เรื่องสั้นตอนที่ 39 บทสรุปของผู้ชายอยากได้สามี [p140]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องสั้นตอนที่ 39 บทสรุปของผู้ชายอยากได้สามี [p140]  (อ่าน 1352215 ครั้ง)

ออฟไลน์ arty136

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
ชอบๆๆ มาต่อไวๆๆนะครับ

ออฟไลน์ Acacha

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
 :call: :call: :call:
อยากอ่านต่ออ่ะ >w<

ออฟไลน์ arty136

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
เมื่อไรจะมาต่อครับบบบบบบบบบบ ชอบบบบบบบบบบบบบบบอ่ะ

dekmind

  • บุคคลทั่วไป

nariza6

  • บุคคลทั่วไป
มาต้อแล้วคะ ตอนนี้ยืดยาวไปหน่อย และผู้แต้งก็จบไม่ลงเหมือนเคย 5555

ว่าจะรวบจบได้แน่แต่ยิ่งเขียนก็ยิ่งยาวแล้วไปๆมาๆ ทำไมเราต้องให้ชะนีเป็นนางร้ายซะทุกเรื่องนะ ไม่เข้าใจเลย??

เอาล่ะ....ขณะนี้กำลังอัพเดทนะคะ กรุณาอย่าปาดจนกว่าจะอัพเสร็จด้วยล่ะ  :laugh:

[5]
เสียงจิ้งหรีดเรไรส่งเสียงเสนาะหวานแว่วมากับสายลมเย็นพัดผ่านกิ่งใบเขียวสดของไม้ใหญ่เอนไหวไปมาอย่างเชื่องช้า

เวลาช่างผ่านไปอย่างไร้ค่าเสียจริง มลุรินทร์มองต้นไม้ใหญ่นอกหน้าต่างอยู่นานสองนาน ทั้งที่สุดแสนจะเบื่อหน่าย

แต่เมื่อไม่มีการอันใดให้ทำ เขาก็ได้แต่ชมนกชมไม้ฆ่าเวลา

ตึ่ง! ตึ่ง!

เสียงย่ำเท้าหนักๆดังมาก่อน กะหล่ำบ่าวที่คอยเฝ้าอยู่ในห้องจนเผลอหลับนก รีบลุกนั่งหลังตรงทันที

ประตูเปิดผ่างเข้ามาเสียงดัง

“มลุรินทร์” ปวฤทธิ์ศรเรียกน้ำเสียงตื่นเต้น

“ท่าน....” เด็กน้อยไม่แน่ใจว่าควรเรียกขานเช่นไรดี จึงมีแต่คำนี้สั้นๆ

“บอกให้เรียก พี่สรไง...ทุกคนออกไปเดี๋ยวนี้”  เขาหันไปสั่งบ่าวไพร่ออกไป

ห่อผ้าหนาหนักโยนโครมลงบนเตียง ดวงตากลมโตเหมือนกวางเหลือบมองอย่างหวาดระแวง ไม่วางใจ

“เกิดเรื่องกับพี่ชายเจ้าแล้ว”

“พี่ภูริ??”

“ใช่....”

“เกิดเรื่องอันใดกับเขา??” ร่างเล็กเข้ามาหาอย่างลืมตัว ปวฤทธิ์ศรถือโอกาสกุมไหล่น้อยไว้

“ตอนนี้เขาล้มป่วยอยู่”

“ล้มป่วยได้อย่างไร....คนนั้น...คนนั้นเขาทำร้ายพี่ภูริหรือเปล่า”

“ข้าไม่รู้.... รู้แต่ว่าพี่เจ้าป่วยหนัก”

“เขา....เขาเป็นอะไรไหม?? ท่าน...ท่านพาข้าไปหาเขาที”

“บอกให้เรียกพี่สรไง” ชายหนุ่มว่า

“พี่สร....พาข้าไปหาพี่ภูริที......ได้โปรด” มลุรินทร์กุมมือเขาไว้อ้อนวอนสุดกำลัง ดวงตาสดใสรื้นน้ำตาดูน่าสงสาร

ปวฤทธิ์ศรเม้มปากนิ่งคล้ายหนักใจ ทว่าภายใจนั้นพยายามกลั้นยิ้มไว้สุดฤทธิ์

"ข้าก็อยากพาเจ้าไป เพียงแต่ว่า.....”

“ข้าขอร้อง.....” เด็กน้อยกลั้นน้ำตาไม่อยู่สะอึกสะอื้นน้ำตาร่วงเป็นเต่าเผา

“พวกท่าน...อึก....เป็นพี่น้องมิใช่หรือ ....ทำไม...พูดจากันไม่ได้ อึก...”

“เอ้าๆ อย่าร้องสิ” ร่างสูงเช็ดหยาดน้ำตาเม็ดใสดุจน้ำค้างออกไปอย่างเบามือ

“ก็แค่ญาติผู้น้อง ข้าจะบังคับเขาได้ที่ไหน บ้านโน้นก็มีหน้ามีตาข้าหักหาญออกคำสั่งมิได้หรอก”

“งั้น.....ทำอย่างไรดีล่ะ”

“คือ....ข้าก็อยากพาเจ้าไปอยู่หรอกนะ แต่ว่า.....บ้านโน้นดูแลกันเข้มงวด คนนอกเข้าออกมิได้ง่าย

ดังนั้น.....จะพาเจ้าไปให้สะดวกก็คงต้อง......พาเจ้าไปในฐานะสตรีจะง่ายกว่า”

มลุรินทร์มองตาโตนิ่งไปครู่  “...ในฐานะสตรีหรือ??”

“ง่า.....คือ.....พี่ชายเจ้าได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ในเรือนหลังที่แวดล้อมด้วยบ่าวไพร่

ถ้าข้าพาเจ้าไปในฐานะหญิงรับใช้ บ้านโน้นก็ไม่ตรวจเข้มงวดนัก  ทว่าหากเจ้าไปในสภาพปกติ

ข้าก็คงหาเหตุพาเจ้าเข้าไปยังเรือนชั้นในมิได้แน่ เจ้าว่าจริงไหม”

ฟังดูก็มีเหตุผลอยู่ พี่ภูริงดงามเพียงนั้นคงมิได้อยู่ในเรือนบ่าวไพร่แน่ หากเขาอยากพบก็ต้องไปในรูปลักษณ์อื่น

“ท่านจะให้ข้าปลอมแปลงเป็นสตรี”

“ใช่” ปวฤทธิ์ศรยิ้มกว้าง เขาหันมาแกะห่อผ้าออกให้ชมดู เสื้อสไบสีสันสดใสมากมายราวกับบุบผา

มลุรินทร์หยิบจับดูแล้วล้วนแต่เป็นผ้าชั้นดีเนื้อนุ่มนิ่มน่าสัมผัส “เจ้าลองสวมดูไหม”
 
“ขอรับ” เด็กน้อยเช็ดน้ำตา เขาจะไปหาพี่ภูริให้ได้เรื่องแค่นี้ทนได้สบายมาก

เขาเลือกผ้าสีตองอ่อนกับผ้านุ่งสีปีกแมลงทับเดินเข้าไปหลังม่านไม้บังตา

ปวฤทธิ์ศรมองเงาเลือนรางอย่างสำราญใจ เด็กน้อยช่างซื่อบริสุทธิ์สดใสจะทันเล่ห์เหลี่ยมใครได้...

เช่นนี้เขาก็ยิ่งปล่อยให้ไปเผชิญโลกกว้างที่เต็มไปด้วยสิงสาราสัตว์ไม่ได้เด็ดขาด 

เพราะโลกนี้ไม่มีใครเอ็นดูมลุรินทร์ได้มากเท่าเขาอีกแล้ว บุรุษหนุ่มยิ้มๆมองผืนผ้าที่ร่วงลงกองกับพื้น

“เอ่อ.....อืมมม.....เอ่อ....พี่....พี่สรขอรับ”

“ว่าไงคนดี” เขาขานเสียงหวาน

“คือ.....ให้ใครมาช่วยหน่อยได้ไหมขอรับ....ข้า....ใส่ไม่เป็น ไอ้ผืนนี้มันพันยังไงไม่รู้”

มลุรินทร์ได้แต่ลองพันซ้าย พันขวายังไงก็ไม่ได้เรื่องใส่ยากกว่าเสื้อผ้าธรรมดาหลายเท่านัก

“ข้าช่วยเจ้าสวมเอง” ร่างสูงลุกขึ้นกระวีกระวาดหยิบไปอีกหลายๆผืนหลายๆสีติดมือไปด้วย

“อ๊ะ?? อย่านะ” เด็กน้อยร้องเสียงหลง ทำเอาร่างสูงชะงักเขายื่นหน้าข้ามม่านบังตามองแค่ใบหน้า

“เจ้าร้องไปไย”

“ก็......ข้าไม่อยากให้ท่านมองนี่”

“ถ้าข้าไม่มองแล้วข้าจะช่วยเจ้าได้เช่นไร”

“ก็แค่บอกมาก็ได้”


nariza6

  • บุคคลทั่วไป
ต่อ

“บอกแล้วเจ้าทำถูกหรือ ให้ข้าทำมันจะเสร็จไวกว่านา”

“ไม่ได้” มลุรินทร์ว่าเสียงดื้อดึง เขาไม่อยากเปลือยเปล่าต่อหน้าคนอื่นนี่

อีกฝั่งของม่านบังตาพ่นลมหายใจแรงอย่างรำคาญใจก่อนกระชากม่านที่ขวางทางออกไป

“ชักช้า ข้ามิชอบพิรีพิไร้นะ” ปวฤทธิ์ศรเข้ามาคว้าแขนเล็กเอาไว้

“อ๊า...ไม่เอานะ”

“มานี่” ชายหนุ่มใช้แรงมากว่าลากมาหาจัดการสวมใส่อาภรณ์สีสันสดใสให้อย่างรวดเร็ว

พยายามไม่ใช้สายตามองผิวสีงาช้างให้มากนัก ร่างเล็กมิให้ความร่วมมือนักแต่ก็ไม่ขัดขืนยินยอมให้สวมใส่โดยดี

ปวฤทธิ์ศรถอยห่างมองผลงานตรงหน้าแล้วอดยิ้มไม่ได้ นี่เป็นพรจากสรวงสรรค์โดยแท้

ใครได้ครอบครองเป็นต้องปลาบปลื้มยินดี เพราะได้นางฟ้านางสวรรค์มาอยู่ในมือ

“เห็นไหม เจ้างดงามมากไม่แพ้หญิงงามคนใดเลย” เขาหยิบพวงชมพูในแจกันมาทัดหู ดูสดใสน่ารักขึ้นไปอีก

 “ข้า....ไม่ชอบขอรับ”

“อีกหน่อยก็ชินไปเอง”

ดวงกลมโตเบิกกว้างตกใจ “อีกหน่อย?? ข้าต้องสวมใส่นานแค่ไหน”

“นาน.....นานก็แล้วกัน” ปวฤทธิ์ศรให้คำตอบแน่ชัดไม่ได้ ทำให้เด็กน้อยเผลอทำปากยื่นไม่พอใจ

คนมองถึงกับกลั้นเสียงหัวเราะไม่อยู่พ่นลมออกมา พรืด....

“ท่านโกหกข้า”

“เปล่านะ”

“โกหกสิ...ท่านหลอกให้ข้าแต่งชุดนี้แน่ๆ ไม่เช่นนั้นลูกตาท่านไม่แพรวพราวเช่นนี้หรอก”

“ฮ่าฮ่าฮ่า...” ปวฤทธิ์ศรหัวเราะร่าชอบอกชอบใจ อ่านเขาออกก็นับว่าผูกพันกันได้ระดับหนึ่งล่ะ

อีกหน่อยต้องก้าวหน้ามากกว่านี้แน่ สีหน้ามีความสุขทำให้ร่างเล็กกระฟัดกระเฟี้ยดใหญ่

“พอที ข้าจะถอดแล้ว” มลุรินทร์กระแทกเท้าจะไปหลังม่านบังตา หากถูกรวบกอดจากด้านหลังแน่น

ชายหนุ่มหอมแก้มนุ่มเอากำไรไปหลายที

 “เอ๊ะ!หยุดนะ....”

“ถ้าเจ้าไม่ถอดชุดนี้ ข้าก็จะไม่หอมก็ได้”

“ข้าไม่ให้หอมหรอก”เด็กน้อยยกมือป้องแก้มตัวเองไว้ แต่เพียงอีกฝ่ายแค่กอดแขนทั้งสองข้างไว้

เขาก็ปกป้องตัวเองไม่ได้แล้ว คราวนี้เจอหอมที่แก้มเต็มๆหลายครั้ง พาลเรื่อยลงมาถึงซอกคอด้วย

“อืมมม... หอมจัง ข้าหอมมากกว่านี้นะ” ปวฤทธิ์ศรจรดริมฝีปากที่ก้านคอแผ่วเบา

เท่านี้ก็สยิวซ่านจนขนลุกไปหมด มลุรินทร์รู้ว่าเขาสู้ไม่ได้ ช่วยตัวเองไม่ได้ด้วยซ้ำ

“พี่สร.....พี่สรขอรับ”

แค่เสียงสะอื้นน้อยๆหลุดจากปากก็ทำให้การรุกรานหยุดลงแล้ว มือใหญ่จับเขาหันมาเผชิญหน้า

“มลุรินทร์....จำไว้จากนี้ไปห้ามเจ้าขานรับว่า ขอรับอีก ต้องขานว่า เจ้าคะให้ชินปากเข้าใจไหม” ชายหนุ่มอบรม

“ทำไมข้าต้องขาน เจ้าคะด้วย” เขาว่าเสียงเง้างอน

“ก็ข้าชอบฟังนะสิ”

“ไม่ขานได้ไหม”

“ถ้าเจ้ายอมขานนะ ข้าจะพาไปหาพี่ภูริของเจ้า”

ประโยคนี้สร้างความหวังให้มากเหลือเกิน“ขอรับ....เอ่อ....เจ้าคะ” 

“แล้วต้องเรียกตัวเองว่า น้อง เรียกข้าว่าคุณพี่ด้วย”

คิ้วเรียวได้รูปขมวดสงสัย “เช่นนี้ได้อย่างไร....มันเหมือน....”

“เจ้าไม่อยากพบพี่ชายหรือไร”

คำถามนี้สร้างความอึดอัดใจให้เหลือเกิน อยากพบพี่ชายก็อยาก หากเสื้อผ้าอาภรณ์และคำที่ต้องพูดนั้นบังคับจิตใจเหลือเกิน

 มลุรินทร์เหลือบมองชายหนุ่มอย่างครุ่นคิด ปวฤทธิ์ศรมองเขาด้วยสีหน้าที่มีความสุขเหลือเกิน

แววตาเจิดจ้าวาบหวามเป็นใจแก่เขามากกว่าจะคุกคาม

ทำให้นึกในใจขึ้นมาว่า จะเป็นไรไหมหากเขาจะอ้อนขอให้ได้ดั่งใจบ้าง

nariza6

  • บุคคลทั่วไป
ต่อ

“ท่าน......พี่สร ถ้า.....ข้าทำตามที่ต้องการแล้ว....พี่จะพาข้าไปพบพี่ภูริวันนี้....ได้ไหม”

น้ำเสียงนุ่มอ้อนเว้าวอนช่างไพเราะยิ่งกว่าสาลิกาลิ้นทองเสียอีก ชายหนุ่มยิ้มกว้างพออกพอใจ

วงแขนโอบรัดเอวบางเข้ามากับตัว เขาโอบกอดหลวมๆพลางซบแก้มกับเรือนผมหอมบุบผา

“ได้สิ.....อะไรก็ได้ที่เจ้าต้องการ....ข้าจะให้เจ้าได้หมด ขอเพียงเจ้าพอใจ......”

วงแขนแข็งแรงโอบรัดแน่นปานกำแพงหิน “มลุรินทร์....อยู่ที่นี่นะ....อยู่กับพี่......เป็นของพี่”

วงแขนโอบล้อมดั่งปราการหิน พร้อมๆกับคำพูดที่ผูกมัดราวกับโซ่ตรวน

มลุรินทร์หลับตาซุกหน้ากับอกกว้าง....เขาเห็นอนาคตที่น่าเศร้าของตัวเอง กรงทองได้ขังเขาเอาไว้แล้ว

 “คุณสรเจ้าขา” ข้างนอกมีเสียงเรียกอย่างกริ่งเกรง

“มีเรื่องอันใด”

 “ ท่านผู้หญิงกับคุณจันทรามาเจ้าคะ” บ่าวนอกห้องร้องเรียก ปวฤทธิ์ศรนึกแปลกใจแต่ก็คิดได้

 เขาพาคนนอกเข้ามาก็เป็นเรื่องธรรมดาที่มารดาต้องสนใจ เขาหันมาสบตากลมโต

“อย่าให้ใครรู้ถึงตัวตนของเจ้า เข้าใจนะ” คำพูดนี้บอกเป็นนัย

เด็กน้อยก็เข้าใจเพราะตั้งแต่เล็กก็ถูกอบรมสั่งสอนว่าห้ามเอ่ยถึงชนเผ่าของตนเอง มิเช่นนั้นจะเดือดร้อนมากกว่าอยู่เป็นสุข

“เชิญท่านเข้ามา” ชายหนุ่มรวบห่อผ้าโยนไว้หลังม่านบังตา

 มลุรินทร์เข้าใจสถานะตนเองจึงนั่งพับเพียบเรียบร้อยอยู่ข้างตั่งเตียงก้มหน้าเงียบๆ

“ท่านแม่” ปวฤทธิ์ศรต้อนรับมารดา ท่านหญิง เบญจศรีสุดามาพร้อมกับลูกสะใภ้จันทรา

ทั้งคู่ยังงดงามสดใสเหมือนคู่พี่สาวน้องสาวก็ไม่ปาน 

“วันนี้สดใสแต่เช้านะขอรับ”

“แต่เช้าอะไร นี่สายมากแล้วนะ” ท่านหญิงว่าไม่ได้ตำหนิอะไรนัก ท่านนั่งลงก็ปรายตาไปรอบห้อง

 “ได้ยินเด็กๆบนเรือนมาว่า เจ้ารับอนุไว้คนหนึ่ง”

“ยัง......” ปวฤทธิ์ศรลากเสียงยาว “มิได้รับขอรับ”

“ยังอีกหรือ” ท่านทำเสียงประหลาดใจ

“ยัง...แต่จะรับแน่นอนขอรับ” ร่างสูงลดตัวลงมานั่งข้างๆมารดา มือกุมเอาอกเอาใจ

จันทราซึ่งนั่งอยู่เงียบๆ ก็อดมิได้ที่จะแลตามองสามีอย่างตัดเพ้อ

นางเป็นถึงธิดาท้าวสุรมนตรี อดีตเสนาบดีผู้เลื่องชื่อ จะให้นางรับตำแหน่งภริยาหลวงรึ

“แล้วอยู่ไหนล่ะ พามาให้ดูหน้า ดูตาหน่อยสิ” ท่านหญิงว่า พลางนึกในใจ

หากหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่ไม่มีสกุลรุนชาติล่ะก็จะขับไล่ให้ไปเป็นบ่าวไพร่เสีย จะได้ไม่อับอายเสียถึงวงค์ตระกูล

“ขอรับ” ปวฤทธิ์ศรหันไปมองร่างเล็กนั่งหลบมุมอยู่เงียบๆ เขายื่นมือให้ยึดมั่นเป็นหลัก

ร่างเล็กคลานเข่ามากราบแทบเท้าด้วยกิริยาชดช้อยนุ่มนวล ดวงตากลมโตสดใสเหลือบมองนายหญิงของบ้าน

“มลุรินทร์เจ้าคะ”

ท่านหญิงเบญจศรีสุดาเผลอยกมือขึ้นทาบอกด้วยความตื่นเต้น

มิเคยเห็นใครผิวพรรณผุดผาดราวกับมีรัศมีของนางฟ้านางเทวดาเช่นนี้มาก่อน

เพียงแรกพบก็พึงใจอย่างบอกไม่ถูก ท่านแย้มยิ้มออกมาขณะที่จันทราถึงกับสลดใจยิ่งนัก

เปล่งประกายเยี่ยงนี้นางคงต้องอับเฉาแล้วแน่

“หน้าตาชวนมองจริงๆ” ท่านหญิงเชยคางมาดูใกล้ๆ “เจ้าเป็นลูกเต้าเหล่าใครรึ?”

“ข้า.....มิได้มีบิดามารดาเหมือนใครอื่น เกิดและโตอยู่ในป่าเขาเจ้าคะ”

มลุรินทร์เลือกจะไม่บอกถึงเทือกเขาเหล่าก่อ

ท่านหญิงนึกเสียดายแต่เพียงความงามดั่งมัทลิกาแรกแย้มส่งกลิ่นหอมหวนก็มากพอให้มองข้ามเรื่องอื่นไปได้แล้ว

“เขา...นางมีพี่ชาย เอ่อ...ไม่สิ พี่สาวอีกคนอยู่กับคามินขอรับ”

“คามิน?? เขาก็รับอนุด้วยรึ” พูดแล้วถึงนึกขึ้นได้ คามินยังมิได้ตกแต่งมัทนาอย่างถูกต้อง

จึงมีฐานะเพียงนางบำเรอเท่านั้น เขารับคนใหม่เข้าไปจึงยังมิแน่นอนว่าจะได้ตำแหน่งภริยารึภริยาหลวง

“ยังมิแน่ มินอนขอรับ คงต้องรอฟังข่าวก่อน.....แม่จันทรา” ปวฤทธิ์ศรเรียกหาภริยาเสียงอ่อน พลางเอื้อมมือมากุมเอาใจ 

“อย่าโกรธอย่าเคืองเลยนะคนดี น้องนางกำลังลำบากไม่มีที่พึ่งพา

พี่ทิ้งขวางไม่ได้จริงๆ เจ้ามีใจเมตตากรุณาก็เอ็นดูรับนางเป็นน้องสาวไว้ด้วยเถิดหนา”

“น้องหรือจะกล้าเคือง ถ้าพี่พึงใจน้องก็ไม่ว่า ทั้งหมดทั้งมวลให้เป็นท่านแม่ตัดสินใจเถอะเจ้าคะ”

จันทรายิ้มแย้ม ทั้งที่น้ำตาตกใน ด้วยความเศร้า อนาคตนางคงไม่สดใสแล้วแน่แท้ 

มลุรินทร์ไหว้นางในฐานะพี่สาว ทันทีที่สบตากัน จันทรารู้สึกเหมือนโดนทิ่มแทงด้วยคมหอกคมดาบ

ดวงตาคู่งามมองนางอย่างสงสาร นี่สมเพชเวทนาหรือไร ถึงมองนางเยี่ยงนี้

เจ็บปวด.....เจ็บปวดที่สุด

 จันทรายกมือรับไหว้แล้วมองไปทางอื่นเสียเพื่อกลั้นน้ำตา นางสบตากับกะหล่ำที่มองมาพร้อมยิ้มสมทบว่า

‘เห็นไหม.....นังคนนั้นกำลังจะแย่งทุกอย่างของคุณไป’

นางถึงกับใจสั่นเย็นยะเยือกไปทั้งตัว

      **************************

nariza6

  • บุคคลทั่วไป
ต่อ

โอ้....กาเหว่าเจ้าเอ้ย

รำเฟยแม่ช่างบุญน้อย

คลอดลูกให้แม่อื่นเลี้ยง

แม่ก็ลำเอียงเลี้ยงแต่ลูกกาเหว่า

ณภูริรู้สึกตัวตื่นจากฝันเขาไม่เคยฝันดีขนาดนี้มาก่อน ได้นอนกับตักนุ่ม

มืออุ่นลูบหัวกล่อมให้นอนจนไม่อยากจะตื่นเลย ท่านหญิงดาหราวาตีอ่อนโยนกับเขาราวเป็นบุตรในไส้

ทำให้ได้สัมผัสกับความอบอุ่นของมารดาที่หาได้ยากยิ่ง

“ท่านหญิง...” ทำไมถึงรู้สึกเพลียขนาดนี้นะ เรี่ยวแรงหายไปหมด??

พอขยับตัวก็รู้สึกได้ถึงความรุ่มรามของอาภรณ์ห่มกาย เขาสวมชุดใหม่สีกลีบบัว

“เจ้ามีไข้อ่อนๆคงรู้สึกเพลียสินะ ลุกไหวไหม”

“ขอรับ....” ชายหนุ่มรวบรวมเรี่ยวแรงยันกายขึ้น

“อย่าขานเช่นนี้สิ ข้าฟังแล้วแสลงหูจัง”

“ท่านหญิง” ณภูริท้วงจะให้ขานแบบอิสตรีงั้นหรือ เขามองดวงหน้างามสมวัยและก็ได้เห็นแววกังวลอยู่บ้าง

 ทำให้นึกถึงเรื่องที่ท่านรับปากจะจัดการกับบุตรชายเลือดร้อนของตน

“คงหิวสินะ ทานรองท้องก่อนเถอะ” ท่านหญิงให้บ่าวไพร่ยกสำรับอาหารคาวหวานเข้ามา

ล้วนแต่น่าทานกลิ่นหอมชวนให้หิวโหย ณภูรินั่งมองอย่างเกรงใจรอให้ผู้ใหญ่ลงมือก่อน

“ทานเนื้อเสียหน่อยนะ จะได้มีเรี่ยวมีแรง”

“ข้าน้อย.......ไม่ทานเนื้อขอรับ”

“อย่าขานขอรับเลย  เสื้อผ้าอาภรณ์โฉมหน้าดั่งนกยูงสูงศักดิ์ แต่ขับขานผิดแผกราวห่านภูเขา

ถึงไม่ชมชอบจะเอ่ยก็ขอให้ช่วยแบ่งเบาอย่าปล่อยบ่าวไพร่บนเรือนนินทาให้ระคายหูเลย”

“ขออภัยขอ.......ขออภัยเจ้าคะ” ถูกตักเตือนมาก็ทำให้รู้สึกละอายใจไม่น้อยที่เป็นภาระให้ท่าน

เขาก้มหน้านิ่งไม่กล้าเอ่ยปากอีก

“เจ้าว่าไม่ทานเนื้อ งั้นอยากทานอะไรล่ะ”

“เอ่อ....ปลาเจ้าคะ จะต้มหรือย่างก็ได้”

ท่านหญิงดาหราวาตียิ้มพึงพอใจ ท่านหันไปสั่งบ่าวไพร่ที่อยู่นอกห้อง

“ใครอยู่ข้างนอก....ไปบอกในครัวทีสิ ข้าอยากได้ปลาแม่น้ำสดๆย่างเกลือสักตัว”

“เจ้าคะ”

สองคนค่อยๆละเลียดอาหารระหว่างที่รอ ท่านหญิงเอาใจใส่และชวนคุยเรื่องราวต่างๆ

ทำให้ณภูริสบายใจยิ้มแย้มออกมาบ้าง จนไม่ทันได้ยินเสียงเลื่อนประตูออก

“ปลาย่างได้ที่แล้วขอรับ” คามินโผล่มาแบบไม่ทันตั้งตัว มาถึงก็นั่งประชิดข้างๆ

ร่างบางถึงกับสะดุ้งโหยงกระเถิบหนีไม่ทันโดนอีกฝ่ายนั่งทับชายผ้านุ่งเอาไว้

‘อย่ามาใกล้นะ!!’ ดวงตากลมโตส่งความนัยใส่อย่างโกรธจัด

“ร้อน.....น่าทานจริงๆ” ชายหนุ่มไม่สนใจสายตาขุ่นเคือง เขาแกะเนื้อปลาให้มารดาและแกะให้อีกคนพร้อมยิ้มเอาใจ

 “นี่ของเจ้า”

“ข้ามีมือ ข้าทานเองได้......ถอยไป” ณภูริว่า ประโยคหลังเสียงเบาให้ได้ยินเพียงสองคน

ไม่มีอาการว่าจะสนใจเขาพูดอะไรบ้าง แถมกระยิ่มยิ้มย่องได้ใจ เขยิบใกล้จนหัวไหล่ติดกัน

“เอ๊ะ??” คามินสะดุ้ง เจอเล็บหยิกเนื้อเข้าอย่างจัง พอเขยิบหัวเข่าหนีก็เจอฝ่าเท้าถีบเบาๆเข้าที่หัวเข่าอีกดอก

“เป็นอะไร” ท่านหญิงถามเห็นบุตรชายยุกยิกอยู่ไม่สุข

“ท่านหญิง...เขาแกล้งข้า” ณภูริฉวยโอกาสฟ้องก่อน

“เอ....ใส่ร้ายป้ายสี”

“คามิน!” ท่านเตือนด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “เขยิบห่างๆหน่อย”

“ขอรับ” ชายหนุ่มทำเป็นยิ้มอย่างเสียไม่ได้ ยอมเขยิบนิดหน่อย ณภูริทานอาหารอย่างฝืดคอแม้จะมีปลาที่ชอบ

จู่ๆก็รู้สึกว่ามีบางอย่างมาแตะนิ้วเท้าเบาๆ เขาเหลือบมองคนนั่งข้างๆที่ทำหน้าเฉยไม่รู้ไม่ชี้

พอมองใต้ตั่งถึงเห็นว่าคนบ้าคนบอนี้แอบแตะเขาด้วยปลายนิ้วก้อย

‘หึ...แตะต้องตรงๆไม่ได้ ก็ขอแตะแค่ปลายนิ้วก็ยังดีรึ....’

คามินรู้สึกได้ถึงไอเย็นยะเยือกแผ่ซ่านมาจนหนาวต้นคอวูบ เขาหันไปมองสบตาเจ้าของไอเย็น

‘ช่างไม่เจียม!!!’

คำปรามาสจากสายตากระแทกใส่หน้า ราวกับถูกฝ่ามือตบฉาดๆ ชายหนุ่มถึงกับตาลายวูบ

ไม่อยากจะเชื่อ!!! ใช้สายตาก่นด่าได้เจ็บแสบถึงทรวงปานนี้ ร้ายนัก....

“ท่านแม่...” เขาชักเหลืออดแล้วนะ

“ปลานี้สดอร่อยจริงๆ...เจ้าเป็นอะไร ทำหน้าเหมือนไม่อร่อยงั้นล่ะ ดื่มน้ำแกงหน่อยสิ จะได้ทานคล่องคอขึ้น”

ท่านหญิงเลื่อนถ้วยแกงให้พลางส่งสายตาตักเตือน

“ขอรับ” ชายหนุ่มอดกลั้นอดทนยอมอยู่สงบเสงี่ยมต่อไป

nariza6

  • บุคคลทั่วไป
ต่อสุดท้ายล่ะ

“ภูริ....ทานเยอะๆนะ คามินเพิ่งเล่าให้ข้าฟัง” ท่านหญิงยื่นชิ้นปลาลงให้ พลางเริ่มบทสนทนา

“เจ้ามีญาติพี่น้องใช่ไหม”

ณภูริกระพริบตาปริบๆอย่างไม่แน่ใจว่าจะพูดเช่นไรดี

“น้องคนหนึ่งได้ปวฤทธิ์ศรเครือญาติสายหลักของบ้านข้ารับไว้ดูแล......” นางจุ่มมือลงในขันล้างไม้ล้างมืออย่างตั้งใจ

“เขาเป็นคนดีคนหนึ่ง....คงดูแลน้องเจ้าไม่ขาดตกบกพร่องแน่”

“ท่านหญิง...” ไม่ดีแน่ จะให้มะรุมต้องอยู่ในสภาพเดียวกับเขาหรือ ไม่ได้แล้ว ต้องทำอะไรสักอย่าง

“ข้าเป็นห่วงเขา เราไม่เคยต้องอยู่ห่างไกลจากกันมก่อน ....ท่านหญิงให้ข้าได้ไปพบเขาด้วยเถิด”

“เจ้าอยากพบน้องหรือ”

“ขอรับ..เอ่อ...เจ้าคะ ได้โปรด...อนุญาตด้วย ถ้าท่านออกหน้า บ้านนั้นต้องให้ข้าพบน้องแน่”

“ข้าเป็นธุระให้ได้ หากต้องส่งคนไปถามไถ่บ้านโน้นก่อนว่าเขายินดีให้พบหรือไม่....คงต้องเป็นพรุ่งนี้นะ 

ว่าแต่..ภูริ เจ้าจะต้องสัญญากับข้าสองเรื่อง” ท่านหญิงดาหราวาตรีกุมมือเขาไว้มั่น

“เจ้าคะ ได้ทุกอย่าง”

“ข้อแรก ห้ามเจ้าหนีเด็ดขาด ไม่ว่าจะได้พบน้องหรือไม่เจ้าต้องให้คามินคุ้มครองกลับมาอย่างปลอดภัย”

ณภูริหันไปมองคามิน แม้จะไม่ชอบใจนักแต่มะรุมสำคัญกว่า

“ข้อที่สอง คนอื่นจะต้องรู้จักเจ้าในฐานะสตรีว่าที่สะใภ้ข้า ห้ามให้ใครล่วงรู้ชาติกำเนิดหรือสถานะของเจ้าเด็ดขาด เข้าใจหรือไม่”

“ท่านหญิง...ทำไม??”

“เพื่อปกป้องเจ้านะสิ.....รู้ไหมคำว่า ‘หญิงงามมักอาภัพ’นั้นมีที่มาอย่างไร.....

ความงามมักนำพาเอาความเดือดร้อนมาสู่ครอบครัวและคนรอบข้าง....

หากมีคนรู้ว่าเจ้าไม่มีคู่ครอง ก็จะต้องมีคนสนใจไคร่รู้เรื่องตัวเจ้าแน่

ดังนั้น....การเป็นคนในตระกูลข้าจะช่วยปกป้องคุ้มครองเจ้าได้ จริงไหม”

ณภูริอยากจะถียง ขอเพียงยอมให้เขาแต่งกายเยี่ยงชาวบ้านก็ไม่จำเป็นต้องระแวดระวังเช่นนี้เลย....

เขาก้มหน้ายอมอดทนเพื่อมะรุม

“เจ้าคะ”

“ดี....ข้าจะส่งคนไปยังเรือนของปวฤทธิ์ศร เจ้าอยู่รอฟังข่าวระหว่างนี้ก็อยู่คุยกับคามินไปก่อน”

ร่างผอมบางทำหน้ามุ่ยไม่ชอบใจทันที “ข้าว่าเขาอยากจะปรับความเข้าใจกับเจ้านะ”

ท่านหญิงลุกจากไปล่อยให้คนทั้งสองพูดคุยกันเอง ทันที่ที่ประตูปิดลงคามินก็โดนตีมือ เพี้ยะ! เข้าให้

“ถอยไปเลยนะ” ณภูริพยายามดึงชายผ้านุ่งออก แต่ร่างสูงไม่ยอมขยับสักนิด

เขาคว้าข้อมือทั้งสองไว้มั่น “ปล่อยข้า....เดี๋ยวนี้”

“เจ้าจะหยุดอาละวาดไหม ถ้าหยุดล่ะก็ข้าถึงจะปล่อย”

“ไม่ จนกว่าเจ้าจะปล่อยข้าไป”

“นั้นไม่มีทางเด็ดขาด”

“ข้าเกลียดเจ้าที่สุด”

“โอ้ยยยย...” คามินสถบอย่างรำคาญใจที่สุด เขากระชากแขนเล็กให้ลุกขึ้นลากออกจากห้อง

เดินผ่านบ่าวไพร่ที่นั่งออหน้าห้องมากมาย “ใครก็ไม่ต้องตามมาทั้งนั้นนะ”

บุรุษหนุ่มสั่งคำเดียวก็ไม่มีใครกล้าลุกตามมา ร่างสูงเดินลากแขนอีกฝ่ายออกมาถึงสวนสวยนอกเรือนอันโล่งกว้าง

ไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาเย็นชื่นใจ และไม้ดอกมากมายอวดสีสันละลานตา

เรียกร้องให้มวลภมรสีสวยโบยบินเต็มไปหมด  คฤหาสน์หลังนี้มีพื้นที่กว้างขวาง

สวนกว้างขนาดมีลำธารและบึงบัวในอาณาเขต

เพียงก้าวเท้าออกจากเรือน ลมเย็นชื่นใจและสีสันอันสดใสรายล้อมรอบด้านก็เปิดโลกของณภูริให้กว้างขึ้น

นี่คือที่ที่เขาคุ้นเคยมากที่สุด กลิ่นหญ้าอ่อนและเสียงจิ้งหรีดเรไรดังระงม อุ้งมือใหญ่ดึงมาที่ริมบึงบัว

“เจ้าจะอยู่เฉยๆฟังข้าพูดจะได้ไหม” คามินว่าเสียงจริงจัง

ณภูริเม้มปากแล้วแลมองด้วยหางตา คนอย่างนี้จะมีเรื่องอันใดนอกจากเอาดีใส่ตัว

คงจะบรรยายสรรพคุณตัวเองอีกล่ะสิว่าจะดูแลเขาดีอย่างโน้น ดีอย่างนี้

“ข้าขอโทษ”

ใบหน้ามนหันมามองอย่างประหลาดใจ ขอโทษงั้นหรือ??

“ขอโทษที่ใช้กำลังกับเจ้า.......ข้ามันพูดไม่เก่ง....เอาใจใครไม่เป็น

ข้ารู้ว่ามันไม่ถูกต้องแต่ข้าไม่รู้จะทำอย่างไรให้เจ้ายอมอยู่กับข้า”



.............................................





................................


คามินมองทิวทัศน์งามรอบตัวรู้สึกว่าพื้นที่โล่งแจ้งทำให้ความคิดอ่านปลอดโปร่ง

ดีกว่าอุดอู้อยู่แต่ในห้องทึบๆอย่างที่ท่านแม่บอกจริงๆ เขายืนเท้าเอวมองร่างเล็กอย่างจริงจัง

แววตาอ่อนโยนไม่เอาแต่ใจอีกแล้ว

“บอกมาสิ.....ข้าต้องเอาใจอย่างไร เจ้าถึงจะยอมอยู่ที่นี่”

พูดง่ายนี่ ราวกับเขาอยากให้เอาใจนักล่ะ

“ภูริ......” คามินก้าวมาหาอีกก้าว เรียกเสียงหวานจนขนลุกเลย “ข้าชอบเจ้าจริงๆนะ”

ถ้าชอบข้าจริงก็ปล่อยข้าไปสิ ณภูริกำลังว่าคำๆนี้ออกไป

เมี๊ยวววว...เสียงประหลาดแว่วมาขัดจังหวะ ทั้งสองเหลียวมองหาที่มาของเสียงทันที

“เสียงอะไร??”

“นั้น....” อีกฟากของสระบัว มีลูกแมวตัวน้อยๆเกาะปลายกิ่งไม้อย่างเอาเป็นเอาตาย

มันคงปีนไล่จับนกเล่นแล้วกิ่งอ่อนหย่อนลงเหนือน้ำทำท่าจะหักเหล่มิหักแหล่อยู่

“แมวรึ??”

“ช่วยมันหน่อยสิ”

“ช่วย??....ไม่ล่ะ ข้าเกลียดแมว” ชายหนุ่มส่ายหน้า เขากลัวเล็บคมๆที่สุด

“ช่วยมันหน่อยสิ จะตกอยู่แล้วนะ”

“แต่ว่า....” เขาเหลียวหาบ่าวไพร่ เวลาอย่างนี้มองหาไม่เห็นสักคน

“เร็วเข้าสิ!” ไม่ทันใจเลย ณภูริพลั่กหลังร่างสูงกว่าสุดแรง

“เหวอออออ...”

ตูมมมมมม!!!!

อุ๊บ! ร่างเล็กยกมือปิดปาก ตายล่ะ....พลั่กลูกชายหัวแก้วหัวแหวนท่านผู้หญิงลงสระเฉยเลย ท่านจะโกรธไหมเนี่ย??

“เจ้าทำอะไรของเจ้ากัน??” คามินโผล่ขึ้นมา มีจอกแหนเต็มหัวเลย

“ชะ....ช่วยแมวก่อนสิ เร็ว...ข้าอยากได้” ปากไวกว่าความคิดซะแล้ว

ชายหนุ่มทำหน้าบูดสุดขีด เขาปาดเศษผักบนศีรษะออก

“ปัดโธ่....”มีเสียงไม่สบอารมณ์เบาๆ ก่อนจะกระโจนลงไปว่ายแหวกดงบัวสีชมพูออกเป็นทางไปเกือบสุดขอบสระ

เจ้าแมวส่งเสียงลั่นด้วยความกลัวตอนโดนจับตัว ตามด้วยเสียงร้องโอ้ยเบาๆตามมาให้ได้ยิน ท่าจะโดนข่วนไม่น้อยแน่

ณภูริเผลอหัวเราะออกมาที่เห็นอีกฝ่ายทุลักทุเลว่ายกลับมา

ท่าทางเหนื่อยกระหืดกระหอบเช่นนั้นทำให้ความโกรธเบาบางลงบ้าง

ได้ทุลักลุเลเหมือนคนอื่นเขา คงเข้าใจความยากลำบากของปทุชนบ้างนะ

“ทำอะไรอยู่นะ” ชายหนุ่มเห็นในสระว่ายยักแย่ยักยันอยู่กับที่

“สายบัวพัน...” คามินตะโกน เขาว่ายมือเดียว อีกมือชูเจ้าแมวน้อยเหนือน้ำไว้


“อย่าให้พันขานะ” ร่างเล็กยืนริมสระอย่างกระวนกระวาน อย่าจมน้ำนะ ไม่เช่นนั้นก็เป็นความผิดเขาสิ

ในสระผลุบๆโผล่ๆอยู่นานกว่าจะหลุดจากดงบัว กระเสือกกระสนมาถึงขอบสระจนได้

“เป็นอะไรหรือเปล่า”

“เฮ่อ....เอ้า!” คามินโซเซขึ้นมายื่นเจ้าแมวสีขาวมอมแมมใส่มือ กว่าจะหลุดจากดงสายบัวเขาต้องเสียผ้าพันเอวไปด้วย

“เมี๊ยวววว” เจ้าแมวตัวเล็กผอมจนเห็นซี่โครง แต่ก็มีดวงตากลมโตน่ารักแล้วเสียงก็ออดอ้อนเรียกร้องความสนใจ

ณภูมิยิ้มกว้างดีใจทีได้มันมา

“ขอบคุณ”

“เจ้าชอบก็ดี.. เหวอออ...” ชายหนุ่มยิ้มกว้างไม่ทันไร ก็สะดุ้งสุดตัวกางเกงเปียกชุ่มน้ำร่นลงมากองที่หัวเข่า

เขาตาลีตาเหลือกรีบดึงขึ้นอย่างเดิม ขณะที่ณภูริแทบโดดหนีออกห่าง ต่างคนต่างอายหน้าร้อนผ่าวไปหมด

“มะ..มะมะไม่มีอะไร ผ้าพันเอวมันหลุดหายไปในสระน่ะก็เลย.....ก็เลย.......”

ขายหน้าประชาชี  คามินคอตก คุณชายอย่างเขาไม่เคยอับอายขายหน้าอย่างนี้เลย

หึหึ....ณภูริกลั้นเสียงหัวเราะไว้ พลางรีบเดินหนี

“เดี๋ยว เจ้าหัวเราะเยาะข้ารึ”

“ฮะฮะ...ข้าเปล่านะ”

“หยุดเดี๋ยวนะห้ามหัวเราะ  ห้ามเจ้าบอกใครเด็ดขาด ไม่งั้น...” คามินชี้นิ้วคาดโทษ

“ไม่งั้น....อะไรล่ะ ท่านคามิน... รีบไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวจะเหม็น ฮ่าฮ่าฮ่า..”

ณภูริหัวเราะชอบอกชอบใจใส่ ก่อนขึ้นเรือนอย่างมีความสุข พอกลับเข้าห้องแล้วถึงนึกได้ 

เขาหัวเราะชอบใจในเรือนหลังนี้นะ?? เจ้าคนเอาแต่ใจทำให้เขาหัวเราะจนได้

(ติดตามตอนต่อไป)  :bye2:

ออฟไลน์ SuSaya

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-9
โอ๊ะโอ อย่าร้ายเลยนะจันทรา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
มลุรินทร์ถ้าจะเจอศึกหนัก

ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2940
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
5555+ รู้สึกพี่สรจะเจ้าเล่ห์มากขึ้นทุกที ลูกแกะอย่างมลุรินทร์จะทำไงหล่ะเนี่ย
คามินอนาคตบ่งบอกว่าต้องกลัวเมียสุด ๆ

ออฟไลน์ moredee

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-8
:o8: ละเมียดละไมในอารมณ์ยิ่งนัก :L2:

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
เริ่มพัฒนาแล้ว  ตอนหน้าขอหวานๆน้า

บวกเป็ด

ออฟไลน์ Acacha

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
ลำบากทั้งพี่ทั้งน้อง
แต่ของมลุรินทร์น่าจะลำบากกว่า  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
ตะละแม่จันทราดูไม่มีพิษสงอันใด
แต่นังผักกะหล่ำท่าทางจะยุแยงจนเป็นเรื่อง

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
จันทราจะทำอะไรมลุลินทร์หรือเปล่านั่น ปวริศรต้องดูแลมลุลินทร์ให้ดีนะ อย่าให้ใครทำร้ายมลุลินทร์ได้นะ สงสารมลุลินทร์แล้วสิ ปวริศรไปจัดการจันทราให้เรียบร้อยนะ อย่าให้วุ่นวายกับมลุลินทร์ได้นะ เพราะเรื่องนี้คนที่ทำให้ยุ่งก็คือปวริศรเอง ไม่ใช่มลุลินทร์สักหน่อย มลุลินทร์อยู่้กับณภูริดี ๆ ก็ไปพาตัวมาแบบนั้น คามินพูดจาดี ๆ ก็เป็นนี่นา ทำแบบนี้ดูจะได้ใจณภูริมากกว่านะ ดีกว่าบังคับเยอะเลย

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
วู้ววววว จันทรา ถ้าไม่โดนบ่าวยุ

น่าจะคิดได้ว่า มะรุกน่ารักนะ เหอะๆ

โดนบ่าวยุซะไปไม่เป็นแล้วล่ะ

ออฟไลน์ moobarpalang

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +185/-6
หว่าๆๆหน้ารักอะ

ออฟไลน์ pooinfinity

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-3
คนน้อง น่าจะเจอศึกหนัก หากจันทราทำไรลงไปเนี่ย ต้องเหมือนมีปีศาจร้ายสิงเอาแน่ๆ

ส่วนคนพี่ หนทางช่างราบรื่นนัก จะมีก็แต่ ใจตัวเองเนี่ยแหละ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ RoseBullet

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1027
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
สงสารสองพี่น้องณภูริกับมลุรินทร์ เคราะห์ซัดกรรมซ้อน ทำไมต้องมาเจอเจ้าสองคนเถื่อนนี่ก็ไม่รู้
โดนบังคับกักขังหน่วงเหนี่ยวแยกจากกันไม่พอ จะโดนเอาไปเป็นเมียน้อยอีกต่างหาก เมียหลวงก็มีแนวโน้มจะทำร้าย
แถมถูกบังคับให้แต่งตัวพูดจาเหมือนผู้หญิงอีก เหมือนถูกย่ำศักดิ์ศรีไม่เหลือเลย เฮ้อ
ถ้าอยากได้แบบผู้หญิงนักก็ไปหาผู้หญิงจริงๆนู่นไป๊ เมียตัวเองก็มีอยู่แล้วแท้ๆ ทั้งคามินทั้งสรเลย โกรธธธอ่ะ
คามินนี่ตอนแรกไม่ยอมรับณภูริ พอเห็นหน้าเข้าหน่อยเท่านั้นแหละ เป็นเรื่อง! หลงรูปโดยแท้
แต่ตอนปัจจุบันนี่มีความอ่อนโยนขึ้นมาหน่อย ก็ดีขึ้นมานิดนึง
แต่มาถึงตอนนี้คงแก้ไขอะไรลำบากแล้ว ยังไงลักตัวเขามาแล้วก็ดูแลให้ดีแล้วกัน

ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1
เป็นคนดีแท้ๆ จะโดนบ่าวไพร่ยุซะแล้ว :serius2:

snooppy

  • บุคคลทั่วไป
ภูริอ่อนลงแล้ว  มีแววว่าคู่นี้จะราบรื่นน่ะ...อุอุ (ชอบ)

เฮ้อ! ห่วงแต่คู่น้องนี่ซิ  อิเมียใหญ่ท่าจะร้าย ( น่าฉงฉาน มลุรินทร์ของพี่ ) :sad4:

ออฟไลน์ Alone Alone

  • ขอตายในอ้อมกอดฮยอกแจ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
หวานๆๆๆๆ น้ำตาลเกลื่อน (?)

น่ารักทั้งสองคู่เลย แอร๊ยยยย

ออฟไลน์ murasakisama

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1489
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +236/-4
น่าร้ากกกกกกกมากทั้วสองคู่เลยค่ะ o13

ออฟไลน์ yaninjinna

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
หมั่นไส้พี่สร มีเมียแล้วมายุ่งกะมะรุมทำไมว้า

คามินยังดีหน่อย อย่างน้อยก็ยังไม่ได้แต่ง ภูริไม่ต้องเป็นเมียน้อย

ใครมาพามะรุมหนีทีดิ อยากให้พี่สรมันคลั่ง ฮึ้ย!! ขัดใจ


ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
 :เฮ้อ:


ดูท่าทางมลุรินทร์จะลำบากแน่


เพราะจันทรา ดูจะถูกยุแน่ๆ

ออฟไลน์ ณยฎา

  • ขอเพียงมีเธออยู่คู่ฉัน แม้นหลับก็มิฝันถึงสิ่งใด
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-3
นังกะหล่ำ เสี้ยมดีนัก เดี๋ยวให้ภูริจัดการเลยนี่

ออฟไลน์ dada

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อ้างถึง
เช่นนี้เขาก็ยิ่งปล่อยให้ไปเผชิญโลกกว้างที่เต็มไปด้วยสิงสาราสัตว์ไม่ได้เด็ดขาด 

เพราะโลกนี้ไม่มีใครเอ็นดูมลุรินทร์ได้มากเท่าเขาอีกแล้ว

พูดไม่ได้ดูตัวเองเลย... เหอะ!!


น่าเป็นห่วงน้องมะรุม ไม่รู้ต่อไปจะเจออะไรบ้าง ใสซื่อปานนี้ ใครหลอกก็เชื่อเค้าหมดแน่เลยพ่อหนูเอ๊ย
ตัวเมียเอกอ่ะดูแล้วเหมือนจะปลงได้ในทีแรก แต่บ่าวไพร่ช่างยุนี่สิจะทำให้เรื่องมันยุ่งยาก

แต่ตอนนี้อ่านแล้วเคืองๆพี่น้องคู่นี้ อยากได้เค้า แต่บังคับให้เค้าแต่งหญิง ใช้คำผู้หญิง พยายามปกปิดคนอื่นว่าตัวเองจะรับอนุเพศชาย
แล้วไปเอาเค้ามาทำไม ก็ในเมื่อรู้ว่าทั้งณภูริและมะรุมเป็นผู้ชายทั้งคู่

vocaloid

  • บุคคลทั่วไป

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด