หลังจากกระแสตอบรับของตั้มชดดีจริงๆ
ทางคนเขียนเลยต่อในแบบฉบับของพี่หวาน ในฝั่งของพี่ชดนั่นเอง
อ่ะ อ่านต่อดีก่า
SPACIAL TUM-CHOT 1
(SPECIAL TUM-CHOT 2)
ติ๊ดตี่ ตะลิด ติ๊ดตี่ ตะลิด ตะลิด ส่ายตูดดุ๊กดิ๊ก ส่ายหัวด๊อกแด๊ก ฮัลโหล สักกะนิด สักกะติ๊ด คนดี
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น กูแต่งเอง เสียงกูเป็นคนร้องและอัดไว้เป็นเพลงเรียกเข้าเองนั่นแหละ ซึ่งหากมีเพื่อนคนไหนได้ยิน จะต้องมีคำถามตามมาตลอด“เพลงเหี้ยไรของมึง”หรือ “เพลงส้นตีนไรวะ” ตามมาด้วยเสียงหัวเราะ
‘เพลงกูออกจะเลิศ หัวเราะส้นตีนไรหนักหนาวะ ’
กูไม่ค่อยเข้าใจ แค่นี้ก็หัวเราะบ้ารึป่าว
เสียงโทรศัพท์ดังอยู่สักพัก กูจึงตัดสินใจคว้าโทรศัพท์มากดรับ อย่างรำคาญ
“ที่ไหนโทรมาวะ”กูพูดนิ่งๆ รบกวนเวลาคิดปรัชญาชีวิตของกู
“นั้นชดรึป่าว กูตั้มนะ”
“ตั้มไหนวะ” =*= มึงเป็นใคร กูไม่รู้จักมึง
“ตั้มเพื่อนไอ้โจน่ะ”
“เออ เพื่อนไอ้โจ แล้วโทรหากูทำไม โทรหาไอ้โจสิวะ โง่นะมึง ”
“สัด ตกลงมึงจะให้กูสอนมึงมั้ยกีตาร์น่ะ กวนตีนนะไอ้เหี้ย”ไรวะ รู้จักกันรึก็ไม่เสือกมาด่ากูอีก
“กูมีคนสอนแล้ว”
“ใคร?”
“เออว่ะ กูลืม ใครวะ”มีคนว่ามันจะสอนกีตาร์ให้กูนี่แหละ เหมือนจะเป็นเพื่อนไอ้โจด้วย
“คนที่กลับบ้านพร้อมมึงตอนเย็นน่ะเหรอ”
“เฮ้ย!!! ไอ้เหี้ยหลอนสัด มึงรู้ได้ไงวะ”มึงรู้ได้ไงวะ กูตกใจจริงๆนะเว้ย ทำไมมันรู้วะ น่ากลัว ขนลุกเลยสัด
“เผื่อมึงจะไม่รู้ กูกับมันน่ะคนเดียวกัน”
“อ้าวเหรอวะ แล้วไม่บอกกูแต่แรก”
“ได้ข่าวว่ากูบอกมึงแล้ว”เสียงมันบอกเซ็งๆ
“ควายนะมึง ถ้ามึงบอกกู กูก็รู้แล้วดิ”
“เออๆ เบื่อเถียงมึง แล้วตกลงมึงว่าไงเรื่องที่จะให้กูสอนกีตาร์น่ะ ”
“แล้วแต่มึง”กูจะไปทำอะไรได้ถ้ามึงไม่สอนน่ะ
“งั้นกูสอนมึงหลังเลิกเรียนวันละชั่วโมงดีมั้ย”
“แล้วแต่มึง”ตามใจมึงเถอะ ถ้ามึงไม่มีเวลากูก็ว่าไม่ได้อยู่ดี
“มึงไม่มีกีตาร์ใช่มั้ย งั้นเดี๋ยวกูเอากีตาร์ไปให้มึงยืม”
“แล้วแต่มึง” รู้ได้ไงวะว่ากูไม่มีกีตาร์แต่กูก็ไม่มีจริงๆ เอาเถอะแล้วแต่มึงจะกรุณา
“มึงจะเลี้ยงข้าวเที่ยงรึข้าวเย็นกูดี รึกูจะกินไอติมดีวะ”
“แล้วแต่มึง”มันคงหมายถึงของตอบแทนที่มันสอนกู มันก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรมากให้แค่กูเลี้ยงของกิน ตามใจมันมันคงไม่กระเพาะควายหรอกมั้ง
“กูว่ากูจะเอามอไซค์ที่บ้านไปใช้ งั้นสอนมึงเสร็จมึงกลับบ้านพร้อมกูเลยมั้ยวะ เดี๋ยวกูแวะส่ง”
“แล้วแต่มึง”ทางผ่าน? ประหยัดช่วยชาติก็ดี
“งั้นมึงไปแดกขี้ในส้วมบ้านกูให้ด้วยสิวะ”
“แล้วแต่มึง อะ!! ไอ้เหี้ย”สันดาน เห็นกูตอบเพลิน แล้วกวนตีน
“อะไรๆก็แล้วแต่กูๆ สมองมีไว้หัดใช้บ้างนะคร้าบ ”มันหัวเราะโคตรดัง สันดาน กวนส้นตีนพอกันเลยเพื่อนไอ้เหี้ยโจ
“กวนตีน มึงเป็นคนสอน กูต้องตามใจมึงสิวะ” ไรวะ แค่นี้ก็ไม่เข้าใจ
“โกรธกูเหรอวะ ฮ่าๆ กูแค่แซวขำๆ ก็มึงฮาดี”ใครไปโกรธมึง คิดเองเออเอง ตลกว่ะ
“อะไรของมึง”
“พรุ่งนี้เดี๋ยวกูไปรับนะ”
“รู้จัก?”กูหมายถึงมันรู้จักบ้านกูด้วย
“เออ มึงบอกกูอย่างละเอียดแล้วว่าบ้านมึงอยู่ไหน พรุ่งนี้เดี๋ยวกูไปรับ”มันตอบซะกูงง กูไปอธิบายมันตอนไหนวะ ไว้มันมาไม่ถูกมันคงโทรถามก็เองละมั้ง
“เออๆ ”กูบอกปัดๆ
“มึงทำไรอยู่”กูนึกว่าจะวางยังจะสาระแนถามกูต่ออีกนะ
“โทรศัพท์”ถามแปลกๆ กูคุยโทรศัพท์กับมึงจะให้กูทำอะไรล่ะ สันดาน คำถามปัญญาอ่อน
“ไม่ใช่ กูหมายถึงนอกจากโทรศัพท์แล้วมึงทำไรอยู่”
“ก็โทรศัพท์” ไรของมันวะ
“อ้อ มึงไม่ได้ทำอะไร” ไอ้สัด ชอบคิดเอาเออเองจริงๆ
“ไม่ใช่ กูกำลังคุยโทรศัพท์” ไอ้เหี้ย กูบอกอยู่ว่ากูกำลังโทรศัพท์แถมยังคุยกับมึงด้วย แม่งควาย แดกหญ้าบ่อยรึไงวะ
“ครับๆ โทรศัพท์ก็โทรศัพท์ นี่มึงเข้าใจยากรึกูโง่วะ” กูไม่เห็นว่ากูจะเข้าใจยากตรงไหน มึงแหละควาย
“มึงโง่”
“ไอ้สัด คิดก่อนตอบบ้างก็ได้ ตอบซะไว”เสียงมันพูดไปขำไป
“ความผิดกู?”
“คุยกับมึงแล้วคลายเครียด แม่งฮาว่ะ ไว้กูจะโทรมาคุยด้วยบ่อยๆนะมึง”มันยังหัวเราะไปพูดไป สงสัยแม่งขำจริงๆ อะไรของมันวะ
“จะทำอะไรก็เรื่องของมึงเถอะ”
“พรุ่งนี้กูไปรับนะ รอกูด้วยห้ามไปก่อนกู”
“เออๆ ”
“ดึกแล้ว พอกูวางมึงก็นอนเลยนะ”
“ยุ่งไรกับกูเนี๊ยะ” กูอยากนอนกูก็นอนเอง ไม่ให้ใครมายุ่งยากกับกูหรอก
“เดี๋ยวพรุ่งนี้มึงตื่นสาย ให้กูไปรับแล้วได้ไปเลยไม่ใช่ว่าต้องมาปลุกมึง”
“เออ!!”
“ฝันดี”
“เออๆ ฝันดี”
“เออ พรุ่งนี้เจอกัน ”
แล้วมันก็วางโทรศัพท์ไป กูนอนมองมือถือของตัวเองอย่างงงๆ อะไรของมันวะ บ้าบอ
จริงๆแล้วกูไม่ค่อยแน่ใจตัวเองว่ากูเป็นคนเอาแต่ใจตัวเองรึว่ากูเป็นคนตามใจคนอื่น มันคงขึ้นอยู่ที่ว่าตอนนั้น ณ เวลานั้น กูอยู่ในอารมณ์ไหน
อย่างตะกี๊ไอ้ตั้ม มันว่าจะมารับ จะทำโน่น ทำนี่ หลายอย่าง อยากทำก็ทำกูตามใจ กูไม่ได้เดือดร้อนก็ปล่อยไป แต่เวลากูเอาแต่ใจ โคตรของโคตรอะ ดื้อสุดยอด กูรู้ตัวแต่นั่นมันก็เรื่องของกู
จากวันนั้นก็ผ่านมาเป็นอาทิตย์
เป็นเดือน
เป็นหลายเดือน
ตอนนี้กูเล่นกีตาร์พอเป็นบ้างแล้ว กูก็เกรงใจจะให้มันเลิกสอน แล้วก็ไม่ต้องมารับมาส่งกูก็ได้ แต่มันบอกว่าไม่สอนก็ได้ ส่วนเรื่องมารับมาส่งน่ะไม่เป็นไร ยังไงบ้านกูก็ทางผ่านบ้านมัน มันว่าอย่างนั้น ตามใจแล้วกันวะ แม่งกูไม่ได้เดือดร้อน
ไอ้ตั้มมันยังคงมารับส่งกูทุกวัน โทรคุยกับกูทุกวัน มันว่ากูกับมันอยู่คนละชั้นเจอกันคุยกับนิดเดียวมันเลยโทรมาคุยเพิ่ม กูไม่ได้ถามมันสาระแนบอกของมันเอง ส่วน เสาร์อาทิตย์ก็มาขลุกอยู่กับกู หรือไม่ก็ลากกูไปขลุกอยู่กับมันจนกูสนิทกับมันเหมือนสนิทกับไอ้โจ ไอ้ต้น ช่วงหลังๆมานี่กูอยู่กับมันมากกว่าไอ้ต้นกับไอ้โจอีก จะว่าไปพอกูมีเรื่องอะไรไม่สบายใจกูก็เล่าให้มันฟังตลอด กูไว้ใจมัน
มันอายุมากกว่ากู กูรู้ แต่กูพอใจจะไม่เรียกมันว่าพี่ ไม่มีเหตุผล กูแค่พอใจ
“เฮ้ย เหี้ยชดไปดูหนังกัน กูนัดพวกไอ้โจ ไอ้ชัยกับไอ้ต้นไว้แล้ว”เสียงมาก่อนตัวอีก ไอ้ตั้มมันเข้าออกบ้านกูจนเหมือนบ้านตัวเอง พ่อแม่กูมันก็เนียนยังกับเป็นพ่อแม่ตัวเอง ไม่มีหรอกการเคาะประตู เพราะมันไม่เคยทำ มีแต่ถือวิสาสะเปิดเข้ามาเองทุกครั้ง ซึ่งกูก็ไม่ได้ว่าอะไร ชิวๆ
“แต่งตัวสิวะ กูขอพ่อแม่มึงให้แล้ว ไปอาบน้ำไปช้าไอ้เหี้ยโจมันจะด่าให้”
“ถามกูยัง?”กูหมายถึง ถามกูรึยังว่ากูจะไปด้วยมั้ยไอ้เหี้ย
“มึงจะให้กูอาบให้มั้ย”มันยังไม่สนใจ เป็นสันดานงี้ตลอด นึกอยากมาลากกูไปไหน มันก็ทำ สัด
กูไม่ตอบแต่ลุกไปอาบน้ำ รุงรังกูจริงนะมึง เฮ้อ
คือที่ว่าจะไปดูหนังกันน่ะ พวกมันแค่อยากจะดูหนังแต่ไม่ได้คิดว่าจะดูเรื่องอะไร ไปถึงแล้วค่อยเลือก
แล้วเป็นไง
มันสามคนอยากดูกันคนละเรื่อง เถียงกันอยู่ก่อนหน้าที่กูกับไอ้ตั้มจะมา พอกูมาก็จะให้พวกกูตัดสินว่าจะเอาไง
หนังที่ไอ้ตั้มจะดูน่ะ เรื่องบู๊ๆสืบสวนสอบสวน
ไอ้ชัยเพื่อนสนิทอีกคนของไอ้โจจะดูหนังผี
ส่วนไอ้ต้นมันอยากดูหนังแอนิเมชั่น
พอกูดูโปรแกรม กูอยากดูหนังไซไฟ ส่วนไอ้ตั้มมันอยากดูเหมือนกู
ตกลงกันไม่ได้ กูไม่ได้เถียงพวกมันหรอก กูยืนดูเฉยๆ พร้อมทำหนังหน้าเซ็งๆ
“พอๆ พวกมึงจะเถียงกันทำไมวะ กูเบื่อ จะยากตรงไหนใครอยากดูเรื่องอะไรมึงก็ไปซื้อตั๋วหนังเรื่องนั้นเข้าไปดูสิวะ เลือกรอบที่มันฉายเวลาใกล้ๆกัน ใครออกมาก่อนก็รออยู่แถวนี้ โอเคมั้ยวะ”
“เอางั้นเหรอวะ”ไอ้โจหันมาขมวดคิ้วมองกู มันทำหน้าคิดหนักอยู่สักพักก็พยักหน้า คนอื่นก็เลยเออออตามมัน
“เออ กูไม่สนกูจะทำแบบนี้ กูจะไปซื้อตั๋วแล้ว ไอ้เหี้ย”กูรำคาญ กูไม่สน แม่งใครจะเอาไม่เอากูจะทำอย่างที่กูอยากทำ ช่างแม่ง กูเดินไปที่ช่องขายตั๋ว
“ไอ้ชดรอพวกกูด้วย”เสียงไอ้ตั้มดังมาจากด้านหลัง กูหันไปมองแว๊บหนึ่งแล้วเดินนำพวกมันไปที่ช่องขายตั๋ว
จำเป็นอะไรวะ เรื่องแค่นี้ จะฝืนบังคับมาดูเรื่องเดียวกันทำไม แค่ดูหนังคนละโรง คนละเรื่อง มันไม่ได้ทำให้ตายห่าหรอก ดูเสร็จก็รอกันสักหน่อย แล้วค่อยไปเดินเล่นกินข้าว เฮฮากันเหมือนเดิม
พวกกูไปยืนซื้อตั๋วหนังช่องเดียวกัน เลือกรอบหนังที่ใกล้กัน
ก็นั่นแหละกู กูเป็นคนตามใจเพื่อน และกูก็เป็นคนตามใจตัวเองเหมือนกัน
หวานเย็น
_______________________________________

เอา ลงเรียบร้อยแล้ว
พรุ่งนี้นุ้งเตอร์ไปปฐมนิเทศน์ที่ ม แล้ว
แง๊วๆ เค้าไปไปที่ ม เจ็ดโมงเช้า
ปัจจุบันไยังไม่หลับไม่นอน ฮ่าๆ
ไปแร้วจ้าา บ๊ายบาย
