เราสองคนเจอกันในคอนเสิร์ต ‘โยกหัวแทบหลุด’ หนุ่มหน้าใสผมยาวเหยียดตรง ที่โยกอย่างเมามันในคอนเสิร์ตมันยังติดตาผมอยู่เลย เรามักเจอกันในคอนเสิร์ตเพลงแนวนี้บ่อยๆ มองกันไปกันมาจนเราเริ่มสานสัมพันธ์จากคนคอเดียวกัน รสนิยมเดียวกัน จนล่วงเลยมาเป็นคนคนเดียวกันก่อนที่จะลงตัวเรื่องใครรุกใครรับได้ก็เหนื่อยเอาการแต่ด้วยความรักผมจึงยอมที่จะรับแม้มันจะเจ็บทั้งตัวและศักดิ์ศรีแต่เพราะคำว่ารักคำเดียวนี่แหละที่สามารถ
เรารักกันดีมาเกือบปีที่ผ่านมาทะเลาะกันบ้างตีกันบ้างแต่ก็ไม่เคยโกรธกันนาน สามีหน้าหวานที่ชอบขู่ฟ่อๆ เวลาไม่ได้อย่างใจแต่ผมกลับเห็นมันน่ารักซะเหลือเกิน และทุกครั้งที่มีไรกันก็ถึงใจจนแทบสลบคาอกกันทุกที แต่ช่วงนี้สามีเปลี่ยนไป ทุกวันศุกร์จะมาที่หอผมดึกขึ้น ไม่ค่อยมีเวลาให้ผมเหมือนแต่ก่อนชอบหมกตัวกับเครื่องคอมบางทีแชทกับใครก็ไม่รู้ครั้งละนานๆ แถมบางครั้งยังนั่งถอนหายใจวันละสามสี่ตลบ
“มอส กินข้าวกันเถอะ อาร์หิวแล้ว” นี่ก็เย็นมากแล้วมันยังไม่ห่างจากหน้าจอคอมซักที่
“อือ อาร์ไปกินก่อนเลยฝากซื้อเผื่อเราด้วย โทษทียังติดพันอยู่” นั้นไงครับแล้วผมก็ต้องไปกินข้าวคนเดียวอีกแล้วทั้งที่แค่เสาร์อาทิตย์เท่านั้นที่เราจะได้อยู่ด้วยกันมันเป็นแบบนี้มาเกือบเดือนแล้วช่วงแรกๆยังไม่เท่าไหร่แต่ตอนนี้มันมากขึ้นทุกทีละ แล้วนี่ผมจะทำยังไงดี
################
‘ … --- …’ จาก ‘ เพื่อ .-. ’ มาอีกแล้วไอ้ข้อความประหลาดที่จะมีส่งเข้ามาในเครื่องก่อนที่ มอสจะแว๊บออกไปโทรศัพท์หาใครคนนั้นบางที่ก็นานเป็นครึ่งๆ ชั่วโมงกว่าที่จะวางสาย วันพรุ่งนี้เป็นวันที่เราคบกันครบหนึ่งปี แต่มอสก็ยังวุ่นวายอยู่แต่กับคอมและโทรศัพท์ตลอดเวลาจนตอนนี้ก็ปาเข้าไปห้าทุ่มเข้าไปแล้ว นี่ถ้าผมเดินออกจากห้องนี้ไป ผมว่ามอสก็คงไม่ได้รู้มั้งว่าผมไม่อยู่ แต่ก่อนที่ความน้อยใจจะทำให้ผมตัดสินใจเดินออกไปจริงๆ มอสก็เลิกคุยโทรศัพท์
“อาร์วันนี้เราออกไปข้างนอกกัน เถอะ”
“จะไปไหนนี่มันห้าทุ่มแล้วนะเราขี้เกียจออก”
“น่านะ เรามีอะไรให้อาร์ช่วยหน่อย เราไม่รู้จะทำไงดี พอดีเพื่อนเรามันมีเรื่องเดือดร้อนมากๆ เลย อาร์ไปเป็นเพื่อนเราหน่อยได้มั้ย นะนะช่วยเราหน่อย” สายตาอ้อนๆ ที่ไม่ได้เห็นมาหลายอาทิตย์ มันก็ทำให้ผมใจอ่อนออกไปกับมันจนได้
เราไปถึงคอนโดแห่งหนึ่งในเวลาเที่ยงคืน เราสองคนขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้นห้าแล้วมอสก็พาผมไปที่ห้อง ที่เปิดประตูไว้พอเราเข้าไปด้านใน
“ปั๊ง ปุ้ง ปัง” เสียงระเบิดของสายรุ้งงานปาร์ตี้ ก็ดังขึ้น มันทำเอาผมสะดุ้ง พอมองไปรอบๆ ตัวก็เห็นเพื่อนสองสามคนของมอสยืนยิ้มอยู่ “ยินดีด้วย มีความสุขมากๆนะ” เพื่อนคนนึงเดินเข้ามาส่งกุญแจให้แล้วตบไหล่มอส และอวยพรให้เราสองคน แล้วทุกคนก็พากันออกไป ผมเอาแต่มองมอสด้วยความงง พอประตู้ห้องปิดตามหลังเพื่อนคนสุดท้าย มอสก็ดึงตัวผมเข้าไปกอดเอาไว้
“เราขอโทษที่ทำให้อาร์กังวล เราแค่อยากให้วันครบรอบหนึ่งปีของเราสองคนมันประทับใจอาร์ที่สุด” มอสผายมือให้ผมมองห้องนั้น
“ อะแฮ่มๆ นี่คือคอนโดที่เราเอาเงินเก็บบวกกับเงินเดือนและเงินทำงานพิเศษที่เราทำมาตลอดหนึ่งปีตั้งแต่เราคบกันมาซื้อไว้ เพื่ออาร์ที่รักเราและอาร์ที่เรารัก เพื่ออาร์ที่ยอมเป็นรับเพื่อเราทั้งที่ก็คงอยากรุกเหมือนกัน” น่านสายตาออดอ้อนวิ้งวั้ง พร้อมกับเดินเข้ามากอดผมไว้ แต่ผมพูดอะไรไม่ออกเลย ได้ก้มหหน้าซบอยู่กับอกแล้วซึมซับเอาคำพูดของมอสเข้าสู่สมอง
“ เราก็เลยคิดว่าเมื่ออาร์ยอมเรามามากขนาดนี่ แล้วเราล่ะเราจะเป็นฝ่ายที่เอาเปรียบความรักที่อาร์มีให้กับเราอยู่ฝ่ายเดียวได้ไง เราเข้าใจว่ามีหลายสิ่งที่เรามองข้ามทั้งความรู้สึกของอาร์ทั้งอะไรหลายๆอย่าง เราคิดแค่ว่าแค่เรารักอาร์แล้วอาร์รักเราก็พอ แต่เราก็คิดได้ว่าว่าแค่นั้นมันไม่น่าจะพอ วันนี้วันที่เราคบกันมาครบหนึ่งปีเราจะเป็นฝ่ายรับเพื่ออาร์บ้าง” ประโยคนี้ทำเอาผมต้องเงยหน้าขึ้นมองหน้ามอสทันควัน
เราไม่เคยนอกใจหรือมีคนอื่น เรารักอาร์คนที่รักเรามากมายคนนี้คนเดียวเท่านั้น” มอสอุ้มผมจากหน้าประตูเข้าไปในห้องนอน
“ทุกครั้งที่เราเจอกันมันก็เหมือนกับเราเริ่มมีอะไรกันครั้งแรกทุกที เรารู้ว่าอาร์เจ็บถึงมันจะไม่มากเท่าครั้งแรกจริงๆ แต่ก็เจ็บ” เสียงนุ่มกระซิบอยู่ข้างหู
“อาทิตย์นึงเราจะเจอกันก็แค่เสาร์อาทิตย์เท่านั้นเราอยากหาที่ที่เราสองคนไม่ต้องลำบากเวลาเดินทางเพื่อให้เราสองคนได้อยู่ด้วยกันทุกวัน จนวันนี้เราก็ทำได้แล้ว อาร์อย่าโกรธเราเลยนะ มอสรักอาร์นะรักมาก มากที่สุดครับ” มอสวางผมลงบนเตียงหนานุ่ม แล้วตามมาทาบทับผมไว้ด้านบน
“มอสไหนว่าจะยอมให้อาร์ทำไง” ไหนว่าจะรับแค่เริ่มก็คร่อมผมซะละ แล้วผมก็เลยถือโอกาสผลักมอสให้เป็นฝ่ายนอนลงกับที่นอนบ้าง ผมยาวๆ ของมอสสยายอยู่บนหมอน
จริงๆก็มีอะไรมากมายที่อยากถามแต่ก็เสียดายช่วงเวลาแห่งมนต์ขลังหวานๆที่นานจะมีที จนปล่อยเลยตามเลยไปก่อนดีกว่า
ผมเริ่มจูบเบาๆ ที่ริมฝีปากจูบไปทั่วหน้าไล่ตามลงมาที่ลำคอ แล้วกลับมาจูบทีปากอีกครั้งครั้งนี้เป็นจูบที่ดูดดื่มและเรียกร้องการตอบสนอง
“อือ อ๊ะ ” เมื่อผมเลื่อนริมฝีปากลงไปที่หน้าอกทั้งสองข้าง
“ฮ้า อ” เสียงครางยิ่งเพิ่มมากขึ้น เมื่อผมทั้งขบทั้งเม้มเพิ่มความเสียวด้วยการเลียเบาบ้างแรงบ้างไปเรื่อยๆ มือสองข้างของมอส จิกอยู่ที่ผ้าปูที่นอน
“ อ้า อืม ม อ๊า” เมื่อผมเลื่อนตัวตัวต่ำลงจนครอบครองน้องชายที่ตื่นตัวเต็มที่ของมอสไว้ในปากของผม ผมค่อยละเลียดชิมแท่งไอติมอวบๆนั้นอย่างช้าๆ ตวัดลิ้นเลียไปรอบๆ ดูดเบาเรียกเสียงครางสนั่นในลำคอจากมอสได้เป็นอย่างดี มอสเกร็งตัวต้านรับความเสียวสยิวที่ผมกำลังทำจนร่างกายทุกส่วนเกร็งเขม็งแต่ก่อนที่เค้าจะปลดปล่อยออกมาผมกลับหยุดทุกการกระทำแล้วเคลื่อนตัวขึ้นไปจูบปากกับเค้าอีกครั้ง ผมนั่งคร่อมมอสที่ช่วงเอว
“พร้อมแน่นะ” เค้าไม่ได้ตอบเป็นคำพูดเค้าแค่พยักหน้าเหมือนทำๆ ไปเหอะ ผมเลยเลื่อนตัวลงแล้วยกก้นขึ้นเพื่อรับเค้าเข้ามาในตัวผมจนหมดก่อนที่จะขยับตัวให้เร็วขึ้นแรงขึ้น
“ทำไม...”
“ชู่..” ผมเอื้อมมือไปปิดปากเค้าไว้
“ขยับสิ ทำให้เรามีความสุขเหมือนทุกครั้งนะ” มอสเลยไม่ถามอะไรต่อ เมื่อผมกดตัวลงเค้าก็ยกสะโพกขึ้นรับ เค้าปล่อยให้ผมเป็นผู้นำ ผมขย่มอยู่บนตัวเค้าจากช้าๆเป็น แรงขึ้นเร็วขึ้นตามแรงอารมณ์ เค้าทำตามที่ผมร้องขอตลอด จนเราทั้งสองคนปลอดปล่อยออกมาพร้อมกัน เมื่อผมซบทับลงไปนอนหอบที่อก เค้ากอดผมแน่นมาก เวลาผ่านไปจนลมหายใจเรากลับมาเป็นปกติ
“ทำไมไม่ทำล่ะ”
“ไม่ต้องหรอกแค่นายรักเรา ทำเพื่อเราแค่นี้ก็พอแล้ว จะรับหรือรุกก็ไม่สำคัญ” มอสกอดผมแรงๆ ทีนึง ผมเงยหน้ามองและพูดต่อ
“แต่เรายังสงสัยไอ้ข้อความจุดๆขีดบ้าบอในโทรศัพท์นายอยู่นะอธิบายมา”
“หึหึ กลัวเรามีคนอื่นหรือไง” จนผมต้องส่งสายตาเขียวๆไปเตือนนั้นแหละ
“ข้อความที่ส่งมาคือsos จาก เพื่อ r ความหมายคือ จุดและขีดชุดแรกคือ sos จุดและขีดหลังคำว่าเพื่อก็คือ R ครับ ปฏิบัติการเซอร์ไพรส์ครั้งนี้ชื่อว่า ‘มอส sos เพื่อ R (...---... เพื่อ .-.)’ ไอ้จุดๆ ขีดๆ นั้นเป็นรหัสมอสครับ เป็นรหัสที่มอสกับไอ้พวกนั้นใช้ติดต่อกัน มอสเปลี่ยนชื่อเพื่อนพวกนั้นเป็นเพื่อ r หมดเลยแล้วให้มันยิงมาหรือข้อความ ...---... มาแล้วมอสจะโทรกลับไป เท่านั้นจริงๆนะ” เค้ามองหน้าผมดูว่าผมจะว่าอย่างไรต่อ
“เชื่อก็ได้” เค้าถอนหายใจออกมาดังๆที่นึงแล้วกอดผมแน่นอีกที
“นอนกันนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องเหนื่อยไปย้ายของกันอีก”
“ฮือ” สงสัยต้องไปพึ่ง Google หา รหัสมอสมาเก็บไว้ซะแล้วเผื่อมีอีกจะได้แกะรหัสออก
The end