(40)
ท่ามกลางผู้คนมากมายภายในสนามบินสุวรรณภูมิ กูมาส่งเมียขึ้นเครื่องไปเมกา
กูจัดการติดต่อเรื่องที่พักให้มัน กูไม่ให้มันพักกับไอ้ช้างหรอก ไม่ใช่ว่าเพื่อนกูมันแย่อะไรมากมาย แต่กูจะสบายใจกว่าถ้านัทมันอยู่ในที่ที่กูติดต่อไว้ ก็ไม่ไกลจากอพาร์ทเมนท์ไอ้ช้างหรอก
ตอนแรกไอ้นัทมันไม่ยอม มันบอกเปลืองเงิน แต่กูก็ไม่ยอมเหมือนกัน กูยอมให้มันไป ดังนั้นมันต้องตามใจกู
พอดีกูรู้จักคุ้นเคยกันกับเจ้าของเขาเป็นญาติกันกับครอบครัวของเจฟ ครอบครัวที่กูเคยไปพักด้วยช่วงกูเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน แถมตอนกูกลับมาไทยพวกเขายังเคยมาตามมาเที่ยวมาพักบ้านกู เลยได้ส่วนลดครึ่งนึง ขนาดลดแล้วแม่งก็ยังแพง เพราะอพาร์ทเมนท์ระบบรักษาความปลอดภัยดีมาก กูออกค่าที่พักช่วยไอ้นัทมันครึ่งนึง ไม่พอกูยังฝากฝั่งมันกับครอบครัวเจฟ ว่างๆให้มาดูมันให้กูหน่อย
จริงๆแล้วกูโทรไปสั่งแกมขอร้องให้น้องชายกู ไอ้จีน่ะ ให้มันขนข้าวของไปอยู่เป็นเพื่อนไอ้นัทช่วงเวลาที่ไอ้นัทอยู่ที่โน้น มันตกใจเหมือนกันที่กูหาพี่สะใภ้ให้มันเป็นผู้ชาย แต่มันก็ไม่ได้ว่าอะไร มันหัวสมัยใหม่ มันว่าเพื่อนมันเป็นเกย์เยอะแยะ
ถ้าถามกูว่าอยากให้ไอ้นัทมันไปมั้ย? กูตอบได้เลยว่า ไม่!!
กูเข้าใจ เราสองคนยังอยู่ในวัยแสวงหา ยังมีความฝัน ยังมีสิ่งที่อยากได้อยากทำ ถ้ามัวแต่มายึดติดว่าเราต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา มันอาจจะทำให้เราเสียโอกาสดีๆหลายอย่างไป
“นัท ถึงที่โน่นแล้วอย่าลืมโทรบอกกู จำได้นะ วิธีโทรกลับบ้าน กูสอนมึงแล้ว”กูยืนกอดคอมัน ตามองดูสิ่งรอบๆตัวไปเรื่อยๆ แต่ปากกูยังสั่งมัน บอกตรงๆไม่อยากสบตามัน กูกลัวว่ากูจะลากมันกลับบ้าน คิดดูว่ากูต้องกล่อมตัวเองว่า ‘มันไปแค่เดือนเดียว ไม่ใช่ ตั้งเดือนหนึ่ง’
“อือ”มันตอบรับกูหงอยๆ มันคงใจหายของมันเหมือนกันละมั้ง กูเลยดึงมันไปนั่งที่ว่างโดยมีไอ้ช้างตามมาติดๆ มันนั่งสักพักมันก็ขอตัวไปห้องน้ำ
“อยู่ต่างบ้านต่างเมือง ไม่มีกูตามใจ มึงดูแลตัวเองดีๆนะ”กูไม่ได้หันไปมองหน้ามันเหมือนเดิม นั่งมองนิ่งไปข้างหน้า พอกูพูดจบรู้สึกได้ว่าไอ้นัทที่จับมือกูแน่นขึ้น มือมันสั่นนิดๆ
“อือ”
“เป็นไรของมึง อือๆ อยู่นั่น ส้นตีนติดคอ? ”กูทำใจแข็งหันไปมองหน้ามันแล้วกระตุกยิ้มกวนตีน เลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างที่ยังว่างอยู่ กูยกขึ้นขยี้หัวมันเบาๆ ถึงยังไงกูไม่อยากให้มันเครียด ไหนๆก็ไหนๆ กูอยากให้มันยิ้มแย้ม ไปเที่ยวอย่างมีความสุข
“สัด ”มันส่งสายตาเคืองๆมาให้กู ไม่พอเอาหัวโขกกับไหล่กูด้วย
“ทำไม มึงจะเปลี่ยนใจรึไง”
“ก็ไม่อะ” มันตอบเสียงเบาหวิวเหมือนรู้สึกผิด
“โจ กูอยู่ไกล มึงห้ามมีชู้นะ ไม่งั้นกูกลับมามึงเจอดีแน่”เหมือนมันนึกได้ มันรีบหันมาสั่งกู จากท่าทางหงอยๆกลายเป็นเสือขึ้นมาทันที ขู่กูขนพองเลยนะ มันดูน่ารักมากกว่าน่ากลัว
“คร้าบที่รัก”กูตอบกลับไปอย่างไม่จริงจังนัก
“มึงจะคิดถึงกูมั้ย”พอขู่เสร็จมันก็กลับมาหงอยเหมือนเดิม
“คิดถึงสิวะ เมียกูทั้งคน”กูมองสบตามันนิ่งปากยิ้มกว้างให้มัน มันคงเขินยิ้มกว้างไม่ต่างจากกูแต่หน้าแดงเถือก กูเห็นไอ้ช้างยืนไม่ไกลจากพวกกูเท่าไหร่ ส่งยิ้มล้อเลียนมาให้ มันคงมาสักพักแล้วแต่ไม่เข้ามาเพราะคงอยากให้พวกกูมีเวลาส่วนตัว
กูก้มมองนาฬิกา นี่ก็ได้เวลาขึ้นเครื่อง ประกอบกับเสียงประกาศเรียก
ใจหายวะ
กูลุกจูงมือไอ้นัทไปส่งที่ทางเข้าโดยมีไอ้ช้างรู้งานเดินตามมาติดๆ
“เหี้ยช้างโชคดีๆ” กูหันไปบอกลาไอ้ช้าง มันพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปข้างในก่อน
“งั้นกูไปนะ แล้วเจอกัน ” นัทมันเงยหน้ามาสบตากู กูยิ้มให้ มันก็พยายามยิ้ม
“ โชคดี เดินทางปลอดภัย”กูดึงมันเข้ามากอด เรากอดกันแน่น กูรู้สึกได้ว่าตรงที่หน้ามันซบอกกูมันชื้นขึ้น
“ขี้แยว่ะ ห่างผัวแค่นี้เอง เดือนเดียวไม่นานหรอก รีบๆกลับมา ไม่งั้นกูมีเมียใหม่นะเว้ยกลับช้าอะ” กูกอดมันเงยหน้าขึ้นมองเพดานกลัวน้ำตาจะไหล ปากก็กวนตีนไป ไม่อยากให้บรรยากาศมันเครียด
“ไอ้เหี้ยโจ ลองมึงมีสิ กูจะเอาตายทั้งคู่แน่” หน้ามันยังซุกอกกูแต่ มือมันทุบหลังกูดังปึกเลย เจ็บนะเว้ย
“นั่นแหละ รีบๆกลับ ตอบอีเมล์กูทุกวันด้วย เจออะไรมาก็เล่าให้กูอ่านเข้าใจมั้ย วันไหนว่างตรงกันเราก็เล่น skype ไปๆเดี๋ยวตกเครื่องได้กลับบ้านพร้อมกูไม่รู้ด้วยนะ”กูดึงมันออกแล้วดันหลังมันเดินเข้าประตู
ก่อนมันเดินเข้าประตูไปมันหันมามองกู กูยิ้มแล้วพยักหน้าไห้มัน มันยิ้มแล้วพยักหน้าตอบ
นัท มันเดินเข้าไปนานแล้ว กูกลับมานั่งนิ่งๆมองทางเข้าที่มันเดินเข้าไป
ไม่รู้ว่ะ ในใจแอบคาดหวังว่ามันจะเปลี่ยนใจแล้วเดินกลับออกมา
กูรู้ว่ามันเป็นความคิดโง่ๆ แต่ก็ยังแอบหวัง
กูนั่งอยู่นานจนแน่ใจว่าความหวังเล็กๆคงไม่สมหวังกูเลยกลับ จริงๆแล้วกูก็รู้ว่ามันไม่สมหวังแต่เสือกอยากหวัง
ขับรถไปตามถนน นี่ก็ดึกว่าแล้วผับต่างๆกำลังเลิก เห็นนักท่องราตรีหลายคนกอดคอกันเดินเป๋ไปเป๋มาตามข้างทาง บางคนโก่งคออ้วกมีเพื่อนลูบหลังอยู่ใกล้ๆ
เคยฟังเพลงที่ว่างของ Pause มั้ยวะ ความหมายดี เหมาะกับสิ่งที่กูกับไอ้นัทกำลังเป็นอยู่ตอนนี้
กูเปิดเพลงที่ว่างของ Pause ปลอบใจตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ปากก็ร้องเพลงคลอเบาๆ
วันที่เวียนเปลี่ยน วันที่เลยผ่าน รักคงมั่น
เราไม่เคยห่างเคียงคู่ชิดใกล้ ทุกเวลา
ยอมทิ้งความฝัน ยอมทุกๆอย่าง ให้กันเเละกัน
เพียงได้เคียงข้าง เพียงได้ร่วมทาง โอ้...รักนิรันดร์
* ก่อนเคยคิดว่ารักต้องอยู่ ด้วยกันตลอด
เติบโต จึงได้รู้ความจริง
** หากเคียงชิดใกล้
เเต่เธอต้องทิ้งทุกอย่าง เพื่อฉัน
ประโยชน์ที่ใด หากรักทำร้ายตัวเอง
หากเดินเเนบกาย
กี่ครั้งที่ล้มลงเจ็บ ด้วยกัน
ห่างเพียงนิดเดียว ให้รักเป็นสายลมผ่าน
ระหว่างเรา
แบ่งที่ว่างตรงกลางไว้คอย
เพื่อให้เธอได้ตามหาฝัน ของเธอ
เรียนรู้รักอย่าง รู้คุนค่า ฝันไม่ไกล
บินไปตามทาง หาดวงตะวัน ที่เธอต้องการ
ไม่มีฉุดรั้งไม่มีดึงดัน เราเข้าใจ
รักยังเเสนหวาน รักยังไม่เปลี่ยน เคียงคู่กัน (ซ้ำ *,**)
เเบ่งที่ว่างตรงกลางไว้คอย
เพื่อให้เราได้ตามหาฝัน
วันเวลาที่เราห่างไกล
ความเข้าไจจะทำไห้เราใกล้กัน
กลับกลาย เปลี่ยนเป็นพลัง โว.........(ซ้ำ **)
แบ่งที่ว่างตรงกลางไว้คอย
เพื่อให้เราได้ถึงดั่งฝัน ร่วมกัน
กูกลับถึงห้องตีสามได้ บรรยายกาศรอบตัวมันเงียบเหงา แต่ไม่เท่ากับใจของกูที่กำลังเหงา
กลับถึงห้องเปิดไฟ ปกติถ้ากูกลับดึกขนาดนี้ ต้องเจอกับเสียงบ่นของมันแล้ว แต่วันนี้กลับไม่มีคนที่ตื่นงัวเงียลุกขึ้นมานั่งบ่นให้กูก่อนที่จะล้มตัวลงนอนต่อ
พึ่งผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงแต่กูกลับคิดถึงมันมากเหลือเกิน
กูอาบน้ำเปลี่ยนชุด ปิดไฟแล้วล้มตัวลงนอน น่าแปลกใจเตียงมันกว้างขึ้นมากเมื่อไม่มีมัน
กูนอนนิ่งๆลืมตาในความมืด คว้าหมอนที่เมียเคยใช้มากอดไว้ แม้มันไม่สามารถจะแทนตัวไอ้นัทได้ แต่ยังดีกว่าที่จะไม่มีอะไรเลย กลิ่นของมันยังติดหมอน
แย่ๆ ดูเหมือนเมียไปแค่ไม่กี่ชั่วโมงกูจะอาการหนักกว่าที่คิดไว้
เฮ้อ
แสงแดดของเช้าวันใหม่ปลุกกูให้ตื่น กูพลิกตัวหยิบนาฬิกาที่หัวเตียงขึ้นมาดู เพิ่งเจ็ดโมงเช้าเอง ทั้งที่เมื่อคืนกูนอนดึกแต่กลับตื่นเช้า กูคงนอนไปแค่ไม่กี่ชั่วโมง
เมื่อคืนไม่รู้กูผล็อยหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่
เดี๋ยวกูต้องไปรับไอ้ชดกับไอ้ตั้มไปศรีราชาด้วยกัน
กูลุกขึ้นไปเก็บของ กูต้องไปฝึกงานเหมือนกัน มีอะไรทำก็ดี กูจะได้ไม่ฟุ้งซ่านมากนัก
ในเมื่อไอ้นัทมันไม่กลับบ้านดังนั้นกูเลยไม่ไปฝึกที่แม่เมาะ กูเลือกไปฝึกงานที่ศรีราชาแทน
ไอ้ชดมันไปกับกูนั่นแหละ ส่วนไอ้ตั้มมันตามไปส่งเมียมันด้วย อย่ามาหวานต่อหน้ากูนะแม่ง กูจะอ้วกใส่หน้าให้
บริษัทที่กูไปฝึกงานดีหน่อยมีที่พักให้ พักห้องละสี่คนยกเว้นห้องกูพักแค่สามคนเพราะมันเหลือแค่สามคน
ไม่ใช่มีแค่มหาลัยกูที่เดียวที่ไปฝึกมหาลัยอื่นด้วย
ห้องกูมีไอ้ชด กู และมีเพื่อนต่างมหาลัยอีกคนชื่อมิก มันตัวเล็กๆขาวๆน่าจะสูงพอๆกันกับไอ้นัท แต่มันหน้าหวาน ตาโตแต่ดุ แก้มยุ้ย ปากแดง ไม่เหมือนเมียกูมองดูก็รู้ว่านัทมันเป็นผู้ชาย ถึงมันจะตัวเตี้ยและบาง เพราะนัทมันไม่ได้หน้าหวาน มันออกแนวตี๋อินเตอร์น่ารักเหมือนพวกบอยแบนเกาหลี อ้อแล้วอีกอย่างนัทมันหน้าซื่อ ตามันใสๆ ยิ้มทีจริงใจโลกสดใสไปกับมัน เฮ้อ คิดถึงเมียว่ะ
ตอนแรกกูนึกว่ามิกมันเป็นทอม แต่มันโดนรุ่นพี่แซว มันด่ากูเลยรู้ว่ามันผู้ชาย ห้าวเหมือนกัน ปากหมาใช้ได้
“โจ มึงนี่แม่งโชคดี ควบสองเลยเว้ย”พี่บอส รุ่นพี่ที่กวนตีนไอ้มิกจนมันด่าเดินเข้ามาหาพวกกูสามคน โดยที่ปากเลือกพูดกับกูแต่ตาเหล่มองไอ้มิก
“โจมึงควบสองเหรอวะ ไหนอะ ไมกูไม่รู้วะ”ไอ้ชดมันหันมาถามกูหน้าซื่อ
“ไอ้เหี้ยชด พี่เค้าหมายถึงกูได้นอนห้องกับมึงกับไอ้มิกมัน โง่อย่างนี้อย่าไปบอกใครนะว่าเป็นเพื่อนกับกูมาตั้งแต่สมัยมัธยม”กูบ่นมัน
“แล้วมันควบสองตรงไหนวะ”
“ชดช้อยครับ เค้าหมายถึงมึงหน้าหวาน ไอ้มิกก็หน้าหวาน ส่วนกูดูถึกอยู่คนเดียว จะให้กูแปลเพิ่มอีกมั้ย สัด”
“หน้าหวาน? ”ชายชดมันทำหน้ามึนๆไม่เข้าใจมองพี่บอส แล้วหันไปหิ้วกระเป๋าแบกเดินขึ้นบันไดไปเฉยเลย ไอ้เหี้ยชดน่ะ มันไม่เคยคิดว่าตัวมันดูบอบบาง มันคิดฝังหัวว่ามันถึก แม้ว่ามันจะได้ไอ้ตั้มเป็นผัวก็เถอะ ใครว่ามันไม่แมนนี้มันจะงง ๆ มึนๆ แล้วถามว่า ‘นมกูงอกเหรอ?’ พร้อมกับก้มดูหน้าอกตัวเอง
“เฮ้ยชด มึงรอกูด้วย กูไม่อยากเสวนากับคนพิการซ้ำซ้อนนาน”ไอ้มิกทำหน้าเยาะเย้ยพี่บอสแล้วหอบกระเป๋าวิ่งตามไอ้ชดไป ทิ้งกูไว้กับพี่บอส ไอ้นี่ก็สนิทกับพวกกูเร็วเกิน กูมึงไม่มีกระดาก
“พี่ เพื่อนผมมันก็เป็นแบบนั้นแหละครับ มันเชื่อฝังหัวว่ามันถึกและแมน ฮ่าๆ ผมไปนะพี่ ว่างๆไม่มีไรทำพี่มาให้พวกมันถอนหงอกให้ดิ”
“ไอ้โจถอนหงอกกูนี่รวมมึงด้วยมั้ย แม่งพวกมึงสามคนนี้ปากพอกันเลยเว้ย กูไปดีกว่าแล้วเจอกันพรุ่งนี้ที่บริษัท”
“ครับพี่”
กูหิ้วกระเป๋าเดินขึ้นไปบนห้อง เปิดประตูเข้าไป พวกมันกำลังทำความสะอาดห้อง กูเลยวางของแล้วไปช่วยพวกมันทำ ไม่นานห้องก็สะอาด แล้วเราต่างเก็บของใช้ของตัวเอง ดีที่มีห้องน้ำในตัว ไอ้ชดกับไอ้มิกเลือกเตียงสองชั้น ชดนอนข้างบน ส่วนไอ้มิกนอนข้างล่าง ส่วนกูนอนเตียงเดี่ยวคนเดียว
เฮ้อ
คิดถึงเมีย
เรื่องโดย หวานเย็น
....................................................................