อยากให้พระอาิทิตย์ตกดินตอนสามทุ่มครึ่ง ((มีหนังสือพร้อมส่ง)))//ข่าวภาคสอง พระอาทิตย์หลังฝน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: อยากให้พระอาิทิตย์ตกดินตอนสามทุ่มครึ่ง ((มีหนังสือพร้อมส่ง)))//ข่าวภาคสอง พระอาทิตย์หลังฝน  (อ่าน 117942 ครั้ง)

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
ไม่รู้ทำไมยิ่งอ่านยิ่งอึดอัด คนนึงถูกจำกัดด้วยฐานะทางสังคมและครอบครัว
อีกคนถูกจำกัดด้วยความคิดและจิตใจของตัวเอง
อืม  เห็นด้วย

ออฟไลน์ Horizon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-22

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2

anop2521

  • บุคคลทั่วไป
Re: ตอนที่ 15 อยากให้&
«ตอบ #184 เมื่อ09-05-2011 12:33:42 »

16.
   
   แต่เกือบครึ่งคืนที่รุ่งโรจน์เงียบหายไปจนกระทั่ง นายต้องโทรศัพท์มาบอกว่า..

   “ไอ้ยะ เพื่อนยู เมาอยู่ในผับที่ไอทำงานอยู่ มาคนเดียว มาถึงก็ร่ำสุรายกใหญ่ ..ท่าไม่ดีนะโว้ย หญิงรุมกันเพียบเลย เงินจะหมดตูดนา รีบมาเอากลับไปเถอะว่ะ..เป็นห่วง”

   เมื่อถามจนรู้ว่ารุ่งโรจน์อยู่ตรงไหน สุริยาก็รีบแต่งตัวลงไปเรียกแท็กซี่ เมื่อไปถึง พบคนที่งอนออกมาจากห้อง นอนหลับอยู่ที่เบาะโดยสารรถตัวเอง โดยมีนายต้องยืนคุมเชิงอยู่ใกล้ ๆ

   “ขับรถเป็นหรือเปล่า”

   สุริยาพยักหน้า..ก่อนจะกล่าวขอบใจ..และพอเหลือบไป จึงได้เห็นคนที่นายต้องว่ากำลังชุบเลี้ยงตน..สุริยานึกอยากจะหัวเราะ แต่อีกใจก็นึกอยากจะร้องไห้..

   “หากยังทำกรรมเก่า ๆ ซ้ำ ๆ ชีวิตมันก็ทุกข์ซ้ำ ๆ หญิงก็ไม่ใช่ ชายก็ไม่เชิง เขาเรียกว่ากะเทย ซ้ายไม่ไป ขวาไม่ไป กรรมกาเม..” เสียงของหลวงพี่แสงฉาน ซึ่งโทรศัพท์คุยกันยังก้องอยู่ในหู

   เมื่อรถแล่นออกจากสถานที่ตรงนั้น เลี้ยวเข้าถนนใหญ่ สุริยาก็ค่อย ๆ ขับแบบคลำทาง ด้วยไม่ค่อยคุ้นกับสภาพจราจรในยามค่ำคืน...เมื่อรถถึงคอนโด เขาก็เรียกยามมาช่วยพยุงคนที่เมาพับหลับให้ขึ้นกลับไปที่ห้องพัก

   เมื่อยามวางคนสำคัญลงบนเตียง สุริยาก็ตัดสินใจถอดเสื้อผ้าหวังเช็ดตัว พลันรุ่งโรจน์ก็อาเจียนออกมา ดีที่ยังเอากะละมังรองไว้ทัน สภาพตอนนี้ สุริยานึกถึงแม่เหลือกำลัง..เมื่อวันที่พ่อเมา แม่ก็มีสภาพเช่นนี้ แม้ไม่ได้เป็นอะไรกันอย่างลึกซึ้งจนหวังฝากผีฝากไข้กันยามเจ็บเฒ่า แต่คำว่าเพื่อน ที่ตัวเองใช้มาตลอดที่คบหากัน..จึงทำให้สุริยาทำอย่างที่แม่ตนทำให้พ่อ..เช็ดอาเจียนที่น่าขยะแขยง และก็เช็ดเนื้อตัวดับกลิ่นบุหรี่..โรยแป้งหอมเพื่อให้รุ่งโรจน์รู้สึกสดชื่น ก่อนจะไปนั่งมองสภาพคนเมาไร้สติ บนโซฟามุมห้อง ด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย..

   พลันดวงปัญญามันก็เกิดขึ้น พร้อมกับยกมืออธิษฐานว่า

   “ชาติหนึ่งภพใดอย่าได้ตกในฐานะเช่นนั้นเลย อย่าให้ถึงฐานะแห่งความโง่เขลา เป็นทาสของตัณหา ราคะ ทำร้ายตนให้ลำบากด้วยเรื่องอย่างนี้ ขออย่าได้หลงรักใคร่ชอบพอใคร หรือใครอย่าได้มาหลงรักใคร่ชอบพอตน เนื้อคู่ตุนาหงันแต่อดีตชาติ ขอให้อโหสิกรรม ต่างคนต่างไปตามวาระ ไม่ปรารถนาจะยึดใครหรือครอบครองใครไว้ทั้งสิ้น..ขออานุภาพบารมีฯ”

   พอได้อธิษฐานแล้วรู้สึกสบายใจ เพราะผังที่รออยู่ในภายภาคเบื้องหน้า คือผังดี จะทำให้มีเวลาสร้างบุญสร้างบารมีได้เต็มที่ พอสบายใจจึงมาล้มตัวลงนอนเคียงกัน ดั่งวันวาน..ไอ้มารที่เรียกว่ากิเลสตัณหาก็ทำหน้าที่ของมัน กุศลฝ่ายดีก็ทำหน้าที่ของมัน นี่แหละเขาจึงบอกรุ่งโรจน์ว่า เขาทุกข์..แต่ถ้าจะให้เขาพูดคำว่า “รัก” เห็นจะไม่มีทาง..

   แต่ทำไม รุ่งโรจน์ไม่รู้หรอกรึ ว่า สุริยารัก นายขนาดไหน....ยิ่งทุกข์มาก ๆ ก็คือรักมาก ๆ นั่นเอง..

   ‘ที่รัก’

   และเป็นครั้งแรกในรอบที่รู้จักกันมา ที่สุริยา ลองที่จะจูบบนใบหน้าเกลี้ยงเกลาหล่อเหลาของรุ่งโรจน์

   รสเสน่หามันเป็นอย่างนี้เองเล่า..

   ‘อะไรไม่สำคัญเท่าครั้งแรกหรอก..อย่าให้มีครั้งแรก แล้วครั้งต่อ ๆ มา มันจะไม่สำนึกแล้ว’
   


   รุ่งโรจน์ตื่นขึ้นมาในเวลาตะวันเกือบครึ่งฟ้า..สุริยาเมื่อเห็นรุ่งโรจน์ลุกขึ้นมาด้วยท่าทีงัวเงีย จึงปรี่ลุกจากที่โซฟา เข้าไปหา  ถามไถ่เหมือนกับว่าเมื่อคืนไม่มีเรื่องอะไรขัดใจกัน..

   “เป็นอย่างไรบ้าง ปวดหัวไหม”

   “ผมกลับมาที่นี่ได้อย่างไร” น้ำเสียงของรุ่งโรจน์ยังมึนตึง

   “คุณขับรถกลับมาเอง มาถึงก็มาเคาะประตูเสียงดัง พอผมเปิดประตูรับ คุณก็อาเจียนใส่ผม ก่อนจะล้มพับลงไป..” สุริยาผิดศีลเพื่อให้ตัวเองดูดี

   “ผมจำได้ว่าเมื่อคืน ผมอยู่ที่แถว ๆ รัชดานี่..ผมหมดสติที่นั่น .ไม่น่าจะขับรถกลับมาได้..”

   “เอาเถอะ..กลับมาถึงบ้านแล้ว ไป..จะเที่ยงแล้ว ลุกขึ้นไปอาบน้ำแล้วมากินข้าวต้มร้อน ๆ ผมทำให้เองกับมือเลยนา”

   รุ่งโรจน์มองหน้าอีกคนอย่างงุนงง ด้วยอากัปแบบนี้ นานเต็มที ที่เขาไม่ได้เห็นจากสุริยา..

   “ไปซิ ไปอาบน้ำจะได้มากินข้าว” ว่าพลางสุริยาก็ส่งมือดึงรุ่งโรจน์ให้ลุกขึ้นยืน..พอยืนได้แล้วก็หิ้วปีกไปหยิบผ้าเช็ดตัว ก่อนจะดันเข้าห้องน้ำ

   สักพักรุ่งโรจน์ก็ออกมาจากห้องน้ำสวมเสื้อผ้าแล้วมานั่งมองจานถ้วยข้าวต้มด้วยอาการงุนงง เช่นเดิม

   “กินซิ อร่อยนะ ผมทำสุดฝีมือเลยนะเนี่ย” สุริยาคะยั้นคะยอ

   “ไม่..เมื่อคืนเรางอนกันไม่ใช่รึ แล้วทำไมตอนนี้คุณถึง..” รุ่งโรจน์ยังเล่นตัว แต่สีหน้ามียิ้มนิด ๆ

   “เมื่อคืนผมรู้สึกว่ามีใครบางคนจูบผมนะ..ที่ผับแน่ ๆ เลย”

   ทีนี้สุริยาหน้าแดง คิดว่าเขาแกล้งจำไม่ได้เป็นแน่..แต่สุริยาไม่ตอบ พลางตักข้าวต้มเข้าปากตัวเองไปคำ แล้วตักอีกช้อนจะยัดเข้าปากอีกคนแต่รุ่งโรจน์ไม่ยอมอ้า..สุริยาจึงทำท่าจะบีบปาก รุ่งโรจน์จึงอ้าแล้วก็อ้ำไปหมดช้อน

   “ว่าง่ายอย่างนี้ถึงจะน่ารัก”

   “ถ้าคุณเป็นอย่างนี้คุณก็น่ารัก”

   “ต่อไปผมจะเป็นอย่างงี้แหละ จะเป็นเพื่อนที่แสนดีจนคุณเบื่อไปเลยดีไหม..นี่รู้หรือเปล่าทำไมคุณถึงได้เมาง่าย ๆ ผิดเมื่อก่อน ก็เพราะคุณไม่ได้ดื่มมานานแล้วคุณรุ่ง..ไหน ๆ ก็เป็นคนดีมานานแล้ว เลิกให้ขาดไปเลย เห็นไหมเที่ยวคืนเดียวเสียเวลาอ่านหนังสือไปสองเล่ม นี่ถ้าคุณไม่ไปเมา เช้าวันนี้คุณยังสามารถไปแปลงานลงคอมได้อีก”

   สุริยาใช้น้ำเย็น

   “กลับไปเป็นอย่างเดิมก็ดีนะคุณยะ ชีวิตมีสีสันดี”

   “ถ้าไปจากกันแล้วมันไม่ดีขึ้น ก็อยู่กันไปอย่างนี้ดีกว่ามั้ง” เหมือนสุริยาจะท้าทาย
ใช่...เขาพูดเพื่อให้รุ่งโรจน์ได้สติ.. คนเราถ้ารักกันต้องไม่ทำร้ายกัน ทั้งยามอยู่และยามจาก

..สักวันเมื่อเขาหาหนทางให้รุ่งโรจน์ไปจากตัวเขาอย่างคนที่มีสติได้ เขาจะไปในทันที..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-05-2011 07:40:29 โดย anop2521 »

anop2521

  • บุคคลทั่วไป
Re: ตอนที่ 15 อยากให้&
«ตอบ #185 เมื่อ09-05-2011 12:36:17 »

แล้วแขกที่สุริยาไม่คิดว่าจะได้พบก็เดินทางมาหา..

   ในเวลาบ่าย แสงทองรีบโทรมาด้วยอาการกระวนกระวาย..

   “พี่ยา แม่พี่รุ่งมาที่ออฟฟิศของเรา กับใครก็ไม่รู้ ทำไงดี..”

   “แล้วตอนนี้เธอทำอย่างไรบ้างล่ะ”

   “หนูก็ทำเป็นเหมือนไม่รู้ว่านี่คือแม่พี่รุ่ง ..ก็ให้ดูโปรแกรมทัวร์ที่ยังไม่ได้ไป กับให้ดูภาพที่เราไปมาแล้ว..อ๋อจะให้หนูแสดงตัวว่ารู้จักใช่ไหม ได้..แต่ว่าพี่จะเข้ามาเมื่อไหร่..”

   “พอดูออกไหม ว่ามาเพื่ออะไร”

   “ถามหาพี่ด้วยนะ คงมาด้วยเรื่องไม่ดีหรอกมั้ง แต่ใบหน้าเขายิ้ม ๆ นะ”

   “ถ้าเขาเนื้อ ๆ มาเลยว่าต้องการพบพี่ พี่ถึงจะไป ตอนนี้อยู่ที่คอนโดกับลูกชายเขาแหละ เมื่อคืนออกไปเมามา ยังไม่ฟื้นตัวดีเลย” สุริยาบอกความจริง..แล้วแสงทองก็วางหูไป..

   สุริยารู้สึกถึงใจที่เต้นโครมคราม นี่แหละมั้งอารมณ์ของเมียน้อย พอถูกเขาจับได้ รู้ว่าต้องส่งของเขาคืน เจ็บปวดเช่นนี้เอง..

   “เป็นอะไรหน้าตาดูไม่ดี” รุ่งโรจน์เปิดประตูห้องนอนออกมาถามเมื่อเห็นสีหน้าสุริยาไม่ค่อยสู้ดีนัก..

   “แสงทองบอกว่าแม่คุณมาที่ออฟฟิศ..รายละเอียดแค่นี้แหละ”

   รุ่งโรจน์ถอนหายใจออกมา ก่อนจะบอกว่า

   “วันนี้ผมคงต้องกลับไปค้างที่บ้าน ไปเที่ยวบ้านผมไหม” เป็นครั้งแรกที่รุ่งโรจน์ชวน

   “ก็เราเป็นเพื่อนรักกันไง ไปเถอะ”

   สุริยาสั่นหัวแล้วรุ่งโรจน์ก็ล้มตัวลงนอนบนโซฟาใช้ศีรษะพาดไปที่ต้นขาสุริยา

   “คุณจะไปซีเรียสทำไมคุณยะ เราไม่ได้ทำอะไรผิด เราไม่ได้เป็นคู่ขากันซักหน่อย ถ้าเป็นแล้วคุณค่อยมาทุกข์ร้อน ไม่ดีกว่ารึ”

   สุริยาจึงเอามือบีบจมูกของรุ่งโรจน์ก่อนจะเอามือขวาทาบไปที่หัวใจแล้วใช้มือซ้ายตีเบา ๆ ไปบนมือขวาด้วยอาการหมั่นไส้อีกคนเสียเต็มประดา..ดูรุ่งโรจน์จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้เขาเอ่ยคำว่า

“ผมรักคุณนะ”

   แต่เสียใจหากเขาไม่ไปอ่านในนิตยสารฉบับนั้น บางทีเขาอาจจะกล่าวคำนี้ไปนานแล้วก็ได้
   


   ขณะที่รุ่งโรจน์นอนหนุนตักแล้วให้สุริยานวดศีรษะให้ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น

   รุ่งโรจน์ดีดตัวผึงก่อนจะบอกว่า “คุณแม่แน่ ๆ เลย”

   เมื่อเห็นอาการของอีกคนเป็นดังนั้น สุริยาก็อดที่จะลนลานไม่ได้..ขณะที่รุ่งโรจน์เดินไปที่ประตู สุริยาก็พยายามตั้งสติ..พอเปิดออกมา รุ่งโรจน์ก็ยกมือทำความเคารพ ก่อนจะประคองคุณแม่คนสวยมานั่งที่โซฟา แล้วก็แนะนำให้สุริยารู้จัก

   สุริยายกมือทำความเคารพ นอบน้อม แม่รุ่งโรจน์รับไหว้อย่างไม่เต็มใจนัก ก่อนจะปรายตามองไปรอบ ๆ ห้องอย่างไม่เกรงใจ..แล้วก็แนะนำเด็กผู้หญิงวัยประมาณ 25 ปีที่มาด้วยกันให้รู้จักลูกชายของตน

   “หนูดาราวดี..เพิ่งกลับมาจากอเมริกา แม่อยากให้ลูกรู้จัก..” ดาราวดีจัดว่าเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องชมว่าสวยเพียงตั้งแต่แรกเห็น สุริยารอบเพ่งพิศ ก่อนจะนึกถึงความน่าจะเป็นไปในอนาคต

   “เดี๋ยวนี้ลูกแม่อ่านหนังสือพระนี่ด้วยหรือ..เธอเก่งนะ สุริยาใช่ไหม ที่ทำให้ลูกชายฉันเป็นอย่างนี้ได้”

   “คุณแม่มีเรื่องอะไรพิเศษหรือเปล่าครับ ถึงมาถึงที่นี่ได้”

   เมื่อเห็นรุ่งโรจน์เปลี่ยนประเด็นสุริยาจึงรีบจัดหาน้ำท่ามาต้อนรับแขก

   “แม่ก็อยากไปเห็นกิจการของลูก บอกแม่ว่าตั้งหน้าตั้งตาทำงาน สร้างตัว แต่ไหงวันนี้หยุดงานเสียได้ แม่ผิดหวังจัง”

   “ปวดหัวนิดหน่อยครับ” รุ่งโรจน์โกหก

   “คืนนี้ว่างไหม”

   รุ่งโรจน์ทำหน้ายู่ยี่อย่างไม่สนใจผู้หญิงสวยที่มองตนอย่างชมดชม้อย

   “สำหรับคุณแม่ผมคงต้องว่างใช่ไหม”

   “ถูกต้อง..เก่งมาก..คืนนี้จะมีงานเปิดตัวสินค้าจากอังกฤษ คอนเซ็ปคือ..แดงเริงฤทธิ์..แล้วหนูดารา ก็ยังหาคนควงไปด้วยไม่ได้ แม่อยากให้ลูกชายแม่ทำหน้าที่นี้ให้หน่อย”

   “ครับ แต่ให้เพื่อนผมไปด้วยได้ไหมครับ”

   “ไม่นะลูก”

   “อย่าเลยคุณรุ่ง ผมไม่สะดวกหรอกครับ” สุริยารีบปฏิเสธเช่นกัน

   “ดีมาก..แม่คงแนะนำกับคนอื่นไม่ถูกหรอก ว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร เอาไว้ โอกาสหน้าแล้วกัน ขอโทษนะจ๊ะ..” คุณแม่ของรุ่งโรจน์พูดชนิดบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น แต่ก็แฝงไปด้วยการถือเนื้อถือตัว จนกระทั่งสุริยาเองยังรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ ทั้งที่คุณแม่คนสวยยังไม่ได้กล่าวว่าอะไรเขาสักนิด

   หลังจากที่พาลูกชายนั่งรถเบนซ์คันโก้กลับบ้านไปแล้ว สุริยาก็ได้แต่นั่งทอดถอนใจ แล้ว ‘มานะ’ ตัวเป้งก็กลับมาทำงานอีกรอบ..

   สักวันเขาต้องมีต้องเป็น จนกระทั่งไปยืนในกลุ่มคนเหล่านี้

anop2521

  • บุคคลทั่วไป
Re: ตอนที่ 15 อยากให้&
«ตอบ #186 เมื่อ09-05-2011 12:37:58 »

เมื่อรุ่งโรจน์หายไปในคืนแรก ตอนหัวค่ำสุริยายอมรับกับตัวเองว่าคิดถึง และในทุกข์ ของคำว่า คิดถึง ก็ได้สติ เหตุแห่งทุกข์ก็คือว่า ‘รัก’ คือปรารถนาจะยึดเขาไว้เป็นของตัวคนเดียว หลังจากสวดมนต์เจริญภาวนา ระลึกถึงความไม่เที่ยงแห่งภาวะจิต และสรรพสิ่งในโลก ใจก็สะอาดสว่างคลายความคิดถึงไปได้ชั่วขณะ จนกระทั่งมามีสมาธิจรดจ่ออยู่กับงานตรงหน้า

คือทำแผนผังเส้นทางออกสำรวจภาคเหนือภายในเจ็ดถึงสิบวัน กับงบประมาณการใช้จ่าย คร่าว ๆ แต่ยังไม่ทันที่จะลงมือคิดระยะทางตีราคาน้ำมันในแต่ละช่วง เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นเหมือนทดสอบจิตใจว่าเข้มแข็งพอจะผ่านพ้นกิเลสตัวนี้ไปได้หรือไม่

   เมื่อเห็นเบอร์ที่โชว์ ก็คิดว่าจะทำอย่างไรดี..ตัดสินใจที่จะไม่รับ เพราะรู้ว่ารุ่งโรจน์นั้นอยู่กับใคร..แต่ก็รู้ว่าขืนทำอย่างนั้น เขาจะทุรนทุราย เหมือนเด็กถูกขัดใจ

   “ครับ..หลับแล้ว หลับแล้วจริง ๆ ..คิดถึงซิ ก็คุณสั่งไว้ให้คิดถึงคุณก่อนนอนทุกวันผมจำได้” กำลังโกหก แล้วเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นก่อนที่เจ้าของห้องเจ้าเล่ห์จะโผล่หน้าเข้ามาพร้อมกับกลิ่นแอลกอฮอล์

   “เดี๋ยวนี้ หัดโกหกนะ ไม่ดีรู้ไหม” คนที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาโยนเสื้อสูทสีแดงเลือดนกไว้ที่โซฟา แล้วเดินมาเกาะบ่า ชะโงกหน้าดูว่าคนโกหกกำลังทำอะไร

   “เหม็นเหล้า” สุริยาว่าให้

   “ว่าจะไม่กลับมาแล้ว รู้ว่ามา คุณก็ต้องบ่น แต่ผมก็รู้ว่าคุณต้องคิดถึงผมแน่ ๆ ผมก็เลยกลับมา”

   สุริยาไม่ตอบ แสร้งง่วนอยู่กับแผนที่และตัวเลขระยะทางแต่ละช่วง

   “คุณนี่รักงานจริง ๆ เลยนะ ..ถามจริง ๆ เถอะคุณยะ คุณมีหัวใจรักใครบ้างหรือเปล่า..”

   สุริยาไม่ตอบ..

   “ผมถามคุณไม่ได้ยินรึ หัวใจของคุณถวายให้วัดไปแล้วรึ” น้ำเสียงชักจะหาเรื่อง..

   “โอเค ไม่ตอบก็ไม่เป็นไร..เดี๋ยวคืนนี้เจอกันบนเตียง” ว่าแล้วเจ้าตัวก็ผลุบเข้าห้อง สุริยาได้ยินเสียงอาบน้ำสักพักก็เงียบหายไป คงจะเหนื่อยเพลีย หรือไม่ก็เมามาก ๆ ..

   เมื่อได้ระยะทางจากกรุงเทพฯ ไปสิงห์บุรี ชัยนาท อุทัย กำแพงเพชร ตาก ลี้ ฮอด จอมทอง อินทนนท์ แม่แจ่ม ออบหลวง ย้อนกลับมาฮอด ผ่านจอมทอง เข้าเชียงใหม่ เลยไปท่าตอน มุ่งไปดอยแม่สลอง ดอยตุง แม่สาย เชียงแสน เชียงราย พะเยา วกลงมาแพร่ ต่อไปน่าน แล้วย้อนกลับมาแพร่ เข้าลำปาง ลงมานครสวรรค์ แล้วสุริยาก็มาคิดประเมินราคาน้ำมัน..กับงบที่ต้องใช้เป็นค่าที่พักกับค่าอาหารระหว่างเดินทาง..พร้อมกับแนบจุดหมายในแต่ละจุดว่ามีที่ใดน่าสนใจและมีที่ใด ตกสำรวจจากหนังสือท่องเที่ยวบ้าง..ก็เป็นเวลาเกือบตีสาม..ครั้นจะเข้าไปนอนบนเตียงก็กลัวที่รุ่งโรจน์ขู่ไว้ คนเมาขาดสติ ไร้ความยับยั้งชั่งใจ จึงตัดสินใจเปิดประตูห้องนอนเข้าไปปิดไฟ แล้วก็หยิบหมอนออกมาปูผ้านอนบนพรมหน้าโทรทัศน์

   แล้วมารู้สึกตัวอีกทีเมื่อมีร่างหนัก ๆ มากดทับที่หน้าอกพร้อมกับกอดรัดจนแน่น

   “เฮ้ย ทำอะไร” สุริยาทำเสียงตกอกตกใจ

   “ทำไมคุณมานอนตรงนี้ล่ะ ทำไมไม่นอนในห้อง คุณรังเกียจอะไรผมรึ..” น้ำเสียงรุ่งโรจน์มีความน้อยใจปนอยู่จนรู้สึกได้

   “ผม..” สุริยาไม่ตอบ ปล่อยให้รุ่งโรจน์กอดรัดและก็พร่ำอยู่อย่างนั้น

   “คุณเบื่อผมใช่ไหมคุณยะ คุณรำคาญผมซิ คุณรักแสงทองใช่ไหม คุณถึงอยากให้ผมไปจากชีวิตคุณ ใช่ซิ ผมให้คุณหมดทุกอย่างแล้วนี่ คุณได้ทุกอย่างสมใจคุณแล้ว ที่นี้จะตีจากไอ้หน้าโง่คนนี้ใช่ไหม”

   ปากก็พร่ำไปพร้อมกับจมูกที่ซุกไซ้ไปตามใบหน้าและซอกคอ จนสุริยารู้สึกสะท้านในหัวอก ก่อนที่จะรวบรวมกำลังหยุดรุ่งโรจน์ไว้ด้วยการพลิกกลับเป็นฝ่ายขึ้นไปกอดรัดจนแน่นกว่าเดิม

   “หยุดฟุ้งซ่านได้แล้วคุณรุ่ง..ถ้าผมเป็นอย่างที่คุณคิด ผมหอบผ้าหอบเงินหนีกลับกำแพงเพชรไปแล้วคืนนี้คุณเมา คุณกลับไปนอนเถอะ”

   “ไม่เอา ผมจะนอนกับคุณ”

   “โอเค ผมจะไปนอนกับคุณ” ว่าแล้วสุริยาก็คลายมือออกพร้อมกับลุกขึ้น แล้วฉุดมือรุ่งโรจน์ให้ลุกตาม แล้วก็เข้าที่นอนฝั่งตัวเอง พอรุ่งโรจน์ตามไปถึงเขาก็ล้มตัวลงนอนกอด ปากก็พร่ำว่า..

   “สุริยา ผมรักคุณนะ รักคุณคนเดียว..คุณล่ะรักผมไหม”

   สุริยายิ้มในวงหน้า รู้สึกสมใจตน คำนี้เขาอยากได้ยินจากปากผู้ชายคนนี้มานานแล้ว แต่ไม่มีวันที่นายรุ่งโรจน์จะได้ยินคำว่ารักจากปากเขาเด็ดขาด..ไม่มีวัน..
   


   พระอาทิตย์สาดแสงสว่างเข้ามาทางหน้าต่างที่ลืมปิดผ้าม่านไว้ สุริยางัวเงียตื่นขึ้นมา เพราะเจ้าโทรศัพท์แผดเสียงร้องหาเจ้าของ เจ้าตัวดึงมาดู พบว่าเป็นเบอร์ไม่คุ้นเคยก่อนจะกดรับ..แล้วรีบลงจากเตียงไปยืนคุยนอกห้อง..

   “สุริยาครับ..”

   “ฉันแม่รุ่งโรจน์นะ มีอะไรจะพูดด้วยหน่อย..ไม่หน่อยหรอก เรื่องใหญ่เชียวล่ะ..ฟังฉันให้ดีนะนายสุริยา ฉันไม่รู้ว่านายคบกับลูกชายฉันแบบเพื่อนชายหรือว่าแบบคู่ขา แต่สิ่งที่ฉันต้องทำคือปกป้องลูกชายของฉัน เขาเป็นคนหัวอ่อน ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกที่เขาหลงใหลเพื่อนชายด้วยกัน สมัยรุ่น ๆ ตอนที่เขาเรียนอยู่มัธยม ก็เคยเกิดเคสนี้มาแล้ว..ฉันทำอย่างไรรู้ไหม ฉันส่งเขาไปเรียนต่อเมืองนอก กลับมาเขาก็กลายเป็นผู้ชายปกติคนหนึ่ง ครั้งนี้ก็เหมือนกัน อายุของเขาควรที่จะมีครอบครัวได้แล้วจะสามสิบอยู่แล้ว แต่ก็มาติดตรงที่นายนี่แหละ มาทำให้ความฝันของฉันป่นปี้ เขาหลงนายมาก ๆ หายใจเข้าออกมีแต่นายคนเดียว จนกระทั่งฉันนี้ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ตรงไหนแล้ว ไปไหน ใครก็ลือให้หนาหูว่าลูกชายฉันเป็นเกย์ ทั้งที่ฉันก็พยายามสร้างภาพหาข่าวอื่นมากลบอยู่เรื่อย ๆ แต่ฉันยิ่งทำมันก็ยิ่งแย่ เขาก็ยิ่งต่อต้าน..”

   “แล้วจะให้ผมทำอย่างไรครับ”

   “ไปจากชีวิตลูกชายฉัน สองแสนพอไหม”

   พอได้ยินจำนวนเงิน สุริยายอมรับกับตัวเองว่ามือเท้าอ่อนคิดหนัก แต่ถ้าเขารับเงินก็เท่ากับว่าเขาหมดศักดิ์ศรี ศักดิ์ศรีลูกผู้ชายแม้มันจะไม่เต็มร้อยก็เถอะ

   “แต่ผมยืนยันได้นะครับ ว่าเราไม่มีอะไรกัน คุณรุ่งไม่ได้เป็นเกย์สักหน่อย เขาเป็นผู้ชายปกติคนหนึ่ง” ขณะที่โต้ตอบ ก็พยายามตั้งสติ ปรับเสียงให้เย็นที่สุด

   “แล้วเธอล่ะเป็นเกย์หรือเปล่า”

   “ผมไม่ได้เป็น เราเป็นเพื่อนกัน คุณแม่ถามคุณรุ่งหรือยังล่ะครับ”

   “ถามแล้ว เขาบอกว่า ถ้าให้เลือกระหว่างแม่ดาราวดี กับเธอ เขาเลือกเธอ..ฉันถึงเต้นอยู่นี่ไง”

   “คุณแม่ครับ คุณรุ่งไม่ได้รังเกียจผู้หญิง แต่ผู้หญิงทำให้เขาเบื่อหน่าย”

   “นี่เธอกำลังว่าฉันเจ้ากี้เจ้าการใช่ไหม”

   “ไม่ใช่ครับ ผมเรียนความจริงให้คุณแม่ได้รู้ ผมนอนกับคุณรุ่งมาหลายเดือนผมรู้ ว่าถ้าเขาเป็นเกย์เขาคงไม่ปล่อยให้ผมลอยนวลอยู่อย่างนี้หรอก”

   “นี่เธอกำลังจะพูดว่าเธอไม่มีอะไรกับเขาซิ ฉันจะเชื่อได้ไหม”

   “ผมกำลังให้คุณแม่เชื่อใจลูกชายตัวเองนะครับ ยิ่งคุณแม่พยายามยัดเยียดผู้หญิงที่ไม่ใช่ให้เขา เขาก็จะยิ่งต่อต้าน บางทีนะครับคุณแม่ เขาอาจจะยังไม่เจอคนถูกใจก็ได้ หรือถ้าเขาเจอคนถูกใจ แต่ถ้าไม่ถูกใจคุณแม่ เขาก็สานอะไรต่อไปไม่ได้ คุณแม่ให้โอกาสเขาหน่อยได้ไหม ผมว่าสักวันเขาต้องหาสะใภ้ให้คุณแม่ได้อย่างแน่นอน”

   “โอเค..ฉันจะเชื่อ แต่อย่างไรฉันก็อยากให้เธอออกไปจากชีวิตลูกชายฉัน”

   “ผมเรียนตามตรงนะครับ ในฐานะที่ผมก็รู้จักเขามาหลายเดือน ยิ่งถ้าผมหายไปช่วงนี้คุณแม่คงจะได้พบกับลูกชายของคุณแม่ในมุมขี้เมาคนหนึ่ง คุณแม่พร้อมหรือครับ”

   “เธอขู่ฉันหรือ”

   “ผมไม่ได้ขู่ แต่ผมพูดความจริงที่คุณแม่ก็รู้ดี เขาอยู่กับผมกับแสงทองมาตั้งสี่ห้าเดือน แทบไม่เห็นเขาแตะต้องเหล้าบุหรี่ แต่วันนี้เขาเมากลับมา ผมไม่รู้นะครับว่าที่บ้าน มีเรื่องบีบคั้นหัวใจอะไรเขาหรือเปล่าแต่ผมยืนยันด้วยความสัตย์จริง ว่าผมกับแสงทองหวังดีกับเขาจริง ๆ”

   สุริยายังอธิบายไม่จบ โทรศัพท์ฝั่งนั้นก็ตัดสายไปเสียแล้ว ครั้นจะโทรกลับก็เห็นไม่ใช่วิสัย แสดงว่ายายคุณนายไฮโซ ฟังและเข้าใจในเรื่องที่เขาชี้แจง พอเปิดประตูเข้าห้องไป พบรุ่งโรจน์นั่งมองมาด้วยสายตามีคำถาม?

   “คุยกับใคร เสียงดังเชียว แม่ผมโทรมารังควานคุณซิ”

   สุริยาไม่ตอบ เพียงนั่งลงบนเตียงแล้วก็พ่นลมหายใจออกมาโดยไม่เก็บความรู้สึก

   “ผมจะไม่พูดให้คุณตามใจแม่คุณ แต่ผมอยากให้คุณพิสูจน์ตัวเองว่า คุณอยู่กับผมคุณเป็นคนดี เป็นคนที่แม่คุณจะไม่มีวันได้เห็นเมื่อเวลาที่คุณอยู่บ้าน”

   รุ่งโรจน์ยกมือกุมศีรษะตนเอง แล้วพูดว่า

   “ผมกับคุณแม่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตั้งนานแล้ว ผมมีพี่สาวสองคน พี่ชายหนึ่งคน ผมเป็นคนเล็ก พี่ ๆ รักและตามใจ เมื่อสมัยมัธยม ผมรู้จักเพื่อนชายคนหนึ่ง ผมติดเขามาก เราเล่นกันที่โรงเรียนแล้วก็ตามไปเล่นกันที่บ้าน ผมขอไปนอนค้างบ้านเค้าบ่อย ๆ จนกระทั่งคุณแม่ จับผมไปอยู่อเมริกา กลับมาท่านก็บังคับให้ผมทำนั่นทำนี่ อย่างที่ท่านเป็น อย่างที่คุณเห็น ผมไม่ชอบความรักที่เกิดจากการชักนำ มันน่าจะมาจากความรู้สึกดี ๆ ที่มีให้กันมากกว่าฉาบฉวย คิดถึงแต่เรื่องสมบัติและเกียรติยศชื่อเสียงในอนาคต”

   “ท่านจ้างผมสองแสนให้ไปจากชีวิตคุณ” สุริยาตัดสินใจบอกความจริง

   “ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงจะรีบคว้าไว้ แล้วก็กลับไปจัดทัวร์ที่จังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง แต่ตอนนี้ผมสานที่นี่ไว้แล้ว รากแก้วผมเริ่มแทงจนมีรากแขนงแล้ว ถ้าผมไป เท่ากับผมไปนับหนึ่งใหม่ เท่ากับผมทรยศคุณ ผมถือคติเรื่องสันติ คุณก็รู้ว่าผมมองโลกในแง่ดี ให้อภัยกับแผ่เมตตา”

   รุ่งโรจน์จับมือของสุริยามากุมไว้

   “เราควรที่จะแยกกันอยู่สักพักคุณรุ่ง ผมเข้าใจความรู้สึกของคุณทุกอย่าง”

   “ไม่..ผมจะไม่ไปไหนและจะไม่ให้คุณไปไหนทั้งนั้น ผมอยากอยู่กับคุณทุกวัน” น้ำเสียงของรุ่งโรจน์จริงจังจนสุริยาก็ยังนึกเสียวไส้

   “ผมจะเป็นเกย์หรือไม่เป็นเกย์ คุณจะเป็นเกย์หรือไม่เป็นเกย์ คุณคิดว่ามันสำคัญนักรึ..ผมรู้ว่าคุณไม่มีหัวใจ คุณไม่มีความรักให้ทั้งหญิงและชาย คุณมีแต่คำว่าเมตตา ปรารถนาดีกับเพื่อนร่วมเกิดแก่เจ็บตาย...ถ้าผมคิดอย่างคุณได้ เราก็อยู่ด้วยกันได้ อยู่อย่างคนไม่มีเพศไม่มีหัวใจ เพียงแต่เรารักและเข้าใจกัน เป็นเพื่อนกัน”

   สุริยานึกขำในความคิดของอีกคน

   “ถ้าผมเป็นเกย์จริง ๆ ผมคงไม่ปล่อยให้คุณลอยนวลหรอก คุณก็รู้ฤทธิ์ยานอนหลับนั่นแล้วนี่”

   สุริยาทำหน้ายู่ยี่ใส่เจ้าของห้อง บอกให้รู้ว่าไม่มีทางเชื่อใจและไว้ใจจนลืมความระวังตัวหรอก แต่อีกใจก็อดที่ลองแย็บดูไม่ได้ว่า

   “แล้วถ้าผมเป็นเกย์ขึ้นมาจริง ๆ คุณไม่กลัวผมรึ”

ออฟไลน์ ♠♥♦♣

  • ex-ChCh13
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1612
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-7
Re: ตอนที่ 16 อยากให้&
«ตอบ #187 เมื่อ09-05-2011 14:38:25 »

ถามได้ ถ้าคุณยะเป็นเกย์ก็เสร็จโจรสิคะ ฮุๆๆๆ

ยิ่งอ่านยิ่งทอดถอนใจ :เฮ้อ:
ทำไมต้องคิดอะไรให้มันเยอะแยะน้า เข้าใจว่ารักมันเป็นทุกข์
แต่ในเมื่อรักไปแล้วจะมาหักห้ามใจมันไม่ยิ่งทุกข์รึไงคะ
เป็นเราเราไม่ใช้หัวคิดหรอก ทำตามใจตล๊อดดด
คุณยะไม่อินดี้เลย เด็กติสท์งอน!!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-05-2011 16:57:06 โดย ChCh13 »

ออฟไลน์ Horizon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-22
ขอถาม... Happy Ending หรือไม่
จะได้เริ่มทำใจ ถอดใจไปครึ่งทางเช่นกัน

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
คงเป็นนิยายYที่รักกันแต่ไม่ได้ครอบครอง ไม่ต้องมีsex มีแต่รักและเมตตาต่อกัน ใช่ไหม

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
บวกกกกกกกค่า ตอนนี้มีสีสันมากมาย ^^ (ตอนอื่นก็สนุกนะคะ ถ้าไม่สนุกนู๋คงไม่เฝ้ากระทู้ขนาดนี้ อิอิ)
พี่ยาถามแบบนั้น เดี๋ยวพี่รุ่งเค้าก็พาไปฉลองสนอง NEED หรอก 55+

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15

Panny

  • บุคคลทั่วไป
คุณแม่ช่างโหดร้าย บังคับไปวัดฟังธรรมให้ได้มั่งเหอะ จะได้ปลงๆ บ้าง
พี่ยาสู้ๆ เข้มเข็งไว้

koraorni

  • บุคคลทั่วไป
เพราะสังคมเท่านั้นหรือที่ทำให้ความรักมันยุ่งยากขนาดนี้

Namtarn

  • บุคคลทั่วไป
มีรักมีทุกข์จริงๆ อย่างที่พี่ยาบอกค่ะ
แต่คนเราต้องลองเป็นทุกข์เพราะรักสักครั้งในชีวิตนะคะ  :fox2:

ปล....กรี๊ดดดด พี่ชอนตะวัน ตัวจริงเสียงจริง ถ้าซื้อหนังสือจะเซนต์ให้ด้วยได้ไหมคะ (นู๋ชอบชิงชังม๊ากกก)

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
ดันๆๆๆ อยากอ่านต่อค๊า
ปล...เกิดอะไรขึ้นกับชื่อเรื่องค๊า >"< ตกใจหมด นึกว่าทกระทู้หาย  :onion_asleep:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-05-2011 21:50:00 โดย JJHJJH »

anop2521

  • บุคคลทั่วไป
17.
   
   จนกระทั่งทริปต้นเดือนสิงหาคม รุ่งแสงสุริยาทัวร์จึงได้ต้อนรับคุณแม่สิริฤดี ศิริรัตนวงศ์ คุณแม่วัยเฉียดหกสิบแล้วแต่ยังดูสาวของนายรุ่งโรจน์นายทุนใหญ่

   แรกทีเดียวที่คุณแม่ไฮโซก้าวลงจากรถเบนซ์คันงามนั้น รุ่งโรจน์เองก็หยุดชะงักจากการเล่นกล้องแฮนดิแคม ด้วยคาดไม่ถึงว่าแม่จะกล้ามาในที่เช่นนี้

   เขายกมือทำความเคารพ ก่อนจะเรียกให้แสงทองและสุริยา ลงมาจากรถ ทักทายยกมือไหว้นอบน้อม
   สุริยาเองใจเต้นไม่เป็นส่ำ แต่สำหรับแสงทองดูหญิงสาวไม่มีความเกรงกลัวใด ๆ ด้วยคงรู้ว่าไม่ได้มีความผิดใด ๆ เหมือนกับตน

   “ทริปนี้ไปอ่างทองใช่ไหม ฉันอยากไปด้วยสักคน..อีกคนซิ..” คุณแม่ไฮโซ ซึ่งใส่เครื่องเพชรแพรวพราว ปรายตามองไปยังผู้หญิงอีกคนที่ยืนเคียงกัน

   “ได้ครับ..มีครับ” สุริยาบอกดังนั้น แต่รุ่งโรจน์หันไปถามเสียงไม่พอใจว่า

   “คุณแม่จะไปทำไม ถ้าคุณแม่อยากไป วันหลังก็ได้นี่ครับ บอกผม ผมจะพาไปเอง..”

   “ฉันอยากดูธุรกิจการงานของแกหน่อยไม่ได้รึ นายรุ่ง..เห็นคุยนักคุยหนาว่าไปได้สวย สวยอย่างไรก็ค่าตั๋วแค่สี่ห้าร้อยกับราคาน้ำมันขนาดนี้ แค่คิดฉันยังคิดไม่ออกเลยว่ามันจะทำกำไรจากคนห้าสิบร้อยคนได้อย่างไร” คุณแม่ไฮโซดูมีอารมณ์อื่นแฝงอยู่มากกว่าที่พูดไว้อย่างแน่นอน..

   เมื่อไล่คุณแม่ให้กลับบ้านไม่ได้ สุริยาจึงต้องขึ้นรถไปคุยกับลูกทัวร์ขาประจำให้ขยับไปด้านหลังสักนิด..เพราะมีแขกคนสำคัญมา..

   ผู้ที่ต้องเปลี่ยนเบาะทำหน้าไม่พอใจ จนกระทั่ง สุริยายกมือไหว้ แล้วกระซิบบอกว่า

   “มันจำเป็นจริง ๆ ครับ..งั้นทริปนี้ผมลดให้ครึ่งราคาแล้วกัน แต่ช่วยผมหน่อยเถอะนะ วันหลังผมจะเล่ารายละเอียดให้ฟัง นะครับ ” แล้วขาประจำสองคนก็ลุกไปนั่งข้างหลังอย่างไม่สู้เต็มใจนัก..

   จนกระทั่งได้เวลารถออก ผู้หญิงสวยสะดุดตากับลิ่วล้อจึงได้นวยนาดขึ้นรถ แถมก่อนจะนั่งยังปรายตาไปมองคนทั่วทั้งคันด้วยแววตาดูถูกดูแคลน

   จนกระทั่งถึงคิวที่รุ่งโรจน์ต้องขึ้นบรรยาย เพราะได้ตกลงกันมาแล้วว่ารถสองคัน ต้องผลัดกันขึ้นพูดทั้งหมด จะให้ลูกทัวร์ติดอกติดใจใครคนใดคนหนึ่งไม่ได้

   สุริยาจะเน้นเรื่องพิธีกรรมในการไหว้พระ ทำบุญ ให้ทาน การวางใจให้ถูกทางสายกลางและเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของพระพุทธศาสนา

   แสงทองจะเน้นไปทางประวัติศาสตร์ของสถานที่ ประวัติความเป็นมาของจังหวัด กับของฝากประจำถิ่น
   ส่วนรุ่งโรจน์จะเป็นกิจกรรม..เกมส์ออนทัวร์..แจกรางวัล

   และเหตุที่ทำให้เขามาขลุกอยู่ด้วยทั้งวันทั้งคืน คือสุริยากำลังพัฒนาคนทั้งคู่ให้เก่งในเรื่องพิธีกรรมและประวัติพระพุทธศาสนา รวมถึงหมวดธรรมที่ยากยิ่ง ๆ ขึ้นไป

   คนสองคนรู้ว่ากำลังทำอะไร เป็นอะไร แต่คนอื่นนี่ซิ..

   ไม่แปลกหากผู้เป็นแม่จะลุกขึ้นมาดูแล อยากรู้ความเป็นไปของลูกชายตัวเอง..ในวันนั้นดูรุ่งโรจน์จะเกร็งเป็นอย่างยิ่ง

   “ผมอายคุณแม่”

   “พี่ต้องทำให้ท่านเห็นให้ได้ว่าพี่พอใจกับอาชีพตรงนี้ พี่ต้องทำให้ท่านเห็นเหมือนกับเราสองคนเคยเห็น ว่าการเป็นผู้ให้ความสุขแก่คนอื่นได้เป็นสิ่งที่มีค่ายิ่ง คุณแม่ของพี่มีความเป็นศิลปิน หนูเคยอ่านสัมภาษณ์ทั้งที่ไม่ชอบการแต่งเนื้อแต่งตัวและลีลาการพูดของท่าน หนูรู้ว่าท่านจะต้องเข้าใจพวกเรา”

   แสงทองให้กำลังใจ

   รุ่งโรจน์สามารถทำมันได้ดีเหมือนเมื่อวันวาน

   เมื่อให้ปรบมือ ลูกทัวร์ปรบมือ เอียงซ้ายขวายืดเส้นยืดสายหรือว่าร้องเพลง เล่นทายปัญหาแจกรางวัลเป็นพวกพระของขวัญในวัดนั้น ๆ รุ่งโรจน์ทำได้ดีทีเดียวจนกระทั่งผู้เป็นแม่ต้องเรียกเข้าไปกอดจูบต่อหน้าคนทั้งคันรถ
   แล้วรุ่งโรจน์ก็ดึงให้คุณแม่มาให้มีส่วนในกิจกรรม ด้วยคงรู้ว่า แม่ของตนถนัดเรื่องอะไร

   และภาพนั้นก็ทำให้สุริยารู้สึกตื้นตันใจ คนที่โตมาในครอบครัวที่อบอุ่นนี่เล่าถึงได้เผื่อแผ่ความอบอุ่นให้คนอื่นได้ไม่ยาก

   “แม่ลูกคู่นี้น่ารักเนอะ” สาวแก้วที่นั่งอยู่เคียงกัน คงจะมีความรู้สึกคล้าย ๆ กับสุริยา

   “คุณแม่คุณรุ่งเขาไม่อยากให้คุณรุ่งมาทำทัวร์ คิดว่าเป็นอาชีพที่รองมือรองเท้าคนอื่นแต่เห็นไหมคุณรุ่งทำให้เรามีความสุขได้ ทำให้คนอื่นมีความสุขได้ จริง ๆ ต้นแบบแห่งความสุขนั้นไม่ได้มาจากใครที่ไหน ก็คือแม่ของเขาเอง แม่เขาเป็นศิลปิน เป็นตัวของตัวเอง ลูกจึงติดมา โดยที่คุณแม่คงไม่ได้ฉุกคิด...คุณแม่คุณรุ่งดูดีมีสไตล์ มันจึงติดไปถึงลูก คุณรุ่งจึงเป็นผู้ชายในฝันของคนหลาย ๆ คน”

   “รวมถึงพี่ด้วยปะ” เด็กแก้วแกล้งเย้า..สุริยาไม่ตอบ

   พอลงจากรถแวะที่วัดพิกุลทอง..สุริยาก็เล่าเรื่องที่รุ่งโรจน์ทำได้ดีจนคุณแม่ไฮโซยิ้มแก้มแทบปริ..และได้บอกเล่าในอีกมุมของคนมองโลกในแง่ดีให้แสงทองได้รับรู้

   “คิดถึงแม่ ถ้าแม่ยังอยู่ หนูคงมีแม่กอด..พี่สุริยาโชคดีที่ยังมีแม่นะคะ” พูดพลางพยายามกั้นทำนบน้ำตา
   แล้วคุณสิริฤดี ศิลปินไฮโซ เดินรี่เข้ามาถาม ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มผิดตอนกำลังจะก้าวขึ้นรถมา โดยมีรุ่งโรจน์ตามประกบเกี่ยวก้อยกางร่มบังแดดให้

   “เป็นอะไรล่ะแม่หนู มีน้ำหูน้ำตา”

   “หนูคิดถึงแม่ค่ะ แม่หนูตายแล้ว..พี่รุ่งเป็นคนมีบุญ มีแม่ที่คอยให้ความรักห่วงใย..แต่หนูไม่มีใครแล้ว เหลือตัวคนเดียว” แล้วแสงทองก็ร้องห่มร้องไห้ยกใหญ่

   จนกระทั่งสุริยากับรุ่งโรจน์ก็มองหน้ากันด้วยความงุนงง

   บางที..ข้างหลังใบหน้าที่ยิ้มแย้มของคน ย่อมมีรอยอดีต รอยแผลเป็น คนซึ่งเพียงพานมาพบมองไม่เห็น จึงไม่รู้ว่า กว่าที่ใครบางคนจะมีใบหน้ายิ้มแย้มได้นั้น เขาต้องปรับใจให้สดชื่นแค่ไหน

   แล้วคุณรุ่งฤดีก็ได้ทำในสิ่งที่ สุริยาเองไม่คิดว่าจะได้เห็น

   “มาเป็นลูกสาวฉันไหม” ว่าแล้วก็ดึงแสงทองให้มากอดแล้วก็จูบเบา ๆ ที่เรือนผม

   “เธอสวยน่ารักฉลาดทันคน ฉันชอบตั้งแต่เห็นวันนั้น..ฉันชอบแต่งตัว ฉันชอบเล่นตุ๊กตา เธอจะมาเป็นตุ๊กตาให้ฉันได้ไหม”
   แล้วแสงทองก็ยิ้มทั้งน้ำตา

   “ขอบคุณค่ะ หนูคงเป็นอย่างที่คุณ..ต้องการไม่ได้ ขอบคุณค่ะที่กรุณา”

   “ถ้าเป็นลูกสะใภ้ฉันล่ะเป็นได้ไหม”

   “คุณแม่” รุ่งโรจน์ร้องเตือนเสียงหลง คนเป็นแม่เพียงหันไปค้อนตาเขียวให้แล้วก็พูดว่า

   “แม่ทุกคนรักลูกอยากให้ลูกเป็นในสิ่งที่ดีทีสุด แต่ถ้าลูกจะเลือกในสิ่งที่ไม่ดีให้กับชีวิตเป็นธรรมดาที่แม่จะต้องเข้ามาขวาง..แต่สุดท้ายก็ต้องตามใจกัน ลูกอยากเป็นอะไรแม่ไม่รู้ได้ แต่แม่ก็ต้องทำหน้าที่ของแม่ให้ถึงที่สุด แม่บอกตรง ๆ รุ่งโรจน์ แม่มาที่นี่มาเพื่อให้เห็นกับตาว่า ลูกเป็นอย่างที่คนอื่นมันเอาไปพูดกันหรือเปล่า..นี่เป็นครั้งแรกมั้งที่ลูกไม่ทำให้แม่ผิดหวัง..”

anop2521

  • บุคคลทั่วไป
Re: ตอนที่ 16 อยากให้ũ
«ตอบ #197 เมื่อ11-05-2011 22:02:24 »

“คุณแม่”

   “เมื่อเลือกจะทำงานนี้ก็ต้องตั้งใจทำงาน ทำให้ได้เหมือนป๊า..ทำให้เจริญก้าวหน้ามีเกียรติยศชื่อเสียง..ขอบใจเธอมากนะสุริยาที่ทำให้ลูกชายฉันเปลี่ยนไปได้จริง ๆ ขอบใจเธอด้วยแสงทอง ลูกชายฉันเคยพูดถึงเธอสองคนให้ฉันฟัง แต่ฉันไม่เชื่อ..ฉันมาเห็นกับตาแล้วฉันรู้ว่าเธอสองคนเป็นกัลยาณมิตรให้ลูกฉันได้จริง ๆ ..มีทริปไหนที่น่าสนใจก็บอกฉัน บางทีฉันกลุ้ม ๆ ขึ้นมา”

   “มีเรื่องกลุ้มด้วยหรือคะ”

   “มีกลุ้มแบบคนมีเงินนั่นแหละ เมื่อกี้สะดุดใจกับประโยคของเธอที่ว่า” คนพูดหันไปทางสุริยา..

   “ความสุขของเรา บางทีมันก็ไม่ได้อยู่ตรงที่มีเงินเยอะแยะ แต่มันอยู่ที่เราได้ทำ ได้เป็น ในสิ่งที่เราอยากทำอยากเป็นหรือเปล่า ผมทำทัวร์เพราะผมรักการเป็นผู้ให้ ผมทำทัวร์วัดเพราะผมศรัทธาในพระพุทธศาสนา..ทุกคนที่มาบนรถคือ ญาติกัน มาเกิดร่วมผืนแผ่นดินเดียวกัน มีพระพุทธศาสนาปกครองใจเหมือนกัน..สัตย์จริง ผมไม่เคยคิดทำร้ายใคร ไม่เคยคิดว่าใครจะมาทำร้ายเรา..ดี ๆ ต่อกันไว้ ..ชาติหน้าเจอกันจะได้ดีต่อกัน ชวนกันทำความดีไปเรื่อย ๆ ..ซึ้งใจจัง ขอบใจเธอมากนะจ๊ะหนุ่มน้อย ที่สามารถพูดอะไรก็ไม่รู้ แต่สามารถพลิกใจผู้หญิงวัยใกล้ตายอย่างฉันได้”

   สุริยายิ้มพลางยกมือพนม ด้วยท่าทางนอบน้อมและท่าทางแบบนี้ จึงแทบไม่เคยมีใครสักคนรังเกียจเดียดฉันท์หนุ่มน้อยได้ลงคอ

   และคุณแม่ของรุ่งโรจน์ก็ทำในสิ่งที่รุ่งแสงสุริยาทัวร์ไม่เคยได้จากลูกทัวร์คนไหนเลย..

   “ทิปจ้ะ..” แบงก์พันคนละ 5 ใบ สามคนก็ หมื่นห้า..

   รุ่งโรจน์รีบคว้าหมับ ก่อนจะสะกิดให้คนทั้งคู่ที่มัวแต่ตกตะลึงรีบรับเงินไว้ แล้วก็กล่าวคำขอบคุณพร้อม ๆ กัน

   “ทำตัวน่ารักกันไปนาน ๆ แล้วกัน..วันนี้ฉันกลับแล้ว” ว่าแล้วรถเบนซ์คันโก้ที่ขับตามมาตั้งแต่ นวนคร..ก็มาเกยอยู่ข้าง ๆ รุ่งโรจน์รีบไปเปิดประตูให้ พอคุณแม่จะก้าวขึ้นรถ พร้อมกับคนสนิท รุ่งโรจน์ก็จูบแม่ซ้ายขวาเหมือนตัวเองเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ ทีเดียว

   เมื่อรถแล่นออกไปแล้ว..เขาก็หันมายิ้มกับคนสองคน ก่อนจะยื่นมือมาให้ทั้งคู่ยื่นมาทับ แล้วก็พูดพร้อมกันว่า..
   “เราคือหุ้นส่วน เราคือเพื่อนกัน เรามีหน้าที่ทำให้คนมีความสุข เราจะเปิดอกคุยกันเรื่องงาน เราจะไม่โกรธกัน ทะเลาะกัน เราก็จะรีบคืนดีกันโดยเร็ว รุ่งแสงสุริยาทัวร์จงเจริญ..เยสส”

   “คุณแม่ ท่านเป็นคนแปลก ๆ อย่างนี้แหละ..อย่าไปถือสาท่านนะ” รุ่งโรจน์รีบออกตัวให้..

   แสงทองสะบัดเงินไปมา พร้อมกับพูดว่า

   “แปลก ๆ แบบนี้ชอบค่ะ แปลกบ่อย ๆ ก็ดีนะ”

   “ถามจริง ๆ เถอะแสงทองเธอไปทำอะไรให้ท่านเอ็นดูขนาด”

   แสงทองยืดอก พร้อมกับคุยโวว่า

   “วันนั้นพอพี่บอกว่า ให้แสดงตัวว่ารู้จัก หนูก็กระดี๊กระด๊าเต็มที่ ร้องกรี๊ดกร๊าด แล้วก็บอกว่าเอ๊ะนี่คุณแม่พี่รุ่งโรจน์ใช่ไหมคะ ขอประทานโทษนะคะ ตัวจริง สวยกว่าในสื่ออีก ..หรือสาวขึ้นคะหนูจำไม่ได้เลย..ผิวก็เนี้ยนเนียน..หนูชมโฉมได้สักพัก หนูก็หยิบอัลบั้มที่เน้นแต่รูปพี่รุ่งทำกิจกรรมบนรถมาให้ท่านดู แล้วก็ชมยกใหญ่ว่า ตอนนี้ลูกทัวร์ติดพี่รุ่งกันแทบทุกคน..ลูกชายคุณแม่หล่อค่ะ น่ารัก น่าไปเป็นดารานายแบบ..และหนูก็แกล้งบอกไปว่า พี่รุ่งบอกว่าถ้าทัวร์ไปได้สวย อาจจะทำรายการโทรทัศน์ประเภทท่องเที่ยววัด ดูท่านสดชื่นขึ้นมา..แล้วท่านก็ถามหนูว่า หนูชอบลูกชายท่านไหม..หนูก็บอกว่าหนูเจียมตัวค่ะ หนูมันก็แค่คนบังเอิญโชคดี หมาน้อยริมทางที่พี่รุ่งกับพี่ยาผ่านมาแล้วก็เรียกให้มาร่วมวงด้วยก็เท่านั้น”

   “พอแล้ว เธอนี่น่าไปเขียนบทละครนะ”

   “ไม่ค่ะ ไม่ปรารถนา แต่ที่ต้องการก็คือพิธีกรรายการเที่ยวทั่วไทยไปกับแสงทองคนสวยที่สุด นี่อยากได้ค่ะ ถ้าพี่รุ่งเปลี่ยนใจจะทำ หนูยินดีนะ”

   “ก็น่าสนใจนะ พิธีกรสามคนไปเลย ใช้เวลาถ่ายทำประมาณวันธรรมดาที่พวกเราไม่ได้ไปไหนลักษณะคุยกันอย่างนี้แหละ..ให้ดูเป็นธรรมชาติ” นายทุนเริ่มเห็นช่องทางรวย..

   “อย่าเพิ่งคิดเลย เอาตอนนี้เถอะ ลูกทัวร์เรา เต็มรถแล้วมั้ง เจ้าแก้วมันถึงกวักมือเรียกหยอย ๆ นั่นน่ะ” สุริยาพูดจบ ทั้งสามก็รีบวิ่งอ้าวกลับไปที่รถบัสสองคันที่จอดต่อกันอยู่
   

   รถบัสที่เช่ามาในวันนี้ เคลื่อนตัวออกไปแล้ว หลังจากที่ได้ช่วยกันขนขวดน้ำและกระติกน้ำแข็งไปเก็บไว้ในออฟฟิศ ทั้งสามคนก็เดินไปหาอาหารเย็นในย่านที่เป็นประเภทรถเข็นโต้รุ่งใส่ท้อง ขณะที่รอให้อาหารมานั้น พลันก็มีเด็กขอทานซึ่งจะเดินขอเงินตามโต๊ะมาหยุด..ยืนมอง แล้วก็..พร่ำว่า..

   “ขอตังค์บ้างครับ ขอตังค์หนูหน่อย..ทำบุญกับคนยากจน..”

   ทั้งสามคนสบตากัน ยิ้ม ๆ ด้วยรู้ว่า เด็ก ๆ เหล่านี้ ถูกบังคับจากพ่อแม่ให้มาดำเนินอาชีพที่ถือว่าต้องหน้าด้านหน้าทน ครั้นให้ไปก็เท่ากับเป็นการสนับสนุน แต่ถ้าไม่ให้ ขึ้นชื่อว่ามีคนมาอ้าปากขอแล้ว ก็ทำให้ตัดใจให้อย่างพระเวสสันดรไป
   แสงทองควักให้หนึ่งบาท เด็กขอบคุณ ขณะที่เด็กกำลังจะเดินไปโต๊ะอื่น สุริยาก็เรียกไว้

   “มานี่ก่อนหนู ..”

   เด็กเดินกลับมาสีหน้ามีความหวัง

   “ถ้าพวกพี่จะจ้างหนูทำอะไรสักอย่างหนูจะรับไหม..” เด็กไม่ตอบ

   “พี่อยากรู้ว่าคืนหนึ่งหนู ขอเงินตามโต๊ะอาหารนี่ได้กี่บาท” เด็กก็ยังเงียบ จนแสงทองต้องเป็นฝ่ายพูดเอง.. “บอกพี่เข้าไปซิหนุ่ม พี่เขามีอะไรดี ๆ จะเสนอนะ เร็ว ๆ ซิ..เดี๋ยวพี่ให้อีกห้าบาท”

   “คืนนึงได้ประมาณ 30 บาทบ้าง 50 บาทบ้าง”

   รุ่งโรจน์ถอนหายใจออกมา..

   “พ่อแม่หนูทำอะไร”

   “พ่อขับมอไซด์รับจ้าง แม่ขายพวงมาลัยอยู่ตรงโน้น..”

   “โอเคพาพี่ไปหน่อยได้ไหม..”

   สุริยาหายไปสักพักก็เดินยิ้มกลับมา..

   “ขอโทษนะที่ไม่ได้ถามความคิดเห็นก่อน..คือผมคิดว่า ในร้านรวงแถบนี้ตอนเย็นถึงค่ำ ๆ คนที่อยู่ละแวกนี้ออกมาหาอาหารกินไม่ใช่น้อย ..เห็นเด็กแล้วสงสาร จะช่วยเป็นเงินรึเราก็ยังไม่ได้ร่ำรวย ก็ประโยชน์เกื้อกูลเนอะ..ผมจะจ้างให้แกช่วยแจกเอกสารของเรา ทุกวัน ตั้งแต่เย็นถึงสามทุ่ม ไปยื่นให้คนที่นั่งอยู่ตามโต๊ะสักโต๊ะละแผ่นเริ่มจากทริปหน้าวันแม่ และก็ทริปทุ่งกระเจียว..”

   “ให้ทำทุกวัน” รุ่งโรจน์ถาม..สุริยาพยักหน้า

   “แกจะได้มีรายได้ทุกวัน..ไม่ต้องเที่ยวให้ใครมาไล่ออกจากโต๊ะ สงสารแกจัง”

   “ชินแล้วล่ะ พี่ยา หนูว่า ความด้านชานี่แหละจะทำให้แกโตมาแล้วไม่รู้สึกผิดหากถูกใครตำหนิมากกว่า”

   “แต่มันก็เป็นไปได้..คนขี้ขอมักจะเสียนิสัย”

   “แล้วคุณมั่นใจอย่างไรว่าแกจะไม่ขอเงินคนอื่นอีก”

   “ก็วัดใจกัน ผมบอกแม่แกแล้วให้ไปรับเงินทุกเย็นจากร้านพี่สมใจ พร้อมกับเอกสาร วันต่อวัน..พี่สมใจอยู่แถวนี้มานานแล้ว คงจะรู้จักแม่เด็กอยู่บ้าง เห็นเคยเดินขายพวงมาลัยสำหรับไหว้พระเวลาบ่าย ๆ เย็น ๆ คงคุ้นกัน”

   “ทริปวันแม่จะให้เตรียมดอกมะลิสำหรับติดอกด้วยใช่ไหม”

   “เตรียม ปีที่แล้วก็มีการให้ลูกที่ควงมากับคุณแม่ มอบดอกมะลิช่อพิเศษให้คุณแม่ ช่อใหญ่หน่อย ส่วนคนอื่น ๆ ก็เป็นดอกเล็ก ๆ ติดหน้าอก ให้รู้ว่านี่วันแม่นะ ..ก็ปลาบปลื้มใจกันไป”

   “แล้วพี่รุ่งจะขึ้นด้วยไหมทริปไหว้พระวันแม่ สิงห์บุรี อ่างทอง”

   “ปกติวันแม่ก็จะอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน เรื่องนี้พี่สาวผมเป็นเจ้ากี้เจ้าการอยู่ประจำ คุณแม่เองก็ให้ความสำคัญมาตั้งแต่พวกเราเด็ก ๆ แล้ว”

   “ดีแล้วล่ะ ผมเองคงส่งเสื้อผ้ากับเงินกลับไปให้ ทำได้เท่านั้น..ไงทำท่าจะร้องไห้อีกแล้วเด็กขี้แย..” สุริยาแซวเมื่อเห็นสีหน้าของแสงทอง..

   “..เงียบดีที่สุด..”

   ขณะที่กำลังคุยไปเคี้ยวไป หนังสือพิมพ์รอบบ่ายก็เดินร้องเรียกขาย สุริยายกมือ..แต่คนที่จ่ายเงินคือแสงทอง ถ้าออกทริปด้วยกันแบบนี้ ส่วนใหญ่จะนำค่าอาหารมาทำบัญชี เป็นค่าใช้จ่ายต่อครั้งด้วย..

anop2521

  • บุคคลทั่วไป
Re: ตอนที่ 16 อยากให้ũ
«ตอบ #198 เมื่อ11-05-2011 22:04:25 »

เมื่อหนังสือพิมพ์มาถึงมือ เป็นปกติของสุริยาที่ต้องอ่านหน้าดาราก่อนอื่น อ่านได้นิดก็รีบส่งให้รุ่งโรจน์..รุ่งโรจน์อ่านจบแล้วส่งให้แสงทอง..
   
“เจ๊สิริ..หน้าบานเป็นกระด้ง ทัวร์ไหว้พระของลูกรุ่งโรจน์ คนตรึม..สนใจร่วมทริปกับลูกชายเจ๊..เบอร์” อ่านจบแสงทองยิ้มในวงหน้า ส่วนลูกชายทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้..

   “ดังใหญ่แล้ว พรุ่งนี้ หนูรับโทรศัพท์สำรองที่นั่งไม่หวาดไม่ไหวซะมั้ง..”

   “จริง ๆ จัดทัวร์ถูก ๆ โดยเอาดารามาเป็นแม่เหล็กก็น่าสนใจไม่น้อยนะ..คุณรุ่งรู้จักพวกดาราไม่ใช่รึ ลองทาบมาเล่นกับเราสักคน ทริปวันแม่พบกับลูกกตัญญูรู้คุณน้องปอมเป..ทริปนี้พบกับเปิ้ล จันทนาวรรณ..ทริปโน้นพบกับน้องหวาน” สุริยาเสนอด้วยน้ำเสียงสนุกสนาน

   “ก็ดีนะ..รับรองสงสัยในราคาเท่านี้รถเคลื่อนขบวนยาวเป็นยี่สิบคันละมั้ง แต่เราก็เตรียมตัวปิดบริษัทนะ เพราะค่าตัวพวกแม่คุณทูนหัวเหล่านี้ ไม่ได้ถูก ๆ เลย”

   “แล้วพี่รุ่งไม่ไปเป็นอย่างที่คุณแม่พี่ต้องการล่ะ ได้เงินง่าย”

   “บอกแล้วว่าไม่ชอบ..แค่ทุกวันนี้เดินไปไหนมีคนดันรู้จักมาขอลายเซ็นนี่ก็เบื่อจะแย่แล้ว โอเคไม่พูดเรื่องนี้แล้วนะ”
   เมื่อไม่พูดถึง กินอิ่มก็แยกย้ายกันกลับที่พัก..ระหว่างทาง..รุ่งโรจน์ก็เปิดเพลงคุณรู้ไหมครับ ของพี่เบิร์ด+พี่เสก เนื้อหานั้นยังทำนองรัก ๆ ใคร่ ๆ ที่สุริยารู้สึกเบื่อไม่อยากที่จะได้ยินอีกแล้ว แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่ออารมณ์ของคนที่นั่งอยู่เคียงกันช่างสุนทรีย์ซะเหลือเกิน

   ‘คุณจะรู้บ้างไหม คืนนี้ผมนอนไม่หลับ คุณจะรู้ไหมครับ หน้าคุณลอยอยู่เต็มฟ้า อยากให้คุณโทรมาราตรีสวัสดิ์ พูดชัด ๆ ซักคำว่ารัก...แค่นี้คงไม่ลำบากเกินไป ใช่ไหมคุณ’

   “ใช่ไหมคุณ..” รุ่งโรจน์พูดขึ้นมาลอย ๆ ขณะดับเครื่องยนต์..สุริยาไม่ตอบ เพียงก้าวลงจากรถแล้วก็ปิดประตูเบา ๆ แล้วเดินอมยิ้มมาที่หน้าลิฟท์โดย ไม่รอ ไม่สน ว่าในมือของรุ่งโรจน์จะถืออะไรมาบ้าง..เมื่อลิฟท์มาถึงก็รีบก้าวเข้าไปแล้วก็รีบกดปิดประตูก่อนคว้าโทรศัพท์มากดโทรออก

   พอปลายเสียงรับสาย ก็บอกสั้น ๆ ว่า “ราตรีสวัสดิ์ครับ”..

   พอไปถึงห้อง ก็รีบเปิดเพลงที่รุ่งโรจน์ชอบฟังเป็นประจำทิ้งไว้..หมั่นคอยดูแลและรักษาดวงใจ..

   ‘ฝากหัวใจให้กันเอาไว้ก่อน ที่เราจะต้องห่างเหินไป ..เผื่อว่าเราลำบากอยู่หนใด หัวใจก็ยังมีคนดูแล ..อาจจะมีบางคราว เราพบใครใหม่ เกิดหวั่นไหวไปตามประสาคนไกลกัน แต่เรายังมีใจ กันไว้ไม่หวาดหวั่น จะไม่เหลือดวงใจที่คิดเผื่อใคร สิ่งที่ฉันต้องการก็คือ ให้เราคอยดูเสมอ หากเราเผลอลืมไปแล้วดวงใจจะหาย หมั่นคอยดูแล แลรักษาดวงใจ เก็บเอาไว้จนวันที่ฉันเคียงคู่เธอ.. ’
   


   แล้วทริปวันแม่ก็มาถึง โดยที่รุ่งโรจน์มีสีหน้าวิตกหลังจากที่วางโทรศัพท์จากคุณแม่คนสวยแล้ว..

   “แม่ผมบอกว่าปีนี้จะพาพี่สาว พี่เขย พี่ชาย พี่สะใภ้ และหลานอีกบ้านละสองคน..ไม่รวมคุณพ่อ..จะไปทัวร์กับเรา..ง่ะ..”

   “อุ๊.. แม่เจ้า..ทริปนี้ ตั้งแต่ข่าวออกไป..รายชื่อลูกทัวร์แปลก ๆ มาทั้งนั้นเลย..”

   “.. รู้ไหมว่าคุณแม่ ไปชวนพวกรายการสีสันวันหยุด ตามไปถ่ายทำด้วย ประมาณว่า..บริษัทที่บ้านผมซื้อโฆษณาสนับสนุนช่วย ๆ กัน”

   “แม่คุณนี่จริง ๆ เลย..” แสงทองกล่าวชม แต่สั่นศีรษะ ทั้งที่จริง ๆ แล้วแสงทองมากระซิบบอกกับสุริยาว่า “คุณแม่พี่รุ่งจะให้พวกตากล้องขึ้นรถไปด้วย ไปดูว่า วันหยุดนี้ คุณแม่กับลูก ๆ ไปเที่ยวที่ไหนกันอย่างไร แล้วก็ให้มีสัมภาษณ์คุณแม่คุณลูกที่ขึ้นทัวร์ครั้งนี้ด้วย และที่สำคัญ..ก็คือ คุณแม่พี่รุ่ง ชักชวนลูกทัวร์มาให้เกือบคัน แล้วก็สั่งให้เปลี่ยนจากรถทัวร์ปอ. 2 เป็นรถโค้ชอย่างดี ส่วนเงินที่เกินมาคุณแม่บอกว่าจะเพิ่มให้เอง ขออย่างเดียวขอให้มีภาพครอบครัวนี้ออกอากาศในอีกสัปดาห์ถัดมา”

   สุริยาได้ยินแล้วมีสีหน้าหนักใจกับงานใหญ่ข้างหน้า..แต่ก็ดี สีสันวันหยุด สีสันของชีวิต เมื่อรู้ว่าจะต้องมีกล้องขึ้นมาบนรถทัวร์ด้วย ทั้งสามคนเริ่มอยู่ไม่สุข..

   “ผมไม่ไปได้ไหม”

   “ถ้าคุณไม่ไป คุณแม่คุณจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน พี่ ๆ คุณอีกนะคุณรุ่ง..เตรียมตัวทำหน้าที่ไปเถอะ คิดเสียว่าช่วยกันเผยแผ่พระพุทธศาสนาทางอ้อมแล้วกัน แสงทองเธอพร้อมเรื่องข้อมูลทุกวัดนะ”

   แสงทองบอกว่าพร้อม แต่สุริยายังไม่มั่นใจ ด้วยทางรายการโทรมาแจ้งว่า จะให้ทั้งสามคนเป็นคนพาไปเหมือนรายการสดประมาณนั้น โดยที่กล้องมีหน้าที่ถ่ายทำอย่างเดียว และเพื่อให้ข้อมูลกระชับ จึงต้องมีการสรุปสั้น ๆ

   “มาซิ แสงทอง มาซ้อม วัดพระนอนจักรสีห์..สั้น ๆ นะ” สุริยาออกคำสั่ง

   แสงทองไปยืนถือไมค์ พร้อมกับที่รุ่งโรจน์ใช้กล้องแฮนดิแคมถ่ายไว้..

   “ยังไม่กระชับ สีหน้าเธอยังไม่ได้นะ อีกรอบซิ”

   “นี่ไม่ใช่รายการโทรทัศน์ของเรานะ แค่ตาม ๆ คุณแม่คุณรุ่งกับครอบครัว มาเที่ยวในกิจการงานของลูกชายภาพที่ออกมาคงประมาณ 10 นาทีเห็นจะได้..” แสงทองเริ่มเบื่อ

   “ไหง เธออยากเป็นดาราหน้ากล้องเป็นพิธีกรไง ตั้งใจซิ เงินทองจะได้ไหลมาเทมา งานนี้รับรองคุณแม่ผมติ๊บเธอหนักหรอก ให้ความร่วมมือดีนี่”

   “เจ้าค่ะ” แล้วแสงทองก็ทำได้ดีอย่างที่รุ่งโรจน์ต้องการ

   พอถึงคิวรุ่งโรจน์ถือว่าเป็นไฮไลท์ที่สำคัญ..จุดขายของสีสันวันหยุดก็คือที่ แม่และพี่ ๆ น้อง ๆ รวมถึงหลาน ๆ มาเที่ยวกับกิจการของลูกชาย

   แต่ครั้งนี้รุ่งโรจน์ไม่ให้ความร่วมมือในการซ้อม เหตุผลก็คือ

   “ผมขอให้เขาถ่ายแบบธรรมชาติที่ผมเป็นดีกว่า มันคงดูเนียนกว่าการซ้อมไปแบบนี้..และนี่ก็คืออีกหนึ่งเหตุผลที่ผมไม่อยากอยู่หน้ากล้อง..ผมอายที่ต้องทำอะไรบ้า ๆ บอ ๆ คนเดียว แล้วมีคนยืนดูเป็นสิบ ๆ คน”

   ข้อนี้สุริยาเห็นด้วยเพราะตัวเอง เมื่อรู้ว่า จะมีกล้องตามขึ้นรถไปด้วย ก็ชักใจคอไม่ดี..กับภาพที่จะออกอากาศในครั้งนี้ ใจหนึ่งก็อยากให้เป็นธรรมชาติที่สุด เคยนำสวดมนต์ในตอนรถออก เคยแจกน้ำแจกผ้าเย็น ลูกอม ส้มสุกลูกไม้ เคยพาไปกินร้านเล็ก ๆ ริมทาง ย่านตลาดชุมชนที่มีของขายก่ายกอง ทริปนี้ขืนทำอย่างนั้นคงจะแย่..แต่ถ้าทำอย่างนั้นก็คือจะบอกนโยบายของ ทัวร์คันนี้ให้คนอื่นได้รู้ว่า ที่ราคาถูกได้เนื่องจากตัดส่วนที่ฟุ่มเฟือยออก แต่เน้นไปที่สาระและความสนุกสนานกับความเป็นกันเอง

   และในมื้อกลางวันที่สุริยากังวล แสงทองก็เข้ามาบอกว่า..

   “คุณแม่บอกว่า จะเป็นเจ้ามือเลี้ยงทั้งสองคันเนื่องในโอกาสวันแม่ ให้ทางเราติดต่อร้านอาหารจองโต๊ะตามจำนวนคนได้เลย...” เมื่อได้ยินพร้อมกันสีหน้าของรุ่งโรจน์ดูเป็นปกติ..

   “แม่ผมก็เป็นอย่างนี้แหละ ท่านใจใหญ่ไปทุกเรื่อง”

   “คุณก็ได้นิสัยแม่คุณมา คุณไม่รู้รึ ผมบอกแล้วคนที่เกิดมารวย ลึก ๆ ในพื้นใจ มีลูกบ้าระห่ำกันทั้งนั้น ในชาติก่อนคงจะทำบุญสุนทานกันมาดี มาชาตินี้จิตดวงนั้นก็เลยส่งให้ใจใหญ่พื้นที่กว้างขวางเป็นที่นอนมาแห่งทรัพย์สมบัติ”

   สุริยาพยายามสอดแทรกแต่รุ่งโรจน์ถอนหายใจออกมา

   “ถ้าผมยอมเล่นละครสักเรื่อง ต่อไปทัวร์ของเราคงหากินได้ทั้งนิคม..แต่ไม่หรอก..ไม่ก็คือไม่..”

   สุริยาไม่ต่อความ ด้วยรู้ว่า แม่ลูกคู่นี้สูสีกัน

anop2521

  • บุคคลทั่วไป
Re: ตอนที่ 16 อยากให้&
«ตอบ #199 เมื่อ11-05-2011 22:11:19 »

ปล....กรี๊ดดดด พี่ชอนตะวัน ตัวจริงเสียงจริง ถ้าซื้อหนังสือจะเซนต์ให้ด้วยได้ไหมคะ (นู๋ชอบชิงชังม๊ากกก)

ตัวจริงเสียงจริงครับ..

ซื้อเล่มไหน เล่มนี้
 สนพ.JFC-Books จำนวนหน้า 450 ราคาปก 414 บาท
แนวเรื่อง y(เกย์) + ศาสนา เทคนิคการพิมพ์ ปริ้น ออน ดีมาน
ช่องทางจัดจำหน่าย จากผู้เีขียน-ผู้อ่าน ไม่ผ่านตัวแทนจัดจำหน่าย

ราคาขายบนเว็บ 350 บาท รวมค่าจัดส่ง



หรือว่า "ชิงชัง" ครับ..
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ & โฆษณา..

สำหรับ นิยายเรื่อง อยากให้พระอาทิตย์ตกดินตอนสามทุ่มครึ่ง เป็นนิยาย ที่ผมเขียนไว้นานมาก ๆ ครับ..เนื้อหา แนวเรื่องและสำนวนไม่ค่อยร่วมสมัย แต่เมื่อเขียนมาแล้ว ก็ปรารถนา ให้เป็นอีกเล่มในเกียรติประวัติของผมครับ..

เนื้อหาก็อย่างที่รู้ ๆ กันแล้ว ผมไม่คาดหวังว่าจะมีคนชอบจนซื้อเก็บ แต่ถ้ามีผมก็ขอบคุณมาก ๆ ครับ..ราคาอาจจะสูงกว่าหนังสือทั่ว ๆ ไปหรือเล่มอื่น ๆ ของผม ก็ขออภัยด้วย ..คงมีคนสนใจไม่เยอะหรอกครับ.. เอาไว้โอกาสหน้า มีอารมณ์ อีกสักรอบ อาจจะมีผลงานแนวสนุกสนาน มาฝากกันครับ..

ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะครับ..

เปิดให้จองและโอนเิงินแล้ว..สนใจคุยกันได้เลยครับ.. f_nakhon(แอด)hotmail.com
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-05-2011 22:14:58 โดย anop2521 »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ตอนที่ 16 อยากให้&
« ตอบ #199 เมื่อ: 11-05-2011 22:11:19 »





ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
คุณแม่ซึ้งฝนรสพระธรรมได้ไวมาก แต่ยังเป็นคนเยอะอยู่นะคะ อิอิ
หนังสือปกสวยจังเลยค่ะ อยากได้ๆ เดี๋ยวขอเก็บตังค์ก่อน ช่วงนี้ซื้อหลายเรื่อง แหะๆ
บวกให้ค่า

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
หวังว่าคุณแม่ของรุ่ง คงไม่มาทำให้ทัวร์แบบเรียบง่ายราคาประหยัด ของรุ่งแสงสุริยาทัวร์
เปลี่ยนโฉมหน้าใหม่ เหมือนหญิงสาวเปลี่ยนรูปโฉมโดยการศัลยกรรมนะ

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
เพิ่งได้เข้ามาอ่าน จากชื่อเรื่องไม่ยักรู้ว่าเกี่ยวกับพระพุทธศาสนานะเนี่ย

ชอบจังเลยค่ะ พล็อตแปลกดี สามารถนำเอาศาสนามาผสมกับนิยายแนวนี้ได้อย่างกลมกลืน...หาอ่านยากนะคะเนี่ย

ช่วงแรก สำนวนแลแปลกๆไปหน่อยนะคะ โดยเฉพาะพวกประโยคคำพูด ส่วนมากเป็นภาษาเขียนหมดเลย ไม่ใช่ภาษาพูด อ่านแล้วตะหงิดๆเหมือนพยายามทำให้ภาษาสวย แต่ไม่เข้ากับเนื้อเรื่องช่วงนั้น อะไรประมาณนั้น... ช่วงหลังดีขึ้น อ่านแล้วลื่นขึ้นเยอะ มีพัฒนาการดีค่ะ ชอบๆ

อ่านช่วงสุริยาพูดถึงความรักแล้วแอบอิน เพราะช่วงที่เราอ่านหนังสือธรรมะบ่อยๆ คำว่า มีรัก=มีทุก์มันซึมเข้าไปในหัวเลย เลยไม่อยากรักใครเท่าไหร่555 เป็นแบบสุริยาเดี๊ยะ

สนุกมากค่า ช่วงหลังกระชับขึ้นเยอะ ถ้าจะรวมเล่นก็อย่าลืมรีไรท์ช่วงแรกนะคะ

ปล.เวลาอัพ เปลี่ยนหัวข้อว่ามีตอนใหม่แล้ว เขียนวัน เดือน ปีด้วยได้ไหมคะ บางครั้งเราก็จำไม่ได้ว่าอ่านล่าสุดที่ตอนไหน


ออฟไลน์ Horizon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-22

ออฟไลน์ SecondaryTrauma

  • Today is a gift, that is why call ... "The Present"
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
"กะเทย" ไม่ใช่ "กระเทย"
กะเทยไม่มี ร. เพราะไม่ค่อยชอบรอ แต่มักขาดรัก

Panny

  • บุคคลทั่วไป
หวังว่าสติจะพาทุกคนผ่านสถานการณ์ต่างๆ นาๆ ไปได้  :เฮ้อ:

koraorni

  • บุคคลทั่วไป
ทำเรื่องดีดีก้อต้องได้แต่เรื่องดีดีตอบแทนเช่นกัน


ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
ชอบ ตอนสุริยาเข้าลิฟท์ไปแล้ว โทรออกมาบอก "ราตรีสวัสดิ์"รุ่งโรจน์จัง เป็นตอนที่หวานแหววที่สุดในเรื่องแล้วมั้งเนี่ย

ที่แท้เป็นคุณชอนตะวันนี่เอง  มิน่าถึงได้อ่านได้ลื่นไหล ไม่รู้สึกแปลกแม้จะแทรกเรื่องศาสนา หลักธรรมไว้ตลอดๆ แต่ก็อ่านเพลิน ไม่รู้สึกเบื่อหน่าย

ออฟไลน์ rutchi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ชอบเรื่องนี้จัง อ่านแล้วได้แง่มุม ได้ข้อคิดเกี่ยวกับพุทธศาสนาอีกด้วย

ปล.อยากให้สุริยากับรุ่งโรจน์สมหวังกันไวๆ แค่ชื่อก็คล้องจองกันแล้ว


สุริยาต้องส่องแสงรุ่งโรจน์นะจ้ะ 
 :n1:

Namtarn

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วชอบทุกตอนจริงๆ ไม่อยากดราม่าเลย  :o12:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด