อยากให้พระอาิทิตย์ตกดินตอนสามทุ่มครึ่ง ((มีหนังสือพร้อมส่ง)))//ข่าวภาคสอง พระอาทิตย์หลังฝน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: อยากให้พระอาิทิตย์ตกดินตอนสามทุ่มครึ่ง ((มีหนังสือพร้อมส่ง)))//ข่าวภาคสอง พระอาทิตย์หลังฝน  (อ่าน 118407 ครั้ง)

wongwikkarn

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วได้ข้อคิดดีๆๆเยอะเลย อ่านแล้วปลงๆๆ

Verxus

  • บุคคลทั่วไป
ขออภัยหากยาวเวิ่นเว้อไปซักหน่อยค่ะ แต่อยากเขียนความรู้สึกที่มีต่อเรื่องนี้ ไม่รู้จะเว่อร์ไปป่าว หากจะบอกว่า นี่เป็นนิยายที่ดีที่สุดที่เคยอ่านมาในชีวิตเลยค่ะ T^T ลักษณะเขียนมีบรรยายเยอะไปบ้าง พล็อตดูแบบว่าไม่ระทึกใจเท่าไหร่ แต่ดีที่สุดด้วยคุณค่าจริงๆค่ะ เรารู้สึกอย่างงั้น

คำพูดตัวละคร มีบางจุดเป็นภาษาเขียนไปหน่อย แต่อ่านแล้วไม่เบื่อเลย ลื่นไหลมากกก และไม่เคยอ่านแนวการบรรยายแบบนี้มาก่อน รู้สึกชอบมากค่ะ ภาษาสวยสมกับเป็นนักประพันธ์ แถมคุณคนเขียนมาต่อไว ไม่ปล่อยให้ค้างเลย แม้คอมเม้นท์จะดูไม่เยอะเท่าไหร่ ขอบคุณแทนผู้อ่านท่านอื่นๆด้วยจ้า

แบบว่าอารมณ์มาครบเลยอ่ะ ทั้งสดใส (เพราะแสงทอง) อ่านไปร้องไห้ไป (อินจัด) ยิ่งตอนสุดท้ายนี่ คุณคนเขียนบอกให้เตรียมผ้าเช็ด เราก็เตรียมร้องแล้ว แค่ฉากคุณรุ่งบอกรัก น้ำตาไหลเหมือนสั่งได้เลย แบบว่าขันธ์ 5 ยังเยอะ รู้สึกจะเป็นจะตายตามสุริยาเลยค่ะ ที่เดินหาคนที่รักทั้งสามแล้วไม่เจอ โอยสุดยอด ทุกตัวอักษรเหมือนบงการคนอ่าน (เรา) ได้ เขียนขนลุก ขนลุกตามทันที  :monkeysad:

ฉากจีบนี่น่ารักมากกกกกกค่ะ >////< อ่านทำให้รู้สึกเขินมาก โอ๊ยมันเขินแทนคุณยะเวลาคุณรุ่งหยอด ไม่มีฉากอีโรติกแบบนิยายวายส่วนใหญ่ในบอร์ดเลย (ถึงแม้เราจะแอบเชียร์ให้ทั้งคู่มีซัมติงบ้างจวบจนบรรทัดสุดท้ายก็เหอะ 55+) เหมือนจะเป็นอีกหนึ่งข้อพิสูจน์ได้ว่า ความรักไม่ใช่แค่เซ็กซ์เสมอไป แค่มีความรู้สึกดีๆต่อกัน มันก็อุ่นวาบไปทั้งหัวใจได้แล้วเนอะ ^^  :o8:

สำหรับเรื่องพระพุทธศาสนาและทัวร์วัดต่างๆ เขียนบรรยายเยอะมาก ถ้าเป็นเรื่องอื่นเราคงจะอ่านข้ามบทพรรณนาลักษณะนี้ไปแล้ว ด้วยเหตุผลยาวเกินจนขี้เกียจอ่าน แต่เรื่องนี้ไม่รู้ทำไม ไม่มีเบื่อเลยอ่ะค่ะ ไม่อ่านข้ามถึงบางบรรทัดจะงงๆ มันเพลินเหมือนได้เรียนวิชาสังคมไปด้วย และคงจะเป็นวิชาที่เต็มใจที่จะอ่านที่สุดเลยค่ะ

พวกวัดอยุธยาตามที่กล่าวในเรื่อง เราเคยไปหลายที่ค่ะ แต่ไปแบบจำยอม ไม่ยอมลงจากรถบ้างล่ะ แดดร้อนบ้างล่ะ พอมาอ่านนี่รู้สึกเสียดายมากๆเลยค่ะ ตั้งใจไว้ว่าต่อจากนี้ไปวัดจะไปด้วยศรัทธาและเมตตา ไม่เกี่ยงงอนแบบที่เคยเป็นแล้ว แอบเอาบทอธิษฐานของคุณยะไปท่องด้วยแหละ ไม่ว่ากันเนอะ นอกจากนี้ยังได้รู้จักแง่มุมและข้อคิดการใช้ชีวิตหลายๆอย่างด้วย ขอบคุณนะคะ ทำให้ตระหนักได้เลยว่าเราโชคดีแค่ไหน ที่ได้เกิดมาพบพระพุทธศานา นอกจากนี้ ยังโชคดีมากด้วย ที่ได้มีโอกาสได้อ่านเรื่องนี้ และทันรู้สึกตัวกับการใช้ชีวิตมากขึ้น

มีฉากที่ประทับใจหลายฉากในทุกตอนอยากเขียนชมเลยค่ะ แต่เกรงว่าจะยาวไป เอาเป็นว่า ไม่เคยอ่านนิยายแล้วมีความสุขอิ่มอกอิ่มใจขนาดนี้มาก่อน แต่ก็มาพร้อมความอึดอัดใจกับการปิดกั้นตัวเองของสุริยา สุดท้ายรุ่งโรจน์ก็ไม่ได้ยินคำว่ารักจากปากสุริยาเลย สงสารมากๆ คุณคนเขียนก็จะให้คุณรุ่งได้ยินซักครั้งก่อนไม่ได้เจอกันอีกก็ไม่ได้ -*-  :z2:

จบได้ลงตัวค่ะและยอมรับว่าเป็นตอนจบที่ดีในทางทฤษฎี แต่!!!!!!...ขอบอกว่าขัดใจคนอ่านเอามากๆๆๆๆๆๆ (เสียงเอคโค่) อยากให้รุ่งโรจน์ได้เจอว่าสุริยายังมีชีวิตอยู่อ่าค่ะ แม้ไม่ได้รักกัน แต่ก็น่าจะเป็นกัลยามิตรที่เกื้อกูลในทางศาสนากันได้ และเชื่อว่าคุณรุ่งก็ต้องเข้าใจเหตุผลที่คุณยะไม่สามารถกลับมารักกันได้แน่ๆ

จึงอยากจะใคร่ขอความกรุณาและขอร้องคุณชอนตะวันผู้เขียน ให้ทบทวนดูอีกสักครั้ง ในการเขียนเรื่องนี้ต่อ ภาค 2 อาจจะดูเป็นการรบกวนเกินไป ขอเป็นตอนพิเศษบทส่งท้ายสั้นๆไม่กี่บรรทัดก็ยังดีให้ทั้งคู่ได้พบกันจะได้ไหมคะ  :z3:

เดาเอาจากบริบทสุดท้ายของเรื่อง ผ่านมาปีนึง พระสุริยาก็ยังคงไม่ลืมรุ่งโรจน์ ที่ยังตัดบ่วงไม่ได้เช่นนี้ เพราะเหมือนยังรู้สึกผิดในใจติดตัวตลอดเวลาใช่มั้ยคะ ที่ตนปิดบังหนีความจริงกับเขา มันก็เป็นการมุสากลายๆนั่นแหละ เช่นนี้แล้วจะถึงนิพพานได้อย่างไรคะ

นี่เป็นข้อเสียของสุริยานะคะ พอเจออะไรก็บ่ายเบี่ยง หนีปัญหาซะเฉยๆ (เห็นได้จาก ถามว่ารักทีไรก็หันหน้าหนีตลอด) การจะรู้แจ้งเห็นจริงได้ เราคิดว่าต้องเกิดจากการยอมรับในความจริงและสิ่งที่เป็นให้ได้ก่อน จึงจะเกิดความเข้าใจและปล่อยวางได้ค่ะ แต่สุริยายังแก้ในจุดนี้ไม่ได้เลย ต่อให้บวชทั้งชีวิต ก็อาจไม่บรรลุแก่นและถึงนิพพานได้ค่ะ จึงอยากให้ผู้เขียน เขียนต่ออีกนิดให้เคลียร์ๆกันไปเลยว่า ยังไม่ตายแต่กลับไปเป็นอย่างเดิมไม่ได้นะ ก็ว่าไป (แต่ถ้าลงเอยด้วยกันจะวิเศษมากกกกกกก) :call:

ที่อยากบอกก็เพียงเท่านี้ละกันค่ะ หวังว่าคุณคนเขียนจะรับฟังและพอจะสงเคราะห์เป็นวิทยาทาน (เรียกงี้รึเปล่า) แด่คนอ่านนะคะ ดูๆแล้วมีหลายความเห็นคิดแบบเดียวกับเรา เข้าใจค่ะว่านิยายมันปรุงแต่งจิตใจ เรามันคนธรรมดายังละกิเลสไม่ได้ก็อยากให้มันจบแบบดีๆ ไม่ค้างคา และสุดท้ายก็ขอบคุณมากนะคะ ที่เขียนเรื่องนี้ขึ้นมา ชื่อเรื่องและคำโปรยปกมันเข้ากับเรื่องและประทับใจขั้นสุดยอดจริงๆค่ะ ปกก็สวยดีค่ะ ^^

ปล. แอบตกใจ ห๊าาา!! เป็นคนเขียนชิงชังด้วย ละครที่เราติดงอมแงมทั้งครอบครัวดูซ้ำ 3-4 รอบ อ่ะนะะะะ (ดูช่อง 5 อ่าค่ะ มิได้อ่านหนังสือ ไม่เคยเห็นเลย)
 :pig4:  :L2:  :3123:  :mc4:  o13  สุดท้าย.... :call:  :call:  :call:  :z13: มาต่อเต๊อะะะะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-06-2011 21:34:14 โดย Verxus »

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
โอยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
อ่านตอนจบทั้งน้ำตาเลยค่ะ ซึ้งมากๆ บรรยายไม่ถูก
คาดไม่ถึงว่าจะใช้เหตุการณ์ครั้งนี้มาเป็นจุดเปลี่ยนได้แยบยลสุดๆ
บวกขอบคุณอีกครั้งจากหัวใจนะคะ เป็นนิยายทีมีคุณค่าจริงๆ ค่ะ

ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
ง่ะไม่ได้ตามแค่ไม่นานจบเสียแล้ว


เง้อเศร้าจังอ่ะสุดท้ายก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน



ขอบคุณมากครับจะคอยติดตามผลงานต่อไปครับ

ออฟไลน์ vascular

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 412
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2
...จบได้กระชากอารมณ์มากครับ สงสารตัวละครทุกตัวจริงๆ

Panny

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ดดดด ตกอกตกใจ หากกระทู้ไม่เจอ นึกว่าหายไปไหน
ทำไมย้ายมาห้องจบเร็วม๊ากกกกก
น้ำตาท่วมเลยค่ะ รูมเมทตกใจมาก แกนั่งร้องไห้ทำไม กระซิกๆ
ชอบเรื่องนี้มากจริงๆ จะอุดหนุนหนังสือนะคะ

ขอบคุณอีกครั้งค่า

anop2521

  • บุคคลทั่วไป
Re: ตอนที่ 30 ((จบบริบู
«ตอบ #336 เมื่อ11-06-2011 07:53:13 »

สำหรับ หนังสือเล่มนี้..

อืมมมมมมมมมมม...พออ่านความเห็นของเพื่อน ๆ ยอมรับแบบคนเขียนหนังสือนะครับว่า .....(ไม่บอกดีกว่า)..
เอาเป็นว่า ขอเล่า..ให้ฟังนิดนึง..

เริ่มจากนักเขียนชั้นครู อย่างคุณทมยันตี เขียนนิยายเรื่องแรก ตัวละครก็ตายจากกันเสียแล้ว แต่เหตุของการเขียนให้เห็นถึงความพลัดพราก หรือจบแบบไม่สมหวังนั้น คุณทมยันตี บอกว่า  มีเพื่อนเล่นที่โตด้วยกันมาตายกระทันหัน..นั้นคือเหตุหนึ่ง ...อีกเหตุหนึ่งต้องการให้รู้ซึ้งกับชีิวิตว่าให้เตรียมตัวให้เตรียมใจ ให้ทำใจให้ยอมรับ..

สำหรับเรื่องนี้ ก่อนหน้านั้น ผมเคยให้เพื่อนหญิงคนหนึ่งอ่าน ผ่านไปห้าวัน ผมโทรไปหาเขา ถามว่า อ่านหรือยัง เขาบอกว่าอ่านจบได้สองวันแล้ว ที่ยังไม่โทรไปบอกเพราะมัวร้องไ้ห้อยู่..หลังจากนั้นเขาก็ร้องไห้ไปด่าผมไปชมผมไปด้วย..5555555 ผมก็ร้องไห้แบบตื้นตัน ที่เขียนหนังสือแล้วบรรลุเป้าหมายบางอย่างได้...

และคุณ Verxus ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่บรรลุเป้าหมายที่ผมได้วางไว้...ผมอ่านความรู้สึกของคุณ Verxus พร้อมกับอ่านให้พี่สาวฟังด้วย(คุยโทรศัพท์กันอยู่แล้วผมก็เปิดหน้าเว็บพอดี) พี่สาวผมบอกว่า คนคนนี้เป็นคนละเอียดกับชีวิตมาก ๆ...

นิยายเรื่องนี้จบแบบทิ้งค้างให้คิดต่อไว้..ถ้าผมจะแก้ตัวหรือผมจะไม่เขียนต่อ  คุณ Verxus เดาได้ถูกครับ เพราะทั้งคู่เขาจะดำเนินชีวิตเป็นกัลยาณมิตรไปด้วยกัน แต่วันนั้น ต้องเป็นวันที่ สุริยาแข็งแรง รุ่งโรจน์ก็เข้าลึกไปทางธรรม เข้าใจอย่างแท้จริงว่า เพราะหนึ่งปีที่ผ่านมา ถ้าเขาได้เจอกันอีก รุ่งโรจน์ก็จะเป็นแบบเดิม...แต่ผมว่าก่อนหน้านั้นผมได้อธิบายไปหมดแล้วนะว่า สุริยาคิดอะไร และถ้ารุ่งโรจน์ได้เจอสุริยา ดีไม่ดี เจดีย์อาจจะไม่เสร็จก็ได้ รุ่งโรจน์อาจจะตามมาเฝ้ามาตามเอาใจพระ..เรื่องมันละเอียดอ่อนมาก ๆ ครับ เรื่องของความรัก ความหลง ความใคร่..แต่ว่า ช่วงเวลานี้ มันก็ทำให้รุ่งโรจน์เอาความผิดหวังความเสียใจ หันมาทำงานที่เป็นประโยชน์เกื้อกูลสังคมกับคนอื่น (เหมือนพระอาทิตย์ที่มันตกดินอีกฝั่งแล้วไปขึ้นอีกฝั่ง)......และทุกครั้งที่ผมเจ็บปวดกับความรัก ผมเองก็จะเป็นอย่างนั้น ผมไม่เคยเอาพลังไปคิดแค้นเคืองใครหรือว่าทำร้ายตัวเอง..ผมอกหัก พอหายดี ผมก็ลุยทำงานเขียนที่มันสร้างสรรค์ต่อ (งงไหม)..

เอาเป็นว่า เรื่องนี้ ผม อนุญาตให้คุณ Verxus หรือเพื่อนนักอ่านคนใดก็ได้แต่งตอนพิเศษ ให้เพื่อน ๆ นักอ่านได้อ่านกันครับ แล้วผมพร้อมจะพิมพ์รวมเล่มใหม่อีกครั้งด้วย เพราะผมจัดหน้าเอง เพราะปริ้นออนดีมานด์ จะแก้ไขทำอะไรเมื่อไหร่ก็ได้ครับ..แล้วนิยายเรื่องนี้ เบื้องต้นผมพิมพ์ไ่ม่มาถึงร้อยครับ แ่ต่ผมก็มั่นใจระดับหนึ่งว่า เรื่องนี้จะเป็นเกียรติประวัติให้กับผมเหมือน ๆ ชิงชัง..ซึ่งตอนที่ผมเขียนเรื่องนี้ ผมก็ไ่ร้เหมือนกันว่าทำไมผมถึงต้องเีขียน..ผมรู้แต่ว่าตัวละครพาไป...เมื่อเขาพาไปสุดทาง โดยที่น้ำตากลบตาผมเหมือนกัน ..

ขอบคุณจากทุก ๆ กำลังใจนะครับ และขออนุญาตเพื่อนนักอ่าน เอา ความคิดเห็นของบางท่านไปลงในหนังสือที่กำลังพิมพ์รวมเล่มด้วยนะครับ..

ด้วยความปรารถนาดี..

ชอนตะวัน

 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

ปล. ยอดสั่งซื้อหนังสือน้อยมากครับ เพื่อนคนหนึ่งถามผมว่า ไม่ขาดทุนเหรอ ..ผมตอบเขาไปว่า กำไรของหนังสือเ่ล่มนี้ คือ 'บุญ' ครับ..แค่ใครสักคนอ่านจบแล้ว แล้ว "ศรัทธา" เกิด ตระหนักกับการมีชีวิตอยู่  มันเป็นกำไลมหาศาลของผมจริง ๆ ครับ...



 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-06-2011 08:01:54 โดย anop2521 »

anop2521

  • บุคคลทั่วไป
คำนิยมที่มีในหนังสือครับ..

 :L2: :L2: :L2: :L2:

คำนิยม

“และพระอาทิตย์ดวงกลมโตนั้น คล้ายจะเมินเฉยต่อคำร้องขอ...เรื่องหยุดอยู่ตรงนั้น ไม่คล้อยต่ำลับเหลี่ยมเขา...ไม่ตกดิน...ก่อนที่กิจอันพึงกระทำเสร็จสิ้น”

จากวรรคนี้ของบทแรกจากเรื่อง“อยากให้พระอาทิตย์ตกดินตอนสามทุ่มครึ่ง”  ทำให้เกิดคำถามและความอยากรู้ขึ้นทันทีว่า ตัวละครต้องการจะทำอะไรจนถึงขนาดเฝ้าร้องขอกับดวงอาทิตย์ แล้วผู้เขียนเองล่ะ ต้องการสื่อสารอะไรกับคนอ่าน?
นี่จึงเป็นเหตุผลหนึ่งทำให้เราอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับตัวละครในนั้นซึ่งมี 1 หญิง 2 ชาย คือแสงทอง สุริยา และรุ่งโรจน์
โดยปกตินวนิยายทั่วไป มักจะนำเสนอในรูปแบบของรักสามเส้า  คือให้พระนางต่างแอบรักฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ตัว  “อยากให้พระอาทิตย์ตกดินตอนสามทุ่มครึ่ง” ก็ดำเนินเรื่องในทำนองนี้เช่นกัน แต่เมื่ออ่านๆไปเริ่มรู้ว่าที่เราเข้าใจตั้งแต่นั้น เริ่มเอียงกะเท่เร่ เพราะกลายเป็นว่า ฝ่ายพระเอกกับเพื่อนชายต่างตกหลุมรักกันและกัน ในขณะที่นางเอกเฝ้าหลงรักพระเอกอยู่ฝ่ายเดียว ความสงสารเห็นใจเริ่มมาเยือน เมื่อต่างฝ่ายต่างรู้แน่ชัดถึงความในใจของตน

รุ่งโรจน์เข้ามาในชีวิตของสุริยา ทำให้สุริยาเรียนรู้ความรู้สึกที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริง ในขณะที่สุริยามีแสงทอง หญิงสาวที่แสนดีเคียงข้างอยู่ตลอดเวลา แสงทองไม่เคยปิดบังความรู้สึกแท้จริงที่เธอมีต่อสุริยา แต่สิ่งที่ได้คือเพียงความเป็นเพื่อนและพี่ชายที่แสนดี

เราชอบฉากหนึ่งในเรื่อง ความจริงก็มีอีกหลายฉากที่ประทับใจ แต่ขอพูดถึงฉากนี้ เพราะยังไม่เคยลืม แม้จะอ่านผ่านตามานานแล้วก็ตาม เป็นฉากที่แสงทองไม่สบายและสุริยาเฝ้าพยาบาลดูแลอย่างใกล้ชิด ยังจำมือที่แตะลงบนหน้าผากของหญิงสาวได้อย่างดีว่า มันให้ความหวัง ความอบอุ่นกับแสงทองมากแค่ไหนแต่แสงทองก็รู้ว่าสุริยาให้เธอได้แค่นั้น แม้จะพยายามเลี่ยง ทำเป็นมองไม่เห็นความนัยที่เพื่อนชายสองคนมีต่อกัน แต่ความจริงย่อมหนีความจริงไปไม่พ้น
ส่วนสุริยาก็พยายามถนอมความรู้สึกของคนทั้งสองควบคู่กันไป ในขณะที่เขาเองก็ต้องเยียวยาความรู้สึกของตนด้วยธรรมะ แม้รู้ว่ามันยาก แต่สุริยารู้ว่ามันเป็นทางออกที่ดีสำหรับทุกฝ่าย

สำหรับเรื่องนี้อ่านอีกครั้งก็ยังกินใจได้อยู่เหมือนเดิม ผู้เขียนใช้ธรรมะเข้าสอดแทรกไปกับเรื่องราวของคนทั้งสามได้อย่างไหลลื่น จนเราอิ่มเอมกับความคิดของตัวละครอย่างสุริยา และเราก็คิดว่าคงหาผู้ชายอย่างสุริยาไม่ได้อีกแล้วในยุคสมัยของความรักในเพศเดียวกันที่เปิดเผยมากขึ้น คงต้องยกเครดิตให้ผู้เขียนที่เขียนจนคนอ่านไม่รู้สึกรังเกียจความรักในอีกรูปแบบหนึ่งบนโลกใบนี้

สุดท้ายเรื่องราวของพวกเขาทั้งสามจะจบลงที่ตรงไหน ใครจะสมหวังในความรัก  คงให้ท่านผู้อ่านซึมซับด้วยตัวเอง เหมือนดังคำที่ว่าสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น เรื่องนี้จะดีหรือให้อะไรกับท่านผู้อ่านบ้างนั้น ขึ้นอยู่ที่ว่าใครจะหยิบจับสิ่งดีๆในนิยายเรื่องนี้ออกมาต่อยอดได้มากกว่ากัน

อยากบอกว่า “อยากให้พระอาทิตย์ตกดินตอนสามทุ่มครึ่ง”เป็นนิยายเกย์เรื่องแรกที่อ่าน และคงเป็นเรื่องเดียวที่นำเสนอในรูปแบบที่แปลกแตกต่างไปจากนิยายเกย์ทั่วไป

จึงหวังว่าท่านผู้อ่านจะให้โอกาสนักเขียน เหมือนดังเช่นสุริยาร้องขอต่อดวงอาทิตย์ที่ว่าอยากให้ประวิงเวลาไว้ เพราะกิจที่เขาพึงกระทำนั้นยังไม่เสร็จสิ้น ก็คงจะเหมือนกับเจ้าของบทประพันธ์ที่คงอยากขอโอกาสให้เขาได้นำเสนอผลงานคุณภาพ สวนกระแสนิยายรักโรแมนติกที่มีอยู่อย่างดาษดื่นทั่วไปในราชอาณาจักรนี้นั่นเอง

        แด่ความรักที่สวยงามบนโลกใบนี้
                                                                                                              โมริสา

anop2521

  • บุคคลทั่วไป
คำนิยม


   ก่อนอื่นผมต้องขอกล่าวก่อนว่า  ผมได้รับเกียรติเป็นอย่างยิ่งจากผู้ประพันธ์ที่ให้ผมได้มีส่วนในการช่วยตรวจอ่านต้นฉบับเพื่อดูคำผิดของหนังสือเล่มนี้  ทำให้ผมมีความตั้งใจในการอ่านหนังสือเล่มนี้มากกว่าหนังสือทั่วไปเป็นสองเท่า  แม้ผมจะไม่ได้เป็นคนที่รักการอ่านหนังสือจนได้ชื่อว่า “หนอนหนังสือ”  แต่ผมก็อ่านหนังสือมาก็มากมายหลายต่อหลายเล่ม  ผมขอพูดจากใจจริงของผมว่า  ผมไม่เคยประทับใจหนังสือเล่มใดมากเท่ากับหนังสือเล่มนี้เลย

   อยากให้พระอาทิตย์ตกดินตอนสามทุ่มครึ่ง  ผมอ่านชื่อเรื่องครั้งแรกคิดในใจว่าเรื่องจะดำเนินไปในลักษณะใดกันนะ  และเมื่อผมเริ่มอ่านหนังสือเล่มนี้ผมก็พบกับความประหลาดใจอย่างที่ผมไม่คิดว่าหนังสือเล่มนี้จะถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้อย่างลงตัวที่สุด  เพราะผู้ประพันธ์ได้ถ่ายทอดเรื่องราวความรักระหว่างชายกับชายที่รักกันด้วยเรื่องราวและเหตุการณ์ต่าง ๆ  ที่ทำให้หัวใจของทั้งสองผูกพันกัน  แน่นอนว่าความรักระหว่างชายกับชายในสังคมไทยนั้นยังไม่เป็นที่ยอมรับของสังคมเหมือนกับในต่างประเทศบางประเทศ  และนั้นคืออุปสรรคที่ขวางกันความรักของทั้งสองเอาไว้ แต่ที่สำคัญที่สุดของหนังสือเล่มนี้คือ  ผู้ประพันธ์กลับนำเอาเรื่องราวของพระพุทธศาสนา  ไม่ว่าจะเป็นหลักคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า  พุทธประวัติ  รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ของประเทศไทยทั่วทุกภาคมาถ่ายทอดเป็นฉาก  เป็นองค์ความรู้แก่ผู้อ่าน  จนผมคิดว่าจริง ๆ แล้วหนังสือเล่มนี้แทบจะไม่ใช่หนังสือนิยายด้วยซ้ำ  น่าจะเป็นหนังสือธรรมะ  หรือไม่ก็หนังสือท่องเที่ยวทั่วไทย  เพียงแต่มีตัวละครเข้ามาช่วยในการดำเนินเรื่องให้น่าสนใจเพิ่มมากขึ้น  และต้องยอมรับอีกอย่างว่าผู้ประพันธ์สามารถใช้ความรู้และประสบการณ์ในชีวิตมาใช้ประกอบการเขียนได้เป็นอย่างดี  รวมทั้งข้อมูลทางพระพุทธศาสนาและสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ  ซึ่งผู้ประพันธ์ต้องศึกษาและมีความรู้ในเรื่องเหล่านี้เป็นอย่างดี  จึงจะทำให้ผู้อ่านสามารถเห็นภาพของสถานที่นั้น ๆ ได้ราวกับได้ไปเห็นด้วยตาของตนเองผ่านการอ่านหนังสือเล่มนี้

   ในฐานะนักอ่านคนหนึ่ง ผมเชื่อว่าผู้ที่อ่านหนังสือเล่มนี้จะไม่ผิดหวัง  ผู้อ่านจะได้รับทั้งสาระความบันเทิง  ได้ท่องเที่ยว  ได้เรียนรู้หลักธรรมทางศาสนา  ที่สำคัญที่สุดคือ  ข้อคิดที่แฝงอยู่ในหนังสือเล่มนี้นั้นมีมากมาย  จนผมที่เป็นผู้อ่านรับมาด้วยใจและยึดปฏิบัติในการดำเนินชีวิตของผมได้ดีเป็นอย่างยิ่ง  และผมก็หวังเช่นเดียวกันว่าผู้อ่านท่านอื่นคงจะได้รับสารประโยชน์จากหนังสือเล่มนี้อย่างที่ผมได้รับเช่นกัน  เพราะหนังสือเล่มนี้เป็นมากกว่าหนังสือนิยาย

   สุดท้ายผมขออนุโมทนาให้ท่านผู้อ่านได้รับสิ่งดีจากหนังสือเล่มนี้  ได้มีความเลื่อมใสและศรัทธาในพระพุทธศาสนาเกิดขึ้นในจิตใจ  มีความรักต่อเพื่อนมนุษย์ร่วมโลกมากขึ้น  คิดและทำแต่สิ่งที่ดี ๆ อยู่ตลอดเวลา  ให้สมกับเจตนารมณ์ที่ผู้ประพันธ์ได้ตั้งใจเอาไว้  ดั่งประโยคหนึ่งที่ทิ้งท้ายไว้ในหนังสือเล่มนี้ว่า  “ชีวิตคนเราเอาแน่อะไรไม่ได้ ตายกับอยู่ อยู่ใกล้ ๆ กัน หมั่นทำบุญกุศลคุณงามความดีไว้ ตายไปแม้ไม่มีใครสร้างอนุสาวรีย์ให้ แต่ตัวเราจะเป็นอนุสาวรีย์อยู่ในใจคนอื่น ๆ ได้”

นนท์ปพัฒน์  สายทองอินทร์
 :L2: :L2:

anop2521

  • บุคคลทั่วไป
Re: ตอนที่ 30 ((เพิ่มคำ
«ตอบ #339 เมื่อ11-06-2011 08:42:16 »

ขอประชาสัมพันธ์ (โฆษณา) นิดนะครับ..

สำหรับงานแอบวาย ของผม ก็มี ไม่ต้องรักเท่าฟ้า ชอนตะวัน (เป็นเล่มแล้ว) อีกเรื่อง ก็ พระอาทิตย์ขึ้นในคืนหนาว เป็นภาคต่อตรีทศ สจ๊วตหนุ่มฯ(จากไม่ต้องรักเท่าฟ้า) กับดาราหน้าหยก..(คู่รอง ครับ แต่มีสีสันน่าดู) จะเป็นเล่ม คงประมาณก่อนเมษายนปีหน้าครับ  พบเจอ พระอาิทิตย์ขึ้นในคืนหนาว บนแผงหนังสือ หรือจะตามอ่านได้ที่บล็อกของผมหลังปีใหม่ก็ได้ครับ เขียนจบนานแล้วเหมือนกัน..อยู่ระหว่างเตรียมต้นฉบับ ปริ้นออนดีมานด์เหมือนกันคนครับ...

ขอบคุณสำหรับกำลังใจจากทุก ๆ ท่านอีกครั้งครับ..

ปล. สงสัยเหมือนกันว่า ถ้า นิยาย มีคู่ y ในเรื่องประมาณ 25% จะมาโพสต์ที่นี่ได้ไหม...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-06-2011 08:44:02 โดย anop2521 »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ตอนที่ 30 ((เพิ่มคำ
« ตอบ #339 เมื่อ: 11-06-2011 08:42:16 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






anop2521

  • บุคคลทั่วไป
ขออนุญาตนำคอมเม้นท์ของคนอ่าน หลังลงตอนจบ รวมอยู่ในเล่มหนังสือด้วยนะครับ..เป็นเีกียรติประวัติกับผมด้วย เพราะก่อนหน้านั้นที่ผมไม่ตัดสินใจเผยแผ่นิยายเรื่องนี้ก็เพราะคิดว่าไม่มีคนอ่าน แต่พี่คนหนึ่งบอกว่า มาเว็บนี้เถอะ คงมีคนชอบบ้าง...


คอมเม้นท์ของคุณ nara555
ขออนุญาตนำไปไว้ที่ปกหลัง / ส่วนคำโปรยปกหลังเดิม จะมาอยู่ที่ปกหน้าครับ..


เรียนมาเพื่อทราบ..

ชอนตะวัน

ช่วงนี้ หากมีใครจะแสดงความรู้สึกอะไรเพิ่มเติมก็ยังทันนะครับ ต้นฉบับอยุ่ระหว่างทำเล่มตัวอย่าง แก้ไขแล้วสั่งพิมพ์จริงๆ  ครับ..ที่สั่งหนังสือไว้ คงได้ก่อนเดือน ก.ค. ครับ

ออฟไลน์ tartar

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0

akanae

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องนี้เหมือนกับเวลาอ่านนิทานยังไงงั้นค่ะ คือ เหมือนกับอ่านแล้ว ได้อะไรกลับคืนมาบ้าง
เหมือนกล่อมเกลาจิตใจไปในตัวเลยทั้งเรื่องที่บรรยายการทัวร์วัดต่างๆ คำสอนต่างๆ
อืม อิ่มเอมค่ะ
ขอบคุณสำหรับงานเขียนดีๆ นะคะ

pichagan

  • บุคคลทั่วไป
ตกลงจะไม่ต่อภาค2สักหน่อยหรอคับ ให้รุ่งโรจน์ได้รู้ว่า พระสุริยา ยังไม่ตาย
แล้วทั้งสองจะได้ช่วยกัน บำรุงศาสนา ให้สืบทอดไป ใจอ่อนต่อภาค2นะครับ
ในฐานะ กัลยานธรรม นะครับ

ออฟไลน์ Horizon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-22
ขอบคุณสำหรับความรู้ที่สอดแทรก
ขอบคุณสำหรับแนวความคิดดีๆ ในการดำเนินชีวิต
รออ่านเรื่องใหม่ + เป็นกำลังใจ :L2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-06-2011 04:13:53 โดย Horizon »

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2

ออฟไลน์ nomo9

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
อยากอ่านภาคต่อเหมือนกันค่ะ จริงๆ โดยความรู้สึกคิดว่าสุริยาควรทำให้ทั้งสามคนรู้ว่าไม่ตายก่อน การไม่เปิดเผยตัวก็เป็นบาปนะคะ ทำให้คนเป็นทุกข์ อีกอย่างเท่ากับว่าตอนบวชไม่ได้ขออโหสิกรรมอ่ะ

ออฟไลน์ wowhaha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 273
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
เป็นนิยายที่ดีที่สุดเท่าที่อ่านในเล้ามาเลยครับ (นักเขียนคนอื่นอย่าน้อยใจนะ)
ได้ความซาบซึ้งใจ ท้อใจ รัก ผิดหวัง อาลัย ทุกตอนละเมียดละไม
นานๆ จะได้อ่านนิยายเชิงศาสนาอย่างนี้ เป็นกำลังใจให้กับคนแต่งครับ
เดี๋ยวจะส่งเมลล์จองนิยายไปนะครับ
หวังว่าคงจะมีนิยายดีๆ อย่างนี้มาให้อ่านอีกนะครับ
ขอบคุณครับ

kungfoopungpon

  • บุคคลทั่วไป
Re: ตอนที่ 30 ((เพิ่มคำ
«ตอบ #348 เมื่อ14-06-2011 22:47:30 »

 :sad11:   
สนุกดีครับแต่เศร้านิดๆเฮ้อ..........
ประทับใจมากครับแล้วจะรอภาคต่อ
ถ้าสองคนสมหวังกันในภาคต่อนี้จะ
จะขอบพระคุณอย่างยิ่ง(ไม่อยากเศร้าอะ)


ขอบคุณคนเขียนไว้จะติดตามผลงานต่อไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-06-2011 22:53:25 โดย kungfoopungpon »

anop2521

  • บุคคลทั่วไป
หลังจาก รุ่งโรจน์-สุริยา สร้างความสะเทือนใจให้กับเพื่อนนักอ่านกันไปแล้ว...ทีนี้ คนสร้างพวกเขาขึ้นมา ก็ต้องรับผลกรรมจากการเขียนนิยายเศร้า..มีทั้งข้อความตรงนี้ บวกกับที่อีเมล์ เรียกร้องให้ต่อภาคสอง หลาย ๆ วันมานี้ ระหว่างจัดทำรูปเ่ล่มตรวจทานคำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า..ผมก็ค่อย ๆ คิดพล็อต เพื่อให้เป็นภาคสมบูรณ์ภาคสมหวัง ภาคอิ่มเอม ของตัวละครสองตัวนี้ไปด้วย..

แต่ว่า ถ้าจะเขียนต่อ พระคงไม่ได้สึกออกมาให้เสียสัตย์ และคุณชายรุ่งโรจน์ก็คงไม่ได้บวชหรอกครับ เพียงแต่ใจที่เป็นทุกข์ของทั้งสองฝ่ายคลายลง

พระได้ขอขมา รุ่งโรจน์ก็รู้ว่าพระอาทิตย์ที่ตกดินไปแล้วนั้น ไม่ได้หายลับไป เพียงแต่ไปยังแสงสว่างอีกซีกโลกหนึ่ง..ภาคสองนี้ (ถ้าได้เขียน) จะเป็นภาคที่รุ่งโรจน์เป็นตัวเดินเรื่องครับ เพราะเรื่องอยากให้ฯ เล่าเรื่องผ่านสุริยา คนเดียว ภาคสองจะเป็นภาคความสุขของ แสงทอง กับครอบครัว ..และก็ภาคที่รุ่งโรจน์ต้องต่อสู้กับกิเลสตนเอง เพื่อจะำำดำรงตนอยู่ในสังคมได้อย่างสง่า แต่ภาคนี้คนอย่างรุ่งโรจน์จะถลำตัวและใจไปให้ใครนั้น อยุ่ในระหว่างสร้างพล้อตให้ต่อเนื่องครับ..

ยังไม่มีอะไรสรุปแน่นอน แต่ว่า แอบตั้งชื่อเรื่องไว้ว่า "พระอาทิตย์หลังฝน" ครับ..

ปล. คงผ่อนใจที่ทุกข์ของเพื่อน ๆ ลงได้นะครับ
ปล.2 อยากให้ฯ เขียนไว้ตั้งแต่ตอนยังไม่ได้เป็นนักเขียนอาชีพเต็มตัว ตอนนั้นเขียนแบบมือสมัครเล่น แต่ว่าตอนนี้ งานล้นมือมากมาย.คงจะช้าหน่อยนะครับ..แต่จะพยาย้ามพยายาม..เพื่อความสุขของคนอ่านครับ..

ปล.3 ถ้าพล้อตผ่าน ขอเสียงสนับสนุนด้วยครับ... :กอด1: :z2: :z2: :z2: :z2: :bye2: :bye2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






pichagan

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณครับที่ฟังเสียงสะท้อนจากคนอ่าน พล๊อตเรื่องผ่านครับ ถ้าพระสุริยามีความสุขในเพศบรรพชิต ขอให้รุ่งโรจน์เข้าใจธรรมมะแล้วก็เป็นคนที่ใช้ชีวิตในรูปแบบของคนธรรมดาแต่ผ่านการขัดเกลาจากกิเลสทั้งหลาย ยังไงก็ขอให้รุ่งโรจน์ มีความสุขในสิ่งที่เขาเป็นนะครับ ไม่อยากให้รุ่งโรจน์ ฝืนความรู้สึกของตัวเอง และก็ไปทำร้ายความรู้สึกของผู้หญิง มันเป็นบาป หวังไว้อย่างมากๆครับว่าภาคต่อเรื่องนี้ จะมีความสุขทั้งตัวละคร คนเขียน แล้วก็คนอ่านครับ
ขอบคุณมากๆนะครับ

พิชกานต์

ออฟไลน์ dragonnine

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 504
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-16

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
กดบวกและให้ผ่านค๊า ใจอยากแค่ให้พระได้พ้นจากบ่วงเดิมนี้ค่ะ หนทางพระนิพพานจะได้ไม่ไกลเกินไป ^^

ออฟไลน์ SACK

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
ขอบคุณท่านนักเขียนและจะรออ่านภาคที่สองนะครับ :pig4:

Verxus

  • บุคคลทั่วไป
ขออภัยที่มาตอบช้าจ้า เนิ่นนานแล้วที่เราไม่ได้เช็คเมล์
เปิดมา เอ๊ะ เมสเซจ... อ่านจบ... หน้าเรา >>>  :a5:
me\ลงไปดิ้น 8 แสนรอบ กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
55555+ กรรมของคนเขียนแท้ๆ แอบสะใจ มีความสุขบนกรรมคนอื่นจะบาปมั้ยคะเนี่ยยย  :laugh:
ผ่านมาเป็นสัปดาห์เริ่มๆทำใจได้แล้ว แต่ๆๆๆ คุณคนเขียนได้โปรดเขียนต่อสนองนี้ดเถอะนะคะ  :impress2:
พล็อตผ่านโลดค่า แค่คิดจะมาเขียนต่อก็ขอบคุณมากแล้วค่ะ
แนวคิดที่พระอาทิตย์ตกไปแล้วไปสว่างอีกซีกโลก โรแมนติกมากๆเลยค่ะ ฟังดูลึกซึ้งมากๆ โฮววว คิดได้นะคะ  o13
จะรออ่านนะคะ อยากอ่านมุมมองของคุณรุ่งบ้าง เพราะโดยส่วนตัวแล้ว เราชอบคุณรุ่งสุดในเรื่องแล้วค่ะ
แอบมาสะดุดกึ้กตรงถลำใจ จะมีนายเอกคนใหม่มาคู่หรือคะ แบบว่าแอบหึงแทนคุณยะแฮะ ถ้าคุณยะไม่ได้คู่กับคุณรุ่ง เราก็ไม่อยากให้คู่กับใครเลยอ่า อยากให้คู่กับผู้หญิงมากกว่าด้วยซ้ำค่ะ (แต่ขืนเป็นแบบนั้นมันก็ไม่ใช่นิยายวายสินะๆ)
ขอบคุณมากๆเลยนะคะ จะรอติดตามนะคะ  :pig4: :3123: :call:  :mc4:

ออฟไลน์ MRchai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 286
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
เราเข้าใจน๊ะว่าจบแบบนี้ดีที่สุด แต่ ร้องไห้ตลอด :monkeysad:

อยากให้มีภาค 2 ไม่อยากให้ใครผิดหวังอี มัน เศร้า  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ ♠♥♦♣

  • ex-ChCh13
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1612
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-7
อ่านพล็อตภาคสองแล้วทำไมยังรู้สึกแอบเศร้าและอึดอัดทรมานใจเหมือนภาคแรกเลยอ่ะ
นิยายอะไรนี่อ่านแล้วอึดอัดกดดันอ่ะ สงสัยเราจะสู้กับกิเลสของตัวเองไปด้วยเหมือนกัน อินจัด555

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
มาแสดงตัวว่าได้รับหนังสือแล้วค่า
ชอบมากๆ เลย ตัดโตอ่านสบายตา อิอิ
ขอบคุณอีกครั้งและเฝ้ารอภาคต่อค่า

gear

  • บุคคลทั่วไป
หลังจากที่ได้รับหนังสือเรื่องนี้แล้ว ก็เริ่มอ่านเลยค่ะ
ไม่เคยอ่านในบอร์ดเลย เพราะไม่ค่อยมีเวลา
จะมีเวลาอ่านเฉพาะเวลานั่งรถบริการของที่่ทำงาน ช่วงเช้าและเย็น
ประทับใจกับเรื่องนี้มาก ๆ พอ ๆ กับสงสารบุคคลทั้งสาม คือ สุริยา รุ่งโรจน์ และแสงทอง
แต่ตอนหลังแสงทองยังมีโอกาสได้สมหวังกับความรักครั้งใหม่
จะหาบุคคลอย่างสุริยาได้อีกหรือเปล่า ที่รู้จักใช้สติและยับยั้งชั่งใจกับเรื่องของความรัก
แต่เป็นความรักที่สังคมไม่ยอมรับ เหตุเพราะสุริยาบวชตั้งแต่ยังเป็นเด็ก บวชมานาน
เลยทำให้พระุพุทธศาสนาขัดเกลาจิตใจของสุริยาให้มีสติ รู้จักผิดชอบชั่วดี
สุริยาเปรียบเสมือนดอกบัวที่โผล่พ้นน้ำ เพราะรู้จังยั้งคิด และรู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควร
แต่ยังไงก็ยังสงสารทั้งสุิริยาและรุ่งโรจน์อยู่ดี
แอบเชียร์ในใจเหมือนกันว่าอยากให้ทั้งคู่สมหวังและได้ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข
แต่ในชีวิตจริงแล้วก็คงจะเป็นไปได้ยาก เพราะรุ่งโรจน์เป็นบุคคลที่เป็นที่รู้จักในวงสังคม และ
ที่สำคัญที่สุดก็คือครอบครัวนี่แหละ โดยเฉพาะแม่ของรุ่งโรจน์เป็นปราการที่สำคัญที่สุดในเรื่องนี้
สรุปแล้วการดำเนินเรื่องมาถึงตอนสุดท้ายเป็นอย่างนี้ก็ดีที่สุดแล้ว
ขอบคุณผู้แต่งมาก ๆ นะคะที่มีการรวมเล่มจำหน่าย
ทำให้สามารถอ่านผลงานที่ดีเยี่ยมอย่างนี้ได้ และเป็นเรื่องโปรดในดวงใจไปแล้วค่ะ
สามารถที่จะหยิบมาอ่านได้อีกหลาย ๆ ครั้ง


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด