[เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ  (อ่าน 189566 ครั้ง)

anisongchanon

  • บุคคลทั่วไป
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ - ตอนที่ 15 คอนเวิร์ส

พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ตอนที่ 15 – คอนเวิร์ส

 

                *เก่ง เก่ง ตื่นได้แล้ว 7.30 แล้วนะ เดี๋ยวไปไม่ทันแล็ป*

          ผมย้ายขึ้นไปนอนบนเตียงตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้  เสียงที่เรียกผม ไม่ใช่เสียงไอ้ตี๋ แต่กลายเป็นเสียงพี่อ้วน พี่อ้วนใส่ชุดนักศึกษาเรียบร้อยแล้ว ยืนอยู่ข้างเตียงผม

                -พี่อ้วน ตี๋ไปใหน-

              -ไปเรียนได้แล้ว เร็ว ๆนะ พี่มาปลุกเฉย ๆ – พี่อ้วนเดินออกไปอย่างเร็ว

                ผมรีบจัดการธุระของผมให้เรียบร้อย เสื้อผ้าชุดที่จะใส่ ไม่ได้ถูกแขวนไว้ที่เดิมอีกแล้ว ผมรื้อดูในตู้เสื้อผ้า ยังไม่ได้รีดเลยจะใส่ได้ยังไง เอาก็เอาวะ ผมหยิบมาตัว เก็บกระเป๋ากับหนังสือ พอเดินออกมาปิดประตู เสือกลืมเสื้อกาวน์อีก ต้องกลับไปรื้ออีกรอบนึง เฮ้อ ตี๋เล็กโกรธเราจริง ๆ หรือเนี่ย ผมใจคอไม่ดีเลย

          ผมรีบวิ่งไปที่แล็ปเคมีชั้นสองอย่างรวดเร็ว เกือบไม่ทัน Quiz แล้ว อาจารย์ผู้คุม Lab มองผมอย่างไม่พอใจเล็กน้อย ผมกล่าวขอโทษอาจารย์เบา ๆ

                เพื่อน ๆ มองมาทางผมนิดหน่อย เพราะต่างคนต่างทำ Quiz ผมวิ่งไปนั่งที่กลุ่ม 6 ซึ่งเป็นกลุ่มของผมเอง นั่งทำข้อสอบ 5 ข้ออย่างรวดเร็ว ...... ตาเหลือบไปมองไอ้ตี๋ที่กลุ่ม 3 มันไม่มองมาทางผมเลย ดูมันจดจ่อกับข้อสอบมาก   อาจารย์ให้แลกเปลี่ยนตรวจกันเอง ผมหยิบของเอ๋ คนข้าง ๆ มา เอ๋มันทำตาโตว่าผมได้ 10 คะแนนเหมือนเดิม ในขณะที่มันได้เพียง 6 เท่านั้น แล็ปวันนี้ผ่านไปด้วยดี จนถึงเวลากินข้าวกลางวัน ผมยืนรอไอ้ตี๋อยู่ที่หน้าห้องเพื่อดักรอมัน กะว่าจะชวนไปกินข้าวคุยกันเพื่อปรับความเข้าใจ

                มันเดินออกมาแล้ว อยู่ในกลุ่มของเพื่อนกลุ่มใหญ่ราว ๆ 8 คน ไม่มองมาทางผมเลย ผมเรียกมันเบา ๆ นอกจากมันไม่หันมามองแล้ว มันยังหันไปคุย กับคนอื่น เหมือนผมไม่มีตัวตนอยู่ในโลกใบนี้เลย

                ผมเดินคอตกกลับไปที่ภาควิชาเพื่อรอเรียนในตอนบ่าย ผมคิดอยู่ตลอดเวลาว่า ทำไมเหตุการณ์ครั้งนี้มันรุนแรงขนาดนี้ ในเมื่อไอ้เม่นมันก็บอกผมว่า ไอ้ตี๋มันกลัวผมทิ้งมัน ... แต่ตอนนี้มันกำลังจะทิ้งผมต่างหาก

                ผมเหนื่อยมากเลยฟุบลงบนโต๊ะไม้ใต้ภาควิชา สักพักผมหลับไป ไม่รู้นานเท่าไหร่ มีคนมาสะกิดผมให้ลุกขึ้น พี่เต๊ก พี่รหัสผมนั่นเอง ถามว่าทำไมไม่เรียน เพื่อน ๆ ไปหมดแล้ว ผมถามว่า กี่โมงแล้ว พี่เต๊กบอก บ่ายสอง อืม ผมสายไป 30 นาทีแล้ว พี่เต๊กบอกไปหอนอนก็ได้ กลับไหวใหม ผมบอกว่า ได้ครับแล้วผมก็เดินคอตกออกจากสถาบันไป

                ถึงที่ห้องผมหน้ามืดยังไงไม่ทราบครับ เลยนอนมันทั้งชุดนักศึกษาเลย ไม่รู้ว่ากี่โมงกี่ยามแล้วตื่นขึ้นมา โห ... ห้าทุ่มครึ่ง ผมนอนไปนานขนาดนี้เลย ผมมองหาไอ้ตี๋ ไม่เห็นมันอยู่ในห้อง ดึกดื่นขนาดนี้ มันจะไปอยู่ที่ใหนของมัน ผมรีบเอาโทรศัพท์มาโทรหามัน แต่โทรศัพท์กลับดังอยู่ในลิ้นชักโต๊ะ แสดงว่ามันไม่ได้เอาไปด้วย ผมโทรไปห้องพี่อ้วน พี่อ้วนไม่อยู่ ไปข้างนอก

                มันจะไปอยู่ที่ใหนได้ ... มันกับผมไม่เคยห่างกันเลย โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืนแบบนี้ ผมไม่รู้จะไปตามหามันที่ใหน  เปิดตู้เสื้อผ้าดู เสื้อผ้ามันไม่อยู่สามสี่ชุด .......... ความรู้สึกว่าโดนเมียทิ้งมันเป็นอย่างนี้เองเหรอวะเนี่ย

                ผมนั่งลงกับขอบเตียงแล้วนอนแผ่ลงมา หลับตา น้ำตาริน นานเท่าไหร่ผมไม่รู้  จนผมหลับไป
 
 

anisongchanon

  • บุคคลทั่วไป
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ - ตอนที่ 16 ร่วมด้วยช่วยกัน

พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ตอนที่ 16– ร่วมด้วยช่วยกัน

 

                วันรุ่งขึ้นเป็นวันเสาร์ ผมไปที่คริสตจักรเพื่อเอาเสื้อผ้าที่ไม่ได้ใช้ไปบริจาค ผมต้องทำอะไรเสียบ้างให้ลืมเลือนเรื่องเหล่านี้ไป ผมตั้งใจว่าผมจะเป็นคนดี ให้ตี๋มันกลับมาหาผมอีกครั้งให้ได้ ผมตัดผมใหม่ด้วยสกินเฮดประชดรัก กินข้าว 2 จาน หลังจากเมื่อวานไม่มีอะไรตกถึงท้อง ผมใช้เวลาอยู่ข้างนอกทั้งวันแล้วกลับที่หอ ในใจหวังลึก ๆ ว่าไอ้ตี๋น้อยมันจะกลับมาแล้ว แต่ส่งที่ผมเจอ ก็คือห้องสี่เหลี่ยมว่างเปล่า ไร้เงาของมัน ผมเก็บเสื้อผ้าที่ใส่แล้วมากองรอซัก ผมเห็นเสื้อชุดที่มันใส่นอนคืนสุดท้ายลายสีแดงในตะกร้า ผมเอาหยิบขึ้นมาดม กลิ่นคุ้นเคยของมันยังติดจมูกผมอยู่เลย น้ำตาผมพาลจะไหลออกมาอีก ผมก็ได้แต่โทษตัวเอง ว่าเป็นเพราะผมนั่นล่ะ ที่ทำให้มันต้องไป

                ผมรีบสลัดความคิดออกไปและทำงานบ้านให้เสร็จ วันนี้วันเสาร์ คืนนี้ผมจะนอนดูบิ๊กซีเนม่าให้หนำใจ ผมพยายามคิดไว้ในใจว่า ถ้าไอ้ตี๋มันกลับมา ผมจะพูดประโยคแรกกับมันว่าอะไรดี ผมคิดยังไงก็คิดไม่ตกสักทีจนนอนหลับไป

                ตี๊ด ๆๆๆๆๆ เสียงโทรศัพท์มือถือ เบอร์พี่เต๊ก นั่นเอง

*เก่ง วันนี้วันเกิดพี่ว่ะ อยากได้ของขวัญเป็นเหล้าสักขวด มาที่ร้าน ............ นะตอนหกโมง รู้จักใช่มั้ยไกล้หมู่บ้าน .......* พูดเสร็จก็วางสายเลย ไอ้พี่บ้า ผมดูเวลา 4.30น. แล้ว จึงอาบน้ำเตรียมออกไป เออ กินเหล้าสักหน่อยก็ดีจะได้ลืม ๆ เรื่องเครียด ๆ ไป

                ผมแวะที่ร้าน 7-11 ซื้อช็อกโกแลตขาว 2 แท่ง แล้วเดินไปร้านดอกไม้ซื้อ ลิลลี่สีขาวดอกใหญ่ผูกติดกับช๊อกโกแลต ไม่มีเวลาหาของขวัญล้ว ยังไงคงไปออกค่าเหล้าช่วยแก ไม่หิ้วอะไรก็แย่เลย ให้ดีกว่าไม่ให้วะ

                ผมเดินไปเกือบจะถึงร้าน เจอพี่อ้วนกดตังค์อยู่  เลยเดินเข้าไปพร้อมกัน พึ่งรู้ว่าพี่อ้วนมางานเดียวกัน แกบอกว่าเชิญแขกมานิดเดียวเอง ผมก็งงพี่แกออกจะกว้างขวางทำไมเชิญคนมานิดเดียว

                มาถึงร้านแล้ว ร้านนี้เป็นร้านอาหารกึ่งผับเล็ก ๆ พี่ชายพี่เต๊ก เป็นหุ้นส่วนอยู่ ผมเคยมาสามสี่ครั้งตอนช่วงรับน้องเทอมที่แล้ว มีมุมเวทีเล็ก ๆ ไว้ให้นักร้องร้องเพลงกลางคืน ตอนนี้เค้าเปิดเพลงเบา ๆ อยู่

          *มาเลย ๆ ๆๆ กำลังต้องการตัวพอดี*  พี่เต๊กดึงแขนผมนั่งลงที่โต๊ะ ผมนั่งข้างแกหันหลังให้เวที ในร้านมีลูกค้าอีก 1 โต๊ะ -2 คน

-เอ้าพี่ สุขสันต์วันเกิด- ผมยื่นของขวัญให้ ไอ้พี่เต๊ก แม่งกึ่ม ๆ หน้าแดงแล้ว หัวเราะดังลั่น ขอบ อกขอบ ใจ พี่อ้วนสั่งเด็กชงเหล้าวางหน้าผมแล้ว

-พี่ ผมเอาออนเดอะร็อค- พี่เต๊กรีบเรียกเด็กเปลี่ยนแก้วให้ผมทันที พี่อ้วนเอาแก้วที่ชงแล้วไปครอง

-พี่ปลาล่ะ-

*ไปข้างนอก เดี๋ยวมา*

-ทำไมวันเกิดมีคนแค่นี้พี่-

*เออ กูจะมีกี่คนมันก็เรื่องของกู* ไอ้พี่เต๊ก กึ่ม ๆ ได้ที่แล้ว เริ่มสนุกล่ะ ผมเริ่มยกหาย ยกหายเหมือนกัน เรา 3 หนุ่มเริ่มออกกายบริหาร ยกน้ำหนัก ชนแก้วแบบแก้วต่อแก้วเลยทีเดียว

                ไม่น่าเชื่อว่า 30 นาที ชีวาสเกินครึ่งขวดหมดไป ผมรู้สึกมึนนิด ๆ แต่กำลังดี ถ้าได้อีกกลมคงโอเค เลยบอกว่าผมเลี้ยงขวดต่อไป อ่ะน้า สามคนนี้ คอแป็บคอทองเหลืองทั้งนั้น สบายมาก อีกอย่าง ผมก็อยากกินให้มันเมา ให้มันลืมทุกอย่างไปเลย

                พวกผมสามตัวคุยกันอย่างออกรสออกชาติเพราะเหล้าเข้าปาก กำลังสนุกสนาน ไม่ได้สนใจอะไร คุยกันเอะอะเสียงดังตามเรื่องตามราว เหลือบเห็นมีคนมาจัดเวที คงจะได้เวลารอบแรกของการร้องเพลงแล้วมั้ง

                ตอนนี้ในร้านเหลือแขกแค่ โต๊ะผมโต๊ะเดียวเพราะยังหัวค่ำ ตอนนั้นสัก 1ทุ่ม เอง ผมคุยกะพี่อ้วนละพี่เต๊กอย่างออกรสออกชาติ ไม่ได้มองอะไรทั้งนั้น

                สักพัก มันหยุดคุยไปเฉย ๆ พี่เต๊กกะพี่อ้วนปรบมือแล้วโห่อย่างดัง หันหน้าไปที่เวที ผมหันไปมองดูมั่งเพราะผมหันหลังให้เวทีอยู่  สิ่งที่ผมเห็นนั้นแทบทำให้ผมหยุดหายใจ ..... พี่ปลาแฟนพี่เต๊กยืนอยู่ที่อิเล็กโทน.............  แต่ที่ทำให้ผมทบตกจากเก้าอี้คือ ..............

 

ไอ้เชี่ยเก่ง

                มันนั่งอยู่เก้าอี้นักร้องกลางเวที มีกีตาร์ตัวนึงห้อยคอมันอยู่ ผมได้ยินเสียงพี่ปลาพูดใส่ไมโครโฟน

                *เพลงนี้เป็น surprise มอบให้กับใครก็ไม่รู้ ถ้ารู้ตัวว่าเป็นเพลงตัวเอง กรุณาช่วยรับ ๆ ไป อย่าเล่นตัวมาก*

                ไอ้พี่เต๊กกะพี่อ้วนยิ่งปรบมือหนักเข้าไปอีก แถมยังโห่เสียงดังด้วย พี่ปลาเล่นจังหวะอินโทรขึ้นมา ทำให้ผมตาเหลือกด้วยความตกใจ

 

Never before have I seen you look so blue
I cant find a cure and nothing comforts you
But the light at the end of the tunnel
Doesnt shine at the end of the day

Every time you cry
Save up all your tears
I will be your rainbow when it disappears
Wash away the pain
til you smile again
I will be the laughter in your eyes
Every time you cry

Time has a way of wounding what has healed
What can I say? I know just how you feel
Your soul is dark and troubled
Like a river running wild

Every time you cry
Save up all your tears
I will be your rainbow when it disappears
Wash away the pain
til you smile again
I will be the laughter in your eyes
Every time you cry

Well, you know thats what Im here for
I will give you what you need, more
There will be no hesitation
I will reap no reward

Every time you cry
Save up all your tears
I will be your rainbow when it disappears
Wash away the pain
til you smile again
I will be the laughter in your eyes
Every time you cry

 

          ไอ้พี่เต๊กกับพี่อ้วนแม่งพร้อมใจตบกะโหลกผมพร้อมกันตอนจบเพลง  พี่เต๊กยัดช็อกโกแลตขาวกับดอกลิลลี่ใส่มือผมที่ งง ๆ และตาแดง ๆ จะร้องให้แหล่ มิร้องแหล่ ไอ้ตี๋มันเดินเข้ามาทางผมแล้ว เวลามันเหมือนเนิ่นนานทั้ง ๆ ที่มันหายไปจากผมแค่ 1 คืน ผมมองหน้ามันมันทำตาแดง ๆ เหมือนจะร้อง เราโผเข้ากอดกันทันทีร้องให้อย่างไม่อายใคร ผมไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นตัวอักษรได้ ผมพูดกับมันวกวนอยู่อย่างนั้นว่า ----- กูขอโทษ ----

                *ก็แค่นี้ ไอ้เสือสิ้นลาย* เสียงไอ้พี่เต๊กดังขึ้น

                ผมจับมันนั่งลงที่โต๊ะ เราสองคนเช็ดน้ำหูน้ำตา รวมทั้งพี่ปลาด้วย ในเวลาต่อมา กลายเป็นว่าสามคน ผม ไอ้ตี๋ พี่ปลา หัวเราะกันทั้งน้ำตา

                *ไอ้สองคนนี้ทะเลาะกันทำไมลำบากพี่รหัสวะ* พี่เต๊กพูดเสียงดัง

                -เออ แต่กูว่าก็ดีนะ ได้แดกเหล้าฟรี- ไอ้พี่อ้วนสอด

                *เก่ง ง้อแฟนไม่เป็นเหรอ ปรึกษาพี่เต๊กสิ เชี่ยวนะขานี้* พี่ปลาพูดพลางหัวเราะทั้งน้ำตา

                *หยิ่งดีนัก ต้องโดนแกล้งแบบนี้* ไอ้พี่เต๊กสอดขึ้นอีก

                *เอ่อ* ผมพูดได้แค่นั้น ไอ้พี่เต๊กบอกไม่ต้องพูด มึงยังมีภาระอีก 1 ขวด สรุปแล้ววันนั้นหมดไป 3 ขวด แทบจะลากสังขารออกมาจากร้านไม่ไหว ผมยังไม่ได้พูดอะไรกับไอ้ตี๋เลย มันไม่ค่อยกินเหล้าเลย ส่วนผม ... ไม่ต้องพูดถึงเละพอ ๆ กะไอ้พี่เต๊ก พี่อ้วน

                พอมาถึงห้องปิดประตูลงกลอนได้แล้ว ผมกอดไอ้ตี๋แล้วจูบมันทันที .......... รสชาติเหมือนไม่ได้จูบมาห้าปีแล้ว ...

                -เก่ง กูขอโทษที่ไม่บอก ....... -

                ผมปิดปากมันด้วยปากผมทันที คำพูดใด ๆ ในตอนนี้ คงไม่มีความหมายเท่ากับ สิ่งที่อยู่ในใจของเราทั้งสองคน ไม่ต้องบอกนะว่าอะไรจะเกิดต่อไป 5555555555555555555 เซ็นเซอร์คร้าบบบ

 

 

                ไอ้พี่เต๊ก เรียก ไอ้ตี๋ไปคาดคั้นเอาความจริง เพราะไอ้พี่อ้วนไปรายงานเพื่อนมันเรื่องผมสองคน ไม่มองหน้ากัน พี่ปลาเลยออกไอเดียแกล้งผมให้อยู่หมัด วันรุ่งขึ้นผมแซวไอ้ตี๋ว่าถ้ามึงเลือกเพลงอื่น กูก็ไม่ร้องให้หรอก เพราะเพลงนี้เราเคยตกลงกันไว้แล้วว่า จะเป็นเพลงของเราทั้งคู่ ถ้าใครคนใดคนนึงร้องให้ อีกคน จะไม่ทอดทิ้งให้คนนึงร้องตามลำพัง ......... สวีตซ้า........................ อิอิ  เหอ ๆ จะรู้กันทั้งภาคมั้ยเนี้ยว่ากูสองคนเป็นคู่แท้ 2 (เจ้า) โลก .....

 

มีต่อนะ เบื่อกันยัง

No_ProMises

  • บุคคลทั่วไป

niph

  • บุคคลทั่วไป
ถ้าไม่นับชื่อเรื่องที่ชวนให้สงสัย

ผมว่าชีวิตช่วงนี้ของเก่งก็น่าอิจฉานะ
น่าอิจฉามาก ๆ เลยด้วย  :m3:

nanao

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9

motred

  • บุคคลทั่วไป

ninaprake

  • บุคคลทั่วไป
Re: รักไป - เย ไป เสีย
«ตอบ #97 เมื่อ23-09-2007 02:04:58 »

ซึ้งๆๆๆ ดีจังเลยยยยยย  :impress:  o7

ชีวิตคู่มีทะเลาะกันบ้าง แต่ถ้าคุยกันด้วยเหตุผล นึกความรู้สึกดีๆที่มีให้กัน .... ปัญหาน่าจะบรรเทาลงได้ ....

... น่าอิจฉาเก่งกับตี๋ ..... ขอได้มั๊ยอ่ะ? คู่ชีวิตแบบนี้  :m5:  :m13:

อ้อ! ไม่เบื่อนะครับ  เอามาลงต่อได้เรื่อยๆเลยยยยยค้าบบบบบ


anisongchanon

  • บุคคลทั่วไป
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ตอนที่ 17– อีกมุมหนึ่งของบางกอก

พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ตอนที่ 17– อีกมุมหนึ่งของบางกอก


 

                หลังจากวันนั้น เราสองคนก็ได้หันมาคุยกันอย่างไกล้ชิดถึงปัญหาที่ผ่านมา ผมนอนพังพาบอยู่บนตักไอ้ตี๋เล็ก

*กูไม่ได้โกรธที่มึงไปกับเค้า แต่กูตำหนิตัวเองในหลายๆเรื่อง กูไม่โตพอต้องให้มึงดูแลกูทุกเรื่อง ขี้งอน ขี้แย นั่นแล่ะที่กูอาจจะไม่ดีพอสำหรับมึง ทำให้มึงอยากทิ้งกูไป* ตี๋เล็กมึงเล่นบทนางเอกอีกแล้ว คนอ่านเค้าเกลียดกูจะตายห่าอยู่แล้ว

-กูขอโทษ ที่กูวอกแวก ไม่มั่นคงกับสัญญาที่กูเคยให้มึงไว้ เพราะกูเป็นคนบอกมึงเอง ว่ากูมีมึงแล้ว กูก็ไม่ต้องการใครอีก ไม่มีใครมาบังคับกูให้บอกกับมึง แต่กูก็ฉีกมันทิ้งไป โดยไม่แคร์ความรู้สึกมึงเลย อีกอย่างมึงดูแลกูได้ดีมาก เท่าที่คนดีคนนึงจะเป็นได้ ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้-

*กูก็ต้องขอโทษมึงเหมือนกัน ที่กูไม่รู้ว่ากูจะตัดสินใจพูดกับมึงยังไง จนต้องหอบผ้าหอบผ่อนหนีตามผู้ชายไปแบบนั้น* เดี๊ยะเหอะ

-ดีนะที่มึงไปกับไอ้พี่เต๊ก มึงไปหาลูกพี่ลูกน้องหน้าหล่อที่เช็ดไอติมเปื้อนปากให้กันละก้อ- ผมคำรามฮึ่ม ๆ

*มึงจะทำมายยยย มึงหึงกูเหรอ ... มึงตกหลุมรักกูล่ะสิ* มันกลอกตาทำหน้าทะเล้น ทะลึ่ง เดี๊ยะจับข่มขืนเลย ว่าแล้วผมก็เอาจริง ๆ 2 ที ให้มันเอาอีก 1 ที ผมยังกอดมันไว้ในอ้อมอก ตี๋น้อยมันพูดขึ้น

 

-เก่ง ต่อไปมึงไม่ต้องรู้สึกผิดหรอก กับเรื่องทุกเรื่องที่เรายังไม่ได้พูดกัน เราต้องหันมาคุยกันก่อน ก่อนที่ปัญหาจะใหญ่โตออกไป ปัญหาครั้งนี้มันเกิดจาก เราคุยกันน้อยเกินไป-

*ใช่ ต่อไปกูสัญญาว่าเราจะคุยกันมากขึ้น กูก็คือมึง  มึงกูคือกู โอเคมั้ย* มันหอมแก้มผมเบา ๆ เป็นคำตอบ

                เฮ้อ .... กว่าจะมาผูกพันธ์กันได้ขนาดนี้ ผ่านบททดสอบมากี่บทนะ แล้วเส้นทางต่อไปในภายหน้า มันจะมีบททดสอบอีกกี่บทที่รอทดสอบผมกับตี๋น้อยอยู่

*วันนี้มึงมีกู กูมีมึง แค่นี้พอใหม?* มันถามเหมือนจะล่วงรู้ถึงความคิดผม ผมก้มลงไปหอมแก้มมันเบา ๆ กระชับมันเข้าในอ้อมแขนอีกเป็นคำตอบจากใจ

 

 

          เข้าเทอมที่ 2  การเรียนของคู่ชื่นชุลมุนอย่างเรา ก็ยังหนักคงเส้นคงวาเหมือนเดิม เราทั้งคู่สามารถปรับตัวในเรื่องการเรียนในระดับมหาวิทยาลัยได้อย่างต่อเนื่อง ผมออกกฏเหล็กบังคับให้ไอ้ตี๋ต้องมารับการติวและเก็งข้อสอบ (บทเรียนจริง ๆ อย่าคิดไปลึก) จากผมในทุก ๆ เย็น และให้ดูละครได้บ้างบางครั้งบางคราว ไอ้ตี๋เล็กมันก็ชอบเหลือเกินละครหลังข่าว ไม่รู้มีเมียใครเป็นอย่างนี้บ้างหรือเปล่า  ผมยื่นคำขาดว่า ไม่เพลา ๆ ลงบ้างจะเปลี่ยนชื่อให้ใหม่เป็น “แจ๋ว”  มันก็ไม่สนใจ อ้อน อ้อน และอ้อนให้ผมใจอ่อนดูทีวีกับมันจนได้  และแล้ว ............ ฮ่ะๆๆๆๆ ผมก็ติดละครเหมือนกัน เรายังมีช่องโปรดทีวีเหมือนกันอีก ดีที่ไม่ต้องแย่งกันดูเท่าไหร่นั่นคือ Channel [V] Thailand กับ HBO ส่วนคลื่นวิทยุโปรดของเรา (ไม่แย่งกันฟังเหมือนกัน) คือ 95.5 และ 102.5 Star และ กรีนเวฟ

                เดือนธันวาคม อากาศค่อนข้างหนาวเร็วในปีนั้น เราตัดสินใจว่าจะไปที่ขอนแก่นเพื่อเยี่ยมเยียนเพื่อน ๆ สัก 1 วัน คราวนี้เราไปรถทัวร์เพราะให้ไปเครื่องบินก็ไม่ไหวหรอกครับ ตอนนั้นยังเป็นนักศึกษา ขอเงินพ่อแม่ใช้อยู่เลยนะครับ ผมโทรไปหาอีอุ๋ย ตกลงจะไปในตอนกลางเดือน เพราะเข้าใจว่าในช่วงีใหม่ ทุกคนคงอยากกลับไปฉลองกับพ่อแม่ ครอบครัว ที่บ้าน เลยเลื่อนเข้ามาก่อนดีกว่า  ส่วนผมกับตี๋เล็ก ยังไม่มีโครงการในใจแต่อย่างใด

                ตอนนี้ไอ้ตี๋มันเป็นหนุ่มเต็มตัวแล้วครับ อะไร ๆ ในตัวมันก็สมบูรณ์เต็มที่แล้ว ตัวมันใหญ่กว่าผมมาก ผมชักไม่แน่ใจว่า ถ้าต่อกับมัน ใครจะชนะ หลังจากที่มีข่าวลือเล็ก ๆ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเราทั้งคู่ เพื่อนๆ บางคนก็เข้ามาถามไถ่บ้างถึงข่าวลือที่เกิดขึ้น แต่เราสองคนได้แต่หัวเราะ แล้วบอกว่า ข่าวลือ ก็คือ ข่าวลือ เรื่องของผมสองตัว จึงค่อย ๆ จางหาย สลายไปในความทรงจำของผู้คนรอบกายในที่สุด เพราะผมไม่ได้ดังเหมือนดารานี่ จะได้ลงหน้าหนึ่ง หึหึหึ

          เราสองคนมีภาระกิจร่วมกันอีก 1 อย่างที่จะต้องไปทำทุกวันอาทิตย์คือ ไปโบสถ์ หลังจากที่ทำตัวเป็นคริสเตียนแบบไม่ปฏิบัติมานาน เราก็ไปโบสถ์แถว ๆ เดอะมอลล์ท่าพระในวันอาทิตย์ พอนมัสการในตอนเช้าเสร็จ เราได้ไปดูการเรียนการสอนของโบส์ที่มีให้กับเด็กในชุมชน เป็นเด็กที่พ่อแม่ส่วนใหญ่ไม่มีเวลาเพราะเค้าทำงานก่อสร้างแบบเร่ร่อน เมื่อต้องเปลี่ยนสถานที่ทำงาน ลูก ๆ ก็ต้องย้ายตามไปด้วย ทางโบสถ์คริสตจักรของผมจึงทำการรวบรวมเด็กเหล่านี้มาดูแล และให้พ่อแม่มารับกลับในตอนเย็น กลางวันจะมีการสอนหนังสือให้เด็ก ๆ ผมกับไอ้ตี๋มองเด็กเหล่านี้ด้วยความหดหู่ใจ เปรียบเทียบกับเราทั้งคู่ ที่ถึงแม้ว่าพ่อกับแม่จะไม่มีสมบัติที่เป็นเงินทองอะไรให้มากมาย แต่ทรัพย์สมบัติที่พ่อกับแม่ให้มา คือการศึกษา มันมีค่าและสำคัญ ที่จะทำให้ผมและมันมายืนอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ รวมทั้งเรายังสามารถวางแผนอนาคตได้คร่าว ๆ แล้วถ้าเราเรียนจบไป

                ผิดกับเด็กพวกนี้ ที่เขา ไม่สามารถกำหนดอนาคตตัวเอง แม้กระทั่งการศึกษา เพราะเขาจะต้องเร่ร่อนตามพ่อกับแม่ไปทำงานในทั่วประเทศ เสร็จ 1 โครงการก็ต้องย้ายไปย้ายมา การที่จะได้เข้าโรงเรียน เป็นเรื่องยากสำหรับเขาเหล่านั้น เพราะนอกจากจะเรียนไม่ต่อเนื่องแล้ว ทุนทรัพย์ก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับเขา พ่อแม่เขาหากินกลางวันให้ลูกได้กินไป 1 วัน แล้วจะมีเวลามาคิดถึงเรื่องการศึกษา ซึ่งเป็นตัวมอบ “โอกาส” ให้กับลูกเขาได้อย่างไร........

                ผมกับตี๋เล็กจึงตัดสินใจรับอาสาสอนหนังสือเด็ก ๆ ให้ในวันอาทิตย์เว้นอาทิตย์ ตี๋เล็กบอกว่าดีกว่าเราเอาเวลาไปทำอย่างอื่นไร้สาระ ผมตกลงทันที ตี๋เล็กบอกเพราะการศึกษา ทำให้เรามีวันนี้ ถ้าเราสามารถหยิบยื่นอะไรให้กับคนอื่นได้ เราก็จะทำ

                ก่อนกลับเราแวะเดอะมอลล์ท่าพระเพื่อเดินเล่นดูของสักพัก เราเดินกันไปที่ชั้นล่างสุดของเดอะมอลล์ ..... ชั้นสวรรค์สำหรับผมเพราะมีของกินเยอะเหลือเกิน ผมจูงมือไอ้ตี๋เดินดุ่ย ๆ จะเข้าไปกินไดโดมอน ไอ้ตี๋ดึงกระชากแขนผมกลับอย่างแรง

-หยุดเดี๋ยวนี้นะ-

*ไมอ่ะ*

-เมื่อกี้เพิ่งพาไปดูเด็ก ๆ เขาคลาดแคลนกัน ไดโดมอนคนนึงตั้ง 119 บาท ไปกินข้าวศูนย์อาหารได้อีกเยอะ อิ่มเหมือนกัน-

*ก็เค้าอยากกินนี่* ผมอ้อนเป็นเด็ก ๆ มันจูงผมเดินผ่าน Home-Fresh-Mart มาที่ฟู้ดเซ็นเตอร์ ผมนั่งทำหน้ามุ่ยเหมือนเด็กอยากกินไอติม แต่แม่ปฏิเสธ

-เก่ง ไดโดมอน 119 บาท ไม่ใช่ว่าเราจะกินไม่ได้ จริงอยู่ศักยภาพเรามีเพียงพอที่จะเลือกกินได้ แต่ฟังเหตุผลก่อนนะ เดือนนี้ เรากินอะไรไปกี่ครั้งแล้ว วันอังคารที่แล้ว เราก็เพิ่งมากินพิซซ่าบุฟเฟต์ นานๆ ครั้งกินได้ อีกอย่าง เดี๋ยวเราจะต้องมากินไดโดมอนอีกในอาทิตย์หน้า วันเกิดไอ้ชลมัน-

-เพราะฉะนั้น เราจะเริ่มต้นประหยัดเสียตั้งแต่วันนี้ แต่ประหยัดของกู ไม่ได้หมายความว่ากูไม่ให้มึงกินอะไรเลย แต่การใช้เงิน ต้องมีการวางแผน เข้าใจมั้ย-

*เข้าใจครับแม่ๆๆๆๆๆ* ผมทำเสียงล้อเลียนมัน

-เอากะเพราะปลา ข้าวหมูอบสกายลาร์ค เกี๊ยวซ่าทอด น้ำมะเขือเทศปั่นใส่มะนาวนิดนึง- ผมสั่งมันเป็นชุด มันทำตาเขียวถลึงตาใส่ผม แต่ก็ซื้อมาให้กินอยู่ดี ตกลงวันนั้นเราเซฟเงินได้หลายอัฐ เพราะไดโดมอน 119 บาทเนี่ย ต้องเสียค่าน้ำอีกนะ 39 บาท สองคนกิน น่าจะราว ๆ ไม่ต่ำกว่า 320 บาท แต่ศูนย์อาหาร มีกับข้าวให้เลือกเยอะ ในราคาสองคนไม่เกิน 100 บาทเอง อื้ม เข้าใจล่ะ ทำไมมันเกิดมาเพื่อเป็นเมียผม อิอิอิ

เราซื้อของใช้อีกเล็กน้อยรวมทั้งของกินด้วย แต่เลือกเฉพาะที่จำเป็นนะครับ ถึงตอนจ่ายเงิน ....

-ตี๋ กูไม่ไก้กดตังค์ มึงก็ไม่ได้กดนี่-

*อืม เดี๋ยวเอาบัตร ATM ธ............ ได้ นั่นไงมีป้ายรับจ่ายด้วย ATM บริการเค้ามาใหม่รายแรกเลยนะเนี่ย*

                พนักงานรูดแล้วให้เรากดรหัส ลองอยู่หลายครั้ง ก็ยังไม่ได้สักที ผมเลยบอกว่า ไม่เป็นไร เดี๋ยวไปกดเงินสดมาจ่าย ตอนนี้อยู่ที่สิงคโปร์ การจ่ายเงินผ่านระบบ NETS ที่เป็นแบบที่เดอะมอลล์เนี่ย เป็นเรื่องธรรมดาเบสิกมาก ๆ ทำให้ผมอดคิดไปไม่ได้ว่า ที่เดอะมอลล์ จะยังทำอะไรแบบนี้ยุ่งยากอีกหรือเปล่าหนอ ....... คงไม่แล้วนะ หลายปีแล้วนี่นา

                กิจกรรมที่เราทำร่วมกันระหว่างดูทีวีช่วงถัดมาจะเป็น การทำบัตรคำ บัตรภาพ เพื่อเตรียมการสอน เสียดายว่าทำอย่างนั้นได้ไม่กี่เดือน คริสตจักรผมก็ขาดเงินทุน จนไม่สามารถดำเนินโครงการต่อไปได้ เฮ้อ ....... เงินนี่มันสำคัญเหมือนกันนะ ซื้ออะไรได้ทุกอย่าง ผมเกิดมายังไม่เห็นอะไรเลยที่ซื้อด้วยเงินไม่ได้ แม้กระทั่ง “ความตาย” ก็ยังซื้อได้ ...

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






anisongchanon

  • บุคคลทั่วไป
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ตอนที่ 18– ฝนตั้งเค้า

พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ตอนที่ 18– ฝนตั้งเค้า

 

                เราตัดสินใจไปขอนแก่นกันในช่วงคริสมาส แล้วปีใหม่คงจะอยู่ที่ กทม ด้วยกันเพราะต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบด้วย กำหนดการคือวันศุกร์เราจะออกเดินทางจากหมอชิต (เก่า) ไปถึงที่หมายคือสถานีรถปรับอากาศขอนแก่น (ไกล้ ๆ โรงเรียนเก่าผม) ในตอนเช้าวันเสาร์ กะว่ากลับวันจันทร์ – แหะ ๆ โดดเรียน 1 วัน (อย่าเอาอย่างนะ เด็กดีเขาไม่ทำกัน) เมื่อไปถึงขอนแก่น เพี่อน ๆ เซ็ตเดิมต่างพากันมาต้อนรับกันอย่างพร้อมเพรียงเช่นเคย พวกเราตัดสินใจไปตั้งวงกันที่หอของไอ้เม่น โดยที่ไปส่งผมกับไอ้ตี๋ เก็บของที่บ้านไอ้ตี๋มันก่อน

                ที่หอไอ้เม่น ร้างแทบไม่เหลือใครอยู่เพราะคนกลับบ้านกันหมด สนุกมาก ๆ เพราะพวกเราในกลุ่มไม่ได้เจอกันมานาน อาหาร เหล้ายา ปลาปิ้งถูกลำเลียงมาเป็นระยะ ๆ การจากกันเป็นการบ่มเพาะให้ความคิดถึงงอกงาม เป็นคำกล่าวที่อธิบายได้ดีที่สุดในวันนี้ ตอนนี้ทุกคนในกลุ่มผมโสดสนิทกันทุกคน (ยกเว้นกูกะไอ้ตี๋เปล่าวะ ?) ไอ้เม่นกะไอ้ป๊อบเซย์กู้ดบายไปกันคนละทางแล้ว เมื่อเริ่มเมาได้ที่ ทุกอย่างก็พรั่งพรูออกมาจากปากของมันอย่างอ้อแอ้

                -ไอ้เชี่ย มันบอกว่ารักกู เสร็จแล้วมันก็ทิ้งกูไป กูยังไม่ได้ทำอะไรผิดกับมันเลย-  ไอ้เม่นเริ่มโวยวาย ร้องให้มีบทโศก

* เฮ้ยมึงอย่าร้องให้สิวะ เกิดมาอายหมา * อีหมา เอ้ย หมออุ๋ย ว่าที่นักจิตวิทยา ปลอบได้ส้นตีนมาก ๆ  เสือกเรียนจิตวิทยา

-พวกมึงดูนะ พอกูถามเหตุผลมันว่า ทำไมมันอยากเลิกกับกู มันบอกว่ามีอยู่สองอย่าง-

-กูถามว่า บอกได้มั้ย จะได้อธิบายให้เข้าใจ- มันยังพล่ามต่อ

-มันบอกกูว่าหตุผลข้อแรกคือ : กูดีเกินไป- เชี่ยแม่งชอบคนเลวหรือไง เหตุผลนิยายสัด ๆ (ความเห็นส่วนตัวนะ กิ้ว ๆๆ)

-กูบอกว่า อย่ามาใช้เหตุผลน้ำเน่าบอกเลยถ้าอยากจะเลิกกัน เพราะกูรู้ว่าตัวกูก็ไม่ใช่คนดีอะไรมากมายขนาดนั้น-

-ข้อสอง : มันสับสนกับตัวเอง ไม่รู้ว่ามันเป็นเกย์จริงหรือเปล่า* ผู้ชายแท้ ๆ มาดแมนแฮนซัมที่ใหนจะมานอนแผ่ให้ผู้ชายเอาตูดครับไอ้โลนลี่ป๊อบ มึงทำได้ขนาดนี้แล้วแม่งยังเสือกมาสงสัยอีกว่าตัวเองเป็นหรือเปล่า ไอ้สัด ผมฟังแล้วผมส่ายหน้า ผมเดาออกแล้วว่าเรื่องอะไร

                จากการคาดการณ์ของผู้มีประสบการณ์อันน้อยนิดอย่างผม แหะ ๆๆ ไม่ได้บังอาจตั้งตนเป็นกูรูแต่ประการใด ไอ้ข้อแรกน่ะ “ดีเกินไป” เป็นเหตุผลที่เป็นสากล เป็นการแสดงให้คนที่เราจะทิ้งให้เค้ายังเหลือความภาคภูมิใจไว้บ้าง

                ข้อสอง “สับสันทางเพศ” มักเกิดกับเกย์มือใหม่ ที่ยังไม่มั่นใจในการยอมรับของคนรอบข้าง หรือสังคม อย่างที่พี่ก้อย พี่สาวผมอาจารย์ชีววิทยาท่านกล่าวไว้ “การเป็นเกย์ไม่ใช่โรคติดต่อ แต่เป็นสิ่งที่อยู่ในโครโมโซม เป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ”  เพราะงานวิจัยหลาย ๆ ชิ้นได้สดงชี้ชัดแล้วว่า การชักนำ หรือการเลี้ยงดู มิได้มีส่วนต่ออุปนิสัยความชอบส่วนบุคคล (ชอบเพศเดียวกัน) สรุปสั้น ๆ คือ บังคับกันไม่ได้หรอกของพรรค์นี้ แล้วจะมาถามว่า เริ่มเป็นตอนใหน ผมก็ตอบไม่ได้ จะเลิกเป็นได้ใหม ผมตอบได้ว่า “ไม่มีทาง” เคยคิดเลิกมั้ย – มีถ้ำกระบอกให้อดใหมล่ะ- เฮ้อ กรณีของไอ้ป๊อบ บอกได้คำเดียวว่าเป็นกรณีพื้นฐานของการเลิกคบกันของเกย์มาก ๆ

                เพราะที่จริง ไอ้ป๊อบไม่ได้พูดถึงข้อ 3 นึกออกหรือยังครับ

3. กูอยากไปมีคนอื่น  เพราะกูไม่อยากได้มึงแล้ว

                จำได้มั้ยครับ ไอ้ตี๋ มันเกือบใช้ข้อที่ 1 กับผมแล้ว ว่ามันไม่ดีพอสำหรับผม เชี่ย กูก็ไม่ได้ดีเด่อะไรนักหนานี่หว่า ผมจึงได้แต่ปลอบใจเพื่อนไปตามเรื่องตามราว ในใจก็เสียว ๆ เหมือนกันว่าตี๋เล็กเอามั่ง แล้วกูจะทำยังไง ฮ่ะๆๆ (หาใหม่ดิ เดี๊ยะโดน – ยอมแล้วคร้าบบบ)

          เวลาผ่านไปจนดึกจนดื่น ทุกคนแยกย้ายกันเดินทางกลับบ้าน ผมกับไอ้ตี๋ขับมอเตอร์ไซค์ไปตระเวนรอบ ๆ ขอนแก่นเพื่อดูตามที่ต่าง ๆ ที่เราเคยไปเที่ยวเล่น เคยทำอะไรร่วมกัน (โรงแรม ? ไม่ได้มีที่แบบนั้นหรอก อย่าเดา) แล้วกลับไปนอนที่บ้านไอ้ตี๋

                ก๊อก ๆๆๆๆ *พี่ตี๋ พี่เก่ง ตื่นหรือยัง* เสียงไอ้เตย น้องไอ้ตี๋เคาะประตูเรียก เวลาเท่าไหร่แล้วเนี่ย โห เกือบเที่ยวแล้ว ผมสองตัวยังกอดกันกลมดิก อากาศที่ขอนแก่นหนาวมาก ไอ้ตี๋ลุกไปเปิดประตู ส่วนผมเอาผ้าห่มคลุมโปงนอนอุตุอยู่

* พี่ตี๋ พ่อต้องเรียกคุยเรื่องพี่แน่ ๆ* เสียงไอ้เตย ผมนอนฟังในผ้าห่ม

*มีคนบอกพ่อ ว่าพี่ตี๋กับพี่เก่งไม่ได้เป็นแค่เพื่อน แต่เป็นผัว-เมีย คู่เกย์* เฮ้ย ผมหายง่วงนอนเป็นปลิดทิ้งแต่ไม่กล้าโผล่มาฟังชัด ๆ  พ่อไอ้ตี๋ดุ นักเลงมาก

-พ่อรู้ได้ไง ใครบอก-

*แม่เค้ามาเล่าให้พ่อฟังว่ามีคนบอกมา เตยว่าต้องเป็นไอ้เชี่ยกลดแน่เลย* อ๋อ ไอ้ไอตืมเปื้อนปาก

*ที่มหาวิทยาลัยมีคนรู้หรือเปล่า*

-เออ ไอ้กลดมันรู้ตั้งแต่พวกพี่อยู่ที่นี่แล้ว- เรื่องกูมันก็ดังไม่ใช่เล่น ๆ ซะด้วยในขอนแก่นเนี่ย ทำไงล่ะหว่า

พรืด ... เสียงไอ้ตี๋ถอนหายใจ –เออ เออ เอาไว้ถ้าพ่อถามจริง ๆ พี่จะคิดอีกที-

*เออ พยายามหลบหน้าพ่อก่อนละกัน*

                เราสองคนตัดสินใจหลบไปอยู่หอไอ้เม่น คืนคริสมาสนี้จะออกไปเที่ยวกันต่อ แล้ววันจันทร์ตอนบ่ายออกมาใหม่ ตอนเย็นวันจันทร์ค่อยนั่งรถกลับ กทม คืนวันเสาร์นั้นเราไปเที่ยวที่ ไฮ-เทค บรรยากาศของไฮเทค ยังคงเหมือนเดิมกับก่อนเราจะไปอยู่ขอนแก่น พวกเราเปลี่ยนมากินเบียร์แทน จะได้แก้หนาวได้ วันนั้น ชาช่า นักร้องคนดังของไฮ-เทค เอาลูกสาวตัวเล็กนิดเดียวมาร้องเพลงที่ผับด้วย ถ้าผมจำไม่ผิดมันเป็นเพลงโบว์ สุนิตา ที่ชื่อว่า  ฉันรู้  ..... มีใครอยู่ใหนเหตุการณ์มั้ยเนี่ย รายงานตัวหน่อย

                ผมเจอรุ่นน้อง 2 คน ในไฮ-เทค คนแรกเป็นผู้หญิง เค้าบอกว่า ถ้าพี่ว่าง ไปอุดหนุนหนูหน่อยนะ หนูนั่งดริ้งอยู่ที่ .................. อ้าว รุ่นน้องกู ไซด์ไลน์กลางคืนซะแล้ว ส่วนอีกคน เป็นการพบกัน ที่ทำให้หัวใจพองโตมาก ไอ้นี่ ชื่อเหมือนเพื่อนผม “สน” ชื่อจริง สนธยา

*พี่เก่ง* ผมเดินผ่านไปห้องน้ำ ไอ้สนดึงแขนไว้

-อ้าวว่าไง ตอนนี้ไม่ได้เรียนที่โรงเรียนแล้วนี่- เสือกรู้กะเค้าอีก แฮ่ๆ ๆๆ พอดีสนใจน้องเค้าอยู่ไง เลยอยากรู้โม้ดเรื่องสนธยา

-อ๋อผมไปเรียน ปวส 4 ปี ที่เทค ........... . แล้วครับ พี่เก่งเรียนวิศวะ เก่งสมชื่อเลยนะครับ – หุหุ ผู้ชายชมอีกแล้ว

*มากับแฟนเหรอ* ผมถามเห็นมีสาวยืนเอียงอายอยู่ด้านหลัง

-ไม่ใช่นี่น้องสาว- เห็นนังนั่นเอามือตบหลังป้าบที่นึง เหอ ๆๆ มึงอย่าฟอร์ม

*เอาแลกเบอร์กันหน่อย เผื่อมีอะไรจะได้ติดต่อกัน*

-ผมจะไปอาศัยนอนด้วยครับ ที่ กทม- มาเลย กูจะไล่ไอ้ตี๋ไปนอนที่อื่น อิอิอิอิ

                ผมไปเข้าห้องน้ำบ่อยมาก ........ อยากไปไกล้ๆ นี่ เคยเป็นมั้ยครับ ถ้าเจอคนที่เราแอบชอบอยู่ เราก็อยากจะไปอยู่ไกล้ๆ เขา ดมกลิ่นเหงื่อจากตัวเขา อยากได้แม้กระทั่งสมหายใจที่เขาปล่อยออกมา เวอร์มั้ยเนี่ย ไม่ได้นอกใจไอ้ตี๋นะ ไอ้คนนี้ผมแอบชอบมันจริง ๆ เฮ้อ ...ก็แค่นั้น ... จบไป เซ็ง มาให้อยาก แล้วก็จากไป

                ตอนที่เราจะกลับไปเอากระเป๋า เราคิดว่าเดี๋ยวจะรีบไปลาพ่อแม่ไอ้ตี๋มันเร็ว ๆ แล้วออกมาเร็ยว ๆ เขาจะได้ไม่มีเวลาถาม แต่เราคิดผิดทั้งหมด  พ่อกับแม่ไอ้ตี๋เดินเข้ามาในห้องนอน แล้วนั่งลงที่เตียงนอน

-กูขอคุยอะไรกับพวกมึงสักอย่างก่อน- แววตาพ่อมันน่ากลัวมาก ผมใจคอไม่ดี กระเถิบออกมาห่างจากไอ้ตี๋อีก

-พวกมึงสองคนเป็นคู่เกย์กันใช่ใหม มีคนเค้าบอกกูมา- ผมยิ่งใจคอไม่ดีเข้าไปอีก กลืนน้ำลายเอื้อก หันไปมองหน้าไอ้ตี๋

*เอาที่ใหนมาพูดล่ะพ่อ เพื่อนกัน- ไอ้ตี๋แก้ตัวทันที

-มึงไม่ต้องพูด มึงตอบกูมาตามจริง- พ่อไอ้ตี๋เสียงดังขึ้น แม่มันแตะแขนพ่อมันเบา ๆ เป็นเชิงว่าอย่าใจร้อนหรือรุนแรงมากนัก ไอ้ตี๋หันหน้ามาทางผมอีก ทำตาแดง ๆ เหมือนจะร้องให้ ผมกลืนน้ำลายอีกก้อนลงไปอย่างยากลำบาก ทำไมน้า ... ความรักของผมกับมันกำลังจะไปได้สวยแล้ว ต้องมีมารมาผจญ (ตอนนั้นคิดอย่างนี้จริง ๆ ว่า “มาร” เพราะเราคิดอยู่แคบ ๆ ว่า เรามีเรา สองคนก็เพียงพอในโลกใบนี้ แต่แล้วอันที่จริง เราลืมคิดถึงสังคม และคนรักเราที่อยู่รอบข้าง ที่เราต้องอาศัยและดำรงชีวิตอยู่ร่วมกับเขา)

*พ่อ เตยอธิบายได้* เสียงไอ้เตยเดินเข้ามา

-มึงออกไปเรื่องผู้ใหญ่เค้าจะคุยกัน- พ่อมันดุ น่ากลัวมาก ผมนี่สะดุ้งเพราะที่บ้านผม จะไม่เสียงดังแบบนี้

*ผมขอคุยกับพ่อและแม่ตามลำพังก่อน เก่งกับเตยออกไปข้างนอกไป* ไอ้ตี๋บอก

ผมมองหน้าไอ้ตี๋อย่างไม่วางตา แต่ปากพูดอะไรไม่ออก สายตาผมมองมันเหมือนกับจะถามมันว่า มันอยากให้ผมอยู่ด้วยใหม ไอ้ตี๋ไม่พูดอะไร พยักหน้าน้อย ๆ ให้ผมทำตามที่มันบอก ผมออกจากห้องไปพร้อมไอ้เตยแล้วปิดประตู


No_ProMises

  • บุคคลทั่วไป

nanao

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10

ninaprake

  • บุคคลทั่วไป
Re: รักไป - เย ไป เสีย
«ตอบ #104 เมื่อ23-09-2007 20:10:26 »

โอ้ยยยยยย เบื่ออออออออ o12  o12  o12

เซ็งจริงๆเล้ยยยยย ....... เหมือนที่พี่ของเก่งพูดอ่ะ ว่าของยังงี้มันอยู่ที่ DNA จะมาบอกว่าให้เป็น ให้ไม่เป็น ให้เลิก ให้ติดใจ หรืออะไรเงี้ยมันได้ซะที่ไหนเล่า  :angry2:

..... เซ็งๆๆๆๆ .......... ทำไมไอ้ข้อสรุปทางวิชาการอันนี้ (ได้ยินมานานแล้วด้วย) เค้าไม่เอามาแบบ พาดหน้า 1 หนังสือพิมพ์สัก 10 ฉบับ 1 เดือนกันไปเลยนะ ...... ให้ผู้คนทั่วไปเค้ารู้กันไปเลยว่ามันไม่ใช่เรื่องผิดปกติ แล้วมันก็ไม่ใช่ว่าจะเลือกเป็นหรือไม่เป็นได้ .... ยอมรับความจริงกันหน่อยยยยยยยยยยยยยยยยย  :serius2:  :serius2:  :serius2:  .... เอาวิทยาศาสตร์ เอาหลักการทางชีววิทยามาพูดคุยกัน ไม่ใช่เอาหลักทางสังคมบางอย่างที่คิดหรือกำหนดขึ้นตั้งแต่สมัยก่อนยุคปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์มาบีบบังคับกดดันกันยังงี้

เฮ้อ !!! พูดเรื่องนี้ คิดเรื่องนี้แล้วเครียด  :o11: เซ็งๆๆๆๆ ....... เอออ..... อ่านไปอย่าคิดมาก อย่ามาเอาอะไรกะผมเลยนะ ผมบ่นไปงั้นแหละ   :เฮ้อ:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-09-2007 20:13:30 โดย BlueWizard »

ออฟไลน์ ~ScAreD:SAcreD~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1811
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-2
เฮ้อ  :เฮ้อ: เป็นปัญหาโลกแตกครับ ปัญหานี้

มีพ่อ - แม่ที่เข้าใจได้ ก็โชคดีไป ถ้าไม่ ก็ต้องกล้ำกลืนฝืนทนความรู้สึกของตัวเองต่อไป

 :a6:  :a6:  :a6:  :a6: กลุ้มแทน

motred

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
ปัญหาพ่อแม่รับไม่ได้ ดีน่ะ...........ที่ผมผ่านจุดนั้นมาได้แล้ว อิอิ รอดตัวไป

อยากรู้ด่วนคับ ว่าตี๋จะทำไงให้พ่อแม่เข้าใจ

MyLoveMyBabe

  • บุคคลทั่วไป

anisongchanon

  • บุคคลทั่วไป
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ตอนที่ 19– สึนามิ

พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ตอนที่ 19– สึนามิ

 

                ผมเดินลงมานั่งที่โซฟาในห้องรับแขกบ้านไอ้ตี๋ ทีวีบ้านมันเปิดทิ้งไว้อยู่ ไอ้เตยเดินตามหลังมาแตะไหล่ผมเบา ๆ

*พี่เก่ง ใจเย็น ๆ* มันปลอบผม

                ผมนึกสีหน้าของตัวเองไม่ออกว่าตอนนั้นผมจะมีสถาพภายนอกเป็นอย่างไร แต่ในใจผมมีแต่ความสับสนอลหม่านวุ่นวาย เหมือนมีรถไฟหลาย ๆ ขบวนวิ่งอยู่ในท้อง มันปั่นป่วนจนผมไม่คิดว่า ผมจะนั่งอยู่ตรงนี้แล้วไม่อาเจียนออกมา

                ไอ้เตยเอื้อมมือไปหยิบรีโมตมาปิดทีวี ตาจ้องมองผมไม่กระพริบ ส่วนผมมองตรงไปข้างหน้า สายตาของผมมันทะลุผนังออกไป หัวสมองตื้อไปหมด ได้ยินเสียงเหมือนคนทะเลาะกันอยู่ด้านบน พ่อไอ้ตี๋เสียงดังมาก

*พวกผิดธรรมชาติ ทำให้ครอบครัวต้องอับอายขายหน้า พ่อแม่ปู่ย่าตายาย ไม่เคยสอนให้มึงเป็นพวกวิปริตผิดเพศแบบนี้*

*พวกมึงต้องเลิกคบกันนับตั้งแต่วินาทีนี้ มึงเข้าใจใหม มึงบอกกูสิว่ามึงเข้าใจมั้ย* เสียงพ่อมันตะโกนดังมาก

                ผมกระเด้งขึ้นจากโซฟาโดยอัตโนมัติ ไอ้เตยรีบดึงแขนผมไว้ ผมสะบัดออกแล้ววิ่งขึ้นมาข้างบ้นอย่างรวดเร็ว แล้วเปิดระตูห้องเข้าไปทันที ภาพที่ผมเห็นคือไอ้ตี๋ยืนประจันหน้ากับพ่อมันร้องให้กระซิก ๆ แม่มันยืนเกาะแขนพ่อมันร้องให้อยู่เช่นกัน

*พ่อทำไมไม่เข้าใจ ผมจะทำอะไรมันก็เรื่องของผม* ไอ้ตี๋ตะโกนใส่พ่อมันสุดเสียง

----เพี๊ยะ---- เสียงพ่อมันตบหน้าไอ้ตี๋ทันที แม่มันร้องโหยหวน

-อย่าทำลูก ทำลูกมันเจ็บ ชั้นก็เจ็บด้วย ถ้าจะทำก็ทำชั้นแทน-

*อย่ามาให้ท้ายลูก เห็นมั้ยท้ายที่สุดมันก็กลายเป็นตุ๊ดเป็นเกย์* พ่อมันจะเข้ามาซ้ำไอ้ตี๋ที่ล้มลงนั่งกับพื้นร้องให้ แม่มันรีบดึงแขนไว้อย่างสุดแรงเกิด ไอ้เตยวิ่งไปช่วยดึงอีกแรง ร้องให้บอกว่าพ่ออย่า พ่ออย่า

                ผมรีบเข้าไปประคองไอ้ตี๋ทันที ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นความคิดที่ดีนัก เพราะเหมือนยิ่งทำให้พ่อมันโกรธยิ่งขึ้น พ่อมันคว้าที่ทับหนังสือที่ทำจากแก้วบนโต๊ะไกล้ ๆ เขวี้ยงมาผมร้อง โอ้ย ! ทันที มันถูกเข้าที่หัวผมจัง ๆ ราวกับจับวาง ไอ้ตี๋ร้องเสียงหลง ---เก่ง--- ทางแม่กับไอ้เตยร้อง ---พ่อ---

                ผมเอามือจับหัวทันที มันเจ็บตุบ ๆ และมึนหัวไปหมดเหมือนโดนเอาแป็บตีหัว มือผมเหนียว ๆ ตาพร่า ๆ ผมเอามืออกมาดู เลือดเต็มเลย ผมไม่สนใจเลือดเท่าไหร่ แต่พ่อมันคงไม่อยากหยุด ปรี่เข้ามาจะกระทืบผมซ้ำ ผมยกมือไหว้

                -พ่อจะทำอะไรตี๋ก็ทำผมแทนเถอะครับ ตี๋ไม่ผิด-

                *ไอ้เชี่ย ใครเป็นพ่อมึง* เปลี่ยนมากระทืบผมแทน ทั้งไอ้ตี๋ แม่มัน และไอ้เตย ร้องห้ามกันระงม

                ผมไม่รู้สึกเจ็บเลยแม้แต่น้อย มีความรู้สึกเดียวคือ อยากให้ไอ้ตี๋มันปลอดภัย อย่าให้มันเจ็บตัวอีกเลย เป็นอย่างไรผมก็ยอมทั้งนั้น น้ำตาผมไหลออกมาเป็นสีแดงหรือเนี่ย ผมร้องให้ไปพลางไหว้พ่อมัน

                -ผมขอเถอะครับพ่อ อย่าทำตี๋นะครับ- พ่อมันกระชากแขนไอ้ตี๋ให้ลุกขึ้น พยายามลากตัวออกไปนอกห้อง แต่ไอ้ตี๋สะบัดมือแล้วดึงมือผมลุกขึ้น

                *ไปเลยลูก!!!* -พี่ตี๋ไปเลย!!!!- เสียงแม่กับเสียงไอ้เตย

          ไอ้ตี๋ลากผมลงมาจากห้องโดยที่พ่อมันตะโกนตามหลัง ไอ้ตี๋ลากลู่ถูกังผมมาถึงรถมอเตอร์ไซค์ได้ ผมขึ้นซ้อนแล้วขับออกไปทันที

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






anisongchanon

  • บุคคลทั่วไป
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ตอนที่ 20– ล่องลอย

พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ตอนที่  20 – ล่องลอย

 

          ไอ้ตี๋ขับรถมือเดียว ผมกอดมันแน่น อีกมือมันจับกุมมือผมไว้ ผมซบที่หลังมัน เลือดเปรอะเต็มเสื้อมันบางส่วนไหลลงมาเข้าตาผม ผมได้ยินเสียงมันร้องให้โฮเหมือนบ้าคลั่ง ส่วนผมความเจ็บเริ่มเข้ามาเยือนแล้ว มันขับมอเตอร์ไซค์เข้าไปในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งบนนนมิตรภาพ ผมมีความรู้สึกปวดตุบ ๆ บริเวณแผลและมีความรู้สึกเหมือนตัวเองลอยได้ ผมถูกผลักลงรถเข็นแล้วพาเข้าไปทำแผล ผมเบลอจนจำอะไรไม่ได้ เหมือนไม่มีสติอะไรหลงเหลืออยู่เลย อีกนานสองนาน ผมก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย

          ผมมาทราบเหตุการณ์ทีหลังจากไอ้เม่นว่า ไอ้ตี๋จะไปต่อยกับห้องบัตรเพราะพนักงานห้องบัตรยืนยันว่าก่อนรักษาต้องเสียทำบัตรก่อน มีคนมาถามชื่อของผมที่รถเข็น มันยิ่งอาละวาดหนักว่าทำไมไม่พาคนป่วยไปก่อนเข้า เลยต้องเอาตัวผมเข้าห้องฉุกเฉิน มันบอกว่า หมออกมาเรียกมันให้เข้าไปดูผมตอนที่ผมอยู่บนเตียง เพราะผมพูดอะไรไม่หยุดเลยอยู่คนเดียว แต่ไม่สามารถจับใจความได้เช่น คนคนนี้คือใคร ทำไมมาที่นี่ แล้วแม่ไปใหน  ต้องพาพ่อกับแม่มาที่นี่นะ ตาผมลอย ๆ เหมือนคนบ้าไม่มีสติสะตังหลงเหลืออยู่เลย ไอ้เม่นบอกว่ามันแทบจะคลั่งตาย เพราะผมจำไม่ได้แม้กระทั่งมัน ผมถามมันว่า ตี๋ใหน ไม่รู้จักแล้วก็หัวเราะ ทุกคนกลัวมาก ๆ ใจคอไม่ดีเลยที่ผมเป็นแบบนี้ มันกลัวผมเสียสติ จากการที่สมองมีการกระทบกระเทือน

                มันโทรตามไอ้เตยออกมากับแม่มัน แล้วโทรเรียกเพื่อน ๆ ให้มารวมกันที่นี่ หมอให้ผมนอนพักแล้วฉีดยาน่าจะเป็นยานอนหลับ จนผมนอนหลับไปเอง แล้วอีกสามชั่วโมงผมตื่นขึ้นมา ตี๋บอกว่าผมถามหาแม่กับพ่ออย่างเดียว ไม่สามารถควบคุมสติได้ ต้องหลอกให้ผมนอนหลับไปอีก จนผมตื่นมาตอน 2 ทุ่มคืนนั้น

                ผมเห็นพ่อกับแม่แล้ว แม่ร้องให้

-เก่ง แม่มาแล้ว แม่อยู่นี่ไง-

*ป๊า ... ม๊า ...* ผมพูดได้แค่นั้นแล้วร้องให้ ผมไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องร้องให้ ละทุกคนต้องร้องให้ จนมีพยาบาลเชิญทุกคนออกข้างนอกให้หมอตรวจ

                *คุณ ภ.พ. คุณจำเหตุการณ์อะไรได้มั้ยครับ* เสียงคุณหมอ

                ผมพยักหน้าแทนคำตอบ

                หมอจะส่งคุณไปตรวจสมองนะครับ

แล้วมีคนย้ายผมไปตรวจเอ็กซเรย์สแกน ก่อนจะนำผมกลับมาส่งที่เดิม ในห้องมีพ่อ แม่ พี่ก้อย พี่เต้ย และเพื่อน ๆ ส่วนหนึ่งนั่งที่โซฟา

                *คนไข้ต้องพักผ่อนนะคะ แล้วเชิญญาติฟังผลตรวจด้วยค่ะ* พี่เต้ยกับพี่ก้อยเดินตามพยาบาลออกไป

-ป๊า ม๊า ไอ้ตี๋ไปใหนแล้ว-

*รักษาตัวก่อนนะลูกนะ อย่าเพิ่งคิดเรื่องอื่น* พ่อผมบอก

ผมหลับตาลง น้ำตาไหล และสะอื้นร้องให้โฮ แม่ผมยิ่งร้องให้หนักเข้าไปอีก พ่อจับแม่ให้นั่งเก้าอี้ เพื่อนๆ กรูเข้ามาที่เตียง

ทุกคนร้องให้สะอึกสะอื้น อีอุ๋ยกอดไอ้สนกับอีเก๋ ไอ้เม่นพูดขึ้นเสียงกัดฟัน

-กูจะไปฆ่ามัน- เพื่อน ๆ ร้องออกมาพร้อมกัน ---อย่า---- มีคนดึงแขนมันไว้ มันร้องให้ พูดแต่ว่า เพื่อนกูเจ็บ , มันทำเพื่อนกู

-มึงนอนพักก่อนนะ เดี๋ยวกูจะเคลียร์ให้ อย่าพึ่งคิดอะไรมาก- อีอุ๋ยบอกผมทั้งที่สะอึกสะอื้น

*ตี๋ไปใหน .. ตี๋.. * ผมพูดได้แค่นั้น แล้วร้องให้หลับไป

 

                ตื่นขึ้นมา ผมเห็นพี่เต้ยกำลังดูทีวีอยู่ ผมเรียกพี่เต้ย แกรีบกระโจนเข้ามาหาผม

-หมอบอกไม่เป็นไร ปกติดี อาจจะตกใจมากจนเบลอ มึงจำอะไรได้มั้ย- พี่เต้ยถาม

*จำได้ แต่เจ็บหัวมาก*

-ด้านเหลี่ยมมันโดน เย็บ 8 เข็ม เลือดออกเยอะด้วย-

ผมกวาดสายตามองหาไอ้ตี๋ ไม่มีแม้แต่เงาของมัน

-เดี๋ยวมันคงจะมา พักผ่อนก่อน-

                ผมได้ออกจากโรงพยาบาลในอีกวันนึง หลังจากที่หมอมาคุยกับผม เพื่อดูว่าผมเป็นปกติล้วหรือยัง จนถึงวันนี้ ผมยังไม่ได้เห็นหน้าไอ้ตี๋เล็กของผมเลย ผมเห็นทุกคนรวมทั้งเพื่อน ๆ ไม่มีใครอยากพูดถึงเรื่องนี้ ผมจึงไม่พูดอะไรเลย นอกจากเก็บคำถามของผมไว้ในใจคนเดียว

FOAM

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ ~ScAreD:SAcreD~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1811
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-2
ตี๋ไปไหน ตี๋ไปไหน

สงสารทั้งคู่เลย

 :เฮ้อ: :a6: :เฮ้อ: :a6: :เฮ้อ: :a6: :เฮ้อ: :a6: อ่านจบแล้วกูจะบ้า

motred

  • บุคคลทั่วไป

suregirl

  • บุคคลทั่วไป
สงสารทั้งคู่เลย  :m15: :m15: ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย  :m8: :m8: :m8: ปัญหาโลกแตกจิง ๆ พ่อแม่ สังคม เฮ้อ  :เฮ้อ:

niph

  • บุคคลทั่วไป

nanao

  • บุคคลทั่วไป

No_ProMises

  • บุคคลทั่วไป
เห้ออ เศร้า

สงสารทั้ง 2 คน เลยอ่ะ

เห้ออออออออออออออออออออออออออ

 :o12: :o12: :o12:

ninaprake

  • บุคคลทั่วไป
 :a6:  :a6:  :a6:  :a6:  :a6:  :a6:  :a6:
 :a6:  :a6:  :a6:  :a6:  :a6:  :a6:  :a6:

ร่วมด้วยช่วยเซ็ง .............

 :serius2:  :serius2:  :serius2:  :serius2:  :serius2:  :serius2:  :serius2:

โว้ยยยยยยยย ........  :angry2:

kimsumsoon

  • บุคคลทั่วไป

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด