น้องชาย 2
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: น้องชาย 2  (อ่าน 179669 ครั้ง)

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 4 : 26/04/11 )
«ตอบ #30 เมื่อ27-04-2011 20:44:36 »

ช่วงที่ 5

       
        หลายวันผ่านไปโดยปราศจากการมาดูแลยิมของพี่ป้อม มีเพียงโค้ชคนดูแลยิมคนเดียวตามความรู้สึกผม ผมว่านับวันมันยิ่งไม่มีระเบียบมากขึ้นเรื่อยๆ แถมหักโหมซ้อมจนหนักเกินกว่าน้องๆ จะรับไหว บางอย่างที่โค้ชสั่งให้ฝึกซ้อมยังเป็นผลเสียต่อข้อเข่าของน้องๆ อีกด้วย นี่เป็นหนึ่งในสาเหตุจากหลายๆ สาเหตุที่ทำให้อ้นเกลียดโค้ชเข้ากระดูกดำแต่ว่า.....ก็ยังมีอยู่คนหนึ่งที่ยังคงเชื่อฟังแล้วก็ทำตามที่โค้ชสั่งโดยไม่ปริปากบ่นสักคำ....ไม่ใช่ใครที่ไหนครับ ว่านนั่นเอง

        วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ความไร้ระเบียบดำเนินไปดังเช่นวันก่อนๆ ...หลังจากวอร์มเสร็จแล้ว ในขณะที่ผมกำลังยืนคุยกับน้องต้นกล้าอยู่ ว่านก็วิ่งมากระโดดกอดผมจากทางด้านหลัง “เฮ่ย!” ผมอุทานขึ้น เนื่องจากตกใจแล้วก็มองไม่เห็นว่าใครมากระโดดกอดผมเพราะการเล่นแบบนี้นอกจากบีแล้วก็ไม่มีใครกล้าเล่นกับผม แต่ทว่า....ในเวลาแบบนี้จะเป็นบีได้ไง ก่อนที่จะหันไปดูจึงเจอหน้าเจ้าตัวที่เกาะหลังผมอยู่แบบแน่นมากๆกะว่าไม่หลุดตกลงไปบนพื้นแน่ๆ เลยทีเดียว พอว่านเห็นว่าผมหันมามองว่านก็ยิ้มให้ก่อนจะเอาหน้าที่ชุ่มเหงื่อซุกๆ ตรงบ่าข้างขวาของผม จนเสื้อผมชุ่มไปด้วยเหงื่อของว่านเลยทีเดียว


“เปื้อนๆๆ” ผมพูดบอกว่านที่กำลังซุกบ่าผมอย่างเมามัน
“อิอิ” เสียงหัวเราะเบาๆเล็ดลอดออกมา
“หนัก...ลงได้แล้ว ตัวไม่ใช่เล็กๆเลย” ผมพูดพลางเอามือไปประคองขาว่านที่หนีบกับเอวผมอยู่
“อิอิอิ” เหมือนว่านจะถูกใจ แล้วทันได้นั้นเอง....
“ง่ำ!!”

        ว่านงับไหล่ซ้ายผมเข้าให้ ตามด้วยสะบัดไปมาเบาๆ แล้วก็....เลีย....ตอนนั้น....ผมยืนอยู่เฉยๆ ให้ว่านทำ...ไม่รู้ซิครับ บีเองก็เคยทำแบบนี้ มันรู้สึกดีจัง น้ำลายของว่านทำให้เสื้อแนบชิดติดผิวของผม....ตอนนั้นผมรู้สึกได้เลย...ลมหายใจอุ่นๆ ที่ออกมาจากปากของว่าน ลิ้นอุ่นๆที่กำลังตวัดไปมา....มันทำให้ผมรู้สึกเสียวสันหลังวาบๆเลยแฮะ แต่ว่า....มันก็เจ็บเหมือนกันนะที่ว่านกัดอะ....


“ว่าน...ไปทำอะไรพี่เค้าแบบนั้น เดี๋ยวพี่เค้าก็เจ็บหรอก” ตองเดินมาพูดกับว่านพลางตีไหล่ว่านเบาๆ ก่อนที่ว่านจะหยุดกัด แล้วทิ้งตัวลงไปยืนอยู่กับพื้นตามด้วยเอาแขนเสื้อผมไปเช็ดปากตัวเองแล้วพูดกับตองว่า
“ดี ผมชอบ อิอิอิ” ว่านตอบตองกลับไปพร้อมกับรอยยิ้มอย่างพึงพอใจ ก่อนจะเดินไปกินน้ำตอนนั้นผมเปิดคอเสื้อดูตรงที่ว่านกัด..อืมม...เป็นรอยฟันเลยทีเดียว...
“เป็นไงพี่” ตองถาม
“เป็นรอยเลยดิ” ผมตอบกลับไป
“สงสัยจะสาย S นะเนี่ยะ”
“เป็นไปได้”
พอผมตอบเสร็จ ตองก็หัวเราะเบาๆ “อิอิอิ”


        ไม่นานหลงจากที่ผมคุยกับตองจบโค้ชก็เรียกน้องๆไปรวม แล้วบอกให้เตรียมวิ่งขึ้นลงบันได 90 รอบ ขึ้นและลงให้นับเป็น 1 รอบ

“ฮูยยย ครู เก้าสิบรอบเลยเหรอ” ต้นกล้าบ่นขึ้นมา
“อะไร แค่เก้าสิบรอบ ตอนเด็กๆ ครูวิ่งร้อยห้าสิบรอบมาแล้วบันไดเนี่ยะ” โค้ชพูดข่มเด็กๆด้วยน้ำเสียงประมาณว่าแค่นี้จิ๊บๆ
“ห้าสิบไม่ได้เหรอครู” ตองต่อรอง
“ไปๆๆ เสียเวลา ให้เวลาสามสิบนาที” แล้วโค้ชสั่งน้องๆให้ไปวิ่งพร้อมกับทำท่าแบบว่า วิ่งๆไปเหอะจะมาต่อรองอะไรมากมายแล้วเด็กๆก็จำต้องไปวิ่งท่ามกลางเสียงบ่นกันระงม
“เอ..จะไปวิ่งด้วยก็ได้นะ” พูดจบโค้ชก็หันมามองหน้าผม
“ปะพี่วิ่งด้วยกัน” ว่านหันมาพูดเชิญชวนตามด้วยกวักมือเรียก อืม...เอาก็เอา


        ว่าแล้วผมก็ไปวิ่งกับน้องๆ จริงๆ ผมอายุยี่สิบกว่าแล้วนะเรื่องความฟิตมันสู้เด็กๆไม่ได้หรอก แต่ผมก็อดสงสัยว่าโค้ชที่เป็นรุ่นพี่ผมหลายปีจะวิ่งได้ 150 รอบจริงเหรอ เพราะผมแค่วิ่งได้ 50 รอบก็ปวดขาแล้ว ส่วนบันไดที่กำลังพูดถึงนี้เป็นบันไดขึ้นไปห้องเก็บของแล้วก็ด่านฟ้าที่อยู่ชั้น 2 ครับกว้างพอสมควร มีจำนวนขั้น 33 ขั้น วิ่งขึ้นชิดขวา วิ่งลงชิดขวาก็ไม่ชนกันแล้ว แต่ประเด็นคือ 150 รอบของโค้ชครับ ลองนึกถึงอาคารสูง 3 ชั้น ให้เราวิ่งขึ้น แล้วก็ลงโดยไม่หยุด 50 รอบ น่าจะเห็นภาพได้ชัดขึ้นความจริงแล้วเรื่องวิ่งขึ้นลงบันไดเนี่ย พวกน้องๆที่เรียนวิทยาศาสตร์การกีฬามาบอกว่า การออกกำลังกายแบบนี้มากไปจะทำให้หัวเข่าเสีย ซึ่งน้องๆที่มหาวิทยาลัยก็เคยค้านโค้ชเรื่องนี้หลายครั้ง จนโค้ชต้องเลิกพาน้องๆที่มหาวิทยาลัยวอร์มแบบนี้ไปในที่สุด แต่กับที่ยิมโค้ชยังไม่เลิกครับ เพราะไม่มีใครค้านด้วยข้อมูลทางวิชาการแบบน้องๆที่มหาวิทยาลัยยกขึ้นมาค้าน ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเค้าถึงยังปักใจกับการวิ่งขึ้นลงบันไดแบบนี้อยู่สั่งให้น้องๆทำแต่ละครั้งก็ไม่ใช่น้อยๆเป็นอันตรายกับหัวเข่าน้องๆ อีกด้วยแต่เค้าก็ไม่เคยใส่ใจเอาล่ะ กลับมาที่น้องๆ ที่กำลังวิ่งกันดีกว่า ในขณะที่วิ่งอยู่นั้นมีน้องๆ หลายคนหยุดพักเป็นระยะ แต่เชื่อไหมครับมีคนเดียวที่วิ่งต่อเนื่องโดยไม่หยุดเลย นั่นก็คือ...ว่านนั่นเอง.....


“ถ้าไม่ไหวหยุดก่อนก็ได้นะ” ผมพูดขึ้นขณะที่วิ่งตามหลังว่าน
“ไม่ครับ” ว่านตอบกลับมาสั้นๆแล้วก็วิ่งต่อ

        วันนั้นผมวิ่งจนครบ 90 รอบโดยไม่หยุด...มันก็เหนื่อยเอาเรื่องพอๆกับช่วงเก็บตัวไปแข่งเลยทีเดียว แต่...แล้วผมก็รู้สึกชาที่เข่า..... ผมยืนพิงกำแพงเอามือชันเข่าไว้ แล้วก็ก้มหน้า ตอนนั้นเหงื่อหยดจากคาง แล้วก็ปลายจมูกผมลงไปที่พื้นตึ๋งๆเหมือนก๊อกน้ำที่ปิดไม่สนิดพักหนึ่งว่านก็เดินมายืนข้างๆผม ก่อนจะเอาน้ำยื่นให้ผม


“พี่..น้ำ”


        ผมเปลี่ยนจากยืนชันเข่ามาเป็นยืนตัวตรงพิงกำแพงแล้วก็ดื่มน้ำที่ว่านเอามาให้พอผมยกขวดขึ้นดื่มว่านก็เอาหน้ามาซุกๆตรงหัวไหล่ พอดื่มน้ำเสร็จว่านก็อาสาจะเอาไปเก็บให้ ยังไม่ทันที่ว่าจะเอาน้ำไปวางเสร็จโค้ชก็เรียกรวมอีกก่อนจะพาซ้อมอย่างหนักต่อไป ซึ่งโค้ชเค้าจะออกแนวๆสั่งให้ทำเป็นจำนวนเท่านั้นเท่านี้แล้วให้น้องๆทำกันเอง ระหว่างนั้นโค้ชก็ไปนั่งเล่นนั่งคุยกับพวกพี่ๆหรือเพื่อนของน้องๆที่มาซ้อมแทน ถ้านึกครึ้มก็จะเดินมาดูเป็นคนๆ ส่วนผมเหรอ ก็เดินดูน้องไปทีละคน
ช่วงการซ้อมแบบนี้จริงๆถามว่าจะอู้ได้ไหม มันก็ได้นะครับ แต่ว่าเพราะว่านนี่ซิครับทำให้คนอื่นไม่กล้าอู้ ว่านจะคอยหันไปมองคนที่อู้ซ้อมแล้วก็ทำหน้าตาไม่พอใจใส่ ไม่ก็มองให้คนอื่นรู้ตัวว่า “มีคนมองอยู่นะ”ในตอนหลังมีผู้ปกครองมาเห็นเลยเอาไปพูดทำนองว่าครูที่นี่ไม่ใส่ใจเลยเผอิญโค้ชคนเก่งดันไปได้ยิน เลยออกมาแก้ตัวกับเด็กๆว่า “มีคนบอกว่าครูไม่ใส่ใจพวกเรา จริงๆไม่ใช่ไม่ใส่ใจ แต่ครูจะเลือกมาดูเฉพาะคนที่ตั้งใจซ้อมเท่านั้น เวลาที่ครูนั่งอยู่ข้างหลัง ไม่ใช่ว่าไม่ได้หันมาดู ครูหันมาดูเรื่อยๆแหละ ถ้าเห็นใครตั้งใจครูก็จะเดินมาบอก”-------ครับ เดาไม่ถูกแค่หวย วันต่อมาผู้ปกครองที่พูดก็พาลูกชายเค้าไปเรียนยิมอื่นเลย ส่วนโค้ชเหรอครับ เค้าก็แค่บอกว่า “ทำไมต้องไปสนใจในเมื่อเด็กไม่ได้ตั้งใจ”

        กลับมาที่เรื่องราวของวันนั้นกันต่อ หลังจากที่ซ้อมเสร็จแล้วเด็กๆทุกคนเหมือนจะเพลียกันมากๆ โค้ชเค้าเลยให้เลิกแบบเดิมคือเลิกแถวเลยโดยไม่ต้องเคารพผู้สอน ไม่ต้องเคารพรุ่นพี่ ผมก็เดินไปนั่งที่มุมเดิม ส่วนว่านเดินไปที่กระเป๋าก่อนจะหยิบเอายานวดมาหลอดหนึ่งแล้วกลับมานั่งข้างๆผม พอนั่งเสร็จว่านก็เริ่มละเลงครีมลงที่เข่า แล้วก็ข้อเท้าก่อนจะเริ่มนวดๆๆ


“เจ็บเหรอ” ผมถามว่าน
“นิ๊ดหน่อย” ว่านตอบกลับมา
“ซ้อมก็ระวังเรื่องหัวเข่า เรื่องข้อไว้หน่อยแล้วกัน บ้าพลังมากไป เข่าเสีย ข้อเสื่อมขึ้นมามันไม่คุ้ม”
“อื่อ” ว่านตอบกลับมาแค่นั้น ก่อนจะนวดขาอีกข้างแบบเดียวกัน

        พอนวดเสร็จว่านก็มานั่งตรงตักผมแล้วก็นอนพิงผมเหมือนเดิม ผมไม่รู้จะชวนว่านคุยเรื่องอะไรแฮะ บีไม่อยู่ อ้นก็ไม่มา ต้นกล้าก็กลับบ้านแล้ว ผมเลยได้แต่นั่งกอดว่านหลวมๆอยู่อย่างนั้นจนทุกคนกลับบ้านหมด

“ปะ” ผมพูดขึ้นพลางเอามือกอดว่านแน่นขึ้น....

        แต่...ผมรู้สึกไปเองหรือเปล่า...ว่าว่านตัวร้อน....พอผมคลายมือว่านก็ค่อยๆลุกขึ้น แล้วก็หันมามองผมก้อนจะยื่นมือให้ผมจับ ผมคว้ามือว่านไว้แล้วดึงตัวเองลุกขึ้น...มือว่านเย็นแปลกๆ....พอผมลุกขึ้นได้ผมเอามือไปแตะที่หน้าผากว่าน ปรากฏว่าร้อนฉ่าเลยเพื่อความแน่ใจผมเลยเอาหลังมือไปแตะที่หลังคอว่านด้วย ปราฏกว่าร้อนจริงๆ


“ตัวร้อน ไม่สบายเหรอ” ผมถามว่าน
“ครับ” ว่านตอยกลับมาเสียงเพลียๆ
“ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมไม่บอกพี่”
“ตั้งแต่ช่วงเที่ยงแล้วครับ” ว่านตอบเสร็จก็หันมายิ้ม ทำหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งๆที่ปากเริ่มซีดจนเริ่มสังเกตได้แล้ว
“ทานยาหรือยัง ที่บ้านมียาทานไหม” ผมถามว่าน ขณะที่ผมกับว่านเดินไปหยิบกระเป๋า
“เมื่อเที่ยงทานแล้ว แต่ที่บ้านไม่มียา” ว่านตอบกลับมา
“คุณแม่อยู่ไหมวันนี้”
“ไม่ครับ”
“....”


        หลังจากปิดยิมผมก็พาว่านไปทานก๋วยเตี๋ยว ซึ่งว่านทานได้น้อยมาก ต่อจากนั้นผมก็พาน้องไปซื้อยา ก่อนจะพากลับบ้านตลอดทางว่านนั่งซบหลังผมตลอดเช่นกันผมก็กำมือว่านไว้ไม่คลายตั้งแต่ร้านยา พอมาถึงหน้าบ้าน ว่านเดินลงแบบเซๆไปที่ประตูบ้านก่อนจะปีนเข้าไปเหมือนที่เคยทำ


“ว่าน...”
“ครับ” ว่านหันกลับมาตอบ
“อยู่คนเดียวได้ไหม” ผมถามว่านออกไป ซึ่งจริงๆแล้วตอนนั้น....ผมอยากจะถามน้องว่า “ให้พี่อยู่เป็นเพื่อนไหม” มากกว่า
“ได้ครับ” ว่านยิ้ม
“อืม....ทานยาพักผ่อนนะครับ มือถือเปิดไว้ด้วยนะ มีอะไรโทรหาพี่ได้ตลอด ไม่ต้องเกรงใจเข้าใจไหม”
“ครับ”


        แล้วว่านก็เดินเข้าบ้านไป ผมเฝ้ามองว่านอยู่ตรงนั้นพักหนึ่งจนแน่ใจว่าว่านใส่กุญแจบ้านเรียบร้อยแล้วผมถึงกลับออกมา คืนนั้นผมเปิดโทรศัพท์ทั้ง 3 เครื่องทิ้งไว้ทั้งคืน เพราะผมไม่แน่ใจว่าว่านจะโทรมาเบอร์ไหน ยิ่งถ้าโทรช่วงที่ไม่สบายมากๆด้วย ผมว่าว่านคงไม่เลือกเบอร์ที่จะโทรมาแน่ๆ



To Be Con

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 5 : 27/04/11 )
«ตอบ #31 เมื่อ27-04-2011 21:58:36 »

^
^
^
จิ้มพี่เอ.. :z13:

น้องว่านนี่ก็แอบเยอะเหมือนกันนะเนี่ย เครียดกับชีวิตมากเกิน..

ส่วนอีกคนอิตาโค้ชเนี่ย เป็นอะไรมากรึปล่าว จริงๆไม่จำเป็นต้องซ้อมหนักขนาดนี้ก็ได้มั้ง เอาแบบว่าให้ร่างกายอดทนได้ครบยกแล้วสอนเทคนิคเพื่อเตะได้แต้มแบบไม่ต้องปะทะไม่ดีกว่าเหรอ..เซ็งอิตาโค้ช  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงท$
«ตอบ #32 เมื่อ27-04-2011 22:24:29 »

^
^
^
จิ้มพี่เอ.. :z13:

น้องว่านนี่ก็แอบเยอะเหมือนกันนะเนี่ย เครียดกับชีวิตมากเกิน..

ส่วนอีกคนอิตาโค้ชเนี่ย เป็นอะไรมากรึปล่าว จริงๆไม่จำเป็นต้องซ้อมหนักขนาดนี้ก็ได้มั้ง เอาแบบว่าให้ร่างกายอดทนได้ครบยกแล้วสอนเทคนิคเพื่อเตะได้แต้มแบบไม่ต้องปะทะไม่ดีกว่าเหรอ..เซ็งอิตาโค้ช  :เฮ้อ:


เห็นด้วย ว่านดูเครียดๆนะ
โค้ชเป็นอะไรมากป่าว
+1 นะคะ

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 5 : 27/04/11 )
«ตอบ #33 เมื่อ28-04-2011 17:03:00 »

^
^
^

ก็ว่างั้นแหละอิตาโค้ชเนี่ยมันบ้าป่าว

น้องว่านน่าสงสารจัง ต้องอยู่บ้านคนเดียวให้พี่ไปอยู่เป็นเพื่อนไหมจ้ะ หึหึ :z1: :haun4:

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 5 : 27/04/11 )
«ตอบ #34 เมื่อ28-04-2011 22:42:30 »

ช่วงที่ 6

        
        วันใหม่กับอะไรใหม่ๆ....วันนี้ผมจำได้ว่ามันเป็นเช้าวันที่ค่อนข้างสดใสท้องฟ้าสวยมากจนอยากคว้ากล้องมาถ่ายภาพไว้ อากาศกำลังเย็นสบายแดดอุ่นๆในเวลาเช้าๆแบบนี้ผมไม่อยากลุกจากที่นอนเลยแฮะ แต่ว่า...มันเป็นหน้าที่นี่นา นึกขึ้นได้ดังนั้นผมก็เอามือคลำๆหารีโมทแอร์ที่วางไว้อยู่แถวๆหัวนอน

“ปี๊บๆ”

        ทันทีที่กดปิดเครื่องแอร์ก็ค่อยๆเบาเสียงลงในไม่กี่อึดใจก่อนจะเงียบดับไป ผมค่อยๆคลานแบบถอยหลังมาที่ปลายเตียงก่อนจะดันตัวลุกขึ้นใจลอยอยู่พักหนึ่งแล้วลงไปทำธุระส่วนตัว หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จหมดแล้วรวมถึงใส่เนกไทซึ่งเป็นเครื่องแต่งกายชิ้นสุดท้ายที่ผมจะใส่สำหรับชุดนักศึกษา ผมเดินไปหยิบโทรศัพท์ที่วางไว้มาใส่กระเป๋า ซึ่งระหว่างที่หยิบผมก็กดดูด้วยว่ามีใครโทรเข้ามาช่วงหลับลึกหรือเปล่า ระหว่างที่เปิดดูนั้นผมก็มองนาฬิกาที่อยู่ตรงหัวมุมโทรศัพท์ด้วย

“07.30น.”
“อืมม......” ผมยืนนิ่งคิดอยู่ในใจว่าจะโทรไปหาว่านดีไหม เพราไม่รู้เลยว่าน้องเป็นยังไงบ้าง ดีขึ้น หรือ แย่ลง ไปเรียนได้หรือเปล่า ถ้าไม่ได้ไปข้าวเช้ามีทานไหม ใครจะไปซื้อให้ถ้ายังไม่มี
“ตรู๊ดดดดดด.........ตรู๊ดดดดดดดด.......ตรู๊ดดดดดดดดด......แกร๊ก !$%#%!%$@#^$^#5253!@%$@%” ทันทีที่มีการรับสาย เสียงต่างๆจากรอบข้างก็ประเดประดังเข้ามาซึ่งพอจับใจความได้ว่าปลายสายตอนนี้น่าจะอยู่โรงเรียนแน่นอน
“ครับ”
“อยู่โรงเรียนแล้วเหรอ”
“ครับ”
“ดีขึ้นแล้วเหรอ”
“ครับ”
“อืมม ทานข้าวทานยายัง”
“แล้วครับ”น้ำเสียงว่านตอนนี้เหมือนไม่อยากคุยเท่าไหร่
“ไม่กวนล่ะ”ผมเลยตัดบทไป
“ครับผม”


        อืมม...เหมือนผมโทรไปกวนน้องเลยแฮะ...จริงๆผมเองก็น่าจะเดาได้ว่าน้องดีขึ้นแล้ว เพราะถ้าไม่ดีขึ้นน้องก็น่าจะโทรมาหา แต่ไม่ได้โทรมาก็ไม่น่าจะเป็นอะไร ผมคงห่วงเค้ามากไปซะล่ะมั้ง ว่าแล้วผมก็ตรงไปที่มหาวิทยาลัยทันทีเพื่อทานข้าวร้านประจำ ไข่ดาว กับ ไก่ทอด ที่ผมทานมาตั้งแต่ผมเข้าเรียนที่นี่วันแรก จนถึงปี3 เรียกได้ว่าพอเห็นหน้าปั๊บป้าคนขายก็รีบตักให้ทันทีตั้งแต่เห็นผมจอดรถที่หน้าโรงอาหารเลยทีเดียวราคาก็ไม่แพงครับอยู่ที่สิบห้าบาท หลังจากทานอาหารเสร็จแล้วผมก็เข้าเรียนครับ วันนี้มีเรียนเช้าบ่ายเลย ซึ่งคาบบ่ายวันนี้อาจารมีแนะแนวข้อสอบกลางภาค ซึ่งอาจารย์ผู้สอนไมได้เป็นผู้ออกข้อสอบเอง ด้วยความเป็นห่วงนักศึกษาอาจารย์เลยเอาแนวข้อสอบ รวมถึงหัวข้อสำคัญๆที่จะใช้ในการสอบข้อเขียนซึ่งเน้นการวิเคราะห์มากกว่าท่องจำมาแนะแนวทางในการตอบเพื่อจะได้ทำคะแนนดีๆ โดยระหว่างที่อาจารย์กำลังบอกแล้วผมกำลังนั่งเลคเชอร์อยู่นั้น....


“ตี๊ดๆ...ตี๊ดๆ.....” เสียงเตือน SMSจากโทรศัพท์เครื่องหลักก็ดังขึ้นเบาๆ ผมหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ากางเกงมาดู
“พี่มารับผมที่รรหน่อยครับ จาก ว่าน” ผมมองข้อความ แล้วมองนาฬิกาที่อยู่ตรงหัวมุมของจอ
“14.30น.” อีกตั้งหนึ่งชั่วโมงแน่ะกว่าจะหมดคาบ แถมวันนี้แนะแนวด้วยเอาไงดี ว่าแล้วผมก็พิมพ์ข้อความกลับไป
“มีอะไรด่วนหรือเปล่า”

        ผมรอข้อความตอบกลับอยู่ประมาณ 10 นาที แต่ก็ไม่มีข้อความใดส่งกลับมา หรือ จะเปิดอะไรขึ้น ตอนนั้นผมรู้สึกร้อนใจจนบอกไม่ถูก นึกถึงตอนที่น้องบีเป็นอะไรแล้วติดต่อผมซะก่อนจะติดต่อผู้ปกครองด้วยซ้ำแล้วมันทำให้ผมยิ่งกังวลใจมากกว่าเดิม ว่าแล้วผมก็ยกมือขึ้น

“เอ..มีอะไรเหรอ” อาจารย์เรียกชื่อเล่นของผม แล้วถามด้วยความเป็นกันเอง
“คือ ผมมีธุระด่วนมากๆเลยครับ” ผมลุกขึ้นแล้วตอบอาจารย์
“กลับก่อนก็ได้” อาจารย์ตอบกลับมาแล้วยิ้มก่อนจะหันไปเขียนข้อความที่ยังค้างอยู่บนกระดานต่อ
ผมหันไปตบไหล่ม่อนเบาๆแล้วบอกกับม่อนว่า “เลคให้ด้วย”
“อื่อ”


        ผมรีบเก็บของลงกระเป๋าออกมาจากห้องลงไปที่ลานจอดรถอย่างเร่งรีบ ซึ่งผมจำได้ว่าพอมาถึงรถผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาว่านอีกครั้ง แต่ว่านไม่ได้รับสาย ก่อนจะออกรถไปที่โรงเรียนของว่านอย่างรวดเร็วผมบิดรถด้วยความเร็ว90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงกับเส้นทางที่เกือบจะเป็นเส้นตรงเลียบไปกับคลองไม่ถึง 5 นาทีผมก็มาถึงโรงเรียนของว่านก่อนจะโทรเข้าหาน้องด้วยความร้อนใจ


“ตรู๊ดดดดดดดด........ตรู๊ดดดดดดดดดด........ตรู๊ดดดดดดดด....ตรู๊ดดดดดดดด....แกร๊ก ครับพี่”
“ว่านอยู่ไหน”
“ที่สนามบาสครับ” ว่านตอบกลับมา...น้ำเสียงของว่านเหมือนจะไม่ได้เป็นอะไรนี่นา
“พี่อยู่หน้าโรงเรียน”
“ครับๆ ไปเดี๋ยวนี้ล่ะครับ”

        แล้วว่านก็ตัดสายไป....จากที่ฟังน้ำเสียงแล้วว่านเองก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่นาน้ำเสียงค่อนข้างสดใสกว่าเมื่อเช้าด้วยซ้ำ แล้วจะให้ผมมาหาทำไมตอนนี้ล่ะ คำตอบที่ผมอยากรู้อีกเดี๋ยวคงจะได้ทราบกันเมื่อว่านมาถึง

“พี่เอ”

        ว่านตะโกนเรียกผมขณะที่น้องกำลังเดินออกมาจากหน้าประตูโรงเรียน ผมหันไปยิ้มแล้วว่านก็ยิ้มๆรับ....ภาพแบบนี้....เหมือนเวลาบีเขินใส่ผมเลยแฮะ ยิ้มด้วยความดีใจแต่ก็อายที่จะให้คนที่ตัวเองยิ้มให้เห็น แล้วสภาพว่านตอนนี้ดูสดใสไม่เหมือนคนป่วยเท่าไหร่ พอเดินมาถึงรถผมว่านก็เอากระเป๋าวางที่หน้ารถ ก่อนจะถอดหมวกลูกเสือออก แล้วพัดๆหน้าตัวเอง

“ใส่ชุดลูกเสือก็น่ารักดีนี่นา” ผมพูดออกไปตามที่ผมรู้สึก ว่านหันมายิ้มแล้วทำท่าทางเขินๆ
“ปรกติผมก็ใส่วันนี้ตลอดนี่นา พี่ก็เคยเห็นนี่นา” ว่านตอบกลับมาด้วยเสียงที่แสดงถึงความดีใจหน่อยๆ
“เขินเหรอ” ผมพูดแซวว่านออกไปด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง
“ที่ไหน อิอิอิ” ว่านหัวเราะเบาๆ
“แล้วมีอะไรเหรอ” ผมถามว่านถึงเรื่องที่ว่านส่ง SMS ตามผมมา
“ก็โค้ชเค้าบอกให้ผมเอาหลักฐานสำเนาใบสูติบัตร กับสำเนาทะเบียนบ้านไปให้ที่สำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยตรงสนามกีฬาก่อนบ่ายสามครึ่งอะครับ”
“แค่นี้?” ผมถามว่านเพื่อความแน่ใจว่าที่เรียกผมให้มาหามีเรื่องแคนี้เองเหรอ
“ครับ แค่นี้” ว่านหันมายิ้ม ก่อนจะเอามือมาจับๆเนคไทผมให้ตรง
“เวลาพี่ใส่เนคไทดูหล่อดีนะครับ” ว่านยิ้ม
“แล้วไปเอาที่ไหนเอกสารที่ว่า”
“ไปบ้านผม”
“งั้นก็ปะ” ผมพูดจบว่านก็ทำท่าจะเดินมาขึ้นรถแต่ว่า
“ว่าน เดี๋ยว” ผมเรียกว่าน ว่านหยุดกึกแล้วหันมามองผม
“ครับ”
“มานี่” ผมดึงมือว่านมาข้างๆแล้วเอามือปัดๆผมว่านก่อนจะเอาหมวกลูกเสือในมือว่านสวมลงไป
“เวลาว่านใส่ชุดลูกเสือแบบนี้พี่ว่าน่ารักดีเหมือนกันนะ” ผมพูดจบว่านก็ยิ้ม ก่อนจะขึ้นรถ


        ระหว่างทางไปบ้านน้องผมกังวลเรื่องเลคเชอร์อยู่หน่อยๆเพราะของแบบนี้มันต้องจดตามที่เราเข้าใจ หรือ จุดที่เราสนใจ แต่ดันไปให้เพื่อนจดให้....แต่ก็ช่างมันเถอะเดี๋ยวผมไปรวมจากเพื่อนๆหลายๆคนมาอ่านก็ได้ วันนั้นผมพาว่านไปส่งเอกสารที่สำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยทันเวลาซึ่งถูกเจ้าหน้าที่บ่นๆเล็กน้อยซึ่งพอสอบถามก็พบว่านี่เป็นวันสุดท้ายของการส่งเอกสารสำหรับใช้ในการลงแข่งขันคัดตัวแทนเขตซึ่งทางสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยได้ติดต่อไปยังคุณโค้ชตั้งแต่เมื่อเดือนที่แล้ว แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่เห็นเอาเอกสารหลักฐานมาส่งแต่อย่างได จนวันนี้วันสุดท้ายแล้ว ซึ่งจริงๆเป็นวันสุดท้ายที่เลทมาให้หลังจากวันหมดเขตด้วยซ้ำ โดยเจ้าหน้าที่ก็บ่นงุมงำๆตามประสาซึ่งผมก็เข้าใจเป็นผมผมก็บ่นล่ะนะ พอผมยืนเอกสารแล้วพี่เจ้าหน้าที่จรวจสอบเสร็จผมก็เดินออกมาเรียกว่านที่นั่งเล่น PSP ของผมอยู่ด้านหน้าของสำนักงานให้เข้ามาเซ็นเอกสาร


“โค้ชล่ะว่าน” ผมถามว่านขณะที่กำลังนั่งรอให้พี่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบหลักฐานอีกครั้งซึ่งตอนนั้นน้องกำลังนั่งเล่น PSP อยู่-ข้างๆผม
“ไม่รู้ซิครับ เห็นว่าจะมารอนะ” ว่านตอบกลับมาขณะที่สายตาก็ยังไม่ละออกจาเกม

        หลังจากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่ก็มาแจ้งว่าเอกสารทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว

“ว่าน ไปไหนต่อ เพิ่งบ่ายสามสี่สิบเอง” ผมถามว่าน
“อืมม แล้วแต่พี่” ว่านตอบกลับมา
“ไปยิมเลยเน๊าะ"
“ครับ”

        แล้วผมก็พาว่านไปส่งที่ยิมก่อนที่ผมจะวนกลับมาเปลี่ยนชุดที่บ้านแล้ววนกลับที่ยิมอีกครั้งหนึ่ง พอมาถึงอีกทีก็เจอมิ้นกำลังนั่งเล่นอยู่หน้ายิม ส่วนว่านนั่งเล่น PSP อยู่ข้างใน ผมเดินเอากระเป๋าเข้าไปเก็บที่ชั้นก่อนจะเดินไปนั่งที่มุมเดิม พอผมนั่งลงว่านเห็นดังนั้นก็ลุกขึ้นแล้วมานั่งข้างๆผมแล้ว...ว่านก็ก้มลงมาหอมที่ไหล่ผมเบาๆทีหนึ่งซึ่ง...ผมได้ยินเสียงลมหายใจว่านชัดเจนเลย..ก่อนที่ว่านจะนั่งเอาหน้าพิงไหล่ผมแล้วเล่น PSP ต่อ

“เฮ้อ....คิดถึงบีจังเลยแฮะ”

        ผมคิดในใจก่อนจะก้มหน้าไปหอมที่ผมของว่านเบาๆ ตอนนี้ผมอยากให้บีมานั่งที่ตักผมจัง....ผมอยากกอดบีอีก พอนึกอย่างนั้นขึ้นมาในใจผมก็ยกมือขวาขึ้นแล้วดึงว่านขึ้นมานั่งที่ตักผมแทนซึ่งว่านก็ให้ความร่วมมืออย่างดี พอว่านมานั่งที่ตักผมก็โอบตัวว่านเบาๆเอามือทั้งสองข้างประกบกันไว้เหนือขอบกางเกงว่านขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะดึงตัวว่านให้นอนราบลงมาบนตัวผม แบบนี้ผมรู้สึกดีจัง เหมือนบียังอยู่กับผมยังไงก็ไม่รู้ ผมเลื่อนมือขึ้นมาสูงกว่าเดิมอีกเล็กน้อยก่อนจะก้มลงเอาคางวางลงบนหัวว่านเบาๆ แล้วหลับตา....


“ขายังเจ็บอยู่ไหม” ผมถามว่านเบาๆ
“นิ๊ดหน่อยครับ” ว่านตอบกลับมา
“ดูแลตัวเองด้วยนะครับ....พี่เป็นห่วง”
“ครับ”


        แล้วผมก็นั่งกอดว่านอยู่แบบนั้นจนเด็กๆเริ่มทยอยมาผมก็เปลี่ยนไปนั่งที่โต๊ะแทน ซึ่งว่านก็ตามมานั่งตักอยู่ดี จนถึงเวลาเริ่มซ้อมนี่ก็เป็นอีกวันที่โค้ชไม่ได้ให้เข้าแถวเคารพสถานที่เคารพผู้สอนก่อน แต่ให้แยกวอร์มของใครของมันเลย โดยให้เวลา 20 นาทีเหมือนเคยระหว่างนั้นโค้ชก็กำชับผมไว้ว่าไม่ต้องไปดู ยืนอยู่ห่างๆ ซึ่งผมก็ทำตาม ประมาณ 10 นาทีหลังจากเริ่มวอร์มพี่ป้อมก็มาที่ยิม เด็กๆในยิมที่วอร์มกันอยู่ก็หันมายกมือไหว้พี่ป้อม ก่อนจะกลับไปวอร์มต่อ ซึ่งตอนที่พี่ป้อมเห็นเด็กๆวอร์มแบบนั้นพี่ป้อมก็เอ่ยถามอยู่เหมือนกันว่า “ทำไมไม่นำวอร์มล่ะ” โค้ชก็ชี้แจงว่า “ไม่ต้องนำหรอกวอร์มเองแบบนี้ดีกว่า” พอโค้ชชี้แจงจบพี่ป้อมก็ทำหน้างงๆ

        แล้วพี่ป้อมก็เริ่มถามถึงเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานเกี่ยวกับที่คุณโค้ชไปพูดหักหน้าผู้ปกครองรวมถึงใช้คำพูดที่ทำให้ผู้ปกครองเข้าใจว่าโค้ชกำลังกล่าวหาลูกเค้าว่าไม่มีความตั้งใจและไม่มีความรับผิดชอบ จนทำให้ผู้ปกครองต้องโทรไปฟ้องพี่ป้อม รวมถึงขอย้ายไปเรียนยิมอื่นโดยให้พี่ป้อมเคลียร์เอกสารที่ยืนยันการสอบสายของลูกเค้าทั้งหมดไปให้ ซึ่งพี่ป้อมต้องการทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากทั้งสองฝ่าย พอโค้ชได้ยินดังนั้นเลยตอบมาว่า “ก็ผมจะปรับปรุงรูปแบบการฝึกของยิมใหม่ ผมจะเน้นให้กับเด็กที่ตั้งใจก่อน ส่วนเด็กที่ไม่ตั้งใจผมก็จะปล่อยไป เพราะถ้าซ้อมรวมหลายครั้งเด็กที่ไม่ตั้งใจ จะทำให้เด็กที่ตั้งใจเสียสมาธิ รวมถึงทำให้เด็กที่จั้งใจพัฒนาฝีมือล่าช้าเพราะมีคนมาถ่วง”

        พอโค้ชพูดจบพี่ป้อมก็นั่งเงียบเหมือนจะคิดอะไรอยู่พักหนึ่งก่อนจะถามไปว่า “แล้วมันจริงไหมที่แกพูดว่าลูกเค้าแบบนั้น” พอถูกยิงคำถามมาแบบนี้โค้ชก็ตอบไปว่า “ผมไม่ได้ว่าเค้าแรงเลย ผมแค่อธิบายว่าทำไมผมถึงแยกซ้อมแบบนั้น ก็อย่างที่บอกว่าผมจะจี้เฉพาะเด็กที่ตั้งใจ ถ้าเค้ารับรูปแบบการสอนของผมไม่ได้ จะไม่ซ้อมกับผม จะย้ายยิม ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร ผมอยากให้ที่ยิมมีแค่เด็กที่ตั้งใจอยากจะเก่งก็พอ” พูดจบโค้ชก็ลุกขึ้นเดินไปจี้เด็กรายตัวโชว์ พี่ป้อมนั่งนิ่งแล้วมองตามหลังโค้ชไปก่อนจะยิ้มมุมปากแล้วส่ายหน้า ตามด้วยหันมามองผมที่ยืนอยู่ใกล้ๆ


“พี่กลับแล้วนะ” พี่ป้อมพูดพลางลุกขึ้นจากเก้าอี้
“อ่าว กลับแล้วเหรอพี่”
“อื่อ แล้วเจอกัน”
“ครับ”


        แล้วพี่ป้อมก็ลุกไป.....เหลือผมที่ยืนดูน้องอยู่ห่างๆตามคำสั่งของโค้ช พอพี่ป้อมลุกออกไป โค้ชก็ชายตามามองเล็กน้อยเหมือนพวกนางร้ายในหนังเลยอะครับ ถ้ามีคำพูดประมาณว่า “ชิ ไปซะได้ก็ได้” ดังออกมาด้วยนะ ใช่เลยทีเดียว วนกลับมาที่เรื่องของเทควันโดซึ่งจริงๆแล้วที่โค้ชพูดมามันก็ฟังดูดีนะครับ แต่ตามหลักของกีฬาที่ว่าด้วยเทควันโดนี้จะมีการฝึกแบบเดียวกับทหารคือจะมีการซ้อมพร้อมกันตามคำสั่ง การแยกฝึกกับครูเป็นกลุ่มๆ แต่ก็ยังต้องทำพร้อมกันอยู่ดี แล้วก็ การเข้าแถวเตะแป้น ซึ่งจะมีผู้สอน หรือ ครูคุมอยู่ตลอดเวลา รวมๆแล้วเทควันโดเป็นการฝึกความมีระเบียบวินัยแล้วก็ความอดทนอย่างหนึ่ง ซึ่งถ้าใครเคยฝึกเทควันโด แล้วไปเรียน รด. หรือ เข้าเป็นทหารกองประจำการล่ะก็จะรู้สึกได้เลยว่าการฝึกมันเหมือนกันเปี๊ยบซึ่งต่างกับอะไรที่โค้ชกำลังทำอยู่นี้ที่ต่างคนต่างไปทำของตัวเอง

        หลังจากพี่ป้อมกลับไปการฝึกอย่างโหดก็เริ่มขึ้นวันนี้ผมไม่ได้ร่วมแจมด้วยเนื่องจากยังปวดเข่าอยู่ ผมนั่งมองน้องๆซ้อมอย่างเอาจริงเอาจัง ต้องยอมรับเลยว่าการกดดันเพื่อนๆตามสูตรของว่านมันได้ผลจริงๆให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าทุกคนกำลังพยายามทำให้เต็มที่อยู่ ยิ่งว่านไม่แสดงทีท่าว่าเหนื่อยหอบออกมา หลายๆคนก็ยิ่งไม่กล้าบ่นจนเหลือ 10 นาทีสุดท้ายก่อนหมดเวลาซ้อมโค้ชเรียกน้องๆมานั่งรวมกันที่มุมของยิมโดยโค้ชนั่งเก้าอี้เหล็กแบบที่ใช้ในบาร์เหล้าก่อนจะเริ่มพุดคุยเกี่ยวกับการฝึกวันนี้ ส่วนหนึ่งของการพูดคุยมีเรื่องเกี่ยวกับรูปแบบการฝึกแบบนี้ด้วยโดยโค้ชพูดทำนองว่า “การฝึกแบบนี้เป็นการฝึกของคนขยัน คนมีความรับผิดชอบ ถ้าเราตั้งใจครูจะเดินมาจี้รายตัวเลยไม่ต้องกลัว ส่วนใครไม่ตั้งใจครูก็จะปล่อยมันไป คนที่อยากเก่งจะได้รีบเก่ง คนที่ไม่อยากเก่งก็ปล่อยให้ย่ำอยู่กับที่ไป” ซึ่งระหว่างที่คุยโค้ชยกตัวอย่างว่านให้สมาชิกคนอื่นๆในยิมได้เอาเป็นตัวอย่างอยู่เนืองๆ ทำเอาว่านนั่งยิ้มพลางหัวเราะแก้เขินเป็นระยะๆเลยทีเดียว แล้ววันนี้ก็เป็นอีกวันที่โค้ชให้แยกย้ายกลับบ้านเลยเมื่อถึงเวลาเลิก ผมเองไม่ได้พูดอะไรเรื่องนี้เพราถ้าโค้ชเค้าเห็นว่าดีก็ทำไป พอโค้งสั่งเลิกเสร็จผมก็เดินไปนั่งที่มุมเดิม ส่วนว่านก็เดินไปหยิบยามานั่งนวดขาอยู่ข้างๆผมเหมือนเคย


“เป็นเด็กติดยาไปแล้วเหรอ” ผมพูดจบว่านก็หันมามองผมทำหน้างงๆใส่
“ก็ยานวดไง เห็นว่างไม่ได้เลยช่วงนี้นวดตลอด”
“แฮะๆ” ว่านหันมายิ้มๆ
“พี่ช่วยนวดไหม” ว่านไม่ตอบแต่ยื่นหลอดยามาให้แทน ผมเลยช่วยน้องนั่งนวดเข่า
“เวลาซ้อมก็อย่าหักโหมมากรู้เปล่า เข่าเจ็บขึ้นมามันรักษายาก”
“ครับ” ว่านตอบกลับมา...ครับอีกแล้วแต่เวลาซ้อมว่านก็เต็มที่ที่สุดกว่าใครๆในยิมตลอดอยู่ดี

        ไม่นานนักน้องๆในยิมก็กลับหมด ผมเดินไปใส่เสื้อวอร์มก่อนจะเดินไปปิดไฟ แล้วระหว่างที่ผมเดินไปปิดไฟอยู่นั้นเสียงๆหนึ่งก็ดังขึ้นมาจากข้างหลัง

“แฮ่!...ง่ำ!!!”
   
        ว่านกัดเข้าที่ไหล่ผมเต็มๆ แถมเอาสองมือมาโอบกอดตัวผมไว้อย่างแน่นหนา ทว่า...ผมสูงกว่าว่านนะการที่จะงับไหล่ผมได้ว่านต้องเขย่งเท้า ผมเลยสะบัดๆตัวเล่นกับว่านด้วย เหมือนว่าว่านจะชอบใจใหญ่เลย ก่อนที่ว่านจะค่อยๆผ่อนแรงกัดลง แล้วเปลี่ยนมาซุกไหล่ผมอีกข้างแทน

“พี่หอมจัง....อร่อยด้วย....” ว่านพูดขึ้น
“เอาเสื้อพี่ไปนอนกอดเล่นไหมละ กัดด้วยก็ได้นะ แล้วก็...ซักให้ด้วยล่ะตอนเอามาคืน” ผมพูดติดตลก
“ไม่เป็นไรแบบนี้ดีกว่า” ว่านพูดขึ้นขณะที่เค้ายังกอดผมอยู่ข้างหลังอยู่เลย


        ผมเอามือมาจับมือเค้าไว้เบาๆแล้วยืนอยู่แบบนั้นพักหนึ่งก่อนจะบอกให้น้องไปเอากระเป๋าของผมที่วางอยู่บนชั้นวางกระเป๋าแล้วไปส่งน้องที่บ้าน....วันนี้น้องนั่งซบหลังผมไปตลอดทางเลย มือซ้ายของน้องผมก็กุมไว้ที่ตักผมตลอดทางเช่นกัน พรุ่งนี้วันเสาร์แล้วซินะ เดี๋ยวว่านก็ได้เจอคุณแม่แล้วจะได้ไม่ต้องนอนเหงาคนเดียว แต่ว่า...คืนนี้ก็เป็นอีกคืนที่ว่านต้องนอนหลับอยู่ลำพัง....ผมเองก็เช่นเดียวกัน....

To Be Con

ออฟไลน์ w[o]w

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 6 : 28/04/11 )
«ตอบ #35 เมื่อ29-04-2011 03:14:40 »

มันเศร้าๆอ่า น้องมันเด็กหรือน้องมันคิดยังไงกันแน่ มันเหมือนไม่มีอะไรที่ชัดเจน ตั้งแต่น้องบี แล้วตอนนี้ก็ว่าน พี่เอสู้ๆครับ

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 6 : 28/04/11 )
«ตอบ #36 เมื่อ29-04-2011 14:11:43 »

เมื่อรัยพี่เอจะตกลงปลงใจกันน้องคนใดคนหนึ่งซะทีล่ะเนี่ย ลุ้นอยู่ เฮะๆ

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 6 : 28/04/11 )
«ตอบ #37 เมื่อ29-04-2011 19:10:14 »

น้องว่านใส่ชุดลูกเสือ คงน่ารักดีนะ เห็นเด็กแถวบ้านใส่กัน น่ารักดี

ปล. แอบคิดถึงน้องบีเหมือนกันนะเนี่ย

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 6 : 28/04/11 )
«ตอบ #38 เมื่อ29-04-2011 20:15:20 »

อ่านของน้องว่าน
ก็ยังอดคิดถึงน้องบีไม่ได้
น้องบีติดต่อมาหาพี่เอบ้างไหม
+1 นะคะ

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 6 : 28/04/11 )
«ตอบ #39 เมื่อ29-04-2011 22:12:28 »

^
^
^
จิ้มพี่เอ.. :z13:
น้องว่านนี่ก็แอบเยอะเหมือนกันนะเนี่ย เครียดกับชีวิตมากเกิน..
ส่วนอีกคนอิตาโค้ชเนี่ย เป็นอะไรมากรึปล่าว จริงๆไม่จำเป็นต้องซ้อมหนักขนาดนี้ก็ได้มั้ง เอาแบบว่าให้ร่างกายอดทนได้ครบยกแล้วสอนเทคนิคเพื่อเตะได้แต้มแบบไม่ต้องปะทะไม่ดีกว่าเหรอ..เซ็งอิตาโค้ช  :เฮ้อ:

โค้ชเค้าชี้แจงว่า เตะเก่งแค่ไหนก็ตามถ้าแรงไม่มีก็ตายยกสามอะครับ เพราะงั้นโค้ชเค้าเลยเน้นซ้อมเอากำลังซะมากกว่า
่่ว่านเองก็ดูเหมือนจะเชื่อตามที่โค้ชบอกครับ เค้าเลยไม่อู้เลยหนักแค่ไหนเค้าก็ทำ




^
^
^
ก็ว่างั้นแหละอิตาโค้ชเนี่ยมันบ้าป่าว
น้องว่านน่าสงสารจัง ต้องอยู่บ้านคนเดียวให้พี่ไปอยู่เป็นเพื่อนไหมจ้ะ หึหึ :z1: :haun4:

 :a5: ~ น้องเพิ่ง 14 เองนะครับ
 :z1: ~ กึ๋ยๆ



มันเศร้าๆอ่า น้องมันเด็กหรือน้องมันคิดยังไงกันแน่ มันเหมือนไม่มีอะไรที่ชัดเจน ตั้งแต่น้องบี แล้วตอนนี้ก็ว่าน พี่เอสู้ๆครับ

 :กอด1: ~ นั่นซิครับ....เด็กๆนี่น๊าา



เมื่อรัยพี่เอจะตกลงปลงใจกันน้องคนใดคนหนึ่งซะทีล่ะเนี่ย ลุ้นอยู่ เฮะๆ

 :กอด1: ~ ปลงใจไปแล้วครับ แต่น้องปลงใจด้วยหรือเปล่านี่หน่ะซิครับ



น้องว่านใส่ชุดลูกเสือ คงน่ารักดีนะ เห็นเด็กแถวบ้านใส่กัน น่ารักดี
ปล. แอบคิดถึงน้องบีเหมือนกันนะเนี่ย

 :กอด1:~ คิดถึงบีเหมือนกันครับ



อ่านของน้องว่าน
ก็ยังอดคิดถึงน้องบีไม่ได้
น้องบีติดต่อมาหาพี่เอบ้างไหม
+1 นะคะ

 :กอด1: ~ บีไม่ได้ติดต่อมาเลยอะครับ มีแต่ผมโทรไป สงสัยเจออะไรที่น่าสนใจกว่าแล้วก็เป็นได้
 :o12:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 6 : 28/04/11 )
« ตอบ #39 เมื่อ: 29-04-2011 22:12:28 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 6 : 28/04/11 )
«ตอบ #40 เมื่อ29-04-2011 22:36:41 »

ช่วงที่ 7


       
        “แต่ก แต่ก แต่ก แต่ก แต่กแต่กแต่ก แต่ก” ในค่ำคืนที่บรรยากาศเย็นยะเยือก ผมนั่งพิมพ์เอกสารที่ยังค้างคาอยู่เพียงลำพังหน้าคอมพิวเตอร์ ข้างๆมีแก้วโกโก้ที่ถูกตั้งไว้จนเย็นชืดใกล้กันก็มีขวดชาที่ซื้อจากร้านสะดวกซื้อถูกวางไว้จนอุณหภูมิของน้ำที่อยู่ในขวดเท่ากับอุณหภูมิของห้อง หลายครั้งที่ผมนั่งทำงานเรื่อยๆจนลืมที่จะดูเวลาว่าตอนนี้เวลาเท่าไหร่แล้ว วันนี้ก็เช่นกันผมนั่งปั่นงานตั้งแต่ทานข้าวเสร็จ มันเป็นงานที่เพื่อนผมบอกว่าจะทำ แต่ว่าจากประสบการณ์ที่รู้จักกันมา 2 ปีกว่า ถ้าไม่ใกล้ถึงวันเส้นตายพวกเค้าจะยังไม่เริ่มทำแน่ๆ แล้วผมก็ไม่มั่นใจว่าพวกเค้าจะทำทัน ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาผมจึงเริ่มทำงานเหล่านั้นทันทีเมื่อว่างหรือมีเวลา แล้วในระหว่างที่ผมกำลังนั่ง คิดไป พิมพ์ไป ลบไป อยู่นั้นสัญญาณที่บอกผมว่าที่มันเลยเวลานอนมานานแล้วก็เริ่มดังขึ้น

“จิ๊บๆๆๆๆ....จิ๊บๆ....”

        เสียงนกน้อยร้องในยามเช้า......ผมคุ้นเคยกับเสียงนี้มากเมื่อครั้งที่ผมยังเป็นเด็กติดเกม นั่งปั่นเลเวลกันทั้งวันทั้งคืนจนไม่ยอมหลับยอมนอนถ้าไม่ถึงที่สุดจริงๆ แล้วทุกๆคืนสิ่งที่ทำให้ผมรู้ว่าอีกไม่กี่นาทีพระอาทิตย์ก็จะขึ้นแล้วก็คือเสียงนกน้อยพวกนี้นั่นเอง น่าแปลกนะครับในเวลาแบบนี้ไม่ว่าจะที่ไหนๆเสียงร้องของนกก็จะคล้ายๆกันตลอดเลยราวกับว่ามันเป็นเสียงจากนกตัวเดียวกันยังไงยังงั้น

“04.07 น.”

        ผมกดบันทึกงาน ก่อนจะปิดคอมพ์ แล้วก็ค่อยๆเดินไปที่ห้องนอน พอถึงปลายเตียงผมเอนตัวล้มลงนอนบนเตียงนุ่มๆ ผมค่อยๆคลานขึ้นมาที่หัวเตียงดึงหมอนที่ผมใช้หนุนประจำมาวาง อีกมือก็คว้าผ้าห่มผืนใหญ่สีฟ้ามาห่มให้อุ่นๆอีกมือก็กดเปิดแอร์ เสียงเครื่องแอร์เริ่มการทำงานของมัน ผมวางรีโมทแอร์คว้าหมอนข้างคู่ใจมากอดไว้ในอ้อมแขน แล้วผมค่อยๆหลับตาลงอย่างมีความสุข ไหนๆพรุ่งนี้ก็วันเสาร์แล้วขอนอนให้เต็มคราบสักวันแล้วกันแต่ทว่าหลังจากที่ผมเคลิ้มหลับไปได้ไม่นานเสียงโทรศัพท์เครื่องรองก็ดังขึ้น

“ใครโทรมาวะ” ผมคิดในใจ

        แล้วผมก็เอามือไปจับๆ หาโทรศัพท์ที่วางเรียงกันอยู่ที่หัวเตียง ก่อนจะเอามากำไว้ในมือแต่ตอนนั้นผมไม่อยากลืมตาเลยล่ะ ผมรู้สึกอยากนอนมากกว่า แต่ใครกันที่โทรมาเวลานี้ ผมกดปิดเสียงก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆตอนนั้นรู้สึกเลยว่าแสบตามากมาย แล้วก็มองออกไปนอกหน้าต่างปรากฏว่าฟ้ายังไม่ทันสางเลยด้วยซ้ำ ผมเหลือบมองมาที่นาฬิกาที่ขึ้นอยู่ที่มุมจอของโทรศัพท์

“05.15”
“เพิ่งจะได้ชั่วโมงเดียวเอง” ผมบ่นงึมงำก่อนจะเลื่อนระดับสายตาลงมาที่ชื่อของคนที่โทรเข้า
“ว่าน Calling”
“......” ผมเป็นคนงกนอกครับ ปรกติเวลานอนจะไม่ชอบให้ใครมากวน ตอนนี้ผมกำลังลังเลนิ๊ดๆ ว่าจะรับสายดีไหม แล้วก็.....
“ครับ....ว่าน” ผมกดรับสายก่อนจะเอาโทรศัพท์มาแนบกับหูแล้วพูดด้วยน้ำเสียงงัวเงียสุดๆ
“พี่นอนอยู่เหรอ”
“อื่อ”
“พี่ผมรบกวนหน่อยได้ไหมครับ” ว่านพูดด้วยน้ำเสียงลนลานหน่อยๆ
“ว่า”
“พี่มารับผมหน่อยได้ไหมครับ ตอน หกโมงตรงผมมีธุระด่วนไม่มีใครไปส่ง”
“อืม....คุณแม่ล่ะ”
“คุณแม่ยังไม่กลับมาเลยครับ”
“ธุระเช้าจังเนาะ” ผมตอบพลางขยี้ๆตา
“ก็โค้ชเพิ่งโทรมาบอกผมก่อนที่ผมจะโทรหาพี่ประมาณ 5 นาทีเองครับ” ว่านพูดด้วยน้ำเสียงลนๆ
“หืม....เพิ่งโทรมาบอกเมื่อกี้ๆ   เองหน่ะซิ....”ผมเริ่มตาสว่างขึ้นมาเล็กน้อย
“ครับ”
“อืมๆ เดี๋ยวพี่ไปรับ หกโมงนะ”
“ครับพี่ขอบคุณมากครับ”
“เดี๋ยวๆๆ”
“หกโมงที่ว่านี่คือให้พี่ไปถึงบ้านเรา หรือ ว่าหกโมงนี่ต้องไปถึงที่หมายแล้ว”
“เห็นโค้ชบอกว่าต้องไปถึงก่อน หกโมงสิบห้า นาทีครับ”
“เหรอ อืม...แล้วเจอกัน”
“ครับๆ”


        แล้วผมก็วางสายก่อนจะถอนหายใจยาวๆหนึ่งเฮือก แล้วหยิบโทรศัพท์มาดูอีกครั้ง “05.20” อีกแค่ 40 นาทีเอง ไม่ซิ สัก 25 นาทีได้เพราะกว่าจะลงไปใส่เสื้อผ้ากว่าจะออกจากบ้านกว่าจะถึงบ้านว่าน แล้วผมก็ถอนให้ใจอีกครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นมาเปิดคอมพ์อีกครั้งเพื่อเปิดเพลงฟังแก้เงียบระหว่างนั้นผมก็อาบน้ำช้าๆก่อนจะออกมาเปลี่ยนเสื้อผ้า ชงโกโก้จิบเล่นพลางอ่านเอกสารตัวอย่างที่ผมจะต้องพิมพ์ตามเพื่อเป็นการฆ่าเวลา ผมกะว่าส่งว่านเสร็จแล้วจะกลับมานอนต่อ ตื่นสักบ่ายๆก็แล้วกันช่างมันไม่นานนักก็ถึงเวลาที่ผมต้องออกจากบ้านไปหาว่านที่บ้านก่อนจะพาว่านไปยังที่ๆว่านบอกว่าโค้ชนัดให้มาเจอ วันนี้ว่านแต่งตัวเท่มากเสื้อยีนส์คลุมนอกหนึ่งตัว เสื้อคอกลมสีขาวบางๆหนึ่งตัว แล้วก็เสื้อกล้ามซับในอีกหนึ่งตัว กางเกงยีนส์ตัวไม่ใหญ่ ไม่เล็กกำลังพอดี รองเท้าผ้าใบสีขาวคาดน้ำเงิน ใส่เข็มขัดผ้าสีดำหัวเงินขัดเงาแว๊บๆพอรับว่านเสร็จแล้วผมก็รีบเบิ่งตรงไปยังจุดหมายโดยระหว่างทางที่ขับรถผมไม่ได้พูดอะไรเลย แค่ 10 นาทีผมก็มาถึงที่นัดหมาย

        สถานที่ที่ว่านี้คือศาลากลางจังหวัดครับ แต่ว่า.... เมื่อมาถึงไม่มีใครเลยแม้แต่คนเดียวจะมีก็แค่ยามที่ส่องๆมองพวกผมอยู่จากในป้อมที่อยู่ไม่ห่างออกไปมากนัก ส่วนตึกอาคารต่างๆทั้งที่อยู่ตรงหน้าและรอบข้างยังถูกปิดไว้อย่างแน่นหนา ไม่มีรถใครเลยสักคันนอกจากรถผม บรรยากาศเงียบสงบมีแต่เสียงนกร้อง กับลมเย็นๆ แล้วก็แดดอุ่นๆของยามเช้าที่ส่องลงมาลอดผ่านช่องใบของต้นหูกวางต้นใหญ่ที่ข้างๆที่จอดรถถ้าคุณนึกไม่ออกลองนึกถึงฉากการ์ตูนตลกที่มีไอ้บ้าสองคนไปก่อนเวลานัดแล้วหันมาทำตาตี่ๆเหงื่อตก อาจมีกาบินอยู่เหนือหัว หรือใบไม้ปลิวผ่านด้วยก็ตามแต่จะจินตนาการกันดู


“ว่าน....หกโมงสิบห้าแน่เหรอ” ผมถามว่านที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ครับโค้ชบอกว่าแบบนั้น”
“แล้วโค้ชเค้าให้มาทำอะไรเนี่ยะ”
“ผมก็ไม่รู้”
“อ่าว แล้วตอนที่โค้ชโทรมาบอกให้มา เค้าไม่ได้บอกเหรอว่าให้มาทำอะไร”
“เปล่าครับ บอกแค่ว่าให้มาที่นี่ก่อนหกโมงสิบห้า แล้วเดี๋ยวโค้ชจะตามมาประมาณหกโมงยี่สิบ” ว่านพูดจบผมก็มองนาฬิกา
“06.18น.”
“พี่กลับเลยนะ” ผมหันมาบอกว่านพลางเอากุญแจเสียบที่รถ
“พี่...จะทิ้งผมไว้คนเดียวจริงๆเหรอ” ว่านพูดพลางคว้าแขนผมไว้ข้างหนึ่ง
“หกโมงสิบแปดแล้วเดี๋ยวโค้ชก็มามั้ง”
“.....” ว่านไม่พูดอะไรแต่มือน้องจับผมไว้ไม่ปล่อยเลย
“เอาน่าๆ ล้อเล่นๆ ใครจะทิ้งไว้คนเดียวล่ะ” ผมพูดพลางยิ้มแล้วลงจากรถ แล้วลูบๆหัวว่านเบาๆ
“....” ว่านไม่ตอบอะไรกลับมามีแค่รอยยิ้มที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าเท่านั้นที่พอจะบอกได้ว่าน้องรู้สึกยังไงที่ผมไม่ปล่อยน้องไว้คนเดียว

“06.40น”
“ว่าน โค้ชบอกจะมากี่โมงนะ” ผมถามว่านซ้ำขณะที่ผมไปนั่งยองๆอยู่ที่ฟุตบาทริมทางโดยมีว่านนั่งอยู่ข้างๆ
“โค้ชบอกจะมาหกโมงยี่สิบครับ”
“นั่นหกโมงสี่สิบแล้วอะ” ผมคิดในใจ
“ว่านโค้ชเค้าได้บอกก่อนหน้านี้ไหม ที่ให้มาวันนี้อะ” ผมหันไปถามว่าน
“ไม่ครับ”
“เพิ่งโทรมาบอกตอนเช้าเลยเหรอ”
“ครับ”
“ให้มาทำอะไรล่ะได้บอกไหม”
“ไม่ครับ”
“อืม...เค้าบอกให้มาก็มากันเนาะ ถ้าโค้ชหลอกไปส่งขายมาเลย์คงโดนทั้งพี่ทั้งน้องล่ะงานนี้ ฮ่าๆๆ”
“นั่นซิครับ ฮ่าๆๆ” ว่านหัวเราะชอบใจ


        ระหว่างที่รอผมชวนว่านคุยเรื่องทั่วไปเน้นเรื่องตลกซะมากกว่าซึ่งว่านก็ดูจะชอบ แล้วเวลาก็ผ่านไปซึ่งตลอดระยะเวลาที่รอผมบอกให้ว่านติดต่อหาโค้ชเรื่อยๆ เพราะผมไม่รู้ว่าโค้ชให้มาทำอะไร ทำที่ไหน เวลาเท่าไหร่ ที่สำคัญโค้ชบอกว่านว่าจะมาตั้งแต่หกโมงยี่สิบแต่นี่มันอีกห้านาทีก็สองโมงเช้าแล้วโค้ชก็ยังไม่เห็นโผล่มา แถมยิงปิดโทรศัพท์อีก สรุปนี่เค้าให้ผมกับว่านมาทำอะไรที่ศาลากลางจังหวัดตั้งแต่หกโมงเช้าเนี่ยะพอเวลาล่วงเลยไปจนประมาณสองโมงสิบห้านาทีผมก็สะกิดว่านที่นั่งเล่นอยู่ข้างๆแล้วพูดว่า


“กลับเหอะ”
“ครับ?” ว่านตอบกลับมาแล้วทำหน้าตาสงสัยใส่ผมด้วย
“นี่มันจะสองโมงครึ่งแล้ว โค้ชยังไม่มาเลย แล้วให้มาทำอะไรก็ไม่รู้ นั่งรอกันตั้งแต่หกโมงแล้วเนี่ยะ”
“เดี๋ยวโค้ชคงมามั้งครับ เค้าอาจติดธุระอยู่” ว่านตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความเชื่อมั่นในตัวโค้ช
“หรือว่าถูกจ่าซิวแต่เช้าเนี่ยะ ใกล้สิ้นเดือนแล้วด้วย ฮ่ะๆ”
“นั่นซิครับ” แล่วว่านก็หัวเราะใหญ่


        ผมบอกตรงๆว่าที่ผมยังฮาอยู่กับว่านก็แค่เปลือกนอกนะครับ เพราะในใจผมตอนนี้เซ็งสุดๆเลย อะไรของเค้าไม่มีบอกล่วงหน้า ทั้งๆที่เวลาก่อนหน้าก็มีถมถืด นึกอยากบอกตอนไหนก็บอก แล้วไม่บอกด้วยว่าให้มาทำอะไร แถมตัวเองบอกว่าจะตามมาตอนหกโมงยี่สิบ นี่มันเวลาเท่าไหร่แล้ว ทำไมถึงนัดเวลามั่วซั่วได้ขนาดนี้ แบบนี้โทรมาบอกตอนเจ็ดโมงครึ่งก็ยังมาทันเลย แล้วระหว่างที่ผมนั่งคุยเล่นกับว่านอยู่นั่นผมก็เห็นอาจารย์โจ้ขับรถกระบะพานักกีฬามาจอดใกล้ๆกับที่ผมนั่งอยู่ พอรถจอดสนิทพวกนักกีฬาก็ทยอยลงจากรถแล้วมายกมือไหว้ผมเนื่องจากอาจารย์โจ้ค่อนข้างเข้มงวดเรื่องระเบียบวินัยรวมถึงมารยาท แล้วอาจารย์โจ้ก็ตามลงมา


“สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้อาจารย์โจ้ที่กำลังกดล็อคประตูรถ
“ว่าไงเอ มานานยัง”
“ก็พักใหญ่ๆแล้วล่ะครับ”
“แล้วโค้ชล่ะ”
“เห็นว่าเดี๋ยวตามมาครับ”
“เหรอ ปะๆใกล้ได้เวลาแล้ว”
“ครับ”แล้วผมก็พาว่านเดินตามอาจารน์โจ้ไป
“อาจารย์โจ้ครับ วันนี้เค้าให้มาทำอะไรเหรอครับ” ผมถามอาจารย์โจ้ขณะที่เดินอยู่บนฟุตบาทริมทาง
“อ่าว เอไม่รู้เหรอ” อาจารย์โจ้หันมาถามพลางยิ้มๆ
“ไม่อะครับ”
“วันนี้ผู้ว่าท่านนัดพบนักกีฬาที่จะไปขัดเป็นตัวแทนเขตสามไง”
“เหรอครับ แล้วเค้านัดไว้กี่โมงเหรอครับ”
“เค้านัดสองโมงสี่สิบห้า”
“อ่อครับ”


        อืมมม นัดสองโมงสี่สิบห้าแต่โค้ชผมให้ผมมารอตั้งแต่หกโมงสิบห้านาทีเยี่ยมจริงๆ แล้ววันนั้นการประชุมตอนสามโมงเช้าก็เริ่มขึ้นโดยปราศจากโค้ชของยิมผมในขณะที่ยิมอื่นโค้ชเค้ามากัน....”[/b]โค้ชไม่ได้มาด้วย”[/b] คำถามนี้ดังขึ้นอยู่ตลอดเวลา แต่ช่างเค้าเถอะครับ โดยเรื่องที่ประชุมวันนั้นมันมีสาระสำคัญแค่พบปะพูดคุย ให้กำลังใจ อวยพร แล้วก็ให้ค่าเบี้ยเลี้ยงนักกีฬาเท่านั้น วันนั้นผมก็อยู่เป็นเพื่อนว่านจนเวลาประมาณสิบโมงห้านาทีโค้ชก็โทรเข้าเครื่องผม


“เอ อยู่ไหนกันแล้ว” โค้ชถามด้วยน้ำเสียงเร่งรีบมากๆจากที่ผมพยายามเงี่ยงหูฟังผมรู้สึกว่าเค้าน่าจะอยู่แถวๆลานจอดรถ
“ห้องประชุมครับ” ผมตอบกลับไป
“ตรงไหน”
“อาคารabc ครับ”
“แล้วพี่จะรู้ไหม”โค้ชตอบกลับยมาด้วยน้ำเสียงติดตลกเล็กน้อย...
“.....” แต่ขอโทษเหอะครับ ตอนนี้ผมไม่ตลกด้วยอะ
“ออกมารับพี่หน่อยพี่อยู่ตรงลานจอดรถข้างหน้าเนี่ยะ”
“ครับ”
   

        แล้วผมก็ไปหาโค้ช พอไปถึงลานจอดรถเค้าก็เดินมาหาผม ระหว่างที่เดินนำทางเค้าไปที่ห้องประชุม ผมไม่พูดอะไรกับเค้าสักคำ โค้ชเองก็ทำท่าลุกลี้ลุกลนเหมือนอยากแก้ตัวเหมือนกัน จนกระทั่งมาถึงห้องประชุมโค้ชเค้าก็พูดขึ้นมาลอยๆว่า “พอดีแฟนพี่เค้าจะให้พี่ไปส่งที่มหาวิทยาลัย พี่ก็เลยต้องรอไปส่งเค้าให้เสร็จก่อนถึงมาได้” พอโค้ชพูดจบผมไม่ได้หันไปมอง หรือ ทำท่าสนใจคำพูดของเค้าด้วยซ้ำ ที่สำคัญเวลานี้ผมง่วงนอนมากๆ ในเมื่อโค้ชมาแล้ว ผมเลยส่ง SMS ไปบอกว่านว่าน “กลับกับโค้ชนะ พี่มีธุระ” ผมไม่ได้กลับเข้าห้องประชุม

        พอมาถึงบ้านผมนั่งลงตรงโซฟาที่อยู่ใกล้ๆกับประตูนั่นเอง โซฟาที่ผมเคยนั่งกอดบี คิดถึงบีจังเลย ผมดึงหมอนที่บีเคยนอนหนุน เคยนั่งกอด มาวางไว้ตรงปลายโซฟาแล้วเอนตัวนอนลงไป อ่า....ได้เวลานอนสักทีคราวนี้ตื่นเย็นแน่เลย ว่าแล้วผมก็ค่อยๆหลับตาลง.....ทว่า....เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง


“ว่าน Calling”
“อืมมม ว่านเองเหรอ” ผมคิดในใจก่อนจะกดรับสาย
“ว่า”
“พี่เออยู่ไหน”
“บ้าน”
“อ่าว กลับตอนไหน”
“เมื่อกี้ล่ะ”
“พี่มารับผมด้วย”
“หืม...กลับกับโค้ชได้ไหมอะ พี่มาถึงบ้านแล้ว”
“......” ว่านเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะตอบมาว่า“ได้ครับ”

        แล้วผมก็วางสายก่อนจะค่อยๆข่มตาหลับอีกครั้ง.......แต่ว่า.................

“ว่าน Calling”
 
        อยากให้ผู้อ่านนึกหน้าผมตามนี้นะครับ ผมนอนบนโซฟาตามยาวหันหลังให้ที่พิง หนุนหมอนหนึ่งใบ ในมือถือโทรศัพท์แล้วทำหน้าเหมือนจะร้องให้อยู่

“ว่า.....”
“พี่เอ โค้ชมีธุระด่วนมากๆๆ จะคุยด้วย” ว่านทำเสียงตื่นตกใจสุดๆ
“อะไรอีกอะ” ผมถามกลับไป ด้วยน้ำเสียงแอบเซ็งหน่อยๆ
“ไม่ทราบครับ”
“ไม่ทราบอีกแล้ว โค้ชอยู่แถวนั้นไหมถามหน่อยเรื่องอะไร”
ว่านเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะมาตอบว่า “โค้ชบอกว่าให้พี่เอมาก่อนครับ คุยตอนนี้ไม่สะดวก แต่สำคัญแล้วก็ด่วนมากจริงๆ”
“ที่ไหน....กี่โมง”
“ที่ยิมครับ ตอนนี้เลย รีบมานะพี่ แค่นี้นะครับ”
   

        แล้วว่านก็วางสายไป.....จริงๆตามธรรมเนียม...ผมไม่ไปนะ แถมโทรมาถี่ขนาดนี้อาจมีสวดกลับไปด้วย.....แต่กับว่านผมไม่รู้สึกอยากทำแบบนั้นเลยแฮะ ตรงกันข้ามผมค่อยๆลุกไปชงโกโก้ดื่มให้ตื่นตัวอีกถ้วยด้วยซ้ำก่อนจะไปที่ยิม พอไปถึงเจอคุณโค้ชกับน้องว่านเหมือนจะกำลังคุยเรื่องสำคัญกันอยู่จริงๆ พอว่านเห็นผมเปิดประตูยิมว่านหันมายิ้มแล้วทำท่าดีใจ ก่อนจะกวักมือเรียกผมยิ๊กๆ ผมเดินไปนั่งข้างๆว่าน


“ครับ” ผมพูดออกไปเป็นสัญญาณว่าพร้อมแล้วมีอะไรก็คุยมา
“เอ เนี่ยะพี่คิดอย่างหนึ่งได้” โค้ชพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นดีใจสุดๆ
“คือ”
“คืองี้ พี่ว่าจะทำแบบให้เด็กเราออกค่าย”
“แล้ว”
“คือเมื่อกี้เค้าแจ้งเรื่องวันแข่งขันแล้วก็วันเดินทางมา แล้วเค้าให้ไปก่อนวันแข่งสามวัน แล้วมีการจัดแข่งขันสี่วัน พี่ไม่รู้ว่าว่านจะได้แข่งวันไหนทีนี้ช่วงนั้นมันตรงกับวันหยุดพอดี พี่เลยว่าจะให้เด็กๆยิมเราไปเก็บตัวกับอาจารย์กบด้วยแบบออกค่ายหน่ะแล้วก็จะกลับพร้อมกันหลังว่านแข่งเสร็จ”
“ค่าใช้จ่ายอะไรล่ะพี่”
“พี่จะเก็บคนละห้าร้อยบาทเป็นค่าที่พัก ส่วนรถก็รถไฟฟรี”
“พักกันที่ไหนล่ะครับ”
“พักกันที่ยิมอาจารย์กบเลย”
“หลายวันอยู่นะ แล้วจะเริ่มเดินทางกันวันไหนล่ะครับ”
“พรุ่งนี้ ตีห้า”

        ผมฟังดังนั้นถึงกับอึ้งรับประทานโค้ชเค้าวางแผนเมื่อกี้ๆ แล้วจะเดินทางกันพรุ่งนี้เลย ผมเลยค้านความเห็นโค้ชออกไปทันที

“พี่เรายังไม่ได้บอกน้องเลยนะครับ”
“ก็บอกเย็นนี้ไง” โค้ชตอบกลับมาแบบยิ้มๆ
“แล้วเด็กๆเค้าจะเตรียมตัวทันเหรอพี่”
“ก็ใครพร้อมก็ไป ไม่พร้อมก็ไม่ต้องไป สนใจอะไรล่ะ เราเอาแต่คนที่พร้อม” โค้ชพูดติดตลกเหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องขำๆ
“แล้วถ้าไปพรุ่งนี้ก็เท่ากับว่าไปก่อนตั้ง 4 วันเลยนะครับ แล้วพี่บอกว่าให้น้องกลับวันที่ว่านแข่งเสร็จ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าวันไหน ถ้าเป็นวันสุดท้ายมันจะนานไปไหมอะพี่”
“ไม่เห็นเป็นไรเลย ว่านมันยังอยู่ได้” โค้ชพูดจบพลางหันไปยิ้มให้ว่าน
“ใช่พี่ ผมจะได้มีเพื่อน” ว่านเสริม
“เอก็ไปด้วยกันเลย เดี๋ยวพี่จะให้พี่ป้อมโทรแจ้งกับผู้ปกครองว่ายิมเราจะหยุดเก้าวัน”
“ด่วนไปไหมพี่เสื้อผ้าผมยังไม่ได้ซัก ยังไม่ได้เตรียม”

        สรุปจากที่คุยคือว่านกับโค้ชพยายามพูดให้ผมไปให้ได้ แล้วเย็นวันนั้นปรากฏว่าภายหลังที่โค้ชแจ้งไปมีเด็กและผู้ปกครองแสดงเจตจำนงแค่สองคนเท่านั้น ทำให้สุดท้ายโค้ชก็ต้องยอมที่จะเลื่อนกำหนดการณ์การเดินทางออกไปเป็นวันต่อไปแทน

To Be Con
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-04-2011 23:47:54 โดย me_alone »

ออฟไลน์ Na_RimKLonG

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 640
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 7 : 29/04/11 )
«ตอบ #41 เมื่อ29-04-2011 22:49:13 »

จิ้มที่เอก่อน  แล้วลั่นล้าไปอ่าน  555+

+1 ค้า
-----------

โค้ช  เป็นคนที่  น่า   :z6:

ส่วนที่เอ น่า  :sad11:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-04-2011 23:19:46 โดย Na_RimKLonG »

icyblue

  • บุคคลทั่วไป
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 7 : 29/04/11 )
«ตอบ #42 เมื่อ30-04-2011 00:59:26 »

น้องเอขยันอัพจัง เผลอแผล็บเดียวลง 2 ตอนแระ o13

ช่วงนี้ดูน้องว่านยึดเอเป็นหลัก  ไม่รู้ก่อนหน้านี้น้องจะเหงาแค่ไหนเนอะ :เฮ้อ:


แต่โค้ชนี้อยาก :z6: จริงๆ  ไม่รู้เป็นโค้ชได้งัย  ไม่มีความรับผิดชอบ ไม่มีระเบียบ ไม่มีความเป็นครูเลยอ่ะ พูดจาก็ไม่ดี

แถมเลือกปฏิบัติอีก  อีกหน่อยคงไม่มี นร. มาเรียนด้วยแล้วจะหนาว    o22

ถ้าเจอโค้ชแบบนี้นะ มีลูก มีหลาน ไม่ให้เรียนด้วยหรอก แย่มั่กๆ

ออฟไลน์ HydrA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-2
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 7 : 29/04/11 )
«ตอบ #43 เมื่อ30-04-2011 13:09:33 »

พี่เอ ยั้งๆไว้มั่งนะ อย่าเพิ่งถลำลึกไปกับว่าน ดูกันไปก่อน
มีบทเรียนจากครั้งแรกแล้ว เพราะงั้นดูให้ยาวๆหน่อยก็ดีนะพี่

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 7 : 29/04/11 )
«ตอบ #44 เมื่อ30-04-2011 13:24:34 »

จิ้มที่เอก่อน  แล้วลั่นล้าไปอ่าน  555+

+1 ค้า
-----------

โค้ช  เป็นคนที่  น่า   :z6:

ส่วนที่เอ น่า  :sad11:

 :กอด1: ~ ขอบคุณครับ



น้องเอขยันอัพจัง เผลอแผล็บเดียวลง 2 ตอนแระ o13
ช่วงนี้ดูน้องว่านยึดเอเป็นหลัก  ไม่รู้ก่อนหน้านี้น้องจะเหงาแค่ไหนเนอะ :เฮ้อ:
แต่โค้ชนี้อยาก :z6: จริงๆ  ไม่รู้เป็นโค้ชได้งัย  ไม่มีความรับผิดชอบ ไม่มีระเบียบ ไม่มีความเป็นครูเลยอ่ะ พูดจาก็ไม่ดี
แถมเลือกปฏิบัติอีก  อีกหน่อยคงไม่มี นร. มาเรียนด้วยแล้วจะหนาว    o22
ถ้าเจอโค้ชแบบนี้นะ มีลูก มีหลาน ไม่ให้เรียนด้วยหรอก แย่มั่กๆ

 :กอด1: ~ Up เรื่อยๆครับ วันละตอน ช่วงนี้มาแนวดราม่าหน่อยครับ
 :เฮ้อ: ~ คอิดถึงบี...เมื่อวานโทรหาก็ไม่รับ



พี่เอ ยั้งๆไว้มั่งนะ อย่าเพิ่งถลำลึกไปกับว่าน ดูกันไปก่อน
มีบทเรียนจากครั้งแรกแล้ว เพราะงั้นดูให้ยาวๆหน่อยก็ดีนะพี่

 :กอด1: ~ ครับผม

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 7 : 29/04/11 )
«ตอบ #45 เมื่อ30-04-2011 16:06:20 »

ช่วงที่ 8



        วันนี้เป็นวันอาทิตย์ครับ ผมเริ่มต้นวันด้วยการทำความสะอาดบ้าน ไล่มาตั้งแต่จากห้องนอน ห้องน้ำ ลงมาที่ห้องนั่งเล่น ห้องครัวและห้องกินข้าว ไปจนถึงหน้าบ้านด้วย รวมถึงซักผ้าทั้งหมดที่ใช้แล้ว กว่าจะเสร็จทั้งหมดเวลาก็ล่วงไปถึงบ่ายโมงกว่าๆ แล้ว ผมตัดสินใจใช้เวลาว่างก่อนที่พระอาทิตย์จะตกดิน สะพายกล้องคู่ใจตัวใหม่ออกไปหัดถ่ายภาพที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งใกล้บ้านผมกำลังหัดถ่ายภาพแนวแคนดิดอยู่ครับ ซึ่งเป็นการถ่ายรูปแบบหนึ่งโดยไม่ให้แบบรู้ตัวหรือก็คือการถ่ายทีเผลอนั่นเอง ระหว่างที่กำลังส่ายเลนส์กล้องไปมาเพื่อหานางแบบนายแบบจำเป็นที่อยู่แถวนั้น ผมก็เจอวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งกำลังจับกลุ่มเล่นโรลเลอร์เบลดกันอยู่ ผมเลยหันเลนส์กล้องไปทางน้องๆกลุ่มนั้น

‘แช๊ะแช๊ะ! แช๊ะแช๊ะ! แช๊ะแช๊ะ!’ ผมลั่นชัตเตอร์ไปหลายครั้งมากจนได้ภาพแล้วก็มุมที่พอใจ ก่อนจะเดินไปนั่งเล่นที่ศาลาเปิดไล่ดูภาพทีละใบ พลางคิดในใจว่าถ้าได้น้องบีมาเป็นแบบให้น่าจะดี เสียดายได้กล้องมาช้าไปหน่อย หลังจากดูภาพเสร็จผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูนาฬิกา

“15.45น.”
‘ได้เวลาไปดูน้องแล้วซินะ’ ผมคิดในใจก่อนจะเก็บกล้องลงกระเป๋าแล้วกลับไปเปลี่ยนชุดที่บ้าน โดยระหว่างที่เปลี่ยนชุดอยู่นั้นว่านก็โทรเข้ามาพอดีว่านบอกให้ผมไปรับเค้าที่บ้านด้วย พอผมแต่งตัวเสร็จผมก็ไปหาว่านที่บ้าน เจอว่านนั่งรออยู่หน้าบ้านแล้ว ทันทีที่ว่านเห็นผมว่านก็ยิ้มให้ก่อนจะลุกขึ้นแล้วปีนรั้วบ้านออกมานั่งซ้อนท้ายผม ระหว่างทางที่ไปยิมผมก็คุยทั่วไปกับว่านแล้วก็วนกลับมาเรื่องที่บ้านของว่าน


“คุณแม่ไม่ว่างเหรอ” ผมถามว่านออกไปเพราะปรกติเวลาไปยิมคุณแม่ว่านจะไปส่ง หรือไม่ก็เป็นพี่ข้างบ้าน แต่กรณีเสาร์อาทิตย์แบบนี้คนที่ไปส่งควรจะเป็นคุณแม่น้องว่านมากกว่า
“ไม่ใช่ไม่ว่าง แต่ยังไม่มา” ว่านตอบมาด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเครียดๆทันทีทั้งๆ ที่เมื่อสักครู่ยั่งหัวเราะร่าอยู่เลย
“เหรอ....อืมม...คุณแม่ไม่อยู่กลับช้าได้อะดิ”
“ครับ”
“งั้นไปทานหมูกระทะกัน”
        ว่านเงียบพักหนึ่งหลังจากที่ผมถามจบทำเอาผมรู้สึกผิดที่ถามเรื่องคุณแม่น้องว่านไปเลยทีเดียวแต่ไม่นานนักว่านก็ถามกลับมาว่า“ไปกับใคร”
“สองคน”
“.........ก็ได้ครับ....แต่ว่า....”
“แต่ว่า ?......” ผมทวนคำของว่าน
“พาต้นกล้าไปด้วยได้ไหม ไปสามคนสนุกกว่า”
“.......ก็ได้” พอผมพูดจบว่านก็ซุกหน้าลงบนหลังผม


        พอมาถึงยิมผมก็พบว่ามีคนกลุ่มหนึ่งมาถึงก่อนแล้ว ซึ่งโค้ชก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย ผมจอดรถเสร็จแล้วก็เดินเข้ามาในยิมเพื่อพบกับบรรยากาศแปลกๆ ผมเห็นน้องๆหลายคนกำลังยืดเส้นอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมากๆ สำหรับผม เพราะนี่ยังไม่ถึงเวลาซ้อมเลย แต่น้องๆมาวอร์มกันเองก่อนมันเป็นไปได้ยังไง จะว่าเพราะว่านไปวอร์มล่วงหน้ากดดันชาวบ้านเค้ามันก็ไม่ใช่เพราะว่านเพิ่งมากับผม พอผมวางกระเป๋าเสร็จ แล้วกำลังจะออกไปซื้อน้ำกับว่านเช่นทุกวัน โค้ชก็ขัดขึ้นว่า


“จะไปไหน?”
“ไปซื้อน้ำครับ” ผมหันกลับมาตอบขณะที่อีกไม่กี่ก้าวผมก็จะเดินพ้นออกประตูไปแล้ว
“รีบมาเลย” โค้ชพูดด้วยน้ำเสียงเซ็งๆเหมือนผมทำอะไรผิดอย่างนั้นแหละ
“ครับ”

        หลังจากที่ผมซื้อน้ำกลับมาแล้ว โค้ช ก็ไล่ให้ว่านไปวอร์ม ตอนนั้นผมมองนาฬิกาเห็นว่าเพิ่งจะ 4 โมง 17 นาทีเท่านั้นเองทำไมให้วอร์มเร็วจังเพราะอีกตั้ง 40 กว่านาทีจึงจะถึงเวลาซ้อม ด้วยความสงสัยสุดๆ ผมเลยแกล้งทักโค้ชไปว่า

“วอร์มเร็วจังพี่”
“ก็วอร์มรอเลยไหนๆก็มาแล้ว ถึงเวลาซ้อมจะได้ซ้อม ไม่ต้องมาเสียเวลาวอร์ม”
“แล้วน้องที่มาทีหลังล่ะพี่”
“ก็ให้วอร์มเองตามหลังไปซิ” โค้ชหันมาทำหน้าเซ็งใส่ผมอีกแล้ว เหมือนกับว่าแค่นี้ต้องถามด้วยหรอ ก่อนจะกลับไปนั่งที่โต๊ะประจำตำแหน่งของเค้า

        ผมยืนมองแล้วถอนหายใจเบาๆ อยู่เฮือกหนึ่ง ถ้าใครเล่นกีฬาหรือเป็นนักกีฬามาก่อนไม่จำเป็นว่าต้องเทควันโด คุณอาจรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่มันไม่ใช่ เพราะอย่างที่ผมเคยบอก เทควันโดมีรูปแบบการฝึกแบบเดียวกับทหารคือต้องทำเป็นเวลา แล้วก็ต้องทำพร้อมๆกัน พักพร้อมกัน เลิกพร้อมกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างทำแบบนี้ ซึ่งภาพที่ผมเห็นตรงหน้าในขณะนี้มันไม่ใช่เทควันโดที่ผมรู้จักเลยยังไม่ทันที่ผมจะเดินไปดูน้องๆ โค้ชก็ดักผมไว้ก่อน

“เอๆ ให้พวกมันวอร์มกันเอง ส่วนเรามานี่ พี่มีเรื่องจะคุยด้วย” โค้ชเรียกเสร็จ ผมก็เดินไปนั่งบนเก้าอี้ที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของโต๊ะโค้ช
“ครับ”
“พี่ว่าจะให้พวกที่มหาวิทยาลัยไปเก็บตัวด้วย เอ คิดว่ายังไง?”
“ไปกับน้องๆนี่เหรอครับ?”
“ใช่”
“น้องๆไปกันพรุ่งนี้เช้าเองนะครับ แล้วบอกพวกมหาลัยเค้าตอนนี้พวกเค้าจะเตรียมตัวทันเหรอ?”
“ก็ช่างมัน พี่บอกแล้วไงพี่จะเอาแต่คนที่พร้อม คนที่ไม่พร้อมก็ช่างมัน เอก็แค่โทรไปบอกน้องๆก็พอแล้ว” โค้ชพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดราวกับว่าผมเป็นเด็กป. 2 ที่เข้าใจอะไรยากเหลือเกิน
“งั้นเดี๋ยวผมโทรหาเก่ง ให้เก่งแจ้งน้องแล้วกัน”
“ไม่เอา เอนั่นแหละโทรไปเองเลย” โค้ชเริ่มขึ้นเสียงใส่ผมหน่อยๆ
“ผมมีเบอร์น้องไม่ครบ”
“ทำไมละ เอ เป็นประธานชมรมไม่ใช่เหรอ แล้วเป็นประธานชมรมภาษาอะไรทำไมมีเบอร์น้องไม่ครบ!” โค้ชพูดเสียงแข็งใส่ผม
ผมนั่งนิ่งไปพักหนึ่ง หันไปทางอื่นส่วนในใจผมเหรอ....‘แล้วคุณเป็นโค้ชภาษาอะไรทำไมไม่มีเบอร์นักกีฬา’
ในที่สุดผมก็ตอบว่าว่า “พี่ปีนี้ผมไม่ได้เป็นประธานนะ ในทางนิตินัยผมอะเป็นประธาน แต่ในทางพฤตินัยเก่งเค้าเป็นประธานไม่ใช่ผม”
“อ่าว ทำไมเป็นแบบนั้นล่ะ” โค้ชเสียงอ่อนลงแล้วถามต่อด้วยน้ำเสียงงุนงงสงสัย

ผมนั่งมองหน้าโค้ชพลางคิดในใจว่า ‘นี่ไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งไม่รู้เนี่ยะ’ ก่อนจะตอบว่า “ก็ตอนเปิดเทอม ทางกองกิจการนักศึกษา เค้าให้นักศึกษาแสดงเจตจำนงในการเปิดชมรม โดยให้ยื่นเอกสารหลักฐานต่างๆให้เสร็จสิ้นภายในเจ็ดวันหลังจากเปิดภาคเรียน แต่เก่งไม่ยอมทำเอกสารหลักฐานหรือดำเนินการใดๆเกี่ยวกับการจัดตั้งชมรมเลย ผมเลยต้องดำเนินการแทนทั้งหมดภายใต้ชื่อผม แต่พอจัดตั้งชมรมเสร็จแล้ว เก่งกลับเรียกน้องๆเข้าประชุมในอาทิตย์แรกภายหลังได้รับการเซ็นอนุมัติจากรองอธิการบดีฝ่ายกิจกรรมนักศึกษาโดยไม่ปรึกษาผมสักคำ ก่อนที่เก่งจะประกาศให้สมาชิกทุกคนทราบว่าเก่งเป็นประธานชมรม พอผมทราบผมเลยให้เก่งไปทำเรื่องเปลี่ยนแปลงชื่อประธานชมรม แต่จนทุกวันนี้เก่งก็ยังไม่ดำเนินการใดๆเลยสักอย่าง”ผมตอบโค้ชกลับไปด้วยน้ำเสียงเซ็งไม่แพ้กัน พอผมพูดจบโค้ชก็นั่งเงียบไปพักหนึ่งเลยทีเดียว เพราะอย่างที่บอกในส่วนของน้องชาย 1 ที่ว่าเก่งเป็นเด็กของโค้ช
“เอาก็ได้ๆ โทรบอกเก่งแล้วกัน” โค้ชตอบมาแบบขอแค่ตอบไปที


   หลังคุยเสร็จผมก็โทรหาประธานชมรมทันทีแต่อนิจจา....ดันไม่เปิดเครื่อง ผมเลยตัดสินใจโทรหาน้องประธานชมรมแทน ทันทีที่ผมบอกน้องรองประธาน น้องรองประธานบ่นอุบเป็นหมีกินผึ้งเลยทีเดียว ด้วยประโยคที่ผมหรือผู้อ่านพอจะเดาได้นั่นล่ะครับ น้องเค้าบอกว่า ‘อะไรพี่ เดินทางพรุ่งนี้แต่เพิ่งมาบอกพวกหนูวันนี้แล้วพวกหนูจะเตรียมตัวยังไงทัน’ ผมสรุปเกี่ยวกับน้องๆนักกีฬาของมหาวิทยาลัยตรงนี้เลยแล้วกันนะครับ ว่าไม่มีใครไปสักคนแม้แต่ตัวประธานชมรมเองก็ด้วย   

        กลับมาที่ยิมหลังจากที่น้องๆวอร์มเสร็จตอนนั้นยังไม่ทันจะ 5 โมงตรงด้วยซ้ำโค้ชก็ให้สั่งให้น้องๆเริ่มซ้อมกันแบบเมื่อวาน คือบอกท่าแล้วก็จำนวนที่ต้องทำแล้วให้น้องไปทำกันเองโดยที่โค้ชจะเดินไปจี้เป็นรายคน แล้วคนที่โค้ชเดินไปจี้บ่อยที่สุดก็คือว่านครับ เดี๋ยวบอกเดี๋ยวชมกันอยู่สองคน จนสาวตองเดินมาบ่นกับผมว่า


“หนูรู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้งเลยพี่ โค้ชเค้าดูแต่ว่านอะ”
“น่าๆ เราอาจทำดีแล้วก็ได้ โค้ชเค้าเลยไม่ได้มาบอกอะไร” ผมพูดพลางตบไหล่ตองเบาๆ
“ดีอะไรล่ะพี่ โค้ชบอกเองไม่ใช่เหรอว่าจะจี้เฉพาะคนที่โค้ชดูแล้วว่าตั้งใจ แล้วโค้ชไม่มาดูหนูเลยแบบนี้ก็แสดงว่าหนูดูไม่ตั้งใจในสายตาโค้ชน่ะสิ” ตองพูดจบผมก็เห็นตองมีน้ำตาคลอที่เบ้าตาเหมือนจะน้อยใจจริงๆ
“ไม่เป็นไรๆ เดี๋ยวพี่ดูให้ก็ได้”
“ค่ะพี่”


        พูดจบผมก็ดูแลตองกับน้องๆคนอื่นไปเรื่อยๆโดยโค้ชพูดปรามผมอยู่เนืองๆว่า อย่าไปยุ่งกับน้อง ผมไม่รู้ว่าโค้ชคิดอะไรของเค้า ส่วนตัวผมไม่เห็นด้วยกับการฝึกแบบนี้เลย จริงอยู่ที่เราจะได้ดูแลเด็กที่ใส่ใจได้เต็มที่ แต่อีกด้านเด็กบางคนเค้ามาเรียนก็หวังแค่ออกกำลังกายกับสนุกเท่านั้น การที่โค้ชทำแบบนี้ก็เท่ากับว่าเด็กคนอื่นที่โค้ชไม่เข้าไปดูก็ไม่มีวันได้พัฒนาฝีมือเลย ที่สำคัญความรับผิดชอบของคนเราไม่เท่ากันก็เหมือนบัวสี่เหล่า บางคนก็ขยันซ้อมเองได้โดยไม่ต้องจ้ำจี้จ้ำไชแต่บางคนเคี่ยวเข็ญแทบตายยังพยายามจะหาวิธีหลบอู้อยู่เลย แต่ก็อย่างว่านะครับ.... ถ้าโค้ชเค้าเลือกวิธีนี้แล้ว วิธีแบบนี้อาจดีก็ได้มั้ง รอดูไปก่อนดีกว่า

        ก่อนจบการซ้อมวันนั้นโค้ชเรียกน้องๆคุยอีกครั้งเกี่ยวกับเรื่องการเดินทางไปเก็บตัวซึ่งมีน้องๆนำเงินค่าใช้จ่ายมาให้โค้ชจำนวนสิบห้าคน ซึ่งสิบเอ็ดคนจากสิบห้าคนเข้าใจว่าผมตามไปด้วย เพราะโค้ชกับว่านโฆษณาไปว่าอย่างนั้น แต่สำหรับผม ผมปฏิเสธแล้วก็ยืนยันว่าไม่ไป พอน้องๆ รู้ จึงมีบางส่วนไม่ไปตามผมและขอเงินคืนตอนเลิกเรียน พอโค้ชสั่งเลิกว่านก็วิ่งมากระโดดงับไหล่ผม ก่อนจะถามข้างๆหูผมเบาๆว่า


“ทำไมพี่ไม่ไป” ว่านถามด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ
“พี่ไม่ว่าง ติดธุระ”
“จริงเหรอ แล้วตามไปวันหลังได้ไหม”
“อาจจะได้”
“จริงนะ”
“อื่อ”

        พอผมตอบไปแบบนั้นว่านก็ยิ้มแล้วก็เอาหน้าซุกๆกับหลังคอผม ก่อนที่ผมจะเดินไปนั่งอยู่มุมเดิม แล้วว่านก็มานั่งตักพร้อมกับเอามือผมไปกุมไว้ที่ท้องพอเด็กๆส่วนหนึ่งเริ่มทยอยกลับโค้ชก็เดินมาหาผมแล้วก็นั่งฝั่งตรงข้าม ก่อนจะพูดว่า

“เอ ทำไมไม่ไป”
“ผมไม่ว่าง”
“รู้ไหม เอน่ะจำเป็นต้องไปมากกว่าใครๆ เพราะต้องไปเทรนกับอาจารย์กบ”
“ครับ”
“แล้วว่านล่ะ เบี้ยเลี้ยงไม่ต้องเอาเนาะ” โค้ชหันไปพูดกับว่านบ้าง
“อ่าว ทำไมล่ะครับ” ว่านถามด้วยน้ำเสียงสงสัยสุดๆ
“ก็วันที่ไปประชุม ก่อนกลับเค้าให้เบี้ยเลี้ยงมาห้าร้อยหกสิบบาท พอหักห้าร้อยค่าที่ต้องไปแล้วก็เหลือแค่หกสิบบาทเอง”
“หกสิบผมก็เอาครู” ว่านตอกลับไปแบบติดตลก
“แล้วนี่รอจะไปไหนกัน” โค้ชหันมาถามผม ทำเป็นไม่ได้ยินที่ว่านเพิ่งพูด
“ไปกินหมูกระทะครับ” ผมตอบกลับไป
“ไปกันกี่คน” โค้ชถาม
“สามครับ ผม ว่าน ต้นกล้าอีกคน”
“ว๊า...เสียดายวันนี้พี่ติดธุระไม่งั้นจะได้ไปด้วย”
“คราวหน้าก็ได้ครับ” ผมตอบกลับไป
“อื่อ ได้ เดี๋ยวพี่กลับเลยแล้วกัน ฝากปิดยิมด้วยนะ”


        แล้วโค้ชก็เดินจากไปเหลือว่านที่ยังนอนพิงสลับกับนั่งกัดแขนผมไปพลางๆระหว่างที่นั่งคุยกับต้นกล้าจนแขนเสื้อผมชุ่มน้ำลายว่านไปหมด พอน้องๆกลับหมดแล้วผมก็พาว่านกับต้นกล้าไปที่ร้านหมูกระทะร้านประจำโดยระหว่างทางต้นกล้าพยายามชวนว่านกับผมคุยอยู่ตลอดจนถึงร้าน วันนี้ร้านหมูกระทะครึกครื้นมากครับ ผมเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคนอิสานส่วนใหญ่อะไรๆก็หมูกระทะ วันจบการศึกษา วันคล้ายวันเกิด พบปะญาติมิตร ก็พากันมาที่ร้านหมูกระทะกันหมดส่วนเหตุผลที่ผมมาร้านหมูกระทะเหมือนกันน่ะเหรอ ไม่รู้ซิครับคุยไปกินไปเพลินดีกว่านั่งคุยกันเฉยๆ แล้ววันนี้ต้นกล้าเป็นคนเลือกโต๊ะครับ โดยต้นกล้าเลือกโต๊ะที่ติดกับสระน้ำ ว่านมานั่งข้างผม ไม่สิ ต้องบอกว่าว่านเลื่อนเก้าอี้มาจนติดผมเลยมากกว่า ส่วนต้นกล้านั่งฝั่งตรงข้ามครับ แล้ววันนี้ก็เป็นอีกวันที่เน้นมานั่งคุยมากกว่านั่งทานเสียงหัวเราะดังขึ้นเป็นพักๆจนหลายครั้งโต๊ะข้างๆที่ได้ยินพวกผมเล่นมุขก็หันมาหัวเราะอยู่เรื่อยๆเหมือนกัน


“พี่วันนั้นผมไปตกปลาล่ะ” ต้นกล้าเริ่มเล่าเรื่องใหม่ด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“แล้ว” ว่านตอบกลับไป
“แล้วขากลับอะผมก็ปั่นจักรยาน”
“แล้ว” ผมตอบกลับไปบ้าง
“แล้วก็ไปเหยียบกิ่งไม้ แล้วกิ่งไม้มันก็หัก” ต้นกล้าเว้นวรรคอีกแล้ว เหมือนจะอยากให้เราถาม ไม่ก็เช็คดูว่าผู้ฟังยังสนใจเรื่องของเค้าอยู่ไหม
“แล้ว” ว่านตอบไป
“แล้วก็ร้องโอ๊ย!!”
“ห๊า!! ปลาร้องโอ๊ยเหรอ” ว่านทำท่าทางตกใจ
ต้นกล้าอึ้งกับที่ว่านพูดอยู่พักหนึ่งก่อนจะตอบว่า “ช่าย ปลาร้องโอ๊ย!”
“ปลาบ้าอะไรร้องโอ๊ย” ผมบึนงึมงำๆ เท่านั้นแหละ
“ ฮ่าๆๆๆๆ” ว่านกับ ต้นกล้าก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาจนโต๊ะข้างๆหันมามอง
“หัวเราะอะไร” ผมถาม
“ฮ่าๆๆๆๆๆ ก็หัวเราะ ปลาบ้าอะไรร้องโอ๊ย ฮ่าๆๆๆๆ” ต้นกล้าตอบกลับมา พักหนึ่งว่านก็หันมาสะกิดๆผมแล้วบอกว่า
“ไปห้องน้ำก่อนนะพี่ หัวเราะปลาร้องโอ๊ยจนปวดฉี่เลย”
“อืมม เดินดีๆล่ะ” ผมบอกว่าน

        แล้วไม่นานนักว่านก็เดินกลับมานั่งที่โต๊ะ ก่อนที่ต้นกล้าจะพูดว่า

“พี่ว่านเมื่อกี้เข้าห้องน้ำหญิงห้องน้ำชาย”
“ชายดิ” ว่านตอบกลับมา
“โรคจิตเปล่าเข้าห้องน้ำชาย ต้องเข้าห้องน้ำหญิงดิ” ต้นกล้าตอบมา


        วันนั้นไม่รู้ว่าเพราะอะไรกะแค่มุขฝืดๆแบบนี้ของต้นกล้าก็ทำเอาผมกับว่านฮาได้ไม่หยุดแต่ว่าเวลาที่เรามีความสุขมักจบลงอย่างรวดเร็วเสมอ ไม่นานก็ถึงเวลา 4 ทุ่มซึ่งผมว่ามันควรเป็นเวลาที่เด็กอายุ 13 กับ 14 ควรกลับบ้านได้แล้ว ผมเลยเรียกพนักงานมาเก็บเงิน ก่อนจะพาน้องๆไปส่งที่บ้านทีละคน ผมไปส่งต้นกล้าก่อน ส่วนว่านผมพาเค้าไปส่งคนสุดท้าย ระหว่างทางผมกุมมือว่านไว้ ส่วนว่านเองก็นั่งซบหลังผมอยู่เงียบๆ

        ตลอดระยะทางจากบ้านต้นกล้าไปบ้านว่านนั้นผมมีอยู่เรื่องหนึ่งที่อยากบอกว่าแต่ผมไม่รู้ว่าจะบอกดีไหม เพราะว่านดูจะเคารพโค้ชมากๆ เรื่องที่ว่านี้ก็คือเบี้ยเลี้ยงจริงๆเค้าจ่ายให้คนละ 860 บาท ไม่ใช่ 560 ตามที่โค้ชบอกว่านซึ่งนั่นหมายถึงโค้ชอมเงินว่านไปแล้ว 300 บาท แล้วก็ค่าเดินทาง ค่าที่พัก ทางการกีฬาแห่งประเทศไทยเค้าออกเงินให้ส่วนหนึ่ง แต่เนื่องจากโค้ชบอกว่าไปกลับรถไฟฟรีดังนั้นเรื่องค่าเดินทางว่านไม่จำเป็นต้องจ่ายเลย ในกรณีที่โค้ชเก็บคนอื่น 500 มันไม่เท่าไหร่ แต่กับว่านที่ทางการกีฬาช่วยมาส่วนหนึ่งด้วยทำไมต้องเก็บน้อง 500 บาทเต็ม จนน้องเหลือเงินเบี้ยเลี้ยงมาถึงมือแค่ 60 บาทเท่านั้น แล้วที่บอกว่าไปนอนยิมอาจารย์กบ จากที่ผมรู้จักอาจารย์กบมา อาจารย์กบไม่เคยเรียกร้องเงินเป็นตัวเลข มีแต่บอกว่า จะให้ก็ให้ แล้วถ้าจะกินข้าวด้วยกันก็ให้ช่วยค่าข้าวแล้วก็กับด้วย
พักหนึ่งผมก็มาถึงบ้านว่าน บ้านว่านวันนี้ยังคงเงียบกริบเหมือนเคย ว่านลงจากรถแล้วปีนรั้วบ้านเค้าไปก่อนจะหันมาไหว้ผม แล้วพูดว่า


“พี่พรุ่งนี้ไปด้วยกันนะ”
ผมยิ้มว่านว่านก็ยิ้มกลับมา แล้วผมก็บอกว่า“พรุ่งนี้ตอนเช้าพี่มารับ เตรียมตัวให้พร้อมเลยนะครับ”
“ครับ พี่ก็ด้วยนะ” ว่านตอบกลับมาก่อนจะเดินเข้าบ้านไป


        คืนวันนั้นผมโทรไปปรึกษาพี่ป้อมเรื่องที่โค้ชอมเงินว่านรวมถึงหักเงินว่านหมดจนเหลือแค่หกสิบบาท พี่ป้อมก็ได้แต่บอกว่า จะคุยกับโค้ชให้เอง ผมไม่ต้องบอกอะไรน้อง สุดท้ายเรื่องเงินจะจบยังไงเหรอครับ ไม่ต้องเดาอะครับเดี๋ยวโค้ชเค้าก็หาเหตุผลในการหักเงินน้องมาพูดจนได้แหละ สุดท้ายแล้วผมก็ได้แต่อึ้งกับพฤติกรรมของโค้ชที่อมเงินได้แม้กระทั่งเด็กที่ศรัทธาในตัวเค้าอย่างหมดใจแบบที่ไม่เคยสงสัยหรือเคลือบแคลงในคำสอนใดๆของเค้าเลย

To Be Con

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงท$
«ตอบ #46 เมื่อ30-04-2011 16:46:52 »

ทำไมโค้ชทำแบบนี้ละอมเงินแม้กระทั่งเด็ก :beat: :z6:
ไม่ชอบเลยอะ

ออฟไลน์ HydrA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-2
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 8 : 30/04/11 )
«ตอบ #47 เมื่อ30-04-2011 17:04:52 »

เรื่องของโค้ช สำหรับว่านคงต้องให้น้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง
สำหรับน้องว่าน มาถึงตอนนี้นู๋ก็ยังเดาทางเค้าไม่ได้เลย
คงต้องรอดูกันไปอีกสักพัก

ออฟไลน์ w[o]w

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 8 : 30/04/11 )
«ตอบ #48 เมื่อ30-04-2011 17:44:09 »

เลวร้ายไม่ไหวแล้ว พี่เอก็ใจดีเกิ้น เหนื่อยๆ

yunjaejoong

  • บุคคลทั่วไป
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 8 : 30/04/11 )
«ตอบ #49 เมื่อ30-04-2011 20:52:30 »

จะให้บอกว่าอย่างไรดี คิดถึงน้องบีง่ะ ไม่รู้ว่าเป็นงัยบ้างสงสัยว่าอาพี่เอคงจะเริ่มลืมน้องบีไปแล้วมั่ง ถ้าคนเรามันคิดถึงกันคงต้องถามข่าวคราวมั่งแหละหน่าแต่นี้ไม่ถามเลยคงมีว่านแล้วล่ะน้อเลยไม่ถามหาน้องบี

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 8 : 30/04/11 )
« ตอบ #49 เมื่อ: 30-04-2011 20:52:30 »





ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 8 : 30/04/11 )
«ตอบ #50 เมื่อ30-04-2011 21:13:44 »

อยากกระทืบไอ้โค้ชบ้านี้จริงๆ ฮึ่มๆ :fire: :z6:

ปล.คิดถึงน้องบีอ่ะ :monkeysad:

ออฟไลน์ Na_RimKLonG

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 640
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 8 : 30/04/11 )
«ตอบ #51 เมื่อ30-04-2011 21:47:34 »

ไอ่โค้ช  ไอ่คนทุเรศ 

ตังค์เด็กก็ยังจะเอาอีก  เหอะๆ

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 8 : 30/04/11 )
«ตอบ #52 เมื่อ30-04-2011 23:35:42 »

พฤติกรรมแย่ๆของโค้ชแบบนี้ไม่น่าเอาไว้นะ....แย่มากๆ แม้กระทั่งเงินเด็กแค่360 ไม่อยากจะเชื่อก็ต้องเชื่อ น่าจะมีวิธียื่นถอดถอนโค้ชคนนี้นะพี่เอ..
อิโค้ชมัน...เฮ้ออ ด่าไปก็เท่านั้น

ส่วนว่าน..บางทีเอต้องสอนน้องบ้างอะไรบ้างก็ดีนะ...ช่วงนี้เค้ายังเด็กเค้าไว้ใจเอ น่าจะฟังบ้าง  ย้ำว่าน้องเยอะเกิ๊น...

รออ่านต่อจ้า  :L2:

icyblue

  • บุคคลทั่วไป
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 8 : 30/04/11 )
«ตอบ #53 เมื่อ01-05-2011 11:35:24 »

พฤติกรรมของโค้ชหลายอย่างมันไม่ดีเลย

น้องเอน่าจะบอกพี่ป้อม หรือคนที่มีอำนาจจัดการ เพราะไม่งั้น นร. ก็จะมีตัวอย่างที่ไม่ดี

และเสียความรู้สึกกับผู้สอน  อย่างที่น้องตองรู้สึก (อาจมีนร.หลายคนก็ด้วยแต่ไม่พูดออกมา)

แล้วที่สุดยิมนี้ก็จะไม่มีใครอยากมาเรียน อาจจะเหมารวมผู้สอนทุกคนด้วยที่จะโดนว่าถึงวิธีการสอนแบบเลือกคน

และไม่มีระเบียบวินัย


 :กอด1: :L2:น้องเอสู้ๆ นะ อยู่ท่ามกลางหมู่มารไร้ระเบียบ และเอาเปรียบอย่างนี้

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 8 : 30/04/11 )
«ตอบ #54 เมื่อ01-05-2011 20:37:39 »

ทำไมโค้ชทำแบบนี้ละอมเงินแม้กระทั่งเด็ก :beat: :z6:
ไม่ชอบเลยอะ

 :เฮ้อ: ~ คือโค้ชคนนี้ปัญหาเรื่องเงินตลอดอะครับอย่าให้พูดถึงเหตุการณ์เก่าๆเลย



เรื่องของโค้ช สำหรับว่านคงต้องให้น้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง
สำหรับน้องว่าน มาถึงตอนนี้นู๋ก็ยังเดาทางเค้าไม่ได้เลย
คงต้องรอดูกันไปอีกสักพัก

 :กอด1: ~ นั่นซิครับ คงต้องรอดู



เลวร้ายไม่ไหวแล้ว พี่เอก็ใจดีเกิ้น เหนื่อยๆ

 :กอด1: ~ ทำยังไงได้อะครับ ไม่งั้นก็ไม่มีคนดูแลน้องๆ



จะให้บอกว่าอย่างไรดี คิดถึงน้องบีง่ะ ไม่รู้ว่าเป็นงัยบ้างสงสัยว่าอาพี่เอคงจะเริ่มลืมน้องบีไปแล้วมั่ง ถ้าคนเรามันคิดถึงกันคงต้องถามข่าวคราวมั่งแหละหน่าแต่นี้ไม่ถามเลยคงมีว่านแล้วล่ะน้อเลยไม่ถามหาน้องบี

 :กอด1: ~ ไม่ลืมครับ ขณะที่เขียนตอบ Re นี้ก็ยังคิดถึงบีอยู่ตลอด



อยากกระทืบไอ้โค้ชบ้านี้จริงๆ ฮึ่มๆ :fire: :z6:
ปล.คิดถึงน้องบีอ่ะ :monkeysad:

 :กอด1: ~ พอเข้าใจยังครับทำไมอ้นถึงเกลียดโค้ชคนนี้เข้ากระดูกดำ



ไอ่โค้ช  ไอ่คนทุเรศ 
ตังค์เด็กก็ยังจะเอาอีก  เหอะๆ

 :กอด1: ~ ขนาดรุ่นน้องที่มหาลัยยังโดนเลยครับ



พฤติกรรมแย่ๆของโค้ชแบบนี้ไม่น่าเอาไว้นะ....แย่มากๆ แม้กระทั่งเงินเด็กแค่360 ไม่อยากจะเชื่อก็ต้องเชื่อ น่าจะมีวิธียื่นถอดถอนโค้ชคนนี้นะพี่เอ..
อิโค้ชมัน...เฮ้ออ ด่าไปก็เท่านั้น
ส่วนว่าน..บางทีเอต้องสอนน้องบ้างอะไรบ้างก็ดีนะ...ช่วงนี้เค้ายังเด็กเค้าไว้ใจเอ น่าจะฟังบ้าง  ย้ำว่าน้องเยอะเกิ๊น...
รออ่านต่อจ้า  :L2:

 :เฮ้อ: ~ ว่านเป้นพวกสุดโต่งครัง เค้าเคารพโค้ชมาก ผมพูดอะไรไปเค้าก็ไม่สนใจหรอกครับ



พฤติกรรมของโค้ชหลายอย่างมันไม่ดีเลย
น้องเอน่าจะบอกพี่ป้อม หรือคนที่มีอำนาจจัดการ เพราะไม่งั้น นร. ก็จะมีตัวอย่างที่ไม่ดี
และเสียความรู้สึกกับผู้สอน  อย่างที่น้องตองรู้สึก (อาจมีนร.หลายคนก็ด้วยแต่ไม่พูดออกมา)
แล้วที่สุดยิมนี้ก็จะไม่มีใครอยากมาเรียน อาจจะเหมารวมผู้สอนทุกคนด้วยที่จะโดนว่าถึงวิธีการสอนแบบเลือกคน
และไม่มีระเบียบวินัย
 :กอด1: :L2:น้องเอสู้ๆ นะ อยู่ท่ามกลางหมู่มารไร้ระเบียบ และเอาเปรียบอย่างนี้

 :เฮ้อ: ~ เรื่องถอดถอนคงทำไม่ได้อะครับสำหรับที่ยิม เพราะโค้ชกับพี่ป้อมเป็นหุ้นส่วนกัน
 :m26: ~ แต่ยกเว้นในส่วนของมหาวิทยาลัย....รออ่านต่อไปเรื่อยๆนะครับ หึหึหึ

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 8 : 30/04/11 )
«ตอบ #55 เมื่อ01-05-2011 21:12:16 »

ช่วงที่ 9



        หลังจากส่งว่านแล้ว ระหว่างทางที่กลับบ้านผมก็มานั่งคิดอะไรเพลินๆที่สะพานข้ามทางรถไฟที่ผมเคยพาบีมานั่งเล่น มันเป็นมุมเดียวกันกับที่ผมกับบีมานั่งเล่นกันครั้งสุดท้าย สายลมเย็นๆพัดมาปะทะเข้ากับตัวผม สายตาผมมองทางรถไฟที่ทอดยาวไปจนสุดทางซึ่งสุดปลายทางนั้นมันมืดมิดจนผมไม่เห็นอะไรเลย แต่มันก็ชวนให้ผมจ้องมอง มันเหมือนมีอะไรชวนให้หลงใหล น่าค้นหา น่าลุ้นระทึกว่าเมื่อไหร่จะมีแสงไฟจากรถไฟวิ่งฝ่าความมืดมิดออกมา บางทีแม้ในความมืดมิดที่เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเมื่อไหร่สิ่งที่เราคาดหวังจะผ่านเข้ามา แต่เราก็ยังจ้องมองด้วยความหวัง หวังว่าวันหนึ่งสิ่งที่เราหวังไว้จะโผล่พ้นความมืดมิดที่เรามองไม่เห็นออกมา ถึงเราจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งที่เรารอคอยนั้นจะเป็นยังไง แต่เราก็ยังตั้งหน้าตั้งตารอคอย ถ้าเวลาแบบนี้มีบีมานั่งอยู่ในอ้อมกอดผมก็คงจะดีซินะ

        ในระหว่างที่ผมนั่งคิดถึงบีอยู่เงียบๆคนเดียว จู่ๆ ว่านก็โผล่เข้ามาในชั่ววูบของความคิด ผมไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆถึงคิดถึงว่านขึ้นมาได้ ผมนึกถึงเสียงของว่านที่ว่านพูดน้ำเสียงฟังดูอ้อนวอน เหมือนเด็กเล็กๆที่กำลังร้องขอสิ่งที่เค้าต้องการ มันฟังดูน่าสงสาร น่าเห็นใจ มันจะดีไหมถ้าผมปล่อยเด็กๆให้ไปกับโค้ช โค้ชเค้าจะดูแลเด็กๆได้เหรอ แต่ว่าถ้าไปถึงจังหวัดABC พี่นัทศิษย์เอกอาจารย์กบน่าจะช่วยดูแลน้องๆได้เป็นอย่างดี เฮ้ออออ......ถ้าผมไปว่านจะมาวนเวียนๆอยู่รอบๆตัวผมเหมือนเดิมไหมน้า แถมไปแบบนี้มีเวลาอยู่ด้วยกันแบบ 24ชั่วโมงไม่ใช่แค่ 3 – 4 ชั่วโมงแบบนี้......แล้วก็ผมจะได้นอนกอดว่านไหมน้า หรือว่านจะมานอนข้างๆผมหรือเปล่า อืม......นี่ผมคิดเรื่องบ้าอะไรอยู่เนี่ยะ คืนนั้นผมนอนหลับไปด้วยจิตใจที่กังวลเรื่องว่าน


“ตี๊ดๆ ตี๊ดๆ”


        เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นตามเวลาที่ผมกำหนดไว้ ผมเอื้อมมือไปกดปิดเสียงแบบไม่ต้องลืมตามองตามความเคยชิน ก่อนจะค่อยๆคลานลงจากเตียงช้าๆ แล้วลงไปอาบน้ำล้างหน้าใส่เสื้อผ้าจนเสร็จผมก็ออกไปรับต้นกล้ากับว่านที่บ้านตามที่ตกลงกันไว้ พอผมรับต้นกล้าเสร็จผมก็ไปรับว่านที่บ้าน ทันทีที่ไปถึงหน้าบ้านว่าน ก็พบว่านแต่งตัวซะหล่อยืนพิงรั้วบ้านรออยู่ ทันทีที่ผมจอดรถว่านก็หันมายิ้มแล้วเดินเอากระเป๋ามาให้ผม ก่อนจะออกรถไปที่สถานีรถไฟ วันนี้ว่านนั่งหน้าครับ ต้นกล้านั่งหลัง ตลอดทางว่านเอาหน้ามาซุกที่แขนผมตลอดจนถึงสถานีรถไฟ พอไปถึงก็เจอน้องๆส่วนหนึ่งมานั่งรออยู่ก่อนแล้ว หลังจากส่งว่านกับต้นกล้าเสร็จผมก็กลับเลย แต่ก่อนกลับผมบอกว่านว่า


“ไปถึงแล้วโทรบอกพี่ด้วยนะ”
“ครับพี่ก็รีบตามไปนะ” ว่านตอบกลับมาพร้อมยิ้มให้


        วันนั้นพอว่านไปถึงว่านก็โทรมาบอกตามที่ตกลงกันไว้ แล้วตลอดเวลาที่ว่านอยู่ที่นั้นผมก็โทรหาว่านตลอด เช้า เที่ยง เย็น รวมถึงก่อนนอน ผมไม่รู้ว่าว่านรำคาญผมไหม แต่ทุกครั้งที่ผมโทรไปว่านมีแต่เสียงหัวเราะกลับมาเสมอ เรื่องการไปเก็บตัววันแรกๆเหมือนอะไรๆมันจะลงตัวพอดี พี่นัทสามารถควบคุมแล้วก็กูแลน้องๆให้อยู่ในโอวาทได้ โดยที่พักน้องๆจะนอนกันในยิมที่ซ้อมเทควันโดเลย ซึ่งตอนไปถึงคืนแรกผมก็ถามว่านเรื่องหมอน เรื่องผ้าห่มเรื่องห้องน้ำเรื่องอาหารการกิน ว่านก็บอกว่าโค้ชเตรียมให้หมดแล้วไม่ต้องห่วง รวมถึงเรื่องข้าวปลาอาหารก็ด้วยพี่นัทเป็นคนดูแลให้ แต่ว่า....ในเวลา 22.25 ของคืนวันที่ 3 ตองโทรหมาหาผมหลังจากที่ผมเพิ่งวางสายจากว่านได้ไม่นาน


“ว่าไงตอง” ผมพูดทักทายตองหลังกดรับสาย
“พี่เอ...หนูอยากกลับแล้ว” ตองพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจ
“อ่าว ทำไมล่ะตอง”
“หนูเบื่อ โค้ชเค้าไม่สนใจพวกหนูเลย”
“ยังไง เมื่อกี้พี่ถามว่าน เห็นว่านบอกว่าโค้ชก็ดูแลดีนี่นา”
“ดีอะไรล่ะพี่ คืนแรกมาถึงหนูเพลียมากหนูเลยนอนก่อน ผ้าห่มก็ไม่มี โค้ชไม่หามาให้ จนตอนหลังอาจารย์กบมาเห็นว่าไม่มีผ้าห่ม อาจารย์กบเลยไปเอามาให้ แต่ว่าหนูหลับแล้ว หนูเลยไม่ได้เอาผ้าห่มกับเค้า คืนนั้นหนูนอนหนาวมาก แถมเช้ามาปวดคออีกเพราะต้องนอนหนุนกระเป๋า” ตองเล่าด้วยน้ำเสียงคับแค้นใจสุดๆ
“อ่าว เราหลับแล้วไม่มีใคร เอาผ้าห่มให้เราเลยเหรอ”
“ไม่มีเลยพี่ พอหนูทำท่าน้อยใจ ไอ้ต้นกล้าก็บอกว่า คิดว่าหนูขี้ร้อนเลยไม่ได้เอาให้”

        ฟังดังนั้นผมเลยรู้สึกว่า....ถามอะไรๆจากว่านคนเดียวไม่ได้แล้ว ไหนๆตองก็โทรมาแล้วผมเลยเริ่มถามตั้งแต่วันแรกที่ไปถึง ซึ่งตองก็บ่นมาเป็นชุดว่า

“วันนั้นรถไฟฟรีคนเยอะมากจนพวกหนูไม่มีที่นั่ง ต้องยืนตั้งเกือบสี่ชั่วโมงกว่าจะมาถึง พอมาถึงก็เกือบเที่ยงแล้วโค้ชเค้าก็ให้ซ้อมต่ออีกทั้งๆที่หนูปวดขาแทบตาย คนอื่นๆก็บ่น แต่ว่านหน่ะซิพี่ มันไม่บ่นมันทำตามที่โค้ชสั่งหมดทุกอย่าง แล้วโค้ชก็ทำเหมือนเค้าไม่สนใจพวกหนู ไม่มองไม่อะไรเลยด้วยซ้ำ เหมือนเป็นการด่าอ้อมๆว่าพวกหนูไม่สนใจชัดๆเลย พวกหนูกับน้องๆเลยต้องไปซ้อมด้วยทั้งๆที่เหนื่อยแทบตาย”
“แล้วว่านไม่บ่นอะไรเลยเหรอ” ผมถามตอง
“ไม่เลยพี่ ว่านมันทำครบหมดแบบไม่บ่นสักคำเลย แถมมามองแบบกดดันพวกหนูอีก” ตองตอบกลับมา
“แล้วข้าวปลาอาหารล่ะ”
“ไปหากินกันเองพี่ ดีที่พี่นัทพาไปไม่งั้นตาย”
“อ่าว โค้ชเค้าไม่ได้พาไปทานเหรอ”
“ไม่เลยพี่ เจอโค้ชแค่ตอนซ้อม พอซ้อมเสร็จก็หายไปเลย พวกหนูต้องไปหาอะไรกินกันเอง”
“แล้วที่หลับที่นอนโอเคไหม”
“ก็พอได้แหละพี่ แต่แบบนี้หนูไม่เอาแล้ว หนูว่าจะโทรให้แม่มารับพรุ่งนี้”
“อืม...ถ้าไม่สบายใจก็กลับมาก่อนก็ได้ แล้วอย่าลืมบอกโค้ชเค้าด้วยล่ะ”
“ค่ะพี่ แต่ว่า.....”
“ว่า....” ผมถามกลับไปเพราะตองเว้นช่วงไว้เหมือนจะถามแต่ไม่กล้าถาม
“เงินห้าร้อยบาทอะค่ะ หนูไม่เข้าใจว่าเก็บมาทำไมคะ ในเมื่อข้าวปลาอาหารพวกหนูก็ต้องออกเงินกันเองหมด หรือว่าเป็นค่าที่พัก” ตองถามด้วยน้ำเสียงค่อนข้างซีเรียสเล็กน้อย
“อืมมม...อาจเป็นค่าที่พัก แล้วก็ค่าสถานที่ของอาจารย์กบมั้งครับ โค้ชเค้าไมได้ชี้แจงรายละเอียดค่าใช้จ่ายให้พี่ฟังหน่ะ”
“พี่....ทำไมพวกยิมอื่นเค้าได้ไปพักโรงแรมล่ะ ทำไมยิมเราถึงได้มานอนที่ยิมอาจารย์กบแบบนี้”
“พี่ก็ไม่รู้ ประหยัดมั้ง ไปนอนโรงแรมแพงนี่นาไปกันตั้งหลายวัน ที่สำคัญมันไม่ได้บรรยากาศเข้าค่ายด้วยมั้ง ฮ่ะๆ” ผมพูดติดตลกเพื่อให้ตลองรู้สึกสบายใจขึ้น
“เหรอคะ อืมม...งั้นหนูไม่กวนพี่ละ แค่นี้นะคะ”
“ครับ ฝันดี มีอะไรก็โทรมานะ”
“ค่ะ”


        พอคุยกับตองเสร็จผมก็โทรไปหาต้นกล้าเพื่อถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นซึ่งต้นกล้าก็บอกตรงกันกับที่ตองบอก พอผมทราบดังนั้นผมเลยโทรไปบอกพี่ป้อมถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ตอนนั้นพี่ป้อมบ่นอุบว่า “พี่ก็บอกมันแล้ว ว่าถ้าพาเด็กไปลำบากอย่าพาไปมันก็ไม่ฟังพี่ เดี๋ยวให้มันเคลียร์ตัวมันเองแล้วกัน” แล้วเช้าวันต่อมาคุณแม่น้องตองก็ไปรับน้องตอง แล้วนอกเหนือจากน้องตองก็มีเด็กๆคนอื่นขอกลับพร้อมตองด้วยอีก 4 คน แน่นอนครับโค้ชไม่ได้รั้งเด็กพวกนี้ไว้ แถมพูดตบท้ายก่อนที่ตองจะออกจากประตูยิมด้วยว่า “ไม่พร้อมก็ไม่น่ามาด้วยตั้งแต่แรก บอกแล้วว่าจะเอาแต่คนที่พร้อม ใช่ไหมว่าน” แล้วนั่นก็เป็นครั้งสุดท้ายที่ตองอยู่ในสังกัดยิมของเราครับ คุณแม่น้องตองมาติดต่อขอใบยืนยันการสอบสายจากพี่ป้อมในวันต่อมาโดยไม่พูดถึงสาเหตุการออกเลยสักคำ ซึ่งภายหลังผมโทรไปถามกับตองแล้วตองก็เล่าให้ฟังพร้อมกับร้องให้ด้วย ดูเหมือนคำพูดของโค้ชจะแรงเกินไปซะแล้ว เพราะมันทำให้ตองมีทัศนะในด้านลบกับตัวเองขึ้นมา  ผมนั่งปลอบตองทางโทรศัพท์อยู่นานเกือบ 1 ชั่วโมงก่อนที่ตองจะบอกผมว่าจะย้ายไปเรียนที่ยิมอาจารย์โจ้แทน ซึ่งผมก็ไม่ได้รั้งน้องไว้ก่อนวางสายตองทิ้งท้ายว่า


“ไม่ได้เจอกันบ่อยๆเหมือนเดิมแล้ว หนูคงจะคิดถึงพี่มากๆแน่เลย อยากเจอน้องบีอีกจัง อยากเห็นพี่กอดบีอีก ว่างๆก็แวะไปเล่นที่ยิมอาจารย์โจ้บ้างนะพี่”
“ครับ” ผมตอบตองไป


        อีกคนแล้วที่หายไปในช่วงระยะเวลาสั้นๆ หลังจากนั้นทุกครั้งที่ผมโทรหาว่านผมจะคุยเรื่องเกี่ยวกับว่านซะมากกว่า เช่นทานข้าวหรือยัง ทานกับอะไร อร่อยไหม อิ่มไหม วันนี้ไปไหนบ้าง ซ้อมอะไรบ้าง ทำอะไรบ้าง ส่วนว่านเองก็ถามอยู่เนืองๆว่าเมื่อไหร่ผมจะตามมา ส่วนเรื่องอื่นๆผมเน้นโทรถามต้นกล้าเอา โดยข้อมูลที่ได้ไม่สู้ดีเท่าไหร่ เหมือนจะมีว่านคนเดียวที่มีความสุขกับทริปนี้ส่วนน้องคนอื่นๆเหมือนจะอยู่เพื่อไม่ให้ถูกสบประมาทเท่านั้นเอง



-------------------------------



        วันอาทิตย์ที่แสนสงบสุขของผม อืมมม วันนั้นผมแทบไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันพอทำงานบ้านเสร็จผมก็ไปถ่ายภาพต่อหลังจากถ่ายภาพเสร็จแล้วผมก็กลับมานั่งดูภาพที่ถ่ายมาจนประมาณบ่ายโมงกว่าๆเสียงโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้นผมหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างๆมาดูว่าใครโทรเข้ามา


“ว่าน Calling”
“ว่าไง แข่งเสร็จแล้วเหรอ” ผมถามขึ้นหลังจากกดรับสาย
“ครับเสร็จแล้ว แพ้ไป 0.5 ครับ”
“เหรอ ไม่เป็นไรเน๊าะ”
“ครับ แต่ไปแพ้ตรงจุดที่ไม่น่าแพ้หน่ะซิ” ว่านพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังออกเลยว่าเสียดายสุดๆ
“จุดไหน”
“ก็ตอนแข่งผมเจ็บเข่า แล้วผมเซ”
“น่าๆ ก็เราเจ็บขาอยู่นี่นา ปีหน้าค่อยลงใหม่ก็ได้ แล้วค่อยระวังจุดนี้เอา”
“ครับ”
“แล้วกลับกันวันไหน” ผมถามว่าน
“โค้ชบอกว่ากลับพรุ่งนี้ครับ”
“หืม.....แล้วว่านอยากกลับวันไหน”
“วันไหนก็ได้แล้วแต่โค้ชครับ” ได้ยินว่านตอบมาแบบนั้นผมเลยขอสายน้องต้นกล้า
“ว่านพี่ขอคุยกับต้นกล้าหน่อย”
“ได้ครับ”
“สวัสดีครับ” ต้นกล้าทักหลังจากที่รับโทรศัพท์ไปแล้ว
“ต้นกล้า พวกเราอยากกลับกันวันไหน”
“ผมอยากกลับวันนี้” ต้นกล้าตอบมา
“แล้วคนอื่นๆล่ะ”
“ก็อยากกลับวันนี้เหมือนกันถ้ากลับได้”
“ตอนนี้เพิ่งบ่ายโมง มันมีรถไฟฟรีตอนบ่ายสามโมงยี่สิบอยู่ กลับไปเก็บของยังไงก็กลับทัน ยังไงถามพี่ว่านกับโค้ชดูแล้วกัน”
“ได้เลยพี่” ต้นกล้าตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงดีใจ


        หลังจากนั้นประมาณบ่ายสามโมงกว่าๆว่านก็โทรมาหาผมแล้วบอกว่าจะกลับรถบ่ายสามโมงยี่สิบของวันนี้ตอนไปถึงที่สถานีให้ผมมารับด้วยซึ่งผมก็ตอบรับกลับไป จริงๆเรื่องเจ็บขาผมเตือนว่านหลายครั้งแล้วว่าไม่ควรหักโหมตามโค้ช เพราะถึงว่านจะทำได้ก็จริง แต่มันทำให้ว่านบาดเจ็บหลายครั้งก็เสี่ยงกับการบาดเจ็บถ้าเกิดพลาดขึ้นมาแรงๆ มันอาจเป็นเรื้อรังจนทำว่านเตะไม่ได้อีกเลยก็ได้ มันไม่ได้คุ้มเลยที่จะเอาสุขภาพของเราไปแลกกับคำชมเล็กๆน้อยๆแค่นั้น แต่ก็เหมือนว่าว่านจะไม่สนใจคำเตือนพวกนี้ของผมเลยแม้แต่น้อย สุดท้ายแล้วก็คงจะต้องเป็นน้องเองที่เลือกแล้วล่ะครับ ผมก็เป็นแค่รุ่นพี่คนหนึ่งอย่างมากก็ทำได้แค่เตือน แล้ววันนั้นช่วงสามทุ่มกว่าๆว่านก็โทรมาหาผมว่านบอกว่าอีกประมาณสิบห้านาทีจะมาถึงผมเลยไปรอที่สถานี แล้วประมาณสิบห้านาทีรถไฟก็มาถึงครับ ทันทีที่รถไฟหยุด เด็กๆวิ่งกรูมาหาผมแล้วแย่งกันเล่าเรื่องที่ได้ประสบพบเจอกันอย่างตื่นเต้น จนผมต้องพาเด็กๆไปมุมปลอดคนสักหน่อย เพราะเด็กๆคุยกันเสียงดังมากแถมแย่งกันคุยอีก แต่ว่า...ยังไม่ทันที่เด็กจะมีผู้ปกครองสักคนมารับโค้ชก็สะกิดๆผมแล้วบอกว่า


“เอ พี่กลับก่อนนะฝากดูน้องด้วย”


        ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไปโค้ชหันหลังแล้วกลับไปกับแฟนที่มารอรับอยู่ด้านหน้าสถานี ซึ่งจริงๆที่ผมมานี่ผมแค่มารับว่านนะ ไม่ได้มาเฝ้าน้องๆ แต่ก็นะครับ เห็นน้องๆเหมือนจะมีความสุขเวลาที่อยู่กับผม ผมเลยอยู่กับน้องๆต่อ แล้วเรื่องเล่าก็ดำเนินต่อไปจนถึงวันที่ว่านแข่ง ทว่า...มีเรื่องเล่าอยู่เรื่องหนึ่งที่ทำให้ว่านเขินจนหน้าแดงนั่นคือ ว่านมีสาวมาชอบ ชอบมากจนสาวคนนั้นมาขอเบอร์ว่านเลยทีเดียว พอต้นกล้าเล่าจบ ว่านเลยไล่เตะต้นกล้าด้วยความอายหรือโกรธที่ถูกเผาก็ไม่รู้ ซึ่งน้องคนอื่นๆก็หัวเราะชอบใจ ก่อนจะคุยเรื่องอื่นๆกันต่อไม่นานหลังจากที่มาถึงแค่ยี่สิบกว่านาทีน้องๆก็ทยอยกลับกันหมดจนเหลือผมกับว่านสองคน ผมเลยเดินจูงมือว่านไปที่ลานจอดรถระหว่างทางว่านก็พูดว่า


“ผมยังไม่ได้ตอบอะไรเค้าไปนะครับ เบอร์ผมก็ไม่ได้ให้”
“เหรอ...เค้าน่ารักไหมล่ะ”
“ก็.....น่ารักดี”
“แล้วชอบไหม”
“......”
   

        ว่านไม่ตอบอะไรกลับมาระหว่างทางว่านก็เงียบพอผมขับรถมาได้สักพักผมก็แวะเข้า 7 – 11 เพื่อซื้อน้ำไปตุนไว้ที่บ้านเพราะที่มีอยู่จะหมดแล้ว ว่านเองก็เข้าไปซื้อของด้วย แต่เนื่องจากว่านซื้อของที่ต้องเข้าไมโครเวฟ ผมเลยออกมารอข้างนอก แล้วก็เช็ก SMS ที่มีคนส่งเข้าตอนที่ผมเข้ารถอยู่ ระหว่างที่ผมกดๆดู SMS ไม่รู้ว่าว่านออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมรู้ตัวอีกทีว่านก็เอาหน้ามาซุกกับไหล่ผมแล้ว ผมหันไปมองเห็นว่านกำลังหลับตาอยู่ เสื้อผมเองก็ไม่ได้หนาอะไรมากมายนักมันทำให้ผมรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆของว่านที่ผ่านเข้ามา ว่านหายใจแรงมาก ผมเองก็ไม่ได้ว่าอะไรปล่อยให้ว่านซุกอยู่แบบนั้น วูบหนึ่งผมรู้สึกถึงบีขึ้นมาทันทีเพราะบีเองก็ชอบมาซักแบบนี้บ่อยๆเหมือนกัน แล้วระหว่างนั้นผมก็หันไปเห็นพี่พนักงาน 7 – 11 ผู้หญิงคนหนึ่งยืนมองแล้วยิ้มอยู่ พอพี่เค้าเห็นผมหันมามองเค้าก็ยิ้มให้มากกว่าเดิมอีก ผมเลยสะกิดว่านชวนขึ้นเดินไปขึ้นรถที่จอดอยู่ไม่ไกล

        พอออกจาก 7 – 11 ว่านก็เอาหน้าซุกหลังผมตลอดทาง ผมเองก็กำมือว่านไว้หลวมๆ ว่านไม่พูดอะไรเลยสักคำ ตอนนั้นผมเองรู้สึกว่า.......ถ้าผมจะจูบมือว่านแบบที่เคยทำกับบีว่านจะว่าอะไรผมไหมนะ......ผมเลยลองค่อยๆยกมือว่านขึ้นมาใกล้ๆปาก....ก่อนที่จะเป่าลมออกไปเบาๆ ตอนนั้นมือว่านแทบจะสัมผัสกับริมฝีปากผมแล้วด้วยซ้ำ แต่ผมไม่รู้ว่าว่านคิดยังไงไม่รู้ว่าว่านเองจะรู้สึกแบบเดียวกับผมไหม ไม่รู้ว่าว่านจะรู้ไหมว่าที่ว่านทำแบบนี้มันทำให้ผมหวั่นไหวถ้าผมจูบลงไปแล้วว่านจะรู้ไหมว่ามันหมายถึงอะไร ถ้ารู้ว่านจะเกลียดผมไหม....แต่ว่า....ถ้าไม่ลองจะรู้ได้ยังไง....ว่าแล้วผมก็จูบลงไปเบาๆที่หลังมือของว่าน....หัวใจผมตอนนั้นมันเต้นโครมครามเหมือนจะหลุดออกมา ตัวผมร้อนฉ่าเหมือนเด็กวัยรุ่นที่ตื่นเต้นเวลาได้สัมผัสตัวคนที่เค้ารักหรือชอบเป็นครั้งแรก......


“......”ไม่มีปฏิกิริยาใดๆตอบกลับมา ว่านยังคงซุกหลังผมอยู่อย่างนั้นลมหายใจอุ่นๆของว่านผ่านเข้ามาสัมผัสกับตัวผมครั้งแล้วครั้งเล่าผมจูบซ้ำลงไปที่มือว่านอีกครั้ง ก่อนจะเอามือว่านไปกุมไว้ที่ตักเหมือนเดิมจนถึงว่านของว่าน.....พอถึงว่านลงจากรถแล้วก็ปันรั้วบ้านเข้าไปแล้วหันมายิ้มให้ผมก่อนจะพูดว่า
“ผมยังไม่ได้ตอบรับเค้าไปจริงๆนะ”ว่านพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูกังวลเล็กน้อย
“อื่อ”ผมยิ้ม
“พี่....ขอบคุณที่มาส่งนะครับ”
“พรุ่งนี้เจอกัน”
“ครับ” แล้วว่านก็เข้าบ้านไป


        ณ ตรงนี้....ว่าน Yไม่ Yคงไม่สำคัญแล้ว...เพราะผมรู้สึกว่าผมกับว่านเองก็กำลังคืบเข้าหากันมากขึ้นเรื่อยๆว่านเองก็น่าจะรู้ตัวว่าเค้ากำลังทำอะไรอยู่ แล้วก็น่าจะโตพอที่จะรู้แล้วว่าที่ผมทำมันหมายถึงอะไร ถ้าว่านไม่ชอบ....ก็น่าจะมีอะไรเป็นสัญญาณออกมาบ้าง แต่นี่กลับนิ่งเฉย แถมยังมาซุกผมแบบนี้อีกว่านคิดอะไรกันแน่


To Be Con

YenOh

  • บุคคลทั่วไป
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 9 : 01/05/11 )
«ตอบ #56 เมื่อ02-05-2011 03:37:46 »

ว่านเป็นเด็กจริงจังแบบนี้ กลัวใจจัง

ปล. ไม่ชอบโค้ชเลยค่ะ ดูทัศนคติของเขาผ่านพี่เอแล้วยิ่งรู้สึกไม่ดีด้วย

icyblue

  • บุคคลทั่วไป
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 9 : 01/05/11 )
«ตอบ #57 เมื่อ02-05-2011 11:05:57 »

ดูต่อไปน้องว่านจะใจตรงกันกับเอป่าว?

ออฟไลน์ HydrA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-2
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 9 : 01/05/11 )
«ตอบ #58 เมื่อ02-05-2011 14:08:51 »

พี่เออย่าเพิ่งรีบเร่งจิ่
ถ้าอะไรยังไม่ค่อยชัดเจนอย่าเพิ่งไปลงรายละเอียด
ดูกันให้ยาวๆอีกนิดก็ดีนะพี่
เค้าเป็นห่วงอ่ะ

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
ว่านคิดยังไงเนี่ยกลัวใจจริง

พี่เอคิดดีๆ คิดให้ยาวๆหน่อยนะก่อนจะทำอะไรอ่ะ เค้ากลัวอ่ะ เป็นห่วงด้วย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด