††Fantasy ♥ Novel†† ดวงใจจ้าวมังกร
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ††Fantasy ♥ Novel†† ดวงใจจ้าวมังกร  (อ่าน 332521 ครั้ง)

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4
ดวงใจจ้าวมังกร
Act.19 เชื่อใจ


   

    ...พอลูก้านำเรนาร์ดกลับมาที่ห้องพักของเจ้าชายน้อย ชายหนุ่มก็ตัดสินใจคลายมนต์สะกดของตนทันที ทว่าวินาทีแรกที่แววตาสีฟ้าใสนั้นกลับมามีประกาย ชายหนุ่มก็ต้องตกใจ เมื่อมันฉายแววตัดพ้อ และผิดหวังในตัวของเขาอย่างรุนแรง ก่อนที่น้ำใส ๆ จะเริ่มจับคลอที่เบ้าตาทั้งสองข้าง และไหลรินลงมาเงียบ ๆ

    “ท่านเรนาร์ด...เกิดอะไรขึ้นขอรับ”

    “ลูก้า...ข้าจำได้นะ ทุกสิ่งทุกอย่างหลังจากที่ถูกเจ้าสะกดข้า”

    ลูก้าตกตะลึง เซไปข้างหลัง หน้าซีดเผือด เขาไม่คิดเลยว่าเวทควบคุมที่เรียนจากมาร์ลิคมันจะส่งผลลัพธ์ให้ผู้ถูกควบคุม ยังคงจดจำทุกสิ่งทุกอย่างได้เช่นนี้ มิน่าเล่า จอมเวทเฒ่านั่นถึงได้พูดประโยคเมื่อครู่เจาะจงมายังเจ้าชายของเขาโดยเฉพาะ

    “...สารเลวที่สุด”

    ลูก้ากัดฟันกรอดพึมพำด่ามาร์ลิคอย่างโกรธแค้น แต่แล้วเขาก็ต้องชะงักเมื่อเรนาร์ดเดินตรงมาหาเขาและจับมือเขาขึ้นกุมอย่างร้องขอ

    “ลูก้า...ช่วยท่านพี่ด้วย ...ท่านพี่คือทายาทที่ถูกต้องของอาณาจักรแห่งนี้ ...ท่านพี่เป็นคนที่มีจิตใจดีงาม อาณาจักรแห่งนี้จะต้องเจริญรุ่งเรือง ประชาชนจะต้องพึงพอใจ ถ้าท่านพี่ได้เป็นผู้ปกครอง...”

    ชายหนุ่มเงียบกริบ จริงอยู่ที่เรนาร์ดพูดนั้นเป็นความจริง แต่ถ้าเขายอมทำเช่นนั้น แล้วสถานะของเจ้าชายน้อยตรงหน้านี้เล่า

    “ลูก้า...ไหนเจ้าเคยพร่ำสอนให้ข้าเป็นเจ้าชายที่ดียังไงล่ะ ...ถ้าเจ้ายังจำคำสอนของตัวเองได้ เจ้าก็ต้องช่วยท่านพี่นะ ...ลูก้า”

    เรนาร์ดพร่ำขอร้องอ้อนวอนทั้งน้ำตา ลูก้ากัดริมฝีปากแน่น ก่อนจะแกะมือเล็ก ๆ ที่เกาะกุมแขนเขาออก ด้วยดวงใจที่ปวดแปลบ

    “มีแค่เรื่องนี้เท่านั้น ที่ข้าทำไม่ได้ ...ข้ายอมโดนท่านโกรธ เกลียด ชิงชัง ...แต่ข้าจะไม่ยอมให้ท่านต้องตกอยู่ในสภาวะเสี่ยงเด็ดขาด ...แม้เจ้าชายเรโนจะเป็นเจ้าชายที่ดีแค่ไหน ...แต่หากปล่อยให้เขาขึ้นครองบัลลังก์ได้ ...คนที่จะเป็นอันตรายก็คือท่าน!”

    ลูก้าบอกด้วยสีหน้าหนักแน่น และแววตาจริงจัง จนเรนาร์ดนิ่งอึ้ง ...ก่อนจะรีบวิ่งตามร่างที่เดินหนี จนเผลอสะดุดล้มลงไป ทว่าองครักษ์หนุ่มก็เพียงหันกลับมามองแค่วูบเดียว แล้วเดินหนีออกจากห้องไปในทันที จากนั้นเรนาร์ดก็ได้ยินเสียงสั่งการแข็งขันดังแว่วเข้ามาจากอีกฝ่าย ว่าให้ทหารยามเฝ้าประตูหน้าห้องให้ดี และห้ามไม่ให้ตนออกไปนอกห้องโดยเด็ดขาด

    “ลูก้า... อย่าทำแบบนี้เลย ... ถ้าเจ้าชอบข้าจริง ก็อย่าทำเรื่องร้ายกาจแบบนี้...”

    เจ้าชายน้อยสะอึกสะอื้นคร่ำครวญ เพราะรู้ดีว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่ลูก้าทำลงไป ก็เพื่อตนคนเดียวเท่านั้น แต่ถึงยังไงเขาก็ไม่อยากให้ลูก้าถลำลึก จนเลือกทางที่ผิดพลาดเพราะเขาเป็นต้นเหตุ

    เรนาร์ดสะอื้นได้พักใหญ่ แล้วจึงเหลือบไปมองเตียงนอนของตน เจ้าชายน้อยเม้มปากแน่น พลางตัดสินใจเดินไปกระตุกผ้าคลุมเตียงออก แล้วเดินไปยังระเบียงนอกห้อง ถึงมันจะเป็นชั้นสอง แต่ความสูงของมันก็สูงพอที่จะทำให้ ผู้ที่พลัดตกลงไปแข้งขาหักได้ง่าย ๆ เช่นกัน
    “ท่านพี่...ข้าจะช่วยท่านเอง!”

    เรนาร์ดข่มความกลัว และตัดสินใจนำผ้าปูเตียงมาผูกกับเสาระเบียงให้แน่น ก่อนจะค่อย ๆ  ไต่โรยตัวลงไป โดยที่ไม่มีใครนอกห้องทันได้เอะใจในเรื่องครั้งนี้เลยสักคน



    อีกด้านหนึ่งที่ตำหนักของน้ำฟ้า ราชินีโอลิเวียที่ทราบข่าวการหายไปของเจ้าชายรัชทายาท ทั้งที่ข่าวถูกปิดเป็นความลับไม่ให้แพร่งพราย แต่นางก็อ้างว่าได้รับรู้จากลูกชายของนาง จึงได้มาแสดงความเสียใจกับคนในตำหนักนี้

    “ช่างเป็นคราวเคราะห์ของเจ้าชายเรโนจริง ๆ ดูซิ ตอนเด็กก็หนหนึ่งแล้ว นี่ยังมาเจอเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเช่นเดิมอีก ดูท่าว่าบัลลังก์แห่งนี้มันจะมีอาถรรพ์สำหรับตัวเจ้าชายเสียแล้วนะ”

    ดราโกที่ยืนอยู่แถวนั้นกัดฟันกรอด เมื่อได้ยินคำพูดค่อนขอดของอีกฝ่าย ทำเอาแองเซลต้องฉุดรั้งที่ข้อมือของมังกรหนุ่มเอาไว้ไม่ให้เผลออาละวาดออกไป ทว่าไทนอสที่ยืนฟังคำพูดนั้นกลับนิ่งเฉย แล้วโค้งตอบกลับด้วยใบหน้าเคร่งขรึมสุภาพ

    “ข้าเองก็หวังไว้ว่า ขอให้เรื่องครั้งนี้ เป็นแค่เคราะห์ภัยอันเกิดจากเหตุธรรมชาติ หาใช่เกิดขึ้นจากเหตุจงใจของใครบางคนก็แล้วกันขอรับ”

    ราชินีโอลิเวียสะอึก เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยอย่างลืมตัว แล้วจึงขอลากลับทันที โดยอ้างว่ารู้สึกปวดศีรษะ  จอมปราชญ์แห่งฮาร์โมเนียยืนโค้งส่งอีกฝ่ายจนลับตาแล้วจึงถอนหายใจออกมาเบา ๆ

    “เฮ้อ...เหตุการณ์มันประจวบเหมาะจนเกินไป ข้าไม่คิดเลยว่าฝั่งนั้นจะสามารถบันดาลให้เกิดความปรวนแปรของมิติได้เช่นนี้”

    จอมปราชญ์ชราเปรยบ่น ยิ่งทำให้ดราโกหงุดหงิดขึ้นไปอีก

    “ข้าเองก็หลงประมาท คิดว่าอีกฝ่ายถึงจะมีเวท แต่ก็เป็นมนุษย์ ไม่เคยคิดเลยว่ามันจะมีพลังกล้าแกร่ง สร้างการแปรปรวนของมิติได้ ... น่ากลัวว่าเหตุการณ์คราวที่น้ำฟ้าเด็ก ๆ มันก็คงไม่ใช่เรื่องธรรมชาติเสียแล้ว!”

    “มาร์ลิค ...หมอนั่นเข้าวังมาอย่างลึกลับ ด้วยการเชื้อเชิญของท่านโอลิเวีย แม้แต่ข้าเองก็ไม่อาจสืบหาต้นตอได้ว่า มันมีชาติกำเนิดจากไหน และมีพลังเวทมากมายขนาดไหนกันแน่”

    ไทนอสพึมพำ ถึงศัตรูคู่แค้นที่แม้รู้อยู่แก่ใจ แต่ก็ยังคงจับไม่ได้ไล่ไม่ทันสักที ด้วยที่ตัวเขาเป็นเพียงข้าราชบริพารของแผ่นดิน จะไปงัดข้อกับอีกฝ่าย ที่มีราชินีอย่างโอลิเวียหนุนหลังก็ไม่สามารถทำได้ แค่ต้องประคองตนคอยแข็งขืนไม่ยอมจงรักภักดี อย่างทุกวันนี้ ก็ลำบากมากแล้ว



    “...ท่านไทนอสขอรับ เจ้าชายเรนาร์ดมาขอพบท่านขอรับ”

    จู่ ๆ ทหารองครักษ์ ประจำตำหนักก็เข้ามารายงาน ด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก ทำให้ทั้งสามหันขวับไปยังอีกฝ่ายเป็นทางเดียว

    “เจ้าชายงั้นรึ? นำท่านเข้ามาได้”

    ไทนอสบอกอย่างสงสัย เขาและแองเซลปักใจเชื่อสนิทว่า เจ้าชายต้องโดนครอบงำ และควบคุมจิตไว้แน่ แต่ไม่คิดเลยว่าหลังงานเสร็จแล้ว ทางฝั่งนั้นยังจะส่งเจ้าชายเข้ามาหาพวกเขาอีก

    “เด็กนั่น...ยังจะมาหลอกล่ออะไรพวกเราอีกงั้นรึ!”

    ดราโกสบถอย่างหัวเสีย ทั้งนี้เพราะยอมเชื่อปล่อยให้น้ำฟ้าอยู่ตามลำพังกับเรนาร์ด จึงได้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้

    “ใจเย็นก่อนท่านดราโก เจ้าชายทรงถูกพระมารดาใช้เป็นหมากเช่นกัน ...จะว่าไปครั้งนี้คนที่น่าสงสารที่สุด อาจจะเป็นท่านเรนาร์ดก็เป็นได้”

    ไทนอสเอ่ยขึ้นด้วยความเห็นใจในตัวเจ้าชายน้อย แต่พอเจ้าตัวปรากฏมาต่อหน้าพวกเขา ทั้งหมดก็ต้องนิ่งอึ้ง เมื่อเห็นร่างเล็ก ๆ นั่นชัดเจน

    “ท่านไทนอส! ข้ามีเรื่องจะบอกท่านเกี่ยวกับท่านพี่เรโน!”

    เรนาร์ดเดินกระเผลก ๆ เข้ามาหาจอมเวทเฒ่า หัวเข่าเล็ก ๆ มีเลือดซึม เนื้อตัวขะมุกขะมอม เปรอะเปื้อนดินและฝุ่นเต็มไปหมด

    “ท่านเรนาร์ด เกิดอะไรขึ้น...ทำไมมีสภาพเช่นนี้”

    ไทนอสถามอย่างเป็นห่วง แม้จะรู้สึกสะดุดกับสิ่งที่ได้ยินก่อนหน้านั้นก็ตาม

    “เจ้าจะบอกว่ารู้เรื่องของน้ำฟ้า ทั้งที่เจ้าเป็นคนหลอกล่อเขาให้ไปติดกับของแม่เจ้าเช่นนั้นรึ!”

    ดราโกตะคอกขัดขึ้นมาเสียงดัง ทำเอาเจ้าชายน้อยสะดุ้ง เท่าที่เขารับรู้ และลอบสังเกต เขาพอจะคาดเดาได้ว่าชายผู้นี้กับพี่ชายของเขานั้นมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกันมากเสียยิ่งกว่า เจ้านายกับองค์รักษ์พึงมี แต่เขาก็เลือกที่จะไม่ถาม และไม่พูดเรื่องนี้ให้ใครฟัง แม้แต่มารดาของตน

    “ท่านอาจจะไม่เชื่อ...ถ้าข้าบอกว่าข้าถูกสะกดด้วยอาคมให้ทำ...และที่สำคัญคือข้าจำเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างสะกด ได้ทั้งหมด”

    เรนาร์ดเลือกใช้คำสุภาพเรียกอีกฝ่าย เพราะท่าทีของดราโกนั้นดูทรงอำนาจเกินกว่าจะเป็นองครักษ์ธรรมดาในสายตาเขา แต่พอพูดถึงท้ายประโยคเรนาร์ดก็มีสีหน้าสลดลง และเหมือนจะร้องไห้ ทว่าเจ้าชายน้อยก็พยายามอดกลั้น และรวบรวมสติ ก่อนจะเอ่ยต่อ

    “ท่านพี่เรโน...ไม่ได้ถูกดูดเข้าไปในมิติ ...นั่นแค่การสร้างภาพให้ทุกคนเชื่อเช่นนั้น แต่ท่านพี่ถูกจับไปไว้ที่คฤหาสน์ของจอมเวทมาร์ลิค ...ข้าไม่รู้ว่าเขาจะจับท่านพี่ไปทำไม แต่เขาดูต้องการตัวท่านพี่มาก ...และใช้ชีวิตข้าบังคับขู่เข็ญให้ท่านพี่ยอมให้เขาควบคุมตัวด้วย...”

    คำสารภาพของเจ้าชายน้อย ทำให้ทุกคนในที่นั้นนิ่งอึ้ง ไปด้วยความรู้สึกต่าง ๆ กันไป มีทั้งเห็นใจ เวทนา และขุ่นเคืองกับสิ่งที่ได้รับฟัง ทั้งหมดเงียบไปสักพัก ดราโกก็เตรียมจะขยับกายเดินออกไปจากห้อง จนแองเซลต้องร้องทัก

    “ท่านจะไปไหน ท่านดราโก!”

    “ข้าจะไปรับน้ำฟ้ากลับ”

    ดราโกตอบเรียบ ๆ ทำให้เรนาร์ดมีสีหน้าดีใจทันที

    “ท่านเชื่อที่ข้าพูดใช่ไหม?”

    มังกรหนุ่มหันกลับมามองเด็กน้อยเบื้องหน้าเขา อีกฝ่ายมีสีหน้ายินดีและนัยน์ตาเป็นประกาย ผิดกับเรนาร์ดเมื่อวันก่อนลิบลับ

    “ไว้ไปถึงก็รู้ว่าเจ้าโกหกหรือไม่”

    ดราโกบอกเรียบ ๆ แต่ทำเอาคนฟังสีหน้าสลด มังกรหนุ่มหันหน้ากลับไปยังประตูทางออกจากห้อง ก่อนจะเปรยต่อ

    “แต่ถึงอย่างนั้นข้าก็เชื่อใจเจ้า....เพราะเจ้าคือน้องชายที่น้ำฟ้าคาดหวัง จะให้สืบทอดอาณาจักรนี้ต่อจากเขา ...น้องชายที่เด็กนั่นพร่ำพูดชมและมอบความรัก จนข้ายังนึกอิจฉาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน...”

    เรนาร์ดชะงัก นิ่งอึ้งด้วยความตกใจ  เขาเซไปข้างหลังจนแองเซลต้องรับร่างเล็กนั่นไว้ไม่ให้ล้ม เจ้าชายน้อยไม่คิดเลยว่า พี่ชายของตนจะคิดเช่นนี้กับตนเอง ยิ่งพอได้ฟังเขาก็ยิ่งรู้สึกผิดแทนมารดาตัวเองมากขึ้น

    “...แต่ถ้าท่านพี่รู้ความจริง เรื่องที่ท่านแม่ของข้าทำผิดกับท่านพี่ ... ไม่ว่าจะเป็นการหายตัวไปของท่านพี่ในตอนเด็ก ....และการตายของราชินีองค์ก่อน...ท่านพี่คงจะต้องเกลียดข้า....”

    ดราโกไม่ได้หันมามองคนพูด เขาหัวเราะเบา ๆ จนไหล่ไหว แล้วจึงเปรยห้วน ๆ ขึ้นอีกครั้ง

    “เจ้าคิดว่าพี่ชายของเจ้าโง่จนเดาเหตุการณ์ไม่ได้เชียวอย่างนั้นรึ ....เด็กคนนั้นรักเจ้าที่ตัวเจ้า  เขาไม่สนใจหรอกว่า แม่ของเจ้าจะทำผิดต่อเขาขนาดไหน ...น้ำฟ้ากลับมาที่นี่เพียงแค่เพราะเป็นห่วงราษฎรของตน และต้องการจะทำหน้าที่ของเจ้าชายรัชทายาทให้ลุล่วง ก็เท่านั้น ...”

    ดราโกกล่าวจบ แล้วจึงหันมาทางเรนาร์ดที่ยืนสะอื้นเบา ๆ แล้วยิ้มน้อย ๆ ส่งให้เด็กชายอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน

    “... ข้าขอบใจที่เจ้าเองเลือกในสิ่งที่ถูกต้อง และยอมเสี่ยงที่จะช่วยคนรักของข้าเช่นนี้”

    จากนั้นมังกรหนุ่มก็เดินจากไปอย่างรวดเร็ว ไทนอสหันไปสบตากับแองเซล แล้วพยักหน้าสั่งให้อีกฝ่ายตามไปด้วยเพราะเป็นห่วง จากนั้นเขาจึงหันมาทางเรนาร์ด แล้วเอ่ยขึ้นเรียบ ๆ

    “ท่านพร้อมจะเป็นพยาน ในเรื่องราวที่เกิดขึ้นครั้งนี้ หากมีการไต่สวนพระมารดาของท่านเกิดขึ้นไหม ท่านเรนาร์ด?”

    เรนาร์ดชะงักกึก เขานิ่งเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะก้มหน้า กำหมัดแน่นทั้งสองข้าง แล้วจึงค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น และสบตากับคนถามด้วยแววตาจริงจัง หนักแน่น

    “ข้า...ยินดี ...ถ้ามันจะช่วยให้ท่านแม่ไม่ทำความผิดไปมากกว่านี้”

    ไทนอสนิ่งอึ้ง ก่อนจะแย้มยิ้มอ่อนโยน แล้วโค้งให้เจ้าชายน้อยตรงหน้า ด้วยความขอบคุณจากหัวใจ

    “ข้าขอเป็นตัวแทนของชาวฮาร์โมเนีย ขอบคุณท่านจากใจ ...ท่านเรนาร์ด”

    “ตะ...แต่ ...ถ้าข้าจะขอให้ไว้ชีวิต....”

    เรนาร์ดเอ่ยต่อมาแล้วนิ่งเงียบไป เขาพูดต่อไม่ออก เพราะมารดาของเขาก็เคยทำให้มารดาของน้ำฟ้าตายไป ถ้าเขาเป็นน้ำฟ้าคงทำใจให้อภัยเรื่องนี้ยาก

    “ท่านน้ำฟ้า...ข้าหมายถึงท่านเรโน เคยบอกข้าในเรื่องนี้ตั้งแต่วันแรก ๆ ที่เข้าวังว่า ...หากสามารถปลดอำนาจจากท่านโอลิเวียลงได้ ...ท่านจะขอให้ข้าอภัยโทษประหารแก่พระนาง และเปลี่ยนเป็นควบคุมตัวเอาไว้ ตลอดชีวิตแทน”

    เรนาร์ดเงียบกริบ น้ำตาไหลลงมาอีกรอบ แต่ครานี้เป็นน้ำตาแห่งความยินดี หาใช่เศร้าเสียใจไม่

    “ท่านพี่...”

    “ข้าดีใจจริง ๆ ที่รัชทายาทแห่งฮาร์โมเนียทั้งสองพระองค์  เป็นพี่น้องที่รักใคร่ และมีน้ำใจงดงามทั้งคู่เช่นนี้  ฮาร์โมเนียในอนาคตข้างหน้าจะต้องเจริญรุ่งเรืองขึ้นอย่างแน่นอน”

    ไทนอสเปรยพร้อมรอยยิ้ม แล้วจึงช่วยประคองร่างเล็กไปนั่ง ก่อนจะเรียกนางกำนัลแถวนั้นมาช่วยทำแผล และพาเรนาร์ดไปชำระล้างร่างกาย เขาเรียกองค์รักษ์ทั้งหมดมาคุ้มกันเรนาร์ดไม่ยอมให้ใครมาบุกชิงตัวกลับไปได้ เพราะตอนนี้ เรนาร์ดคือพยานปากสำคัญที่จะช่วยล้มล้างอำนาจของราชินีโอลิเวีย  ส่วนน้ำฟ้าก็คือหลักฐานการกระทำความผิดที่พระนางก่อขึ้น ซึ่งตอนนี้เป็นหน้าที่ของมังกรหนุ่มไปบุกชิงกลับคืนมา และหากน้ำฟ้ากลับคืนมาอย่างปลอดภัย ยามนั้นก็คือยามที่ราชินีคนงาม จะสิ้นสุดอำนาจการปกครองของหล่อนสักที!



     
--- TBC ---
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-06-2011 14:52:11 โดย Xenon »

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
ใกล้จะถึงบทสุรปแล้ว  :monkeysad: สงสารเรนาร์ดน้อยจริงๆ

อย่าลืมแต่งตอนพิเศษที่เรนาร์ดน้อยมีสุขสมหวังบ้างนะคะน้อง Xenon  :bye2:

ออฟไลน์ hotladyanyavee

  • ขึ้นจากเกาะ มาใช้ชีวิตบนอ่าวนาง มันก็อินดี้ไปอีกแบบ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-10
อ่านมาสองตอน เกลียดนังราชินีโอลิเวียจริงๆ แต่ก็อิจฉาในรักของพี่น้องคู่นี้จริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
ใกล้จบแ้ว้วววว

ออฟไลน์ SuSaya

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-9
รอ รอ รอ...รู้สึกค้าง ๆ คา ๆ มาก
จอมเวทมาลิคจะควบคุมน้ำฟ้ายังไงล่ะเนี่ย...กำยานนั่นไม่น่าไว้ใจเลย
ขอให้ดราโกอย่าโดนจับตัวเลยนะคะ...ถ้าใกล้จบก็แปลว่าไม่มีเวลาต้มมาม่านาน(หวังว่าคงไม่อืด)

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4
มาต่อแล้วจ้า~ หวังว่าคงจะไม่ทำให้ค้างคานะคะ ^ ^"


ดวงใจจ้าวมังกร
Act.20 ชิงตัว


   

    ...คฤหาสน์หลังใหญ่ กับบรรยากาศอันชวนอบอวนไปด้วยความกดดันประหลาด ซึ่งตั้งตระหง่านตรงหน้า ไม่ได้ทำให้ดราโกคิดหยุดฝีเท้าและความตั้งใจแต่แรกที่จะก้าวเข้าไป ทว่าแองแซลที่ตามมาทันนั้นรีบเอ่ยเตือนขึ้นก่อน

    “ท่านดราโก ภายในนั้นอาจจะมีกับดักก็ได้  ถึงข้าจะเชื่อเรื่องที่ท่านเรนาร์ดพูดก็ตามเถอะ!”

    “แล้วไง...ต่อให้เบื้องหน้าคือนรก ข้าก็จะนำน้ำฟ้ากลับมาให้ได้!”

    ดราโกตอบโดยไม่ต้องหยุดคิดให้เสียเวลา แล้วจึงเดินดุ่ม ๆ เข้าไป โดยไม่สนทหารที่เฝ้าทางเข้าคฤหาสน์ และแค่เพียงมังกรหนุ่มสบตากับพวกนั้นด้วยแววตาวาวโรจน์ทรงอำนาจ ก็ทำให้ทหารเหล่านั้นผงะถอยหนีกันด้วยความหวาดกลัวแล้ว

    “เฮ้อ...ช่วยไม่ได้นี่นะ”

    แองเซลบ่นพึมพำ เขากลับคืนสู่ร่างวิหค และบินกลับไปยังตำหนักที่มีไทนอสอยู่ เพื่อขออนุมัติกำลังล้อมจับมาร์ลิค ไม่ให้อีกฝ่ายได้ทันไหวตัวหนีไปได้ และอาจจะช่วยเป็นกำลังเสริมกรณีที่ดราโกพลั้งพลาด แม้ว่าเขาจะค่อนข้างมั่นใจในตัวของมังกรหนุ่มว่าจะไม่เสียท่าต่ออีกฝ่ายแน่นักก็ตาม



    ร่างสูงเดินเข้ามาภายในคฤหาสน์ น่าแปลกที่มันเงียบมาก นอกจากทหารที่เฝ้าข้างนอกเพียงไม่กี่คน ด้านในก็แทบไม่ปรากฏสิ่งมีชีวิตให้เห็น

    “น้ำฟ้า....เจ้าอยู่ไหนนะ”

    ดราโกพึมพำกับตัวเอง แล้วไล่เดินหาไปเรื่อย ๆ จากชั้นล่าง ก่อนจะตัดสินใจขึ้นไปบนชั้นสอง ซึ่งทันทีที่พ้นบันไดและสัมผัสพื้นไม้ของชั้นบน เขาก็ต้องนิ่วหน้าเมื่อได้กลิ่นหอมสะอิดสะเอียนบางอย่างเบาบางลอยมา มังกรหนุ่มเม้มปากน้อย ๆ เพิ่มความระมัดระวังตัว แล้วเดินไปยังทิศกำเนิดกลิ่นประหลาดนั่นช้า ๆ จนกระทั่งมาหยุดอยู่หน้าห้องนอนห้องหนึ่ง

    “กับดักหรือไม่ เดี๋ยวก็รู้...”

    มังกรหนุ่มพึมพำขณะที่เปิดประตูเข้าไป เขาไม่ได้กลัวเกรงต่อกับดัก หากแต่เป็นห่วงเด็กหนุ่มคนรักเสียมากกว่า

    “...น้ำฟ้า!”

    ร่างโปร่งบางที่นอนหลับสนิทบนที่นอนกลางห้องกว้าง ทำให้ดราโกเบิกตากว้างอย่างยินดี แล้วปราดเข้าไปหาทันที

    “น้ำฟ้า! น้ำฟ้า! เจ้าเป็นอะไรมากไหม...ฟื้นสิน้ำฟ้า ลืมตามามองข้า!”

    ดราโกเขย่าร่างที่หลับสนิทเบา ๆ อย่างเป็นห่วง ก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอก เมื่อเห็นเปลือกตานั้นขยับเบา ๆ แล้วเผยนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนให้เห็น

    “น้ำฟ้า...ข้ามาช่วยเจ้าแล้ว เรากลับกันเถอะ”

    มังกรหนุ่มบอกด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ก่อนจะชะงักกึกด้วยความประหลาดใจ เมื่อใบหน้าของคนรักนั้นยิ้มหวานตอบให้เขา แต่นัยน์ตาสีน้ำตาลที่เคยสุกใสเป็นประกายกลับเย็นชาประหลาด

    “น้ำฟ้า? …นี่เจ้า....”

    คนที่เรียกชื่อคนรักอย่างแปลกใจ จู่ ๆ ก็พลันสะดุ้งเฮือก พลางก้มลงมองท้องตัวเอง เมื่อเด็กหนุ่มคนรักคว้ากริชเล่มเล็กที่ซ่อนไว้ใต้หมอน ปักเข้าที่ท้องของเขาจนมิดด้าม

    “น้ำฟ้า...ทำไม?”

    ลำพังแค่กริชเล่มเล็ก ๆ ไม่ได้ส่งผลให้กับมังกรอย่างเขาเท่าใดนัก ทว่าอำนาจที่แฝงมาในกริชนั่นต่างหาก ที่ทำให้ดราโกต้องนิ่วหน้า เพราะมันเหมือนกับว่าพลังเวทที่อยู่ในร่างของเขา กำลังถูกกริชนั่นดูดออกไปอย่างรวดเร็ว แถมพอมองหน้าคนรัก เด็กหนุ่มกลับยังคงยิ้มแย้มเย็นชาไม่เปลี่ยน จนดราโกเริ่มรู้สึกตัว

    “หรือเจ้าก็โดนหมอนั่นสะกดเอาเช่นกัน!”

    “หึ ๆ ถูกแล้ว ...ข้าเป็นคนสะกดเจ้าชายเอง แต่ไม่ใช่อาคมแบบเดียวกับที่สะกดท่านเรนาร์ดหรอกนะ มันเกิดจากสมุนไพรพิเศษ ที่ข้าปรุงขึ้นต่างหาก”

    เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นจากทางเข้าห้อง เมื่อดราโกหันไป เขาก็ได้เห็นจอมเวทชรากำลังยืนมองอยู่อย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง มังกรหนุ่มกัดฟันกรอด แล้วใช้พลังรวบรวมที่ฝ่ามือ หันไปทำลายโถกำยานอันเป็นต้นกำเนิดกลิ่นสะอิดสะเอียนนั่นทันที ทว่าพอใช้พลังออกไป เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าพลังเวทของตนลดลงมาก เจ้าตัวมองกริชที่ท้องอย่างโมโห แต่ก็ไม่สามารถดึงมันออกมาได้อย่างน่าประหลาด

    “คิดไม่ผิดเลยว่า ท่านเรนาร์ดต้องรีบไปขอความช่วยเหลือจากเจ้า ...แต่ไม่คิดว่าจะไปไวขนาดนี้ นึกว่าจะมีเวลาเตรียมตัวสักวันสองวันเสียอีก ...ดีนะที่ท่านเรโนยอมคลายพลังเวทป้องกัน มิเช่นนั้นก็คงควบคุมไม่ได้รวดเร็วเช่นนี้”

    มาร์ลิคบอกเรียบ ๆ ราวกับว่าจะรู้เรื่องดราโกต้องมาช่วยน้ำฟ้าอยู่แล้ว ทำให้คนฟังต้องขมวดคิ้วยุ่งด้วยความโมโห

     “เจ้าจะบอกว่าการที่เจ้ายอมให้คลายสะกดเด็กนั่น เพราะตั้งใจจะใช้เด็กนั่นไปล่อให้ข้ามาช่วยน้ำฟ้าสินะ! ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง หากข้าช่วยน้ำฟ้าได้สำเร็จ พวกเจ้าและราชินีก็จะเดือดร้อนไปด้วยไม่ใช่รึ!”

    มาร์ลิคหัวเราะเบา ๆ กับคำพูดของมังกรหนุ่ม แล้วจึงเดินเข้ามานั่งยังเก้าอี้ไม้ที่อยู่มุมห้อง ก่อนจะตอบคำถามนั้นเรียบ ๆ ด้วยสีหน้าและแววตาเย็นชา

    “แค่ล่อให้เจ้ามาได้ ต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับฮาร์โมเนีย ข้าก็ไม่คิดสน ...ข้าชักเบื่อราชินีผู้โง่เขลานั่นเสียแล้ว ร่างกายอันแข็งแกร่ง และความหนุ่มแน่นของเจ้าต่างหาก คือสิ่งที่ข้าปรารถนายิ่งนักในตอนนี้”

    ดราโกนิ่งอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน แล้วมองคนตรงหน้านิ่งอย่างตั้งสติยิ่งกว่าเดิม

    “เจ้าไม่ใช่มนุษย์สินะ...พฤติกรรมและพลังเวทของเจ้า มันเหนือชั้นกว่ามนุษย์ทั่วไปจะทำได้”

    มาร์ลิคหัวเราะเบา ๆ นัยน์ตาสีเทาเปล่งประกายวาววับอย่างถูกใจ เมื่ออีกฝ่ายนั้นรู้ทันในสิ่งที่เขาเป็น

    “ถูกต้อง ...ข้าชอบทั้งความคิดและตัวตนของเจ้าเหลือเกิน... น่าเสียดายนะ หากร่างนี้ของข้ามันหนุ่มยิ่งกว่านี้ ข้าคงจะเก็บทั้งเจ้าและท่านเรโนไว้เป็นตุ๊กตารูปงามแนบข้างกายข้า...แต่เพราะร่างนี้มันแก่ชรามากแล้ว ข้าจึงจำต้องหาร่างใหม่เปลี่ยนสักที”

    ดราโกได้ฟังแล้วก็ยิ่งตกตะลึงมากขึ้นไปอีก เขาไม่คิดเลยว่าบุคคลที่อยู่เบื้องหลังราชินีโอลิเวีย จะเป็นบุคคลอันตรายเช่นนี้ มิน่าพวกไทนอสจึงไม่สามารถทำอะไรกับเจ้าตัวได้เด็ดขาดสักที เพราะแค่เพียงหนึ่งชีวิตสำหรับเผ่าปีศาจ ก็เหมือนกับต้องสู้กับมนุษย์นับร้อย นับพันคนแล้ว 

    “...เผ่าปีศาจที่มาปะปนกับพวกมนุษย์อย่างนั้นรึ...เจ้าไม่กลัวโดนเจ้าพวกทหารเทพไล่ล่าอย่างนั้นหรือไง!”

    ดราโกเอ่ยอย่างหงุดหงิด แม้จะรู้ว่าคำพูดของตน มันไม่มีผลให้คนตรงหน้าหวาดกลัวเลยก็ตาม

    “ข้าไม่โง่ทำตัวโฉ่งฉ่าง ให้พวกมันจับได้หรอกน่า ...ว่าแต่ห่วงตัวเองก่อนเถอะ พลังเวทในร่างของเจ้าเริ่มน้อยลงเต็มที จนแม้แต่ปีศาจที่กำลังพักฟื้นอย่างข้า ก็ยังสามารถจัดการเจ้าได้ง่าย ๆ แล้ว...ว่าแต่พลังเวทขนาดนี้ ชักน่าสนใจแล้วสิ ว่าเจ้าเป็นเผ่าใดกัน?”

    มาร์ลิคบอกแล้วยิ้มเยาะ ส่วนดราโกนั้นแม้จะเจ็บใจปานใด แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขาอยู่ในสถานการณ์คับขันจริง ๆ  เจ้าตัวเหลือบมองน้ำฟ้าที่ยังคงนั่งนิ่งเป็นตุ๊กตารอรับคำสั่ง มังกรหนุ่มเม้มปากแน่น แล้วจึงหันไปทางจอมเวทชรา

    “เจ้าคิดจะใช้ร่างของข้า แล้วทำให้น้ำฟ้าเป็นของเจ้าสินะ...”

    จอมเวทเฒ่าเลิกคิ้วน้อย ๆ กับคำถามนั้น แต่ก็ยังคงพยักหน้าตอบออกไปตามตรง

    “ใช่...เจ้าเองก็น่าจะพอใจนะ ที่ข้าตัดสินใจเช่นนี้”

    ดราโกคิ้วกระตุก แต่ก็ยังฝืนยิ้มแสยะส่งให้

    “หึ! ใครหน้าไหนมันจะพอใจ ที่ของรักต้องให้คนอื่นแตะต้อง ถึงมันจะเป็นร่างของตัวเองก็ตามเถอะ!”

    มาร์ลิคหัวเราะเบา ๆ อย่างไม่ใส่ใจ และยังเฝ้ามองดูว่าอีกฝ่ายคิดจะมาไม้ไหน เพราะถ้าเขาลงมือตอนนี้ ดราโกก็ไม่แคล้วถูกเขาครอบงำได้สบาย ๆ

    “...ไหน ๆ ข้าก็ตกอยู่ในกำมือเจ้าแล้ว ถือว่าข้ามันซวยเอง ที่ดันยอมเดินเข้ามาในกับดักเจ้าง่าย ๆ แบบนี้ ...แต่ก่อนจะโดนเจ้ากลืนร่าง ข้าขอร้องอะไรสักอย่างได้ไหม?”

    คำขอร้องของมังกรหนุ่มทำให้คนฟังเลิกคิ้ว แล้วจึงย้อนถาม

    “เจ้าจะขออะไร?”

    “ข้าอยากกอดน้ำฟ้า ด้วยร่างของข้าเองเป็นครั้งสุดท้าย!”

    คำขอของอีกฝ่ายทำให้มาร์ลิคผงะ ก่อนจะหัวเราะออกมาดังลั่นอย่างชอบใจ

    “ฮ่า ๆ คำขอของเจ้านี่ช่างแปลกประหลาดสมกับตัวเจ้ายิ่งนัก...ก็ได้! ข้าอนุญาต  แต่ข้าคงต้องเฝ้าดูไม่ให้เจ้าเล่นตุกติกกับตุ๊กตาที่น่ารักของข้าล่ะนะ”

    ดราโกกระตุกยิ้มนิด ๆ ที่ริมฝีปาก  โดยไม่ได้สนใจว่าจอมเวทชราจะนั่งอยู่ที่นี่ด้วยหรือไม่ เขาเริ่มลงมือจูบเล้าโลมร่างตรงหน้า น้ำฟ้าเหลือบตามายังมาร์ลิค แต่พอเห็นจอมเวทเฒ่าพยักหน้าตอบรับ เขาก็ยอมให้ดราโกปรนเปรอมอบความสุขให้ตนอย่างไม่คิดขัดขืน

    ร่างเปลือยเปล่าของเด็กหนุ่มนอนหอบกระเส่าเชิญชวน ทำให้ร่างสูง และคนที่นั่งเฝ้าดูอยู่ห่าง ๆ  กลืนน้ำลายลงคอแทบจะพร้อมกัน

    “ข้าถอดให้เจ้าแล้ว เจ้าก็ถอดให้ข้าบ้างสิ”

    ดราโกบอกกับคนรักด้วยแววตาหวานฉ่ำ น้ำฟ้ายิ้มยั่วยวน แล้วจึงค่อย ๆ ปลดเสื้อด้านบนของชายหนุ่มออก เผยให้เห็นแผ่นอกล่ำกำยำ ที่คนเฝ้ามองอยู่ต้องลอบยิ้มอย่างชื่นชมและพึงพอใจ

    “ชู่ว...ด้านบนยังไม่หมดเลยนะน้ำฟ้า”

    ดราโกกระซิบ คนที่กำลังจะถอดท่อนล่างของตน น้ำฟ้าชะงัก แล้วมองหน้าอีกฝ่ายอย่างสงสัย เช่นเดียวกับมาร์ลิค

    “นี่ไง...”

    ดราโกดึงเสื้อแขนยาว ที่น้ำฟ้าถอดค้างไว้ที่แขนทั้งสองข้างออก เผยให้เห็นปลอกแขนสีทอง ซึ่งแกะสลักอักขระประหลาดไว้อยู่บนนั้น

    “ถอดด้วยสิ มันเกะกะตอนเวลากอดเจ้าไม่ใช่รึ...”

    ดราโกอ้อน แต่คนฟังไม่ได้สนใจอันใด พอถูกสั่งให้ถอด เจ้าตัวก็เริ่มลงมือแกะสลักปลอกแขนนั่นออก โดยมีมาร์ลิคที่เฝ้าจับจ้องอย่างสงสัยและรู้สึกคุ้นเคยบางอย่างบนอักขระในปลอกแขนนั่น จอมเวทชราประมวลความคิดอย่างรวดเร็ว ก่อนจะตาเบิกกว้างตามมา

    “หยุดก่อนเจ้าชาย ห้ามถอดปลอกแขนนั่นนะ!”

    ทว่าช้าไปเสียแล้ว น้ำฟ้าปลดสลักนั่นออกแล้วหันมาทางมาร์ลิคอย่างงุนงง เป็นจังหวะเดียวกับที่ดราโกสลัดปลอกแขนหลุดไปจากแขนเขา แล้วหัวเราะดังลั่นห้องอย่างสะใจ มาร์ลิคชะงักกึก เพราะทันทีที่ปลอกแขนหลุดจากร่างของอีกฝ่าย พลังมหาศาลก็พวยพุ่งออกมาจากร่างนั้นให้เขาสัมผัสได้

    “ฮ่า ๆ ในที่สุดข้าก็เป็นอิสระ ...เอ้า! อยากได้พลังนัก ข้าก็จะให้เจ้า เอาไปตามใจชอบ!”

    ดราโกปลอดปล่อยพลังที่ถูกกักไว้ทั้งหมดในร่าง ถ่ายเทไปยังกริช จนมันเริ่มปริร้าว แล้วแตกสลายไป ก่อนที่เจ้าตัวจะค่อย ๆ ลุกขึ้น และเดินไปหามาร์ลิคที่ลุกขึ้นยืนเผชิญหน้าด้วยความตื่นตระหนก

    “เจ้า...ไม่น่าเชื่อ พลังมหาศาลรุนแรงเช่นนี้ ...เจ้าเป็นมังกรหรอกรึ!”

    “หึ! สมแล้วกับที่เป็นเผ่าปีศาจ รับรู้ถึงตัวตนของข้าได้ง่ายดายแบบนี้ ...เอาเถอะ ถ้าอย่างนั้น ข้าจะลดโทษที่เจ้าทำร้ายข้ากับคนรักของข้าลง เป็นแค่จับเจ้าฉีกแยกร่างให้ตายสบาย ๆ ในคราเดียวแทนแล้วกัน!”

    ดราโกเอ่ยคำรามใส่ด้วยสีหน้าและแววตาที่มองดูก็รู้ว่าไม่ใช่คำขู่ มาร์ลิคเหลือบสายตาไปมองอีกคนในห้อง แล้วถลึงตาออกคำสั่ง ทำให้เจ้าตัวลุกขึ้นมากอดหมับรั้งร่างมังกรหนุ่มเอาไว้ จนดราโกต้องเผลอละสายตาจากจอมเวทเฒ่า หันกลับไปมองคนรักอย่างตกใจ

    “น้ำฟ้า! ปล่อยข้า! ...อ๊ะ!”

    ดราโกที่ไหวตัวทันหัวขวับไปยังมาร์ลิค แต่ก็ช้าไปแล้ว จอมเวทชราใช้พลังที่เหลือสร้างช่องว่างมิติหนีออกไปนอกคฤหาสน์ทันที จนมังกรหนุ่มที่เตรียมคว้าร่างนั้นเอาไว้ ต้องพลาดไปหวุดหวิดอย่างน่าเสียดาย

    “น้ำฟ้า...ปล่อยข้าได้แล้ว”

    ดราโกหันมาทางคนรัก ซึ่งยังตกอยู่ในมนต์สะกด น้ำฟ้ายังคงนิ่งเฉย ไม่ยอมปล่อย ทำให้มังกรหนุ่มต้องถอนหายใจ แล้วดึงแขนอีกฝ่ายเบา ๆ ร่างของน้ำฟ้าก็ปลิวมาตามแรงดึงของเขา จากนั้นดราโกจึงก้มลงจูบที่ริมฝีปากของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว ตอนแรกร่างเปลือยเปล่านั้นต่อต้าน ทว่าเพียงแค่สักพัก เจ้าตัวก็นิ่งเงียบเลิกดิ้นรน หลับตาพริ้ม แล้วสลบลงไปในอ้อมแขนของร่างสูงทันทีที่ริมฝีปากเป็นอิสระ

    “ขอโทษนะ น้ำฟ้า ข้าคงต้องให้เจ้าหลับไปเช่นนี้ก่อน แล้วข้าจะรักษาให้เจ้าอีกที”

    ดราโกพึมพำกับอีกฝ่าย เขาใช้เวททำให้อีกฝ่ายหลับไปผ่านการจูบอันแสนเร่าร้อนของตน เพื่อไม่ให้มาร์ลิคใช้ประโยชน์จากร่างของคนรักได้อีก มังกรหนุ่มดึงผ้าปูเตียงมาคลุมร่างของเด็กหนุ่มหลวม ๆ แล้วหยิบปลอกแขนสะกดพลังติดมือมาด้วย ก่อนจะเดินออกไปนอกคฤหาสน์ที่มีแองเซลและองค์รักษ์จำนวนหนึ่งรอคอยอยู่อย่างเป็นห่วง



    “ท่านน้ำฟ้า! ท่านดราโก เกิดอะไรขึ้นขอรับ?”

    แองเซลถามทันทีที่เห็นร่างซึ่งสลบในอ้อมแขนของอีกฝ่าย ดราโกก้มมองคนรักแล้วตอบกลับไปเรียบ ๆ

    “ไม่มีอะไร แค่สลบไปเท่านั้น แต่เจ้าปีศาจเฒ่านั่นหนีไปได้”

    องครักษ์หนุ่มนิ่งอึ้ง แล้วก็ต้องอึ้งขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว เมื่อได้ยินประโยคถัดมาของมังกรหนุ่ม

     “...แองเซล เจ้าต้องไปบอกไทนอสให้ลงมือได้แล้ว เพราะข้าจะไม่รอให้พวกมันทำร้ายคนรักของข้ามากไปกว่านี้... ถ้าพวกเจ้าไม่จัดการ ข้าจะลงมือในแบบของข้าเอง!”

    “...ขอรับ”

    แองเซลตอบรับค่อย ๆ พลางลอบถอนหายใจ ก่อนกล่าวต่อ

    “ตอนนี้พวกเรามีทั้งพยาน และหลักฐาน ว่าราชินีคิดร้ายต่อรัชทายาทของอาณาจักรจริง ที่เหลือก็แค่จับมาร์ลิคให้ได้เท่านั้น...”

    ยังไม่ทันพูดจบดี พวกเขาในที่นั้น รวมไปถึงผู้คนทั่วราชอาณาจักร ต่างก็ต้องตกใจ เมื่อได้ยินเสียงระฆังดังก้องกังวานไปทั่วอาณาจักร

    “เสียงอะไร!”

    ดราโกหันไปถามแองเซล ที่บัดนี้มีหน้าซีดเผือด

    “เสียงระฆังหอเตือนภัย ...ระฆังที่ไม่ว่าใครในอาณาจักรก็ห้ามตีเด็ดขาด  ยกเว้นยามที่ฮาร์โมเนีย ประสบเหตุเภทภัยสูงสุด ...เพราะมันเป็นเสียงสัญญาณ ที่มีไว้เพื่อขอความช่วยเหลือจากเผ่าเทพ!”

     มังกรหนุ่มนิ่งอึ้ง ผงะไปกับคำตอบที่ได้รับ  ทว่าพวกเขาก็ต้องชะงักซ้ำสอง เมื่อเสียงระฆังที่ดังกังวานสักพัก เริ่มเงียบหาย  และนั่นทำให้ดราโกหันมามองแองเซลอย่างตั้งคำถาม

    “คงมีใครไปหยุดยั้งการส่งสัญญาณเอาไว้ ....อาจจะเป็นพวกของฝั่งเรา .... ดีแล้ว ถ้าสัญญาณดังไม่ต่อเนื่องเช่นนี้ ทางนั้นอาจจะคิดว่ามีความผิดพลาด แล้วเราก็พอแก้ไขได้ทัน”

    แองเซลคาดเดา ซึ่งคำตอบนั้นขององครักษ์หนุ่มก็ค่อนข้างตรงใจกับของคนฟังด้วยเช่นกัน

    “ต้องไปจัดการตัวต้นตอส่งสัญญาณสินะ!”

    ดราโกคำราม แล้วจึงตัดสินใจส่งร่างที่สลบของน้ำฟ้าและปลอกแขนสะกดพลัง ให้แองเซลดูแล  ก่อนจะสยายปีกสีดำสนิทออกจากแผ่นหลังเปลือยเปล่า พร้อมกับบินตรงไปยังหอเตือนภัยที่ว่านั่นทันที โดยที่แองเซลไม่ทันเอ่ยปากห้ามเรื่องที่อีกฝ่าย

    “...ท่านดราโกนะท่านดราโก ...เล่นเผยตัวจริงซะเองเช่นนี้  แล้วถ้าเผ่าเทพลงมาจริง พวกข้าจะแก้ตัวให้ท่านได้อย่างไร...”

     แองเซลพึมพำแล้วชะงัก ก่อนที่นัยน์ตาจะเปลี่ยนเป็นวาวโรจน์ด้วยการตัดสินใจ

     “...ไม่สิ ถ้ารีบจับกุมราชินี เรื่องที่ท่านดราโกเป็นคนรักของท่านน้ำฟ้า ก็ไม่มีปัญหา!”

    จากนั้นชายหนุ่มจึงหันไปทางองค์รักษ์ที่ติดตามเขามา พลางออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงห้วนห้าว จริงจัง ดังไปทั่วบริเวณนั้น

    “พวกเจ้าไปรวบรวมทหาร ปิดตำหนักของราชินี อย่าให้ใครในตำหนักหนีไปได้แม้แต่คนเดียว!”

   



--- TBC ---

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
กำลังสนุกเลย ดราโกเท่จัง  :-[

ออฟไลน์ SuSaya

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-9
เทพจะมายุ่งด้วยมั้ยเนี่ย...หวังว่าดราโกจะทู่ซี้พาคนรักกลับเมืองได้อย่างสวัสดิภาพนะ

ออฟไลน์ จันทร์ผา

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-2
มันส์พะยะค่ะ

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
อ่านะ ดราโกเกือบเสร็จแล้ว หุๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ hotladyanyavee

  • ขึ้นจากเกาะ มาใช้ชีวิตบนอ่าวนาง มันก็อินดี้ไปอีกแบบ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-10
อืม มแล้วที่เป็นดราโก้เจ้าเล่หืเหลือร้าย

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
 :z1:

ตามอ่านมาจนถึงปัจจุบัน

ดราโก  เท่โค๊ดดดดด  แถมหื่นดีด้วย 555

ติดตามๆๆๆๆ

parkjaewon

  • บุคคลทั่วไป
เอาตัวรอดเก่งจริงพ่อดราโก ^^

pinny

  • บุคคลทั่วไป
หลงมาอ่านด้วย..คน...เคยอ่านตำรวจที่รัก...เป็ถกำลังใจกัฟ

ออฟไลน์ April❤

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
อร้ายยยยย ค้าง
 กำลังหนุกเลย

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
ดราโกโครตเท่

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4


ดวงใจจ้าวมังกร
Act.21 เผ่าเทพปรากฏกาย

   

    ...ดราโกโฉบลงมายังยอดหอคอย ก่อนจะผงะเมื่อเห็นเหล่าองครักษ์ล้มกันเกลื่อนกลาด ด้านหน้ามีจอมปราชญ์ไทนอสฝืนใช้เวทป้องกันตนเองและระฆังอย่างเต็มกำลัง ส่วนมาร์ลิคเองก็ใช้เวทจู่โจมอย่างดุเดือดเช่นเดียวกัน

    “ตายซะเถอะ! ไอ้ปีศาจเฒ่าเจ้าเล่ห์!”

     ดราโกตะโกนพร้อมปล่อยพลังทำลายมหาศาลออกจากฝ่ามือพุ่งใส่ร่างของมาร์ลิค จอมเวทเฒ่าไหวตัวทันหวุดหวิด พลังเฉียดชายเสื้อคลุมไปกระแทกกับผนังหอนาฬิกาจนแหลกไปด้านหนึ่ง

    “ท่านดราโก! กรุณาเบามือหน่อยขอรับ!”

    ไทนอสเอ่ยเตือนเสียงดัง ขืนปล่อยให้ดราโกอาละวาดจนหอเตือนภัยถล่ม มีหวังได้เกิดเรื่องวุ่นวายตามมาแน่

    “เชอะ!”

    มังกรหนุ่มทำเสียงอย่างไม่สบอารมณ์ อยากจะปลดปล่อยพลังเวทใส่ร่างอีกฝ่ายรัวแรงจนแหลกเป็นผุยผง แต่ขืนทำแบบนั้นลงไป หอบ้า ๆ นี่ คงถล่มราบเป็นน่ากอง แล้วเขาในฐานะมังกรที่มาอาละวาดในดินแดนมนุษย์ ก็ต้องถูกเจ้าพวกทหารเทพน่าหมั่นไส้นั่นสอบสวนเอาก็เป็นได้

    ทางด้านมาร์ลิคเริ่มเข้าตาจน เมื่อถูกตามมาเจอเช่นนี้ ต่อให้เขามีพลังเวทฟื้นคืนเต็มที่ ก็ไม่อาจจะสู้เผชิญหน้ากับชาวเผ่ามังกรได้อย่างสูสี โดยเฉพาะมังกรตรงหน้าที่เขาค่อนข้างมั่นใจว่า ไม่น่าจะใช่มังกรระดับธรรมดาทั่วไปแน่

    แต่ก่อนที่ปีศาจเฒ่าจะเข้าสู่ความสิ้นหวัง แสงสีทองและเสียงแตรกังวานก้องไปทั่ว ก็ดังขึ้นมาจากท้องฟ้าเบื้องบน  ไทนอสหน้าซีดเผือด ส่วนมาร์ลิคนั้นชะงักกึก ก่อนจะหัวเราะออกมาดังลั่น

    “ฮ่า ๆ ๆ ในที่สุดเผ่าเทพก็มา ...มังกรเอ๋ย เจ้าไม่รอดแน่!”

    ดราโกกัดฟันกรอด แล้วจึงโพล่งใส่อย่างหงุดหงิด

    “แล้วแกคิดว่าเจ้าพวกเผ่าเทพนั่น จะยอมปล่อยให้ปีศาจที่แฝงกายในหมู่มนุษย์อย่างแกรอดด้วยอย่างนั้นรึ!”

    มาร์ลิคแสยะยิ้ม แล้วจึงร่ายเวทมิติที่ตนถนัดสร้างประตูมิติขึ้นทันที

“แล้วเจ้าคิดว่า ข้าจะอยู่รอพวกมันให้โง่รึ! ...อ้อ! แต่ก่อนจะหนีไป ข้าว่าจะแวบไปบอกข่าวฝากให้ราชินีโอลิเวีย เรื่องที่เจ้าเป็นมังกรสักหน่อยแล้วกัน  ถ้านางยังโง่เขลา จนไม่รู้จะจัดการยังไง ก็ถือว่าเป็นโชคดีของเจ้าไป!”

     บอกจบมาร์ลิคก็หายเข้าไปในประตูมิติอันเป็นเวลาเดียวกับที่ดราโกพุ่งกายเข้ามากระชากร่างของอีกฝ่าย แต่ก็ทำได้เพียงแค่คว้าเศษชายเสื้อคลุมติดมือมาเท่านั้น

    “บัดซบ!”

    ดราโกสบถกับตัวเองอย่างหงุดหงิด ไทนอสคลายพลังเวทป้องกัน แล้วมีสีหน้าเคร่งขรึม

    “ท่านดราโก ท่านเองหลบซ่อนตัวเสียก่อนดีกว่า ที่เหลือพวกข้าจะแก้ต่างให้เอง”

    “ช้าไปแล้วล่ะไทนอส...พวกนั้นแห่กันลงมาแล้ว การสอบปากคำของพวกนั้นไม่ง่ายอย่างที่คิดไว้หรอกนะ...ยิ่งถ้านางอสรพิษนั่นรู้เรื่อง ข้าคิดว่านางคงไม่โง่จนเกินไปจนไม่นำเรื่องของข้ามาปกป้องตัวเองหรอก”

    มังกรหนุ่มพึมพำ แม้จะไม่เคยประสบกับการสอบสวนของเผ่าเทพ แต่เท่าที่เคยได้รับการเล่าเรียนมา ก็ทำให้เขารู้จักชนเผ่านี้ดีพอสมควร

    “แต่พวกเรามีท่านน้ำฟ้าและท่านเรนาร์ดเป็นพยานและหลักฐาน ยังไงก็คงต้องยันกันสักตั้งนั่นล่ะขอรับ”

    ไทนอสบอกแล้วหันไปสบตากับดราโก มังกรหนุ่มถอนหายใจแผ่วเบา แล้วจึงแย้มยิ้มเป็นมิตรส่งให้อีกฝ่าย ก่อนจะลงมาจากหอคอย เพื่อตรงไปหาเด็กหนุ่มคนรักอย่างเป็นห่วง

   

    ทางด้านราชินีโอลิเวีย ยามนี้กำลังขังตัวอยู่ในตำหนักพร้อมองครักษ์ของนางอย่างเสียขวัญ ตั้งแต่เมื่อมีการล้อมจับกุมเริ่มต้น ทว่าพอได้ยินเสียงของมาร์ลิคที่ดังขึ้นโดยไม่เห็นร่าง บอกเล่าเรื่องดราโกเป็นมังกร และเป็นคนรักของน้ำฟ้า รวมไปถึงเรื่องที่ทหารเทพกำลังจะลงมาเพราะได้ยินสัญญาณความช่วยเหลือ หล่อนก็ชะงักและนัยน์ตาเป็นประกายวาวโรจน์ พร้อมกับริมฝีปากที่กระตุกยิ้มอย่างผู้มีความหวัง

    “ทหารทั้งหลาย ฟังข้า! เจ้าชายรัชทายาทสมคบคิดกับชนต่างเผ่า คบหาสมสู่กับพวกมังกร แถมยังคิดให้พวกมังกรยึดครองอาณาจักรฮาร์โมเนีย แล้วลดชั้นให้พวกเรากลายเป็นทาสของสัตว์ดุร้ายพวกนั้น …ที่สำคัญฝั่งเจ้าชาย ยังมีไทนอสให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลังอีกด้วย!”

    แองเซลและทหารทั้งสองฝั่งที่ยืนเผชิญหน้ากันอยู่ภายนอกตำหนัก  ได้ยินประกาศของราชินีโอลิเวีย ที่ออกมาตะโกนยังระเบียงของห้องโถงด้านนอกอย่างชัดเจน  พวกเขาต่างสบตากันตื่น ๆ ทางด้านแองเซลถึงกับสบถเบา ๆ กับตัวเองอย่างหงุดหงิด

    “นังอสรพิษ! ช่างร้ายนัก พลิกลิ้นทีเดียว พวกเราก็กลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบไปแล้ว!”

    จากนั้นชายหนุ่มจึงมองไปยังท้องฟ้าเบื้องบน  แสงสีทองเรืองรองปรากฏขึ้น พร้อมกับเสียงเป่าแตรดังยาวลงมาอีกครั้ง และได้ยินชัดเจนยิ่งกว่าเดิม 

     ราชินีคนงามแสยะยิ้มอย่างเป็นต่อ เมื่อเห็นร่างกำยำล่ำสัน มีปีกสีขาว ทยอยเหาะลงมาจากท้องฟ้าเรื่อย ๆ และเพียงไม่นานกลางลานกว้างของปราสาท นักรบจากเผ่าเทพจำนวนร้อยนาย ก็ยืนตรงเข้าแถวเป็นระเบียบพร้อมเพรียง เบื้องหน้าของกองทัพขนาดย่อมนั้น มีร่างของชายหนุ่มผมทองยาวสลวย ดูน่าเกรงขาม สง่างาม นัยน์ตาสีเขียวมรกตคมกริบปราดมองรอบด้านชั่วครู่ ก่อนจะหันไปทางนายกองประจำทัพ

    “เวนอล! ไปเบิกตัวผู้ที่ขอความช่วยเหลือ มาหาข้า!”

    “ขอรับ ท่านเจราล!”

    นายกองหนุ่มรับคำ แล้วรีบเดินตรงเข้าไปยังในปราสาท พร้อมลูกน้องอีกสามสี่คน เพื่อสืบหาสาเหตุของการส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือครั้งนี้



    “ไม่คิดเลยว่า ท่านจะเป็นผู้คุมกองทัพมาเอง ท่านเจราล!”

    เสียงทุ้มดังขึ้นจากอีกมุม ทำให้คนถูกเรียกชื่อชะงัก และพอเห็นหน้าคนพูดถนัดชัดเจน เจ้าตัวก็ขมวดคิ้ว แล้วเอ่ยชื่ออีกฝ่ายขึ้นบ้าง

    “ท่านดราโก …เหตุใดราชามังกรจึงมาอยู่ในอาณาจักรมนุษย์ได้?”

    “ท่านลองเดาดูไหมล่ะ?”

    ดราโกเอ่ยสวนพร้อมรอยยิ้มกวน ๆ ทำให้คนฟังนิ่งคิดเพียงชั่วครู่ แล้วจึงถอนหายใจเบา ๆ

    “การขอความช่วยเหลือครั้งนี้ หวังว่าคงไม่ใช่เพราะท่านเป็นสาเหตุหรอกนะ”

    มังกรหนุ่มหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ พร้อมกับตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม

    “ข้าก็อยากให้เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน แต่ดูท่าทางคงจะหลีกไม่ได้”

    “แล้วเหตุใดท่านจึงเป็นฝ่ายออกมาหาข้าเอง คงไม่ใช่คิดยอมมอบตัวแต่โดยดีใช่ไหม?”

    จอมทัพแห่งเผ่าเทพเอ่ยถามอย่างรู้ทันเท่าทีในนิสัยดื้อดึง และไม่ยอมคนของราชามังกร

    “แน่นอน ...ข้าก็แค่อยากจะออกมาเล่าเรื่องอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ท่านฟังก่อนที่ข้าจะถูกใส่ร้ายป้ายสี ...บอกตามตรงนะ ถึงข้าจะเจ้าเล่ห์กลิ้งกลอกสักเพียงใด แต่ข้าก็ยังสู้ฤทธิ์เล่ห์มารยาของสตรีไม่ได้อยู่ดี  ขืนพูดหลังนางอสรพิษ...อ้อ ข้าหมายถึง ราชินีแห่งอาณาจักรนี้  มีหวังข้าคงหลุดโทสะจนเผลอเข้าทางนางไปบ้างก็ได้”

    ฟังเพียงแค่นี้ จอมทัพผู้ชาญฉลาดก็พอจะปะติดปะต่อเรื่องราวต่าง ๆ ได้เกือบหมด เพราะก่อนหน้าที่จะลงมา เขาก็พอจะรู้ประวัติคร่าว ๆ ของอาณาจักรฮาร์โมเนียในยามนี้อยู่บ้าง  แต่ไม่คาดคิดว่าจะมีราชามังกรเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วย ... มิน่าล่ะ คนคนนั้นถึงได้บอกให้เขามาด้วยตัวเองเช่นนี้

     “แต่ถึงยังไง ในฐานะเผ่าเทพ ข้าต้องไต่สวนอย่างเป็นธรรม”

    “ข้าก็ไม่คิดจะใช้ฐานะราชามังกรบีบให้ท่านเข้าข้างสักหน่อย  ข้ารู้ดีน่า พวกเผ่าเทพน่ะ เป็นพวกรักความยุติธรรม และชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน  อ๊ะ! ข้าหมายถึงเป็นพวกชอบช่วยเหลือผู้เดือดร้อนล่ะนะ”

    ไทนอสที่มองอยู่ห่าง ๆ ลอบถอนหายใจ ไม่คิดว่าดราโกจะไม่ค่อยถูกกับพวกเผ่าเทพ  ...ลองแบบนี้ จากที่คิดว่าจะช่วยพูดให้พ้นผิด เผลอ ๆ เจ้าตัวอาจจะพลั้งปากจนฝ่ายนั้นอารมณ์เสียแทนก็ได้

    “หึ ๆ ข้าเข้าใจ ...ท่านคงไม่ชอบที่เผ่าของเราทำตัวเหมือนศาลสูง คอยตัดสินความผิดของเผ่าอื่น ๆ สินะ”

    เจราลตอบพร้อมรอยยิ้ม แม้จะถูกราชามังกร กระแนะกระแหนเข้าให้สักเพียงใด แต่กลับไม่ได้มีริ้วรอยขุ่นเคือง ปรากฏบนใบหน้าคมเข้มงดงามนั่นแม้แต่น้อย 

    และก่อนที่ดราโกจะพูดอะไรต่อ เสียงฝีเท้าหนัก ๆ หลายฝีเท้าก็ดังขึ้นห่างออกไป มังกรหนุ่มหันไปมอง ก็เห็นทหารเผ่าเทพ สามสี่นาย เดินนำราชินีโอลิเวีย และทหารองครักษ์อีกจำนวนหนึ่งมา ซึ่งหนึ่งในนั้นนอกจากจะเป็นคนของเจ้าหล่อนเองแล้ว ก็ยังมีกลุ่มของแองเซลเดินตามมาด้วยกัน

    “ท่านเจราล ข้าน้อยได้นำตัวราชินีโอลิเวียแห่งอาณาจักรฮาร์โมเนียผู้ร้องทุกข์ มาพร้อมคู่กรณีแล้วขอรับ!”

    “ข้าโอลิเวีย ขอคารวะท่านจอมทัพแห่งเผ่าเทพ  ...หากแต่คู่กรณีทั้งหมดนั้นยังไม่พร้อม ยังเหลือผู้บงการฝั่งกบฏอีกหนึ่งคน”

    ดราโกกัดฟันเบา ๆ ด้วยความโมโห ปกติเขาไม่ค่อยรังเกียจผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงสวย แต่ราชินีผู้นี้ทั้งชั่วช้า และยังมารยาสารไถเสียจนเขายังนึกขยะแขยง และเสียดายในรูปโฉมที่ปกคลุมร่างเนื้อ และจิตใจต่ำช้านี้นัก

    “น้ำฟ้ายังสลบอยู่เพราะฝีมือของพวกเจ้า แล้วยังคิดจะโยนความผิดให้เขาอีกเช่นนั้นรึ!”

    มังกรหนุ่มคำรามใส่ แต่เจราลรีบยกมือห้ามไว้เสียก่อน

    “เวลายังมีอีกมากมาย ข้าเองก็ไม่ได้คิดรีบกลับ ...ดังนั้น ฝ่ายไหนพร้อมแค่ไหน ก็ชี้แจงไปก่อน บางที ถ้าหลักฐาน พยานพร้อม ก็ไม่ต้องมากคนให้มากความ”

    จอมทัพเทพบอกพร้อมรอยยิ้มอย่างไม่ทุกข์ร้อน จนทหารเทพทั้งหลายเหลือบมองผู้บังคับบัญชาผู้เข้มงวดอย่างแปลกใจ แต่ก็ไม่มีผู้ใดกล้าเอ่ยทัดทานสักคำ จากนั้นราชินีโอลิเวีย จึงแนะนำให้ใช้ท้องพระโรงใหญ่เป็นห้องไต่สวน ซึ่งเจราลเองก็เห็นด้วย แล้วจึงให้ลูกน้องของตนแยกย้ายไปคุมทั้งสองฝ่าย เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องราวปะทะนอกรอบ ก่อนการไต่สวนจะเริ่มต้นและสิ้นสุดลง

   

    ระหว่างการเตรียมตัวเบิกพยานและโจทก์เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงของเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอาณาจักรแห่งนี้ ลูก้าก็ลอบมารายงานกับราชินีโอลิเวียว่า เจ้าชายเรนาร์ดหนีไปแล้ว

    “เจ้าลูกไม่รักดี! แม่เดือดร้อนขนาดนี้แล้วยังเอาแต่ห่วงหนีไปเล่นไร้สาระ  ช่างหัวมัน! ไม่ต้องสนใจ ยามนี้ การทำให้เผ่าเทพเชื่อว่า เจ้าชายเรโนและคนรักของมันเป็นคนผิดสำคัญกว่า!”

    ลูก้านิ่งเงียบ เขาไม่กล้าบอกกับราชินีคนงามต่อ ว่าเจ้าชายเรนาร์ดจำได้ทุกอย่าง และคิดจะช่วยน้ำฟ้าอย่างเต็มที่ ชายหนุ่มเลี่ยงออกมาเงียบ ๆ แล้วตัดสินใจ ตามหาเจ้าชายน้อยเพื่อชิงตัวกลับมาด้วยตนเอง เพราะเขาแน่ใจว่า ยามนี้เรนาร์ดต้องอยู่ในอารักขาของฝ่ายเจ้าชายเรโนเป็นแน่แท้

   

    เรนาร์ดนั่งถอนหายใจเบา ๆ มีแองเซลคอยอยู่เป็นเพื่อน เขาอยากไปดูอาการน้ำฟ้า แต่เพราะว่าดราโกเฝ้าน้ำฟ้าอยู่ เด็กชายจึงนึกเกรงใจ และปล่อยให้ทั้งคู่อยู่กันตามลำพัง รอจนกว่าจะถูกเรียกตัวไปสอบพยานจากทางเผ่าเทพ ซึ่งพอนึกถึงร่างเล็กก็ตัวสั่นน้อย ๆ ด้วยความกลัว หากต้องเผชิญหน้ากับเผ่าพันธุ์ที่ยิ่งใหญ่เช่นนั้น

    “ท่านเรนาร์ดไม่ต้องกังวลนะขอรับ พวกข้าจะคอยอยู่เคียงข้างท่านเอง”

    แองเซลบอกอย่างอ่อนโยน ซึ่งร่างเล็กก็ชะงักแล้วยิ้มตอบ

    “ขอบใจนะแองเซล...”

    เรนาร์ดบอกขอบคุณแล้วก็ซึมไปเพราะคิดถึงลูก้า เขาไม่แน่ใจว่าป่านนี้ลูก้าจะเลิกล้มเรื่องคิดร้ายต่อน้ำฟ้าหรือยัง  เขาอยากคุยกับลูก้าให้รู้เรื่อง และให้ชายหนุ่มยอมฟัง เขาจะได้ขอร้องให้น้ำฟ้าอภัยโทษกับลูก้าเช่นเดียวกับที่เด็กหนุ่มคิดยอมอภัยเว้นโทษตายให้กับแม่ของเขา

    “ท่านเรนาร์ด ท่านแองเซล ...ทางนั้นเรียกตัวมาแล้วขอรับ”

    นายทหารรับใช้คนหนึ่งรีบเข้ามารายงาน ทำให้แองเซลและเรนาร์ดลุกขึ้นยืน แองเซลขอตัวไปเรียกดราโก ซึ่งเรนาร์ดก็ยิ้มรับพลางพยักหน้ารับรู้ เขายืนคอยสักพัก ก็เห็นมังกรหนุ่มเดินออกมาพร้อมกับแองเซล

    “ท่านพี่เป็นยังไงบ้างขอรับ”

    เรนาร์ดที่ได้รู้สถานะที่แท้จริงของอีกฝ่ายเอ่ยถามอย่างเป็นกังวล ดราโกเหลือบมองร่างเล็ก แล้วยิ้มน้อย ๆ ให้

    “เขาดื่มสมุนไพรที่ไทนอสปรุงไปแล้ว นอนพักอีกสักคืนก็คงสลายฤทธิ์ยานั่นได้ โชคดีที่น้ำฟ้าสูดดมกำยานสะกดนั่นไปไม่มากนัก แต่หากรู้ช้ากว่านี้สักวันสองวันคงยากที่จะช่วย...”

     ท้ายประโยคมังกรหนุ่มเผลอผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ นึกขอบคุณโชคชะตาที่ช่วยให้เรนาร์ดจำทุกอย่างได้ และตัดสินใจที่จะอยู่ฝั่งของตน

     “ยังไงก็ต้องขอบใจเจ้าอีกครั้ง ที่เสี่ยงภัยมาบอกที่อยู่ของเขาให้ข้าทราบ”

    เจ้าชายน้อยยิ้มตอบอย่างยินดีเมื่อได้ฟังว่าน้ำฟ้าจะกลับมาเป็นปกติในไม่ช้า เขาดีใจเรื่องนี้มากกว่าการที่ได้รับคำชมจากราชามังกรเสียอีก  จากนั้นพวกเขาจึงเดินออกไปจากตำหนัก มุ่งสู่ท้องพระโรงพร้อมกัน โดยมีไทนอสยืนรออยู่และร่วมเดินทางไปพร้อมกับทุกคน ส่วนน้ำฟ้าที่นอนหลับอยู่ มีม่านพลังเวทอันแสนจะแข็งแกร่งของราชามังกรคุ้มกันกาย และยังมีทหารองครักษ์เทพและทหารฝั่งของไทนอสปกป้องตำหนักอยู่ มังกรหนุ่มจึงไม่ค่อยเป็นห่วงทางด้านนี้มากเท่าใดนัก



     ทว่าระหว่างการเดินทางไปยังท้องพระโรง จู่ ๆ เรนาร์ดก็ต้องชะงัก เมื่อมีผีเสื้อตนหนึ่งบินมาเกาะที่มือเขาแต่พอเขาสัมผัส มันก็กลับกลายเป็นจดหมายเขียนข้อความสั้น ๆ เอาไว้  เรนาร์ดเม้มปากแน่น แล้วจึงขยำกระดาษซ่อนไว้ในเสื้อ ก่อนจะทำเป็นชะงักแล้วเอ่ยขึ้น

    “เอ่อ ...ขอโทษนะ แต่ว่าพวกท่านช่วยล่วงหน้ากันไปก่อนได้ไหม  ข้าลืมของไว้ที่ตำหนัก...เอ่อ เป็นเครื่องรางสำคัญมากน่ะ...”

    อีกสามคนฟังแล้วก็หันมามองหน้ากัน แองเซลจึงหันกลับมาเพื่อขอตามไปด้วย แต่เจ้าชายน้อยรีบปฏิเสธ

    “ไม่เป็นไรหรอกแองเซล ข้าไปแป๊บเดียวจริง ๆ เดี๋ยวกลับมาแล้ว”

    ทั้งสามคนมองเรนาร์ดอย่างมีพิรุธ แต่แล้วดราโกก็เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นเรียบ ๆ

    “ก็ได้ แต่ต้องรีบกลับล่ะ เพราะเจ้าเป็นพยานสำคัญ ถ้าช้านัก ข้าจะให้แองเซลไปตามเข้าใจไหม?”

    “ขอรับ ท่านดราโก ขอบพระคุณมาก!”

    เรนาร์ดรีบบอก แล้วรีบวิ่งกลับไปยังตำหนัก แองเซลหันมามองดราโก มังกรหนุ่มยิ้มน้อย ๆ แล้วจึงพยักหน้า

    “ทิ้งระยะห่างหน่อยแล้วกันนะ”

    “ขอรับ”

    แองเซลยิ้มรับ มองดูเรนาร์ดก็รู้ว่า การที่อีกฝ่ายรีบร้อนกระวนกระวายขนาดนั้น  ก็คงต้องมีสาเหตุจากพี่เลี้ยงคนสำคัญเป็นแน่  สำหรับแองเซลแล้ว ลูก้านั้นก็ไม่ใช่คนเลวอันใด และหากได้อีกฝ่ายมาเป็นพยาน ก็ยิ่งเพิ่มความเชื่อถือให้กับทางนี้มากยิ่งขึ้น

    ส่วนทางด้านดราโก มังกรหนุ่มได้รับรู้เรื่องราวของลูก้าผ่านจากปากแองเซล และจากเจ้าชายน้อยยามที่เล่าถึงพี่เลี้ยงคนสนิทให้น้ำฟ้าฟังบ่อย ๆ ทำให้เขาพอจะรู้ว่า ลูก้านั้นจงรักภักดีกับเรนาร์ดขนาดไหน เพราะถ้าเขาเป็นลูก้า ก็คงยอมเลือกทุกวิถีทางที่จะทำให้ปกป้องคนรักให้ได้ โดยไม่สนว่าสิ่งนั้นจะถูกหรือผิดก็ตาม เช่นกัน

     “ท่านคิดว่าลูก้าจะสร้างความเดือดร้อนให้พวกเราไหม?”

    ไทนอสเอ่ยถาม หลังจากที่มองไล่หลังแองเซลแอบตามเรนาร์ดไปสักพัก

    “ข้าเชื่อว่า หากเขารู้ความจริงว่าน้ำฟ้าต้องการจะทำเช่นไรกับน้องชายตนเอง หลังโค่นราชินีลงได้ เขาก็ย่อมจะเลือกอยู่ฝ่ายเราโดยไม่ลังเลแน่”

    ดราโกบอกอย่างมั่นใจ ซึ่งไทนอสเองก็คิดเช่นนั้น แต่เจ้าสังหรณ์และความกังวลประหลาดที่รบกวนในจิตใจลึก ๆ นี่สิ ที่ทำให้เขารู้สึกว่า เรื่องราวมันอาจจะไม่ง่ายดายเช่นที่ว่ามาแน่



   

--- TBC ---

ออฟไลน์ SuSaya

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-9
ลูก้าจะทำอะไรอีกเนี่ย...ชักจะหมั่นไส้ตัวละครตัวนี้แล้วแฮะ
แต่อยากให้เหล่าเทพตัดสินจองจำราชินีเองนะ...เอาให้ไม่อยากอยู่ต่อด้วยตัวเองเลย ร้ายขนาดนั้น
แต่มารเฒ่ามาลิคนี่สิ...จะไปตามจับตัวกลับมายังไงล่ะ ปล่อยไปก็ก่อความเดือนร้อนไม่จบไม่สิ้น

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
 :sad11:


ไม่จบไม่สิ้งง่าย

หวังว่าพวกเทพคงไม่โง่นะ

Coolsipie

  • บุคคลทั่วไป
จะเกิดอะไรขึ้นอีกละเนี๊ย  :a5: :a5: :a5: :a5: :a5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
จะเกิดปัญหาอะไรอีก เรนาร์ดต้องเชื่อลูก้าแน่
ดราโกเป็นราชามังกรยังจัดการไม่ได้สักที
หงุดหงิด เบื่อยัยราชินีกับลูก้า :m16:

ออฟไลน์ hotladyanyavee

  • ขึ้นจากเกาะ มาใช้ชีวิตบนอ่าวนาง มันก็อินดี้ไปอีกแบบ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-10
จะทำอะไรอีกลูก้า จะเชื่อท่านราชินี นังปีศาลโอลิเวียไปไหน หัดตื่นมองโลกบ้าง
สงสัยเรื่องนี้ต้องมีเหตุให้วุ่นวายอีกแน่ ไหน่ปีศาจเฒ่ามาร์ลิคที่ไม่ตายอีก เห่อ เค้าความวุ่นวาย
ก่อตัว เพี้ยงขอให้เรนาร์ดช่วยเปลี่ยนใจลูก้าที

ออฟไลน์ April❤

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
อร้าย :angry2: หมั่นไส้ราชินี  :beat:

ตอนนี้เผ่าเทพโผล่ อีกหน่อยจะมีเผ่าอะไรโผล่มาอีกมั้ยหว่า :z2:

debubly

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4

Act.22 ความจริงเปิดเผย

   

   ...เรนาร์ดกึ่งวิ่งกึ่งเดิน ไปยังตำแหน่งจุดนัดพบที่เขียนไว้ในกระดาษ เขาแวะยืนหอบชั่วครู่ แต่ก็ยังคงวิ่งต่อไปเรื่อย ๆ จนเผลอสะดุดขาตัวเองล้ม ทว่าอ้อมแขนแกร่งของใครบางคนกลับคว้าร่างนั้นไว้ได้ทันเสียก่อนจะหกล้มบาดเจ็บ

   “ไม่เป็นอะไรนะขอรับ ท่านเรนาร์ด”

   ลูก้าถามอย่างห่วงใย เรนาร์ดหันไปสบตากับองครักษ์คนสนิท ก่อนที่อ้อมแขนเล็ก ๆ จะสวมกอดลำคอของอีกฝ่ายแน่นจนชายหนุ่มตกใจ

   “ท่านเรนาร์ด!”

   “ลูก้า...ข้านึกว่าจะมาไม่ทันเสียแล้ว ...บ้าที่สุด ทำไมต้องเขียนไปบอกแบบนั้นด้วย...ฮึก...”

   องครักษ์หนุ่มเจ็บแปลบที่หัวใจขึ้นมาทันที ที่เห็นน้ำตาใส ๆ นั่น ...จริงอยู่ถึงเขาจะเขียนไปว่า หากเรนาร์ดไม่ยอมมาพบ เขาจะปลิดชีพตัวเอง แต่เขาไม่คิดเลยว่าคนที่หักหลังความไว้วางใจอีกฝ่ายซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างเขา จะยังคงมีความสำคัญต่อเรนาร์ดขนาดนี้

   “ข้า...ขอโทษ”

   ลูก้ากอดรัดร่างเล็กตอบ วูบหนึ่งเขาอยากพาเรนาร์ดหนีออกไปจากวังหลวงแห่งนี้ ไปใช้ชีวิตกันอยู่ตามลำพัง ไม่ต้องมีเรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้องให้เจ้าชายน้อยต้องหม่นหมองใจอีก ทว่าอีกความคิดกลับแย้งต่อต้าน เพราะหากทำเช่นนั้น เขาก็ต้องทำให้เรนาร์ดมีชีวิตอยู่อย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ ต้องถูกตามล่าต่อไปไม่จบสิ้นเป็นแน่

   “เจ้าชาย...ถ้าทรงหวังดีต่อข้า ...ก็ได้โปรดอย่าไปเป็นพยาน ต่อต้านพระมารดาเลยนะขอรับ”

   เรนาร์ดสะดุ้ง แล้วมองตาคนพูดอย่างลังเล ก่อนจะตัดสินใจเล่าความจริงเกี่ยวกับสิ่งที่น้ำฟ้าปรารถนาเอาไว้ให้ฟังจนหมดสิ้น

   “ไม่จริง...มันจะเป็นไปได้เช่นไร ...ท่านแม่ของท่านทำกับเจ้าชายเรโนและราชินีเฮเลนเอาไว้มาก ...ข้าไม่เชื่อหรอก ว่าจะทรงอภัยให้ได้”

   ลูก้าพึมพำกับตัวเอง แต่พอสบนัยน์ตาใสซื่อบริสุทธิ์ของเรนาร์ด ก็ยืนยันว่าอีกฝ่ายไม่ได้โกหกเขาแน่

   “ท่านคงถูกพวกนั้นหลอกใช้...ท่านเรนาร์ด”

   ใช่...เรนาร์ดไม่มีวันโกหกเขา หรือคิดร้ายต่อเขา ...พวกของไทนอสอาจจะใช้ความใสซื่อของเจ้าชายน้อย หลอกล่อให้อีกฝ่ายเป็นพยานก็เป็นได้

   “อย่าเอาพวกข้าไปรวมกับเจ้าแก่ชั่วมาร์ลิคนั่นสิ ลูก้า!”

   เสียงของแองเซลที่ขัดขึ้น ทำให้ลูก้าและเรนาร์ดสะดุ้ง  ลูก้ารีบดันตัวเจ้าชายน้อยไปด้านหลังตนเอง แล้วดึงดาบขึ้นมาเผชิญหน้าอีกฝ่าย   

   “นึกไม่ถึงว่าปัญญาของเจ้ามันจะทึบถึงเพียงนี้  เจ้าเชื่อเจ้าแก่ชั่วนั่น แต่กลับคิดว่าพวกข้าเลวร้ายกว่ามัน... คิดว่าพวกข้าจะหลอกใช้ท่านเรนาร์ดให้เป็นพยานอย่างนั้นรึ ... ลองทบทวนให้ดีดูก่อนเถอะว่า เหตุการณ์ที่ผ่านมา ฝ่ายใดเล่า ที่เป็นคนทำร้ายท่านเรนาร์ดมากกว่ากัน!”

   แองเซลตะโกนต่อว่าตำหนิใส่คนฟังอย่างรุนแรง ลูก้าสะดุ้งเฮือก มือไม้สั่นเทาด้วยความรู้สึกผิดที่ถาโถมเข้ามา ภาพเรนาร์ดตอนถูกสะกด และภาพเจ้าชายน้อยร้องไห้อ้อนวอนเขา ยังคงคอยตามมาหลอกหลอนเขาทุกครั้ง เมื่อคิดถึงเรื่องนั้น

   “เจ้ามาร์ลิคมันหนีไปแล้ว เพราะเกรงว่าหากเจอเผ่าเทพ มันต้องโดนกำจัด  เพราะจริง ๆ แล้วมันคือคนของเผ่าปีศาจ ...ลูก้าเอ๋ย เจ้าเชื่อฟังคำพูดของเผ่าปีศาจได้ แต่เจ้ากลับไม่เชื่อในคำพูดขององค์รัชทายาทของอาณาจักรนี้ ..ไม่เชื่อคำพูดของพี่ชายที่เจ้าชายเรนาร์ดรักและเคารพจนสุดหัวใจเช่นนั้นรึ!”

   ลูก้าชะงัก และก็ต้องนิ่งอึ้ง เมื่อมือเล็ก ๆ จับที่แขนของเขา พร้อมกับยืนยันคำพูดนั้นด้วยตัวเอง

   “ท่านดราโกบอกข้าเองในเรื่องนี้... ท่านดราโกเป็นถึงราชามังกรผู้ยิ่งใหญ่ ถ้าท่านเอาจริง อาณาจักรของพวกเราก็คงต้องพังพินาศในพริบตา แต่ท่านรักท่านพี่ ยอมสะกดพลังก็เพื่อท่านพี่ คนที่ทำให้คนยิ่งใหญ่ขนาดนั้นยอมได้ขนาดนี้ ก็ต้องเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน..... ลูก้า ท่านพี่เป็นคนดีจริง ๆ นะ  ...สำหรับข้า แม้ต่อให้ท่านพี่จะไม่อภัยโทษให้ท่านแม่และข้า ...แต่ข้าก็ยังรักท่านพี่เหมือนเดิม ...ลูก้า พวกเราทำผิดมาตลอด ...ได้โปรด ...ขอให้ข้าได้ช่วยเหลือท่านแม่ ...ยอมให้ข้าทำหน้าที่ลูกที่ดีครั้งนี้สักครั้งเถอะนะ”

   ลูก้าเงียบกริบ ค่อย ๆ ทิ้งดาบในมือลง แล้วคุกเข่าต่อหน้าเรนาร์ด  ก่อนจะหยิบมือข้างหนึ่งของเด็กชายมาจุมพิตแผ่วเบา ...เขาทำให้เรนาร์ดเจ็บช้ำมามากแล้ว หากเจ้าชีวิตของเขาต้องการเช่นนี้จากใจจริง... เขาก็คงไม่อาจฝืนต่อต้านได้อีก

   “เจ้าชายของข้า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้... ข้าก็จะขออยู่เคียงข้างท่านตลอดไป”   

   “พวกเจ้าจะต้องปลอดภัย ภายใต้การคุ้มครองของท่านไทนอส และกองกำลังองครักษ์ของท่านเรโน”

   แองเซลให้คำมั่นสัญญา แล้วจึงพาลูก้ากับเรนาร์ดไปยังท้องพระโรงด้วยกัน เพื่อหวังให้ทั้งคู่ไปเป็นพยานยืนยันความผิดของราชินี  และหาวิธีช่วยแก้ตัว เรื่องที่ดราโกเป็นมังกรและมาก้าวก่ายในอาณาจักรของมนุษย์ด้วย

   

   ระหว่างที่พวกเขาเดินไปเรื่อย ๆ เพื่อตรงไปยังท้องพระโรงอันเป็นที่อยู่ของจอมทัพเทพเจราล ราชามังกรดราโก และราชินีโอลิเวียแห่งฮาร์โมเนีย  จู่ ๆ ลูก้าก็ชะงักกึก ตัวเย็นเฉียบ แขนข้างที่ใช้เวทต้องห้ามสร้างรู้สึกหน่วงหนักจนแทบจะขยับไม่ได้  และในขณะที่ลูก้าผิดปกติ พวกทหารเทพที่ยืนอยู่แถวนั้นสองนาย ก็มีท่าทีไม่ต่างกัน พลางจ้องมองตรงมายังทั้งสามเขม็ง

   “พวกเจ้าเป็นใคร!”

   แองเซลชะงัก แต่ก็ตอบคำถามนั้นแต่โดยดี

   “ข้าคือคนของท่านไทนอสและเจ้าชายเรโน รัชทายาทแห่งอาณาจักรนี้ ส่วนนี่คือเจ้าชายเรนาร์ดและองครักษ์ พวกเรากำลังเข้าไปในท้องพระโรงเพื่อไปเป็นพยานในการสอบสวนครั้งนี้”

   ทหารเทพนายนั้นนิ่วหน้า แล้วเพ่งไปมองที่แขนของลูก้าอย่างจับผิด

   “ข้าสัมผัสได้ถึงพลังปีศาจ จากแขนของเจ้า!”

   ลูก้าชะงัก แล้วหวนนึกถึงพิธีกรรมที่ทำให้เกิดแขนข้างนี้ขึ้นมา

   “มาร์ลิค...”

   ลูก้าพึมพำ แล้วจู่ ๆ เขาก็สะดุ้งเฮือก ที่แขนข้างนั้นของตนเริ่มร้อนราวกับไฟไหม้ ก่อนที่มันจะกลายเป็นสีดำ และขยายแตกกิ่งก้านสาขาราวกับกิ่งไม้ใหญ่ ฟาดจู่โจมผู้คนแถวนั้นอย่างรวดเร็ว

   “อ๊ากกก!!”

   ลูก้าร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวด เพราะสีดำมืดที่แขนเริ่มแผ่ขยายมาเกาะกินร่างของตน เรนาร์ดมองพี่เลี้ยงคนสนิทด้วยความตกใจ พลางรีบวิ่งเข้าไปช่วย แต่ก็ถูกมือสีดำที่แตกกิ่งก้านออกมาเหวี่ยงใส่ จนร่างเล็กกระเด็นไปอีกทาง

   “ท่านเรนาร์ด!!”

   ลูก้าร้องตะโกนด้วยความตกตะลึง เมื่อเห็นเจ้าชายน้อยโดนมือปีศาจของตนทำร้าย แองเซลรีบเข้าไปประคอง แล้วก็ต้องโล่งอก ที่ร่างนั้นไม่มีบาดแผลนอกจากเจ็บจนจุกเท่านั้น

   “อ๊ากก! ใครก็ได้ ฆ่าข้าที!”

   ลูก้าตะโกนกรีดร้องโหยหวน เจ็บปวดที่ตัวเองลงมือทำร้ายคนที่ตนรักสุดใจ ทหารเทพแถวนั้นต่างสบตากัน แล้วตัดสินใจโจมตีร่างตรงหน้า โดยหมายปลิดชีพทิ้งเสียตามที่เจ้าตัวขอร้อง

   เคร้ง!

   เสียงดาบเหล็กที่เข้ามาฟาดหอกที่กำลังจะจ้วงแทงอกขององครักษ์หนุ่ม ทำให้ทหารเทพที่ลงมือ มองคนผู้นั้นอย่างขุ่นเคือง

   “สังหารไม่ได้! นี่คือพยานคนสำคัญ!”

   แองเซลตะโกนใส่อีกฝ่าย แต่แท้จริงแล้ว เขารีบแล่นเข้ามาขวางเพราะคำขอร้องของร่างเล็ก ที่นอนเจ็บจุกอยู่อีกฝั่ง เขารู้ดีว่าสำหรับเรนาร์ดแล้ว ลูก้าเป็นคนสำคัญมากเพียงใด หากชายหนุ่มตายไป หัวใจดวงน้อยที่บอบบางอยู่แล้วนั่นคงทนแทบไม่ได้เป็นแน่

   “แต่เขาถูกปีศาจครอบงำ ยากจะช่วยแก้ไขได้แล้ว!”

   ทหารเทพโต้ตอบ ทำให้แองเซลกัดฟันกรอด

   “พวกท่านเป็นถึงเผ่าเทพที่ยิ่งใหญ่ ก็หาวิธีช่วยเขาเข้าสิ ไม่ใช่เอะอะก็ดีแต่สังหาร!”

    แองเซลตอบโต้อย่างไม่คิดเกรงกลัว เพราะความเป็นห่วงเรนารด์ และสงสารลูก้าที่ถูกมาร์ลิคใช้เป็นหมาก จึงทำให้เขาลืมตัวลืมตน ทำแม้กระทั่งกล้าเผชิญหน้ากับเผ่าเทพที่เหนือกว่า

   “เจ้า!”

   ทหารเทพชะงักคำพูด ยอมรับว่าแต่แรกก็นึกโมโหที่ถูกอีกฝ่ายซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์ต้อยต่ำกว่าต่อว่า แต่พอเห็นแววตาเด็ดเดี่ยวของแองเซล และใบหน้าทรมานเจ็บปวดของลูก้า ก็พลันได้สติว่าชายหนุ่มยังคงไม่ถูกพลังปีศาจกลืนจนหมด และยังน่าจะช่วยเหลือได้อย่างที่แองเซลว่ามา ทหารเทพผู้นั้นตัดสินใจใช้พลังเวทของตนสะกดร่างของลูก้าไว้ในข่ายอาคม ก่อนจะหันไปทางเพื่อนอีกคน

   “ข้าจะตรึงไว้เอง ไปเรียกท่านนายกองมาเร็ว!”

   ทหารเทพนายนั้นบอกเพื่อนของตนที่พยักหน้าแล้ววิ่งจากไป แล้วจึงหันมาทางแองเซล

   “พวกข้าไม่ใช่พวกเย็นชาไร้หัวใจหรอกนะ ...แต่ในสงคราม ความเย็นชาและเด็ดเดี่ยว คือหนทางที่จะนำไปสู่ชัยชนะมากที่สุดต่างหาก!”

   “แต่นี่ไม่ใช่สงครามนี่ขอรับ”

   แองเซลโต้ตอบ ใจเย็นลงบ้างแล้ว พลางส่งยิ้มด้วยความขอบคุณให้อีกฝ่าย ทำให้คนมองนิ่งอึ้ง ก่อนจะยิ้มเขิน ๆ ตอบ จากนั้นแองเซลก็วิ่งไปดูอาการของเรนาร์ด ส่วนทหารเทพคนอื่น ๆ ที่ได้ข่าว ก็มาช่วยเพื่อนตรึงร่างของลูก้า  และสักพักไม่เพียงแค่นายกองเวนอลจะตามมา แม้แต่เจราล และพวกของดราโก รวมไปถึงราชินีโอลิเวีย ก็ตามออกมากันทั้งหมด ราชินีคนงามสะดุ้งเฮือก เมื่อเห็นร่างของลูก้า และลูกชายของตนที่อยู่กับแองเซล

   “อืม ... วุ่นวายกันจริงหนอ...เฮ้อ! ช่วยไม่ได้นี่นะ”

   เจราลพึมพำ แต่กลับมีรอยยิ้มที่ริมฝีปากได้รูปนั่น จากนั้นจอมทัพเทพจึงสั่งให้ทหารของตน ปลดเขตแดน ซึ่งทันทีที่เขตแดนถูกปลด มือปีศาจขนาดใหญ่ ก็เตรียมฟาดมาที่ร่างของเจราลทันที ทว่าก็ถูกกำแพงโปร่งใสที่เจ้าตัวสร้างกั้นขวางไว้ก่อน

   “เวทต้องห้าม ...ผู้ที่สร้างคงต้องเป็นปีศาจที่เก่งกาจพอดู ทั้งที่ผู้ใช้เป็นมนุษย์แท้ ๆ ยังก่อเรื่องวุ่นวายได้เพียงนี้”

   จอมทัพหนุ่มเปรยเบา ๆ ก่อนจะเหลือบไปมองราชินีคนงาม แล้วลอบกระตุกยิ้มที่ริมฝีปาก จากนั้นร่างของเจราลก็พลันหายวับไปจากตำแหน่งที่ยืนอยู่ และปรากฏต่อหน้าของลูก้าในชั่วพริบตา

   “ข้ายังช่วยเจ้าได้ ...แต่แขนข้างนี้ของเจ้าคงต้องถูกทำลายลง เข้าใจนะ”

   ลูก้ากัดฟัน ควบคุมสติ แล้วพยักหน้ายินยอม

   “ลงมือได้เลยขอรับ”

   “ดี! เด็ดเดี่ยวใช้ได้”

    เจราลเอ่ยชม แล้วจึงเสกดาบสีทองอันใหญ่ขึ้นมาในมือ ตัดฉับที่ต้นแขนของชายหนุ่ม ทำเอาเรนาร์ดต้องเบือนหน้าหนีไปซุกหลบที่อกของแองเซลด้วยความกลัวและเจ็บปวดแทนพี่เลี้ยงคนสนิท

   ร่างของลูก้ากระตุกเฮือก ก่อนจะอ่อนแรงล้มลง เสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้นมาจากแขนข้างที่ถูกตัดทิ้งนั่น เนื่องจากเจราลใช้พลังเวทเผาผลาญจนมันค่อย ๆ มอดไหม้ และสลายเป็นฝุ่นธุลีไปในที่สุด จากนั้นจอมทัพเทพ ก็ช่วยห้ามเลือดที่บาดแผลของลูก้า และส่งชายหนุ่มให้ทหารเทพของตนที่อยู่แถวนั้น

   “พาเขาไปพัก ข้าจะกลับไปตัดสินเรื่องที่ราชามังกร ลักลอบเข้าดินแดนมนุษย์ และก้าวก่ายต่อการเมืองการปกครองของอาณาจักรแห่งนี้ต่อ”

   เจราลแสร้งเปรยขึ้นเสียงดังให้ได้ยินไปทั่ว ทำให้ดราโกกัดฟันกรอด ส่วนราชินีโอลิเวียลอบยิ้มอย่างยินดี

   “ไม่จริง! ท่านดราโกไม่ผิด  ท่านดราโกไม่ได้ ใช้อำนาจของตัวเองก่อเรื่อง  มิหนำซ้ำ ท่านดราโกยังช่วยเหลือรัชทายาทที่แท้จริงของอาณาจักรนี้เอาไว้อีกด้วย!”

   เสียงเล็กที่ตะโกนขัดขึ้นมา ทำให้ทุกคนหันขวับไปมองยังต้นเสียงแทบพร้อมกัน เรนาร์ดที่ค่อยยังชั่วจากอาการจุก ลุกขึ้นยืน แล้วจึงหันไปมองทางมารดา ที่บัดนี้มีสีหน้าซีดเผือด

   “คนที่ผิดต่ออาณาจักรนี้จริง ๆ ก็คือ ท่านแม่...ไม่สิ คือราชินีโอลิเวียต่างหาก!”

      

   ราชินีคนงามชะงักงัน ใบหน้าเผือดซีด ก่อนจะตั้งสติได้ แล้วโพล่งใส่อย่างเคืองแค้น

   “เจ้าพูดเหลวไหล! เจ้าลูกอกตัญญู! ท่านอย่าไปฟังมันนะ มันใส่ความข้า!”

   ราชินีโอลิเวียรีบหันไปบอกกับเจราล ซึ่งจอมทัพเทพก็แสร้งทำเป็นงุนงง พลางเลิกคิ้วนิด ๆ ก่อนย้อนถาม

   “หือ? แต่นั่นบุตรชายเพียงคนเดียวของเจ้าไม่ใช่รึ เขาควรที่จะเข้าข้างเจ้าสิ”

   ราชินีคนงามชะงัก เตรียมหาคำแก้ตัว แต่ก็ได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ ด้วยความเจ็บปวด ดังมาจากบุตรชายที่มีใบหน้าขมขื่น

   “ใช่! ข้ามันอกตัญญู ไม่เคยดีในสายตาของท่าน ...แต่ท่านรู้ไหมท่านแม่  ข้ายอมเป็นลูกอกตัญญู เพื่ออย่างน้อย ท่านจะได้ตาสว่างสักที!”

   ราชินีโอลีเวียใบหน้าซีดเผือด พูดอะไรไม่ออก เรนาร์ดเห็นเช่นนั้น จึงหันไปทางเจราล แล้วบอกกับอีกฝ่ายทั้งที่น้ำตาไหลพรากอาบสองแก้ม

   “ท่านแม่สมคบคิดกับจอมเวทมาร์ลิค ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นเผ่าปีศาจ ...เขาเป็นคนเดียวกับที่ทำให้แขนของลูก้าเป็นอย่างนั้น...ท่านแม่อยู่เบื้องหลังการหายตัวไปของท่านพี่เรโน ...และการตายของราชินีเฮเลน ...เรื่องพวกนี้นางเป็นคนบอกกับข้าจากปากของนางเอง ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ข้าโป้ปดมดเท็จ ปั้นน้ำเป็นตัวเพื่อมาใส่ร้ายนางแน่ ...ถ้าพวกท่านไม่เชื่อก็เชิญตรวจสอบได้ตามสบาย!”

   ราชินีโอลิเวียใบหน้าซีดขาวยิ่งเสียกว่ากระดาษ นางทรุดกายลงไปนั่งกองกับพื้นอย่างหมดสภาพ และพอทหารเทพจะเข้ามาประคอง นางก็โบกไม้โบกมือขับไล่พวกเขาออกไป

   “ไม่! อย่ามาจับข้านะ! ข้าไม่ผิด! ข้าไม่ผิด! ข้าแค่ทำตามที่มาร์ลิคมันชี้แนะเท่านั้น! ไม่ใช่ความผิดของข้านะ!”

   นางโวยวายอย่างเสียสติด้วยความหวาดกลัว เรนาร์ดมองมารดาที่เป็นเช่นนั้นทั้งน้ำตา แล้วเบือนหน้าหลบ ก่อนพยายามกลั้นสะอื้นอย่างสุดกำลัง ภาพที่เห็นทำให้ผู้ใหญ่ทั้งหลายรู้สึกสะท้อนใจ และเวทนาในตัวเด็กน้อยผู้นี้ยิ่งนัก

   “เรนาร์ด...ไว้ท่านพี่ของเจ้าฟื้น แล้วข้าจะพาพวกเจ้าไปเที่ยวเล่นพักผ่อนนอกเมืองด้วยกันนะ”

   ดราโกตบบ่าของเด็กน้อยเบา ๆ อย่างปลอบโยน ซึ่งเรนาร์ดก็ก้มหน้าเช็ดน้ำตาและเงยหน้าฝืนยิ้มรับ

   “ขอรับ...ขอบคุณท่านมาก”



   จากนั้นราชินีโอลิเวียก็ถูกควบคุมตัวไป ส่วนเจราลก็สั่งให้ทหารของตนไปตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด แล้วจึงหันมาทางดราโก

   “ราชามังกร ท่านก็สมควรกลับอาณาจักรของตัวเองได้แล้ว ...จริงอยู่ที่ครั้งนี้ได้ท่านมีส่วนช่วย แต่กฎ ก็ย่อมเป็นกฎ ครั้งนี้ข้าอาจจะผ่อนปรนให้ท่านได้ แต่หากเกิดปัญหาขึ้น ข้าคงจะหลีกเลี่ยงการลงโทษท่านไม่ได้แล้วล่ะนะ”

มังกรหนุ่มมองจอมทัพเทพอย่างนึกสงสัย ที่อีกฝ่ายดูรู้จักสนิทสนมกับเขาอย่างประหลาด ทั้งที่เขาเองเคยเห็นเจราลแค่เพียงไม่กี่ครั้ง ครั้งแรกก็ตอนที่เขารับตำแหน่งราชามังกร และอีกครั้งก็รู้สึกจะเป็นงานฉลองของอาณาจักรที่อีกฝ่ายเป็นตัวแทนของเผ่าเทพมาร่วมงาน ทั้งที่จริง ๆ จะส่งพวกตำแหน่งต่ำกว่ามาแทนก็ยังได้

   “ท่านเจราล ...ถามจริงเถอะ ท่านยังมีอะไรปิดบังข้าอีกหรือไม่”

   ดราโกถามตรง ๆ อย่างไม่คิดจะอ้อมค้อม ทำให้คนฟังนิ่งอึ้ง ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ

   “ช่างเหมือนที่คนผู้นั้นเล่าให้ฟังไม่มีผิด... ท่านดราโก อย่าได้กังวลเลย ถึงจะบอกทั้งหมดไม่ได้ แต่รับรองว่าข้าน่ะ ไม่ได้คิดร้ายอันใดกับท่านหรอกนะ”

   จากนั้นจอมทัพเทพก็เรียกไทนอสมาคุยด้วย และเขาจึงมอบหนังสือที่มีตราประทับ แต่งตั้งให้ไทนอสดำเนินการตัดสินโทษบุคคลที่กระทำความผิดในอาณาจักรแทนตน แล้วจึงขอตัวกลับเผ่าเทพพร้อมกองทัพที่ลงมา สร้างความโล่งใจให้กับแทบทุกคนในอาณาจักรกันถ้วนหน้า ที่เรื่องราวเลวร้ายทั้งหมดล้วนผ่านพ้นไปได้ด้วยดี



--- TBC ---

หนูน้ำฟ้านอนหลับสบายมาหลายตอนเลยแฮะ หุ ๆ เอาเหอะ พอตื่นมาเดี๋ยวก็ต้องรับศึกหนัก จากพ่อมังกรหื่นอยู่ดี

ป.ล. มีใครทายถูกไหมเอ่ย ว่าคนคนนั้น ของเจราล คือใคร ~ ถ้ามีคนทายถูกเดี๋ยวจะแจกตอนพิเศษของคู่นี้ลงให้อ่านนะจ๊ะ อิ ๆ

ใกล้จบ(อีกละ) แต่ก็ยังมีบทสรุปที่ต้องเคลียร์อยู่เล็กน้อย ยังไงก็ขอบคุณที่ตามกันมาจนถึงตอนนี้นะคะ
  :pig4:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-08-2011 12:08:37 โดย Xenon »

ออฟไลน์ thejaoil

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
เราขอเดาว่าเป็นพี่ชายอีกคนที่เหลือของดราโก


 :-[ :-[


ตอนนี้น้ำฟ้าหลับอย่างเดียวเลยนิ

ออฟไลน์ April❤

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-06-2011 17:21:55 โดย Mig »

ออฟไลน์ hotladyanyavee

  • ขึ้นจากเกาะ มาใช้ชีวิตบนอ่าวนาง มันก็อินดี้ไปอีกแบบ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-10
เราขอเดาว่าเป็นพี่ชายอีกคนที่เหลือของดราโก


 :-[ :-[


ตอนนี้น้ำฟ้าหลับอย่างเดียวเลยนิ

เห็นด้วยค่ะ

e_new

  • บุคคลทั่วไป
มาแล้วๆ ติดตามค๊า จะจบแล้วใจหายจังเลย -^-

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด