“กูเป็นเจ้าหนี้มึง ข้อนี้เข้าใจดีใช่ไหม”
“อืม..” ผมยอมรับ
“ในฐานะลูกหนี้มึงต้องทำตามที่กูสั่ง ..อย่างแรกเลย มึงต้องเรียกตัวเองว่า ‘ผม’ ขานรับ ‘ครับ’ ทุกครั้งด้วย”
“นี่...ฉันอายุมากกว่านายนะ”
“เกี่ยวไรด้วย กูพอใจ มีไรไหม”
ดูมัน!!....นิสัยเสียไอ้นี่ ผมขี้เกียจเถียงแล้ว “ก็ได้”
“อย่างที่สอง.....” เขาฉีกยิ้มกว้างอย่างเจ้าเล่ห์ ฝ่ามือใหญ่ตบที่หัวเข่าตัวเอง ทำนองให้มาตรงนี้
“อะไร?” จะให้ผม...นั่งตักเหรอ เพี้ยนหรือไงถึงอยากให้ผู้ชายอย่างผมนั่งตักแทนที่จะเป็นสาวๆ ผมส่ายหน้าปฏิเสธ
“มานี่ อย่าให้พูดหลายครั้งนะมึง”
“ไม่เอา....กูหนัก เอ๊ะ!” ผมขึ้นกูมั่งเท่านั้นแหละเจอตาดุใส่ มันลากแขนดึงให้ขึ้นนั่งตักให้ได้
ผมเกาะขอบโต๊ะขืนตัวสุดขีด ก้นหย่อยบนตักมันนิดเดียวเอง ไอ้ก้องช้อนขาผมขึ้น
วางพาดบนโต๊ะกินข้าวเฉยเลยทำให้ก้นหย่อนปุ๊บนตักมันเต็มๆ
“อย่าให้กูต้องเรียกหลายครั้งนะ นั่งตักแค่นี้มันจะตายเรอะไง”
“ปล่อยนะเว้ย กูไม่ใช่ผู้หญิงนะ..สาวๆไหนก็มีทำไมไม่ไปหาสักคน ห๊า...มายุ่งกับกูทำไมว่ะ”
ท่อนแขนแข็งแรงรัดเอวผมแน่น มืออีกข้างคว้าคางผมขึ้นบังคับให้แหงนมองสบตามันในระยะประชิด
ลมหายใจร้อนๆรดใบหน้าผมได้กลิ่นเหงื่อผสมกลิ่นมินต์อ่อนๆ
ตาสบตาแต่ไม่รู้ทำไม.....ความสนใจมันถึงอยู่ที่ปากมากกว่า
ผมตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นจนไม่ได้จะคิดดิ้นรนเอาตัวรอด
ทันทีที่ผมผลุบตาลงมองปากตรงหน้า มันก็เคลื่อนเข้ามาหาแนบกับริมฝีปากผมด้วยแรงกดหนักหน่วง
???????????????????????????????????????????????
คนจูบกันมันเป็นแบบนี้เหรอ ปากบดกันแรงๆขบกัดปากให้พอแสบเสียว
พอขยับปากหนีก็โดนฉวยโอกาสสอดลิ้นเข้ามาพบกับลิ้นของผม
วินาทีต่อมาผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น รู้แต่ว่าขนลุกซู่ไปทั้งตัว หัวใจเต้นโครมๆ
ตัวสั่นและอ่อนแรงยังกะละลายกลายเป็นน้ำ ฝ่ามือที่ประคองเอวผมเลื่อนขึ้นมานิดเดียวก็สัมผัสยอดดอกผ่านเสื้อบางๆ
ผมสะดุ้งโหยงแค่โดนนิ้วบีบคลึงไปมาก็ทำให้รสจูบมันซาบซ่านขนาดนี้เชียว
โคตรพ่อโคตรแม่เอ้ย...เกิดมาไอ้มิวไม่เคยพบเคยเจอ ความรู้สึกบางอย่างท่วมท้นขึ้นมาเต็มล้นตัวผม
มันหวานซาบซ่านเหมือน....
เหมือน.....
เหมือน............ไม่รู้สิ ผมไม่รู้ ผมไม่รู้เลยว่าตัวเองถูกปล้นจูบอย่างหิวกระหาย
อย่างเดียวที่รู้คือผมและร่างกายผมไม่เคยรับมือการรุกรานอย่างร้อนรนกระตือรือล้นขนาดนี้มากก่อน
ผมหอบฮักอ่อนแรงอยู่ใต้ริมฝีปากคู่นั้น ถูกเก็บเกี่ยวจนพอใจ
เขาเงยหน้ามองดูผมลิ้นเลียริมฝีปากตัวเองอย่างพอใจ
“ใช้ได้....รสชาติดีทีเดียว”
ผมตัวแข็งทื่อเหมือนโดนตบหน้าฉาด หน้าชาไปเป็นแถบเลย
“มะ...มึง...จะ...จะ......” จูบ คำนี้ทำไมพูดยากจัง ผมร้อนผ่าวไปทั้งหน้าแทบแทรกแผ่นดินหนีแล้ว
ทนดูหน้ามันไม่ได้เลยดิ้นรนตะกายจะออกจากตักมันให้ได้ แต่มือมันเหนียวเหลือเกิน
ดิ้นไปดิ้นมาผมรู้สึกว่ามีอะไรแข็งๆแนบกับร่องก้น โอ๊ะ??
“เฉยทำไมล่ะ..ดิ้นต่อสิ กำลังสนุก” ผมมองหน้าคนพูดแววตาเขาเป็นสีเข้มขึ้นบ่งบอกถึงความต้องการลึกๆข้างใน
ผมได้แต่นั่งตัวแข็งไม่กล้าจะขยับแม้แต่นิ้วเดียว
กลัว.....แน่ล่ะ เป็นใครบ้างจะไม่กลัวในเมื่อกำลังกับขนาดตัวต่างกันมากอย่างนี้
ผมนั่งตักมันอยู่หลายนาที ใจเริ่มเย็นขึ้นทีล่ะนิดแต่ก็ถูกรบกวนด้วยนิ้วที่เกลี่ยใบหูเบาๆชวนให้สยิว
“พอแล้ว....จะเล่นไปถึงไหน กูไม่ใช่ของเล่นนะ ถ้าอยากจะแหย่เล่นล่ะก็ ไปหาผู้หญิงทีเข้าเต็มใจสิ”
“กับสาวๆมันสนุกได้แค่แป๊ปเดียว....สู้มิวไม่ได้ สนุกกว่าเยอะ น่าจูบทุกวันด้วย”
ห๊ะ....นี่มันจะหยามกันไปถึงไหนวะ อย่างกูเนี่ยนะจะจูบกับมึงทุกวัน ไอ้ก้องหัวเราะเยาะเหมือนอ่านความคิดผมออก
รีบลุกเล้ย รีบลุก....บ๊ะ มือมันกอดเอวผมไม่ปล่อยเหนียวยิ่งกว่ากาวยาแนวตราตุ๊กแกอีก
“มือ....ปล่อยสิเว้ย”
“พูดดีๆแล้วจะปล่อย”
“นี่ก็พูดดีแล้ว ปล่อย!!”
“ใครเป็นเจ้านายหา?? ปากมากเดี๋ยวคิดดอกแม่งเลย”
“ปล่อยผมได้ไหม” ผมเสียงอ่อนไวซะไม่มีอะ... เรื่องเงินทองมันของนอกกายก็จริง
แต่ถ้าทำให้ดอกมันบานจนหุบไม่ลงนั้นมันคงไม่ดีแน่ เพื่อนๆว่าจริงไหม
“เอามือถือมาก่อน...มือถือล่ะ”ก้องแบมือ
“มัน...คงหล่นหายตอนอยู่ในร้านไอ้เสี่ยนั้น ไว้พรุ่งนี้ค่อยไปซื้อเครื่องใหม่ก็ได้”
ผมคิดว่าเอาเครื่องถูกๆสัก ห้าร้อยกว่าบาทก็พอใช้แก้ขัดไปก่อน ไว้มีตังค์แล้วค่อยซื้ออันดีๆ
“งั้นพรุ่งนี้เที่ยงไปเจอกันที่ห้าง”
“ห้าง?? ทำไม...จะซื้อมือถือให้หรือไง”
“เอ่อ”
ห๊ะ...ผมอึ้งไปเลย แค่แซวเล่นแต่มันเอาจริงซะงั้นติดหนี้ยังไม่พอหรือไงถึงจะซื้อของให้อีก “พูดจริงอะ”
“เอ่อ” เขาย้ำ
“กูซื้อเองได้” ว่าแล้วก็เจอตาดุใส่เลย เขาให้ผมเรียกตัวเองว่า ผมนี่นา “ของมันไม่ได้แพงอะไรนี่”
“ตามใจ เอารุ่นที่มีA-GPSนะ”
“หา? เอามาทำไม”
“ก็จะตามได้น่ะสิ ว่ามึงอยู่ไหน”
โห.....มึงกะจะไม่ปล่อยกูเลยใช่ไหมเนี่ย ก่อนหน้านี้ที่คิดว่ามึงเป็นคนดีกูขอถอนความคิดเลย
“ได้” กัดฟันพูดนะเนี่ย ถ้าได้เถียงกันก็คงไม่จบแน่ ไอ้ก้องลามปามเอาคางมาเกยบนหัวผมอย่างไม่กลัวของสูงเลย
ไอ้ครั้นจะโวยก็ใช่เรื่อง ผมเลยนั่งเฉยๆเรานั่งอยู่ท่านั้นอยู่นานเกือบจะผล็อยหลับไปซะแล้ว
ถ้านาฬิกาข้างฝาไม่ดังเตือนเสียก่อน
ตี 5 แล้ว แม่จะตั้งนาฬิกาเตือนให้เปิดร้านได้แล้ว แต่วันนี้คงไม่ได้เปิด ผมเผลอเงยหน้าขึ้นมองและก็ได้จูบเบาๆที่สันจมูก
อะไร?? บ้า...ทำยังกะกูเป็นแฟนมึง
“จะเปิดร้านหรือเปล่า”
“ไม่เปิด เดี๋ยวต้องเตรียมเสื้อผ้าไปให้พ่อแม่ที่โรงพยาบาล”
“โอเค งั้นกลับล่ะ ตอนเที่ยงเจอกัน อ้อ...จริงสิ”
ก้องทำท่าจะลุกแล้ว ไอ้ผมก็รีบลุกด้วย แต่ไม่ทันไรมันก็ดึงผมกลับลงไปนั่งท่าเดิมต่อ
จับมือผมขึ้นมาจรดปากากาเมจิกลงกลางฝ่ามือเลย
“เฮ่.....”
“นี่เบอร์กู เสร็จจากโรงบาลแล้วโทรหา เข้าใจไหม” มันดันผมลุกจากตัก และยังมีตบก้นแถมมาทีหนึ่ง
ดู๊...มันทำยังกะผมเป็นเด็กของมันยังงั้นแหละ
“ไปนะ”
“เอ่อ...ขอบใจ” ผมกัดฟันกรอดๆเลย อะไรของมันวะเด็กสมัยนี้...จีบผู้ชายเป็นแฟชั่นหรือไง
ถึงมาตอแยกันเสียจริง ผมเลื่อนประตูเหล็กลงคล้องกุญแจไว้ไม่ล๊อค
พออยู่คนเดียวก็โล่งอกอย่างบอกไม่ถูก แค่คืนเดียวผมเจออะไรมามากจนสาธยายไม่ถูก
เหนื่อยใจ แต่ก็โล่งอกด้วย เป็นหนี้ไอ้ก้องยังดีกว่าเป็นหนี้ไอ้เส็งหรือไอ้พี่ยอร์ทอีก
เอ๊ะ?? ลืมพี่ดิเรกไปได้ไง สาธุ....อย่าโกรธผมเลยนะครับ พี่กับผมไม่มีวาสนาต่อกันหรอก
ผมเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัว แปรงฟันไม่ทันเสร็จก็มีเสียงตบประตูโครมๆ ผมรีบบ้วนปากออกมาเปิดประตูให้
“ก้อง....ลืมของเหรอ”
วินาทีที่เห็นหน้าคนที่รออยู่ ผมตะลึงไปชั่วครู่
เขาพรวดพราดเข้ามาดึงประตูเหล็กลงดังโครม! ขณะที่ผมอ้าปากค้างไม่เลิก
“ไอ้ก้องเสร็จธุระแล้วสิ....งั้นตากูมั่ง”
สิทถอดเสื้อนอกออก ผมไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ แต่มันไม่ดีสำหรับผมแน่
“จะทำอะไร” ผมใจไม่ดีที่เห็นเขาเริ่มปลดกระดุมเสื้อออกทีล่ะเม็ด
“เลิกทำเป็นเล่นตัวน่า....ไอ้ก้องมันทำไว้ยังไงกูก็จะทำอย่างเดียวกันนั้นแหละ”
“มะ...” ผมจะร้องบอกว่า ไม่ใช่ แต่มันก้าวพรวดประชิดตัว ฝ่ามือตะปบปิดปากผมเสียก่อน
มันดันผมหงายหลังลง มือยึดข้อมือผมกดตรึงไว้กับพื้น สีหน้ามันนิ่งแววตาเอาจริง ผมใจเต้นรัวด้วยความกลัว
เขาจะทำอะไร??
*************************************
ถึงเพื่อนๆ
จบเกมไม่ลงอีกแล้ว เรื่องลื่นไหลออกมาเรื่อยๆและ.....ท่าจะไม่จบแค่ 3Pน่ะสิ
ขนาดคนแต่งเองก็ยังแปลกใจเลยว่า ตูเขียนมาได้ไงหว่า
ยังต่ออีกหน่อยนะคะ จะพยายามไม่ให้ยาวเกินไป
ถ้าเพื่อนคนไหนไม่ชอบด้วยประการใดแจ้งด้วย จะได้ปรับปรุง
โปรดติดตามตอนต่อไป
