จบภาคม.ปลายไปแล้วค่ะ เย้ ดีใจ ใครที่ห่างหายไปเพราะกลัวดราม่า
กลับไปอ่านกันได้นะคะ มันไม่ดราม่าอย่างที่คิดหรอก (อ่านง่ายเพราะทำลิ้งให้เสร็จแล้ว)
น่ากลัวด้วยซ้ำว่าถ้าอ่านภาคม.ปลายกันแล้วจะเลิกเชียร์พี่โต้งด้วยซ้ำไป ฮาๆ
เอาล่ะ ช่างมัน... เพราะมันคืออดีต กลับมาสู่ปัจจุบันกันดีกว่า ....
!!พี่คะ~รับกะเทยทานเพิ่มไหมคะ!!
By ๛NaaribuS๛
ตอนที่ 37 คนใจอ่อน...อ่อนใจ
ปริบ ปริบ
หนูลืมตาโพลง กระพริบตาปริบปริบท่ามกลางความมืดมิด ทั้งๆ ที่เผลองีบหลับไปแล้วแท้ๆ แต่จู่ๆ ก็ตื่นขึ้นมาอีก ทีนี้ตาค้างไปเลยทีเดียว พยายามข่มตาเท่าไรก็ไม่ลงสักที อาจจะเป็นเพราะมันแปลกที่ก็เป็นได้
พรึ่บ!! หนูเปิดไฟจนสว่างแล้วหยิบหนังสือนิยายที่ซื้อมานั่งอ่านอยู่ข้างเตียงแก้เบื่อ
กึ่ก... สะสารบางอย่างที่นอนหลับปุ๋ยอยู่บนเตียงหยุดเสียงกรนอันทรงเสน่ห์เปลี่ยนเป็นกลิ้งตัวมากระทบหลังบอบบางของหนูพลางส่งเสียงกระซิบงัวเงีย
“ทำอะไรอยู่คะ?”
“อ่านหนังสือค่ะ” หนูตอบอย่างภาคภูมิใจทันที
“ขยันจัง ไหนดูซิ อ่านอะไร” คนบนเตียงชมเปาะพลางยื่นแขนยาวๆ มาปิดหนังสือในมือของหนูเพื่อดูชื่อเรื่อง
“รักวุ่นวายของนายปลากระโห้กับน้องแตงโมสุดเฮี้ยว... นึกว่าอ่านหนังสือเรียน ที่แท้ก็....แล้วสาบานเถอะว่านี่ชื่อนิยาย”
“ค่าชื่อนิยาย ... สนุกนะคะพี่ กำลังมันเลย อ่านถึงตอนน้องแตงโมกำลังไปตามง้อกะโห้ที่บ้านสวน เรื่องที่เธอเผลอไผลทำลงไปในคืนนั้น แบบว่านางเอกมีความรับผิดชอบมากอยากขอพระเอกแต่งงานน่ะค่ะ อร๊าย.. โรแมนติกได้อีก” น้องฐาเหลือบตาขึ้นมองเพดานด้วยแววตาวิบวับเพ้อฝัน บิดตัวไปมาอย่างเขินๆ
“เฮ้ย นี่มันนิยายยุคไหนเนี่ย” พี่แกแอบทำเสียงระอาเล็กน้อยก่อนจะถามต่อ“แล้วนี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วเนี่ย ยังไม่หลับไม่นอน”
“ไม่ดึกหรอกค่ะก็แค่...” หนูตอบ ยกแขนซ้ายให้อีกฝ่ายดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ
“ตีสอง... เนี่ยนะไม่ดึก พอค่ะ ปิดหนังสือ ปิดไฟแล้วขึ้นมานอนได้แล้ว พี่ง่วงมากแล้วค่ะ” เสียงนั้นดังขึ้นทำลายอรรถรสในการเสพวรรณกรรมเอกของหนูยิ่งนัก ทำให้พลิกกายหันหลังแล้วเอาคางเกยตื้น เอ๊ยเกยเตียงส่งสายตาน่าสงสารไปยังเจ้าของเตียง เจ้าของห้องและเป็นเจ้าของหนูด้วย (อุ๊ย เขิน)
“ไม่อาว... หนูจะอ่าน แบบว่ามันค้างนะคะ...ขออ่านให้จบได้ไหมอ่า อีกนิดเดียวเอง สองร้อยกว่าหน้าเอง” ไม่เยอะนะ จริงๆ
“ไม่ได้ เอาไว้อ่านพรุ่งนี้ค่ะ” พี่โต้งส่งเสียงดุมาปราม
“ก็พี่บอกเองว่าถ้า....เสร็จแล้ว จะให้หนูอ่านหนังสือไงคะ”
“ค่ะอ่านได้ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ พรุ่งนี้พี่มีเรียนทั้งวันนะคะ”
“หนูก็มีเรียนเหมือนกันค่ะ แต่หนูนอนไม่หลับนี่นา มันแปลกที่”
“แหม....แปลกที่ ขนาดย้ายไปนอนที่โรงแรมยังหลับลงเลย ย้ายมานอนห้องพี่แค่นี้ ทำเป็นนอนไม่หลับ”
“เอ๊ะ....พี่อ่ะ...” เป็นไรมากไหมคะเนี่ย ปากจัดกัดเจ็บนี่แก้ไม่หายเลยให้ตายเหอะ พ่อคุณ
“ปิดไฟแล้วขึ้นมานอนค่ะ เปิดไฟไว้พี่ก็นอนไม่หลับเหมือนกัน”
“ไม่เอาๆ หนูนอนไม่หลับ”
“งั้นไม่ต้องหลับ ปิดไฟแล้วขึ้นมาเล่นจ้ำจี้กับพี่ก็ได้ค่ะ”
อุ้ย!! ทีเรื่องอย่างว่าล่ะตาสว่างขึ้นมาเชียวนะตาบ้า แบบนั้นก็โอเคนะ พอเหนื่อยแล้วมันก็จะได้เพลียแล้วก็หลับง่ายๆ แต่จะให้พยักหน้าเออออไปตามนั้นมันก็เขินอ่ะนะ เลยได้แต่ส่ายหน้าเสียงอ่อย
“ไม่เอา...หนูจะอ่านหนังสือ” หลังจากได้ยินหนูยืนยันคำเดิมพี่แกก็ส่ายเศียรเอามือตบหน้าผาก ลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินไปที่สวิตส์ไฟ
แชะ พรึ่บ! พี่แกปิดไฟซะเฉยๆ
แชะ พรั่บ! หนูลุกขึ้นเดินตามไปเปิดไฟ พร้อมส่งเสียงง้องแง้ง
“ฮือ.... ใจร้าย ใจดำ” แง้ เค้าไม่ยอม หนูเบะหน้า
“เฮ้อ.... อีกนิดนึงค่ะ ใกล้ละๆ อีกนิดเดียว” พี่แกยื่นมามาทำหน้ายียวน
“อีกนิดอะไร?”
“อีกนิดก็ใกล้น่ารักแล้วค่ะ”
“อีพี่บ้า”
แชะ พรึ่บ! พี่แกปิดไฟอีก
แชะ พรั่บ! หนูเปิดไฟอีกครั้ง
แชะ พรึ่บ....
หมับ.....จ๊วบ....
ยังไม่ทันที่หนูจะได้เอื้อมมือไปเปิดไฟอีกครั้ง คนตัวสูงกว่าก็ตวัดแขนยาวๆ มารั้งเอวหนูเข้าไปหาแล้วโน้มใบหน้าลงมาปิดปาก ทำให้หนูไม่สามารถโต้เถียงอะไรได้ ซ้ำยังรั้งร่างพาเดินห่างออกมาจากสวิตส์ไฟมาล้มตัวลงที่เตียงกว้าง
“อื้ม....” หนูปรือตาเคลิ้มๆ ลืมไปว่ากำลังเถียงกันเรื่องเปิดไฟ ลืมว่าอยากจะอ่านนิยาย
หัวใจมันเต้นตึ้กตั้ก หวั่นไหว และหันไปลุ้นระทึกเรื่องอื่นแทน อ๊า....
อกพรั่นประหวั่นไปถึง “สิ่งนั้น”
ตำมั่ว ตำซั่ว ตำแตง จะต้องออกแรงนั่งตำทำไม
ตับหวาน น้องสนใจไหม ตับหวาน น้องสนใจไหม ตับหมู ตับไก่ อยากให้น้องกินตับ...
อ้าว...แล้วไหนอ่ะตับ น้องฐาขมวดคิ้วมุ่น เมื่อพยายามใช้สายตาจ้องมองในความมืด ก็พบเหตุการณ์สยองขวัญสั่นประสาท นั่นคือ.....พ่อค้าตับเจ้าเก่านอนอู้ ไม่ขยับเขยื้อนไปแล้ว
“พี่คะ...พี่โต้ง........” หนูแอบเขย่าเบาๆ มีการเอานิ้วไปแตะที่จมูกเพื่อพิสูจน์พลิกศพ แต่โชคดีที่ยังหายใจอยู่
“........ฟรี้.......” นิ่งเงียบพร้อมกับแอบกรนเบาๆ
อุ๊ยตายว้ายกรี๊ด ถ้าจะหลับง่ายขนาดนี้ .....
น้องฐาอารมณ์เสียเหลือจะเอ่ย....
พี่คะ... ทำไมเป็นคนแบบเน้.... รู้ไหมว่าทำแบบนี้มันค้าง!!
มันค้าง!!
มันค้างมากกว่าหนังสือที่อ่านเสียอีก!!
แง้....ไม่ยอม โป้งๆ ปล่อยเค้าเลยน้า
“ฮือ.... พี่โต้งบ้า.... ฮือ......ง้า....แง้~~~~~” หนูร้องเสียงแหลม พร้อมกับดิ้นไปดิ้นมาอยู่ในอ้อมกอดที่รัดแน่น แต่ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านั้น จนคนที่นอนข้างๆ ลืมตาขึ้นมาพร้อมขมวดคิ้วมุ่นที่ขัดการนอนของเขา
“พอๆ ค่ะ หูจะแตกแล้ว ตกลงไม่นอนใช่ไหมคะ? ถ้างั้น....” พี่โต้งยิ้มเจ้าเล่ห์ ทำให้หนูเบิกตากว้างอย่างไม่วางใจ
ตุ้บ!! ….. ปึ้ง!!
และแล้วหนูก็โดนหิ้วออกมาวางไว้หน้าห้องอ่ะค่ะ แล้วพี่แกก็ปิดห้องกลับไปนอนต่อ ปล่อยหนูตีอกชกพื้น นอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่หน้าห้องแก นิยงนิยายก็ไม่มีอารมณ์อ่านมันแล้วค่ะ
ชิน่าเบื่อ... คนแก่แล้วก็อย่างนี้แหละ แค่ขายตับไปจานเดียวก็ทำเป็นหมดเรี่ยวหมดแรง นอนหลับมันทั้งปี นอนทุกวันไม่เบื่อบ้างรึไงยะ ฮึ่มๆๆ
.................
............................
ตั้งใจว่าจะอยู่ด้วยหลายๆ วันให้หายคิดถึง แต่พอพบเหตุการณ์ทำร้ายร่างกาย จิตใจกะเทยน้อยไปเมื่อคืนนี้ทำให้เกิดอาการงอนลงตับ เลยต้องบังคับขู่เข็ญคุณเจ้าของร้านจอมอู้ให้ลุกจากแท่นทองของรักมาส่งตั้งแต่เช้าตรู่ จะได้ไม่ต้องกลับมานอน “ค้าง” ห้องคุณพี่ ให้มันสะเทือนอกสะเทือนใจอีก
“ฮ้าว.....กลับไปทำไมแต่เช้าแบบนี้คะ” พี่โต้งเอามือปิดปากหาวขณะขับรถพาหนูกลับหอชายในตอนเช้า
“เช้าสิดี เดี๋ยวเพื่อนหนูออกไปเรียนกันหมดเดี๋ยวเข้าห้องไม่ได้แบบเมื่อวานอีก”
“ก็แต่งสาวไปเหมือนเมื่อวานสิคะไม่เห็นยากเลย” พี่โต้งตอบกลับมา
“ต้องกลับไปเอาหนังสือเรียนด้วย” หนูตอบเสียงแข็งๆ จนอีกฝ่ายหันมามอกงหาความผิดปกติ
“นี่... ถามจริงเถอะ ไม่งอนใช่ป่ะ”
“งอนเรื่อง?”
“ก็...เรื่องที่ให้ออกมาอ่านหนังสือนอกห้องไงคะ”
โอ๊ย... พี่คะ เรื่องอ่านหนังสือนอกห้องอ่ะมันไม่น่าเคืองเท่าเรื่องที่พี่อู้ไม่ขายตับหรอกค่า....
“ต๊าย....หนูเหรอคะจะงอน ไม่งอนเลยสักนี้ดเดียวค่า” หนูทำเสียงแหลมใส่ทันที
“เสียงเหมือนประชดเลยเนอะ” โอ๊ย....ถ้าไม่รู้ว่าประชดก็ไปโดดตึกตายเถอะพ่อ...
หนูสะบัดหน้าพรืดหันไปมองนอกหน้าต่างรถอย่างงอนๆ
“โอ๋ๆ... อย่างอนน่า พี่เพลียนี่นา ง่วงด้วย แล้วพี่ก็ไม่ชอบนอนเปิดไฟอ่ะ”
“ค่าๆ หนูเข้าใจ แก่แล้วก็อย่างนี้แหละ นิดๆ หน่อยก็เพลีย หมดแรงข้าวต้ม เตะปี๊บไม่ดัง” หนูร่ายยาวเหน็บแนมไปตามเรื่อง
“จ้า ขอโทษจ้ะที่แก่แล้ว ใครจะไปสู้แม่สาวแรงสูง แรงดีไม่ตก กี่ยกก็ไม่มีเหนื่อยอย่างหนูล่ะคะ” พี่แกชมกลับมาแต่ส่ายหน้ายิ้มๆ ไม่รู้ว่าชมหรือด่ากันแน่ หนูหน้าบูดเป็นตูดเป็ดไปตลอดทางจนถึงหอ ซึ่งมาถึงนี่ก่อนเจ็ดโมงเสียอีกค่ะ
“วันนี้พี่เรียนเสร็จห้าโมงเย็นโน่นแน่ะ เดี๋ยวพี่โทรหานะคะ ไปทานข้าวเย็นด้วยกัน” พี่โต้งบอกก่อนหนูจะก้าวเท้าออกจากรถ ที่จริงก็ยังงอนๆ อยู่ แต่ก็อดดีใจไม่ได้อยู่ดี ที่อีกฝ่ายยังยอมง้องอนจึงทำฟอร์มปั้นหน้าบึ้งหันไปพยักหน้าตอบรับ
แต่พอเห็นรอยยิ้มหวานที่เขายิ้มตอบแล้วมันก็อดใจอ่อนไม่ได้ทุกที
หวา.... เบื่อพ่อค้าตับอ่ะ กลยุทธการขายเป็นเลิศจริงๆ
พอเห็นยิ้มสวยแบบนี้แล้ว.... เฮ้อ....
คนใจอ่อน.....อ่อนใจ ทู้กกกกกกที .............................
ตอนนี้มาสั้นๆ ให้หายคิดถึงไปก่อนนะคะ อิอิ....เตรียมพร้อม... กระสอบทรายกันน้ำ
กลับมาแล้ว “น้องฐา” season 2 ไร้สาระ รั่ว ออกทะเล
ไม่มีอะไรนอกจาก “มั่ว มัน ฮา”
อย่างไรก็ดี เนื่องจาก ภาคนี้จะเคลียร์ทุกอย่างแล้ว
เนื้อหาก็คงเข้มข้นรสจัดขึ้นนิดหน่อยก็โปรดทำใจนะคะ
ตัวละครบางตัวเพิ่มบทบาทเข้ามาบ้าง
บางเรื่องที่เคยปูไว้บางๆ ก็จะหนักแน่นขึ้น ก็ว่ากันไป
ใครบางคนที่หลายคนเรียกร้องให้กลับมาก็ลองลุ้นกันเองว่าจะกลับมาไหม กลับมาตอนไหน
ติดตามภาคต่อ ของกะเทยป่วงคนนี้ต่อไปว่าชีวิตวุ่นๆ ของชีจะลงเอยอย่างไร
.....ที่นี่..... เร็วๆ นี้.....
(ลงท้ายเหมือนโฆษณาหนังอ่ะ ฮาๆๆ)
รักคนอ่านเด้อค่า ๛NaaribuS๛ // นิเจ้าเก่าจ้า