

   ผมลืมตาขึ้นมาพร้อมคราบน้ำตาเล็กน้อย ก็เห็นเพดานห้องสีส้มขอบเดินบัวสีขาวครีมกับไฟดาวไลท์สี่จุด นี่ผมกลับมาอยู่บนเตียงนอนภายในโรงแรมเสียมเรียบตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ พอมองไปทางหัวเตียงเห็นนาฬิกาบอกเวลา 06:25 am เช้าแล้วเหรอขออีกห้านาทีได้ไหมเนี่ย ผมเช็ดคราบน้ำตาไปพลางก็หันไปกอดผ้าห่มผืนใหญ่ข้างตัวอีกที อ้าว ทำไมมันถึงใหญ่ขนาดนั้นหละ

   จู่ๆก็มีมือมาคว้าตัวผมเข้าไปพร้อมกับบดริมฝีปากมาที่ปากผม ทั้งดูดเม้มหยากเย้าอย่างชำนานก่อนที่จะถอนออกแล้วสบกับนัยตาสีน้ำตาลเข้มคู่เดิม

   “มอนิ่งคีส” เจ้าตัวมองหน้าผมก่อนที่จะยื่นใบหน้าเข้ามาอีก ผมเลยต้องยกมือปิดปากอีกฝ่ายไว้ก่อน ก็หน้าผมยังร้อนผ่าวอยู่เลยหนิ เขาทำตาดุใส่พร้อมกับกัดเม้มที่ฝ่ามือผมอีก

   “เอาผมกลับมาตอนไหน ไคร์น”

   “ก็ซักครึ่งชั่วโมงที่แล้วครับ”

   “ทำไมไม่ปลุกผมก่อนหละ ผมอยากเดินเที่ยวบ้าง แหมได้โอกาศไปอเมริกาทั้งที”

   “อ้าว...น้องกาลอยากเที่ยวเหรอ แล้วไม่อยากเที่ยวนครวัดต่อเหรอครับ ได้...เดี๋ยวเรากลับกันไปเลยก็แล้วกันนะ”

   “เดี๋ยวซิ...ไว้คราวหน้าก็ได้นะ แต่ตอนนี้ผมหิวแล้ว ไปอาบน้ำที่ห้องตัวเองได้แล้ว” ไคร์นทำหน้าหงุดหงิดใส่พร้อมกับลุกขึ้นไปยืนที่ข้างเตียง จากนั้นเสื้อผ้าชุดนอนของเขา เออ...อันที่จริงก็มีแค่กางเกงในตัวเดียวนั่นแหละก็กลายเป็นชุดเสื้อยืดสีครีมพิมพ์ว่า ‘I am your bear’ พร้อมกับกางเกงขายาวทรงทหารสีน้ำตาลยืนยักคิ้วให้ผมอีกแหนะ

   “ผมไม่เสียเวลาหรอกน่า” ไคร์นพูดไปยิ้มไป หมั่นไส้จริงๆ

   “ดีเน้อะ แต่ผมชอบอาบน้ำมากกว่า” ผมลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำไป ได้ยินเสียงโทรทัศน์ในห้องดังขึ้น นี้กะจะไม่ไปห้องตัวเองเลยหรือไงเนี่ย

   ผมอาบน้ำเสร็จก็ออกมา วันนี้ตามโปรแกรมเราจะไปเที่ยวหมู่ปราสาทสามที่ พี่ประวัติอธิบายให้ฟังตอนทานอาหารค่ำเมื่อวาน หมู่ปราสาททั้งสามหลังอยู่ในเขตที่มีต้นไม้ขึ้นปกคลุมจึงร่มรื่น ผมจึงเลือกเสื้อยืดสีขาวล้วนกับกางเกงเลผ้าฝ้ายสีกาบบัวซื้อมาจากแพร่เมื่อปีก่อนแล้วก็สะพายเป้ผ้าสีแดงสดอันเล็กๆ

   ผมมาหยุดยืนดูความเรียบร้อยของเสื้อผ้าตัวเองหน้ากระจก จากนั้นก็มีลายพิมพ์ปรากฏขึ้นที่หน้าอกเสื้อเขียนว่า ‘Bear-Hunter’ ผมหันไปทางที่ไคร์นนั่งดูโทรทัศน์ที่เตียง เขามองมาแล้วยิ้มๆ

   “ผมชอบเรียบๆมากกว่านะ ไคร์น”

   “เอาน่าน้องกาล...จะได้คู่กันไง หมีกับนักล่าหมี เข้ากันออก” เขายังยิ้มทะเล้นให้อีก

   “เฮ้อ...ตามใจ แล้วหิวหรือยังหละ ลงไปที่ห้องอาหารกันไหม

        “เมื่อกี้คุณประวัติบอกว่าให้พวกเราลงไปรวมตัวที่ภัตตาคารข้างโรงแรมแล้วเราจะทานอาหารเช้ากันที่นั่นตอนเจ็ดโมงครึ่ง”

        “อ้าวเหรอ...งั้นก็ยังเหลือเวลาอยู่นี่...งั้น...” ผมพูดยังไม่ทันจบก็ได้ยินเสียงเคาะประตูห้อง พอเดินเข้าไปเปิดประตูก็ต้องยืนมองตาค้างอย่างนั้น คนที่เคาะประตูก็เหมือนกับยืนอึ้งครู่นึงก่อนจะยกมือขึ้นมาสัมผัสที่แก้มผม ดวงตาสีดำสนิทดูเจ็บปวดและตัดพ้อเพียงแว้บเดียวก่อนที่จะยิ้มกระจ่างทั้งใบหน้า

        “คุณ...” ผมพูดไม่ออกเลย มันเกิดขึ้นเร็วมากจริงๆ

        “ทาเคชิ” ชายหนุ่มยืนยิ้มอย่างดีใจก่อนจะเหลือบมองเข้าไปในห้องเห็นไคร์นหันมาพอดี

   “อ้าว ทาเคชิ มาแล้วเหรอครับ” ผมหันกลับไปมองไคร์นแล้วหันมามองผู้ชายตรงหน้า

   “ทาเคชิเหรอครับ”

   “ใช่ครับ ในที่สุดเราก็ได้เจอกัน น้องน้อยของพี่”

ออฟไลน์ Windend

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
รูปทาเคชิเซนเซย์ของไคร์นเขาหละ



อันนี้แถม รูปของแอชรอน เทพเจ้าแอตแลนตีส



ยังไงก็ขอฝากนิยายเรื่องนี้ด้วยนะครับ ติชมได้ ขอบคุณครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-04-2011 14:30:51 โดย Windend »

ออฟไลน์ Windend

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
ตอนที่ 7 แผนร้าย (?) ของเดอะเฟทส์

   ณ เขาโอลิมปัส วิหารของเดอะ เฟทส์

   หญิงสาวผมสีน้ำตาลทองยาวสยายรีบเดินผ่านโถงหลังคาทองคำหลังงามก่อนจะเลี้ยวขวาไปยังสวนดอกไม้ข้างปราสาท โคลโธมีสีหน้าที่เจ้าตัวยังสับสนในอารมณ์ ทั้งตื่นเต้น แปลกใจ โกรธเกรี้ยว แช่มชื่น สะใจ นางยังแปลกใจที่สามารถตอบรับอารมณ์เหล่านี้พร้อมๆกันได้โดยไม่ระเบิดอะไรซักอย่างทิ้ง

   ในบรรดาพี่น้องทั้งสามนางดูเป็นคนอารมณ์ดี แต่ภายใต้ยิ้มเสแสร้งนั้นไม่มีใครรู้ว่ามีแผนอะไรอยู่บ้าง เมื่อใดที่นางหัวเราะนั่นหมายถึงหายนะของบางสิ่งบางอย่างเสมอ

        “น้องข้า เจ้าต้องไม่เชื่อแน่ว่าแผนของเราเจอกับอะไรเข้าแล้ว” โคลโธเอ่ยด้วยอารมณ์ที่หลากหลายนั้น ตัวเนื้อสั่นแทบประทุจนจะทนแทบไม่ไหว

   “แล้วเจ้าเจออะไรมาหละถึงได้ดู...ระริกระรี้” แลคเคซีสพูดโดยไม่ได้หันไปหาพี่สาวแต่ยังคงเรียงร้อยดอกไม้ให้เป็นมงกุฎอยู่ ผมดำมันที่เคยทิ้งตัวยาวระพื้นตอนนี้ถูกมัดรวบแบบง่ายๆ ริมฝีปากสีเดียวกับเกศานางแย้มยิ้มน้อยๆกับผลงานที่กำลังจักสานอยู่

   “ธอเนี่ยน”

   นางหันไปหาพี่สาวนางเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปเด็ดดอกไม้มาแซมมงกุฎของนางต่อ แต่มีอีกเสียงดังออกมาจากกลางดงดอกไม้

   “กี่คน โคลี่” คำถามที่ดูจะต้องการรายละเอียดเอ่ยขึ้น อโทโพสไม่เคยปราณีกับใครทั้งเมื่อก่อนและต่อจากนี้ไป เว้นก็แต่น้องๆของนางเอง ซึ่งใครๆก็รู้ว่าอย่าแหยมกับนางเด็ดขาดถ้าไม่กลัวตกเป็นข่าว(คาว) นางเป็นผู้เก็บงำชะตาแห่งอดีตของทุกสิ่งแม้แต่ชะตาของเทพทุกองค์ในโอลิมปัสด้วย แม้แต่ซูสก็ยังไม่อยากยุ่ง

   “มีสอง เทพต้องสาปกับมือปราบเทพอสูร” โคลโธนั่งลงข้างพี่สาวของนางก่อนจะยกชายกระโปรงน้องสาวมาดูเนื้อผ้าที่นางสวมพร้อมกับมองไปถามไปทางน้องสาวของหล่อน

   “นี่ผ้าอะไรหนะ ลากี้ เนียนลื่นดีจัง บางแต่สีจัดมาก”

   “ผ้านาโนเทค เมื่อเช้าลองไปดูตลาดผ้าที่อินเดียแล้วปิ๊งหนะ เขามีถ่ายหนังแถวๆนั้นด้วยว่าจะเข้าไปดูแต่อยู่ในเขตเทพโคนนธิเลยไม่ได้ดูว่าใคร แต่ข้าว่าน่าจะเป็นชาลุคนะ” แลคเคซีสตอบพี่นางพร้อมกับปัดดอกไม้ต่อ

   “พวกมันมายุ่งได้ยังไงกัน” อโทโพสพูดแทกขึ้นมาโดยไม่ได้สนใจบนสนธนาที่ไร้สาระสำหรับนาง

   “มีโอรสของไลคาออนเผ่าหมีเป็นเพื่อนกับเทพต้องสาป” โคลโธพูดเสียงเครียดแต่ปากกลับยกยิ้มขึ้นมา ดางตาวิ๊บวั๊บ

   “ฟังดูแย่แต่ทำไมดูเจ้ายังยิ้มไม่หุบหละ” พี่สาวใหญ่ยังทำหน้าสงสัยมาทางนาง

   “เพราะมือปราบเทพอสูรดูสนใจในคู่ของหมีด้วย ข้าว่าแผนเราน่าจะไปได้ดี เราน่าจะลองแผน Y ‘attack  กับโอรสของไลคาออนคนอื่นๆต่อดีไหม” โคลโธเด็ดอกไม้มาปาใส่พี่ของนาง ก่อนที่ดอกไม้จะโดนตัวมันก็แห้งเหี่ยวกลายเป็นละอองสีทองปลิวไป

        “ข้าว่าเราควรจะดูผลทดสอบของ case นี้ก่อน จะได้ดูไม่เป็นที่สังเกตของเทพต้องสาป” อโทโพสดึงหญ้ามากำไว้แล้วปาไปทางน้องสาวทั้งสองของนางพอใกล้ตัวสองสาวก็กลายเป็นหนอนแก้วตกลงไปเกาะตามตัวนับร้อย พวกที่เกาะตัวโคลโธกลายเป็นผงทันทีที่นางมองมา ส่วนของแลคเคซีสกลายเป็นผีเสื้อโบยบินไปมารอบตัวนางแทน

        “พวกเราต้องระวังตัวให้มาก ไม่อย่างนี้ความแค้นของเราจะไม่มีทางสมหวังได้” พี่สาวใหญ่ยังกล่าวต่อก่อนที่จะล้มตัวลงนอนมองท้องฟ้าต่อ

        “งั้นข้าจะลงไปสอดแนมต่อดีกว่า ลากี้เอาไรไหม พี่จะไปแถวจัตุรัสแจ๊คสัน” โคลโธลุกขึ้นหันไปถามน้องสาวก่อนจะหันหลังไปทางประตูวิหาร

        “หาน้ำยาแก้สีผ้าตกให้ที เอาแบบเดิมนะ กลิ่นหอมดี”

        “ได้”

===========================================

        กาล

        เช้านี้ดูพี่ประวัติกับพวกลุงๆป้าๆจะไม่ติดใจอะไรที่มีสมาชิคในทริปเราเพิ่มมาอีกหนึ่งคน คนที่พวกผมนั่งไปเลยอัดแน่เลย พี่ประวัตินั่งข้างคนขับเหมือนเดิม ผมนั่งหลังโดยขนาบด้วยยักกับหมี อึดอัดนะเนี่ย ทาเคชินั่งด้านซ้ายเอาแขนล่ำๆคล้องคอผมไว้ ส่วนไคร์นนั่งด้านขวาแล้วยังเอาแขนมาโอบเอวผมอีก ผมว่าจะดีมากนะครับถ้ารถมันจะกว้างกว่านี้ เฮ้อ...

        พอถึงหมู่ปราสาทแรกพวกเราก็ลงกัน ทางเข้าดูร่มรื่น ถึงต้นไม้ไม่สูงมากแต่มีสระบัวขนาดใหญ่อยู่ ดอกบัวที่นี่ใหญ่มาก ขนาดเท่าหัวคนเลย ชมพูหวานเชียว เราเดินกีนมาผ่านสระบัวแล้วเรียวซ้ายเพื่อเที่ยวชมปราสาทหลังแรก

        “พี่ประวัติ ปราสาทนี้ชื่ออะไรครับ”

        “ปราสาทบันทายสีครับ เป็นปราสาทหินแกะสีชมพูที่สวยที่สุดในโลกนะครับ สร้างโดยสตรีสมัยนั้น” พี่ประวัติบรรยายให้คณะเราเข้าใจกันก่อนจะพาเดินดูรอบๆ

        “สร้างโดยสตรี ทำได้ยังไงหละเนี่ย แล้วทำไมถึงสร้างขึ้นมาหละ” ผมบ่นพึมพัมคนเดียวเพราะปราสาทที่ถวายเทพตามประวัติจะใช้แรงงานชายอย่างเดียว

        “จริงๆปราสาทนี้ไม่ได้ทำมาถวายเทพหรอก แต่สร้างขึ้นมาเพื่อความสะใจหนะ” ทาเคชิเอ่ยออกมาโดยไม่ได้มองมาที่ผมแต่สายตาเหมือนมองหาอะไรบางอย่างอยู่

        “ยังไงเหรอครับ” ผมหันไปถามเขากำลังจะยกน้ำขึ้นมาดูแต่ไคร์นกลับคว้าเอาไปดูดก่อน มันน่านักเชียว เลยส่งสายตาเคืองๆไปให้ทีนึงก่อนจะหันไปมองทาเคชิ

        “ก็...ไม่มีอะไรมากหรอก คือเกิดการทะเลาะกันระหว่าหญิงกับชายและท้าพนันกัน จำไม่ได้นะว่าเรื่องอะไร มันนานแล้ว ก็เลยพนันกันว่าฝ่ายไหนสร้างปราสาทเสร็จก่อนชนะ ปรากฏว่าฝ่ายหญิงชนะรู้หรือเปล่าว่าเพราะอะไร” เขาหันหน้ามาสบตาผม ว้าว...ตาเขาสวยมาก กลมเรียว ขนตาเป็นแพชิดกัน ใบหน้ารีรูปไข่ จมูกโด่งเป็นสัน ผมตรงพลิ้วไปมา ใบหน้าที่จะดูว่าหล่อก็หล่อ จะดูว่าสวยก็สวย ผิวแทนแต่ไม่ดำ เขามีกลิ่นหอมที่เย้ายวนใจนะ ผมว่าผมน่าจะหลงเขาได้แต่ความรู้สึกบางอย่างมันบอกว่าไม่ใช่ ผมคงทำหน้างงอยู่นานเขาเลยพูดต่อ

        “น้องกาลเข้าใจคำว่า มารยาร้อยเล่มเกวียนไหม นั่นแหละ เพราะฝ่ายหญิงเกณฑ์ผู้หญิงทั้งหมดมาไว้ในพื้นที่เฉพาะแล้วเริ่มก่อสร้างและห้ามให้ผู้หญิงติดต่อกับฝ่าย พอผ่านไปได้ประมาณเดือนนึง น้องกาลลองคิดดูถ้าผู้ชายไม่ได้มีอะไรกับผู้หญิงนานๆจะเป็นยังไง แน่นอนว่าตบะย่อมจะแตกเอาง่ายๆ ก็เลยเข้าแผนของฝ่ายหญิงค่อยๆดึงแรงงานผู้ชายมาช่วยสร้างปราสาทของฝ่ายตนจนเสร็จก่อน ชนะไปเลย อีกอย่างพนันครั้งนี้มีช่องโหว่มหึมาอยู่อย่างนึงด้วยนะครับ” ทาเคชิพูดอธิบายให้ผมกับไคร์นฟังจนเราเดินมาถึงเสานางเรียง เขาก็พาเข้าไปทางขวา เป็นห้องๆนึงกว้างพอประมาณ มีวงดนตรีกลุ่มคนแก่ที่พิการกำลังบรรเลงเพลงพื้นบ้านอยู่ เราสามคนเลยนั่งดูเขาบรรเลงไปเรื่อยๆ ไคร์นเลยถามขึ้นมา

        “ช่องโหว่ อะไรเหรอเซนเซย์”

        “ขนาด การพนันครั้งนั้นแค่ตกลงกันว่า ใครสร้างเสร็จก่อนอย่างเดียว ลองมองไปรอบๆนะ สัดส่วนต่างๆถูกต้องตามแบบแผนแต่ขาดเล็กลงมา ดูซิเห็นไหม ช่องหน้าบันจะเล็กและต่ำลงมาพอดีคนเลย” เขาชี้ให้ดูช่องประตูและปราสาทหลักตรงกลาง ก็จริงนะ ผมว่ามันดูเล็กว่าที่ผมคิดไว้ตอนดูในหนังสือท่องเทียวอีก

        พวกเราออกมาจากห้องโดยไม่ลืมให้ทิปกับคณะดนตรีที่บรรเลงเพลงเพราะๆให้พวกเราฟัง ดูพวกเขายิ้มดีใจกันมากเลย พวกเราออกไปสมทบกับกลุ่มลุงๆป้าๆกันก่อน จากนั้นเราก็ไปดูพวกของฝากที่ขายกันบริเวณทางออกของปราสาท ไคร์นไปดูเสื้อสกรีนรูปอัปสราที่แกะสลักภายในปราสาท ทาเคชิดูน้ำดื่มอยู่ ต่อราคากับคนขาย ผมว่าแค่น้ำกระป๋องไม่ต้องต่อซะจะฆ่ากันขนาดนั้นก็ได้ ผมว่านะ คนขายได้ตายแน่ถ้าไม่ยอมเขา ผมก็ดูไปเรื่อยๆไม่มีอะไรสะดุดตาอะไรนักเลยไปรอที่รถ แดดวันนี้กำลังดีแต่ไม่มีลมเลย ซักพักเขาสองคนก็เดินกลับมาที่รถ ดูไคร์นจะชอบเสื้อที่ซื้อมาใหม่มากหอบมาโหลนึงเลย ทาเคชิยื่นน้ำมะพร้าวกระป๋องมาให้ ทาเคชิยังมองไปรอบๆลานจอดรถส่วนไคร์นเอาของที่ซื้อใส่ในกระโปรงหลังรถ ผมสงสัยบางอย่างในคำพูดของทาเคชิที่บรรยายมา จึงหันไปถามเขา

        “ทาเคชิ ตอนที่บรรยายทำไมถึงพูดว่า จำไม่ได้เรื่องที่สองฝ่ายพนันกัน มันนานแล้ว พูดเหมือนอยู่ด้วยเลยตอนเขาทะเลาะกัน” ทาเคชิหันหน้ามาหาแล้วเดินเข้ามากระซิบข้างหูผม

        “ก็ใช่นะ เรื่องหยุ่มหยิมเมื่อเกือบพันปีที่แล้วไม่ค่อยน่าจำเท่าไหร่หรอก” ผมยืนตาโตอ้าปากค้างอยู่ ทาเคชิเอามือมาหยิกแก้มผมเบาๆก่อนที่จะพูดต่อ

        “ยินดีต้อนรับสู้โลกของพวกเรานะครับ น้องกาล”

=====================================================

ขอโทษครับ ไม่ได้อัพนาน คนป่วยเยอะมากเลย พึ่งจะว่างวันนี้เอง
ยังไงก็ขอกำลังใจมั่งนะครับ
ขอบคุณ ตอนหน้าว่าจะลงNCนะ อิอิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-04-2011 13:18:28 โดย Windend »

ออฟไลน์ ณ ที่เดิม™

  • มากกว่าชีวิต...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-0
โฮก ตอนแรกแค่สะดุดเข้ามาอ่านก็เพราะชื่อ
แต่พออ่านไปได้สักพัก ก็แบบว่าพูดกับตัวเอง "เฮ้ย! มันแปลกดีนะ"

อารมณ์เดียวกับอ่านนิยายฝรั่งเลยทีเดียว แล้วแบบว่าชอบการนำตำนานมาผสมผสาน
โดนใจมากมาย นั่งรอ NC ตอนหน้าโลดฮะ 55+

ปล. แอบเชียร์ให้สามสาวพวกนั้นชอบใจกับการทำเคสวาย เอามันวายให้หมดเลย :laugh:

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
จาเกิดรักสามเศร้ามั้ยเนี้ย

ออฟไลน์ Cherry Red

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-0
แม่สามสาวเทพธิดา The Fates นั่น เจิดมากค่ะ พวกหล่อนเป็น Sex And The City ภาคโอลิมปัสใช่ม่ะ?
นับถือแผนการ Y Attack ของพวกชีซะจริง ( แอบเป็นสาว Y กันใช่ไหมเนี่ย? )
รู้สึกโชคชะตาของน้องกาลจะต้องผูกพันธ์กับไคร์นและทาเคชิ แต่จะเป็นแบบไหนบ้างล่ะ?
ตอนนี้ลุ้นข้างพี่หมี แต่ image ของคุณทาเคชิ ก็โดนใจดิฉันอย่างจังเลย หล่อ ล่ำ ทำเอาใจระทวย  :give2:

ออฟไลน์ Windend

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
ตามที่บอกไปเมื่อตอนที่แล้วนะครับว่าตอนนี้ NC
แต่ไม่แน่ใจเรื่อเลทว่าอยู่แนวไหน ใครรู้บอกที :sad4:
ตอนนี้ของน้องกาล อาจจะตกใจนะ อิอิอิ

=======================================================


        ตอนที่ 8 น้องกาลเครื่องร้อน NC – XXX

        ไคร์น

        ผมพยายามที่จะไม่คิดอะไรนะ แต่การที่เซนเซย์ทำตัวใกล้ชิดสนิทสนมกับน้องกาลของผมแล้วมันรู้สึกตะหงิดๆหัวใจยังไงก็ไม่รู้ ไหนจะเอาแขนคร้องคอ ไหนจะกระซิบใกล้ๆ ไหนจะเมื่อตะกี้อีก หยิกน้องกาล หนอยๆๆๆๆ อย่าคิดว่าเป็นเซนเซย์แล้วจะทำอย่างนั้นกับน้องกาลของผมได้นะ ยังไงนั่นก็เนื้อคู่ผม ผมรีบปิดกระโปรงหลังรถลงแล้วรีบเดินไปหาน้องกาล

        “ปะ...ขึ้นรถกันได้แล้วครับน้องกาล แดดเริ่มแรงแล้วนะครับ” ดูน้องเขายังยืนมองหน้าเซนเซย์นิ่งๆอยู่เลยต้องรีบคว้าแขนน้องเข้าไปนั่งในรถเสียก่อน ของๆผมยังไงผมก็หวงนา

        จริงๆหลังจากที่ผมเจอทาเคชิเซนเซย์ที่ร้านตุ๊กตาโดยที่แอชรอนยัดเยียดให้ ผมก็ยังสงสัยอยู่ว่าเขาเป็นใคร ทำไมแอชรอนต้องให้เขาเข้ามาเป็นที่ปรึกษากับผมทั้งๆเรื่องน้องกาลผมว่าผมจัดกาลได้แน่ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรกับเขา เอาเข้าจริงๆผมพึ่งจะพูดกับเขาเมื่อเช้านี้เอง เขานัดจะมาเจอพวกผมที่ห้อง งงตัวเองจริงๆ ผมเลยมองไปทางเซนเซย์ตอนนั่งในรถกันแล้ว

        ‘เซนเซย์รู้จักกับแอชนานแล้วเหรอครับ’ ผมเลือกคำถามที่น่าจะได้คำตอบที่น่าจะไขข้อข้องใจของผมได้เร็วที่สุดก่อน

        ‘เอาอย่างนี้ดีกว่า หมี ข้าจะตอบคำถามของเจ้าทั้งหมดก็ต่อเมื่อเจ้าง้างปากแอชเรื่องวันสุดท้ายของมนุษย์ให้ได้ก่อนเถอะ แต่ตอนนี้ข้าอารมณ์ดีจะบอกให้ว่า ข้าเคยเป็นเซนเซย์ของแอชมาก่อน’ ทาเคชิส่งยิ้มกวนๆมาให้ นี่ถ้าน้องกาลไม่นั่งหลับตรงกลางผมว่าคงได้มีการทำร้ายร่างกายกันแน่ ผมอาจจะไม่ได้เป็นหมีใจเย็นนัก ยิ่งเกี่ยวกับของของผมแล้วยิ่งไม่ได้ใหญ่ หวงมากมาย ยิ่งมีใครก็ไม่รู้มาเกาะแกะของๆผมแถมยังจะบอกว่าตัวเองมีอายุมากกว่าหนึ่งหมื่นหนึ่งพันปีอีกยิ่งไม่น่าไว้ใจอย่างแน่นอน

        ‘เจ้าจะไม่ไว้ใจยังไงก็เรื่องของเจ้า หมี ข้าเจอของที่เคยเป็นของๆข้าแล้วข้าจะเอาคืนก็เท่านั้น อย่าคิดว่าตราสัญลักษณ์เนื้อคู่จะหมายความว่าเขาเป็นของเจ้าเท่านั้น ดูเอาเอง’ ทาเคชิพูดผ่านเข้ามาในหัวผมก่อนที่จะรู้สึกร้อนที่ฝ่ามือด้านขวาของผม พอผมหงายขึ้นมาดู ตราสัญลักษณ์ได้หายไปแล้ว ผมเลยจับมือของน้องกาลด้านซ้ายขึ้นมาดูก็ไม่เห็นเหมือนกัน ผมตัวสั่นเลย ทำไมมันหายไปหละ น้องเขาเป็นเนื้อคู่ของผมไม่ใช่เหรอ ความสับสนเข้ามาในหัวผมจนมึนไปหมดเลยหันไปทางทาเคชิ

‘พวกนังสารเลวโรคจิตนั่นยังเกิดหลังข้า พวกนางบงการชะตาข้าไปไม่ได้อยู่แล้ว อีกอย่างกาลไม่ได้อยู่ในการคุ้มครองจากเทพวงศ์เดียวกันกับนาย อำนาจของพวกนางจึงแทบจะไม่มีผลอะไรเลย’ เสียงเขายังอธิบายต่อ ผมยังตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ภาพเมื่อวานโผล่เข้ามาในใจผม ทั้งจูบที่หวานล้ำนุ่มนวล ผิวเรียบละเอียดที่ตะกองกอดไว้ทั้งวัน กลิ่นกายที่ผ่อนคลายอารมณ์รุนแรงลงได้ง่าย รอยยิ้มที่สดใส เสียงหัวเราะกังวานอย่างบริสุทธิ์ไม่เสแสร้ง แล้วยังสายตาที่แน่วแน่แสนหลงใหลนั่น มันจะไม่ใช่ของผมอีกแล้ว ผมแทบหมดแรงลงตรงนี้ก่อนจะกุมมือน้องกาลแล้วหายตัวไปยังห้องที่โรงแรมเสียมเรียบโดยไม่สนว่าใครจะเห็นบ้าง ตอนนี้ผมไม่แคร์แล้ว เพราะตอนนี้ผมรู้ใจของผมแล้วว่าผมรักน้องกาลแน่นอน แม้ไม่มีตราสัญลักษณ์หรือรู้จักกันแค่วันเดียวผมก็รักน้องเขา

กาล

        เสียกรนเบาๆดึงให้ผมตื่นขึ้นมา ผมว่าผมพึ่งจะขึ้นรถเพื่อไปปราสาทที่สองแต่เผลอหลับไป แล้วทำไมตื่นขึ้นมาบนเตียงนุ่มๆที่โรงแรมเสียมเรียบได้หละเนี่ย แต่ตระหนักได้ว่ามีอ้อมแขนแข็งแรงหนักๆโอบรอบตัวอย่างปกป้องและยังตระหนักถึงความอบอุ่นที่เบียดกระชับชิดกายผมอยู่

        เจ้าหมีไคร์น

        หมีหนุ่มกอดผมไว้ดุจผมเป็นสมบัติล้ำค่าหาใดเทียบ แบบเดียวกับเขาคนนั้น คนที่ทำให้ผมรู้จักคำว่ารัก คำว่าหึงหวง คำว่าเจ็บ คำว่าผิดหวังและคำว่าลาจาก

        ความอ่อนโยนเอิบอาบไปทั่วตัวและหัวใจผม แม้จะรู้จักกันเพียงเมื่อวานแต่ผมเหมือนใจจดใจจ่อที่จะรอเจอเขามานานแสนนาน ผมแสนคิดถึงความรู้สึกที่ได้ตื่นขึ้นมาในลักษณะนี้เหลือเกิน ได้รู้สึกถึงเขาที่ชิดข้างกายอยู่ตลอด เหมือนหมีเท็ดดี้ ผมหัวเราะเงียบๆกับความคิดนั้น ไคร์นไม่มีอะไรที่ดูฟูนุ่มเหมือนตุ๊กตาหมีเลย

         แม้ตอนที่เป็นหมีจริงๆก็เถอะ

         ผมได้ประจักแล้วว่าเขาแข็งแกร่งด้วยมัดกล้ามและตัวใหญ่มหึมาจริงๆ เขากอดผมจนมิดเลย

         ผมอยู่คนเดียวมานานแล้วต้องเจ็บปวดและกล้ำกลืนน้ำตามานานไม่เคยมีสิ่งใดมาบรรเทาความเหงาลงได้ ต้องแสร้งทำตัวร่าเริงไว้จะได้ไม่มีใครมาถามให้รำคาญ จนกระทั่งตอนนี้ ไคร์นเขาได้ปลดปล่อยความเจ็บปวดที่ผมรู้สึกลึกๆโดยตลอดออกไป ด้วยวิธีไหนก็ตาม

         ช่างไม่ถูกต้องเอาซะเลยจริงๆ ผมเป็นคน ไคร์นเป็นหมี...เอาจริงๆก็คนแปลงเป็นหมีพร้อมมีพลังเวทย์มนต์อันเหลือเชื่อ ไม่น่าจะไปด้วยกันได้

         ทว่าผมกลับไม่รู้สึกแบบนั้น และเมื่อมีลมหายใจเป่ารดผิวกายและวงแขนของเขาโอบกอดอยู่ ผมต้องการเขา อยากจะเอิบอาบอยู่ในความอบอุ่นที่เขามอบให้ สูดกลิ่นอายของเขาจะมึนเมาไปเลย

         ผมเลื่อนตัวขึ้นไปจูบไคร์นอย่างอ่อนโยน แป๊บเดียวก็กลายเป็นจูบอันร้อนระอุ ไฟในกายผมลุกโพลงยิ่งขึ้นเมื่อไคร์นเบียดกระชับร่างเราทั้งสองให้แน่นขึ้น มือของเขาเริ่มเลื่อนต่ำลงไปในกางเกงของผมเกาะกุมสะโพกไว้แล้วบีบคลึงไปมาจนผมสะท้าน อกของเราบดเบียดกระชับแนบแน่น

         ผมขบเย้าริมฝีปากเขาก่อนที่จะยันกายออกจากอ้อมกอดเพื่อทอดสายตามองเขาอย่างเต็มๆตา เขาใส่แต่เสื้อยืดสีขาวพิมพ์ลายตัวเดิมแต่ถอดกางเกงจนเหลือแต่กางเกงในตัวจิ๋วที่ดูจะเก็บกักบางอย่างไว้ไม่มิด

         “นี่แหละ วิธีปลุกผมให้ตื่นหละครับ” ไคร์นพูดพร้อมส่งสายตาวิบวับดูเจ้าเล่ห์

         ผมส่ายหน้า

         “ไม่...นี่ต่างหากที่จะปลุกไคร์นให้ตื่น” ก่อนที่ไคร์นจะถามอะไร ผมก็เลื่อนตัวลงไปตามร่างกายเขาแล้วลงไปครอบครองความใหญ่โตนั้นด้วยปาก เขาเหมือนหมีนั่นแหละแม้จะหลับก็ยังใหญ่โตแล้วตอนตื่นนี้จะขนาดไหน ผมคิดว่าเขาจะต้องชอบแน่ๆถ้าได้ตื่นขึ้นมาอารมณ์ดีทุกเช้า

         เขาซอนมือเข้ามาที่เรือนผมประคองให้ได้จังหวะที่เขาต้องการ เขาอ้าขาจัดแจงท่าทางให้สบายในการทำกิจกรรมครั้งนี้ ผมใช้ริมฝีปากกำหลาบหมียักษ์นี้อย่างกระหายหิว ก่อนที่จะมึนเมาไปกว่านี้ผมผละจากความแข็งปั๋งนั้นมองสีหน้าตัดพ้อเสียดายอย่างที่สุดของเขา

        “มีอะไรผิดพลาดเหรอครับ น้องกาล” ไคร์นตาปรือเล็กน้อยหอบหายใจหนักๆอยากสับสน

        “ผมไม่ชอบกินทั้งเปลือกหนะ” ผมคลานไปบนตัวไคร์นอย่างช้าๆแล้วจับคอเสื้อของเขาฉีกกระชากเป็นแนวยาวลงมา จากนั้นเหวี่ยงมันทิ้งไป

         สายตาผมโลมเลียไล้ไปมาตั้งแต่ดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่มีประกายสดใสขี้เล่น แนวคิ้วเข้มตรงสีน้ำตาลทอง จมูกโด่งเป็นสัน ปากสีชมพูรับกับแนวกรามอันสมชาย ผมชอบไรเคราสากๆของเขานะ มันดูดิบเถื่อนไม่เจ้าสำอางดี แนวคอล่ำกับแผงอกกว้างอุดมด้วยกล้ามเนื้อที่สมบูรณ์เท่าที่ชายชาตรีจะพึงมี ผมไล้สายตาลงมาเรื่อยๆตามแนวกล้ามท้องที่ผมดูยังไงก็นับได้หกลูกโดยหาไขมันส่วนเกินไม่ได้เลย เอวหนาสอบเข้าจนผมจินตนาการว่าถ้ามองจากด้านหลังที่เปล่าเปลือยของเขาคงตัดเป็นแนวรูปตัววีอย่างแน่นอน ผมกำลังมองไล้ต่ำลงไปจากแนวสะดือไคร์นก็จับหน้าผมขึ้นไปมองตาของเขาอีกรอบ

          “สายตาทะลึ่งแบบนี้ ผมยอมเป็นไอศกรีมราดเมเปิ้ลไซรัป เชิญเลียและลิ้มลองได้ตามสบายเลยนะ กาล” เสียงเขาแตกพร่ามองตาผมจนหวานล้ำ

         “งั้นของเป็นไอศกรีมกล้วยและเชอร์รี่ราดคาราเมลด้วยนะ” ผมทำเป็นแลบลิ้นเลียตามแนวริมฝีปากของตัวเองเล่น

         “ผมยอมทุกอย่างเลยครับ ที่รัก”

================================================

เดี๋ยวมาต่อนะครับ
อย่าพึ่งอารมณ์ค้างกันเน้อ เหอๆๆๆๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-04-2011 15:53:25 โดย Windend »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13

ออฟไลน์ Tifa

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +417/-2
ว้าย หื่น จัง

หญิงรับไม่ได้ หญิงรับไม่ได้

/ m e ใช้มือบังตา เเล้วแอบอ่านตรงช่องนิ้ว

ออฟไลน์ Windend

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
มาแล้วครับ เหอๆๆๆ

ขอโทษนะครับที่ทำให้ค้าง ไปล้างบ่อปลามาหนะ

มาต่อกันดีกว่ากะตอนที่ 9

========================================================

        ตอนที่ 9 หมีคะนองเตียง (NC – XXX ต่อเนื่อง)

        ไคร์น

        ผมยอมทุกอย่างแล้วจริงๆ ผมคงไม่มีทางร้อนรุ่มยิ่งกว่านี้อีกแล้ว ต่อให้น้องเขาจุดไฟบนตัวผมแล้วเอาสเต็กมาย่างไปด้วย น้องกาลไล้มือทั้งสองไปทั่วร่างกายผมขณะที่ยังเลียลิ้มและดูดดื่มผิวของผมจนผมเริ่มตาพล่าด้วยความเสียวซ่าน

        ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนที่มีความปรารถนาอย่างโจ่งแจ้งและร้อนแรงเท่าน้องกาลอีกแล้ว กับผู้ชายผมก็ไม่รู้นะเพระไม่เคย

        สรุปผมชอบมากเลย

        น้องกาลค่อยๆไล้แนวฟันไปตามแนวลำคอ ผมเพลิดเพลินไปตามสัมผัส ดูท่าน้องกาลอยากกลืนกินผมให้หมดทั้งตัวแน่

        ผมเสกให้เสื้อผ้าของเราทั้งคู่หายไปจากนั้นจึงยกร่างน้องเขาขึ้นแล้วหยอกเอินกับยอดอกสีชมพูสวยเม็ดเล็กๆนั้นจนชุ่มฉ่ำ

        น้องกาลรั้งหน้าผมขึ้นมาขบเม้มปลายคางแล้วเลยขึ้นมาที่ริมฝีปากล่างก่อนจะขบกัดเล็กน้อยและดูดดุนเล่นพร้อมกับมือทั้งสองข้างก็ลูบไปตาต้นคอ บ่า และแผ่นหลังของผม

        อา...ผมรักสัมผัสแบบนี้จัง

        “ผมว่าการหาผู้ชายดีๆซักคนมามีเซ็กกันมันได้ได้ยากเท่าไหร่ แต่การที่จะหาเนื้อคู่มาสานฝันและสัมผัสกันด้วยกว่ารัก เสน่หา ความใคร่ที่แสนรัญจวนใจนี้ยากมากๆ แต่ผมก็ได้มาแล้วใช่ไหม ไคร์น” น้องกาลมองเข้ามาในดวงตาผม น้ำตาที่กำลังปรือขึ้นมาทำให้ผมต้องเข้าไปจูบซับไว้ ในใจน้องเขาน่าจะมีแผลสาหัสอะไรแน่เลยถึงได้พูดมาอย่างนี้ ผมยังไม่บอกเรื่องตราสัญลักษณ์ดีกว่า แต่ถึงยังไง ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีมัน ผมก็จะไม่ปล่อยคนตรงหน้าผมไปไหนเป็นอันขาด

        ไม่มีวันเสียหละ

        น้องกาลเริ่มจูบผมอีกจากนุ่มนวลก็เริ่มร้อนแรง เรียกร้องและโหยหา น้องกาลเอามือทั้งสองลงไปกอบกุมความเป็นชายอย่างแผ่วเบาแล้วบีบเค้นมันจนผมต้องส่งเรื่องฟ้องศาลแน่ข้อหาทำให้ผมตาพร่าเห็นดาวนับร้อยด้วยความเสียวซ่านกระสันยิ่ง

        ผมรู้สึกถึงพลังที่ฉีดซ่านขึ้นทั่วกาย โอ้...โอลิมปัส ใช่เลย นั่นแหละหวานนัก ผมต้องเป็นฝ่ายชักนำลิ้นไปชอนไชในปากนุ่มเพื่อคุมเกมส์รักในครั้งนี้เสียแล้ว น้องกาลจะได้รู้ว่าผมก็รักเขามากแค่ไหน

        ผมครอบครองกลีบปากงามพลางกดสะโพกน้องเขาให้บดเบียนกับแกนกายของผมยิ่งขึ้น น้องกาลทำตาระยิบระยับอย่างหิวโหยแกมพึงใจ

        “การมีคู่รักเป็นหมีอาร์คาเดียนนี่มีข้อดีใช่ไหมครับ ไคร์น”

        “กาลยังไม่รู้หรอกจนกว่าจะได้ลองทั้งหมดเสียก่อนนะ และจะไม่มีวันอิ่มเอมรักจนกว่าจะได้ลองรักกับหมีสักตัว โดยเฉพาะตัวนี้”

        “ไคร์น...นี่ใหญ่บิ๊กเบิ้มเหมือนหมีเลย” ผมต้องหัวเราะออกมากกับคำหยอกเย้าที่แสนหวานนั่น ผมชอบนะที่มีใครๆบอกว่าผมหนะ...ใหญ่ ดูโรคจิตยังไงไม่รู้ เหอๆๆๆ

         น้องกาลเลื่อนสายตาที่เริ่มหิวกระหายทั่วร่างกายผมอีกครั้งแล้วหัวเราะก่อนที่จะเป็นเสียงครางออกมาผมใช่ฝ่ามือไปทาบทับและกุมแท่งอ่อนไหวของน้องเขาเล่น ลูบไล้ขึ้นลงไปมาอย่างช้าๆแต่หนักหน่วง ดูท่าน้องกาลจะชอบมากผมจึงยกตัวน้องเขาขึ้นแล้วครอบครองด้วยปากแทน

         น้องกาลเอามือข้างหนึ่งยันผนังหัวเตียงเพื่อพยุงตัวไว้ เมื่อเรือนร่างพริ้วไหวและแอ่นเหยียดตอบสนองสัมผัสอันเชียวชาญของผม ก่อนที่น้องกาลจะสูดหายใจเฮือกต่อไป ร่างกายสั่นไหวระริกเกร็งก่อนที่จะระเบิดพร่างทะยานสู่ความสุขสมอย่างเข้มข้นที่สุดครั้งแรก
แต่ผมก็ยังมอบความหฤหรรษ์จนกระทั่งรีดเค้นความเสียวซ่านจากร่างกายน้องเขาได้อีกละลอก

         น้องเขาเอามือมายันหน้าผมออกไปทั้งๆที่ผมกำลังปรนเปรอรักให้อีกไม่ยอมหยุด น้องเขาหวาน หอม และมันส์ไปทั้งตัวจริงๆ รสชาติมันชั่งล้ำลึกมากเสียจนผมว่า ผมเสพติดน้องเขาแล้วจริงๆ

         เมื่อผมไม่สามารถทนต่อความปรารถนาที่จะครอบครองน้องเขาไว้ได้ผมจึงรั้งสะโพกน้องเขาให้หันหลังแล้วผมจึงคร่อมทับซ้อนลงไป น้องเขาหันหน้ามาจูบผมก่อนจะขยับสะโพกเบียนขึ้นมาหาผม อา...มันชั่งกลมกลึงเนียนนุ่มแต่แน่นเด้งดีเหลือเกิน

         ผมสูดกลิ่นซอกคอและแผ่นหลังน้องเขา ใช้ไรเคราที่พึ่งขึ้นถูเบาๆไปมาจนน้องเขาครางกระเซ้า

         ไม่รู้ว่าน้องเขาพร้อมที่จะรับของผมหรือยังผมเลยเลื่อนตัวลงต่ำไปยังช่องทางสีชมพูนั่นจากนั้นจึงลองลิ้มเลียไปรอบๆก่อนจะค่อยๆใช่ลิ้นซอกซอนลงไปในช่อง ฉกชิมเลมไล้อย่างอร่อยล้ำ เสียงน้องกาลกระซิบครางออกมาอย่างอยากจะต้านทานความเสียวซ่านที่ผมปรนเปรอให้

          ผมว่าน้องน่าจะพร้อมแล้วนะเพราะช่องทางขยายไม่เกรงและชุ่มฉ่ำ สัตว์ร้ายในร่างผมแผดเสียงก้องอย่างมีชัยก่อนที่จะพิชิตสิ่งที่อยู่ตรงหน้า น้องกาลเขาสามารถปลุกความดิบเถื่อนภายในตัวผมได้ยังไงก็ไม่รู้ มันชั่งโหยหา กู่ร้องเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของโดยเร็วจนผมยังสะท้านกาย

          “ไม่ต้องกลัวนะ ผมจะนุ่มนวลที่สุด” ผมกระซิบข้างหูน้องกาลแต่จริงๆแล้วเหมือนผมพูดเตือนตัวเองมากกว่า เพราะกระดูกของมนุษย์เปราะบางกว่า ผิวก็ช้ำง่ายกว่ามากถ้ารุนแรงเกินไป

          ผมห่อปลายลิ้นสอดเย้ายวนเข้าไปในช่องรูหูของน้องกาลจังหวะเดียวกับที่ผมพุ่งโผนความกำยำใหญ่โตเขาไปในช่องทางด้านหลังนั้น น้องกาลร้องออกมาเมื่อผมเติมเต็มเข้าไปในร่างของน้องเขา

          ผมควบขับจากช้าๆอ่อยอิ่งจนทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทางจึงเร่งจังหวะให้หนักหน่วง ผมต้องครางลึกอีกครั้งเมื่อได้ดื่มด่ำกับเรือนร่างของน้องเขาอย่างเมามัน ดูน้องเขาก็สุขสมไปกับผมด้วย เราขยับได้สอดประสานกันไม่ว่าจะช้าหรือเร่งให้เร็วขึ้นเป็นจังหวะที่เร่าร้อนจนเสียงเตียงดังขึ้นเอี๊ยดอ๊าดแข่งกับเสียงครางแสนหวานอย่างสุขสมยิ่ง

         ผมรู้สึกถึงพลังอำนาจที่ทวีความแข็งแกร่งขึ้นเมื่อผมจูบลงไปยังแก้มนวลนั่น พร้อมขยับมือที่กุมแกนน้องกาลไว้ให้เร็วขึ้น พร้อมๆกับขยับสะโพกชิดความกำยำของผมมากยิ่งขึ้น

         “อื้อมม...ไคร์น...ไคร์น...” น้องกาลกระซิบคราง หันเอาแก้มนิ่มมาแนบแก้มผม

         ผมรู้สึกแกนกายของผมกำลังขยายเพิ่มขึ้น ความเป็นหมีแผดเสียงกู่ร้องอย่างแสนอภิรมย์ มันกู่ร้องกึกก้องเมื่อช่องทางอันฉ่ำร้อนของน้องเขาบีบรัดกระชับรอบแกนกายของเขา ความสุขสมยิ่งกระตุ้นให้พลังวิเศษของผมทะยานแกร่งกล้าขึ้นไปอีก ผมยิ่งบุกทะยานอย่างหนักหน่วง ยิ่งใกล้ปลายทางความแกร่งร้อนของผมยิ่งขยายใหญ่ขึ้นอีก ผมต้องใช้พลังบางส่วนลดความเจ็บปวดของน้องกาลลงเพื่อให้น้องเขาสุขสมอย่างถึงที่สุด จนกระทั้งน้องกาลระเบิดพรั่งพรูออกมา ช่องทางที่โอบอุ้มความกำยำของผมยิ่งบีบรัดอย่างแรงจนผมสะท้านถึงปลายเท้าจนต้องระเบิดความสำราญออกมาอย่างมากมาย ไฟฟ้าสถิตรอบๆตัวกระตุกยิงอนุภาคสะท้อนกันไปมาในอากาศ ไม่น่าเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้นได้ ผมต้องรอซักพักจนกว่าการหลั่งของผมจะหยุดลงมันนานอยู่ถึงห้านาทีเลย

         น้องกาลหอบหายใจระรวยอยู่ใต้ร่างผม น้องหันหน้ามาจุมพิตที่แก้มผม อา...ชั่งเต็มตื่นเสียจริง

         “หมดแรงหรือยังครับ คนเก่ง” ผมจูบขมับน้องไปอีกทีให้รางวัลกับความแข็งแรงของน้องที่ยังมีสติรับผมได้อยู่

         “หมดแรง ก็น่าจะทั้งคู่มากกว่ามั้ง” น้องกาลหอบหายใจแรงๆก่อนจะจองมาที่นัยตาผมด้วยรอยยิ้ม

         “พูดอย่างกับว่าผมจะอ่อนปวกเปียกแบบมนุษย์หรือไงครับ”

        “มันก็น่าจะเป็นยังงั้นไม่ใช่เหรอ ปกติก็ต้องมีพักกันมั่งแหละน่า ซักยี่สิ...” น้องกาลยังพูดไม่ทันจบ ผมเลยต้องแสดงถึงศักยภาพของชาวอาร์เคเดียนให้น้องเขารู้หน่อยหละ

         “เอ๋...นี่ยังไม่พออีกเหรอไง กระดกได้อีกเนี่ย แล้วทำไมยังคาเอาไว้อีกหละ”

        “เผ่าของผมยิ่งมีเซ็กซ์พลังอำนาจจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น แถมบางอย่างยิ่งแข็งเป๊กเลยหละ”

        “ทะลึ่งแล้ว...นี่ก็หมายความว่า ผมสามารถเล่นกับไคร์นได้ตลอดคืนเลยเหรอ”

        “ถูกที่สุดเลยที่รัก...ทั้งคืนถ้ากาลไหวนะครับ” น้องกาลหันหน้ามาหาผมอย่างปลาบปลื้ม ผมเดาไม่ออกว่าทำไมน้องเขาถึงมีความคิดแบบนั้นได้

        “ไคร์น คุณช่วยเติมเต็มสิ่งที่ผมขาดหายไปได้จริงๆใช่ไหม” น้องเขาน้ำตาไหลออกมาแบบปัจจุบันทันด่วนเลย อะไรอีกหละเนี่ย ผมต้องจูบซับไปเรื่อยๆ ผมไม่อยากเห็นน้องเขาร้องไห้เลย

        “เป็นอะไรครับคนเก่ง...คิดอะไรอยู่หละฮื๊อ...บอกได้ไหมครับ”

        “...บอกได้หรอก...แต่ยังไม่อยากบอก...ตอนนี้หนะ...รอก่อนนะครับ ไคร์น” น้องกาลเอาหน้าซบอกผมแต่น้ำตายังไหลอยู่ ผมก็คงได้แต่โอบกอดน้องเขาไว้อย่างนี้จนน้องเขาหลับไป

        ผมจัดท่าทางให้น้องได้นอนอย่างสบายก่อนที่จะเข้าห้องน้ำ อาบน้ำซักนิ๊ดก็ดี ก่อนที่จะเข้าห้องน้ำก็เกิดแสงจ้าขึ้นด้านหลังผม พอหันกลับไปไปก็สบตากับเขา

        “เซนเซย์...!!!”

=====================================================

โปรดติดตามตอนต่อไปนะครับ

ติชมได้นะครับ ชอบไม่ชอบก็บอกนา

อีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วครับ

ขอบคุณทุกท่านนะครับที่คลิกเข้ามาอ่าน ยิ่งคนมาเมนนี้ Love มากมายเลยอะ :impress2:


jenzda

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ดดดด NC ที่รอคอย  :m25:

เป็นฉากอัศจรรย์ ที่อัศจรรย์สมชื่อ จริงๆ  :z1:

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
จาเกิดรัยขึ้นมั้ยอะ

ออฟไลน์ Cherry Red

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-0
"น้องกาลเครื่องร้อน" ปะทะ "พี่หมีคะนองเตียง"
เอ่อ..ไม่ทราบว่า "ฉายควบ" อยู่วิกไหน โรงอะไรค่ะเนี่ย? ตั้งชื่อได้สยิวกิ้วมาก ๆ  :fox2:

งานนี้คงไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องรักกันภายใน 3 อาทิตย์แล้วล่ะมั้ง?
surprise นิด ๆ ที่น้องกาลเริ่มก่อน ( ประมาณว่า พี่หมีไม่ต้อง น้องกาลจัดให้ )
แถมยังดีอกดีใจกับการที่พี่หมีรับประกันคุณภาพ เล่นได้ต่อเนื่อง แรงดี ไม่มีตก
โอ้...มันช่างน่าสงสัยยิ่งนัก ว่าจะเอาไปทำอะไรทั้งคืน ???

ออฟไลน์ l2ozen

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

butterfly_bee

  • บุคคลทั่วไป
เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ
น้องกาลกับพี่หมีนี่สุดยอดเจรงๆ  :m25:
พี่หมีปลดปล่อยยาวนานถึง5นาทีเลยหรอ  :a5:  :-[
อร้ากกก มันจะอะไรขนาดนั้นค๊าา
พี่หมีก๊อกรั่วอ๊ะป่าวเนี่ย หุหุ
ทาเคชินี่มีอดีตอะไรกับน้องกาลรึเปล่า
แลดูมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
เอ พล๊อตเอามาจากนิยายแปลใช่ปะเนี่ย คุ้นๆนะตัวละคร

ออฟไลน์ Windend

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
อย่างที่ผมบอกตั้งแต่ต้นนะครับ อันนี้เป็น Fic จากนิยายแนว Paranormal ที่ขายดีในอเมริกาครับ

ใครที่เคยอ่านจะรู้ดีครับ ผมเอามารวมกับประสบการณ์แล้วรสนิยมส่วนตัวเลยออกมาเป็นแบบนี้ :o8:

ถ้าใครชอบก็ขอบอกนะครับว่า ยังมีอีกหลายคู่ให้บิ้วอารมณ์กันต่อ :impress2:

แต่ถ้าใครหลงมาอ่านแล้วยี้ ก็ขออภัยด้วยนะครับ

มาต่อกันดีกว่าใกล้จะจบแล้วครับ

=================================================================

          ตอนที่ 10 ปราสาทอธิฐาน

          ไคร์น

          “เซนเซย์...!!!” ตกใจซิครับ อยู่ๆคนที่ผมไม่อยากเจอดันโผล่มาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเลย ถึงจะชินกับพรรคพวกที่เป็นแบบนี้แล้วแต่ส่วนใหญ่จะเกิดแรงสั่นสะเทือนในอากาศก่อน แต่นี่มาอย่างกับเทพเจ้าเลย สายตาของเซนเซย์มองมาที่ผมอย่างเดือดดาดมากๆ ถ้าสายตาฆ่าคนได้นี่ผมคงกลายเป็นสเต็กหมีไปแล้ว

          แบบไหม้เกรียมพิเศษด้วย :o7:

          “ก็เออซิวะ...พวกเจ้ารีบย้ายก้นปุกปุยออกจากห้องแล้วกลับเข้าไปในรถเดี๋ยวนี้เลย...” น้ำเสียงกดต่ำเหมือนสะกดอารมณ์เดือดไว้ทำเอาผมขนลุกเลย จริงๆผมไม่ค่อยจะกลัวอะไรง่ายๆแบบนี้นะครับ แต่คนนี้ผมว่าผมกวนไม่ออกหนะ ถ้ายังรักชีวิตที่เหลืออยู่หละนะ
“เออ...คือเราออกมากันตั้งสี่ชั่งโมงแล้ว...แล้วจะกลับเข้าไปในนั้นได้ยังไงหละครับ” ผมสงสัยนะ ไม่ได้กวน พี่แกยังมองแบบเดิมมาที่ผมก่อนจะปลายตาไปที่เตียงที่น้องกาลนอนหลับอยู่ก่อนจะมีสีหน้าปกติลง สงสัยเมื่อกี้องค์ประทับ

          “ข้าให้เวลาพวกเจ้าหนึ่งชั่วโมง กระโดดไปจุดเดิมตอนแรกก็แล้วกัน” เฮ้อ...พี่ท่านยังไม่ตอบคำถามตรงๆเสียที เป็นนิสัยที่แก้ไม่หายหรือเปล่าเนี่ย

          “เซนเซย์เดี๋ยวก่อน...” ก่อนที่ผมจะขอคำอธิบายเขาก็หายแว๊บไปเรียบร้อยแล้ว ผมเลยต้องหันกลับเข้าห้องน้ำรีบอาบน้ำพอเสร็จก็เนรมิตเสื้อผ้ามาใส่ จากนั้นเดินไปปลุกน้องกาลก่อน

          “ห้าววววว...อะไรเหรอครับ...ไคร์น” น้องกาลบิดขี้เกียจดูน่าจะยังเมาขี้ตาอยู่ น่ารักมาก

          “กาล เราต้องรีบกันแล้วหละครับ เราต้องกลับเข้าไปในรถกันแล้วหละครับ” ผมรีบเสกเสื้อผ้าของน้องเขาให้กลับไปเป็นเหมือนเมื่อตอนเช้าพร้อมทำให้เนื้อตัวน้องเขาสะอาดภายในครั้งเดียวกัน จากนั้นก็พาน้องกาลกระโดดมาอยู่ในรถเป็นที่เรียบร้อยแต่พอมองไปรอบๆตัวก็ตกใจ

          “นี่...นี่มันอะไรกันเนี่ย...เซนเซย์หยุดเวลาได้ด้วยเหรอเนี่ย” ทุกอย่างยังเหมือนเดิมก่อนที่ผมจะกระโดดเอาน้องการไปไว้ที่โรงแรมเมื่อกี้อีก เหมือนกับว่าผมและน้องกาลยังนั่งกันอยู่ที่เดิมเลย วิวภายนอกก็พึ่งจะออกมาจากปราสาทบันทายศรีเอง ผมหันไปมองเซนเซย์อีกครั้ง

          “บ้าไปแล้วเหรอไง...ใครจะไปอยากมีเรื่องกับ เดอะ โฟลว์ วะ” ทาเคชิกระซิบแบบดุๆมาทางผม แต่ยังไงก็งงอยู่ดีหละ

          “แล้วทำไมเรายังอยู่ที่เดิมได้หละ”

          “มีวิธีที่ง่ายกว่าหยุดเวลาตั้งเยอะ...แค่ทำให้เฉพาะห้องที่นายพักเมื่อกี้เวลาเดินเร็วขึ้นล้านเท่า สิ่งที่พวกนายทำเลยใช้เวลาไม่ถึงสิบนาโนวินาทีเอง เหอๆๆๆ เร็วเน้อะ” ทาเคชิส่งสายตากวนๆมาทางผม มองหน้าตักแล้วก็มองหน้ามองอย่างนี้อยู่สามรอบ โห...มีเคืองนะเนี่ย

          “ทาเคชิ คุณเป็นใครกันเนี่ย” น้องกาลถามได้โดนใจผมมากมายครับ

          “เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยบอก ตอนนี้ต้องไปที่สำคัญก่อน”

          “ที่ไหนเหรอครับ”

          “ปราสาทตาธมหรือปราสาทอธิฐาน”

          พวกเราตอนนี้มารวมกลุ่มกับพวกพี่ประวัติเหมือนเดิม เดินกันไปเรื่อยๆ ทางเข้ามีต้นไม้ใหญ่สูงมากจนปิดแสงแดดเลย มีบางช่วงแสงรอดมาได้ดูสวยมาก พวกเราสามคนเดินรั้งท้ายกลุ่มมาไกลเหมือนกัน แล้วก็ไม่ค่อยจะมีคนด้วย จู่ๆเซนเซย์ก็เรียกให้น้องกาลหยุดยืนอยู่กับที่แล้วให้พนมมือไว้ แปปเดียวแสงแดดก็ส่องลงมาทั้งที่ต้นไม้ปิดไว้หมด เพียงแปปเดียวก็หายไป เป็นอะไรที่แปลกมาก

          “เซนเซย์ให้กาลทำอะไรเหรอครับ”

          “ขอพร ตรงที่จุดที่น้องกาลยืนเมื่อกี้เป็นช่องประตูสวรรค์ มีทวารบาลคอยคุมอยู่ ข้าเลยขอทวารบาลให้น้องกาลผ่านเข้าไปได้ทั้งสองภพเพื่อขอพรโดยตรงกับเทพที่น้องเขาสังกัดอยู่”

          “แล้วกาลอยู่สังกัดใครหละครับ”

          “เฮ้ยๆๆ...ไอ้หมี พูดให้มันดีๆหน่อย ตอนนี้แกไม่ได้อยู่ในเขตของเทพโอลิมปัสนะเว้ย ระวังปากหน่อย เทพวงศ์นี้เน้นเรื่องที่ต่ำที่สูงนะ ควรไม่ควร เดี๋ยวจะซวยกันหมด”

          “แล้วจะให้ผมพูดยังไงหละครับ”

          “อืมมม...หมียังไงก็ยังเป็นหมีอยู่ดี ข้าขี้เกียจอธิบาย น้องกาลตอนนี้อยู่ในการคุ้มครองของเทพสายภารตะ สังกัดอยู่กับอัปสราฝ่ายพระแม่ลักษมี”

          “แล้วมันเป็นยังไงหละครับ”

          “ก็ผู้ใดสังกัดหรือที่ใครๆเขาเรียกว่ามีดวงอัปสรา  จะมีคนมารักมาหลงเยอะแต่จะไม่มีทางสมหวังด้านคู่ครองหนะซิ”

          “เอาหละซิ ชิหายของจริงหละทีนี้”

          “แน่นอนที่สุด ข้าถึงต้องหาทางให้น้องเขาหลุดจากชะตากรรมอันนี้ยังไงหละวะ”

          “ไคร์น ทาเคชิ มัวคุยอะไรกันอยู่ครับ เราจะเข้าตัวปราสาทกันแล้วนะครับ” น้องกาลตะโกนเรียกซะแล้ว เราเลยต้องรีบเดินไปหาแต่ดูท่าผมจะช้าไป เจ้าเซนเซย์นั่นไปถึงน้องกาลก่อนแถมยังโอบคอน้องเดินเข้าไปก่อนผมเสียอีกแหนะ หนอยๆๆๆ เซนเซย์นะเซนเซย์ เดี๋ยวจะหือให้ดูเชียว

          “มัวยื่นบื้ออะไร ไอ้ปุกปุย ตามมาเร็วๆซิวะ”

          “คร้าบบบบ” :o7:

=================================================

          กาล

          ทาเคชิเดินโอบคอผมอยู่ ไม่รู้หมีใหญ่ของผมจะหึงไหมนะ พอหันไปดูก็เจอกับสายตาที่เขามองทาเคชิแบบจะกินเลือดกินเนื้อเสียให้ได้ แล้วเขาก็หันมาสบตาที่ผมอย่างตัดพ้อและน้อยใจ ผมรู้สึกเสียดในอกอย่างแรง ผมยอมรับนะครับว่าผมชอบไคร์นมาก เขาเหมือนฝันที่ผมโหยหามานาน

          เอาจริงก็เกินฝันไปเยอะเหมือนกัน ยังเจ็บๆก้นอยู่เลย
พอเดินผ่านโคปุระเข้ามาทางตัวปราสาทผมก็ตะลึงกับรากต้นไม้ขนาดใหญ่ที่พาดเกี่ยวไปมาตามกำแพงและตัวปราสาทแห่งนี้ มันใหญ่โตและน่าพิศวงมากเลยครับ เหมือนงูตัวมหึมากำลังนอนพาดลำตัวไปมาตามกำแพงยังไงยังงั้นเลย แต่ภาพนี้ทำไมคุ้นตาจัง

          “รากต้นไทรทำไมมันใหญ่โตอย่างนี้เนี่ย”

          “ไม่ใช่รากต้นไทรหรอกครับ นี่รากต้นสมพงนะ เดี๋ยวเราเดินไปตรงจุดที่เขาเคยถ่ายทำเรื่อง Tomb Raider กันนะ”อ๋อ...เหมือนในเรื่องที่ยัยเจ๊เจ่อเล่นนี่เอง มิน่าถึงคุ้นๆ แหมต้องขอบคุณทาเคชิ ทำหน้าที่เป็นไกด์ส่วนตัวให้จริงๆ เราเจอมุมที่เขาถ่ายกันอยู่ผมเลยยื่นกล้องถ่ายรูปไปให้พี่ประวัติเป็นตากล้องถ่ายรูปให้ที ผมอยากถ่ายรูปเดี่ยวหนะแต่ไคร์นไม่ยอมจะยื่นถ่ายคู่กับผมให้ได้แถมยังเอามือมากอดคอ โอบไหล่ โอบเอวเปลี่ยนท่าถ่ายไปเรื่อยๆอีก แหมๆๆ ม่ใช่ถ่ายแบบนะเฟ้ย

          “นี่ ยืนถ่ายแบบปกติชนได้ไหมเนี่ย ไคร์น”

          “ต้องซ้อมไว้ไงครับ กาล”

          “ซ้อม???...ซ้อมอะไร” ไคร์นโอบเอวผมจากด้านหลังแล้วกระซิบข้างๆหู

          “ซ้อมถ่ายรูปแต่งงานไงครับ กาล” อึ๋ย...อย่าทำแบบนี้ได้ไหมเนี่ย สยิว

          “เลิกเล่นได้แล้ว รีบตามมาทางนี้เร็ว” เสียงทาเคชิเรียกผมกับไคร์นออกมาจากกลุ่ม ผมมองกลับไปดูนี่สงสัยจะต้องติดอยู่ตรงนี้อีกนานแน่ไม่ได้ไปไหนหรอก เพราะพวกลุงๆป้าๆยังถ่ายรูปกันอยู่เลย

           ผมเดินตามทาเคชิไปอีกซักพักเราก็เข้ามาอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมทรงสูง มีรูตรงกลางเพดานห้อง ขนาดไม่ใหญ่เท่าไหร่เข้ามากันได้สามคนกำลังดี

          “น้องกาลยืนตรงด้านนี้นะครับ อธิฐานดีๆหละแล้วทุบอกตรงนี้นะ” ทาเคชิชี้ตำแหน่งที่หน้าอกด้านซ้ายของผม ผมจำไว้แล้วไปยื่นตามที่เขาบอก พออธิฐานเสร็จผมก็ทุบอกตรงที่บอกเบาๆ ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดังอย่างกับระฆังก้องภายในห้อง โห...แปลกมากเลย

          “คำอธิฐานของน้องกาลท่านรับแล้วนะครับ ยินดีด้วยนะครับ” ทาเคชิยิ้มมาให้ผมอย่างอ่อนโยน ผมรู้สึกว่าตั้งแต่เจอเขามาตั้งแต่เช้า เขาทำอะไรต่ออะไรให้อย่างจริงใจจริงๆ ไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจอะไรเลย เออ...ยกเว้นเรื่องที่คอบกอดคอโอบบ่าผมนะ

          “ตุบ...ตุบ...เฮ้...เซนเซย์ ทำไมผมไม่ดังเหมื่อนของกาลหละครับ” ไคร์นร้องถามทาเคชิ แล้วทำไมไปยืนทำแบบผมหละ

          “ไอ้ปุกปุยอธิฐานลามกแบบนั้นใครเขาจะรับวะ”

          “อ้าว...ไม่ได้เหรอ...นี่ขอแบบสุภาพแล้วนะ”

          “เลือกใช้คำพูดใหม่เลย ไอ้หมี ขอเสร็จก็ทุบตรงนี้นะ” ทาเคชิชี้จุดที่อกด้านขวาของไคร์น คนละจุดกับของผมเลย

          “บุ๊งงงงงงง....อะฮ้า...สำเร็จ” เอ๊...ดังด้วยแฮ๊ะ

          “ห้องนี้สำคัญมากนะ ห้ามเล่นเด็ดขนาด เพราะห้องนี้เป็นห้องอธิฐานจิตของพระเจ้าสุริยะวรมันก่อนออกไปรบเอาบ้านเอาเมืองเชียวนะ” ทาเคชิอธิบายให้ผมฟังไปเรื่อยๆเหมือนเดิม

          “แล้วเมื่อกี้ไคร์นขออะไรหละ ถึงทุบอกแล้วไม่ดังหละครับ” ไคร์นทำหน้าปุเลี่ยมๆแล้วหันไปหาทาเคชิที่กำลังกลั้นหัวเราะสุดชีวิต

          “เออ...คือ...ความลับหนะ”

========================================================

ชอบไม่ชอบก็ติชมได้นะครับ

ส่วนถ้าใครสนใจหนังสือที่ผมเอามาเป็นแนวก็พูดคุยกันได้นะครับท่าน ไม่ว่ากันอยู่แล้ว อิอิอิ :laugh3:

เจอกันตอนหน้านะครับ :bye2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






pinkky_kiku

  • บุคคลทั่วไป
หมีมันขอทะลึ่งเยอะๆแน่ๆเลยไม่ยอมดัง หึหึ
รอตอนต่อไปจร้าาา กะลังหนุกเยย

ออฟไลน์ Cherry Red

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-0
จากพี่หมี กลายเป็น "ไอ้ปุกปุย" ไปซะแล้ว... :m20:
จากที่อ่านทาเคชิก็ไม่ได้ขัดขวางอะไร คงไม่ได้คิดจะแย่งน้องกาลไปจากไคร์นจริง ๆ หรอก (มั้ง?)
แต่ที่พูดขู่ไป เพราะ หมั่นไส้อะไรไอ้ปุกปุยมันรึเปล่า?
 

ออฟไลน์ Windend

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
แหม...มีคนสงสัยในตัวทาเคชิแฮ๊ะ

งั้นก็จัดไปก็แล้วกันนะครับ

ความในใจของหนุ่มหล่อทาเคชิ

=======================================================

          ตอนที่ 11 ความในใจของทาเคชิ

          ทาเคชิ

          เฮ้อ...อย่าคิดว่าข้าจะลืมได้นะโว้ย ของของข้ายังไงก็ต้องเป็นของของข้า ไม่ว่าจะอยู่ในร่างไหนก็ยังเป็นของๆข้าอยู่ แกไม่มีสิทธิ์อะไรตั้งแต่แรกแล้ว อย่าคิดว่าที่ข้าช่วยนิ๊ดช่วยหน่อยแล้วมาหมายความว่าเราสนิทกันหละก็ คิดผิด

          เฮ้อ...เอาเข้าจริงๆข้าก็ยังไม่ลืมรอยยิ้มนั้น จะอยู่ในร่างไหนข้าก็พยายามหาเจ้าจนเจอ ไม่ว่าเจ้าทำพลาดอะไรมาข้าจะอภัยเหมือนทุกครั้ง หรือแม้เจ้าจะมีใครที่ไม่ใช่ข้า ข้าก็จะยินดีด้วย แล้วข้าจะทำยังไงดีหละทีนี้

          ‘เมื่อมีสติ สันติก็เกิด’ ธอเนี่ยนคนหนึ่งได้กล่าวไว้

          แล้วข้าก็ตอบกลับไปว่า หายนะย่อมมาถึงพวกเราทุกคนแน่เพราะไม่มีคนไหนในหมู่เราเลยที่ทำอะไรตาไรแบบมีสติดีๆกันซักคน หลายคนที่อยู่ด้วยก็หัวเราะกันไป ข้าไม่ชอบปรัชญา ข้าชอบความจริงตรงหน้ามากกว่า

          ภายในห้องเมื่อเช้า ข้ามองเห็นแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเจ้า ข้าจึงต้องปล่อยให้เลยตามเลยไป พยายามไม่ใส่ใจ เพื่อเจ้าจะได้รู้ใจตัวเองว่าจะเอายังไงกับชีวิตนี้ของเจ้า ข้ามองเจ้าตลอดเวลา ถามว่าโกรธไหมที่เจ้ามีคนที่เจ้าหมายปอกแล้ว ก็ต้องตอบว่าแทบคลั่ง แล้วถ้าถามว่าเกลียดเจ้าไหม ข้าตอบได้ทันทีว่า ข้าไม่เคยเกลียดเจ้าเลย ข้ารักเจ้าตลอดเวลา ความรักของข้ามันยาวนานเหลือเกิน มันเป็นคำสาปที่ข้าต้องเห็นคนที่ข้ารักไม่ได้รักข้าแล้วคนที่ข้ารักจะต้องตายภายใต้อ้อมกอดข้าทุกครั้ง มันเป็นคำสาปที่คนไร้สติอย่างข้ารับไว้เพื่อแลกกับบางอย่างที่ข้าคิดว่ายิ่งใหญ่กว่า

          ในตอนแรก รัก เป็นคำที่หอมหวานสำหรับข้าหรือเปล่า ข้าหาคำตอบอยู่นานมาก ข้าไม่อาจทำใจให้ใครมาดูแลคนที่ข้ารักนอกจากข้า ข้าริษยาคนทุกคนที่เจ้ารัก ข้าหึงหวงเจ้าทุกครั้งที่เจ้ายิ้มและปลายตาไปยังคนอื่นที่ไม่ใช่ข้า

          แต่ตอนนี้ เจ้ารู้อะไรไหม การมีชีวิตที่เกือบจะอมตะมันให้นิยามของคำว่า รัก กับข้าใหม่ สำหรับข้า การคอยช่วยเหลือเกื้อกูล การเอาใจใส่ดูแล ช่วยคลายทุกข์เมื่อเจอ ร่วมยินดีเมื่อมีความสุข จนกระทั่งร่างกายนั้นหมดอายุไป นั่นคือความรักของข้า เพราะข้าได้เปรียบมนุษย์ธรรมดาอยู่นิ๊ดเดียวเท่านั้น

          ข้าสามารถดูแลเจ้าและรักเจ้าได้ทุกภพทุกชาติ แค่ภาชนะใส่วิญญาณยังไงก็มีวันหมดอายุ แต่วิญญาณของเจ้า ข้าเป็นผู้ดูแลเอง ข้าจะนำพาเจ้าไปอยู่ในภาชนะที่ดีที่สุดกับเจ้าต่อไป ทุกครั้ง

          และชีวิตนี้ เจ้าจงใช้ภาชนะนี้ให้คุ้มค่าเถอะ อย่าไปกลัว ข้าจะอยู่เคียงข้าเจ้าเอง ใครที่เจ้ารัก ข้าก็จะรักด้วย แต่ใครที่เป็นศัตรูเจ้าข้าจะจัดการเอง เพราะข้าทำก็เพราะข้ารักเจ้า ข้าภาวนาขอให้เจ้าได้เข้าใจข้า อย่าผลักไสข้าให้ห่างจากข้างกายเจ้าเลย


ที่รักของข้า

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

ไอ้หมีน้อยของข้า

==============================================================

วันนี้มาแบบสั้นๆ ต้องขออภัยด้วย คนป่วยเยอะ :sad4:

จะพยายามมาลงทุกวันนะครับ
ขอบคุณและเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ :bye2:

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
หุหุ ไครน์ต้องอฐิษธานอะไรที่มันลามกแน่

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
เอ่อ ชักงงแฮะ

ออฟไลน์ Cherry Red

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-0
ที่รักของข้า....ไอ้หมีน้อยของข้า  :a5:
อย่าเชื่อในสิ่งที่ตาเห็น อย่าด่วนสรุปกับสิ่งที่ได้อ่าน ( จนกว่าคนแต่งจะเฉลย )
ตกลงที่ ทาเคชิพูดขู่ และ ทำเนียนใส่น้องกาล คือ การกลั่นแกล้งหมีน้อยด้วยความรักสินะ  :m21:

ความรักของทาเคชิที่มีต่อวิญญาณในร่างของหมีเนี่ย ลึกซึ้ง ผูกพันธ์ และเป็นนิรันดร์จริง ๆ ( ก็ตามกันมาตั้งหมื่นกว่าปี )

JipPy

  • บุคคลทั่วไป
ออก งงๆ  แต่ก็สนุกมากๆ 





มาอัพต่อเร็วนะ เน้ออ อ อ อ

jenzda

  • บุคคลทั่วไป
ชอบคร๊า  รอตอนต่อไปอยู่น๊าาา o13

ออฟไลน์ Windend

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์นะครับ รู้สึกดีมีคนหน้าตาดีมาเมนท์ให้ อิอิอิ

วันนี้มาดึกงะ ต้องขออภัยอย่างแรง น๊อคอะ หลับไปตั้งแต่สิบโมงตื่นมาอีกที่สี่โมงเย็นหละ

มาต่อกันดีกว่าครับ

===========================================================

          ตอนที่ 12 จะกินอะไรระหว่าง KFC กับ หมีจอมหื่น

          กาล

          หลังจากเราออกจากปราสาทตาธมแล้ว คณะทัวร์เราแล่นรถออกไปผ่านกำแพงหมู่ปราสาทชั้นใน ขอบอกว่าอลังการมากๆ สมใจอยากเลย แหงนหน้าคอแทบหักแหนะ รถของเราวนมาจอดบริเวณใกล้ลานชนช้าง พี่ประวัติให้พวกเราซื้อของแวะพักกันก่อน ก่อนที่จะไปยังปราสาทที่สาม

          “ตรงด้านนี้เป็นเขาเรียกว่าอะไรครับ กาล” ไคร์นถามผมให้หันไปดูปราสาทหลังเล็กๆไม่ใหญ่มากที่เรียงกันเป็นระเบียบสิบสองหลัง ขนาดแตกต่างกันไป

          “อ๋อ...ตรงนี้เรียกปราสาทนางสิบสองครับ เป็นต้นกำเนิดนิทานพื้นบ้านของไทยเรื่องพระรถเมรี อันนี้มีเค้าเรื่องมาจากที่นี่แหละ ไคร์น” ผมอธิบายเรื่องพระรถเมรีให้ไคร์นฟังก่อน ส่วนทาเคชิยังยืนข้างๆ แต่หันหลังให้พวกเรามองไปทางหมู่ปราสาทนางสิบสองอยู่

          “ก็มีเค้าเรื่องจริงอยู่เยอะเหมือนกันนะเรื่องที่น้องกาลเล่ามา” ทาเคชิหันมายิ้มให้ก่อนจะหันไปทางไคร์นกระซิบด้วยภาษาอะไรซักอย่างฟังไม่ออกเลย ไคร์นหันหน้ามาทางผมด้วยสายตาวิบวับแล้วจูงมือผมเดินเข้าไปในหมูปราสาทนางสิบสองทันที

          “จะพาไปไหนหนะ แล้ว...”

          “ตามมาดีกว่านะครับ กาล อย่ากลัวไปเลยนะครับ คนเก่ง” ไคร์นจูงผมมายังปราสาทหลังหนึ่ง เข้าไปแค่คนเดียวเอง ภายในสูงประมาณสามเมตรแต่กว้างขนาดสี่ตารางเมตรเท่านั้น นับว่าเล็กจริงๆ

          “กาลนั่งเฉยๆในนี้ก่อนนะครับ เซนเซย์จะทำพิธีให้ รอนะครับ” ผมพยักหน้าก่อนจะนั่งลงกับพื้น รอประมาณสองสามนาที ไคร์นกับทาเคชิก็มายืนอยู่ตรงหน้าปราสาทแล้ว

          “น้องกาลครับ ลุกออกมาได้แล้วครับ ก้าวเท้าซ้ายข้ามธรณีประตูนะครับ” ผมทำตามพี่ทาเคชิพูดพอลงมาได้ ทาเคชิเขาเอาน้ำเปล่ามารดหัวผมซะขวดใหญ่เลย

          “ทำอะไรหนะ เปียกหมดแล้วนะ” โวยซิครับ อย่างนี้ต้องโวย

          “ใจเย็นๆ ลืมบอกไปว่าต้องรดน้ำมนต์ด้วยหนะ”

          “แล้วไปเอามาจากไหนเนี่ย ”

          “อ๋อ...เมื่อกี้ให้ไคร์นไปเอาน้ำจากพนมกุเลนที่ห้องมาให้ รับรองผลได้เลย”

          “เปียกเลยอะ แล้วแบบนี้จะไปเที่ยวต่อได้ยังไงกันหละเนี่ย”

          “เราคงไม่ได้เที่ยวกันต่อแล้วหละ รีบเข้าไปในรถกันเดี๋ยวนี้เลย ไคร์น ไป” ผมยังไม่ได้ก้าวเดินพวกเราสามคนก็มานั่งกันในรถแล้ว ดีที่คนขับกับพี่ประวัติไม่อยู่นะเนี่ย

          “ทำไมหละ ทาเคชิ ยังเหลือปราสารนครธมนะที่เราต้องไป” ผมอยากไปถ่ายรูปที่นั่นหละ

          “ดูจากเวลาและสภาพตอนนี้คงไม่ทันแล้วหละ เพราะอีกแปปนึง ฝนจะตก”

          “แดดแรงแบบนี้หนะเหรอฝนจะตกได้” ไม่ทันขาดคำฝนก็เทลงมาทันที โห...ตอนนี้เรามีกรมอุตุฯเคลื่อนที่ได้อยู่กับเราด้วยนะเนี่ย อิอิอิ

          “ก็บอกแล้วว่ามันจะตก...ปุกปุย เอานี่ให้น้องกาลเช็ดหัวไป” ทาเคชิยื่นผ้าเช็ดตัวผืนไม่ใหญ่มากมาให้ แล้วไปเอามาจากไหนหละเนี่ย ไคร์นก็รับมาเช็ดให้ผมแบบไม่มีปากมีเสียงเลย เช็ดไปก็มองหน้าผมไป ไอ้ผมก็แปลกจ้องตาไคร์นตลอด ตาเขามีเสน่ห์จริงๆ ดูอบอุ่นด้วย

          เขายิ้มไปเช็ดไป เออ...แต่รู้สึกหน้าเราจะใกล้กันไปแล้วนะเนี่ย คิดอะไรอยู่ไคร์น ถ้าคิดเหมือนผมก็ทะลึ่งแล้วนะ และเพื่อไม่ให้ไคร์นเขาคิดเลยไปไหน ผมก็คว้าคอเขามาจูบเร็วๆซักทีเสียเลย จะได้ไม่เสียเวลาจิ้น อิอิอิ อยากนักใช่ไหม อย่าคิดนะว่าผมจะไม่อยากมั่งหนะ

          เราผละจากกันแต่ก็ยังจ้องตากันซักพัก น้ำตาผมมันก็เริ่มคลอขึ้นมา มันเหมือนความฝัน ฝันที่ผมโหยหามาตลอด รับแบบไม่ต้องหลบต้องซ่อน รักที่แสดงได้ตลอด รักที่สามารถเปิดใจได้ไม่ต้องเกรงเกร็งอะไร รักโดยที่ยังเป็นตัวของตัวเองได้อยู่ ผมเหนื่อยกับการไล้ตามสิ่งที่จับต้องไม่ได้มานานแต่ก็ไม่เคยทิ้ง มีคนเข้ามาบ้างแต่เมื่อลองกันไปใจมันก็บอกว่าไม่ใช่ แต่พอไคร์นมาอยู่ตรงหน้าในคืนนั้น ผมก็รู้เลยว่านี่แหละสิ่งที่ตามหามานาน ที่พักใจของผม

          ผมไม่รู้ว่าเราจ้องกันนานเท่าไหร่ ทาเคชิก็เรียกสติของเรากันก่อนที่จะชี้ไปทางคนสองคนที่วิ่งฝาสายฝนใกล้เข้ามาที่รถ พี่ประวัติกับคนขับรถนั่นเอง

          “แหม...น้องกาลนี่โชคดีมากเลยนะครับ พวกลุงๆป้าๆตอนนี้หลบฝนกันที่ร้านอาหารด้านโน้น เราคงต้องยกเลิกการเที่ยวปราสาทนครธมกันแล้วหละครับ แล้วก็พวกเราตกลงกันจะเข้าที่พักกันเลยส่วนใครจะแวะที่ไหนก็ตามสะดวกก็แล้วกันนะครับ” พี่ประวัติพูดซะยืดยาวเลย ทาเคชิหันมายักคิ้วให้แบบบอกว่า เห็นไหมหละ อยากรู้จริงๆว่านายคนนี้ทำอาชีพเป็นหมอดูด้วยไหมเนี่ย

          “แล้วมื้อเย็นจะเอายังไงครับพี่”

          “ก็คงต้องตามอัธยาศัยหนะครับ พวกลุงๆเขาบอกว่าจะไปร้านเดิมแล้วจะแวะเข้าสปาร์ข้างโรงแรม ส่วนพวกป้าๆก็จะด้วยแต่จะแยกไปช้อปปิ้งที่ไนท์บาซ่าครับ แล้วน้องสามคนจะเอายังไงครับ เดี่ยวผมทิ้งคนขับไว้ให้เอาไหม” พี่ประวัติเสนอมาผมเลยหันไปมองหน้าไคร์นกับทาเคชิออกขอเห็น

          “พวกเราว่าจะเข้าที่พักกันเลยครับ รู้สึกเหนื่อยๆมาทั้งวันแล้วครับพี่” ทาเคชิเสนอออกไปก่อนหันมาขยิบตาให้ไคร์น

          “เอาอย่างงั้นก็ได้ งั้นเราเข้าที่พักกันก่อนแล้วเรื่องรถพี่เอาไปใช้นะครับ”

          “ได้เลยพี่ ตามสบายครับ”

          พอถึงที่พักไคร์นกับทาเคชิก็มาอยู่ที่ห้องผมกันผมรู้สึกหิวมากแต่ก็ไม่อยากกินข้าวที่โรงแรมงะ เบื่อแล้ว

          “ไคร์น กาลอยากกินเคเอฟซีจัง ตอนขากลับเราเห็นตรงมุมถนนฝั่งโน้นหนะ นะ” เหอๆๆๆขออ้อนแฟนหน่อยเถอะ ไคร์นเลยหอมแก้มผมไปทีก่อนจะหันไปทางทาเคชิ

          “ไปไหมครับ เซนเซย์”

          “ไม่เอาร้านนั้น ไปกินที่โน้นดีกว่า”

          “ดีเลย แต่เดี๋ยวก่อน เซนเซย์ เรามีเรื่องต้องเคลียร์กันก่อน”

          “เรื่องอะไร ไอ้หมี อ๋อ...เรื่องตราสัญลักษณ์หนะเหรอ ข้าว่าไม่ต้องใช้มั้ง”

          “ได้ยังไงหละเซนเซย์ ผมไม่อยากให้ใครแย่งกาลไปนะ”

          “ก็ลองพยายามปกป้องของรักเองซิ”

          “โห...แต่ผมอายุยืนกว่ากาลนะ ถ้าไม่มีตรานี่กาลก็ไม่ได้อยู่กับผมจนตายซิ”

          “เรื่องมากจริง...”

          “เดี๋ยวครับ...เดี๋ยวก่อนไคร์น...อธิบายทีซิผมตามไม่ทัน” ผมงงนะว่าเขาพูดเรื่องตราสัญลักษณ์แล้วมันเกี่ยวอะไรกับตายก่อนตายหลังหละ

          “มันเป็นอย่างนี้นะน้องกาล พวกอาร์เคเดียนเมื่อมีตราเนื้อคู่แล้วจะมีเวลาสามอาทิตย์ที่จะทำให้คู่ของตนตกลงปลงใจใช้ชีวิตคู่กันจนความตายจะพรากจากกันไป แต่ในกรณีที่ไม่สามารถทำได้ ฝ่ายหญิงสามารถไปมีความสัมพันธ์กับใครใหม่ก็ได้ ส่วนฝ่ายชายจะกลายเป็นหมันแถมไม่สู้อีกเลย เป็นไงหละ คำสาปแสนหวานของยัยโรคจิตสามคนนั่น แสบไหม”

          ผมก็ว่าแสบนะ เหมือนกับการฆ่าตัดตอนไปในตัว แต่ทำไมให้ผู้หญิงไปมีใครได้ต่อหละ

          “แล้วทำไมฝ่ายหญิงถึงยังไปมีใครได้ต่อหละครับ”

          “มันเป็นการทรมานของพวกนังบ้านั่น เพื่อให้คนรักถูกตอกย้ำทางความรู้สึกและทางสังคมด้วย เคยมีหลายๆคู่ที่สุดท้ายเลือกที่จะฆ่าฝ่ายหญิงแทน ทำให้ประชากรผู้หญิงของเผ่าพันธุ์นี้หายากขึ้น เชื้อสายของเผ่าก็ยิ่งน้อยลงไปเรื่อยๆ ก็อย่างที่น้องกาลรู้จากความฝันนั่นแหละ นังบ้านั่นอยากให้เผ่าพันธุ์นี้สูญพันธุ์ไปหนะซิ” โห...แยบยลดีแท้ ต้องจำไว้ว่าอย่าไปได้ทำให้พวกเทพโกรธเป็นอันขาดเลย

          “แล้วตอนนี้ผมกับไคร์นทำไมไม่มีตราสัญลักษณ์แล้วหละครับ” ผมสงสัยอยู่ดีใครมาลบไปได้หละเนี่ย

          “ข้าทำเองแหละ ข้าไม่อยากให้ใครต่อใครต้องมาคิดเรื่องงี่เง่าแบบนั้น ใจที่เป็นอิสระต่างหากหละที่จะรักได้ยั่งยืนที่สุดโดยไม่ต้องมีตราบ้าๆนั่นผูกมัด ใจที่ผูกมัดกันไว้นั้นได้พิสูจน์รักแท้ให้เห็นมานักต่อนักแล้ว”

          “แล้วเรื่องอายุของกาลกับผมหละ” ไคร์นถามขึ้นมา ดูแล้วเขาก็มีท่าเป็นกังวลมากกว่าผมอีก

          “แล้วแกอยากให้อายุยืนยาวเป็นร้อยๆปีแบบแกหรืออยากมีชีวิตแบบมนุษย์หละ ถ้าแกเลือกให้น้องเขามีอายุยาวเท่าแก นั่นหมายความว่า น้องเขาจะต้องเห็นผู้คนที่เขาเลยรู้จักต้องจากเขาไปเรื่อยๆตามอายุไข น้องเขาจะไม่สามารถอยู่ที่ไหนได้นานด้วยเพราะมนุษย์ขี้สงสัยจะตาย แกคิดว่าน้องกาลจะรับได้ไหมหละ” ทาเคชิพูดมาผมก็เลยได้คิดนะ แต่ว่า...

          “ไคร์น...ตอนนี้อายุเท่าไหร่แล้ว???”

          “เออ...ตอนนี้ก็...”

          “ก็บอกไปซิ ไอ้หมี ว่าแกอายุห้าสิบสามขวบ”

          “หา...ห้าสิบสาม...แต่หน้าดูไม่เกินยี่สิบเองหนิ”

          “คือ...ว่า...”

          “แล้วอายุของเผ่าของไคร์นนานเท่าไหรครับ”

          “ก็...ประมาณ...เก้าร้อยปีครับ กาล”

          “โห...เยี่ยมเลย...ถ้าอายุได้ขนาดนั้นผมคงเป็นหมอนวดที่เก่งที่สุดได้เลยนะเนี่ย คราวนี้ก็ช่วยคนได้อีกเยอะแน่” ผมคิดตามนั้นนะ ตอนผมเริ่มเรียนนวดกับอาจารย์นวด ผมก็มีเป้าหมายเรื่องช่วยเหลือผู้คนด้วยการนวดรักษาตั้งแต่นั้นมา

          “แล้วอยากเป็นไหมหละ” ทาเคชิถามขึ้นทันที จ้องมาที่ตาผม ผมแปลไม่ออกเลยว่าเขาจ้องในความหมายไหน ผมเป็นคนไม่อ้อมนะ รู้ว่าถ้ามัวแต่อ้อมค้อม โอ้เอ้ เขินไปเขินมามันเสียเวลา ชีวิตก็ไม่ได้ยืดยาวอะไรก็พูดไปตรงๆนั่นแหละ

          “อยากซิ ช่วยคนได้อีกเยอะ น่าดีใจออก แลกกับเรื่องเล็กๆแบบนั้น” ผมก็จ้องตอบบ้าง อยู่ๆผมก็บวดหัวจี๊ดขึ้นมา แต่แปปเดียวเองก็หายไป งงอีกแล้วครับท่าน ทาเคชิยิ้มให้ผมอย่างอบอุ่นก่อนจะหันไปหาไคร์น

          “ไอ้หมี น้องเขายอมแล้ว แกจะว่าไง”

          “อ้าว...เซนเซย์ ถามมาได้ ดีออกแล้วผมต้องทำไงหละ”

          “...เดี๋ยวรอข้าไปคุยกับ เดอะ โอเมกาเลียน ก่อน เขาน่าจะบอกข้าได้ว่าขอบเขตได้แค่ไหน แล้วมีอะไรจะเคลียร์กับข้าอีกไหม ไอ้หมี”

          “หมดแล้วครับ แต่เซนเซย์จะกินเดเอฟซีกันไหมครับ”

          “ไม่ดีกว่า เจอกันพรุ่งนี้เช้าก็แล้วกัน น้องกาล วันพรุ่งนี้เราต้องเข้านครวัดตอนสายนะครับ อย่าตอนดึกหละ” ทาเคชิพูดจบก็แวบหายไปเลย ไม่ล่ำลากันเลยแฮ๊ะ

          “กาลพร้อมหรือยังครับ”

          “ไปกันเลย” ผมยืนมือไปกุมมือไคร์นไว้ จากนั้นเราก็เข้ามาอยู่ในห้องเก่าของเขาที่ร้านแซงชัวร์รี่ทันที อยู่ๆมือผมก็ร้อนวาบขึ้นมาพอหงายดูก็เห็นตราสัญลักษณ์ปรากฏขึ้น มันมีลวดลายที่สวยมาก เรียบง่ายแต่มีระดับ ผมมองไปที่ไคร์นเขาก็ยิ้มๆแล้วหงายฝ่ามือให้ดูว่าเขาก็เป็นเหมือนกัน

          ไคร์นจับมือผมขึ้นไปจูบเร็วๆทีนึงก่อนที่จะโอบคอผมเปิดประตูห้องเพื่อจะเดินไปที่ชั้นล่างของร้าน

           ที่นี้เวลาพึ่งจะตีสองเอง เสียงด้านล่างยังดังอยู่ ที่นี่เป็นบาร์เหล้ามีวงดนตรีสดเล่น ผมดึงไคร์นไว้ก่อนที่จะเปิดประตูบันไดออกไปในส่วนหน้าร้าน

          “ที่ร้านพูดไทยกันได้ด้วยเหรอ ไคร์น” เพราะเสียงที่ผมแววได้ยินผมฟังออกหมดเลย ไม่ต้องแปลด้วย นี่อเมริกาหนิแต่ทำไมเสียงดังเหมือนแถวตลาดสดบ้านผมหละ

          “เฮ้ย...จะเป็นไปได้ยังไง ที่นี่เราพูดกันหลายภาษาก็จริงนะ แต่หลักๆเราจะใช่ภาษาอังกฤษ แต่ที่แน่ๆไม่มีไทยหรอก กาล แต่แน่ใจนะว่าฟังออกหมดเลย” ไคร์นกระซิบถามข้างหูผม แถมยังเอาจมูกมาเกลี่ยแก้มผมอีก

          “นี่ไคร์น ถามดีๆก็ได้นะ ทำแบบนี้เดี๋ยวกาลก็ไม่ได้กินเคเอฟซีกันพอดีซิ” ไคร์นหันหน้าส่งสายตาวิบวับมาให้ก่อนจะกระซิบข้างหูเบาๆ

          “ก็กินหมีแทนเอาไหมหละครับ”

========================================================

ตอนหน้าอยากให้ทายว่าน้องกาลจะได้กินเคเอฟซีหรือจะได้กินหมีกันแน่  :laugh:

โหวตไหนมากกว่าจะได้ตอนนั้นไปหนะครับ เหอๆๆๆ :z1:

แล้วเจอกันตอนหน้านะครับ :bye2:

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
อยากเห็นน้องกาลกินหมีจัง อิอิ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด