คราวก่อนหน้านั้นมาแบบสั้น ๆ งวดนี้จึุงจัดแบบยาว ๆ แทนเป็นการชดเชย
เชิญตามอ่านกันได้เลยค่ะ และเหมือนเดิม รักคนอ่านที่สุดเลย
---------------------------
ดวงใจจ้าวมังกร
Act.9 เปิดใจ
...หลังจากที่น้ำฟ้าพูดคุยกับแองเซลได้พักใหญ่ ๆ ไม่นานนักดราโกก็เดินอารมณ์ดีกลับห้องพัก แต่ก็ต้องแปลกใจที่เห็นน้ำฟ้ายืนเหม่ออยู่ที่ตรงระเบียง ไม่ได้รับรู้ถึงการมาของเขาเลยแม้แต่น้อย
“เด็กน้อย เจ้าเป็นอะไรไป มีอะไรในใจหรือเปล่า?”
ดราโกเดินเข้าไปใกล้ ๆ แล้วโอบกอดเด็กหนุ่มจากด้านหลังอย่างอ่อนโยน ทำเอาคนถูกกอดสะดุ้ง แล้วจึงหันกลับมาหามังกรหนุ่ม
“เอ่อ...ดราโก”
น้ำฟ้าในตอนนี้ เปลี่ยนมาเรียกชื่อของราชามังกรแทนแล้ว ทั้งนี้เพราะก่อนหน้านั้นถูกอีกฝ่ายบังคับให้เรียก แต่พอเด็กหนุ่มยื่นข้อเสนอว่าให้ดราโกเลิกเรียกเขาว่าเด็กน้อยสักที แต่มังกรหนุ่มก็ทำเป็นเรียกบ้างไม่เรียกบ้างเสียอย่างนั้น
“หือ มีอะไรอย่างนั้นหรือ?”
“คือ...”
น้ำฟ้ามีท่าทางลังเลว่าจะพูดดีหรือไม่พูดดี แต่เพียงครู่เดียวเด็กหนุ่มก็ต้องอุทานด้วยความตกใจ เมื่อร่างของตนถูกดราโกช้อนอุ้มไปที่เตียง และพอวางร่างของเด็กหนุ่มลงบนนั้น ราชามังกรที่ขยับกายขึ้นพลิกคร่อมร่างเล็ก ก็เอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง
“ว่าไง เจ้ามีความในใจอะไรที่อยากจะเล่าให้ข้าฟัง ว่ามาสิ”
น้ำฟ้าขมวดคิ้วนิด ๆ อย่างหมั่นไส้ต่อการกระทำเอาแต่ใจตัวเอง และชอบวางอำนาจของอีกฝ่าย แม้หลัง ๆ มานี่มังกรหนุ่มจะเริ่มอ่อนโยนต่อเขาทั้งคำพูดและการกระทำ แต่เจ้านิสัยเสีย ๆ นี่ก็ยังแก้ไม่หายสักทีสิน่า
“คือ...ผม...”
เด็กหนุ่มเริ่มลังเล ลองมาพูดคุยกันในท่านี้ ขืนพูดผิดหูเข้าหน่อย คนที่น่าจะโชคร้ายก็คงไม่พ้นเขาคนนี้นั่นล่ะ
“ทำไม?”
ดราโกถามต่ออย่างสงสัย ดูเหมือนเด็กน้อยผู้น่ารักของเขาจะมีอะไรปิดบังเขาอยู่แน่
“คือ...แบบว่า ถ้าผมจะกลับ...”
น้ำฟ้าคิดเรียบเรียงคำพูดตะกุกตะกัก แต่คำว่ากลับของเด็กหนุ่มนั้นทำให้คนฟังขมวคคิ้วยุ่งแล้วโพล่งย้อนถามเสียงดุ
“กลับ? กลับไปไหน!?”
“กลับ...แบบว่า กลับฮาร์โมเนียน่ะครับ”
เด็กหนุ่มบอกแล้วรีบหลบตาเพราะเกรงว่าอีกฝ่ายจะโมโหเขา ซึ่งก็ไม่แตกต่างจากที่คิด ดราโกนั้นเม้มริมฝีปากแน่น แล้วจับคางของอีกฝ่ายพลิกให้หันกลับมาเผชิญหน้าตน
“จะกลับทำไม! ข้าไม่ให้เจ้ากลับ!”
น้ำฟ้าสะดุ้งเฮือกเพราะใบหน้าและแววตาดุดันของอีกฝ่าย น้ำตาเหมือนจะปริ่ม ๆ ด้วยความกลัวแต่เพราะศักดิ์ศรีและความไม่ยอมแพ้ ทำให้เขาเชิดหน้าสู้ทั้งที่น้ำใส ๆ คลอเบ้าตา ภาพที่เห็นทำให้คนที่กำลังอารมณ์ร้อนชะงักกึก พลางผ่อนลมหายใจยาว แล้วปล่อยมือที่เชยคางอีกฝ่ายลง
“ข้าไม่อยากให้เจ้ากลับไปไหน อยากให้อยู่กับข้าตลอดไป... ก็แค่นั้นเอง”
มังกรหนุ่มเสียงอ่อนลงทำเอาน้ำฟ้าหัวใจกระตุกวูบ น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ถูกปล่อยให้ไหลรินออกมาเงียบ ๆ ทำให้ราชามังกรต้องใช้ปลายนิ้วกรีดซับน้ำตาของเด็กหนุ่มอย่างแผ่วเบา
“ไม่เอาสิ อย่าร้องไห้ ข้าชอบน้ำตาของเจ้ายามเจ้าครวญครางอยู่ใต้ร่างของข้าก็จริง แต่น้ำตาแบบนี้ข้าไม่ชอบเอาเสียเลยรู้ไหม”
ดราโกเอ่ยออกมาตามตรง จนคนที่กำลังอยู่ในอารมณ์ซึ้งต้องขมวดคิ้ว แล้วทำหน้ามุ่ยใส่
“คนบ้า...ลามก”
“ถ้าข้าไม่ลามก แล้วเราจะได้รู้จักผูกพันกันแนบแน่นแบบทุกวันนี้หรือไง”
มังกรหนุ่มเอ่ยเข้าข้างตัวเอง ทำให้น้ำฟ้าทั้งฉุนทั้งหมั่นไส้
“บ้า...ผมไม่เคยเห็นใครหน้าด้าน หลงตัวเอง อย่างคุณมาก่อนเลยนะ”
“รู้ไหมว่าคนที่จะหลงตัวเองได้ คนผู้นั้นต้องมีดีพอตัว ไม่อย่างนั้นก็ทำไม่ได้หรอก”
ดราโกยังคงไม่สนใจคำต่อว่า มิหนำซ้ำยังเอ่ยชมตัวเองเสียอีก จนน้ำฟ้าหลุดยิ้มอย่างเอือมระอาออกมาได้ นั่นทำให้มังกรหนุ่มยิ้มตามไปด้วย
“ดีแล้ว แบบนี้ล่ะ ข้าชอบรอยยิ้มของเจ้าแบบนี้มากกว่า”
“ดราโก...”
น้ำฟ้าพึมพำเรียกชื่อของอีกฝ่ายแผ่วเบา ทางด้านดราโกนั้นโน้มศีรษะลงมาพรมจูบไปทั่วใบหน้าหวานของเด็กหนุ่มอย่างอ่อนโยน จนเมื่อหนำใจแล้วจึงเอียงกายลงข้าง ๆ แล้วรวบร่างของน้ำฟ้ามากอดแนบอกเอาไว้เฉย ๆ
“เจ้าจะกลับไปที่นั่นทำไม กลับไปก็มีแต่อันตรายเปล่า ๆ สู้อยู่ที่นี่อยู่กับข้า ให้ข้าปกป้องเจ้าดีกว่านะ”
ดราโกเอ่ยขึ้นเป็นประโยคแรก หลังจากที่ทั้งคู่เงียบกันมาสักพัก
“แต่ว่า...ประชาชนที่นั่น”
“ประชาชน? ทำไม?”
ดราโกเอ่ยถามอย่างสงสัย ทางด้านน้ำฟ้าหลังจากหลุดปากไปแล้ว ก็กำลังคิดหนักว่าจะเล่าความจริงเรื่องแองเซลดีไหม
“เอ่อ...ผมได้ยินมาว่า การปกครองของราชินีคนปัจจุบัน ทำให้ประชาชนชาวฮาร์โมเนียต้องเดือดร้อน ...ดังนั้น ผมเลยอยากกลับไปแก้ไข ...อย่างน้อยถ้าผมเป็นเจ้าชายที่ว่านั่นจริง นี่ก็คือหน้าที่ที่ผมต้องพึงรับผิดชอบต่อมัน”
ดราโกขมวดคิ้ว แล้วถามกลับไปเสียงห้วน
“ได้ยินมาจากใคร?”
มังกรหนุ่มมั่นใจว่าลูกน้องของเขา ไม่ว่าใครที่รู้เรื่องฮาร์โมเนีย ย่อมไม่มีทางปริปากพูดเรื่องนี้กับน้ำฟ้าเด็ดขาด แต่น้ำฟ้าที่ไม่เคยได้ไปที่ฮาร์โมเนียเลย รู้เรื่องพวกนี้ได้ ก็ย่อมแสดงว่ามีใครบางคนที่รู้เรื่องฮาร์โมเนียดีบอกกับเจ้าตัวนั่นเอง
“ถ้าผมบอกออกไปคุณจะต้องไม่โกรธ แล้วไม่ทำร้ายเขา สัญญากับผมสิครับ”
น้ำฟ้าที่จับอารมณ์จากน้ำเสียงของราชามังกรได้เอ่ยร้องขอ นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนสั่นระริกด้วยความเป็นกังวล จนคนมองใจอ่อนอีกครั้ง
“ก็ได้...ข้าให้สัญญา รีบบอกมาได้แล้ว”
น้ำฟ้าลอบถอนหายใจอย่างโล่งอกแล้วจึงเอ่ยนามที่เพิ่งได้ยินมาไม่นานให้อีกฝ่ายฟัง
“เขาชื่อแองเซลครับ เป็นหัวหน้าองค์รักษ์ของฮาร์โมเนีย เขามาตามหาผม เพื่อที่จะให้กลับไปรับตำแหน่งที่ฮาร์โมเนียด้วยกัน”
ดราโกมีสีหน้าเดือดดาลจัดในวูบแรก ที่ปราสาทมังกรของเขาโดนคนนอกลอบเข้ามาภายในจนถึงห้องนอนของเขาแบบนี้ แม้เขาจะมั่นใจว่าอีกฝ่ายจะเข้ามาในห้องนี้ไม่ได้ แต่แค่นี้มันก็หยามศักดิ์ศรีราชามังกรอย่างเขามากพอแล้ว
“ดราโก...คุณสัญญาแล้วไงครับว่าจะไม่โกรธ... นะครับ อย่าโกรธนะครับ”
น้ำฟ้าดึงแขนเสื้อของอีกฝ่ายแล้วช้อนตามองอย่างวิงวอน การ ‘อ้อน’ ที่นาน ๆ ครั้งอีกฝ่ายจะมีต่อกันที ทำให้ไฟโทสะของราชามังกรเริ่มถูกดับลงทีละน้อย
“ไม่โกรธก็ได้...แล้วเจ้านั่นมันอยู่ไหน แอบลอบพบเจ้ามานานแล้วหรือยัง?”
น้ำฟ้าชะงักกับถ้อยคำทะแม่ง ๆ นั่น พอเห็นน้ำฟ้าไม่ตอบ ดราโกก็ตีความไปอีกแบบ
“ทำไมถึงบอกไม่ได้ กลัวข้าจะทำอะไรมันอย่างนั้นหรือไง มันสำคัญกับเจ้ายิ่งกว่าข้าสินะ!”
เด็กหนุ่มจ้องมองมังกรพาลข้างกายเขา ก่อนจะตัดสินใจผลักร่างของดราโกให้นอนราบไปกับที่นอน แล้วคร่อมกายทับ ก่อนจะโน้มใบหน้าลงจูบที่ริมฝีปากมังกรหนุ่มอย่างรวดเร็ว จนอีกฝ่ายตั้งตัวไม่ทันและนิ่งอึ้งไปชั่วครู่
“สงบสติอารมณ์ได้หรือยัง ...หือ?”
น้ำฟ้าถามเสียงเรียบ ทั้งที่ใบหน้าของตัวเองก็แดงระเรื่อ แถมหัวใจยังเต้นแรงด้วยความตื่นเต้นอีกด้วย
“อีกนิดได้ไหม...ยังรู้สึกโกรธอยู่อีกหน่อย ๆ น่ะ”
ดราโกบอกหลังจากที่ตั้งสติได้ รอยยิ้มของมังกรหนุ่มทำให้น้ำฟ้าทำเสียงฮึในลำคอ แล้วจึงโน้มใบหน้าลงไปหมายจะจูบอีกฝ่ายเบา ๆ แต่แล้วกลับถูกฝ่ามือของคนเจ้าเล่ห์กดรั้งศีรษะของตนเอาไว้ พลางแลกจูบเร่าร้อนต่ออีกครู่ใหญ่ จนน้ำฟ้าต้องพักหอบหายใจหลังจากที่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระ
“คนขี้โกง...ชอบเอาเปรียบ”
ดราโกหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ แล้วจึงยันกายลุกขึ้นพร้อมกับที่จับน้ำฟ้านั่งบนตักเขา
“เอาล่ะ ข้าสงบสติอารมณ์ได้แล้ว จะให้ข้าพบองค์รักษ์ของเจ้าได้ที่ไหนกัน หือ?”
น้ำฟ้าที่ถูกจับนั่งตักหันหน้าหามังกรหนุ่มหน้าแดงนิด ๆ เขาเองอยากจะลงจากตักของอีกฝ่ายแต่ก็เกรงว่าจะทำให้ดราโกโมโหอีก
“เห็นเขาบอกว่าให้ผมเรียกหาเขา ถ้าอยากจะกลับไปพร้อมเขาน่ะครับ”
พอได้ฟังคำของน้ำฟ้า จ้าวมังกรก็แค่นยิ้มอย่างไม่ค่อยจะสบอารมณ์นัก
“โอหัง! คิดว่าเก่งกาจมากนักรึ ถึงจะพาเจ้าหนีพ้นข้าไปได้!”
“ดราโก...”
น้ำฟ้าเรียกชื่ออีกฝ่ายอ้อน ๆ ทำให้มังกรหนุ่มทำหน้าหงิกใส่
“ไปเรียกมันมาได้แล้ว ขืนฟังเจ้าพูดถึงมันบ่อย ๆ มีหวังข้าคงจะเปลี่ยนใจแน่!”
“ผมก็ว่างั้นล่ะ”
น้ำฟ้ารับคำเซ็ง ๆ เขายันกายหมายจะลุกขึ้นยืนแต่ก็ต้องชะงัก เมื่ออีกฝ่ายฉุดรั้งมือเขาไว้แล้วกระซิบบอก
“ข้าดีใจนะที่เจ้าบอกเรื่องนี้กับข้า แทนที่จะแอบหนีข้าไปเงียบ ๆ”
เด็กหนุ่มจ้องมองราชามังกรตอบ แล้วจึงแย้มยิ้มอ่อนโยนส่งให้
“เพราะผมเชื่อใจและไว้ใจคุณน่ะสิครับ ว่าคุณจะต้องเข้าใจในสิ่งที่ผมจะทำ”
“น้ำฟ้า...”
ดราโกเรียกชื่อของเด็กหนุ่มเสียงแผ่ว นัยน์ตาสีนิลส่งมอบความรักอันไม่คิดจะปิดบัง จ้องมองน้ำฟ้านิ่งเสียจนเด็กหนุ่มต้องหลบสายตาด้วยความเขินอาย แล้วรีบลุกจากร่างของอีกฝ่ายลงมาจากเตียง พลางรีบเดินตรงไปยังระเบียงห้องทันที
“เอ่อ...คุณแองเซล คุณยังอยู่ไหม?”
น้ำฟ้าตะโกนเรียก แต่ก็เงียบไม่ปรากฏร่างขององค์รักษ์หนุ่มให้เขาเห็น
“หึ! ท่าทางจะเหลวล่ะมั้ง”
ดราโกที่ยืนพิงอยู่ตรงประตูทางเข้าออกระเบียงเยาะยิ้ม เขาไม่ได้บอกน้ำฟ้าหรอกว่าเขาจงใจปล่อยจิตสังหารของตัวเองออกไปเต็มที่ และถ้าอีกฝ่ายมีฝีมือจริงก็ย่อมจับสัมผัสพลังของเขาได้แน่
“คุณแองเซลครับ ยังอยู่ไหมครับ?”
น้ำฟ้าไม่ได้สนใจกับคำค่อนขอดของมังกรหนุ่ม เขายังคงเรียกชื่ออีกฝ่ายต่อ ก่อนจะสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงของแองเซลตอบมา ทั้งที่ไม่ยอมปรากฏกายให้เห็น
“ถ้าข้าปรากฏกายแล้ว มังกรที่อยู่แถวนั้นเขาจะไม่ว่าอะไรหรือขอรับ”
“เอ๋? ทำไมล่ะครับ?”
น้ำฟ้าถามอย่างงุนงง เขาได้ยินเสียงถอนหายใจของแองเซลเบา ๆ จากนั้นร่างของเหยี่ยวขาวตนหนึ่งก็บินโฉบผ่าน แล้วกลับกลายเป็นร่างของชายหนุ่มมีปีกเหมือนที่เจอเมื่อก่อนหน้านั้น ก่อนที่เจ้าตัวจะโค้งให้กับน้ำฟ้า แล้วหันมาโค้งคำนับให้กับดราโก
“ข้าขออภัยที่บังอาจล่วงเกินบุกรุกเข้าเขตแดนของท่านมา แต่ด้วยความจำเป็นของฮาร์โมเนีย ทำให้ข้าไม่อาจเลือกทางอื่นได้”
ดราโกทำเสียงฮึในลำคอ แต่เขาก็ยกมือขึ้นดีดนิ้ว เขตแดนตรงระเบียงก็พลันหายไป เห็นดังนั้นแองเซลจึงบินลงมายังระเบียงและทันทีที่ปลายเท้าแตะพื้นปีกสีขาวของเขาก็อันตรธานหายไป จากนั้นองค์รักษ์หนุ่มก็ตรงเข้าไปคุกเข่าต่อหน้าน้ำฟ้า หยิบชายเสื้อคลุมมาจุมพิตแผ่วเบาด้วยความเคารพรัก
“เจ้าชายของข้า นับแต่นี้เป็นต้นไป ชีวิตของข้าขอยอมพลีให้ท่านแต่เพียงผู้เดียว”
“เอ่อ คุณแองเซลครับ อย่าคุกเข่าแบบนี้เลยครับ ลุกขึ้นเถอะ”
น้ำฟ้ารู้สึกไม่ค่อยดีที่มีคนมาเคารพนอบน้อมเขาแบบนี้ ทั้งที่อีกฝ่ายนั้นอายุมากกว่าเขาหลายปีนัก
“เจ้าเป็นชาวเผ่าวิหค?”
ดราโกที่ยืนอยู่ห่าง ๆ เดินเข้ามาใกล้แล้วโอบกอดน้ำฟ้าทันทีที่แองเซลลงมาถึงพื้น ส่วนแองเซลที่ได้รับคำสั่งจากน้ำฟ้าก็ลุกขึ้นแล้วยืนเผชิญหน้ากับทั้งคู่
“ขอรับ แต่ข้าเป็นลูกครึ่งมนุษย์กับเผ่าวิหค”
แองเซลหันไปตอบคำถามนั้น ซึ่งดราโกก็พยักหน้ารับรู้ ส่วนน้ำฟ้าทำหน้างุนงง
“อ้าว? ไม่ใช่ว่า คนฮาร์โมเนียจะมีปีกบินได้แบบนี้ทุกคนหรอกหรือครับ”
เด็กหนุ่มหันไปถามแองเซล ซึ่งอีกฝ่ายก็ยิ้มให้เขาแล้วตอบอย่างนอบน้อม
“ไม่หรอกขอรับ ชาวฮาร์โมเนียหากไม่ใช่จอมเวทแล้ว ก็ล้วนแต่เป็นมนุษย์ธรรมดาทั่วไป แม้จะมีพลังมากแค่ไหน แต่ก็บินไม่ได้หรอกขอรับ”
“ใช่! และถึงเจ้าจะบินได้ก็ตาม แต่ข้านี่ล่ะจะหักปีกของเจ้าตั้งแต่เราเจอกันตั้งแต่วันแรกให้ดู”
ดราโกเสริมมาแล้วจ้องมองคนรักนิ่งด้วยความหึงหวง จนน้ำฟ้าต้องลอบถอนหายใจอย่างเอือมระอา
“ถึงบินได้ก็ใช่ว่าจะคิดบินหนีคุณไปสักหน่อย”
น้ำฟ้าพึมพำ ทำให้ราชามังกรต้องทำเสียงฮึในลำคออย่างไม่สบอารมณ์
“ฮึ! ให้มันได้อย่างปากพูดเถอะ แล้วใครหน้าไหนกัน ที่กล้ากระโดดลงจากเกาะเพื่อหนีข้าน่ะ”
แองเซลเหลือบมองทั้งคู่ แล้วนิ่งคิด ความสัมพันธ์ระหว่างดราโกและน้ำฟ้านั้นพัฒนาไปมากกว่าที่เขาได้ยินยิ่งนัก นี่ถ้าเขาพบตัวเด็กหนุ่มช้ากว่านี้อีกนิด ก็ไม่แน่ใจว่า จะได้พาตัวกลับไปด้วยกันหรือเปล่า
“ช่างเรื่องเก่ามันเหอะน่า นี่คุณแองเซล ดราโกเขาอนุญาตให้ผมกลับไปฮาร์โมเนียพร้อมคุณได้แล้วนะ”
น้ำฟ้าเปลี่ยนเรื่องคุย เพราะเห็นว่าราชามังกรเริ่มอารมณ์เสียขึ้นมาอีกครั้ง
“เป็นข่าวดีจริง ๆ ขอรับ เท่านี้ฮาร์โมเนียก็พ้นภัยพิบัติสักที”
แองเซลเอ่ยยินดีออกมาจากใจจริง แต่แล้วเขาก็ต้องชะงักเมื่อเสียงเข้มของคนแถวนั้นดังขัดขึ้น
“ใครจะยอมให้พวกเจ้าเดินทางกันลำพัง ข้าจะไปด้วย!”
“เอ๋? คุณนี่นะจะไปด้วย ...จะดีหรือครับ?”
น้ำฟ้าถามอย่างสงสัย แต่ลึก ๆ ในใจแล้ว หากมีมังกรหนุ่มติดตามไปเขาก็คงอุ่นใจมากขึ้น
“จะได้หรือขอรับ...”
หากแต่แองเซลกลับถามอีกอย่างด้วยใบหน้าเป็นกังวล เขาก็ดีใจหรอก ถ้าได้ดราโกมา มีราชามังกรเป็นฐาน ใครจะกล้าต่อกร แต่จากสิ่งที่เขารู้มามันไม่น่าจะง่ายเช่นนี้
“แล้วทำไมถึงจะไม่ได้?”
ดราโกหันมาถามเสียงห้วน ก่อนจะชะงัก เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูห้องเบา ๆ
“ใคร!”
“ข้าเองขอรับ ท่านดราโก”
เสียงของครีอุสตอบกลับมา ดราโกเหลือบไปมองแองเซล แล้วจึงหันไปทางประตู
“เข้ามาได้”
“ขอบคุณขอรับ”
ครีอุสเดินเข้ามา เขาชะงักเท้าเล็กน้อยเมื่อเห็นแองเซล แต่ก็ยังเดินตรงเข้ามาแล้วโค้งทำความเคารพให้กับผู้เป็นนายตามปกติ
“ข้ารู้สึกถึงการปลดเขตแดน จึงได้เข้ามาถามถึงสาเหตุ ...แต่คิดว่าพอจะรู้บ้างแล้วล่ะขอรับ”
ครีอุสเปรยขึ้น แล้วจึงหันไปทางแองเซล
“ที่สัญญาณผิดปกติทางประตูใหญ่ดังขึ้นวันนี้ ฝีมือเจ้าสินะ”
แองเซลชะงัก แต่ก็โค้งศีรษะน้อย ๆ ให้อีกฝ่าย
“ครึ่งหนึ่งขอรับ แต่อีกครึ่งเป็นผลจากเจ้ากระรอกตัวน้อยน่ารักเพื่อนร่วมทางของข้า”
ครีอุสยิ้มที่มุมปาก แล้วจึงแสร้งทำเป็นหายใจยาว ก่อนจะเปรยดัง ๆ กระทบใครบางคน
“เห็นทีต้องคิดมาตรการป้องกันขึ้นมาใหม่ ถ้าใครมีความคิดดี ๆ ให้ ก็คงจะดีมิใช่น้อยทีเดียว”
ดราโกหันมามองคนสนิท เขายักไหล่นิด ๆ แล้วจึงบอกอีกฝ่ายออกไปตามตรง
“ข้ายังไม่มีเวลาว่างคิดเรื่องงานตอนนี้หรอกน่าครีอุส ข้าจะไปฮาร์โมเนียกับน้ำฟ้า”
ครีอุสชะงักกึก แล้วมองไปยังคนพูดอย่างตกใจ
“ท่านจะไปไหนนะขอรับ?”
“ฮาร์โมเนีย ข้าจะช่วยน้ำฟ้าจัดการพวกเสี้ยนหนามนั่นให้หมดสิ้น แล้วจะได้พาเขากลับมาอยู่กับข้าที่นี่โดยหมดห่วงอย่างไรเล่า”
ดราโกบอกวัตถุประสงค์ของตนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ด้านน้ำฟ้าฟังแล้วก็ยิ้มตามอย่างเขินอายไปด้วย แต่ครีอุสกลับมีสีหน้าเคร่งขรึมระคนเหนื่อยใจแทน
“ข้าชักเห็นด้วยกับท่านแล้วล่ะว่า ผู้อาวุโสทั้งสี่คิดผิดที่สนับสนุนให้ท่านเป็นราชา!”
ครีอุสบอกอย่างหงุดหงิด ซึ่งดราโกก็เลิกคิ้วมองอีกฝ่ายอย่างสงสัย ส่วนน้ำฟ้านั้นมองทั้งคู่อย่างนึกทึ่งโดยเฉพาะกับครีอุส เพราะทั่วทั้งปราสาทมังกรนี่ มีเพียงครีอุสเท่านั้นที่กล้าต่อล้อต่อเถียงกับผู้เป็นนายเหนือหัว อย่างไม่คิดจะยำเกรง ถ้าอีกฝ่ายเป็นฝ่ายผิด ส่วนดราโกแม้จะมักโวยวายหรือทำท่ารำคาญใจใส่ แต่ก็ยังคงฟังในสิ่งที่ครีอุสตักเตือนอยู่ดี ซึ่งถ้าบอกว่าทั้งคู่เป็นพี่น้องกันจริง ๆ น้ำฟ้าก็คงเชื่ออย่างสนิทใจ
“ท่านดราโก! ตอนท่านปฏิญาณตนเป็นราชา ท่านจำกฎเหล่านั้นได้บ้างไหมขอรับ!”
ครีอุสโพล่งใส่ราชามังกร เพราะหงุดหงิดที่ยังคงได้เห็นสีหน้าไม่ทุกข์ร้อนของอีกฝ่าย
“กฎคร่ำครึพวกนั้นน่ะรึ จะจำใส่สมองทำไมให้มันหนักเล่า”
ดราโกยักไหล่ ทำเอาคนพูดต้องข่มอารมณ์ให้ใจเย็น ส่วนแองเซลนั้นพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ได้ยินราว ๆ นึกแล้วเชียว แว่ว ๆ ออกมา
“ถ้าอย่างนั้นท่านฟังที่ข้าพูดให้ดีนะขอรับ ... เผ่ามังกรเป็นเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งเป็นอันดับต้น ๆ ของดาวเคราะห์คารีนา ดังนั้น “ห้าม” ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของเผ่าพันธุ์มนุษย์ และเผ่าพันธุ์อื่น ๆ ไม่ว่าจะกรณีใด ๆ ที่อาจจะนำมาสู่ความบาดหมางระหว่างเผ่าพันธุ์มาสู่กัน หากเผ่ามังกรทำผิดกฎบัญญัติ กองทัพเทพของเผ่าเทพที่เป็นเผ่าพันธุ์ผู้นำแห่งดาวเคราะห์นี้ จะทำการลงโทษเผ่าที่ละเมิดข้อห้าม ส่วนโทษก็จะหนักหนาลดหลั่นกันไปตามที่กระทำความผิด”
ดราโกขมวดคิ้วยุ่งแล้วนึกทบทวนความจำที่ร่ำเรียนมา ก็ดูเหมือนว่าจะมีกฎคล้าย ๆ แบบนี้ให้เขาต้องอ่านท่องจำอยู่เหมือนกัน
ทางด้านน้ำฟ้าชะงักกึกกับเรื่องที่ได้ยิน พอหันมาทางแองเซล องค์รักษ์หนุ่มก็พยักหน้ายืนยันว่าเท่าที่เคยได้รับรู้มาจากจอมปราชญ์ไทนอส ก็เป็นเรื่องราวทำนองนี้ ดังนั้นการที่จะหวังให้ดราโกไปช่วยจัดการพรรคพวกทางฝั่งราชินี ก็คงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
“พวกเผ่าเทพนั่น จะออกกฎอะไรให้มันยุ่งยากนักหนาก็ไม่รู้!”
ดราโกบ่นประชดอย่างหงุดหงิดไม่แพ้กัน แต่คนสนิทที่รับฟังอยู่ต้องรีบย้ำเพราะรู้นิสัยอีกฝ่ายดี
“ห้ามเด็ดขาดนะขอรับ เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงเผ่าพันธุ์ของเผ่ามังกรทั้งหมด ไม่ใช่เรื่อง ‘ส่วนตัว’ ของท่านเพียงแค่คนเดียวนะขอรับ!”
ดราโกชะงัก แล้วทำเป็นนิ่งเฉย เหมือนจะหูทวนลม ทำเอาครีอุสยิ่งหงุดหงิดเพิ่มขึ้น ส่วนน้ำฟ้ามองทั้งคู่ไปมาแล้วจึงจับแขนของมังกรหนุ่มเขย่าเบา ๆ
“ดราโก...ผมขอร้องอีกคนแล้วกัน เรื่องของผม ผมจัดการเองได้ ผมไม่อยากดึงคุณมาเดือดร้อนด้วย ...จริง ๆ นะ”
ราชามังกรนิ่งอึ้ง ส่วนครีอุสลอบถอนหายใจ เขารู้ว่าน้ำฟ้าพูดมาจากใจจริง แต่เพราะมาจากใจจริงนี่สิ ถึงยิ่งทำให้คนอย่างดราโกยิ่งยอมปล่อยให้เด็กหนุ่มไปโดยลำพังโดยปราศจากตนไม่ได้
“ถ้าข้าออกจากตำแหน่งราชามังกร แล้วเลือกที่จะเนรเทศตัวเองออกไปจากเผ่า เท่านี้ก็ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องเผ่าพันธุ์แล้วใช่ไหม?”
เป็นอย่างที่คาด ดราโกหันมาถามคนสนิทด้วยสีหน้าจริงจัง จนครีอุสชะงักไปชั่วครู่ เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายพูดจริงและคิดจะทำเช่นนั้นจริงดังปากว่า
“ตำแหน่งราชามังกร ไม่ใช่จะเป็นจะเลิกได้ง่าย ๆ นะขอรับ ...แล้วอีกอย่างถ้าท่านถูกเนรเทศ ท่านก็จะไม่มีวันกลับมาเหยียบแผ่นดินเกิดได้อีกตลอดชีวิตเชียวนะขอรับ”
ดราโกนิ่งเงียบ แล้วจึงตอบกลับไปด้วยใบหน้านิ่งเรียบเฉย
“จิตวิญญาณของข้า ไม่ว่าอยู่ที่ไหนแห่งหนใด ก็ยังคงเป็นมังกรเสมอ ดังนั้นแม้จะไม่ได้กลับมาอีก ข้าก็ไม่หวั่น”
จบคำมังกรหนุ่มก็หันไปทางน้ำฟ้าที่ยืนนิ่งอึ้งจ้องมองเขากลับอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
“ข้าจะอยู่กับเจ้า จะปกป้องคุ้มครองเจ้า ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน แห่งหนใดก็ตาม”
“ดราโก...”
น้ำฟ้าพึมพำแล้วหลุบตาหลบ ก่อนจะนิ่งไปสักพัก แล้วเงยหน้าขึ้นยิ้มหวานให้กับราชามังกร
“ดราโก ผมว่าเราลองมาคิดหนทางที่มันดีต่อพวกเราทั้งสองฝ่ายดีกว่า ...คุณแองเซล ถ้าผมจะขอเดินทางช้าไปสัก 3 วัน คุณจะว่าอะไรไหม?”
“ขอเพียงท่านเต็มใจจะกลับฮาร์โมเนียไปด้วยกัน เรื่องอื่นนั้น ข้าสุดแล้วแต่ท่านจะบัญชา”
แองเซลโค้งกายตอบอย่างนอบน้อม ทำให้น้ำฟ้ายิ้มออกมาได้ ทางด้านดราโกนั้นมองหน้าเด็กหนุ่มคนรักอย่างค้นคว้าพิจารณา แล้วจึงถอนหายใจแผ่วเบาออกมา โดยมีครีอุสที่เฝ้ามองดูอย่างโล่งอกและนึกขอบคุณน้ำฟ้าในใจ จากนั้นราชามังกรจึงรวบร่างเล็กเข้ามากอดหลวม ๆ แนบอกของตน
“ถ้าเจ้าต้องการเช่นนั้นก็ได้”
--- TBC ---