น้องชาย 2
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: น้องชาย 2  (อ่าน 179459 ครั้ง)

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
น่าสงสารน้องตองกับน้องๆคนอื่นๆอ่ะ
เฮ้อ ถ้ายังเป็นแบบนี้ เด็กๆก็จะหายไปทีละคนสองคน แล้วเอไม่ลองย้ายไปสอนยิมอื่นบ้างเหรอ ลองให้โค้ชเค้าทำเองดูดิ๊ จะเหลือเด็กกี่คน และคาดว่าเด็กคนอืื่นๆ น่าจะดีใจและยินดีย้ายไปที่ใหม่กับเอด้วย..ส่วนน้องว่าน ไม่แน่ใจแฮะ

ปล. น้องว่านน่าคิดแบบเดียวกับเอนะ ..
ปลล. ไม่ได้ข่าวน้องบีเลย...น้องเป็นยังไงบ้างจ๊ะ

ออฟไลน์ reneisance

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
คือไม่เข้าใจว่า ทำไม เอ ถึงต้องยอมโค้ชไปซะหมด แล้วก้นะ คนอย่างว่านนะ เป้นคนที่น่าสงสาร ที่จริงเอน่าจะลองพูดกับน้องดุ
เข้าใจนะว่าไม่ใช่เรื่องของเราแต่บางครั้ง ควรบอกน้อง อย่างเรื่องหัวเข่าที่เจ็บอะ เรื้อรังมากๆๆๆ สุดท้าย จัเป็นตัวน้องเองที่จะสูญเสียประโยชน์ ของตนในภายภาคหน้า คือพี่ว่าบางเรื่องเราไม่ควร ไปตามแก้ไข  อะไรต่อมิอะไร แต่เราควรจะป้องกันก่อนที่จะเกิดเรื่อง มันน่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่าการแก้ไขอยู๋เรื่อยๆๆๆ

kokoky

  • บุคคลทั่วไป
โค้ชแย่มาก อยากให้นักกีฬาบาดเจ็บรึไงนะ แย่ๆๆๆๆๆ
น้องว่านน่าเป็นห่วงนะคพคุณเอ น้องฝืนตัวเองมากไปบังคับตัวเองเกินไป
น่าห่วงมากจริงๆ

เกลียดโค้ชค่ะ บอกตรงๆ เป็นผู้ใหญ่ที่ไม่มีความรับผิดชอบ
สงสารก็แต่น้องๆคนอื่นๆที่ถูกโค้ชทอดทิ้ง แถมถูกน้องว่านกดดันน่ะ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ :L2:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
พาลูกเขาไปแบบนั้น แล้วไม่ดูแล เกิดน้องๆ เป็นอะไรขึ้นมา รับผิดชอบไหวหรือเปล่าแบบนี้  :confuse:

naoki24

  • บุคคลทั่วไป
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงท$
«ตอบ #64 เมื่อ08-05-2011 17:01:55 »

ไปซะนาน เด๋วคิดถึงแย่เลย........

เปงไงละคุณเอ รักแรก และรักจาก
ผมกับลูกศิษผมก็เคยจากกันแบบนี้แหละ

ผมชอบคุณเอนะเพราะคุณเองก็ทำอะไรหลายๆอย่างเหมือนผมตอนสอนดนตรีให้ลูกศิษย์มาก
ผมเลยจะบอกคำใบให้คุณเอคำนึงสองคำดีกว่า   

"ยิ่งรักมากยิ่งเจ็บมาก"  คำนี้คิดว่าคุณเอคงแปลออกง่ายๆ
"ยิ่งใกล่ยิ่งเหินห่าง"   แปลยากนิดนึงแต่ตรงตัว (เอ๊ะยังไง???)

หากคุณเอบรรลุสองคำนี้แล้วรับรองว่าคุณเอกับน้องบีจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันในอ้อมแขนของกันและกันอีกครั้ง
และปัญหาต่างๆจะมีทางออกให้คุณเอกับน้องบีเสมอ

ป.ล. หากคุณเอทิ้งน้องอ้นไปจิงๆผมว่าคุณเอผิดนะไม่ใช่อ้างว่าน้องหนีจากไปเอง เพราะที่น้องอุตส่ามาบอกคุณว่าเบื่อโค้ชไม่ชอบโค้ชไม่งั้นจะไปเล่นที่ยิมอื่นนี่หมายถึงน้องต้องการโอกาศจากคุณเอ คุณเอไม่คิดจะสอนเทดวันโด้เองโดยไม่คิดเงินหรอ แค่จับกลุ่มเด็กทำกิจกรรมกัน หรือคิดค่าสอนถูกๆ ไม่ต้องเปิดสำนัก แค่อยากให้เด็กใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เพระค่าชุดก็ราคาไม่น้อยเหมือนกันนะ เหมือนกับเครื่องดนตรีที่ผมสอนเด็กๆจนผมต้องลงทุนซื้อเครื่องดนตรีมือ2-4 มาสอนเด็ก3-5คนต่อ1เครื่องเลย และอีกอย่างการสอนโดยไม่หวังเงินเราอาจจะได้สิ่งที่เราไม่ได้หวัง...กลับมาก็ได้ จากประสบการณ์จริงของผมเองครับคุณเอ เออลืมบอกไปคุยกันมาหลายรอบและ ผมชื่อ"อ้น " น้องอ้นของคุณเอก็ดูนิสัยคล้ายผมดีนะ ตอนนี้ผมเลิกเป็นครูสอนดนตรีแล้วมาเป็นครุสอนพิเศษตามบ้านไม่ได้คิดเงิน แต่สิ่งที่ผมได้ตอบแทนมาจากทุกบ้านนั้นคือ ........ครอบครัว
ขอให้คุณเอโชคดี น้องบีกลับมาน้องอ้นก็ด้วย จะได้อ่านเรื่องน้องสองคนต่อ กำลังจิ้นเลยตอนนี้

ปล.ของ ปล. เหมือนน้องว่านจะเป็นพวกเถรตรงนะ(พวกบ้ากำลัง) สงสัยอนาคตได้เป็นทหารแน่เลย ระวังละเด็กแบบนี้มีอะไรกับเราแล้วมักจะเผลอพูดให้คนอื่นฟังด้วยเหอเหอ โดนมาเยอะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-05-2011 17:08:34 โดย naoki24 »

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
ช่วงที่ 10

       
        ใกล้ถึงวันแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยเข้ามาทุกทีๆผมรู้สึกตื่นเต้นนิ๊ดหน่อยถึงแม้ว่าปีนี้ผมจะไม่ได้ร่วมลงแข่งด้วยก็ตาม สงสัยตื่นเต้นแทนน้องๆบางคนที่เพิ่งจะลงแข่งปีนี้ปีแรก พูดถึงปีแรกตรงนี้ก็เป็นจุดบอดของมหาวิทยาลัยผมที่ไม่ค่อยมีนักกีฬาเทควันโดที่เคยฝึกซ้อมมาก่อนมาเข้าเรียน ส่วนมากก็จะเพิ่งมาเริ่มฝึกกันตอนมาเรียนปีหนึ่ง ทำให้นักกีฬาของเราแพ้ประสบการณ์เมื่อเทียบกับนักกีฬามหาวิทยาลัยอื่นที่หลายคนเคยฝึกซ้อมและผ่านการแข่งขันมาก่อนที่จะเข้าเรียนมหาวิทยาลัย อืมม..แต่ก็ช่างมันเถอะครับผมเน้นเล่นเพื่อสนุกสนานมากกว่าเอาเป็นเอาตาย ส่วนถ้าใครจะเอาเป็นเอาตายผมก็จัดให้ได้นะ แล้ววันนี้ก็เป็นวันปรกติๆอีกวันที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรนอกจากเรียนคาบเช้า ส่วนช่วงบ่ายผมมีแผนจะไปหัดถ่ายภาพที่ตลาดสักตอนบ่ายสามกว่าๆค่อยเข้าไปสอนน้อง ทว่า.....ระหว่างที่ผมลงจากอาคารเจ็ด ตอนนั้นมันเวลาเที่ยงพอดีผมจำได้ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูปรากฏว่าเป็นหมายเลขโทรศัพท์จากกองกิจกรรมนักศึกษา ทันทีที่เห็นผมแอบลังเลเล็กน้อยที่จะรับสาย เพราะไม่มีสักครั้งที่กองกิจกรรมนักศึกษาโทรมาแล้วจะไม่มีงานให้ผมทำ แต่ว่า....

“ครับ”
“เอหรือเปล่า นี่พี่ต้อมนะ” เสียงพี่ต้อมที่พูดออกมาดูซีเรียสๆยังไงก็ไม่รู้
“ครับพี่”
“นี่เที่ยงครึ่งมีประชุมที่กอง”
“ประชุมอะไรครับ” ผมถามกลับไปเพราะปรกติถ้ามีประชุมทางกองจะโทรมาแจ้งผมก่อนหนึ่งถึงสองวัน
“ก็ประชุมกีฬานี่แหละ”
“อ่าว....คราวก่อนผมแจ้งพี่ที่กองแล้วนี่ครับว่าถ้ามีอะไรติดต่อไปทางโค้ช”
“ก็พี่เค้าติดต่อไม่ได้ โทรตามเบอร์ที่เอให้มาทั้งสองเบอร์แล้วก็ไม่ติด”
“อืม....”
“เอาน่าๆ มาประชุมก่อนเดี๋ยวค่อยว่ากันอีกที” พี่ต้อมตัดบทกึ่งบังคับผมทันที
“ก็ได้ครับ”

        หลังจากวางสายจากพี่ต้อมผมลองโทรไปที่เบอร์โค้ชดู...ไม่ใช่ไม่เชื่อใจพี่ที่กองนะครับ แต่บางทีเราก็อยากรู้ว่าจริงๆแล้วมันยังไง ถ้าเราฟังแต่คนอื่นไม่ยอมตรวจสอบเอง เราก็จะไม่ได้ข้อเท็จจริง

“หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้”


        ทั้งสองเบอร์ของโค้ชที่ผมมีอยู่ ผมได้ยินเสียงตอบกลับมาแบบนี้ทั้งสองครั้ง ผมยืนนิ่งๆมองต้นก้ามปูต้นใหญ่ที่อยู่ข้างหน้าแล้วถอนหายใจเบาๆ จะว่าไปปีนี้ผมไม่มีตำแหน่งอะไรทั้งในชมรมแล้วก็กลุ่มผู้จัดการทีมเลยนะครับ เท่าที่ทำได้ผมยังไม่เคยเซ็นเอกสาร ยินยอม หรือ รับทราบ อะไรพวกนี้สักอย่างตั้งแต่ต้นปีการศึกษาแล้ว สุดท้ายวันนั้นผมก็ต้องไปเข้านั่งประชุม แล้วคนที่เป็นประธานการประชุมคือรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา ผมจำความรู้สึกวันนั้นได้ดีมากๆ ผมเป็นคนเดียวที่เป็นนักศึกษาเหมือนสองปีที่ผ่านมา แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมเข้ามานั่งตัวเปล่าแบบไม่มีกระดาษข้อมูลเชิงลึกอะไรเลยสักอย่าง ไม่มีเอกสาร หรือ กระทั่งข้อมูลนักกีฬาด้วยซ้ำ ที่มีอย่างเดียวตอนนี้คือข้อมูลที่จำได้เมื่อครั้งที่วิ่งเอกสารเท่านั้น แต่โชคดีที่การประชุมวันนั้นไม่มีอะไรมากนอกจากคำถามที่ว่า “คาดหวังว่าจะได้กี่เหรียญ” อาจารย์ท่านอื่นตอบทีเล่นทีจริงอย่างสนุกสนานไล่ไปเรื่อยๆจนกระทั่งมาถึงผม


“เอาเทควันโดล่ะปีนี้จะกวาดกี่เหรียญ”


        รองอธิการบดี ยิงคำถามผมมาใส่ผมหลังจากที่อาจารย์ท่านอื่นๆตอบไปหมดแล้ว ผมไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดีเพราะยังมีผลงานปีที่แล้วค้ำคออยู่ แถมน้องๆที่มีปีนี้มีนักกีฬาเก่าแค่คนเดียว ส่วนคนที่มาใหม่ผมก็ไม่ได้เข้ามาคุมการฝึกซ้อมเองผมยังไม่รู้ฝีมือน้องๆเลย หรือผมจะตอบซี้ซั้วไปเลยดีนะ.....


“น่าจะสักสองเหรียญ......” ผมเว้นช่วงเล็กน้อย แต่ยังไม่ทันที่ผมจะพูดประโยคนี้จบอาจารย์ทุกคนที่อยู่ในที่ประชุมก็หันมามองผมเป็นตาเดียว “.....เป็นอย่างต่ำครับ” พอผมพูดจบ อาจารย์ทั้งหลายก็หันกลับไปคุยกันต่ออย่างสนุกสนาน


        วันนั้นหลังจากประชุมเสร็จผมรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยนั่งฟังเพลงทำรายงานอยู่บ้านไม่ได้ไปไหนแล้วก็นั่งคิดเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับโค้ช จะว่าไปมันก็แค่ปมง่ายๆผมเล่นเทควันโด โค้ชเล่นเทควันโด โค้ชเป็นรุ่นพี่สายอาจารย์เดียวกัน แล้วโค้ชเค้าก็เข้ามาทำเทควันโดในมหาวิทยาลัยก่อนผมแต่มันไม่เวิร์ก จนผมมาทำต่อในฐานะรุ่นน้องซึ่งโค้ชเค้าก็วางตัวเป็นรุ่นพี่ เป็นโค้ชมาตลอดตั้งแต่ตอนนั้น แล้วหลังจากที่ผมมาทำมันก็ดีขึ้นมาเรื่อยๆ จนมาปีนี้ที่ผมปล่อยเนื่องจากผมไม่สบายใจที่ทำงานกับโค้ชเท่าไหร่ แต่สุดท้ายผมก็ต้องมาตามเช็ดตามล้างอยู่ดี

        หลังจากนั่งทำรายงานเรื่อยๆจนประมาณบ่ายสามโมงกว่าผมก็ไปที่ยิม โดยที่ผมติดรายงานไปทำด้วย พอมาถึงยิมก็เจอมิ้นนั่งเล่นอยู่เงียบๆคนเดียว ทันทีที่ทิ้นเห็นผมมิ้นก็หันมายกมือไหว้หนึ่งทีก่อนจะหันกลับไปคืน ส่วนผมก็เดินเอากระเป๋าไปวางแล้วก็เอารายงานมานั่งเขียนต่อ หลังจากที่ผมเริ่มนั่งเขียนรายงานต่อได้ไม่นานว่านก็มาครับ ผมได้ยินเสียงเลื่อนประตูกระจกผมเลยหันไปมองเจอวานยื่นถอดรองเท้าอยู่ ก่อนจะหันมายกมือไหว้ผมแล้วเดินเข้ามาวางกระเป๋า


“พี่ทำอะไร” ว่านถาม ก่อนจะลากเก้าอี้มานั่งข้างๆผม
“รายงาน”
“ลายมือพี่สวยอะ” ว่านพูดจบผมก็หันไปมองหน้าว่านก่อนจะพูดว่า
“พูดแบบนี้อยากได้กี่บาท 20 พอม๊ะ”
“ฮ่ะๆๆ” ว่านหัวเราะ ก่อนจะดึงเก้าอี้มาชิดมากกว่าเดิมแล้วก็นั่งซบหลังผม
“หิวน้ำ” ผมพูดขึ้น
“ผมไปซื้อให้ไหมครับ” ว่านถาม
“เอาดิ” แล้วผมก็ยื่นเงินให้ว่านจำนวนหนึ่ง แล้วว่านก็รีบวิ่งออกไปซื้ออย่างไว


        แล้วระหว่างนั้นโค้ชก็มาครับ พอจอดรถเสร็จโค้ชก็เดินเข้ามาในยิมแบบไม่ปิดประตูด้วย แถมใส่รองเท้าเดินเข้ามาอีกระหว่างที่โค้ชเดินเข้ามามิ้นจ้องตามตลอดทางเลย เพราะรู้ๆกันอยู่ว่ามิ้นจะมากวาดแล้วก็ถูยิมบ่อยๆก่อนที่ใครๆจะมา


“หวัดดีครับ” ผมหันไปไหว้โค้ชตามมารยาท
“ดีๆ วันนี้มาเร็วจัง” โค้ชทักกลับมา ตอนนั้นผมหันไปมองหน้าโค้ชแล้วรู้สึกว่าโค้ชตาแดงๆเลยถามไปว่า
“เพิ่งตื่นเหรอพี่”
“อื่อ ใช่ เมื่อคืนหนักไปหน่อย บลาๆๆ....” แล้วโค้ชก็เล่าเรื่องที่ไปเที่ยวเมื่อคืนกับเพื่อนๆของเค้าที่ผมไม่รู้จักอย่างเมามันส์
“เมื่อเที่ยงผมเข้าประชุมมานะ” ผมพูดขึ้นหลังจากที่ดูเหมือนว่าโค้ชจะเล่าเรื่องไปเที่ยวเหมือนคืนจบแล้ว
“อ้าว เออ ใช่ ลืมเลยว่าวันนี้มีประชุม แล้วเค้าว่าไงบ้าง”
“ไม่มีอะไรครับ แค่ถามความพร้อม จำนวนนักกีฬา แล้ว ก็ความหวังที่จะได้เหรียญ” ผมตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเซ็งๆเล็กน้อย แล้วก็วางปากกา  เก็บกระดาษรายงานที่วางอยู่ข้างหน้า เหมือนโค้ชจะดูออกว่าผมไม่พอใจ
“โทษทีๆ พี่ลืมจริงๆ แล้วเราตอบเค้าไปว่าไง” โค้ชพูดติดตลกกลับมา แต่ผมไม่ได้รู้สึกตลกด้วยเลยสักนิ๊ด


        แล้วตอนนั้นว่านก็กลับมาพอดีพร้อมกับน้ำจำนวนสามขวด ทันทีที่ว่านมาถึงว่านก็ยกมือไหว้โค้ชก่อนจะเดินมานั่งบนขาผมแล้ววางน้ำไว้บนโต๊ะตรงหน้าผมนั่นแหละ


“ผมตอบไปว่าน่าจะได้อย่างต่ำสองเหรียญ” ผมพูดพลางเก็บเอกสารลงกระเป๋าซึ่งว่านก็ช่วยเก็บด้วย
“ดีแล้วล่ะ” โค้ชตอบกลับมาพลางยิ้มๆไปด้วยก่อนจะคว้าน้ำที่ว่านวางไว้บนโต๊ะไปเปิดดื่มอย่างรวดเร็ว
“.....” ผมมองตามแต่ไม่ได้พูดอะไร.....
“นี่น้ำใคร” โค้ชหันมาถามว่านหลังจากที่ดื่มหมดไปแล้วครึ่งขวด
“น้ำพี่เอ” ว่านตอบ
“อ่าวเหรอ คิดว่าน้ำของว่านนะเนี่ยะ ฮ่ะๆๆ” โค้ชพูดพลางหัวเราะก่อนจะเดินออกไปเปลี่ยนชุด


        พอโค้ชลุกไปว่านก็หันมามองหน้าผมแล้วลูบหลังผมเบาๆผมหันไปยิ้มให้น้องก่อนจะโอบหลังน้องเบาๆแล้วซุกลงไปที่ไหล่ว่าน


“พี่....เรื่อง Resident 4 น่าดูเน๊าะ” ว่านพูดขึ้น
“เหรอ”
“ครับ”
“อยากไปดูไหมอะ”
“ไปๆๆ” ว่านตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงดีใจสุดๆ
“วันไหนดี”
“เสาร์นี้”
“อื่อ ได้ซิ”


        การซ้อมวันนี้เหมือนที่ผ่านๆมาโค้ชพาน้องๆซ้อมหนักมาก ว่านเองก็ยังซ้อมแบบบ้าพลังเหมือนเคย จนถึงช่วงซ้อมเสร็จว่านก็มานั่งพิงผมแบบหมดแรงหอบแฮกๆเป็นหมาหอบแดดผมนั่งกอดว่านอยู่อย่างนั้น จนน้องๆเริ่มทยอยกลับหมด เว้นน้องต้นกล้าคนเดียวที่ยังไม่กลับ จนในที่สุดก็เหลือผมว่านแล้วก็ต้นกล้าอีกคน


“ถูกทิ้งแล้วมั้ง” ผมพูดขึ้นแล้วหันไปมองน้องต้นกล้าที่นั่งอยู่ข้างๆ
“นั่นซิ” ว่านแถม
“ไม่ๆ วันนี้พี่เอไปส่งผม พาผมไปตัดผมด้วย” ต้นกล้าพูดขึ้น
“อ่าว แล้วมาบอกอะไรตอนนี้”
“จริงด้วย” ว่านแถม ก่อนจะเอามือผมไปงับเล่น
“ก็....ลืม”
“งั้นปะๆ ถ้ารู้ว่าไปตัดผมแล้วให้พี่ไปส่ง น่าจะไปตัดผมตั้งนานแล้วนะเนี่ยะ” ผมบ่นๆ
“ผมขอโทษ” ต้นกล้าพูดเสียงสั่นเครือ
“เอาเถอะๆ ไม่เป็นไรๆ คราวหน้ามีอะไรก็รีบบอกแล้วกัน” ผมตบหลังต้นกล้าเบาๆ


        แล้วผมกับว่านก็เดินไปปิดหน้าต่างกับไฟในยิม หลังจากปิดไฟกับหน้าต่างหมดแล้ว พอผมเดินพ้นประตูออกมาอยู่ๆความรู้สึกหนึ่งก็แว่บขึ้นมา ผมหันกลับไปแล้วก็พูดว่า.....


“ปะบี กลับบ้าน.........ได้.....แล้ว......” แต่เมื่อผมมองกลับไปผมก็เห็นว่านยืน งง มองผมอยู่
“วันนี้บีไม่ได้มาซ้อมครับพี่” ว่านตอบกลับมา
“อืมม โทษที เรียกชื่อผิด จะเรียกว่านนั่นแหละ” ผมยิ้ม
“จะเรียกทำไมล่ะครับ ก็ผมเดินตามมาอยู่เนี่ยะ”
“นั่นซิเน๊าะ”
“หนักแล้วนะเนี่ยะ ฮ่าๆ” ว่านหัวเราะ

        แล้วผมก็พาว่านกับต้นกล้าไปที่ร้านตัดผมที่อยู่ใกล้ๆ แต่พอไปถึงก็พบว่ามีลูกค้านั่งรอกันเป็นสิบคนเลยทีเดียว ผมหันไปมองต้นกล้าแล้วพูดว่า

“รีบไหม คราวหน้าดีกว่าเน๊าะ”
“ทำไมอะครับ” ต้นกล้าถาม
“ก็คนเต็มไปหมดไม่เห็นหรือไง” ว่านตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างหงุดหงิดใส่ต้นกล้า
“....” ต้นกล้าถึงกับเงียบเลย
“ว่าน อย่าไปดุน้องซิ มีอะไรก็คุยดีๆ” ผมหันไปบอกว่าน
“พี่ก็ดูมันถามซิ” ว่านตอบกลับมา
“น่าๆ น้องยังเด็ก”
“.....” แล้วว่านก็หันหน้าออกไปบ่นงึมงำๆคนเดียว
“งั้นพรุ่งนี้ก็ได้เน๊าะ วันนี้ตนเยอะ กว่าจะเสร็จก็ดึก” ผมหันมาคุยกับต้นกล้า
“ก็ได้ครับ” ต้นกล้าตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงสั่นๆ

        แล้วผมก็พาต้นกล้าไปส่งที่บ้าน ระหว่างที่เดินไปที่รถว่านเองก็ทำท่าทีเหมือนมีอะไรไม่พอใจสักอย่างซึ่งผมก็ไม่ได้ถามว่าไม่พอใจเรื่องอะไร แล้วระหว่างทางที่ไปส่งต้นกล้าว่านไม่ยอมคุยอะไรเลย ขนาดว่าผมชวนคุยก็ยังไม่ยอมพูด แถมถอนหายใจใส่อีก ตอนแรกผมชวนทั้งคู่คุย แต่พอว่านทำแบบนี้ผมเลยเปลี่ยนไปคุยกันต้นกล้าคนเดียวแทน พอผมคุยกับต้นกล้าคนเดียว ว่านก็เอากุญแจมาจิ้มๆหลังคอผมเบาๆ ไม่นานนักก็ไปถึงบ้านต้นกล้าหลังจากส่งต้นกล้าเสร็จผมก็หันไปถามว่านว่า

“เป็นไร”
“เปล่า” ว่านตอบกลับมาสั้นๆ

        ผมเลยคว้ามือว่านไว้แล้วจะยกขึ้นมาหอมแล้วก็จูบลงไปที่หลังมือว่านเบาๆ ก่อนจะเอามากุมไว้ที่ตักเหมือนเคย ว่านค่อยๆขยับเข้ามานั่งใกล้ผมมากขึ้นก่อนจะซบลงไปที่หลังผม

“พี่ชอบเวลาว่านยิ้มล่ะ” ผมพูดขึ้นมา
“.....” ว่านไม่ตอบอะไรกลับมา แต่เอานิ้วมาจิ้มๆที่หลังผมแทน
“เวลาว่านยิ้มอะ น่ารักมากเลยรู้ตัวหรือเปล่า”
“.....” ว่านไม่ตอบแต่จิ้มแรงกว่าเดิม ก่อนจะเปลี่ยนมางับไหล่ผมเบาๆ


        ไม่นานนักจากบ้านต้นกล้าก็มาถึงบ้านว่านครับ วันนี้ก็เหมือนเคยที่บ้านว่านมืดสนิท จริงๆ....ว่านเองก็มีชีวิตที่เงียบเหงากลับมาถึงบ้านก็อยู่คนเดียวไม่มีใคร ต่างจากบีที่บ้านบีมีพร้อมทุกอย่างไม่ขาดสักอย่างทั้งพ่อแม่พี่น้องญาติมิตรหรือแม่บ้านที่เคยทำโน้นทำนี่ให้ตลอดเวลา ส่วนว่านต้องอยู่คนเดียวตามลำพังทานข้าวคนเดียว อยู่คนเดียว นอนคนเดียว จะว่าไป....ชีวิตว่านก็คล้ายๆผมนะ


To Be Con

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 10 : 11/05/11 )
«ตอบ #66 เมื่อ11-05-2011 23:39:06 »

ช่วงที่ 11





        เช้าวันใหม่แสงแดดสาดส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาสว่างจ้าเสียงรถวิ่งไปมาตรงถนนทั้งหน้าบ้าน หลังบ้าน เสียงป้าข้างบ้านตะโกนคุยกันเรื่องละครเมื่อคืนจ๊อกแจ๊กๆตลอดเช้าระหว่างที่แกทำกับข้าวมื้อเที่ยง ไม่ก็คงมานั่งจับเข่าคุยกันข้ามรั้วบ้านเหมือนเคยๆ ...และนี่ก็คือการเริ่มต้นอีกวันกับชีวิตที่แสนน่าเบื่อของผม กิจกรรมหรือเสียงพวกนี้จะคอยเป็นนาฬิกาปลุกระรอกที่สองที่จะบอกผมว่าควรจะลุกจากที่นอนได้แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่อยากลุกจากเตียง ผมคว้าผ้านวมผืนหน้ามาคลุมหัวแล้วนอนต่อ ก่อนที่ผมระเริ่มหลับลงอีกครั้ง พร้อมสังหรณ์ใจชอบกล......ให้ตายซิครับทายไม่ถูกก็แต่หวย เสียงโทรศัพท์มันก็ดังขึ้นมา ผมนึกขึ้นในใจ “ใครโทรมาเวลานี้วะ” ก่อนจะเอามือไปจับๆหาโทรศัพท์ตามต้นตอของเสียง แล้วหันมาดู

“พี่ต้อม Calling”


        ผมมองด้วยความรู้สึกแอบรำคาญเล็กๆ นี่มันวันเสาร์นะ วันที่ผมควรจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ วันที่มันไม่ควรมีเรื่องงานมาเกี่ยวข้อง เว้นว่ามันจะเป็นงานที่ผมยังทำไม่เสร็จ แต่เช้าขนาดนี้สำหรับผมมันก็ไม่ใช่เวลางานอยู่ดี


“ครับพี่” ผมกดรับสายแล้วตอบรับไปด้วยน้ำเสียงงัวเงียสุดๆ
“อ่าว เพิ่งตื่นเหรอ พี่กวนไหมเนี่ยะ” พี่ต้อมถามด้วยน้ำเสียงตกใจเล็กน้อย
“ไม่ครับ กำลังจะตื่นพอดี”
“วันจันทร์มีประชุมนะ เค้าจะสอบถามเรื่องอุปกรณ์แล้วก็เวชภัณฑ์ที่ต้องใช้หน่ะ”
“หือ....ทำไมไม่บอกโค้ช หรือ ประธานชมรมเค้าละพี่ เรื่องนี้ผมไม่ได้รับผิดชอบนา”
“ก็พี่ติดต่อไปแล้ว ติดต่อไม่ได้ทั้งสองคนเลย ส่วนรองประธานก็เห็นว่าไปออกค่ายกับชมรมพุทธทางก้าวหน้า”
“อีกแล้วเหรอ....” ผมพูดกึ่งๆสบถออกไปด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย
“อื่อ พี่เลยคิดว่าติดต่อเอดีกว่าชัวร์กว่า”
“ก็ได้ครับเดี๋ยวผมเข้าประชุมด้วย ยังไงรบกวนพี่ติดต่อพวกเค้าด้วยแล้วกัน พอดีผมไม่มีข้อมูลเรื่องอุปกรณ์แล้วก็เวชภัณฑ์เลย”
“ได้ๆ ขอบใจมากนะ” พี่ต้อมตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงดีใจสุดๆ


        ความเดิมคือพี่ต้อมคนนี้เค้าเป็นหัวหน้าพวกพี่ๆที่ทำงานในกองด้านธุระการหน่ะครับ คอยตามพวกข้อมูล เอกสารต่างๆ ซึ่งแกก็บ่นกับผมเสมอๆเรื่องที่ประธานชมรมต่างๆไม่เข้าประชุมบ้าง ไม่ส่งเอกสารตามกำหนดบ้าง หนักๆเข้าก็พวกรูปเล่มผลงานที่ต้องนำเสนอรองอธิการฯ ถึงความสำเร็จในการดำเนินงานเพื่อทำผลงานต่างๆ พอเอกสารไม่ครบหรือคนเข้าประชุมขาดมากๆคนที่ถูกด่าจะเป็นพี่ต้อมเสมอ พี่ต้อมเองก็ต้องก้มหน้าก้มตารับกรรมไปเพราะโทรตามคนเข้าประชุมติดบ้างไม่ติดบ้าง บางทีคนเข้าประชุมก็รับปากไปเรื่อย เช่นว่าจะมาประชุม จะเอาเอกสารมาส่งตรงตามกำหนด แต่พอเอาเข้าจริงๆก็ไม่มาไม่ส่ง ทีนี้ผู้อ่านคงพอเข้าใจนะครับว่าทำไมผมถึงยอมเข้าประชุม แล้วทำไมพี่ต้อมถึงดีใจที่ผมตอบรับ จริงๆที่ผมรับปากคราวนี้มันก็ไม่ใช่เพื่อพี่ต้อมคนเดียวหรอกครับ แต่เพื่อน้องๆในชมรมด้วยนั่นแหละ เพราะถ้าขาดประชุมคราวนี้ล่ะก็ได้มีปัญหาใหญ่โตตามมาแน่

        หลังจากวางสายกับพี่ต้อมเสร็จผมก็มองนาฬิกาบนมือถือ “09.45น.” อ่า...สายแล้วแฮะ ผมนัดไปดูหนังกับว่านด้วยนี่นาวันนี้ว่าแล้วผมก็รีบไปล้างหน้าแปรงฟันรอเวลาที่จะไปรับว่านไปดูหนังรอบ 11.20 น. พอถึงเวลาประมาณ 10.30 ผมก็โทรไปหาว่านเพื่อบอกให้น้องรอที่หน้าบ้าน ปรกติถ้าไปดูหนังผมมักจะไปก่อน 30 นาทีอะครับเพื่อป้องกันตั๋วเต็มจะได้ไม่ต้องไปนั่งกองๆกันอยู่แถวหน้า พอโทรหาว่านเสร็จผมก็รีบตรงดิ่งไปหาว่านที่บ้านทันที เมื่อมาถึงก็เจอว่านแต่งตัวซะหล่อเลยรออยู่หน้าบ้าน


“ปะ” ผมเรียกว่านขึ้นรถหลังจอดรถนิ่งสนิทแล้ว ว่านหันมายิ้มแล้วกระโดดขึ้นรถผมอย่างเร็วก่อนที่ผมจะขับรถออกไป
“แม่ล่ะ”
“นอน”
“แล้วมาดูหนังกับพี่บอกแม่ยัง”
“บอกแล้ว”
“วันนี้แต่งตัวหล่อเลยเน๊าะ”
“.....” ว่านไม่ตอบอะไรกลับมานอกจากเอานิ้วมาจิ้มๆหลังผมเบาๆซ้ำไปซ้ำมา


        ไม่นานนักผมก็มาถึงโรงหนังครับ ทันทีที่ถึงโรงหนังผมก็พาว่านขึ้นไปซื้อตั๋วซึ่งโชคดีวันนี้ที่ตัวแถวประจำผมว่างสองที่ติดกันพอดีหลังจากซื้อตั๋วเสร็จแล้วผมก็พาว่านไปนั่งเล่นตรงที่นั่งที่โรงหนังจัดไว้ซึ่งตรงนั้นมีการฉายตัวอย่างหนังให้ดูด้วย แต่ว่าหลังจากนั่งไม่นานว่านก็มาสะกิดๆไหล่ผมเบาๆ ผมหันไปมองว่าน


“พี่....” ว่านเรียกผมเบาๆ
“ครับ”
ว่านขยับๆมาข้างๆหูผมแล้วกระซิบเบาๆว่า “ผมหิว”
“กินอะไรดี”
“ไก่ทอดก็ได้” ว่านตอบพลางเอานิ้วมาจิ้มๆไหล่ผมเบาๆ
“เอาดิ ปะๆ”

        แล้วผมก็พาว่านลงไปซื้อไก่ทอดของตาลุงหนวดขาวถือไม้เท้าแปลกๆแถมยืนยิ้มแฉ่งตลอดเวลา ช่วงนี้ห้างเพิ่งเปิดคนที่ร้านเลยยังไม่เยอะ น้องสั่งวิงก์แซ่บมาสี่ชิ้น ส่วนผมสั่งมาสามชิ้นกับเป๊บซี่อีกคนละแก้ว พอได้ไก่แล้วผมกับว่านก็เดินขึ้นไปที่โรงหนังคืนก่อนจะหาที่นั่งทาน ตอนแรกว่าจะไปนั่งทานตรงที่นั่งรอดูหนังนั่นล่ะครับ แต่เปลี่ยนใจเพราะเกรงใจสายตาชาวบ้านเค้าเวลาที่เราทานอยู่ ผมเลยพาว่านไปนั่งเล่นตรงบันไดทางออกของโรงหนังที่เค้าไม่ได้ใช้แล้ว มุมนี้ไม่ถือว่าเปลี่ยวมากไป แต่ที่บอกว่าไม่ใช่เพราะ เค้าไม่นิยมเปิดประตูทางออกด้านนี้ถ้าคนไม่เยอะจริงๆ ทำให้ทางเดินตรงนี้ถูกปล่อยไว้ จะว่าไปมันก็เป็นทางต่อจากตรงที่ซื้อตั๋วไปโรงสามได้นะ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเค้าถึงไม่เปิดให้เดินผ่าน ทำให้ด้านหน้าติดที่ขายตั๋วมีป้ายวางว่าห้ามผ่านอยู่

        หลังจากผมนั่งลงแล้วว่านมานั่งข้างๆผม ผมคุยเรื่องทั่วไปกับว่านส่วนมากเป็นมุขตลกฝืดๆไม่ก็ตลกแป๊กๆอะครับ แต่ว่านก็ฮานะ จนเมื่อผมทานไก่จนหมดแล้วหยิบแก้วขึ้นมาจะดื่มน้ำ ปรากฏว่าผมเอาหลอดใส่แก้วไม่ได้ เพราะตรงพลาสติกที่ปิดไว้มันแน่นเกิน ผมก็ทิ่มไปทิ่มมาอยู่สองสามทีว่านก็หันมามองก่อนจะยิ้ม แล้วว่านก็เอานิ้วมาจิ้มให้พลาสติกเปิดออกให้ ผมหันไปยิ้มให้ว่านก่อนจะหยิบหลอดมาใส่.....ทว่า....ในช่วงสุดท้ายก่อนที่ผทจะได้ดื่ม...หลอดดันตกครับ ผมก้มมองหลอดที่ตกลงไปนอนแน่นิ่งกะพื้นที่ปูด้วยพรมสีแดงสดของโรงหนัง แล้วหันมามองว่าน ว่านยิ้มเหมือนชอบใจก่อนจะเอาหลอดของว่านไปใส่ที่แก้วผม


“ไม่เป็นไร เดี๋ยวเปิดฝาออกเลยก็ได้” ผมบอกว่าน
“อันนี้แหละใส่ให้แล้ว” ว่านตอบกลับมา พร้อมจ้องมองผมเหมือนกับถามเป็นนัยๆว่ารังเกียจเหรอ
“แล้วของว่านอะ” ผมถาม
“ก็เดี๋ยวเทรวมกับของพี่เลย ดื่มด้วยกันก็ได้” ว่านยิ้ม

        จะว่าไป....นอกจากบีแล้ว...ผมก็ไม่เคยดื่มน้ำหลอด หรือ ขวดเดียวกันกับใครแบบนี้เลยนะ....อืมมม ช่างมันเถอะคิดมากไปแล้ว ว่าแล้วผมก็ดื่มน้ำหลอดเดียวกับว่านครั้งแรก แล้วก็นั่งคุยกับว่านไปเรื่อยๆ ถ้าที่นั่งอยู่ต่อหน้าผมตรงนี้เป็นบีก็คงจะดีซินะ.....จู่ๆผมก็นึกแบบนั้นขึ้นมาในใจ......ก่อนที่ผมจะเอื้อมมือไปลูบที่หัวว่านเบาๆแล้วเลื่อนลงมาใช้หลังมือลูบแก้มของว่าน....“นุ่มจัง....” ผมคิดในใจ ตอนนั้นว่านที่นั่งคุยเป็นต่อยหอยก็เงียบลงทันทีก่อนจะมองไปทางอื่น แล้วปลายนิ้วชี้ของผมก็เลื่อนจากแก้มว่านไปที่ปากของว่าน.....ทั้งนุ่ม...ทั้งอุ่น...เหมือนบีเลย.....นี่ผมทำอะไรอยู่เนี่ยะ....


“มีเศษไก่ติดด้วย” ผมพูดขึ้นแล้วยิ้ม
“จริงเหรอครับ” ว่านเหมือนจะตกใจกับคำพูดผมจากสายตาที่หลบออกไปเมื่อครู่ก็หันกลับมามองผมทันที
“อื่อ อิอิ”
“.....” ว่านไม่ตอบอะไรกลับมานอกจากรอยยิ้มแบบเขินๆ....เหมือนบีไม่มีผิด....
“ปะ อีก 4 นาทีหนังฉายแล้ว เค้าเปิดโรงแล้วมั้ง”
“ครับ”

        แล้วผมกับว่านก็เดินไปเข้าโรงหนัง ว่านเองจากที่คุยๆอยู่ก็เงียบลงไปจนสังเกตได้เลยทีเดียว พอเข้าไปนั่งได้ไม่นานหนังก็ฉาย ผมกับว่านนั่งดูอย่างตั้งใจ ก่อนที่ว่านจะหันมากระซิบถามถามผมเป็นระยะๆเกี่ยวกับหนัง ทำให้ว่านนั่งกระเถิบเข้ามาจนชิดที่นั่งของผม.....ผมเลยเอื้อมมือข้ามไปฝั่งที่นั่งของว่าน แล้ววางมือลงบนหน้าขาว่านเบาๆ ทันทีที่วางลงถูกตัวว่าน ว่านก็เอามือมาจับมือผมไว้ทันที ก่อนที่จะจับมือผมแบออกแล้วว่านก็กุมมือผมไว้แต่ว่านก็ไม่ได้ปล่อยมือออกเลยแล้วเรากุมมือกันไว้แบบนั้นจนหนังจบเลยครับ แม้ว่าว่านจะหันมาถามผมเป็นระยะๆเหมือนเดิม ผมรู้สึกดีจังแฮะ

        พอหลังจากหนังจบผมก็พาว่านไปเอาชุดเทควันโดที่บ้านครับก่อนที่จะวกไปที่ยิม แล้วทันทีเมื่อมาถึงผมก็พบกับเรื่องน่าประหลาดใจครับ เพราะผมเห็นโค้ชนั่งดูหนังอยู่ในยิม พอจอดรถเสร็จผมกับว่านก็เดินไปที่ร้าน 7 – 11 เพื่อซื้อน้ำแล้วก็ขนมมาไว้ทานเล่น ซึ่งผมก็ไม่ลืมที่จะซื้อแฮมชีสไหม้ๆแบบที่ว่านชอบให้ว่านด้วย เมื่อซื้อเสร็จผมกับว่านก็เดินกลับมาที่ยิม โดยหลังจากวางของเสร็จแล้วว่านก็เดินไปลากเก้าอี้มาสองตัวแล้วก็เรียกผมมานั่งข้างๆ


“ว่านชอบพี่เอเหรอ” โค้ชถามขึ้นมาลอย ทำเอาว่านสะดุ้งเฮือกเลย
“เปล่า” ว่านตอบกลับไป
“ก็เห็นเดี๋ยวกอดเดี๋ยวซบพี่เค้าตลอด”
“ก็....” ว่านเหมือนจะตอบกลับไปไม่ถูก แต่ก่อนที่โค้ชจะถามว่านเรื่องนี้ต่อผมก็เบรกโค้ชด้วยเรื่องประชุมทันที
“พี่จันทร์นี้กองเค้าโทรมาแจ้งเรื่องประชุมนะ”
“โหย.....พี่รู้แล้ว.....” โค้ชพูดจาแบบกระหยิ่มยิ้มย่องแสดงท่าทีขบขันเหมือนผมตั้งกระทู้ซ้ำในเรื่องที่มีชาวบ้านเค้าโพสไปแล้ว
“เหรอครับ” ผมตอบกลับไปแค่นั้น เพราะถือว่าโค้ชรู้แล้ว


        แต่พูดจริงๆนะผมไม่ชอบท่าทีของโค้ชตอนนี้เลย แต่ก็ช่างมันเถอะพี่ต้อมอาจจะโทรมาแจ้งโค้ชแล้วก็ได้ เพราะผมก็เป็นคนบอกให้พี่เค้าติดต่อโค้ชเองนี่นา แล้วผมก็มานั่งดูหนังต่อ ส่วนว่านเองพอเจอทักแบบนั้นว่านก็ถึงกับถอยห่างออกไปจากผมเป็นคืบเลยทีเดียว วันนั้นก็เป็นอีกวันที่ผมได้แค่เฝ้าดูน้องๆอยู่ห่างๆ เพราะโค้ชไม่ยอมให้ผมเข้าไปดูแลน้องเหมือนเคย รวมถึงโค้ชก็ทำแบบนั้นด้วย ยิ่งนานวันเด็กๆยิ่งลดน้อยลงเรื่อยๆ ผมทำได้แค่มองแล้วก็โทรไปคุยกับพี่ป้อมเรื่องนี้ ซึ่งพี่ป้อมก็บอกแค่ให้รอดูเท่านั้นเอง..... เย็นวันนั้นหลังโค้ชสั่งเลิกโค้ชก็กลับทันทีส่วนผมก็ไปนั่งเล่นที่มุมเดิมของยิม ว่านเองทันทีที่โค้ชกลับว่านก็เดินมานั่งพิงผมแล้วก็เอนหลังมานอนหอบ

“เหนื่อยไหม” ผมถามว่าน
“ไม่ครับ เมื่อยเฉยๆ”
“เหรอ”
“พี่เดี๋ยวผมไปหยิบยามานวดก่อน” ว่านพูดจบก็ลุกขึ้นไปหยิบยานวดจากในกระเป๋ามานั่งนวดเท้าอยู่ข้างๆผม พอนวดเสร็จว่านก็กลับมานั่งพิงผมใหม่
“เสื้อพี่เปียกๆ ไปทำอะไรมา” ว่านถามขึ้น
“ไม่ได้ทำอะไร นั่งเฉยๆ”
“แล้วทำไมเปียกล่ะ”
“ก็เมื่อกี้ไม่รู้ใครมานั่งพิงอะดิ”
“อิอิอิ” ว่านหัวเราะชอบใจ ก่อนจะจับแขนผมไปกัดเล่นอย่างสนุกปาก
“คราวหน้าเอากระดูกไหม เดี๋ยวพี่ซื้อมาให้”
“ไม่เอา ผมชอบกัดพี่มากกว่าอร่อยดี” ว่านหันมาตอบก่อนจะหันกลับไปกัดต่อ


        แล้วไม่นานนักหลังจากที่โค้ชกลับเด็กๆก็กลับบ้านจนหมดก่อนกลับบ้านว่านก็มาอ้อนให้พาไปทานก๋วยเตี๋ยวก่อน ผมก็เลยพาไปทาน ระหว่างที่ทานอยู่คุณแม่น้องว่านโทรมาเช็คด้วยว่าว่านอยู่ไหน หลังจากที่ทานเสร็จแล้วผมเลยรีบพาว่านไปส่งที่บ้านทันที สรุปวันนี้....ว่านไม่ต้องนอนคนเดียว


To Be Con

ออฟไลน์ w[o]w

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 11 : 11/05/11 )
«ตอบ #67 เมื่อ12-05-2011 09:49:00 »

หายไปหลายวันเลยนะครับ กลับมาทีเต็มๆสะใจมาก

เมื่อไหร่จะไล่โค๊ชออกอ่า เซงจิต

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 11 : 11/05/11 )
«ตอบ #68 เมื่อ12-05-2011 11:41:51 »

นอกเรื่องเล็กน้อยนะครับ
เอาตารางมาให้ดูเพื่อไม่ให้ผู้อ่าน งง ( หรือ อาจ งง หนักกว่าเดิม )

 


ปรกติแล้วยิมเทควันโดทุกยิม หรือ ทุกชมรมจะต้องมีอาจารย์ควบคุมดูแลครับ
โดยแต่ละยิมนอกเหนือจากอาจารย์ที่สอนอยู่ประจำแล้วก็จะมีอาจารย์ใหญ่ที่จะมาสอบเลื่อนให้อีกท่านหนึ่ง
ซึ่งอาจารย์ใหญ่ท่านนี้อาจจะเป็นอาจารย์ของอาจารย์ประจำยิมอีกทีครับ
หรือ เป็นอาจารย์ที่มีระดับขั้นดั้ง 4 ขึ้นไป เพื่อที่จะมาสอบเลื่อนระดับสายให้ได้
อย่างในตารางจะเห็นว่า อาจารย์ของพี่ป้อมคืออาจารย์นพ ส่วนอาจารย์ของผมกับโค้ชนั้นคืออาจารย์กบ
ซึ่งพี่ป้อมกับโค้ชก็ได้ตกลงกันว่า จะให้อาจารย์กบมาเป็นผู้สอบเลื่อนสายให้


ในส่วนของเรื่องราวเชิงลึกลงมาอีกนั้น โค้ช เค้าพยายามจะเปิดชมรมเทควันโดที่มหาวิทยาลัย แต่มันก็ไม่ประสบความสำเร็จ ภายหลังผมจึงทราบว่าเพราะอะไร ซึ่งเดี๋ยวผู้อ่านก็จะเข้าใจเหมือนกันถ้าอ่านตั้งแต่ต้น
แต่ก็ยังโชคดีของโค้ช....เนื่องจากมีอาจารย์ท่านหนึ่งที่มีความจริงจังที่จะพัฒนากิจกรรมของทางมหาวิทยาลัยขึ้นมาให้โดดเด่น ท่านจึงบรรจุเทควันโดเข้าเป็นกีฬาของมหาวิทยาลัยด้วย
และท่านก็พยายามช่วยเหลือชมรมเทควันโดให้เดินหน้าตลอดมา ( ในเรื่องผมเคยกล่าวถึงท่านไปแล้ว )
ซึ่งในเวลาต่อมาพอผมเข้ามาเรียนปี 1 ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้และเมื่อผมเข้ามายุ่งกับเทควันโด ผมเลยต้องกลายเป็นลูกมือของคุณโค้ชไปโดยปริยาย เพราะทั้งชมรม ทั้งกีฬา โค้ชเค้าเข้ามาแทรกอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว
ที่สำคัญโค้ชก็เป็นรุ่นพี่ผมด้วย ทำให้ผมไม่อาจเขี่ยเค้าออกจากสายการดำเนินงานได้โดยง่ายอย่างที่หลายๆท่านเข้าใจ
อย่างในปีนี้ที่ผมทำเส้นเขียวๆขึ้นมาเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจว่า ปีนี้ผมไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับทั้งชมรมเทควันโดและผู้จัดการทีมกีฬาเทควันโดที่มหาวิทยาลัย
เพราะที่ยังต้องเกี่ยวอยู่ เพราะการทำงานสุดชุ่ยของคุณโค้ชอย่างที่ผู้อ่าน อ่านผ่านมานั่นล่ะครับ


ซึ่งในการดำเนินเรื่องต่อไปผมจะค่อยๆเปิดให้เห็นว่าทำไม ผมถึงเอาโค้ชมาเป็นตัวหลักใน น้องชาย 2
แล้วโค้ชเกี่ยวอะไรกับว่าน แล้วทำไมว่านถึงได้เป็นแค่น้องชาย ทั้งๆที่เรื่องของว่านน่าจะคืบหน้าไปได้มากกว่าบี
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-05-2011 11:44:00 โดย me_alone »

ออฟไลน์ HydrA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-2
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 11 : 11/05/11 )
«ตอบ #69 เมื่อ12-05-2011 13:00:32 »

พูดถึงโค้ชแล้วเพลีย
ในความคิดนู๋นะพี่เอ
ว่านน่ะเหมือนศรัทธาโค้ชมาก รึว่าบ้าพลังเหมือนๆกัน
มันเหมือนงัยล่ะ ขาอีกข้างอยู่ทางฝั่งโค้ช อีกข้างมาทางฝั่งพี่เอ
นู๋ก็แค่อยากจะบอกว่า สำหรับว่านพี่เอก็ยั้งๆไว้บ้างเน้อ
บีก็คือบี ว่านก็คือว่าน มันคนละคนกัน
เรื่องบีพับเก็บไปเพราะชีวิตพี่เอต้องเดินหน้า
คิดถึงได้แต่อย่าเก็บเอามาทำร้ายตัวเอง
นู๋ก็อยากเห็นพี่เอยิ้มได้ หัวเราะได้
พี่เอค่อยๆก้าวเดินไป นู๋ว่าเดี๋ยวก็มีอะไรๆดีๆวิ่งเข้าใส่พี่มาเองอ่ะแหล่ะ
จริงๆนะ นู๋เอาใจช่วยค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 11 : 11/05/11 )
« ตอบ #69 เมื่อ: 12-05-2011 13:00:32 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 11 : 11/05/11 )
«ตอบ #70 เมื่อ12-05-2011 15:30:06 »

มาทิ้งปริศนาไว้ให้อยากรู้ ว่าว่านเกี่ยวอะไรกับโค้ช และทำไมความสัมพันธ์มันของเอกับว่าถึงเป็นได้แค่พี่น้อง
แต่การกระทำของโค้ชนี่น่าเกลียดมากตั้งแต่ไม่รับผิดชองเรื่องงานแล้วยังไม่เคารพสถานที่สอนของตัวเองอีก สงส่ารน้องๆก็เป็นส่วนหนึ่ง เพราะว่าการอยู่แบบนี้น้องๆเองก็อาจจะไม่ได้พัฒนาฝีมืออย่างเต็มที่ การฝึกซ้อมแบบบ้าพลังบางครั้งมันก็ไม่ใช่...หุหุ (ผ่านมากับตัว) รออ่านต่อนะเอ  :L2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-05-2011 15:34:06 โดย bbyuqin »

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
หายไปหลายวันเลยนะครับ กลับมาทีเต็มๆสะใจมาก
เมื่อไหร่จะไล่โค๊ชออกอ่า เซงจิต

 :เฮ้อ: ~ ไล่ไม่ได้ครับ มันเป็นเหตุผลทางการเมือง




พูดถึงโค้ชแล้วเพลีย
ในความคิดนู๋นะพี่เอ
ว่านน่ะเหมือนศรัทธาโค้ชมาก รึว่าบ้าพลังเหมือนๆกัน
มันเหมือนงัยล่ะ ขาอีกข้างอยู่ทางฝั่งโค้ช อีกข้างมาทางฝั่งพี่เอ
นู๋ก็แค่อยากจะบอกว่า สำหรับว่านพี่เอก็ยั้งๆไว้บ้างเน้อ
บีก็คือบี ว่านก็คือว่าน มันคนละคนกัน
เรื่องบีพับเก็บไปเพราะชีวิตพี่เอต้องเดินหน้า
คิดถึงได้แต่อย่าเก็บเอามาทำร้ายตัวเอง
นู๋ก็อยากเห็นพี่เอยิ้มได้ หัวเราะได้
พี่เอค่อยๆก้าวเดินไป นู๋ว่าเดี๋ยวก็มีอะไรๆดีๆวิ่งเข้าใส่พี่มาเองอ่ะแหล่ะ
จริงๆนะ นู๋เอาใจช่วยค่ะ

ตอนนี้น้องเดามาถูกทางแล้วครับ ที่ว่าข้างหนึ่งว่านอยู่กับพี่ อีกข้างอยู่กับโค้ช เพราะพี่กับโค้ชให้น้องในสิ่งที่ต่างกัน
แต่ลองอ่านต่อไปเรื่อยๆนะครับว่าท้ายที่สุดแล้ว ว่านจะเลือกที่จะอยู่กับใคร

แล้วก็เมื่อบ่าย ( วันที่ตอบ re นี้ ) คุยกับเพื่อนว่านคนหนึ่ง
เพื่อนว่านบอกว่า ว่านดูเหงาๆ แล้วก็คุยกับเค้ามากขึ้น
ซึ่งจริงๆแล้วเพื่อนว่านคนนี้....มันก็มีอะไรที่น่าสนใจเหมือนกัน เดี๋ยวบทของน้องคนนี้ก็จะโผล่มาหลังจากนี้ไม่นานหรอกครับ

 :กอด1: ~ ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะครับ




มาทิ้งปริศนาไว้ให้อยากรู้ ว่าว่านเกี่ยวอะไรกับโค้ช และทำไมความสัมพันธ์มันของเอกับว่าถึงเป็นได้แค่พี่น้อง
แต่การกระทำของโค้ชนี่น่าเกลียดมากตั้งแต่ไม่รับผิดชองเรื่องงานแล้วยังไม่เคารพสถานที่สอนของตัวเองอีก สงส่ารน้องๆก็เป็นส่วนหนึ่ง เพราะว่าการอยู่แบบนี้น้องๆเองก็อาจจะไม่ได้พัฒนาฝีมืออย่างเต็มที่ การฝึกซ้อมแบบบ้าพลังบางครั้งมันก็ไม่ใช่...หุหุ (ผ่านมากับตัว) รออ่านต่อนะเอ  :L2:

 :กอด1:
ดีใจนะครับที่มีคนเข้าใจว่าการไม่ทำความเคารพยิม และ ผู้สอน ทั้งตอนเริ่ม และ ตอนเลิก มันดูแย่แค่ไหน
กำลังคิดอยู่ว่าจะเขียนตรงนี้ลงไปด้่วย เพราะผู้อ่านหลายท่านที่ไม่เคยเรียนเทควันโดมาก่อน
อาจไม่เข้าใจถึงความสำคัญของการเคารพยิม และ ผู้สอน ทั้งก่อนซ้อม และ หลังเลิกซ้อม
แล้วก็ดีใจที่มีคนเข้าใจแล้วก็รู้สึกสงสารน้องเหมือนที่ผมรู้สึก

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
ช่วงที่ 12





   และแล้ววันเสาร์อาทิตย์ก็ผ่านไปเร็วอย่างกับเรื่องโกหก ทำไมวันพักผ่อนมันถึงได้ผ่านไปรวดเร็วอะไรอย่างนี้ หลังจากทานข้าวเที่ยง...ไม่สิ ก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นของป้าร้านหกต่างหาก ร้านของแกไม่ค่อยมีใครซื้อมาทานเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าเพราะรสชาติไม่อร่อยรึป่าว แต่ผมว่าแกทำอร่อยดีนะ ขนาดเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าอร่อยที่ผมกับว่านรวมถึงคุณพ่อน้องบีไปทานบ่อยๆ ก็ยังมาทานร้านนี้เลย โดยระหว่างที่ผมทานก๋วยเตี๋ยวอยู่นั้นผมก็ดูเอกสารต่างๆ ที่จะต้องใช้ประชุมเที่ยงนี้ไปด้วย เพราะน้องรองประธานชมรมเพิ่งจะเอามาให้ผมก่อนที่จะมาทานก๋วยเตี๋ยวได้แว๊บเดียว


   แล้วไม่นานเท่าไหร่ก็ได้เวลาประชุมครับ ผมไปลงชื่อเข้าประชุมตามเวลาที่พี่ต้อมแจ้งไว้ รวมถึงอาจารย์หลายๆท่านก็ไปกันตรงเวลา บางท่านถึงกับมาก่อนหน้าก็มี แต่ก็ยังมีอยู่บ้างที่มาสายทั้งที่มีเหตุจำเป็นและจากความรับผิดชอบที่ตื้นเขินของคนบางคน พอเซ็นเอกสารเสร็จผมก็เข้าที่ประชุมครับ โดยการประชุมนั่นล่าช้ากว่าที่พี่ต้อมบอกไว้เกือบสามสิบนาที เนื่องจากมันเป็นอุบายเล็กๆ ที่ตั้งเผื่อเลทเวลาไว้แล้ว ทว่า......หนึ่งในหลายๆ คนที่มาช้านั้นก็รวมถึงโค้ชด้วย.....


   เวลาการประชุมดำเนินไปกว่าห้าสิบนาทีแล้วโค้ชก็ยังไม่มา จนกระทั่งถึงเวลาให้เขียนสิ่งของที่จำเป็นต้องใช้รวมถึงสิ่งของต่างๆ ที่ขาด พี่ต้อมก็เอาเอกสารมาให้ผม ผมก็เริ่มเขียนว่าสิ่งของจำเป็นอะไรบ้างที่ยังขาดอยู่ แล้วระหว่างที่ผมเขียนอยู่นั้นโค้ชก็มาครับ ทันทีที่โค้ชเปิดประตูเข้ามา ที่ประชุมก็หันไปมองกันเป็นตาเดียว ทันทีที่โค้ชเห็นทุกคนมอง โค้ชก็หันมายิ้มๆให้ทุกคน แล้วรีบปรี่เดินมาหาผมอย่างไว วันนี้โค้ชแต่งตัวมาดีครับ กางเกงยีนส์ขายาว เสื้อในคอกลมสีน้ำเงินเข้ม กับ กระเป๋าถือหนึ่งใบ ทันทีที่โค้ชมานั่งข้างๆผมโค้ชก็ถามแบบดูมีความรับผิดชอบมากๆว่า

“ไหนเค้าประชุมอะไรกันบ้าง แล้วนี่เขียนอะไรอยู่”
“เขียนอุปกรณ์ที่ต้องจัดหาเพิ่มครับ” ผมตอบไปแบบไม่หันมามองหน้าโค้ชด้วยซ้ำ
“ไหนๆดูหน่อย” พูดจบโค้ชก็ดึงกระดาษแล้วก็ปากกาออกไปจากมือผมทันที ไม่ซิต้องใช้คำว่ากระชากจะเห็นภาพมากกว่า
“โหย...สั่งอะไรแต่ยี่ห้อถูกๆ มันต้องของแพงๆเลยดิ” โค้ชพูดขึ้น

   อาจารย์ที่นั่งอยู่ข้างๆได้ยินเข้าถึงกับหันมามองโค้ชทันที เพราะการที่โค้ชมาช้านั้นโค้ชเลยไม่ทราบว่างบประมาณจัดซื้ออุปกรณ์นั้นมีอยู่อย่างจำกัดต้องหารเฉลี่ยกัน ทำให้ต้องสั่งแค่อุปกรณ์ที่พอใช้ได้ เพื่อให้กีฬาชนิดอื่นๆได้ซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็นเพิ่มด้วย อะไรที่ไม่จำเป็นรวมถึงแพงมากไปจึงต้องตัดออก และ ค่อยเพิ่มภายหลังหากงบประมาณยังเหลือ และ นี่คือเหตุผลของการประชุมวันนี้ แล้ว....ยังไม่ทันที่โค้ชจะเขียนอะไรลงไปด้วยซ้ำ โค้ชคงเห็นถาดใส่ของว่างรวมถึงแก้วกาแฟและน้ำหวานของอาจารย์ท่านอื่นวางอยู่โค้ชเลยก็หันมาถามผมว่า

“แล้วของว่างพี่ล่ะ”
“ไม่รู้ครับ”
“แล้วของเราล่ะได้มายังไง”
“พี่เค้ายกมาให้ตั้งแต่ก่อนเริ่มประชุม”

“.....” โค้ชไม่พูดอะไร แต่หันมามองของว่างของผมที่ยังไม่ทันถูกแตะต้องเลยตั้งแต่ที่พี่เค้าเอามาวางให้
“.....”
“เอไม่ทานเหรอ”
โค้ชถามขึ้น
“.....” ยังไม่ทันที่ผมจะตอบอะไรออกไป
“งั้นพี่ขอนะ พี่หิวข้าวมากเลย ข้าวเช้ายังไม่ได้กินเลยเนี่ยะ บลาๆๆๆ” ระหว่างที่พูดโค้ชก็ดึงถาดของว่างรวมถึงเครื่องดื่มผมไปทานเรียบร้อย โดยที่โค้ชไม่ทราบเลยว่าสิ่งที่โค้ชทำอยู่มีสายตาของอาจารย์ท่านอื่นกำลังจับจ้องอยู่

   จนเมื่อกระประชุมจบลงโค้ชกับผมก็เดินออกมานอกห้อง ไม่ซิต้องพูดว่าโค้ชเดินตามผมออกมานอกห้องดีกว่า พอออกมาพ้นประตูโค้ชก็พูดว่า

“เอ วันหน้าเอากระเป๋าถือดีกว่าไหม กระเป๋าสะพายมันดูไม่เข้ากับชุดเลย”
“ครับ”
ผมหันไปตอบตามมารยาท
“แล้วใส่สูทแบบนี้ไม่ร้อนเหรอ”
“ไม่ครับ”
“โอ๊ยย....จะเรียบร้อยตลอดเวลาไปไหน ประชุมเสร็จแล้ว ถอดออกเหอะ จริงๆไม่น่าใส่มาเลยด้วยซ้ำ ร้อนจะตาย”
โค้ชพูดพลางหัวเราะ

   ผมไมได้ตอบอะไรกลับไป แต่ผมคงทำตามที่โค้ชแนะนำไม่ได้เพราะทุกครั้งที่เข้าประชุมกับผู้บริหารของทางมหาวิทยาลัยผมจำเป็นต้องแต่งตัวให้ดูดีเอาไว้ก่อน ผมยังไม่เคยลืมคำพูดของอาจารย์ท่านหนึ่งที่พูดว่า “นี่มันไม่ใช่ที่ประชุมที่จะให้มีนักศึกษาเข้ามาร่วมด้วย” โค้ชเค้าไม่เคยโดนซินะ...ไม่ซิเค้าคงไม่ใส่ใจอะไรด้วยซ้ำ....รวมถึงโค้ชเค้าก็ยังไม่รู้ด้วยมั้งว่ามีอาจารย์มากกว่าครึ่งในที่ประชุมไม่ต้องการให้มีเทควันโดบรรจุอยู่ในกีฬาของมหาวิทยาลัย ไม่ใช่แค่ไม่อยากให้มีรวมถึงเคยมีความพยายามที่จะถอดถอนออกด้วยซ้ำ....แต่เพราะอาจารย์ท่านนั้นที่ฝากฝังชมรมนี้ไว้กับนักศึกษาตัวเล็กๆอย่างผม โดยวันสุดท้ายก่อนที่ท่านจะเกษียณอายุราชการ ท่านบอกผมว่า “อาจารย์คงต้องฝากให้เธอดูแลต่อแล้ว” ผมเลยจำเป็นต้องสู้กับอาจารย์พวกนั้นด้วยผลงานรวมถึงศักยภาพที่จะปกครองชมรมรวมถึงควบคุมนักกีฬานักกีฬาที่อาจารย์พวกนั้นไม่มี หรือ ทำไม่ได้อย่างผมด้วยซ้ำ
   
“ไปไหนต่อ” โค้ชถามผม
“เรียนครับ มีเรียนบ่าย”
“เหรอ งั้นเย็นนี้เจอกัน”


   โค้ชพูดจบก็ขับรถออกไป แล้วบ่ายวันนั้นหลังเรียนเสร็จผมก็ได้รับการติดต่อจากพี่ต้อมเรื่องราคาของอุปกรณ์ที่สูงเกินไป

“เอ....ทำไมอุปกรณ์มันแพงจังล่ะ”
“โค้ชเค้าเลือกครับ”
“ลดสเปคลงมาอีกได้ไหม”
“อืมม....เดี๋ยวผมถามโค้ชให้นะครับ”
“รบกวนด้วยนะเอ เดี๋ยวงบไม่พอ”


   ตกเย็นวันนั้นหลังจากเรียนเสร็จแล้วผมก็ไปเปลี่ยนชุดที่บ้านก่อนจะกลับไปที่ยิม ซึ่งพอไปถึงยิมผมก็เจอต้นกล้า ว่าน มิ้น กับน้องคนอื่นๆอยู่กันหลายคน ผมแปลกใจเล็กน้อยที่วันนี้น้องๆมายิมกันเร็วจัง หลังจากสอบถามก็ได้ความว่าวันนี้ตอนบ่ายอาจารย์ติดประชุมยกโรงเรียน พอวางกระเป๋าเสร็จผมก็พาว่านไป 7 – 11 รอบนี้มีต้นกล้าวิ่งตามไปติดๆหลังจากซื้อน้ำเสร็จแล้วผมก็พาว่านไปนั่งเล่นข้างๆยิมก่อนจะถามเรื่อยเปื่อยไปเรื่อย

“ว่านอาทิตย์หน้าไปดูหนังกันอีกไหม” ผมถามว่าน
“ไป” ว่านตอบกลับมาแล้วยิ้มๆก่อนจะยื่นแฮมชีสป้อนผม
“ไปด้วยซิ” ต้นกล้าพูดขึ้น
“ยุ่ง” ว่านหันไปตอบด้วยน้ำเสียงแบบดุๆใส่ต้นกล้า
“จะว่าไปเรื่อง Resident นี่สนุกดีเน๊าะภาคนี้ โดยเฉพาะนายแบบนาฬิกา ฮาได้เรื่องเลยทีเดียว”
“ใช่ครับ”
ว่านตอบกลับมา
“อ่าว พี่ว่านไปดูตอนไหน” ต้นกล้าพูดขึ้น
“เมื่อวันเสาร์ ไปกับพี่เอ” ว่านตอบกลับไป
“อ่าว.... เมื่อตอนวันพฤหัสพี่ก็ไปดูแล้วนี่นา พี่เอไปดูอีกรอบเหรอ” ต้นกล้าทักขึ้น....ใช่ครับตามนั้น...ต้นกล้าเองก็เจอผมที่โรงหนังเพราะผมกับต้นกล้าดูรอบเดียวกัน
“อืม...ก็สนุกดี เลยไปดูอีกรอบ”
“....”
ว่านไม่ตอบอะไร แต่เปลี่ยนจากนั่งเฉยๆเป็นเอานิ้วมาจิ้มๆผมแทน แล้วก็กัดแขนผม ตามด้วยการสะบัดๆไปมา
“อิอิอิ” ต้นกล้าหัวเราะชอบใจ

   หลังจากที่ผมนั่งเล่นไม่นานก็ถึงเวลาซ้อมครับ แล้วก็เหมือนทุกวันที่ว่านเป็นตัวชูโรงไปวอร์มก่อนชาวบ้านเพื่อให้เค้ารู้กันว่า “ได้เวลาซ้อมแล้วนะ” ส่วนผมก็เดินๆดูน้องไปเรื่อย จนเวลาประมาณห้าโมงเย็นโค้ชก็มาครับ มาถึงโค้ชก็ไม่ได้พูดอะไรกับเด็กๆ วางตัวได้ห่างเหินมาก ก่อนที่จะเดินไปนั่งที่โต๊ะ แล้วก็กวักมือเรียกผมไปนั่งด้วย

“เอ มานี่ก่อนพี่มีเรื่องจะคุยด้วย” โค้ชพูด
คุยอีกละ... ผมคิดในใจก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะฝั่งตรงข้าม
“เอ...พี่ลืมสั่งอุปกรณ์คาราเต้ล่ะ” โค้ชพูด
“สรุปพี่จะส่งลงแข่งจริงๆเหรอ” ผมถามโค้ชกลับ
“อ่าวก็จริงซิ”
“ใครลงบ้างล่ะพี่”
“ก็พวก นัท แนน จ๋าย ไม้ แล้วก็ ตั้ม”
“เรื่องอุปกรณ์เดี๋ยวโทรไปถามพวกคาราเต้ที่ชัยภูมิไม่ก็พวกที่สกลฯก็ได้มั้งพี่”
“ฮ่าๆๆๆ”
ทันทีที่ผมพูดจบโค้ชก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
“โอ๊ย....ไปถามทำไมพวกนั้น พี่ไปถึงสมาคมเค้ามาแล้ว” โค้ชตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเหมือนตอนที่ผมพูดย้ำเรื่องประชุมไม่มีผิด
“เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ไปสั่งที่กอง เอไปด้วยกันนะ”
“พรุ่งนี้ผมมีเรียนทั้งวันครับ”
“น่าห้านาทีสิบนาทีก็พอ”
โค้ชคะยั้นคะยอ
“รอดูก่อนถ้าว่างผมจะไปด้วย”

   พอคุยกับโค้ชเสร็จผมก็โทรหาน้องๆที่โค้ชอ้างถึง เพราะส่วนของคาราเต้ผมไม่ได้รับผิดชอบเลย แล้วผมก็ไม่เคยได้ยินโค้ชพูดถึงเรื่องการซ้อมคาราเต้เลยสักครั้ง ซึ่งมันผิดวิสัยของโค้ชมากๆ ที่สำคัญเรื่องเอกสารของคาราเต้ไม่ได้ผ่านผมแฮะ แล้วใครรับผิดชอบ.....ไม่ใช่ว่าอยากยุ่งนะครับ แต่การพูดคุยครั้งนี้มันตะหงิดๆว่าเดี๋ยวผมคงต้องมีส่วนร่วมแบบกึ่งๆถูกบังคับด้วยแน่ หลังจากที่ผมโทรถามน้องรายตัวผมก็ได้คำตอบที่ตรงกันว่า “ไม่เคยมีการฝึกซ้อมราคาเต้เลย” ส่วนคนที่รับผิดชอบนั้นเป็นเพื่อนของโค้ช แล้วเรื่องหลักฐานก็เพิ่งให้น้องรองประธานวิ่งให้ ถึงตรงนี้ผมถือว่าผมรับรู้แล้ว แต่ผมไม่ได้บอกโค้ช เพราะผมอยากรู้ว่า เพื่อนของโค้ชกับโค้ช จะไปได้สักกี่น้ำถ้าผมไม่สนใจ ที่สำคัญเพื่อนโค้ชคนนี้มีประวัติทิ้งงานกลางอากาศมาแล้วด้วย เรามาคอยดูกันว่ารอบนี้เค้าจะทิ้งงานอีกไหม
   กลับมาที่ยิมวันนี้ก็เป็นอีกวันที่โค้ชให้เลิกโดยไม่มีการเคารพอะไรเลยสักอย่าง พอเลิกเสร็จโค้ชก็ดิ่งกลับบ้านทันที เหลือว่านคนเดียวที่มาตะกายๆผมอยู่พร้อมทั้งพยายามอ้อนให้ผมเล่าเรื่องต่างๆให้ฟังเหมือนบีไม่มีผิด แล้ววันนี้นอกจากว่านแล้วก็มีต้นกล้าอีกคนที่ขอติดรถกลับด้วย ผม ว่าน ต้นกล้า เลยนั่งคุยกันอยู่สามคนจนเด็กๆคนอื่นกลับบ้านหมด

“พี่เอ”
“ครับ”
ผมตอบว่านกลับไป
“ตัดผม”
“ปะ”


   หลังจากที่ช่วยกันปิดยิมเสร็จแล้วผมก็เดินจูงมือว่านไปที่ร้านตัดผมใกล้ๆ พอมาถึงปรากฏว่ามีคนนั่งรออยู่เพียบเหมือนตอนที่พาต้นกล้ามาเลย ผมเลยพาต้นกล้าไปซื้อขนมที่ 7 – 11 ก่อนจะกลับมานั่งรอที่หน้าร้าน ระหว่างนั้นผมก็คุยเล่นกับต้นกล้าไปเรื่อย....จนถึงคำถามจากต้นกล้าที่ว่า...

“ทำไมพี่ถึงรอล่ะ”
“รออะไร”
“รอพี่ว่าน”
“หืม....ก็รอ ทำไมเหรอ”
“กับผมพี่ไม่เห็นรอ”
“.....”


   ผมอึ้งเล็กน้อยกับคำถามที่ดูจะเรียบง่ายแต่กลับทำให้ผมถึงกับตั้งคำถาม ถามตัวผมเองขึ้นมาว่า “นั่นซิ กับว่านทำไมผมถึงเลือกที่จะรอโดยไม่ลังเลเหมือนตอนต้นกล้า”  ก่อนที่จะมีดราม่าผมเลยชวนต้นกล้าคุยเรื่องอื่น

“พี่เอรู้ยัง”
“รู้อะไร”
“พี่ว่านบอกว่าจะพาเพื่อนมาเรียนเพิ่มล่ะ”
“เหรอ ก็ดีแล้วนี่”
“งั้นเดี๋ยวผมพาเพื่อนมาเรียนด้วยดีกว่า ช่วงนี้บีกับอ้นไม่อยู่ ผมเหงา”
“ก็พามาซิ แล้ว......ที่โรงเรียนเจอบีกับอ้นบ้างไหม”
“เจอ”
“อ้นเป็นไงบ้าง”
“อ้นบ้าเกม วันๆพูดถึงแต่เรื่องเกม”
“แล้วบีล่ะ”
“ไม่ค่อยเจอผมไม่ได้เรียนห้องเดียวกันกับบีแล้ว แต่เห็นไปอยู่กับแก๊งเค้าแถวห้องน้ำนั้นแหละ”
“ไม่ลองชวนอ้นกับบีมาเรียนคืนล่ะ”
“ชวนแล้ว พวกมันก็ว่าจะมาๆ แล้วก็ไม่เห็นมา พี่เอไม่โทรไปชวนบีดูล่ะ”
“ลืมพี่ไปแล้วมั้ง”
“ไม่หรอกพี่....พี่พูดเหมือนน้อยใจเลย อิอิอิ”
ต้นกล้าหัวเราะ
“ทำไมถึงคิดว่าไม่ล่ะ”
“ก็บียังพูดถึงพี่กับเพื่อนเค้าอยู่บ่อยๆเลยนี่นา”
“เหรอ.....”


   ผู้อ่านเชื่อไหมแค่ประโยคสนทนาธรรมดาๆกับเด็ก 13 ขวบ ในตอนนั้น....มันทำให้ผมยิ้มไม่หยุด แม้กระทั่งตอนไปส่งน้อง จนว่านเองก็ถามว่าผมยิ้มอะไร แต่ผมก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ตกดึกคืนนั้นผมนอนยิ้มคนเดียวจนหลับไป.....

To Be Con

ปล. พี่เอไม่อยู่ซักพักนึงนะครับ ไปธุระกับทางบ้าน จากต้นหอม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-05-2011 07:37:01 โดย me_alone »

ออฟไลน์ w[o]w

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
คิดถึงน้องบี

naoki24

  • บุคคลทั่วไป
โทรไปเหอะ ทั้งบีทั้งอ้น ไม่ต้องชวนมาเล่นก็ได้ แค่ชวนไปกินข้าวหรือเที่ยวด้วยกันก็ยังดี :laugh: :m20:

น้องๆยังมีคุณเออยู่ในใจเสมอนา :man1: คุณเอละยังมีน้องๆอยู่ในใจหรือป่าว :haun4:

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
โค้ชคนนี้ไม่มีความเป็นมืออาชีพมากๆ ท่าทางที่อยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ไม่ได้มีสำรวมเลย เหอเหอ...จะรอดมั้ยเนี่ย แล้วยังมีคาราเต้นั่นอีก...อืม..จะมากไปไหนฟระ
ปล.อ่านแล้วก็อึ้งกับคำถามต้นกล้านะ แต่ว่าน้องคงสงสังแบบเด็กมากกว่าเลยถามออกไป
ปลล.น้องบียังพูดถึงเออยู่เลย อิอิ ลองโทรๆ
ปลล.อีกที รับทราบเรื่องที่แจ้งค่าาา

ออฟไลน์ z-Time

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
น้องบีแอบโฉบมานิดนึง  :กอด1

ดูเหมือนน้องว่านจะเห็นเอ เป็นแค่พี่ชายรึป่าว  :z10:

naoki24

  • บุคคลทั่วไป
สังเกตุคำพูดของโค้ช ว่า "ว่านชอบพี่เอหรือป่าว? เห็นชอบไปกอดพี่เอง" :กอด1:
กำลังคิดว่า โค้ชจะใช้ว่านในการหลอกล่อคุณเอแน่เลย :a5:

รีบโทรไปหาน้องบีกับน้องอ้นซะนะ  :angry2:โทรชวนไปเที่ยวเล่นก็ได้ไม่ต้องคุยเรื่องเทควันโด้หรอก

และก็อยากให้อ้นกับบีกลับมาละก็ ขอแนะนำให้คุณเอเปิดคอร์สเรียนฟรีให้สองคนนั้นในวันหยุดที่ห้องคุณเอเลยจะเหมาะมาก อุอุ :haun4:

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 12 : 14/05/11 )
«ตอบ #78 เมื่อ22-05-2011 07:54:46 »

คิดถึงน้องบี

 :กอด1: ~ คิดถึงน้องเหมือนกันครับ



โทรไปเหอะ ทั้งบีทั้งอ้น ไม่ต้องชวนมาเล่นก็ได้ แค่ชวนไปกินข้าวหรือเที่ยวด้วยกันก็ยังดี :laugh: :m20:

น้องๆยังมีคุณเออยู่ในใจเสมอนา :man1: คุณเอละยังมีน้องๆอยู่ในใจหรือป่าว :haun4:

 :เฮ้อ: ~ เรื่องที่จะชวนไปทานข้าว หรือ เที่ยว คงยากอะครับ เพราะเรื่องที่ว่าทางบ้านเค้าจัดให้ได้



โค้ชคนนี้ไม่มีความเป็นมืออาชีพมากๆ ท่าทางที่อยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ไม่ได้มีสำรวมเลย เหอเหอ...จะรอดมั้ยเนี่ย แล้วยังมีคาราเต้นั่นอีก...อืม..จะมากไปไหนฟระ
ปล.อ่านแล้วก็อึ้งกับคำถามต้นกล้านะ แต่ว่าน้องคงสงสังแบบเด็กมากกว่าเลยถามออกไป
ปลล.น้องบียังพูดถึงเออยู่เลย อิอิ ลองโทรๆ
ปลล.อีกที รับทราบเรื่องที่แจ้งค่าาา

 :กอด1:



น้องบีแอบโฉบมานิดนึง  :กอด1
ดูเหมือนน้องว่านจะเห็นเอ เป็นแค่พี่ชายรึป่าว  :z10:

 :เฮ้อ: ~ ตอนแรกก็คิดแบบนั้นอะครับ แต่ที่ว่านทำ....เป็นพี่น้องก็คงไม่ทำแบบนี้....มันให้ความรู้สึก....มากกว่านั้น



สังเกตุคำพูดของโค้ช ว่า "ว่านชอบพี่เอหรือป่าว? เห็นชอบไปกอดพี่เอง" :กอด1:
กำลังคิดว่า โค้ชจะใช้ว่านในการหลอกล่อคุณเอแน่เลย :a5:

รีบโทรไปหาน้องบีกับน้องอ้นซะนะ  :angry2:โทรชวนไปเที่ยวเล่นก็ได้ไม่ต้องคุยเรื่องเทควันโด้หรอก

และก็อยากให้อ้นกับบีกลับมาละก็ ขอแนะนำให้คุณเอเปิดคอร์สเรียนฟรีให้สองคนนั้นในวันหยุดที่ห้องคุณเอเลยจะเหมาะมาก อุอุ :haun4:

 :กอด1: ~ เปิดสอนเองมันไม่ง่ายอะครับ เหตุผลทางการเมือง ^^

yunjaejoong

  • บุคคลทั่วไป
Re: ...รักล้นใจ...(อัพครั้งที่ 16)
«ตอบ #79 เมื่อ22-05-2011 08:43:24 »

แล้วจะโทรหาน้องบีเปล่านี้คุณเอ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ...รักล้นใจ...(อัพครั้งที่ 16)
« ตอบ #79 เมื่อ: 22-05-2011 08:43:24 »





ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 12 : 14/05/11 )
«ตอบ #80 เมื่อ22-05-2011 09:23:52 »

เอโทรหาน้องบีเลย
น้องบียังไม่ลืมเอดีใจจัง
+1 นะคะ

ออฟไลน์ HydrA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-2
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 12 : 14/05/11 )
«ตอบ #81 เมื่อ22-05-2011 10:43:30 »

ตอนต้นกล้าพูดว่าทำไมตอนเค้าพี่เอไม่รอเค้าบ้างอ่ะ นู๋ล่ะสงสารเค้าเลย
พี่เอค่ะเอ็นดูว่านก็เผื่อแผ่มาให้ต้นกล้าบ้างเนอะ
ค่อยๆดูกันไปเนอะพี่เนอะ
ในความคิดนู๋นะ ตอนนี้น้องๆยังเด็กๆกันอยู่
ความคิดยังไม่นิ่งเท่าไหร่นัก
มีอะไรแปรผันได้ตลอดเวลา
คงต้องดูๆกันไปอ่ะเนอะ

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 12 : 14/05/11 )
«ตอบ #82 เมื่อ22-05-2011 22:25:18 »

ช่วงที่ 13



        “วันนี้เราจะมาพาพูดถึงเรื่อง เทคนิคการโจมตีแบบ Phishing กันนะคะ” วันนี้อาจารย์วิภาบรรยายเกี่ยวกับเรื่อง “Phishing” ครับ เรื่องนี้มันไม่มีอะไรยุ่งยากมากมายเท่าไหร่ ที่สำคัญผมขอ PDF จากอาจารย์ไปนั่งอ่านล่วงหน้าแล้ว ทำให้คาบนี้ผมนั่งฟังแบบสบายๆเหมือนเป็นการทบทวนแล้วก็ฟังคำอธิบายจากอาจารย์เพิ่มเติม วันนี้เหมือนมันจะไม่มีเรื่องอะไรมากวนจิตใจผมเท่าไหร่ ที่สำคัญเรื่องที่ต้นกล้าพูดยังทำให้ผมนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มาตั้งแต่เมื่อวาน

“ตรืดดดดด ตรืดดดดดด”
   
        ในระหว่างที่ผมฟังบรรยายเสียงโทรศัพท์ที่ถูกตั้งระบบสั่นไว้ก็สั่นขึ้นมา ผมก้มลงหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ามาดูว่าใครกันที่โทรมาเวลาแบบนี้ คงไม่ใช่เพื่อนในห้องที่ไม่ได้เข้าแล้วโทรมาให้ผมลาให้หรอกนะ

“โค้ช Calling”

        ทันทีที่ผมเห็นชื่อที่บันทึกไว้ผมก็เหลือบมองนาฬิกาที่อยู่ตรงมุมบนของโทรศัพท์ “09:45” เดาไม่ยากครับว่าเรื่องอะไรที่ทำให้เค้าโทรเข้ามา ตอนแรกผมก็ลังเลว่าจะรับดีไหม แต่นี่มันเวลาเรียน แถมธุระของเค้าก็สามารทำทำเองได้โดยไม่จำเป็นต้องเอาผมไปด้วย ผมเลยกดปิดสั่นไป หลังจากที่โทรมาครั้งแรก โค้ชโทรมาซ้ำอีกหลายครั้ง แต่ผมก็ทำเหมือนเดิมทุกครั้ง
        แล้วเวลาก็ผ่านไปเร็วเหมือนโกหกวิชาสุดท้ายของวันจบลงด้วยการที่อาจารย์ท้องเสียกระทันหันจากมื้อเที่ยงทำให้การเรียนต้องหยุดลงตั้งแต่บ่ายสองโมงกว่าๆผมเลยนั่งคุยกับเพื่อนเกี่ยวกับงานกลุ่มที่ยังค้างกันอยู่จนถึงประมาณบ่ายสามเศษๆ ผมกับเพื่อนก็แยกย้ายกันกลับ หลังจากที่เดินแยกย้ายกับเพื่อนในห้อง ผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็กข้อความเพราะรู้สึกว่าตอนที่นั่งเรียนอยู่จะมีข้อความเข้าหลายข้อความ

“สมัครด่วน บลาๆๆ ได้รับส่วนลดทันที 5%”
“แมทนี้ใครจะไป ใครจะอยู่ สมัครเลย เพียง 50 บาทต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน”
“ลุ้น UPhone4 ฟรี เพียงสมัครรับข้อความข่าวกับเรา”
“เป็นเจ้าของ UPAD ได้ง่ายๆ เพียงส่งข้อความมาที่ บลาๆ จับรางวัลทุกวัน”
“แจ้งผลทุกแมท ทุกคู่ ตลอด 24 ชม เพียง 40 บาทต่อเดือน สมัครบลาๆๆ”

        เคยได้ไหมครับข้อความแบบนี้ เซ็งห่านมากๆที่ต้องมานั่งลบอยู่เรื่อยๆ แต่ว่าระหว่างที่ผมนั่งลบข้อความอยู่นั้น ก็เจอข้อความของว่านส่งมา

“ว่างแล้วโทรกลับด้วยนะครับ”

        อืม....ส่งมาตั้งแต่ 11.17 แน่ะ มีอะไรหรือเปล่า ว่าแล้วผมก็โทรกลับไป

“ตรู๊ดดดดดด......... ตรู๊ดดดดดดดดดดด......แกร๊ก....ครับ”
“ว่า”
“พี่ๆ มารับผมไปเอาชุดที่บ้านหน่อยซิครับ ผมลืมเอามา”
“อืมมม ได้ซิ เดี๋ยวไป”
“ผมรอที่เดิมนะ”
“ไปรอเลยแล้วกันไม่เกิน 5 นาทีถึง”
“ครับ.....พี่ๆๆ” เหมือนจะได้วางสายแล้ว แต่จู่ๆว่านก็เรียกผมด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“ครับ”
“วันนี้เพื่อนผมมาเรียนเพิ่ม 5 คนนะ” ว่านพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นปนดีใจ
“เหรอ ก็ดีซิจะได้ไม่เหงา”
“ใช่ครับ”

        ว่าแล้วผมก็ไปหาว่านที่โรงเรียนทันที เพื่อนว่านเหรอ...อืมม....ช่วงนี้เด็กที่ยิมลดลงไปหลายคน มีเข้ามาเพิ่มก็ดีเหมือนกัน ไม่นานนักอย่างที่สัญญากับว่านไปผมก็มาถึงที่โรงเรียนว่าน ทันทีที่มาถึงผมก็พบว่าว่านเองมาคอย ณ จุดที่นัดกันไว้แล้วเหมือนกัน เมื่อว่านเห็นผมว่านก็ยิ้มให้แล้วก็รีบเดินมาหาอย่างรวดเร็ว

“สวัสดีครับ” ว่านยกมือไหว้ผม
“ดีๆ ไหนล่ะเพื่อน”
“เพื่อนไปรอที่ยิมแล้วครับ”
“เหรอ แล้ววันนี้ทำไมเลิกเร็วจัง”
“อาจารย์ติดประชุมครับ”
“อีกแล้ว”
“ครับ” ว่านตอบกลับมาพลางวางกระเป๋าที่หน้ารถ ก่อนจะเดินมาจ้องหน้าผม
“พี่เอ”
“ครับ” ผมหันไปมองว่านตามเสียงเรียก
“หันมานี่หน่อย” ว่านพูดจบก็จับไหล่ขวาผมแล้วดึงให้ผมหันหน้าตรงเข้าหาว่าน
“เนคไทพี่ไม่ตรง”พูดจบว่านก็เอามือมาดึงๆจับๆขยับไปมา
“เบี้ยวมากเลยเหรอ” ผมถามว่าน
“ไม่หรอกครับ แต่จัดให้ตรงดูดีกว่า”
“....”
“เสร็จแล้ว”
“อืม....ขอบใจนะ”
   
        แล้วผมก็พาว่านไปเอาชุดที่บ้านของว่าน ระหว่างทางว่านพูดถึงเพื่อนห้าคนที่มาเรียนใหม่ตลอดตั้งแต่ไปที่บ้านว่านจนวนกลับมาที่ยิมเหมือนว่านจะตื่นเต้นมากๆที่มีเพื่อนร่วมห้องมาเรียนด้วยทว่าเมื่อมาถึงยิมปรากฏว่าไม่เจอใครเลย

“ไม่เห็นมีใครเลย” ผมพูดขึ้น
“ก็พวกนั้นบอกว่าจะมารอหน้ายิมนี่นา” ว่านพูดด้วยน้ำเสียงกังวลเล็กน้อย
“โทรถามดิ”
“จริงด้วย”

        แล้วว่านก็โทรหาเพื่อน ปรากฏว่าเพื่อนรอนานไปหน่อยเลยไปนั่งอ่านหนังสือแล้วก็ตากแอร์ฟรีรอที่ 7 – 11ว่านเลยรีบเรียกเพื่อนๆให้มาที่ยิมเป็นการด่วน แต่ว่า...ผมยังไม่ได้เปลี่ยนชุดมาเลยแฮะ ผมเลยบอกว่านว่า

“เดี๋ยวพี่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านก่อนนะ เดี๋ยวจะกลับมาอีกที ว่านก็รอกับเพื่อนในยิมไปก่อน”
“อ่าว แล้วทำไมเมื่อกี้พี่ไม่แวะล่ะครับ” ว่านถามกลับมา
“ลืม มัวแต่คุย”
“ฮ่ะๆๆ รีบมานะครับ”
“อื่อ”

        แล้วผมก็กลับไปเปลี่ยนชุดก่อนจะกลับมาอีกครั้ง พอมาถึงที่ยิมผมก็เดินไปที่ประตูระหว่างที่ถอดรองเท้าผมก็ได้ยินเสียงว่านกับเพื่อนๆนั่งคุยเรื่องเทควันโดกันอย่างสนุกสนานเลยทีเดียว และ เมื่อผมเปิดประตูเข้าไป เพื่อนว่านก็หันมามองแล้วยกมือไหว้ผมแทบจะพร้อมๆกัน ก่อนที่หนึ่งในห้าจะพูดว่า

“นี่เหรอ พี่เอ ที่เอ็งชอบพูดถึงบ่อยๆ” ยังไม่ทันที่เพื่อนคนนี้จะพูดอะไรต่อว่านก็เอามือไปปิดปากเพื่อนทันที
“อะไรๆ เขินหรือไง” เพื่อนว่านอีกคนทักว่าน
“ไม่ใช่เว้ย” ว่านตอบกลับมาพลางเอาขาไปถีบๆเพื่อนคนที่ทัก


        จะว่าไปตั้งแต่รู้จักกับว่านมาผมไม่เคยเห็นว่านร่าเริงแบบนี้มาก่อนเลยแฮะ ส่วนมากจะวางตัว ไม่คุยกับใครง่ายๆ ที่คุยๆก็เห็นมีแค่ผม กับโค้ช กับพี่ป้อมเองว่านก็ไม่ค่อยได้คุยอะไรด้วยเลยเว้นว่าพี่ป้อมจะถามมาก่อน จะว่าไปก็ดีเหมือนกันมีเพื่อนๆมาแบบนี้ว่านเองจะได้เลิกทำตัวเครียดๆซะทีผมกับเพื่อนว่านสนิทกันได้รวดเร็วมากเพราะเพื่อนว่านได้ยินเรื่องของผมจากว่านมามากพอควร เพื่อนว่านเล่าว่าว่านจะชอบเล่าเรื่องที่ผมเล่าให้ว่านฟังให้เพื่อนๆฟังต่ออยู่บ่อยๆ เพื่อนๆกลุ่มนี้ที่อยากมาเรียนส่วนหนึ่งก็อยากมาเจอผมด้วยเพราะในห้องหลายคนก็สงสัยว่า พี่เอ ที่ว่านพูดถึงบ่อยๆนี้เป็นใคร แล้วน้องๆก็ได้เจอ

        อ้อ ลืมแนะนำไปเพื่อนว่านที่มาเรียนเพิ่มนี้มีห้าคนครับชายสามคนหญิงสองคน มาเริ่มกันที่ชายก่อนแล้วกัน คนแรกชื่อเกม น้องเกมคนนี้เป็นเด็กที่ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว รูปร่างค่อนข้างผอมพอควรผิวขาวแต่ว่าเนื่องจากเกมเป็นนักกีฬาว่ายน้ำของโรงเรียนทำให้นอกเหนือจากจุดที่ในกางเกงว่ายน้ำนั้นคล้ำหมด ส่วนหน้าตาน้องเกมนั้นทำให้สาวๆกรี๊ดได้ไม่ยาก คนที่สองชื่อฟิว น้องฟิวเป็นเด็กขาวตี๋ไม่สูงมากวันที่เจอวันแรกฟิวสูงน่าจะประมาณไม่เกินหนึ่งร้อยหกสิบห้ารูปร่างธรรมดาๆ หน้าตาเด็กตี๋เลยล่ะครับ ผิวขาวเป็นใยบวบ เท่าที่คุยๆกันฟิวแทบไม่เคยตากแดดเลย แล้วเทควันโดก็เป็นกีฬาชนิดแรกที่ฟิวเลือกที่จะเล่นเอง คนต่อมาชื่อริว น้องริวคนนี้สูงที่สุดในบรรดาห้าคนที่มา ณ วันที่เจอน้องสูงอยู่ที่หนึ่งร้อยแปดสิบสาม น้องริวเป็นลูกชายคนสุดท้องของตระกูลคนมีอันจะกินตระกูลหนึ่งในจังหวัดที่ผมอยู่ ริวบอกว่าที่มาเรียนส่วนหนึ่งเพราะอยากมานั่งฟังเรื่องที่ผมเล่าสดๆมากกว่าจะรอฟังจากที่ว่านเล่า

        ต่อมาแนะนำน้องผู้หญิงบ้าง คนแรกชื่อส้ม น้องส้มเป็นเด็กหญิงน่ารักตาโตมีเสน่ห์ที่ดวงตาเวลาที่น้องส้มยิ้มสายตาที่น้องส้มส่งมามาหวานพอจะทำให้มดเป็นเบาหวานตายยกรังเลยทีเดียว แล้วที่สำคัญน้องส้มเองยังมีข้อหากุ๊กกิ๊กอยู่กับน้องเกมด้วย คนต่อมาชื่อพลอย น้องพลอยเป็นสาวหมวยเป็นลูกสาวคนเดียวจากตระกูลผู้มีอันจะกินอีกตระกูลหนึ่งเช่นกันกับริว เหตุเพราะเป็นลูกสาวคนเดียวทำให้พลอยถูกคาดหวังจากทางบ้านมาก ส่วนบุคลิกของพลอยนั้นค่อนข้างกันเอง สนุกสนานร่าเริง เหตุผลที่มาเรียนส่วนหนึ่งก็อยากเจอผมเหมือนกัน

        โดยระหว่างที่น้องๆแนะนำตัวกันนั้นเหมือนว่าต่างคนต่างอยากแนะนำตัวเองกันใหญ่ แย่งคุยแย่งพูดกันไม่หยุดบ้างก็ใส่มุขมาด้วย บ้างก็เผากันวุ่นวาย เกือบจะจับใจความไม่ได้เลยทีเดียว แต่รวมๆแล้วผมว่าห้าที่มาเพิ่มนี้จะทำให้ยิมสนุกสนานขึ้นเป็นกอง หลังจากที่คุยกับน้องๆไปได้พักหนึ่งน้องๆคนอื่นก็เริ่มทยอยมาเรื่อยๆ ส่วนมากพอเก็บของเสร็จแล้วก็เข้ามาจับกลุ่มคุยกันเป็นกลุ่มใหญ่ แล้วระหว่างที่ผมกับน้องๆคุยกันอยู่อย่างสนุกสนานนั้น โค้ช ก็มาครับ ทันทีที่โค้ชมาถึงหน้ายิมน้องๆก็หันไปไหว้กันตามมารยาท แต่ว่าสีหน้าของโค้ชที่มองมานั้นดูไม่ดีเลย จนโค้ชเดินเข้ามาในยิม โค้ชก็พูดว่า


“ทำไมไม่ไปวอร์มไปซ้อมของตัวเอง จับกลุ่มคุยกันแบบนี้ มันทำให้เก่งขึ้นไหม”

        โค้ชพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดสุดๆทำเอาวงสนทนาที่กำลังสนุกสนานเงียบกริบลงทันที ก่อนที่น้องๆจะเริ่มแยกย้ายกันไปวอร์มแบบ งงๆ เพราะจะว่าไปนี่ยังไม่ถึงเวลาซ้อมเลยด้วยซ้ำเพื่อนว่านที่มาวันแรกถึงกับทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว ผมเลยให้ว่านพาเพื่อนไปวอร์ม

“ว่านๆ เดี๋ยวพาเพื่อนไปวอร์ม สอนแล้วก็ดูเค้าด้วยว่าตรงไหนทำยังไง” ผมบอกว่าน
“ครับ” ว่านหันกลับมาตอบ
“โอ๊ย ไปสอนอะไรท่าวอร์ม แค่ทำตามก็พอแล้ว” เสียงโค้ชดังขึ้น ว่านหันมามองหน้าผมเหมือนจะถามว่าเอาไง
“ตามนั้นแหละ” ผมพูดกับว่านเบาๆพร้อมพยักหน้าให้รู้ว่าทำตามที่ผมบอกพอว่านเห็นว่านก็หันกลับมาพยักหน้าคืน
“เอ มานี่” พอน้องๆแยกย้ายกันวอร์มหมดโค้ชก็เรียกผม
“ห้าคนนั่นเด็กใหม่เหรอ” โค้ชถามขึ้น
“ครับ”
“วันนี้พี่ไปสั่งอุปกรณ์คาราเต้แล้วนะ”
“ครับ”
“เห็นต้อมมันบอกว่าอุปกรณ์ของเรามันแพงเกิน มันให้พี่ไปดูอุปกรณ์ที่ร้านมีแทน”
“ครับ”
“พรุ่งนี้พี่จะไปดูที่ร้าน ไปด้วยกันไหม”
“ไม่ครับผมมีเรียน”
“เหรอ งั้นไม่เป็นไร”

        แล้วโค้ชก็เงียบไปผมเลยลุกออกไปดูแลน้อง วันนั้นโค้ชต้อนรับเด็กใหม่ได้โหดมาก สำหรับว่านอาจเด็กๆแต่กับเพื่อนว่านบางคนหน่ะซิครับ อย่างที่บอกไปหลายคนไม่เคยเล่นกีฬามาก่อนมาเจอแบบนี้ฟิวถึงกับหน้าแดงขึ้นมาทีเดียวส่วนคนอื่นๆก็หอบเป็นหมาหอบแดดเลย หลังซ้อมเสร็จว่านก็เดินๆมานอนพิงผมเหมือนที่เคยทำ ส่วนเพื่อนๆของว่านก็นั่งอยู่รอบๆ ก่อนจะเปิดประเด็นคุยเรื่องฮากัน วันนั้นผมจำได้ว่าผมคุยถึงเรื่องพาดหัวข่าวข่าวหนึ่ง อืมมม ผมขอแปลงเนื้อหาเล็กน้อยแล้วกัน

“พวกเราเคยอ่านหัวข้อข่าวหนังสือพิมพ์ไหม” ผมถามน้องๆ
“เคยซิครับ เวลาผมไปแผงหนังสือ ผมต้องอ่านพาดหัวก่อน” ฟิวตอบกลับมา
“หนังสือโป๊ะล่ะซิเมิงอะ” ริวแซว
“บ้า อย่างกูไม่อ่านหรอกเว้ยหนังสือโป๊ะอะไรพวกนั้น กูโหลดเอาเลยดีกว่าไม่ต้องเสียเวลาอ่าน ฮ่าๆๆ” ฟิวตอบกลับมาพลางหัวเราะ
“หื่นจริงมึงเนี่ยะ” เกมพูดพลังเอามือไปตบหลังฟิว
“พวกเอ็งคุยเรื่องอะไรเกรงใจพวกเขาหน่อย” พลอยพูดขึ้น
“ช่าย ผู้หญิงนั่งอยู่ตรงนี้เห็นไหมเนี่ยะ” ส้มแถม
“อะไรๆ พวกเอ็งผู้หญิงด้วยเหรอ” ฟิวตอบกลับมา
“พี่เอ ต่อๆ” พลอยทักให้กลับเข้าเรื่อง
“ก็....เคยเห็นข่าวเดียวกันแต่คนละฉบับไหมล่ะ”
“เคยๆ” น้องๆตอบพร้อมๆกัน
“เคยสังเกตไหมว่ามันลงเนื้อหาไม่ตรงกัน”
“ใช่ๆ โดยเฉพาะข่าวการเมือง ผมอ่านทีไรมันยิ่งกว่าอ่านคินดะอิจิอีก” ฟิวพูดขึ้น
“ทำไมวะ ข่าวการเมืองมันสนุกขนาดนั้นเลยเหรอ” เกมถาม
“เออ พวกมึงลองอ่านดู กูว่านักการเมืองแม่งลื่นยิ่งกว่าฆาตกรในนิยายอีกนะมึง” ฟิวตอบกลับ
“พวกเอ็งทำประมงเหรอ พาออกฝั่งทุกทีเลย” ก่อนที่ ฟิว กับ เกม จะพูดอะไรต่อ พลอยก็พูดขึ้นมา
“ช่าย พี่เอ ต่อๆ” ส้มพูดขึ้น
“ก็มันมีข่าวหนึ่งพี่ไปอ่านเจอ พี่เลยว่าจะถามพวกเราว่า เป็นพวกเราจะหยิบฉบับไหนขึ้นมาอ่านถ้ามันพาดหัวว่า....” ผมเว้นช่วงเพื่อดูว่าน้องๆสนใจที่จะฟังต่อแค่ไหน ปรากฏว่าทุกสายตาจับจ้องมาที่ผม แม้แต่ว่านเองก็ยังเยหน้าขึ้นมามอง
“ฉบับหนึ่งเขียนว่า แมวโคตรโหดตะปบเด็กชายดิ้นคากรง”
“อีกฉบับล่ะพี่” ริวถามต่อทันที
“อีกฉบับก็เขียนว่า เด็กชายโชคร้ายถูกแมวข่วนบาดเจ็บ เป็นเรา เราจะอ่านฉบับไหน”
“แมวโคตรโหดอะพี่” ส้มตอบ
“แมวโคตรโหด ฮ่าๆๆๆๆ” ว่านพลางระเบิดเสียงหัวเราะออกมาลั่น
“หัวเราะอะไร” เกมถามว่าน
“หัวเราะแมวโคตรโหดไง แม่ง เขียนซะกูเห็นภาพแมวเลย ฮ่าๆๆๆ มีดิ้นด้วย ฮ่าๆๆ” ว่านตอบไป น้องๆอีกห้าคนฟังดังนั้นก็จินตนาการตามทันทีก่อนจะพากันหัวเราะตามจนน้องๆในยิมคนอื่นหันมามอง


        แล้วการสนทนาก็ดำเนินต่อไปเรื่อยๆจนน้องๆทยอยกลับกันหมดเหลือแค่ผมกับว่านสองคน พอเดินปิดไฟหมดผมก็สังเกตว่าวันนี้แสงจันทร์สว่างมาก ผมเลยเดินไปที่ริมหน้าต่างที่ผมชอบมายืนอยู่ประจำ วันนี้พระจันทร์เต็มดวงครับ สวยมาก ท้องฟ้าโปร่งสุดๆเห็นดาวเต็มท้องฟ้าไปหมด


“จะแปลงร่างเหรอพี่” ว่านถามขึ้นก่อนที่จะเดินมาหยุดยืนอยู่ข้างๆผม
“พระจันทร์สวยเน๊าะ”
“วันนี้จันทร์เต็มดวงด้วย” พอว่านพูดจบผมก็เอามือไปวางบนมือว่านแล้วกุมไว้หลวมๆ
“เมื่อก่อนเห็นพี่กับบีชอบมานั่งกันตรงนี้ มามองดาวกันเหรอพี่”
“อืมม มานั่งดูดาว นั่งดูท้องฟ้า มารับลมเย็นๆ”
“....” ว่านไม่ได้ตอบอะไรกลับมา
“อยู่บ้านคนเดียวทุกวันเหงาบ้างม๊ะ” ผมถามว่าน
“ชินแล้ว” ว่านตอบกลับมา
“เหรอ”
“ครับ”
   

        พอว่านพูดจบผมก็หันมาเอามือลูบหัวว่านเบาๆว่านยืนนิ่งให้ผมลูบอยู่อย่างนั้นพักหนึ่งก่อนจะหันมางับแขนผมเข้าให้หนึ่งดอกผมเลยงอแขนดึงตัวว่านเข้าหาตัวผมแล้วกอดว่านไว้ ว่านค่อยๆคลายแรงกัดลง ผมก้มลงช้าๆก่อนที่จะไปหยุดตรงคอว่าน ผมจูบลงไปเบาๆ ตอนนี้ว่านคลายแรงที่กัดแขนผมไว้จนหมด ผมเลื่อนมือไปลูบริมฝีปากว่านเบาๆ โดยที่ปากผมยังแนบชิดกับคอของว่านอยู่ผมหายใจรถต้นคอน้องอยู่อย่างนั้น หัวใจว่านเริ่มเต้นแรงขึ้นจนผมรู้สึกได้ ผมค่อยๆกอดว่านแน่นขึ้น มืออีกข้างผมลูบที่อกของว่านเหมือนที่เคยทำกับบี....ผมคิดถึงบีจัง........แต่..อ๊ะ!! นี่ผมทำอะไรอยู่......ที่ผมกอดอยู่นี่ไม่ใช่บีนี่นา ผมค่อยๆคลายมือออกมาจากตัวว่านช้าๆ พอผมปล่อยมือออกว่านก็หันมามองผม...มือขวาผมยังคงจับบ่าซ้ายของว่านไว้อยู่ ผมไม่รู้ว่าสายตาแบบนั้นของว่านมันสื่อว่าอะไร ว่านคิดอะไรอยู่ ทำไมถึงไม่ขัดขืนล่ะ แล้วนี่ผมทำอะไรอยู่ ว่านยืนยิ่งไม่พูดอะไร บรรยากาศตอนนี้มันเงียบไปแล้ว....


“หิวอะไรไหม” ผมถามว่าน
“คะ...ครับ” ว่านตอบกลับมาเหมือนตกใจกับคำถามของผม
“ทานก๋วยเตี๋ยวกัน”
“ได้ครับ”


        วันนั้นตอนทานก๋วยเตี๋ยวผมไมได้คุยอะไรกับว่านเลย ว่านเองก็แค่หันมายิ้มๆไม่ได้พูดอะไร ตอนไปส่งว่านผมก็แค่จับมือว่านไว้เหมือนเคยตลอดทางไม่มีเสียงสนทนาอะไรเกิดขึ้นเลย ไม่รู้ซิครับ ผมไม่ชอบที่มันเงียบแบบนี้ แต่ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง จนกระทั่งมาถึงบ้านว่าน พอว่านลงจากรถว่านก็หันมายิ้มๆ


“ว่าน” จู่ๆผมก็เรียกว่านทั้งๆที่ไม่มีเรื่องอะไรเลย
“ครับ” ว่านหันกลับมา
“เอ่อ....” ให้ตายซิผมเรียกน้องทำไมกันเนี่ยะ
“ขอเมลล์หน่อยซิ”
“อ่อครับ พี่มีประดาษไหม”
“มะ...ไม่มี...เอางี้ส่ง SMS มาแล้วกัน”
“ได้ครับ”
“งั้นพรุ่งนี้เจอกัน”
“ครับผม”



To Be Con

ออฟไลน์ HydrA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-2
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 13 : 22/05/11 )
«ตอบ #83 เมื่อ22-05-2011 23:00:34 »

ว่านอยู่กับเพื่อนกลุ่มนี้ดูว่านร่าเริงมากเลยค่อยสมวัยหน่อย

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 13 : 22/05/11 )
«ตอบ #84 เมื่อ23-05-2011 07:27:31 »

 :L2: :กอด1: :L2:

ไม่ชอบโค้ชเลย  :beat:

icyblue

  • บุคคลทั่วไป
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 13 : 22/05/11 )
«ตอบ #85 เมื่อ23-05-2011 13:02:38 »

ว่านพาเพื่อนมาเรียนด้วย ดูท่าจะเรียนสนุกมากขึ้น


แต่ก็สงสารเพื่อนๆน้องว่าน เจอโค้ชแบบนี้ จะเรียก เป็น bad impression ได้ป่ะเนี่ย o22

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 13 : 22/05/11 )
«ตอบ #86 เมื่อ23-05-2011 17:34:23 »

แมวโคตรโหด เออข่าวนี้ฮาจริงอะไรจริง  :jul3:

เวลาว่านอยู่กับเพื่อนๆกลุ่มนี้ดูเป็นเด็กอารมณ์ดีสมวัยอ่ะ

แต่ก็แอบคิดนะว่าว่านจะมีมุมที่คิดรึปล่าวว่าพี่เอมองตัวเองเหมือนเป็นตัวแทนของบี (ทั้งๆที่น้องเองก็พยายามทำให้ได้เหมือนบีเผื่อพี่เอจะได้เอ็นดูตัวเองบ้าง)

ส่วนโค้ช...เฮ้อ เพลียใจตลอดเวลา

+1 จ้า

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 13 : 22/05/11 )
«ตอบ #87 เมื่อ23-05-2011 18:59:40 »

ว่านอยู่กับเพื่อนกลุ่มนี้ดูว่านร่าเริงมากเลยค่อยสมวัยหน่อย

 :กอด1: ~ อ่าครับ แต่หลายทีว่านก็ยังเงียบๆอยู่



:L2: :กอด1: :L2:

ไม่ชอบโค้ชเลย  :beat:

 :เฮ้อ: ~ นั่นซิครับ



ว่านพาเพื่อนมาเรียนด้วย ดูท่าจะเรียนสนุกมากขึ้น
แต่ก็สงสารเพื่อนๆน้องว่าน เจอโค้ชแบบนี้ จะเรียก เป็น bad impression ได้ป่ะเนี่ย o22

 :กอด1: ~ น้องเกมน่ารักสุดเลยครับ
 :o12: ~ แต่ตอนหลังผมถูกเกมกัดแขน กัดมือไปหลายทีเลย ( เกมกัดผมเลียนแบบว่าน )




แมวโคตรโหด เออข่าวนี้ฮาจริงอะไรจริง  :jul3:

เวลาว่านอยู่กับเพื่อนๆกลุ่มนี้ดูเป็นเด็กอารมณ์ดีสมวัยอ่ะ

แต่ก็แอบคิดนะว่าว่านจะมีมุมที่คิดรึปล่าวว่าพี่เอมองตัวเองเหมือนเป็นตัวแทนของบี (ทั้งๆที่น้องเองก็พยายามทำให้ได้เหมือนบีเผื่อพี่เอจะได้เอ็นดูตัวเองบ้าง)

ส่วนโค้ช...เฮ้อ เพลียใจตลอดเวลา

+1 จ้า

 :กอด1: ~ จะว่าไปที่ว่านมาอ้อนๆก็อ้อนแบบบีนะครับ

yunjaejoong

  • บุคคลทั่วไป
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 13 : 22/05/11 )
«ตอบ #88 เมื่อ23-05-2011 19:24:39 »

ไม่อยากคุยแล้วเราคิดถึง บี ง่ะ ไม่รู้ว่าทำมัยต้องคิดถึงน้องมันด้วยหรือเราคิดว่าพี่เอไม่ได้สนใจน้องมันใช่ม่ะ

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 13 : 22/05/11 )
«ตอบ #89 เมื่อ23-05-2011 21:19:45 »

ช่วงที่ 14





        อีกไม่กี่อาทิตย์ก็ถึงวันแข่งกีฬามหาวิทยาลัยแล้ว อืม.....ปีนี้น่าเสียดายที่ผมไม่ได้มีชื่อในกลุ่มผู้จัดการทีมเลยถึงแม้ว่าจะเข้าประชุมแทนโค้ชบ่อยๆก็เถอะหนนี้ผมคงทำได้แค่ส่งกำลังใจไปให้น้องๆสินะ ส่วนเรื่องของบีเองจะว่าไปหลังจากที่เหงาๆอยู่ช่วงหนึ่งแต่การที่ว่านเข้ามาในชีวิตผม มันก็ทำให้ผมบรรเทาความคิดถึงบีไปมากพอควรเลย เพราะว่านถึงแม้จะทำตัวเหมือนผู้ใหญ่ แต่ยังไงว่านก็ยังเป็นเด็กชายอยู่ดี ต้องมีเรื่องให้ผมคอยบอกคอยสอนอยู่เรื่อยๆ แล้วก็อีกไม่กี่วันพี่ป้อมก็จะกลับมาสอนเหมือนเดิม พี่ป้อมกลับมาก็ดีนะครับจะได้ช่วยเบรกเรื่องที่โค้ชทำๆอยู่นี่ให้เพลาๆลงไปหน่อยก่อนที่เด็กจะหายหมด อีกอย่างวันนี้ก็เป็นวันหยุด เสื้อผ้าก็ซักเสร็จหมดแล้ว กลายเป็นว่าผมว่างมากๆ ...ทำอะไรดีหว่า....แต่ขณะนั้นเอง ขณะที่ผมกำลังคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยอยู่หน้าคอมเสียงเตือนข้อความก็ดังขึ้นเบาๆ ผมหันไปมองโทรศัพท์ที่วางอยู่หน้าคอม

“1 ข้อความใหม่ : ว่าน”
“หืมม...ว่านเหรอ” ผมคิดในใจก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดดูข้อความ
“พี่ดูเรื่อง Detective Dee กันไหมครับ”

        พออ่านข้อความจบจู่ๆรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนหน้าของผมแบบอัตโนมัติ ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำไมจู่ๆถึงรู้สึกดีใจที่จะได้เจอว่าน ผมรีบโทรกลับทันที

“ตรู๊ดดดด....ตรู๊ดดดด.....แกร๊ก.....ครับ”
“เตรียมตัวยัง เดี๋ยวพี่มารับ” ผมถามว่าน
“ยังเลย แต่พี่มารับเลยก็ได้ ผมเปลี่ยนชุดแป๊บเดียว”
“ได้ๆ ห้านาทีเจอกัน”

        พอวางสายเสร็จผมรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วตรงดิ่งไปที่บ้านว่านอย่างรวดเร็ว เมื่อมาถึงก็เจอว่านยืนรอหน้าบ้านเรียบร้อยแล้ว พอรถจอดนิ่งว่านก็รีบกระโดดขึ้นรถทันที วันนี้ว่านแต่งตัวเท่อีกแล้วกางเกงยีนสีน้ำเงิน เสื้อคอกลมสีขาว เสื้อยีนใส่ทับอีกตัว กับ รองเท้าผ้าใบสีขาวตัดน้ำเงิน แล้วก็แหวน กับ สร้อยเงินจากการ์ตูนอะไรสักเรื่องแน่ๆ

“ใส่ชุดนี้หล่อดี” ผมพูดขึ้น
“....” ว่านไม่ตอบอะไรกลับมานอกจากเอานิ้วมาจิ้มๆหลังผม
“คุณแม่ล่ะ”
“อาทิตย์นี้แม่ไม่มา” ว่านตอบกลับมา
“เหรอ ไม่เป็นไรอยู่กับพี่ก็ได้”
“.....” ว่านไม่ตอบอะไรกลับมาเหมือนเคย
   
        ไม่นานนักผมก็มาถึงโรงหนังเนื่องจากวันนี้วันหยุดรถเยอะมากหลังจากขับรถวนไปสองรอบก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้ที่จอดผมเลยหันไปบอกว่านว่า

“ไปซื้อตั๋วก่อนก็ได้นะ ได้ที่จอดรถแล้วเดี๋ยวพี่จะรีบตามขึ้นไป”
“ไม่เอา จะอยู่กับพี่” ว่านตอบกลับมา พลางเอามือมากำที่ชายเสื้อของผม
“เอางั้นก็ได้”


        หลังจากวนอยู่ประมาณห้ารอบผมก็ได้ที่จอดครับ ทันทีที่จอดรถเสร็จผมก็จูงมือว่านไปที่โรงหนังซึ่งอยู่ชั้นบนสุดของห้างทันทีทันทีที่ขึ้นไปถึงผมก็ตรงดิ่งไปดูโปรแกรมฉาย รอบที่เร็วที่สุดตอนนี้คือรอบบ่ายสองกว่าๆ หลังจากดูรอบเสร็จแล้วผมก็บอกให้ว่านไปนั่งรอตรงที่โรงหนังจัดไว้ให้นั่งรอ แต่ว่านก็ปฏิเสธที่จะไปด้วยเหตุผลเดียวกับก่อนหน้านี้ “จะอยู่กับพี่”หลังจากซื้อตั๋วเสร็จแล้วผมก็พาว่านไปซื้อน้ำมานั่งดื่มที่เดิมกับที่มานั่งรอดูหนังกันทุกๆครั้ง วันนี้หัวข้อสนทนาระหว่างผมก็ว่านก็เป็นเรื่องหนัง เรื่องเกร็ดประวัติศาสตร์เล็กน้อยเกี่ยวกับจักรพรรดินีองค์เดียวในประวัติศาสตร์จีนตอนที่ผมเล่าว่านทำท่าสนใจมากทีเดียว แต่แล้วระหว่างนั้นโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น จากที่ว่านจ้องหน้าผมอยู่ดีๆก็เปลี่ยนไปจ้องที่มาของเสียงโทรศัพท์แทน ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจากกระเป๋า


“พี่ต้อม Caliing” ผมยืนมองพลางคิดในใจว่าจะรับดีไหม แต่สุดท้ายก็....
“ครับ”
“เอ นี่พี่ต้อมนะ มาที่กองเดี๋ยวหนึ่งซิมีเรื่องด่วนมากๆ” พี่ต้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ร้อนรนสุดๆ
“ด่วนมากหรือเปล่าครับ” ผมถามกลับไปจริงๆด้วยน้ำเสียงร้อนรนแต่แรก ก็เพียงพอจะทำให้ผมพอจะทราบดึงความเร่งด่วนได้ แต่ผมอยากได้ยินซ้ำเพื่อความมั่นใจอีกที
“มาก แป๊บเดียวนะ แป๊บเดียวจริงๆ”
“ครับ ได้เดี๋ยวผมเข้าไป”

        พอวางสายเสร็จผมก็หันไปมองว่านที่จ้องดูตลอดการสนทนาอย่างไม่วางตา

“ว่าน พี่มีธุระด่วน ว่านดูไปก่อนเลยนะเดี๋ยวพี่จะรีบกลับมา” ผมพูดจบก็ยื่นตั๋วให้ว่าน
“ไม่....ผมไปด้วย” ว่าน พูดขึ้นพลางเอามือดันตั๋วที่ผมยื่นให้กลับมาคืน
“ทำไมละครับ หนังจะฉายแล้วอีกสามสิบนาทีเอง ถึงมันจะดูนาน แต่ไปกลับพี่ว่ามันนานกว่าสามสิบนาทีแน่ๆ” ผมอธิบายให้ว่านฟัง
“ก็ผมอยากไปกับพี่”
“ว่านรอนี่แหละ ถ้าพี่มาช้าว่านก็เข้าไปดูก่อนเลย”
“.....” ว่านไม่ตอบเป็นคำพูดแต่ตอบกลับเป็นอวัจนภาษาด้วยการส่ายหน้าว่าไม่ยอมอยู่ที่นี่แทน
“งั้นไปก็ไป”
“ครับ” ว่านยิ้มทันทีที่ผมตอบกลับมา


        แล้วผมก็รีบตรงไปที่มหาวิทยาลัยอย่างรวดเร็วผมพยายามใช้เส้นทางที่เลี่ยงไฟแดงแล้วก็ลัดที่สุดเท่าที่จะทำได้แต่กระนั้นกว่าจะมาถึงมหาวิทยาลัยก็ปาเข้าไปยี่สิบนาที พอมาถึงกองผมก็ให้ว่านยืนคอยอยู่ด้านหน้าส่วนผมก็เข้าไปข้างใน พอเข้าไปถึงผมก็พบว่าที่กองวันนี้ไม่มีใครมาทำงานเลย ถ้ามีเรื่องด่วนต้องตามกันขนาดนี้ในวันหยุดแบบนี้แสดงว่ามันต้องสำคัญมากแน่ แล้วผมก็รีบจ้ำอ้าวเข้าไปในห้องพี่ต้อมอย่างรวดเร็ว แล้วทันทีที่ผมเปิดประตูเข้าไปผมก็พบพี่ต้อมกำลังนั่งคุยอยู่กับอาจารย์อิฐซึ่งท่านเป็นผู้อำนวยการกองกิจการนักศึกษา


“อ่าว เอ มาแล้วเหรอ นั่งก่อนๆ” พี่ต้อมหันมากวักมือเรียกผมให้มานั่งข้างๆ
“สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้อาจารย์อิฐกับพี่ต้อม แล้วทันทีที่ผมนั่งลงพี่ต้อมไม่รอช้ารีบพูดเช้าประเด็นทันที
“เอ...ร้านที่เค้ารับสั่งอุปกรณ์กีฬาเค้าโทรมาบอกว่าโค้ชเราเค้าไปเปลี่ยนยี่ห้อสินค้าแล้วก็สั่งของเพิ่มมา เอรู้เรื่องนี้ไหม”
“ครับ เห็นโค้ชเค้าบอกผมเมื่อวานก่อนอยู่ว่าจะเข้าไปเปลี่ยนยี่ห้อ เพราะพี่ต้อมบอกเค้าว่าที่สั่งไปก่อนหน้านี้มันแพงไป แต่ที่โค้ชไปสั่งผมไม่ได้ไปด้วยนะ”
“อืม...คืออย่างนี้นะเอ” อาจารย์อิฐพูดกับผมด้วยท่าทางเคร่งเครียดเล็กน้อย
“โค้ชเราเค้าไปเปลี่ยนยี่ห้อจริง แต่เปลี่ยนให้มันแพงขึ้น แถมยังสั่งของเพิ่มด้วยโดยที่ไม่แจ้งทางกองก่อน”
“ครับ” ผมไม่รู้จะพูดอะไรเลยตอบไปอย่างนั้น
“เราลองไปคุยกับโค้ชเค้าหน่อยนะเรื่องนี้ คือถ้าเค้าไม่สามารถสั่งอุปกรณ์ในงบที่เรามีได้ เค้าจำเป็นจะต้องออกค่าใช้จ่ายเอง” อาจารย์อิฐพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเครียดๆ
“เกินไปเท่าไหร่เหรอครับ” ผมถามกลับไป
“ค่าอุปกรณ์เกินไปห้าพันสี่” พี่ต้อมหันมาตอบ
“อ่าว...แล้วพี่ต้อมได้คุยกับเค้าเรื่องวงเงินที่จำกัดไหมครับตอนที่บอกเค้า”
“พี่ก็บอกไปแล้วว่างบไม่เกินหนึ่งหมื่น ทำยังไงก็ได้ให้ไม่เกินนี้” พี่ต้อมตอบกลับมาแบบอารมณ์เสียนิดๆ
“คือ...อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้นะพี่ ผมอยากให้พี่ติดต่อกับโค้ชโดยตรงเลยดีกว่า ผมเป็นรุ่นน้องเค้า ไปพูดเค้าไม่ฟังผมหรอก”
“พี่โทรไปหลายครั้งแล้วเค้าไม่รับ บางทีก็ไม่ติด พี่เลยไม่รู้จะติดต่อเค้ายังไง” พี่ต้อมตอบด้วยท่าทีเซ็งสุดๆ
“งั้นเดี๋ยวผมจะบอกให้นะพี่”
“ยังไงรบกวนด้วยนะ ถ้าเค้าไม่ยอมเปลี่ยน พี่ก็คงต้องหักเงินเค้าล่ะ”
“อ่า ครับ”

        แล้วผมก็ออกมาจากห้องโดยพี่ต้อมลุกเดินตามประกบมาด้วยระหว่างที่เดินผมเลยถามพี่ต้อมไปว่า

“เห็นโค้ชเค้าสั่งอุปกรณ์คาราเต้ไปหรือยังครับ”
“ยังนะ”
“หือ...คราวก่อนเห็นเค้าเข้ามาที่กองนี่ครับ เค้าบอกผมว่ามาสั่งอุปกรณ์คาราเต้”
“ไม่มีนะพี่เห็นแค่มาขอใช้คอมหาอุปกรณ์คาราเต้ แล้วก็ออกไป ไม่เห็นสั่งอะไรเลย”
“อ่าว...แล้วที่เกินๆไปนี่อุปกรณ์คาราเต้ด้วยหรือเปล่าครับ”
“ไม่รู้ เอดูซินี่รายการที่เค้าสั่ง” พี่ต้อมพูดจบก็ยื่นใบสั่งของให้ผมดู
“อืม....” ที่ผมดูมันไม่มีรายการอุปกรณ์คาราเต้จริงด้วย
“เป็นไง มีไหม” พีต้อมถาม
“ไม่มีครับ ของเทควันโดหมดเลย”
“งั้นพี่ขอตัวก่อนนะ ยังไงฝากบอกโค้ชเค้าด้วย”
“ครับพี่”

        แล้วพี่ต้อมก็เดินแยกไป ส่วนผมก็รีบเดินไปหาว่านที่รออยู่ข้างหน้า แต่ก่อนที่ผมจะออกพ้นประตูกองกิจการนักศึกษาผมก็เจอพี่นัทยืนอยู่ตรงประตูทางออกท่าทางเหมือนกำลังยืนมองอะไรอยู่อ้อลืมบอกไปพี่นัทเป็นนายกสโมสรนักศึกษาครับ พอผมเดินเข้ามาใกล้พี่เค้า ผมก็ทักตามมารยาท

“พี่นัท สวัสดีครับ”
“อ่าว เอ สวัสดีจ๊ะ มาทำอะไรวันหยุด” พี่นัทถามผม
“แล้วพี่ละไม่ไปเที่ยวไหนเหรอพี่ ทำแต่งานกิจกรรม ระวังงานทับตายนะพี่”
“บ้า ไม่หรอก ว่าแต่...เอพาใครมาหน่ะ” พี่ต้อมพูดพลางมองไปที่รถผมจอดอยู่
“อ๋อ น้องครับพี่”
“น้องแท้เหรอ หรือ น้องญาติ หรือ น้องรู้จักกันเฉยๆ” พี่นัทถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“ทำไมอะพี่ จะจีบเหรอ” ผมพูดแบบติดตลกออกไป
“ใช่จ๊ะ อุ๊ย พี่ล้อเล่น” พี่นัทพูดพลางหัวเราะ
“น้องเค้ามีคนสนใจแล้วล่ะครับ” ผมตอบพี่นัทไป
“แล้วน้องเค้าสนใจคนนั้นหรือเปล่าล่ะจ๊ะ” พอพี่นัทพูดจบ จู่ๆผมก็รู้สึกไม่พอใจเท่าไหร่ที่พี่นัทมีท่าทีสนใจว่านแบบนี้
“สนซิครับ เนี่ยะยังร้องตามไปโน้นไปนี่ด้วยอยู่เลย” ผมตอบกลับไป
“เหรอ ว๊า เสียดายจัง ว่าแต่น้องหล่อมากเลย เอมีเบอร์ไหมพี่ขอหน่อยซิ”
“ขอกับน้องเองดีกว่าครับ ผมไปก่อนนะ” ผมตัดบททันทีก่อนจะเดินออก
“อ่าว เอ ไปแล้วเหรอ นี่ๆถ่ายรูปน้องมาฝากพี่ด้วยนะ บอกน้องด้วยว่ามีคนแอบชอบ” พี่นัทพูดไล่หลังผมมา

        จู่ๆที่อารมณ์ดีๆอยู่ก็กลับขุ่นมัวขึ้นมาซะงั้นพอรู้ว่ามีคนมาทำท่าทีสนใจว่าน ผมรู้สึกไม่ชอบยังไงก็ไม่รู้ พอผมเดินมาถึงที่รถว่านก็หันมายิ้มให้แล้วก็ทำท่าทางเหมือนมีเรื่องอะไรจะเล่าให้ผมฟังอย่างนั้นแหละ ผมเลยถามไปว่า

“เป็นไง รอนานหรือเปล่า”
“เปล่า เร็วกว่าที่คิดอีก”
“อืม.....”
“พี่...” ว่านเรียกผมเบาๆ
“ว่า”
“เมื่อกี้มีพี่สาวมาคุยแล้วก็ขอเบอร์ผมด้วย” ว่านพูดด้วยท่าทีตื่นเต้น
“เหรอ...แล้วให้เค้าไปหรือยัง”
“ยังครับ ไม่ได้ให้ แต่พี่เค้าให้เบอร์เค้ามาแทน”
“ก็อย่าลืมโทรไปแล้วกัน” ผมเผลอพูดตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดใส่ว่าน
“......” ว่านถึงกับเงียบเลย
“คงไปดูไม่ทันแล้วล่ะ กลับเลยไหม” ผมถามว่าน
“พี่...โกรธเหรอ” ว่านตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงสั่นๆ
“เปล่า”
“......” ว่านไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่ว่า....เคยเห็นน้องหมาเวลาถูกเราดุไหมครับ....ว่านตอนนั้นทำท่าทางแบบนั้นเลย
“ไปหาอะไรทานกันไหม” ผมถามว่าน
“กะ....ก็ได้ครับ”
“โทษที พี่หงุดหงิดนิดหน่อยหน่ะ”พูดจบผมก็ตบไหล่ว่านเบาๆ
“....” ว่านไม่ตอบแต่หันมายิ้มแทน

        แล้วผมก็พาว่านไปอุดหนุน KFC อีกครั้งก่อนจะแวะไปนั่งทานที่สนามกีฬา ตอนบ่ายๆที่สนามกีฬาคนน้อยดีมันเป็นเหตุผลที่ผมเลือกมาจะได้นั่งทานได้แบบสบายๆหน่อย พอมาถึงผมก็พาว่านขึ้นไปนั่งทานที่อัฒจันทร์ฝั่งที่มีหลังคา หลังจากจัดแจงที่นั่งเรียบร้อยแล้วผมก็นั่งทานพลางคุยไปเรื่อยเปื่อยกับว่าน

“อดดูหนังเลยเน๊าะ”
“ไม่เป็นไรครับ”
“คราวหน้าแล้วกัน”
“แล้วแต่พี่”
“อืมม.....ว่านพี่ถามอะไรหน่อยซิ”
“ครับ”
“ว่านมีคนมาจีบบ้างไหม”
“.....ก็....ตอนไปแข่งกีฬาครั้งเดียว” ว่านหันมาตอบผม
“แล้วมีสาวๆเข้ามาคุยด้วยเยอะไหม”
“ก็มีบ้าง”
“แล้ว......ว่านสนใจใครบ้างหรือเปล่า....หมายถึง...ชอบใครบ้างยัง”
“......ยังครับ”
“ถามจริง” ผมหันมามองว่านแล้วถามซ้ำ
“จริง”
“อืมมม....ว่านน่ารักดีเนาะ ฮ่ะๆ”
“......” ว่านไม่ตอบอะไรกลับมาแต่เอานิ้วมาจิ้มบ่าผมเบาๆ
“แล้วพี่ละ....มีแฟนยัง” ว่านถามกลับ
“พี่เหรอ....ว่านคิดว่ามีหรือยังล่ะ”
“ก็....ไม่รู้ถึงได้ถามไงครับ อิอิ”

        วันนั้นผมนั่งคุยไปเรื่อยเปื่อยกับว่านจนค่ำก่อนจะพาว่านไปส่งที่บ้าน ระหว่างทางผมก็ถามว่านซ้ำเรื่องที่ว่านไม่ยอมรอที่โรงหนังว่านก็ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเศร้าๆว่า “ผมไม่อยากอยู่คนเดียว” พอได้ยินคำนี้.....ผมก็คิดในใจว่า....จากวันนี้...ผมจะไม่ปล่อยให้ว่านต้องอยู่คนเดียวอีก ผมจะพยายามอยู่กับว่านให้นานที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ ซึ่งผมเองก็ไม่รู้ว่าน้องจะต้องการไหม แต่ถ้ามันจะทำให้น้องมีความสุขผมก็จะทำ



To Be Con

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด