มาต่อแล้วค่า มาแล้วๆๆๆๆ นับมาก็10 ว่าวันแล้ว แต่ทำไมคนเม้นต์มีแค่นี้หา????

เอาเถอะ เราไม่แคร์....เราไม่แคร์ ฮือ..

ขอบคุณทุกคอมเมนต์นะคะ ทุกคำเป็นกำลังใจให้สู้ต่อไป ยังไงจะพยายามให้ไวขึ้น
ขณะนี้กำลังอัพเดทนะคะ กรุณาอย่าปาดจนกว่าจะเห็นคำว่า ติดตามตอนต่อไปหรือ

เริ่มเลยนะ....
[4]
เสียงอึกทึกครึกโครมอื้ออึ้งไปหมดจนไม่ได้ยินสรรพสำเนียงใดนอกเสียงเต้นตึกตักอยู่ข้างหู
ร้อน..... หายใจไม่ออก กลิ่นสาบเหงื่ออบอวลรอบตัวราวกับกำลังทรมานเขาอยู่
แล้วจู่ๆแสงสว่างก็ผ่านวาบเข้ามาในดวงตา
“คุณพระช่วย....ลูกทำอะไรลงไป คามิน”
“ขออภัยขอรับ แต่อย่าเพิ่งถามเลย”
ณภูริลืมตาขึ้นมาสิ่งแรกที่เขารับรู้คือเหงื่อเปียกๆกำลังท่วมกาย ร้อน....วงแขนรัดเขาแน่นราวกับปอกเหล็ก
ทำให้หมดสติไปนานแค่ไหนไม่อาจรู้ได้ แต่สิ่งเดียวที่รู้คือเขาถูกอุ้มเข้ามาในเรือนเดิมที่เคยมาเยือน
“เอาน้ำดื่มมาให้ข้าเร็วเข้า”
ร่างอ่อนปวกเปียกถูกวางลงบนฟูกนุ่ม เท่านี้ก็เหมือนมีพระมาโปรดแล้ว
ณภูริซบหน้ากับฟูกสูดลมหายใจลึกให้หายวิงเวียนจังหวะเดียวกับผ้าป่านหยาบๆที่ห่อตัวเขามาถูกดึงออกไป
ความร้อนทั้งหลายที่กำลังอบเขาทั้งเป็นนั้นมลายหายไปทันที
คามินโอบอุ้มเขาไว้ มือประคองขันเงินใส่น้ำลอยดอกมะลิจ่อถึงริมฝีปาก
ชายหนุ่มที่อ่อนแรงอย่างยิ่งยวดไม่ปฏิเสธ เขารีบดื่มเพื่อดับกระหาย
“ช้าๆ...ไม่ต้องรีบ”
คำเตือนนี้ไม่ทันการณ์เขาสำลักน้ำทันที ร่างผอมบางไอโขลกน้ำหูน้ำตาไหล
เขาไม่มีสิ่งใดมาช่วยนอกจากอกกว้างและมือที่คอยลูบหลังตลอดเวลา
“หายใจลึกๆ ไม่เป็นแล้วนะ”
“แค่ก...แค่ก...”ณภูริไออยู่หลายทีและหอบเหนื่อย เขาลืมตาที่ชื้นน้ำขึ้นมองสบตาคนที่โอบกอดเขาอยู่ คามินยิ้มกว้างดีใจ
“ภูริ....”
เพี้ยะ!!!
“เจ้า??”
เพี้ยะ!!!!
“นิ...”
เพี้ยะ!!!!
“หยุดนะ! เจ้าจะตบข้าไปถึงไหน” คามินโมโหเขากุมไหล่เล็กดันออกไปสุดแขน
ยังมิทันได้พูดสิ่งใดก็โดนตบไม่ยั้งมือเลยสักนิด
“ข้าจะตบเจ้าให้ตายด้วยซ้ำ กล้า...กล้าดียังไง” ณภูริตะโกนก่นด่าด้วยความโกรธกริ้วได้ไม่กี่คำเขาก็หน้ามืดขึ้นมา
เหนื่อย....หายใจไม่ทัน คามินกดร่างผอมบางลงนอนเหยียดยาว เขาชันศอกตัวคล่อมอยู่เหนือร่าง
มือเช็ดเหงื่อชื้นบนหน้าผากอย่างเบามือ
“เจ้ากำลังโกรธอยู่ ข้าเข้าใจ.....แต่ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไป เจ้าต้องเป็นของข้า”
ดวงตากลมโตสดใสราวกับตากวางเหลือบมองสบตาตรงๆ มีความโกรธ เกลียดมากมายแสดงออกชัดแจ้ง
มือบางเหวี่ยงมาหมายจะตบสั่งสอนอีกครา ทว่าถูกจับยึดไว้ทัน
“อย่ามาพูดบ้าๆนะ ข้าไม่มีวันเป็นของเจ้า....เจ้ามันไม่มีสิทธิ์ ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะ ปล่อยสิ”
ร่างผอมบางดิ้นขลุกขลักใต้ร่างแกร่งกว่าอย่างไร้ประโยชน์ แค่กดตรึงไว้ก็ดิ้นไม่ออกแล้ว
“ภูริ”
“ปล่อยข้า เดี๋ยวนี้!!! ข้าเกลียดเจ้า เจ้ามันชั่วร้ายที่สุด..”
ณภูริดิ้นรนราวกับเสียสติไปแล้ว เล็บทั้งสิบจิกข่วนไปทั่วจนคามินต้องจับสองมือไว้แน่น
เขาฉวยโอกาสนี้ยกตัวขึ้นกัดข้อมืออีกฝ่ายสุดแรง
“หยุดนะ” ชายหนุ่มสะบัดมือหนี แต่ก็เสียเลือดไปทั้งยังโดนตบเข้าอีกฉาด ความโกรธปะทุขึ้นทันทีเขาเงื้อมือขึ้นจะตบ
“เอาสิ! ตบเลย เจ้ามันคนเอาแต่ใจ เอาแต่ได้ เก่งจริงก็ตบตีข้าสิ ทุกคนจะได้รู้ว่าเจ้ามันชั่วช้าแค่ไหน”
ณภูริก่นด่าไม่หยุดจนถูกพลั่กทิ้งลงบนฟูกอีกครั้ง
“อย่ามาท้าทายข้า....ไม่เช่นนั้นล่ะก็ ข้าจะทำให้เจ้าเสียใจแน่”
“เจ้ากล้านักก็ทำเลยสิ” ชายหนุ่มท้าทาย คนเลือดร้อนเอาแต่ใจ
อย่างนี้จะมีปัญญาทำอะไรนอกจากใช้กำลัง ก็ลองทำดูสิ ท่านหญิงดาหราวาตี ไม่อยู่เฉยแน่
คามินกัดฟันกรอดชี้นิ้วอย่างหมายมาด ก่อนสะบัดหน้าออกไป ตามด้วยปิดประตูดังโครม!
เฮ่อ!! ณภูริถอนหายใจ มิใช่โล่งใจแต่เป็นความโกรธที่หนักถ่วงศีรษะอยู่นี่ต่างหาก
เขาไม่เคยต้องโกรธใครมากมายเท่านี้มาก่อน เจ้าเด็กเลือดบ้าเอ้ย....
ร่างผอมบางตะกายฟูกยันตัวลุกขึ้นอย่างอ่อนแรง รีบยกขันเงินมาดื่มแก้กระหายอีกครั้ง
ปัง!!! ยังไม่ทันจะดื่มหมดเจ้าคนร้ายกาจก็กลับมาอีกครั้ง ครานี้หน้าขมึงตึงมาเลย
ณภูริใจหายอย่างบอกไม่ถูก มีบางอย่างที่น่ากลัวกำลังจะเกิดขึ้น เขารู้สึกได้
ตุ๊บ! กองเชือกโยนทิ้งลงบนพื้น ก่อนจะมีอีกอย่างทิ้งลงมาบนฟูก
ผ้าไหมสีน้ำตาลไหม้ปักดิ้นเงิน ดิ้นทองลายไพรวัลย์และสไบสีขาวกลีบลำดวน นี่มัน...??
“ถอดเสื้อผ้าเจ้าออก เดี๋ยวนี้”
“อะไร?? นี่เจ้าจะ.....ให้ข้า.....” เขามองกองเสื้อผ้ากับเจ้าของเรือนไปมา
“ใช่ ข้าจะให้เจ้าใส่ชุดอิสตรี”